สุขสันต์วันปีใหม่ไทยครับ ทุกคน
============================
เมที เหงื่อตกเมื่อได้รับแจ้งจากประชาสัมพันธ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น หนุ่มใหญ่ถึงกับทรุดจนต้องให้คนเข้ามาปฐมพยาบาล นี่ยังไงที่เขานึกสงสัยว่าทำไมท้องฟ้ามันถึงดูแปลกๆ มันเป็นสัญญานของความหายนะที่กำลังจะมาเยือนบริษัทเขานี่เอง
ธีระถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เขายังไม่ตาย แต่ก็เกินที่ทีมแพทย์จะเยียวยาให้หายเป็นปกติเนื่องจากสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ชายหนุ่มกลายเป็นบุคคลที่พิการทางสมองอย่างเลี่ยงไม่ได้
พีรพลรู้เรื่องถึงกับน้ำตาซึม นึกเสียดายมันสมองระดับธีระที่ต้องมาเสียไปเพราะความคลุ่มคลั่งแท้ๆ ส่วนภาคิน เมื่อโดนเค้นมากๆจึงยอมเปิดปากพูดเรื่องราวทุกอย่างที่เป็นแผนการของบาสในการจัดการจัสตินหลังจากที่จัสตินจับได้ว่าเขาเป็นคู่ขาของบาส
เขาบอกว่าพอจัสตินเลิกติดต่อบาส ก็ได้สร้างความแค้นใจให้บาสอย่างมากมายและเขาก็เป็นที่บาสชอบมาระบายเรื่องราวทุกอย่างให้ฟัง รวมทั้งแผนการที่บาสใช้จัดการเอมีน มันไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ บาสเกลียดเอมีนเป็นการส่วนตัว ที่จัสตินหันไปสนใจเอมีนแทนตน เมที ธีระ และฟิลิปก็เป็นแค่เครื่องมือที่บาสใช้จัดการมารหัวใจเท่านั้น
สื่อทุกฉบับพร้อมใจกันลงข่าวนี้กันแทบจะเรียกว่า ณ ตอนนี้ไม่มีกระแสเรื่องใดที่จะเป็นที่สนใจไปมากกว่าเรื่องราวแผนการสกัดดาวรุ่งอย่างจัสตินของทางค่ายเมทีที่ใช้คนเคยใกล้ชิดอย่างบาสดำเนินการให้ เอมีนเองก็ได้รับความสนใจจากสื่อไม่น้อยในฐานะที่เขาเป็นตัวจุดชนวนให้เรื่องราวทุกอย่างที่คลุมเครือถูกเปิดโปงออกมา จัสตินกลับมาโปร่งใสอีกครั้ง ในขณะที่ฟิลิปถูกต่อต้านต่อสังคม เพราะเจ้าตัวถูกหาว่าดังขึ้นมาด้วย แผนสกปรกของต้นสังกัดจนเจ้าของต้นสังกัดอย่างเมทีไม่สามารถที่จะมองหน้าคนในวงการได้
พีรพลคอยให้กำลังใจหนุ่มใหญ่ และเสนอความคิดว่าถ้าจะกู้ชื่อเสียงบริษัทกลับคืนมา เมทีควรจะยอมรับและให้โอกาสเอมีนพิสูจน์ตัวเองในเส้นทางสายนี้ มันเป็นข้อเสนอที่เมทีไม่อาจที่จะปฎิเสธได้ แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเมื่อเอมีนเริ่มเหนื่อยและอยากถอนตัวออกจากความฝันครั้งนี้
ถึงแม้พีรพลจะเกลี้ยกล่อมยังไงเอมีนก็ไม่อยากที่จะทำเพลงต่อ และถ้าเขาจะทำเขาก็คงเลือกที่จะไปอยู่กับจัสตินในเมื่อฝ่ายนั้นก็ส่งตัวแทนมาเจรจากับเขาเหมือนกัน ร้อนถึงเมทีที่ต้องลงทุนมาเจรจากับเอมีนด้วยตัวเอง เพราะตอนนี้เอมีนกำลังถูกจับตามองอย่างมากจากสื่อหลังจากที่ทุกคนได้รับรู้เรื่องราวการตามหาความฝันครั้งนี้ของเขาว่ามันแลกมาด้วยอุปสรรคอะไรบ้าง สิ่งที่ทุกคนลุ้นกันตอนนี้ก็คือจะได้เห็นผลงานของเขาจากฝั่งไหนกันแน่ ระหว่างต้นสังกัดของ จัสติน หรือต้นสังกัดของ ฟิลิป
“ที่ผ่านมาฉันขอโทษ เธอจะโกรธฉันก็ได้ ฉันยอมรับผิด” เมทีบอกเสียงเบา ไม่คิดว่าตัวเองจะได้มากล่าวขอโทษเด็กในสังกัด เอมีนถอนหายใจบอกนิ่งๆ
“ถ้าเกิดว่าผมยังเป็นคนที่ไม่มีใครสนใจ คุณเมทียังคิดที่จะให้ผมอยู่ในชายคาตึกนี้อยู่หรือเปล่า”
“เธออย่ารื้อฟื้นเรื่องราวให้ฉันโกรธตัวเองได้มั๊ยเอมีน แค่นี้สังคมก็ลงโทษจนฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว”
“แล้วคุณเมทีมั่นใจเหรอว่าถึงแม้ผมจะมีผลงานออกไปแล้วสังคมจะหันมาต้อนรับบริษัทคุณอีกครั้ง”
“ไม่ลองก็คงจะไม่รู้”
“แต่ผมไม่ขอลอง ขอโทษนะที่ต้องพูดแบบนี้ เพราะตอนนี้ก็มีคนสนใจที่จะเอาผมไปร่วมงานแล้วเหมือนกัน” เอมีนเห็นสีหน้าเมทีเปลี่ยนไปเล็กน้อย อันที่จริงเขาไม่คิดที่จะทิ้งที่นี่ไปตั้งแต่ที่พีรพลบอกว่าเมทีจะมาคุยกับเขาเองแล้วล่ะเพียงแต่ เมทีน่าจะได้สำนึกในสิ่งที่เคยทำกับเขาไว้บ้าง
“เธอไม่เห็นใจพีรพลเหรอ เขาอุตส่าห์ห์คิดที่จะปั้นเธอนะ”
“ไปปั้นต่อที่อื่นก็ได้นิ”
“นี่เธอหมายความว่าจะให้พีรพลลาออกด้วยงั้นเหรอ”
“ถ้ามันจำเป็น”
“ไม่ได้เด็ดขาดฉันไม่ยอม”
“ทำไมเหรอ เพราะสมองคุณธีระใช้งานไม่ได้แล้วหรือเปล่า”
“มันไม่เกี่ยว ฉันไม่เคยคิดว่า ฝีมือพีรพลด้อยไปกว่าธีระ”
“คุณเคยบอกเจ้าตัวเขามั๊ย”
“พีรพลเขารับรู้ได้เองโดยไม่จำเป็นต้องบอก และฉันขอยืนยันว่าพีรพลจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น รวมทั้งเธอด้วย อย่าลืมว่าสัญญาหนึ่งปี ของเธอที่มีกับบริษัทมันยังไม่หมดถ้าเธอไปร่วมงานกับที่อื่นฉันฟ้องเธอแน่” เมทีแสดงตัวออกมาว่าหวงเอมีนได้อย่างไม่มีฟอร์มจนต้องเอาข้อกฎหมายมาอ้าง เอมีนเห็นแล้วก็เลิกที่จะลองใจจึงเอ่ยออกมาทำให้คนฟังแววตาเป็นประกายขึ้นทันที
“แล้วสัญญาที่มีระยะเวลาห้าปีอยู่ที่ไหนล่ะผมจะเซ็นต์ให้”
“นี่เธอพูดจริงๆนะเอมีน”
“ที่ผ่านมาคุณเมทีก็น่าจะรู้ว่าผมพูดจริงทำจริงไม่ใช่แค่ขู่” เอมีนแอบกัดเล็กๆ เมทีหน้าชาวูบแต่ก็รู้สึกดีใจที่เอมีนยอมตกลงที่จะเป็นเด็กในสังกัดเขาต่อ
หลังจากที่ออกจากห้องของคนที่ตัวเองยอมรับว่าเป็นเจ้านายแล้ว เอมีนจึงคิดที่จะไปหาคนที่เขายอมรับให้เป็นเจ้าของหัวใจ แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นฟิลิปนั่งเงียบอยู่คนเดียว ถ้าจะสานความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนมันก็คงจะดีกว่าเกลียดกันไปจนตาย
“ฟิลิป” เด็กหนุ่มเดินเข้าไปทัก เห็นแววตาเศร้าหมองของคนที่หันมามองแล้วก็อดที่จะเห็นใจไม่ได้
“ไม่เป็นไรนะ” เด็กหนุ่มเอ่ยยิ้มๆให้อีก มันเป็นรอยยิ้มแรกที่ฟิลิปสัมผัสได้ถึงความจริงใจ
“เอมีน เราขอโทษ” ฟิลิปเอ่ยขึ้นมาในที่สุด ยิ่งเห็นเอมีนยิ้มรับเขาก็ยิ่งสมเพชตัวเองที่เคยมีอคติกับคนอย่างเอมีน
“ไม่มีอะไรแล้วทุกอย่างมันจบแล้วนายอย่าคิดมากดิ เรายังเป็นเพื่อนกันได้นะ”
“ขอบใจนะที่ยังคิดที่จะคบกับคนอย่างเรา”
“ก็ไม่เห็นแปลกเลยอยู่สังกัดเดียวกัน ถ้าไม่คบกันแล้วจะให้ไปคบใครที่ไหน”
“แสดงว่านายจะไม่ไปจากที่นี่”
“อืม คงไม่ไป สงสารคุณเมทีน่ะ นายเองก็เถอะเข้มแข็งเข้าไว้ ทำให้ตัวเองกลับมาดังให้ได้ด้วยฝีมือคุณเมทีจะได้ภูมิใจไง”
“แล้วนายล่ะ”
“มันเรื่องของอนาคต “
“แต่เราเชื่อว่านายทำได้”
“ก็คงต้องรอดู”
“เราจะเป็นกำลังใจให้นะแม้มันจะเป็นในฐานะเพื่อนก็ตาม” เอมีนเห็นแววเศร้าของฟิลิปแล้วก็ถอนหายใจ เด็กหนุ่มรับรู้แล้วล่ะว่าฟิลิปคิดยังไงกับตนแต่มันคงเป็นไปไม่ได้ การที่จะให้เปลี่ยนผู้ชายคนนึงมาเป็นเกย์นี่ มันไม่ใช่เรื่องดีเลยซักนิด
“ฟิลิป ฟังนะ เราเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้น คิดอะไรอยู่เลิกคิดซะ เดินหน้าไปตามวิถีชีวิตตัวเอง ที่ผ่านมานายอาจแค่รู้สึกผิดจำไว้ ส่วนเราก็คงต้องไปตามเส้นทางของเรา”
“กับจัสตินใช่มั๊ย” ฟิลิปต่อให้ เอมีนพยักหน้ารับช้าๆ
“ไม่เป็นไรเราเข้าใจ เขามาก่อนและก็เป็นคนที่ห่วงใยนายมาตลอด นายคิดไม่ผิดหรอก” ฟิลิปฝืนยิ้มบอกทั้งๆที่ใจก็เจ็บนิดๆ เขาไม่ได้แค่รู้สึกผิด เขารักเอมีนจริงๆ…แต่ในเมื่อเจ้าตัวบอกเป็นได้แค่เพื่อนเขาก็จะยอมรับมันแค่นั้น เอมีนควรที่จะไปหาคนของเขาเสียที นั่นก็คือจัสติน
“เราไม่เข้าใจน่ะเอมีน ที่นั่นทำกับนายขนาดนั้นทำไมถึงต้องอยากที่จะอยู่ต่อด้วย” คนของเอมีนโวยลั่นทันทีที่รู้ว่าเอมีนตกลงเซ็นต์สัญญาอยู่ต่อในสังกัดเดียวกับฟิลิป จริงๆเขารู้สึกหึงหวงมากกว่า เรื่องร้ายๆเขาก็แค่ยกมาเป็นเหตุผลบังหน้าเท่านั้น
“ก็คุณเมทีเขากำลังแย่นะ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกะนาย เมื่อก่อนนายก็บอกเองนิว่าเขาไม่เคยสนในนาย”
“ก็พี่พลยังห่วงเขาอยู่แล้ว นายก็รู้ว่าเรากับพี่พลยังไงก้ทิ้งกันไปไม่ได้อยู่แล้ว”
“อยู่เพราะพี่พลแน่นะ”
“สงสัยอะไรที่ไม่เข้าท่าอีกอ่ะดิ”
“ก็มันน่ามั๊ยล่ะ ขนาดอยู่ในโรงพักยังกอดกันกลม”
“อย่ามาคิดทะลึ่งนะจัสติน แล้วอีกอย่างเราจะกอดใครมันก็ไม่เกี่ยวกะนาย”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ก็ลองกอดให้เห็นอีกครั้งดิมีเรื่องแน่”
“อย่ามาทำเป็นอันพาล นายจะไปทำอะไร ฟิลิปเขาก็แค่เพื่อนร่วมค่ายกับเรา”
“แน่นะ”
“ก็แน่สิจะโกหกทำไม หรือถ้าเขาเป็นมากกว่านั้นนายจะทำอะไรเขา”
“ใครบอกว่าเราจะไปทำฟิลิป”
“หมายความว่าไง” พูดยังไม่ทันขาดคำ ร่างของเอมีนก็ปลิวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดจัสตินจนเจ้าตัวตกใจ
“อยากรู้เหรอ” จัสตินก้มหน้าลงมาพูดใกล้ๆ จนเอมีนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่รดลงบนใบหน้าเขา
“อย่าเล่นบ้าๆนะจัสตินเรามีกล้องซ่อนอยู่ในห้องนะ พร้อมจะแบล็คเมล์นายเมื่อไหร่ก็ได้” เอมีนพูดติดตลกแก้อาการประหลาดๆของตัวเอง ยิ่งจัสตินโน้มตัวลงมาใกล้เขาก็ยิ่งใจสั่น
“กลัวตายล่ะ” จัสตินยิ้มให้ตรงมุมปาก คนในอ้อมกอดตอนนี้ทำให้เขาละทิ้งกฎของตัวเอง ……..ความรักไม่ควรที่เกี่ยวกับเรื่อง SEX…………. คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกหากว่าเขาอยากที่จะผูกพันกับคนตรงหน้าเอาไว้ก่อน ก่อนที่เรื่องราวต่างๆที่ไม่อาจคาดถึงจะก้าวเข้ามาเยือน
เอมีนสะดุ้งใจสั่นเทิ้มเมื่อจัสตินก้มลงประกบจูบอย่างดูดดื่มและแนบแน่นจ นรู้สึกถึงรสหวานจากปลายลิ้นที่สัมผัสได้ ก่อนที่คนจูบจะถอนปากออกมาพูดกับเขา
“ทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ รับรู้เอาไว้นะเอมีนว่าเราทำด้วยใจ และเราก็อยากที่จะให้นายรับรู้มันด้วยใจเหมือนกัน” จัสตินมองสบตาคนฟังที่ตามเขาไม่ทัน เด็กหนุ่มยิ้มให้บางๆก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปที่ใบหูกระซิบแผ่วเบา
“เรารักนายนะเอมีน” เอมีนหลับตาเคลิ้มเมื่อลมหายใจอุ่นๆของเอมีนเป่ารดลงที่ใบหู ก่อนที่ร่างเขาจะถูกคนเป่าตวัดเขามากอดอย่างแนบแน่นและพาลงไปนอนลงบนที่นอนที่เคยนอนหันหลังให้กัน แต่ครั้งนี้จัสตินจะไม่ยอมให้มันเป็นอย่างนั้น เด็กหนุ่มก้มลงจัดการกับคนที่นอนตรงหน้าด้วยอารมณ์ปราถนาที่จะผูกพันให้ามากกว่าคำว่าเพื่อน แล้วทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างที่มันควรจะเป็น
เมที พาค่ายเพลงผงาดขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ เอมีน พลิกสถิติ ยอดขายสูงสุด ของนักร้องหน้าใหม่ได้สำเร็จ หนังสือพิมพ์ ถูกเหวี่ยงลง ตรงกลางโต๊ะทุกคนเงียบเมื่อคนที่นั่งหัวโต๊ะลุกขึ้นยืนมอง ไล่กวาดสายตาไปยังทีมโปรดิวเซอร์ที่นั่งเรียงรายอยู่ต่อหน้าเขา ก่อนจะไปหยุดอยู่ คนๆหนึ่งแล้วเอ่ย
“พีรพล คุณไม่ทำให้ผมผิดหวังเลยจริงๆ”
จบบริบูรณ์================================
จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับเรื่องนี้
ขอบคุณ บอยที่อนุญาตเอาเรื่องนี้มาลงในเล้าให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะครับ
ขอบคุณ คนอ่านที่คนทั้งที่โพสและซุ่มอ่าน ที่ตามเรื่องราวมาจนจบ
ขอบคุณ เล้าเป็ด ที่วิ่งเล่นที่แสนดี
ขอบคุณครับ ขอบคุณมากมาย