Lesson 59
( Kim Part )
“นี่ พี่โชว์อย่ามานอนเบียดผมได้ไหมเนี่ย มันอึดอัดนะรู้ไหม” จากวันนั้นหลายวันผ่านไปผมก็ไม่ค่อยนึกถึงเรื่องเก่าๆอีก ยิ่งพยายามฝืนฝอยหาตะเข็บมากเท่าไหร่ ร่างกายของผมก็ทรุดลงไปมากเท่านั้น สู้อยู่กับปัจจุบันซะจะดีกว่า
“ก็พี่อยากกอดคิมนี่ ผิดด้วยหรอ พี่รักของพี่นี่นา” มาอีกแล้วคำหวานๆที่คอยหยอดให้ผมทุกทีที่มีโอกาส ตอนแรกๆก็อายจนทำอะไรต่อไม่ได้ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นชินไปซะแล้ว แถมยังน่าหมันไส้อีกต่างหาก
“ไม่ผิดหรอกพี่ แต่ผมอึดอัดเข้าใจไหมคำว่าอึดอัดน่ะ”
“ถ้าไม่อยากให้พี่กอดให้อึดอัดก็ทำแบบนี้...ฟึ่บ” พี่โชว์กระชากผมขึ้นไปอยู่บนตัวพี่โชว์อย่างรวดเร็ว ผมกำลังงง เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากรู้สึกตัวอีกทีหน้าผมกับพี่โชว์ก็ห่างกันไม่ถึงคืบแล้ว เรียกเลือดจากหน้าผมได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
“ไอ้พี่โชว์บ้า!!!!!!!”
หลังจากคืนนั้นผ่านไปแบบค่อนข้างจะวุ่นวายเล็กน้อย ก็จบลงด้วยที่ว่าพี่โชว์ต้องลงไปนอนพื้น ตอนแรกผมอ่ะเป็นคนหนีลงไปนอนที่พื้นโดยให้เหตุว่าขืนนอนข้างบนด้วยมีหวังไม่ได้นอนแน่ๆ พี่โชว์ก็พยายามพูดให้ผมขึ้นไปนอนข้างบนด้วยกันแต่ผมก็ไม่ยอม หัวเด็ดตีนขาดยังไงผมต้องไม่เสียเอกราชให้ใครง่ายๆ สุดท้ายพี่โชว์ก็ยอมลงมานอนข้างล่างเอง พี่เค้าบอกว่ากลัวผมปวดหลัง ก็สบายผมไปครับ อิอิ
“หนูคิมอยากทานอะไรคะเช้านี้” ป้าน้อยครับ ท่าทางแกนิสัยดีเลยทีเดียว คอยดูแลเอาใจใส่ผมตลอดขาดเหลืออะไรก็หามาให้
“มีอะไรบ้างหรอครับ”
“เช้านี้ป้าทำข้าวต้มไว้ในครัวน่ะค่ะ แต่ถ้าหนูคิมอยากทานอะไรเพิ่มก็บอกป้านะคะ เดี๋ยวป้าไปทำให้”
“ไม่เป็นไรครับป้า ผมทานเท่าที่มีนั่นแหละ” จริงๆแล้วป้าแกทำอะไร ผมก็กินหมดอ่ะแหละผมไม่ค่อยเรื่องมากน่ะครับ
“ป้าน้อยคะ คุณเฟียร์กับคุณวินมารอคุณคิมกับคุณโชว์ที่ห้องรับแขกน่ะค่ะ...อ้าว คุณคิมค่ะคือ...”
“ผมได้ยินแล้วแหละ เดี๋ยวผมจัดการเองครับ” พูดจบผมก็เดินออกไปที่ห้องรับแขกทันที
“มาแต่เช้าเลยนะครับ”
“แหม่ นึกว่ายังไม่ตื่น ตื่นเช้าเหมือนกันนะเนี่ย” พี่วินบอกผม
“วันนี้ว่าจะมาฝากท้องด้วยนะเนี่ย” เฟียร์พูดต่อ
“ได้เลย ป้าน้อยทำข้าวต้มไว้ในครัวแหนะ ไปกินกันเลยดีกว่า” ไม่ต้องสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับสองคนนี้หรอกครับ ตลอดเวลาที่อยู่ที่บ้านนี้ผมก็สนิทกับทั้งสองคนนี้มากขึ้นพอสมควร โดยเฉพาะเฟียร์ครับ รวมถึงเพื่อนๆของพี่โชว์ที่คอยแวะเวียนมาหาผมแทบไม่ขาดสาย พวกพี่เค้าคงอยากให้คุ้นเคยมั้ง
“คิม ไอ้โชว์ล่ะ” พี่วินถามเมื่อมาถึงห้องครัวแล้วไม่เห็นพี่โชว์
“อ่อ อาบน้ำอยู่ข้างบนน่ะพี่”
“ทำไม มึงคิดถึงกูหรือไง” เสียงของคนที่พึ่งพูดถึงดังเข้ามาในห้องครัว
“เฮ้ย!!!!!!!!” พี่วินร้องเสียงดัง
“อะไรมึง โหวกเหวกโวยวายบ้านคนอื่นเค้าเนี่ย” เอ่อ พี่โชว์ไม่ได้ส่องกระจกลงมาแน่เลยอ่าๆ แต่จะว่าไปมันก็.....นะ
“มึงไปทำอะไรมาวะ” พี่วินถาม
“อาบน้ำ”
“ไม่ใช่”
“เอ้า...กูไปตายมามั้งชิบหาย” แล้วพี่จะกวนตีนเค้าเพื่อ???
“คิกๆ คิกๆ” ผมกับเฟียร์มองหน้ากันแล้วก็หัวเราะกัน
“กูหมายถึงรอยแดงบนหน้ามึงน่ะไปทำอะไรมา” เหอะๆ ฝีมือผมเองครับ ยกมือตอบอย่างภาคภูมิใจ
“อืมมมมมม...โดนแมวน้อยพยศว่ะ” นั้นๆ พูดแล้วจะเหล่ตามาทำไม ผมก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปซะ
“หรอ สงสัยจะโดนหนักนะมึงอ่ะ ตรงคอก็มีรอยข่วน หือออออ...SM หรอพวกมึงอ่ะ”
“พี่วิน....ทะลึ่ง” เฟียร์พูดขัดพี่วินครับ สมน้ำหน้าพูดจาอะไรลามกจกเปรตเหลือเกิน
“แหม่ นิดหน่อยน่า แล้วทำไมคิมต้องทำมันขนาดนี้ด้วยเนี่ย” พี่วินถามผมอย่างอารมณ์ดี ผมว่าเค้าคงมีความผิดปกติทางจิตนิดๆนะ ชอบเห็นเพื่อนตัวเองเจ็บตัว ขนาดพี่วินโดนเฟียร์ซัดพี่โชว์ยังเชียร์ เฮ้วๆ อย่างกับดูบอลโลก
“ก็เพื่อนพี่มันเป็นผีหื่นน่ะสิ”
“โถ ก็ยอมๆมันหน่อย มันกินไม่เยอะหรอก...สองสามทีเดี๋ยวก็อิ่ม”
“พี่วินบ้า คิดว่าผมจะยอมเสียเอกราชให้ใครง่ายๆหรอ” ผมพูดอย่างดัง
“ทำอย่างกับไม่เคยนะน่ะ”
“ก็ไม่เคยอ่ะสิ พี่อย่ามาพูดอะไรซี้ซั๊วนะ” เมื่อพูดจบทุกคนก็นิ่งแล้วมองหน้ากัน แล้วก็หันมามองผมเป้นตาเดียว
“ก๊ากกกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” พร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะเสมือนว่ามิสเตอร์บีนมายืนเล่นมายากลให้พวกเค้าดู(เกี่ยวอะไรวะ)
“โอเคๆ พี่ไม่ว่าแล้ว ไม่เคยก็ไม่เคย....กินข้าวกันเถอะจะได้ไปทำอย่างอื่น” จากนั้นพวกเราก็นั่งกินไปคุยไปเหมือนพวกไร้มารยาทเลยอ่ะ...แต่ไม่เป็นไร คนกันเองทั้งนั้น
“พรุ่งนี้ว่างไหม...จะชวนพวกมึงไปดูหนัง” พี่วินบอกพี่โชว์.....ตอนนี้เราก็อพยบมาอยู่ห้องนั่งเล่นเหมือนเดิมแล้วครับหลังจากกินข้าวแล้วก็ของหวานนิดหน่อย
“ก็ว่างนะ...แต่กูไม่ได้เข้าบริษัทนานแล้วนะเนี่ย”
“คุณคิมคะมีคนมาขอพบค่ะ” นวลหลานป้าน้อยมากระซิบบอกผมข้างๆ
“โอเค เดี๋ยวผมออกไปครับ…เดี๋ยวผมมาแปปนึงนะพี่” พูดจบผมก็ลุกออกมาแล้วเดินตามนวลออกไปจนถึงหน้าบ้านก็เจอกับผู้ชายคนหนึ่งยืนหันหลังอยู่.......ใครวะ
“เอ่อ คุณครับ” ผมส่งเสียงเรียก
“คิม...ฟึ่บ” พูดจบผู้ชายคนนั้นก็วิ่งเข้ามากอดผมทันทีครับ อะไรวะ งง ไม่เข้าใจ เค้าเป็นใคร
“หายหน้าหายตาไปเลย คิดถึงมากนะเนี่ยไม่ติดต่อกันเลย น่าน้อยใจจัง”
“เอ่อ...คุณคือ” ผมทำหน้างงใส่แม่งเลย ก็ไม่รู้จักนี่หว่า แต่จะว่าไปเค้าก็หล่อหน้าตาดีนะเนี่ย นี่แปลว่าสี่ปีที่หายไปผมแม่งดึงดูดมาแต่ตัวผู้สินะเนี่ย
“อะไร จำเต้ไม่ได้หรอ” เมื่อผู้ชายคนนั้นถามผม ก็มีเสียงตอบไปทันที
“จำไม่ได้หรอก”
“อ้าว เฟียร์เป็นยังไงบ้าง คิดไม่ถึงว่าจะเจอที่นี่”
“แหม เราก็มาออกบ่อย...คิมจำเต้ไม่ได้หรอก” แล้วนายเต้นั่นก็ทำหน้างงๆแล้วแสดงออกทางสีหน้าว่าทำไม
“ทำไมล่ะ” นั้นไงว่าแล้วว่าต้องสงสัย
“คือ...เรา”
“ความจำเสื่อม!!!” ไม่ใช่เสียงผมนี่.....