Lesson 71
( Kim Part )
หลังจากที่พี่โชว์พาผมมาที่โรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ดูอาการเรียบร้อยแล้ว สรุปก็คือแค่ขาแพง แต่มีอาการบวมเยอะมากกว่าปกตินิดหน่อยเพราะปล่อยไว้นาน คุณหมอก็จัดยาให้มากิน ส่วนคนที่พามาก็เวอร์ถึงขนาดจะให้ผมนอนโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว
“ให้นอนโรงพยาบาลไปเลยครับ เผื่อมีอะไรฉุกเฉินขึ้นมาจะได้รักษาทันการนะครับ!!!”
“เอ่อ ไม่ต้องหรอกครับคุณ ข้อเท้าแพงแค่เนี่ยพักสักสองสามวันเดี๋ยวก็กลับมาเดินได้ปกติเหมือนเดิมครับ” คุณหมอกล่าว
“แต่กันไว้ดีกว่าไม่ใช่หรอครับหมอ มันอาจจะกระทบกระเทือนเส้นประสาทตรงเท้าก็ได้นี่ครับ” คุณท่านเค้าก็ยังไม่ยอมแพ้ครับ ชักแม่น้ำ 108 สายแล้วนะนั่น
“นี่พี่โชว์...เชื่อหมอสิ หมอเค้าก็คาดเดาอาการได้แล้วถึงบอกให้กลับบ้านได้...อีกอย่างคิมไม่อยากนอนโรงพยาบาลด้วย” ผมหันไปบอกพี่โชว์
“อ่า แน่ใจนะ...ถ้างั้นพี่ไม่บังคับเราหรอก” พูดจบคุณหมอก็ยิ้มอย่างพอใจ
“โอเค ถ้างั้นเดี๋ยวรอรับยา แล้วก็อย่าพึ่งเดินมากในช่วงสองวันนี้นะครับ ทางที่ดีมีอะไรให้ญาติช่วยจะดีกว่านะครับ”
“ครับ คุณหมองั้นขอตัวเลยละกันนะครับ สวัสดีครับ” พวกเราก็ลาคุณหมอแต่พี่โชว์ดันเล่นพิเรนท์อุ้มผมน่ะสิ
“ทำอะไรเนี่ยพี่ อายเค้า!!!” ผมพูดอย่างตกใจเพราะไม่ได้ตั้งตัวเลยรู้สึกเสียศูนย์นิดหน่อย
“อยู่เฉยๆสิ ไม่ได้ฟังที่คุณหมอเค้าบอกหรอ ว่าช่วงนี้ ‘ห้ามเดิน’” พี่โชว์เน้นตรงห้ามเดินเป็นพิเศษแล้วก็ยิ้มอย่างผู้มีชัย ชิ!!! หมันไส้
“คิกๆ” ผมหันไปตามเสียงหัวเราะ ก็ไอ้ตัววางแผนนั่นแหละที่มันยืนแอบหัวเราะอยู่
“ฮึ่มมมมมมมม”
“ฮ๊ะ!!! อะไรหรอ” โอ้ยยยยย ผมอยากกรี๊ดดดด มันทำหน้าตาใสซื่อใส่ผม เหมือนถามว่าอะไรหรอทำนองนั้น
“เปล่า แค่ความหมันไส้มันติดคอน่ะ...พี่โชว์ไปได้แล้ว ลีลาอยู่ได้ เพี๊ยะ!!!” ลงกับคนของเราก็ได้วะ แต่พี่โชว์ก็ไม่ได้ว่าอะไรเดินอุ้มผมออกมารับยา จ่ายเงิน แล้วก็กลับบ้านกันและเมื่อมาถึงบ้าน บรรดาพี่น้องทั้งหลายก็หน้าแสล็นกันเชียว
“ไงพี่ เป็นไงบ้าง” ไอ้บาสถามคนแรก
“เสือก!!!” ผมชิงตอบก่อนเลยครับ
“หูย ไรหว้าทำไมพอดีกับพี่ผมแล้วเหมือนจะร้ายกาจขึ้นเลยอ่ะ” บาสมันบ่นงุ้งงิ้งเลยครับ จริงๆผมก็แค่อารมณ์เสียไอ้คนที่มันยืนอุ้มผมอยู่นี่แหละ เล่ห์เหลี่ยมเยอะนัก
“ก็ถ้าไม่ปรับสภาพตามพี่มึง ใครเค้าจะเอาอยู่วะ”
“พี่วินพูดถูกต้องที่สุด!!!” เฟียร์พูดต่อปนขำๆ
“ปากดี พวกมึงนี่...จะร้ายกาจยังไงก็เป็นแค่ลูกแมวในสายตากูแหละว่ะ” สิ้นเสียงพี่โชว์ผมก็หันไปข่วนหน้ามันเลยครับ
“โอ้ยยยย พี่เจ็บนะ!!!”
“ก็แมวข่วนไงพี่โชว์” ผมแกล้งทำหน้าแบ๊วใส่แล้วแลบลิ้น เรียกเสียงฮาจากคนรอบข้างได้ไม่น้อยเลยครับ
“เดี๋ยวกินข้าวหน่อยนะ แล้วจะได้กินยาเดี๋ยวเราทำให้จะกินอะไร” เฟียร์ถามผม แต่ก็มีคนปกติพูดเสือกขึ้นมาอีกนั่นแหละ
“สุกี้ครับพี่เฟียร์”
“ถามคนป่วย ผีอย่าเสือก” มาแรงแหกโค้งจ้า ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“ข้าวต้มก็พอเฟียร์ Thank you นะ”
“ไม่เป็นไรน่าแต่ตอนนี้มากอดทีก่อน ไม่ได้เจอกันนานมากๆเลย” แล้วเราสองคนก็กอดกันกลมเลยครับ แต่ไม่ใช่เชิงชู้สาวนะ แค่เพื่อนที่เข้าใจกัน เพื่อนที่ดีที่สุด
“ผมว่าพี่ๆ น่าจะพอกันแค่นี้นะครับ เพราะคนแถวนี้ตาเขียวปั๊ดแล้ว”
“เฮ้ยๆ ทางนี้ก็อีกคนว่ะ อันนี้ตาปูดจวนจะหลุดละ ฮ่าๆๆๆ”
“ปากดี พวกมึงตาย!!!!” สองเสียงประสานกันอย่างสามัคคี แล้วจากนั้นบ้านผมก็เหมือนกลายเป็นที่วิ่งเล่นของควายฝูงนึงไปโดยปริยาย จะบอกว่าสนามเด็กเล่นก็ดูจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ เพราะแต่ละคนตัวหยั่งกับเสาไฟฟ้า
ในคืนนั้นเวลาประมาณสองทุ่มก็ได้เวลาเข้านอนของผมแล้วครับ และอย่างที่ทุกคนคงจะรู้ดีว่าพ่ออีกคนนึงของผมบังคับ!!! ทำเหมือนผมเป็นเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลยทั้งอาบน้ำ ป้อนข้าว แล้วจิปาถะอีกมากมาย
“นอนเถอะนะครับ เดี๋ยวพี่นอนด้วย” พี่โชว์บอก
“ไม่เอา คิมยังไม่ง่วงอยากลงไปข้างล่าง” เพราะข้างล่างวันนี้ค่อนข้างครึกครื้นครับ ผู้หญิงไปนอนบ้านไอ้บาส ส่วนผู้ชายทั้งหมดมานอนบ้านผม ก็แบ่งกันลงตัวพอดีครับ
“จะลงไปทำไม ข้างล่างมันกินเหล้า เล่นไพ่กัน คนป่วยขึ้นมานอนเนี่ยดีแล้ว”
“แต่คิมอยากคุยกับเฟียร์นี่” ผมพยายามหาข้ออ้างเพื่อจะลงไปข้างล่างให้ได้”
“งั้นเดี๋ยวพี่ลงไปตามคิมขึ้นมาให้” พูดจบพี่โชว์ก็ผละออกจากตัวผมไปเลย โดยไม่ฟังคำโต้แย้งของผมเลยสักนิด
“เอาวะ เป็นไงเป็นกัน” ผมเดินลงจากเตียงเลยครับ รู้สึกแปล๊บนิดๆแต่พอเดินไหวอยู่ จนกระทั่งผมเดินลงมาถึงบันไดผมก็ค่อยๆลงแต่แล้วผมก็พลาด
“ตึก...ตึก....ตึก...ซี๊ดดดดด” ผมตกบันไดครับ แต่ที่เจ็บใจคือลงจะถึงแล้วเสือกมาตกเนี่ยสิ
“คิม!!!!” เสียงพี่โชว์วิ่งนำมาเลยครับ พร้อมกับเสียงของคนอื่นที่วิ่งตามกันมา
“พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าจะตามเฟียร์ขึ้นไปให้ทำไมไม่ฟังที่พี่พูด!!!!!!!!” พี่โชว์พูดตะคอกเสียงจนน่ากลัว เค้าคงโมโหจริงๆ
“ฮึก ฮึก...แล้วทำไมพี่ไม่ฟังคิมบ้าง...อึก...ก็คิมอยากลงมานั่งด้วยนิ พี่เอาแต่สั่งให้ทำนั่นทำนี่ ไม่ถามคิมสักคำเลย...ฮึก...ฮึก”
“คิม” พี่โชว์ยื่นมือจะมาจับตัวผม
“ไม่เอาอย่ามาจับ ไม่ต้องมายุ่งเลยจะไปไหนก็ไป ชอบบังคับคิมไม่ใช่หุ่นเชิ่ดนะ” ผมฟูมฟายเป็นเรื่องเป็นราวเลยครับ ไม่รู้แหละเราต้องไม่ผิด อิอิ
“โอเคๆ พี่ไม่บังคับแล้ว แต่อยากทำอะไรต้องบอกพี่ก่อน โอ๋ๆ มาๆอย่าร้องนะครับคนเก่ง” สำเร็จแผนน้ำตาพิฆาตบรรลุไปได้ด้วยดี
“ฮึก...อือ...งั้นพาไปข้างบนหน่อย” ไม่ต้องพูดซ้ำสองตัวผมก็ลอยหวือเลยครับ
“เฟียร์ พี่รบกวนเราหน่อยนะ”
“ไม่มีปัญหาพี่โชว์…กินเสร็จก็ตามขึ้นมานะพี่วิน” เฟียร์หันไปสั่งวามกับสามีไว้
“ครับผม” พูดจบเราสามคนก็ขึ้นมาที่ห้องนอนผม
“พี่โชว์...ผมกวนพี่ลงไปดูพี่วินให้ผมหน่อยสิ” เฟียร์บอกพี่โชว์ ตอนแรกพี่เค้าก็อีดออดแต่พอผมบอกเค้าก็โอเคแล้วลงไปข้างล่างทันที
“แหม ร้ายนะเดี๋ยวนี่มีบีบน้ำตาด้วย ออฟชั่นเสริมหรือไง” เฟียร์พูดขำๆ
“ชิ อย่ามาว่าคนอื่น ตัวเองน่ะใช่ย่อย คริคริ” สรุปคืนนั้นผมกับเฟียร์ก็นอนคุยกันทั้งคืนเฟียร์ก็เล่าเรื่องตั้งแต่ที่ผมกับพี่โชว์ห่างกันจนบางช่วงผมรู้สึกสงสารและรู้สึกผิดเลยอ่ะทั้งๆที่มันไม่ใช่ความผิดผมสักหน่อย T_T ส่วนไอ้พี่โชว์ก็เมาไปตามระเบียบครับ ผมคิดไว้ไม่ผิดเลยจริงๆ เฮ้อ~
ปล. แอบมาอัพเงียบๆ