ตอนที่ 5 :: เริ่มสงคราม!! ::“วันนี้แปลกแฮะ มีแต่คนโค้งให้ผมเต็มเลยพี่เมศ”นันทกรบอกอย่างแปลกใจ กวาดตามองพนักงานบริษัททั้งหลายที่เดินผ่านมาทั้งก้มทั้งโค้งและแหวกทางให้ แถมไม่สบตาสักคนผิดกับเมื่อวานจนอดถามคนข้างๆไม่ได้
“มันก็อะนะ.........”ปรเมศไม่รู้จะตอบอย่างไร รู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าข่าวลือจะต้องขจรขจายไปไกลแล้วแน่ เมื่อเสียงทะเลาะของเค้าและมัทรีดังออกไปข้างนอกขนาดนั้น เมื่อวานเค้าคุยกับนภดลแล้วรับรู้ถึงข่าวลือมากมาย ทั้งเรื่องที่เค้ามีคู่หมั้นแล้วแถมคู่หมั้นยังเป็นเด็กหนุ่มฝรั่งหน้าตาดี ทั้งเรื่องเค้าสลัดมัทรีเพื่อปกป้องอาร์ เรื่องที่เค้ามักตาขวางเมื่อใครมาจ้องน้องฝรั่ง จนตอนนี้ใครก็ตามในบริษัทก็ต่างเกรงใจ เกรงกลัวนันทกรทั้งนั้น
“ช่างเถอะครับ นี่พี่เมศมีงานอะไรให้ผมช่วยบ้างไหม มานั่งเล่นเฉยๆดูเปลืองเวลาไงก็ไม่รู้”คนตัวเล็กกว่าถามเมื่อเดินมาถึงแผนก เมื่อเห็นคนมองกันอย่างกล้าๆกลัวๆก็ส่งยิ้มให้ก่อนโบกมือน้อยๆ ทำเอาคนในแผนกถึงกับสะดุ้งแล้วยิ้มรับแหยๆกันเป็นแถว
“ก็บอกให้อยู่บ้านก็ไม่เชื่อ”
“อยู่บ้านยิ่งน่าเบื่อใหญ่ กว่ามหาลัยจะเปิดตั้งอีกสองอาทิตย์ มาช่วยพี่เมศทำงานดีกว่า”
“งั้นเอางี้ ลองไปถามคุณนภดลข้างนอกว่ามีงานอะไรพอช่วยไหม บอกว่าพี่อนุญาตให้ทำงานได้”นันทกรยิ้มอย่างดีใจ ก่อนถลาออกไปด้านนอกแล้วหายเงียบไป ปรเมศจึงกลับมาจดจ่อกับงานตรงหน้าอีกครั้ง
………………………………
…………………..
……….
..
ปรเมศที่เพิ่งเงยหน้าจากเอกสาร บิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยขบจากเนื้อตัวหันไปมองนาฬิกาข้อมือเรือนหรูของตน พอเห็นเวลาเที่ยงแล้วก็ต้องตกใจ นี่เค้าทำงานจนลืมเวลาอีกแล้ว ป่านนี้เจ้าตัวยุ่งไม่หิวท้องกิ่วแล้วหรือไง??
“อ้าว พี่เมศ ว่าจะไปตามพอดีเลยครับ มานี่เร็ว”เมื่อเปิดประตูห้องก็ชนกับคนที่กำลังจะเดินเข้าไปเรียกพอดี ปรเมศโดนคว้าข้อมือแกร่งแล้วเดินตามที่นันทกรจูงอย่างงงๆก่อนจะถึงบริเวณที่จัดให้พนักงานได้นั่งพักผ่อน พนักงานชายหญิงเมื่อเห็นรองประธานหนุ่มต่างก็รีบลุกต้อนรับจนเค้าต้องยกมือเชิงไม่เป็นไรนั้นแหละถึงจะกลับมานั่งล้อมโต๊ะใหญ่ตรงกลางที่เรียงรายไปด้วยอาหารมากมาย
“วันนี้เรากินกับพวกพี่ๆเค้านะ พี่เมศ ดูสิ น่ากินทั้งนั้นเลย”ปรเมศมองอาหารบนโต๊ะแล้วหันไปมองนันทกรอีกครั้ง เด็กหนุ่มก็รีบพูดต่อทันที
“ก็กินสองคนมันไม่สนุก พอดีอาร์เห็นพวกพี่ๆเค้าจะออกไปกินข้างนอกเลยบอกให้มากินด้วยกันเลย จะได้กินหลายๆแบบไง อันนี้ของพี่นิด อันนี้ของพี่จูน อันนี้ของพี่พุด อันนี้ของพี่ดล...”แม้แต่เลขานภดลก็เอาด้วย ปรเมศเลยพยักหน้าเข้าใจก่อนนั่งลง
“แล้วเราซื้ออะไรละ??”นันทกรยิ้มก่อนชี้ไปที่พิซซ่าถาดใหญ่สี่ห้าถาดตรงหน้าเค้า
“ผมให้เค้าจ่ายบัญชีพี่เมศนะ”ว่าแล้วก็ยิ้มอ้อนคนที่ออกเงินโดยไม่รู้ตัว ปรเมศยิ้มไม่ได้ว่าอะไรก่อนจะหันไปทางนภดล
“คุณนภดลช่วยสั่งเค้กไอติมให้เค้ามาส่งหน่อยนะครับ แล้วลงบัญชีผมไปเลย วันนี้ถือโอกาสเลี้ยงต้อนรับอาร์ ใครอยากกินอะไรเพิ่มก็บอกคุณนภดลนะครับแล้วให้ลงบัญชีผมไปเลย”เสียงโฮ่ร้องขอบคุณดังขึ้นรอบทิศ ก่อนเค้าจะหันมามองเจ้าเด็กหนุ่มข้างตัว
“โอเคไหม??”
“อือ!!!ขอบคุณครับพี่เมศ”ว่าแล้วนันทกรก็หยิบไก่ทอดน่องใหญ่วางลงบนจานปรเมศ ภาพน่ารักๆนั้นทำให้รอบข้างมองด้วยความเอ็นดู
“น้องอาร์คู่หมั้นคุณเมศนี้น่ารักนะเธอ นิสัยก็ดี เป็นกันเองมากๆเลย”นิดาหรือนิด พนักงานสาวคนหนึ่งเอ่ยกับเพื่อนสาวข้างๆ
“นั้นสิ เมื่อกี้ยังช่วยฉันถือของเลย แบบนี้สิถึงจะคู่ควรกับคุณเมศ......ไม่เหมือนกับ.....”ประภาหรือจูนเอ่ยตอบ พลางเหลือบมองหญิงสาวอีกคนที่ยืนมองพวกตนจากที่ไกลๆด้วยสายตาเกลียดชัง
“ดูสายตาสิเธอ สายตานางอิจฉาช่องเจ็ดมากอะ”นิดาจิกกัด เธอไม่ชอบมัทรีมานานแล้ว เพราะถือว่าตัวเองสวย ทำงานเก่งและเป็นที่ชื่นชอบของปรเมศจึงมักทำเป็นเหยียดพวกตนทั้งที่อยู่กองเลขาเหมือนกัน
“ก็ลองมาทำอะไรน้องอาร์ดูสิ เจ้าแม่จูนเนี่ยแหละจะออกโรงปกป้องเอง”ประภาตบหน้าอกคัพDของตัวเองอย่างแรง ทำให้เพื่อนสาวคนอื่นที่นั่งฟังอยู่หัวเราะคิก
“จะกล้าทำได้ไงละเธอ ขืนทำอะไรอีกคราวนี้โดนไล่ออกแน่”พุดตาล หญิงในร่างชายหนุ่มหุ่นบึ่กเพียงหนึ่งเดียวในกองเลขาว่าพลางหัวเราะเสียงดัง
ทางฝั่งมัทรีในตอนนี้ได้จับจ้องภาพตรงหน้าอย่างโกรธแค้น เธอไม่เคยโดนลดระดับขั้นความสำคัญลงมาขนาดนี้ ต้องถูกคนหัวเราะเยาะเย้ย โดนคนมองเหยียดยาม ทุกคนหาว่าเธอแกล้งไอ้เด็กนั้น.......ไอ้เด็กอาร์ด้วยความอิจฉา ทั้งๆที่งานนี้เธอเป็นผู้เสียหายแท้ๆ ไอ้เด็กนั้นหลอกให้ทุกคนเชื่อได้สนิทใจ ทำเป็นเด็กดีทั้งที่ร้ายยิ่งกว่าเธอมาก แม้อยากแก้แค้นให้สาสมกับความเจ็บใจแค่ไหนก็ไม่อยากเอาอนาคตหน้าที่การงานมาเสี่ยง แค่ที่เมื่อวานเธออกฤทธิ์ออกเดชกับปรเมศไปก็โดนลดขั้นไปเยอะแล้ว เธอได้แต่เฝ้าวนเวียนคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะสามารถแก้แค้นได้โดยเธอไม่ต้องเข้าไปเกี่ยว
เล็บสีแดงสดที่ถูกเคลือบไว้ถูกขบอย่างแรงเมื่อเจ้าของกำลังใช้ความคิด มัทรีนั่งพิงเก้าอี้ กวาดตามองไปรอบๆโต๊ะของเธอและสายตาก็หยุดอยู่ที่สมุดเล่มหนึ่ง เธอยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ หยิบสมุดเล่มนั้นขึ้นก่อนพลิกหาบางสิ่งบางอย่างที่เธอต้องการ
“เจอแล้ว หึหึ ผู้หญิงของคุณเมศไม่ได้มีฉันคนเดียวหรอกนะ คุณน้องอาร์”
Trrrr……Tr……Trrrrrr……
เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวในชุดว่ายน้ำบิกินี่สีขาวที่นอนอวดรูปร่างเต่งตึงอวบอัดของเธออยู่ริมสระน้ำ ถอดแว่นกันแดดราคาแพงระยับออก เอื้อมมือไปหยิบ คิ้วสวยขมวดเมื่อเห็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยก่อนจะกดรับ
“แพรวาพูด นั้นใครโทรมานะ”
“สวัสดีคะคุณแพรวา ดิฉันเป็นเลขาของคุณปรเมศคะ”แพรวาดันตัวลุกจากเก้าอี้นอนอาบแดดแล้วถามทวน
“เลขาเมศ??มีธุระอะไร...”
“คือว่า.......ไม่ทราบว่าทางคุณแพรวาทราบหรือยัง ตอนนี้มีคนมาแอบอ้างเป็นคู่หมั้นคุณเมศที่บริษัทคะ”
“อะไรนะ!!”แพรวาถามเสียงแหลม แล้วความทรงจำก็ย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนั้นที่เอกำลังจะชวนปรเมศออกไปเที่ยวด้วยกัน
“หรือว่าเจ้าเด็กนั่น..........แล้วไงต่อ”
“คะ คือเด็กคนนั้นร้ายมากเลยคะเที่ยวบอกคนโน้นคนนี้ว่าเป็นคู่หมั้นแถมยังเกาะติดคุณเมศแจ ดิฉันเห็นแล้วก็คิดว่าคนที่เป็นตัวจริงอย่างคุณแพรวาน่าจะลงไปจัดการเด็กคนนี้ไม่ให้มาวอแวคุณเมศนะคะ”มัทรีรีบยกยอทางคนทางปลายสายพร้อมเสนอตัวแนะนำเสร็จสรรพ
“เข้าใจแล้ว........แต่ฉันไม่เห็นต้องลงไปทำอะไรเลยนี่ ถ้าเมศเค้าไม่เล่นด้วย เดี๋ยวมันก็เลิกไปเอง”แพรวากอดอกพูดเสียงเรียบ........เรื่องอะไรเธอต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงให้ปรเมศรำคาญด้วย
“แต่ท่าทางคุณเมศจะเล่นด้วยนะสิคะ วันก่อนยังดึงไปกอดไปจูบในห้องทำงานเลย”แม้จะการหอมกอดกันเล่นๆแบบพี่น้อง แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เห็นแบบแพรวาก็จินตนาการไปไกลแล้ว
“อะไรนะ!!เมศทำขนาดนั้นเลยหรือ........หึหึ ขอบใจละกันที่เอามาบอก แต่ฉันจะทำอะไรหรือไม่ทำมันก็สิทธิ์ของฉัน อย่าคิดว่าจะมาใช้ประโยชน์จากฉันได้ง่ายๆนะยะ”พูดจบก็วางสายทันที ทางมัทรีถึงแม้ไม่พอใจที่แพรวาพอจะจับแผนการของตนได้ แต่เธอรู้ดีว่าคุณหนูไฮโซแบบแพรวาไม่มีทางยอมให้ใครแย่งสิ่งที่เป็นของเธอแน่!!!
หลังจากมัทรีได้โทรไปรายงานแพรวาเรื่องของนันทกรก็ผ่านไปสามวันแล้วแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าแพรวาจะเริ่มทำอะไร แถมปรเมศก็ยังตัวติดกับนันทกรเหมือนเดิม ทำเอามัทรีอดร้อนใจไม่ได้ คาดว่าแผนที่วางไว้คงไม่ได้เรื่องเสียแล้ว
“อ๊ะ!!พี่แอน ไม่เจอกันนานนะครับ”มัทรีสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงที่เธอเข็ดขยาดเป็นที่สุด ดวงหน้าขาวซีดหันมามองคนที่ทักแล้วเอ่ยเสียงเบา
“น้องอาร์...”ร่างโปร่งที่ถือถ้วยกาแฟเข้ามาในห้องพักเครื่องดื่มยิ้มให้ ด้านหลังเด็กหนุ่มยังมีสองสาวนิดาและประภาคอยยืนคุมเชิงเหมือนเธอจะเข้าไปทำร้ายเด็กหนุ่มอย่างนั้นแหละ
“ครับ??..........แหมสงสัยพี่แอนจะไม่สบาย หน้าซีดเชียว พักผ่อนบ้างนะครับผมเป็นห่วง ยังไงพี่แอนก็เป็นพนักงานคนสำคัญของบริษัทเรา...”นันทกรพูดพลางเดินผ่านเธอไปหยิบโหลกาแฟที่อยู่ด้านหลังของมัทรี
‘บริษัทเรา!!พูดได้เต็มปากนะไอ้เด็กเวร’มัทรีกัดฟันกรอดเมื่อคำพูดของเด็กหนุ่มเหมือนจะสื่อถึงความเหนือกว่า
“พี่ไม่ได้เป็นอะไรหรอกคะ ขอตัวก่อนนะคะ”มัทรีพูดเสียงแข็งแล้วเดินเชิดออกไป สองสาวมองตามอย่างหมั่นไส้
“ยังทำหยิ่งได้อีก เหลือเกินจริงๆผู้หญิงคนนี้”นิดาท้าวเอวบ่น
“พี่นิด ต่างคนต่างอยู่เถอะครับ”นัททกรว่าแล้วกดน้ำร้อนลงถ้วย คนกาแฟในถ้วยเสร็จก็ใส่ถาด
“แต่ยัยนั้นเค้าแกล้งน้องอาร์ก่อนนะคะ ไม่คิดเอาคืนบ้างหรือไง??”ประภาพูดอย่างหัวเสีย
“ก็ผมบอกแล้วว่ามันเป็นอุบัติเหตุ พี่แอนเค้าไม่ได้ตั้งใจ พวกพี่ก็อย่าไปเอาเรื่องอะไรเลย อ๊ะ!!!เสร็จแล้ว ผมเอาขนมกับกาแฟไปให้พี่เมศดีกว่า ส่วนของพี่ๆผมวางไว้ตรงนี้นะครับ”นันทกรยกถาดใส่กาแฟและขนมที่ตนกับสองสาวไปซื้อมาก่อนยิ้มให้แล้วบุ้ยใบ้ไปที่อีกสองจานที่เหลืออยู่
“แหม น้องอาร์เนี่ยน่ารักจริง ช่างเอาอกเอาใจบอส อย่างเนี่ยบอสจะหนีไปไหนพ้น”นิดาแซว นันทกรส่ายหัว
“ไม่ใช่นะครับ อาร์กับพี่เมศเป็นแค่พี่น้องกัน พวกพี่อะชอบแซว เดี๋ยวชื่อเสียงพี่เมศก็เสียหายหมด”เด็กหนุ่มหน้าแดงบ่นแบบไม่จริงจัง
“ตอนนี้ยัง แต่อนาคตไม่แน่นะคะ แถมสมัยนี้เรื่องรักเพศเดียวกันมันเป็นเรื่องธรรมดาแล้วคะน้องอาร์”ประภารีบพูดเอาใจ
“เฮ้อ!!ไม่พูดกับพวกพี่แหละ ผมไปดีกว่า”นันทกรทำหน้าเขินๆก่อนเดินออกมา ทำให้สองสาวต่างแอบอมยิ้มถูกใจโดยไม่รู้เลยว่าเมื่อผ่านจากตรงนั้น หน้าตาเขินอายได้กลายกลับเป็นเรียบนิ่ง ดวงตาสีน้ำตาลดูเยียบเย็นมองไปทางโต๊ะของมัทรีที่ตีสีหน้ายิ้มอย่างน่าแปลกใจขึ้น ลางสังหรณ์ของเค้าบอกว่ามัทรีต้องทำอะไรลงไปแล้วแน่ๆ
“ยัยนั้นต้องกะจะทำอะไรแน่........ฮึ!!คิดว่าสู้ได้ก็สู้ไป ดีซะอีกคราวนี้จะได้หาเรื่องให้พี่เมศโดนเราจับอยู่หมัดไปเลย”
เมื่อเดินไปถึงหน้าห้องของปรเมศก็เห็นนภดลยืนหันรีหันขวางอยู่ เมื่อเห็นตนเดินมาก็ยิ่งหน้าซีดเข้าไปอีก
“พี่ดลเป็นอะไรหรือเปล่าครับ น่าซีดเชียว”นันทกรถามอย่างห่วงใย
“ปะ เปล่าครับ........เอ่อ แบบว่าน้องอาร์อย่าเพิ่งเข้าไปในห้องบอสเลยดีกว่านะครับ”นภดลละล่ำละลักบอก
“ทำไมละครับ?? มีแขกหรือครับ”
“ปะ เปล่าไม่ใช่แขกครับ”เลขาหนุ่มยังไม่พูด นันทกรชักเริ่มหงุดหงิดแต่ยังคงตีหน้าเฉยๆอยู่
“งั้นผมเข้าไปนะครับ ถือนานแล้วเริ่มหนัก”นันทกรไม่สนใจนภดลที่พยายามห้ามอีก เปิดประตูเดินเข้าห้องไป
“พี่เมศครับ ผมเอ.......”นันทกรที่เดินเข้ามาในห้องต้องชะงักกึกเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ภาพที่ปรเมศกำลังถูกหญิงสาวผมยาวท่าทางเปรี้ยวจี๊ดดึงโน้มตัวเข้าจูบอย่างดูดดื่ม......
//////////////////////////
“ไฮ!!!เมศคะ”เสียงทักที่ดังมาจากประตูห้องทำงาน ทำให้ปรเมศที่กำลังนั่งเซ็นต์เอกสารอยู่นั้นต้องรีบเงยหน้า
“แพร!!คุณมาได้ยังไง”ชายหนุ่มถามด้วยความแปลกใจ เหลือบมองไปที่ด้านหลังของหญิงสาวก็เห็นเลขาหนุ่มทำหน้าหนักใจอยู่
“เมศก็ถามแปลกๆ แพรก็ขับรถมาซิคะ”แพรวาหัวเราะอย่างจริต พลางเดินเข้าไปหาเจ้าของห้อง ปรเมศได้แต่ถอนหายใจแล้วโบกมือให้เลขาหนุ่มประมาณว่าไม่เป็นไร
“ไมใช่อย่างนั้น เห็นปกติแพรจะนัดผมตอนกลางคืนมากกว่า นานๆทีถึงจะมาหาตอนกลางวันแบบนี้เลยแปลกใจนิดหน่อย”
“แหม ก็เมศไม่โทรหาแพรเลยนี่คะ แพรเลยกะจะมาเซอร์ไพรส์คุณแล้วก็ชวนไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน”ว่าแล้วหญิงสาวก็โอบคอของปรเมศเข้ามาใกล้พลางหอมแก้มอย่างสนิทสนม
“ตะ แต่ว่า”ปรเมศกำลังจะค้านเมื่อเค้านึกได้ว่านันทกรจะต้องกินข้าวกลางวันกับเค้าทุกวัน นิ้วที่เคลือบเล็บสีสวยปิดปากได้รูปนั้นไว้แผ่วเบา
“ห้ามปฏิเสธคะ แพรรู้ว่าเมศก็คิดถึงเรื่องระหว่างเราอยู่ใช่ไหมละคะ”แพรวาแทนที่นิ้วของเอด้วยริมฝีปากแสนยั่วยวนของเธอ การจูบอันดูดดื่มจึงเริ่มขึ้น ปรเมศเคลิ้มไปกับสัมผัสนั้นตามประสาคนหนุ่ม ยิ่งตั้งแต่นันทกรมาอยู่ที่บ้านเค้าไม่เคยได้ออกไปเที่ยวไหนเลยก็ยิ่งประสาทสัมผัสทางกามรมย์มันตื่นตัวเร็วขึ้นแต่ยังไม่ทันที่ปรเมศจะได้จัดการอะไรมากไปกว่านั้นประตูห้องก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง
“พี่เมศครับ ผมเอ...”เสียงสดใสของเด็กหนุ่มดังขึ้นและเงียบลง ดวงตาสีน้ำตาลเบิกขึ้นเล็กน้อยในตอนแรกก่อนจะเย็นเยียบในเวลาต่อมาและกลับเป็นดูแตกตื่นในชั่วพริบตา
“อ๊ะ!!อะ ขอโทษครับ!!! บะ แบบว่า อะ เอ่อ”นันทกรหน้าแดงก่อนจะมือไม้อยู่ไม่สุข ทำให้ขนมและกาแฟในถาดหกกระเซ็นเล็กน้อย ปรเมศได้สติรีบมาคว้าถาดถือไว้แทนทันที แพรวามองท่าทางนั้นอย่างขัดใจ แต่ก็ส่งรอยยิ้มเหนือกว่าไปให้เด็กหนุ่มที่เธอเห็นว่าหน้าซีดไปแล้วเมื่อเห็นเธอกับปรเมศจูบกัน
“พี่เมศ เอ่อ ผม เอ่อ..ขอตัว..”
“ไม่ต้องหรอกอาร์ ใจเย็นๆ.......อืม นี่คุณแพรวา ถ้าอาร์จำได้อาร์เคยพบเค้าที่หน้าบ้านเมื่อวันที่กลับมา จำได้ไหม??”นันทกรพยักหน้าก่อนยกมือไหว้
“สวัสดีครับ..”
“สวัสดีคะ ถ้าจำไม่ผิดชื่อน้องอาร์ใช่ไหม เรียกพี่แพรก็ได้นะคะ”แพรวาเดินเข้ามาหาพร้อมยิ้มแย้มให้ราวกับเธอไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองอะไรกับเด็กหนุ่มตรงหน้า แล้วดึงแขนปรเมศมากอดแน่นแสดงความเป็นเจ้าของ
“ครับ...”นันทกรมองมือที่คล้องแขนอีกคนแล้วมองหน้ากระอักกระอ่วนของปรเมศแล้วตอบเสียงเบา
“จะว่าไป เจอกันครั้งที่แล้วเห็นน้องอาร์ว่าน้องอาร์เป็นคู่หมั้น พี่แพรนี้ตกใจเลยคะ แต่พอมาคิดดูดีๆแล้วน้องอาร์คงแหย่พี่เล่นมากกว่าเนอะ เพราะเด็กผู้ชายอย่างน้องอาร์จะมาหมั้นกับเมศที่เป็นผู้ชายเหมือนกันได้ยังไง วิปริตสิ้นดี ฮิฮิ”แพรวาหัวเราะราวกับเป็นเรื่องโจ๊กระดับชาติ ปรเมศแม้จะเห็นว่าจริง แต่ท่าทางที่แสดงออกมาของแพรวาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแย่พิกล
“ก็ประมาณนั้นแหละครับ........เพราะผมกับพี่เมศเรายังไม่ได้หมั้นกันจริงๆ จะว่าไปตั้งแต่คืนนั้นผมก็ยังไม่ได้ถามพี่เมศเลยเหมือนกัน เห็นพี่แพรว่าเป็นแฟนพี่เมศ เห็นอย่างนี้คงจะเป็นเรื่องจริงนะสิครับ”หน้าของแพรวาตึงขึ้นมาทันทีเพราะเธอเองก็ไม่ได้จะอยู่ในสถานะแฟนของชายหนุ่ม เพราะรู้ว่าถึงแม้ปรเมศจะมีใครมากแค่ไหน คนที่จะได้เป็นแฟนของปรเมศนั้นกลับน้อยยิ่ง เพราะสำหรับปรเมศแฟนคือคนที่รัก........และเธอยังไม่ใช่!!!
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะจ๊ะ.......แหม!!ขนมน่ากินจัง น้องอาร์เอามาให้พี่กับพี่เมศใช่ไหมคะ ขอบคุณมากนะคะ”ถาดขนมในมือนันทกรถูกแพรวาดึงไปก่อนที่เธอจะลากให้ปรเมศเดินตามไปนั่งที่โซฟาและลงมือป้อนขนมเข้าปากปรเมศทันที
“เอ้าเมศคะ ทานซิคะ อ้าม”ปรเมศทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับการกระทำที่แปลกๆไปของแพรวา ปรกติเธอจะไม่เคยแสดงความเป็นเจ้าของเค้าขนาดนี้
“ผมกินเองได้ครับ แพร...........อาร์มานั่งนี้มา”ปรเมศเรียกนันทกรที่ยืนซึมอย่างน่าสงสารมานั่งข้างตัวเองอีกฝั่งแล้วดันขนมอีกชิ้นให้
“อาร์กินเถอะ”นันทกรมองขนมทีปรเมศทีก่อนเอ่ยปาก
“พี่เมศอะ??”
“ไม่เป็นไร”นันทกรมองขนมก่อนตัดชิ้นพอดีคำส่งส้อมให้ปรเมศถือ
“งั้นกินด้วยกันนะ พี่เมศเป็นพี่ อาร์ให้พี่เมศกินก่อน”ปรเมศยิ้มเอ็นดู ทำให้แพรวาแทบกรี๊ด เด็กนี่มันจะเก่งเรื่องจับจุดคนไปแล้ว เมื่อกี้เธอเผลอแสดงความเป็นเจ้าของมากเกินไป ซึ่งผู้ชายคาสโนว่าแบบปรเมศย่อมไม่ชอบการผูกมัดแบบนั้น เด็กนี่เลยเลือกใช้วิธียื่นให้ปรเมศหยิบกินเองซึ่งได้ผลดีกว่า
“เมศคะนี่ก็เกือบเที่ยงแล้วแพรว่าเราออกไปหาอะไรอร่อยๆทานกันเถอะนะคะ”หญิงสาวส่งสายตาอ้อนรีบเปลี่ยนเรื่อง ปรเมศหันไปมองนันทกร
“ก็ได้ครับ อาร์ไปทานด้วยกันนะ”นันทกรยิ้มได้อย่างไม่เต็มที่แต่ก็พยักหน้า ทางแพรวาก็ได้ไม่ได้พูดอะไรเพราะกะไว้แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ และนั้นแหละที่เธอต้องการ เจ้าเด็กฝรั่งนี้จะได้รู้สักที่ว่าใครสมควรยืนข้างปรเมศ!!
“ยินดีต้อนรับคะ 3ท่านนะคะ”บริกรหญิงในชุดไทยเสื้อแขนกระบอกสีทองและผ้าซิ่นลายไทยยกมือไหว้อย่างงดงามก่อนจะผายมือให้ผู้มาใหม่ทั้งสามคนเดินเข้าร้าน
ร้านที่แพรวาพามานั้นเป็นร้านอาหารไทยสุดหรู บริเวณร้านเป็นเรือนไม้สักหลังใหญ่ที่ตกแต่งให้ดูผสมกันระหว่างตะวันออกและตะวันตก บนเพดานเป็นรูปบรรดาเทวาชั้นฟ้าทั้งหลายแบบไทยๆถูกส่องด้วยไฟสีส้มนวลตา บริเวณรอบๆร่มรื่นด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ฝั่งหนึ่งของตัวร้านประดับด้วยภูเขาธารน้ำเล็กที่ไหลเอื่อยเป็นแนวกั้นแต่ละโต๊ะให้เป็นสัดส่วน การบรรเลงดนตรีไทยสดก็เป็นอีกเสน่ห์หนึ่งของร้านแห่งนี้
ปรเมศมองรอบๆอย่างพอใจ ร้านสวยถูกใจเค้ามากและเค้าคิดว่าเด็กหนุ่มที่มาจากต่างแดนก็คงชอบบรรยากาศแบบนี้เช่นกันแต่เมื่อหันไปกลับเห็นนันทกรเดินหน้าหมองๆ ดวงตายังคงจับจ้องแขนของเค้าที่ถูกคล้องจากแพรวาเท่านั้น
“ไม่ชอบเหรออาร์??”นันทกรเงยหน้าขึ้นก่อนฝืนยิ้มให้พลางส่ายหัว
“เปล่าครับ...”แม้ภายนอกจะกล่าวอย่างนั้นแต่ในใจนันทกรกำลังคิดถึงเรื่องของแพรวา หล่อนกำลังคิดว่าเหนือเค้าอยู่และพยายามทำทุกอย่างให้เค้าเห็นว่าหล่อนเหนือกว่าดั่งที่คิดไว้
แค่ตลอดทางที่เดินจากห้องทำงานมา แพรวาก็มักเกาะแขนปรเมศมาตลอด ให้ใครต่อใครเห็นว่าเธอสวีทกับปรเมศแค่ไหน ปล่อยให้นันทกรเดินตามหลังไปเรื่อยๆ น่าโมโหตรงที่ปรเมศก็ไม่ได้แกะแขนหล่อนออกซะด้วย พอมาถึงรถเธอก็รีบนั่งหน้าคู่คนขับทันทีและผูกขาดการสนทนากับปรเมศตลอด แม้ปรเมศจะหันกลับมาชวนนันทกรคุยบ้างแต่ก็โดนแพรวาดึงกลับไปคุยด้วยอีก พอมาถึงที่นี้ยังจับปรเมศนั่งข้างตัวและส่งสายตาให้เค้านั่งอีกฝั่งอีกต่างหาก แน่นอนว่าเค้าก็ต้องทำอย่างนั้น ไม่งั้นคงแปลกพิลึกที่คนสามคนจะนั่งอยู่ข้างเดียวกันหมด...
“เมศคะ นี่คะปลาทอดราดน้ำสมุนไพรของที่นี้เค้าอร่อยมากนะคะ”เนื้อปลาชิ้นขาวๆถูกตักให้ปรเมศก่อนแพรวาจะตักอีกส่วนให้นันทกร
“ส่วนนี้ของน้องอาร์จ๊ะ”
“ขอบคุณครับ”นันทกรกล่าวเสียงเรียบ เหลือบตามองปลาที่ถูกตักให้ มันมีแต่ก้างปนเต็มไปหมด.....
“อุ๊ก!!แค่กๆๆ เจ็บ....”
“อาร์เป็นอะไร!!”ปรเมศร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อนันทกรกินปลาเข้าไปแล้วสำลัก น้ำตาเล็ด
“ปลาที่พี่แพรตักให้คงก้างเยอะไปหน่อยนะครับ มันแทงเหงือก”นันทกรเอามือกุมปาก นั่งน้ำตาซึม
“ไหนดูสิ”ปรเมศรีบเดินข้ามโต๊ะมานั่งฝั่งเดียวกับนันทกรแล้วจับเด็กหนุ่มอ้าปาก หยิบกระดาษทิชชู่มาซับเลือดในปากให้ แพรวามองภาพนั้นอย่างเจ็บใจ เธอจงใจแกล้งมันแต่เด็กนี้ดันเหนือกว่า กล้าทำตัวเองเจ็บเพื่อเรียกร้องความสนใจจากปรเมศ
“เรียบร้อย วันหลังกินระวังๆหน่อยนะอาร์”ปรเมศว่า
“ครับ พอดีผมเขี่ยก้างออกไม่ค่อยเป็น แต่พี่แพรอุตส่าห์ตักให้ก็เลย....”สายตาเด็กหนุ่มช้อนตรงมาที่แพรวา ปรเมศจึงหันไปด้วยเช่นกัน
“แหม!!!พี่ต้องขอโทษด้วยนะคะ ก็ไม่คิดว่าน้องอาร์จะเขี่ยก้างแค่นี้ไม่เป็นนี่คะ”แพรวาพูดเสียงแข็งเล็กน้อย
“เอาเถอะครับ........อาร์งั้นเดี๋ยวพี่เขี่ยก้างให้ละกัน”ปรเมศเลื่อนจานตัวเองมาด้านเดียวกับนันทกรก่อนจะหยิบปลาที่แพรวาตักให้เมื่อครู่มาเขี่ยๆเล็กน้อยก่อนตักใส่จานนันทกร
“ขอบคุณครับพี่เมศ งั้นเดี๋ยวอาร์ไปล้างคาวเลือดในปากก่อนนะครับแล้วจะกลับมากิน”นันทกรลุกขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลเหลือบมองไปคนที่นั่งกัดฟันอยู่ตรงข้ามก่อนยกยิ้มเยาะเย้ยส่งให้ แพรวาเห็นดังนั้นก็ลุกขึ้นเช่นกัน
“งั้นแพรขอไปห้องน้ำแปปนึงนะคะ เมศนั่งกินคนเดียวไปก่อนละกัน”แน่นอนเธอไม่ได้ไปทำอะไรในห้องน้ำหรอกแต่เธอต้องการเคลียร์กับเจ้าเด็กอวดดีนี้ต่างหาก
/////////////////////
“คิดว่าตัวเองชนะแล้วหรือไง ถึงมาส่งยิ้มเยาะเย้ยฉันอย่างนั้น”เมื่อนัทกรเดินออกจากห้องน้ำ แพรวาก็รีบขวางหน้าทันทีพร้อมถามเสียงกร้าว
“พี่แพรพูดอะไรผมไม่รู้เรื่อง.....”นันทกรเอามือล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางกวนๆ แต่ดวงตากลับพราวระยับเหมือนขบขันในสิ่งที่หญิงสาวทำเหลือเกิน
“เมศเป็นของฉัน อย่าคิดว่ายัยคุณหญิงแม่นั้นคอยถือหางอยู่แล้วฉันจะกลัวนะยะ อย่างนั้นก็อยู่อีกแค่ไม่กี่ปี พอถึงวันนั้นเมื่อไหร่ฉันกับเมศแต่งงานกันแน่ เพราะงั้นแกอย่ามานึกหวังเลยว่าเมศเค้าจะมาพิศวาสผู้ชายอย่างแกนะ ออกไปซะตอนนี้ดีกว่าฉันยังไม่อยากจะทำอะไรรุนแรง”
“เรื่องนั้นมันก็ต้องดูต่อไปครับ.......หวังว่าวันนั้นที่พี่แพรหวังคงจะมาถึงเร็วๆนะครับ”นันทกรโต้กลับสีหน้ายังคงยิ้มเหมือนเดิม ทำให้แพรวายิ่งโมโหหนักขึ้นไปอีกแต่เธอก็ฉลาดพอที่จะไม่ลงมือลงไม้กับเด็กหนุ่มเพราะรู้ว่านันทกรต้องใช้จุดนั้นเล่นงานเธอแน่
“ฮึ!!ฝากไว้ก่อนเถอะ แล้วเราจะได้รู้กัน”แพรวาเดินปึงปังกลับไปที่โต๊ะ ปล่อยให้อีกฝ่ายยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“คิกๆ โง่ชะมัด ฮิฮิ....ดันมาประกาศตัวโต้งๆอย่างนี้..........ทำตัวเหมือนนางอิจฉาไปได้ ขนาดละคร soap ที่อังกฤษยังไม่มีตัวคาแรคเตอร์อย่างนี้เลยนะเนี่ย ฮะๆๆๆหยุดหัวเราะไม่ได้เลย”นันทกรหัวเราะจนเกร็งไปทั้งตัว น้ำตาใสเล็ดออกมาจากหางตาเล็กน้อย ก่อนจะดึงมือออกจากกระเป๋ากางเกง และในมือนั้นก็ถือเครื่องบันทึกเสียงเครื่องหนึ่งไว้
“อย่างยัยนี้คงช่วยให้คุณป้าจับเรากับพี่เมศหมั้นกันจริงๆได้แน่ หึหึ งั้นเก็บยัยนี้ไว้ก่อนดีกว่า จะใช้ยัยนี้ยังไงดีน่า”นันทกรเคาะที่เครื่องบันทึกเสียงกับคางตัวเองเบาๆ ยืนยิ้มคิดหาทางใช้ประโยชน์จากแพรวา ถึงเวลาทำสงครามอีกครั้งแล้ว.......
ติดตามตอนต่อไป
-----------------------------
Neya : สวัสดีวันอาทิตย์คะ ขอโทษที่หายไปนานกว่าเดิมนิดนึง แบบว่างานท่วมหัวคนเขียนเอาตัวไม่รอดอยู่คะ ตอนที่ผ่านมาทำเอาแม่ยกน้องอาร์สงสัยกันเป็นแถวๆว่าน้องอาร์ไม่ได้รักพี่เมศหรือ ถ้าตอบตามจริงคือใช่คะ เพราะตอนอาร์ไปอยู่นู้นยังเด็กมากไม่ได้คิดอะไรกับเมศแม้แต่น้อย แล้วอยู่ๆห่างกันไปเป็นสิบปีจะมารักกันง่ายๆคนเขียนคิดว่าคงไม่ได้แน่ๆ แล้วรักกันง่ายๆก็ไม่มีฉากชะกับเหล่านางร้ายมันๆให้อ่านซิเนอะ ตอนนี้แพรวาโผล่แล้ว ใครเกลียดหล่อนเชิญตอบกระทู้ว่าร้ายหล่อนได้เต็มที่คะ
เพราะจะถือเป็นแรงเชียร์ในฐานะนางร้ายอย่างดี วันนี้คุยแค่นี้ก่อนเนอะ จะออกไปข้างนอกคะ พบกันตอนหน้า สวัสดีคะ