ร้ายที่ 10 หลังจากเจอวลีเหล่านั้นเข้า . . ไอ้เจ้านายถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูกไปเลย
ที่ทำงานของไอ้มังกรที่มันว่า ก็ไม่ใช่อะไรที่ไหนไกลๆหรอก ร้านของที่บ้านมันเองนั่นแหละ ร้านนี้มีเปิดสองที่คือที่ใต้ถุนบ้านที่ใช้เงินที่ยืมป๊าของผมซื้อ(อันนั้นเปิดตอนเฉพาะตอนเช้าถึงสิบเอ็ดโมง) และก็ตรงสวนสาธารณะที่คนชอบมาตอนกลางคืนกัน พวกวัยรุ่น วัยโน่นนี่นั่นจะชอบมานั่งร้านที่บ้านไอ้มังกร จับเข่าคุยกันสัพเพเหระตามประสาคนไม่ยอมหลับยอมนอนในเวลากลางคืน
ผมนั่งจุมปุกอยู่ข้างๆลุงเมฆ ที่ยังคงจำผมไม่ได้ ลุงตักน้ำเต้าหู้ใส่ถุง ถุงแล้วถุงเล่า ไม่ใส่เครื่องใส่เครื่อง ใส่น้ำตาลไม่ใส่น้ำตาล ผมมองสิ่งที่ลุงทำอย่างไม่รู้เบื่อ คอยลุ้นสถิติว่าคนที่เค้ามาซื้อกลับไปบ้านนั้นเค้าชอบกินแบบไหนกัน . . แบบทีไอ้มังกรมันชอบไปห้อยหน้าห้องผมคือใส่น้ำตาลนิดหน่อย เพราะถ้าไม่มีน้ำตาลแล้วมันจะจืดชืดมากเลยล่ะ
“ลุง . . เปิดร้านมานานรึยังครับ”
ผมชวนลุงคุย ไอ้เชี่ยมังกรหายหัวไปไหนไม่รู้ รู้แต่ว่ามันบอกให้ผมคอยที่นี่ ห้ามไปไหน โทรศัพท์ก็ไม่ให้โทร ให้อยู่เป็นเพื่อน “แด๊ดดี้” ของมัน ผมกลายเป็นเบี้ยล่างของมันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ อันนี้ผมก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน
“โอ้ . . เกือบยี่สิบปีแล้วมั้ง ตั้งแต่เจ้ามังกรมันเด็กๆน่ะ” ลุงพูด ใบหน้าลุงดูนิ่งๆและสุขุม แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีน่ากลัวอะไรมากมาย เปลี่ยนสีตาของไอ้มังกร กับเปลี่ยนความโด่งของจมูกมัน . . ก็จะกลายเป็นแบบลุงเมฆนี่แหละ สำเนาถูกต้อง
“เหรอครับ”
“ก็ไม่คิดว่ามันจะขายดีขนาดนี้ ที่จริงบ้านลุงก็ไม่ได้มีสูตรอะไรมากมายนักหรอก สงสัยเพราะร้านนี้มีลูกชายเป็นฝรั่งล่ะมั้ง เลยแปลกๆไปจากร้านอื่น”
“แหะๆ”
“อยู่ที่มอมันเป็นยังไงบ้างน่ะ เจ้ามังกรน่ะ”
. .
ขี้เก๊ก ขี้บังคับ ชอบทำหน้านิ่ง เย็นชา บางทีก็ไร้เหตุผล เอาแต่ใจตัวเอง ชอบเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ . . เอ่อ หลังๆเริ่มจะเข้าตัวเองยังไงไม่รู้ว่ะ
“ก็ดีครับ” ทั้งหมดนั่นน่ะ . . ก็ดีมั้ง มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมายนี่ จากที่ผมได้รู้จักกับมันมา
“มันเป็นคนรักเพื่อนนะ เห็นเงียบๆอย่างนั้น . . เจ็บแทนเพื่อนมันได้เลย ลุงพามันเข้าโรงบาลก็เพราะเพื่อนมันก็มีบ่อยครั้งไป”
. . .
“น้ำเต้าหู้ลุงอร่อยมั้ยละ^^” พ่อมังกรถามด้วยรอยยิ้ม . .
กรรม รู้ด้วยว่าผมได้กินทุกวัน TT
“เอ่อ ครับ”
“หึหึ รู้ว่าต้องชอบ” ลุงเมฆยิ้มที่มุมปากแล้วมองหน้าผม แว้บนึงที่ผมรู้สึกว่าลุงเมฆมีสายตาเหมือนเอ็นดูผม “เข้าใจแล้วว่าทำไมไอ้แมทมันถึง . .”
“เจ้านาย!!!” เสียงของลุงขาดหายไปเมื่อมีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา ไอ้แฝดทั้งสองคนเดินเข้ามาหาผมด้วยท่าทีรีบร้อน มันจับตัวลูกกระจ๊อกของชายโฉดคนหนึ่งมาด้วย ท่าทางพวกมันขู่ไอ้นี่จนแหย . . ถึงได้รู้ที่อยู่ของมังกรได้
“เป็นไงบ้าง เชี่ยมังกรลักพาตัวมึงมา!” ธีมองดูผมตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเป็นห่วง
“ก็ . .” จะว่าอย่างนั้นมันก็ไม่ถูกทั้งหมดหรอก . .มันไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น
“กลับเหอะ!!!!” ธัญถือวิสาสะจับมือผมให้ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้พลาสติก เห้ย! เดี๋ยวนี้กูโดนคนอื่นลากไปลากมาได้ขนาดนี้เลยเหรอ ผมคิดได้ผมจึงสะบัดมือออก . .
ธัญมีสีหน้าไม่เข้าใจ . . ตอนที่มังกรมันลากผม ผมสู้แรงมันไม่ได้เลย ผมจึงไม่เคยสะบัดมือของมันออกจากข้อแขนได้สำเร็จ ผิดกับธัญ . .ที่สะบัดครู่เดียวก็หลุด
“อืม” ผมตอบ สีหน้าของธัญเลยดูโล่งใจขึ้น
“อ้าว เพื่อนมารับแล้วเหรอ แล้วเจ้ามังล่ะ? ไม่บอกมันก่อนรึไง” ลุงเมฆถาม เมื่อผมทำท่าจะออกไปจากร้าน
“ผมไม่รู้ว่ามันจะกลับมาเมื่อไหร่น่ะครับ”
“เดี๋ยวมันก็มา มันกลับไปที่บ้านไปเปลี่ยนชุด”
“เอ่อ ผมคงไม่รอถึงตอนที่มันกลับมาหรอกครับลุง”
“ทำไมล่ะ”
“อันที่จริง . .ผมกับมันน่ะ” ผมพยายามเรียบเรียงคำพูด “ไม่ใช่เพื่อนกันหรอกครับ จุดที่เรายืนอยู่มันคล้ายกับศัตรูกัน”
“ฮ่าๆๆ ไม่ต้องพูดให้เหนื่อยหรอก ลุงรู้จักลูกลุงดีกว่าใคร . .”
“…”
“มันไม่เคยเห็นเอ็งเป็นศัตรูหรอกนะ” เอาอีกแล้ว . . ไอ้ประโยคที่มันทำให้ผมกลืนไม่เข้าคายไม่ออก . . ยืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ค่อยจะถูก ธัญเป็นผู้ช่วยชีวิตผมโดยการสะกิดที่สีข้าง ผมไหว้ลุง เพื่อนผมไหว้ลุง ส่วนไอ้ชายโฉดคนนั้นก็อยู่ช่วยงานของลุงไปโดยปริยาย . .
สองร้ายในหนึ่งรัก *
[/b]
สองวันต่อมา . . ผมกลับมาซ่าที่สนามแข่งรถของป๊า
ทุกคนให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดี ส่งแมตช์มาให้ผมเลือกว่าจะลงแข่งอะไรกับใคร มีแต่พวกที่เคยแพ้ผมแล้วทั้งนั้น คัมแบ๊คทั้งทีมันต้องหาพวกที่สูสีๆหน่อยดิว้า
ผมเปิดแฟ้มไปมาอย่างค่อนข้างเบื่อ ในขณะที่ไอ้แฝดเริ่มดื่มด่ำกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สาวคนเดิมเสิร์ฟ บรรยากาศเดิมๆกลับมาอีกครั้ง และนี่ก็เป็นครั้งที่หกแล้วที่ไอ้ธีพูดตอกย้ำคำเดิมๆกับความหมายเดิมๆ
“ดีใจที่มึงกลับมาว่ะ” ธีหัวเราะ อยากจะร้องใส่หูมันเหลือเกินว่า เออ!!! กูรู้แล้ว!!! ที่กูกลับมาเพราะกูก็เริ่มๆเซ็งเหมือนกัน ไม่ได้ทำเหี้ยไรเลย มีแต่คนมาคอยปองร้าย ถึงแม้จะโดนซิวเอาตำแหน่งราชาไปแล้ว แต่ก็น่าจะทำอะไรสักอย่างให้ดูเหมือนว่าตัวเองก็ยังมีไฟอยู่ “สาวๆเค้าคิดถึงมึงชิบหาย ทำไมเดี๋ยวนี้มึงไม่ขั้วกับใครเลยวะ”
ผมนิ่งคิด . . นั่นสินะ . . ไม่ได้นอนกับผู้หญิงมานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย “ก็ว่าจะมาหาคืนนี้” เห็นทีคงต้องแสดงอะไรสักอย่างให้แก๊งอื่นมันเห็นบ้าง จะได้ไม่ต้องโดนรุมทำร้ายอีก . . เอ่อ . . ถ้าโดนอีก ก็ขอให้โดนน้อยลงกว่าอาทิตย์ก่อนก็แล้วกัน จะบ้าตาย
“งั้นนี่เลย” ธีหยิบแฟ้มที่อยู่ตรงหน้าผมไปเปิดๆๆๆอย่างช่ำชอง “ไอ้ติ๊ก แฟนมันอย่างสวยอ่ะ ลูกเจ้าของโรงแรมที่ชลบุรี รวยด้วย สวยด้วย แต่ใจแตกมาคบกับเชี่ยติ๊ก”
“เชี่ยติ๊กมันจะยอมเหรอวะ แฟนมันทั้งคนนะเว้ย”
“เหอะ คิดว่าคนอย่างมันจะจริงใจเหรอวะ” ธีพูดอย่างออกรสออกชาติ ส่วนเชี่ยธัญไม่พูดอะไร ยกเหล้าซดอย่างเดียว “มันชอบใช้แฟนมันเป็นรางวัลมาตั้งแต่ไหนแต่ไร . .”
“อืม งั้นแข่งอันนี้” ผมหันไปบอกผู้จัดการสนามที่ผงกหัวรับ แล้วรีบวอดำเนินการทันที
“เช้ดดดดดดดดดดดดดดด ไอ้นาย มึงนี่เด็ดว่ะ”
“เชี่ยติ๊กมันก็ดีแต่รถแพง สู้ฝีมือการขับของกูไม่ได้หรอกเว้ย” ผมยักคิ้วอย่างมั่นใจ
ธัญกระแอมขึ้นมา “ระวังตัวด้วย”
“โด่ว เชี่ยธัญ กูระดับไหนแล้ว ของแค่นี้กล้วยๆว่ะ” ชนะแล้ว กู้ศักดิ์ศรีคืนมา ซ้ำยังได้สาวไปนอนกก . .
“แค่เตือนเอาไว้”
“เออน่า คอยดูชัยชนะของกูละกัน” เชี่ยธัญแม่งชอบห่วงผมเกินเหตุอันควร . .
สนามแข่ง
“กรี๊ดดดดดดดดด เจ้านายยยยย คุณเจ้านายยยยยยยยยยยยยยย”
ผมโบกมือให้สาวๆตามเสียงกรี๊ด . . เอาวะ กูก็ยังมีความนิยมอยู่บ้างผมในชุดแข่งรถแบบทะมัดทะแมงยืนคุยกับไอ้ธีเรื่องรถที่เพิ่งปรับแต่งอะไรนิดหน่อยอยู่(เพิ่มยาม เฝ้ารอบคันแม่งเลย จะได้ไม่มีใครมาเล่นตลกกับรถผมอีก) ไอ้ธัญขอดูอยู่บนชั้นบ๊อกซ์ของวีไอพี มีแต่ไอ้ธีสินะที่ว้อนอยากให้ผมกลับมาเด่นดังอีกครั้งหนึ่ง . .
ไอ้ติ๊กเดินเข้ามาในสนาม . . พร้อมๆกับ . . เช้ดดดดดดดดด . . นี่มันหญิงไทย หรือนักร้องเกาหลีวงซิสต้า . . หุ่น . . นม โคตรสะบึม!!!!!
นางมีสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ก็พยายามจิกสีหน้าให้สวยเริ่ดเชิ่ด ทั้งๆที่มือที่ควงแขนไอ้ติ๊กอยู่เริ่มสั่น . .
แว้บแรกที่ในความคิด . . ผมบอกได้เลยว่า . .
กูไม่อยากได้ผู้หญิงคนนี้เลยว่ะ . .
ชนะมาเพราะได้ตัวแล้วค่อยปล่อยไปก็ได้วะ . .ผมยักไหล่กับความคิดของตัวเอง เดินไปคุยกับไอ้ติ๊กแป๊บนึง ไอ้ติ๊กกับผมเป็นเพียงนักแข่งที่เป็นคู่แข่งกันเท่านั้น พอออกนอกสนาม . . ผมกับมันค่อนข้างที่จะสนิทกันทีเดียว
จากนั้นก็ถึงเวลาแข่ง . . การแข่งของผมกับไอ้ติ๊ก ง่ายมากครับ วิ่งสิบรอบสนามแข่ง ใครถึงก่อนชนะ ห้ามชนรถฝั่งตรงข้ามพัง เพราะแข่งความเอาเร็วอย่างเดียวครับ ไม่แข่งการทำลายล้าง ผมขึ้นไปบนรถขยับมือไปมา สั่นนิดๆเพราะไม่ได้แข่งนาน หวังว่าการกลับมาครั้งนี้ของผมจะเป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่นะ . .
เพราะตั้งแต่มีไอ้มังกรเข้ามาในชีวิต . . ชีวิตของผมแม่งก็ถูกดูแลไปซะทุกด้าน . . ผมอยากทื่จะแสดงความแกร่งขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ว่าผมนั้นก็ยังมีอำนาจ มีคู่แข่งที่ยำเกรง และก็ยังเป็นไอ้เจ้านายคนเดิม
บรื๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
รถออกตัวไป ผมกับไอ้ติ๊กผลัดกันนำไปๆมาๆอยู่หลายครั้งหลายครา ไอ้ติ๊กก็เหมือนเดิมทักษะไม่เปลี่ยน คือเท่าเดิมไม่ได้มีการพัฒนา ส่วนผมน่ะเหรอ ไม่รู้ว่าพัฒนาหรือเปล่ารู้เพียงแต่ . .ผมชนะไอ้ติ๊ก
(อดีต)แฟนสาวของไอ้ติ๊กเดินสะบัดเท้ามาที่ผม ไอ้ติ๊กหัวเราะหึหึๆ ตบไหล่ผมอย่างคนซี้กัน เธอคนนั้นควงแขนผม และก็ซบหน้าลงที่ไหล่
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด เจ้านายเท่มากเลยยยย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
ของมันแน่อยู่แล้ว . . ผมแจกยิ้มให้สาวๆเหล่านั้น แต่ไม่ได้สนใจมองคนที่เพิ่งเข้ามาควงนี่เลย
“ประทับใจจริงๆ . . ฝีมือมึงก็ยังงั้นๆเหมือนเดิม” คำพูดที่โคตรจะขัดกันเป็นของไอ้วายุที่แสนจะกวนตีน กับพรรคพวกของมันที่เดินเข้ามาทักทาย ลืมไปว่ามันมาที่นี่ทุกคืน . .
“เหี้ยอะไรของมึง หลีกไป” ผมเดินชนไหล่ของไอ้วายุ
“กรี๊ดดดดด” คนข้างๆผมส่งเสียงกรี๊ด นั่นทำให้ผมต้องหันกลับไปมองทางด้านหลัง เธอจับหมับที่ก้นของตัวเอง นั่นหมายความว่าเธอเพิ่งจะโดนไอ้วายุแต๊ะอั๋งไปหยกๆ
“ไอ้สัด!!! ทุเรศว่ะ”
“แหมๆๆ เพิ่งได้มาไม่ถึงสามนาทีนี่มึงมีหวงเค้าแล้วเหรอวะ” วายุมองสำรวจผู้หญิงอย่างน่าเกลียด คือสายตามันบ่งบอกชัดเจนอ่ะว่ามันหื่น . . “กูนึกว่ามึงกลายเป็นเมียไอ้มังกรไปแล้วซะอีก”
“กูเปล่า!”
“พวกกูกับแก๊งอื่นๆที่จะไปแตะแก๊งมึงโดนชายโฉดกันท่าชิบหาย . . ของแบบนี้ไม่เรียกว่ามึงเอาตูดไปแลก แล้วจะให้เรียกอะไรล่ะ” เสียงผู้คนเริ่มฮือฮาขึ้นมา เพราะเสียงที่ไอ้ยุมันพูดนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะเสียงเบา ให้ตาย คนแม่งนินทากันชิบหายว่าผมกลายเป็นเกย์ไปแล้วเหรอ หรือไม่ก็ . . เจ้านายกับมังกรเป็นอะไรกันน่ะ . . ทำไมถึงเชื่อคนอื่นกันง่ายนักวะ!
“โอ๊ะโอ กูพูดอะไรผิดไปเหรอ ดูมึงจะโกรธๆนะ”
“กูไม่ได้เป็นเกย์บ้าอะไรนั่น” ผมพูดลอดไรฟัน
“แสดงให้เห็นสิ”
“ว่าไงนะ”
“แสดงให้คนอื่นเค้าดูดิ ว่ามึงไม่ได้เป็นเกย์ และมึงก็ไม่ได้เป็นเมียไอ้มังกร” วายุพูดอย่างมีทะเล้น ผมอยากจะเอาส้นเท้าไปฝังที่รูขุมขนที่ใบหน้าของมันชะมัดเลยตอนนี้
ผมกระชากตัวผู้หญิงที่ควงแขนมาแล้วจูบอย่างรุนแรง เธอคงตกใจล่ะมั้งเลยตีผมใหญ่ แต่ไม่นานนักเธอก็สงบและก็ยอมให้ผมจูบแต่โดยดี
ประมาณสิบห้าวิได้ ผมถึงปล่อยเธอ ท่ามกลางเสียงอู้หูกับเสียงฮิ้วกันทั่วสนาม
“พอใจยังไอ้สัด!”
แปะๆๆ ไอ้วายุมันถึงกับปรบมือให้ คนในแก๊งของมันก็เหมือนกัน ผมยกมือขึ้นปาดริมฝีปาก ส่วนผู้หญิงที่ผมเพิ่งได้มารู้สึกได้เลยว่าเธอกำลังหน้าแดงแจ๋
“ก็โอเค”
“หลีกไปได้แล้ว” ผมผลักมันให้ออกไปจากทางของผม
“อ๊ะๆ เดี๋ยวก่อนเซ่” คราวนี้มันจับข้อแขนผมไว้ ผมมองหน้ามันราวกับว่าถ้าฆ่ามันด้วยสายตาได้ ผมคงทำไปแล้ว เกลียดมันจริงจัง! นี่พูดเลย . .
“เหี้ยอะไรอีกล่ะ”
“มันยังไม่พอหรอก”
“อย่ามากวนตีนกู เชียยุ”
“ถ้ามึงไม่ได้เป็นไรกันกับไอ้มังกรอย่างที่กูสงสัยล่ะก็ . .”
เชี่ยวายุจิ้มโทรศัพท์ของมันไปมาอยู่สักครู่ แล้วก็ชูรูปอะไรบางอย่างให้ผมดู . .
“ . . นี่คงไม่ได้ทำให้มึงรู้สึกอะไรหรอกใช่มั้ย ขำแป๊บ! ฮ่าๆๆๆๆ”
ขำเหี้ยไรวะ! ผมมองดูรูปนั้นอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร . . แต่พอจ้องดูดีๆ . .ไอ้มังกร . . ถูกผู้หญิงควงแขนกระหนุงกระหนิง อยู่หน้าห้างใหญ่ใจกลางกรุง
“อะไร . .ไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย” ผมด่าไอ้เชี่ยวายุ แต่ถึงจะพูดไปงั้นก็เถอะ แต่ทำไมในใจของผมมันรู้สึกขัดๆวะ มันกระอักกระอ่วนแปลกๆ แต่ช่างแม่งดิ มันไม่ใช่เรื่องของผมนี่!
“อ้าวเหรอ จริงป๊ะเนี่ยยยยยยยยยย”
มันจะกวนตีนไปถึงไหน อยากตบกบาลให้แม่งแหลก!
วายุหันมือถือของมันไปดู “เห้ย กดผิดรูป แป๊บนึง”
ไม่ได้ผิดหรอก กูรู้มึงจงใจ!
“ถ้ารูปนั้นไม่ได้รู้สึกอะไร . . แล้วรูปนี้ล่ะ . .”
“มันจะไปทำห่าทำเหวอะไรกับใครก็ไม่เกี่ยวกับกู มันกับกูเป็นศัตรูกัน!”
“ลองมองดูดีๆก่อนเด๊”
ให้ตาย . .ผมมองไปที่มือถือของไอ้วายุ . .คราวนี้ผมหลอกตัวเองไม่ได้อีกต่อไป . . ในรูปมังกรอยู่ในสภาพที่ถูกซ้อมสะบักสะบอม ใบหน้ามีรอยบอบช้ำทั้งสีเขียวและก็สีม่วง มันถูกมัดแขนมัดขาเอาไว้ และในรูปนั่นมันกำลังนอนตะแคงอยู่ โดยในรูปมีหน้าเหี้ยๆของไอ้วายุชูสองนิ้วใส่กล้องด้วย
บ้าน่ะ . .อย่างมังกรน่ะเหรอ จะโดนไอ้พวกนี้ซ้อมเอาง่ายๆ
“อึดเหมือนกันนะ เล่นเอาพวกกูเหนื่อยแทบตาย” วายุสะบัดผม ในท่าที่มันคิดว่ามันเท่ “เป็นไงล่ะ รู้สึกอะไรขึ้นมาบ้างยัง กูว่ามึงดูอึ้งๆนะ . .”
“มัน . .ยังอยู่กับมึงเหรอ” ผมรำพึงอย่างมีความโกรธอยู่ลึกๆ
“เออเว้ยเฮ้ย เก่งว่ะ กูอาจจะซ้อมมัน แล้วอาจจะปล่อยมันให้กลับบ้านไปนอนแล้วก็ได้ แต่นี่มึง . . ดันรู้อีกว่าตอนนี้มันยังอยู่ที่กู”
“. . .”
ทำไมจะไม่รู้ . .น้ำเต้าหู้ไม่ได้มาห้อยที่หน้าประตูสองวันแล้ว = =นี่มังกร . .ถูกจับไปสองวันเลยเหรอ “ไอ้สัดนี่คิดหนักว่ะ ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องคิดให้มันหนักหรอกเพื่อน” มาเรียกกูเพื่อนใครเพื่อนมึง!!!! “โกดังโรงงานพ่อกูที่สุพรรณบุรี . . ถ้าอยากได้ตัวมัน . .คืนนี้มึงต้องไปคนเดียว”
เสียงฮือฮายังดังระงม กระซิบกระซาบและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก
“ทำไมกูต้องไป มันไม่ใช่เพื่อนกู มันเป็นศัตรูกู” ผมพูดเสียงเบา . . แต่ลึกๆในใจของผมนั้นกำลังต่อต้านคำพูดเหล่านั้นอย่างหนัก
“ก็แล้วแต่มึงละกันนะ” วายุตบไหล่ผม “ถ้ามึงไม่ไป กูจะให้มันเป็นที่รองมือรองตีนของพวกลูกน้องกูต่ออีกสักสองสามวัน มึงรู้มั้ย ลับหลังมึง ไอ้เชี่ยมังกรทำแก๊งกูได้แสบมาก”
“สมน้ำหน้า”
“ชิ . .”
วายุถ่มน้ำลายใส่พื้นอย่างสถุน ก่อนที่จะเดินชนไหล่ผมไป . .
ผมยืนนิ่ง . .ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง . .ที่ผมตัดสินใจกลับไปขึ้นรถของตัวเอง
สุพรรณบุรีไปทางไหนวะ ? “เจ้านาย”
ธัญวิ่งมาหาผม ข้างๆมันมีไอ้ธีมาด้วย ทั้งคู่มีหน้าตาที่ตื่นตกใจ
“มึงจะไปไหน ไปช่วยมังกรใช่มั้ย!”
“. . มันไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นจะต้องมาเจ็บตัวเพราะกู”
“ปล่อยมันไป . . มังกรมันเป็นหัวหน้าแก๊งชายโฉดนะ มันดูแลตัวเองได้!”
ผมมองหน้าธัญ “มึงใช่ธัญที่กูรู้จักรึเปล่า”
“แล้วมึงล่ะ ใช่เจ้านายที่กูรู้จักมั้ย”
“…”
“หลังๆมึงอยู่ใกล้กับคนที่มึงเรียกว่าเป็นศัตรู มากกว่าคนที่มึงเรียกว่าเป็นเพื่อนมึงอีกนะ”
“…”
“อย่าไป มันอันตราย ปล่อยเชี่ยมังกรพังไป . . มึงจะได้เป็นราชาเหมือนเดิมอย่างที่มึงต้องการ”
“…”
ราชา . . ราชางั้นเหรอวะ ? “มึงจะพูดอะไรก็พูดไปเหอะ แต่กูจะไป”
“นาย!!!”
“ลองคิดดูดีๆ ถ้าเป็นมึงนะสัดธัญ มึงจะปล่อยให้คนอื่นมาเจ็บตัวเพราะมึงเหรอ”
“…”
“นั่นมันไม่ใช่ตัวมึงเลยนะ”
“กูเป็นห่วงมึง”
“กูรู้”
“มึงยังรู้จุดยืนของมึงกับไอ้มังกรอยู่มั้ย”
“…”
“มึงกับมันเป็นศัตรูกัน”
“วันนี้กูขอช่วยศัตรูละกัน!” ไม่เคยมีศัตรูคนไหนที่ต้องมาเจ็บตัวเพราะผม
ไม่เคยมีคนไหนที่พอเห็นมันเจ็บแล้วผมจะนึกมาใส่ใจได้ถึงขนาดนี้
มังกร . . มึงเป็นศัตรูที่พิเศษเหรอวะ?สอบเสร็จแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
อยากจะอัพนิยายให้คนอ่านเบื่อขี้หน้าจิงๆ