ภาค 2 ตอนที่ 5บ่ายวันที่สามที่ต้นกล้านอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล ที่ห้องของเจ้าหนูเต็มไปด้วยกระเช้าของฝากมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอดีตกิ๊กเก่าของกิ่งใบ ถึงแม้เจ้าตัวจะเลิกเจ้าชู้มานานแล้วตั้งแต่ได้พบกับการัน แต่ทว่าก็ยังคงความมีเสน่ห์เอาไว้ได้อย่างเหลือล้น
“กิ่งขา คุณใจร้ายจัง หลานวิเข้าโรงพยาบาลทั้งคนไม่บอกกล่าวกันบ้างเลยนะคะ แถมหมู่นี้ก็ไม่ยอมมาหาซะด้วย” หญิงสาวในชุดเสื้อรัดรูปฉอเลาะคนที่นั่งหน้าเฉยอยู่
“พอดีผมยุ่งๆนะ ก็เลยลืมไป ขอโทษที”
“ยกโทษให้ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณสัญญาว่าจะไปทานข้าวเย็นกับวิ”
ชายหนุ่มยิ้มบางๆ กับการไม่รู้กาลเทศะของเจ้าหล่อน
“ลูกผมไม่สบาย เห็นทีผมคงห่างแกไม่ได้” พลางมองร่างเล็กที่หลับสนิทอยู่บนเตียงสี่เหลี่ยมสีขาว
“แหม คุณก็หาข้ออ้างอยู่เรื่อยเลย” หญิงสาวแกล้งทำเป็นงอน ซึ่งอาจจะดูน่ารักสำหรับเขาเมื่อก่อน แต่ในตอนนี้เขาเจอคนน่ารักที่ไม่ว่าทำอะไรเขาก็รักอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงเฉยๆ กับอาการแบบนี้ของหญิงสาว ออกจะรำคาญด้วยซ้ำ
“กิ่งค่ะ กิ่งงงงงงงงงง” เจ้าหล่อนเรียกเสียงดังขึ้น เมื่อเจ้าของชื่อเอาแต่อมยิ้มที่ดูก็รู้ว่าไม่ได้มีไว้ให้หล่อน แถมอาการใจลอยนั่นก็ทำให้หงุดหงิดอย่างประหลาด
“คุณคิดอะไรอยู่ค่ะ วิเรียกตั้งนานก็ไม่ได้ยิน”
“ก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย” ชายหนุ่มตอบเรียบๆและก็ต้องประหลาดใจเมื่อร่างอวบอัดในเสื้อผ้ารัดรูปขยับเข้ามานั่งใกล้เขาจนชิด หรือถ้าจะให้ถูกก็คือเจ้าหล่อนขึ้นมานั่งบนตักเขามากกว่า
“คุณจะทำอะไรวิ ที่นี่โรงพยาบาลนะ แล้วอีกอย่างผมก็บอกคุณแล้วว่าผมเจอคนที่ใช่สำหรับผมแล้วไง” กิ่งใบปรามเสียงดุมือก็คอยดึงแขนอีกฝ่ายออกจากตัวไปด้วย
“แหม คืนนี้เราออกไปข้างนอกกันนะคะ วิคิดถึง............คุณเหลือเกิน คุณวิเศษที่สุดเลย” วิภาดากระซิบถ้อยคำน่าอายออกมาข้างใบหูของคนที่เริ่มหงุดหงิด ที่อีกฝ่ายไม่คำนึงถึงเวลาและสถานที่เลยสักนิด จริงอยู่ว่าทั้งเขาและหล่อนมีความสัมพันธ์ทางกายกัน แต่ก็เป็นการสนองตอบความต้องการตามธรรมชาติเท่านั้น
“วิ ผมบอกว่า....”
“เอ่อ ขอโทษครับ” เสียงขอโทษมาพร้อมกับเสียงเปิดประตูที่เจ้าของสียงไม่ได้เคาะก่อน เนื่องจากเจ้าตัวถือของเต็มมือจึงอาศัยเอาตัวดันประตูออกแล้วกะว่าจะขอโทษที่เสียมารยาททีหลัง ไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพฉากรักเข้าพอดี
“การ์” กิ่งใบขานชื่ออีกฝ่ายเบาๆ ในใจเริ่มร้อนรนกลัวว่าคนที่พึ่งเข้ามาจะเข้าใจผิด
“คือ ผมเอาของเยี่ยมมาให้ตาต้นครับ วางไว้ตรงนี้นะครับ” พูดจบก็เอาของมากมายเต็มมือไปวางไว้ที่โต๊ะข้างๆเตียงคนป่วย ก่อนจะขอตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ยังความหงุดหงิดให้กับคนที่นั่งอึ้งทำอะไรไม่ถูกอยู่พักใหญ่
“วิ ผมจะบอกคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะว่า เราจะไม่เกี่ยวข้องกันแบบนั้นอีก”
“แต่...” หญิงสาวกำลังจะเอ่ยคัดค้าน แต่ชายหนุ่มก็แทรกขึ้นมาก่อน
“ไม่มีแต่คุณกลับไปได้แล้ว” ชายหนุ่มออกคำสั่งเสียงเด็ดขาด ก่อนที่จะไปตามพยาบาลมาอยู่เป็นเพื่อนลูก แล้ววิ่งตามการันไปทันที
ชายหนุ่มวิ่งตามทางเดินมาได้สักพักก็เห็นร่างเล็กคุ้นตา ยืนอยู่ตรงหน้าลิฟท์ แต่ก่อนที่เขาจะเข้าถึงตัวอีกฝ่าย ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดเสื้อกาวน์สีขาวเข้าไปทักร่างเล็กตัดหน้าเขาเสียแล้ว ทั้งคู่คุยกันด้วยท่าทียิ้มแย้มก่อนที่คนตัวโตกว่าจะโอบไหล่บางของการันแล้วพาหายเข้าไปในลิฟท์ และไวเท่าความคิดขายาวๆของกิ่งใบพาตัวเองแทรกตัวเข้ามาในลิฟท์ตัวนั้นได้ทันท่วงที ยังความประหลาดใจมาให้คนที่ยืนอยู่ก่อนแล้วเล็กน้อย
“สวัสดีครับคุณหมอ” กิ่งใบพูดทักทายนายแพทย์อมร แพทย์ที่เป็นเจ้าของไข้ของบุตรชาย
“ครับ ผมว่าจะไปเยี่ยมต้นกล้า พอดีเจอเพื่อนก็เลยว่าจะไปหาอะไรเย็นๆ ทานกันก่อน คุณจะไปด้วยหรือเปล่าครับ”
“แน่นอนครับ กิ่งใบยิ้มน้อยๆให้อีกคนที่ยืนนิ่งเงียบอยู่ในลิฟท์ตัวเดียวกัน
“ผมว่ากาแฟที่ร้านฉันล่างของโรงพยาบาลก็ใช้ได้ทีเดียวนะครับ” กิ่งใบเสนอ แล้วก็ต้องหงุดหงิดอีกครั้งที่ อมรไม่ตอบคำถามเขาแต่กลับใช้หลังมืออังหน้าผากเจ้าของหัวใจเขาอย่างถือวิสาสะ
“เป็นไรหรือเปล่าการ์ หน้าซีดเชียว”
“ไม่เป็นไร การันเบี่ยงศีรษะออกอย่างสุภาพเมื่อแอบมองเห็นสายตาของบุคคลที่สาม
“เราแค่เพลียๆ” ตอบเพื่อนให้หายกังวล อันที่จริงเขาแค่ปั่นป่วนในใจเล็กน้อยเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ การันบอกตัวเอง
“สงสัยหมอการ์จะไม่อยากไปดื่มกาแฟแล้วมั้งครับ” กิ่งใบประชด เขาเริ่มหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆที่อีกฝ่ายทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน แถมท่าทีที่สนิทสนมนั่นอีก เห็นแล้วให้เดือดในใจปุดๆ
“มอน เราขอตัวดีกว่าวันนี้ เราต้องรีบกลับไปคลินิก” การันหันไปบอกเพื่อน เมื่อเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นเรื่อยๆ จากสายตาที่ร่างสูงใหญ่มองมา และท่าทีของอมรที่เกาะแกะเขาเกินเหตุ
“งั้นเราไปส่งนะ” อมรรีบเสนอตัวทันที “ต่อไปเราจะได้ไปหาการ์ถูกไง” พร้อมกับจับมือเล็กขึ้นมากุมไว้อย่างขอร้องโดยไม และการกระทำนั่นเองทำให้กิ่งใบตัดสินใจได้ในที่สุด
“พอดีหมอการ์จะกลับกับผมครับ เชิญคุณหมอไปตรวจลูกชายผมด้วย ไม่งั้นผมจะเขียนจดหมายร้องเรียนว่าคุณหมอเห็นคนอื่นสำคัญกว่าคนไข้” กิ่งใบทิ้งท้ายก่อนจะดึงมือเล็กออกมาจากลิฟต์เมื่อถึงฉันล่างบริเวณลานจอดรถของโรงพยาบาล
“พี่กิ่ง ปล่อยนะ” การันพยายามรั้งตัวเองไว้ไม่ไห้ปลิวไปตามแรงดึงมหาศาล
“ถ้าปล่อยแล้วจะให้มันไปส่งใช่มั๊ย” กิ่งใบหันมาถามเสียงเย็น
“การ์จะให้ใครไปส่งที่ไหน ก็ไม่ใช่เรื่องของพี่” การันตะโกนเสียงดังเมื่ออารมณ์น้อยใจตีรวนขึ้นมาจนเจ็บไปทั้งอก เมื่อนึกถึงภาพในห้องของต้นกล้าเมื่อครู่ใหญ่ๆ ที่ผ่านมา
“ไม่เกี่ยวงั้นเหรอ งั้นใครกันที่หึงพี่จนจะร้องไห้แบบนี้” การันพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยนขึ้น เมื่อเห็นตาวาวๆ และปลายจมูกโด่งมีสีแดงเรื่อ มือใหญ่ถูกเจ้าของยกขึ้นมาลูบไล้แก้มเนียนเบาๆ อย่างปลอบประโลม
“ใครร้อง อย่ามาตู่” การันพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น ไม่ว่าเมื่อไหร่คนคนนี้ก็มีอิทธิพลกับเขาเสมอ
“ใครกันน้า ชายหนุ่มหยอกเย้าอย่างอารมณ์ดี” เมื่อคลายความหงุดหงิดไปบ้างแล้ว
การันพยายามดึงมือออกสุดแรงเพราะต้องการที่จะไปให้พ้นๆ จากคนเจ้าเล่ห์คนนี้ แต่ด้วยความที่ไม่ทันระวังขาเจ้ากรรมดันไปสะดุดกับอะไรบางอย่างที่พื้นจนเขาเสียหลักล้มลงไปปะทะกระโปรงรถอย่างจัง ทำให้คนที่ดึงมือเขาไว้อยู่ต้องล้มตามลงมา กลายเป็นว่าตอนนี้เขาเอนตัวอยู่บนกระโปรงรถโดยมีกิ่งใบคร่อมทับอยู่เหนือร่าง ดิ้นไปไหนไม่ได้
ชายหนุ่มยิ้มในหน้า เมื่อเคลื่อนใบหน้าคมคร้ามของตัวเองเข้าไปสัมผัสซอกคอหอมกรุ่นเบาๆ ก่อนจะใช้ปลายจมูกสุดกลิ่นหอมจางๆ จากร่างข้างใต้ฟอดใหญ่
“พี่กิ่ง” การันท้วงเบาๆ มองซ้ายมองขวาไปมาอย่างกังวลกลัวว่าจะมีคนผ่านมาเห็น ถึงที่นี่จะเป็นลานจอดรถของลูกค้าวีไอพี ไม่มีคนพลุกพล่านแต่ก็อดที่จะกลัวว่าจะมีคนมาเห็นไม่ได้
“ไม่มีใครหรอก” เมื่อสูดกลิ่นหอมจนพอใจแล้วจึงฉุดมือมือเล็กขึ้นมาเพื่อที่จะพูดคุยกัน
“เมื่อกี้ที่การ์เห็นในห้องไม่มีอะไรจริงๆ นะ”
“เหรอครับ ถ้าผมไม่เข้าไปขัดจังหวะ คงมีอะไรไปถึงไหนแล้วมั้ง” พูดประชดอย่างงอนๆ เมื่อนึกขึ้นมาได้อีก
“หึงเหรอ” กิ่งใบพูดยิ้มๆ
“บ้าใครหึงกัน อย่ามา.....อื้อ...” เสียงแก้ตัวขาดหายไปเมื่อถูกริมฝีปากบางบดจูบลงมาอย่างมันเขี้ยวกับท่าทีแสนงอนนั้น
“หึงก็บอกว่าหึงสิ รักก็บอกว่ารัก มันพูดยากตรงไหน” กิ่งใบพูดคลอเคลียอยู่กับหูบาง
การันยันอกหนาออกให้พ้นจากตัว เพราะยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งแพ้ ร่างสูงมีวิธีที่ทำให้เขาอ่อนลงเสมอ
“ว่าไง รักหรือเปล่า” กิ่งใบทวงคำตอบ
“คนที่อยู่ในห้องเมื่อกี้ใคร” การันไม่ตอบคำถาม แต่ถามถึงอีกคนหนึ่งที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเดินหนีมา ทำให้กิ่งใบต้องอมยิ้มน้อยๆ
“วิภาวี กิ๊กเก่า” ชายหนุ่มเปิดเผย เขาไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้ว
“กิ๊กเก่า? ทำไมปัจจุบันถึงยังนั่งบนตักพี่ได้” การันยังซักต่อด้วยสายตาคาดคั้น จนกิ่งใบต้องอมยิ้มอีกครั้งเมื่อนึกถึงคำพูดของน้องชายตัวเองได้ว่า กัณฑ์นั้นขี้หึงขนาดไหน และท่าทีที่น้องชายหมอนั่นทำอยู่นี้คงจะเป็นกรรมพันธุ์ละมัง เพราะการันเองก็ใช่ย่อยเลย
“พี่ไม่คิดอะไรกับเขาแล้ว แต่ถ้าเขายังคิดอะไรกับพี่อยู่ พี่ก็ช่วยไม่ได้” ชายหนุ่มอธิบายอย่างใจเย็น
การันค่อนข้างพอใจกับคำตอบนั้นพอสมควร ร่างบางจึงได้หยุดดิ้นหนีอ้อมกอดอีกฝ่ายในที่สุด
“หายโกรธพี่แล้วเหรอ” หอมแก้มเนียนเบาๆ อีกครั้ง
การันไม่ตอบได้แต่พยักหน้าเบาๆ
“แล้วรักพี่ไหม เราจะเป็นแฟนกันได้หรือยัง” กิ่งใบถามอย่างอารมณ์ดี
ร่างบางในอ้อมกอดคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาคนตัวโต
“ถ้าพี่สัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีก”
สัญญาด้วยเกียติของลูกผู้ชายเลย ชนจมูกโด่งของตัวเองเข้ากับปลายจมูกของการันเบาๆ “พี่รักการ์นะ รักมาตั้งนานแล้วด้วย”
“การ์ก็รักพี่กิ่งครับ รักมานานแล้วเหมือนกัน” การันยอมเปิดเผยความรู้สึกในที่สุด ทั้งสองกอดกันอยู่ชั่วครู่ก่อนพากันเดินไปหาร่างเล็กๆที่นอนรอความรักความอบอุ่นจากเขาทั้งคู่อยู่บนเตียงนอนสีขาว ณ โรงพยาบาลแห่งนี้ เด็กชาย ต้นกล้า พิศาลมนตรี
****************************จบบริบูรณ์*********************************.
จบแล้วค่า
เรื่องนี้มีรวมเล่มแล้วด้วยนะคะ
กำลังเปิดให้จองอยู่
ติดตามได้ที่่่นี่เลยค่า >>จิ้ม<<