......
.....
....
...
..
.
“เฮ้อ.............” ผมทุ่มก้นลงนั่งบนโซฟานุ่มนิ่มแบบหมดเรี่ยวแรง หลังจากเดินทั่วบ้านแล้ว และค้นมันทุกซอกทุกมุมก็แล้ว ผมก็ไม่พบของอะไรที่กินได้เลยสักอย่างเดียว
“ฮึ๊ยยยยย------------” ผมนั่งขยุ้มหัวตัวเอง สักพักก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วลุกขึ้นยืน เตรียมตัวออกไปกดกริ่งเพื่อนบ้าน เพื่อขอซื้อมาม่าต่อจากเค้าสักห่อ
......
.....
....
...
..
.
ปึ๊ก-----ผมปิดประตูไม้ของในบ้าน แล้วเดินเหมือนตัวลอยออกที่หน้าประตูรั้ว
......
.....
....
...
..
.
แคร๊ง-------- เปิดประตูรั้วเสร็จ ผมก้ก้าวเท้าไปยืนจังก้าอยู่หน้าประตูรั้วบ้านตัวเอง
ผมกำลังชั่งใจอยู่ว่าจะไปรบกวนบ้านไหนดีหนอ....ระหว่างบ้านซ้ายกับบ้านขวา
--------- โมกข์บ้านเรามันโดนฝนแล้วใบงามแท้วะ ขึ้นเป็นตั๊บเลย ...... แล้วนี่ถ้าน้ำท่วมจะดีไงกับมันดีว๊า
ผมจับใบของต้นโมกข์ที่พ่อของผมเอาใส่กระถางใบย่อมๆ มาวางเรียงเป็นกำแพงชั้นแรกของรั้วบ้านตัวเองพลางคิดหาวิธีจัดเก็บต้นโมกข์ 25 กระถาง.....หนีน้ำ
ตอนมันมาแรกๆ ต้นมันโกร๋นๆ ไม่ค่อยมีกิ่งก้านและใบเท่าไหร่ แต่พ่อก็โทรมาสั่งให้ตัดเล็มใบเป็นช่วงๆ แล้วก็ใส่ปุ๋ยตอนนั้นตอนนี้ .....สี่ปีผ่านไป มันก็แผ่นกิ่งใบดกจนสูงท่วมหัวของผมไปแล้ว....มันพลางรั้วบ้านผมได้มิด และกันแสงแดดส่องไปถึงในบ้านผมได้
เนื่องจากบ้านผมไม่มีรถยนต์ และหากมีก็สามารถจอดไว้หน้าบ้านได้โดยไม่ต้องถอยมาเก็บไว้ในตัวบ้านตัวเอง พ่อจึงเรียงมันชิดรั้วบ้านผมโดยแบ่งเป็นสองตอน เว้นช่องหนึ่งไว้ให้เป็นทางเข้าออก
กระถาง 10 กระถาง ถูกเรียงเป็นแถวยาวและวางซ้อนกันโดยจัดครึ่งหนึ่งวางไว้นอกรั้วและอักครึ่งวางไว้ในรั้ว ส่วนอีก 4 กระถางพ่อก็เรียงไว้อีกช่วงหนึ่งทีเป็นมุมเล็กของอีกฝั่งของรั้วบ้าน ที่เหลืออีก 11 ต้นพ่อวางเรียงมันในบริเวณบ้านชิดกับกำแพงด้านหนึ่งของบ้าน ตรงนั้นแหละที่แม่เอาเก้าอี้ไม้ยาวมาวางเป็นที่ให้นั่งเล่น....พอตัดเล็มมันให้ได้ระดับเท่ากัน มันจึงดูคล้ายว่าผมมีรั้วบ้านเป็นต้นโมกข์....ก็สวยดีนะ แต่กว่าจะสวยได้ขนาดนี้ก็ต้องใช้เวลาตั้งสี่ปีแน่ะ
ผมก้าวเท้าออกมาจากรั้วของต้นโมกข์ที่สูงเลยหัวผม ออกมายืนอยู่นอกบริเวณหลังคาบ้าน พร้อมกับตัดสินใจว่าจะแบกหน้าไปรบกวนคุณลุงที่อยู่บ้านข้างๆ ไปทางซ้ายมือของบ้านตัวเอง
ขณะที่ผมหันตัวไปทางบ้านข้างๆ หางตาของผมก็เห็นเงาตะคุ่มหนึ่ง
ผมหันหน้าควับไปมองยังกำแพงบ้านของบ้านหนึ่งที่อยู่ตรงมุมซอยซึ่งไม่ไกลจากบ้านของผมนัก.....คนคนหนึ่งยืนนั่งพิงเบาะมอไซด์อยู่ตรงกำแพงบ้านหลังนั้น เพราะเสาไฟฟ้าของช่วงนั้นไม่ได้เสียเหมือนบ้านผม ผมถึงเห็นว่าคนคนนั้นหันหน้ามามองผมอยู่
มอง...จ้อง...และไม่หันหน้าหนีผมด้วย
......
.....
....
...
..
.
ผมยืนนิ่งตาเขม็งมองคนคนนั้น....เพราะสะดุดใจในสีผิวที่ขาวจั๊วะของใบหน้าอีกฝ่าย
......
.....
....
...
..
.