พิมพ์หน้านี้ - [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 28-01-2008 22:22:54

หัวข้อ: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 28-01-2008 22:22:54
พอดีขออนุญาตบอยลงเรื่องนี้ได้เป็นที่เรียบร้อยครับ แฮะ แฮะ

ขอลงต้อนรับเรื่องใหม่ของนักเขียนในดวงใจ ที่กำลังจะเอาเรื่องใหม่มาลงซะหน่อย
อยากอ่าน Loving Course เร็วๆจังเลย  :m13: แอบกดดันนิ๊ดนึงนะครับ บอย  :m29:

เรื่องนี้อยู่ในรวมเล่มของ BBoyseries เล่มหนึ่ง ครับ
ใครสนใจไปซื้อรวมเล่มเลยนะครับ

คำเตือน : นิยายของบอยทุกเรื่องได้จำการจดลิขสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ห้ามผู้ใดกระทำการลอกเลียนแบบหรือว่าดัดแปลงใดๆทั้งสิ้น มิฉะนั้นจะต้องถูกดำเนินคดีตามทางกฎหมาย จึงเรียนมาเพื่อทราบกันโดยถ้วนหน้า

ขอความกรุณาให้เกียรติกับผู้แต่งด้วย ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

==================================

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

===================================

- 1 -

JUSTIN..ซุปเปอร์สตาร์หน้าใหม่ทำวงการเพลงสะเทือน….

ประโยคสั้นๆที่โปรยพาดหัวหนังสือพิมพ์บันเทิงรายสัปดาห์ฉบับหนึ่งที่วางแผ่หราอยู่ตรงกลางโต๊ะในที่ประชุมดึงให้ทุกสายตาจับจ้องอยู่ที่มันด้วยสีหน้าครุ่นคิด

“เราประมาทไม่ได้แล้วนะเด็กคนนี้มีดีกว่าที่เราคิด”

หนุ่มใหญ่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หัวโต๊ะและเป็นคนเรียกประชุมในครั้งนี้เอ่ยขึ้นทำให้ทุกสายตาหันมองไปที่เขา

“แรกๆที่เห็นเด็กคนนี้ที่ทางค่ายเขายิงทีเซอร์ออกมา ไม่น่าเชื่อว่าเด็กคนนี้จะดังได้เร็วขนาดนี้ สถานการณ์ค่ายเราตอนนี้กำลังตกเป็นรองค่ายคู่แข่งในสายตาของสื่อนะ ผมก็อยากจะถามทุกคนว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราเคยเป็นที่หนึ่งมาโดยตลอด ทำไมพักหลังนี้นักร้องที่พวกคุณผลิตงานเพลงให้ถึงได้แป้กไม่เป็นท่าทั้ งหน้าเก่าหน้าใหม่ ตอนนี้เราไม่มีมีนักร้องเบอร์เจ๋งๆที่จะออกมาต้านกระแสของนายจัสตินได้เลยนะ หรือทุกคนว่าไง เด็กๆที่พวกคุณกำลังดูแลอยู่ ใครบ้างที่พอจะมีแววเรียกความนิยมของคนฟังให้กลับมาหาเราได้”

เงียบ…ไม่มีคำตอบใดๆหลุดออกจากปากทีม producerที่นั่งเรียงรายอยู่ต่อหน้าเมที จนเขาต้องผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะหันหน้าไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา และกำลังมองสบตาเขาอยู่พอดี

เสมือนรู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ ผู้บริหารค่ายเทปหนุ่มใหญ่อย่างเมทีจะต้องขอความเห็นจากเขาอย่างแน่นอน ด้วยเครดิตที่นักร้องที่อยู่ในความดูแลของเขา ล้วนแต่สร้างยอดขายเกินเป้าให้กับบริษัทแทบทั้งสิ้น

“ธีระ ตอนนี้งานใหม่ของคุณเป็นไงบ้าง”

“คุณเมทีหมายถึงอัลบั้มของฟิลิปเหรอ”

ธีระเอ่ยถึงฟิลิปนักร้องหน้าใหม่ที่ได้จากการประกวดที่ทางค่ายจัดขึ้นและตอนนี้กำลังอยู่ในความดูแลของเขากับการออกอัลบั้มแรก

“ใช่เด็กคนนี้คุณคิดว่าพอจะมีแววไปได้แค่ไหน”

“อืมตอนนี้อลบั้มก็เสร็จไปกว่า 80% แล้วล่ะ ส่วนจะไปได้ไกลแค่ใหน อันนี้ผมก็ว่าน่าลุ้นนะ เพราะฟิลิปเขาก็มีความเป็นศิลปินที่โดดเด่นอยู่แล้ว คุณเมทีก็คงจะเห็นในวันประกวดอ่ะนะ”

เมทีพยักหน้าคล้อยตามคำบอกเล่าของธีระ producer มือหนึ่งของค่าย และก็ได้แต่หวังว่า ฟิลิปนักร้องชายวัยรุ่นคนใหม่ที่อยู่ในทีมผลิตของธีระ จะช่วยกู้วิกฤตขาลงของค่ายเพลงที่เคยเป็นอันดับหนึ่งในตลาดเพลงวัยรุ่นให้กลับมาผงาดได้อีกครั้ง หลังจากที่ค่ายคู่แข่งได้เปิดตัว 'จัสติน' นักร้องหนุ่มวัย20ลูกครึ่งไทย อังกฤษกับรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นผสมกับแนวเพลง pop dance ที่กำลังครองความนิยมในตลาดเพลงวัยรุ่นเพียงคนเดียวในขณะนี้

“ผมอยากให้คุณเร่งทำเพลงหน่อยนะ ธีระ เรายังมีโอกาสที่จะต้านกระแสของคู่แข่งได้ ก่อนที่จัสตินจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ เพราะถึงตอนนั้นคงยากที่เราจะดึงตลาดกลับมา”

“คุณเมทีคงไม่ได้หมายความว่า จะให้ฟิลิปเป็นคู่แข่งของจัสตินนะ”

“แล้วมันจะผิดอะไรล่ะ ธีระ เพราะเท่าที่ผมดูแผนงานของแต่ละท่าน ผมว่าฟิลิปน่าจะต้านกระแสของฝั่งโน้นเขาได้หรือทุกคนว่าไง”

ธีระหันไปสบตาเพื่อนร่วมงานที่นั่งเงียบ ไม่มีคำคัดค้านใดๆ

“อีกอย่างผมเชื่อในฝีมือคุณนะธีระ”

“แต่กำหนดออกอัลบั้มของฟิลิปคือกลางปีหน้านะ ส่วนจัสติน ตอนนี้ก็มีข่าววงในออกมาแล้วว่าปลายปีนี้เขาจะมีคอนเสิร์ตใหญ่อย่างแน่นอน ผมคิดว่าคุณเมทีน่าที่จะลองมองนักร้องคนอื่นๆ ที่กำลังจะออกช่วงนี้ดูก่อนมั๊ย”

“แต่คุณสมบัติของฟิลิปดูจะสมน้ำสมเนื้อ ที่พอจะเป็นคู่แข่งของจัสตินได้ไม่ยาก ผมว่าผมมองคนไม่ผิดและผมก็ขอย้ำว่าผมเชื่อในฝีมือคุณธีระ”

“เมื่อคุณเมทีไว้ใจผมผมก็เต็มที่อยู่แล้ว”

“แต่ความจริงนักร้องเบอร์เก่าๆของเรา ที่พอจะขายได้ก็มีนะ ผมว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายหรือเปล่า ทีจะทำงานลวกๆออกมาไม่โดนก็แป้กเอาง่ายๆนะ เผลอๆอาจจะโดนด่าเอานะ เพียงเพราะอยากที่จะต้านกระแสเพียงอย่างเดียวแต่ไม่ดูคุณภาพของงาน”

พีรพลที่นั่งฟังการสนทนาอยู่นาน เสนอความคิดขึ้นมาค้าน เพราะเขาคิดว่ามันเสี่ยงเกินไปที่จะเอานักร้องใหม่ที่ชั่วโมงบินยังไม่มีออกมา ในขณะที่กระแสตอบรับของจัสตินกำลังเป็นที่กล่าวถึงในวงกว้างว่า จะกำลังจะขึ้นแท่นเป็นซุปเปอร์สตาร์คนต่อไปของวงการเพลง

“แล้วใครล่ะ คุณพีรพล ลองเสนอผมมาดูสิ ขนาดเรย์นักร้องเบอร์ขายของคุณ และเป็นความหวังของค่ายยังวืดไม่เป็นท่า เพียงแค่อัลบั้มของจัสตินเปิดตัวได้ไม่ถึงเดือน จนต้องพับงานคอนเสิร์ต”  

พีรพลเงียบไม่มีคำตอบรู้สึกน้อยใจขึ้นมา เมื่อโดนผู้บริหารมองว่า เรย์ ศิลปินเบอร์หนึ่งของค่ายที่อยู่ในทีมผลิตของเขามาหลายปีก่อนที่ธีระจะก้าวเข้ามา ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรกับงานใหม่ชุดล่าสุด

“ผมว่าเราควรจะมีกิจกรรมร่วมกับอัลบั้มของฟิลิปนะ”

ธีระเสนอความคิดออกมาอีกครั้ง ซึ่งข้อเสนอของเขาก็ทำให้ผู้บริหารอย่างเมทีเห็นด้วยได้ไม่ยาก

“อืม..ผมว่าก็ดีนะ ลำพังแค่งานเพลงอย่างเดียวก็คงจะไม่พอหรอก แล้วคุณคิดว่าควรจะเป็นกิจกรรมอะไรดีล่ะธีระ”

“ฟิลิปเกิดมาจากการประกวด กิจกรรมของเขาก็น่าจะเป็นการประกวดนะ มันอาจจะช่วยให้คนสนใจงานของเขามากขึ้นด้วย”

“คุณนี่สมเป็นโปรดิวเซอร์คนเก่งจริงๆนะ ธีระ”  

พีรพลเอ่ยชมในใจ ก็คิดว่าเขาคงหมดความสามารถลงไปเยอะในสายตาของเมที

“มันก็เหมือนเป็นแผนสำรองไง คุณพีรพล เพราะถ้าฟิลิปทำไม่ได้อย่างที่เราหวังกัน ก็จะได้มีตัวตายตัวแทนได้ทัน”

“คุณนี่รอบคอบจริงๆ ธีระ ยังไงผมอาจจะต้องคุยเรื่องนี้กับทีมการตลาดอีกที แต่ตอนนี้ผมอย่างให้คุณเคี่ยวฟิลิปให้แน่น ความหวังอยู่ที่เด็กของคุณ แล้วผมอยากให้ฟิลิปเปิดตัวก่อนงานแถลงข่าวคอนเสิร์ตใหญ่ของจัสติน”  

ธีระมองสบตาผู้บริหารอย่างมุ่งมั่น งานนี้ของเขาน่าจะเป็นงานที่ท้าทายที่สุดเท่าที่เคยทำเพลงมา และเขาก็มั่นใจในศักยภาพของ ฟิลิป เด็กหนุ่มที่เขาเทคะแนนให้อย่างไร้คู่แข่งในการประกวดค้นหาดาวดวงใหม่
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 28-01-2008 22:33:22
ต่อกันเลยแบบกำลังฟิต  :a2:

======================
JUSTIN อัลบั้มที่ร้อนแรงที่สุดที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นอันดับหนึ่งของวันนี้

เอมีนส่งเงินค่าหนังสือพิมพ์ให้คนขาย เพียงเพราะประโยคพาดหัวตัวใหญ่เกี่ยวกับจัสติน เด็กหนุ่มเดินหาที่หลบมุมอ่านรายละเอียดด้านในทันที ก่อนจะวางหนังสือพิมพ์แล้วถอนหายใจให้กับตัวเอง

“เมื่อใหร่มึงจะมีโอกาสแบบนี้บ้างวะไอ้เอเอ้ย”

เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ พลางหวนนึกถึงถ้อยคำที่เขาได้รับจากทีมผู้คัดเลือกการค้นหานักร้องหน้าใหม่ ที่ค่ายเพลงของเมที


“พอเลยน้อง แค่นี้ก็รู้ผลแล้ว เรากำลังค้นหานักร้องตัวจริงมืออาชีพที่พร้อมจะเป็นดาวนะ ไม่ได้หาเซียนคาราโอเกะ ถ้าน้องจะร้องเล่นในร้านคาราโอเกะ น้องสอบผ่าน แต่เวทีนี้ต้องขอบอกว่าน้องต้องปรับปรุงอย่างแรงไว้เจอกันในโอกาสหน้านะ”

ถ้อยคำเพียงแค่นั้นที่ทำให้เขาหน้าชาเดินคอตกออกจากห้องทดสอบ เผชิญหน้ากับสายตานับสิบคู่ที่มองจ้องมาที่เขา

“อย่างงี้ตกรอบชัวร์ว่ะ”

เสียงพูดคุยเบาๆที่ดังอยู่ในกลุ่มคนที่รอทดสอบ  ทำให้เขามองสบตาเจ้าของเสียงด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ เพราะคิดว่าคนพูดน่าจะมีมารยาทที่ดีกว่านี้ รูปร่างหน้าตาและบุคลิคก็ถือว่าโดดเด่นอยู่คนเดียวภายในกลุ่ม   ตอนนั้นเขาอดไม่ได้ที่จะจ้องมองป้ายชื่อที่ติดอยู่กลางอก พร้อมหมายเลขที่เป็นคนลำดับต่อไปจากเขา เขาเห็นชัดเจนว่าคนพูดนั้นชื่อ  ฟิลิป


“ชีวิตนี้กูก็คงจะเป็นได้แค่เซียนคาราโอเกะแหละวะ”

เด็กหนุ่มพึมพำกับตัวเองในตอนปัจจุบัน พลางเริ่มถอดใจกับการตามหาความฝัน ในเมื่อก็กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เขาลงสมัคร ก็พบเจอแต่ความผิดหวัง ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะได้แสดงความสามารถบนเวที 

ด้วยเหตุผลไม่มีความดึงดูดพอที่จะเรียกความสนใจได้ ทั้งที่เขาเพียงแค่ขอโอกาสสักครั้งที่จะยืนอยู่บนเวทีท่ามกลางสายตาหลายคู่ มันเป็นความฝันที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เด็ก การเป็นนักร้อง การได้ออกอัลบั้มเพลงคือความฝันสูงสุดของเด็กหนุ่มอย่างเขา

แต่วันนี้เขาเริ่มที่จะเหนื่อยกับการออกล่าความฝัน เขาควรที่จะอยู่ในโลกของความเป็นจริงซะที นั่นคือการตั้งใจเรียนให้จบ แล้วหางานที่มั่นคงทำ ดีกว่าการมาตามล่าฝันลมๆแล้งๆที่คงไม่มีวันเป็นจริงขึ้นมาได้

   

แสงแฟลตวูบวาบพร้อมเสียงชัตเตอร์ดังขึ้ถี่ยิบขึ้นทันที เมื่อเด็กหนุ่มร่างสูง ผิวขาวสะอาด หน้าตาคมใส ก้าวขึ้นมาบนเวทีแถลงข่าวในชุดทะมัดทะแมงที่รับกับรูปร่างที่แข็งแรง ทำให้ตัวเขาเป็นที่โดดเด่นน่ามองมากที่สุดในงาน

จัสตินยิ้มทักทายแฟนคลับที่เข้ามาให้กำลังใจอย่างล้นหลาม แถมยังพร้อมกันส่งเสียงกรี๊ดสนั่นห้อง เพียงแค่เห็นเขาโบกมือให้ ก่อนที่จะนั่งลงเตรียมที่จะแถลงข่าวคอนเสิร์ตใหญ่คอนเสิร์ตแรกให้กับสื่อมวลชน ที่พร้อมใจเข้ามาทำข่าวกัน เสียจนห้องแถลงข่าวแคบไปถนัดตา ซึ่งผู้จัดการส่วนตัวได้แอบกระซิบเขาว่านี่เป็นครั้งแรกเลยทีเดียว ที่ห้องแถลงข่าวของบริษัทไม่เพียงพอต่อกองทัพนักข่าวและบรรดาแฟนคลับที่มาดักรอกันก่อนที่งานจะเริ่มนานหลายชั่วโมง

“รู้สึกยังไงบ้าง ที่ตอนนี้จัสตินกลายเป็นนักร้องหน้าใหม่ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ และกำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่และดูท่าว่าจะมีจำนวนรอบเยอะที่สุดในรอบปี ทุบสถิติที่เรย์เคยทำเอาไว้” 

คำถามแรกที่ถูกถามขึ้นหลังจากการแถลงข่าวจบลง ถึงแม้เด็กหนุ่มจะรู้สึกไม่ดีที่สื่อเอาเขาไปเปรียบกับเรย์ นักร้องรุ่นพี่ต่างค่ายที่กำลังโดนสื่อยัดเยียดให้เป็นซุปเปอร์สตาร์ขาลง เพราะโดนกระแสความแรงของเขากลบเสียสนิท แต่จัสตินก็ยิ้มตอบคำถามนั่นให้ตรงตามสคริปที่ถูกเตรียมกันมาอย่างดี จากทีมงานของเขาเสมือนเป็นการจงใจที่จะให้ทางค่ายเพลงของเมทีที่เป็นคู่แข่งกันมานานรับรู้ ว่าตำแหน่งซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งกำลังจะกลายเป็นของเขา

“ก็ดีใจครับ ดีใจมากที่ทุกคนให้การต้อนรับกับอัลบั้มแรกของผมมากมายขนาดนี้ มันเป็นสิ่งเหนือความคาดหมายเลยล่ะ และกับคอนเสิร์ตแรกของผมที่อาจจะมีการจัดถึง 4 รอบตามที่เป็นข่าว ก็อยากจะให้ทุกคนติดตามกันดูนะครับ รับรองมีทีเด็ดที่แฟนเพลงของผมต้องสนุกและมันส์กับคอนเสิร์ตครั้งนี้แน่นอน”

“แสดงว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้จะจัดถึง 4 รอบจริงๆใช่มั๊ยคะ”

“ก็น่าจะเป็นอย่างงั้น เพราะกระแสเรียกร้องตอนนี้มีมาเยอะมาก ยังไงก็ขอขอบคุณทุกกำลังใจไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ แล้วเดี๋ยวเราจะได้สนุกร่วมกันกับโชว์ของผมแน่นอน รับรองว่าแปลกแหวกแนวอย่างที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อนแต่เป็นความแปลกที่ผมมั่นใจว่าทุกๆคนจะต้องชอบ”

“อย่างนี้จะมีการเพิ่มรอบหรือเปล่าคะถ้ากระแสเรียกร้องมีเข้ามาอีก”

“อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอ่ะนะ แต่โดยส่วนตัวผมแล้วผมพร้อมที่จะมอบความสุขความสนุกให้กับทุกคนได้อยู่แล้ว”

“แต่แค่ 4 รอบก็เป็นสถิติที่เยอะที่สุดในรอบปีของวงการเพลงตอนนี้เลยนะ จัสตินคิดว่ามันจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ใหน”

“ผมมั่นใจถ้าทุกคนได้ดูโชว์รอบแรกของผม คิดว่ารอบที่เหลือคงไม่มีปัญหาอะไร”

“อะไรที่ทำให้จัสตินมั่นใจขนาดนั้น”

“เพราะโชว์ของผมไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนแน่นอน” 

นักร้องหนุ่มตอบอย่างมั่นใจในศักยภาพของตัวเอง ที่ทางค่ายพยายามผลักดันให้เขาขึ้นมาเป็นซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่ง และดูท่าว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามคาด เพราะแค่บรรยากาศในงานแถลงข่าวในครั้งนี้ ก็น่าจะยืนยันได้ดีว่าเขาเป็นคนที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้



 “แล้วจะได้รู้กันว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า” 

เมทีเอ่ยออกมาเบาๆ เมื่อเพิ่งอ่านถ้อยคำแถลงข่าวคอนเสิร์ตใหญ่ของจัสตินจบลง พร้อมๆกับกดรีเพล์ย ดูเทปทีเซอร์ตัวแรกของฟิลิป ที่พร้อมจะปล่อยสู่สายตาประชาชนในอีกไม่กี่ชั่วโมง   

ภาพค่อยๆโฟกัสที่ใบหน้าของเด็กหนุ่ม ผมตั้งชี้รับกับใบหน้าเนียนใสที่คมได้รูปตามแบบฉบับลูกครึ่ง วัยไล่เลี่ยกับจัสตินก่อนจะฉายออกในมุมกว้าง  ฟิลิปกำลังเคลื่อนกายพริ้วไหว แต่ทว่าแข็งแรงไปกับแนวดนตรีแดนซ์แปลกใหม่ล้ำสมัย ภายใต้ฝีมือโปรดิวซ์ของธีระ ทุกอย่างดูลงตัวและน่าจะสะกดสายตาใครต่อใครได้ไม่ยากจ นผู้บริหารอย่างเมทียิ้มกว้างที่อีกไม่นานค่ายเพลงของเขาก็คงจะกลับมาผงาดได้อีกครั้ง

หนุ่มใหญ่คิดไว้แล้วว่า ทันทีที่ฟิลิปถูกเปิดตัว เขาจะทำการเปิดโครงการค้นหาดาวดาวดวงใหม่โครงการสองต่อทันที เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางโปรโมท 'ว่าที่ซุปเปอร์สตาร์คนใหม่' ไปในตัว
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 28-01-2008 22:38:44
มาต่อนิยายเหมือนกัน เจอกระทู้ของป้อม ก็ขอเจิมกระทู้ให้เลยละกันนะครับ  DREAM นี่ก็นานโขอยู่นะ (เรื่องที่ 3 ที่เขียน )เนื้อหาอาจะแปร่งๆหน่อยนะครับ สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่าน (เรื่องเทรนนักร้อง แหะๆ) ยังไงก็ฝากเนื้อเรื่องกะคนโพสด้วยนะ และสำหรับนักอ่าน ก็ลองติดตามเรื่องราวกันดูนะครับ

ขอบคุณครับ

Boy
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 29-01-2008 00:02:41
รวมเล่มนี่หาซื้อได้ที่ไหนบ้างครับ  :m23:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 29-01-2008 14:42:26
รวมเล่มนี่หาซื้อได้ที่ไหนบ้างครับ  :m23:

ลองส่งเมลล์ไปถามรายละเอียดกับบอยดูก็ได้ครับ ว่ามีขายที่ไหนบ้าง

ส่วนใครที่ตามอ่าน จะเอาลงให้เย็นนี้นะครับ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 29-01-2008 15:04:00
นิยายคุณบอยสนุกทุกเรื่อง ไม่พลาดอยู่แล้ววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 29-01-2008 16:15:43
เอาไปหนึ่งบวกสำหรับนิยายใหม่จ้า

อิอิ

อยากกินเหล้า.....................................โว้ย  :mc2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 29-01-2008 16:17:32
 :mc2: :mc2: :mc2: :mc2: :mc2:

เคยอ่านในรวมเล่มของพี่บอย เล่มแรก

สนุกมากครับ

แล้วจะมาตามอ่านในบอร์ดอีกรอบนะ

 :mc1: :mc1: :mc1: :mc1: :mc1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 29-01-2008 17:27:19

อยากกินเหล้า.....................................โว้ย  :mc2:

เออ อันนี้ ส่วนตั๊ววว ส่วนตัวนะ ป้า 555 :m20: ยังจะมาหิวอีก
ไปอยู่ทุกอาทิตย์

ปล. วันศุกร์ออกนะค๊าบบบบบบ อิอิ

นอกเรื่องล่ะ ต่อดีกว่า
============================
-2-

“ไอ้ปากเสียนั่นนี่หว่า” 

เอมีนอุทานออกมา ตาก็จับจ้องอยู่หน้าจอพลาสม่าบนสถานีรถไฟฟ้า เมื่อเห็นทีเซอร์ที่กำลังฉายอยู่ ไม่ใช่เพียงเขาคนเดียวที่ยืนจ้อง รอบๆตัวเด็กหนุ่มแทบจะทุกสายตากำลังแหงนมองภาพการเคลื่อนใหว ร่างกายที่พลิ้วใหวไปตามจังหวะเสียงเพลงที่เร้าใจให้น่าขยับตามของฟิลิป  เขาเองแม้จะเคยมีอคติกับคนในจอนั่น แต่เขาก็ดูทีเซอร์นั่นจนจบ

"โปรโมทกันน่าดูแย่แน่ๆนายจัสติน” เ

ด็กหนุ่มถอนหายใจ ยิ่งเห็นภาพแบบนี้ เขาก็ยิ่งอดที่จะคิดถึงตัวเองไม่ได้โอกาสที่เขาจะโลดแล่นไปตามจังหวะเสียงเพลงให้คนอื่นจ้องมองด้วยแววตาชื่นชมคงจะไม่มี

 

รถไฟฟ้าเข้ามาจอดเทียบแล้ว ในขณะที่เอมีนจ้องมองจอพลาสม่าที่ฉายทีเซอร์ของฟิลิปเป็นรอบที่เท่าใหร่แล้วไม่รู้ เหมือนเขาจะต้องอยู่ในมนต์สะกดอย่างไงอย่างงั้น ยิ่งดูเขาก็ยิ่งติดตากับภาพการเปิดตัวที่ดูลงทุน เหมือนเป็นการคาดหวังอย่างมาก ว่าจะไล่บี้ความนิยมของจัสติน

“อ้าวเฮ้ย..ตายโหงล่ะกูรอด้วย”

เด็กหนุ่มอุทานออกมาเมื่อเห็นประตูของขบวนรถที่ยืนรอกว่ายี่สิบนาที กำลังจะปิดลงหลังจากที่มันเปิดออกเมื่อไหร่ไม่รู้  ขายาวรีบวิ่งตาลีตาเหลือกเพื่อที่จะเข้าไปในตัวรถให้ได้ก่อนที่ประตูจะปิดลงสนิท แต่โชคร้ายก็เป็นของคนออกวิ่ง เมื่อร่างหนึ่งที่รีบวิ่งออกมาจากตัวรถชนเขาเข้าอย่างจังจนเขาล้มไม่เป็นท่า

“เฮ้ย..โทษทีเป็นไงบ้าง”

เสียงคนชนเอ่ยขอโทษ เอมีนไม่สนใจแม้แต่นิด ลุกขึ้นปัดไม้ปัดมือมองตามขบวนรถที่วิ่งฉิวไปต่อหน้าต่อตา ก่อนจะหันมาจัดการคนขอโทษ

“เพราะคุณแท้ๆเชียว ผมคงไปสอบไม่ทันแน่ๆ”

ปากก็ว่าไปแต่สายตากลับพยายามจ้องเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่คุ้นมากๆ เหมือนเขาเคยเห็นที่ใหนมาก่อน ถ้าเพียงเขาสามารถถอดหมวกและแว่นดำที่เด็กหนุ่มนั่นสวมไว้อยู่ออกได้ เขาต้องจดจำได้แน่ๆเพราะรูปร่างบุคลิคมันคุ้นตาจนเสียเขายื่นใบหน้าเข้าไปเพ่งมองอย่างลืมตัว

“เฮ้ยมองอะไรกันคุณ” 

เด็กหนุ่มนั่นถอยหนีและพยายามจะเลี่ยงเพื่อที่จะหลบหน้าคนมอง แต่อาการนั่นกลับเพิ่มความรู้สึกสงสัยของคนที่ถูกเลี่ยงหนีมากขึ้น จนต้องเอื้อมมือไปดึงแว่นดำนั่นออก

“เหี้ย..ทำไรวะ”

คนโดนดึงแว่นสบถออกมาอย่างลืมตัว แต่คนดึงไม่ได้ตกใจกับคำด่านั้น นอกจากยืนอึ้งเพราะแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่เห็นอยู่

“จัสติน”

เอมีนครางชื่อคนตรงหน้าออกมาเบาๆ นี่เขากำลังยืนประจันหน้าอยู่กับน้องร้องวัยรุ่นที่กำลังดังสุดกู่อยู่หรือนี่ เป็นไปไม่ได้

“เฮ้ยจำผิดคนแล้ว เอาแว่นคืนมา”

จัสตินแย่งแว่นคืนมาอย่างนึกหัวเสีย ช่วงนี้ชีวิตเขาหาความเป็นส่วนตัวแทบไม่ได้อุตส่าห์แอบปลอมตัวมาใช้ชีวิตวัยรุ่นธรรมดาในวันว่างที่มีน้อยเต็มที ก็ยังไม่วายที่จะโดนจับได้

“ไม่ผิด ยังไงก็ไม่ผิด ผมจำคุณได้ดีใจจัง นึกออกแล้ว เซ็นซีดีให้ผมหน่อยนะ”

เอมีนกุลีกุจอค้นหาซีดีในเป้สะพายที่พกติดตัวตลอดยื่นให้จัสติน แต่แล้วเขาก็ต้องใจหล่นวูบ เมื่อซีดีที่เขายื่นให้โดนจัสตินทิ้งลงที่พื้นอย่างไม่ไยดี พร้อมคำพูดทิ้งท้าย

“หูแตกหรือไงไม่ใช่จัสตินโว้ย แม่งคลั่งนักร้องจนตาลายแล้วนายน่ะ”

เอมีนอึ้งไปนิด ก่อนก้มลงหยิบแผ่นซีดีที่คนเพิ่งเดินหนีไปโยนทิ้งลงพื้น เด็กหนุ่มเชื่อว่า ยังไงเขาก็จำคนไม่ผิด

ความรู้สึกบางอย่างมันบอกว่า รับไม่ได้กับการกระทำของนักร้องที่เขากำลังชื่นชมคนนี้
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 29-01-2008 18:45:45
 :a4:เป็นกำลังใจให้นักเขียนครับ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 29-01-2008 19:18:18
ชอบนิยายของคุณบอยหลายเรื่องแล้วฮะ

มารออ่านตอนต่อไป = =

ขอบคุณคนโพสต์ด้วยน๊าค๊าบ  :m1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 30-01-2008 10:14:25
มาล่ะครับ ในเช้าที่อากาศน่านอนมากกกก
อยากมีคนมาให้กอดจริง จริ๊งงงง บรรยากาศเป็นใจเหลือหลาย เหอะ เหอะ
นอกเรื่องล่ะ
=============================

“เมื่อวานไปใหนมาจัสติน”

อิ๋งอิ๋งผู้จัดการส่วนตัวของจัสติน เอ่ยถามเด็กหนุ่มด้วยสีหน้าเคร่งเครียดที่รู้ว่า เด็กหนุ่มแอบหนีเที่ยวตามลำพังในช่วงที่โดนคำสั่งให้เก็บตัวซ้อมคอนเสิร์ตใหญ่

“ก็ไปเดินเล่นทั่วๆไปทำไมเหรอ”

“ยังจะมาถามอีกเหรอว่าทำไม รู้ก็รู้อยู่ว่าตอนนี้เธอกำลังเป็นที่สนใจของประชาชนแค่ใหน นักข่าวอิสระก็ตาเป็นสัปปะรด เกิดเธอไปทำอะไรที่มันเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงขึ้นมาก็จบกันเลยนะ”

“แล้วพี่อิ๋งคิดว่าผมจะไปทำอะไรเสื่อมเสียล่ะ”

“พี่เป็นผู้จัดการเธอนะ มีอะไรบ้างเกี่ยวกับตัวเธอที่พี่ไม่รู้ และพี่ก็รู้ดัวยว่าเมื่อวานเธอไปหาใครมาพี่เคยขอร้องแล้วฟังพี่บ้างหรือเปล่า”

จัสตินเงียบมองหน้าผู้จัดการสาว บางทีเขาก็นึกอึดอัดกับการสวมหัวโขนเล่นละครปิดบังตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเพื่อแลกกับชื่อเสียงที่กำลังดังเป็นพลุแตกของเขา แรกเริ่มที่เขาเข้ามาสมัครเป็นนักร้อง ก็เพียงแค่นึกอย่างสนุกตามประสาวัยรุ่นทั่วไป โดยที่เขาไม่รู้ว่าทางค่ายกำลังหานักร้องหน้าใหม่เพื่อที่จะตีตลาดเพลงวัยรุ่นที่กำลังซบเซา และสุดท้ายเขาก็เป็นตัวเลือกนั่น

แรกๆ เขาก็รู้สึกภูมิใจที่มีใครต่อใครชื่นชอบ แต่ถ้ามองหวนกลับไปในก่อนหน้านี้ ชีวิตเขาแทบจะไม่มีใครสนใจ เขาสามารถทำตามใจตัวเองในทุกอย่างที่อยากจะทำ แม้วิถีทางการดำเนินชีวิตเขา มันอาจจะดูแปลกไปบ้างในสายตาของสังคม และก็เป็นเหตุผลที่ทางค่ายพยายามปกปิดวิถีชีวิตส่วนนั้นของเขาให้เป็นความลับให้มากที่สุด เพราะทุกอย่างคงจบอย่างไม่สวยงามแน่ หากเขาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมาว่า เขามีคนที่กำลังคบหาอยู่นอกวงการ และคนๆนั้นก็เป็นผู้ชายเหมือนๆกับเขา…..

“ผมอึดอัดนะพี่อิ๋ง ผมแค่ขอเวลาไปเจอหน้าเขาบ้าง ไม่ใช่พอจะดังแล้วหายไปอย่างนี้”

“แล้วถ้าเกิดเธอโดนจับได้ขึ้นมาล่ะ ทุกอย่างมันกำลังจะไปได้สวยและถ้าบาสเขารักเธอจริงนะ เขาก็ย่อมเข้าใจในตัวเธอ”

“ถ้าผมรู้ว่าชื่อเสียงบ้าๆนี่ มันต้องแลกมาด้วยความเป็นส่วนตัวของผม ผมจะไม่ก้าวเข้ามาในวงการนี้เด็ดขาดให้ตายสิ”

“แต่เธอก็เข้ามาแล้ว มันถอยไม่ทันแล้วล่ะ ในเมื่อเธอกำลังจะเป็นซุปเปอร์สตาร์คนต่อไป”

“มันก็ไม่แน่หรอก พี่อิ๋งยังไม่เห็นคู่แข่งผมหรือไง”

“เธอหมายถึงนายฟิลิปนั่นนะเหรอ”

จัสตินพยักหนัาแทนคำตอบ แต่อิ๋งอิ๋งกับหัวเราะออกมาอย่างหยันๆ

“เธอคิดว่านายนั่นจะตามเธอทันเหรอิ ขนาดเรย์ที่ว่าเป็นที่สุดยังโดนกระแสเธอจนล้มไม่เป็นท่า ล่าสุดมีข่าววงในว่ายุบคอนเสิร์ตใหญ่ตัวเองลงไปแล้ว นักร้องหน้าใหม่อย่างนายฟิลิปแค่เห็นทีเซอร์พี่ก็เอือมแล้ว กอปปี้กันชัดๆ”

“แต่ดูเขาก็ลงทุนดีนี่”

“นั่นแหละที่เธอต้องระวังกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับบาสมากขึ้น อดทนเอาหน่อย มันอีกไม่นานหรอกหมดช่วงโปรโมทเธอ แล้วจะพากันไปรื่นเริงที่มันไกลหูไกลตาคนที่นี่ จะประเทศใหนเมืองใหนก็เรื่องของเธอ แต่ช่วงนี้พี่ขอล่ะนะ เธอควรจะเอาเวลาไปซ้อมคอนเสิร์ตดีกว่า”

เด็กหนุ่มถอนหายใจพยักหน้ารับช้าๆ ในเมื่อเขาได้เลือกทางเดินนี้แล้ว เขาก็คงต้องทน



“ผมไม่เข้าใจอ่ะจัสติน ว่าทำไมคุณต้องทำถึงขนาดนั้นด้วย”

ถ้อยคำที่ตัดพ้อของบาส  จัสตินได้แต่ก้มหน้ารับฟัง เขาคิดผิดที่คิดว่าบาสเด็กหนุ่มที่คบกันมาหลายปีจะเข้าใจในสิ่งที่เขาบอกว่าช่วงนี้จะเลิกติดต่อกันสักพัก

“จะให้ผมทำไงล่ะบาส ก็เรามันเปิดเผยไม่ได้ ขนาดผู้หญิงผู้ชายที่อยู่ในสังกัดผมทางค่ายเขายังปกปิดเรื่องการมีแฟน แล้วนี่เราเป็นคู่เกย์นะ”

“คู่เกย์แล้วไง เราเคยอยู่ของเรายังไง ผมก็อยากให้มันกลับไปเป็นอย่างนั้น”

“มันคงจะไม่ได้หรอกบาส คุณก็รู้ว่าตอนนี้ผมไม่ใช่คนธรรมดาทั่วๆไปที่จะเดินไปไหนมาไหนได้ตามสะดวกแล้วนะ”

“แล้วมันอีกนานแค่ไหนล่ะที่เราจะกลับไปเป็นอย่างเดิมได้”

“ผมก็ไม่รู้ คุณรอผมได้มั๊ยบาส ผมสัญญาว่าถ้าจบจากงานชุดนี้ผมไปแล้ว ผมจะขอยกเลิกสัญญากับทางค่าย”

“นั่นมันหมายถึงการตัดอนาคตคุณเลยนะ จัสติน”

“ทำไงได้ที่ผมเข้ามาตรงนี้ ผมไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นอย่างงี้ ผมยังรักคุณนะ”

จากอารมณ์ที่กำลังร้อนของบาสกลับเย็นขึ้นมาได้ เมื่อเห็นแววตาหม่นๆของคนพูด

“จัสติน ผมขอโทษ คุณไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ เอาล่ะผมเข้าใจคุณก็ได้ แต่คุณอย่าถึงขนาดที่ต้องห้ามไม่ให้เราพบกันเลยนะ” 

บาสเอื้อมมือไปจับมือจัสตินก่อนที่จะโน้มตัวเข้าไปใกล้ แต่ความรู้สึกบางอย่างของจัสตินบอกให้เขาต้องเบี่ยงตัวหลบ ถึงเขาจะรู้ตัวว่ามีความรู้สึกดีๆกับผู้ชายตรงหน้าเท่าใหร่ แต่เวลาเนิ่นนานที่คบกันมา เขาก็ให้สิทธิ์บาสแค่จับมือโดนตัวได้เพียงนิดเท่านั้นเขายังไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งใดๆ

………ความรักของเขาไม่ควรที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องเซ็กส์………

เหตุผลที่เขาใช้อ้างกับบาสในทุกๆเวลา ที่บาสพยายามที่จะเข้าใกล้ตัวเขาเกินกว่าที่เขาจะตอบสนองให้ได้ เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกเบื่อหน่ายมากเพียงไร และเขาก็คงไม่มีวันรู้เพราะบาสยังคงไม่มีท่าทีเปลี่ยนไปจากเดิม ยังคงทำตัวเป็นคนรักที่ดีของเขามันทำให้เขาเชื่อมั่นในตัวบาสมากขึ้น ว่าไม่ได้คบกับเขาเพราะอารมณ์ใคร่เท่านั้น ทั้งที่ความจริงในใจบาสเขาเองไม่อาจที่จะคาดเดาได้

“คุณยังเหมือนเดิมนะจัสติน”

“ขอโทษนะบาส ผมอยากให้เราคบกันด้วยใจ”

“แล้วเมื่อไหร่ที่คุณจะพร้อม”

“ผมบอกไม่ได้หรอก แต่ที่ผ่านมาผมเองก็ไม่เคยมีใครคุณไว้ใจผมเถอะ คุณเท่านั้นที่เข้าใกล้ผมได้มากที่สุด” 

บาสพอที่จะยิ้มออกมาได้บ้างนึกคิดอยู่เหมือนกันว่า ถ้าวันใดที่จัสตินรู้เข้าว่าเขาไม่ได้ซื่อตรงอย่างที่ภาพที่เขาแสดงออกมาจั สตินจะรู้สึกเช่นใร แต่จะให้โทษเขาก็คงจะไม่ได้ ในเมื่อเขาก็เป็นคนๆหนึ่งที่มีความต้องการเหมือนคนทั่วไป เมื่อจัสตินให้เขาไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ เขาเองก็ต้องมีคนที่พร้อมจะตอบสนองเขาได้ และเขาก็คงจะไม่มีทางที่จะให้จัสตินรู้เรื่องนี้ เพราะคนอย่างจัสตินคงหาไม่ได้ง่ายๆนัก ถึงเขาจะผ่านใครมาเท่าไหร่แต่ที่สุดเขาก็ย่อมเลือกคนที่มีอนาคตที่ดีอย่างคนๆนี้อยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 30-01-2008 10:44:59
ใครจะคู่ใครเนี่ยยยยยยยยยยยยย

ปล. มานั่งทำงานนี้ หาวหวอดดดดดดดดดดดดดดดดดด ง่วงสุดๆ

ยิ่งตึกสูงๆมองออกไป มืดๆครึ้มๆ น่านอนมากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 31-01-2008 12:08:21
ง่วงๆ เบื่อๆ เซ็งๆ
ไปเที่ยวดีก่า
=========================

วงการเพลงคึกคักยักษ์ชนยักษ์..เมทีส่งฟิลิปต้านกระแสจัสติน

เอมีนยอมเสียเงินซื้อหนังสือพิมพ์บันเทิงที่พาดหัวข่าวแบบนี้อีกครั้ง หลังเดินผ่านเห็นมันในเช้าวันใหม่ เด็กหนุ่มรีบเปิดอ่านรายละเอียดด้านในทันที ก่อนจะพึมพำออกมาถึงความมันส์ที่จะเกิดขึ้น กับเนื้อข่าวที่บอกเล่าถึงการเปิดศึกแย่งชิงตำแหน่งซุปเปอร์สตาร์ของนักร้องหน้าใหม่ ระหว่าง จัสตินกับฟิลิป   

คนอ่านข่าวจ้องภาพประกอบ ที่เป็นภาพของชายหนุ่มที่ยืนคู่อยู่กับฟิลิป เขาจดจำใบหน้านี้ได้ดี ก็คนๆนี้แหละที่ทำให้เขาหมดกำลังที่จะตามล่าฝันตัวเองต่อ เพียงเพราะคำพูดที่เขาได้รับจากวันคัดเลือกวันนั้น

อ๋อ นี่ลงมือมาโปรดิวซ์งานให้กับแชมป์ของโครงการนั่นเลยหรือนี่ คงจะรุ่งหรอกนะปากดีด้วยกันทั้งคู่  เด็กหนุ่มยิ้มหยันที่มุมปากแต่ก็กวาดสายตาอ่านรายละเอียดต่อไป จึงไปสะดุดกับช่วงท้ายๆที่ในข่าวบอกว่าจะมีการจัดประกวดอีกรอบกับโครงการที่ยึดฟิลิปเป็นต้นแบบ

“โอ้โหท่าทางจะดันกันสุดๆแฮะ”

คนอ่านเจอเผลอพูดออกมาอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะเงยหน้าครุ่นคิดถึงคนที่กำลังถูกท้าชิงตำแหน่ง เด็กหนุ่มหยิบบัตรคอนเสิร์ตที่อยู่ในกระเป๋าพกมาดูด้วยอารมณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้น  มันเป็นบัตรคอนเสิร์ตที่เขาเฝ้ารอ เพราะมันเป็นโชว์ของนักร้องคนโปรดอย่างจัสติน เขาอุตส่าห์ห์ตามไปซื้อได้ทันก่อนที่มันจะหมดลงไปทั้งสี่รอบอย่างรวดเร็ว

แต่ภาพในวันที่เขาเจอกับจัสตินจังๆตอนนั้นมันยังติดอยู่ในหัวเขาความรู้สึกที่เสียไปมันยังกู้กลับคืนมาไม่หมด  เขาควรที่จะไปดูคอนเสิร์ตในครั้งนี้ดีหรือเปล่า?  เขาควรจะไปดูคอนเสิร์ตของนักร้องจอมสร้างภาพว่ารักแฟนคลับอย่างงั้นหรือ? 

เด็กหนุ่มสะบัดหัวเพื่อสลัดความคิดที่ขัดแย้งกัน ทำไมเขาจะต้องมานั่งเสียความรู้สึกขนาดนี้ ทั้งๆที่ก่อนหน้าเขาเองก็เคยชื่นชอบนักร้องหลายคน แล้วที่เจอก็ใช่ว่าจะทำตัวดีๆกันสักเท่าใหร่ แต่เขาเองกลับไม่ใส่ใจก็แค่เลิกสนใจนักร้องคนนั้นก็เท่านั้น แต่กับจัสตินทำไมมันไม่ง่ายอย่างงั้นนะ แล้วนี่ถ้าเจ้าตัวได้เห็นข่าวที่อยู่ในมือเขานี่ เจ้าตัวจะรู้สึกยังไงนะ



“ท่าทางจะประมาทไม่ได้แล้วนะเธอจัสติน”

อิ๋งอิ๋งเอ่ยขึ้นมาพร้อมๆกับโยนหนังสือพิมพ์ให้กับจัสติน ซึ่งเด็กหนุ่มก็อ่านเพียงแค่พาดหัวเท่านั้นก่อนจะนั่งเฉยๆเหมือนไม่รู้สึกอะไรจ นคนโยนต้องเอ่ยถาม

“นี่เธอไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอจัสติน”

“จะให้รู้สึกอะไรล่ะพี่อิ๋ง”

“ก็นายฟิลิปไง นี่ทางค่ายโน้นเขาจงใจที่จะส่งมาเป็นคู่แข่งเธอเลยนะ”

“คิดมากนะพี่ ก็คนออกอัลบั้มคนหนึ่งไม่เห็นจะเกี่ยวกับผมเลย”

“นี่พี่เพิ่งเข้าประชุมมานะ มันจะไม่เกี่ยวได้ไง ก็ผู้ใหญ่ในค่ายเขากำลังเครียดที่ดูท่าว่านายนั่นจะมาแรงไม่เบา”

“ก็ดีแล้วนี่ผมจะได้ตกกระป๋องไปเร็วๆ”

“จะได้กลับไปหาคู่ขาเธอใช่มั๊ย”   

คนโดนว่านึกไม่พอใจขึ้นมา ที่ได้ยินผู้จัดการส่วนตัวเรียกเขากับบาสว่าอย่างนั้น เด็กหนุ่มจะลุกเดินหนีแต่ก็โดนอิ๋งอิ๋งทักไว้

“จะไปไหน”

“กลับบ้านสิ ก็งานผมหมดแล้วนิ ตรงตามตารางเป๊ะๆที่พี่ให้มา ผมก็คงกลับไปนอนได้บ้างนะ”

“กลับบ้านแน่นะ”

“แล้วพี่คิดว่าผมจะไปไหนล่ะ เหนื่อยขนาดนี้”

“เธอก็รู้ว่าพี่หมายความว่ายังไง”

“ไว้ใจเถอะ ผมกับบาสตกลงกันเรียบร้อยแล้ว”

“ก็ดีจริงๆ ถ้าเธอมีแฟนเป็นผู้หญิงมันก็คงจะไม่ลำบากกันขนาดนี้หรอกนะ”

“ผมว่าจริงๆแล้ว ผมไม่ควรที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้ต่างหากล่ะ”  จั

สตินทิ้งท้ายไว้ก่อนจะผลุนลันออกจากห้อง คนอยู่ในห้องได้แต่ส่ายหน้าตาม ที่จริงๆก็นึกเห็นใจ  แต่ทุกอย่างมันดำเนินมาไกลจนยากที่จะหวนกลับ และเธอก็ต้องทำหน้าที่ผู้จัดการที่ดี สมกับทางค่ายอุตส่าห์เชื่อมั่นในฝีมือส่งเธอมาเพื่อดูแลคนที่เพิ่งเดินจากไปโดยเฉพาะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 31-01-2008 16:42:30
ถ้าทำแล้วทุกข์ ไม่มีสุขทำไปทำไม
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 01-02-2008 10:04:24
มาต่อแหล่ววววว ค๊าบบบ  :mc2:
================================
จัสตินไม่ได้กลับบ้านอย่างที่บอกเมื่อความมืดเริ่มปกคลุม เด็กหนุ่มหวังว่าถ้าเขาทำตัวอิสระอีกสักวัน คงจะไม่มีใครจำเขาได้

ในช่วงเวลากลางคืนแบบนี้ เขาตัดสินใจขับรถตรงไปที่คอนโดของบาสทันที คิดว่าบาสคงจะดีใจที่เห็นเขา  หลายวันแล้วที่เขาทำงานตลอดโดยไม่มีเวลาว่างที่จะไปหาฝ่ายนั้นเเลย   

ทันทีที่ถึงคอนโดของคนรัก จัสตินนำรถจอดเข้าที่เรียบร้อย หยิบหมวกกับแว่นตาสีดำขึ้นมาจัดการอำพรางใบหน้าตัวเอง แล้วรีบก้าวออกจากรถตรงไปที่ลิฟท์ เด็กหนุ่มรู้สึกโล่งใจที่ไม่มีใครใช้ลิฟท์นั่นตอนนี้ คนโล่งใจ รีบกดชั้นห้องพักของคนรักทันที

ประตูลิฟท์เปิดออกอีกชั้นก่อนที่จะถึงที่หมายทำให้จัสตินใจเสียขึ้นมา เด็กหนุ่มยืนก้มหน้าไม่ยอมที่จะเงยหน้าขึ้นมามองผู้ที่เข้ามาใหม่จนประตูลิฟท์ปิดลง

เสียงโทรศัพท์ของผู้ที่เข้ามามันดังขึ้นทำให้เขาจำใจเงยหน้าขึ้นมองนิดๆ เมื่อเสียงเรียกเข้านั่นมันเป็นเสียงเพลงของเขา

“เออกูจะถึงแล้ว โทรตามจัง”

เจ้าของโทรศัพท์กรอกเสียงไปตามสายโดยไม่สนใจสายตาใครจ้องอยู่ คนจ้องเลยจัดการจ้องให้เต็มตา
 
“มึงอย่าถามได้มั๊ยว่าทำไมกูไม่อยากไปดูคอนเสิร์ตของนายจัสตินนั่น กูอุตส่าห์ห์เอาบัตรมาให้มึงนะ จะเอาไม่เอา ก่อนที่กูจะเอาไปสับทิ้ง แม่งคนห่าอะไรไม่รู้สร้างภาพชิบเป๋ง ออกทีวีให้สัมภาษณ์นะ จัสตินอย่างโน้นจัสตินอย่างนี้ กูจะอ้วก!!!  ขอให้นายฟิลิปมาเขี่ยมันตกกระป๋องทีเหอะ” 

คนพูดโทรศัพท์พูดไปเรื่อยตามอารมณ์หงุดหงิด โดยจัดการด่าคนที่กำลังพูดถึงหลายคำอนิจจา คนด่าไม่รู้ว่าคนที่โดนเอ่ยถึงกำลังยืนกำกำปั้นแน่นพยายามข่มอารมณ์อยู่ทางด้านหลัง 

ลิฟท์ได้มาถึงชั้นที่คนคุยโทรศัพท์กดไว้ ทันทีที่เจ้าก้าวออกมาพ้นประตูแล้วประตูปิดลง คนอยู่ในลิฟท์โพล่งออกมาอย่างเหลืออดทันที

“กูไปทำอะไรให้มึงวะ ด่าซะกูจุกไปหลายคำ แต่หน้าแม่งคุ้นๆว่ะ”

เด็กหนุ่มหยุดความสงสัยเอาไว้แค่นั้นเมื่อประตูลิฟท์เปิดออกอีกครั้ง เขาผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกที่ขึ้นมาถึงห้องของบาสโดยทีไม่มีใครจับได้  มือเรียวยาวของคนเพิ่งมาถึงที่หมาย กำลังจะเอื้อมไปเคาะประตูห้อง แต่สุดท้ายกลับเปลี่ยนใจ เด็กหนุ่มนึกหาวิธีที่จะทำให้คนในห้องแปลกใจเล่น

เมื่อคิดได้ จึงจัดการหยิบกุญแจห้องสำรองที่มีที่ตนไขเข้าไปเบาๆ ด้วยคิดว่าคนในนั้นคงจะหลับไปแล้วเพราะไฟด้านนอกได้ปิดสนิท 



ทุกอย่างเงียบจนเขาอดแปลกใจไม่ได้ มือที่กำลังจะเอื้อมไปเปิดไฟกลับชะงักไว้เมื่อใจยังต้องการที่จะให้เจ้าของห้องแปลกใจอีก อืม เขาควรที่จะเข้าไปทั้งความมืดสินะ ฝ่ายนั้นถึงจะแปลกใจ  ร่างสูงโปร่งหยุดยืนอยู่ที่ประตูหน้าห้องนอนแสงไฟสลัวลอดผ่านออกมาจากจากช่วงล่างของบานประตู  อีกครั้งที่คนคิดแผนถือวิสาสะไขกุญแจห้องนั้น

เสียงประตูลูกบิดที่ถูกเปิดออกทำให้สองร่างที่กำลังนัวเนียกันอยู่บนเตียงต้องแยกตัวออกจากกันด้วยความตกใจ โดยเฉพาะบาสที่ร่างเปลือยเปล่าตอนนี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อ เพราะคนที่ถือวิสาสะเข้ามาในห้องนอนเขาได้แบบนี้คงไม่ใช่ใคร

“จัสติน”

ชายหนุ่มครางออกมาเบาๆ เมื่อมองเห็นร่างสูงโปร่งของเด็กหนุ่มกำลังยืนนิ่ง คล้ายๆยังอึ้งกับสภาพร่างเปลือยเปล่าของเขาที่กำลังแนบชิดอยู่กับเด็กหนุ่มหน้าตาดีอีกคนในสภาพที่เปลือยเปล่าเช่นกัน

“ไม่มีไร ขอโทษที่มาโดยไม่บอกก่อน”

คนยืนอึ้งบอกด้วยรอยยิ้มที่พยายามฝืนมันออกมาเต็มที่ ความรู้สึกตอนนี้ของเขามันชาไปหมด เพราะยังไม่อยากเชื่อกับภาพที่เห็น เขารีบหันหลังก้าวออกมาจากห้องนั่นโดยไม่สนใจต่อเสียงเรียกของบาสเลยสักนิด เขาคงไม่ต้องฟังคำอธิบายใดๆ เมื่อทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้วว่าบาสไม่ได้ซื่อตรงกับเขาอย่างที่เขาคิดมาโดยตลอด
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 01-02-2008 10:37:19
อยากรู้ใครเป็นพระเอกเนี่ย อิอิ

มาเป็นกำลังใจให้คับ

 :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 01-02-2008 13:27:28
เชียร์ จัสติน กับ เอมีน ครับ  :m1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: armani ที่ 03-02-2008 08:08:59
รออ่านต่อนะคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 04-02-2008 12:30:15
มาล่ะ ขอโทษที่วันนี้ลงช้าไปหน่อยค๊าบ
พอดีช่วงเช้า งานยุ่งๆน่ะ

ต่อกันเลยล่ะกัน
===============================
-3-

“โอ้ย..!!! จะรีบไปตายหรือไงวะ”

เอมีนตะคอกสุดเสียงใส่หน้าร่างหนึ่งที่เดินชนเขาเข้าจังๆ ขณะที่กำลังจะเปิดประตูออกจากคอนโด

“ขวางทางทำไมเล่า แม่งเดินช้าเป็นเต่า” 

จัสตินตะคอกกลับโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ตอนนี้เขากำลังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ เอมีนกำลังจะตอกกลับแต่ใบหน้าคมใสที่เขากำลังจ้องอยู่ มันทำให้เขานิ่งเหมือนโดนมนต์สะกดอีกครั้ง

“นี่นายอีกแล้วเหรอ”  จัสตินบอกออกมาเมื่อเจอหน้ากับเอมีนอีกครั้ง

“ที่แท้ก็นายนี้เองที่ด่าฉันในลิฟท์ใช่มั๊ย”

เอมีนทั้งตกใจและงง เมื่อร่างของเขาโดนมือแข็งแรงของจัสตินจับเขย่าราวกับโกรธแค้นเขามาจากชาติปางไหน ก็แน่ล่ะ เด็กหนุ่มไม่รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของคนที่ออกแรงจับเขาเขย่านี่ ว่ากำลังระบายอารมณ์ครุกรุ่นกับสิ่งที่ไปเจอะเจอมา 

เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บขึ้นมาที่หน้าผาก เมื่อร่างทั้งร่างของเขาโดนเหวี่ยงจนล้มคว่ำหัวไปแฉลบกับเสาด้านหลัง เด็กหนุ่มใจหายวูบเมื่อเอามือไปสัมผัสกับหน้าผากที่กำลังเจ็บเอามาดู แล้วเห็นเลือดสีแดงเข้มติดมาที่มือ เด็กหนุ่มเขาเงยหน้าขึ้นมองจัสตินที่กำลังยืนตกใจกับภาพที่เห็น

“มีเรื่องอะไรกัน”

เสียง รปภ.ของคอนโดดังมาทางด้านหลัง คนโดนมองหน้าเสียขึ้นมาทันทีเมื่อนึกภาพถึงพาดหัวข่าวของวันพรุ่งนี้ เขาคงจะหลบหลีกไปไม่ได้แน่ๆ

รปภ.กำลังจะเดินเข้ามาถึงแล้ว เด็กหนุ่มที่กำลังนั่งกุมแผลตัวเองบนพื้นก็คงจะไม่ปล่อยเขาเอาไว้แน่ๆ เอาไงดีวะ คนใจเสียคิดหนัก สุดท้ายก็คิดว่าเป็นไงเป็นกัน จึงตัดสินใจคิดจะหันไปเผชิญหน้า กับ รปภ.

แต่แล้วคนคิดแบบนั้นก็ต้องอึ้งขึ้นมา กับการกระทำและคำพูดของคนที่เขาคิดว่าจะเอาเรื่องเขา ฝ่ายนั้นได้ลุกขึ้นคว้าตัวเขาไว้ไม่ให้หันไปเจอะกับรปภ.โดยที่เอาตัวเองเป็นฝ่ายไปยืนประจันหน้าไว้

“ไม่มีอะไรพี่เพื่อนผมมันเมามา เนี่ยกำลังจะพามันกลับแล้ว ขอบคุณนะครับที่เข้ามาดูแต่ไม่มีอะไร พวกผมจะกลับแล้ว”

เอมีนรีบเอ่ยออกไปเมื่อซ่อนใบหน้าจัสตินได้สำเร็จ เด็กหนุ่มไม่ปล่อยให้คนโดนซ่อนหน้าต้องงงนาน จึงจัดการลากแขนของเจ้าตัวไปหลบยังมุมมืดของลานจอดรถ เมื่อไปถึงก็รีบปล่อยมือนุ่มที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อนั่นทำท่าจะเดินจากไปแต่ก็ต้องชะงักกับเสียงเรียก

“เฮ้ย !! เดี๋ยวสิ” 

คนโดนเรียกหันไปมองสบตากับคนเรียก ด้วยที่ฝ่ายนั้นเป็นถึงซุปเปอร์สตาร์อาการประหม่าจึงเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว แล้วก็เหมือนฝันเมื่อมือของคนๆนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดออกมา ค่อยๆซับเลือดให้เขา +

“ไม่ต้อง ผมมีผ้า”

คนที่คิดว่าตัวเองกำลังฝันไปปัดมือคนในฝันออก ในใจเต้นระส่ำด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ก็คนที่วัยรุ่นและคนทั่วไปกำลังคลั่งไคล้ทั้งประเทศ มาอยู่แนบตัวเขาในมุมมืดแบบนี้ จะไม่ให้เขาหวั่นไหวได้ยังไงล่ะ

“แต่ฉันทำนายเจ็บนะ” จัสตินบอกอย่างรู้สึกผิดเมื่อโดนปฎิเสธความหวังดี

“ไม่ต้องห่วงหรอก พรุ่งนี้เช้าเตรียมตัวอ่านข่าวของนายก็แล้วกัน”

คำพูดที่เอ่ยออกมาเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกของเอมีน ทำเอาคนหวังดีแสดงออกถึงแววตาแข็งกร้าวขึ้นมาทันที ก่อนจะโยนผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดในมือใส่หน้าฝ่ายนั้น เอ่ยตะคอก

“ที่แท้ก็พวกอยากขายข่าว” 

คนตะคอกเดินหนีไปแล้ว เอมีนได้แต่มองตามด้วยความรู้สึกสับสนว่าทำไมโอกาสดีๆแบบนี้เขาถึงยอมให้มันผ่านไปเร็ว ทั้งๆที่เขาเริ่มรู้ใจตัวเองว่าความรู้สึกที่มีให้กับจัสติน มันมากกว่าการคลั่งใคล้นักร้องทั่วๆไป

เด็กหนุ่มก้มลงเก็บผ้าเช็ดหน้านั่น กำมันไว้แน่นมองตามรถของจัสตินที่เลี้ยวผ่านหน้าเขาไป พร้อมๆกับแววตาสุดท้ายที่จัสตินหันมามองเขา ก่อนที่รถเก๋งคันหรูจะเคลื่อนออกไปสู่ถนนใหญ่




“นี่มันอะไรกัน จัสติน”

หนังสือพิมพ์ถูกเหวี่ยงลงไปวางลงที่หน้าจัสตินอีกครั้ง เด็กหนุ่มจำต้องหยิบมันขึ้นมาอ่านก่อนจะสบถออกมา

“จนได้นะมึง” เด็กหนุ่มกัดฟันแน่นเมื่อพาดหัวข่าวที่โปรยอยู่ มันทำให้เขาแทบคุมอารมณ์ไม่อยู่

“บอกแล้วใช่มั๊ยว่าไม่ให้ไปที่คอนโดนั่นอีก เป็นข่าวขึ้นมาจนได้…ลับสุดยอดนักร้องหนุ่มอักษร จ.ที่กำลังดังสุดกู่ แอบไปหาเพื่อนหนุ่มกลางดึกที่คอนโดหรู…ไง จะแก้ตัวมายังไงบอกพี่มาสิ” 

อิ๋งอิ๋งตะคอกออกมาด้วยความโมโหที่เด็กที่อยู่ในความดูแลไม่เชื่อฟังคำสั่ง จนเกิดเรื่องขึ้นมาจนได้

“จะให้แก้อะไรล่ะ พี่อิ๋งใ นเมื่อเขาไม่ได้ระบุชื่อผมสักหน่อย”

“ยังจะเถียงข้างๆคูๆอีกนะ แม้แต่เด็กประถมมันยังรู้เลยว่าในข่าวนี้มันหมายถึงเธอ จะให้พี่ทำยังไง เฮอะ! เธอถึงจะยอมฟังพี่นะ จัสติน”

“พี่อิ๋งไม่ต้องทำอะไรหรอก ต่อไปผมคงไม่ไปที่นั่นอีกแล้ว”

“หมายความว่าไง”

“ผมคงต้องเลิกคบกับบาสแล้วล่ะ”

“นี่เธอไม่ได้หลอกพี่ใช่มั๊ย”

“ผมไม่ได้หลอกพี่ ผมจะเลิกคบกับบาสจริงๆ”

“ถ้าเธอทำได้มันก็ดี แต่จะด้วยสาเหตุไหนพี่ไม่อยากจะรู้หรอกนะ แต่ตอนนี้กระแสข่าวนี้มันแรงมากนะเธอรู้ตัวบ้างหรือเปล่า จบกันพอดีอย่างนี้มันก็เข้าทางคุณเมทีที่จะดันนายฟิลิปนะสิ ไม่น่ามาตายตอนจบเลยจริงๆให้ตายสิ”

“แล้วพี่อิ๋งจะกังวลไปทำไมล่ะ บัตรคอนเสิร์ตผมก็ขายเกลี้ยง ยอดขายผมก็จะแตะหลักล้านอยู่แล้ว ผมว่าเราปล่อยวางบ้างก็ดีนะ”

“มันไม่ใช่พี่ที่กังวล ผู้ใหญ่ต่างหากล่ะที่กังวล เธอมันก็คิดได้แค่นี้เมื่อใหร่จะรู้จักโต เฮอะ!จัสติน”

“ที่ผมทนมาทุกวันนี้มันก็ยังไม่พอหรือพี่อิ๋ง ผมต้องเสียแฟนห่างเพื่อนห่างครอบครัว ชีวิตมีแต่หลบๆซ่อนระหว่างบริษัทกับคอนโดเพื่อแลกกับชื่อเสียงเงินทองบ้าๆนี่ ผมก็แค่อยากมีอิสระเดินดินกินข้าวแกงเหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆเขาบ้างไม่ได้หรือไง”

“คนตั้งมากมายเขาต้องการที่จะมายืนอยู่บนจุดนี้ แต่โอกาสมาตกอยู่ที่เธอนะจัสติน เธอยังจะมาพูดแบบนี้อีกเหรอตั้งแต่พี่ดูแลนักร้องมานะ เธอมันดื้อด้านที่สุด เธอรู้ตัวหรือเปล่า”

จัสตินเริ่มมีท่าทีอ่อนลงบ้าง เมื่อเห็นท่าทีถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนของผู้จัดการสาว  เขาเดินเข้าไปใกล้อิ๋งอิ๋งเมื่อเห็นฝ่ายนั้นนั่งลงกุมขมับ

“ผมขอโทษ พี่อิ๋ง พี่คงเหนื่อยกับผมมากสินะ”

“มันก็มีบ้าง ก็เธอเป็นถึงคนที่ทางค่ายกำลังผลักดันให้เป็นเบอร์หนึ่ง ทุกอย่างมันก็เลยเคร่งกว่าคนอื่นหน่อยเห็นใจพี่บ้างเถอะนะ จัสติน อย่าให้พี่ต้องคอยวิ่งตามแก้ต่างให้เธอกับผู้ใหญ่อีกเลยนะ พี่เหนื่อยมากๆ”

“ต่อไปนี้ผมสัญญาพี่อิ๋งว่าผมจะเชื่อพี่ทุกอย่าง ผมจะไม่ทำให้พี่กับทางค่ายผิดหวัง”   

อิ๋งอิ๋งเงยหน้าขึ้นมองสบตาของเด็กหนุ่ม รับรู้ได้ถึงแววตาที่มุ่งมั่นของฝ่ายนั้นโดยไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจเลิกคบกับบาสคืออะไร แต่เธอก็พลอยสบายใจขึ้นมาได้เมื่อได้รับคำสัญญา ว่าเจ้าตัวจะกลับมาทำตัวเป็นนักร้องเบอร์หนึ่งของค่ายอย่างที่ผู้ใหญ่ต้องการ และพร้อมผลักดันที่จะให้เป็นซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของประเทศ 
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 04-02-2008 12:55:55
จัสติน & เอมีน มารอลุ้น

แต่เป็นนักร้องดังอย่างจัสติน คงอึดอัดน่าดู  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 05-02-2008 09:38:30
 :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 05-02-2008 10:09:19
มาต่ออย่างรวดเร็วค๊าบบบบ
Happy Chinese New Year น๊า  :mc4:
===============================

ใกล้วันที่จัสตินจะได้พิสูจน์ความสามารถการแสดงบนเวทีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของเขา สิ่งที่เด็กหนุ่มต้องการจัดการตอนนี้ก่อนที่คอนเสิร์ตใหญ่จะเริ่ม ก็คือหาตัวคนปล่อยข่าวของเขาให้เป็นที่พูดถึงกันทั่วทั้งประเทศ  ซึ่งก็คงเป็นใครไปไม่ได้ ภาพใบหน้าของเอมีนเด่นชัดขึ้นมาในห้วงความคิดของเด็กหนุ่มทันที


ข่าวเกี่ยวกับจัสตินแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความสนใจของสื่อต่างๆเกี่ยวกับเพื่อนหนุ่มของเขา ที่เป็นข่าวว่าเขาแอบไปหากลางดึก ทำให้กระแสสังคมเริ่มที่จะมองเขาแปลกๆ ทั้งที่ทางค่ายได้ออกมาปฎิเสธข่าวหลายครั้ง ว่าเป็นการเข้าใจผิดกัน

แต่ยิ่งปิดก็เหมือนเป็นการเติมเชื้อไฟให้ลามทุ่งไปเรื่อยๆ ซึ่งคนที่พอใจในกระแสข่าวครั้งนี้ก็คงหนีไม่พ้นเมทีที่มองเห็นช่องทางที่จะทวงความนิยมกลับมาให้ทางค่ายของตัวเอง

“ฝันไปป่าววะ จัสตินเป็นเกย์ โอ้ย!!! ไม่น่าเชื่อ”

เอมีนอุทานออกมาเมื่ออ่านข่าวซุบซิบนั่นจบไป พลางหวนนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น นึกอยากรู้ขึ้นมาว่า

“ตกลงว่านายนั่นมีคู่ขาอยู่คอนโดนั่นเหรอ”

เด็กหนุ่มพึมพำกับตัวเองได้แค่นั้น ก็ต้องตัวปลิวด้วยแรงกระชากจากมือแข็งแรงที่ลากเขาไปที่รถ โดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว

“เฮ้ยอะไรวะ”  

เอมีนโวยวายออกมาทันทีที่คนลากเข้ามานั่งข้างๆเขา ภายในรถไม่มีคำตอบกลับมานอกเสียจากรถเก๋งคันหรูได้กระชากตัวออกอย่างรวดเร็วจนเขาหัวคะมำ เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยอารมณ์โมโหก่อนจะตะคอกถามแกมออกคำสั่ง

“เฮ้ย!! อะไรวะ จอดรถนะโว้ย”

“หุบปากแล้วเงียบไปเลย”  

แม้ใบหน้านั่นจะเสริมหนวดเคราจนดูรกตา แต่เสียงที่ตะคอกตอบกลับมานั่นเอมีนฟังดูคุ้นจนถือวิสาสะ ยื่นมือไปดึงหนวดเครานั่น ที่ดูยังไงก็เป็นของปลอมจนหลุดพร้อมกับเสียงร้องที่เจ็บปวดของคนถูกดึง

“โอ้ย..เจ็บนะมึง”

เอมีนไม่ได้สนใจกับเสียงตวาดนั่น เท่ากับที่รู้ว่าคนที่ตวาดเมื่อครู่คือนักร้องดัง ที่กำลังเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ เด็กหนุ่มพยามขยี้ตาพร้อมๆกับหยิกแขนตัวเองหลายครั้งให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป

“นี่นายจัสตินจริงๆเหรอเนี่ย”

คนหยิกแขนตัวเองหลุดปากถามออกมาเมื่อแน่ใจแล้วว่า ตัวเองไม่ได้ฝันไป แต่หน้าก็ต้องเจื่อนลงไปเมื่อจัสตินตะคอกตอบกลับมาแบบไม่เป็นมิตรนัก

“เออผมเอง ไงขายข่าวไปได้เท่าใหร่ล่ะ”
 
“นี่คุณพูดเรื่องอะไร”

“อย่ามาแกล้งตีหน้าซื่อ คุณใช่มั๊ยที่เป็นคนปล่อยข่าวเรื่องวันนั้น”

“เฮ้ยอะไร ผมไม่รู้เรื่องนะ”

“ไม่ใช่คุณแล้วจะใคร ก็มีคุณคนเดียวที่รู้ว่าผมไปที่นั่น”

“นี่อย่าโง่ไปหน่อยเลยคุณ คุณไม่ใช่ตาแป๊ะขายถั่วนะ จะเป็นไปได้ไงว่าผมจะจำคุณได้คนเดียว”

“แต่ผมมั่นใจว่าไม่มีใครจำผมได้ นอกจากคุณ”

“แล้วไง เหตุผลอะไรที่ผมจะต้องไปบอกนักข่าว”

“ถามโง่ๆ ตอนนี้ใครๆก็อยากได้ข่าวผมทั้งนั้นแหละ มันมีราคา”

ความรู้สึกดีๆของเอมีนหายไปอีกครั้ง เมื่อเห็นแววตาดูถูกและรอยยิ้มหยันๆของคนข้างตัว

“นั่นมันคนอื่นไม่ใช่ผม จะบอกให้ผมไม่เคยสนใจในตัวคุณเลยซักนิด ไอ้พวกนักร้องจอมสร้างภาพ”

“จริงเหรอ แค่เห็นแววตาผมก็รู้แล้วว่าคุณคลั่งผมขนาดไหน วันนี้เอาซีดีมาหรือเปล่าล่ะจะเซ็นให้ ถือว่าสงเคราะห์พวกบ้าดารา”  

อีกครั้งที่เอมีนนึกเสียใจกับคำพูดเหยียดๆนั่น เด็กหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่

“จัสตินรู้หรือเปล่าว่าคุณกำลังฆ่าตัวเองชัดๆ ทุกคำพูดของคุณ ถ้าผมเอาออกไปเผยแพร่ รู้มั๊ยอะไรมันจะเกิดขึ้น”

“แล้วไหนล่ะหลักฐานที่จะเอาคำพูดผมไปเผยแพร่”  

จัสตินยิ้มออกมาอย่างเป็นต่อ แค่คำพูดลอยๆของเขาถ้าไม่มีหลักฐานคนข้างตัวตอนนี้ จะทำอะไรเขาได้ในเมื่อเขามีทีมที่คอยดูแลภาพพจน์เขาอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเขาไม่มั่นใจในฝีมือทีมงานเขาคงจะไม่กล้าทำอะไรบ้าบิ่นอย่างนี้  ความรู้สึกตอนนี้เขาแค่นึกโกรธคนๆนี้ คนที่เขาเริ่มจะรู้สึกดีๆด้วยตอนที่ปกป้องเขาไม่ให้เจอกับ รปภ.ในวันนั้น แต่เพียงไม่กี่วันกลับมีข่าวของเขาออกมาแบบนี้ เขาต้องการเพียงแค่คำอธิบายว่าเจ้าตัวต้องการอะไรกันแน่

“นี่ไงหลักฐาน”

เอมีนโชว์เครื่องเล่น MP3ที่สามารถบันทึกเสียงได้ของเขา พลางยิ้มอย่างเป็นต่อเมื่อเห็นหน้าซีดๆของจัสติน

“คราวนี้จะได้รู้กันว่าซุปเปอร์สตาร์อย่างคุณ ที่แท้มันก็คือนักร้องจอมสร้างภาพ”

“นึกเหรอว่าผมจะยอมง่ายๆ”

พูดจบคนหน้าซีดก็หักรถลงไปทางเปลี่ยวที่ไร้ผู้คนสัญจร จนคนที่นั่งมาด้วยนึกใจเสีย

“เฮ้ยจะพาผมไปใหน”  ไม่มีคำตอบนอกเสียจากรถที่แล่นเร็วขึ้นและจอดนิ่งในที่สุดบนทางร้าง

“เอาเทปนั้นมา” จั

สตินหันไปบอกคนข้างตัวเสียงนิ่งๆ แต่ฝ่ายนั้นกลับยัดเทปนั้นลงกระเป๋าจะรีบเปิดประตูออกไป แต่ก็ทำไม่สำเร็จ

“คุณจะไปใหนไม่ได้ทั้งนั้นจนกว่าจะเอาเทปนั่นมา”

“ไม่..ทำไมเกิดกลัวขึ้นมาเหรอ กลัวว่าตำแหน่งซุปเปอร์สตาร์จะหลุดไปอยู่ในมือนายฟิลิปหรือไง เล่นกะใครไม่เล่นมาเล่นกะไอ้เอ”

“บอกให้เอาเทปมา”  

จัสตินตะคอกกลับจนคนเอ่ยประโยคเมื่อครู่สะดุ้ง พยายามเปิดประตูรถอีกครา แต่คราวนี้สองมือแข็งแรงของจัสตินกลับยื่นมาคว้าตัวเขาเพื่อที่จะแย่งเทปนั่นไป แต่ก็ไม่สำเร็จเมื่อคนโดนคว้าตัวถือโอกาสช่วงชุลมุลนั่นเอื้อมมือไปบีบแตรค้างไว้จนทำให้เกิดเสียงที่ดังลั่น จัสตินตกใจที่เห็นเหตุการณ์เป็นแบบนี้เลยรีบออกรถไปโดยเร็วเมื่อคิดว่าคนจะแห่กันมาเจอเข้า
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 05-02-2008 13:57:37
เข้าใจผิดกันเข้าไปใหญ่แล้ว จะไปดีกันตอนไหนหว่า...

คนปล่อยข่าว อาจเป็นบาสก็ได้เดาเอา  :m23:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 05-02-2008 20:14:59
มารอตอนต่อไปนะคร้าบ  :m1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 05-02-2008 22:47:00
มารออ่านต่อครับ เงอะ จะเป็นไงต่อไปน้าา
มาต่อเร็วๆนะคับผม
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 05-02-2008 23:59:05
จัสตินดูนิสัยแย่ๆเนอะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 06-02-2008 15:44:29
วันนี้ยังไม่มาอีกเหรอครับ  :m23: :m4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 06-02-2008 18:02:01
โทษทีครับ วันนี้มาช้าไปหน่อย งานท่วมหัว
========================
“จอดรถนะ คุณนี่บ้าไปแล้วหรือไงวะ”

เสียงคนข้างตัวโวยขึ้นอีกครั้ง แต่คนขับรถไม่ทำตาม แถมยังเอ่ยต่อรองอีก

“อยากให้จอดก็ส่งเทปนั่นมาก่อนดิ”

“นี่คุณยังจะกลัวอะไรอีก คุณทำตัวขนาดนี้ถึงผมไม่มีเทปนะ ผมก็สามารถเอาเรื่องของคุณไปเผยแพร่ได้”

“อย่างที่เคยทำใช่มั๊ย เสียดายที่ผมเคยรู้สึกดีๆกับคุณ” 

เอมีนแทบไม่เชื่อหูตัวเองซุปเปอร์สตาร์อย่างจัสตินจะมีความรู้สึกดีๆกับเขา นี่มันอะไรกัน นายนี่ต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ

“ท่าทางคุณจะเพี้ยนๆ จอดรถเหอะ ผมสัญญาจะไม่เอาเรื่องของคุณไปแฉ เทปนี้ผมโกหกน่ะ แบตผมหมดไปตั้งนานแล้วมันใช้งานอะไรไม่ได้หรอก” 

จัสตินจ้องหน้าคนพูด สองสายตาเผลอจ้องมองกันความรู้สึกบางอย่างทำให้เขาเริ่มอารมณ์เย็นลงเชื่อในคำพูดของคนตรงหน้า แต่ก็ไม่ยอมหยุดรถยังคงขับต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย

“ผมบอกแล้วไงว่าจะไม่เอาเรื่อง คุณจะจอดรถให้ผมลงไปได้ยัง”  เอมีนขอร้อง แต่ก็ไม่เป็นผล

“นั่งไปกับผมมันอึดอัดนักหรือไง ผมก็แค่อยากมีเพื่อนคุยบ้าง”

คนขอร้องรับรู้ในน้ำเสียงเหงาๆนั่นจนเขาอดสงสัยไม่ได้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตที่กำลังจะประสบความสำเร็จอย่างจัสตินถึงได้มีหน้าตาอมทุกข์แบบนี้

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

จัสตินหันไปมองหน้าคนถามรู้สึกอบอุ่นแปลกๆ เมื่อได้ยินถ้อยคำที่เหมือนจะห่วงใย

“โทษทีไม่ต้องตอบก็ได้”เอมีนบอกเสียงเบายังไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองนั่งอยู่กับนักร้องดังเพียงลำพัง

“นายอยากรู้จริงๆเหรอ”

จัสตินถามพลางเรียกฝ่ายนั้นในน้ำเสียงที่ดูสนิทกันมากขึ้น จนคนโดนเรียกกล้าที่จะหันไปสบตาเขา

“ถามว่าอยากรู้จริงหรือเปล่า” จัสตินถามซ้ำเมื่อยังไม่ได้รับคำตอบจากคนข้างๆ

เอมีนส่ายหน้า มันเป็นไปไม่ได้ที่จัสตินจะบอกเรื่องราวใดๆกับเขา ในเมื่อเจ้าตัวเป็นคนบอกเองว่าช่วงนี้เรื่องราวของเขามันมีราคา

“ทำไมส่ายหัวล่ะ” จัสตินถาม

“เปล่า”

“ท่าทางนายดูเกร็งๆนะ”

“คิดไปเองหรือเปล่าคุณ ผมจะไปเกร็งทำไม”

“จะไปรู้กะนายเหรอ แล้วก็เลิกเรียกเราว่าคุณได้แล้ว จริงๆเราก็น่าจะวัยเดียวกันนะน่าจะเป็นเพื่อนกันได้”

“ตลกล่ะ ใครจะกล้าไปเป็นเพื่อนกะนาย”

“ทำไมวะ ทำไมจะเป็นไม่ได้”

“นายเป็นใครแล้วเราเป็นใคร”

“ก็คนเหมือนกัน”  จัสตินสวนตอบ

คำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่เขาไม่ชอบใจนัก ก็เขาไม่อยากให้ใครมามองเขาเป็นคนสูงส่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

“คนเหมือนกัน แต่นายมันคนของประชาชน”

“แล้วไงก็เลยไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้เลยงั้นสิ”

“นี่นายกำลังประชดตัวเองอยู่หรือป่าว”

“ประชดแล้วได้อะไร ตอนนี้เรามันไม่เหลืออะไรแล้วนิ”  จัสตินยิ้มหยันตัวเองจนเอมีนรู้สึกได้เด็กหนุ่มเลยจำใจต้องเอ่ยถาม

“โทษทีนะ ถามอะไรอย่างดิตกลงข่าวที่ลงไป มันเรื่องจริงใช่ป่ะ”

“ไหนบอกไม่อยากรู้ไง” จัสตินย้อน คนถามจึงได้แต่ยิ้มแห้งๆก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ

“ไม่อยากบอก ก็ไม่ต้องย้อนสิวะ”

“ข่าวมันไม่มีมูลมันคงเขียนไม่ได้หรอก” จัสตินบอกมาเป็นนัยๆให้คนพึมพำตีความหมายเอาเอง แต่ฝ่ายนั้นก็ไม่ได้แย้งอะไรออกมา

“ตกลงนายจะไม่ไปดูคอนเสิร์ตเราจริงๆเหรอ” คนเอ่ยคำพูดนัยๆถามออกมาทำลายความเงียบ แต่เอมีนกลับใจกระตุกก่อนจะบอก

“ให้บัตรเพื่อนไปแล้ว”

“แล้วอยากไปหรือเปล่าล่ะ”

“ก็เฉยๆ” เด็กหนุ่มตอบอย่างไว้เชิงทั้งๆที่ใจยังนึกเสียดาย

“ก็ตามใจอยากไปก็บอกแล้วกัน จะหามาให้” 

แม้คนพูดจะบอกโดยไม่หันมามอง แต่เอมีนก็รู้สึกดีจนบอกไม่ถูก ไม่อยากจะคิดว่ามันเป็นการชวนจากเจ้าของคอนเสิร์ตแต่ก็ยังไม่ยอมรับใจตัวเอง

“ก็ดูเทปเอาก็ได้ นายไม่ต้องลำบากหรอก แล้วก็จอดรถด้วยไม่อยากตายโหง แม่ง!!! ขับรถเร็วฉิบหาย”  จัสตินหันมามองคนเอ่ยอมยิ้มนิดๆแต่ก็ยอมจอดรถให้

“ขอบใจ” เอมีนบอกพลางจะเปิดประตูลงจากรถ แต่โดนเจ้าของรถเรียกไว้

“เดี๋ยว”

“อะไรอีกล่ะ” เอมีนถาม ก่อนจะแปลกใจเมื่อมองเห็นบัตรคอนเสิร์ตที่ฝ่ายนั้นยื่นให้

“เหลือใบสุดท้าย จะไปก็ไป ไม่ไปก็สับมันทิ้งอย่างที่นายอยากจะทำแล้วกัน” จัสตินยัดบัตรใบนั้นลงในกระเป๋าเสื้อนักศึกษาของคนอึ้ง ก่อนจะออกรถเมื่อเจ้าตัวลงไปแล้ว

“อะไรกันแล้วงี้ กูจะกล้าไปได้ไงวะ” เอมีนยืนเกาหัวมองบัตรคอนเสิร์ตที่หยิบออกมาดู มันเป็นที่นั่งวีไอพีของคนที่ศิลปินอยากให้เป็นพิเศษ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 06-02-2008 19:00:07
โอยย ค้างคาคับ มาต่อไวๆน้าาา
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 06-02-2008 19:09:45
มาต่อด่วนเลยน๊าาา

 :m25:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 06-02-2008 23:40:33
ได้อ่านจากในหนังสือแล้วครับชอบๆ(ชอบทุกเรื่อง)

เป็นกำลังใจให้กับทั้งคนเขียนแล้วก็คนโพสนะครับ :m1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 06-02-2008 23:48:32
มาต่อสักวันละ 2 โพสต์ได้ใหมอ่ะ โพสต์เดียวไม่จุใจเลย  :o8: :m23:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: DekDoy ที่ 07-02-2008 03:09:34
 :m1:

ผมชอบจังเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 07-02-2008 17:23:53
I still waiting na krub..
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 08-02-2008 17:07:14
มาแล้วหลังหายหัวไป อิอิ
=====================
-4-

“จัสติน โทรศัพท์”

อิ๋งอิ๋งยื่นโทรศัพท์ให้จัสตินขณะที่ฝ่ายนั้นพักซ้อมเต้น  ที่จริงเธอไม่อยากให้จัสตินรับสายด้วยซ้ำเมื่อเห็นว่าเป็นบาสโทรเข้ามา แต่ช่วงหลังเห็นว่าเด็กหนุ่มทำตัวเชื่อฟังดีขึ้นก็เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากว่าเจ้าตัวจะคุยกับคนเคยคุ้นเคย

“ใครพี่อิ๋ง” เจ้าของโทรศัพท์เอ่ยถาม พลางเช็ดเหงื่อที่พราวเต็มใบหน้า

“บาส”  เด็กหนุ่มชะงักทันทีที่ได้ยินชื่อที่อิ๋งอิ๋งบอก

“บอกเขาว่าผมซ้อมอยู่แล้วกัน พี่อิ๋ง ผมไม่รู้จะคุยอะไรกับเขา”

“แน่ใจเหรอว่าจะไม่คุย” อิ๋งอิ๋งพยักหน้า ก่อนจะบอกบาสตามที่จัสตินต้องการ

“จัสตินเขาซ้อมเต้นอยู่น่ะ คงคุยด้วยไม่ได้”

“แน่ใจเหรอว่าเขาซ้อมอยู่” ปลายสายแย้งขึ้นมา

อิ๋งอิ๋งเหลือบมอง..คนซ้อมเต้น..ที่นั่งทำท่าไม่สนใจ สาวใหญ่นึกสงสัยว่าสองคนต้องมีปัญหาอะไรกันซักอย่าง แต่ก็บอกคนที่โทรเข้ามาด้วยคำพูดเดิม

“เขาซ้อมอยู่จริงๆค่ะ พี่จะโกหกไปทำไมคะ เอางี้แล้วกันจะฝากอะไรถึงเขาไว้มั๊ยคะหรือจะให้เขาโทรกลับ”

“บอกเขาด้วยแล้วกันว่ามันไม่มีผลดีหรอก ที่จะหลบหน้าผมแบบนี้” ปลายสายตอบกลับมา ก่อนจะตัดสายทิ้งไป   

อิ๋งอิ๋งถอนหายใจอีกครั้ง นึกอยากรู้ขึ้นมาทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นที่ทำให้คนของเธอเลิกติดต่อกับคนรักได้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเธอห้ามเท่าใหร่ก็ไม่ได้ผล

“มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่าจัสติน”สาวใหญ่เอ่ยถาม แต่คนโดนถามทำไม่รู้ไม่ชี้

“ปัญหากับใครเหรอ”

“เธอก็รู้ว่าพี่หมายถึงใคร”

“บาสเหรอ”

“ใช่”

“ก็เปล่านี่ ข่าวออกไปว่าผมมีคู่ขา ผมก็แค่อยากให้ข่าวมันเงียบเท่านั้นเอง”

“เธอกำลังโกหกพี่นะ”

“แล้วพี่อิ๋งรู้อะไรล่ะ”

“ก็รู้ว่าเธอโกหกไง”

“จะอะไรก็ช่างเถอะนะพี่อิ๋ง เอาเป็นว่าตอนนี้ผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับบาสอีกแล้ว พี่อิ๋งน่าจะดีใจนะ”

“จบแล้ว เขาจะจบกับเธอด้วยหรือเปล่า ฟังที่เขาพูดเมื่อกี้มันส่อเค้าปัญหามาเลยนะ”

“นี่พี่อิ๋งอิ๋งเปลี่ยนอาชีพเป็นแม่หมอแล้วเหรอเนี่ย”

“มันไม่ใช่เวลาที่จะมาตลกเลยนะ จัสติน พี่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอจะต้องมามีปัญหาในช่วงที่ทางค่ายโน้นเขากำลังปั้นเด็กมาชนกับเธอด้วยนะ”

“คิดมากน่า พี่อิ๋ง ผมก็อยู่ส่วนผมเขาก็อยู่ส่วนเขา มันไม่เกี่ยวกันอยู่แล้วใช่ว่าในวงการผมมีสิทธิ์ออกเทปคนเดียว”

“เออทำพูดดีไปเหอะ ระวังจะจมไม่รู้ตัว”   อิ๋งอิ๋งทิ้งท้ายเอาไว้ เธออยู่วงการมานานคาดเดาอะไรไม่ค่อยจะผิดนัก  จั

สตินได้แต่มองตามร่างผู้จัดการสาวที่เดินแยกไป  เด็กหนุ่มส่ายหัว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดจะให้เขาบังคับคนทั้งประเทศชื่นชอบเขาเพียงคนเดียว มันก็ใช่เรื่อง พอคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งนี้จบไป เขาคิดว่ากระแสของเขาก็คงจะซาลงไปบ้าง และเขาคงจะพักเรื่องงานไว้ซักพักแล้วกลับไปเรียนต่อหลังจากที่พักมันเอาไว้ตอนช่วงทำเพลง
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 08-02-2008 19:03:38
เข้ามาชวนคนโพสต์ไปเที่ยวจ้า

ไปเปล่าตะเอง

ไม่มีตะเอง  เค้าไม่รุ้จะไปกอดใคร

แงๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 10-02-2008 17:57:28
เข้ามารอตอนต่อครับผม  :m1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 11-02-2008 10:32:14
โทษทีครับ มาต่อช้าไปหน่อย
=============================

ภาพงานแถลงข่าวเปิดอัลบั้มของฟิลิป ตรึงสายตาของเอมีนไว้เนิ่นนาน

ฟิลิบในวันนี้แตกต่างจากเด็กหนุ่มใสๆธรรมดาที่เขาเคยเจอในวันแรกตอนประกวดโครงการเดียวกัน  ทั้งรูปลักษณ์ บุคลิก ถูกต้นสังกัดสร้างขึ้นมาเพื่อต้านกระแสจัสตินโดยเฉพาะ จึงไม่แปลกที่ภาพข่าวที่เอมีนเห็นไม่ต่างอะไรเลยกับวันเปิดตัวอัลบั้มแรกของจัสติน

ทางด้านฟิลิป หลังเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับงานชิ้นแรกของตัวเองเสร็จก็โดนแฟนคลับรุมล้อม ผสมกับกองทัพนักข่าวรุมสัมภาษณ์  มันเป็นภาพที่ผู้บริหารหนุ่มใหญ่อย่างเมทีพอใจอย่างที่สุด

“มันต้องอย่างนี้สิธีระผมมองคนไม่ผิดจริงๆ”

หนุ่มใหญ่หันไปเอ่ยกับคนปั้นฟิลิปยิ้มๆ โดยไม่ได้สนใจว่าพีรพลกำลังยืนมองภาพนั้นอยู่อย่างหงอยๆ

         


เอมีนวางไมค์แล้วเดินออกจากร้านคาราโอเกะ เมื่อใช้เวลาเข้ามาร้องระบายอารมณ์นานหลายชั่วโมง ส่วนลึกของเด็กหนุ่มยังคงมีความหวังลมๆแล้งๆ ว่าจะมีโอกาสไปยืนในจุดที่เขาเห็นฟิลิปยืนอยู่อย่างสง่า แต่ในความเป็นจริงเขาหมดสิ้นกำลังใจตั้งแต่โดนวิจารณ์เละในวันประกวดพร้อมๆกับฟิลิปแล้ว

“เฮ้!! นายคุยกันก่อนได้มั๊ย”

เสียงเรียกทัก ขณะที่คนหมดกำลังใจเดินเตะเท้าอย่างเซ็งๆไปตามฟุตบาธ ทำให้เขาหยุดเดินแล้วหันไปมองคนเรียก 

ใคร ? เด็กหนุ่มเกิดคำถามขึ้นในใจเมื่อไม่รู้จักคนที่เดินมาหยุดยิ้มตรงหน้า แต่ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยถามคนๆนั้นก็ยื่นกระดาษแผ่นเล็กสี่เหลี่ยมให้เขา เด็กหนุ่มรับมาดูจึงรู้ว่าเป็นนามบัตร มันทำให้เขาอึ้งและแปลกใจขึ้นมาทันทีกับ ชื่อ / ตำแหน่งและต้นสังกัดของเจ้าของนามบัตรที่โชว์อยู่
 
“โปรดิวเซอร์ของเรย์เหรอ” 

คนอึ้งเอ่ยถามทั้งๆที่รู้แล้วว่าคนตรงหน้าเป็นใคร เขาก็เป็นแฟนเพลงคนหนึ่งของเรย์เหมือนกันนี่  เท่าที่รู้งานทุกชุดอยู่ในความดูแลของคนตรงหน้าแทบทั้งสิ้น

“น้อยคนนะ ที่จะสนใจคนเบื้องหลังมากกว่าศิลปินที่ตนชื่นชอบ”

พีรพลบอกยิ้มๆ เขานั่งสังเกตเด็กหนุ่มนี่อยู่นานภายในร้านคาราโอเกะ เจ้าตัวคงไม่รู้สินะว่าเขา นั่งเก็บรายละเอียดขณะที่เจ้าตัวกำลังโชว์พลังเสียงในบทเพลงที่ร้องยากเพลงนึง

“หาที่คุยดีกว่ามั๊ย พี่มีอะไรอยากคุยกับเรา”

พีรพลเอ่ยชวนต่อ เมื่อเห็นแล้วว่าเด็กหนุ่มที่ยืนทำหน้างงตอนนี้ คงจะเป็นตัวช่วยให้เขากลับมาทำผลงานเด่นๆอีกครั้ง  ซึ่งมันคงจะไม่ยากเกินไปนัก ก็เมื่อครู่เขามองเห็นบางอย่างในตัวคนๆนี้ที่คนอื่นอาจมองไม่เห็น 

เอมีนรู้สึกงงๆแต่ก็ยอมเดินตามพีรพลที่ออกเดินไปก่อน ซึ่งคนเดินนำ นำเขากลับเข้าไปในร้านเดิม

“ผมเพิ่งออกไปจากร้านนี้”

เอมีนบอกคิดว่าพีรพลคงไม่รู้ แต่เมื่อได้เข้าไปในนั่งในโต๊ะที่เหมือนมีคนนั่งมาก่อนแล้วจึงเริ่มที่จะเอะใจ

“อย่าบอกนะว่าพี่ก็นั่งอยู่ในร้านก่อนหน้านี้”

เด็กหนุ่มถามขึ้น พีรพลพยักหน้ายิ้มก่อนจะชวนคนถามนั่งลงที่โต๊ะ แล้วมองเขาไปในแววตาเด็กหนุ่ม

“คุ้นหน้าเหมือนกันนะเรา”

“ก็ผมเคยประกวดโครงการของค่ายพี่น่ะ” เอมีนตอบเขินๆ

“เสียดาย งานนั้นพี่ไม่ได้เกี่ยวข้องในการตัดสิน”

“แล้วไงเหรอ”

“เปล่า ไม่มีอะไร”

พีรพลไม่ตอบคำถามเมื่อครู่ ก่อนจะบอกให้คนตรงหน้าร้องเพลงให้ฟังซักเพลง เมื่อเห็นเจ้าตัวทำท่าจะถามอะไรเขาต่อ  เอมีนมองคนบอกให้ตนร้องเพลงให้ฟังอย่างงๆ แต่ก็จับไมค์มาร้องอย่างง่ายดาย เมื่อพีรพลจัดการเลือกเพลงให้  เด็กหนุ่มไม่อยากจะคิดว่านี่เป็นการทดสอบการร้องสดๆจากโปรดิวเซอร์อันดับต้นๆของประเทศ  แต่ในเมื่อมีโอกาสที่จะร้องให้คนทำเพลงผีมือดีคนนี้ได้ฟังชัดๆเขาเลยมีรีรอที่จะโชว์พลังเสียง
   
ท่วงท่าลีลาที่เข้ากับน้ำเสียงและบุคลิกที่เป็นตัวของตัวเองของคนที่กำลังร้องเพลง ทำให้พีรพลมองอย่างพอใจ ในที่สุดเขาก็เจอคนที่จะดึงชื่อเสียงเขากลับคืนมา เพราะเมื่อเขาลองมองเทียบดูแล้ว พื้นฐานเบื้องต้นของเด็กหนุ่มคนนี้อยู่เหนือกว่าฟิลิปหลายเท่านัก

ชายหนุ่มเริ่มแปลกใจว่าทำไมการประกวดครั้งนั้นเด็กคนนี้ถึงไม่เข้าตา  แต่เรื่องที่ผ่านไปแล้วเขาไม่อยากจะคิดในเมื่องานนั้นเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง  แต่ครั้งนี้ งานนี้เขาจำเป็นที่จะต้องเกี่ยวข้อง  มันก็ท้าทายอยู่น้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ ถ้าเขาจะปั้นเด็กซักคนเพื่อพิสูจน์ว่าฝีมือเขาไม่ได้ตกลงไปซักเท่าไร  ฟิลิปกับเด็กหนุ่มตรงหน้านี้น่าจะได้ลองกันซักตั้ง ในสายตาเขาตอนนี้ เด็กนี่ก็มีดีไม่น้อยไปกว่าใคร ซึ่งมันก็ไม่แน่หรอก คนที่จะล้มจัสตินลงได้อาจจะไม่ใช่ฟิลิป แต่อาจเป็นคนๆนี้ก็ได้  ใครจะรู้

“พรุ่งนี้เข้าไปหาพี่ที่บริษัทนะ พี่ว่าเราคงได้ร่วมงานกัน”

พีรพลบอกออกไป เมื่อฟังพลังเสียงจากหนุ่มน้อยตรงหน้าจบลง ชายหนุ่มเห็นคนที่ฟังสิ่งที่ออกจากปากเขาเมื่อครู่พยายามสลัดหัวหลายครั้งก็นึกขัน โดยที่ไม่รู้ว่าคนที่ออกอาการเช่นนั้น กำลังไม่เชื่อหูตัวเองกำสิ่งที่ได้ยิน

หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 11-02-2008 20:28:24
มารอตอนต่อไปคร้าบ  :m1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 11-02-2008 22:35:48
เรื่องนี้สนุกดีนะครับ แต่ยังจับคู่ไม่ค่อยถูกเลย   :m23:

แต่เดาว่า เอมีน คงคู่กับ จัสติน เนอะ  :o8: :o8:

ส่วนฟิลลิป น่าจะเป็นตัวร้ายยยยยยยย   o12
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 12-02-2008 12:00:15
มาล่ะครับ ทันไปทานข้าวกลางวันพอดี
============================
ธีระมองลอดผ่านกระจกจากด้านล่างของตัวตึก ขณะกำลังจะขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นทำงานของตัวเอง  ชายหนุ่มเห็นร่างๆหนึ่งยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าทางเข้าบริษัทนึกคุ้นหน้า แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ใหนเพื่อความกระจ่างจึงเดินออกไปหาคนๆนั้น

“ยืนเก้ๆกังๆมาหาใครที่ตึกหรือเปล่าเรา” 

เอมีนสะดุ้งกับเสียงทักตกใจนิดหน่อย เมื่อหันมาเห็นธีระยืนจ้องมองเขาอยู่  ขี้เก๊กชมัด……เด็กหนุ่มนึกคิดเมื่อเห็นท่าทีของธีระ แต่ก็ยกมือไหว้

“หวัดดีครับ ผมมาหา เอ่อ......คุณพีรพลน่ะ”

“พีรพล…มาหาทำไม” ธีระหรี่ตาถามคนบอกจุดประสงค์ 

เอมีนอึกอัก เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามาหาทำไม ในเมื่อพีรพลบอกให้เขามาเขาก็มา

“ก็คุณพีรพลนัดผมมา ผมก็มาไม่รู้เหมือนกันว่าเขานัดผมมาทำไม”  คนอึกอักบอกโดยไม่สนใจว่าคนได้ยินกำลังมองเขาอย่างครุ่นคิด

“แล้วเราไปรู้จักหรือเจอกับพีรพลที่ไหน”

“ร้านคาราโอเกะ”

เอมีนบอกตามจริง เห็นธีระยิ้มเยาะออกมาหน่อยๆก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ไม่แย้ง จนธีระต้องบอกออกมาเองว่าที่เขายิ้มเยาะนั่นเพราะอะไร

“นึกออกแล้วว่าเคยเห็นนายที่ไหน ที่แท้ก็เซียนคาราโอเกะวันประกวดนี่เอง”

“ดีใจจังที่ยังจำผมได้” เอมีนประชดเมื่อเห็นธีระหัวเราะไม่หยุด

“ก็บุคลิคแบบนายมันจำไม่ยากหรอก มันไม่มีอะไรให้ต้องค้นหา สงสัยจังว่าพีรพลนัดเธอมาทำไม ถ้าจะเอานายมาเทสต์เสียง สงสัยว่าเขาคงต้องหมดทางไปแล้วแน่ๆ” 

เอมีนแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าตัวตนที่แท้จริงของโปรดิวเซอร์ฝีมือดีอย่างธีระ จะดูถูกเพื่อนร่วมสายงานเดียวกันยิ่งสายตาที่มองมาที่เขา มันทำให้เขาถึงกับหน้าร้อนผ่าวเพราะมันบ่งบอกถึงอาการดูถูกอย่างชัดเจน เด็กหนุ่มถึงขัดขึ้นด้วยความไม่พอใจ

“แต่ผมว่าคุณพีรพลเขาสร้างผลงานที่ดีและเป็นที่ยอมรับมาก่อนคุณนะ”

“นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้อะไรมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ถ้าจะมัวงมโข่งอยู่กับที่ก็น่าจะเห็นผลแล้วนะกับงานชิ้นล่าสุดของเขา”

“นี่คุณหมายถึงงานของเรย์เหรอ”

“อ้าวยังรู้เหรอว่าเรย์ออกอลบั้มแล้ว นึกว่าไม่มีใครรู้ซะอีก” 

เอมีนถึงกับสะอึก นี่ถ้าเรย์หรือพีรพลมาได้ยินถ้อยคำนี้จากปากของธีระ คนพวกนี้ยังจะทำงานอยู่ตึกเดียวกันได้อีกหรือเปล่า  คนในวงการนี่มันสร้างภาพได้แม้กระทั่งคนเบื้องหลังเลยหรือไง

“คุยกับใครอยู่ พี่ธี”

ฟิลิปเดินลงมาจากตัวตึก เมื่อเห็นธีระกำลังคุยอยู่กับบางคนอยู่นาน เขาหันไปมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าธีระก่อนจะทัก

“อ้าว!! นายนี่เอง”

“รู้จักกันด้วยเหรอ” ธีระหันไปถามฟิลิป

“ไม่ได้เป็นการส่วนตัวหรอก แค่เพื่อนร่วมโครงการพี่ธีก็น่าจะเคยเห็นนี่” ธีระเงียบฟิลิปจึงหันไปหา..คนรู้จัก...

“เออแล้วนี่นายมาทำไม”

เอมีนนึกฉุนขึ้นมาทันทีนึกคิดว่าทำไมคนคู่นี้ต้องถามเป็นเชิงว่าเขาไม่ควรที่จะมาที่นี่ เด็กหนุ่มก็เลยตอบกลับอย่างมีอารมณ์

“ไม่ได้มาหาพวกคุณสองคนหรอก คงไม่ว่านะถ้าผมจะเข้าไปหาประชาสัมพันธ์ด้านใน” 

พูดจบคนมีอารมณ์ก็เดินแหวกตรงกลางระหว่างสองคนตรงหน้าเข้าไปในตัวตึก  จริงๆนึกขอบคุณสองคนนั่นที่ทำให้เขาโกรธจนกล้าที่จะเดินเข้าไปหาประชาสัมพันธ์ด้านในได้อย่างไม่ประหม่า

“ติดต่อเรื่องอะไรค่ะ” ประชาสัมพันธ์ถามเสียงหวานเมื่อเอมีนแจ้งชื่อคนที่เขาต้องการพบแล้ว แต่ไม่ทันที่เอมีนจะตอบธีระก็เดินเข้ามาซะก่อนพร้อมๆกับฟิลิป

“ไปด้วยกันสิ พีระพลอยู่ชั้นเดียวกับฉัน” คนบอกเดินนำไปก่อน

เอมีนมองตามอย่างไม่ค่อยชอบในท่าทางวางมาดขรึมนั่นจนฟิลิปเดินมาพูดข้างหู

“แล้วจะยืนทำอะไรล่ะตามพี่เขาไปดิ”

“แล้วมันขวางทางนายหรือเปล่า ถ้าไม่ก็ตามโปรดิวเซอร์นายไปก่อนดิ” เอมีนมองหน้าฟิลิปอย่างท้าทาย เขาไม่ค่อยชอบหน้านายนี่มาตั้งแต่วันแรกที่เห็นแล้ว  ถึงวันนี้เจ้าตัวกำลังจะกลายเป็นคนดังเขาก็ไม่สน   

ฟิลิปแกล้งเดินชนเขานำไปก่อนด้วยรอยยิ้มหยันๆ เอมีนเพิ่มความขุ่นเคืองเป็นสองเท่าแต่ก็จำใจเดินตามคนเย้ยหยันไปจนเข้าไปอยู่ในลิฟท์กันสามคน

ธีระก็ชวนฟิลิปคุยเรื่องงานไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจว่าเอมีนจะยืนรับฟังอยู่ด้วย มีแต่ฟิลิปเท่านั้นที่ปรายตามามองเขาเรื่อยๆ แต่เด็กหนุ่มก็ทำไม่สนใจจนลิฟท์เปิดออกเขาเลยต้องก้าวตามคนทั้งสองไป
    

คนหน้าใหม่ใจหวิวขึ้นมาเฉยๆเมื่อเดินตามคนทั้งสองไป จนถึงหน้าห้องที่เป็นกระจกใสสามารถมองเข้าไปเห็นด้านในที่แบ่งเป็นส่วนๆ โต๊ะใครโต๊ะมัน เด็กหนุ่มไม่รู้หรอกว่าใครทำหน้าที่อะไร ตอนนี้เขาประหม่าจนไม่กล้าที่จะก้าวตามธีระเข้าไปในห้องนั้นจนฟิลิปหยุดหันมามองเขา

“ไงทีนี้ทำเป็นกลัวเหรอ ไม่มีใครเขากัดหรอก ถ้านายไม่ได้โกหกหรือโมเมเอาชื่อพี่พลมาอ้างเพื่อจะเข้ามาในนี้”

“ผมจะทำอย่างงั้นเพื่ออะไร” เอมีนตวาดเสียงตอบ ฟิลิปยักไหล่ทำท่าทีกวนๆ

”ใครจะไปรู้ว่านายคิดอะไรอยู่ บางทีนายอาจจะมาสมัครเป็นนักร้องก็ได้ แต่คงต้องรอไปก่อนนะ รอสมัครโครงการของฉันก็แล้วกัน”

“ตลกว่ะ ต้นฉบับจะร้องภาษาไทยชัดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ยังกล้าที่จะเป็นต้นแบบอีกจะรอดเร้อ”

เอมีนเอ่ยสวน ก่อนจะมองฟิลิปอย่างเหยียดๆเพราะเหลืออดกับท่าทีเจ้าตัวเต็มทน

“ปากดีนะมึง”

ฟิลิปสบถ ก่อนจะตรงเข้าหาคนปากดี

“แล้วมึงจะทำไม”

เอมีนมองอย่างท้าทาย ไม่กลัวซักนิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น เด็กหนุ่มลืมว่าตัวเองเป็นคนหน้าใหม่ในตึกนี้ไปชั่วขณะ

“อ้าวเอมีนมาแล้วเหรอ”

เสียงพีรพลที่ทัก หยุดคนทั้งสองให้ละสายตาจากกันก่อนที่คนทักจะเดินมาถึงเด็กตัวเอง ฟิลิปยกมือไหว้คนมาห้ามทัพ ก่อนจะมองคาดโทษคนปากดีแล้วเดินหนีไป

“ไปคุยกันที่ห้องพี่ดีกว่าเอมีน”

พีรพลหันไปชวนเอมีน เมื่อฟิลิปเดินห่างไปแล้ว  เด็กหนุ่มเดินตามคนชวนเมื่อฝ่ายนั้นออกเดินนำไปก่อน

ระหว่างทางเผอิญว่าต้องผ่านหน้าธีระก็เลยอดที่จะมองไม่ได้ เด็กหนุ่มเจอสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามทันทีแต่ไม่สนใจจึงละสายตาแล้วเดินตามคนที่เขามาหาเข้าไปในห้อง

“มันมาทำไม พี่ธี”

ฟิลิปเดินมาถามโปรดิวเซอร์เขา หลังเห็นเอมีนเดินหายเข้าไปในห้องพีรพล

“ไม่รู้อย่าสนใจเลยเรา มากับพี่ดีกว่ามีหลายเรื่องที่ต้องคุย”

ธีระบอกแล้วเดินนำไปที่ห้องของตัวเองบ้าง ในขณะที่ฟิลิปยังคงมองไปที่ห้องที่เอมีนหายเข้าไป นึกอยากรู้ว่าเจ้าตัวเข้าไปคุยอะไรในนั้น
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 12-02-2008 12:57:10
'เม้นท์คนแรก เพราะคนอื่นทานข้าวกันอยู่ อิอิ

โพสต์บ่อยๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 12-02-2008 23:32:39
เริ่มเผยโฉม ฝ่ายดี-ฝ่ายร้ายแล้วล่ะ  :m4:  :oni2:

แอบเชียร์ พีรพลและเอมีน ให้คว่ำนายฟิลลิปกับธีระ ลงให้ราบคาบเลย  :o :serius2:

แล้วก็เอมีนและจัสติ  :o8: :m1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 13-02-2008 04:42:07
รอครับ รอ รออ่านต่ออยู่นะครับ อยากให้ต่อยาวๆกว่านี้จัง
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 13-02-2008 15:31:25
555 เห็นแววของการแก้แค้นเอาคืนลางๆแล้ว ล่ะสิเนี่ย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 13-02-2008 18:28:36
วันนี้มาต่อจึ๋งเดียว
เด๋ววันพรุ่งนี้ สัญญาว่า จะยาวววววววขึ้น ครับ
======================

หลังซ้อมเต้นเสร็จ จัสตินแยกตัวเพื่อจะกลับบ้านคนเดียวเพราะไม่มีอารมณ์ที่จะไปใหน 

จากวันเกิดเรื่องจนวันนี้ เขายังไม่ไปเจอหน้าบาสอีกเลย เขาเสียความรู้สึกไปตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นบาสเปลือยเปล่านัวเนียอยู่บนเตียงกับใครที่เขาไม่รู้จัก 

เด็กหนุ่มขับรถไปเรื่อยจนความมืดเข้ามาปกคลุม นึกอิจฉาที่เห็นคนทั่วไปเดินเล่นไปตามริมถนนฟุตบาธ เขาเองก็อยากจะทำอย่างนั้น แต่ติดที่ตอนนี้ทางต้นสังกัดวางภาพเขาไว้สูงเกินกว่าที่จะไปทำอะไรที่เสี่ยงต่อการเสียภาพพจน์   

ภาพของคนที่กำลังยืนรอที่จะข้ามถนนทำให้จัสตินต้องเหยียบเบรกจนดังสนั่น เมื่อเขาเกือบจะขับรถพุ่งชนไปที่ร่างนั้นด้วยเพราะการใจลอย   ผู้คนต่างหันมามองภาพของเอมีนยืนนิ่งตัวสั่นอยู่หน้ารถคันใหญ่ที่ติดฟิล์มมืดไม่มีใครรู้ว่าคนนั่งในรถนั้นเป็นใคร  แต่คนในรถสามารถที่จะมองเห็นว่าคนที่ตัวเองกำลังจะขับรถพุ่งชนกำลังยืนปาดเหงื่อตัวเอง

“นายนั่นนี่หว่าเอาไงดีวะ”

จัสตินนึกชั่งใจเมื่อเห็นและจำได้แล้วว่าคนตรงหน้ารถเขาเป็นใคร ใจก็อยากที่จะลงไปพูดกับเจ้าตัว แต่ติดที่ตอนนี้คนกำลังมุงดูกันเต็ม   เอมีนเดินตรงไปยังประตูฝั่งคนขับ จัดการทุบกระจกรถทันที เพื่อที่จะคุยให้รู้เรื่องที่คนในนั้นเกือบจะทำให้เขาเป็นผีเฝ้าถนน

“ไอ้นี่มันไม่ยอมใครเลยจริงๆ”

จัสตินบ่นก่อนสูดลมหายใจแล้วยอมเลื่อนกระจกด้านข้างลงเล็กน้อย เด็กหนุ่มยักคิ้วเจ้าเล่ห์ให้คนเคาะกระจกแก้เก้อ เอมีนเห็นใบหน้าคนที่จะขับรถชนตนเต็มตาก็อึ้งไปพักใหญ่ ก่อนจะได้สติเมื่อได้ยินฝ่ายนั้นเอ่ยขึ้นมาว่า

 “ไง!! จะเอาเท่าใหร่ล่ะนาย”

“นี่นายเองเหรอ”

เอมีนทักกลับ ฉุนกับคำพูดที่เรียกสติตนเมื่อครู่อยู่ไม่น้อย

“พรหมลิขิตมั้ง ไม่ดีใจเหรอ”

จัสตินเอ่ยกวนประสาท รู้สึกโล่งใจอยู่ลึกๆที่เห็นคู่กรณีเป็นตนที่เขาเคยพูดเคยจาด้วย แม้จะยังไม่รู้จักชื่อก็ตาม  เอมีนชักสีหน้าไม่พอใจ  คนในรถจึงยักคิ้วให้อีก ปากกำลังจะเอ่ยกวนประสาทต่อ แต่มองเห็นผู้คนที่เริ่มๆจะมองอย่างสนจึงออกอึดอัดแทน

“กลัวเป็นข่าวอ่ะดิ โธ่เอ้ย นึกว่าแน่”เอมีนว่าเข้าให้ เมื่อจับอาการคนในรถได้

“นี่นายไม่ได้มาเป็นอย่างเรา ไม่รู้เรื่องแล้วอย่าพูดดีกว่า” จัสตินตอบเครียดๆ

“พอเหอะ ดีใจจนเนื้อเต้นแล้ว นายน่ะได้เป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ มันจะมีอะไรให้ทุกข์ใจเลิกสร้างภาพได้แล้ว”

เอมีนต่อปากอย่างไม่ยอมเช่นกัน

“เออ ฝากไว้ก่อนเหอะ”

จัสตินชี้หน้าคนต่อปากก่อนจะรีบขับรถหนี ก่อนที่จะมีใครเห็นว่าเขาเป็นเจ้าของรถที่เกือบจะขับชนคนตาย

เอมีนมองตามไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทั้งๆที่ส่วนลึกนึกอยากที่จะพูดคุยดีๆกับนักร้องคนโปรดแต่ปากกับใจก็ดันไม่ตรงกันจนได้

“ไม่น่าให้บัตรมันเลยให้ตายสิ”

จัสตินบ่นขณะขับรถไปเรื่อย เด็กหนุ่มเริ่มไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องแคร์คำพูดของคนที่ต่อปากต่อคำเขาเมื่อครู่ด้วย ที่ว่าเขาเป็นคนสร้างภาพ  นี่เขาแคร์ความรู้สึกของคนที่เพิ่งเจอกันแค่ครั้งสองครั้งเองเหรอ มันเกิดอะไรขึ้นกับใจของเค้ากันแน่นะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 13-02-2008 18:37:57
พรุ่งนี้ขอยาวๆนะค๊าบ

 :m1:

ขอบคุงค๊าบบบ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 13-02-2008 19:32:57
รอ ครับ รอ อย่าลืมน้าาา พุ่งนี้ ยาวววววววววววววๆๆๆๆๆๆ นะคับ คิคิ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 13-02-2008 22:29:19
พรุ่งนี้ยาวจริง ๆ นะครับ ติดตามตลอดเลย

เมื่อไหร่ นายเอก กับ พระเอก จะญาติดีกันเนี่ย  o12
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 14-02-2008 01:12:32
งอนๆๆๆ ดีมั๊ยเนี่ย
มีแต่คนอ่าน ไม่มีคนโพสตอบ

ฮือ ..... เศร้า
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกลิงตัวอ้วน ที่ 14-02-2008 03:05:12
ติดตามอยู่ครับ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: artkung ที่ 14-02-2008 07:14:39
งานนี้คงเป็นกระประชันนักร้อง 3 คนแน่เลย น่าสนุกดีนะครับ

เชียร์ จัสตินกับเอมีน นะครับ

พวกตัวร้ายคงเป็น ฟิลิปกับโปรฯ ของเค้าแน่เลย อ้อ แล้วก็บาสไรนั่นด้วย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 14-02-2008 11:17:54
ทะเลาะแล้วก็คู่กัน อิอิ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 14-02-2008 14:11:07
วันนี้มาแบบ ชิวๆ เรื่อยๆ แต่จะลงยาวววววววหน่อยตามที่สัญญาครับ
==============================
- 5 -

“ในที่สุดฝันของมึงก็เริ่มมีเค้าแล้ว ไอ้เอเอ้ย”

เอมีนบอกกับตัวเองแล้วนอนแผ่หราลงบนที่นอนอย่างอารมณ์ดี เมื่อหวนนึกถึงตอนที่พีรพลบอก สนใจที่จะให้เขาได้ทำเพลงหลังจากที่ได้ร่วมพูดคุยกันกับเขานานหลายชั่วโมง

เด็กหนุ่มยอมรับว่าพีรพลทำงานได้อย่างละเอียดมาก เรื่องราวที่เกี่ยวกับเขาทุกๆอย่างถูกซักไซร้กันจนหมดเปลือก ที่ต้องทำแบบนั้นพีรพลบอกเพราะต้องการที่จะหาจุดเด่นของเขา เพื่อที่จะได้นำไปเสนอกับเจ้าของค่ายอย่างเมทีที่ตอนนี้กำลังดันส่งฟิลิปกัน จนลืมไปว่าในค่ายมีนักร้องอีกหลายคนที่ได้ออกอัลบั้มช่วงเดียวกับฟิลิป

“คิดว่าไม่น่ามีปัญหานะ เพราะคุณเมทีเขาค่อนข้างที่จะให้โอกาสเด็กใหม่ๆเสมอ ดูอย่างฟิลิปสิ ดันกันจนดังจนได้”

“แต่ผมต่างจากฟิลิปนะ”

“ก็นั่นไงถึงบอกว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะถ้าเราไปเหมือนกับฟิลิปนี่สิปัญหา เพราะพี่ก็ไม่รู้จะไปเสนอคุณเมทียังไงในเมื่อฟิลิปก็มีอยู่แล้ว เอมีนน่ะมีบางอย่างที่คนอื่นมองไม่เห็นอย่างที่พี่เห็น นั่นคือการยอมรับตัวเองอย่างตรงไปตรงมาเชื่อมือและไว้ใจพี่ ถึงเวลาแล้วล่ะที่พี่จะทำงานใหม่ๆที่ไม่เคยทำ ถ้าคุณเมทีเห็นด้วย”

เอมีนรู้สึกดีที่พีรพลยอมรับได้ในสิ่งที่เขาเป็น เขาไม่ได้ปิดบังเรื่องราวใดๆกับพีรพลเลย เพราะถ้าเขาจะประสบความสำเร็จในการตามฝันครั้งนี้ มันก็ต้องมาจากตัวตนที่แท้จริงของเขาไม่ใช่มาจากการสร้างภาพหลอกตัวเองและคนที่ชื่นชมผลงานของเขา



“อะไรที่คุณคิดว่าจะปั้นเด็กคนนี้ พีรพล”

คำถามแรกที่หลุดออกจากของเมทีทำเอาพีรพลอึ้ง แต่ก่อนเขาแทบจะไม่ยินคำถามนี้เลยไม่ว่าเขาจะเสนองานชิ้นไหน ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

“ผมว่าเอมีนมีความน่าสนใจอยู่ในตัวนะ เพียงแต่เขายังไม่มีที่ๆจะให้เขาแสดงออกเท่านั้น”

ชายหนุ่มบอกตามความคิดที่เขามองเอมีน แต่ก็ใช่ว่าผู้บริหารจะเห็นด้วยนัก

“อะไรล่ะ  ถ้าเด็กนั่นน่าสนใจจริงก็น่าจะผ่านรอบแรกของการประกวดโครงการที่แล้วของเราแล้ว แต่นี่ รอบแรกก็ไม่ผ่านด้วยซ้ำ”  

เมทีบอกพลางเลื่อนแฟ้มประวัติเอมีนส่งคืนให้กับพีรพล ในนั้นเอมีนได้กรอกรายละเอียดว่าเขาเคยผ่านการประกวดมากี่ที่ ถึงแม้แต่ละที่มันจะไม่ได้ดังที่คิดก็ตาม

“อันนั้นผมไม่รู้หรอก งานส่วนนั้นมันไม่เกี่ยวกับผม” พีรพลบอกปัดเพราะเขาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวตรงส่วนนั้น  จริงๆมันเป็นช่วงที่เขาทำเพลงให้กับเรย์

“ถ้างั้นผมคงต้องขอคิดก่อนนะ เพราะตอนนี้บอกตรงๆผมค่อนข้างหวังกับฟิลิปมากในการเรียกความนิยมกลับมาให้เรา เอาไว้จบเรื่องนี้เมื่อใหร่เราค่อยมาคุยกันอีกที”

“อย่างงั้นเราก็ให้เอมีนเซ็นสัญญาไปก่อนสิ เพราะตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ทำเพลงให้ใคร ผมจะได้เริ่มที่เอมีนเพราะถ้าเอมีนไม่เซ็นสัญญา ผมก็คงจะทำอะไรไม่ได้”

พีรพลรีบแย้งเมื่อเขาไม่อยากปล่อยเวลาให้นานเกินไป เพราะดูท่าแล้วเรื่องการโปรโมทฟิลิปคงไม่ได้จบลงง่ายๆ เพราะตอนนี้จัสตินยังไม่ได้รับผลกระทบต่อกระแสของฟิลิปเลยซักนิด ตรงกันข้ามตอนนี้ทุกสื่อยกให้เด็กนั่นเป็นซุปเปอร์สตาร์คนใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว

“นักร้องเราที่ว่างอยู่ก็หลายคน ทำไมไม่คิดที่จะสนใจทำงานให้เขาบ้างล่ะ พีรพล”

“ผมยินดีทำให้ถ้าคุณเมทีสั่ง”  

พีรพลจ้องลึกไปในแววตาเมทีเป็นเชิงบอกว่า เป็นเพราะเมทีไม่เชื่อฝีมือเขาแล้วต่างหากล่ะ เขาถึงไม่กล้าที่จะทำอะไรในเมื่อตอนนี้ธีระได้กลายเป็นโปรดิวเซอร์มือหนึ่งของค่ายไปแล้ว

“แล้วผมสั่งให้คุณหาเด็กใหม่มาตอนไหนล่ะ ผมไม่ได้สั่งคุณก็ยังทำได้ จะกลัวอะไรล่ะถ้าคุณเสนอที่จะทำเพลงให้กับนักร้องเราคนไหน ผมว่ามันง่ายกว่าที่คุณจะไปจับเด็กที่ดูประวัติแล้วไม่น่าจะรอดมาทำเพลงให้ผมอนุมัตินะ”

“นั่นแหละคือสิ่งที่น่าสนใจของเอมีน ทุกคนคิดว่าเขาไม่มีอะไรน่าสนใจ เขาถึงไม่ได้แสดงตัวตนเขาซักที”

“ดูคุณจะมั่นใจในตัวเด็กคนนี้จังเลยนะ พีรพล”

“ก็เหมือนที่หลายคนมั่นใจในตัวฟิลิปไง”

“นี่คุณหมายรวมถึงผมด้วยงั้นหรือ”

“ผมไม่กล้าหรอก เพียงแต่เราน่าที่จะลองมองหาตัวเลือกเผื่อบ้างนะ เพราะตอนนี้จัสตินและทางโน้นเขาก็ไม่ได้มีผลกระทบใดๆเลยนะ”

“เทปของฟิลิปยังไม่ได้วางแผง มันยังตัดสินอะไรไม่ได้หรอกนะ พีรพล อีกอย่างงานเปิดตัวและMVเขาก็ฮือฮาอยู่ไม่ใช่เหรอคุณก็เห็น”

“และถ้าผมบอกว่าผมเห็นแววที่อาจจะไม่รุ่งของฟิลิปด้วยล่ะ”  

ที่พีรพลกล้าพูด เพราะเขามองแวบแรกเขาก็เห็นจุดด้อยบางอย่างของฟิลิป แม้ตัวงานจะออกมาดีในระดับหนึ่งในสายตาของเขา เขาก็ยอมรับนะว่าธีระมีฝีมือมากในการเร่งรัดทำเพลงให้เสร็จก่อนกำหนดครั้งนี้ แล้วผลงานไม่ได้ออกมาอย่างลวกๆ  

แต่กับตัวศิลปินแม้โปรดิวเซอร์อย่างธีระจะบอกใครต่อใครว่าฟิลิปมีความเป็นศิลปินอยู่สูง แต่ในสายตาเขามันเป็นแค่ภาพที่สร้างขึ้น ในขณะที่ตัวตนจริงๆของฟิลิปแทบจะไม่มีอะไรเลยนอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูโดดเด่นทำให้เขาเป็นคนที่น่ามอง

“แต่งานของธีระ ผมว่าไม่ค่อยทำให้ผมผิดหวังนะ พีรพล”

“ผมไม่ได้หมายถึงตัวงานนี่”

“งั้นคุณก็หมายถึงฟิลิป”

“จะว่าอย่างงั้นก็ได้”

“คุณมีอคติหรือเปล่า ผมเข้าใจนะ ไม่ใช่ว่าช่วงนี้จะมีคุณคนเดียวที่เกิดอาการน้อยใจ คนอื่นก็มีมาคุยกับผมเหมือนกัน แต่ผมยังยืนยันคำเดิมว่าผมต้องการที่จะส่งฟิลิปเป็นคู่แข่งจัสติน เรื่องอื่นเอาไว้คุยทีหลัง ตอนนี้ผมไม่รับพิจารณาใครทั้งนั้น”  

พีรพลก้มหน้านิ่งเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาจะบอกกับเอมีนว่ายังไง ในเมื่อเชื่อว่าเด็กหนุ่มคงกำลังมีความหวังเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าต้องได้เซ็นสัญญาเข้าสังกัดเมทีแน่ๆ




นาฬิกาข้อมือบอกเวลาเกือบจะเที่ยงตรง เอมีนนั่งใจจดใจจ่อรอคนที่นัดเขา ถ้าเป็นคนอื่นเด็กหนุ่มคงรู้สึกเฉยๆ แต่คนที่นัดครั้งนี้คือพีรพล มันเป็นการรอคอยที่ตื่นเต้นกว่าทุกครั้งเมื่อเขาจะได้คำตอบวันนี้ว่าฝันของเขามันจะเป็นจริงได้แค่ไหน ไม่นานคนที่เขารอก็ก้าวเข้ามาในร้านที่เขานั่งอยู่

“สีหน้าพี่ไม่ค่อยดีเลยนะ”

เด็กหนุ่มกล่าวทักหลังจากที่ยกมือไหว้เรียบร้อยจนพีรพลนั่งลงตรงข้ามเขา

“อากาศร้อนแล้วรถก็ติดน่ะ”

พีรพลบอกยิ้มๆ แต่แววตากลับไม่ได้ยิ้มตามจนเอมีนใจวูบ เมื่อคาดเดาเรื่องราวจากอาการคนตรงหน้า
 
“อืม มันไม่สำเร็จใช่มั๊ย” เด็กหนุ่มก้มหน้าถาม ยิ่งเมื่อพีรพลนิ่งเงียบไปพักใหญ่มันก็แทนคำตอบได้ดี

“พูดมาเถอะผมรับได้มันไม่ใช่ครั้งแรก” เอมีนเงยหน้าบอกยิ้มๆ พีรพลถอนหายใจก่อนจะบอก

“เรารอไปอีกสักพักได้หรือเปล่าล่ะ ตอนนี้คุณเมทีกำลังลุ้นอยู่กับฟิลิป ช่วงนี้เขางดแผนงานทุกอย่างเพื่อทุ่มให้กับฟิลิปคนเดียว”

“ก็น่าจะอย่างงั้น  ผมไงก็ได้ แค่ครั้งหนึ่งมีคนเห็นว่าผมน่าจะทำได้ผมก็ดีใจแล้ว”

เอมีนยอมรับว่าเศร้าอยู่ลึกๆ แต่ก็ต้องยิ้มบอกให้คนตรงหน้าได้สบายใจ

“พี่พูดคำไหนก็คำนั้น เพียงแต่พี่อาจจะเจอเราผิดจังหวะไปหน่อย”

“ไม่หรอก เอาเป็นว่าผมจะรอแล้วกัน ไม่มีอะไรที่ต้องเสียหรอก”

“พี่ดีใจนะที่นายเข้าใจ และก็ขอโทษด้วยที่ทำให้มีความหวัง”

“อย่าคิดมากพี่พล บอกแล้วไงครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก”

“ดีแล้วล่ะ พี่เองก็จะรอดูเหมือนกันว่าฟิลิปจะทำให้คุณเมทีดีใจหรือเสียหน้า”

เอมีนมองพีรพลที่ก้มหน้าหลับตา  นึกเห็นใจที่คนๆนี้อยู่เหมือนกันที่ครั้งหนึ่งเคยมีผลงานเข้าตาทั้งผู้บริหารและก็คนทั้งประเทศ แต่วันนี้กลับไม่ได้รับความเชื่อใจให้ทำงานใดๆออกมา



บาสจ้องมองมิวสิควีดีโอของฟิลิปอย่างสนใจ  นานแล้วที่เขาติดต่อกับจัสตินไม่ได้   เขาไม่ได้รู้สึกผิดที่โดนจับได้ แต่รู้สึกโกรธมากกว่าที่จัสตินไม่ฟังคำอธิบายจากเขา จริงอยู่ที่เบื้องลึกเขาไม่ได้จริงใจกับจัสตินสักเท่าไหร่ แต่เด็กหนุ่มทำใจยอมรับไม่ได้ที่จัสตินตีห่างเขาแล้วความนิยมกลับพุ่งพรวดอย่างเห็นได้ชัดจนค่ายคู่แข่งโหมกระหน่ำโปรโมทฟิลิปกันแทบทุกๆสื่อ

“ผมไม่อยากทำร้ายคุณนะจัสติน แต่คุณทำกับผมก่อน”  

คนรู้สึกโกรธพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่สายตาจ้องอยู่ที่ฟิลิปที่พลิ้วไหวอยู่ในจอมิวสิคจบลง

“ถ้าคิดจะล้มจัสติน คิดว่าเราคงต้องช่วยกันแล้วล่ะฟิลิป”
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 14-02-2008 14:21:11
:c2:

(http://i223.photobucket.com/albums/dd277/akapong/Love/29-01-2008_15.gif)
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 14-02-2008 19:55:35
เริ่มเปิดเผยโฉมหน้าแต่ละคนแล้ว

บาสจะทำอะไรจัสตินะ  :m21:

 :c2: :c1: :L3:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 14-02-2008 21:24:30
อย่าเพิ่งน้อยใจน๊าค๊าบ

โอ๋ๆๆ  :m1:

ปล. ยังยาวไม่สะใจเลย = =
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 15-02-2008 15:17:12
ยังไม่ยาววววววว อีกหรอ รีบโพสมันก็จบเร็วดิครับ
อ่านวันละนิด จิตแจ่มใสดีกว่าเนอะ
===========================
เมทีป่วน ฟิลิปไม่ถึงฝัน  จัสตินสู่ล้านที่สอง

อีกครั้งที่หนังสือพิมพ์ถูกโยนลงโต๊ะกลางที่ประชุม เพียงแต่คราวนี้มีเพียงธีระเท่านั้นที่นั่งเผชิญหน้าอยู่กับเจ้าของค่ายเทปอย่างเมที

“ผมไม่อยากจะเชื่อเลยธีระ  เด็กนั่นมันมีดีกว่าเด็กเราตรงไหน ทำไมยอดเทปของมันพุ่งเอาพุ่งเอา แต่กับเด็กของเรากลับไม่เป็นไปตามคาด” เจ้าของค่ายเอ่ยขึ้นก่อนเมื่อธีระนิ่งพักใหญ่

“ก็เทปเพิ่งวาง ผมว่าคุณเมทีรอดูอีกสักระยะไม่ดีกว่าเหรอ”

“จะให้ผมรอจนเทปจัสตินพุ่งสู่ล้านที่สามเลยหรือไง ธีระ นี่ตอนนี้บริษัทเราเป็นอะไร ทำไมอะไรๆมันถึงแย่ไปหมด”

“ใจเย็นก่อนสิ คุณเมที ผมว่าพอจบคอนเสิร์ตใหญ่ของเด็กนั่นแล้วคนก็คงจะหันมาสนใจฟิลิปบ้างแหละ”

“ผมไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น ที่ผมเร่งให้คุณปั้นฟิลิปขึ้นมาก็เพื่อต้านกระแสของจัสติน ไม่ใช่ตามกระแสจนเขาหมดความนิยมแล้วค่อยเบนมาหาเรา” 

ธีระนิ่งเงียบไปอีกครั้ง เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมงานที่เขาตั้งใจที่สุดอีกชิ้นหนึ่งถึงออกมาไม่โดน ทั้งๆที่ได้แรงผลักดันสนับสนุนจากเจ้าของค่ายในทุกๆด้านจนงานสำเร็จได้เร็วกว่ากำหนด
 
“แล้วโครงการที่เราจะจัดขึ้นที่ให้ฟิลิปเป็นต้นแบบในการค้นหานักร้องหน้าใหม่ล่ะ” 

ธีระถาม เมื่อคิดว่าผู้บริหารอย่างเมทีคงลืมไปแล้วเพราะเขายังไม่รับความคืบหน้าใดๆเลย

“ผมยังไม่ได้ลืมหรอก ธีระ”

เมทีบอกเหมือนจะรู้ใจชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะพูดต่อเมื่อธีระไม่ได้แย้งอะไร

“ตามที่ผมคาดไว้ว่างานของฟิลิปจะโดนใจตลาดในตอนนี้ แต่แล้วมันกลับผิดคาดยอดเทปมันวิ่งช้ามาก คุณรู้หรือเปล่า ธีระ ผมลงทุนกับงานชุดนี้ไปเท่าไหร่ บอกตรงๆยอดขายล็อตแรกผมค่อนข้างผิดหวังโครงการนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น”

“แต่เราแถลงข่าวไปแล้วนะ”

“แล้วมันจะยากตรงไหนล่ะ ขนาดคอนเสิร์ตเรย์ผมยังเคยสั่งพับมาแล้วเลย”

ธีระใจหายเมื่อคิดว่าเด็กของเขากำลังจะโดนเหมือนกับที่คนของพีรพลโดน แต่ยังไงเขาก็คงจะไม่ยอมง่ายๆ

“คุณเมทีคิดดีแล้วเหรอ เรย์กับฟิลิปต่างกันนะ เรย์เขาชั่วโมงบินสูงกว่ามาก เขาเก่งและสามารถรับเรื่องแบบนั้นได้อยู่แล้ว แต่ฟิลิปยังใหม่นะ ทั้งๆที่ตอนนี้จะเอาแค่ยอดขายแค่สองสามสัปดาห์มาวัดว่าเขาไม่ประสบความสำเร็จ คุณเมทีมองตื้นไปนะ”

“แต่การลงทุนระหว่างเรย์กับฟิลิปมันต่างกันมากคุณก็รู้ เรย์เราแทบจะไม่ได้ลงทุนอะไรเลย เขาขายชื่อเก่าเขาได้อยู่แล้ว แม้มันจะไม่ได้ดีนักแต่มันก็ไม่เจ็บตัวเท่ากับทุนที่หายไป”

“แต่ฟิลิปเพิ่งจะเริ่ม มันอาจจะเป๋ไปบ้าง คุณเมทีอย่าเพิ่งปิดโอกาสเขาสิ”

“ผมไม่ได้ปิดโอกาส ผมพูดว่าอาจจะ” 

เมทีมองธีระนิ่ง คนตรงหน้าต่างจากพีรพลมาก ถึงแม้พีรพลจะไม่ค่อยพอใจในความคิดเขาในบางครั้ง แต่ไม่ได้แสดงท่าทีที่แย้งได้ชัดเจนเท่ากับธีระตอนนี้

“อย่างงั้นก็เถอะ ผมขอยืนยันเลยนะว่า ยังไงซะฟิลิปต้องกู้วิกฤติมาให้เราได้อย่างแน่นอน”

ธีระบอกอย่ามาดมั่นจนเมทีหรี่ตาถามกลับ

“คุณจะทำยังไง”

“แค่เพียงให้โครงการที่เราเคยคุยกันไว้ไม่ถูกพับ ก็น่าจะช่วยได้บ้างนะ”

“อย่าลืมว่าทุกอย่างมันต้องมีการลงทุนนะ ธีระ”

“ข้อนั้นผมไม่ลืมหรอก แต่ผลงานที่ผ่านมาของผมมันก็ชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ เรื่องทำกำไรให้บริษัท” 

ธีระยกไม้ตายขึ้นมาอ้าง เมทีจะขัดอะไรเขาได้ในเมื่อทุกวันนี้กำไรที่เข้าบริษัทเกิดจากงานของเขาแทบทั้งนั้น

“เรื่องนั้นผมคงแย้งคุณไม่ได้หรอก ธีระ แต่เรื่องฟิลิปถ้ามันทำให้บริษัทเจ็บตัว ในฐานะผู้บริหารผมก็ต้องควบคุมในสิ่งที่มันจะเสียเปล่า”

“งั้นผมขอเสนออีกทางเลือกได้มั๊ย”

“อะไร”

“คอนเสิร์ตเปิดตัว” 

เมทีไม่อยากจะเชื่อหูที่ได้ยินธีระบอก ก็เขายังไม่ได้มองไปไกลขนาดนั้น

“ผมยังไม่ได้มองเรื่องนั้น”

“แต่มันเป็นสิ่งที่ต้องมี ถ้าคุณเมทีคิดจะปั้นฟิลิปจริงๆ ถ้าไม่มีคอนเสิร์ตใหญ่มันก็แปลกล่ะ”

“แต่กระแสตอนนี้มันยังไม่ได้”

“ไม่แปลกนี่ มันเป็นคอนเสิร์ตเปิดตัวเพื่อการโปรโมทไม่ใช่คอนเสิร์ตตามกระแส ข้อนี้คุณเมทีคงจะรู้ดีนะว่าต้องทำไง”

“ผมบอกแล้วไงว่าทุกอย่างมันต้องลงทุน ผมลงทุนกับงานของคุณกับเด็กของคุณไปเยอะ แทบจะเรียกได้ว่าเยอะที่สุดเท่าที่ทำเทปมา คุณจะให้ผมจัดคอนเสิร์ตใหญ่ให้ฟิลิปแล้วเกณฑ์พนักงานในบริษัทไปดูเป็นหน้าม้ารวมกับสมาชิกแฟนคลับค่ายเรางั้นเหรอ มันไม่คุ้มหรอกนะ”

“แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรปล่อยให้ฟิลิปลอยแพตัวเองแบบนี้ มันไม่ได้แย่ไปกว่าเหรอ ไหนๆเราก็มากันขนาดนี้แล้วลองอีกสักตั้งมันอาจจะได้ผลขึ้นมาก็ได้นะ” 

เมทีถอนหายใจเริ่มที่จะใจอ่อนอีกครั้งกับวิธีการชักแม่น้ำทั้งห้าของธีระ จริงอย่างที่ธีระบอกเขาทุ่มกับฟิลิปขนาดนี้แล้วจะปล่อยให้ลอยแพก็คงจะถูกค่อนแคะจากสื่อหนักกว่าที่เป็นอยู่ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาต้องทำก็คงต้องเดินหน้าให้มันไปถึงที่สุด
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 15-02-2008 18:55:26
มาลงชื่อว่ายังติดตามอ่านอยู่นะครับ จะติดตามไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะจบครับ   :m1:

ฟิลลิปแป๊กแล้ว แอบสะใจนิด ๆ  :oni2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 15-02-2008 19:30:10
มารอตอนต่อปายยย

thx ค๊าบบบบ

 :a12:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 16-02-2008 22:32:43
วันนี้ไม่มาเหรอ  :a6: T T
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 17-02-2008 13:18:48
วันนี้แอบย่องมาเงียบๆ อิอิ
==========================
ธีระใช้เวลาหลังเลิกงานไปปลดปล่อยอารมณ์เครียดที่รุมเร้าเขาจ ากการได้พูดคุยลับๆกับผู้บริหารอย่างเมที  ยังไงเขาก็ไม่มีวันที่จะปล่อยให้ฟิลิบโดนลอยแพ เหมือนๆกับที่เมทีทำกับศิลปินในค่ายหลายๆคนที่ส่อแววไม่รอดตั้งแต่ตอนเปิดตัว  เขาคงทนไม่ได้ที่จะเห็นคนของเขาที่เขาหมายตามาตั้งแต่แวบแรกที่เห็นในวันรับสมัคร จมไปต่อหน้าต่อตา  ใครจะรู้ว่าเบื้องลึกที่ฟิลิปก้าวเข้ามาถึงขั้นนี้ได้เขาเป็นตัวกำหนดทางให้เอง!!!!
 
ชายหนุ่มอาศัยเบื้องหน้าที่ดูสุขุมและเก่งรอบด้านในเรื่องของดนตรีพาตัวเอง มาเป็นมือขวาของเจ้าของค่ายได้โดยไม่มีใครหยั่งรู้ถึงเบื้องลึกในตัวตนที่แท้จริงของโปรดิวเซอร์หนุ่มอย่างเขา มีแต่เพียงบุคคลในสถานที่เที่ยวที่เขานั่งอยู่นี้เท่านั้นที่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาเป็นแบบไหนแต่ใครล่ะจะสนใจ เพราะน้อยคนนักที่จะสนใจคนเบื้องหลังมากกว่าคนเบื้องหน้า

สายตาของบาสจับจ้องอยู่ที่ธีระได้สักพัก ก่อนที่จะตัดสินใจเดินเข้าไปทัก เขาควรจะเริ่มต้นเสียทีที่จะทำให้จัสตินรู้สึกถึงความสูญเสียชื่อเสียงความนิยมและตำแหน่งซุปเปอร์สตาร์ให้กับฟิลิบเด็กของธีระ

“ไม่น่าเชื่อเลยนะ ว่าผมจะได้เจอโปรดิวเซอร์คนเก่งในที่เที่ยวแบบนี้ได้”

ธีระแปลกใจในเสียงทักทายก่อนที่คนทักจะนั่งลงที่ว่างข้างเขา

“เรารู้จักกันเหรอ” คนแปลกใจทัก บาสยิ้มนิดๆก่อนตอบ

“ไม่แปลกที่คุณจะไม่รู้จักผม  แต่จะแปลกมากถ้าผมจะไม่รู้จักโปรดิวเซอร์คนเก่งที่ชื่อธีระ”

“แล้วคุณชื่ออะไรล่ะ” ธีระเอ่ยถามในอารมณ์เครียดๆแบบนี้ได้เพื่อนคุยสักคนมันก็คงดี อีกอย่างคนที่นั่งข้างๆตอนนี้ก็ดูน่าคุยอยู่มิใช่น้อย

“ผมวรกาญจ์เรียกบาสก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก ผมอาจจะเด็กกว่าคุณนะ แต่โทษทีผมไม่ชอบเรียกใครพี่” บาสยื่นมือเป็นเชิงสานสัมพันธ์ให้กับธีระ

“ไม่ซีเรียส เพราะดูท่าคุณแล้วก็เป็นผู้ใหญ่ดี” ธีระตอบพลางยื่นมือไปสัมผัสกับบาส ทันทีที่มือเตะมือสองสายตาก็มองกันอย่างไม่ได้นัดหมาย บาสเป็นฝ่ายยิ้มล้อๆก่อนจะชักมือกลับ

“มือเย็นเชียวนะ”

“ก็ข้างในนี้มันหนาวนี่” ธีระบอกทั้งๆที่อารมณ์เริ่มจะหวิวๆกับคนตรงหน้าอยู่เหมือนกัน นานแล้วที่เขาไม่ได้ปลดปล่อยอารมณ์และความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง เพราะวุ่นวายอยู่กับการทำอัลบั้มเพลงของฟิลิปที่เป็นแค่ความสุขทางใจลึกๆของเขาเพราะได้อยู่ใกล้ชิดกับฟิลิปนานหลายเดือน

“มานานแล้วเหรอ” บาสเริ่มสนทนาธีระถอนหายใจก่อนตอบ

“ก็สองสามชั่วโมงได้”

“ท่าทางมีเรื่องให้คิดนะ”

“ก็นิดหน่อยงานแบบผมสมองไม่เคยได้ว่างอยู่แล้ว”

“ผมได้ฟังงานที่คุณทำให้ฟิลิปแล้ว ฝีมือใช้ได้เลยนะ เพราะดี”

“คิดอย่างงั้นเหรอเหรอ” ธีระยิ้มเยาะให้ตัวเองโดยไม่รู้ว่าบาสเองก็นึกพอใจที่เขาจี้ธีระได้ตรงจุด ชายหนุ่มจึงรุกต่อ

“ท่าทางคุณไม่ค่อยพอใจเลยนะ”

“ผมน่ะพอใจผลงานทุกชิ้นของผมแหละ แต่คนที่มีอำนาจมากกว่าต่างหากล่ะที่ผมอยากให้เขาพอใจ”

“คุณหมายถึงคุณเมที”

“ดูคุณจะรู้จักคนเยอะนะ”

“ก็ถ้าบังเอิญคุณเมทีไม่ใช่เจ้าของค่ายเทปอันดับหนึ่ง ผมก็คงจะไม่รู้จักหรอก”

“แน่ใจเหรอว่าค่ายเรายังเป็นที่หนึ่งอยู่”

“ทำไมล่ะ”

“คุณก็น่าจะรู้เหมือนกับที่คนทั้งประเทศรู้”

“นี่จัสตินทำให้ค่ายคู่แข่งอย่างเมทีสะท้านได้ขนาดนี้เชียวเหรอ”  บาสหัวเราะออกมาเป็นการจี้ที่ใจโปรดิวเซอร์หนุ่มอีกครั้งจนต้องบอกออกมา

“จะให้ทำไงได้ล่ะ เพราะตอนนี้อะไรก็คงจะฉุดจัสตินไม่อยู่ ขนาดว่าเคยมีข่าวว่าเป็นเกย์แอบซุกคู่ขาไว้ที่คอนโดหรูก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อความนิยมในตัวเขา” 

บาสนิ่งอึ้ง ในใจก็คิดถ้าเพียงแต่จัสตินไม่หลบหน้าตัดขาดจากเขาแบบนี้ ความลับของจัสตินก็คงจะเป็นความลับต่อไป แต่วันนี้ตอนนี้เขาคงไม่ปล่อยให้จัสตินไปมีความสุขกับชื่อเสียงที่พุ่งเข้ามาหา ในขณะที่ตัวเขาเองกลายเป็นแค่คนอื่น ในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจัสตินไม่ยอมเข้าใจและฟังเขา วินาทีหลังจากนี้เขาก็พร้อมที่จะทำลายอนาคตคนๆนั้นได้เหมือนกัน จัสตินกำลังมีความสุขสวยหรูในชีวิตซุปเปอสตาร์ ในขณะที่เขาต้องมานั่งเสียดายโอกาสที่เคยวาดไว้ว่าจะได้เสวยสุขกับเจ้าตัว แล้วเขาจะปล่อยให้เจ้าตัวสุขใจไปคนเดียวได้ยังไงกัน

“คิดอะไรอยู่เหรอ” ธีระถามเมื่อเห็นบาสนิ่งไปนาน

“อ๋อ กำลังคิดเรื่องข่าวของจัสตินน่ะ”บาสรีบบอก 

ธีระหรี่ตามองอย่างสงสัย ข่าวจัสตินมันเงียบไปนานแล้วจนเขาเองแทบจะลืม แต่ทำไมบาสถึงเริ่มสนใจมันขึ้นมา

“คุณยังอยากที่จะให้ฟิลิปขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งอยู่หรือเปล่า คุณธีระ” บาสถามจริงจัง รู้ว่าคนฟังแปลกใจในคำพูดตัวเอง ชายหนุ่มกำลังจะเริ่มเกมโค่นบัลลังค์ซุปเปอร์สตาร์ลงแล้ว

“ถามทำไมหรือ แล้วนี่คุณเป็นใครกันแน่วรกาญจ์”

“บอกแล้วไงว่าเรียกผมบาสก็ได้ มันดูสนิทกว่านะ เอางี้มั๊ยล่ะผมเป็นใครคงไม่สำคัญเท่ากับที่ผมกำลังว่างงานอยู่ตอนนี้หรอก”

“ผมนึกว่าคุณเรียนอยู่ซะอีก”

“จบมาสองปีแล้ว เป็นรุ่นพี่จัสติน” ได้ผลคำบอกนั่นของบาส ทำให้ธีระหันมามองเขาอย่างสนใจ

“นี่คุณกำลังจะบอกอะไรผมคุณบาส”

“ผมอยากร่วมงานกับคุณในฐานะผู้จัดการส่วนตัวของฟิลิป”  ธีระหัวเราะออกมาทันที นี่คนตรงหน้าคิดว่าการจะเป็นผู้จัดการศิลปิน มันจะเป็นกันง่ายๆโดยการสมัครกันที่บาร์ที่เป็นสถานที่เที่ยวเฉพาะกลุ่มอย่างนั้นเหรอ

“มันไม่ได้ง่ายไปหน่อยเหรอ คุณบาสเ ราเพิ่งเจอกันแล้วจะให้ผมเสนอให้คุณเป็นผู้จัดการฟิลิปเนี่ยนะ”

“มันก็ไม่ได้ยากนี่ถ้าเพียงตัวศิลปินยินดีและพอใจ”

“นั่นแหละคือเรื่องยาก  คุณเป็นรุ่นพี่จัสตินถ้าบอกว่าจะไปเป็นผู้จัดการให้นายจัสตินมันก็อาจจะดูง่ายกว่านะ  บอกผมสิว่าคุณสนิทกับฟิลิป”

“ผมไม่ได้สนิทและไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับฟิลิป  แต่ผมเชื่ออยู่อย่างว่าฟิลิปเชื่อคุณ  คงไม่ยากเกินความสามารถมั้งที่คุณจะทำให้ฟิลิปยอมรับผม”

“เหตุผลที่ผมต้องทำแบบนั้น”

“อนาคตซุปเปอสตาร์ของฟิลิป”  สองสายตามองกันนิ่งเหมือนหยั่งคิดความในใจกันและกันก่อนที่บาสจะเดินหน้าต่อเมื่อเห็นธีระเริ่มมีสายตาคล้อยตาม

“ผมเป็นรุ่นพี่จัสติน ความลับหลายอย่างที่คนทั้งประเทศไม่รู้ ก็ยังมีแต่ผมรู้เหตุผลแค่นี้พอมั๊ย”

“ข่าวแบบนี้คุณเอาไปเสนอขายที่ไหนก็ได้ แต่ทำไมคุณสนใจที่จะร่วมงานกับฟิลิป”

“บอกแล้วไงผมว่างงานอยู่ ไว้ใจผมเถอะธีระยังไงผมก็ไม่ยุ่งกับฟิลิปมากว่าที่ผมเป็นในฐานะผู้จัดการศิลปินหรอกเพราะผมมีเป้าหมายที่สำคัญกว่าอยู่แล้ว”

“อะไรคือเป้าหมายของคุณ”

“ไม่สำคัญหรอก  เอาเป็นว่าผมหวังดีกับคุณและฟิลิป บอกตรงๆตอนนี้ถ้าอาศัยแค่ตัวงานไม่มีทางที่ฟิลิปจะล้มจัสตินลงมาได้หรอก”

“อะไรทำให้คุณคิดแบบนั้น”

“บอกแล้วไงผมเป็นรุ่นพี่จัสติน  เสน่ห์ของเขามีมากกว่าการร้องเพลงอย่างฟิลิปตามเขาไม่ทันหรอก”

“ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดี  คุณจะทำเรื่องแบบนี้เพื่ออะไร ในเมื่อผลประโยชน์ใดๆคุณก็ไม่ได้รับ”

“ถ้าผมเป็นคนนอกผมก็จะไม่ยุ่งเรื่องนี้ จะปล่อยให้จัสตินเป็นเบอร์หนึ่งตลอดไปผมก็ไม่ได้ว่า  แต่ถ้าผมเป็นคนในเมื่อไหร่ในฐานะผู้จัดการของฟิลิป ทำไมผลประโยชน์กับการเป็นเบอร์หนึ่งของฟิลิปผมจะไม่ได้ล่ะ” ธีระมองสายตาร้ายๆของบาสก็นึกคิดตาม ถ้าบาสสามารถที่จะช่วยให้ฟิลิปขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งได้มันก็น่าที่จะลองดู

“แล้วคุณจะทำยังไงล่ะที่จะทำให้จัสตินลดความนิยมลงได้”

“ภาพพวกนี้ก็น่าสนไม่น้อยนะ หรือคุณว่าไง” 

บาสเลื่อนกล้องดิจิตอลที่เขาแอบถ่ายในทุกอริยาบทของจัสตินที่เคยหลับอยู่ข้างๆเขาให้กับธีระ ถึงแม้จะไม่ได้มีอะไรกัน แต่ภาพลับเฉพาะที่จัสตินนอนเปลือยท่อนบนเหลือแค่บ็อกเซอร์ติดกาย มันก็น่าที่จะสนับสนุนและกระพือข่าวที่จัสตินแอบไปหาเกย์คู่ขาให้แตกประเด็นขึ้นมาได้ หลังจากที่ทางค่ายพยายามปกปิดกันจนเงียบไป   

เรื่องคาวๆมันก็เป็นเรื่องที่ถนัดของนักข่าวอยู่แล้ว บาสเชื่อว่าถ้าภาพนี้เหล่านี้หลุดไปเมื่อไหร่ จัสตินก็คงจะเดี้ยงไปไม่น้อย

“สุดยอดคุณได้มันมายังไงบาส” 

ธีระตะลึงกับภาพลับที่เห็น แม้มันจะไม่เข้าข่ายอนาจารแต่ภาพเปลือยเปล่าแบบนี้ของคนที่กำลังดังระดับประเทศ ถ้าผสมผสานกับการเขียนข่าวที่ไปในทางลบจัสตินคงไปได้ไม่ไกลแน่ๆ

“มันไม่สำคัญหรอกว่าผมได้มายังไง เด็ดกว่านี้ผมก็หามาให้ได้ แต่ภาพพวกนี้จะถูกเผยแพร่ก็ต่อเมื่อผมได้ร่วมงานกับฟิลิปแล้วเราจะช่วยกันในการทำให้ฟิลิปก้าวเข้ามาแทนที่จัสติน”   

แววตาสองหนุ่มต่างวัยมองสบกันเป็นเชิงบอกถึงการมีเป้าหมายเดียวกัน ในเมื่อฟิลิปไม่สามารถเอาชนะจัสตินได้ด้วยตัวเอง ธีระเองก็คงจะไม่อยู่เฉยเหมือนๆกับบาสที่รอจะทำให้จัสตินรู้สึกว่าคิดผิดอย่างมากที่มาตีจากเขาไป และนี่มันก็เพียงบทเริ่มต้นถ้าเขาได้ก้าวเข้ามาวงการนี้เมื่อไหร่ จัสตินอาจจะต้องกระอักมากไปกว่าแค่ได้เห็นภาพลับของตัวเองออกสื่อ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 17-02-2008 19:15:41
อ่า สงสารจัสตินจัง คนเคยรัก ทำกันได้ลงคอ  :m15:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 18-02-2008 00:28:42
แบล๊คเมล์กันนี่หว่า

มารอลุ้นต่อปายยยย

 :m30:

หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 18-02-2008 13:40:22
มาต่อกันอย่างรวดเร็ว  :oni1:
============================
- 6 -

ภายในฮอลล์ที่มืดและเงียบสนิท แสงไฟหลากสีค่อยๆฉาบไปบนจอภาพขนาดใหญ่ที่ลอยเด่นอยู่เหนือเวที  ภาพทีเซอร์ตัวแรกที่ทำให้หลายคนรู้จักจัสตินค่อยๆฉายออกมาด้วยภาพใบหน้าคมใสกับแววตาคมกริบที่เคยดึงให้คนทั้งประเทศคลั่งใคล้เจ้าของภาพมาแล้ว  ทีเซอร์ตัวนี้ถูกนำกลับมาฉายอีกครั้งเพื่อเป็นภาพเปิดตัวสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบของเขา เพราะหลายฝ่ายลงความเห็นว่าภาพนี้น่าจะสะกดคนทั้งฮอลล์ได้ดีเหมือนที่เคยสะกดคนไทยทั้งประเทศมาแล้วเมื่อคราวทีมันออกฉายครั้งแรก   

ทีมงานคุมแสงสีเสียงส่งสัญญาณ พร้อมที่จะเนรมิตความตื่นตาตื่นใจและปลุกเร้าอารมณ์คนดูให้ส่งเสียงกรี๊ดต้อนรับซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งอย่างจัสติน กับการเผยโฉมบนเวทีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกอย่างอลังการสมกับที่ทุกคนรอคอยและเมื่อทีเซอร์ฉายจบไป 

เมื่อแสงพร้อม สีพร้อม เสียงพร้อม ทีมงานทุกฝ่ายพร้อม ดนตรีในจังหวะที่น่าจะเร้าคนดูให้ลุกฮือก็เริ่มขึ้น เหล่าแดนเซอร์ที่ถูกคัดเลือกมาอย่างดีและฝึกซ้อมมาอย่างหนักนานหลายเดือนต่างก็ออกวาดลีลาท่าเต้นที่พลิ้วไหวและแข็งแรงชวนให้สนุกตาม แล้วร่างเจ้าของคอนเสิร์ตก็ออกมายืนเด่นสง่าท่ามกลางสปอร์ตไลน์ที่สาดส่องส่งประกายไปที่เขาเป็นจุดเดียว 

ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนที่กำหนด  จัสตินตอกย้ำความเป็นซุปเปอร์สตาร์ได้อย่างภาคภูมิ   เด็กหนุ่มเริ่มร้องและเต้นไปตามจังหวะเสียงเพลงบนแสงสีเสียงและเวทีที่ยิ่งใหญ่ของเขา  คนที่นั่งดูอยู่เกิดอาการขนลุกอย่างเลี่ยงไม่ได้ตื้นตันที่จัสตินทำออกมาได้ดีจนไม่มีที่ติขนาดโชว์นี่เป็นแค่เพียงการซ้อมใหญ่ จัสตินยังทำได้ขนาดนี้ แล้วคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบรอบแรกจะเกิดขึ้นในอีก 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ทุกอย่างมันจะสมบูรณ์แบบขนาดไหน                     



บัตรคอนเสิร์ตถูกจับมาดูอีกครั้งเป็นรอบที่เท่าไหร่ เอมีนก็ไม่อาจที่จะตอบตัวเองได้ ในใจมันสับสนจนวุ่นวายไปหมดกับคอนเสิร์ตจัสตินกำลังจะเริ่มพรุ่งนี้  เด็กหนุ่มตอบตัวเองไม่ได้ว่าเขาจะไปดีหรือไม่ไป  ถ้าไปเขาจะไปเป็นคนที่สนิทจัสตินแบบไหน ในเมื่อเด็กหนุ่มเชื่อว่ารอบด้านที่นั่งข้างๆเขาล้วนแล้วแต่เป็นคนที่จัสตินอยากให้มาเป็นพิเศษแล้วเขาล่ะเป็นใคร? แต่ถ้าไม่ไปคอนเสิร์ตใหญ่ที่จะได้ใกล้ชิดจัสตินขนาดนี้ มันก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ

“โอ้ย ทำไมฉันถึงต้องอยากที่จะไปดูนายด้วยนะจัสติน” 

เอมีนโยนบัตรในมือทิ้งลงบนที่นอนอีกครั้ง ทั้งๆที่รู้ว่าอีกไม่นานเขาก็ต้องหยิบมันมาดูอีกจนได้  ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ยิ้มออกมาอย่างนึกขึ้นได้ ไม่รอช้าคนคิดได้รีบคว้าบัตรคอนเสิร์ตตัวปัญหาแจ้นออกจากห้องเพื่อไปแลกกับบัตรของเขาที่ซื้อมาแล้วให้เพื่อนไป

             

“เยี่ยมมากจัสติน อย่างนี้คอนเสิร์ตพรุ่งนี้ต้องเป็นคอนเสิร์ตที่น่าจะประทับใจแน่ๆ”

อิ๋งอิ๋งบอกจัสตินเมื่อเสร็จสิ้นการซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้าย ในใจก็นึกห่วงที่เห็นจัสตินทุ่มซ้อมหนักจนไม่มีเวลาปลีกตัวไปไหน  แต่ผลที่ออกมามันก็น่าพอใจอยู่มากทีเดียว

“เธอทำให้ทุกคนหายห่วงได้ขนาดนี้ วันนี้เป็นโอกาสแล้วนะจัสตินที่เธอจะมีอิสระอยากทำอะไรตามใจ” 

จัสตินยิ้มน้อยๆให้ผู้จัดการ  ตอนนี้เวลามันไม่สำคัญสำหรับเขาแล้ว เขาไม่มีใครให้ไปหาตั้งแต่ที่เขาหันหลังให้กับบาส

“อ้าว ท่าทางเหมือนไม่ดีใจเลยนะ จัสติน”

“ก็ผมไม่รู้จะไปใหนทำอะไรนี่ พี่อิ๋ง”

“เฮ้ย นี่พวกเราทำให้เธอเสียเพื่อนไปมากขนาดนั้นเลยเหรอ”

อิ๋งอิ๋งหมายถึงตัวเองและทางค่าย แต่จัสตินกลับยิ้มส่ายหน้า

“ไม่หรอก พี่อิ๋ง ผมรู้ว่าทุกคนหวังดีกับผมทั้งนั้นแหละ เมื่อก่อนผมอาจจะรั้นไปบ้างแต่ตอนผมพอจะเข้าใจหลายๆอย่างแล้วล่ะ”

“ดูเธอโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะ”

“ประสบการณ์มันสอนผมมั้ง”

“ดีแล้วล่ะหนทางของเธอยังอีกไกลนะ”

“คงไม่แล้วล่ะพี่อิ๋ง”

“หมายความว่าไง”

“จบคอนเสิร์ตนี้แล้ว ผมคงต้องกลับไปทำหน้าที่ที่ผมทิ้งมาซะที”

“เธอคงไม่ได้หมายความว่าจะเลิกร้องเพลงนะ”

“ก็อาจจะ”

“บ้าไปแล้ว นี่เธอคิดอะไรอยู่ เส้นทางที่สวยหรูกำลังเปิดรับเธอนะ  เธอจะทิ้งมันไปได้ไงหรือว่ากลับไปคืนดีกับคู่ขาเธอแล้ว”

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น ผมเหนื่อยผมอยากพักแค่นั้นเอง”

“จะพักก็ไม่มีใครว่า แต่เธอจะเลิกร้องเพลงไม่ได้ทางค่ายเขาไม่ยอมเสียเธอไปง่ายๆหรอก” 

อิ๋งอิ๋งบอกอย่างเด็ดขาด รายได้ของจัสตินมีผลเฉลี่ยให้เธอไม่น้อย เผลอๆอาจจะมากกว่านักร้องบางคนที่ออกเทปแล้วแป้กเสียด้วยซ้ำ

“แต่ผมอาจจะดังแค่ชุดนี้ชุดเดียวก็ได้นี่ พี่อิ๋ง”

“ไม่มีทาง เธอมีทุกอย่างไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตาเสียงร้องการแสดงออก เธอก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร  เธอมาถูกทางแล้วนะจัสติน เชื่อพี่เลิกคิดซะเรื่องเลิกร้องเพลง”

“ผมก็ยังยืนยันนะว่าผมรักงานนี้ แต่ตอนนี้ผมเหนื่อยผมท้อมากๆ  ผมรู้ว่าผมเป็นอะไรในขณะที่คนทั่วไปสงสัยจนผมวางตัวไม่ถูก  ผมยอมรับว่าผมไม่หนักแน่นพอที่จะรับกับข่าวซุบซิบพวกนี้ได้”

“ตราบใดที่เธอปฎิเสธหัวชนฝา ใครเขาจะมาง้างเอาความจริงจากปากเธอได้ ตอนนี้เกย์ครึ่งค่อนวงการเขาก็ใช้วิธีนี้กันทั้งนั้น ทั้งๆที่บางคนเดินบอกสปีชี่ส์ตัวเองมาตั้งแต่ร้อยเมตรก็ยังจีบปากเถียงคอเป็นเอ็นว่าตัวเองแมนทั้งแท่ง  อย่างเธอจะกลัวอะไร เอาแว่นขยายมาส่องก็หาความเป็นเกย์ไม่เจอ เชื่อพี่สิ”

“แต่ผมก็รู้ตัวเองว่าหลอกใครต่อใครอยู่นี่”

“โอ้ยเธอจะไปแคร์อะไรนักหนา เอาเป็นว่าตอนนี้พี่ว่าเธอกำลังสับสน เอางี้วันนี้อยากทำอะไรทำพี่ให้อิสระเต็มที่แต่ก็ระวังหน่อยก็แล้วกัน เพราะตอนนี้ไอ้พวกปาปารัชซี่มันแฝงตัวอยู่ทุกซอกตึก เผลอเมื่อไหร่เป็นได้ลงหน้าแฉแหลกแน่” 

อิ๋งอิ๋งตบใหล่ให้กำลังใจ แต่ก็ไม่วายที่จะเตือนด้วยความหวังดี เพราะถ้าจัสตินล่มเธอเองก็จะจมไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 18-02-2008 16:13:16
วุ่นวายยยยยยยยยยแน่ๆ บาสยื่นมือมาแบบนี้
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 18-02-2008 20:04:24
กำลังแอบสงสัยว่า ภาพมันจะปล่อยออกมา เช้าวันแสดงคอนเสิร์ตพอดีน่ะสิ จัสตินไม่มีสมาธิแน่นอน

แต่เอ๊ะ ถ้าภาพโดนปล่อยออกมา จัสตินก็รู้น่ะสิว่าใครเล่นงานตัวเอง

เอมีนกับจัสติน เมื่อไหร่จะญาติดีกันเนี่ย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกลิงตัวอ้วน ที่ 19-02-2008 02:14:16
 :serius2:

มาต่อเถอะครับ นะ นะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 19-02-2008 10:57:04
มารอ ร้อ รอ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 19-02-2008 22:12:06
แวะมาบอกว่า จะหายหน้าไปหลายวันนะครับ

เนื่องจากต้องไปประชุมและสัมมนาที่อื่น เป็นเวลา 5  วัน

กลับวันจันทร์แน่ะ แต่จะเอาไฟล์ไปด้วย
ถ้าโอกาสอำนวยจะรีบมาโพสต่อนะ

สำหรับตอนต่อไป จะจัดให้พรุ่งนี้แต่เช้าเลยครับ

คืนนี้มาแอบดัน อิอิ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกลิงตัวอ้วน ที่ 20-02-2008 00:14:19
อ่านะครับ นึกว่าจะมาต่อ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 20-02-2008 08:36:37
โชคดีกับการทำงานนะครับ แล้วผมก็จะรออ่าน การหักเหลี่ยมกันต่อไปครับ  :m4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 20-02-2008 11:58:13
 :sad2: มะเห็นมาเลย เค้ารอตั้งแต่เช้าแล้วอ่ะ  :o12:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 20-02-2008 13:00:58
มาแล้วๆทั่นพี่ มารายงานตัวกะทั่นพี่ซะที

แอบมาเชียร์เอมีนกะจัสติน
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 20-02-2008 13:11:52
มาแล้วครับ โทษที พอดียุ่งๆนิดหน่อยครับ
=========================
เอมีนฮัมเพลงของจัสตินยืนรอลิฟท์อย่างอารมณ์ดี เมื่อหาทางที่จะไปดูคอนเสิร์ตจัสตินได้อย่างไม่อึดอัด  เพื่อนตัวดีของเขาคงกรี๊ดสลบถ้าได้เห็นว่าบัตรที่เขาเอามาแลกคืนบัตรใบเดิมเป็นถึงบัตรวีไอพี  

ขณะยืนอารมณ์ดีอยู่นั้น พลันสายตาที่เหลือบไปเห็นคนสองคนที่เดินคู่กันมาอย่างดูสนิทสนม คนมองเห็นรีบแจ้นไปหลบที่โต๊ะ รปภ ก่อนที่คนทั้งสองจะเปิดประตูคอนโดเขามายืนรอลิฟท์ตรงจุดที่เขายืนรอมาก่อน

“อะไรกันน่ะ คุณ” รปภ ก้มถาม ขณะที่เอมีนผลุบๆโผล่ๆอยู่ระหว่าง Counter
 
“คนนี้มาบ่อยป่าว พี่”

เอมีนตัดสินใจถาม รปภ ที่ขยับหลบหลีกให้เขาผลุบโผล่ได้ถนัด เมื่อเขาเห็นแล้วว่าคนที่เขาแอบมองพฤติกรรมอยู่คือ ธีระ แต่กับอีกคนนั้นเขาไม่รู้จัก

“ใคร” รปภ ถามกลับ เอมีนจึงโผล่หัวขึ้นไปอีกรอบแล้วผลุบกลับมาที่เดิมบอก

“ก็คนนั้นนะ สูงๆเข้มๆ ไม่ใช่ไอ้ตี๋หน้าขาวใส่เสื้อรัดๆนั่นนะ”

“อ๋อ เห็นสองสามครั้งแล้ว คนเดี๋ยวนี้เป็นไรไม่รู้ ผู้ชายก็ดั้นชอบผู้ชายด้วยกัน ดูซินั่น อีกคนน่ะพักอยู่ที่นี่แหละ ควงคนมาไม่ซ้ำหน้าเลย แต่คนนี้เห็นบ่อยหน่อยอยากดูอะไรเด็ดๆหรือเปล่าล่ะ”  

เอมีนสะอึกนี่ถ้าอีตานี่รู้ว่าคนที่มุดอยู่ใต้หว่างขามันเป็นเกย์เหมือนกัน มันจะเตะกระเด็นหรือเปล่า แต่ประโยคท้ายๆที่บอกว่ามีอะไรเด็ดๆทำให้คนสะอึกเงยหน้าถามอย่างสนใจ

“อะไรอ่ะพี่”

“ก็ตอนดึกๆ ไอ้คู่นี้มันชอบแสดงหนังสด ดูดปากกันโจ๋งครึ้มผมก็เลยแชะไว้ในโทรศัพท์ซะเลย”  

เอมีนมึนไปชั่วขณะ นี่สิ่งที่เขาสงสัยในสายตาที่สองคนมองกันเมื่อซักครู่มันเป็นเรื่องจริงเหรอ ไม่อยากจะเชื่อ ธีระเป็นเกย์!!!!! แต่เอ๊ะไอ้รปภนี่มันถ่ายเอาไว้ทำไม ไหนบอกว่าเป็นของแปลกไงแต่ช่างเถอะ เอมีนสลัดความคิดอยากจะเห็นภาพเด็ดนั่นเต็มทนแต่

“ซวยสิกูคุณไปได้แล้วเจ้าของคอนโดมา”  รปภ ออกปากไล่ก่อนจะยืนเสนอหน้า  

ไอ้บ้าเอาหน้านักนะมึงเอมีนค้อนในใจ นึกเสียดายที่ไม่ได้ดูภาพนั้น แต่ก็จำยอมรับหลบไปทางอื่นไม่อยากให้ตานี่เดือดร้อนไว้ขากลับค่อยแวะมาดูก็คงจะไม่สาย…..



“เพื่อความสำเร็จของคุณ ธีระ” บาสยกแก้วไวน์ชนกับแก้วของธีระที่ยิ้มรับรอความหายนะของจัสติน  

พรุ่งนี้คอนเสิร์ตใหญ่รอบแรกจะเริ่มต้นพร้อมกับภาพลับที่เตรียมจะตีแผ่ไล่ๆกัน บาสส่งภาพพวกนั้นให้ถึงมือสื่อเรียบร้อยแล้ว  สื่อทุกฉบับต่างก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นจัสตินในสภาพแบบนี้ จึงเตรียมที่จะละเลงข่าวตามใบสั่งของบาสทุกอย่าง คนที่มีคนรักมากก็ต้องมีคนที่เกลียดมากเป็นเงาตามตัว จัสตินเองก็เหมือนกันหนังสือทุกฉบับต่างก็เชื่อว่าข่าวคาวๆของน่าจะขายได้มากกว่าข่าวดีๆที่ได้อ่านจนชินตา

“สำหรับคุณด้วย บาส ยินดีที่เราได้ร่วมงานกัน ความสำเร็จของฟิลิปก็เหมือนความสำเร็จของคุณในฐานะผู้จัดการศิลปิน”ธี

ระเอ่ยยิ้มๆไม่มีเหตุผลที่เขาจะปฎิเสธข้อเสนอของบาส เพื่อแลกกับความสำเร็จของฟิลิป  วันนี้บาสได้เข้ามาดูแลคิวงานและจัดการเรื่องทุกๆอย่างให้ฟิลิปแล้วอย่างที่เขาต้องการ

“ยินดีมากๆ”

สองหนุ่มยกไวน์ขึ้นจิบ สายตาก็มองกันอย่างดูดดื่ม ไม่มีอะไรที่จะเสียเมื่อสองความต้องการที่ตรงกันอยู่ภายใต้บรรยากาศที่เป็นใจ ธีระกับบาสจึงไม่อาจที่จะปฎิเสธอารมณ์ใคร่ส่วนลึกของตัวเอง บทรักเร่าร้อนจึงเริ่มต้นขึ้นภายใต้แสงสลัวของไฟในห้องหรูของบาส
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 20-02-2008 15:46:51
ไปสัมนา ถ้าว่างๆอย่าลืมเอามาลงน่ะค้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 20-02-2008 21:21:34
น่าติดตามมากๆครับ รออ่านอยู่นะ
เมื่อไหร่เอมีน กับจัสตินจะมาเจอกันอีกรอบหละเนีย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 20-02-2008 22:17:13
ลุ้นครับ คุณบอยเขียนนิยายได้น่าติดตามจริง ๆ   :m1:

ขอบคุณคนปล่อยด้วยครับ   :oni2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 21-02-2008 00:57:09
มารออ่านต่อค๊าบบบ

thx  :mc4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 24-02-2008 13:58:58
เหอะๆ ง่วงจัง
ไม่มีอะไรทำ เลยมาแอบดันกระทู้ตัวเอง
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 24-02-2008 16:51:49
หงะ นึกว่ามาต่อ  :a5:  :sad2: 
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 24-02-2008 22:03:45
ยังไม่มีตอนต่อไปหรอ T-T

 :m15:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 25-02-2008 01:12:22
รอ ร๊อ รอครับ ชอบเรื่องนี้มากมาย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 25-02-2008 01:45:57
 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:

มาตามไปทายหนัง

เอิ๊กซ์......
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 25-02-2008 13:09:18
มาต่อแล้วววววววครับ อู้นานไปหน่อย
เหน็ดเหนื่อยมากมาย
=============================
“เออให้มันได้อย่างนี้สิ ชีวิตกูทำอะไรไม่เคยสำเร็จเลย เซ็งโว้ย”

เอมีนเดินเตะเท้าไปตามทางอย่างเซ็งๆ เอาบัตรไปแลกเพื่อนก็โดนปฎิเสธ เพราะเพื่อนเองแม้จะตื่นเต้นขนาดไหนแต่ก็ยังแหยงๆที่จะไปนั่งที่ตรงนั้น ลงมาจะขอดูรูปจาก รปภ พี่ท่านก็ออกกะเรียบร้อย

เด็กหนุ่มเข้าไปนั่งร้านก๋วยเตี๋ยวริมทางแก้เซ็ง แต่จริงๆท้องก็หิวไม่น้อย ยังไม่ทันที่จะสั่งอะไรด้วยซ้ำ ก็ต้องหันไปสนกับภาพชุลมุลวุ่นวายของกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่เหมือนกำลังรุมล้อมอะไรบางอย่างอยู่ เสียงใสๆแต่ชวนแสบแก้วหูดังแทรกสายลมมาเป็นระยะๆเรียกความสนใจออกเป็นวงกว้าง ที่แม้แต่แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวยังชะเง้อมองว่าเกิดอะไรขึ้น 

ร่างสูงๆของจัสตินที่พยายามแหวกกลุ่มแฟนคลับเพื่อที่จะกลับไปที่รถ หลังจากที่ลองแวะเข้าไปร้านสะดวกซื้อริมทางไม่คิดว่าตัวเองจะโดนรุมทึ้งได้ขนาดนี้ ก็ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าในร้านนั่นแหละ เด็กหนุ่มไม่สามารถที่จะซื้ออะไรได้จึงรีบออกมา แต่ก็ไม่พ้นกลุ่มสาวๆที่เฮโลเข้ามาประชิดตัวทางนอกร้าน 

เอมีนมองภาพนั้นอย่างนึกเห็นใจ แต่ลึกๆก็ดีใจแทนที่จัสตินยังมีคนรักเหนียวแน่น แม้ช่วงหนึ่งจะโดนกระแสข่าวเกย์กระหน่ำ  เด็กหนุ่มหลบสายตาวูบเมื่อจัสตินหันมาสบสายตาเขาเข้าพอดีรู้สึกเหมือนจะเห็น จัสตินชะงัก แต่เค้าก็ไม่อยากที่จะสนใจรีบลุกออกจากโต๊ะเดินหนีไปโดยไม่รู้ว่ามีสายตาจัสตินมองตาม


ถนนเข้าซอยค่อนข้างเงียบเมื่อล่วงเวลามาครึ่งค่อนคืน แสงไฟที่สาดส่องมาทางด้านหลังทำให้เอมีนหันไปมอง แต่ต้องตกใจกระโจนเข้าริมทาง เมื่อรถเก๋งคันหรูเหมือนจะตั้งใจพุ่งมาที่เขา ดีแต่คนขับเบรกมันเอาไว้ก่อนที่เขาจะหัวใจวายไปซะก่อน

“มึงนะมึง” เอมีนสบถเมื่อรู้ว่าเป็นรถใคร จึงตั้งใจที่จะเดินไปเอาเรื่อง

“เฮ้ยเปิดประตูนะโว้ย” เด็กหนุ่มตะคอกพลางทุบกระจกรถ จัสตินค่อยๆเลื่อนกระจกตีหน้าตาย
 
“กลัวตายหรือไง นายไม่ต้องห่วงหรอก เรายังไม่อยากติดคุก”

“อ๋อ ที่แท้นายก็แกล้งกันใช่มั๊ย”

“จะคิดอย่างงั้นก็ได้ อุตส่าห์ห์สะกดรอยตามมาทั้งคืน เห็นโอกาสเหมาะก็เอาซะหน่อย” จัสตินยักไหล่อย่างไม่สะท้านในสายตาเอาเรื่องของคนที่กำลังจ้องหน้า

“นายนี่มันโรคจิตหรือบ้าวะเนี่ย แล้วตามเรามาทำไม” เอมีนว่าออกไปอีก

“นี่ไม่ได้พิสวาสอะไรหรอกนะ ก็แค่หาอะไรทำแก้เซ็ง” จัสตินสวนกลับ แต่ก็เอ่ยด้วยแววตาหม่นๆ จนอีกคนนึกคิดว่าชีวิตคนดังมันมีอะไรให้เครียดนักหนา

“ขึ้นมาสิไปส่ง  บ้านนายไปอีกลึกป่าว” จัสตินบอกในที่สุด เอมีนไม่อาจที่จะขัดได้เพราะซอยก็เปลี่ยวอยู่เหมือนกันจึงยอมเข้าไปนั่งคู่คนบอก

“ชื่อไรไม่เห็นเคยบอกเลย” จัสตินถามรู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้เอมีนแบบนี้ ทั้งๆที่ตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไม

“นายจะรู้ไปทำไม”

“เฮ้ยถามก็ตอบสิวะ”

“เอมีน” เอมีนตอบห้วนๆเมื่อโดนตวาด เด็กหนุ่มนึกแขวะฝ่ายนั้นว่าคนอะไรยังไม่ได้สนิท ก็ทำท่าวางอำนาจใส่เขาซะแล้ว

“ชื่อแปลกดี ยินดีที่ได้รู้จัก”

“อืม ผมต้องยินดีด้วยป่าว”

“ก็แล้วแต่คุณล่ะ” จัสตินประชดรู้สึกไม่ชอบที่เอมีนพูดเป็นทางการกับเขาจนต่างคนต่างเงียบ กระทั่งรถที่นั่งกันมาแล่นมาจนถึงหน้าห้องพักที่เป็นตึกสิบชั้นไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ดูดีในความเรียบง่าย

“ถึงแล้วจอดเหอะ” เอมีนบอกจัสตินจึงจอดรถแล้วมองเข้าไปในตัวตึก

“น่าอยู่จังอยู่คนเดียวเหรอ”

“ประชดหรือเปล่า มันไม่ได้หรูหราเหมาะกับซุปเปอร์สตาร์อย่างนายหรอกนะ”

“ว่าคนอื่นประชด แล้วที่นายพูดมันหมายความว่าไง”  จัสตินมองเอมีนดุๆอีกครั้ง จนคนถูกมองถอนหายใจก่อนจะบอก

“เออๆ ขี้เกียจคุยกะนายว่ะ ขอบใจที่มาส่งไปล่ะ”

“เฮ้ยเดี๋ยวดิ” จัสตินเรียกไว้

“อะไรอีกคุณ”

“ตกลงพรุ่งนี้จะไปมั๊ย”

“ไปใหน”

“ก็คอนเสิร์ตผมไง”

“อยากให้ไปหรือเปล่าล่ะ” เอมีนลองแหย่จัสติน แต่คำตอบที่ได้ก็ทำให้อึ้ง

“จริงๆถ้าไปได้ก็อยากให้ไปนะ อย่างน้อยเราก็รู้จักกันแล้วนิ”

“เออ ถ้าเห็นก็แสดงว่าไปละกัน” เอมีนรีบบอกปัด เอาเข้าจริงก็ไม่กล้าที่จะสบสายตาของจัสติน คนอะไรยิ่งอยู่ใกล้ใบหน้าเนียนใสนั่นยิ่งทำให้เขาใจหวิวๆขึ้นมาจนแทบจะคุมอาการไม่อยู่

“ตอบกวนดีนิ โอเค เห็นก็ไปไม่เห็นก็แสดงว่าไม่ไป”  เอมีนไม่อยากที่จะจับน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความน้อยใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถาม

“เฮ้ยนายโกรธเหรอ”

“ทำไมต้องโกรธ เราเป็นอะไรกันล่ะ”  เด็กหนุ่มหน้าชาขึ้นมากับคำตอบที่ได้ยินนึกโกรธตัวเองขึ้นมาทันที ไม่น่าปากพล่อยถามเลยจริงๆ

“อืมก็ไม่มีไร แค่ถามดูนายเป็นใครเราเป็นใครก็น่าจะรู้ๆกันอยู่”  เอมีนพูดเสียงสูงปกปิดอารมณ์ตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าจัสตินจะดูไม่ออก เขาจึงบอกออกไปตามความรู้สึก

“แต่ก็จะรอนะ”
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 25-02-2008 13:34:09
อยากอ่านต่ออะ...

 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 25-02-2008 20:20:20
ขอบคุณค๊าบ

คู่นี้น่าลุ้น = =

 :m24:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 25-02-2008 20:22:08
ไม่อยากจะนึกถึงวันรุ่งขึ้นเลย  :m15:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: อาจารย์..สีฟ้า ที่ 25-02-2008 20:38:17
เห็นด้วยกับรีฯ บน

 :o12: :o12:
มาต่อเร็วๆๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 25-02-2008 23:46:18
รอ ร๊อ รอ นะครับ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 26-02-2008 13:53:53
ต่อๆกันเลย เฮ้อ ง่วงเหงา หาวนอน
===================================
รุ่งเช้าค่ายเทปของจัสตินต้องป่วนกันอย่างหนัก เมื่อภาพลับของจัสตินถูกเผยออกมาทางสื่ออินเตอร์เนทเป็นสื่อแรก ฝ่ายประชาสัมพันธ์ถึงกับกุมขมับ รับสายโทรศัพท์กันวุ่นวายจากบรรดาแฟนคลับที่อยากรู้ถึงที่มาที่ไปของภาพดังกล่าว

ในขณะที่คนในภาพยังคงซักซ้อมคิวการแสดง ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองกำลังตกเป็นข่าวซุบซิบทางสังคมอีกรอบ  มีแต่เพียงอิ๋งอิ๋งเท่านั้นที่ช็อคกับสิ่งที่ทางต้นสังกัดรายงานมา จนต้องวิ่งเต้นหาข้อเท็จจริงร้อนรนจนคนยังไม่รู้อะไรผิดสังเกต

“เป็นอะไรพี่อิ๋ง ดูรนๆยังไงชอบกลนะวันนี้”

“ปะเปล่า ไม่มีอะไรแล้วนี่ซ้อมเสร็จแล้วเหรอ” อิ๋งอิ๋งบอกปัด จะให้บอกคนตรงหน้าได้ยังไงล่ะ ว่าเธอกำลังรอลุ้นคำตอบจากเพื่อนสนิทที่ให้เช็คข่าวและที่มาของภาพนั้นอยู่

“ให้ผมพักบ้างสิ เดี๋ยวถึงเวลาจริงๆหมดแรงขึ้นมาทำไง” จัสตินบอกล้อๆ พอดีกับที่โทรศัพท์อิ๋งอิ๋งดังขึ้นมา เธอจึงรีบเลี่ยงไปรับสายที่อื่น เพราะยังไม่อยากที่จะให้จัสตินรับรู้

“ว่าไง เป็นไงบ้าง”

“ตาลุกน่ะสิ ยัยอิ๋งชัดเจนแจ่มแจ้งทุกช็อต นี่ถ้าเอาไปรวมเล่มขายนะเ ธอเอ้ย มีสิทธิดังกว่าร้องเพลงอีกนะฉันว่า”

“แล้วภาพมันน่าเกลียดมั๊ยอ่ะเจน”

“มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอก แต่ไอ้ตรงที่มันเขียนมาว่าเป็นภาพตอนเสร็จกิจกับคู่ขาจนแผ่หราหมดแรงนี่สิ ฉันอยากจะกรี๊ด”

“ใครมันช่างเลวปล่อยข่าวแบบนี้ออกมาเนี่ย ต้องการทำลายกันชัดๆ รู้ก็รู้ว่าคอนเสิร์ตจัสตินกำลังจะเริ่มอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมง”

“แล้วจะกลัวอะไรล่ะ อิ๋ง บัตรก็ขายเกลี้ยงแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ฉันน่ะไม่ได้กังวลเรื่องนั้นเลยนะ แต่ตอนนี้จัสตินเขากำลังอ่อนไหวและสับสนกับเรื่องพวกนี้อยู่ เกิดเขารู้เรื่องขึ้นมาก็จบกันเลยนะ วันเวลาที่ซ้อมกันมาคอนเสิร์ตที่น่าจะประทับใจ มันต้องกลายเป็นห่วยแตกแน่ๆ”

“จะกลัวอะไรล่ะ ถ้าเด็กของเธอไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวมันออกมา”  อิ๋งอิ๋งอึ้ง

นี่ถ้าจัสตินไม่ได้เป็นเกย์และก่อนหน้านี้ไม่เคยคบหากับผู้ชายมาก่อน เธอก็คงจะมั่นใจว่าข่าวนี่มั่วร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่นี่เธอเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าจัสตินเป็นอะไรจะให้เธอคิดแบบเพื่อนคงไม่ได้

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คอยดูนะ ฉันจะให้ทางค่ายเล่นงานคนปล่อยข่าวให้ถึงที่สุด ทำแบบนี้มันแกล้งกันชัดๆ”

“ฉันว่าตอนนี้เธอทำให้เด็กเธอไม่ให้รู้เรื่องนี้ให้รอดก่อนดีกว่า เดี๋ยวก็พาลเล่นคอนเสิร์ตไม่ได้เรื่อง ฉันไม่อยากเสียดายเงินนะยะ” 

อิ๋งอิ๋งถึงกับเครียด เธอไม่ได้มีอำนาจบาทใหญ่พอที่จะไล่ตามปิดปากชาวบ้านกว่าร้อยชีวิตในทีมคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้ทุกคน เธอจะทำยังไงถ้าจัสตินรู้ว่าภาพลับตัวเองถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกอินเตอร์เนทในตอนนี้

จัสตินเริ่มผิดสังเกตในการซักซ้อมคิวกับแดนเซอร์เมื่อเห็นสายตาทุกคนเริ่มมองเขาแปลกๆ เด็กหนุ่มซ่อนความอยากรู้ไว้ในใจ จนได้เวลาที่เขาจะต้องเก็บตัวแต่งหน้าทำผม เมื่อเวลามันใกล้เขามาจวนจะถึงการแสดง   

ที่ด้านนอกฮอลล์ แฟนคลับเริ่มทยอยกันมารอเต็มพื้นที่จนสถานที่แคบไปถนัดตา บ้างก็ร่วมเล่นกิจกรรมชิงของรางวัลมากมาย บ้างก็นั่งรอจับกลุ่มคุยกัน บรรยากาศดูคึกคักกับเสียงเพลงของจัสตินที่พร้อมใจกันเปิดกันแทบจะทุกบู้ธกิจกรรม   

เอมีนขนลุกกับภาพที่ผู้คนแห่กันมาชมคอนเสิร์ตของจัสตินจนแลดูหนาตา ดูทุกเพศทุกวัยตั้งใจกันมาเต็มที่ที่จะสนุกไปกับงานครั้งนี้ และเมื่อเจ้าหน้าที่บอกเตรียมที่จะเปิดประตู ความโกลาหลเล็กๆก็เกิดขึ้นเมื่อต่างคนต่างเบียดเสียดเข้าคิวต่อแถวกันยาวเหยียดส่งเสียงกันอื้ออึงตามระดับชั้นของราคาบัตร คนขนลุกเก้ๆกังเขาเห็นอยู่แล้วว่าช่องทางเข้าของบัตรวีไอพีอยู่ตรงหน้าแต่เด็กหนุ่มกลับก้าวขาไม่ออก 

จริงอยู่เขามีบัตรนั่นอยู่ในมือ แต่ในส่วนลึกมันกับหาคำตอบไม่ได้ว่าควรจะเข้าไปยังไง ในเมื่อเกิดมาไม่เคยสนิทชิดเชื้อกับศิลปินคนไหนขนาดได้บัตรพิเศษแบบนี้มา

“มีอะไรให้ช่วยมั๊ยคะ” หญิงสาวที่ห้อยป้าย STAFF ไว้ที่คอเข้ามาทักเขา คงเห็นเขายืนลังเลที่จะตัดสินใจอะไรไม่ได้อยู่ละมั้ง เอมีนยิ้มแห้งค่อยๆแสดงบัตรคอนเสิร์ตในมือให้ดู
 
“ไม่เห็นต้องอายเลยนี่คะ ขอเชิญทางนี้ค่ะ”  STAFFสาวเอ่ยนำเขาไปที่ทางเข้า เอมีนรู้สึกหายกลัวจึงตามเข้าไปจนสามารถถึงที่นั่งที่อยู่โซนกลางด้านหน้าเวทีที่มองเห็นทุกอย่างได้รอบด้าน ถ้าไม่ติดที่ว่าตอนนี้บนเวทีปิดไฟมืดสนิท เขาคงจะมองเห็นความยิ่งใหญ่ของเวทีที่ได้มากกว่านี้

หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 26-02-2008 14:30:52
คราวนี้แหละ.......จัสติน ตกที่นั่งลำบากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 26-02-2008 15:44:40
เอมีน ไปนั่งที่วีไอพี จะตกเป็นข่าวคู่กะ จัสติน มั้ยเนี่ย  :m24:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 26-02-2008 20:53:04
= =

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 26-02-2008 23:12:41
ชักเริ่มสงสัยเหมือนกัน ว่า เอมีน จะตกเป็นข่าวกับจัสติน แน่ ๆ เลย  o12

แต่ตัวจัสตินก็ต้องรู้อยู่แล้วล่ะ ว่าใครมีภาพนี้   :m16:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 27-02-2008 09:28:45
เป็นกำลังใจให้จัสตินอะ0...0

 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 27-02-2008 14:38:09
มาแบบเซ็ง เฮ้อ ไม่อยากทำงานเลย ตู
ใครมีงานให้ทำมั่ง อยากเปลี่ยนงานจัง
==========================================

- 7 -

“มาแล้วเหรอเรา” เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้เอมีนไปหันมอง   

คนทักเป็นหญิงสูงวัยแต่นั่งคู่อยู่กับชายชาวต่างชาติ เด็กหนุ่มกวาดสายตามองคนอื่นๆนั่งกันอยู่ก่อนหน้ารู้สึกเขินๆ แต่ก็จำใจนั่งลงพลางยกมือไหว้คนที่เขาคิดว่าเป็นพ่อกับแม่ของจัสติน การสนทนาเริ่มต้นขึ้น 

และจากการพูดคุยเด็กหนุ่มถึงได้รู้ว่าตนได้รวมกลุ่มอยู่กับญาติๆของเจ้าของคอนเสิร์ต ที่บางส่วนบินตรงมาจากอังกฤษเพื่อชมโชว์ครั้งนี้  เอมีนอดที่จะนึกถึงตัวเองขึ้นมาไม่ได้ ถ้าเขาได้มีโอกาสเล่นคอนเสิร์ตแบบนี้ พ่อที่แยกทางกับแม่แล้วไปอยู่ที่ต่างประเทศจะมาร่วมยินดีกับเขาหรือเปล่านะ

“เห็นจัสตินบอกว่าเราเป็นเพื่อนคนแรกตอนที่จัสตินมาที่เมืองไทยใหม่ๆ แม่เองก็ยังไม่เคยเห็นหน้าท่าทางจะเป็นเพื่อนที่มหาวิทยาลัยใช่มั๊ย  ยังไงถ้าจัสตินกลับไปเรียนก็ฝากหน่อยนะ หยุดเรียนมาร้องเพลงกลับไปก็ไม่รู้จะยังไง”

เอมีนฟังคนข้างๆที่เข้าใจว่าเป็นแม่จัสตินพูดเสียยืดยาว  ในใจก็นึกคิดว่าใครที่เป็นเจ้าของที่ที่เขานั่งอยู่กันแน่  แต่ช่างเหอะ ในเมื่อเขาสวมรอยเข้ามานั่งได้สนิทใจทุกคนขนาดนี้จะไปคิดให้ปวดสมองก็ใช่เรื่อง ช่วยไม่ได้เขาไม่ได้ขอบัตรนี้มาซะด้วย เด็กหนุ่มแสร้งเล่นละครเป็นเพื่อนจัสตินไปตามเรื่อง ในใจก็รอว่าเมื่อไหร่คอนเสิร์ตจะเริ่ม ไม่แน่ใจว่าตัวเองอยากจะเห็นจัสตินบนเวทีเร็วๆหรืออยากที่จะให้คนอื่นเลิกสนใจตัวเองกันแน่

“น่าภูมิใจนะไม่คิดว่าจะมีคนรักเขามากขนาดนี้” เสียงญาติคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอีก

เอมีนพลอยยินดีไปด้วยกับใบหน้าที่ฉาบไปด้วยรอยยิ้มของคนเอ่ย ทั้งๆที่ส่วนลึกก็แอบหงอยเหงาที่ตัวเองไม่เคยมีโอกาสแบบนี้ 

ทางด้านหลังเวที จัสตินกำลังเตรียมตัวที่จะขึ้นโชว์ ความตื่นเต้นที่มีหายไปหมดกลายเป็นความข้องใจเข้ามาแทนที่  เมื่อเด็กหนุ่มเห็นสายตาทีมงานหลายคนมองเขาแปลกขึ้นเรื่อยๆจนต้องเข้าไปสะกิดถามอิ๋งอิ๋งที่เข้ามายืนคุมสถานการณ์อยู่

“พี่อิ๋งพี่ว่ามันแปลกมั๊ย ทำไมหลายคนมองผมจัง”

“อย่าใส่ใจเลยน่า สนใจกับโชว์ของเธอดีกว่า รู้มั๊ยข้างนอกคึกคักขนาดไหนอย่าทำให้แฟนเพลงผิดหวัง”

“ผมรู้เรื่องนั้น แต่นี่ตั้งแต่ช่างแต่งหน้าทำผมมองผมแล้วส่งสายตาแปลกๆ นี่ผมงงนะ”

“พวกนี้เขาก็สนใจเธอน่ะสิถามได้”

“ก็แล้วทำไมเพิ่งจะมาสนล่ะ ร่วมงานกันมาไม่รู้กี่งานต่อกี่งาน” 

ก็เธอไปนอนแผ่หราโชว์หุ่นสะท้านใจขนาดนั่นใครเขาจะไม่สน อิ๋งอิ๋งได้แต่ค่อนขอดในใจ ภาวนาให้โชว์รอบแรกผ่านไปด้วยดีไม่อยากให้จัสตินรู้เรื่อง เพราะเดี๋ยวจะเป๋ไปตลอดงาน

จัสตินเลิกสนใจในสายตาเพื่อนร่วมทีม เขากลับมาตื่นเต้นอีกครั้งเมื่อหลายฝ่ายส่งสัญญาณพร้อมเด็กหนุ่มยกมือไหว้เพื่อความสบายใจในขณะที่ข้างในเต้นรัว


ด้านนอกไฟที่ส่องทางเริ่มหริบหรี่ลงทีละดวงทีละดวง ตามติดด้วยเสียงกรี๊ดที่ดังถล่มทลาย เอมีนขนลุกขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่ในฮอลล์จะเงียบสนิทลง ทุกคนพร้อมใจลุกขึ้นยืนสงบนิ่งเมื่อบทเพลงสรรเสริญฯดังขึ้นนำเข้าคอนเสิร์ต   

และทันทีที่บทเพลงอันเป็นที่เคารพจบลงไป อะไรก็คงจะฉุดเสียงกรี๊ดระลอกสองที่ดังกระหน่ำกว่าครั้งแรกไว้ไม่ได้เมื่อไฟด้านบนเวทีเริ่มฉายออกมาโฟกัสไปที่จอภาพ จัสตินยืนหลับตานิ่งสูดลมหายใจเมื่อเสียงที่ด้านนอกดังเข้ามาถึงด้านหลังเด็กหนุ่มรู้ว่าทุกสายตาคงกำลังจับจ้องที่ทีเซอร์เปิดตัวของเขา

ในขณะที่มันใกล้จะจบลง แดนเซอร์เตรียมที่จะขึ้นเวที เขาก็ต้องสะดุดกับคำพูดของหนึ่งในกลุ่มแดนเซอร์ที่เดินผ่านเขาไป

“ตอนนี้คนด้านนอกคงรู้แล้วมั้ง ว่าภาพลับของพี่มันเสียวขนาดไหนถึงได้กรี๊ดกันกระหน่ำขนาดนี้”

“คุยอะไรกันน่ะ” อิ๋งอิ๋งรีบปรี่เข้ามาถามทันที 

ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์ที่จะไปนั่งดูคอนเสิร์ตด้านนอกได้ จึงคอยคุมเชิงสถานการณ์อยู่ด้านหลังเวที แต่เผลอนิดเดียวสิ่งที่เธอกลัวก็เกิดขึ้น  ลับหลังแดนเซอร์ จัสตินมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม อิ๋งอิ๋งไม่เอ่ยอะไรนอกจากส่งสัญญาณบอกเจ้าของแววตาสงสัยให้ขึ้นเวทีได้แล้ว เมื่อทุกอย่างพร้อมที่จะเริ่ม

เสียงกรี๊ดดังสนั่นเมื่อจัสตินออกไปยืนเด่นบนเวที แต่คนยืนเด่นเหมือนไม่ได้ยินก็สมองเริ่มกังวลไปต่างๆนาๆจนแทบจะลืม Step เต้นและเนื้อร้องจนนักดนตรีชักงงๆ  อิ๋งอิ๋งยืนลุ้นที่ด้านหลังจนตัวโก่งในขณะที่แฟนเพลงบางกลุ่มเริ่มที่จะจับผิดกับโชว์ของคนแสดงบนเวที  จากที่ต้องการที่จะมาสนุกเต็มที่กลับเกิดอาการกร่อยเมื่อดูท่าทางคนที่กำลังโชว์ไม่เป็นมืออาชีพอย่างที่สื่ออัดโปรโมทเลยซักนิด 

“นี่มันอะไรกัน”  แม่ของจัสตินเอ่ยขึ้นเมื่อไม่เชื่อหูตัวเอง ว่าจะได้ยินเสียงโห่มาจากทางด้านหลังทันทีที่ลูกชายตัวเองลืมเนื้อร้องของเพลงที่กำลังโชว์อยู่

เอมีนแปลกใจ มันต้องมีอะไรที่ทำให้จัสตินโชว์ได้ไม่เต็มที่  ในใจจึงลุ้นและปากก็เผลอหลุดคำพูดออกมา

“นายต้องทำได้สิ จัสติน คนเกือบหมื่นนายจะล่มตั้งแต่รอบแรกไม่ได้นะ”  คำพูดของคนลุ้นไม่ได้ผลเลยสักนิดเมื่อเสียงโห่เริ่มดังแทนเสียงกรี๊ด  ทุกคนที่นั่งดูอยู่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับโชว์ที่ไม่เป็นไปตามที่หวัง 

เอมีนตัดสินใจที่จะส่งเสียงปรบมือเป็นคนแรกเมื่อการแสดงจบลงทั้งที่ทั้งฮอลล์เงียบสนิท  จัสตินเลี่ยงไม่ได้ที่จะหันมาสบตากับเขา  คนปรบมือไม่ได้หลบสายตานั่นแต่กลับเปิดยิ้มให้กำลังใจ  ไม่ได้คิดว่าจัสตินจะรับรู้หรอก แต่เสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดที่ดังตามมา  เขาเห็นสีหน้าจัสตินดูหายเครียดขึ้นมานิดก่อนที่ไฟบนเวทีจะดับพรึ่บลงอีกครั้ง

อิ๋งอิ๋งแทบจะเป็นลมเมื่อทุกอย่างยกเลิกไม่ได้  จัสตินต้องแสดงตามคิวที่วางไว้   ในใจสาวใหญ่เลยได้แต่ลุ้น  ไม่ต่างจากเอมีนที่เอาใจช่วยจนนั่งไม่ติด  ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้จัสตินเริ่มรู้ว่าเขาเป็นใครและกำลังทำอะไรอยู่  ความเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่ไม่ได้แค่ถูกยัดเยียดให้ แต่มันแฝงเร้นอยู่ในตัวเองทำให้เด็กหนุ่มเริ่มที่จะแยกแยะความเครียดส่วนตัวกับการเอนเตอร์เทนคนข้างหน้าออกจากกัน 

และทันทีที่แสงไฟได้ฉายขึ้นมาอีกครั้ง เด็กหนุ่มจึงใช้ความเป็นมืออาชีพดึงอารมณ์คนดูให้กลับมาร่วมสนุกกับโชว์เพลงที่สอง และเขาก็ทำสำเร็จ โชว์นี้ของเขาทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ   

เอมีนถึงกับยิ้มออกมาเมื่อเห็นความเป็นมืออาชีพของจัสตินฉายออกมาอย่างชัดเจน จนคนทั้งฮอลล์เหมือนจะลืมเหตุการณ์เมื่อครู่ ทางด้านอิ๋งอิ๋งเองก็คลายกังวลพึมพำออกมาเบาๆว่า ยังไงคนเป็นที่หนึ่งก็ยังคงเป็นที่หนึ่งวันยังค่ำ

ท่ามกลางความสนุก ไม่มีใครสังเกตเห็นใครบางคนที่นั่งบึ้งตึงมองอดีตคนรักที่ใช้ความมีเสน่ห์มัดใจคนดูอยู่หมัด 

“เก่งให้ตลอดเหอะ จัสติน นี่มันแค่เริ่มต้น” คนหน้าตึงเอ่ยขึ้น ก่อนจะมองคนบนเวทีด้วยแววตามาดร้าย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 27-02-2008 15:10:03
เชียร์เอมีน+จัสติน สุดใจ...

 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 27-02-2008 15:35:16
แบบนี้ จัสตินคงมองเอมีนในทางที่ดีขึ้นจมเลยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 27-02-2008 16:42:52
รอดไปได้ 1 เปลาะ = =

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 28-02-2008 12:58:49
จบคอนเสิร์ต จัสตินต้องออกมาพบกับข่าว และความสงสัยน่าจะเป็นจริง เอมีนคงถูกนักข่าวจับคู่ให้เป็นคู่ขากับ จัสตินแน่ ๆ เหอ ๆๆ นั่งใน VIP ด้วยนี่

แล้วความจริงก็เฉลยว่า ตั๋วใบนี้ ความจริง จัสติน เก็บไว้ให้บาสในตอนแรก แต่ดันเกิดเรื่องซะก่อน

จัสตินคงมองเอมีนดีขึ้นล่ะ ให้กำลังใจมากมายขนาดนี้
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 28-02-2008 13:11:48
มาโพสแล้วมันไม่ติดง่ะ เซ็ง
เอาใหม่ก็ได้
==============================
หลังจบคอนเสิร์ตทั้งสี่รอบ จัสตินคิดจะตามไปหาคำตอบจากคนที่พูดเรื่องให้เขาต้องกังวลก่อนขึ้นเวที แต่โดนอิ๋งอิ๋งขวางไว้

“จะไปใหนจัสติน”

“มีเรื่องต้องคุยกับใครหน่อย”

“ไม่ต้อง  มีอะไรเดี๋ยวพี่เคลียร์ให้  ตอนนี้นักข่าวมากันเต็มไปหมด เธอรีบหลบกลับออกจากงานไปก่อน”

“มาทำไมกัน ผมไม่ได้มีแถลงข่าวอะไรนะ”

“เขาก็มาสัมภาษณ์นายไปตามเรื่องนั่นแหละ”

“งั้นก็ไม่เห็นต้องหลบ  สื่อมีบุญคุณกับผมที่สนับสนุนผมมาตลอดจะหลบหน้าเขาไปทำไมกัน”

“นี่แต่คราวนี้ไม่ใช่พวกที่เคยเขียนเชียร์นายนะ”

“หมายความว่าไง”  อิ๋งอิ๋งไม่ทันตอบอะไรคนที่ทิ้งปริศนาในคำพูดไว้เดินผ่านมาเข้าพอดี  จัสตินไม่รอช้าที่จะเข้าไปขวางแล้วถาม

“ที่พูดตอนที่จะขึ้นเวทีนายหมายความว่าไง”

“อะไรเหรอ”

“ภาพลับอะไรเหรอที่นายบอก” 

อิ๋งอิ๋งแทบลมจับเมื่อเด็กหนุ่มนั่นเอ่ยบอกจัสตินถึงภาพที่โดนเผยแพร่ทางอินเตอร์เนท ก่อนที่คอนเสิร์ตจะเริ่ม มันเป็นภาพที่สื่อว่าเขาเพิ่งเสร็จกามกิจกับคู่ขาในคอนโดหรู 

“อย่างนี้ใช่มั๊ยพี่อิ๋งนักข่าวถึงมากันเต็ม” คนรู้ข่าวตัวเองหันมาพูดกับอิ๋งอิ๋งที่กำลังยืนอึ้งอยู่

“ผมอยากเห็นภาพนั้น” เด็กหนุ่มบอกซ้ำ 

มันต้องมีการเข้าใจผิดเพราะเกิดมาเขายังไม่เคยที่จะมีอะไรกับใคร แล้วภาพมันจะออกมาแบบนั้นได้ยังไง  เด็กหนุ่มผลุนผลันหลบหน้าผู้คนไปทางด้านหลัง อิ๋งอิ๋งรีบสั่งทีมงานช่วยกันนักข่าวและแฟนคลับที่ออกันเข้ามา

จัสตินไปถึงรถตู้ที่รับส่งอย่างลำบากทั้งกองทัพนักข่าวที่รอคำชี้แจงและบรรดาแฟนคลับที่ไม่สนใจข่าวและบางกลุ่มที่อยากรู้อยากเห็น บรรยากาศวุ่นวายไปหมดเด็กหนุ่มนั่งผ่อนลมหายใจปิดม่านหน้าต่างไม่อยากเจอหน้าใครปล่อยให้รถตู้รับส่งขับเคลื่อนไป  ในใจก็ว้าวุ่นถึงคำบอกเล่าที่ได้ยินมา

“แม่งเป็นเทวดาหรือไงวะหยิ่งชิบหายอย่างงี้ดังไม่นานหรอก” 

เอมีนสะอึกกับคำด่าตามหลังที่ได้ยิน ขณะที่เขาเห็นรถที่จัสตินนั่งอยู่เคลื่อนออกไปแล้ว เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจัสตินถึงต้องให้ทีมงานกันแฟนเพลงขนาดนั้น แถมขึ้นรถได้ก็ปิดม่านเงียบ ผิดวิสัยที่เขาเคยเห็น ในอีกมุมบาสจ้องมองภาพนั้นอย่างพอใจ เพราะคิดว่าจัสตินคงเริ่มรู้เรื่องบ้างแล้วอยากจะรู้นักว่าฝ่ายนั้นจะรู้สึกยังไงเมื่อเห็นภาพเกือบเปลือยของตัวเอง
   

ในตอนเช้าจัสตินโกรธจนคุมตัวเองไม่อยู่เมื่อภาพตัวเองแผ่หราอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับดัง  มันไม่ใช่แค่ข่าวซุบซิบแต่มันขึ้นหน้าหนึ่งในพาดหัวที่บอก นักร้องดังอัพยามั่วเซ็กส์กับเกย์คู่ขา

“บ้ากันไปใหญ่แล้วทำไมคุณต้องเล่นแบบนี้บาส”  คนโกรธสบถตัดสินใจที่จะโทรเคลียร์กับคนปล่อยข่าว เพราะ เห็นสถานที่ในภาพเขาก็รู้ทันที ว่าเจ้าของที่ปล่อยภาพนี้ออกมาเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนรักเก่าของเขา

“คิดถึงผมขึ้นมาเหรอจัสติน”บาสเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าใครโทรหาตน เขารู้ว่าจัสตินโทรมาทำไมแต่แกล้งยั่วออกไปอย่างคนอารมณ์ดี ซึ่งก็ได้ผล เมื่อฝ่ายนั้นเอ่ยออกมาเสียงเครียด

“คุณต้องการทำลายผมใช่มั๊ยบาส ข่าวที่ออกมาฝีมือคุณใช่มั๊ย”

“ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง  กลัวจะตกกระป๋องหรือไงจัสติน โทษผมไม่ได้คุณทำตัวคุณนะ”

“ผมทำอะไร  คุณก็รู้ว่าผมไม่เคยมีอะไรกับคุณ  ที่คุณให้ข่าวมันไม่มีมูลเลยนะ”

“ใครบอกว่าผมให้ข่าว  ผมมีแค่รูปถ่ายเท่านั้น  นอกนั้นคุณไปหาเอาเองนะว่าใครเป็นคนสั่งนักข่าวให้เขียนแบบนั้น”

“นี่มันอะไรกันตกลงคุณทำงานให้ใคร”

“ไม่น่าที่จะเดายากผมเคยบอกจะเป็นผู้จัดการให้คุณ  แต่คุณปฎิเสธเพราะกลัวเป็นข่าวตอนนี้คุณก็ตีจากผมไปแล้ว”

“คุณก็รู้เพราะอะไร”

“ผมไม่สนใจ   คุณจะเสวยสุขคนเดียวงั้นเหรอ  คิดผิดแล้วล่ะจัสตินผมจะทำให้คุณรู้ว่าการทรยศผมมันมีผลยังไง”

“ผมไปทรยศคุณตรงไหนบาส  คุณต่างหากที่ไม่ซื่อกับผม ผมเสียใจนะที่คุณเป็นแบบนี้ไปได้”

“ยังจะกล้าพูดอีกเหรอจัสตินใครที่ทนเก็บเรื่องของคุณเป็นความลับตามที่คุณขอ  พอถึงจุดที่คุณประสบความสำเร็จคุณคิดจะตีจากไปง่ายๆงั้นเหรอ”

“ผมจะไม่ทำอย่างงั้นถ้าคุณจริงใจกับผม”

“แล้วคุณเคยฟังผมอธิบายมั๊ย  คุณหายไปตั้งแต่วันนั้นและก็เพิ่งจะติดต่อกลับมาก็เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตกต่ำลง”

“ผมไม่ได้กลัวเลยนะที่ผมจะจมแต่ไม่ใช่ด้วยวิธีสกปรกของคนที่ผมเคยรัก”

“ตอนนี้คุณจะพูดยังไงก็ได้จัสติน  แต่คุณบังครับให้ผมทำเอง และผมก็จะไม่หยุดจนกว่าคุณจะล่มจมไปต่อหน้าต่อตา”

เพื่ออะไรบาส คุณทำไปคุณได้อะไร”

“คุณยังไม่รู้ล่ะสิว่าตอนนี้ผมเข้ามาเป็นผู้จัดการนักร้องคู่แข่งของคุณแล้ว  และผมก็จะทำทุกวิถีทางให้ฟิลิปก้าวขึ้นมาแทนที่คุณให้ได้”  จัสตินอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน  บาสเป็นไปได้ขนาดนี้เลยหรือเด็กหนุ่มเริ่มสับสนในการกระทำของตัวเองที่ตีตัวออกห่างจากฝ่ายนั้นมา   

“บาสฟังผมนะ  ผมไม่อยากให้คุณเป็นคนที่ทำอะไรแย่ๆแบบนี้  ผมไม่สนหรอกนะว่าเพื่ออะไรแต่ทำไมต้องเอาผมไปเกี่ยวด้วย  ผมทำงานร้องเพลงไม่เคยคิดจะแข่งกับใครอยู่แล้ว ฟิลิปผมเชื่อว่าเขาก็มีแฟนคลับของเขา  ถ้าคุณกับทางค่ายคิดจะทำอะไรมากกว่านี้ก็หยุดซะเถอะ เห็นแก่ครอบครัวและญาติๆผมบ้าง เขาอุตส่าห์ห์มาจากอังกฤษเพื่อชื่นชมผมไม่ได้ต้องการที่จะมารับรู้การแข่งขันที่ทำกันขนาดนี้”

“สายไปแล้วล่ะจัสติน  ตอนนี้คนทั้งประเทศต่างก็รู้กันหมดแล้วว่าคุณมันก็แค่นักร้องเกย์ที่หลอกตาประชาชน ทั้งๆที่เคยมีข่าวออกมาแล้วแต่ก็ยังปฎิเสธ  ไงล่ะตอนนี้มีหลักฐานมัดชัดเจน อยากจะรู้นักว่าค่ายคุณเขาจะจัดการยังไง กีดกันผมดีนักนิมันต้องเจอแบบนี้แหละ”

“หลักฐานบ้าบออะไร  ในภาพผมก็แค่นอนเฉยๆถ้าผมเคยยุ่งกับคุณผมอาจจะกลัวนะ แต่นี่แม้แต่คิดผมยังไม่เคย  คุณจะเอาอะไรมาเล่นงานผม”  จัสตินพูดออกไปด้วยความโกรธ  แต่มันเหมือนปะทุความแค้นใจให้บาสมากยิ่งขึ้น

“ก็ได้จัสตินเรื่องแค่นี้ผมทำได้ไม่ยากหรอก  แม้มันจะไม่ใช่เรื่องจริงนัก  แต่ในสายตาคนทั้งประเทศก็คงจะมองเห็นคุณเป็นเกย์ไปเรียร้อยแล้วล่ะ”

“คุณจะทำอะไรบาส”

“อย่างน้อยคุณก็เคยกอดผม หอมแก้มผม  บังเอิญว่าผมมีคลิปวีดีโอเก็บไว้ด้วยสิ ไม่ได้ตั้งใจที่แบล็คเมล์คุณหรอกนะ  แต่ผมไม่คิดว่าคุณจะกล้าทิ้งผมไปแบบนี้ ช่วยไม่ได้คุณทำตัวคุณเอง”

“ผมผิดหวังในตัวคุณนะบาส”

“ก็เหมือนที่คุณทำให้ผมผิดหวังในตัวคุณนั่นแหละ จัสติน”

“คุณคงไม่เลิกใช่มั๊ย ถ้าผมไม่จมไปต่อหน้าต่อตาคุณ”

“แน่นอนเพราะผมตั้งใจไว้แล้วและผมก็จะไม่หยุด”

“บาสผมเคยตั้งใจที่จะออกจากวงการนี้ไปด้วยตัวของผมเองหลังจบคอนเสิร์ตครั้งนี้ แต่ในเมื่อพวกคุณเล่นสกปรกกับผมก่อน  ทางคุณและค่ายของคุณอยากให้ฟิลิปขึ้นมาแทนที่ผมนักใช่มั๊ย  งานนี้คงเหนื่อยหน่อยนะ ในเมื่อพวกคุณยิ่งรุกผมก็จะไม่ถอยไปง่ายๆลองกันหน่อย มันก็ดีเหมือนกันถ้ายังรู้จักผมดีอยู่คงจะรู้นะ ว่าถ้าผมลองตั้งใจทำอะไรซักอย่างผลมันออกมาจะเป็นยังไง”   

จัสตินไม่รอฟังบาสพูดคำใดๆออกมาอีกเมื่อเอ่ยจบ เด็กหนุ่มตัดสายโทรศัพท์ทิ้งไปทันทีปล่อยให้อีกคนยืนถือโทรศัพท์อึ้งไปพักใหญ่ เพราะคิดว่าถ้าจัสตินสู้ขึ้นมาอย่างที่บอกงานนี้ของเขามันก็ไม่ง่ายเหมือนกัน


แม้เบื้องหน้าภาพของจัสตินยังคงดูไม่สะท้านกับข่าวที่ถูกป่วนขึ้นมา แต่เบื้องหลังทางต้นสังกัดร้อนใจอย่างหนักที่อยู่ๆคู่แข่งอย่างฟิลิปเริ่มที่จะมีกระแสขึ้นมา หลังทางผู้บริหารของค่ายต้องทำงานและวางแผนกันอย่างหนักที่จะไม่ให้คนที่เริ่มมีกระแสก้าวขึ้นมาทันเด็กในสังกัดของตน  เพราะทุกคนรู้ดีหากว่าฝ่ายนั้นมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยม เจ้าของค่าอย่างเมทีคงไม่วางมือง่ายๆที่จะผลักดันเด็กในคาถาทุกวิถีทาง ซึ่งวิธีแรกที่เมทีเผยไต๋ออกมาแล้วคือประกาศเริ่มโครงการประกวดหานักร้องตามรอยฟิลิปและคอนเสิร์ตใหญ่ที่ยืนยันกับสื่อว่ามีอย่างแน่นอน
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 28-02-2008 13:44:42
อยากรู้อะ จัสตินจะทำไงต่อไป

เป้นกำลังใจให้จัสติน+เอมีน ....

มาเป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยค้าบบบบบบบบบบ..



 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 28-02-2008 15:22:37
คุณยาม มาเข้าเวรเร็ว เอาคลิปในโทรศัพท์มาด่วน!!
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 28-02-2008 15:42:45
จัสตินอย่ายอมแพ้น่ะ สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :a2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 28-02-2008 23:01:32
ดีๆๆ อย่าไปยอมมัน
 :mc4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: SweetSerenade ที่ 29-02-2008 12:34:13
ดีใจได้อ่านเรื่องคุณบอย นักเขียนในดวงใจ อีกเรื่องแล้ว o7

เป็นกำลังใจให้จัสตินกะเอมีน แล้วก็

คนแต่งกับคนโพสต์ด้วยค่ะ

 :oni1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 29-02-2008 12:38:14
เริ่มเข้มข้นขึ้น  :oni2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 01-03-2008 00:13:38
ยังรออยู่นะคร๊าบบ เป็นกำลังใจให้คุณบอยน้า ขออย่างเดัยว อย่าจบเศร้านะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 03-03-2008 11:05:47
 เข้ามารอ คนโพสท์หายไปไหนง่ะ :sad4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 03-03-2008 11:45:33
โทษทีค๊าบบบ หายหัวไปวุ่นวายเรื่องหัวใจเล็กน้อย :o8:
มาต่อล่ะคับ จะพยายามไม่หายไปไหนอีกนะ
================================
- 8 -

ฟิลิปไม่สนใจว่าที่เขากลายเป็นคนดังขึ้นมาชั่วข้ามวันเพราะฝีมือใคร เด็กหนุ่มเชื่อมั่นในตัวเองขึ้นมาว่าเวลาที่ตัวเองขึ้นมาเทียบชั้นศิลปินที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่างจัสตินได้สำเร็จ เพราะฝีมือตนเองล้วนๆ 

บาสรู้สึกตะขิดตะขวางใจ ที่ฟิลิปมองไม่เห็นในการเข้ามาจัดการทุกอย่างให้จนดังได้อย่างทุกวันนี้ สองคนจึงเริ่มทำงานอย่างไม่ลงรอยกัน อย่างเช่นวันนี้ วันที่คนตะขิดตะขวางใจต้องบอกคิวงานกับคนที่ทนงว่าตัวเองดังได้เพราะฝีมือตัวเอง

“ต่อไปนี้คุณจะต้องซ้อมหนักนะฟิลิป คอนเสิร์ตเปิดตัวคุณครั้งนี้สำคัญมาก ล่มก็คือล่มเกิดก็คือเกิด”

“อะไรคอนเสิร์ตของผม ยังไงมันก็ไม่มีทางล่มหรอก” คนโดนบอกตอบกลับอย่างมั่นใจ แต่อีกฝ่ายกลับเอือมระอาในใจ

“อย่าเพิ่งอวดเก่งไปหน่อยเลยฟิลิป ไม่ประมาทดีที่สุด”

“คุณเพิ่งเข้ามาดูแลผมอย่ามาสอนมากเลยน่า”

“แล้วไง  ไม่เพราะผมเหรอคุณถึงได้มีโอกาสแบบนี้”

“ทุกอย่างพี่ธีเป็นคนจัดการ คุณก็รู้”

“อ๋อเหรอ ธีระ ได้ยินแบบนี้คงดีใจจนเนื้อเต้นสินะ”

“หมายความว่าไง”  คนเอือมระอานึกเยาะอยู่ในใจที่เห็นฝ่ายตรงข้ามกระชากเสียงถาม เด็กนี่ไม่ได้รู้ตัวเองบ้างเลยว่าที่ก้าวเข้ามายืนอยู่จุดนี้ได้เพราะอะไร  หึ คงคิดว่าตัวเองโดนธีระดันจนได้ออกเทปเนี่ยเพราะฝีมือตัวเองล้วนๆงั้นสิ โธ่เอ้ย ถ้ารูปร่างหน้าตาไม่โดนใจคนดันอย่างธีระมีเหรอแกจะได้ออกเทป ความสามารถที่มองเห็นพูดตามตรงแกยังห่างจากจัสตินเยอะทีเดียว  นี่ถ้าแกรู้ว่าโปรดิวเซอร์ตัวเองเป็นเกย์ แกจะรู้สึกยังไงนะฟิลิป



จัสตินนั่งกุมขมับอยู่เงียบๆ  หลังจากที่อิ๋งอิ๋งรายงานถึงผลกระทบต่อตัวเขา หลายที่ที่เขาต้องไปเล่นคอนเสิร์ตถูกยกเลิกด้วยเหตุผลคือช่วงนี้เขาได้กลายเป็นขาลง  เด็กหนุ่มไม่ได้เครียดถึงเรื่องรายได้หรือความนิยม แต่เขาเครียดเรื่องครอบครัวที่กำลังทุกข์ใจเมื่อเห็นความสำเร็จของเขาล่มสลายไปในพริบตา  เพียงเพราะข่าวที่ว่าเขาเป็นเกย์ 

ทุกคนต้องการฟังคำอธิบายจากเขา แต่เขายังไม่อยากที่จะพูดอะไรกับใครในช่วงนี้  เขาเครียดและเสียใจที่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง  เขาคิดผิดที่ก้าวเข้ามาตรงจุดที่คนทั้งประเทศรู้จัก  ถ้าหากเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดา พ่อแม่เขาก็คงจะทุกข์น้อยกว่านี้ แต่นี่เขาเป็นคนที่สังคมกำลังให้ความสนใจและกระหน่ำเรื่องที่เขาเป็นเกย์และสร้างภาพหลอกลวงมาโดยตลอด

“จะไปไหน” อิ๋งอิ๋งทักทันทีที่เห็นจัสตินลุกขึ้น

“ไปไหนคนคงไม่สนใจผมแล้วล่ะ ผมมันซุปเปอร์สตาร์ขาลง” คนโดนถามตอบแบบประชดตัวเอง

“นี่อย่าคิดแบบนี้นะ เธอต้องเชื่อทางค่ายสิ เรื่องนี้เขาไม่ปล่อยให้เธอเผชิญคนเดียวหรอก แค่ข่าวขี้ปะติ๋ว”

“ความจริงมันก็คือความจริงนะ พี่อิ๋ง ทางค่ายชุบตัวผมมากี่รอบแล้วล่ะ เลิกเหนื่อยกับผมดีกว่า”

“แล้วไงคนเป็นเกย์ไม่มีสิทธิ์ร้องเพลงงั้นเหรอ คนอื่นไม่เห็นเขาจะเดือดร้อนเลย”

“นั่นสิคนอื่นไม่เดือดร้อน แล้วทำไมผมต้องมาเดือดร้อนด้วยก็ไม่รู้”

“เธอต้องเข้าใจนะจั สตินว่าเธอมาในช่วงที่กู้วิกฤติให้ทางค่าย ในขณะที่กระชากคู่แข่งให้กลายเป็นยักษ์ล้ม  เธอคิดว่าทางนั้นเขาจะไม่แค้นเธองั้นเหรอ  ในเรื่องแบบนี้มันยอมกันได้ที่ไหน เธอมีช่องโหว่ให้เขาทำลายชื่อเสียงได้ เธอถึงต้องวุ่นวายแบบนี้ไง  ซึ่งก่อนหน้าพี่ก็เตือนให้เธอระวังไม่รู้กี่ครั้งเป็นไงผลของความรั้นมันกลับมาทำลายเธอมั๊ย”

“ผมไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้”

“อย่ามองโลกในแง่ดีมากเกินไปจัสติน  วงการนี้พี่อยู่มานาน เธอทำใจให้สบายเดี๋ยวทุกอย่างทางค่ายเขาหาทางโต้กลับได้อยู่แล้ว” 

จัสตินอยากจะคิดอย่างที่ผู้จัดการส่วนตัวบอก แต่เขาไม่รู้ว่าบาสมีอะไรอยู่ในมือที่เล่นงานเขาได้บ้าง  บางทีการชุบตัวเขาใหม่อีกครั้งมันอาจกลายเป็นเชื้อไฟให้กระแสสังคมโจมตีเขาอีกก็ได้  ทุกอย่างมันควรจะจบที่ต้นตอนั่นก็คือเขาต้องเคลียร์กับบาสด้วยตัวของเขาเอง
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 03-03-2008 19:21:03
ว๊าวๆๆ มาต่อแล้ว ตอนแรกนึกว่าจะหนีหายไปซะแล้ว รออ่านต่อนะครับ
ปล. ตอนที่มาต่อสั่นจังอ่า หายไปตั้งนาน มาต่อเยอะหน่อยเถอะคร๊าฟฟ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 03-03-2008 21:59:52
ไม่มีคนมารีพลายเลย งอนๆๆๆๆๆ :o12:

พรุ่งนี้จะมาต่อตอนเช้านะครับ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 03-03-2008 23:07:53
อย่าเพิ่งงอนไปครับ เพิ่งได้เข้ามาอ่านอ่ะครับ  :o8:

ว่าแต่ จัสติน จะไปเคลียร์ ยังไงกับบาส แล้ว บาสจะยอมเคลียร์เหรอ ถ้าเคลียกันลงตัว เอมีนจะไปอยู่แห่งหนใด

แต่เอมีนหายไป 2 ตอนแล้วนะ คิดถึงงงงงง
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 04-03-2008 09:10:11
มาแล้วครับ ตามสัญญา
=============================
จัสตินนัดเจอกับตัวการที่ทำให้ชีวิตเขาวุ่นวายทันที โดยให้ฝ่ายนั้นออกมาเจอเขา เด็กหนุ่มเลือกใช้วิธีขับรถวนไปรอบเมืองพร้อมๆกับคุยธุระกับคนที่ยอมออกมาเจอไปด้วย ที่ต้องเลือกวิธีนี้ เพราะเขาเริ่มไม่ไว้ใจคนข้างกาย ที่ดูจะร้ายขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ

 “นี่คุณกลัวเป็นข่าวขนาดนี้เลยเหรอจั สติน” บาสเอ่ยถาม เมื่อจัสตินพาเขาขับรถไปนอกเมือง หลังจากที่วนรอบตัวเมืองอยู่นาน

“อย่าสนใจเรื่องอื่นคุยเรื่องของคุณมาดีกว่า” จัสตินเฉเข้าประเด็น

“นี่คุณนัดผมมานะ”

“แต่ผมรู้ว่าคุณอยากมา”

“งั้นเหรอสมกับที่เคยรักกันจริงๆ”

“อย่าพูดเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ตอนนี้คุณเป็นใครผมเป็นใครน่าจะรู้”

“ก็ได้ จัสติน ในเมื่อคุณตัดขาดผมขนาดนี้  ผมก็จะไม่เหลือความรู้สึกดีๆกับคุณอีก”

“คนที่รู้สึกดีๆต่อกันเขาทำกันแบบนี้เหรอ”

“คุณต่างหากที่ทำผมก่อน”

“หยุดโทษคนอื่นและฟังผมบาส  การที่คุณจะมาเรียกร้องว่าคุณโดนผมเดินหนีจึงต้องตามทำลายผมแบบนี้ ถามตัวคุณเองก่อนสิ คุณรักผมหรือรักที่เห็นผมมีชื่อเสียงที่จะเป็นที่ให้คุณเสวยสุขกันแน่ พอไม่ได้ดังใจคุณถึงจะดึงผมลงมา ผมไม่แคร์หรอกนะที่ผมจะลงมาในจุดต่ำสุดแต่คุณต้องคิดถึงคนรอบข้างผมบ้าง ไม่ใช่ว่าคุณจะทำอะไรได้ตามใจชอบ ทางค่ายผมฟ้องคุณได้แต่ผมไม่อยากที่จะให้ทำ เพราะผมเชื่อว่าเรื่องมันจะไม่จบเพราะฉะนั้นผมขอร้องให้คุณแก้ข่าวนั้นซะ ออกมายืนยันว่าคุณเป็นคนถ่ายภาพนั้นเอง และไม่ได้มีอะไรมากกว่าเป็นการถ่ายเก็บไว้เล่นตามประสาเพื่อนเท่านั้น”

“นี่คุณจะให้ผมเล่นละครเป็นเพื่อนคุณงั้นเหรอจัสติน สายไปแล้วล่ะเพราะตอนนี้ผมมีหน้าที่อะไรคุณก็รู้อยู่”

“ทำไมต้องเล่นละครในเมื่อเมื่อก่อนเราก็เคยเป็นเพื่อนกัน”

“นี่คุณกล้าพูดกับคนเคยรักว่าเป็นเพื่อนงั้นเหรอ”

“แล้วคุณจะเอาไงเรื่องนี้ถึงจะจบลงได้”

“ไหนบอกคุณจะสู้ไง  หมดท่าแล้วเหรอคนเก่งของผม”  บาสยิ้มเยาะที่ท้ายที่สุดจัสตินก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เขาคิดและยังหลงเชื่อเรื่องคลิปวีดีโอที่เขากรุขึ้นมาเพื่อคุมเกมอีก

“เรื่องงาน ผมสู้กับพวกคุณแน่ แต่เรื่องข่าวบ้าๆนี่ผมอยากมันกระจ่างต่อครอบครัวผม”

“ทำไมจะสร้างภาพหลอกใครต่อใครอีกหรือไงว่าคุณไม่ได้เป็นเกย์ ความจริงมันหลบไม่พ้นหรอกนะจัสติน ยังไงซะความเป็นคนผิดประเภทของคุณมันก็จะตามหลอกหลอนคุณไปทั้งชีวิตน่ะแหละ ถึงแม้คุณจะหลอกคนอื่นได้ก็เถอะ”

“แต่มันยังไม่ถึงเวลาที่คนในครอบครัวผมจะรับรู้”

“กลัวอะไรล่ะ ในเมื่อคุณก็เคยชวนผมไปดูคอนเสิร์ตร่วมกับครอบครัวคุณ”

“แต่ในฐานะเพื่อนเราตกลงกันแล้ว  ถ้าคุณแสดงสิทธิ์อื่นผมก็คงไม่ให้คุณไปหรอก”

“ต้องตีหน้าซื่อเหมือนเพื่อนใหม่คุณใช่มั๊ย”   จัสตินชะงักแสดงว่าบาสเห็นเอมีน 

จริงสิเขาลืมคนๆนี้ไปได้ยังไง เอมีนคนที่เขารู้สึกว่าไม่ได้มีความคิดร้ายๆกับเขา ทั้งจากแววตาและคำพูดตรงๆซื่อๆ 

แล้วเด็กหนุ่มก็คิดอะไรได้ จึงหันไปถามคนข้างกายเสียงนิ่ง “ผมถามอีกครั้งนะบาส  คุณจะให้ความกระจ่างเรื่องนี้กับสื่อได้มั๊ย เรายังกลับมาเป็นเพื่อนกันได้นะถ้าคุณร่วมมือ”

“แค่เพื่อนเหรอ” บาสถามอย่างมีความหวัง  แต่ต้องกลั้นความรู้สึกเจ็บแค้นเมื่อจัสตินบอกออกมาตรงๆ

“ผมคงให้คุณได้แค่นั้น  มากกว่านั้นคงไม่มีทางแล้วล่ะบาส”

“งั้นคุณก็เตรียมเผชิญหน้ากับข่าวใหม่เลยละกัน” คนเจ็บแค้นขู่ออกมา   

คนได้ยินเบรกรถเมื่อได้ยินคำขู่นั่น เด็กหนุ่มหันมามองคนขู่แล้วบอกออกไปเช่นกัน

“เผอิญผมรู้แล้วสิว่าจะหยุดคุณยังไง”

จัสตินแยกกับบาสได้ ก็เลือกที่จะไปหาคนที่เขาคิดจะเอามาแก้เกมแก้ข่าวให้เขาในครั้งนี้ คนๆนั้นก็คือเอมีน  เด็กหนุ่มยืนคิดอยู่นานว่าจะเคาะห้องคนๆนี้ดีหรือไม่ดี เพราะเวลาที่เขาเลือกมาตอนนี้ก็ค่อนคืนเข้าไปแล้ว เขารู้ว่าเอมีนพักอยู่ห้องนี้ ก็จาก รปภ ข้างล่าง เขาเสี่ยงที่จะเข้าไปถาม เพราะค่อนข้างมั่นใจ ว่า รปภ ตึกนี้ คงจะไม่รู้จักเขา เท่ากับรู้จักนักร้องลูกทุ่งที่เจ้าตัวเปิดวิทยุฟังอยู่ขณะเฝ้ายาม 

มือยาวเอื้อมไปเคาะประตูห้องในที่สุด เมื่อคิดว่ามาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ไม่น่าที่จะกลัวอะไร   ทันทีที่เปิดประตูห้องออกมา แล้วเจอหน้าคนเคาะ เอมีนถึงกับผงะ ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าเห็นใครกำลังยืนจ้องหน้าเขาอยู่ตอนนี้
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 04-03-2008 10:48:37
จะใช้ เอมีย ทำอะไรอ่ะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: SweetSerenade ที่ 04-03-2008 13:11:07
ไม่เข้าใจบาสเลยจริงๆ ว่าจะทำไปเพื่ออะไร

ถ้าลองคิดๆดู บาสก็ทำตัวเองไม่ใช่เหรอ :เฮ้อ:

ว่าแต่ว่า จัสตินจะให้เอมีนทำอะไร อยากรู้อ่ะ

หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 04-03-2008 14:00:31
น่านสิ จัสติน จะให้เอมีนช่วยทำอะไรอ่ะ  :oni3:  o12

แต่จุดนี้คงเป็นจุดเริ่มต้นของความรักระหว่าง เอมีน และ จัสติน สินะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 04-03-2008 15:03:21
จะเป็นยังไงต่อไปล่ัะเนี้ยยย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 04-03-2008 18:31:12
จุดเริ่มต้นแล้วมั้งเนี่ย ..... อยากรู้ จะใช้เอมีนทำไรเนี่ย 0-0
แต่ผมเห็นด้วยกับข้างบนนะ ไม่รู้บาสจะทำไปเพื่ออะไร เพราะในรูป ถ้ามันเป็นรูปคู่
มันก็ต้องเป็นจัสติน กับบาส แล้วตัวบาสเองไม่เสียเหรอ ?!?!

รออ่านต่อ  :a11:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 05-03-2008 10:13:07
มาต่อแล้วค๊าบบบบบ ไปอ่านต่อกานเลย
ปวดท้องจัง :sad2: เซ็ง
=================================
“หวัดดี” จัสตินเอ่ยทัก พลางยิ้มให้เขินๆ เพราะก็ประหม่าอยู่ไม่น้อยเหมือนกันที่มายืนอยู่หน้าห้องคนที่ตัวเองยังไม่ค่อยสนิทนัก

“ มะ มา ได้ไง” เอมีน ตะกุกตะกักถาม

“ไม่รู้สิ อยากมามั้ง ขอเข้าไปข้างในได้หรือเปล่าล่ะ” คนโดนถามตอบแก้เก้อ ก่อนจะขอเข้าไปในห้องของคนที่ยืนอึ้ง พอฝ่ายนั้นหลีกทางให้ จึงรีบผลุบเข้าไปทันที

“ขะ ขอ ตัวเดี๋ยวนะ” เอมีนเอ่ยอีก เมื่อเห็นชัดๆว่าซุปเปอร์สตาร์คนดัง กำลังยืนอยู่กลางห้องตนตอนนี้ เด็กหนุ่มหลบหน้าคนดังเข้าไปขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำนานสองนาน เพราะรู้สึกประหม่าจนทำอะไร เมื่อแขกที่ไม่ได้รับเชิญโผล่มาหากลางดึกแบบนี้   

จัสตินมองสำรวจรอบห้องขณะโดนปล่อยให้อยู่ตามลำพัง สายตาเด็กหนุ่มไปสะดุดกับแผ่นซีดีที่มีรูปตัวเองอยู่บนปก จึงเดินไปหยิบขึ้นมาดู  เขารู้สึกผิดขึ้นมานิดๆเมื่อนึกถึงภาพตอนที่เขาเขวี้ยงซีดีแผ่นนี้ลงพื้นต่อหน้าเจ้าของ

เด็กหนุ่มรีบวางมันลงที่เดิมทันที เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก และคนอยู่ข้างในเดินออกมา

“จะขโมยอะไร” เอมีนหาเรื่องคุยแก้อาการประหม่า แต่มันดันทำให้คนฟังนึกฉุนจนต้องสวนกลับ

“ทั้งห้องนี่ มันมีอะไรน่าเอางั้นเหรอ”

“ทำไมชาวบ้านธรรมดาก็มีทรัพย์สินอยู่แค่นี้ จะไปเทียบอะไรกับคนดังระดับนายได้”

“เอาเข้าไปประชดเข้าไป ”  จัสตินมองเอมีนอย่างนึกเซ็ง  เขาไม่ได้มาชวนทะเลาะแต่เอมีนก็ทำให้เป็นเรื่องได้ทุกที   

“แล้วนี่มาทำไม หลบนักข่าวมาเหรอ” เอมีนถามเสียงอ่อนลง เมื่อเห็นสายตาแขกในห้องวูบไหวไป

“เปล่าไม่ได้หลบใคร  แค่ผ่านมาก็เลยแวะมาหา”คนโดนถามตอบส่งเดช เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นบอกคนถามยังไงดี ถึงสาเหตุที่เขาต้องมาที่นี่

“คุณเนี่ยนะแวะมาหาผม ตายห่าไอ้เอมึงต้องฝันแน่ๆ” เอมีนอดประชดตัวเองไม่ได้

“ทำไมต้องฝันด้วยคิดอะไรกับผมงั้นเหรอ” จัสตินว่ากลับ 

คนได้ยินถึงกับหน้าชา รีบแย้ง“คิดอะไรอย่ามั่วนะ”

“ก็ไม่ได้ว่า ไม่เห็นต้องรีบปฎิเสธเลยนิ”  จัสตินยักไหล่  เขาก็ไม่ได้คิดว่าเอมีนจะรู้สึกเกินเลยกับเขาอยู่แล้วจากคำพูดที่ชวนหาเรื่องได้ทุกครั้งที่เจอ

“จะบอกได้หรือยังว่ามาทำไม นี่ผมแปลกใจมากเลยนะจัสติน” เอมีนเผลอเรียกชื่อ

ทั้งสองคนเผลอมองตากัน ก่อนจะต่างคนต่างหลบโดยที่เจ้าของชื่อเดินไปนั่งลงบนโซฟาริมระเบียงมองเหม่อไปยังท้องฟ้าด้านนอก

“ไม่รู้นะจะว่าผมบ้าก็น่าจะได้  ผมเหนื่อยและท้อกับสิ่งที่เป็นอยากจะมีใครปลอบใจแต่นึกไม่ออกว่าจะไปไหน”

เอมีนไม่อยากที่จะเข้าข้างตัวเอง  แต่ก็นึกเห็นใจคนที่กำลังเหม่อมองไปบนท้องฟ้าอย่างไร้จุดหมาย ตอนนี้คงกำลังเครียดอย่างหนักกับเรื่องราวที่เจอถึงออกอาการเพี้ยนได้ขนาดนี้ แต่คนเห็นใจก็ไม่รู้จะแสดงออกความรู้สึกตัวเองด้วยวิธีไหน ก็เลยพูดจาทำไม่สนใจตามฟอร์ม

“มาผิดที่แล้วมั้ง ผมปลอบใจใครไม่เป็นหรอกนะ”

“ก็ไม่เคยหวังอยู่แล้ว ว่านายจะเห็นใจคนอื่นเป็นมากกว่าเหน็บแนมไปวันๆ” จัสตินหันมาตอกกลับพลางส่ายหัวอย่างเอือมระอา  นี่เขาคิดถูกหรือผิดที่มาหาคนๆนี้

“เออรู้ก็กลับไปซะจ ะได้นอนซะที” เอมีนหลุดปากไล่ เพราะฉุนขึ้นมา

“ก็นอนไปซี้ ใครเขาไปเอาไม้ถ่างตาไว้ไม่ให้นอน”

“นี่อย่ามาตลก จะให้ผมหลับได้ลงเหรอไง มีคนแปลกหน้ามานั่งหัวโด่อยู่ในห้องแบบนี้” คนฉุนว่าอีก

“งั้นผมไปอยู่นอกระเบียงก็ได้ คุณจะได้นอนตาหลับ” คนโดนว่าพูดกึ่งประชด พลางลุกเดินออกไปจริงๆ คนในห้องได้แต่มองตาม พลางคิดว่านี่มันเรื่องอะไรทำไมจัสตินถึงได้มาหาเขากลางดึกและก็มีท่าทีเพี้ยนๆแบบนี้ 

ความข้องใจที่มีทำให้เด็กหนุ่มตัดสินใจเดินตามคนๆนั้นออกไป  หัวใจแทบจะวายเมื่อเห็นจัสตินขึ้นไปนั่งห้อยขาอยู่บนระเบียงจึงเผลอตัวตะโกนบอก  “เฮ้ยนี่นายบ้าหรือเปล่าไปนั่งทำไมข้างบน  อยากตกลงไปตายหรือไง”

“กลัวทำไมทุกวันนี้ก็ตายทั้งเป็นอยู่แล้วนิ” จัสตินตอบแต่ไม่หันมามอง เอมีนใจเต้นรัวกลัวว่าคนไม่มองจะพลัดตกลงไปจริงๆ เพราะห้องเขามันอยู่ชั้นบนสุดของตัวตึก

“นี่ถ้าอยากจะระบายหรือคุยอะไรก็ลงมา  อย่ามาทำเป็นพวกเรียกร้องความสนใจแบบนี้ นี่มันชั้นสิบนะไม่ใช่ชั้นสอง
ตกลงไปยังไงก็ไม่รอด หรือทุกวันนี้มันยังดังไม่พออยากลงหน้าหนึ่งอีกหรือไง”

“อยากให้ลงก็มาดึงหน่อยดิยืนทื่ออยู่ทำไม”จัสตินตะคอกกลับเมื่อโดนว่า

“นายมีปัญญาขึ้นไปแล้วไม่มีปัญญาลงมาก็ตกไปตายให้มันสิ้นเรื่องไปเลยละกัน” เอมีนเดินกลับเข้าห้อง

จัสตินส่ายหน้ามองตาม วันๆเคยแต่วิ่งหนีคนที่เข้ามาหาไม่เคยคิดว่าจะต้องมาตามใครก็ไม่รู้ที่รู้จักกันแค่ไม่กี่วัน
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 05-03-2008 11:18:26
น่ารักจังคู่นี้ ลุ้นๆ

thx ค๊าบ

 :serius2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 05-03-2008 14:19:25
อิอิ.............ดูท่าจะมีลุ้นน่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 05-03-2008 21:30:07
เจอกันก็ทะเลาะกัน เมื่อไหร่จะดีกันเนี่ย  :oni3:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 05-03-2008 21:49:40
วันนี้ไปสอบมา ไม่ได้เครียดสอบเลย เครียดเรื่องอื่นมากกว่าอีก เง้อ เครียดๆเซงๆ

ชอบๆๆครับ คู่นี้ กำลังจะดูว่า เค้าจะไปต่อกันยังไง จะมาบรรจบพบรักกันได้ไงเนี่ย ดูห่างไกลกันเหลือเกิน
แต่ผมชอบคับ ให้มันรักกันยากๆหน่อยนี่แหละ สนุกดี ได้ลุ้นด้วย  :m4:  :m1:

เป็นกำลังใจให้นะคับ รออ่านอยู่น้าา  :oni2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 06-03-2008 08:22:22
เชียร์จัสติน+เอมีน สุดฤทธิ์..........................


 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:



  :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 06-03-2008 08:52:53
ปากแข็งกันจังเลยนะ  :m16:

เริ่มชอบกันแล้วสิเนี่ย  :o8: :oni3:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 06-03-2008 10:13:26
- 9 -

เอมีนวางแก้วน้ำลงตรงหน้าจัสติน ที่ตอนนี้ลงมานั่งที่โซฟาในห้องตัวเดิม จัสตินอดไม่ได้ที่จะแขวะเพราะเขาเข้ามาในห้องนี้เกือบจะชั่วโมงเพิ่งจะเห็นว่าเอมีนมีน้ำให้ ทั้งๆที่เขายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่ออกจากบริษัท  น้ำแก้วนั้นจึงถูกยกดื่มทีเดียวจนหมดแก้ว

“นี่นายไปอดอยากมาจากไหน” คนเพิ่งมีน้ำใจเอ่ยถาม เมื่อจัสตินไม่ตอบก็เลยเดินไปเอาน้ำมาให้ทั้งขวด

“หิวข้าวมากกว่า” จัสตินบอกเบาๆ เมื่อเริ่มแสบท้องขึ้นมา

แต่เอมีนกลับโวยวาย  “เฮ้ยนี่เงินทองก็จะทับตัวตายอยู่แล้วนะ  ที่มานี่จะมาขอข้าวกินใช่ป่ะเนี่ย”

“ถ้าแล้งน้ำใจนักก็บอกกันดีๆก็ได้ ไม่ได้คิดจะขอหรอกถ้าไม่หิวจริงๆ”  จัสตินมองท้าสายตาคนโวย ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันที่กล้าพูดอะไรตรงๆ  กับคนอื่นถึงเขาจะหิวให้ตายยังไงเขาก็ไม่มีทางหลุดปากบอกเป็นอันขาด  เอมีนมองคนตรงหน้าอย่างชั่งใจ ก่อนจะเดินไปหาอะไรที่พอจะหาได้มาให้เจ้าตัว 

“มีแค่นี้กินได้ก็กินกินไม่ได้ก็หมดทางที่จะช่วย”  จัสตินมองขนมปังที่คนพูดวางไว้ตรงหน้าพร้อมแยมรสส้ม  อมยิ้มนิดๆที่เอมีนชอบทานอะไรเหมือนเขา

“ยิ้มอะไร”เอมีนถาม

“ก็เห็นของโปรด ขอบใจนะไว้ วันหลังจะซื้อมาคืนให้”

“ไม่ต้องรีบ กินแล้วก็รีบกลับ ผมง่วง” 

จัสตินซึมลงทันทีเมื่อรู้สึกว่าตัวเองคงมากวนผิด จึงตัดสินใจที่จะกลับโดยไม่แตะขนมปังนั่น

“ขอโทษที่มากวนนอนเหอะถือซะว่าคืนนี้เราไม่ได้มาที่นี่ละกัน”  เอมีนใจเสียเมื่อเห็นแววหม่นเศร้าในแววตาคนกำลังจะลุกหนี  เด็กหนุ่มรวบรวมความกล้าทั้งหมดคว้ามือฝ่ายนั้นเอาไว้  แต่ต้องรีบปล่อยเมื่อเจ้าตัวหันมามอง

“ถ้าไม่คิดว่ามันเป็นแค่ขนมปังทาแยม มันก็อาจจะช่วยให้นายหายหิวได้” คนรีบปล่อยมือบอกแก้เก้อ

คนหันมองจึงยอมนั่งลงกินขนมปังนั่นโดยที่คนเอามาให้นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะเผลอหลับไป  จัสตินนึกสนุกป้ายแยมไปที่หน้าเอมีนที่เผลอหลับข้างๆเขา จะเรียกว่าแยมส้มขวดนั่นจะเป็นตัวประสานความสัมพันธ์ของทั้งสองก็คงจะไม่ผิด  เมื่อเอมีนตื่นขึ้นมาและกล้าที่จะเล่นหยอกล้อกับคนแกล้งตน จนทำให้ฝ่ายนั้นกล้าที่จะระบายในสิ่งที่เขาเก็บกดและเครียดมาหลายวัน

“จะว่าอะไรมั๊ย ถ้าเราจะขอให้นายช่วยอะไรเราซักอย่าง เอมีน” จัสตินบอกเอมีน ในที่สุดหลังจากที่เอมีนรับรู้เรื่องเขาจนหมด

“อะไร” เอมีนถาม  ถ้าเป็นสิ่งที่เขาช่วยได้ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะปฎิเสธ

“เรื่องข่าวที่เกิดขึ้น คนอื่นเราไม่แคร์หรอกนะว่าจะคิดยังไง แต่กับครอบครัว เราไม่อยากให้พวกเขามาเครียดกับเรื่องนี้”

“แล้วนายจะให้เราช่วยยังไง”

“จะเป็นการเห็นแก่ตัวหรือเปล่า ถ้าเราจะให้นายช่วยบอกกับครอบครัวเราหน่อย ว่านายเป็นเจ้าของภาพนั้นและยืนยันว่าเราไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างที่ข่าวมันเขียนขึ้น”

“อะไรที่นายคิดว่าครอบครัวนายจะเชื่อเรา”

“ก็นายรู้จักพวกท่านแล้วไม่ใช่เหรอ เห็นนั่งคุยกันใหญ่เลยนิ ตอนดูคอนเสิร์ตเรา”

จัสตินนึกถึงวันนั้นก็รู้สึกดีที่เห็นเอมีนเข้ากับครอบครัวเขาได้  หลายครั้งที่เขาลอบมองก็เห็นเอมีนดูจะไม่ขัดเขินในการอยู่รวมกลุ่มญาติๆเขาแถมยังพูดจาถูกคอกันดีตลอดคอนเสิร์ต

“แล้วถ้าเกิดเจ้าของภาพตัวจริงเขาออกมาเผยตัวเองล่ะ”

“คงไม่   ถ้าทำเขาทำไปนานแล้ว  เขาต้องการให้ภาพพวกนี้เป็นภาพหลุดและแพร่กระจายปากต่อปากมากกว่า  อีกอย่างเราเพิ่งจะขอร้องให้เขาออกมาเคลียร์เรื่องนี้แต่เขาก็ยังเฉย  ในเมื่อเขาอยากให้ภาพพวกนี้ไม่มีที่มา  ถ้านายจะแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของภาพเรื่องก็คงจะจบ อีกอย่างครอบครัวเราก็คงจะสบายใจถ้ารู้ว่าเป็นนาย”

“แล้วนายยังรักแฟนนายอยู่มั๊ย” เอมีนถามเพราะไม่อยากที่จะเข้าไปแทรกตรงกลาง ถ้าเรื่องนี้เป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบของคนทั้งสอง

“เป็นนายจะยังรักหรือเปล่าล่ะ  ทำกันได้ขนาดนี้ทั้งๆที่เราเชื่อใจ”

“ อืม ก็น่าเห็นใจนะ ก็ได้ เราลองช่วยดูซักตั้ง เผื่อมันจะช่วยให้นายหายเครียดบ้าง” เอมีนรับปากที่จะช่วยยิ้มๆ

จัสตินมองอย่างขอบคุณ  เขาเชื่อว่าเอมีนคงทำให้ครอบครัวของเขาสบายใจไปได้  อย่างน้อยๆก็ช่วงระยะเวลาหนึ่งที่บาสไม่อาจที่เล่นงานเขาด้วยวิธีสกปรกแบบนี้อีก  อยากจะรู้นักว่าถ้าเกิดภาพลับๆพวกนี้มีเจ้าของขึ้นมาไม่ใช่เป็นการแอบถ่ายอย่างที่สื่อลง แล้วเจ้าของภาพพวกนี้ก็คือเอมีน เพื่อนที่เขาจะบอกใครต่อใครว่าสนิทกันมาตั้งแต่ยังไม่เข้าวงการ  บาสจะทำยังไงต่อไป

“แล้วไม่กลัวเหรอว่า สื่อจะลงข่าวเราสองคนผิดๆ” เอมีนหาข้อแย้ง  มันคงไม่สนุกที่เขาจะต้องกลายมาเป็นคู่ขานักร้องดังเสียเอง ในขณะที่จัสตินยังไม่อยากเปิดเผยตัวเองว่าเป็นเกย์

“บอกแล้วไงใครจะมองยังไงเรื่องของเขา  แค่นายทำให้พ่อแม่เราสบายใจทุกอย่างก็โอเค”  เอมีนนึกตาม  บางทีการเป็นลูกที่พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เล็กๆแบบเขาก็ดีไปอย่าง ไม่ต้องมาคอยเครียดเรื่องที่ตัวเองจะเป็นอะไรยังไง ทุกวันนี้ ทั้งพ่อทั้งแม่ที่เลิกรากันไป ไม่มีใครที่จะใส่ใจในสิ่งที่เขาเป็นซักคน แต่ก็ยังดีที่พวกท่านไม่ทอดทิ้งเขา สองคนนั่นยังคงส่งเสียเลี้ยงดูอยู่ห่างๆเพราะต่างคนต่างก็ไปสร้างครอบครัวใหม่

 “ท่าทางบ้านนายจะอบอุ่นดีนะ” คนบ้านแตกอดที่จะพูดไม่ได้จนคนฟังสงสัย

“ทำไมเหรอ”

“ก็รู้สึกตั้งแต่วันงานคอนเสิร์ตแล้ว มิน่านายถึงแคร์พวกเขากันจัง”

“ก็ถ้าไม่แคร์พวกเขาจะให้ไปแคร์ใครล่ะ”

“ไม่รู้สิ อย่าพูดเรื่องนี้ดีกว่าพูดแล้วเครียดว่ะ เอาเป็นว่าเราจะลองช่วยนายดูแล้วกัน คิดว่าพ่อแม่นายคงกล่อมหูได้ไม่ยาก” เอมีนพูดล้อๆเพื่อกลบเกลื่อนอารมณ์เศร้าของตัวเองที่ไม่มีโอกาสมีครอบครัวที่สมบูรณ์อย่างจัสติน

“เรารู้ว่านายช่วยได้”

“อย่าเพิ่งมั่นใจหน่อยเลย เพราะที่ฟังๆมาแฟนนายนี่ก็ร้ายใช่เล่นเลยนะ”

 “เสียดายจังเราน่าจะเจอนายก่อนบาส”   จัสตินมองสบตาเอมีน จนเอมีนหลบวูบ ก่อนไล่ให้เขากลับบ้านแต่คนถูกไล่ยังรู้สึกอยากที่จะอยู่คุยกับคนไล่นานๆ จึงไม่ยอมกลับง่ายๆ

“พรุ่งนี้ไม่มีงานเหรอถึงไม่รีบกลับ”คนไล่ถาม

“ก็มันเหนื่อยทั้งวันกิน แค่ขนมปังไม่กี่แผ่นเกิดขับรถตาลายไปชนใครต่อใครทำไง” จัสตินอ้างทั้งๆที่ขนมปังที่กินไปนั่นเกือบหมดห่อ จริงๆ ยังรู้สึกอิ่มอยู่เลยด้วยซ้ำ


“อ้าวนายไม่อยากตายแล้วเหรอ  เมื่อกี้ยังไปปีนป่าย อยู่บนระเบียงอยู่เลยนี่”

“ไม่ล่ะมีคนช่วยฉุดชีวิตไว้ขนาดนี้”

“ยังไม่รู้จะหมู่หรือจ่าอย่าเพิ่งคาดหวังอะไรหน่อยเลย  ไม่อยากเครียดอีกคน”

“อืมเรารบกวนนายเกินไปหรือเปล่าเอมีน”

“ไม่หรอกคิดมากน่า   ถ้ายังไม่อยากกลับบ้าน ก็นั่งไปคนเดียวนะ ส่วนเรา จะนอนแล้ง ง่วง”

“ขอนอนด้วยได้ป่าว” จัสตินพูดออกมาอย่างไม่ไว้ฟอร์ม

เอมีนมองอย่างอึ้งๆ ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ  นี่ถ้ามันเป็นความฝัน เขาก็อยากให้คืนนี้ มันยาวนานออกไปอีก
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 06-03-2008 11:16:28
วี้ด วิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว อิอิ  :o8:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 06-03-2008 11:32:32
เส้นทางรักเริ่มจะบรรจบกันแล้ว  :oni2:

หลังจากสั้น(อะไรสั้น?)มาหลายวัน วันนี้ค่อยอ่านจุใจหน่อย  :a2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 06-03-2008 11:44:42

หลังจากสั้น(อะไรสั้น?) มาหลายวัน

ถึงสั้นก็ขยันโพสนะค๊าบบบบ ซอยถี่ออก อิอิ :o8:
เง้อ พูดอารายยยออกไป เค้าพูดเรื่องนิยายนะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 06-03-2008 11:59:21
บอกได้คำเดียวว่า   :pig3:  :pig4:...


มารอต่อ............


อิอิ จัสติน+เอมีน..........
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 06-03-2008 13:50:59
กรี๊ดดด >///<
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 06-03-2008 14:47:13
ว๊าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :oni2: :oni2:

อยากอ่านต่อย่างรุนแรง ^_^
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: yaoifilm ที่ 06-03-2008 18:20:51
 :a12:  หนุก   มาก  มาย 555   :m1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: อาจารย์..สีฟ้า ที่ 06-03-2008 18:45:42
เข้ามากริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ด้วยคน
สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
มาต่อแล้วๆๆๆ นะ
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 06-03-2008 21:27:58
ไม่เลยนะจัสติน ขอนอนห้องเขาเฉยเลย  :o8:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 07-03-2008 09:22:16
เอมีนตื่นขึ้นมาในตอนสายก็ไม่เจอจัสตินอยู่ในห้องแล้ว ได้แต่นั่งทบทวนเหตุการณ์เมื่อคืน ข้างกายที่ว่างเปล่าเป็นที่ๆจัสตินนอนหันหลังให้เขาเงียบๆ จนต่างคนต่างหลับ  จัสตินคงจะออกไปตอนเช้ามืดก่อนที่ใครๆที่ตึกจะตื่น  เอมีนนึกเห็นใจในความเป็นคนของประชาชนของฝ่ายนั้น

เด็กหนุ่มสลัดหัวไล่ความคิดทั้งหมดทิ้ง และขณะที่จะลุกเข้าห้องน้ำสายตาก็หันไปเห็นแผ่นซีดีที่วางอยู่บนหัวเตียงมันเป็นซีดีของคนที่เพิ่งออกไป คนมองเห็นสะดุดตากับกระดาษโน้ตที่แปะ จึงเดินไปหยิบมาอ่าน

…..ต้องรีบกลับ โทษทีที่ไม่ได้บอกไว้เดี๋ยวจะโทรหา…เซ็นซีดีให้แล้วนะ…..

ด้านล่างที่ลงชื่อคนเขียน เอมีนยิ้มนิดๆมองลายเซ็นที่ฝ่ายนั้น อุตส่าห์ห์เซ็นลงบนปกให้มันสื่อให้เห็นว่าคนๆนั้นยังคงจำวันแรกที่เจอกันได้
                   



บาสเข้าบริษัทตั้งแต่เช้า เพราะมีประชุมร่วมกับธีระและเมทีในเรื่องงานคอนเสิร์ตของฟิลิป แต่สองคนนั่นยังไม่เข้ามา เขาเลยเดินดูตึกในส่วนที่ยังไม่เคยเห็นไปเรื่อยๆจนรู้สึกหิวจึงลงไปหาอะไรทานที่ชั้นล่าง

ชายหนุ่มบังเอิญเจอกับพีรพลที่นั่งอยู่ในส่วนของมุมกาแฟ แม้จะไม่เคยคุยกันแต่ก็พอจะรู้จักว่าใครเป็นใครเลยถือโอกาสเข้าไปทักดีกว่าที่จะนั่งคนเดียว  พีรพลเอ่ยชมว่าบาสเก่งที่ทำให้ฟิลิปกลายเป็นคู่แข่งจัสตินขึ้นมาได้ ทำให้บาสเริ่มเอะใจว่าพีรพลเหมือนจะไม่ชอบฟิลิป แต่พีระพลปฎิเสธบอกตามจริงว่าแค่เพียงน้อยใจที่เมทีไม่ให้โอกาสเขากับงานที่เพิ่งเสนอไปเพราะมัวแต่ตั้งใจกับงานของธีระเกินไป   

บาสสงสัยว่าพีรพลคิดจะทำเพลงให้ใครจึงเอ่ยถาม  พีรพลยื่นแฟ้มประวัติเอมีนที่ติดมือมาให้คนถามดู  คนได้ดูถึงกับชะงักเมื่อเห็นรูปถ่ายเอมีน  ชายหนุ่มนึกถึงคนที่นั่งดูคอนเสิร์ตจัสตินในหมู่ญาติๆขึ้นมาทันที   ชายหนุ่มแกล้งบอกพีรพลว่าเด็กนี่น่าสนใจดี 

พีรพลกลับว่ามันคงเป็นแค่ความฝัน ทุกวันนี้เขายังเสียใจที่ทำให้เด็กหนุ่มที่มีความตั้งใจอย่างเอมีนผิดหวังซ้ำๆกับที่เคยเจอมา  แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงจะให้ย้ายค่ายออกไปทำที่อื่นก็ผูกพันกับที่นี่จนยากที่จะทำใจ  ก็เลยได้แต่รอว่าเมื่อเมทีส่งฟิลิปขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งได้เมื่อใหร่ก็คงจะหันมาสนใจเขาบ้าง  พีรพลยังเชื่อมั่นว่าเอมีนมีบางอย่างที่น่าจะขึ้นมาเป็นนักร้องแถวหน้าได้แม้จะไม่ได้เป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ แต่ก็น่าที่จะสร้างชื่อให้บริษัทได้ไม่น้อย

“อีกไม่นานหรอกคุณพีรพล  ฟิลิปต้องขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งได้แน่ๆ และคุณเมทีก็คงจะหันไปสนใจพวกคุณเองแหละ” บาสบอกออกมาเมื่อเห็นพีรพลนิ่งเงียบไปนาน หลังระบายความในใจออกมาทั้งหมด

“อะไรทำให้คุณมั่นใจเหรอ คุณวรกาญจน์ว่าฟิลิปจะขึ้นมาได้”

“ก็ตอนนี้จัสตินกำลังแย่นะสิ แล้วใครล่ะที่กำลังเป็นคู่แข่งเขาตอนนี้”

“อย่าเพิ่งมั่นใจเลย ตอนนี้ค่ายโน้นเขาก็คงกำลังเตรียมที่จะส่งหมัดเด็ดไว้สู้เราเหมือนกันแหละ คำว่าล้มแล้วไม่ลุกไม่ใช่ความคิดของฝั่งโน้นแน่นอน”

“ถึงว่าถึงได้เป็นคู่ฟัดตลอดกาล รู้ทางกันหมดอย่างนี้นี่เอง”  บาสประชดแต่ก็ยังมั่นใจว่าจัสตินคงไม่สามารถเรียกความนิยมคืนมาได้เหมือนเดิม ใครที่ไหนจะชื่นชอบนักร้องเกย์ล่ะ

“ไม่เชื่อผมก็รอดูก็ได้ ไม่นานหรอกทางเราแหละที่จะต้องแก้สถานการณ์กันให้วุ่น  ฝีมือในการมัดใจแฟนคลับของจัสตินกับฟิลิปมันต่างกัน  ผมไม่รู้หรอกนะเรื่องข่าวของจัสตินที่ออกมามันจริงหรือไม่จริง  แต่ยังไงถึงมันจะจริงผมก็ยังเชื่อว่าจัสตินคงไม่เสียความนิยมลงไปง่ายๆ ถ้าเทียบฝีมือในด้านการร้องและการเอนเตอร์เทน คนเดี๋ยวนี้ผมว่าเขาแยกออกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงาน มันขึ้นอยู่กับที่ทางต้นสังกัดจะกล้าแค่ไหนที่จะใช้ความจริงเข้าสู้ เพราะยิ่งหนีตอนนี้มันก็เหมือนเป็นขี้ปากสังคมไปเรื่อยๆ”

“แสดงว่าคุณเองก็เริ่มเชื่อว่าจัสตินเป็นเกย์งั้นเหรอ” บาสพอใจในผลงาน  ขนาดมันสมองระดับพีรพลยังเชื่อ  แล้วตาสีตาสาประชาชนทั้งประเทศจะไม่เชื่อได้ยังไง แต่ชายหนุ่มก็ยังคงข้องใจว่าอะไรที่จัสตินจะทำให้เขาหยุดสร้างข่าวฉาวๆลงได้

 จัสตินเริ่มที่จะมีรอยยิ้มจนเป็นที่ผิดสังเกตของคนในบ้านที่กำลังเครียดกับเรื่องข่าวอย่างหนัก แต่เจ้าตัวได้บอกทุกคนว่ามันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด และเขาจะพาเพื่อนมายืนยันถึงพฤติกรรมว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างข่าวเขียนกันออกมา ซึ่งนั่นก็คือเอมีน

หลายคนดูจะสบายใจมากขึ้น  ครอบครัวกลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง เพราะต่างก็เชื่อว่าเอมีนคือเพื่อนสนิทของจัสตินจริงๆ  แต่จัสตินยังอยากที่จะให้เอมีนมายืนยันให้ชัดๆ เพราะญาติของเขาบางส่วนถึงขนาดไม่กลับไปอังกฤษจนกว่าเรื่องนี้จะถูกชี้แจง

แต่แล้วจัสตินก็ทำได้แค่รอเพราะเอมีนกำลังติดสอบในช่วงนี้  ขณะที่เขาเองก็เข้าๆออกๆในบริษัทเพื่อคุยเรื่องงานเพลงที่ผู้บริหารลงความเห็นในที่ประชุม ว่าน่าจะออกมาขอบคุณแฟนคลับที่ยังเข้าใจและยังรักในตัวเขา   

จัสตินไม่ได้รู้เลยว่าแผนการโปรโมทครั้งนี้ทางค่ายถือเป็นไม้ตายที่เอามาต้านฟิลิป มันเป็นแผนการที่เสี่ยงมากๆกับชื่อเสียงของบริษัทที่สร้างมา  เพราะครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ทางค่ายจะยอมเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเด็กหนุ่มอย่างเขา  สวนกระแสที่ค่ายคู่แข่งอย่างเมทีกำลังมองว่าเขาถึงทางตัน เพราะจากที่มองกลุ่มแฟนคลับของจัสตินที่ยังเหนียว

“แปลกจังเลยพี่อิ๋ง ทำไมค่ายเขาถึงอยากให้ผมทำเพลงออกมาในช่วงนี้รู้ ทั้งรู้ว่าตอนนี้ผมแย่ขนาดไหน” จัสตินบอกกับอิ๋งอิ๋งที่ทำหน้าไม่ถูก เพราะยังอึ้งอยู่เหมือนกันเมื่อตอนได้ยินผลสรุปในที่ประชุม  ถ้ามันสำเร็จดังที่คาดจัสตินจะถือว่าเป็นคนแรกในวงการที่ขายความเป็นตัวเองจริงๆ  แต่ถ้ามันล้มจัสตินก็คงหมดหนทางที่จะเดินบนเส้นทางสายนี้แล้วเธอจะบอกคนตรงหน้าได้ยังไงล่ะว่าเจ้าตัวกำลังจะกลายเป็นหนูทดลอง

“ก็เอาไว้รอดูต่อไปดีกว่าจัสติน ตอนนี้พี่ก็งงพอๆกับเธอน่ะแหละ” ผู้จัดการสาวบอกปัด  นึกไม่ออกจริงๆว่าถ้าจัสตินรู้เรื่องนี้เข้าอะไรจะเกิดขึ้นและคิดว่าจัสตินคงไม่ยอมทำเพลงอย่างแน่นอน
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: SweetSerenade ที่ 07-03-2008 10:18:31
เป็นคนของประชาชนนี่ลำบากแฮะ

เอาใจช่วยจัสตินกะเอมีน

คนโพสต์ด้วย ขยั๊น ขยัน

ปอลอ รีแรกอ่ะ รีแรก ดีใจ  o7 เพิ่งเคยเป็นคนแรกนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 07-03-2008 10:27:25
เอ่อ ทางค่ายจะทำอะไรน่ะ  o12
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 07-03-2008 14:17:03
วิธีของค่ายน่ากลัวมากกกกกกกกกกกกก แล้วครอบครัวจัสตินจะรับได้เหรอ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 07-03-2008 22:25:53
อ่า แสดงว่าต่างคนต่างมีเบอร์โทรกันแล้ว อิอิ คงโทรหากัน ถึงรู้ว่า เอมีนติดสอบ  :o8: :o8:

ว่าแต่ทางค่ายจะทำอะไรอ่ะ

บาสรู้แล้วว่าพีรพลจะปั้น เอมีน จะเกิดอะไรขึ้นเอมีนต่อไป

กลัวบาสจะปั่นหัว เอมีน กับ จัสติน ให้เข้าใจผิดกันจัง

ยังไงก็รออ่านต่อไปครับ  :oni2: :m1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 08-03-2008 00:33:53
นั่นสิครีบ มันหลายอย่างเลยอะ จะลากมาชนกันได้ไหมละเนี่ยย
งืมทั้งบาส รู้เรื่องเอมีน ค่ายเพลงอีก โอย อยากอ่านต่อเลยทีเดียวว่าจะเป็นยังไงต่อไป
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 08-03-2008 23:46:33
 :m13:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 09-03-2008 20:17:34
ยังรออยู่นะคร๊าบบ แอบแว๊บมา แหๆๆ ไปอ่านหนังสือต่อก่อนน้า  o7
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 10-03-2008 09:05:38
มาล่ะครับ คึกคักแต่เช้า ติดพันมาตั้งแต่คืนวันเสาร์ อิอิ  :oni1:
ยาวมาหลายรอบ คราวนี้เอาสั้นๆล่ะกัน
============================
บาสบังเอิญเจอเอมีนในร้านขายซีดี หลังจากที่เอมีนสอบเสร็จ และเจ้าตัวกำลังจะไปหาครอบครัวของจัสติน ตามที่ฝ่ายนั้นโทรมาย้ำเขาหลายรอบ

“หวัดดี นายเอมีน” บาสเดินเข้ามาทักคนที่เขาเพิ่งรู้ชื่อจากพีรพล

คนถูกทักชะงักมองคนทัก นึกคิดว่าคุ้นหน้าคนๆนี้เหลือเกิน  ก่อนจะร้องอ๋อในใจเมื่อนึกถึงวันที่เขาไปขอแลกบัตรคอนเสิร์ตกับเพื่อนที่คอนโด คนๆนี้คือคนเดียวกับที่ยืนคุยอยู่กับธีระวันนั้นนั่นเองบาสเอง

“เรารู้จักกันเหรอ” เด็กหนุ่มถามตามซื่อ

“ผมเคยเห็นคุณในแฟ้มของพีรพล” คนถูกถามตอบ โดยเลี่ยงที่จะบอกว่าเคยเห็นคนตรงหน้าในงานคอนเสิร์ตจัสติน

“อ๋อ”เอมีนตอบ  นึกแปลกใจว่าคนๆนี้ไปเห็นแฟ้มพีรพลได้ไง

“จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าผมเป็นใคร” บาสชิงเอ่ย เมื่อเห็นแววตาสงสัยของคนตรงหน้า

“ก็อยากบอกก็บอกสิ ถามไปก็ไม่เกิดประโยชน์กับผม” เอมีนทำไม่สน  ทั้งที่ใจก็อยากรู้และยังนึกตลกที่โลกมันกลมทำให้เขามายืนคุยกับคนที่เขาเข้าใจว่าเป็นคู่ขาของธีระ คนที่เขาไม่ชอบหน้า

“ท่าทางคุณจะไม่อยากรู้  ไม่เป็นไรซักวันเราก็อาจได้ร่วมงานกัน”

“หมายความว่าไง” เอมีนสงสัยแต่บาสบอกปัด ถามไปเรื่องอื่นยกประเด็นที่จัสตินกำลังอยู่ในช่วงย่ำแย่เพื่อหวังจะดูปฎิกิริยาของเอมีน เขายังคงสงสัยว่าเอมีนไปรู้จักมักคุ้นกับจัสตินตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงขนาดได้บัตรวีไอพีไปดูคอนเสิร์ตหรือที่ตรงนั้นมันคือที่ของเขา  ยิ่งคิดก็เหมือนจะยิ่งขุ่นมั วแต่ก็ฝืนมองคนตรงหน้าด้วยสายตาปกติ

“แล้วนี่ไปไหนต่อเหรอ” ชายหนุ่มถามเมื่อไม่รู้จะคุยอะไร  เริ่มไม่ชอบเอมีนขึ้นมาทันทีเมื่อคิดว่าเอมีนคือคนที่มาทำให้จัสตินเปลี่ยนไป

“นัดกับจัสติน” เอมีนเผลอหลุดปากออกไป  กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เห็นสายตาที่บาสมองเขาดุขึ้น

“ทีแท้คุณก็เป็นเพื่อนจัสตินเหรอเนี่ย” คนตาดุแกล้งถามลองเชิง

“ไม่ได้สนิทอะไรมากมายหรอก” เอมีนบอกปัด คนได้คำตอบจึงรุกต่อ

“แล้วไปรู้จักกันตอนไหนเหรอ ผมว่าเพื่อนคนไทยของจัสตินไม่น่าจะเยอะนะ”

“ดูคุณจะรู้จักเขาดีจัง”

“ก็เป็นแฟนคลับไงไม่ได้โชคดีเหมือนคุณหรอก” บาสประชด

แต่เอมีนก็ซื่อเสียจนไม่รู้  จึงหลุดปากบอกออกไปว่าตอนนี้จัสตินกำลังต้องการกำลังใจอย่างหนักจากข่าวที่ถูกกรุขึ้น “ไม่เข้าใจว่าไอ้พวกปล่อยข่าวมันว่างนักหรือไง สะใจเหรอที่ลอบกัดคนอื่นเหมือนหมาแบบนี้”เอมีนด่าออกมาตรงๆ ไม่ได้รู้หรอกว่ากระทบหูคนที่ยืนฟังจนจี๊ดเข้าไปที่ใจ

“ก็ถ้ามันไม่มีมูลข่าวที่ไหนเขาจะเขียนได้ล่ะคุณ”

“มันเรื่องส่วนตัวของจัสตินเขาไม่ใช่เหรอ ทำไมคนทำต้องไปขุดคุ้ยเรื่องเขามาตีแผ่แบบนี้ด้วยล่ะ มันสมควรแล้วหรือไง”

“ดูจะสนิทกันมากเลยนะออกรับแทนกันจัง” บาสเอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว

“ก็แค่เห็นใจ  แต่ช่างเถอะเรื่องนี้มันใกล้จะจบแล้วล่ะ”

“หมายความว่าไง”  ชายหนุ่มถามกลับอย่างเร็ว  นึกถึงคำพูดของจัสตินที่ขอร้องให้เขาออกมาเคลียร์เรื่องพวกนี้ซะคนทั้งประเทศจะได้เลิกสงสัยกับข่าวแต่เขาปฎิเสธ

…เผอิญผมรู้แล้วสิว่าจะหยุดคุณยังไง… บาสหวนนึกถึงคำพูดนี้ของจัสตินพลางมองเอมีนอย่างใช้ความคิด

“ขอตัวนะคุณผมสายแล้ว” เอมีนมองดูเวลาเห็นว่าจะเลยเวลานัดแล้ว เลยขอตัวเลี่ยงไปก่อนบาสมองตามหลังก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างรู้เกม

“เสียใจด้วยนะจัสตินสวรรค์คงไม่เข้าข้างคุณ”
 
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 10-03-2008 09:24:30
คนโพสต์มาแต่เช้า

แต่หยุดเสาร์-อาทิตย์ไป มาต่ออีกทีสั้นกระจึ๋งเงี้ย  o7 คนอ่านชีช้ำ

ว่าแต่ บาสจะทำอะไรเอมีน  :o
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 10-03-2008 12:52:42
เอมีน นี่ซื่อจนเซ่อเลยนะเนี่ย แล้วจะทำไงต่อไป  o12

โดนเล่นงานทั้งคู่แน่ ทั้งจัสติน และ เอมีน   :o12:

ยิ่งอ่านยิ่งเครียด  :serius2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 10-03-2008 17:35:48
วันนี้คึกดี อารมณ์ดี
เลยมาตอนให้อีกรอบ
==========================
- 10 -

คนรู้เกมตัดสินใจโทรหาจัสตินทันที เขาไม่ปักใจเชื่อว่าเอมีนจะเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกับเจ้าตัวได้ถึงขนาดนี้ จัสตินได้เคยบอกเขาบ่อยๆเองว่าเขาเป็นคนเดียวที่ใกล้ชิดกับเจ้าตัวได้มากที่สุด แต่วันนี้ความสัมพันธ์มันเพิ่งจะจบลงไปไม่กี่เดือน การที่เอมีนจะชิดใกล้คนหวงตัวอย่างจัสตินได้ มันต้องมีอะไรที่เขากำลังไม่รู้และเขาก็จะไม่ยอมให้มันค้างคาใจ!!!!


“โทรมาทำไมบาส” จัสตินถามห้วนๆหลังจากที่บาสทักเขาก่อนแล้ว

“คนเคยๆรักกัน จะคิดถึงกันนี่มันผิดเหรอ ที่รัก” บาสยั่ว ลึกๆแล้วเค้าก็รู้สึกเสียดายเหมือนกัน ถ้าเอมีนจะเข้ามาแทนที่เขาจริงๆ

ชายหนุ่มได้ยินเสียงถอนหายใจจากจัสตินก็รู้สึกเคืองจึงถามเสียงห้วนขึ้น

“ทำเหมือนไม่คิดถึงผมเลยนะจัสติน”

“ผมไม่ว่างที่จะคิดถึงใครได้หรอกบาส  คุณก็น่าจะรู้นะว่าตอนนี้นักข่าวพาเหรดตามตัวผมขนาดไหน”

“จริงเหรอ  แต่ก็เห็นว่ามีเวลานัดเจอกับหนุ่มหน้าละอ่อนนิ”

“นี่คุณหมายถึงใคร”

“กินอยู่กับปาก เหยื่อกำลังจะไปหาถึงที่ไม่ใช่เหรอ”

“นี่บาสถ้าจะกวนประสาท  ผมบอกไว้เลยนะผมเบื่อที่จะคุยกับคุณแล้ว”

“ใช่สิคุณมันเจอของที่ใหม่กว่าแล้วนิ”

“ถ้าไม่มีธุระก็ขอตัวนะบาส ผมยุ่งๆ”

“อย่าวางหูใส่ผมนะจัสติน”

“คุณไม่มีสิทธ์ที่จะสั่งผมนะบาส ผมไม่ใช่ฟิลิปเด็กของคุณ”

“หึงผมเหรอ”

“นี่คุณยังคิดว่าผมจะหึงคุณเหรอบาส  เลิกคิดซะเถอะแล้วก็เลิกโยงผมกับเอมีนเข้าด้วยกันด้วยนะ  แค่รักครั้งแรกกับคุณผมก็แทบกระอัก ผมคงไม่ถลำตัวอีกง่ายๆหรอก”

“ยอมรับแล้วเหรอว่าผมพูดถึงเอมีน” จัสตินถึงกับอึ้ง เค้าเพิ่งรู้ตัวว่าโดนไล่ต้อนเมื่อจับน้ำเสียงเย้ยเยาะของอีกฝ่ายได้

“ไม่ต้องเงียบไปหรอกจัสติน คุณก็รู้ว่าผมไม่โง่  ไม่อย่างนั้นคงไม่หลอกคุณได้เป็นปีๆหรอก” คนเย้ยเยาะ ได้ทีเอ่ยต่อ เมื่อคู่สนทนาเงียบเสียงลง 

แต่ซักพักเขาก็ได้ยินคำพูดสวนกลับ “อย่าพูดถึงอดีต ผมไม่อยากฟัง”

“ทำใจไม่ได้งั้นเหรอ”

“คุณโทรมาทำไมบาส” จัสตินเปลี่ยนเรื่องคุย เมื่อนึกรำคาญในคำยียวนกวนประสาทของคนโทรเข้ามา แต่ไม่ยอมบอกจุดประสงค์ตัวเองซักที

“ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้โง่ใสซื่อเหมือนคุณและไอ้ละอ่อนเอมีนนั่น คิดจะร่วมมือกันชุบตัวเองใส่ตระกร้าล้างน้ำ หลอกตาประชาชนงั้นเหรอ” บาสบอกออกไปในที่สุด

จัสตินถึงกับอึ้ง ก่อนจะเอ่ยถามอย่างใจเย็น “คุณรู้อะไรบาส”

“ตลอดเวลาที่คบกันมามีเรื่องไหนของคุณที่ผมไม่รู้  คนอย่างคุณไม่กล้ามีความลับกับผมหรอกจัสติน ไอ้เอมีนนั่นมันคงหลงรูปหลงลมคุณล่ะสิ ถึงออกโรงปกป้องกันขนาดนั้น”

“นี่คุณเจอกับเอมีนเหรอ”

“ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือเป็นโชคดีของผมที่ได้เจอกิ๊กใหม่ของอดีตคนรัก”

“แล้วเขาบอกอะไรคุณ”

“จะให้บอกอะไรล่ะที่รัก  มีอะไรปิดบังผมอยู่งั้นเหรอ”

“ไหนบอกว่าผมไม่กล้าที่จะมีความลับกับคุณไง”

“นั่นมันเมื่อก่อน”

“ตอนนี้ก็เหมือนกัน”

“แต่ผมไม่เชื่อ”

“ทำไม”

“คุณเปลี่ยนไปแล้วไง”

“ผมไม่เคยคิดจะเปลี่ยนไปถ้าคุณไม่เป็นคนเริ่ม”

“แล้วคุณอยากให้ผมจบเรื่องนี้หรือเปล่าล่ะ”

“หมายความว่าไง”

“มาเจอผมสิแล้วผมจะบอก บางทีเราอาจตกลงกันได้ เห็นแก่ความสัมพันธ์เราเมื่อก่อน”

“ทำไมผมต้องเชื่อใจคุณ”

“แล้วคุณมีอะไรที่จะต้องเสียอีกงั้นเหรอ”

“ความรู้สึกไง  ผมไม่อยากจะเสียไปกับคุณมากกว่านี้”

“เกลียดผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ จัสติน”

“ผมไม่ได้เกลียด และก็ไม่คิดจะเกลียด ถ้าเพียงคุณไม่ได้ก่อกวนผมแบบนี้ ผมรู้สึกดีกับคุณแค่ไหนคุณก็น่าจะรู้”

“แล้วเราจะกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้เลยเหรอ”

“บอกแล้วไงถ้าเป็นเพื่อนผมก็ไม่ขัดข้อง”

“ก็ได้  งั้นเรามาคุยกันก่อนก็ได้จัสติน  ผมทำร้ายคุณไปผมเองก็เจ็บไปไม่น้อยหรอก”

จัสตินเริ่มรู้สึกใจอ่อน เมื่อบาสยอมที่จะพูดจารู้เรื่อง  ทั้งๆที่ก็ยังแปลกใจว่าทำไมบาสจะกลับลำได้เร็วขนาดนี้   

“ผมมีนัดคุณก็รู้”เด็กหนุ่มเอ่ยแย้ง เมื่อนึกถึงเอมีนขึ้นมา

“เราไม่ค่อยได้ว่างตรงกันแบบนี้นะ จัสติน” บาสยกข้ออ้างขึ้นมาสนับสนุนคำขอของตนที่ 

จัสตินเองก็เริ่มคล้อยตาม เพราะด้วยไม่อยากที่จะกลายเป็นคนที่เกลียดขี้หน้าซึ่งกันและกันกับคนขอเจอ  ถึงยังไงเมื่อก่อนเขาก็เคยรู้สึกดีๆด้วย

 “ตกลงผมจะไป” เด็กหนุ่มบอกออกไปในที่สุด 

บางทีการคุยกันครั้งนี้เรื่องราวมันอาจคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นก็ได้  ซึ่งถ้ามันเป็นแบบนั้นเอมีนก็จะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยและวุ่นวายกับเรื่องของเขา

“ยังซื่อเหมือนเดิมนะจัสติน” บาสพูดกับตัวเองหลังจากวางสายจากจัสตินไปแล้ว และฝ่ายนั้นก็รับปากที่จะมาหาเขา  เรื่องอะไรที่เขาจะกลับไปญาติดีกับคนที่ให้ความผูกพันได้เพียงแค่เพื่อน  หึ เป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ระดับประเทศ แต่สมองช่างกลวงสิ้นดี รู้ก็รู้ว่าตอนนี้เขาทำงานให้ใคร ยังจะคิดว่าเขาจะยอมรอมชอมเรื่องการสร้างข่าวเหลวแหลกนี้ง่ายๆ งั้นเหรอ  คิดได้ตื้นสิ้นดีจัสติน  การนัดครั้งนี้มันก็เป็นเพียงการถ่วงเวลาไม่ให้เอมีนเข้าถึงตัวคุณได้ง่ายๆแค่นั้นแหละ ยังมีอะไรที่รอคุณอยู่ ที่คุณอาจคาดไม่ถึง หึหึ

บาสยิ้มร้ายให้กับตัวเอง เมื่อคิดแผนการได้แล้วว่าดำเนินการต่อไปยังไง เพื่อให้บัลลังก์ซุปเปอร์สตาร์ของคนเคยรักสั่นสะเทือน
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 10-03-2008 20:05:43
ซื่อบื้อจริง ๆ ทั้งจัสติน และ เอมีน  :m16: :m29:

สมแล้ว คนโง่ย่อมตกเป็นเหยื่อของคนฉลาด  :o12: :serius2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 10-03-2008 21:12:33
ออกแนวเกลียดบาส ไปแระคับ เหอๆๆ
เอมีนไม่พอใจแหงมๆ ที่ไปแล้วไม่เจอจัสติน ไม่ก็ไปเจอสองคนอยู่ด้วยกัน  o12
เหอะๆๆ รอ ร๊อ รอครับ

เห้อ เซงครับ พรุ่งนี้ต้องไปฝึกงานแล้ว  o7
แต่เข้ามาอ่านแน่นอนน้าา อย่าทิ้งไปไหนนะคับ เป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 10-03-2008 22:25:55
ไม่ทันไอ้เลวบาสจิงด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยแย่
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 11-03-2008 09:24:34
มาลงอย่างต่อเนื่อง  :a3:
==============================
เอมีนเกิดอาการงงเมื่อจัสตินโทรมาบอกยกเลิกนัดกับเขาแต่ไม่ยอมบอกสาเหตุ ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่กล้าที่จะถาม  ทั้งๆที่เวลาที่ฝ่ายนั้นจะว่างตรงกับเขาก็ยากพอดู หรือว่าเจ้าตัวหาทางออกกับเรื่องนี้ได้แล้ว เด็กหนุ่มอดที่จะคิดไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็คงจะกลายเป็นเพียงคนอื่นไปแล้วน่ะสิ  แต่พอคิดดูอีกที มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่นา ซุปเปอร์สตาร์ที่ไหนจะมาเห็นเขาสำคัญได้ในสายตาล่ะ

“คุณเมทีว่าไงนะ” พีรพลอุทานถามคนตรงหน้าทันที ที่ได้ยินถ้อยคำที่ฝ่ายนั้นบอกว่าสนใจที่จะให้เอมีนเข้ามาทำเทป

“คุณก็ได้ยินแล้วนิ พีรพล” เมทีไม่อยากที่จะพูดซ้ำจึงเอ่ยออกไปแบบนั้น การตัดสินใจครั้งนี้เขาโดนเกลี้ยกล่อมมาจากบาสที่โทรมาหาเขาเมื่อซักครู่และขอให้เขารีบดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็ว ด้วยเหตุผลที่คนโทรเข้ามาโยงใยว่าเอมีนจะเป็นคนที่ช่วยฉุดจัสตินให้กลับมาผงาดอีกครั้ง  จึงเป็นการดีที่ทางค่ายเขาจะดึงตัวเอมีนไว้ 

หนุ่มใหญ่เองแม้จะรู้สึกตะขิดตะขวงใจในการที่จะรับคนที่เปิดเผยตัวอย่างเอมีนเข้ามาอยู่ในสังกัด  แต่พอได้ยินคำบอกต่อของคนขอให้ดำเนินเรื่องที่ว่าจะดองเค็มเอมีนยังไงเขาก็สามารถทำได้  เพราะกว่าที่เอมีนจะไหวตัวทันฟิลิปก็คงจะก้าวขึ้นมายืนแทนที่จัสตินได้สำเร็จ 

“ทำไมมันง่ายนักล่ะคุณเมที” พีรพลหาข้อแย้งเพราะเมื่อก่อนเจ้าของค่ายคนนี้ไม่เคยชายตามองหรือสนใจเอมีนเลย แล้วอยู่ๆมาอ้าแขนรับให้เอมีนเข้ามาเซ็นต์สัญญาเป็นศิลปินในสังกัด มันน่าที่จะมีเงื่อนงำอะไรมากกว่านั้น

“หรือคุณไม่ดีใจพีรพล  ผมเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้เราก็ดีขึ้น  อีกอย่างที่ผ่านมาผมไม่ค่อยที่จะสนใจงานพวกคุณเท่าไหร่  อีกอย่างผมให้เกียรติคุณนะ เพราะอย่างน้อยๆคุณก็เคยทำชื่อเสียงให้บริษัท” เมทีหาเหตุผลที่จะทำให้พีรพลคล้อยตามได้มากที่สุดซึ่งมันก็ได้ผล

“จะอะไรก็ช่างเถอะคุณเมที  ตอนนี้ผมขอบคุณคุณเมทีมากที่สนใจเอมีน  ผมสัญญานะว่าจะไม่ทำให้หลายฝ่ายรู้สึกเสียเวลากับเด็กของผม” พีรพลยกมือไหว้คนให้เกียรติด้วยแววตายิ้มประกาย 

เขาอยากที่จะบอกข่าวนี้กับเอมีนเร็วๆ เพื่อชดเชยในสิ่งที่เขาเคยให้ความหวังแต่ทำไม่ได้เมื่อคราวก่อน 

ธีระแปลกใจที่เห็นพีรพลเดินออกมาจากห้องเมทีด้วยรอยยิ้มที่ฉายออกมาทางสีหน้าและแววตาอย่างชัดเจน ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปทักถาม แต่กลับโดนพีรพลบอกว่าไม่สามารถที่จะพูดเรื่องนี้ได้ เพราะมันยังไม่เป็นทางการ

พีรพลรีบโทรนัดเอมีนออกมาหาทันที เมื่อแยกตัวออกมาจากธีระได้แล้ว ทางด้านบาสเองก็โทรหาเมทีเพื่อติดตามผลในสิ่งที่เขาขอด้วยเช่นกัน และคำตอบที่ได้จากเมทีที่ว่าทุกอย่างเรียบร้อย  ทำให้ชายหนุ่มถึงกับยิ้มแก้มปริ อย่างนี้ก็แสดงว่า วันรุ่งขึ้นเอมีนจะกลายเป็นคนที่ไม่สมควรข้องแวะผูกพันหรือแถลงข่าวใดๆร่วมกันกับศิลปินนอกสังกัดออกสื่อเว้นเสียจากจะได้รับความเห็นชอบจากต้นสังกัดน่ะสิ  หึหึ มันช่างสะใจนัก


จัสตินรู้สึกตงิดใจที่จะก้าวเข้าไปในห้องของบาส ซึ่งเป็นที่ที่บาสนัดเขามา ภาพสุดท้ายที่เขามาเห็นในห้องนี้ยังคงติดตาเขาอยู่  เด็กหนุ่มรวบรวมความกล้าเอื้อมมือกดออดเรียกหน้าห้อง

ไม่ช้าประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับที่คนเปิดดึงเขาเข้าไปในห้อง แล้วเข้าจู่โจมระดมกอดจูบเขาจนเขาตั้งตัวไม่ติด
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: SweetSerenade ที่ 11-03-2008 09:46:09
สงสารเอมีนต้องกลายเป็นหมากให้เค้าเดิน

คนที่มันจ้องจะทำลายคนอื่นนี่มัน :angry2:

รอวันที่กรรมจะตามสนองบาส
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุเมศพลัง ที่ 11-03-2008 17:24:15
ชักเริ่มสงสารเอมีน กลัวจะเป็นคนที่ซวยที่สุด

เป็นกำลังใจให้นะคะ ทั้งจัสติน เอมีน(ชอบนึกว่า จัสติน เอเเนง ..นั่นมันนักเทนนิสเเล้ว ๕๕๕+)  คนเขียนด้วย

จะติดตามต่อไปด้วยใจจดจ่อ(มาก)ค่ะ :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 11-03-2008 17:31:15
บาสนี้ก็เหลือเกินนะค่ะ ....  :angry2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 11-03-2008 22:21:57
เอมีนคงซวยที่สุดแล้วล่ะ เพราะเป็นเฟืองตัวสำคัญ

ว่าแต่ บาสจะจับกดจัสตินแล้วถ่ายวีดีโอไว้แบล๊กเมล์หรือเปล่าเนี่ย

แล้วก็คงยุแหย่ เอมีน กับ จัสติน ให้ผิดใจกันแหงม ๆๆ

หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 12-03-2008 10:49:08
“นี่มันอะไรกันน่ะบาส” คนที่โดนรุกโดนไซร้ ออกแรงผลักคนที่พยายามลวนลามเขาออกจากตัว ซึ่งเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคนรักเก่าเขานั่นเอง

“ไหนคุณนัดผมมาเพื่อจะคุยเรื่องของเราไง” เด็กหนุ่มเอ่ยต่อ เมื่อผลักฝ่ายนั้นออกจากตัวได้สำเร็จ

“นี่ไงล่ะเรื่องของเรา จัสติน คุณคิดว่าที่ผมหลอกล่อคุณมานี่ เพื่อที่ผมจะสารภาพผิดนั่งร้องไห้ขอโทษต่อหน้าคุณงั้นเหรอ” บาสเอ่ยพลางยิ้มเยาะ   

จัสตินถึงกับส่ายหน้าอย่างเอือมระอา  “คุณนี่มันเจ้าเล่ห์ไม่เลิกนะบาส”

“ผมไม่ได้เจ้าเล่ห์  ผมผิดเหรอที่จะเรียกร้องสิทธิ์ของผมจากคุณ”

“สิทธิ์บ้าบออะไรของคุณ  อย่าเพี้ยนหน่อยเลยนะ”

“เพี้ยนเหรอใช่ ผมมันคงเพี้ยนตั้งแต่ที่คุณบอกให้เราคบกันด้วยใจแล้ว จัสติน ให้ตายเถอะ ผมไม่อยากจะเชื่อว่าคุณจะกล้าพูดคำนี้”

“แล้วมันแปลกตรงไหนที่ผมจะพูดแบบนั้น”

“คุณพูดเหมือนกับว่าคนอย่างเราๆจะอยู่ด้วยกันได้เป็นศตวรรษ คุณให้ผมรอรอ รอทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คุณจะพร้อม”

“ผมมานี่ไม่ได้ต้องการที่จะมาพูดเรื่องนี้นะ บาส  ทุกอย่างมันจบลงไปแล้ว จนวันนี้คุณก็ยังหลอกผมไม่เลิก  ถ้าใครจะคบผม ผมยังยืนยันว่าเรื่อง Sex เป็นเรื่องรอง”

“งั้นเหรอ  ถ้าเกย์ครึ่งค่อนประเทศคิดแบบคุณ ก็คงจะพิลึกนะ”

“คนอื่นจะคิดยังไงผมไม่สนหรอกนะ  ผมเคารพสิทธิของเขาที่จะคิดจะพูดอะไรก็ได้ ตราบใดที่ไม่ทำให้ผมและครอบครัวเดือดร้อนเหมือนอย่างที่คุณทำตอนนี้”

“ผมทำอะไรให้คุณ  ผมผิดเหรอที่เอาความจริงของคุณมาประกาศให้ใครต่อใครรู้ว่าคุณหลอกลวงใครต่อใครเพื่อชื่อเสียงเงินทอง”

“ถ้าคุณไม่ได้อะไรมีหรือคนอย่างคุณจะทำ ทางโน้นเอาเงินฟาดหัวคุณมาเท่าไหร่ล่ะ  อย่าคิดว่าคุณจะรู้จักผมฝ่ายเดียวนะ  อะไรที่เป็นคุณผมไม่อยากจะสนใจ แต่อย่าบังคับให้ผมต้องพูด” จัสตินโพล่งออกมาอย่างเหลืออด เมื่อบาสดูถูกเขาได้อย่างร้ายกาจ 

“แล้วใครล่ะที่ไม่ทำเพื่อตัวเอง  อย่างคุณก็เถอะ ถ้าแน่จริงคงไม่วิ่งเต้นหาใครมาช่วยกู้วิกฤติขาลงหรอกนะ” คนถูกว่าสวนกลับเช่นกัน   

จัสตินมองคนตรงหน้าอย่างสมเพช ถึงเขาจะให้เอมีนมาช่วยเรื่องนี้แต่การกระทำของเขาไม่ได้เดือดร้อนใคร  ที่เขาคิดทำก็แค่เป็นการทำให้คนในครอบครัวได้สบายใจเท่านั้น

“ผมเสียใจนะบาสที่คุณคิดแบบนี้ และผมก็ไม่น่าโง่มาเหยียบที่นี่อีก” เด็กหนุ่มบอกออกไป

และในขณะที่เขากำลังจะหันหลังเดินออกจากห้อง แต่ก็ช้าไปเมื่อเจ้าของห้องรีบเดินมากระชากดึงแขนเขาเข้าไปปะทะกับร่างตัวเองจนลมกลิ้งลงไปนอนบนโซฟาทั้งสองคน

“บาสถ้าขืนคุณยังบ้าอยู่แบบนี้ ผมไม่เกรงใจคุณแล้วนะ”  จัสตินตะคอกพลางขัดขืน ไม่อยากจะเชื่อว่าอารมณ์ดิบจะครอบงำจิตใจคนเราได้ขนาดนี้ ยิ่งคนดึงเขาให้ล้มลงขึ้นค่อมตัวและพยายามถอดเสื้อผ้าเขาให้หลุดออก  เขาก็ยิ่งโมโหแต่คนทำดูจะไม่สะท้าน หนำซ้ำยังคงพยายามที่จะปลดกระดุมเสื้อเข้าให้หลุดให้ได้

“คุณบังคับให้ผมทำแบบนี้เองนะ จัสติน”

 “คุณก็บังคับให้ผมต้องทำในสิ่งที่ผมไม่อยากทำเหมือนกัน บาส” จัสตินเอ่ยสวน

คนได้ยินชะงักมือแล้วถามขึ้น “อะไร?” 

แทนคำตอบ คนโดนถามจัดการถีบเปรี้ยงเข้าที่ร่างคนถามจนเจ้าตัวกระเด็นไปกองที่พื้นห้อง
 
“คุณกล้าทำกับผมขนาดนี้เหรอจัสติน”  บาสยันกายลุกขึ้นมองจัสตินอย่างเคืองแค้น แต่จัสตินกลับไม่รู้สึกผิด เด็กหนุ่ม ดีดตัวลุกยืนเช่นกัน จัดการกับเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที

“บอกแล้วไงว่าคุณบังคับผมเอง” 

พูดจบ ร่างสูงก็รีบเดินออกจากห้องปิดประตูตามหลังดังปังทันที คนในห้องมองตามด้วยแววตาอาฆาตอย่างถึงที่สุด แล้วเอ่ยออกมาเสียงดุดัน

“อยากจะรู้นักจัสติน  ถ้าแกได้รู้ว่าไอ้เอมีนนั่นไม่มีสิทธิที่จะออกโรงปกป้องแกออกสื่อหรือเกี่ยวพันกับแกได้ยากขึ้น  คราวนี้แกจะวิ่งเต้นไปหาใคร”

ทางด้านคนโดนอาฆาต หลังจากที่เอาตัวออกมาได้จากห้องอัปยศนั่น ก็รีบโทรหาคนที่ตัวเองบอกยกเลิกนัดทันที เขายังคงมีเวลาว่างพอที่จะพาฝ่ายนั้นไปที่บ้านตามที่นัดไว้ แต่เด็กหนุ่มต้องผิดหวัง เมื่อฝ่ายนั้นบอกว่ามาหาเขาไม่ได้แล้ว  เพราะมีนัดแล้ว  คนผิดหวังยอมเข้าใจ  ทั้งๆที่รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่ตนเป็นฝ่ายยกเลิกนัดเอง
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 12-03-2008 11:18:02
สายไปแล้วล่ะ จัสติน

แล้วเมื่อไหร่ เอมีน จะรู้เนี่ยว่าบาส คือตัวการปล่อยข่าวเรื่อง จัสติน
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 12-03-2008 12:14:17
หุหุ

จะออกมารูปแบบไหนเนี่ยยยยยย..
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 12-03-2008 19:50:17
บาสจะยิ่งต้องแค้นเป็นร้อยเท่าแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 12-03-2008 20:56:36
จัสติน กับ เอมีน จะเป็นยังไงต่อไปนะ

แล้วบาสจะเล่นงานอะไรเอมีนละเนี่ย กลัวใจบาสจริง ๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 13-03-2008 09:56:19
 บาสวางแผนให้ทางค่ายเก็บตัวเอมีนไว้ดอง เจ้าแผนการจริง o12

ว่าแต่ เอมีนดอง อร่อยป่าว เมื่อไหร่จัสตินจะชิม  :laugh:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 13-03-2008 11:05:08
กะจะเอามาโพสตั้งแต่เมื่อวาน แต่ยิ่งแก่ก็ยิ่งขี้ลืม โพสไม่หมดอ่ะ
เอาไปก่อนแบบสั้นๆ 1 รอบล่ะกันครับ

เด๋วบ่ายๆ เย็นๆ โพสต่ออีกรอบ
======================================
คนที่เอมีนบอกจัสตินว่ามีนัดด้วยคือพีรพลนั่นเอง

เด็กหนุ่มไปที่นัดหมาย และได้พูดคุยกับคนนัด จึงได้รู้ว่าตัวเองโดนเรียกตัวให้เข้าไปเซ็นต์สัญญาเป็นศิลปินฝึกหัดในสังกัดของเจ้านายคนให้เขาไปเจอ
   
“ดีใจด้วยนะต่อไปนี้นายจะอยู่ในความดูแลของพี่” พีรพลบอกกับเอมีน ในเช้าวันที่พาเจ้าตัวไปจรดลายเซ็นต์ลงบนกระดาษที่มีข้อผูกมัดมากมาย ที่เขาเห็นคนเซ็นต์ชื่อไม่ใคร่จะสนใจอ่าน เจ้าตัวคงจะดีใจมากเพราะชายหนุ่มสังเกตเห็นรอยรื้นที่อาบรอบดวงตา

“หมายความว่าไงพี่พล” เอมีนถาม เมื่อควบคุมอารมณ์ดีใจตัวเองไว้ได้แล้ว

“ก็พี่จะทำหน้าที่เป็นทั้งผู้จัดการและโปรดิวเซอร์ให้เรา ทันทีที่ทุกอย่างลงตัว” พีรพลบอก

ลงตัวในความหมายของชายหนุ่มคือเมื่อเขาได้รับความเห็นชอบจากเมทีแล้ว ว่าเอมีนสามารถที่จะเริ่มทำเพลงได้  เขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่  แต่ทุกอย่างมันคงง่ายขึ้น เพราะอย่างน้อยตอนนี้เอมีนก็ได้เซ็นต์สัญญาไปเรียบร้อยแล้ว

แต่สัญญาครั้งนี้ของเอมีนมีผลแค่ระยะเวลาหนึ่งปีนี่สิที่เขาหนักใจ การที่เอมีนจะได้ต่อสัญญาหรืออกอลบั้ม มันก็คงต้องลุ้นกันอีกว่า เมทีจะเห็นดีด้วยแค่ไหน

ภาพที่พีรพลพูดคุยอยู่กับเอมีนด้วยความยินดีอยู่ในสายตาของคนสามคนที่มองหน้ากันอย่างขำๆ เมที ธีระ และบาสต่างก็รู้สึกตลกภาพนั้นอยู่เหมือนกัน สองคนนั่นคงคิดว่าจะได้ทำเพลง มีผลงานแน่ๆ  ถึงได้แสดงท่าทีดีอกดีใจกันขนาดนั้น

“ใครที่ใหนจะเอาเกย์มาออกเทปให้ขายขี้หน้าค่าย” เมทีกล่าวออกมาลอยๆ

ธีระมองสบตาบาสอย่างไม่ได้นัดหมายคล้ายโดนลูกหลงจากคำพูดของผู้บริหารไปด้วย  จึงต้องรีบกลบเกลื่อน
“นั่นสิคุณเมที  แต่บาสนี่ก็มองเกมได้ทะลุดีนะ”

“ไม่ขนาดนั้นหรอก คุณธีระ เขาเรียกแผนสกัดดาวรุ่งต่างหากล่ะ อย่างจัสตินต้องเจอแบบนี้แหละถึงจะเอาอยู่” คนถูกชมเอ่ยขึ้น 

ชายหนุ่มยังรู้สึกแค้นใจไม่หายเรื่องเมื่อวานนี่ถ้าจัสตินรู้ว่าเขาฉกตัวเอมีนมาไว้ใต้ชายคาเดียวกับเขาที่เป็นคู่แข่งกัน แล้วเจ้าตัวจะรู้สึกยังไง เอมีนอีกคนถ้าได้เห็นว่าเขาเป็นใครก็คงจะอึ้งอยู่ไม่น้อย เหมือนกันล่ะน่า
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 13-03-2008 11:19:45
ต่อนิดเดียวเองอะ...


 :serius2: :serius2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 13-03-2008 15:58:55
โหย จริงด้วย เอาเอมีนมาดองไว้ ทำไรก็ไม่ได้

เสียรู้จริง ๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 13-03-2008 19:51:13
มาล่ะครับ ตามสัญญา มาต่อรอบค่ำๆ
================================

- 11 -

“บ้าไปแล้วพี่อิ๋ง อะไรที่ทำให้ค่ายคิดที่จะให้ผมเผยตัวตนว่าเป็นเกย์ออกมา สังคมไทยเป็นยังไงก็น่าจะรู้กันอยู่ คิดกันไปได้” จัสตินโวยลั่นทันที หลังได้รับคำชี้แจงจากผู้จัดการถึงอัลบั้มพิเศษที่กำลังจะให้เขาทำ

“พี่ก็ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่คิดกันได้ยังไง แล้ว อย่างเราๆขัดได้ที่ไหนล่ะ  ทำๆไปเถอะจัสติน  เผื่อมันจะรุ่ง  เพราะตอนนี้ทางค่ายได้ผลกระทบกับเธอมากเลยนะ”

“แล้วที่กอบโกยกันมามันยังไม่พอเหรอ  แบบนี้มันฆ่าผมทั้งเป็นเลยนะ  แล้วครอบครัวผมจะว่ายังไง  คิดถึงผมบ้างสิไม่ใช่คิดที่จะทำเพื่อผลประโยชน์อย่างเดียว”

“นี่เธอจะพูดแบบนี้ไม่ได้นะจัสติน  ค่ายเขามีบุญคุณกับเธอขนาดไหน อย่าคิดว่าตัวเองดังขึ้นมาได้เพราะตัวเองนะ   แล้วเธอจะเอาไงค่ายเขาจะหาต้นตอฟ้องร้อง เธอก็ไม่อยากให้เรื่องมันไปกันใหญ่  แล้วไง ปัญหาเธอแก้มันเองได้มั๊ย  อีกอย่างท่างค่ายเขากล้าเสี่ยงที่จะให้นายเป็นตัวของตัวเอง  จะได้ไม่ต้องมาร้อนรนแก้ข่าวให้ผ่านไปวันๆ  เรื่องพ่อแม่หรือญาติโกเธอ ครึ่งหนึ่งก็เป็นฝรั่ง คงจะรับเรื่องพวกนี้ได้ไม่ยาก ยังไงเธอก็ลูกถ้าเขารู้ว่าทุกวันนี้เธอเก็บกดกับตัวตนของตัวเองแค่ไหน มีเหรอเขาจะไม่เข้าใจเธอ” 

อิ๋งอิ๋งอ้างเหตุผลยาวเหยียด แต่จัสตินยังคงยืนยันที่จะไม่ทำงานนี้  อะไรจะเกิดเขาก็พร้อมที่จะรับ  ถ้ามันวุ่นวายนักเขาจะก้าวออกจากวงการ  แล้วกลับไปเรียนที่อังกฤษให้มันจบๆไป แต่ก็ใช่ว่าอิ๋งอิ๋งจะยอมง่ายๆ

“ให้ตายเถอะจัสติน  เธอนี่มันรั้นได้ใจจริงๆ พอให้ปิดก็อยากที่จะเปิด พออยากจะให้เปิดก็ดันอยากกลับมาปิด  เธอจะเอายังไงหา”

“ผมว่าผมหาทางออกให้กับเรื่องนี้ได้”  จัสตินบอก 

ถึงเวลาที่เขาจะดึงเอมีนเข้ามาช่วยจริงๆเสียที  เด็กหนุ่มคิดที่จะโทรหาตัวช่วย แต่แล้วเขาก็ต้องตัวชาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เมื่อบาสโทรมาบอกเขาก่อนที่เขาจะโทรไปหาตัวช่วยว่า ตอนนี้ตัวช่วยของเขาโดนจับเซ็นต์สัญญาเข้าสังกัดเดียวกับฟิลิปไปเรียบร้อย


“ทำอะไรน่ะเอมีน” พีรพลเดินตรงเข้าไปทักเมื่อเห็นเด็กของตัวเอง เดินหอบเอกสารกองโตอย่าทุลักทุเลเข้าไปในห้องเก็บของ ก่อนที่มันจะร่วงลงสู่พื้นในที่สุดเมื่อเอมีนหันมามองเขา

“พี่พลหวัดดี” เอมีนยกมือไหว้ก่อนจะรีบก้มลงเก็บเอกสารอย่างลวกๆ   

พีรพลมองภาพนั้นนึกสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น  การก้าวเข้ามาในบริษัทวันแรกในฐานะศิลปินคนหนึ่งของเอมีน ทำไมจะต้องมาเดินหอบเอกสารโทงๆแบบนี้ จะอ้างว่าเอมีนเป็นศิลปินฝึกหัดก็ไม่ได้ เพราะที่ผ่านมากี่รุ่นต่อกี่รุ่น ก็ไม่เห็นจะมีใครทำแบบนี้ซักคน

“นี่ใครใช้ให้นายมาทำแบบนี้” ชายหนุ่มก้มลงช่วยเก็บกองเอกสารพลางเอ่ยถาม  เห็นเม็ดเหงื่อพราวบนใบหน้าคนตรงหน้าก็นึกเดาว่าเจ้าตัวคงเดินเก็บเอกสารกองโตมาแล้วหลายรอบ

 “คุณธีระบอกว่ามีคำสั่งจากคุณเมที ระหว่างรอพี่พลมา ให้ผมเดินเอกสารแผนกต่างๆไปก่อน” เอมีนตอบคำถามด้วยรอยยิ้ม เหมือนไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนกับสิ่งที่ทำอยู่

“บ้ากันไปใหญ่แล้วนี่มันไม่ใช่หน้าที่เธอนะ  ที่พี่ให้เธอเข้ามาหาวันนี้ ก็เพื่อจะคุยเรื่องเวลาว่าเธอจะว่างได้ตอนไหนพี่จะได้จัดเวลาลงเรียนพื้นฐานการร้องการเต้นได้ถูก ไม่ได้ให้มาหอบเอกสารพะรุงพะรังแบบนี้” พีรพลบอกอย่างหัวเสีย  นึกไม่พอใจธีระที่มายุ่งวุ่นวายกับงานส่วนของเขา

“ก็มันไม่ได้หนักหนาอะไรนี่เนี่ยเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” เอมีนบอก เขาไม่ได้ซีเรียสอะไรที่ต้องทำงานพวกนี้ แต่ดูท่าว่าพีรพลจะยังคงหงุดหงิดไม่หาย

“มันไม่หนักแต่มันไม่ควร  เสร็จก็ดีแล้วไปล้างหน้าล้างตาก่อนไปเหงื่อเต็มแล้วน่ะ  แล้วตามพี่ไปในห้อง” พีรพลลุกเดินหนีไป

เอมีนถอนหายใจมองตามก่อนจะรีบเก็บเอกสารให้เข้าที่  ระหว่างทางไปที่ห้องพีรพลเห็นธีระยืนพุดคุยอยู่กับบาสจึงเดินเข้าไปหาเพื่อที่จะเคลียร์เรื่องที่ธีระใช้งานเอมีน  บาสเองเห็นพีรพลเดินมาก็เลี่ยงหนีไปทางอื่นปล่อยให้ธีระรับหน้าอยู่คนเดียว

“คุณธีระคุยกันหน่อยได้มั๊ย” พีรพลเริ่มพูดก่อน  ธีระบอกให้รีบเพราะเดี๋ยวมีประชุมกับคุณเมทีและก็บาส คนเอ่ยก่อนเลยเริ่มเข้าเรื่อง 

ในระหว่างที่สองโปรดิวเซอร์หนุ่มกำลังคุยกัน  ทางด้านเอมีนที่เดินก้มหน้าก้มตาเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้า  เด็กหนุ่มต้องชะงักเมื่อเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปเห็นฟิลิปกำลังยืนอยู่หน้ากระจก  สองสายตาที่มองกันผ่านเงากระจก  เอมีนจะถอยกลับออกไป แต่ถูกฟิลิปเรียกเอาไว้ก่อนเลยต้องหยุดอยู่แค่หน้าประตูมองสบตาคนเรียกที่หันมามองเขาหัวจรดเท้า

“มอมแมมมาเชียวนะนายมาอยู่นี่ได้ไง” ฟิลิปทักเมื่อดูแล้วว่าในห้องนี้ไม่มีใครอยู่  คนถูกทักมองคนทัก  ที่ถามเหมือนยังไม่รู้ว่าเขาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทนี้แล้ว

“ที่ถามน่ะหูแตกหรือไง” ฟิลิปขึ้นเสียงไม่ชอบสายตาเอมีนที่จ้องเขา

“อยากรู้อะไรก็ไปถามโปรดิวเซอร์นายเองสิ” เอมีนบอกปัด 

นึกเอือมคนตรงหน้าตั้งแต่วันแรกที่เจอจนวันนี้  แม้ตอนนี้เจ้าตัวจะกลายเป็นคนดังไปแล้วก็เถอะ แต่นิสัยปากเสียไม่เคยได้หลุดไปจากตัวเลยจริงๆ

“ไม่ถามก็พอจะรู้ ว่านายคงจะมาสมัครเป็นนักร้องอีกแล้วล่ะสิ เท่าที่จำได้โครงการของฉันยังไม่เปิดรับสมัครไม่ใช่เหรอ  หรือแค่แถลงข่าวนายก็อดรนทนไม่ไหวแล้วที่จะมาสมัครให้ได้” 

“ก็แล้วแต่นายจะเข้าใจ  การดูถูกคนอื่นล่วงหน้ามันเป็นสิ่งที่นายถนัดอยู่แล้วนี่”

“งั้นเหรองั้นบอกมาสิว่ามันไม่จริง  พวกล่าฝันลมๆแล้งๆ”

“นายไม่ควรพูดอย่างนี้นะฟิลิป  นายเองก็เคยผ่านมันมาก่อนน่าจะคิดบ้างไม่ใช่คิดว่าตัวเองดังแล้วลืมตัว  แบบนี้ระวังจะเจอดีเข้าสักวัน”

“เจอดีอะไร  ฉันไม่ได้เป็นพวกวิปริตผิดเพศเหมือนอย่างนายจัสตินที่พังเพราะหลอกตาประชาชนแท้ๆ  โทษนะที่ต้องพูดตรงๆอาจจะสะเทือนใจนายบ้าง  รู้ก็รู้อยู่ว่าตัวเองเป็นอะไร ยังอยากที่จะกระเสือกกระสนเข้ามาในวงการ  ตัวอย่างก็มีให้เห็นว่าความจริงมันก็คือความจริง ทางที่ดีนายกลับไปทำอย่างอื่นดีกว่า อย่าพยายามเลยมันทุเรศว่ะ  คุณเมทีเขาคงไม่เอาเกย์ที่ไหนมาเข้าสังกัดหรอก หรือถ้าอยากมากนักก็ไปร่วมก๊วนกับนายจัสตินสิ เผื่อจะรุ่ง”

 “ถึงจัสตินจะเป็นอย่างที่ข่าวลง  ฉันว่าเขายังคงมีความเป็นผู้ชายกว่านายอีกนะฟิลิป ที่อย่างน้อยเขาไม่พูดจากระทบใครเหมือนอย่างนาย”

“ไม้ป่าเดียวกันนิก็ต้องร้อนใจแทนกันเป็นธรรมดา  แต่อย่าให้มันมากไปนะสมเพช”

ประโยคสุดท้ายฟิลิปจงใจเดินเข้ามาพูดใส่หน้าเอมีนเต็มๆก่อนจะเดินออกไปอย่างสะใจที่ทำให้เอมีนยืนหน้าซีดด้วยความโกรธได้ 

เอมีนกลับมานั่งคิดถึงจัสตินในห้องของพีรพล นี่เขามัวแต่ดีใจและตื่นเต้นจนลืมนึกถึงคนที่รอการช่วยเหลือจากเขาแล้วงั้นเหรอ  เด็กหนุ่มคิดที่จะโทรหาคนที่ตัวเองกำลังนึกถึง  แต่แล้วต้องชะงักถ้าฝ่ายนั้นร้อนใจจริงๆ ก็น่าจะเป็นฝ่ายติดต่อมาหาเขาเอง การที่เจ้าตัวเงียบไปก็แสดงว่าเขาคงไม่มีความหมายแล้วมั้ง 
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 13-03-2008 20:03:45
น่าสงสาร ทั้ง จัสติน และ เอมีน จริง ๆๆ

 :m15: :o12:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 14-03-2008 08:19:22
มาแต่เช้า ไปร่าเริงตอนกลางคืน  :oni1:
================================
ทางด้านจัสติน ตอนนี้กำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เขาโดนสั่งให้เก็บตัวอีกครั้งเพื่อทำงานชิ้นใหม่ ซึ่งเขาก็ไม่ค่อยพอใจนัก แต่คำว่าบุญคุณที่ถูกยกมาอ้างทำให้เขาไม่อาจที่จะถอนตัวได้  อีกอย่างสถานการณ์ตอนนี้ทางค่ายเขากำลังโดนรุกหนักจากทางฝั่งของเมทีที่เริ่มขยับแถลงข่าวโครงการและคอนเสิร์ตใหญ่ของฟิลิป และก็ได้เสียงตอบรับที่ดี  จนน่ากลัวว่าฟิลิปอาจจะก้าวขึ้นมาแทนที่เขาได้สำเร็จตามที่สื่อทุกสื่อนำเสนอ 

“อย่าเครียดไปเลยจัสติน งานชิ้นนี้มันไม่ได้ต่างจากชิ้นที่แล้วของเธอนักหรอก เพียงแต่การโปรโมทครั้งนี้มันเป็นการไม่หลอกลวงแฟนเพลงของเธอ  ก็ดีไปอีกอย่างนะ จะได้รู้ไงว่าการที่เธอประสบความสำเร็จมันมาจากผลงานและความสามารถของเธอจริงๆ”  อิ๋งอิ๋งเดินมาบอกกับเขา 

คนโดนบอกเริ่มที่จะเห็นด้วย เพราะคนที่เขาคิดที่จะให้ช่วยลบภาพฉาวๆเขาออกจากสื่อก็ไปอยู่กับกลุ่มคนที่จ้องทำลายเขาแล้ว มันจะมีประโยชน์อะไรที่เขาจะออกมาแก้ข่าว ซึ่งเขาคิดว่าเอมีนคงไม่ถูกปล่อยให้ออกมาปกป้องเขาที่เป็นเป้าหมายในการแข่งขันลงได้ง่ายๆ บาสร้ายกาจกว่าที่เขาคิดเยอะ ถึงเวลาแล้วที่เขาจะเอาความจริงเข้าสู้


เย็นแล้ว  เอมีนแยกตัวจากพีรพลเพื่อกลับบ้านหลังจากอยู่คุยเรื่องงานนานหลายชั่วโมง  พีรพลให้คำสัญญากับเขาอีกครั้งว่าคราวนี้จะร่วมสานฝันเขาให้สำเร็จถึงขนาดเอาหน้าที่การงานเป็นประกัน เขาเองก็ทั้งซึ้งใจและเป็นกังวลกลัวพีรพลจะมาเดือดร้อนเพราะตน  จึงให้สัญญากับฝ่ายนั้นว่า เขาจะทุ่มเทจิตใจกับเส้นทางสายนี้ตามที่ฝ่ายนั้นตั้งใจขีดให้เดิน

เอมีนรู้สึกคุ้นหน้ากับคนที่กำลังยืนโต้เถียงอยู่กับฟิลิปใกล้ๆกับลิฟท์ตัวที่เขาจะลง ลักษณะคนทั้งคู่ก็พอจะดูรู้ว่าเพิ่งกลับเข้ามาบริษัท ฟิลิปคงไปงานโชว์ตัวที่ใหนมาซักแห่งแ ต่ฟิลิปไม่ใช่คนที่เด็กหนุ่มสนใจ เขาสนใจอีกคนต่างหากที่หันข้างมาทางเขา  คนสนใจพยายามนึกทบทวนว่าเคยเห็นคนๆนี้ที่ไหน  แล้วจู่ๆก็มีคนมาสะกิดเรียกข้างหลังจึงต้องรีบละสายตาหันไปมอง จึงเห็นว่าเป็นธีระกำลังมองเขานิ่งอยู่

“คุณธีระ” เอมีนเรียกเพราะไม่รู้จะคุยอะไร ธีระจึงเริ่มคุยก่อน

“จะกลับแล้วเหรอ”

“พี่พลเขาก็จะกลับแล้ว” ธีระยิ้มเยาะ  เอมีนไม่สนใจหันกลับไปมองทางเดิม แต่ตอนนี้สายตาเห็นแต่ฟิลิปเท่านั้นที่ยืนเหมือนคนหัวเสียอยู่  เด็กหนุ่มพยายามมองหาคนที่หายไป ธีระผิดสังเกตเลยเอ่ยถาม
 
“มองหาใคร”

“ก็เมื่อกี้ผมเห็นฟิลิปยืนคุยอยู่กับใคร”

“ผู้จัดการเขาสนใจทำไม”  ธีระบอกแล้วหันไปมองฟิลิบที่คงไม่ลงรอยกับบาสเรื่องงานอีกเหมือนเคย ฟิลิปไม่ถูกชะตากับบาส ชายหนุ่มรู้เพราะสาเหตุใด เขาถึงไม่ยอมเผยตัวตนที่แท้จริงว่าเขาเองก็เป็นเหมือนๆบาส  เพราะคิดว่าฟิลิปอาจจะพาลไม่ชอบและเลิกหมดศรัทธาเขาไป นั่นมันเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะในส่วนลึกเขายังรับไม่ได้ที่จะเห็นฟิลิปเย็นชากับเขาเหมือนๆที่ฟิลิปทำกับเกย์ทุกๆรายที่ได้เข้ามาร่วมกัน

“เปล่าผมไม่ได้สนใจ เห็นหน้าคุ้นๆ” เสียงเอมีนเอ่ยขึ้นเรียกสติคนนึกกลัวจะโดนเย็นชาจากคนที่หมายปองกลับคืนมา แต่ก็เอ่ยแย้งอะไรไม่ทัน เมื่อคนช่วยเรียกสติเดินหนีไปซะก่อน 

เอมีนแยกตัวออกมาจากธีระ ก็เฝ้าคิดว่าอยากที่จะเห็นโฉมหน้าผู้จัดการส่วนตัวฟิลิป เพราะอะไรน่ะเหรอ จัสตินเคยบอกเขาเองว่า คนรักเก่าของเจ้าตัวได้เข้าไปดูแลนักร้องคู่แข่งอย่างฟิลิป คนรักเก่าของซุปเปอร์สตาร์จะมีหน้าตายังไงนะ อืม แต่เท่าที่เห็นเมื่อซักครู่ ก่อนที่ธีระจะเข้ามาทัก เขาก็คุ้นหน้าอยู่ไม่น้อย ธีระไม่น่าเข้ามาทักเขาเลยให้ตายสิ ไม่อย่างนั้นเขาคงรู้แล้วว่า เขาเคยเห็นหน้าคนคุ้นตาที่ไหน  ค

นขี้สงสัยกลับถึงห้องก็ยังไม่วายเลิกคิดเรื่องคนคุ้นตา เขาจะใส่ใจทำไมนักหนานะ กะอีแค่หน้าตาของคนรักเก่าของจัสติน เด็กหนุ่มลุกขึ้นไปเลือกแผ่นซีดีที่จะเปิดฟัง ขณะจะเข้าไปอาบน้ำ พลันสายตาก็ไปสะดุดกับซีดีแผ่นหนึ่งที่เพิ่งซื้อมาล่าสุดจากร้านขายซีดี  คนสายตาสะดุดหยิบซีดีแผ่นนั้นขึ้นมาดู   ความคิดบางอย่างย้อนกลับตีเข้ามาที่หัวอีกครั้ง

“ผมเคยเห็นคุณในแฟ้มของพีรพล”  ถ้อยคำชัดเจนของคนที่เข้ามาทักเขาในร้านขายซีดีแผ่นที่ถืออยู่ในมือ ทำให้เขาถึงกับผงะ ใช่แล้ว เขานึกออกแล้ว คนคุ้นตาที่ธีระบอกว่าเป็นผู้จัดการของฟิลิปคือคนๆเดียวกับที่มาทักเขาในร้านขายซีดีนี่ นี่เอง 

นั่นก็เท่ากับว่าคนๆนี้เป็นคนรักเก่าของจัสตินและเป็นคนต้นคิดที่จะทำลายชื่อเสียงเจ้าตัวด้วยวิธีสกปรกเพื่อผลักดันฟิลิปน่ะสิ  ตายล่ะที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือเขาจำได้ว่าเขาเคยเห็นธีระยืนเคียงคู่ดูสนิทกับคนๆนี้ที่คอนโดเพื่อน ก่อนที่ข่าวจัสตินจะแพร่สะพัดออกไป

“พี่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณเมทีถึงเรียกเราไปเซ็นต์สัญญาได้ง่ายนัก”  อีกหนึ่งคำพูดของพีรพลที่ชัดเจนขึ้นมาในหัวสมองของคนตกใจ เด็กหนุ่มเริ่มคิดปะติดปะต่อเรื่องราวและเชื่อว่าจัสตินอาจจะให้คำตอบเขาในเรื่องนี้ได้
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 14-03-2008 09:19:49
เริ่มฉลาดแล้วสินะ เอมีน  o7 :m4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 14-03-2008 09:53:39
ปะติดปะต่อแต่ละฉากเป็นเรื่องราวเก่งมาก  o13 นักสืบเอมีนจะทำยังไงต่อไปล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 14-03-2008 10:38:17
สงสัยเอมีนนี้แหละจะเป็นคนแก้ปมต่างๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 14-03-2008 11:13:35
thx ค๊าบ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 14-03-2008 21:07:52
เอมีนเริ่มฉลาดขึ้นมาแล้วววว  :oni2:

จะเป็นอย่างไรต่อไปเนี่ย  :oni1: o7
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 15-03-2008 08:57:05
มารออ่านด้วยอีกคน

ใครจะเป็นคนแก้เกมส์เอาคืนบาสนะเนี่ย

ไงก็เอาให้เจ็บแสบเลยละกัน
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 16-03-2008 04:13:32
เป็นกำลังใจให้คนโพสนะครับ  o13

ปล. พี่บอยครับเรื่องใหม่นะครับรออยู่  :oni3:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 17-03-2008 17:37:51
โทษทีครับ วันนี้มาช้าไปหน่อย
==========================
เสียงโทรศัพท์ที่ดังก่อกวนการนอนหลับของจัสตินทำให้เขาลุกขึ้นมาหยิบดูอย่างนึกรำคาญ  เด็กหนุ่มเหมือนจะหายง่วงเมื่อเห็นชื่อเอมีนที่โทรเข้ามา เขานึกชั่งใจอยู่นานว่าจะรับดีหรือเปล่าโดยที่ไม่รู้ว่าคนโทรกำลังนั่งลุ้นว่าเมื่อใหร่เขาจะรับสายเสียที

ตื้ด ตื้ด….เสียงปลายสายตัดสัญญาณทิ้ง เอมีนนึกหัวเสียจนต้องบ่นออกมา
“มันจะอะไรกันนักหนากูไม่ได้พิสวาสมึงเท่าใหร่หรอก”  พูดจบก็ตัดสินใจโทรเข้าไปใหม่ด้วยความร้อนใจ  เขามีคำถามที่จะถามจัสตินจนไม่อาจรอให้เวลาคืนนี้มันผ่านไปโดยที่ยังไม่ได้คำตอบ

“มีอะไรนี่ไม่ใช่เวลามาคุยโทรศัพท์นะง่วงจะนอน”  จัสตินรับสายในที่สุด พลางพูดออกไปเพื่อปิดบังความรู้สึกตัวเอง อันที่จริงเขายังมึนกับเรื่องที่ได้รู้จากปากบาสจนไม่รู้จะเริ่มคุยอะไรกับเอมีนต่างหาก  อีกอย่างเขาตกลงที่จะทำเพลงในแบบที่ทางต้นสังกัดต้องการ  เอมีนคงไม่ต้องลำบากที่จะมาช่วยอะไรเขาอีก  ในเมื่อเรื่องครอบครัวทางค่ายสัญญาว่าจะเคลียร์ให้

“แล้วที่เคยมาก่อกวนเคาะห้องคนอื่นกลางดึกนั่น มันสมควรเหรอ” เอมีนย้อนกลับ 

จัสตินนิ่งเงียบไปซักพักก่อนจะถามเสียงนิ่ง “แล้วมีอะไรถึงโทรมาดึกๆแบบนี้”

“ขอโทษแต่มันอยากรู้อะไรบางอย่าง”

“อะไรจะปรึกษาเรื่องร้องเพลงเหรอไง” จัสตินประชด

เอมีนสะดุ้งตกใจ  “นี่นายรู้แล้วเหรอ”

“ทำไมจะไม่รู้ล่ะในเมื่อเกมนี้สุดที่รักเก่าผมคุมมันอยู่”

“ไม่ยักรู้ว่านายจะประชดตัวเองก็เป็น”  เอมีนบอกอย่างไม่ชอบใจนัก  แต่ก็ทำไม่สนในเมื่อที่เขาโทรมานี่เพราะเรื่องอื่นจึงเริ่มเข้าเรื่อง

“ถามอะไรหน่อยสิ”

“อะไร”

 “ที่นายบอกเลิกนัดเราวันนั้นนายไปหาใคร”

“จะรู้ไปทำไม”

“ถามให้ตอบไม่ได้ให้ย้อน”

“ไม่บอกเหตุผลก็ไม่ตอบ”

“นายไปหาแฟนเก่านายใช่มั๊ย”  เอมีนเดาเมื่อจัสตินไม่ยอมตอบ  แต่จัสตินก็ยังคงพูดอ้อมๆเพื่อหยั่งเชิงว่าเอมีนถามไปเพื่ออะไร

“ใครบอกนาย”

“ไม่มีใครบอกแค่จับต้นชนปลาย”

“นั่งทางในเอาหรือไงคุณ”

“มันไม่ใช่เวลาที่จะมาประชดนะ จัสติน  แค่บอกเท่านั้นว่ามันจริงมั๊ย”

“จริงแล้วจะทำไม”  เอมีนอึ้งเงียบไปสักพักเมื่อทุกอย่างมันลงลอ็คอย่างที่คิดไว้  จัสตินบอกเลิกนัดเขาหลังจากที่เขาแยกจากคนคุ้นตามาได้ซักพัก

“เราคิดว่าเราเจอแฟนนาย ก่อนที่นายจะนัดเจอเขา”

“เขานัดเราไม่ใช่เรานัดเขา  แล้วอีกอย่างบาสบอกแล้วว่าเจอนาย”

“เขารู้จักเราเหรอ”

“เคยเห็นในงานคอนเสิร์ต”

“มิน่าล่ะ”

“อะไรคิดอะไรอยู่”  จัสตินถามอย่างสงสัยแต่เอมีนไม่ตอบนอกจากวางสายทิ้งไปเฉยๆ

“อะไรของเขา” จัสตินพูดกับตัวเองก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ  โดยที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เอมีนกำลังนั่งคิดทบทวนเรื่องราวทุกอย่าง 

เงื่อนงำที่เมทีรับเขาเข้าเซ็นต์สัญญาอย่างง่ายดาย แล้วที่เขาต้องโดนแกล้งใช้งานสารพัด ผิดแปลกไปจากศิลปินคนอื่นๆเขาทำกัน  คำตอบมันชัดแจ้งออกมาแล้วว่าบาสคงจับได้ที่เขาไปสนิทและคิดช่วยเหลือจัสติน จึงรวมหัวกับเมทีคิดจะกันเขาไว้เพียงเพราะกระดาษที่มีข้อผูกมัดที่เขาอ่านไม่ถี่ถ้วนเพราะความดีใจ 

เด็กหนุ่มนึกโกรธขึ้นมาทันที เมื่อคิดได้ว่าเรื่องที่เข้าได้เข้ามาในสังกัดของคนที่เคยไม่แลตามองเขาเพราะสาเหตุใด  ฝันของเขา คนพวกนี้ดึงมันลงมาเกี่ยวข้องกับเรื่องธุรกิจที่ห้ำหั่นกันงั้นเหรอ คิดผิดไปหน่อยล่ะ ที่จะใช้ให้เขาตกเป็นเครื่องมือในการห้ำหั่นนั่น

“เล่นกับใครเล่นจะมาเล่นกับไอ้เอมันไม่ง่ายนักหรอกนะ”  เด็กหนุ่มพึมพำกับตัวเอง เมื่อคิดที่จะทวงความฝันที่ถูกดึงลงมาเล่นจากคนที่มีอำนาจคืนมา
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 17-03-2008 20:46:40
เอ ต้องเอาคืนให้แสบบบบบบบบบบบบบบบบบบเลยน่ะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 17-03-2008 21:20:27
ต้องเอาคืนให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันทำ  :serius2: :angry2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุเมศพลัง ที่ 18-03-2008 00:50:41
ฆ่ามานนนนนนนนนนนนนนนน!!! :angry2:



ไม่ใช่เเละ นั่นมันอารมณ์บางระจัน 

เอ เอาคืนเลย มันทำเเสบเราต้องเเสบกว่า สู้ตายยยยยยยยยฮัดช่า~ :a2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 18-03-2008 10:01:08
มาแหล่ว แต่เช้า :oni1:
ร่าเริงรับวันใหม่
============================
- 12-  

DREAM  ชื่อโครงการที่แผ่หราอยู่บนแผ่นโปสเตอร์ขนาดใหญ่ และติดเอาไว้ระหว่างทางเดินขึ้นตัวตึกทำให้เอมีนหยุดยืนมองขณะกำลังจะเดินผ่าน  นึกหมั่นใส้ภาพของเจ้าของโครงการที่ยิ้มร่าอยู่บนสื่อประชาสัมพันธ์แผ่นนั้น ในใจก็นึกค่อนขอดที่คนยิ้มช่างยิ้มได้ใสซื่อต่างจากตัวเป็นๆราวกับคนละคน 

เด็กหนุ่มเผลอแยกเขี้ยวทำหน้าล้อเลียนโดยไม่สนว่าคนที่ผ่านเข้าออกจะมอง จนกระทั่งหางตาเหลือบเห็นร่างคนที่อยู่บนโปสเตอร์ กำลังเดินลงมาทางเขาจึงตีสีหน้าเป็นปกติก่อนจะทำเป็นไม่เห็นเดินสวนขึ้นไปที่ตึก

“นึกเหรอว่าไม่เห็นทำอะไรไปเมื่อกี้” ฟิลิปดักคอเอาไว้ก่อน 

เอมีนหยุดยักไหล่กวนประสาทเหมือนไม่รู้เรื่องว่าฟิลิปพูดถึงอะไร

“มาทำไมอีก” ฟิลิปเริ่มถาม ซึ่งคำถามก็ไม่ได้ต่างจากที่เอมีนคิดไว้ 

เด็กหนุ่มจึงส่ายหัวเฉตอบประชด  “มาสมัครร้องเพลงไง ปิดประกาศซะแผ่นเท่าบ้าน อย่าบอกนะว่ายังไม่เปิดรับสมัคร”

ฟิลิปมองตามสายตาเอมีนไปที่โปสเตอร์โครงการของเขา แล้วหันกลับมายิ้มเยาะบอก

“อยากเป็นนักร้องจนตัวสั่นหรือไง เท่าที่เห็นวันรับสมัครไม่ใช่วันนี้”

เอมีนตะกุกตะกักนึกโมโหที่เสียเชิงให้ฟิลิปจนได้  แถมยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไรฟิลิปก็เดินย้อนกลับขึ้นตึกไปเสียก่อน ทิ้งแววตาสุดท้ายให้เขาต้องเจ็บใจในความอายที่ไม่อ่านข้อมูลให้ละเอียด



“เป็นไรน่ะจัสติน ดูเหมือนมีอะไรในใจนะเรา” อิ๋งอิ๋งเอ่ยถามจัสตินในระหว่างที่เจ้าตัวนั่งเตรียมตัวเข้าห้องอัดเป็นวันแรกกับงานชิ้นใหม่

“พี่อิ๋งรู้มั๊ยว่าบาสเข้าไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ฟิลิป”

 “ตั้งใจจะบอกอะไรพี่”

“มีเพื่อนผมคนนึงกำลังจะเข้าไปเป็นนักร้องที่นั่น”

“แล้วไง มันเกี่ยวตรงไหนกับที่บาสไปเป็นผู้จัดการให้ฟิลิป”

“พี่อิ๋งไม่สงสัยบ้างเหรอ ว่าทำไมอยู่ๆคนรักของผมถึงไปเป็นผู้จัดการให้กับคนที่สื่อยัดเยียดให้เป็นคู่แข่งผม แล้วเรื่องราวทุกอย่างมันเริ่มวุ่นวายเพราะผมบอกเลิกกับเขา”

“เธอกำลังจะบอกใช่มั๊ยว่าแฟนเก่าเธออยู่เบื้องหลังข่าวทั้งหมด”

“เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็นหรอก ทุกอย่างผมหวังว่ามันจะคลี่คลายตามแผนของบริษัท”

“แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เธอต้องมากังวลนั่งเครียดแบบนี้”

“ผมเป็นห่วงเพื่อนผม” จัสตินหลุดปากออกมา 

ใช่ว่าหลังจากที่วางสายจากเอมีนคืนนั้นเขาจะนอนหลับได้ลงเด็กหนุ่มนอนทบทวนเรื่องราวทั้งคืน ก่อนจะได้คำตอบที่คิดตรงกันกับเอมีนซึ่งป่านนี้กำลังเผชิญอยู่กับอะไรอยู่ เขาก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆบาสคงไม่ญาติดีกับเพื่อนใหม่ของเขาอย่างเอมีนแน่นอน

วันเวลาที่เรานั้นพบกัน
กับความรักที่เธอมีให้
หัวใจคนนี้ไม่อาจลืม
แต่ในความจริงที่มันยังนึกกลัว
อยากรู้ว่าเธอคิดยังไง
ถ้าหากวันนี้มีสิ่งอยากพูดไป
ได้ไหมเธอตอบฉันที
จะยังรักกันอยู่ใหมถ้าหากว่าฉัน
เปลี่ยนไปจากเมื่อวานที่เราพบกัน
ลำบากหัวใจแต่คงต้องพูดมัน
ว่าฉันนั้นเคยหลอกเธอ
รู้ฉันรู้ว่าเธอคงเสียใจ
และเสียดายวันเวลา
กับความรักที่เคยให้ามา
น้ำตาคนนี้คงพอทดแทน

   
เสียงปรบมือดังเกรียวจากทีมเพลงที่นั่งลุ้นอยู่ด้านนอกหลังจากที่จัสตินอัดเสียงร้องเสร็จ   ทุกคนลงความเห็นว่าผ่าน แต่กว่าจะถูกใจคนคุมร้องก็เล่นเอาคนร้องเหนื่อยไปหลายรอบ แต่คนเหนื่อยก็เข้าใจว่าทุกคนคาดหวังกับบทเพลงนี้  ว่าเป็นตัวชี้อนาคตของเขาที่จะทวงความเป็นหนึ่งกลับมา 

เด็กหนุ่มเห็นความตั้งใจของหลายๆฝ่ายจึงคลายความเครียดลงมาได้เรื่องงาน   แต่เรื่องของเอมีนเขายังห่วงอยู่ลึกๆ เพราะว่าว่าเขาคงหาโอกาสที่จะเจอกับคนนี้ได้ยากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ใช่ว่าจะหมดโอกาส อย่างน้อยๆเวลาที่หลายๆคนนอนหลับเขาก็คงจะได้ไปพูดคุยกับเอมีนตัวต่อตัวอีกสักครั้งทุกอย่างมี  ครั้งที่หนึ่งมันก็ต้องมีครั้งที่สองสิน่า
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 18-03-2008 10:10:07
กำลังจะมาเต้นเรียกคนโพสท์  โดนโพสท์ตัดหน้าซะก่อน

ไม่เป็นไร เต้นไปอ่านไปก็ได้  :a4:  :a3:  :a11:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 18-03-2008 10:49:27
จัสตินเริ่มห่วงแล้วล่ะสิ 555
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 18-03-2008 11:17:38
เหอ ๆๆ จัสติน หาช่องว่างแอบเจอกันยามดึกดื่น  :o8:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 18-03-2008 22:12:00
ว้าวๆ คืบหน้า (ไปนิดนึง) หุหุ  :a2:
แต่เรืองนี้ผมอดห่วงลึกๆ ว่ามันจะเป็นจัสตินแน่ป่าว ผมว่าฟิลิป มันอาจจะมีอะไรมากกว่านั้นน้าาา  :a5:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 19-03-2008 11:14:27
มาทุกวัน ไม่มีเบื่อ
อิอิ รักคนอ่าน
==============================
จัสตินมองร่างนั้นผ่านกระจกรถ ร่างที่เดินดุ่มๆก้มหน้าก้มตาไม่สนใจใครตรงไปที่ทางเข้าของตัวตึก คนมองเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว  เขาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือเที่ยงคืนกว่าๆเอมีนเพิ่งจะกลับเข้าห้องหรือนี่  เด็กหนุ่มนึกเห็นใจในท่าทีร่อแร่ของคนเพิ่งกลับ  คงจะเหนื่อยมาเต็มทนแต่กระนั้นเขาก็ยังเห็นคนร่อแร่ยิ้มทักทาย รปภ หน้าตึกก่อนจะยื่นถุงบางอย่างให้  มองด้วยสายตาน่าจะเป็นขนมหรือของกินอะไรซักอย่าง 

คนมองรู้สึกดีกับภาพที่เห็น  บางทีเขาก็อยากเป็นผู้ให้กับคนรอบข้างอย่างที่เอมีนทำบ้าง  แต่ก็ไม่อาจที่จะทำได้เพราะสถานภาพของเขาไม่เอื้อที่จะไปให้อะไรกับใครได้ง่ายๆ  เอมีนเดินลับสายตาหายขึ้นตึกไปแล้ว  จัสตินผ่อนลมหายใจหมวกคู่กายถูกหยิบออกมาใช้อีกครั้ง 

เด็กหนุ่มก้าวลงจากรถหรูที่จอดซุ่มอยู่ตรงข้ามตึกที่เอมีนพักอยู่  สำรวจดูความเรียบร้อยก่อนจะเดินก้มหน้าไม่ต่างจากเอมีนเมื่อครู่ตรงไปยังตัวตึก  รู้ว่า รปภ คงมองแต่เขาไม่สนใจ  เข้าตึกได้ก็ตรงดิ่งเข้าลิฟท์ไปยังห้องของเอมีน  คนไม่สนใจใคร ไม่อาจรู้เลยว่าไม่ได้มีแค่สายตาของ รปภ เท่านั้นที่มองตามร่างเขา   ในมุมมืดใกล้ๆกับรถเขา   เก๋งอีกคันก็เคลื่อนออกไปทันทีที่ร่างเขาหายเขาไปในลิฟท์

เอมีนสะดุ้งสุดตัวเมื่ออยู่ๆมีมือโผล่มาช่วยเขาไขกุญแจห้อง หลังจากที่เขาเสียบผิดเสียบถูกเพราะตาใกล้จะปิดด้วยความอ่อนเพลียที่เดินเก็บเอกสารแทบทั้งวัน  แถมพีรพลยังอาศัยช่วงเวลาที่เมทีกลับบ้านนั่นคือนอกเวลางานลากตัวเขาไปคุยเรื่องงานที่ กว่าจะเสร็จก็ทำเอาเขานั่งทางในไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ

“ไปทำอะไรมา ตาจะปิดอยู่แล้วน่ะนาย” ปากก็บ่นแต่มือจัสตินก็จับกุญแจที่แย่งมาจากเอมีนไขประตูจนเปิดออก 

เอมีนไม่มีอารมณ์ที่จะซักถาม พอเห็นประตูเปิดร่างทั้งร่างตรงไปล้มนอนตรงโซฟา  เป็นหน้าที่ของจัสตินที่จะต้องปิดประตูล็อคห้อง  ก่อนจะเดินไปยืนเท้าเอวมองร่างที่หลับอยู่บนโซฟาที่ไม่รู้หลับ จริงหรือแกล้งหลับ  แต่คนมองก็นั่งลงเอามือแตะหน้าผากฝ่ายนั้นจนได้   เอมีนยังคงไม่รู้สึกตัวจากลมหายใจอุ่นๆที่สัมผัสได้ คนแตะหน้าผากส่ายหัวก่อนจะบ่นเบาๆ

“จะรอดมั๊ยเนี่ยนายเอมีน”  คนบ่นนึกชั่งใจอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่คนนอนหลับ สวมอยู่หวังเพียงที่จะคลายความอึดอัดให้

“พ่อ แม่”  เสียงพูดคล้ายละเมอของเอมีนทำให้จัสตินชะงักมือที่กำลังแกะกระดุมจนเม็ดสุดท้าย

เด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นกุมสัมผัสกับมือคนละเมอที่เอื้อมมือมาสัมผัสมือเขา ทั้งๆที่ตายังหลับอยู่ มืออีกข้างจึงเอื้อมไปปัดไรผมที่ปกคลุมตรงหน้าผาก นึกสงสัยเหมือนกันว่าครอบครัวของคนที่สัมผัสมือเขาอยู่ตอนนี้เป็นอยู่ยังไง เจ้าตัวเองก็ไม่เคยเอ่ยถึงเขาเองก็ไม่กล้าที่จะถาม แต่ถ้าเดาจากอาการตรงหน้าคนๆนี้น่าจะห่างเหินกับพ่อกับแม่น่าดู  เอาวะเป็นพ่อเป็นแม่คนสักคืนมันก็ไม่หนักหนาสาหัสตรงไหน คนเดาเหตุการณ์คิด ก่อนจะเอนตัวพิงโซฟาทั้งๆที่มือก็เกาะกุมอยู่กับมือคนละเมอ กระทั่งเผลอหลับไปอีกคน   แต่คนเผลอหลับก็ต้องตกใจตื่นขึ้นมา เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบที่นิ้วมือขึ้นมาจนสุดจะทน

“บ้าหรือเปล่าวะเจ็บนะโว้ย”  จัสตินตะคอกขึ้น เมื่อรู้ว่ามือตัวเองโดนจับฟาดกับพื้นห้อง 

คนโดนตะคอกหน้าเสียเมื่อเห็นคนตะคอก ยกมือตัวเองขึ้นมาดู เด็กหนุ่มสังเกตเห็นริ้วแดงชัดเจนอยู่บนนิ้วทั้งห้าของฝ่ายนั้น จึงรีบรีบขอโทษขอโพย

“มาเจ็บตัวแท้ๆ” คนเจ็บตัวบ่นอุบอิบไม่ฟังคำขอโทษใดๆจากคนขอโทษ

“ก็มันตกใจนี่  ร้อยวันพันปีเคยโดนกุมมือนอนซะที่ไหน ไม่กัดนิ้วขาดก็บุญแล้ว”
เอมีนเอ่ยว่าบ้าง เมื่อคำขอโทษเขาถูกเมินใส่   

“น้อยๆหน่อยเหอะ เป็นผู้หญิงจะไม่ว่าเลย ให้ตายสิหวงตัวไม่เข้าเรื่อง” คนโดนว่าสวนกลับ ซึ่งคนโดนสวนก็ไม่ยอมเช่นกัน

“ถ้าเป็นผู้หญิงมีเหรอนายจะกุม” จัสตินมองเอมีนตาเขียว เมื่อโดนฝ่ายนั้นย้อน

“ปากดีอย่างนี้คงไม่ต้องให้ห่วงแล้วมั้ง” คนตาเขียวเอ่ยบอก  เอมีนถามห้วนๆกลับตามนิสัย

“ห่วงอะไร”

“ก็ เปล่าพูดไปเรื่อยแหละไม่ต้องใส่ใจหรอก” จัสตินบอกปัด  แต่เห็นเอมีนมองเขาไม่วางตาต้องตวาดถาม

“มองอะไร”

“ไม่อยากให้มอง แล้วเข้าห้องเรามาทำไม”

“คิดไปถึงไหนแล้วนาย  ผ่านมาก็แค่แวะแปลกตรงไหนคนเคยรู้จักกัน”

“เหรอนี่เราต้องผิดหวังป่ะเนี่ย” เอมีนแกล้งยั่ว  ทั้งๆที่แอบน้อยใจอยู่ลึกๆ

จัสตินหันมาจ้องตา  เด็กหนุ่มถึงได้หลบวูบก่อนจะแยกตัวจะเข้าห้องน้ำ  แต่พอลุกขึ้นเห็นกระดุมตัวเองปลดลงจนจะเม็ดสุดท้าย จึงหันมามองจัสติน คนโดนมองร้อนตัวรีบบอก กลัวว่าคนมองจะคิดไปไกล

“อย่าคิดอะไรบ้าๆนะนาย”

“ใครเขาไปคิดอะไร ก็แค่จะถามว่าจะอาบน้ำก่อนมั๊ยก็แค่นั้น”  เอมีนว่าเข้าให้ 

จัสตินลอบถอนหายใจก่อนจะตอบตกลงแก้เก้อ แล้วเดินหยิบผ้าเช็ดตัวหายเข้าไปในห้องน้ำ   เอมีนมองตามแล้วก้มลงมองกระดุมตัวเองจัดการใส่ให้มันเข้าที่ก่อนจะนั่งลงคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

“จะนอนนี่เหรอ” เอมีนถามจัสติน เมื่อมองดูเวลาเห็นมันดึกพอที่จะนอนได้แล้วแต่เห็นจัสตินนั่งวางท่าอยู่อีกมุมหนึ่ง เขาก็ไม่รู้จะนอนได้ยังไงเลยต้องตัดสินใจถาม

“ไม่ให้นอนนี่ แล้วจะไล่ให้ไปอาบน้ำทำไม” จัสตินย้อน 

เอมีนอึ้ง เออกูผิดอีก เด็กหนุ่มคิดในใจก่อนจะลุกไปบอกคนย้อนให้ลุกออกจากโซฟาไล่ให้เขาไปนอนบนเตียง ส่วนตัวเองจะนอนที่ตรงนั้น จัสตินมองแต่ก็ไม่ยอมลุก   

เอมีนเลยต้องไล่ซ้ำ  “นั่งบื้อทำไมเล่า ไปจะนอน”

“กลัวโดนกัดหรือไง ทำยังกะไม่เคยนอนด้วยกัน  โซฟาก็ตัวแค่นี้ดิ้นสองทีเดี๋ยวก็ได้ตกลงไปนอนหลังหักบนพื้นกันพอดี”จัสตินแย้งแต่ก็โดนย้อนกลับจนได้

“ถ้าเป็นนายก็ว่าไปอย่างที่จะได้นอนดิ้นจนตกลงมาหลังหัก”

“อย่ามั่วเกิดมาไม่เคยนอนดิ้น”

“นายรู้เหรอว่าตัวเองไม่ดิ้น ไปๆๆอย่าพูดมากดึกแล้วขี้เกียจคุยง่วง”

“อะไรวะเพิ่งจะนอนตื่น  จะนอนอีกแล้วไปเหนื่อยอะไรมานักหนา”

“ก็แล้วจะมานั่งถ่างตาทำไมล่ะ  กลางคืนเขามีไว้ให้พักผ่อนไม่ได้ให้ามานั่งคุยกันเคลียร์มั๊ยคุณนักร้องดัง”

“ก็ถ้ากลางวันมันมาคุยด้วยได้ ก็ไม่ถ่อสังขารมาหาค่อนคืนแบบนี้หรอก” 

ความเงียบเข้ามาเยือนเมื่อจัสตินหลุดปากออกอย่างนั้น  สายตาที่มองกันต่างหลบวูบเมื่อต่างคนต่างอ่านความรู้สึกกันและกัน   มันเหมือนมีเยื่อบางๆกั้นกลางไม่ให้สองหัวใจได้เปิดประตูพูดกันอย่างที่ต่างคนอยากจะพูด   เอมีนก็ไม่อยากที่คิดว่าจัสตินจะรู้สึกอะไรกับตนในขณะที่จัสตินเองก็ยังขัดเขินที่จะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง

“ไหนบอกว่าเป็นทางผ่านไง” เอมีนยังคงหาข้อแย้งให้หัวใจไม่ต้องคิดมาก  จัสตินเองก็พูดซ้ำให้เยื่อบางๆที่กั้นความรู้สึกนั่นฉาบหนาขึ้นมาได้อีก

“ก็ถูกแล้วไง ถ้าไม่ผ่านจะแวะมาทำไมให้เมื่อย”  พูดจบก็ลุกเดินไปล้มนอนที่เตียงหันหลังให้โดยไม่แคร์ว่าคนฟังน้อยใจอยู่ลึกๆ  คนน้อยใจเดินไปปิดไฟ ก่อนที่คนนอนหันหลังให้ จะหันมาเห็นแววเศร้าในแววตาตัวเอง

ในความมืด จัสตินได้หันกลับมามองคนที่เลือกล้มตัวนอนบนโซฟา  เด็กหนุ่มรอจนแน่ใจว่าฝ่ายนั้นหลับไป จึงลุกขึ้นมาคลุมผ้าห่มให้แล้วพาตัวเอง ออกไปยืนรับลมนอกระเบียง
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 19-03-2008 11:34:42
555 อย่าบอกนะ ว่าบาสแอบมาสอดแนม เอมีน กับ จัสติน อีก

ไอ้สารเลว  :angry2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 19-03-2008 12:45:24
จัสติน พูดจาไม่น่าฟังอีกแล้ว มาหาเค้าถึงห้องแทนที่จะพูดดีๆเฮ้ออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 19-03-2008 12:51:41
เหนื่อยแทนอีกคน

เรื่องจะเป็นยังไงต่อเนี่ยยย...

 o2 o2 o2 o2
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 19-03-2008 21:48:59
เจอหน้ากันก็ทะเลาะกัน

แอบเห็นด้วยว่า บาส แอบมาสอดแนมแน่นอนเลย

วันรุ่งขึ้น เอมีน โดนแน่ ๆๆๆ  :m16:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 20-03-2008 09:11:06
ขอบคุณค๊าบ

 :m23:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 20-03-2008 10:45:48
 ในอีกมุมหนึ่งของเมืองหลวง บาสกำลังยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มแก้วต่อแก้วในผับหรู โดยไม่มีทีท่าที่จะมึนเมากับฤทธิ์แอลกอฮอล์เลยแม้แต่นิด 

อากาศภายในเย็นเฉียบแต่ข้างในชายหนุ่มกลับร้อนรุ่ม ภาพที่จัสตินเดินแกมวิ่งตามหลังเอมีนยังคงชัดเจนติดตา  จนเขาต้องหาที่ระบายก่อนที่คุมอารมณ์ร้ายที่ครอบงำจิตใจไม่อยู่ 

เขาจำต้องตามดูเอมีนเพื่อประโยชน์ในหลายๆอย่าง  ชายหนุ่มคิดว่าคนอย่างเอมีนคงเคี้ยวไม่ได้ง่ายๆ  ถ้าฝ่ายนั้นได้มีโอกาสทำเพลงขึ้นมา ก็คงจะทำให้นักร้องหลายคนร้อนๆหนาวๆได้ไม่น้อย  รวมทั้งฟิลิปเองก็เถอะแม้จะอยู่สังกัดเดียวกัน แต่ถ้าเอมีนเกิดดังขึ้นมา คนอย่างเมทีก็พร้อมที่จะลอยแพฟิลิปโดยไม่ต้องสงสัย นั่นก็หมายถึงผลประโยชน์ที่เขาจะต้องสูญเสียอย่างเลี่ยงไม่ได้

และยิ่งจัสตินเข้าไปสานสัมพันธ์กับเด็กนั่นถึงในห้องแบบนี้ จากที่เอมีนเคยเป็นแค่ม้านอกสายตาหรือเครื่องมือที่จะจัดการกับคนรักเก่าอย่างจัสติน วันนี้ชายหนุ่มจึงกลับมองคนๆนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจที่เขาจะต้องหาทางจัดการให้พ้นทั้งทางใจและผลประโยชน์  และคนที่จะเครื่องมือเขาก็คงจะไม่พ้นธีระ สองคนนี้ไม่ค่อยชอบหน้ากันมองแวบเดียวเขาก็รู้ จะเป็นไรไปถ้าเขาจะกระพือความเกลียดชังให้คนสองคนมากขึ้น  แบบที่อาจจะมองหน้ากันไม่ติดธีระหลงฟิลิปหัวปักหัวปำ ในขณะที่ฟิลิปไม่ค่อยลงรอยกับคนที่เป็นเกย์  ธีระถึงต้องหลบซ่อนๆตัวตนของตัวเองเพราะกลัวฟิลิปจะหมดความศรัทธา  แต่ถ้าธีระได้เห็นว่าเกย์อย่างเอมีนพยายามตามใกล้ชิดผูกพันกับฟิลิปเพราะเขาชักใยอะไรจะมันจะเกิดขึ้น เรื่องอื่นอาจจะยอมได้แต่เรื่องโดนเอมีนลูบคมเรื่องหัวใจธีระคงไม่อยู่เฉย  คนคิดแผนการมองแก้วในมืออย่างร้ายลึก


เช้าวันใหม่ จัสตินคิดที่จะออกไปก่อนที่เอมีนจะรู้สึกตัวอีกเหมือนเคย  แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองร่างนั้นที่นอนขดคู้อยู่บนโซฟา  อีกไม่กี่ชั่วโมงจากเช้านี้  ถ้าเอมีนได้ฟังวิทยุก็คงจะได้ยินเสียงของเขากับงานใหม่  นั่นก็หมายถึงพร้อมๆกับคนทั้งประเทศ

ถึงแม้เขาจะเคยผ่านมันมาแล้วกับความรู้สึกวันแรกที่เพลงเขาได้ถูกเปิดให้คนทั้งประเทศได้ฟัง  แต่ครั้งนี้วันนี้เขาก็อดที่จะกลัวไม่ได้  ครั้งที่แล้วเพลงเขาได้รับความนิยมตามที่หลายฝ่ายคาดไว้ จนส่งผลให้วันนี้เขามายืนอยู่บนจุดสูงสุดที่นักร้องหลายคนต้องการ แม้มันจะแลกมาด้วยการหลอกลวงอย่างที่บาสเคยว่าเขาไว้  แต่ในอีกไม่กี่ชั่วโมงแผ่นตัดเพลงแรกของเขากำลังจะถูกส่งให้กับทุกคลื่นวิทยุด้วยมือของเขาเองพร้อมคำสัมภาษณ์เปิดใจ 

และนี่คือสิ่งที่เขากลัว…..คนที่รักเขาจะรับเขาได้แค่ไหน ถ้าเขายอมเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง และคนที่นอนอยู่ตรงหน้าตอนนี้อีกล่ะ เจ้าตัวจะรู้สึกสงสารหรือสมเพชกันแน่นะ  ที่เขาเลือกวิธีนี้มาแก้เกมคนรักเก่าอย่างบาส

               

“อะไรกันนี่ฝั่งโน้นเค้ากล้าขนาดนี้เลยหรือไง” เมทีพึมพำออกมา เมื่อเพิ่งได้รับรายงานว่าตอนนี้เกิดความฮือฮาขึ้นมาอีกครั้งกับทางค่ายคู่แข่ง เมื่อหลายคลื่นวิทยุได้เปิดเพลงของจัสตินและคำสัมภาษณ์เปิดใจของเขาที่กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที จนเกิดความโกลาหลจากแฟนคลับที่ต้องการเช็คข่าวอย่างจ้าละหวั่น 

ทั้งทางคลื่นวิทยุและประชาสัมพันธ์ของต้นสังกัดจัสติน ต่างก็วุ่นวายประหนึ่งเหมือนโดนวางระเบิดไว้ตูมใหญ่  แฟนคลับต่างก็ช็อคไปครึ่งค่อนเมืองที่จัสตินออกมายอมรับตัวตนที่แท้จริงและขอโทษในเรื่องที่ผ่านๆมา  พร้อมกับยืนยันว่าตัวเองไม่ได้มั่วเซ็กส์ติดยาอย่างที่เคยมีกระแสก่อนหน้านี้  วอนให้ทุกคนมองที่ผลงาน

“บ้านี่พวกมันต้องบ้าแล้วแน่ๆ” เมทีหงุดหงิดหัวเสีย 

หนุ่มใหญ่ไม่คิดดีใจเลยสักนิดที่เรื่องมันเป็นแบบนี้  ตรงกันข้ามในใจเขากลับร้อนรุ่มสะท้านไปกับข่าวที่ได้รับเพิ่มเติมว่าตอนนี้เพลงของจัสตินกำลังจะสร้างปรากฏการซ้ำรอยเดิมเหมือนเมื่อคราวที่เพลงแรกของเขาถูกเปิด   

แผนที่ต้นสังกัดจัสตินวางไว้แก้เกมเขาครั้งนี้ เมทียอมรับว่ามาเหนือเมฆชนิดที่เขาคาดไม่ถึง  หนุ่มใหญ่รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่  เมื่อคิดว่าข่าวที่ปะโคมเรื่องจับผิดความเป็นเกย์มันคงทำลายชื่อเสียงจัสติน เพราะตอนนี้สายข่าวรายงานมาว่า จัสตินกำลังได้กำลังใจและแรงเชียร์ชนิดพลิกสถานการณ์

เมทีรีบเรียกประชุมทีมงานเดิมๆด่วน ตามนิสัยที่ทนให้คู่แข่งถือไพ่เหนือกว่าไม่ได้  แต่ครั้งนี้คนที่เขาเบนความสนใจกลายมาเป็นพีรพล หาใช่ธีระเหมือนคราวที่ผ่านๆมา

“อะไรกันคุณเมทีทำไมต้องกลัวฝั่งโน้นขนาดนั้นด้วย กะอีแค่คนที่หมดทางสู้แล้วดิ้นกันเฮือกสุดท้าย”  ธีระรีบแย้งทันทีที่เมทีเริ่มที่จะสนใจเอมีน เด็กของพีรพลขึ้นมา

“ดิ้นเฮือกสุดท้าย แต่ผลที่ออกมามันทำให้ผมอยู่เฉยไม่ได้หรอกนะ ธีระ  ผมเคยพูดไว้แล้วว่าเด็กนี่น่ากลัวกว่าที่เราคิด  เขาไม่ได้เหลาะแหละเหมือนเด็กของเรา ขอโทษนะที่ผมต้องพูดตรงๆ  แต่เด็กนั่นพูดอะไรหรือทำอะไรเขาก็เอาแฟนคลับอยู่หมัด  คุณก็เคยเห็นว่าคอนเสิร์ตเขาที่เราคิดว่ามันจะล่ม มันก็กลับไม่ล่ม”

“แต่หลังจากนั้นก็เป๋ไม่เป็นท่านี่ ยังไงฐานแฟนคลับผู้หญิงค่อนประเทศก็ยังคงชอบผู้ชายจริงๆอยู่ดีนะคุณเมที คิดดูดีๆนะ”

“ผมไม่ได้บอกว่าจะเจาะตลาดกลุ่มนั้นให้เอมีน”  พีรพลนั่งฟังอยู่อึ้งไปทันที 

เมทีหลุดปากเป็นเชิงว่าเอมีนอาจได้มีโอกาสทำเทป  ครั้งนึงเขาเคยพูดไปแล้วว่าฝ่ายที่จะแก้สถานการณ์กันให้วุ่นคือกลุ่มคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้ และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ ฟิลิปกับจัสตินกระดูกมันคนละเบอร์จริงๆ  เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจัสตินถึงเคยเพลี่ยงพล้ำให้ฟิลิปมายืนเทียบเคียงได้  ดูเอาเถอะคราวนี้ความเป็นซุปเปอร์สตาร์ของจัสตินคงจะเริ่มฉายแววปลุกวงการให้สะเทือนได้อีกรอบแน่ๆ หลังจากที่ครั้งนึงมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว

บรรยากาศในห้องนี้มันไม่ได้ต่างจากวันนั้นที่เมทีเคยทุบกลางโต๊ะประกาศที่จะดันฟิลิปมาต้านกระแสจัสติน  แต่คราวนี้เป้าหมายกลับกลายมาเป็นคนที่เคยอยู่นอกสายตาอย่างเอมีน

“ยังไงผมก็ไม่เห็นด้วย” ธีระยืนยันที่จะแย้งความเห็นผู้บริหารค่าย แต่ก็โดนตอบกลับจนเขาต้องพูดไม่ออก

 “แล้วผมจำต้องเห็นด้วยกับคุณงั้นหรือธีระ”
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Gussohigh ที่ 20-03-2008 11:13:44
สู้ๆ กานต่อไป  :a1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 20-03-2008 11:30:22
555 ฟ้าเปิดโอกาสให้เอมีนแล้ววววววววววววววว แต่เอมีนต้องมาเป็นคู่แข่งกับจัสตินนี้นะสิ น่าคิด
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 20-03-2008 12:44:22
คิดแล้วกลุ้ม..

 o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 21-03-2008 10:33:24
- 13 -

บรรยากาศในห้องประชุมตึงเครียดแต่เอมีนยังคงนั่งฮัมเพลงไปตามเรื่อง เด็กหนุ่มอาศัยครูพักลักจำ  ก็ตั้งแต่เซ็นสัญญาเขายังไม่เคยได้เข้าคอร์สเรียนอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน วันๆก็ได้แต่หอบเอกสารเดินไปเดินมาจนรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กฝึกงานมากกว่าศิลปินฝึกหัด แต่ก็นั่นล่ะที่ทนๆทำไปก็แค่รอดูสถานการณ์และแน่ใจอะไรบางอย่าง 

ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครรู้ว่าที่เขาต้องทนแบบนี้ ก็เพื่อปูทางที่จะทวงความถูกต้องคืนให้กับตัวเองและจัสติน


บาสย้อนกลับเข้าบริษัทเมื่อธีระโทรไปเล่าเรื่องราวที่เพิ่งผ่านการประชุมมาให้ฟัง โดยทิ้งฟิลิปอยู่กับทีมงานที่ออกไปดูสถานที่จัดคอนเสิร์ตกัน  อารมณ์ร้อนรุ่มแผดเผาในใจชายหนุ่มทันทีที่ได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมด  ประกอบกับอาการที่อึ้งเกี่ยวกับการแก้เกมของจัสตินที่ทำให้เขาแทบกระอัก การออกมาเปิดตัวแบบนี้ก็เท่ากับจัสตินไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป  ร้ายไปกว่านั้นกระแสสังคมกลับเข้าข้างซะเป็นส่วนใหญ่ แม้จะมีบางกลุ่มที่รับไม่ได้ก็เถอะ

ความเครียดถาโถมเข้าหาชายหนุ่มทวีคูณเมื่อเอมีนก็กำลังที่จะได้ทำเพลง ทุกอย่างที่วางไว้ผิดแผนไปเสียหมด  หนึ่ง คนที่เขาเคียดแค้นกับอีกคนที่เขาเกลียดชังกำลังจะผงาดกลายมาเป็นคนของประชาชนทั้งคู่  แล้วเขากับผลประโยชน์ที่คิดจะกอบโกยกับฟิลิปล่ะ ไม่ !!ทุกอย่างมันต้องไม่เป็นแบบนี้ บาสกัดกรามแน่นพลางคิดจะเริ่มแผนการที่จะสกัดกั้นไม่ให้ฝันที่วาดไว้ของเอมีนก่อตัวขึ้นมาได้ รวมไปถึงจัสติน เขาจะเป็นคนพังทลายความเป็นหนึ่งนั่นให้มันแหลกเหลวลงไปด้วยมือของเขาเอง

“ทำไมมันเกิดขึ้นได้ล่ะคุณธีระ” บาสสาดคำถามเข้าหาทันทีที่เจอตัวคนที่โทรเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง

“ก็ผมบอกคุณหมดแล้วนิ”

“บอกหมดแล้ว  เครดิตคุณไม่สามารถที่จะรั้งความคิดคุณเมทีได้เลยงั้นเหรอ”

“ผมเป็นลูกน้องเขานะ ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนคิดว่าเขาจะฟังผมเหรอ”

“ไม่มีน้ำยา” บาสด่าตรงๆสื่อถึงอารมณ์ร้ายที่เขากำลังควบคุมมันไม่อยู่ 

ธีระจ้องมองคนที่เขาเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยอย่างฉงน  แววตาของบาสร้ายกาจกว่าทุกครั้งที่เขาเคยเห็น

“แล้วจะให้ผมทำไง ผมไม่ได้ร้ายเหมือนคุณ”  บาสจ้องมองธีระนึกเหยียด

ธีระบอกตัวเองไม่ร้าย  แล้วที่ร่วมมือกับเขากำจัดจัสตินและกีดกันเอมีนจะให้เขาเรียกว่าอะไร

“ก็มัวแต่เป็นคนดีอย่างงี้ไงล่ะธีระ คุณถึงตามเด็กไม่ทัน”  ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยคำพูดแฝงปริศนา แน่ล่ะ เขากำลังจะเริ่มเกมกำจัดมารหัวใจ และผลประโยชน์

 “คุณหมายความว่าไงบาส” ธีระถาม เมื่อสงสัยในคำพูดที่ได้ยิน

“คุณน่าจะลืมตาและถอยตัวออกมาจากงานหน่อยนะธีระ  จะได้รู้ได้เห็นเหมือนอย่างที่ผมเห็นบ้าง อย่างว่าแหละเกย์สูงอายุหรือจะเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเท่าเกย์วัยกระเตาะในการล่อเหยื่อ”

“คุณพูดอะไรบาส”

“ไม่รู้จริงๆเหรอว่าเด็กคุณกำลังโดนจ้องตาเป็นมันจากเอมีน”

“คุณหมายถึงเอมีน กับฟิลิป”  ธีระเอ่ยออกมาเบาๆ  ยิ่งเห็นบาสไม่ตอบเขาก็ยิ่งมั่นใจ   

“คุณคิดไปเองหรือเปล่าบาส”ชายหนุ่มถาม

“มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าบังเอิญผมไม่ได้ใกล้ชิดกับฟิลิป จนสามารถรับรู้ความต้องการของใครต่อใครที่เข้าถึงฟิลิปรวมทั้งเอมีนด้วย”

“ก็ไหนคุณบอกว่าเอมีนเป็นเพื่อนกับจัสตินยังไงล่ะ”

“ความรักกับความใคร่มันต่างกันนะคุณธีระ  อย่าบอกนะว่าที่คุณเคยมีอะไรกับผมเพราะความรัก”  ธีระอึ้งเงียบเมื่อโดนบาสต้อนจนมุม เขารักฟิลิปแต่ก็เทียวมีสัมพันธ์กับนักเที่ยวไม่น้อยมาเช่นกันร วมทั้งคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา

“อีกอย่างเกย์ที่ไหนมันจะมายั่วยวนอารมณ์เกย์ได้เท่าชายแท้ล่ะคุณธีระ พูดแค่นี้ก็น่าจะเข้าใจนะว่าใครจะดึงดูดใจเอมีนมากกว่ากันระหว่างจัสตินกับฟิลิป  หรือคุณจะเป็นผู้เสียสละแล้วมองดูศัตรูหัวใจขึ้นมายืนเทียบเคียงคนรักก็ตามใจนะ  อย่าลืมนะว่าคนที่อยู่แวดวงเดียวกันแถมอยู่บริษัทเดียวกัน การออกไปไหนมาไหนคู่กันมันคงเลี่ยงไม่ได้แน่ๆ ลับตาใครต่อใครเอมีนคงไม่ปล่อยให้เนื้อหวานอย่างฟิลิปหลุดมือไปได้หรอก กลวิธีล่อเหยื่อของเกย์มีร้อยแปด  เผลอๆทำให้ชายแท้กลับใจมาก็หลายราย ไก่อ่อนอย่างฟิลิปคงจะเป็นหนึ่งในนั้นสักวัน  ถ้าคุณไม่คิดที่จะทำอะไร”  ธีระเหงื่อซึมแค่นึกจินตนาการไปตามที่บาสเป่าหู ชายหนุ่มแทบจะทนไม่ได้ เอมีน กำลังคิดที่จะจับฟิลิปงั้นเหรอ หึ มันไม่ง่ายนักหรอก


“อะไรนะพี่พล คุณเมทีนี่นะยอมที่จะให้ผมทำเทปแล้ว”เอมีนออกอาการดีใจ จนกระโดดเกาะแขนคนที่จะดูแลเขาในอนาคต เมื่อทราบข่าวดีจากเจ้าตัว

“ก็เออสิ มัวแต่ทำอะไรอยู่เหรอถึงไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น” เอมีนงงเมื่อพีรพลทิ้งปริศนาให้

“มีอะไรเหรอพี่พล ใครเป็นไร”

“ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก แล้วนายก็จะรู้เอง ไป วันนี้กลับไปก่อนเถอะ แล้วเตรียมตัวเข้าคอร์สแบบฟ้าผ่าไว้เลย” 

พูดจบพีรพลก็ส่ายหัว  มีเจ้านายใจร้อนมันก็ต้องร้อนตามเป็นธรรมดา  สงสารก็แต่แพะที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ นึกจะให้ทำอะไรแบบจานด่วนก็ทำ  ถ้ารุ่งก็ดีไปแต่ถ้าร่วงขึ้นมาก็เตรียมลอยคอได้อย่างไม่ต้องสงสัย  แต่คนตรงหน้าตอนนี้ ชายหนุ่มเชื่อว่าคงจะโดนลอยแพยากเอาการ  ยิ่งเห็นแววตามุ่งมั่นของเจ้าตัว ชายหนุ่มยิ่งมั่นใจ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 21-03-2008 10:46:23
เป็นกำลังใจให้เอมีน............ :a1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 21-03-2008 11:40:55
บาสร้ายมากนะเนี่ย  :serius2: :angry2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: SweetSerenade ที่ 21-03-2008 13:37:39
บาสเลวเสมอต้นเสมอปลาย
 :เตะ1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 23-03-2008 23:51:46
บาสเลวจริง ๆ เห็นคนอื่นได้ดีไม่ได้เลยนะ  :m16:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 24-03-2008 10:38:16
วันนี้วันเกิด อารมณ์ดี
จัดให้ยาวๆ สะใจ 555+
=============================
ฟิลิปแปลกใจเมื่อธีระเดินทางมาดูเขาถึงสถานที่จัดคอนเสิร์ต โดยอ้างว่าบาสขอร้องให้ามาเพราะว่าติดธุระเร่งด่วน เด็กหนุ่มจึงออกปากแขวะอีกเหมือนเคย

“เป็นผู้จัดการที่เอาแต่เกาะกินจริงๆ”

“ท่าทางเราจะไม่ถูกกับบาสเลยนะ” ธีระหยั่งเชิง และคำตอบของฟิลิปก็ทำเขาสะอึก

“ผมไม่ค่อยชอบเกย์พี่ธีก็รู้ พวกนี้น่ารำคาญจะตาย”

“อืมเป็นบางคนหรือเปล่า”

“ส่วนใหญ่ผมก็ไม่ค่อยถูกชะตาหมดแหละ  พี่ธีมาแปลกนะชวนผมพูดเรื่องนี้ทำไม”

“ก็เปล่า  ใครๆเขาก็พูดว่าคนเรายิ่งเกลียดอะไรก็ยิ่งจะเจอไม่กลัวเหรอ”

“พี่ธีเชื่อคำพูดพวกนี้ด้วยเหรอ  เจอผมก็เลี่ยงแค่นี้ก็จบ”

“แต่ก็มีบางคนนะที่เราไม่เคยเลี่ยง”

“ใครเหรอ”

“เอมีน”  ชื่อที่หลุดออกจากปากของธีระ ฟิลิปหยุดชะงักนี่มันเรื่องอะไรกัน

“พูดถึงนายนั่นทำไมพี่ธี”

“อ้าวนึกว่าเราอยากฟัง” ธีระลองเชิง  ฟิลิปส่ายหน้าขำๆ

“บ้ากันไปใหญ่แล้วพี่ธี  ผมนี่นะอยากฟังเรื่องของนายนั่นคิดได้ไง”

“ระวังตัวไว้อย่างงี้ก็ดีอย่าให้พลาดท่าเสียทีขึ้นมาล่ะ จะกลายเป็นข่าวฉาวโฉ่เหมือนจัสติน”

“ไม่มีทางซะล่ะ  แค่ขนหน้าแข้งผมคนพวกนี้ก็ไม่มีทางได้เห็น”  คำพูดเปรียบเปรยของฟิลิปไม่รู้หนุ่มใหญ่อย่างธีระจะดีใจหรือเสียใจ ในเมื่อเขาเองก็รวมอยู่ในกลุ่มคนที่ฟิลิปกล่าวถึง

ทางด้านจัสตินหลังจากที่ตระเวนแจกแผ่นตัดเพลงแรกและคำพูดเปิดใจเสร็จ ก็กลับเข้าบริษัทพร้อมผู้จัดการสาวอย่างอิ๋งอิ๋ง  ทุกคนล้วนยินดีกับเสียงตอบรับที่กลับมาในแง่บวกมากกว่าแง่ลบ และที่จัสตินโล่งใจที่สุดคือครอบครัวที่ยอมเข้าใจและเห็นใจเขาขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเพลงที่เขาถ่ายทอด   แล้วอีกคนที่เขาอยากจะรู้ความรู้สึกล่ะ เด็กหนุ่มโทรหาคนๆนั้นทันที

“เอมีนเหรอ” จัสตินพูดทักทายเมื่อปลายสายรับสัญญาณที่เขาโทรเข้าไป

“ก็โทรหาใครล่ะ” เอมีนย้อนกลับ  ทั้งๆที่แอบดีใจอยู่ลึกๆ

“ถ้าย้อนชาวบ้านแบบนี้ก็คงไม่ผิดคนแล้วมั้ง”

“แล้วแต่จะคิดโทรมาทำไม”

“พูดจาให้มันดีๆหน่อยไม่ได้หรือไง ทำไมชอบถามจังห่ะว่ามาทำไม โทรมาทำไม   ชีวิตนี้ถามคนอื่นได้แค่นี้เองหรอกเหรอ”  จัสตินสั่งสอนออกไปอย่างสุดทน  เกิดมาไม่เคยเจอคนเล่นแง่เท่าเอมีนมาก่อนเลยต้องเอาซะหน่อยแล้วมันก็ได้ผลเมื่อเอมีนเงียบไปพักใหญ่จนเขาต้องถาม

“ยังอยู่หรือเปล่าเอมีน”

“อยู่แต่โดนนักร้องดังสั่งสอนเลยพูดไม่ออก”

“ก็ดีสำนึกตัวได้มันก็น่าให้อภัย”

“เออเอาใหญ่เลยนะ  แล้วไงจะไม่ถามมันก็อดไม่ได้โทรมาทำไม”  ถ้าเพียงได้เห็นหน้ากันเอมีนคงจะเห็นจัสตินยิ้มออกมาเพราะนึกขันที่เอมีนพูดมีหางเสียงขึ้น แต่เสียงที่ตอบกลับเขาก็พยายามให้มันปกติที่สุด

“ได้ฟังเพลงหรือยัง”

“เพลงอะไรนึกสนุกอะไรขึ้นมาเหรอคุณ”

“ก็ เพลงเราน่ะ” จัสตินบอกเขินๆ เอมีนนึกคิดวันนี้ขังตัวเองลักท่องตำราอย่างปิดหูปิดตาเลยไม่รู้เรื่องราวอะไร  จนพีรพลบอกให้กลับและก็เพิ่งจะได้คุยกับจัสตินเป็นคนแรก

“อะไรเพลงนายเหรอ  นี่อย่าบอกนะว่าออกมาอีกแล้ว”

“ก็ทำนองนั้น”

“หานี่กะจะกอบโกยกันไปสร้างกำแพงเมืองจีนล้อมตึกหรือไง  ชื่อเสียงเงินทองน่ะแบ่งๆชาวบ้านเขาบ้าง”  จัสตินสะดุ้งเอมีนยังคงพูดจาตรงไปตรงมาซะจนอึ้งได้เหมือนเคย

“เออไปหาฟังก่อนแล้วค่อยมาด่ากันปากไวฉิบหาย”

“มันมีอะไรพิเศษงั้นเหรอถึงอยากให้ฟัง”

“มันพูดยากอยากรู้ก็หาฟังเองละกัน แค่นี้นะต้องเข้าประชุม…คิด…”  จัสตินชะงักประโยคสุดท้ายที่เกือบจะหลุดปากบอก ดีที่ฉุกคิดได้รีบตัดสายทิ้งถ้าได้หลุดคำว่าคิดถึงออกไปคงได้อายถ้าเอมีนไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย  เอมีนถอนหายใจสุดท้ายที่จัสตินโทรมามันก็ไม่มีอะไรให้คิดเข้าข้างตัวเองอย่างว่าเขาก็แค่คนๆหนึ่งที่จัสตินหลงเข้ามาทำความรู้จักในวันที่หวั่นไหว  พอทุกอย่างเข้าที่คงไม่กล้าที่หายไปเฉยๆถึงได้วนเวียนอย่างเลื่อนลอยอยู่แบบนี้แต่สักวันสิ่งที่เขาเคยคิดไว้มันคงจะเกิดขึ้น เส้นขนานคงกำลังขีดคู่เข้ามาสู่ความผูกพันของสองหัวใจระหว่างเขากับจัสติน

เอมีนรับรู้เรื่องราวของจัสตินในเช้าวันต่อมา  เมื่อได้เห็นหนังสือพิมพ์ทุกฉบับพร้อมใจลงเรื่องราวของฝ่ายนั้น  เด็กหนุ่มอึ้งอยู่ชั่วขณะไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะออกมาเป็นแบบนี้   ทุกอย่างมันคงถึงที่สุดจนทำให้จัสตินตัดสินใจเสี่ยงยอมรับความจริงขึ้นมา  เด็กหนุ่มไม่นึกตำหนิจัสตินเลยสักนิดที่กล้าทำอะไรแบบนี้  อย่างน้อยก็น่าจะทำให้พวกที่แอบๆในวงการสะเทือนใจขึ้นมาได้บ้าง   

เด็กหนุ่มยังคงเข้าออกบริษัทตามปกติ  แต่คราวนี้มันแปลกไปจากเดิมเมื่อทางค่ายเริ่มที่จะให้เขาเรียนรู้อะไรที่เขาไม่เคยรู้กับการเดินบนเส้นทางขายเสียง  มันทำคนในเริ่มรู้แล้วว่าเด็กที่เคยเดินหอบเอกสารโทงๆอย่างเขาที่จริงเป็นศิลปินฝึกหัดของบริษัท 

ภาพเขาจึงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจากรอยยิ้มเป็นมิตรที่เห็นว่าเขาเป็นเด็กมาช่วยงานกลับกลายเป็นเสียงก่นด่านินทาประมาณว่านี่น่ะเหรอนักร้องคนใหม่ของค่าย  แต่คนถูกก่นด่าไม่ใส่ใจทำไมจะต้องเอาคำติฉินนินทามาบั่นทอนการตามฝันครั้งนี้ด้วยล่ะ  ใครจะมาไม้ไหนตราบใดที่ไม่ทำให้เส้นทางนี้สะดุดหรือขาดสะบั้นลง  เขาก็มองมันเป็นแค่เรื่องขี้ผงอยู่วันยังค่ำ

แต่คนที่เป็นตัวปัญหาสำคัญอย่าธีระและบาสก็ยังคงตามราวีเขาอยู่อย่างไม่ลดละนี่สิ คือปัญหา ส่วนกับฟิลิปเด็กหนุ่มรู้สึกเฉยๆไม่ได้คิดว่าคนๆนี้จะมีพิษสงอะไรแค่ปากร้ายไม่สมกับที่เป็นชายแท้ก็แค่นั้น  แต่แล้วคนที่เด็กหนุ่มคิดว่าไม่มีพิษสงกับนำความเดือดร้อนมาให้เขาจนได้  ก็ทันทีที่ฝ่ายนั้นได้รู้ว่าเขากำลังจะก้าวมาเป็นนักร้องร่วมค่าย  เจ้าตัวก็ออกอาการดิ้นพล่านๆที่เข้ามากระแนะกระแหนทุกครั้งที่เจอกับเขา  เผลอๆถึงเนื้อถึงตัวอยู่ก็บ่อยครั้งเมื่อหาทางทำให้เขาศิโรราบไม่ได้   เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนที่เคยประกาศปาวๆว่าไม่อยากเข้าใกล้เกย์หรือให้เกย์เข้าใกล้ถึงได้เป็นฝ่ายมาถึงเนื้อต้องตัวเขาเสียเอง  หลายต่อหลายครั้งที่เขานึกฉุน เมื่อโดนธีระเข้ามาหาเรื่องบ่อยๆว่าอย่าพยายามเข้าใกล้เด็กของตัวเอง  คนโดนต่อว่าไม่ได้รู้เลยว่าใครเป็นคนคอยชักใยให้เรื่องราวมันผิดจากความเป็นจริง  คนในบริษัทเริ่มที่จะมองว่าเขาตามล่าฟิลิปจริงๆดั่งที่ธีระให้ข่าว  ก็ใครจะคิดล่ะว่าผู้ชายจริงๆที่ไหนจะตามมาหาเรื่องราวีเกย์ได้   

ส่วนบาสพอใจอย่างที่สุด ที่ผูกเรื่องราวสานข่าวเสียๆหายๆให้เอมีนกลายเป็นเกย์ร่านได้สำเร็จในสายตาหลายๆคน โดยดึงธีระมาเป็นเครื่องมือ และดูเหมือนคนที่เป็นเครื่องมือจะหมดความอดทนเข้าแล้วด้วย  เมื่อข่าวเน่าๆของเหยื่ออย่างเอมีน โชยกลิ่นไปทั้งตึก  ฟิลิปกับเอมีนกลายเป็นประเด็นโต้เถียงขึ้นมาอย่าเลี่ยงไม่ได้ ว่าทั้งคู่เป็นคู่อริ หรือคู่ขากัน กันแน่


เมทีโยนแฟ้มประวัติเอมีนลงบนโต๊ะ หลังจากที่เรียกให้พีรพลนำมาให้ดูอีกรอบหนุ่มใหญ่ผ่อนลมหายใจ  ทำไมเขาถึงต้องเรียกให้พีรพลเอาแฟ้มนี่กลับมาดูอีกครั้งก็เพราะธีระนั่นเองที่ขอเข้ามาคุยกับเขาก่อนหน้านี้ ด้วยการยกเหตุผลร้อยแปดมาคัดค้านโปรเจคงานครั้งนี้  คนขอคุยชี้ทางเกี่ยวกับผลเสียผลได้กับการลงทุนไปกับเอมีนจนทำให้เขาลองพินิจดูเอมีนอีกครั้ง  อันที่จริงถ้าเขาจะยอมเปิดใจมอง   เด็กคนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักแต่ด้วยเหตุผลของธีระที่ว่ามันเป็นไปได้ยากที่คนๆหนึ่งประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าตัวเองเป็นอะไรกลางใบสมัครจะได้รับการยอมรับจากคนทั้งประเทศ 

พีรพลโดนเรียกเข้าไปพบทันทีที่เมทีตัดสินใจจะยกเลิกงานทั้งหมดที่ได้พูดคุยคร่าวๆไว้ก่อนหน้าเกี่ยวกับเอมีน  หนุ่มใหญ่รู้ว่าพีรพลคงเสียความรู้สึกแต่เพื่อชื่อเสียงของบริษัทเขาก็ต้องเลือกในสิ่งที่เขาคิดว่าถูกต้องในสายตาคนส่วนมาก

“คุณเมทีมีอะไรให้ผมทำหรือ”พีรพลถามด้วยรอยยิ้ม  รอยยิ้มที่เมทีเกิดลังเลในเรื่องที่จะพูด

“มีอะไรหรือเปล่าผมรับฟังได้นะถ้ามันเกี่ยวกับตัวผม” พีรพลเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นท่าทีลังเลของคนเรียกตัวเขาเข้าพบ  เมทีถอนหายใจมองสบตาคนตรงหน้าก่อนจะเอ่ยในเสียงที่คิดว่านิ่งที่สุด

“คุณพีรพล  ผมต้องขอโทษด้วยที่เรียกคุณมาวันนี้เพื่อแจ้งในเรื่องที่อาจทำให้คุณเสียความรู้สึก”

“เรื่องอะไรเหรอ” พีรพลเริ่มหวั่นๆในคำพูดนั่น  ยิ่งเมื่อพีรพลเอ่ยชื่อคนที่เขาคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมายิ่งทำให้เขาหน้าเสีย

“เรื่องเกี่ยวกับเอมีน”

“เอมีนทำไมเหรอ”

“ผมคงต้องยกเลิกงานทั้งหมดที่เราเคยคุยกันไว้”

“ทำไมล่ะ” พีรพลถามสวนขึ้นทันที  นี่มันอะไรกันผู้บริหารคนนี้กำลังเล่นอะไร ทำไมถึงได้คิดจะเอ่ยอะไรก็เอ่ยคิดจะทำอะไรก็ทำ

“ผมมาลองนึกดูแล้วมันไม่คุ้มที่เราจะเสี่ยง”

“แล้วทำไมถึงเพิ่งมานึกได้ล่ะ”  พีรพลยังคงสวนกลับรวดเร็วเหมือนใจคิด  เขาจะแคร์อะไรอีกล่ะในเมื่อถ้าครั้งนี้เขาทำให้เอมีนผิดหวังซ้ำสอง  เขาก็พร้อมที่จะก้าวออกจากค่ายเพลงนี้พร้อมๆกับเจ้าตัวเหมือนกัน

“คุณไม่ได้รับผิดชอบในหลายๆอย่างเหมือนผมคุณก็ไม่เข้าใจหรอกพีรพล  ว่าทุกอย่างที่ผมพูดที่ผมทำผมคิดแล้ว”

“อย่างงั้นเหรอ ประทานโทษนะถ้าวันนี้ผมจะพูดอะไรมีอยากจะพูด  ที่ผ่านมาผมเป็นพนักงานที่รับฟังความคิดเห็นและยอมรับในคำตัดสินของผู้บริหารมาโดยตลอดแม้ว่าผลที่ออกมามันจะเป็นยังไง”

“คุณหมายความว่าไงพีรพล”

“ผมเชื่อว่าการเซ็นต์สัญญาครั้งนี้ของเอมีนมันมีอะไรที่ผมไม่รู้แอบแฝงอยู่แน่นอน คงไม่ลำบากใช่มั๊ยที่เจ้าของค่ายอย่างคุณเมทีจะยอมคืนสัญญานั่นให้เอมีนและผมก็คงจะคืนสัญญาใจที่ผมผูกไว้กับที่นี่คืนคุณเมทีเหมือนกัน  ที่ผ่านมางานผมไม่เข้าตาคงไม่มีผลกระทบเท่าไหร่มั้งที่ผมจะก้าวออกจากบริษัทนี้ พร้อมๆกับเด็กของผม”  เมทีอึ้งไม่คิดว่าพีรพลจะเอาตำแหน่งหน้าที่มาผูกติดกับเด็กอย่างเอมีน โปรดิวเซอร์คนนี้มีฝีมือและก็เป็นหนึ่งในทีมงานที่ร่วมกันสร้างชื่อเสียงบริษัทจนเป็นที่ยอมรับมาจนวันนี้  การที่เจ้าตัวจะออกไปซักคนมันมีผลกระทบตามมาอย่างแน่นอน ถ้าเทียบกับธีระพีรพลเป็นคนที่สื่อมองว่าเป็นโลโก้ของบริษัทมากกว่ารายนั้น  มันคงเลี่ยงไม่ได้ถ้าสื่อจะกระหน่ำเรื่องสมองไหลครั้งนี้  และถ้าพีรพลเลือกที่จะไปอยู่กับค่ายคู่แข่งฝ่ายนั้นก็คงจะอ้าแขนรับอย่างเต็มใจ  ทำไมอะไรนมันวุ่นวายมากกว่าที่เขาคิดนะ   หนุ่มใหญ่จ้องมองคนตรงหน้าที่จ้องตอบเขาโดยไม่เกรงกลัวต่อคำตัดสิน

“คุณเป็นคนมีฝีมือนะพีรพล  คุณก็รู้ว่าผมคงไม่ยอมเสียคุณไปทำไมคุณถึงสนใจเด็กนั่นขนาดนี้ผมไม่เข้าใจ  หรือคุณสองคนมีอะไรกันมากกว่านั้น”  พีรพลอึ้ง  อะไรที่ทำให้เมทีคิดว่าเขากับเอมีนลึกซึ้งกันมากกว่าว่าที่โปรดิวเซอร์และนักร้องในคอนโทล

“ผมชอบในความมุ่งมั่นของเอมีน  คนๆหนึ่งที่ตามล่าฝันแม้รู้ว่ามันเป็นไปได้ยากเพราะอะไรคุณเมทีก็น่าจะรู้  ในเมื่อเรามีโอกาสอยู่ในมือ ทำไมเราไม่หยิบยื่นให้คนกลุ่มนี้ล่ะทำไมคนถึงตัดสินอะไรแค่เพียงลมปากของคนอื่น ผมไม่ได้พาดพิงถึงใครแต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย  ผมเห็นธีระเข้ามาหาคุณเมทีก่อนหน้านี้”  พีรพลบอกออกไปในที่สุด  เมทีหลบสายตาของเขา การที่ผู้บริหารโดนจับได้ว่าตัดสินอะไรเพราะน้ำลายของลูกน้องมันคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก

“เอาล่ะๆผมเข้าใจ  ยังไงผมขอคิดทบทวนอีกซักรอบหวังว่าคุณคงจะไม่ใจร้อนหรอกนะพีรพลไว้ผมจะให้คำตอบอีกที”

“เมื่อไหร่” พีรพลรุกหนัก  ในเมื่อเมทีทำให้ลูกน้องอย่างธีระไล่บี้ได้  เขาเองก็คงจะไม่เกรงใจอีกต่อไปเพราะในตำแหน่งหน้าที่  เขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าธีระ  เผลอๆอาจจะชัดเจนกว่าเสียด้วยซ้ำแต่เขาไม่ชอบที่จะเล่นบทบาทนั่นเท่านั้นเอง

“เร็วที่สุด”เมทีบอก

“ระหว่างที่รอคำตอบ ถ้าผมจะเปิดรับข้อเสนอของค่ายอื่นในการดึงตัวผมไปร่วมงานคงไม่ผิดระเบียบบริษัทนะ”  พีรพลทิ้งท้ายคำพูดเอาไว้จนเมทีอึ้งจุกขึ้นมาที่อก  นี่เขาบริหารงานไม่ได้เรื่องถึงขนาดลูกน้องกล้าที่นึกจะพูดอะไรก็ได้ยังงั้นเหรอ  พีรพลเองก็รู้สึกผิดที่กล้าต่อรองกับคนที่เป็นถึงเจ้านาย  แต่เมื่อมันถึงที่สุดคนเราก็ย่อมทำอะไรโดยไม่ใส่ใจความถูกต้องนักหรอก

เอมีนสังเกตเห็นว่าพีรพลดูจะผิดปกติและเครียดไประหว่างดูเข้าซ้อมเพลง เด็กหนุ่มพาลนึกไปว่าตัวเองร้องไม่ได้เรื่องถึงทำให้โปรดิวเซอร์กุมขมับจึงพักซ้อมและเข้าไปพูดตรงๆกับพีรพล

“ผมร้องไม่ดีหรือพี่พล”พีรพลมองหน้าเอมีน  เขาไม่ได้ฟังด้วยซ้ำว่าเอมีนซ้อมไปถึงไหนเพราะมัวแต่คิดไปถึงเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้บริหารเรียกไปพบ

“เปล่านี่ก็ใช้ได้ไปร้องใหม่ไป”ชายหนุ่มฝืนยิ้มแต่แววตายังคงซ่อนแววหม่นไว้ไม่อยู่  เอมีนสังเกตเห็นเลยถาม

“พี่พลมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

“เปล่านิทำไมเหรอ”

“สองครั้งแล้วนะที่ตอบผมว่าเปล่า  รู้มั๊ยว่าคำพูดนี้คือคำตอบที่คนมีเรื่องกลุ้มใจแต่พูดไม่ได้”

“เรียนจิตวิทยามาหรือเรา”

“ก็พอจะอ่านใจใครๆออกบ้างแหละ”

“งั้นเหรอ อืมพี่ก็มีเรื่องให้คิดจริงๆแหละแต่อย่าใส่ใจเลยตั้งใจซ้อมเหอะเรา”

“ผมจะซ้อมได้ไงล่ะในเมื่อโปรดิวเซอร์ไม่ได้ฟังที่ผมร้อง”อีกครั้งที่พีรพลอึ้งที่เอมีนเดาสถานการณ์ออก

“โทษที งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนมั๊ยหรือจะซ้อมไปเรื่อยๆก็ตามสะดวกพี่คงต้องกลับก่อนมันมึนๆไงไม่รู้”

“ถ้างั้นก็กลับบ้านดีๆนะขับรถระวังด้วยนะผมเป็นห่วง”  เอมีนพูดออกจากใจจริง รู้ว่าพีรพลคงเหนื่อยกับเรื่องตัวเองมากอยู่ไม่น้อย วันนี้ก็คงจะเหมือนกัน  เด็กหนุ่มเดาเอาว่าพีรพลคงโดนตามราวีอะไรซักอย่างจากคนที่ไม่ประสงค์ดีกับพวกเขา ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ใครหรอก นอกจากบาสกับธีระ 

หลังพีรพลกลับไปแล้ว เอมีนนั่งคิด นี่มันคงถึงเวลาแล้วมั้งที่เขาจะเป็นฝ่ายตามราวี คนนิสัยอันธพาลเหล่านั้น  เด็กหนุ่มภาวนาให้ธีระยังอยู่ที่ตึกนี้หรือถ้าบาสจะกลับเข้ามาสมทบอีกคนมันก็คงจะดีไม่น้อย  คนพวกนี้วอนเองก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อราวีไม่มีสิ้นสุดเขานี่แหละที่จะหยุดการกระทำที่พาลไม่เลิกของพวกมันเอง บางครั้งคนเราก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนดีเสมอไป
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 24-03-2008 12:44:36
วุ่นวายจริงหนอ กับ ชีวิตเอมีน

พาร์ทแรกเป็นส่วนของจัสตินซะเยอะ

มาครึ้งหลัง (เดาเอา) เริ่มมาเน้นที่เอมีนแล้ว

เมื่อไหร่ จัสติน+เอมีน จะบอกรักกันสักทีเนี่ย หุหุ  :o8:

แล้วใครจะเป็นนายเอกและนายเอก หุหุ  :m1:

ก็ได้แต่รอต่อปายยย  :mc4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 24-03-2008 13:00:52
โหะๆๆๆๆๆๆ

มาเชียร์เอมีนจัดการวายร้ายยยยยยยย...

 :a2: :a2: :a2: :a2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 24-03-2008 13:18:03
ย้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยค่ายไปเลย แล้วกลับมายำมัน
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 25-03-2008 10:00:57
มาแต่เช้า  :m1:
รออ่านเอมีนตีโต้

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้รีพลายน้า  :o8:
ลำบากมาก  o2 เนตหลุดทุกครั้งเมื่อเปิดได้ 1หน้า
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 25-03-2008 18:01:49
- 14 -

สายตาคนที่ยืนจ้องอยู่ระหว่างทางที่เชื่อมต่อเพื่อลงไปลานจอดรถชั้นใต้ดิน ทำให้ธีระจ้องมองตอบอย่างนึกสงสัย 

ท่าทางเอมีนคงมีเรื่องที่จะคุยกับเขาไม่อย่างนั้นคงไม่มายืนดักรอในทางเปลี่ยวที่ไม่มีใครสัญจรนักอย่างนี้  แต่เอมีนก็แค่เด็กเมื่อวานซืนเรื่องอะไรที่เขาจะต้องเสียเวลาเสวนาด้วย

“นัดกับคุณวรกาญจ์ไว้เหรอ”  เอมีนเปิดฉากดักคอเอาไว้  เมื่อเห็นคนที่เขาอุตส่าห์ห์ยืนรอทำท่าว่าจะเดินหนีเขาไป   ธีระชะงักเด็กนี่ท่าจะมีเรื่องคุยกับเขาจริงๆ

“เธอมีอะไรจะคุยกับฉัน”หนุ่มใหญ่หยุดถาม

“คิดถึงเป็นการส่วนตัวมั้ง”  เอมีนยิ้มกวน  พลางเดินเข้าไปหา   

ธีระแปลกใจกับท่าทีที่เห็นนั่น จะไม่ให้แปลกใจได้ยังไงล่ะ  เมื่อแววตาและน้ำเสียงของเอมีนไม่ได้เจือด้วยความเป็นเด็กเมื่อวานซืนเลยซักนิด

“ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมากนะเอมีน  ถ้าเธอแค่จะมากวนประสาทฉัน กลับบ้านไปดีกว่า  นี่มันก็เย็นมากหรือว่ายังซ้อมเพลงไม่ถึงไหน อย่างว่าคนไม่มีพื้นฐานมันก็น่าจะยากหน่อยนะที่จะร้องได้ดีถึงขั้นที่จะทำเทปได้”

ธีระยิ้มเยาะ  การที่เด็กรุ่นน้องจะมาเล่นลิ้นกับเขามันไม่สมควรเลยซักนิด แต่เอมีนก็กล้ามากกว่าที่เขาคิด เมื่อเจ้าตัวได้ยิ้มเหยียดตอบกลับมา  หนุ่มใหญ่ถึงกับโกรธขึ้นมาจนต้องตวัดเสียงถามกลับ

“เธอคิดว่าเธอยืนอยู่กับใครเอมีน กิริยาที่เธอทำมันสมควรแล้วเหรอ”

“รู้ตัวด้วยเหรอว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ที่มีมันสมอง ระดับโปรดิวเซอร์อันดับต้นๆของค่าย”
เอมีนสวนกลับอย่างไม่ลดละพลางเดินเข้าไปชิด

วันนี้ถ้าเคลียร์ปัญหากับคนพวกนี้ไม่ได้เขาก็ไม่คิดว่าเมทีจะเอาเขาไว้อยู่แล้ว  มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะกับที่เขาต้องทนอยู่แบบไม่มีรู้ชะตาว่าชีวิตตัวเองจะโดนจับโยนไปทางไหนจากน้ำลายคนตรงหน้า

“ผมอยากรู้ว่าคุณมีปัญหาอะไรกับการที่ผมจะมีงานเพลงออกมา”เอมีนถามต่อตรงๆจนคนฟังอึ้งไม่คิดว่าเด็กหนุ่มที่เขาคิดจะกำจัดจะรู้ทันสิ่งที่เขาวางแผนไว้

“เธอพูดอะไร  การตัดสินใจทุกอย่างอยู่ที่คุณเมที ถึงฉันจะมีปัญหาอะไรก็ไม่มีสิทธิที่จะแย้ง” ธีระบอกปัดแต่เอมีนไม่ได้คล้อยตามเลยแม้แต่นิด

“แน่ใจเหรอที่คุณพูด ผมจะถือว่าผมได้ยินจากปากคุณเองนะว่า การตัดสินใจทุกอย่างอยู่ที่คุณเมที”

“แล้วเธอมั่นใจงั้นเหรอว่า คุณเมทีเขาจะหูหนวกตาบอดคว้าคนอย่างเธอมาทำเพลง”

“แล้วคุณคิดงั้นเหรอว่าผมจะหูหนวกตาบอดจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร”

“เธอหมายความว่าไง”

“อะไรล่ะที่คุณกำลังคิดจะทำและทำมันมาแล้ว”

“ฉันไม่ได้คิดทำอะไรและเคยทำอะไรทั้งนั้น”

“อ้อ ผมลืมไปคุณก็แค่ผู้ร่วมกระทำไม่ใช่คนต้นคิด”

“นี่เธอจะมากล่าวหาอะไรก็ระวังปากไว้นะเอมีน อย่าคิดนะว่าฉันจะไม่กล้าฟ้องคนอย่างเธอ”

“ผมไม่เคยคิดว่าคุณจะไม่กล้าทำอะไรที่ผู้ใหญ่มีสมองทั่วไปเขาไม่ทำกัน”

“เอมีน…!!!!” ธีระเผลอตัวตวาดเสียงดัง เมื่อรู้สึกสุดทนกับท่าทีและคำพูดยอกย้อนของเด็กหนุ่มตรงหน้าแต่อาการเสียงดังของเขา ก็ไม่เห็นว่าเอมีนจะสะท้าน ชายหนุ่มจึงขบกรามแน่นพยายามข่มอารมณ์ร้ายที่กำลังจะปะทุ

“อย่าคิดว่าผมจะไม่รู้อะไรนะคุณธีระ  ที่ผ่านมาผมยอมให้พวกคุณมองผมอย่างสมเพชมาตลอด  ตลกใช่มั๊ยล่ะที่เห็นผมหลงดีใจกับกระดาษสัญญาหลอกลวงนั่น ที่แท้จริงมันก็เป็นเพียงเครื่องมือทำร้ายคนๆหนึ่งที่ขัดทางผลประโยชน์พวกคุณ  คงดีใจกันสินะที่ทำสำเร็จแล้วไงล่ะจัสตินเขาไม่ได้สะท้านไปกับความสกปรกของพวกคุณเลยซักนิด  ถึงผมจะออกมาปกป้องแสดงความบริสุทธิ์เขาไม่ได้  แต่วันนี้คงเห็นแล้วสิว่าคนดีๆยังไงก็มีคนศรัทธา”

“เธอจะมาจับเรื่องราวผูกโยงมั่วๆอย่างนี้เพื่ออะไรเอมีน  ฉันขอเตือนนะว่าฉันฟ้องเธอได้ในข้อหาหมิ่นประมาท”  ธีระชี้หน้าตวาดเอมีน กลบเกลื่อนความเครียดของตัวเองเมื่อเอมีนจับทางเรื่องราวได้ถูก ความเครียดจี๊ดขึ้นสมองอีกเมื่อเอมีนปัดมือเขาออกและบอกอย่างเยือกเย็น

“ก็เอาสิถ้าคิดว่าคุ้มกับการโดนแฉพฤติกรรมเน่าเฟะของคุณ”

“ฉันไม่เคยทำอะไรเสียหายเธอจะมาแฉอะไรฉันได้”

“หลอกตาใครได้ แต่หลอกตาผมไม่ได้หรอก  เรามันเหมือนๆกันยอมรับตัวเองเถอะคุณธีระ”

“เธอหมายความว่าไง”

“ก็หมายความถึงรสนิยมเราไงคุณพี่ธีระ” เอมีนยั่วหนักขึ้น  ส่งผลให้คนฟังถึงกับหน้าถอดสี  ไม่มีทางที่ใครในตึกนี้จะล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขานอกเสียจากบาส  แล้วเด็กบ้านี่มาพูดจาเหมือนรู้อะไร   

ธีระเผลอตัวเข้ากระชากคอเสื้อเอมีนอย่างลืมตัวแล้วตะคอกถามด้วยแววตาที่ฉายแววโกรธกึ่งหวาดกลัวออกมาชัดเจน

“เธอรู้อะไรเอมีนเธอรู้อะไร”

“ทำไมเหรอนึกกลัวขึ้นมาเหรอว่าธาตุแท้ตัวเองจะโผล่มาประจานสังคม  สร้างภาพตัวเองสวยหรูดูดีน่าศรัทธานักนิแต่ดันปิดหางไม่มิด”  พูดจบเอมีนต้องล้มกลิ้งไปที่พื้นตามแรงผลักของธีระ 

เวลาหลังเลิกงานแบบนี้คงไม่มีใครที่จะมาเห็นเหตุการณ์  หนุ่มใหญ่ย่างสามขุมเข้าไปหาเอมีนอย่างคนเสียสติ   เอมีนยังคงยันกายลุกขึ้นไม่ได้เมื่อรู้สึกว่าข้อเท้าจะไปครูดกับพื้นซีเมนต์หยาบๆที่รอซ่อมแซมจนเป็นแผลถลอกเลือดซึม   แต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังคงจ้องตาคนเดินเข้าหาไม่ถอย  ในสถานที่แบบนี้ธีระจะกล้าทำอะไรเขาได้นอกจากขู่ให้กลัว  แต่ไม่มีทางซะล่ะเด็กหนุ่มยังตั้งปณิธานเดิมว่าจะหยุดพฤติกรรมก่อกวนเส้นทางฝันของเขาจากธีระด้วยวิธีที่เขามั่นใจว่าหนุมใหญ่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินออกจากเกมนี้

“อย่าคิดที่จะอวดดีกับฉันเอมีน  เธอมันก็แค่เด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม  เมื่อเทียบกับฉันแล้ว เธอจะพูดอะไรให้น้ำลายหมดปาก ก็คงจะไม่มีใครเชื่อเท่ากับคำพูดคำเดียวของฉัน”
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 25-03-2008 21:21:42
อ้ว เอมีน สุด ๆ ไปเลย ให้มันได้อย่างนี้สิ  o13 :เตะ1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: dark789 ที่ 25-03-2008 21:31:32
มันส์ พะยะค่ะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุเมศพลัง ที่ 26-03-2008 01:17:49
เอมีน สู้ๆ เอาคืนให้เเสบเลย :oni1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 26-03-2008 08:03:36
เข้ามาเชียร์เอมีนต่อโว้ย...


แล้วก็ย้ายค่ายไปเลย..


จะได้รักกะจัสตินซะที...
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 26-03-2008 09:52:29
จัดการให้เข็ดเลย ตีงูต้องตีให้ตาย  :laugh:

ว่าแล้วก็รออ่าน
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 26-03-2008 12:09:21
ธีระก้มลงกระชากคอเสื้อเอมีนมาบอกด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ลำพังแค่เรื่องที่เอมีนพยายามข้องแวะฟิลิปตามความเข้าใจของเขา ก็ทำให้เขาแทบเข้าไปฉีกร่างคนๆนี้เป็นชิ้นๆทุกครั้งที่เจอหน้า ถ้าไม่ติดว่าภาพของเขามันไม่เอื้อที่จะทำอย่างนั้น

อย่างที่เอมีนบอกเมื่อครู่ เขาสร้างภาพให้คนศรัทธาจนไม่อาจทำอะไรตามสัญชาตญาณดิบที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของใจได้ แต่วันนี้เอมีนเลือกที่จะมาหาเขาในที่ปลอดคนเองก็เท่ากับรนหาที่เอง ก็ดีทุกสิ่งที่ค้างคาเขาจะได้ระบายมันตรงนี้ให้หมด

“ถ้าคิดว่าผมไม่มีอะไรที่จะเล่นงานคุณได้ คุณคิดผิดแล้วล่ะธีระ ที่ผ่านมาคิดว่าคุณกับนายบาสนั่นจะไม่มีใครรู้ทันงั้นเหรอ”  เอมีนทำใจดีโต้ตอบ แม้จะมองเห็นว่าแววตาธีระผิดไปจากเดิมมากจนเหมือนจะกลายเป็นคนละคนหรือนี่คือตัวตนที่แท้จริงของเจ้าตัว

เอมีนไม่สามารถคิดอะไรต่อได้ เมื่อธีระเปลี่ยนมือจากที่เกาะกุมคอเสื้อเขาอยู่มาบีบกดที่ลำคอเขาแทนจนต้องสะดุ้งเฮือก ลมหายใจเด็กหนุ่มขาดเป็นช่วงๆเมื่อธีระออกแรงบีบแน่นขึ้นเรื่อยๆก่อนจะตะคอก

“บอกมาเธอรู้อะไร”

“ผะ ผมหายใจไม่ออก”  เอมีนไม่สามารถที่จะพูดประโยคยาวๆออกมาได้ เมื่อโดนธีระออกแรงขึ้นเรื่อยๆ

คนบีบคอสะใจกับภาพที่เห็นยิ่งนัก นี่ยังไงล่ะสิ่งที่เขาอยากทำกับคนที่คิดจะมาลูบเหลี่ยมเขาให้เขาต้องทนมองภาพความชิดใกล้แบบถึงเนื้อถึงตัวระหว่างมันกับฟิลิป

"เธอมันรนหาที่เองนะเอมีน อยากลองดีกับฉันใช่มั๊ยได้ฉันจะสนองให้"  ธีระออกแรงบีบที่ลำคอเอมีนหนักขึ้นจนเด็กหนุ่มตาพร่ามัวขึ้นมา  คนตาพร่ามัวคิดที่ทำอะไรซักอย่าง ก็คนตรงหน้าตอนนี้กลายเป็นอีกคนที่ไม่ใช่ธีระ โปรดิวเซอร์ที่คนศรัทธาทั้งตึก 

ก่อนที่ลมหายใจของคนคิดจะขาดช่วงไปมากกว่านี้ เด็กหนุ่มรวบรวมกำลังเอือกสุดท้ายตะบันหมัดไปที่หน้าคนบีบคอเต็มแรง จนใบหน้านั่นสะบัดไปตามแรงชกส่งผลให้มือที่บีบกุมที่คอคลายความแน่นไปด้วย

เอมีนรีบสะบัดตัวจนหลุดก่อนจะรีบหายใจเข้าไปจนเต็มปอด ความเจ็บที่ข้อเท้าจางหายกลายเป็นความหวาดหวั่นลึกๆไม่คิดว่าธีระจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้ นั่นมันยิ่งทำให้เขาแน่ใจว่าเมื่อไหร่ที่ใครๆรู้ว่าที่แท้โปรดิวเซอร์ฝีมือดีคนนี้มีความเน่าเฟะในกมลสันดานแค่ไหน เมื่อนั่นเจ้าตัวคงสุดทนที่จะมองหน้าใครๆได้ หึ นี่ยังไงล่ะคือฟางเส้นสุดท้ายที่จะใช้มัดตัวคนร้ายกาจคนนี้ให้หยุดราวีเขาและพีรพล

“สุดท้ายก็เผยตัวตนที่แท้จริงออกมานะคุณธีระ”  คนลุกขึ้นยืนได้ไล่บี้ทันทีทั้งๆที่ยังหายใจได้ไม่เต็มปอด 

ธีระยกชายเสื้อเช็ดเลือดที่มุมปากเด็กคนนี้หมัดหนักไม่เบา มือเช็ดเลือดไปแต่สองขาก้าวเข้าไปหาคนตรงหน้าไหนๆเด็กนี่ก็เห็นตัวตนที่แท้จริงเขาแล้วนิถ้าวันนี้จะเล่นงานให้คุ้มค่าก็คงจะไม่เสียหลาย

“ไอ้หนู บอกแล้วว่าอย่ามอวดดีกับฉัน เรามันคนละชั้นกัน เธอไม่มีวันที่จะทำอะไรฉันได้หรอก”

“แน่ใจเหรอว่าผมจะทำอะไรคุณไม่ได้  ผมไม่ได้โง่ไม่ได้ซื่อเหมือนอย่างที่คุณคิดหรอกนะ ที่เห็นผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หลงดีใจกับแผนการชั่วร้ายของพวกคุณ ผมรู้มาตลอดว่าคนอย่างผมไม่ไปโดนใจเจ้านายคุณได้ง่ายๆหรอก ในเมื่อขีดเส้นให้เดินผมก็เดินตามเส้นที่คุณกับคู่ขาขีดให้แล้วไง แต่รู้มั๊ยมันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มเสียอีกที่ผมลองลงไปเสี่ยงในหลุมพรางนั่น”

ธีระเริ่มที่จะหวาดหวั่นขึ้นมาอีกเมื่อเห็นเอมีนยิ้มเหยียดก่อนจะตั้งใจฟังในสิ่งที่เอมีนพูดต่อ

“โปรดิวเซอร์หนุ่มร่วมมือกับผู้จัดการศิลปินลูกรักในค่าย ทำลายชื่อเสียงนักร้องค่ายคู่แข่งด้วยวิธีสกปรก เพื่อผลักดันเด็กของตัวเองให้ขึ้นมาแทนที่ บังเอิญซะด้วยสิที่ผมดันไปรู้จักนักร้องโชคร้ายคนนั้นและก็เป็นคนเดียวที่จะช่วยให้เขาหลุดจากเกมสกปรกนั่นได้ แต่โชคร้ายโดนจับมาเซ็นต์สัญญาที่มีข้อห้ามว่าไม่ให้ยุ่งเกี่ยวหรือร่วมกันแถลงถ้อยคำใดๆกับนักร้องนอกสังกัดออกสื่อซะก่อน”  เอมีนหยุดดูปฎิกิริยาฝ่ายตรงข้าม ได้เห็นธีระในท่าทีเครียดจัดขนาดกรามนูนขึ้นมาเพราะแรงขบยิ่งทำให้เขาไล่บี้ต่อ

“บังเอิญจริงๆนะที่ผมรู้ว่า แท้ที่จริงผู้จัดการคู่ขาโปรดิวเซอร์คนนี้เคยมีเรื่องบาดหมางส่วนตัวกับนักร้องโชคร้ายคนนั้นมาก่อน”  เอมีนฉลาดพอที่จะเลี่ยงไม่บอกว่าบาสเป็นอะไรกับจัสตินมาก่อน แน่นอนว่าเป้าหมายต่อไปที่เขาจะโจมตีก็คือบาสแต่ตอนนี้ขอเอาคนตรงหน้าให้อยู่หมัดเสียก่อน

“มันเลยทำให้ผมรู้ซึ้งถึงแผนการนั่น แต่มันคงจะไม่สนุกถ้าผมจะตีโพยตีพายตอนนั้น  เลยขอเล่นตามแผนซักหน่อยยอมเป็นไอ้โง่ให้ใครๆจิกหัวใช้ไปวันๆแต่นั่นมันก็คุ้มนะทำให้ผมรู้อะไรหลายๆอย่างที่ไม่น่าจะมีใครรู้”

“อะไรไหนๆก็พล่ามมาแล้วก็เอาให้จบสิ” ธีระกัดฟันถามเมื่อเอมีนเว้นวรรคไว้อีกครั้ง  เอมีนเริ่มยิ้มเหยียดถามอีกรอบ

“แน่ใจนะว่าฟังได้”

“ไม่มีเหตุผลที่ฉันจะฟังไม่ได้”  ธีระทำใจดีสู้แต่แค่เห็นแววตาเอมีนก็ทำให้เขาแทบคลั่ง อยากรู้ว่าเอมีนจะพูดว่าอะไร

สองหนุ่มต่างวัยมองสบตากันอย่างท้าทาย ธีระนึกแค้นใจเมื่อนึกย้อนเหตุการณ์ที่ผ่านมา เอมีนซ้อนแผนตบตาเขากับบาสเสียสนิทไม่มีใครฉุกคิดว่าเอมีนจะเล่นละครหลอกได้ขนาดนี้ ไอ้เด็กนี่ต้องมีไพ่เด็ดอยู่ในมืออย่างแน่นอนถึงได้กล้าที่จะมาพูดจายอกย้อนแบบนี้ แต่ไพ่ใบนั้นมันคืออะไรล่ะหนุ่มใหญ่ขออย่าให้เป็นสิ่งที่เขานึกกลัว  เด็กเวรนี่มันคงแค่ขู่……..

“หน้าถอดสีเลยหรือคุณธีระ”  เอมีนนึกสะใจที่ได้เห็นสีหน้าและแววตาหวาดระแวงของคนตรงหน้า ถ้าเขาสามารถมองลึกเขาไปข้างในใจได้เขาคงเห็นไฟแค้นโหมกระหน่ำอยู่กลางอกธีระเป็นแน่  คงกระอักที่เห็นเด็กโง่ในสายตาอย่างเขากำลังยืนถือไพ่คุมเกมอยู่อย่างใจเย็นน่ะสิ

“ใจเย็นๆนะ ถ้ายังอยากที่จะได้ยินสิ่งที่ผมจะบอก” เด็กหนุ่มยังคงพูดจายอกย้อนให้ธีระได้เจ็บใจและเครียดหนักขึ้นเรื่อยๆ  และมันก็ได้ผลเมื่อธีระตวาดเขากลับมาอย่างคนที่คุมตัวเองไม่อยู่

“จะพูดอะไรมึงก็เอ่ยมาซิวะ”

“อยากที่จะรู้ตัวสั่นแล้วหรือไง”

“ฉันไม่ได้อยากรู้แค่ไม่ชอบที่แกจะมาขู่ฉัน”

“ผมไม่ได้ขู่เพราะสิ่งที่ผมรู้มา มันคือความลับที่คุณพยายามปกปิด”

“อะไรงั้นเหรอที่ฉันพยายามปกปิด”

“ผมรู้ว่าคุณคิดอะไรกับฟิลิป”  ธีระชะงักไป เมื่อในที่สุดเอมีนก็หลุดปากบอกในสิ่งที่เขานึกกลัว ไอ้เด็กชั่วแกมันร้ายกาจกว่าที่คิด

“ไงอึ้งไปเลยหรือไง คุณโปรดิวเซอร์คนเก่ง”  เอมีนบอกออกไปอีกด้วยน้ำเสียงเย็นเยือกเมื่อเห็นสีหน้าเครียดจัดของธีระ

คนหน้าเครียดหมดขีดความอดทน ร่างสูงใหญ่เดินตรงเข้าใส่เอมีนดั่งเสือที่กำลังโมโหหิวและคิดที่จะขย้ำเหยื่อตรงหน้าให้ตายคากรงเล็บ  แต่ทว่าเหยื่อไม่ได้หวาดกลัวเลยซักนิดกลับยิ้มร้ายให้คนที่กำลังโกรธ ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้คนที่เป็นดั่งเสือร้ายนั่นหยุดชะงักทั้งๆที่ยังไม่ถึงตัวเขาด้วยซ้ำ

“ถ้าฟิลิปมาเห็นคุณในสภาพแบบนี้ มันคงจะดูไม่จืดนะคุณธีระ”

“แกต้องการอะไร”  ธีระตวาดถามในที่สุดเมื่อโดนเอมีนยอกย้อนจนสุดจะทนคำถามนั่น เอมีนก็รอที่จะตอบอยู่เสียด้วยสิเด็กหนุ่มปรับน้ำเสียงพูดจริงจังเหมือนตั้งใจให้คนฟังรู้ว่าเขาไม่ได้แค่พูดเล่นๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุเมศพลัง ที่ 26-03-2008 13:33:27
มาต่อสั้นงี้เเอบโกรธนะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ

เอมีนสู้ตายยยยยยยยยยย

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ :oni1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 26-03-2008 15:30:39
เอามันให้ตายยยยยยยยยยยยยยยเลย แต่สงสัยบาสต้องร้ายกว่านี้ 10 เท่า

เอมีนสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: dark789 ที่ 26-03-2008 23:49:11
มันส์ อีกแล้ววววว

แต่สั้นไปนิด ><
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 27-03-2008 11:51:48
“เลิกยุ่งกับผมและพี่พล ผมจะไม่ทนให้คุณมาพ่นน้ำลายใส่ไฟได้อีกต่อไปอีก ถ้าหากว่าคุณไม่เลิกอย่าคิดว่าผมใจร้าย”

“น้ำหน้าอย่างแกจะทำอะไรฉันได้” ธีระท้าทายไม่ลดละ

“ผมทำอะไรคุณไม่ได้ก็จริง แต่สิ่งที่คุณจะได้รับผมเชื่อว่าคุณคงทำใจไม่ได้แน่ๆ”

“มีดีอะไรอย่างงั้นเหรอ ถึงมาคิดจะมาต่อรองกับฉันแบบนี้ไอ้เด็กเมื่อวานซืน”

“ผมไม่ได้มีดีอะไร แต่คุณลองปฎิเสธมาสิว่าคุณไม่ได้รักฟิลิป”

“อย่าดึงฟิลิปมาเกี่ยวข้อง ถ้าคิดว่านี่เป็นเรื่องระหว่างเรา”

“แต่มันจะเกี่ยวข้องกับเขาอย่างหลีกไม่ได้ ถ้าคุณไม่ถอยความคิดที่จะทำลายความฝันของผม”

“ยังไงฉันไม่เข้าใจ” ธีระหรี่ตามองเมื่อชักตามเอมีนไม่ทัน และฝ่ายนั้นก็ไม่ทำให้เขาข้องใจได้นาน

“ฟิลิปเกลียดเกย์เข้ากระดูกดำแค่ไหนคงไม่ต้องให้ผมบอกนะ และนายนั่นจะรู้สึกยังไงถ้าได้เห็นว่าโปรดิวเซอร์ตัวเองที่อยู่ใกล้ชิดคลุกคลีกันมาหลายเดือน ที่แท้ก็แค่เกย์คนนึงที่แอบหลงรักเด็กอย่างเขาชนิดหัวปักหัวปำ จนหลงผิดคิดทำอะไรชั่วๆเพื่อกันใครต่อใครไม่ให้เข้าใกล้หรือได้ดีไปกว่าเขา”  ธีระยิ้มเยาะเมื่อหายข้องใจ  และคล้ายๆว่าจะตามเอมีนทันหนุ่มใหญ่แกล้งถามเปิดทาง

“แกคิดจะบอกเรื่องนี้กับฟิลิปงั้นเหรอ”

“นับว่าคุณฉลาด”

“งั้นคนโง่ก็คือแกสิ”

“อะไรที่คุณคิดแบบนั้น”

“ก็ฉันรู้ทันแกไง แกอย่าคิดว่าแกจะฉลาดไปกว่าฉันเอมีน คิดจะเอาเรื่องนี้มาขู่ให้ฉันเลิกยุ่งวุ่นวายกับแกงั้นเหรอไอ้หนู แกมันโง่ยังไงมันก็ยังโง่อยู่วันยังค่ำ ฉันไม่ตกหลุมพรางแกง่ายๆหรอก  กลับไปเก็บข้าวของและก็เตรียมย้ายออกไปจากตึกนี้ได้เลย  ไม่มีใครเขาเชื่อลมปากแกหรอก แค่ภาพเกย์ร่านวิ่งไล่ตามผู้ชายชื่อแกมันก็เน่าไปทั้งตึกแล้ว  ฉันเข้าออกตึกนี่มากี่ปี แล้วแกมันกี่เดือน นึกว่าจะแน่แค่ไหนเด็กยังไงมันก็แค่เด็ก ”

“คุณคิดอย่างนั้นเหรอ” เอมีนย้ำถามความคิดคนตรงหน้าและคำตอบที่ได้มันก็ไม่ต่างไปจากเดิม

“แล้วแกจะให้ฉันคิดยังไง  ฟิลิปไม่ชอบขี้หน้าแกแค่ไหนใครๆก็รู้  คำพูดแกมันจะมีน้ำหนักกระทั่งทำให้เขาเชื่องั้นเหรอ อย่าคิดอะไรที่มันตื้นๆไปหน่อยเลย”

“คนที่คิดตื้นมันคือคุณต่างหากล่ะคุณธีระ  อย่าประเมินคนอื่นด้วยสายตาเสมอไป  ถ้าผมไม่มีอะไรที่จะมาแก้เกมคุณได้  ผมไม่เสียเวลามาหาคุณหรอก”

“อะไรล่ะที่เป็นไม้ตายของแก  ถ้าไม่มีก็หุบปากแล้วรีบไปให้พ้นสายตาก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวกระทืบแกให้ตายตรงนี้”

“คุณต่างหากที่ควรหุบปากถ้าไม่อยากโดนแฉพฤติกรรมฉาวโฉ่”

“ฉันไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนั้น”

“แน่ใจเหรอ”

“ซะยิ่งกว่าแน่ไอ้หนู”

“แต่ที่ผมรู้มาและเห็นมาผมว่าผมไม่ได้ตาฝาด”

“แกรู้แกเห็นอะไร”

“ไหนบอกไม่เคยทำอะไรที่เสียๆหายๆไง”

“ไม่ต้องมาย้อนฉัน  บอกมาแกรู้อะไรถ้าไม่บอกฉันเอาแกตายแน่เอมีน”

“ถ้าคิดว่าทำได้ก็เอาสิ”

“แกมันวอนเองนะ”  ธีระหมดความอดทนกับคนตรงหน้า 

ถ้าไม่ได้สั่งสอนไอ้เด็กเวรนี่เขาคงนอนไม่หลับไปหลายคืน  หนุ่มใหญ่เดินหน้าเข้าไปหมายจะจัดการคนที่ทำให้เขาเครียดมาตลอดการสนทนา  แต่ทว่าเขาต้องชะงักเมื่อเอมีนยกมือชี้หน้าเขาด้วยแววตาเกรี้ยวกราด

“อย่าคิดที่จะใช้ความรุนแรงกับผมคุณธีระ  ที่ผมมาพูดก็แค่จะเตือนคุณดีๆ ถ้าคุณไม่ฟังผมก็จำเป็นที่จะต้องแฉพฤติกรรมคุณบ้าง  จะได้รู้สึกไงว่าความรู้สึกของคนที่โดนคุณรวมหัวกับคู่ขาแฉพฤติกรรมที่เขาไม่ได้ทำมันเป็นยังไง”

ถึงตอนนี้เอมีนนึกถึงจัสตินขึ้นมา  อยากให้เขามาเห็นสีหน้าและแววตาคนใจร้ายพวกนี้นักเมื่อรู้สึกว่าสันหลังกำลังจะหวะขึ้นมา

“อย่ามาทำพูดดี  ถ้าแกมีหลักฐานที่จะทำอะไรฉันได้ แกก็งัดออกมาเลยดีกว่าฉันเบื่อที่จะฟังแกเพ้อเต็มทน”

“ถ้าอยากได้หลักฐาน ก็ลองเดินหน้าก่อกวนผมอีกสิ  คุณได้เห็นสมใจแน่  แต่ถ้าคิดที่จะหยุดขึ้นมาแล้วเดินทางใครทางมัน ผมก็จะถือว่าเราไม่มีอะไรที่ค้างคากันอีก  เมื่อก่อนผมอาจที่จะคิดทำเพื่อเพื่อนของผมที่โดนพวกคุณเล่นงาน  แต่วันนี้เขาไม่มีอะไรที่ต้องเสียอีกแล้ว  ต่อไปนี้มันเป็นเรื่องของเราผมกับคุณและคู่ขาคุณ   จำไว้ถ้ายังอยากใช้ชีวิตปกติอย่างไม่อายใครก็อย่ามาวุ่นวายกับชีวิตผมอีก   หรือถ้าอยากที่จะให้เด็กในคาถาอย่างนายฟิลิปหมดศรัทธาก็เดินหน้าต่อได้ไม่ว่ากัน  ถ้าคิดว่ามันคุ้มกับการถูกนายนั่นมองอย่างขยะแขยงแค่นายนั่นรู้ว่าคุณเป็นเกย์ผมก็เชื่อว่าหน้าของคุณมันก็คงไม่อยากจะมอง  จินตนาการได้เลยนะยิ่งถ้ามันได้รู้ว่าคุณน่ะเป็นคู่ขากับผู้จัดการส่วนตัวของมันอีกล่ะก็อะไรจะเกิดขึ้น”

“แกมันร้ายกว่าที่ฉันคิดเอมีน”

“ร้ายมาผมก็ร้ายตอบ”

“คิดว่าฉันจะยอมแกง่ายๆงั้นเหรอ ตราบใดที่แกไม่มีอะไรที่จะมาแฉฉันได้แกก็อย่าหวังว่าจะได้ออกเทปสมใจอยากแก”

“ถ้าคิดว่าแน่อยากลองดีกับผมก็ลองดูสิ”  ธีระแทบจะปรี่เข้าไปจัดการกับคนที่ยืนท้าทายเขาอย่างไม่หวาดหวั่น มันเรื่องอะไรล่ะที่อยู่ดีๆเขาจะต้องยอมเดินตามเส้นที่เด็กอย่างมันขีดให้เดินมันเกินที่เขาจะทำตามได้  แม้จะรู้สึกอยู่ลึกๆว่าเอมีนไม่ได้แค่ขู่ก็แววตาที่เห็นและน้ำเสียงที่ได้ยินมันดูจริงจังเสียจนเขาอดหวั่นใจไม่ได้แต่ก็ทำใจดีสู้บอกออกไป

“แกมันแน่มากเอมีน  ท่าทางฉันจะต้องรอบคอบมากกว่านี้ซะแล้วสิเจอคู่ปรับที่น่ากลัวเข้าซะแล้ว”

“แสดงว่าคุณจะไม่หยุด”

“หยุดแล้วฉันจะได้อะไร”

“อย่างน้อยคุณก็ไม่ได้โดนเกลียดชังจากคนที่คุณรัก”

“มีหลักฐานอะไรที่แกจะทำให้ฟิลิปเชื่อได้ว่าฉันเป็นอย่างที่แกพูด”

“ถ้าคุณไม่หยุดคุณได้เห็นมันแน่”  เอมีนพูดอย่างท้าทายและมันก็ทำให้หนุ่มใหญ่หยุดคิด และก่อนที่เขาจะโดนเอมีนไล่ต้อนไปมากกว่านั้น แววตาก็ส่อประกายความใจชื้นก็สื่อออกมาเห็นว่าเบื้องหลังเอมีนมีอีกคนที่กำลังเดินเข้ามา และคนๆนั้นก็คือคนที่เอมีนบอกว่าเป็นคู่ขาเขา  ไอ้เด็กอวดดีวันนี้แกคงโดนฉีกเป็นชิ้นๆแน่แค่แววตามาดร้ายที่บาสมองเข้ามายังไงแกคงไม่รอด….!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 27-03-2008 13:03:11
จัสตินช่วยเอมีนด้วยยยยยยยยย...

กระทืบไอ้บาสกะไอ้ธีระให้จมตีนเลยยยยย...

 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 27-03-2008 13:33:45
เอมีนนนนนนนนนนนนนนนน จะรอดมั้ย ไอ้พวกชั่วนี้จิงๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 27-03-2008 20:23:25
โอ้ย เอมีน จะรอดกลับบ้านใหมเนี่ย  :angry2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 27-03-2008 23:10:14
ให้มันได้อย่างนี้สิเอมีน ต่อตาตา ฟันต่อฟัน อย่าไปกลัวมัน  :laugh: :o12:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 28-03-2008 10:35:30
- 15 -

เอมีนรู้สึกเอะใจในสายที่มองข้ามตัวเขาไปของธีระ แต่ไม่ทันที่จะได้คิดอะไร เจ้าของรอยยิ้มมาดร้ายเมื่อครู่ก็ก็เอ่ยขึ้นมาซะก่อนเมื่อเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างหลังเขาพอดี

“ได้ยินเสียงเอะอะ ก็นึกว่าใครมีเรื่องอะไรกัน” เอมีนหันไปมองแทบจะทันที

ถึงแม้บาสจะส่งยิ้มให้แต่รอยยิ้มนั่นเด็กหนุ่มก็สัมผัสได้ทันทีว่ามันแฝงไว้ด้วยความไม่หวังดีของเจ้าตัว

“มีธุระอะไรที่กำลังเคลียร์อยู่กับคุณธีระเหรอ เอมีน”

“ลองถามเขาดูสิ”

“ถามใครฉันก็คิดว่ามันไม่ต่างกัน”

“ต่างสิ  ในเมื่อคุณสองคนสนิทชิดใกล้กันแค่ไหนก็น่าจะรู้กันอยู่ คำตอบที่ได้จากปากเขาน่าจะตรงใจคุณมากกว่าผม”  เอมีนปรายตาไปมองธีระ 

บาสพยายามข่มใจ ทำไมเขาจะไม่ได้ยินการสนทนาครั้งนี้ล่ะ ก็ในเมื่อเขายืนอยู่ไม่ไกลจากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อครู่ แต่เมื่อทนดูปฎิกิริยาท้าทายของเอมีนไม่ได้ชายหนุ่มจึงจำเป็นต้องออกมา นับประสาอะไรคนที่เหมือนจะร้ายอย่างธีระจะเอาเด็กนี่อยู่หมัด อย่างเอมีนต้องเจอกับเขานี่ เรื่องมันถึงจะสนุก
 
“ไม่นึกไม่ฝันเลยนะว่า เธอจะทำให้คนเก่งๆถึงกับหน้าถอดสีได้” คนเพิ่งเข้ามาเอ่ยต่อ เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาคนเหมือนจะร้าย

“ทำตัวเองต่างหากล่ะ  ถ้าคิดว่าตัวเองไม่มีหางก็ค่อยกร่างจ้องจะทำลายคนอื่น แต่นี่แม้แต่หางตัวเองก็เก็บกันไม่มิด คิดว่าไม่มีใครรู้ใครเห็นงั้นสิถึงได้กล้ากัน” เอมีนเอ่ยขึ้นบ้าง

บาสรู้สึกว่าตัวเองก็เหมือนจะโดนเอ่ยกระทบไปด้วย  ความอดทนที่คิดจะนำมาใช้ตลอดสถานการณ์พลันหายไปหมดสิ้น แววตาที่จ้องมองเอมีนจึงแปรเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่จนคนถูกมองอดนึกคิดในใจไม่ได้ …….นี่ยังไงล่ะตัวจริงของพวกมัน……..

“ถ้าคิดที่จะเหมารวมฉันเข้ากับเหตุการณ์นี้เธอคิดผิดเอมีน อย่างที่ธีระบอกเธอมีหลักฐานอะไรที่จะมากล่าวหาเรา”

“แสดงว่าคุณรู้เรื่องทั้งหมดแล้วงั้นสิ มีอะไรก็ออกมาคุยกันสิ ไม่น่าที่จะแอบฟังเพราะยังไงเรื่องนี้มันก็ต้องเกี่ยวกับคุณอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว”

“กล้ามากที่จะเล่นกับฉัน”

“ถ้าเป็นคนเหมือนกันผมก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัว”

“อย่ามัวเสียเวลาไปขู่มันเลยบาส ไอ้เด็กเวรนี่มันร้ายกว่าที่คุณจะคาดถึง ที่นี่ไม่มีใคร…ทำให้มันพูดไม่ได้ซักเดือนสองเดือนหรือตลอดชีวิตก็น่าที่จะไม่มีปัญหาอะไร เด็กบ้านแตกอย่างมันใครล่ะจะสนใจ จะเป็นจะตายมันก็คงไม่มีผลต่อพ่อหรือแม่มันหรอก”  เป็นคำพูดแรกที่ทำให้เอมีนจุกที่อกขึ้นมาได้ 

ธีระคงได้เห็นประวัติเขา หรือไม่บาสก็อาจจะเป็นคนบอกถึงได้มาตอกย้ำสะเก็ดแผลที่เขาคิดว่ามันน่าจะเลือนไปได้แล้ว ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองต้องต่อสู้ชะตาชีวิตคนเดียวในเมืองใหญ่ที่ภัยมีรอบด้านแบบนี้ ไม่ใช่ความผิดของใคร เขาไม่โทษพ่อแม่ที่แยกทางกันอย่างน้อยๆพวกท่านก็มีบุญคุณในเรื่องที่ไม่ปล่อยให้เขาเป็นเด็กขอทานเร่ร่อน แม้จะไม่มีเวลามาอบรมสั่งสอนเขาแต่เขาโตมาพร้อมๆกับรู้จักแยกแยะคำว่าดีชั่ว

“คิดอย่างนั้นเหรอธีระ”  นั่นยังไงล่ะสมเป็นคู่ขากันจริงๆ ฝ่ายหนึ่งถามกลับคนต้นคิดก็พยักหน้ารับ……เอมีนอดที่จะแขวะสองคนที่ยืนจ้องเขาอยู่ไม่ได้ เป็นไงเป็นกันสิถ้าคิดจะหมาหมู่ก็เอา

“พวกพี่มาทำอะไรกันตรงนี้”  เหมือนเสียงระฆังช่วยชีวิต เอมีน ธีระ บาส หันไปทางต้นเสียงแทบจะทันที แต่ดูเหมือนคนพูดเลือกที่จะสบตากับเอมีนเป็นคนแรก

ฟิลิปไล่สายตามองสภาพคอที่เริ่มช้ำแดงของเอมีนนี่มันอะไรกัน แล้วนั่นมันเลือดชัดๆที่กำลังใหลซึมออกมาจากกางเกงที่ขาดแหว่งของเจ้าตัว บาดแผลคงจะซ่อนอยู่ข้างใน

“นี่มันอะไรกันพวกพี่ทำอะไร เอมีน” ฟิลิปเอ่ยถาม และแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อเห็นมุมปากของธีระก็ช้ำพอกัน เหตุการณ์มันชักจะไม่ใช่เรื่องเล็กซะแล้วสิ

“ไหนบอกจะกลับบ้านไงฟิลิป” บาสเอ่ยถามคนมาใหม่เป็นคนแรก เมื่อธีระเอาแต่อึ้งวางสีหน้าไม่ถูก  ยิ่งฟิลิปเลือกที่จะเดินมาอยู่ข้างๆเอมีน ชายหนุ่มแทบจะไม่ต้องคิดว่าธีระกำลังรู้สึกเช่นไร

“ผมไม่จำเป็นต้องพูดความจริงกับคุณ” ฟิลิปสวนกลับ ก็มันเรื่องจริง เขารู้สึกกับบาสยังไงวันนี้ก็ยังอย่างนั้น แต่กับอีกคนที่กำลังยืนร่างกายบอบช้ำข้างๆเขานี่สิ เขาน่าจะสะใจไม่ใช่เหรอที่มาเจออะไรแบบนี้ แต่นี่ทำไมเขาไม่ได้สะใจเลยซักนิดนะ ที่เห็นสภาพเจ้าตัวตอนนี้  เด็กหนุ่มอยากรู้ทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น

“ว่าไงใครจะตอบผมได้บ้างว่านี่มันเรื่องอะไรกัน เอมีนถึงได้เป็นแบบนี้”  คำพูดที่หลุดออกไป ฟิลิปไม่ได้รู้ตัวเลยซักนิดว่าทำให้คนตรงหน้าทั้งสามคนชะงักไปในใจ ต่างคนก็ต่างหาคำตอบให้ตัวเอง …..นี่ฟิลิปเป็นอะไรไป……

“คิดว่านายคงจะให้คำตอบฉันได้นะเอมีน” ฟิลิปเปลี่ยนมาถามคนข้างๆ เมื่อต่างคนต่างเงียบ 

เอมีนมองสบตาคนที่คิดว่ายังไงซะก็ไม่มีทางญาติดีกันได้ แต่ความหมายในแววตาที่เด็กหนุ่มมองเห็นมันเป็นแววตาของความห่วงใยซะมากกว่า

“คิดว่านายคงมีอะไรที่จะบอกฉัน”  ฟิลิปรุกต่อ แต่คนที่เขาปรายตาไปมองคือบาส  เขาเชื่อว่าสภาพเอมีนที่เห็นคงเป็นฝีมือคนแบบนั้นมากกว่าที่จะเป็นฝีมือโปรดิวเซอร์เขา

“อย่ามองฉันแบบนั้นฟิลิป”

“ทำไมล่ะกลัวว่าผมจะรู้อะไรงั้นเหรอ”

“เธอมันตาบอดอย่างที่เอมีนว่าจริงๆ”  ฟิลิปตวัดสายตากลับมามองเอมีนทันที

บาสนี่แหลได้ทุกสถานการณ์จริงๆ เอมีนนึกว่าในใจแต่จะพูดไปก็ไม่ได้ในเมื่อฟิลิปเหมือนจะคาดเดาอะไรผิดไปจากความเป็นจริง คนตัวใหญ่ที่ยืนหน้าเสียอยู่โน่นต่างหากล่ะที่จัดการกับเขาเมื่อครู่  คงกลัวเด็กหนุ่มยอดรักจะรู้ความจริงล่ะสิถึงได้ยืนไม่ติดขนาดนั้น

“หมายความว่าไงเอมีน” ฟิลิปถามทำให้เอมีนดึงสติกลับมาหาตัว ถ้ามัวแต่อึ้งไปคงจะตามวายร้ายพวกนี้ไม่ทัน

“ฉันตกลงตามที่เธอขอ”  เร็วกว่าที่เอมีนจะบอกอะไรฟิลิปคือเสียงของธีระที่ตวาดขึ้น  แน่นอนที่สุดว่าฟิลิปจะต้องงไม่รู้ว่าที่ธีระพูดหมายถึงอะไร แต่คนที่ไม่ได้ดั่งใจคือบาสชายหนุ่มยืนควบคุมอารมณ์ ในที่สุดเอมีนชนะในเกมบ้าบอนี่  หลักฐานอะไรก็ไม่มีซักชิ้นโง่ไม่มีสิ้นสุดจริงๆไอ้ธีระ

“ตกลงกับผมว่ายังไงเหรอ” เอมีนรีบย้อนกลับ

“เธออย่ามาเล่นลิ้น ทุกอย่างที่เธอขอให้ฉันทำเป็นอันตกลงและฉันคิดว่าเธอคงจะรักษาคำพูด”  แม้จะแค้นเจียนตายแต่ธีระก็พยายามปรับสีหน้าให้ปกติ 

นี่มันเรื่องจริงสิ่งที่เขาคิดว่าฟิลิปไม่มีทางฟังคำพูดของเอมีน มันคงเป็นแค่ความเข้าใจเขา  ฟิลิปเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมจะต้องใส่ใจไอ้เด็กเวรได้ขนาดนี้  วันนี้ถ้าเขาจะยอมถอยตั้งหลักก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่เอาคืนในวันหน้า  ถ้าเอมีนรักษาคำพูดทุกอย่างมันก็คงจะเข้าทาง

“งั้นทุกอย่างก็จบ  ผมจะถือว่าเราไม่รู้จักและไม่มีอะไรค้างคากันมาก่อน แต่ถ้าคิดที่จะย้อนเกมผมเราก็คงต้องเคลียร์กันใหม่”  เอมีนนึกขอบใจฟิลิปอยู่เหมือนกันที่ทำให้สถานการณ์มันง่ายขึ้น  แม้จะรู้สึกแปลกใจอยู่ในที  แต่ไม่มีประโยชน์ที่เขาจะใส่ใจในเมื่อเป้าหมายวันนี้ฟิลิปไม่ได้อยู่ในสายตา 
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 28-03-2008 11:37:21
ศึกนี้ ฟิลิป เป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวแบบไม่รู้ตัว

แล้วพ่อพระเอกตัวจริงเมื่อไหร่จะมาเข้าพระเข้านางล่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 28-03-2008 13:19:47
มันคงไม่จบง่าย ๆ แบบนี้มั๊ง เอมีน ก็ยังคงต้องเผชิญอีกเยอะ  o7 :o12:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 28-03-2008 13:59:57
หรือฟิลลิปจะมาชอบเอมีน เข้าซะแล้วล่ะเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 29-03-2008 08:30:13
แอบมาต่อ ไม่บอกใคร หุหุ  :a3:
=================================
เอมีนแยกออกมาจากคนกลุ่มนั้นแต่ก็ไม่ได้คิดที่จะกลับห้องพัก เด็กหนุ่มเผลอน้ำตาซึมระหว่างการเดินทางไปหาเพื่อน เมื่อย้อนคิดไปถึงคำพูดของธีระที่บอกว่าเขาเป็นแค่เพียงเด็กบ้านแตกใครล่ะจะมาสนใจความเป็นอยู่ …..ใช่ไม่มีใครที่จะสนใจเขาเลยจริงๆ…….

“เอมีนอยู่ไหน” น้ำเสียงที่เอ่ยทักทายในขณะที่เขาก้าวลงจากแท็กซี่ทำให้เอมีนรู้สึกดีขึ้นมา เมื่อรู้ว่าคนต้นสายที่โทรเข้ามาคือจัสติน

“มาหาเพื่อนน่ะแล้วนายทำไรอยู่”

“อยู่บริษัทแต่กำลังจะกลับแล้วล่ะ คืนนี้ว่างป่าว”

“ก็ว่างทำไมเหรอ”

“ไปหาได้มั๊ยอยากคุยด้วย”

“อาจจะดึกนะเพราะไม่รู้จะออกจากห้องเพื่อนเมื่อไหร่”

“แถวไหนล่ะให้ไปรับก็ได้นะ”

“ไม่ต้องอ่ะอย่ามาเลยยังไว้ค่อยคุยอีกทีนะ บาย” เอมีนรีบตัดสายทิ้งเมื่อจุดประสงค์จริงๆที่เขาต้องถ่อสังขารมาที่นี่ในสภาพร่างกายที่ไม่เอื้อต่อการเดินทางกำลังยืนอยู่ประจำที่รักษาความปลอดภัยใต้ตึก รปภ….คนนี้ไงที่เขาต้องการเจอ!!!!!!!!


ฟิลิปแยกตัวออกไปจากโปรดิวเซอร์และผู้จัดการเขาก็ไม่ได้กลับบ้านเช่นกัน เด็กหนุ่มขับรถวนไปรอบๆเมืองอย่างเลื่อนลอย  ทำไมหนอหัวใจถึงได้คิดห่วงใยคนที่เดินกะเผลกออกจากตึกเมื่อตอนหัวค่ำ แผลที่ข้อเท้าคงไม่ใช่แผลเล็กๆป่านนี้จะไปหกล้มอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้

“บ้ากูต้องบ้าแน่ๆ มันไม่มีทางเกิดขึ้นมันไม่มีทางเกิดขึ้น” เด็กหนุ่มบอกกับตัวเอง เขาจะรู้สึกผูกพันกับผู้ชายด้วยกันได้ยังไงมันเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยงไม่ใช่เหรอ แต่ถ้าวันไหนที่ไม่ได้เจอเอมีนทำไมถึงได้รู้สึกเซ็งจนไม่มีกะใจที่จะทำอะไร

แม้ตอนที่ได้เจอจะพ่นน้ำลายสาดไฟใส่กันก็เถอะ  แต่เขาก็พอใจที่จะเป็นแบบนั้นดีกว่าห่างหายไม่ได้เจอหน้า  นี่มันคงไม่ได้หมายถึงคำรักหรอกนะ   ฟิลิปนึกแย้งความรู้สึกตัวเองแต่ก็เหมือนฟ้าจะแกล้งเขาอย่างตั้งใจ  เมื่อมองเห็นร่างใครบางคนกำลังยืนรอรถอยู่ป้ายข้างหน้าเด็กหนุ่มไม่รอช้าที่จะทำตามความรู้สึกตัวเอง

…ปรี๊นนน…  เอมีนมองรถที่จอดเทียบใกล้เขาและบีบแตรเสียงดังมันไม่ใช่คันที่คุ้นตาแต่คนที่นั่งหน้าตึงอยู่ในรถก็ทำให้เขาอดที่จะสบถกับตัวเองไม่ได้

“จะมาหาเรื่องอะไรกูอีกล่ะมึง”

“ขึ้นมาสิไปไหนจะไปส่ง”  เอมีนชงักเมื่อฟิลิปเลื่อนกระจกลงแล้วหันมาพูดด้วย

“แค่อยากรู้เรื่องที่นายคุยกับพี่ธี ไม่ได้คิดจะที่มาหาเรื่องหรือพิศวาสอย่าจินตนาการไปไกลขนาดนั้น”  เอมีนแทบเต้นไอ้นี่มันยังปากร้ายไม่ต่างจากเดิม

“เร็วดิเดี๋ยวพ่อนายก็แห่มาแจกใบสั่งหรอก” เอมีนรู้ว่าฟิลิปหมายถึงอะไร ก็ถ้าแช่รถไว้ในที่ห้ามจอดนานกว่านี้คงได้ไปโรงพักแน่แต่มันจะเป็นยังไงก็เรื่องของมันสิไม่น่าจะเกี่ยวกับเขา เด็กหนุ่มเลยเลือกที่จะไม่ทำตามคำสั่งนั้น

“กะอีแค่ขึ้นมานั่งบนนี้มันจะตายหรือไง  บอกไม่ได้มาหาเรื่องก็ไม่ได้มาหาเรื่องซิวะ เห็นขาน่าจะเจ็บจะไปส่งให้หรือคิดว่าตัวเองกำลังจะดังใหญ่เลยทำเป็นหยิ่งขึ้นมา”  เจอไม้นี้เข้าให้เอมีนจึงยอมขึ้นไปนั่งคู่คนพูด ก็ดีที่นายนี่รู้จักมีน้ำใจกับคนอื่นซะบ้าง   

ตลอดเส้นทางที่นั่งคู่กันไปไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากคนทั้งสอง เอมีนเองก็เหนื่อยและเจ็บแผลจึงไม่มีอารมณ์ที่จะพูดอะไร แต่ก็ไม่แน่ถ้าคนข้างตัวแขวะมาก่อนเขาก็คงจะย้อนให้เหมือนกัน  แต่นี้ฟิลิปไม่ได้ออกอาการกวนใจให้เห็นเลยแม้แต่นิดจนอดที่จะคิดไม่ได้ว่านายนี่คงจะกินยาผิดมาแน่ๆ

“ไปทำอีท่าไหนให้คอช้ำมาขนาดนี้” ฟิลิปชวนคุยในที่สุด เอมีนผ่อนลมหายใจยาวก่อนจะบอก

“เรื่องไร้สาระอย่าสนใจเลย”

“ไร้สาระอะไรข้อเท้าก็เป็นแผลซะจนเลือดไหล ไปทำแผลมาหรือยังไม่รู้”  เอมีนก้มมองขาตัวเองใครจะปล่อยให้ตัวเองเลือดซึมได้ตลอดล่ะไอ้บ้า  แต่จะว่าไปมันจะมาสนใจทำไมล่ะเนี่ย

“อยู่แถวไหนจะกลับบ้านหรือจะไปไหนต่อ”  เหมือนเป็นการดักคอไม่ให้เอมีนคิดอะไร ฟิลิปจึงเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยขึ้นมา ก่อนจะรู้ว่าคนที่เขาเคยด่าว่าเสียๆหายๆพักอยู่คนเดียวและใช้ชีวิตอย่างไม่มีใครมาโดยตลอด เออเนาะอยู่ๆเขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาเฉยๆเมื่อนึกถึงคำพูดที่เคยเอ่ยกับคนข้างๆ

 “ทำไมเงียบไป” เอมีนอดที่จะถามไม่ได้เมื่อเห็นฟิลิปกลับไปนั่งนิ่งเหมือนเดิม

“เปล่า” ฟิลิปตอบสั้นๆก่อนจะหันไปสนใจเส้นทาง ไม่อยากที่จะคิดให้ใจมันวุ่นวายไปมากกว่าที่รู้สึกอยู่  สู้ส่งนายนี่ให้ถึงบ้านแล้วรีบหนีไปให้พ้นเสียดีกว่า  ยิ่งอยู่ใกล้ความรู้สึกลึกๆในใจมันยิ่งจะชัดเจน  เอมีนเป็นได้มากกว่าคนทั่วไปที่เขาไม่ใส่ใจ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 29-03-2008 10:57:28
หึหึหึ เอมีนได้หลักฐานเด็ดซะแล้วสิ  :o8: :oni2: :oni3:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 29-03-2008 11:52:56
ง่าๆๆ ว่าแล้วไงว่านายฟิลิปต้องมีไรแหงมๆ

มาต่อไวๆนะคร๊บบบบ โอยย อ :a3: :a3:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 29-03-2008 11:58:44
ขอบคุณคร้าบ แอบมาบ่อยๆ ก็ดีน้า  :m1:

หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 29-03-2008 17:52:25
ชอบทุกเรื่องของพี่บอย

อ่านแล้วม่ายผิดหวัง

เกียจอย่างไหนได้อย่างนั้นนะฟิลิป

รอต่อไป ฮับ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 31-03-2008 09:38:38
มารอแต่เช้า
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 31-03-2008 11:27:23
ใกล้จะจบแล้วนะครับ จะพยายามมาลงอย่างต่อเนื่องจนจบนะค๊าบ
===================================

- 16 -

เก๋งคันใหม่เอี่ยมขับผ่านพ้นตาออกไปแล้ว แต่คนที่เพิ่งลงจากรถและกำลังมองตามนั้นมันทำให้จัสตินข้องใจอยู่ลึกๆ  นี่หรอกหรือที่เอมีนบอกปัดไม่ให้เขาไปรับไหนบอกไปหาเพื่อนแล้วทำไมกลับกลายเป็นว่าเป็นนายฟิลิปนั่นที่มาส่งหรือเพื่อนที่เอมีนบอกคือนายฟิลิปนี่มันอะไรกัน

เอมีนกดโทรศัพท์ไปหาคนที่โทรนัดเขาเมื่อช่วงค่ำทันทีที่รถฟิลิปขับออกไปพ้นตา
 
“จะมาก็มานะ ถึงห้องแล้ว” เขาบอกออกไปทันทีที่ฝ่ายนั้นรับสาย แต่ก็ต้องงเมื่อได้ยินคำถามย้อนกลับ

“ไปไหนกันมาเหรอ”

“คืออะไรไม่เข้าใจ”

“ก็ใครล่ะที่มาส่ง” เอมีนใจหายวาบหันมองรอบตัวว่าจัสตินอยู่ไหนถึงได้เห็นว่าฟิลิปมาส่งเขา

“นายอยู่ไหนจัสติน”

“อยู่ในที่ที่พอจะมองเห็นอะไรได้ชัดเจน”

“อย่ามากวนประสาท  ถ้าอยากที่จะคุยกันก็ขึ้นไปหาละกันเหนื่อย ”  เอมีนตัดสายไปอย่างไม่ใยดี เขาไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมจะต้องคิดแคร์อะไร  อีกอย่างจัสตินคงไม่ได้ใส่ใจจริงจังอะไรที่เขาจะไปไหนมาไหน ฝ่ายนั้นคงแค่ถาม เพราะไม่มีอะไรจะคุยมากกว่า

ยังไม่ถึงสิบนาทีเสียด้วยซ้ำที่เอมีนก้าวเข้าไปในห้อง  เสียงเคาะประตูก็ดังตามหลังขึ้นมา  เขารู้อยู่แล้วว่าเป็นใครเลยเดินไปเปิดให้อย่างไม่ค่อยสบายใจนัก  แต่แล้วเด็กหนุ่มต้องชะงักเมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าเหี้ยมสองนายที่ยืนยิ้มร้ายอยู่หน้าห้องเป็นคนที่เขาไม่รู้จัก

“มาหาใคร” เด็กหนุ่มถามอย่างนึกสงสัย 

แล้วใจก็หล่นวูบเมื่อร่างทั้งร่างของเขาโดนผลักสุดแรงจนล้มลงไปกลางห้อง ประตูห้องถูกปิด ชายแปลกหน้าสองคนก้าวเข้ามายืนจังก้าพลางพูดจากันให้เขาต้องเสียวสันหลังวาบ

“หน้าตาก็ยังละอ่อนไม่น่าที่จะจัดการยาก”

“ฉันไม่รู้จักพวกนายมาทำไมกัน”คนเสียวสันหลังยันกายลุกขึ้นถามกลับ ปรับสีหน้าให้ปกติทั้งที่ใจเริ่มสั่น

จัสตินนั่งเคาะนิ้วอยู่ในรถนึกอะไรอยู่นาน  การที่จะขึ้นไปหาเอมีนครั้งนี้ทำไมเขาต้องคิดหนักด้วยนะทั้งๆที่ก็เคยทำมันมาแล้ว  ก็แหงสิเมื่อก่อนเขาคิดว่าเอมีนไม่ได้คบหากับนายฟิลิปนั่นนิ เด็กหนุ่มหาเหตุผลให้ตัวเองเสร็จสรรพก่อนที่จะตัดสินใจเลือกที่จะไม่ขึ้นไปวุ่นวายกับคนในห้อง  เอมีนคงไม่ต้องการที่จะคุยกับเขาแล้วมั้งถึงได้พูดจาไม่มีเยื่อใยเหมือนไม่แคร์เขาอย่างนั้น


ในห้อง…

“ฤทธิ์มากนะมึงจับมันมัดไว้ก่อนโว้ย” หนึ่งในสองชายหน้าเหี้ยมตะโกนใส่เพื่อนอีกคนให้จัดการไม่ให้เอมีนต่อสู้ขัดขืนในการรื้อห้องครั้งนี้

“พวกแกต้องการอะไร ในห้องฉันก็มีทรัพย์สินอยู่แค่นี้ มันไม่มีอะไรซ่อนไว้ค้นไปพวกนายก็ไม่ได้อะไรหรอก” เอมีนเปล่งเสียงถามทั้งๆที่มันยากเต็มที เมื่อร่างกายโดนทำร้ายเสียจนจะหมดแรง

“มีไม่มีเดี๋ยวก็ได้รู้  เฮ้ยทำให้มันหุบปากทีดิ กูขี้เกียจฟังมันพูด”  คนรื้อของหันมาสั่งคนที่กำลังจับเอมีนมัดมือไพร่หลัง 

เอมีนดิ้นสุดกำลังเมื่อมือใหญ่กำลังเงื้อมาฟาดที่ใบหน้าเขาอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้ามันทำมาแล้ว  แต่มันคงคิดไม่ถึงว่าเด็กที่พวกมันพูดกันว่าหน้าละอ่อนจะอึดได้ขนาดนี้  สิ่งที่พวกมันได้เห็นหลังฟาดฝ่ามือลงไปก็แค่รอยช้ำกับเลือดที่ซึมออกมาเล็กน้อยเท่านั้น สติสัมปชัญญะของคนโดนฟาดยังอยู่ครบพอที่จะขัดขวางการรื้อค้นข้าวของจนต้องโดนจับมัดมือไพร่หลัง  และก่อนที่มือใหญ่จะฟาดซ้ำลงไปอีก 

เหมือนสวรรค์ทรงมีตาขัดจังหวะพวกมันโดยทำให้เสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กในกระเป๋ากางเกงเด็กหนุ่มดังขึ้นมา  และคนที่ว่าเป็นสวรรค์ก็ไม่ใช่ใครจัสตินนั่นเองที่โทรเข้าไป
   
เสียงสัญญาณดังอยู่นานแต่ไม่มีการตอบรับพาลให้คนโทรนึกฉุนคิดไปไกลถึงขนาดว่าเอมีนคงไม่อยากรับสายตน ส่วนทางด้านเอมีนไม่มีสิทธิ์ที่จะหยิบสิ่งที่ดังอยู่ภายในกางเกงออกมารับได้ เมื่อมือถูกพันธนาการไว้ทางด้านหลัง หนึ่งในชายหน้าเหี้ยม จึงเป็นฝ่ายล้วงหยิบแทน

 “จัสติน”  คนหน้าเหี้ยมกดอ่านมิสคอลชื่อคนที่โทรเข้ามาหลังจากคว้าโทรศัพท์เอมีนมาอยู่ในมือ แต่คนโทรเข้ามา วางหูไปแล้ว

“วางมือถือฉันลง” เอมีนบอกเสียงเย็นเหตุการณ์ทั้งหมดเด็กหนุ่มใช้ไหวพริบในการทบทวน

…..“มีหลักฐานอะไรที่แกจะทำให้ฟิลิปเชื่อได้ว่าฉันเป็นอย่างที่แกพูด”……….

นั่นยังไงล่ะที่เป็นคำพูดของคนที่น่าจะเป็นต้นคิดในเรื่องนี้  คิดที่จะตามมาหาหลักฐานจากเขาถึงที่นี่เลยหรือนี่  แต่พวกมันรู้ที่อยู่เขาได้ไงจากใบสมัคร จากหนังสือสัญญา หรือว่าจากคนที่เพิ่งมาส่งเขาเมื่อครู่ ความคิดในหัวตีกันวุ่นวายไปซะจนเอมีนสับสนแต่ ไอ้คนหน้าเหี้ยมนั่นมันจะรู้มั๊ยว่าหลักฐานที่พวกมันต้องการก็ที่มันถืออยู่นั่นยังไง  ภาพทุกภาพเสียงทุกเสียงมันอยู่ในนั่นหมด  เจ้าของหลักฐานภาวนาขอให้มันโง่ยอมเชื่อวางโทรศัพท์ของเขาลงอย่างที่เขาบอก….แต่นั่นมันคิดจะทำอะไร???

“อย่านะ!!!”  เอมีนตวาดเสียงหลงเมื่อชายคนนั้นยกมือตั้งใจที่จะเหวี่ยงโทรศัพท์เขาให้กระแทกพื้นจะด้วยสาเหตุใดเอมีนไม่อยากรับรู้แต่มันต้องไม่ทำอย่างนั้น

“มันรำคาญลูกกะตากูว่ะ”  สิ้นเสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กนั่นก็กระแทกผนังห้องแตกเป็นเสี่ยงๆอย่างที่ไม่มีทางปะติปะต่อกันได้เอมีนถึงกับตกใจ นึกอยากที่จะหลุดจากการถูกมัดครั้งนี้นัก

“เฮ้ยไม่เห็นมีอะไรเลยว่ะ  แม่งพวกสั่งงานมั่วนี่เบื่อฉิบหาย” เมื่อรื้อไม่เจออะไรที่พอจะได้ไปให้คนสั่งงานชายหน้าเหี้ยมที่รื้อของก็หันกลับมาหาเอมีนด้วยแววตาวาวโรจน์

“โทษนะไอ้หนูพวกกูต้องทำงานให้เสร็จว่ะ บังเอิญหน้าตามึงมันใกล้เคียงกับคนในรูปนี้ซะด้วยสิ พวกกูไม่รู้ว่ามึงไปใส่ไฟอะไรพวกมันมาหรือเปล่า พวกมันจึงอยากที่จะให้มึงพูดไม่ได้ตลอดชีวิต” 

รูปถ่ายหนึ่งใบถูกทิ้งลงตรงหน้า  เอมีนจำได้แม่นนั่นมันรูปที่เขาเคยใช้สมัครร้องเพลงโครงการเดียวกับฟิลิปชัดๆ บัดซบที่สุดไม่มีอะไรที่จะหยุดการกระทำต่ำทรามของพวกมันได้จริงๆ  เอมีนนึกแค้นใจทำไมชีวิตเขาจะต้องมาเจอคนพวกนี้ด้วย

“ไงเหงื่อตกเลยเหรอมึง พวกกูก็ไม่อยากที่จะทำร้ายเด็กที่ดูไม่มีพิษภัยอย่างมึงหรอกนะ แต่ว่ามันเป็นงานว่ะ”

กรรไกรคมกริบถูกชูขึ้นมาโดยคนหน้าเหี้ยมที่เอ่ยเมื่อครู่ แค่นั้นเอมีนก็พอจะเดาออกว่าเขาจะโดนอะไร เขาจะทำยังไงในเมื่อโดนจับมัดไพล่หลังแบบนี้

“ใครใช้พวกแกมา” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเสียงเย็น ยังไงก่อนที่จะเป็นอะไรไปก็ขอฟังให้ชัดๆซักครั้งว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องเหล่านี้แม้คำตอบจะชัดเจนในใจแล้วก็ตาม

“จะรู้ไปทำไม  รู้ไปก็พูดอะไรไม่ได้เพราะลิ้นของมึงกำลังจะขาด มันมีค่ามหาศาลซะด้วยสิไอ้หนู….เฮ้ยจับมันไว้” 

เอมีนเหงื่อตกถ้ามองเห็นหน้าตัวเองได้ตอนนี้  มันคงซีดไม่ต่างอะไรกับกระดาษเปล่าเป็นแน่  พวกมันไม่ได้แค่ขู่เมื่อสิ้นสุดเสียงคนสั่ง  คนที่อยู่ข้างหลังเขาก็เข้าลอ็คจับตัวเขาไว้ทันที

“ปล่อยสิวะ พวกแกอย่าคิดว่าจะรอดนะถ้าเรื่องนี้ถึงตำรวจ”  เด็กหนุ่มพยายามสะบัดให้หลุดจากการเกาะกุม  แต่ไม่เป็นผลแถมคนที่ชูกรรไกรเมื่อครู่ยังเดินเข้ามาหาเขาด้วยแววตาน่ากลัว

“เฮ้ย….ปล่อยมัน” แต่แล้วมันออกคำสั่งเพื่อนร่วมงานเมื่อเห็นเอมีนดิ้นเพื่อจะให้หลุดออกจากการจับ เพราะถึงเอมีนหลุดไปก็คงจะทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อโดนจับมัดไพล่หลังและร่างกายก็สะบักสะบอมเสียขนาดนั้น อย่างมากก็แค่ร่นถอยหนีแต่ห้องเล็กแค่นี้จะหนีไปไหนรอดล่ะ

“พวกแกอย่าคิดว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปนะ”  เอมีนเดินร่นถอยหลังอย่างยากลำบาก แต่กระนั้นก็ยังเอ่ยขู่หวังให้พวกมันได้คิดกลัวบ้าง แต่เปล่าเลยคนพวกนี้ไม่มีคำว่ากลัวอยู่ในหัวสมองพวกมันยังคงเดินไล่ต้อนเหยื่อตรงหน้าเหมือนนักฆ่าโรคจิตยังยังงั้น 

เอมีนถอยร่นออกไปจนถึงระเบียงห้องเด็กหนุ่มภาวนาให้ใครมองเห็นเขาบ้างแต่มันคงยากเต็มที  เด็กหนุ่มเพิ่งรู้ซึ้งถึงผลเสียแห่งการอยู่อย่างสันโดษแต่หัวสมองเขาก็ไวกว่าคนร้าย   พวกมันยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรแค่เดินตามเขามาอย่างช้าๆ แต่สายตาและรอยยิ้มเหยียดๆนั่นมันทำให้ขนทุกเส้นในร่างกายลุกชันจนเกินที่ห้าม
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 31-03-2008 11:40:57
เฮ้อ...งอนกันไปงอนกันมา จัสติน มาช่วยเอมีนเร็ว ๆ นะ  o7

แล้วจะรู้ใจของกันและกันเมื่อไหร่เนี่ย   :oni3:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: SweetSerenade ที่ 31-03-2008 13:17:52
จะรอดไปได้ยังไงเนี่ย :serius2:

เอาใจช่วย

สู้ๆ นะเอมีน
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 31-03-2008 14:47:50
 :serius2: จะช่วยทันมั้ยเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 31-03-2008 20:36:06
จะจบลงยังไงกันเนี่ย  o12 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 01-04-2008 09:44:56
ตื่นเต้น ตื่นเต้น อ่ะ มาลุ้นต่อ
ใกล้จะจบล่ะ คาดว่าอีกไม่เกินอาทิตย์
=========================================

เด็กหนุ่มรีบประเมินสถานการณ์ในใจ การที่จะตะโกนร้องออกไปคงได้ลิ้นขาดก่อนที่ใครจะมาเห็น
..ทำไงดีวะ… 

เอมีนค่อยๆถอยชิดกำแพงริมระเบียงที่กั้นเอาไว้แค่ครึ่งตัวพลันหลังก็ไปสะดุดกับอะไรบางอย่าง ….กระถางต้นไม้….. มันวางเรียงรายอยู่บนที่กำแพงกั้น ไวกว่าที่พวกมันจะมองเห็นเอมีนรีบใช้หลังบังกระถางต้นไม้ไว้  ปากก็เริ่มพูดกับสองชายหน้าเหี้ยมให้รู้ถึงเรื่องโทษที่จะได้รับหากถูกจับได้  มันเป็นการยื้อเวลาไม่ให้พวกนั้นลงมือทำร้ายเขา 

แต่ทางด้านหลังเด็กหนุ่มใช้ศอกดันให้กระถางนั่นให้หล่นลงไปด้านล่าง ทีละกระถาง ทีละกระถาง ทุกอย่างผ่านไปอย่างแนบเนียน โดยที่สองคนข้างหน้าไม่ได้รู้สึกถึงสิ่งผิดปกตินั่นเลยแม้แต่นิด  ในใจเด็กหนุ่มก็ได้แต่ภาวนาให้ใครก็ได้ที่อยู่ข้างล่างสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้

วัตถุที่ลอยลิ่วลงมาจากข้างบนตึก  จัสตินแปลกใจใครเกิดบ้าอะไรตอนดึกถึงได้โยนอะไรต่อมิอะไรลงมาข้างล่าง แต่เอ..นั่นมันหล่นมาจากมุมที่เขาเคยนั่งตอนมาหาเอมีนครั้งแรกนิ??? แทบจะไม่ต้องคิดอะไรอีก เมื่อจัสตินมองเห็นร่างของคนที่คุ้นตา แม้จะอยู่ในที่มืดเพราะไฟริมระเบียงไม่ได้เปิด  แต่แสงจันทร์ที่สาดส่องมันทำให้ไม่ลำบากต่อการคาดเดาว่าร่างนั้นมันเอมีนชัดๆ  วัตถุนั่นหล่นลงมาจากห้องของเอมีน  เด็กหนุ่มพุ่งตัวออกจากรถหรูแบบไม่ต้องทบทวนอะไร เมื่อมองเห็นเงาลางๆกำลังย่างสามขุมเข้าหาเอมีน สัญชาตญาณมันบอกให้เขาวิ่งตรงไปที่ป้อมยาม คว้าเอาไม้กระบองที่ยามเผลอวางเอาไว้ถือวิ่งขึ้นไปชั้นสิบอย่างไม่สนใจที่จะรอลิฟท์หรือสายตาใครทั้งนั้น

“ว้ายยยอะไรกัน” เสียงวี้ดว้ายจากกลุ่มที่เห็นจัสตินวิ่งหน้าตั้งขึ้นชั้นบนเรียกความสนใจใครต่อใครเป็นอย่างดี จนมีเสียงตะโกนจากสาวรุ่นหนึ่งในกลุ่ม

“นั่นมันจัสตินนี่”

“ใช่จัสตินจริงๆด้วยทุกคน”  เสียงสมทบที่ดังตามมาเหมือนไล่นกกาให้แตกรัง 

ฝูงคนกลุ่มใหญ่วิ่งตามร่างสูงนั่นไปอย่างไม่ต้องให้บอกซ้ำ มีแค่ยามเท่านั้นที่นั่งเอ๋อเพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วเสียจนไม่ทันได้ตั้งตัว  แต่เมื่อเรียกสติได้นั่นแหละถึงได้เกณฑ์คนขึ้นไปสมทบมันต้องมีเหตุอะไรซักอย่าง จัสตินหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องลองหมุนลูกบิดประตูแต่มันโดนล็อคจากข้างใน เขาเลยตัดสินใจเคาะห้องรัวถี่ยิบพลางส่งเสียงร้องเรียก

“เอมีน…เปิดประตูให้หน่อย”

เสียงคลิ๊กที่ลูกบิดประตูและเสียงตะโกนเรียกความสนใจของชายหน้าเหี้ยมทั้งสอง เอมีนนึกใจชื้นที่วิธีของเขาทำท่าจะได้ผลและเสียงคนที่ตะโกนอยู่ข้างนอกนั่นเขาก็ก็จำเสียงได้ซะด้วย

“จัสตินพังประตูเข้ามาเลย” เด็กหนุ่มรีบตะโกนตอบกลับไป

เหตุการณ์ทำท่าว่าจะวุ่นวายเมื่อเสียงเอมีนดังไปทั่วบริเวณจนน่าจะปลุกใครๆให้ตื่นขึ้นมาได้ หนึ่งในวายร้ายจึงหันไปตวาดเขาลั่น

“หุบปาก!!!” สิ้นเสียงฝ่ามือหนาใหญ่ก็ฟาดซ้ำลงไปที่ใบหน้าอ่อนใสจนหันสะบัดไปตามแรงตบ 

เอมีนรู้สึกชาขึ้นมาก่อนจะรู้สึกเจ็บตามมา แต่ว่าพวกมันไม่ได้ใส่ใจเลยซักนิดกลับหันไปสนใจคนที่พยายามเปิดประตูอยู่ข้างนอก

“มาแม่งทำไมตอนนี้วะ”  คนถือกรรไกรสบถก่อนจะเดินไปดูที่ประตูห้อง  เอมีนลอบถอนหายใจอย่างน้อยเขาก็ได้มีเวลาหายใจได้เต็มปอดแม้จะเจ็บที่ใบหน้าก็เถอะ  แล้วสิ่งที่เกินจะคาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อประตูทั้งบานถูกยันโครมจนเปิดอ้าออก

“เอมีน” จัสตินครางออกมาอย่างตกใจเมื่อได้เห็นสภาพเอมีน แต่ไอ้วายร้ายตกใจยิ่งกว่าที่เห็นเขายืนกัดกรามแน่นอยู่เบื้องหน้า  แต่มันไม่มีเวลาตั้งตัวได้นาน เมื่อจัสตินตัดสินใจหวดกระบองไม้นั่นฟาดใส่หน้ามันเต็มแรงส่งผลให้หน้าเหี้ยมๆนั่นหันไปสุดมุม

เลือดสดๆที่พุ่งกระจายคนฟาดไม่ได้ใส่ใจว่ามันจะออกมาจากส่วนไหนบ้างเพราะร่างนั้นสลบแน่นิ่งไปพร้อมกับกรรไกรที่หล่นจากมือ  ส่วนอีกคนที่ช็อคกับภาพที่เห็นเพื่อนร่วมงานนอนหมดสติจมกองเลือดรีบหันกลับไปหวังที่จะจับเอมีนเป็นตัวประกันเพื่อให้หนีรอดจากห้องนี้  แต่นั่นมันแค่ความหวังเพราะเพียงแค่หันกลับไปก็โดนลูกถีบเอมีนซะหน้าหงายล้มคว่ำ จัสตินเข้ากระทืบซ้ำเพราะถ้าหวดด้วยไม้จะพาลสลบไปอีกคนเขาต้องหาต้นตอครั้งนี้ให้ได้เอมีนไม่น่าจะที่จะมีปัญหาอะไรกับใคร

 “ว้ายตายแล้วววว” กลุ่มคนที่วิ่งตามมาสมทบกรี๊ดกันลั่นเมื่อเห็นเหตุการณ์ในห้องพอตั้งสติกันได้  ก็พอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรจึงปรี่เข้าไปช่วยจัสตินจัดการกับคนที่คิดว่าน่าจะเป็นคนร้าย

จากการช่วยเหลือของฝูงชนที่แห่กันมาทำให้วายร้ายสองคนจนมุมไม่อาจหนีรอดไปใหนได้ จัสตินตรงเข้าไปแก้มัดเอมีนเห็นสภาพเด็กหนุ่มแล้วก็นึกอยากที่จะขย้ำสองเดนตายนั่นให้แหลกคามือ

“คนมองเราใหญ่แล้วนะ” เอมีนกระซิบบอกเสียงเบา แต่จัสตินไม่ยินดียินร้ายทั้งนั้นเขาต้องการพาเอมีนไปปฐมพยาบาลก่อนต่างหากจึงบอกอย่างดุๆ

“จะใส่ใจทำไมตัวเองจะตายอยู่แล้วไปโรงพยาบาลกับเราก่อน อย่างอื่นค่อยสนใจ”

“แล้วไอ้สองคนนี้ล่ะ” เอมีนปรายตาไปมองร่างหนึ่งที่นอนสลบจมกองเลือด แล้วไล่สายตาไปหาอีกคนที่กำลังถูกจับกุมจากคนร่วมหอพัก

“ไม่เป็นไรหรอกเอไปหาหมอก่อนเหอะ เดี๋ยวทางนี้ลุงจะจัดการพวกมันส่งตำรวจเอง”

คนพูดไม่ใช่ใครจัสตินจำได้ว่าเป็นลุงยามที่เอมีนเคยหิ้วของมาฝาก ท่าทางจะสนิทกับคนเจ็บจนเรียกเอมีนไม่เต็มชื่อ  เอมีนยิ้มรับก่อนจะพยายามยันกายให้เดินไปหาวายร้ายที่กำลังโดนจับไว้อยู่ดูมันยังไม่สิ้นฤทธิ์แม้หน้าตาจะฟกช้ำจากการโดนรุมสกรัมแล้วก็เถอะ

“อย่าให้กูหลุดไปได้นะมึงกูเอาพวกมึงตายแน่”

“เพี๊ยะ ๆ!!!!”  เอมีนใช้หลังมือฟาดใบหน้าที่คนพูดเต็มแรงอย่างไม่นับ ท่ามกลางความตกตะลึงของคนรอบกาย จัสตินเห็นว่าคนโดนตบจะไม่ไหวจึงเข้าไปรั้งเอมีนออกมา  แววตาโกรธแค้นชิงชังของเอมีนยังคงฉายชัดจนน่ากลัว

“พอแล้วเอมีนปล่อยให้กฎหมายจัดการมันต่อเหอะแค่นี้มันก็น่าจะกระอักพอแล้ว”

จัสตินรีบพาเอมีนฝ่าฝูงชนออกไปในขณะที่หลายคนกำลังอึ้งแยกไม่ออกว่านี่คือเรื่องจริงหรือถ่ายหนัง ก็นี่มันจัสตินคนดังระดับประเทศชัดๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 01-04-2008 10:00:24
ว้าววววววววววววววววว....


พระเอกตัวจริงมาแล้วววววววว...


 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 01-04-2008 13:05:25
เย้ ๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 01-04-2008 15:44:20
พระเอกมาทันเวลาจิงๆด้วย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 02-04-2008 09:34:07
โอ้ จะเป็นข่าวขึ้นหน้า1 มั้ยเนี่ย :m24:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 02-04-2008 10:45:22
ตอนที่ 17 ล่ะ เรื่องนี้มีทั้งหมด 19 ตอนนะครับ o7
================================

- 17 -

ที่โรงพยาบาล เอมีนบอบช้ำจนหมอลงความเห็นให้นอนพักซักคืนโดยมีจัสตินเฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่าง เรื่องที่จัสตินพาเพื่อนชายมาโรงพยาบาลและแสดงท่าทีห่วงใย สร้างความแตกตื่นได้พอสำควรให้กับคนที่นี่ทั้งหมอพยาบาลคนไข้ต่างพูดจากันให้สนุกปากว่าคนนี้กระมังที่เป็นรักเขา แล้วเหตุการณ์ต่างๆมันเริ่มต้นและเป็นมายังไง จัสตินตกเป็นเป้าควมสนใจของสังคมอีกครั้ง

“อย่าเพิ่งถามอะไรผมเลย ผมไม่พร้อมที่จะอธิบายอะไรได้ทั้งนั้น” เด็กหนุ่มบอกปัดนักข่าวที่แห่กันมาอย่างเบื่อหน่าย จะมีสักครั้งมั๊ยนะที่เขาจะทำอะไรโดยไม่ตกเป็นเป้าความสนใจของสื่อ  นี่คงเป็นนางพยาบาลช่างเม้าท์แน่ๆที่โทรไปกระจายข่าว คราวหลังจะเอาปิ๊บคลุมหัวเดินในที่สาธารณะซะให้รู้แล้วรู้รอด

“พี่อิ๋งรีบมาด่วนเลยนะ ผมกำลังมีเรื่องวุ่นวาย” ปลายสายไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไร แต่เพราะความรับผิดชอบต่องานซึมเข้าไปในตัวมากกว่าครึ่ง เมื่อได้ยินคนในความดูแลโทรมาบอกอย่างนี้  อิ๋งอิ๋งจึงยอมทิ้งที่นอนนุ่มๆรีบจัดการตัวเองให้พร้อมที่จะทำหน้าที่พิทักษ์ศิลปินที่เป็นถึงซุปเปอร์สตาร์

“ไม่เป็นไรนะ นอนพักซักคืนเดี๋ยวเราอยู่เป็นเพื่อน” จัสตินเอ่ยกับเอมีนเมื่อเรียกหาคนที่มาช่วยกันนักข่าวได้แล้ว  ใครจะทำหน้าที่นี้ได้ดีไปกว่าผู้จัดการเขาไม่มีซะล่ะ

“นายเลยต้องวุ่นวาย” เอมีนพูดเสียงเบาเมื่อนึกถึงเรื่องราวหลังจากนี้ จัสตินคงหนีไม่พ้นที่จะเป็นข่าวใหญ่อีก

“มันคงไม่วุ่นวายไปมากกว่าที่เคยผ่านมาหรอกอย่าคิดมากเลย นอนพักเหอะพรุ่งนี้จะได้ไปจัดการไอ้พวกนั้นกัน” จัสตินนึกแค้นใจแทนคนที่นอนเจ็บอยู่ ยังไงซะเขาก็เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนๆนี้คงไม่ได้เป็นคนเริ่ม

“ขอบใจนะที่มาช่วย” เอมีนบอกอย่างซึ้งใจ ถ้าจัสตินไม่ขึ้นมาหาเขาป่านนี้เขาจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้

“อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลยนะ เราอยากให้นายนอนพักก่อน”

“แล้วนายล่ะ”

“ก็บอกว่าจะอยู่ข้างๆไง” จัสตินยิ้มให้อย่างอบอุ่น  เวลาเอมีนไม่ร้ายนี่มันทำให้เขาไม่กล้าที่จะไปไหนเลยจริงๆ
   


อิ่งอิ๋งแทบลมจับกับการตอบคำถามบรรดานักข่าวที่เดินทางกันมาโรงพยาบาล เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของจัสติน  โอ้ยอยากจะบ้าตาย มันจะอะไรกันนักกันหนา อีพวกนี้ไม่หลับไม่นอนกันหรือยังไงถึงได้แห่กันมาเป็นกองทัพแบบนี้ ผู้จัดการสาววีนแตกอยู่ในอก นี่ถ้าคำถามเป็นลูกกระสุนร่างเธอคงพรุนไปหมดแล้วแน่ๆ แต่อย่างว่านักข่าวก็คือนักข่าว พวกเขาจะใส่ใจทำไมล่ะว่าคนที่โดนคำถามยิงซัดจะเป็นจะตายหรืออยู่ในอาการครบสามสิบสองหรือเปล่า ล้วงเอาข้อมูลไปละเลงข่าวนั่นต่างหากล่ะคือเป้าหมายอันสูงสุดของสถาบัน หล่อนเลยต้องเผชิญหน้ากับคำถามล้านแปดอย่างเลี่ยงไม่ได้

“พอที่จะบอกพวกเราได้ไม๊คะว่า คนที่จัสตินพามาโรงพยาบาลเกี่ยวข้องกับจัสตินยังไง”

“ก็คงจะเป็นเพื่อนกันน่ะค่ะ”

“ตอบว่า คงจะ แสดงว่าพี่อิ๋งยังไม่แน่ใจถึงความสัมพันธ์ใช่มั๊ยคะ”

“ก็ถ้าไม่ใช่เพื่อนจะเป็นอะไรไปได้ล่ะคะน้อง จัสตินยังโสดค่ะยังไม่มีแฟน”

“แล้วข่าวก่อนหน้าที่บอกว่าจัสตินเคยมั่วยามั่วเซ็กส์อยู่กับคู่ขาล่ะ”

“ข่าวพวกนั้นจัสตินก็ได้ชี้แจงแถลงพวกคุณๆไปแล้วไงคะทางคลื่นวิทยุ หนังสือพิมพ์ก็เคยลงข่าวคำชี้แจงเขาไปแล้ว สรุปคำถามนี้มันเก่าแล้วค่ะ อิ๋งอิ๋งไม่ขอตอบและคิดว่าจัสตินคงไม่อยากที่จะเอ่ยถึงมันอีก”

“ถ้างั้นเราขอให้จัสตินออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้หน่อยได้มั๊ย”

“เรื่องอะไรคะ”

“ก็เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ไง เห็นพยาบาลบอกคนที่จัสตินพามาก็อาการหนักหนาเหมือนกับว่าโดนทำร้าย เราอยากฟังคำอธิบายจากปากจัสตินน่ะว่าเกิดอะไรขึ้น”

“คงจะไม่ได้ล่ะค่ะ เพราะจัสตินไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์อะไรตอนนี้ กลับไปนอนรอที่บ้านกันก่อนมั๊ยคะมีอะไรคืบหน้าอิ๋งอิ๋งจะรีบให้คนส่งข่าวไปให้เองค่ะ”

“อย่างนี้พวกเราก็เสียเวลาแย่สิคะ”  หนึ่งในกลุ่มเอ่ยออกมาในที่สุด ก่อนจะมองสบตาเพื่อนร่วมอาชีพอย่างเบื่อหน่ายเมื่อดูท่าว่าจะไม่ได้ข้อมูลใดๆกลับไปเลย

“อิ๋งอิ๋งเข้าใจค่ะว่าจัสตินเป็นคนของประชาชน แต่ตอนนี้มันดึกแล้ว และที่นี่ก็เป็นโรงพยาบาลมันไม่เหมาะที่จะให้สัมภาษณ์อะไรจริงๆ ต้องขอโทษน้องๆพี่ๆด้วยนะคะ พรุ่งนี้อิ๋งอิ๋งคิดว่าจัสตินคงจะให้คำตอบกับทุกคนได้ ไว้เดี๋ยวอิ๋งอิ๋งจะบอกเขาให้ว่ายังมีคนสนใจความเคลื่อนไหวของเขาอยู่ ตอนนี้อิ๋งอิ๋งคงทำได้แค่ขอบคุณทุกๆคนที่เสียสละเวลามาแต่จัสตินคงไม่พร้อมจริงๆเห็นใจเขาเถอะนะคะ” 

อิ่งอิ๋งเล่นไม้ตาย ถึงแม้ในใจจะนึกก่นด่าสารพัดกับกระจอกข่าวเหล่านี้ ก็ใครใช้ให้ตื่นตูมแห่กันมาล่ะ ก็เล่นยกเซ็ตกันเป็นโขยงแบบนี้ใครที่ไหนจะอยากออกมาเจอ ขนาดเธอที่ว่าแน่ยังแหลแทบไม่รอด

“งั้นไปเหอะพวกเรากลับไปนอนกันดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน” หนึ่งคนออกความเห็น เมื่อเจออิ๋งอิ๋งทำเป็นขอความเห็นอกเห็นใจพลอยทำให้หลายคนคล้อยตามไปด้วย

“ขอบคุณนะคะที่เข้าใจและสละเวลาพักผ่อนกันมา”  อิ๋งอิ๋งยังเล่นบทนางเอกต่ออีกหนึ่งฉาก อยากที่จะให้อีพวกบ้านี่กลับกันไปเร็วๆ

“งั้นพวกเราลานะ”

“ค้าาาขอบคุณค่ะ”  ผู้จัดการสาวรับคำแทบจะทันทีที่ได้ยินประโยคที่รอคอย โอยอยากจะบ้าตายนายจัสตินไปสร้างเรื่องอะไรไว้อีกล่ะเนี่ย

“ขอยาพาราหน่อยค่ะคุณพยาบาล ดิฉันปวดหัวมากกกก” อิ๋งอิ๋งรีบปรี่เข้าไปหาพยาบาลที่เคาเตอร์หลังจากที่มองตามนักข่าวจนแน่ใจว่าหายหัวกันไปหมดทุกสำนัก
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 02-04-2008 10:56:29
โหย ไรอะจะจบแล้ว

ยังไม่เห็นจะรักกันเลย

ไหนจะฟิลิปอีกละ

หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 02-04-2008 11:30:45
จะจบแล้วเหรออออออออออออออออออออ ทำไมเร็วจัง
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 02-04-2008 14:01:47
หา 19 ตอน ใกล้จบเต็มที แต่ทำไมปมมันยังมืดมนอยู่ มันจะคลายปมลงยังไงเนี่ย  :oni3:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 02-04-2008 16:28:35
เรื่องสรุปจบในตอนท้ายเนี่ย
นายบอยเค้าทำประจำ ไม่ต้องเป็นห่วง

ถ้าอยากอ่านต่อ ก็อ้อนคุณบอยต่อภาค 2 ล่ะกัน

แต่ก่อนหน้านั้น บอยค๊าบบบ รอเรื่องใหม่อยู่นะ  :oni2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 02-04-2008 16:48:28
โหย เห็นเข้ามานึกว่าจะมาต่อ

มาไวๆก็ดีนะค้าบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Mp_qM ที่ 02-04-2008 18:03:08
สนุขมากมากเลยครับ


ขอบคุณมากน๊าาาาา
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: MoonIce ที่ 02-04-2008 21:15:49
 :a11:...เรื่องนี้คุ้นๆแฮะ...จัสตินกับเอมีน...โอ๊ะโอ... :o8:

แต่อ่านอีกครั้งก็ยังสนุกอยู่เหมือนเดิม...อิอิ...จะรอตอนต่อไปน๊า... :oni1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 02-04-2008 22:19:44
เง้อ นั่นสิ อีกแค่ 2 ตอนแล้วแต่จะตอนมันกระจิํดเดียวเอง ยังไม่มีท่าทีอาการอะไรกันเลยนะนี่ย
ฟิลิป์เพิงจะมีบทบาทมาทำให้น่าหนุก ไหงจะไปแล้ว เงอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 03-04-2008 11:13:56
จัสตินมองคนที่เพิ่งจะหลับไปเพราะฤทธิ์ยา ใบหน้าที่ฟกช้ำนั่นมันทำให้เขารู้สึกสงสารเสียจนอดที่จะเอื้อมมือไปแตะเบาๆไม่ได้ เขาไม่เคยรู้สึกหวั่นไหวหรือห่วงใยใครขนาดนี้ ถ้านี่มันหมายถึงความรักเขาก็อยากจะทำความรู้จักให้มันมากกว่าครั้งที่ผ่านมา แต่เอมีนนี่สิจะว่ายังไงนะ??

“ทำอะไรน่ะจัสติน”

เสียงแว้ดที่ดังอยู่ประตูทางเข้าทำเอาเด็กหนุ่มชักมือกลับแทบไม่ทัน อิ๋งอิ๋งคงจะจัดการกับนักข่าวเสร็จไปแล้วสิถึงได้ตามเขามาที่ห้องพักฟื้นของเอมีน  คนแว้ดเมื่อครู่เดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างๆจัสติน ใช้สายตามองร่างของเอมีนที่นอนหายใจสม่ำเสมออยู่บนเตียง สภาพร่างกายที่เห็นก็น่าที่จะทำให้พยาบาลที่นี่แตกตื่นจนโทรไปแจ้งนักข่าว หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะปรายสายตากลับไปมองเด็กของตัวเอง

“บอกพี่ซิว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วคนนี้ใคร?”

“ผมก็ยังไม่รู้อะไรชัดเจนหรอกพี่อิ๋งคงต้องรอให้เอมีนตื่นขึ้นมาก่อน นี่ก็เพิ่งจะนอนหลับเพราะฤทธิ์ยา”

“หมายความว่าเธอไม่ได้รู้เห็นกับเรื่องพวกนี้”

“ก็ไม่เชิงหรอก ถ้าผมไม่ไปเห็นผมก็คงจะช่วยเอมีนไว้ไม่ได้ เขาโดนบุกห้องและโดนข่มขู่ทำร้ายร่างกาย”

“เธอรู้จักเด็กคนนี้เหรอ”

“เขาเป็นเพื่อนผม คนที่กำลังจะทำเทปกับค่ายคุณเมทีไง จำได้ว่าผมเคยบอกพี่อิ๋งไปแล้ว”  อิ๋งอิ๋งตวัดสายตากลับมามองคนที่หลับอยู่บนเตียงทันทีเด็กนี่กำลังจะเป็นนักร้องงั้นเหรอ??

“เธอไปรู้จักเขาตอนไหน” หญิงสาวหันกลับไปถามเด็กตัวเอง

“ถ้าจะนับกันจริงๆก็ตั้งแต่ที่ผมเริ่มออกเทป แต่มันเป็นการรู้จักกันแบบไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอก”  จัสตินนึกย้อนกลับไปวันแรกที่เดินชนกับเอมีนบนสถานี BTS คนอะไรกระชากแว่นคนอื่นได้อย่างไม่เกรงกลัว 

อิ๋งอิ๋งมองหน้าจัสตินอย่างพินิจ นายนี่กำลังคิดถึงอะไรแววตาถึงได้ประกายออกมาอย่างกะมีความสุขอยู่ข้างใน หวังว่าคงจะไม่ใช่เรื่องนายเอมีนนี่หรอกนะ …สาธุ..

“แล้วนี่จะอยู่เฝ้าเขาทั้งคืนเลยเหรอ”  ประโยคที่เอ่ยถามมันซ่อนไว้ซึ่งความหมายบางอย่างที่อิ๋งอิ๋งไม่อยากถามจัสตินตรงๆ แต่คำตอบที่ได้กลับทำเอาหญิงสาวใจหายวาบ

“ผมคงต้องเฝ้าเอมีนเขาทั้งคืน”

“เธอว่าไงนะจัสติน”

“ก็ผมจะอยู่เฝ้าเอมีนไง เขาไม่มีใคร”  จัสตินเอ่ย เสียงเบาเมื่อโดนย้ำถาม

คนถามหายใจได้คล่องขึ้น จัสตินนึกอยากที่จะอยู่เฝ้านายนี่เพราะเห็นว่าไม่มีใคร ยัยอิ๋งเอ้ยหลงคิดไปไกลนึกว่านิยายรักบทใหม่ของเด็กในความดูแลจะเริ่มซะอีก

“ถ้างั้นพี่ขอตัวนะ มีอะไรยังไงก็โทรหาพี่ได้ตลอด เธอเองก็นอนได้แล้วซักสองสามชั่วโมงก็ยังดีช่วงนี้งานยิ่งเยอะอยู่”  อิ๋งอิ๋งบอกอย่างห่วงใย แต่มันกลับทำให้คนฟังฉุกคิดบางอย่างได้

“พอดีเลยที่พี่อิ๋งพูดเรื่องนี้ขึ้นมา”

“ทำไมเหรอ?”

“พรุ่งนี้ผมขอยกเลิกงานทั้งหมดนะ ฝากพี่อิ๋งจัดการให้ด้วย”

“ห๊าา..นี่มันไม่ตลกแล้วนะจัสตินที่จะมาบอกเลิกงานกระทันหันแบบนี้ เธอมีงานถ่ายปกลงนิตยสารนะ”

“ก็ยกเลิกไปซักวันนึงก่อนก็ได้นี่ ใช่ว่าเขาจะถ่ายวันนี้แล้วหนังสือจะออกพรุ่งนี้ซะหน่อย” 

โอย…เจ๊อยากตาย อิ๋งอิ๋งยกมือกุมขมับเห็นอาการงอแงแบบนี้ของจัสตินมันพลอยทำให้นึกย้อนกลับไปถึงตอนที่จัสตินคบกับบาสอยู่เสียจริง สิ่งที่เธอคิดมันคงไม่ผิดแล้วแน่ๆ

“ขอเหตุผลที่ฟังแล้วทำให้พี่ยอมพลีชีวิตให้ทีมนิตยสารแหกอกหน่อย จัสติน”

เงียบ……จัสตินไม่สามารถหาคำตอบให้ผู้จัดการสาวได้ แต่เขาจะไปฉีกยิ้มตีสีหน้าท้ากล้องได้ยังไง ในเมื่อเขารับปากกับเอมีนไว้แล้วว่าจะไปเป็นเพื่อนที่โรงพักเพื่อจัดการกับไอ้พวกวายร้ายนั่น

“ไงล่ะบอกพี่มาซักข้อสิ”

“ผมจะไปโรงพักกับเอมีน”  จัสตินจำต้องบอกออกไปเมื่อโดนคาดคั้นและมันก็ทำให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันที

“อย่ามาทำนิสัยแบบเดิมอีกจัสติน จำไม่ได้หรือไงว่าผลของความรั้นของเธอเมื่อคราวนั้นมันเป็นยังไง”

“มันไม่เหมือนกัน นั่นมันบาสแต่นี่เอมีน”

“ต่างกันตรงไหน อย่าบอกนะว่านายเอมีนนี่แมนเต็มร้อย” 

ที่อิ๋งอิ๋งกล้าพูดอย่างนั้นเพราะสังเกตเห็นผิวพรรณหน้าตาเอมีนมันสว่างใสเกินกว่าผู้ชายทั่วไปที่ควรจะเป็น แม้ตอนนี้มันจะมีรอยฟกช้ำแต้มมาบ้างแต่มันก็ต่างจากชายแท้ทั่วไปอยู่ดี อีกอย่างจัสตินคงจะไม่ไปชอบใครที่เป็นผู้ชายไปมากกว่าเขาหรอกและคนๆนั้นก็คงจะไม่มีตัวตน เพราะคนอย่างจัสตินไม่ได้มีเค้าถึงความเป็นเกย์เลยแม้แต่นิด

“เอาเหอะผมไม่อยากเถียงกับพี่อิ๋งหรอกเพราะรู้ว่ายังไงก็แพ้ ผมขอแค่พรุ่งนี้วันเดียวพี่อิ๋งคงทำให้ได้นะ”  จั

สตินมองคนตรงหน้าอย่างอ้อนวอนจนอิ๋งอิ๋งแทบจะใจอ่อน แต่เหตุผลที่คนอ้อนบอกเมื่อครู่นี่สิ ยกเลิกงานไปโรงพัก!! ปล่อยให้ไปก็เตรียมลาออกจากงานได้เลยยัยอิ๋งก่อนที่จะถูกไล่ให้ออก

“เหตุผลเธอฟังไม่ขึ้น ไม่ว่าจะยังไงพรุ่งนี้เธอห้ามไปไหนเด็ดขาด นายนี่เขามีค่ายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ปล่อยให้ทางโน้นเขามาจัดการเด็กเขาเอาเองสิ ส่วนเธอหมดหน้าที่แค่คืนนี้ อย่าทำตัวให้มีปัญหาอีก คนตามแก้มันปวดหัวหรือกลัวว่าพี่ไม่ได้แก่ตาย” 

เจอไม้นี้เข้าไปจัสตินก็หมดทางดิ้น ความรักครั้งใหม่ที่เขาคิดจะทำความรู้จักมันจะออกมาในรูปแบบไหนกันนะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 03-04-2008 12:37:02
มาอ่านก่อนไปกินข้าว ขอบคุณคร้าบ

 o7 จะจบแล้วซินะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 03-04-2008 13:21:49
ตื่นมาไม่เจอจัสติน เอมีน จะงอนอีกใหมเนี่ย เดาว่า ฟิลิป ต้องเข้ามาเกี่ยวทำให้เรื่องยุ่งเหยิงอีกแน่
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: SweetSerenade ที่ 03-04-2008 13:56:35
ใกล้จะจบแล้วสิ

ติดตาม ติดตาม :oni1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 03-04-2008 14:06:20
อ๊าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อาการแบบนี้ จัสตินรักเอมีนไปเต็มๆแล้วแน่ๆ

แต่อีกสองตอนเอง จะคลี่ปมไงเนี่ย เดายากจัง
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 03-04-2008 19:34:57
จัสตินหลงรักเอมีนเข้าเต็มเปาแล้วนะเนี่ย เหลือแต่นายเอมีนนี่แหละ หุหุ จะรู้สึกอย่างไรกับจัสตินนะเนี่ย  :oni3:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 04-04-2008 12:06:23
เอมีนลืมตาขึ้นมาอีกทีในเช้าวันใหม่ เด็กหนุ่มยันกายลุกขึ้นอย่างยากลำบากเพราะรอยฟกช้ำตามร่างกายเริ่มที่จะเจ็บปวดขึ้นมา สายตาพร่ามัวของเจ้าตัวมองไปรอบๆห้องก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ร่างของคนๆนึงที่นอนอยู่บนโซฟา   เสียงคลิ๊กที่บานประตูบอกให้รู้ว่ามีคนเข้ามาในห้อง เอมีนหันไปมอง ไม่ใช่หมอหรือพยาบาล เป็นใครก็ไม่รู้ที่เขาไม่รู้จัก

“หวัดดีจ๊ะ” อิ๋งอิ๋งเอ่ยทักคนที่อ่อนวัยกว่าและกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนจ้องเธออยู่

“เออ..คุณ?”

“อิ๋งอิ๋งจ๊ะเรียกพี่อิ๋งก็ได้ เป็นผู้จัดการส่วนตัวจัสติน” เอมีนพยักหน้ารับรู้ เมื่อหญิงสาวแนะนำตัวเองก่อนที่เขาจะถาม

“จัสตินยังหลับอยู่คงจะเพลีย”  สายตาคนพูดมองคนนอนหลับอย่างเห็นใจ ชีวิตเพื่อนใหม่คนนี้ของเขาคงจะวุ่นวายขึ้นมาอีกแน่ๆ 

ในขณะที่เอมีนจ้องมองจัสตินอยู่นั้น ผู้หญิงคนเดียวในห้องอย่างอิ๋งอิ๋งก็กำลังจ้องมองเขาอยู่อย่างใช้ความคิด ……สองคนนี้มันต้องรู้สึกอะไรต่อกันเกินเพื่อนแน่ๆ เมื่อคืนสายตาจัสตินที่มองเด็กนี่ไม่ได้ต่างไปจากตอนนี้ที่เด็กนี่มองเขาเลยซักนิด……..

“มารับเขาเหรอ”  เอมีนหันกลับมาถามอิ๋งอิ๋ง แปลกใจนิดหน่อยที่เห็นหญิงสาวสะดุ้ง แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจคงกำลังคิดอะไรเพลินๆมั้ง

“จ๊ะ…ไม่มารับคงไม่ได้ นักข่าวนี่มารอกันเต็มข้างนอกเลยตอนนี้ อีกอย่างวันนี้เขามีงานสำคัญ”  อิ๋งอิ๋งไม่ได้ตั้งใจที่จะย้ำประโยคสุดท้ายใส่คนถามแต่จำเป็นต้องทำ เธอจะให้จัสตินกลับไป ณ จุดเดิมอีกไม่ได้ อย่างน้อยตอนนี้ใครที่จะเข้ามาข้องแวะกับเด็กของเธอก็ต้องก็ต้องผ่านการสกรีนก่อนล่ะ หญิงสาวเห็นเอมีนก้มหน้านิ่งก็รู้สึกผิด แต่แล้วก็ต้องรีบปัดความรู้สึกนั่นออกไปเพราะคนที่กำลังเอ่ยถึงเริ่มพลิกกายและลืมตาขึ้นมาในที่สุด

“พี่อิ๋ง” จัสตินเอ่ยชื่อผู้จัดการเขาเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นหันไปมองเอมีนที่เงยหน้าขึ้นมองสบตาเขาเข้าพอดี

….วุ้ย..เล่นจ้องกันแบบนี้ฉันคิดไม่ผิดแล้วแน่ๆ…..  อิ๋งอิ๋งนึกค้อนในใจเมื่อเห็นสายตาสองหนุ่มที่มองกัน  มันคงจะสื่อเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากสองคนนี้มีใจให้กันชัวร์ๆ  เนิ่นนานที่ทั้งห้องเงียบกริบ อิ๋งอิ๋งพูดอะไรไม่ออกได้แต่ยืนจ้องคนส่งสายตาจีบกันอย่างอิจฉาเล็กๆ ทำไมผู้ชายหน้าตาดีมันจะต้องปิ้งกันเองด้วยไม่เข้าใจ
 
“เป็นไงคนเจ็บ” เสียงทุ้มนุ่มหูดังเข้ามาในห้อง ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินเข้ามาสมทบแยกสายตาสองหนุ่มให้ออกจากกัน

“คุณหมอสวัสดีค่ะ”  อิ๋งอิ๋งยกมือไหว้คนมาใหม่ ก่อนจะหันไปเปรยยิ้มให้พยาบาลที่ตามมาเป็นผู้ช่วย

“ผลการตรวจร่างกายก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนะ ทุกอย่างปกติดีแต่ถ้าจะเอาผลไปดำเนินคดีกับคนร้ายนี่คงต้องรอซักวันสองวันนะ เดี๋ยวทางเราจะส่งไปให้”  อิ๋งอิ๋งใจหาย คดงคดีอะไรนี่มันเหตุร้ายแรงขนาดนั้นเชียวเหรอ ไม่เด็กของเธอต้องไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้

“เธอจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ใช่มั๊ยจัสติน”  ทุกคนในห้องหันไปมองต้นเสียงแทบจะพร้อมกัน ก็อิ๋งอิ๋งเล่นเอ่ยทะลุกลางปล้องขึ้นมาเสียจนพยาบาลสะดุ้ง

“ไม่ต้องห่วงจัสตินไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน”  เป็นคนเจ็บที่นั่งอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้นมาก่อนใคร

จัสตินถอนหายใจ  เอมีนคงไม่ได้ประชด เด็กหนุ่มอดที่จะเอ่ยกับผู้จัดการตัวเองไม่ได้

“ผมเห็นเหตุการณ์นะพี่อิ๋ง ไม่เกี่ยวก็คงจะไม่ได้”

“ไม่จำเป็นก็อย่าพูดมาก จัสติน”  อิ๋งอิ๋งดุขึ้นมาพลางปรายสายตาไปมองคนในห้องที่ไม่ใช่เอมีน ไว้ใจไม่ได้หรอกคนพวกนี้พร้อมที่จะเอาคำพูดของเด็กเธอไปบอกนักข่าวได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะพยาบาลสาวที่ดูสนอกสนใจจนน่าเกลียด

“ผมขอออกจากห้องนี้ตอนนี้เลยได้มั๊ยหมอ” เอมีนตัดบทขึ้นมา เมื่อเห็นจัสตินทำท่าจะต่อปากต่อคำอิ๋งอิ๋งอีก

“ได้ไม่มีปัญหา……ผมขอคุยกับคนเจ็บหน่อยนะ” ประโยคท้ายอิ๋งอิ๋งกับจัสตินเข้าใจได้โดยไม่ต้องให้หมอเอ่ยซ้ำ ทั้งคู่จึงเดินออกไปจากห้อง แต่ก่อนไปก็ไม่วายที่จัสตินจะหันมายิ้มนิดๆให้เอมีน มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้พยาบาลสาวกับอิ๋งอิ๋งพร้อมใจกันตาร้อนขึ้นมาอย่างอิจฉาหน่อยๆ ผิดกับกับหมอหนุ่มที่แอบขันกับอาการผู้ช่วยตนเอง ไม่รู้ว่าหล่อนจะเสียดายคนเจ็บหรือนักร้องดัง

“ไม่ได้นะพี่อิ๋ง ผมจะทิ้งเอมีนไว้ไม่ได้นะ นี่พี่บ้าไปแล้วนะเนี่ย” จัสตินโวยลั่นเมื่อโดนผู้จัดการของตัวเองลากตัวออกไปทางด้านหลังโรงพยาบาลโดยไม่สนใจคนที่เห็นเหตุการณ์ คนพวกนี้อย่างมากก็แค่มองแต่กองทัพนักข่าวทางด้านหน้านี่สิมันน่ากลัวซะยิ่งกว่าอะไร อิ๋งอิ๋งจึงทั้งลากทั้งตะคอกเด็กตัวเอง

“เธอต่างหากที่บ้าไม่รู้หรือไงว่าอะไรที่กำลังรอเธออยู่ ด้านนอกกองทัพนักข่าวชัดๆ”

“แล้วไงผมไม่ได้ทำอะไรเสียหายซักหน่อย ทำไมต้องหนีด้วย”

“แล้วทำไมเมื่อคืนไม่พูดอย่างนี้ห๊ะ โทรไปปลุกพี่ทำไมไม่ทราบ ตอนนี้พอจะห่างเด็กนั่นเข้าหน่อยทำเป็นเก่งไม่กลัวใคร”

“ไม่เกี่ยวเลยซักนิดพี่อย่าจับผิดผมดีกว่า”

“จ้าพ่อคู้นไม่เกี่ยวเลย คิดว่าฉันอ่อนหัดหรือไงถึงจะดูอะไรไม่ออก”

“จะดูออกไม่ออกผมไม่สนล่ะ ผมสนแต่ว่าผมพาเอมีนเข้ามาแล้วจะทิ้งให้เขาออกไปคนเดียวงั้นเหรอ ใจดำไปหน่อยมั้งพี่อิ๋ง”

“ผิดตรงไหน ก็เธอมีงานด่วนเธอไม่ใช่ชาวบ้านชาวดอยนะ รู้ตัวซะบ้างว่าตัวเองเป็นใคร แล้วที่หาว่าพี่ใจร้ายจะบอกให้นะว่าพี่โทรไปที่บริษัทเด็กนั่นแล้ว เดี๋ยวเขาก็คงจะส่งใครมาดูแลเองแหละเธอน่ะหมดหน้าที่แล้ว เข้าใจ๊!!!”

“อะไรนะพี่โทรไปแล้ว” จัสตินหยุดชงักทำให้คนลากพลอยหยุดไปด้วย

“ทำไมเธอตกใจทำไม”อิ๋งอิ๋งถามทันทีดูสินั่นคนหันมามองกันตาแทบถลน

“ก็เอมีนบอกไม่ให้บอกใคร ไม่งั้นป่านนี้ผมก็โทรไปแล้ว ไม่ต้องถึงมือพี่อิ๋งหรอกให้ตายเหอะ พี่นี่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง”

“อ๊าว…นี่ฉันเป็นผู้จัดการเธอนะถ้าฉันไม่ยุ่งเรื่องของเธอ จะให้ฉันไปยุ่งเรื่องของแมวที่ไหน” 

จัสตินยกมือไหว้คนสูงวัยกว่าอย่างสำนึกผิด นี่เขาห่วงเอมีนถึงเพียงนี้เหรอเนี่ยถึงได้หลุดปากพูดในสิ่งที่ไม่สมควร

“ผมขอโทษ”

“เออ…ไม่ว่ากันเธอน่ะมันรั้นเสียจนฉันขี้เกียจถือสา”  แม้จะบอกไม่ถือสาแต่คนพูดก็กลับเชิดหน้าเล็กน้อย แน่นอนล่ะว่าอาการเหมือนน้อยใจแบบนี้ อิ่งอิ๋งงัดมันออกมาใช้เพื่อจะสยบอาการรั้นของจัสตินนั่นเอง และก็ดูว่ามันจะได้ผลซะด้วย

“โอเคๆพี่จะพาผมไปไหนก็เอา ถ้าทางโน้นเขาส่งคนมาดูแลเอมีนจริงผมก็คงจะหายห่วง”

“วุ้ย….หมั่นไส้แต่งงานกันเมื่อไหร่บอกฉันด้วยนะยะ” อิ๋งอิ๋งสะบัดค้อนให้วงใหญ่ ท่าทางเด็กเธอจะจริงจังกับเอมีนมากกว่านายบาสนั่นซะอีก


“เอมีน…เป็นไงบ้าง” พีรพลรีบปรี่เข้าไปถามไถ่อาการเอมีนทันทีที่เจอตัว เล่นเอาเอมีนแปลกใจ ใครไปแจ้งข่าวให้คนในบริษัททราบ ป่านนี้เรื่องของเขาไม่กระจายไปทั้งตึกแล้วเหรอ?

แล้วสิ่งที่เดาไว้ผิดไปซะเมื่อไหร่ ตอนนี้ทุกฝ่ายในตึกต่างก็รับรู้ข่าวที่เอมีนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกันถ้วนหน้า  แต่สาเหตุนั่นคนส่งข่าวไม่ได้แจ้งมาอย่างแน่ชัด  จึงเป็นเรื่องวิจารณ์กันไปต่างๆนาๆจนพีอาร์ของค่ายต้องโทรไปสอบถามกับทางโรงพยาบาลเอง แล้วได้คำตอบที่ทำเอาหลายคนตกใจ โดยเฉพาะพีรพล

หนุ่มใหญ่ไม่สนว่างานจะสุมหัวอยู่แค่ไหน แค่ได้ยินว่าเอมีนอยู่โรงพยาบาลไหนเขาก็รีบบึ่งรถไปแทบจะทันทีปล่อยให้คนที่ตึกฮือฮาพูดจากันอย่างออกรสออกชาติ ก็ทางโรงพยาบาลแจ้งมาด้วยน่ะสิว่าใครเป็นคนพาเอมีนเข้ารักษาตัว

……..ซุปเปอร์สตาร์จัสตินพาหนุ่มนิรนามเข้าโรงพยาบาลกลางดึก……….

หัวข้อข่าวที่พาดอยู่บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์รายวันฉบับดัง มันก็ช่างเหมาะเจาะกับข้อมูลที่คนในตึกได้รับเสียจริง

 “ฝีมือคุณใช่มั๊ยบาส” ธีระตะคอกถามไปยังคนที่อยู่ปลายสาย เอมีนจะมีศัตรูที่ไหนได้อีกถ้าไม่ใช่เขากับบาส  แต่ในเมื่อเขาไม่ได้อยู่เบื้องหลัง  งานนี้จะเป็นใครไปซะอีกล่ะที่ส่งคนไปเล่นงานเด็กนั่น

“คุณพูดเรื่องอะไรธีระ”  เสียงปลายสายที่ตอบกลับมาไม่น่าเชื่อว่าบาสจะไม่รู้เรื่อง

“คุณส่งคนไปทำร้ายเอมีนใช่มั๊ย” บาสเงียบไปอึดใจนึง สายตามองเห็นเด็กขายหนังสือพิมพ์ที่เดินเร่อยู่ข้างหน้าระหว่างรถติดไฟแดง ชายหนุ่มบีบแตรให้สัญญาณสั้นๆก่อนจะเลื่อนกระจกเมื่อเด็กเร่นั่นเดินหอบหนังสือพิมพ์เข้ามาหา

“ข่าวดังเพ่ข่าวดัง”  บาสไม่สนใจว่าเด็กนั่นจะพ่นประโยคอะไรออกมา ชายหนุ่มรีบคว้าหนังสือพิมพ์มาหนึ่งฉบับพร้อมกับส่งเงินค่าเสียหายให้เด็ก ชายหนุ่มเพียงแค่พลิกหน้าแรกขึ้นมาอ่านก็รีบส่งสัญญาณกลับไปที่ต้นสายทันที

“หนุ่มนิรนามนั่นคือเอมีนเหรอธีระ”

“ก็จะใครซะอีกล่ะ”

“คุณรู้ได้ไง”

“เขารู้กันทั้งตึกแล้วคุณวรการญจ์  โรงพยาบาลเพิ่งแจ้งกับพีอาร์มาเมื่อครู่”

“แล้วมันเป็นอะไรมากมั๊ย”

“หมายถึง??”

“ร่างกายมันยังครบสามสิบสองอยู่หรือเปล่า”

“แสดงว่าคุณเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆหรือบาส”

“ผมไม่จำเป็นต้องตอบใครตอนนี้”

“คำพูดคุณแค่นี้มันก็แทนคำตอบได้แล้วล่ะ”

“นั่นมันสิทธิที่คุณจะคิด”

“ไม่ใช่คุณคนเดียวนะที่มีปัญหากับเด็กเวรนั่น ทำอะไรทำไมไม่คิดถึงคนอื่นมาบ้าง”

“แล้วใครล่ะที่สำคัญพอที่จะให้ผมทบทวนในสิ่งที่จะตัดสินใจ”

“คุณไม่ได้นึกถึงผมเลยใช่มั๊ย”

“เหตุผลที่ผมควรนึกถึง”

“ไอ้เอมีนมันอาจจะมองว่าเป็นผมก็ได้ที่ร่วมมือกับคุณทำกับมันไม่ใช่แค่คุณคนเดียว แล้วผลที่ตามมาคุณคงไม่โง่พอที่จะไม่รู้หรอกนะว่าเด็กเวรนั่นมันจะเล่นเรากลับยังไง”

“พยานหลักฐานอะไรไม่มีซักอย่างกลัวไปทำไมปัญหาแค่นี้ไม่มีปัญญาแก้ไขก็ไปไถนาดีกว่าธีระ”  บาสตัดสายทิ้งทันทีที่พูดจบ 

ความเครียดถาโถมเข้ามาหาตัวอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มรู้ว่าเอมีนถูกจัสตินช่วยพาเข้าโรงพยาบาล แล้วคนที่เขาบอก   คนของเขา จ้างวานไปจัดการเอมีนล่ะอยู่ที่ไหน?????
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 04-04-2008 19:39:46
โอ้ว เข้มข้น ยิ่งใกล้จบยิ่งเข้มข้น

อ่านตอนนี้แล้ว เมื่อไหร่จะบอกรักกันนะ  :o8:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 04-04-2008 21:56:37
งานนี้พวกเลวไม่รอดแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Mp_qM ที่ 05-04-2008 01:55:20
สนุกคับ

ให้ดอกไม้เลยคับ  :L2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 05-04-2008 17:24:27
บาสสร้างศัตรูรอบตัวเลย  :o
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: DekDoy ที่ 07-04-2008 04:02:59
 :angry2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 08-04-2008 10:38:24
วันทำงานแล้วหนา มารอแต่เช้าแล้วหนา
คนโพสท์หายไปไหนวา  :sad2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 08-04-2008 10:47:09
ช่ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

หายไปหลายวันเลยอะ

มาต่อเร็วๆนะค้าบ

รออยู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 08-04-2008 15:21:47
มาล่ะค๊าบ โทษที พอดีวันนี้ประชุมแต่เช้า เลยเพิ่งว่าง
จัดไปยาวๆแทนละกัน
================================
- 18 -

เอมีนขอร้องให้พีรพลพาเขาไปโรงพักทันทีที่เดินออกจากตึกผู้ป่วย เด็กหนุ่มเริ่มที่จะไม่ไว้ใจในความสามารถของตำรวจที่จะกักตัวสองคนร้ายนั้นไว้ได้ ในเมื่อเขาซึ่งเป็นเจ้าทุกข์ยังไม่ได้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ใดๆไว้เลย ลำพังให้คนที่หอพักดำเนินการให้ เขาก็ไม่แน่ใจว่ารูปคดีมันจะออกมารูปแบบไหน   หวังว่าคนพวกนั้นคงไม่แจ้งจับไอ้สองวายร้ายนั้นด้วยข้อหาแค่เข้าไปหวังชิงทรัพย์เขาหรอกนะ

“ไม่เห็นเล่าอะไรให้พี่ฟังเลยนะเอมีน” พีรพลเอ่ยถามขณะที่พาเอมีนไปตามที่เจ้าตัวขอร้อง แต่ตลอดทางเอมีนก็เอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา  เขาเลยจำเป็นต้องเปิดหัวข้อสนทนาขึ้นมาเองและมันก็เป็นหัวข้อที่เขายังไม่รู้รายละเอียดข้างใน

“เอาไว้ให้อะไรมันชัดเจนกว่านี้ก่อนพี่พล แล้วพี่พลก็คงจะรู้เอง” คนถูกถามตอบกลับมาคล้ายๆว่ารอความจริงอะไรซักอย่าง พีรพลเลยต้องเปลี่ยนเรื่องคุย

“แล้วกับจัสตินนี่เราไปสนิทกับเขาตอนไหน” เอมีนเกิดใจหวิวขึ้นมาอย่างประหลาดเมื่อได้ยินชื่อของคนที่หายไปแบบไม่บอกกล่าวกับเขาซักคำ นึกแล้วก็อดที่จะน้อยใจขึ้นมาไม่ได้ เขาคงจะมีสิทธ์ใกล้ชิดกับจัสตินได้แค่ยามค่ำคืนเท่านั้นละมั้ง

ในขณะที่สองหนุ่มต่างวัยกำลังเดินทางไปที่โรงพัก บาสก็รีบเปลี่ยนเส้นทางจากที่คิดจะเข้าไปเคลียร์งานของฟิลิปที่ตึก ชายหนุ่มตัดสินใจบึ่งรถไปหาคนของเขาทันทีซึ่งป่านนี้ก็คงกำลังเครียดไม่ต่างจากเขา ถ้าคนที่เล่นงานเอมีนสาวชี้มาถึงคนว่าจ้างทุกอย่างก็คงจะจบกันพอดี  ให้มันได้อย่างนี้สิ….ภาคิน…นายไปหลับหูหลับตาจ้างพวกกระจอกที่ไหนทำงานให้ถึงไม่ได้เรื่องแบบนี้ แทนที่ไอ้เอมีนมันจะเป็นคนพูดอะไรไม่ได้กลายเป็นว่ามันเป็นคนที่น่ากลัวที่สุดตอนนี้

ฟิลิป..รอบาสอยู่ที่บริษัทจนสาย เจ้าตัวเริ่มรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องมานั่งรออย่างไม่มีจุดหมายแบบนี้ บาสติดต่อไม่ได้ เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าจะต้องรอไปถึงตอนไหน จึงคิดที่จะออกไปข้างนอกเพราะไหนๆวันนี้ก็ว่าง  และถ้าผู้จัดการเขาเข้ามาที่บริษัทก็คงจะโทรตามเขาเอง…..แต่เขาจะไปไหนล่ะ ?

ที่โรงพัก  เอมีนบอกกับตำรวจให้เค้นเอาความจริงจากปากสองคนที่ทำร้ายเขาให้ได้ ว่าใครเป็นคนส่งพวกมันมา พีรพลยืนฟังอยู่ก็ตกใจเอมีนคิดว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ยังไม่ทันถามอะไรเสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กในกระเป๋าดังขึ้นมาทำลายความสงสัยเสียก่อน

“ว่าไง ฟิลิป”  เอมีนหันไปมองพีรพลทันทีที่ได้ยินชายหนุ่มเอ่ยทักคนที่โทรเข้ามา

“พี่พลอย่าบอกอะไรเขานะ”  เด็กหนุ่มรีบเอ่ยออกมาทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าฟิลิปโทรเข้ามาด้วยจุดประสงค์ใด แต่ตอนนี้เขาไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น

พีรพลส่งสายตาเป็นเชิงบอกให้เอมีนเงียบเสียงลงเพราะไม่เข้าใจว่าเอมีนกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ก่อนที่จะเดินเลี่ยงไปคุยที่อื่น ปล่อยให้เอมีนมองตามหลังอย่างแปลกใจ  ฟิลิปไม่น่าจะคุ้นเคยกับพีรพลจนต้องโทรหากันแบบนี้ ถ้าพีรพลเป็นธีระเขาจะไม่แปลกใจเลยซักนิด

ส่วนทางด้านจัสตินเด็กหนุ่มไม่รู้จะติดต่อกับเอมีนทางไหน เพราะเขาจำได้ว่าตอนที่พาเอมีนเข้าโรงพยาบาลเอมีนไม่ได้มีอะไรติดตัวมาเลย

“ซีเรียสอะไรนักหนาจัสติน เอมีนเขาคงไม่มีเวลาที่จะมาคิดเรื่องของเธอหรอก แค่เรื่องของเขาพี่ว่าเขาก็น่าจะปวดหัวพออยู่แล้ว”  อิ๋งอิ๋งเข้ามาปลอบใจเมื่อเห็นเด็กของตัวเองนั่งซึมระหว่างพักจากการถ่ายแบบ

“ผมก็ไม่น่าบ้าจี้ตามพี่อิ๋งออกมาเลยโดยไม่ได้บอกเขาซักคำ ป่านนี้คิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้”

จัสตินพูดเหมือนจะตัดพ้อ อิ่งอิ๋งจึงเริ่มรู้สึกผิด แต่แม้จะเอ่ยขอโทษยังไงก็ดูเหมือนจัสตินจะไม่ยินดียินร้ายที่จะยิ้มหรือแสดงอาการใดๆออกมา นอกเสียจากนั่งถอนหายใจ

ฟิลิป พอรู้ว่าเอมีนอยู่ที่โรงพักไหนจากการพูดคุยกับพีรพลเมื่อครู่ ก็คิดที่จะตามไปทันที แม้จะรู้สึกหวิวๆกับข่าวเมื่อเช้า จัสตินพาเอมีนเข้าโรงพยาบาล สองคนนี้คงต้องสนิทกันมาก

“จะไปไหน ฟิลิป”  เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้คนที่กำลังเดินแกมวิ่งต้องหยุดชะงักทันที ก่อนจะหันกลับไปทางต้นเสียง

“ไปข้างนอก” ธีระหรี่ตามองคนที่ตอบคำถามเขา สังเกตเห็นได้ถึงอาการหลบตาของเจ้าตัว

“ไปข้างนอกไปไหน”  ฟิลิปถอนหายใจทำไมธีระจะต้องอยากรู้ทุกเรื่องของเขาด้วย

“ก็วันนี้ว่างว่าจะไปเดินเล่นหน่อย”

“ทำไมถึงว่าง”

“ไปถามผู้จัดการผมสิ ว่าทำไมถึงปล่อยให้ผมว่างได้”  ฟิลิปตอบโดยที่ไม่ได้คิดอะไรแต่คนฟังกลับใจเต้นขึ้นมา บาสคงกำลังวิ่งเต้นหาทางที่จะไม่ให้ตัวเองโดนร่างแหจากสิ่งที่ทำแน่ๆ

“พี่ธีมีอะไรจะคุยกับผมมั๊ย ผมต้องรีบไป”  ฟิลิปหาทางเลี่ยงเพราะเริ่มรู้สึกแปลกๆกับแววตาที่ธีระจ้องมอง

“ทำไมต้องรีบขนาดนั้น แค่ไปเดินเล่นไม่ใช่เหรอ”  ธีระถามเสียงเครียดยิ่งทำให้ฟิลิปเกิดความอึดอัดขึ้นมา ธีระเป็นอะไรไปแล้ว

“ถ้าพี่ธีไม่มีธุระที่จะคุยผมคงต้องขอตัวนะ”  เด็กหนุ่มตัดสินใจเอ่ยลาคนตรงหน้าก่อนจะรีบเดินหนี ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมธีระต้องทำท่าทางเหมือนจ้องจะจับผิดเขาขนาดนั้น เขามีสิทธิ์ที่จะออกไปข้างนอกได้ ไม่ใช่พนักงานรูดบัตรที่จะต้องนั่งรอที่จะไปไหนมาไหนตรงตามเวลาที่บริษัทกำหนด

ธีระมองตามร่างเด็กที่นับวันเขายิ่งหลงรักมากขึ้น เขาเคยยอมทำอะไรที่ร้ายๆเพื่อที่จะนำความสำเร็จมาให้คนๆนี้ แม้เจ้าตัวจะไม่รับรู้ เขาก็พอใจที่จะทำ….แต่

……..ฝากบอกเอมีนด้วยนะเดี๋ยวผมไปหา………..

ชายหนุ่มนึกทวนประโยคที่เขาได้ยินจากปากของฟิลิปเมื่อซักครู่ ก่อนที่เขาจะแกล้งเดินเข้ามาถาม  ถึงแม้ฟิลิปจะไม่รับรู้ในสิ่งที่เขาทำให้ เขาก็ไม่เคยแค้นใจเท่ากับที่ฟิลิปจะไปรู้สึกดีๆกับ….เอมีน!!!!


เมที โยนหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะทำงาน หนุ่มใหญ่ถอนหายใจ ทำไมเรื่องราวต่างๆมากมายมันต้องประเดประดังเข้ามาในช่วงนี้ด้วย ไม่ว่าจะเรื่องที่จัสตินกลับขึ้นมาแจ้งเกิดได้อีกรอบ จนกระแสตอบรับโครงการ DREAM ของฟิลิปแผ่วลงไปอย่างน่าใจหาย และมันก็น่าที่จะส่งผลไปถึงคอนเสิร์ตใหญ่ที่กำลังจะจัด เขากลัวว่ากระแสตอบรับจะไม่แรงเท่าที่ควร แล้วยังจะเรื่องคนในองค์กรที่ดูจะไม่ลงรอยกัน

ทุกวันนี้เมทีก็ยังไม่แน่ใจว่าพีรพลกับธีระจะยังมองหน้าหรือพูดจากันอยู่หรือเปล่า ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะคิดว่าตัวเองเป็นคนสร้างรอยร้าวให้สองคนนั่น นี่ยังไม่รวมกับพาดหัวข่าวที่เพิ่งจะอ่านผ่านตาไปเมื่อซักครู่นี่อีก ยิ่งคิดหนุ่มใหญ่ก็ยิ่งเครียด.. หนุ่มใหญ่เดินไปผ่อนลมหายใจคลายเครียดอยู่ริมกระจกใสภายในห้อง สายตาเหม่อมองทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครในตอนสายๆ หนุ่มใหญ่จะรู้บ้างหรือเปล่านะว่าการจราจรที่แข่งกับเวลาข้างล่างนั่น มันกำลังจะสร้างความวุ่นวายให้เขา เกินกว่าที่เขาจะคาดถึง
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 08-04-2008 15:54:06
ฟิลิปจะเจออุบัติเหตุเหรออออออออออออออออออออออออออออออออออออ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 08-04-2008 16:29:17
หุหุ

มาต่อแล้ว

แล้วจะจบลงยังไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 08-04-2008 16:48:23
เอมีนเนื้อหอม หนุ่มๆเริ่มทำคะแนนกันแล้ว

 :o จราจรเป็นจราจลเร๊อะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 08-04-2008 20:53:44
ยังหาทางจบไม่เจอเลย   o7 :laugh:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 09-04-2008 09:41:07
มาปูเสื่อรอแล้วล่ะครับ ใกล้จบเต็มที เข้มข้นมาก  :oni2: :oni3:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 09-04-2008 11:52:49
จบตอนที่ 18 :oni1:
ติดตามกันต่อไปนะครับ ตอนหน้าจะจบล่ะ
==========================

บาส เดินทางไปหาภาคินช้ากว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชายหนุ่มถึงกับชะงักงันเมื่อเห็นภาพคนของเขากำลังถูกจับกุมตัวเอาไว้ด้วยกุญแจมือ และมีกลุ่มนายตำรวจล้อมหน้าล้อมหลังเอาไว้สร้างความแตกตื่นให้กับคนรอบข้าง

“ไม่ ไม่ต้องไม่เกิดขึ้น”  คนเห็นเหตุการณ์พึมพำ  พยายามควบคุมสติก่อนจะรีบหักรถหลบเมื่อเห็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล่นตรงมาและแน่นอนว่าภาคินต้องอยู่ในนั้น


ที่สถานีตำรวจ
“นี่มันอะไรกันน่ะเอมีนนายภาคินนั่นเป็นใคร” พีรพลตรงเข้าถามเด็กหนุ่มที่นั่งงอยู่ตรงหน้า ภาคิน คือใคร เอมีนเองก็สงสัยไม่น้อยกว่าคนถาม สองวายร้ายนั่นมันซัดทอดว่านายนี่เป็นคนจ้างวานพวกมันมา คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวร้ายๆนี้ไม่ใช่ ธีระ หรือว่าบาสหรอกหรือ

“ผมไม่รู้จักพี่พล สาบานได้ว่าผมไม่เคยไปมีเรื่องกับใครนอกจาก…”

“นอกจากใคร ปิดบังอะไรพี่อยู่เอมีน นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะ เราไปมีเรื่องกับใคร “

“บอกไปแล้วพี่จะเชื่อผมมั๊ย”

“แล้วมีอะไรที่พี่คิดว่าเราโกหกล่ะ ถ้านายภาคินนั่นมีตัวตนอย่างที่ไอ้สองคนนั่นมันสารภาพมาจริงๆ พี่ก็อยากที่จะรู้ว่าเราไปเกี่ยวข้องกับเขายังไง ถึงได้มีเรื่องร้ายแรงถึงขนาดจ้างวานคนมาทำร้ายร่างกายในห้องพัก เล่นกันแรงถึงขนาดให้พิการตลอดชีวิตนี่มันไม่ใช่เรื่องขี้ผงหรอกนะ”

“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่รู้จักนายภาคินนั่น”

“ก็แล้วจะให้พี่เชื่อได้ยังไงล่ะ ในเมื่อสองคนนั่นมันพูดให้ได้ยินเต็มสองหู”  พีรพลเผลอลืมตัวเข้าตะคอกคนของตัวเอง เขาจะเสียใจและรับไม่ได้มากๆถ้าหากว่าเอมีนมีเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ปิดบังเขาอยู่

ในขณะที่เอมีนเองก็อยากจะบอกเหมือนกันว่าใครที่เขาไปมีเรื่องด้วย แต่บอกไปใครเขาจะเชื่อ ธีระ กับบาส เป็นถึงหัวกะทิของค่าย ที่ช่วยกันผลักดันฟิลิปจนโด่งดังขึ้นมา ที่สำคัญสองคนนั่นมีคนคอยหนุนหลังเป็นถึงเจ้าของค่าย ถ้าทุกอย่างมันหลุดออกมาจากปากคนร้ายนี่สิ มันถึงจะมีน้ำหนัก พอที่จะให้คนอื่นคล้อยตาม

“ใจเย็นคุณ นี่มันโรงพักนะ เจ้าหน้าที่แจ้งมาแล้วว่าจับกุมนายภาคินนั่นได้แล้ว คงต้องรบกวนให้เจ้าทุกข์อยู่ชี้ตัวก่อนนะ”  นายตำรวจเอ่ยบอกเมื่อเห็นสองคนตกอยู่ในภาวะตึงเครียด

ใครจะรู้ว่า พีรพล กับเอมีนคิดกันไปคนละทาง เอมีนจะชี้ตัวคนร้ายยังไงในเมื่อเขาไม่เคยรู้จักมักคุ้น หรือมีเรื่องแค้นเคืองกับคนที่ชื่อ ภาคิน ในขณะที่พีรพลเคืองใจว่าเอมีนเหมือนจะมีเรื่องปิดบังเขาแต่ไม่ยอมบอก


แดดเปรี้ยงในช่วงใกล้เที่ยง ทีมงานหนังสือเข้ามาแจ้งกับอิ๋งอิ๋งว่าจะย้ายทีมไปถ่ายกันต่อในสถานที่ใหม่ในช่วงบ่าย ระหว่างนี้ให้จัสตินพักหรือทำอะไรได้ตามสะดวก แล้วบ่ายๆค่อยไปเจอกันในที่นัดหมายตามที่ให้แผนที่ไว้

“อย่างนี้ผมก็ไปหาเอมีนได้น่ะสิพี่อิ๋ง”  จัสตินออกอาการดีใจจนอิ่งอิ๋งมองค้อนเข้าให้ก่อนจะถามอย่างหมั่นไส้

“แล้วรู้เหรอว่าเขาอยู่ที่ไหน”

“จะอยู่ที่ไหนล่ะถ้าไม่ใช่โรงพัก อย่างเอมีนน่ะไม่ยอมที่จะให้เรื่องจบง่ายๆหรอก ลองใครมาทำร้ายเขาแล้วเรื่องมันจะคาราคาซังยังไง ถ้าจับคนร้ายตัวจริงไม่ได้เอมีนก็คงจะไม่ยอมหยุดหรอก”

“ตัวจงตัวจริงอะไร ก็เธอเองไม่ใช่เหรอที่เข้าไปซัดผู้ร้ายจนหมอบ”

“นั่นมันแค่คนร้ายผมเชื่อว่าต้องมีตัวบงการ”

“น้อยๆหน่อยพ่อคุณ จะทำตัวเป็นนักสืบหรือไง เลิกคิดไปได้เลยยังไงพี่ก็ไม่ยอมให้เธอไปที่โรงพักไหนเด็ดขาด”

“ทำไมล่ะพี่อิ๋ง นับวันพี่ก็ยิ่งจุ้นจ้านนะเนี่ย”

“นี่ฉันเป็นห่วงเธอนะ อย่ามาทำเป็นรำคาญ”

“แล้วพี่ไม่คิดบ้างเหรอว่าผมก็ห่วงเอมีน “

“เขาเป็นอะไรกะเธอ”

“แล้วพี่เป็นอะไรกับผม”

“เป็นผู้จัดการเธอไง และเธอก็คือเด็กในความดูแลของพี่”

“เอมีนก็เป็นเพื่อนผมเหมือนกัน และถ้าเขายอมที่จะเป็น คนของผม ผมก็พร้อมที่จะดูแลเขา เพราะงั้นถ้าพี่จะห่วงผมในฐานะคนดูแลผม พี่ก็น่าจะเข้าใจในความห่วงใยที่ผมมีให้เอมีน”  จัสตินไม่ปล่อยให้อิ๋งอิ๋งต่อปากต่อคำอีก เด็กหนุ่มผลุนผลันลุกขึ้นเดินหนีออกไป ปล่อยให้คนที่กำลังจะเถียงต้องอ้าปากค้างไว้อย่างนั้น
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 09-04-2008 12:03:16

“อย่างนี้ผมก็ไปหาเอมีนได้น่ะสิพี่อิ๋ง”  จัสตินออกอาการดีใจจนอิ่งอิ๋งมองค้อนเข้าให้ก่อนจะถามอย่างหมั่นไส้


เหมือนเห็นจัสตินมีหางแบบโกลเด้นฯ แล้วกระดิกอย่างดีใจ  :laugh:

ตอนหน้าจบซะแล้ว ขอรวดเดียวจบเลยได้มั้ยเนี่ย  :impress:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-04-2008 12:55:33
555 ตอนต่อไปต้องสนุกแน่ๆ ใกล้จบแล้วสิน่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 09-04-2008 13:07:46
เออ มันจะจบยังไง  o2
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 09-04-2008 14:52:12
บอกได้คำเดียวว่า

งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2 o2
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Mp_qM ที่ 09-04-2008 16:08:59
มาต่อไวไวนะครับ เนื้อหาเรื่องราวล้วนแล้วแต่เข้มข้นขึ้นทุกที น่าลุ้นคร๊าบผม
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 10-04-2008 20:15:29
แล้วมันจะต่อไปยังไงเนี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ลุ้นเฟ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย

แว้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Mp_qM ที่ 11-04-2008 02:37:36
มาต่อไวไวเลยนะคร๊าบผม คิดถึงเอมีน
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: SweetSerenade ที่ 11-04-2008 07:52:25
เข้ามารอตอนจบ :oni1:

ลุ้น ลุ้น

มันจะจบยังไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 11-04-2008 09:26:24
 :serius2: ตอนจบอ้ะ ตอนจบ  :sad2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 11-04-2008 10:57:46
มาแล้วววว มาแล้วววว
เมื่อวานโพสไปแล้วมันไม่ขึ้น เลยเซ็งอารมณ์อ่ะครับ

เชิญทัศนาตอนจบเลย วันนี้โพสให้จบรับสงกรานต์
===================================
- 19 -

การจราจรที่วุ่นวายภายในท้องถนน คนที่ใช้เส้นทางต่างก็เร่งรีบแข่งกับเวลาไปทำหน้าที่ของตน ไม่ต่างจากคนกลุ่มนี้ที่มีจุดมุ่งหมายไปในที่เดียวกันแต่จุดประสงค์ ต่างกัน !!!!

ฟิลิป รอเวลาที่จะไปถึงเอมีน ถ้าเขาไม่แสดงออกถึงความห่วงใยที่มีต่อคนที่เขาเคยไม่ถูกชะตาด้วย คราวนี้เขาก็ไม่รู้จะมีโอกาสแสดงความรู้สึกนั้นเมื่อไหร่

จัสติน รอเวลาที่จะไปบอกความในใจเอมีนว่าเขาต้องการที่จะเป็นผู้ดูแลและเติมช่องว่างให้คนที่คิดว่าตัวเองโดดเดี่ยวไม่มีใครมาโดยตลอดอย่างเอมีนให้รู้สึกว่ามีเขาอีกคนที่ยังห่วงใย

ธีระ ต้องการไปให้เห็นกับตาว่า ฟิลิปมีความรู้สึกดีๆกับเอมีนอย่างที่เขาสงสัยมาโดยตลอดหรือไม่ ถึงเวลานั้นถ้ามันจำเป็นเอมีนคงจะได้เห็นว่า ความรักมันทำให้คนตาบอดยังไง

วรกาญจ์หรือบาส ตามดูสถานการณ์ที่ภาคินโดยจับกุมครั้งนี้อย่างหัวใจร้อนรน ไม่มีใครรู้จักภาคิน ถ้าเขาฉลาดเรื่องราวมันคงจะจบลงอย่างสวยงาม

ท้องฟ้าวันนี้มันดูแปลกๆ เมที ลุกขึ้นเหม่อมองทิวทัศน์ข้างนอกอีกครั้ง เมื่อสังเกตเห็นว่าแดดที่เปรี้ยงกลับกลายเป็นครึ้มฟ้าครึ้มฝนขึ้นมา


เสียงจอแจและบรรยากาศวุ่นวายเล็กน้อยเกิดขึ้นอยู่ทางด้านนอก เอมีนนึกใจชื้นขึ้นมาถ้าลองผู้คนได้ฮืออาแบบนี้คงเป็นใครไปไม่ได้ที่มานอกเสียจาก……

“ฟิลิปมาแน่ะ”  พีระพลเอ่ยบอกเสียงดังพอควรแต่คนฟังอย่างเอมีนรับรู้ได้เหมือนเสียงกระซิบ เขาไม่ได้รอคนๆนี้ แล้วคนที่หัวใจรอคอยล่ะอยู่ที่ไหน?

“เออ ให้มันได้อย่างงี้สิวะ” จัสตินบ่นอย่างหัวเสีย ไม่เข้าใจว่าทำไมรถในกรุงเทพถึงได้ติดขึ้นทุกวันๆ เขาต้องทำเวลาเพราะมีงานรออยู่การปลีกตัวมาหาเอมีนแบบนี้ เขาอยากที่จะใช้เวลาให้มันคุ้มค่า แม้จะไม่ได้คุยอะไรกันมากมายแต่อย่างน้อยเขาก็อยากที่จะขอโทษที่เขาหนีหน้าไปเมื่อเช้า และเขาก็มั่นใจว่าเอมีนคงกำลังรอฟังคำอธิบายของเขาอยู่ จัสตินไม่รู้เลยว่าตอนนี้ฟิลิปไปถึงตัวเอมีนแล้ว

“คิดดีแล้วเหรอฟิลิปที่มาที่นี่”  พีรพลถามคนที่เพิ่งมาถึง พลางปรายสายตาไปมองผู้คนที่กำลังให้ความสนใจคนที่โดนถามเป็นพิเศษ เดี๋ยวอีกซักพักนักข่าวคงจะแห่กันมา

“ผมมาด้วยความเต็มใจนิ ไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญมาคงไม่มีอะไรมั้ง” ฟิลิปตอบพีรพล  แต่สายตากลับมองไปที่เอมีนที่นั่งไม่ยินดียินร้าย สภาพร่างกายเอมีนที่เด็กหนุ่มเห็นทำให้เขานึกแค้นใจอย่างประหลาด พาลอยากที่จะเห็นหน้าคนทำขึ้นมา

“แล้วคนร้ายอยู่ไหนพี่พล”  เขาเลือกที่จะถามพีรพลเพราะเห็นสีหน้าและแววตาของเอมีนไม่ค่อยพอใจที่เขามาเท่าไรนัก

“อยู่ในห้องขัง”  พีรพลตอบพลางสังเกตท่าทีของเด็กในสังกัดเดียวกับเขาทั้งสองคน เอมีนยังไม่ทักฟิลิปแม้แต่คำเดียว หรือแม้กระทั่งจะหันมามองซักนิดเอมีนยังไม่ทำ ในขณะที่ฟิลิปก็เก้ๆกังๆไม่รู้จะทำตัวยังไงมองเอมีนไปก็เท่านั้นเพราะคนถูกมองไม่ได้ให้ความสนใจเขาเลย

“เป็นไงบ้าง” เมื่อมันนานเกินไปที่เป็นเสมือนคนไร้ตัวตน ฟิลิปจึงเป็นฝ่ายทักขึ้นมาก่อน อีกอย่างพีรพลก็ขอตัวไปที่อื่นแล้ว เขาก็เลยกล้าที่จะพูดกับเอมีน  เอมีนหันมองรอบๆกายเหมือนไม่แน่ใจว่าคนถามถามใคร

“เราถามนายนะ”  ฟิลิปย้ำ นึกน้อยใจที่เอมีนทำเหมือนจะไม่มีทางญาติดีกับเขาจริงๆ

“มีตาก็มองเองดิ”  เอมีนเอ่ยประโยคแรกออกมา และมันก็เป็นประโยคที่เจือไปด้วยน้ำเสียงของคนที่ไม่ชอบขี้หน้าเขาพูดกันจนทำให้คนฟังต้องแอบถอนหายใจ ก่อนจะเริ่มสนทนาต่ออย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ดีที่เอมีนยังคงต่อปากต่อคำกับเขาอยู่

“เรื่องมันเป็นมายังไงบอกได้หรือเปล่า”

“จะรู้ไปทำไมมันไม่เกี่ยวกับนาย”

“อย่างน้อยเราก็อยู่บริษัทเดียวกัน”

“คงต้องใช้คำว่าเคยอยู่แล้วล่ะ”

“ทำไมล่ะ”

“ถึงวันนี้ทุกอย่างมันชัดเจนแล้วว่าที่นั่นไม่ต้อนรับคนอย่างไอ้เอมีน แล้วจะให้มันดันทุรังอยู่ทำไม”

“ถ้านายรวมถึงเราด้วยก็……ขอโทษ”  ฟิลิปรู้สึกฝืดคอขึ้นมา แม้จะขอโทษออกไปแล้วแต่ยังเห็นเอมีนนั่งนิ่งเหมือนข่มความรู้สึกบางอย่างไว้ในใจ  และถ้าเขาเดาไม่ผิดเอมีนคงกำลังข่มความรู้สึกน้อยใจในเส้นทางตามฝันของตัวเองที่มันเต็มไปด้วยอุปสรรคและคนรอที่จะซ้ำเติม แต่เขาก็น่าจะมีโอกาสที่จะแก้ตัวหากว่าเอมีนไม่ยอมถอยออกจากเส้นทางเส้นนี้

“นายคงไม่คิดที่จะออกจากบริษัทหรอกนะ”  ฟิลิปถามและมันก็เป็นครั้งแรกที่เอมีนหันมาสบตากับเขา ไม่รอช้าที่เขาจะส่งรอยยิ้มบางๆให้ แต่แล้วเอมีนก็เมินหน้าหนีอีกจนได้

“ก็ถ้าอะไรๆมันชัดเจน เราก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม”

“ชัดเจนยังไง”

“เดี๋ยวนายก็คงจะรู้เองแหละ”  เอมีนทิ้งท้ายก่อนจะลุกเดินหนีฟิลิป ไม่มีประโยชน์ที่เขาจะมานั่งคุยกับคนของศัตรู

“เดี๋ยวดิเอมีน”  ฟิลิปรีบคว้ามือคนที่กำลังจะเดินผ่านหน้าเอาไว้

ไม่รู้ว่าอะไรเปิดทางให้ธีระเดินเข้ามาเห็นภาพนั้นเข้าพอดี เด็กหนุ่มชะงักรีบที่จะปล่อยมือออกจากคนที่เขาเพิ่งกุมมือ  แต่แล้วเขาก็ต้องแปลกใจเมื่อเอมีนกลับไม่ยอมปล่อยแถมอาการเย็นชาเมื่อครู่กลับแปรเปลี่ยนมาเป็นยิ้มใส่หน้าเขาอย่ารื่นเริง

“ทำอะไรก็ระวังภาพของฟิลิปไว้หน่อยนะเอมีน เธอมันคนที่ไม่มีรู้จักอย่าคิดที่จะทำอะไรตามใจตัวเอง”  ธีระเปิดฉากฉะทันที ทุกอย่างมันชัดเจนขนาดนี้แล้วการที่จะมัวสร้างภาพมันก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร  เอมีนก็เหมือนจะร้ายขึ้นมาทันตาเห็นเมื่ออาการธีระบ่งบอกว่าเริ่มที่จะคุมตัวเองไม่อยู่ เด็กหนุ่มจึงรีบโต้กลับทันควัน

“บังเอิญผมมันสร้างภาพไม่เป็นไงคุณโปรดิวเซอร์คนเก่ง รู้สึกยังไงผมก็แสดงออกมาเแบบนั้น”

“แต่ไม่ใช่กับฟิลิป”

“ก็ผมกลัวว่าคุณจะไม่มีโอกาสได้เห็นภาพนี้ไง คุณธีระ”  แล้วแววตาเย้ยหยันของเอมีนเมื่อครู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวขึ้นมาทันทีจนฟิลิปตามไม่ทัน ไม่ต่างจากธีระ เด็กนี่มันหมายความว่ายังไง

“มาถึงที่ก็ดีแล้วคนที่นี่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยตามตัว”  เอมีนสะบัดมือฟิลิปออกอย่างนึกรำคาญเมื่อหมดอารมณ์ที่จะยั่วโมโหธีระ ก่อนที่จะตัดสินใจตะโกนบอกตำรวจดังลั่นพลางชี้มือไปที่ธีระ

“คุณ ตำรวจ ช่วยจับคนๆนี้ไว้หน่อย คนนี้แหละที่น่าจะอยู่เบื้องหลังการเข้าทำร้ายร่างกายผม” สิ้นเสียงเอมีน ทุกคนหันมามองธีระเป็นตาเดียว ชายหนุ่มถึงกับหน้าซีดขาสั่นละล่ำละลักปฎิเสธ

“อย่ามาแตะต้องตัวผมนะ  เอมีนแกมันร้ายมาก ฉันจะฟ้องหมิ่นประมาทแก”

“ฟ้องเหรอ เอาสิถ้าคิดว่าผมจะปล่อยให้คุณออกมาทำอะไรชั่วๆอีก”

“เอมีน นายพูดอะไร” ฟิลิปตะคอกเอมีนอย่างลืมตัวเพราะมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“ก็พูดความจริงไง อยากรู้นักไม่ใช่เหรอว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง”  เอมีนหันมาตอบคนข้างตัว  พร้อมๆกับที่เจ้าหน้าที่เข้าล็อคตัวธีระเอาไว้ ซึ่งฟิลิปยังไม่เข้าใจเหตุการณ์จึงเข้าขัดขวาง

“ปล่อยตัวพี่ธีนะ นี่มันอะไรกัน เอมีนนายคิดจะทำอะไร”  ประโยคหลังเด็กหนุ่มหันมาตะคอกเอมีน แต่ต้องตัวปลิวล้มลงเมื่อโดนเอมีนผลักออกให้พ้นทางอย่างไม่สนใจในสิ่งที่เขาถาม เอมีนเดินหน้าเข้าไปหาธีระที่ยืนกัดกรามแน่น

“รู้จักคนชื่อภาคินมั๊ย”  เด็กหนุ่มตะคอกถามและเมื่อธีระตวาดกลับว่าไม่รู้จัก เอมีนก็ปรี่เข้ากระชากคออย่างโกรธแค้น

ฟิลิปเห็นท่าไม่ดีจึงรีบลุกขึ้นกระชากตัวเอมีนออกมาแล้วผลักจนเจ้าตัวล้มลงไปกองที่พื้น ผู้คนส่งเสียงวี้ดว้ายรวมทั้งเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุกันวุ่นวาย แสงแฟลตวูบวาบขึ้นทั่วบริเวณ นักข่าวเดินทางมาถึงอย่างที่พีรพลคาดไว้ไม่มีผิดแล้วคนที่คาดการณ์ก็วิ่งเข้ามาพยุงตัวเอมีนลุกขึ้น

“นี่มันอะไรกัน ฟิลิป พีรพล จะเอาเอมีนให้ตายกันเลยหรือไงแค่นี้เขายังบอบช้ำไม่พอใช่มั๊ย”  เมื่อพยุงเอมีนลุกขึ้นได้พีรพลก็ตะคอกคู่กรณีทั้งสองคนทันที ฟิลิปรู้สึกผิด เขาลืมตัวไปจริงๆ ร่างกายเอมีนยังคงบอบช้ำอยู่นี่เขาทำอะไรลงไป

“เอมีน เราขอโทษ”  เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็นแววตาเอมีนมองเขาเย็นชามากขึ้นกว่าเดิม ธีระเห็นอย่างนั้นก็เกิดคลุ้มคลั่งดิ้นรนที่จะให้หลุดจากการจับกุมจ้องที่จะเล่นงานมารหัวใจให้ได้ จนลืมว่าตัวเองเป็นใคร ต่างจากพีรพลที่ยืนมองเหตุการณ์อย่างมึนงงในการกระทำของเพื่อนร่วมอาชีพ

และก่อนที่เหตุการณ์จะวุ่นวายไปมากกว่าที่เป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจทีมที่เข้าจับกุม ภาคินก็เดินทางมาถึง พร้อมๆกับ จัสติน

“นั่นมัน” จัสตินครางออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

คนที่โดนจับกุมให้เดินเข้าไปในโรงพักนั่นเป็นคนที่กำลังนอนเกลือกกลิ้งอยู่กับบาสชัดๆในวันที่เขาไปเจอวันนั้น

“รบกวนทุกฝ่ายอยู่ในความสงบด้วย”  ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในโรงพักออกมาปรามเหตุการณ์ ก่อนจะเชิญทุกคนเข้าไปสอบสวนและให้เจ้าหน้าที่บางส่วนกันนักข่าวออกไปข้างนอกเมื่อเหตุการณ์มันบานปลายจนทั้งโรงพักแตกตื่น

“ผมไม่รู้จักคนๆนี้”  ภาคินปฎิเสธทันทีที่โดนคำถามว่ารู้จักกับธีระหรือไม่ และเขาก็ยังปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา สร้างความขุ่นเคืองให้กับสองวายร้ายที่ยืนมองเหตุการณ์ภายในห้องขัง ก่อนจะแข่งกันตะเบ็งเสียงออกมา

“คุณ ภาคินคุณพูดงี้ได้ไง คุณเป็นคนว่าจ้างพวกผมกับมือนะอย่างนี้ คุณก็เอาตัวรอดคนเดียวสิ”

“ฉันไม่รู้จักพวกแก” ภาคินหันไปพูดด้วย

“งั้นนายรู้จักวรกาญจ์หรือบาสมั๊ย”  เอมีนถามผ่ากลางวงขึ้นมา ธีระเริ่มหน้าชาไม่ต่างจากภาคินที่ตะกุกตะกักจนผิดสังเกตจนนายตำรวจที่สอบสวนช่วยย้ำคำถามให้เจ้าทุกข์

“ว่าไง นายภาคิน นายรู้จักคนๆที่เจ้าทุกข์เขาถามมั๊ย”

“ไม่รู้จัก”

“โกหก!!!”  เป็นเสียงของจัสตินที่ตะคอกเข้ามา หลังจากที่เขาแหวกฝูงชนทั้งนักข่าวและทีมตำรวจที่กันไว้เข้ามาได้สำเร็จ

“จัสติน” เอมีนเอ่ยออกมาอย่างดีใจ  ในที่สุดจัสตินก็ไม่ทิ้งเขา ฟิลิปแอบมองแววตาเอมีนที่มองไปที่คนมาใหม่ มันช่างแตกต่างจากแววตาเย็นชาที่เขาได้รับเหลือเกิน ภาคินหน้าซีดเมื่อเห็นจัสตินเดินเข้ามา

“แกมาได้ไง” ธีระ ถามออกมาก่อนใคร แต่จัสตินไม่สนใจเด็กหนุ่มเดินไปหยุดข้างๆเอมีน สายตาที่สองคนมองกันใครๆก็ดูออกว่ามันเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกใด แค่รอยยิ้มบางๆที่จัสตินยิ้มทัก เอมีนก็รู้สึกไม่โดดเดี่ยวขึ้นมาอย่างประหลาด

“คุณเข้ามาได้ยังไง”  นายตำรวจเอ่ยถาม จัสตินจึงละสายตาจากเอมีนหันไปมองหน้าภาคินชัดๆแล้วบอกคนถาม

“ถ้าผมไม่เข้ามาแล้วใครจะรู้จักนายคนนี้ล่ะ”

“แสดงว่าคุณรู้จักนายภาคิน”

“บังเอิญว่ากิจกรรมที่เขาทำระหว่างผมไปเจอมันยังติดตาผมมาจนทุกวันนี้ ผมก็เลยจำได้ติดตาว่าเขาเป็นใคร”

“นี่แกกำลังพูดถึงเรื่องอะไร”  ภาคินตวาดจัสตินแต่จัสตินกลับยิ้มให้ก่อนจะถามเสียงเย็น

“บาสไปไหนซะล่ะทำไมไม่มาด้วยกัน”  นั่นไง เอมีนหันควับไปมองภาคินแทบจะทันทีที่จัสตินพูดจบ ในเมื่อธีระปฎิเสธไม่รู้เห็นเรื่องนี้ แต่นายภาคินนี่รู้จักกับบาส ตัวบงการที่แท้จริงคงเป็นใครไปไม่ได้

“ผมยืนยันและมั่นใจว่าคนชื่อบาสอยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดนี้” เอมีนเอ่ยออกมาในที่สุด คราวนี้ถ้าจะคว้าน้ำเหลวเขาก็พร้อมที่ยอมรับ แต่ความรู้สึกบางอย่างมันทำให้เขาแน่ใจว่าบาสคือตัวการ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกลิงตัวอ้วน ที่ 11-04-2008 12:12:17
กำลังสนุก

ต่อเลยครับ ต่อเลย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: SweetSerenade ที่ 11-04-2008 13:24:34
รออ่านต่ออยู่นะคะ

 :m13:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 11-04-2008 13:40:26
อ่ะ ต่อๆ วันนี้ใจดี อิอิ
ถึงจะเป็นคนดี ที่ใครๆก็ไม่รักก็เหอะ
========================
ที่บริษัทเมที หลายฝ่ายต่างก็วุ่นวายและแตกตื่นเมื่อเห็นทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อขอพบตัวเมที และแจ้งเรื่องราวทั้งหมดให้รับทราบ ผู้บริหารหนุ่มใหญ่ถึงกับเข่าอ่อนเกือบทรุดเมื่อเห็นกองทัพนักข่าวนับร้อยบุกเข้ามาสมทบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชื่อเสียงบริษัทที่สะสมมาคงพังพินาศลงคราวนี้

“วรกาญจ์ไม่ได้อยู่ที่นี่” หนุ่มใหญ่ปาดเหงื่อบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจพลางก้มหน้าก้มตาหลบแสงแฟลชที่พร้อมใจกันส่องกระทบหน้า  ไม่มีใครรู้ว่าบาสอยู่ที่ไหน ในขณะที่ตำรวจหลายทีมออกติดตามตัวตามเบาะแสที่ภาคินให้ไว้ ธีระก็ถูกปล่อยตัวให้เป็นอิสระชั่วคราวในเมื่อเขาปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา และพีรพลก็ขอร้องให้เอมีนเชื่อใจเพราะในสายตาเขาที่มองเพื่อนร่วมอาชีพ ธีระไม่น่าที่จะทำอะไรเลวๆได้ขนาดนี้

จัสตินพาเอมีนแยกตัวออกมาคุยกันตามลำพัง ในขณะที่ฟิลิปแยกไปคุยกับธีระ และดูเหมือนว่าบรรยากาศคู่หลังจะตึงเครียดถึงขั้นขึ้นเสียงใส่กันและกัน

“เห็นหรือยังว่าไอ้เอมีนมันจะทำให้เธอเสียชื่อเสียงขนาดไหน เธอตามมันมาทำไมฟิลิป”  ธีระเปิดฉากก่อน อารมณ์ร้อนของเขาทำให้ฟิลิปต้องร้อนตามเด็กหนุ่มจึงถามในสิ่งที่อยากจะรู้

“แล้วพี่ล่ะตามผมมาทำไม พักหลังนี่พี่ดูแปลกๆนะ อีกอย่างเอมีนก็ทำกับผมเหมือนยั่วให้พี่โมโห พี่คิดอะไรกับผมกันแน่”

“พี่ก็คิดว่าเธอเป็นน้องไง น้องที่พี่รัก”

“รักแบบไหน”

“เธอจะรู้ไปทำไม”

“พี่ก็บอกผมสิว่าพี่รักผมแบบไหน”

“เธอจะมาตวาดพี่แบบนี้ไม่ได้นะฟิลิป”

“ก็ถ้าพี่ไม่ยอมพูดความจริงกับผม ผมก็จะตะคอกพี่แบบนี้แหละ” ธีระหมดความอดทน และรับไม่ได้ที่เห็นอาการฟิลิปก้าวร้าวขึ้นมา ชายหนุ่มจึงฟาดฝ่ามือใส่หน้าฟิลิปเสียงดังลั่นจนทุกคนหันมามองรวมทั้งจัสตินและเอมีน ธีระจะลงมือซ้ำเมื่อรู้สึกเสียใจจนคุมสติไม่อยู่แต่มีคนเข้ามาระงับเหตุเสียก่อน เอมีนตัดสินใจเดินเข้าไปในเหตุการณ์โดยที่จัสตินวิ่งตามไปติดๆ

“แกไม่ต้องมายุ่ง ถอยไปให้ห่างตัวฟิลิปไอ้เด็กเวร”  ธีระตวาดลั่น  พลางดิ้นสุดแรงหวังให้หลุดจากการเกาะกุม เอมีนส่ายหน้าอย่างนึกสมเพช ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปกุมมือฟิลิปแล้วจูงเดินออกไปที่อื่น เขาคงต้องพูดให้ฟิลิปเข้าใจในทุกๆอย่างเสียที

“ขอคุยกับฟิลิปเดี๋ยวนะ”  เด็กหนุ่มไม่ลืมที่จะหันไปบอกคนข้างตัว

จัสตินพยักหน้ารับรู้ช้าๆ มองสบตาฟิลิปแวบนึงก่อนจะเลี่ยงหลบทางให้ เอมีนจึงพาฟิลิปไปในที่ลับตาคนแล้วเริ่มบอกเรื่องราวทุกอย่าง   และมันก็เป็นดังที่คาด เมื่อฟิลิปรับรู้ว่าธีระเป็นเกย์คนหนึ่งที่หลงรักเขามาตั้งแต่แรกเจอ เด็กหนุ่มถึงกับผงะ ไม่อยากจะเชื่อ แต่พอนึกย้อนเหตุการณ์ต่างๆมันก็ช่วยเสริมน้ำหนักให้คำพูดของเอมีนน่าเชื่อถือขึ้นมา และที่ทำให้เขาละอายใจขึ้นมาก็เรื่องที่ธีระร่วมมือกับบาสกำจัดจัสตินให้พ้นเส้นทางซุปเปอร์สตาร์ของเขาด้วยวิธีสกปรก

เอมีนเห็นฟิลิปหน้าซีดเข่าอ่อนก็รู้สึกเห็นใจ เด็กหนุ่มเข้าไปตบไหล่ ให้กำลังเพื่อนร่วมค่าย ถึงแม้ที่ผ่านมาฟิลิปจะไม่ค่อยลงรอยกับเขาท่าไหร่แต่พักหลังนิสัยฟิลิปก็ดีขึ้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่เห็นเพียงแต่ไม่อยากที่จะใส่ใจ  ฟิลิปก้มหน้านิ่งไม่พูดไม่จาเอมีนจึงเดินเข้าไปใกล้กว่าเดิม

แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อฟิลิปเงยหน้าขึ้นมาแลัวคว้าตัวเขาเข้าไปกอดเสียดื้อๆ ก่อนจะพร่ำอะไรออกมามากมาย

“เอมีน เรามันน่าสมเพชมากเลยใช่มั๊ย ที่คิดว่าตัวเองดังขึ้นมาได้ด้วยฝีมือตัวเองแล้วยังเคยดูถูกนายเอาไว้อีก “

“ไม่หรอกฟิลิป นายอย่าคิดมากดิ แล้วก็ปล่อยเราก่อนเหอะมันไม่เหมาะนะที่นายจะทำแบบนี้”  เอมีนปลอบใจและพยายามดันร่างคนกอดให้ถอยออกจากตัวแต่ ฟิลิปก็ยังไม่ยอมปล่อยง่ายๆ

“เอมีน…”  คนเรียกชะงักเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เอมีนกอดอยู่กับฟิลิป จัสตินรีบหันหลังกลับไม่มองภาพนั้น เด็กหนุ่มหลับตานิ่ง จึงไม่เห็นว่าคนข้างหลังตกใจแค่ไหน

“ตำรวจจับบาสได้แล้ว” คนหันหลังบอกช้าๆในจุดประสงค์ที่ตามสองคนมา เด็กหนุ่มพยายามปรับน้ำเสียงให้ปกติที่สุดก่อนจะรีบเดินหนีจากที่ตรงนั้น

เอมีนผลักฟิลิปออกอย่างเร็วก่อนจะรีบวิ่งตามจัสติน ด้วยความรีบร้อนเด็กหนุ่มไม่ได้สังเกตเลยว่ามีเก๋งคันหนึ่งบึ่งมาที่ร่างเขาชนิดกะให้แหลกคาหน้ารถ  ฟิลิปเบิกตาโพลง นั่นมันรถของธีระชัดๆที่แล่นตรงเข้ามาหาร่างเอมีน และเจ้าของรถก็นั่งอยู่ข้างใน ใครปล่อยตัวธีระให้ออกมาสร้างความวุ่นวายได้อีก เด็กหนุ่มไม่มีเวลาคิดอะไรมากเขาพุ่งตัวออกวิ่ง ตะโกนให้เอมีนระวัง ทุกสายตาหันมามองคนถูกเรียกและคนเรียกพร้อมกัน เอมีนเองก็หยุดชะงักหันกับไปมองฟิลิป

ช่างเป็นเป้านิ่งได้ดีแท้ๆ ไอ้เอมีน ธีระเหยียบคันเร่งสุดลิ่ม งานนี้แกไม่ตายก็คงจะเลี้ยงไม่โต

“เอมีน หลบไป!!!”  ฟิลิปร้องลั่น แต่เหมือนเอมีนจะไม่รับรู้ เขาเลยจำเป็นที่จะต้องเข้าชาร์จตัว  

เสียงวี้ดว้าย ดังระงมทั่วบริเวณ เมื่อรถคันใหญ่พุ่งเข้าหาตัวเอมีน แต่แล้วเจ้าของรถก็ต้องตาเหลือกด้วยความตกใจและช็อคกับภาพที่เห็น คนที่เข้ามายืนอยู่หน้ารถตอนนี้ไม่ใช่เอมีน แต่เป็นคนรักของเขา  

ฟิลิป ผลักเอมีน ออกไปให้พ้นทางมัจจุราช แล้วพาตัวเองเข้าไปยืนเป็นเป้านิ่งแทน ธีระเหยียบเบรกไม่ทันเมื่อทุกอย่างมันกระชันชิดเสียจนเกินกว่าที่จะห้ามการกระทำตัวเอง อีกแค่ไม่ถึงอึดใจร่างของฟิลิปคงแหลกเหลวไปตามแรงปะทะ

ธีระมองสบตากับคนที่ยืนหน้าซีดอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มเห็นแววตาที่ฟิลิปมองมาอย่างตกใจนั่น ก็ตัดสินใจหักพวงมาลัยรถทันที มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้

ฟิลิป รอดพ้นจากเงื้อมือมัจจุราช แต่คนขับเก๋งคันหรูนั่นเหมือนชะตาจะขาดซะเองเพราะจากแรงเหวี่ยงของการหักพวงมาลัยเปลี่ยนทิศทางรถกระทันโดยไม่มองว่ารถจะแล่นไปทางใด

ธีระตาค้างอ้าปากร้องเสียงหลงเมื่อรถที่นั่งอยู่พุ่งตรงไปใส่เสาไฟเบื้องหน้า เสียงปะทะดังก้องกัมปนาทไปทั่วบริเวณ ตามด้วยเสียงหวีดร้องที่ดังระงม บางคนถึงกับปิดตาไม่มองภาพสยองที่เจอจังๆ  

เอมีนปากคอสั่นเมื่อเห็นทุกอย่างหยุดนิ่ง ธีระสิ้นฤทธิ์อยู่ในซากเก๋งของตัวเอง ใกล้ๆตัวฟิลิปทรุดตัวนั่งน้ำตาไหลพรากช็อคกับสิ่งที่เห็น จนพีรพลต้องเข้าไปกอดเอาไว้พลางปิดตาเด็กหนุ่มไม่ให้เห็นร่างของธีระที่อัดก็อปปี้อยู่กับเศษกระจกและเสาไฟ เลือดสดๆไหลทะลักออกทั้งทางปากและจมูก ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะยังมีลมหายใจอยู่หรือไม่
 
“ไม่ ธีระ คุณต้องไม่ตาย” บาส สะบัดตัวให้หลุดจากนายตำรวจที่จับกุม เขาถูกพาตัวมาถึงพอดีกับเหตุการณ์สยดสยองที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มวิ่งไปหาร่างของธีระแต่เมื่อมองเห็นเอมีนที่นั่งตัวสั่นอยู่เขาจึงเปลี่ยนทิศทางเป็นวิ่งเข้าใส่ทันทีพลางตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

“แก ไอ้เอมีนแกมันเป็นต้นเหตุเรื่องราวทั้งหมด ถ้าแกไม่เข้ามาวุ่นวายกับพวกเรา ธีระคงไม่เป็นแบบนี้ฉันจะฆ่าแก”

“พอได้แล้วบาส สงบสติอารมณ์ซะบ้างทุกอย่าง คุณต่างหากเป็นคนเริ่ม”  จัสตินเข้าขวางและกระชากตัวบาสออกก่อนที่จะไปถึงตัวเอมีน ร้อนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าระงับเหตุกันอีกครั้ง มันเป็นคดีที่วุ่นวายที่สุดเท่าที่เคยเจอเลยจริงๆ ให้ตายเหอะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: @#Jackie#@ ที่ 11-04-2008 13:51:07
ว้าว สนุกจริง ๆๆ  :oni2:

จัสติน กับ เอมีน งอนกันอีกแร่ะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 11-04-2008 14:15:11
มารออย่างใจจดใจจ่อ เผื่อ จขกท. จะใจดีมาต่อให้จนจบในวันนี้  :o8: o13 :oni1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 11-04-2008 14:24:37
มารอด้วยอีกคน

มาต่อไวๆค้าบ

กะลังสนุกเลยอะ

 :oni3: :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 11-04-2008 16:59:44
สุขสันต์วันปีใหม่ไทยครับ ทุกคน
============================
เมที เหงื่อตกเมื่อได้รับแจ้งจากประชาสัมพันธ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น หนุ่มใหญ่ถึงกับทรุดจนต้องให้คนเข้ามาปฐมพยาบาล นี่ยังไงที่เขานึกสงสัยว่าทำไมท้องฟ้ามันถึงดูแปลกๆ มันเป็นสัญญานของความหายนะที่กำลังจะมาเยือนบริษัทเขานี่เอง

ธีระถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เขายังไม่ตาย แต่ก็เกินที่ทีมแพทย์จะเยียวยาให้หายเป็นปกติเนื่องจากสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง  ชายหนุ่มกลายเป็นบุคคลที่พิการทางสมองอย่างเลี่ยงไม่ได้

พีรพลรู้เรื่องถึงกับน้ำตาซึม นึกเสียดายมันสมองระดับธีระที่ต้องมาเสียไปเพราะความคลุ่มคลั่งแท้ๆ ส่วนภาคิน เมื่อโดนเค้นมากๆจึงยอมเปิดปากพูดเรื่องราวทุกอย่างที่เป็นแผนการของบาสในการจัดการจัสตินหลังจากที่จัสตินจับได้ว่าเขาเป็นคู่ขาของบาส

เขาบอกว่าพอจัสตินเลิกติดต่อบาส ก็ได้สร้างความแค้นใจให้บาสอย่างมากมายและเขาก็เป็นที่บาสชอบมาระบายเรื่องราวทุกอย่างให้ฟัง รวมทั้งแผนการที่บาสใช้จัดการเอมีน มันไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ บาสเกลียดเอมีนเป็นการส่วนตัว ที่จัสตินหันไปสนใจเอมีนแทนตน เมที ธีระ และฟิลิปก็เป็นแค่เครื่องมือที่บาสใช้จัดการมารหัวใจเท่านั้น
   
สื่อทุกฉบับพร้อมใจกันลงข่าวนี้กันแทบจะเรียกว่า ณ ตอนนี้ไม่มีกระแสเรื่องใดที่จะเป็นที่สนใจไปมากกว่าเรื่องราวแผนการสกัดดาวรุ่งอย่างจัสตินของทางค่ายเมทีที่ใช้คนเคยใกล้ชิดอย่างบาสดำเนินการให้   เอมีนเองก็ได้รับความสนใจจากสื่อไม่น้อยในฐานะที่เขาเป็นตัวจุดชนวนให้เรื่องราวทุกอย่างที่คลุมเครือถูกเปิดโปงออกมา จัสตินกลับมาโปร่งใสอีกครั้ง ในขณะที่ฟิลิปถูกต่อต้านต่อสังคม เพราะเจ้าตัวถูกหาว่าดังขึ้นมาด้วย แผนสกปรกของต้นสังกัดจนเจ้าของต้นสังกัดอย่างเมทีไม่สามารถที่จะมองหน้าคนในวงการได้

พีรพลคอยให้กำลังใจหนุ่มใหญ่ และเสนอความคิดว่าถ้าจะกู้ชื่อเสียงบริษัทกลับคืนมา เมทีควรจะยอมรับและให้โอกาสเอมีนพิสูจน์ตัวเองในเส้นทางสายนี้ มันเป็นข้อเสนอที่เมทีไม่อาจที่จะปฎิเสธได้ แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเมื่อเอมีนเริ่มเหนื่อยและอยากถอนตัวออกจากความฝันครั้งนี้

ถึงแม้พีรพลจะเกลี้ยกล่อมยังไงเอมีนก็ไม่อยากที่จะทำเพลงต่อ และถ้าเขาจะทำเขาก็คงเลือกที่จะไปอยู่กับจัสตินในเมื่อฝ่ายนั้นก็ส่งตัวแทนมาเจรจากับเขาเหมือนกัน  ร้อนถึงเมทีที่ต้องลงทุนมาเจรจากับเอมีนด้วยตัวเอง เพราะตอนนี้เอมีนกำลังถูกจับตามองอย่างมากจากสื่อหลังจากที่ทุกคนได้รับรู้เรื่องราวการตามหาความฝันครั้งนี้ของเขาว่ามันแลกมาด้วยอุปสรรคอะไรบ้าง  สิ่งที่ทุกคนลุ้นกันตอนนี้ก็คือจะได้เห็นผลงานของเขาจากฝั่งไหนกันแน่ ระหว่างต้นสังกัดของ จัสติน หรือต้นสังกัดของ ฟิลิป

“ที่ผ่านมาฉันขอโทษ เธอจะโกรธฉันก็ได้ ฉันยอมรับผิด”  เมทีบอกเสียงเบา ไม่คิดว่าตัวเองจะได้มากล่าวขอโทษเด็กในสังกัด เอมีนถอนหายใจบอกนิ่งๆ

“ถ้าเกิดว่าผมยังเป็นคนที่ไม่มีใครสนใจ คุณเมทียังคิดที่จะให้ผมอยู่ในชายคาตึกนี้อยู่หรือเปล่า”

“เธออย่ารื้อฟื้นเรื่องราวให้ฉันโกรธตัวเองได้มั๊ยเอมีน แค่นี้สังคมก็ลงโทษจนฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว”

“แล้วคุณเมทีมั่นใจเหรอว่าถึงแม้ผมจะมีผลงานออกไปแล้วสังคมจะหันมาต้อนรับบริษัทคุณอีกครั้ง”

“ไม่ลองก็คงจะไม่รู้”

“แต่ผมไม่ขอลอง ขอโทษนะที่ต้องพูดแบบนี้ เพราะตอนนี้ก็มีคนสนใจที่จะเอาผมไปร่วมงานแล้วเหมือนกัน”  เอมีนเห็นสีหน้าเมทีเปลี่ยนไปเล็กน้อย อันที่จริงเขาไม่คิดที่จะทิ้งที่นี่ไปตั้งแต่ที่พีรพลบอกว่าเมทีจะมาคุยกับเขาเองแล้วล่ะเพียงแต่ เมทีน่าจะได้สำนึกในสิ่งที่เคยทำกับเขาไว้บ้าง

“เธอไม่เห็นใจพีรพลเหรอ เขาอุตส่าห์ห์คิดที่จะปั้นเธอนะ”

“ไปปั้นต่อที่อื่นก็ได้นิ”

“นี่เธอหมายความว่าจะให้พีรพลลาออกด้วยงั้นเหรอ”

“ถ้ามันจำเป็น”

“ไม่ได้เด็ดขาดฉันไม่ยอม”

“ทำไมเหรอ เพราะสมองคุณธีระใช้งานไม่ได้แล้วหรือเปล่า”

“มันไม่เกี่ยว ฉันไม่เคยคิดว่า ฝีมือพีรพลด้อยไปกว่าธีระ”

“คุณเคยบอกเจ้าตัวเขามั๊ย”

“พีรพลเขารับรู้ได้เองโดยไม่จำเป็นต้องบอก และฉันขอยืนยันว่าพีรพลจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น รวมทั้งเธอด้วย อย่าลืมว่าสัญญาหนึ่งปี ของเธอที่มีกับบริษัทมันยังไม่หมดถ้าเธอไปร่วมงานกับที่อื่นฉันฟ้องเธอแน่”  เมทีแสดงตัวออกมาว่าหวงเอมีนได้อย่างไม่มีฟอร์มจนต้องเอาข้อกฎหมายมาอ้าง เอมีนเห็นแล้วก็เลิกที่จะลองใจจึงเอ่ยออกมาทำให้คนฟังแววตาเป็นประกายขึ้นทันที

“แล้วสัญญาที่มีระยะเวลาห้าปีอยู่ที่ไหนล่ะผมจะเซ็นต์ให้”

“นี่เธอพูดจริงๆนะเอมีน”

“ที่ผ่านมาคุณเมทีก็น่าจะรู้ว่าผมพูดจริงทำจริงไม่ใช่แค่ขู่”  เอมีนแอบกัดเล็กๆ  เมทีหน้าชาวูบแต่ก็รู้สึกดีใจที่เอมีนยอมตกลงที่จะเป็นเด็กในสังกัดเขาต่อ

   
หลังจากที่ออกจากห้องของคนที่ตัวเองยอมรับว่าเป็นเจ้านายแล้ว เอมีนจึงคิดที่จะไปหาคนที่เขายอมรับให้เป็นเจ้าของหัวใจ แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นฟิลิปนั่งเงียบอยู่คนเดียว ถ้าจะสานความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนมันก็คงจะดีกว่าเกลียดกันไปจนตาย

“ฟิลิป”  เด็กหนุ่มเดินเข้าไปทัก เห็นแววตาเศร้าหมองของคนที่หันมามองแล้วก็อดที่จะเห็นใจไม่ได้

“ไม่เป็นไรนะ” เด็กหนุ่มเอ่ยยิ้มๆให้อีก   มันเป็นรอยยิ้มแรกที่ฟิลิปสัมผัสได้ถึงความจริงใจ

“เอมีน เราขอโทษ” ฟิลิปเอ่ยขึ้นมาในที่สุด ยิ่งเห็นเอมีนยิ้มรับเขาก็ยิ่งสมเพชตัวเองที่เคยมีอคติกับคนอย่างเอมีน

“ไม่มีอะไรแล้วทุกอย่างมันจบแล้วนายอย่าคิดมากดิ เรายังเป็นเพื่อนกันได้นะ”

“ขอบใจนะที่ยังคิดที่จะคบกับคนอย่างเรา”

“ก็ไม่เห็นแปลกเลยอยู่สังกัดเดียวกัน ถ้าไม่คบกันแล้วจะให้ไปคบใครที่ไหน”

“แสดงว่านายจะไม่ไปจากที่นี่”

“อืม คงไม่ไป  สงสารคุณเมทีน่ะ นายเองก็เถอะเข้มแข็งเข้าไว้ ทำให้ตัวเองกลับมาดังให้ได้ด้วยฝีมือคุณเมทีจะได้ภูมิใจไง”

“แล้วนายล่ะ”

“มันเรื่องของอนาคต “

“แต่เราเชื่อว่านายทำได้”

“ก็คงต้องรอดู”

“เราจะเป็นกำลังใจให้นะแม้มันจะเป็นในฐานะเพื่อนก็ตาม”  เอมีนเห็นแววเศร้าของฟิลิปแล้วก็ถอนหายใจ เด็กหนุ่มรับรู้แล้วล่ะว่าฟิลิปคิดยังไงกับตนแต่มันคงเป็นไปไม่ได้ การที่จะให้เปลี่ยนผู้ชายคนนึงมาเป็นเกย์นี่ มันไม่ใช่เรื่องดีเลยซักนิด

“ฟิลิป ฟังนะ เราเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้น คิดอะไรอยู่เลิกคิดซะ เดินหน้าไปตามวิถีชีวิตตัวเอง ที่ผ่านมานายอาจแค่รู้สึกผิดจำไว้ ส่วนเราก็คงต้องไปตามเส้นทางของเรา”

“กับจัสตินใช่มั๊ย”  ฟิลิปต่อให้ เอมีนพยักหน้ารับช้าๆ

“ไม่เป็นไรเราเข้าใจ เขามาก่อนและก็เป็นคนที่ห่วงใยนายมาตลอด นายคิดไม่ผิดหรอก”  ฟิลิปฝืนยิ้มบอกทั้งๆที่ใจก็เจ็บนิดๆ เขาไม่ได้แค่รู้สึกผิด เขารักเอมีนจริงๆ…แต่ในเมื่อเจ้าตัวบอกเป็นได้แค่เพื่อนเขาก็จะยอมรับมันแค่นั้น เอมีนควรที่จะไปหาคนของเขาเสียที นั่นก็คือจัสติน


“เราไม่เข้าใจน่ะเอมีน ที่นั่นทำกับนายขนาดนั้นทำไมถึงต้องอยากที่จะอยู่ต่อด้วย” คนของเอมีนโวยลั่นทันทีที่รู้ว่าเอมีนตกลงเซ็นต์สัญญาอยู่ต่อในสังกัดเดียวกับฟิลิป จริงๆเขารู้สึกหึงหวงมากกว่า  เรื่องร้ายๆเขาก็แค่ยกมาเป็นเหตุผลบังหน้าเท่านั้น

“ก็คุณเมทีเขากำลังแย่นะ”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกะนาย เมื่อก่อนนายก็บอกเองนิว่าเขาไม่เคยสนในนาย”

“ก็พี่พลยังห่วงเขาอยู่แล้ว  นายก็รู้ว่าเรากับพี่พลยังไงก้ทิ้งกันไปไม่ได้อยู่แล้ว”

“อยู่เพราะพี่พลแน่นะ”

“สงสัยอะไรที่ไม่เข้าท่าอีกอ่ะดิ”

“ก็มันน่ามั๊ยล่ะ ขนาดอยู่ในโรงพักยังกอดกันกลม”

“อย่ามาคิดทะลึ่งนะจัสติน แล้วอีกอย่างเราจะกอดใครมันก็ไม่เกี่ยวกะนาย”

“ทำไมจะไม่เกี่ยว ก็ลองกอดให้เห็นอีกครั้งดิมีเรื่องแน่”

“อย่ามาทำเป็นอันพาล นายจะไปทำอะไร ฟิลิปเขาก็แค่เพื่อนร่วมค่ายกับเรา”

“แน่นะ”

“ก็แน่สิจะโกหกทำไม หรือถ้าเขาเป็นมากกว่านั้นนายจะทำอะไรเขา”

“ใครบอกว่าเราจะไปทำฟิลิป”

“หมายความว่าไง”  พูดยังไม่ทันขาดคำ ร่างของเอมีนก็ปลิวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดจัสตินจนเจ้าตัวตกใจ

“อยากรู้เหรอ”  จัสตินก้มหน้าลงมาพูดใกล้ๆ จนเอมีนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่รดลงบนใบหน้าเขา

“อย่าเล่นบ้าๆนะจัสตินเรามีกล้องซ่อนอยู่ในห้องนะ พร้อมจะแบล็คเมล์นายเมื่อไหร่ก็ได้”  เอมีนพูดติดตลกแก้อาการประหลาดๆของตัวเอง ยิ่งจัสตินโน้มตัวลงมาใกล้เขาก็ยิ่งใจสั่น

“กลัวตายล่ะ” จัสตินยิ้มให้ตรงมุมปาก คนในอ้อมกอดตอนนี้ทำให้เขาละทิ้งกฎของตัวเอง ……..ความรักไม่ควรที่เกี่ยวกับเรื่อง SEX………….  คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกหากว่าเขาอยากที่จะผูกพันกับคนตรงหน้าเอาไว้ก่อน ก่อนที่เรื่องราวต่างๆที่ไม่อาจคาดถึงจะก้าวเข้ามาเยือน 

เอมีนสะดุ้งใจสั่นเทิ้มเมื่อจัสตินก้มลงประกบจูบอย่างดูดดื่มและแนบแน่นจ นรู้สึกถึงรสหวานจากปลายลิ้นที่สัมผัสได้ ก่อนที่คนจูบจะถอนปากออกมาพูดกับเขา

“ทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ รับรู้เอาไว้นะเอมีนว่าเราทำด้วยใจ และเราก็อยากที่จะให้นายรับรู้มันด้วยใจเหมือนกัน”  จัสตินมองสบตาคนฟังที่ตามเขาไม่ทัน  เด็กหนุ่มยิ้มให้บางๆก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปที่ใบหูกระซิบแผ่วเบา

“เรารักนายนะเอมีน”  เอมีนหลับตาเคลิ้มเมื่อลมหายใจอุ่นๆของเอมีนเป่ารดลงที่ใบหู ก่อนที่ร่างเขาจะถูกคนเป่าตวัดเขามากอดอย่างแนบแน่นและพาลงไปนอนลงบนที่นอนที่เคยนอนหันหลังให้กัน แต่ครั้งนี้จัสตินจะไม่ยอมให้มันเป็นอย่างนั้น เด็กหนุ่มก้มลงจัดการกับคนที่นอนตรงหน้าด้วยอารมณ์ปราถนาที่จะผูกพันให้ามากกว่าคำว่าเพื่อน แล้วทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างที่มันควรจะเป็น


เมที พาค่ายเพลงผงาดขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ เอมีน พลิกสถิติ ยอดขายสูงสุด ของนักร้องหน้าใหม่ได้สำเร็จ

หนังสือพิมพ์ ถูกเหวี่ยงลง ตรงกลางโต๊ะทุกคนเงียบเมื่อคนที่นั่งหัวโต๊ะลุกขึ้นยืนมอง ไล่กวาดสายตาไปยังทีมโปรดิวเซอร์ที่นั่งเรียงรายอยู่ต่อหน้าเขา ก่อนจะไปหยุดอยู่ คนๆหนึ่งแล้วเอ่ย

“พีรพล คุณไม่ทำให้ผมผิดหวังเลยจริงๆ”




จบบริบูรณ์

================================
จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับเรื่องนี้

ขอบคุณ บอยที่อนุญาตเอาเรื่องนี้มาลงในเล้าให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะครับ
ขอบคุณ คนอ่านที่คนทั้งที่โพสและซุ่มอ่าน ที่ตามเรื่องราวมาจนจบ
ขอบคุณ เล้าเป็ด ที่วิ่งเล่นที่แสนดี

ขอบคุณครับ ขอบคุณมากมาย
 o1 o1 o1 o1 o1 o1
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 11-04-2008 17:25:21
จบแล้วๆๆๆ  :oni1:
สองนักร้องคู่ขวัญ แต่อยู่ต่างค่าย love me love my lover
ตอนจบยาวมาก ดำเนินเรื่องมาเรื่อยๆ เอื่อยๆ แล้วขมวดจบตอนท้ายเหมือนHP เลย  :laugh:


ขอบคุณ ~ScAreD:SAcreD~ ที่นำเรื่องดีๆ มาให้อ่าน  :L2:

สุขสันต์วันปีใหม่ไทยกันทุกคนนะครับ   :a1:



ปล. เรื่องที่ลงทุกวัน(?) หมดไปอีก1  o7
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 11-04-2008 18:53:32
ขอบคุณฮับ

ชอบเรื่องของพี่บอยทุกเรื่องเลย

น่ารักมากเลยคร้าบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: ~@มาวินฮับ@~ ที่ 11-04-2008 19:37:06
ชอบมากเลยคับเสียดายจังจบแล้ว สุขสันวันปีใหม่ไทยนะคับ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: Mp_qM ที่ 13-04-2008 17:57:44
ลาลาลา จบแล้วคร๊าบบ

อืม ชอบตอนจบมากครับ

เป็นการจบที่ลงตัวดี

สำหรับบาส ก็เข้าคุกไป

ส่วน ธีระ ก็ดูน่าสงสารเกินไปหากจะให้ไปเข้าคุก เพราะทำตามคำยุยงของบาสเท่านั้นเอง ดีแล้วที่ให้พิการไปซะ

ส่วนเอมีนนี่ก็ดังไปอีกคนแระ

ถ้ามีภาคต่อก็ขอให้เป็นการจับมือกันระหว่างสองค่ายละกันนะ

ประมาณว่าคู่ดูโอ้ จัสติน เอมีน

ขอบคุณมากมากครับ สมแล้วกับการที่ผมติดตาม

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: re_rain ที่ 14-04-2008 22:13:02
 o7
จบแบบ happy ดีจัง
 :serius2: แรกๆลุ้นจนเหนื่อยกลัวพลิกล็อกเศร้าอ่ะ

ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีๆฮับ

และสวัสดีปีใหม่ไทยชาวบอร์ดทุกๆคนนะ :bye2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: kaporzung ที่ 29-04-2008 05:57:59
จบแล้ว ขอบคุณมากค่ะ  :pig4:

สนุกมากเลย   :m4:

ชอบมากค่า
 :m1:
แต่งได้เก่งมากเลย อิอิ  o13
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหนูไฉไล ที่ 03-05-2008 23:15:24
แหม..กระชับไปนีสสส มั๊ยอ่าพี่บอย อิอิอิ

ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุก ๆ แบบนี้นะคับ (อ่านติดพันจากที่ทำงานจนต้องมาอ่านต่อที่บ้านเรยเนี่ย คืนนี้ต้องลุยให้จบ แระก็จบจริง ๆซะด้วย อิอิอิ)
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 06-05-2008 20:16:43
จบได้ประทับใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  o13
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: Bogiecoco ที่ 14-05-2008 04:16:07
สนุกจังเลย

อยากให้มีตอนพิเศษจัง

อยากให้มีตอนที่จัสตินกะเอมีนสวีทกันมั่งอ่ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: Heater ที่ 30-05-2008 21:07:54
สนุก น่าติดตามมากเลยครับ
ปล.อยากให้ฟิลิฟมีคู่  :o8:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: 6488 ที่ 31-05-2008 22:01:10
สนุกดีคับ ขอบตชคุณสำหรับเจ้าของเรื่อง  ขอบคุณสำหรับผู้เอามาโพส
 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: hasuzz ที่ 14-06-2008 00:46:36
ได้อ่านจนจบซะที
หลังจากเคยอ่านค้างเอาไว้

=w=


ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 16-06-2008 18:41:12
หนุกค่ะ

ชอบมาก ลุ้นดี

ขอบคุณเจ้าของเรื่อง และ คนโพสค่ะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆาสีน้ำเงิน ที่ 30-06-2008 02:02:53
ผมอ่านเรื่องนี้จบภายในหนึ่งคืนน

รุ่งขึ้นมีเรียนเก้าโมง

พร้อมกับทดสอบย่อย

เหอะ ๆๆ ตกป่าวว่ะนี่

แต่บอกได้ว่ามันคุ้มมากเรยยอ่า

ขอบคุณน่ะคับที่เขียนเรื่องสนุก ๆ มาลง

และก็ ผมยังรอติดตาม เลิฟวิ่งคอร์สอยู่น่ะคับ

จาเป็นกำลังใจให้ ..... o13
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: Lady-Rabbit ที่ 27-07-2008 23:33:16
ตั้งแต่อ่านเรื่องของคุณบอยมา
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้สึกดีกับตอนจบที่สุด  :m4:

หายากมากๆที่จะได้ลงเอยกันไปแบบดีๆ
แต่ก็ถือว่าเป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งของเรื่องที่คุณบอยแต่งนะคะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: echisen ที่ 29-07-2008 16:52:20
อ่านจบแล้วฮับบบ สนุกดี ตลกดีด้วย ชอบๆๆ ไม่ค่อยเหมือนคัยดี รออ่านเรื่องต่อไปอยู๋ฮํบ

ปล. ขัดจัยตรงที่ว่า แล้วมันก้อเป็นไปตามทางที่ควรเป็น  o7 ตัดไปสะงั้น อิอิ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-08-2008 15:58:31
ขอบคุณคนเขียนและขอบคุณคนโพสค่ะ  :pig4:

จะติดตามผลงานเรื่องต่อ ๆ ไปนะคะ  :L2:

หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 20-08-2008 14:41:05
เฮะๆชอบ เชือดเฉือนกันดี

แต่สงสารธีระจังเลย ไม่น่าเป็นงั้น

น่าจะมีตอนพิศษซะหน่อยน๊าอิๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: chalee1983 ที่ 22-08-2008 14:00:36
 :a5:   อ่านแล้วสนุกดีค่ะ  มีเรื่องประมาณนี้เอามาลงอีกนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 07-04-2009 00:28:52
น่ารัก น่ารัก น่ารัก จบได้น่ารักมาก ๆ เลย

อ่านแล้วหยุดไม่ได้    :m1: :m1:

อยากให้คนอื่นได้อ่านด้วยจัง  :impress:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: baroona59 ที่ 07-04-2009 21:38:51
 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
  o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
    o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
       o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
         o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
            o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
               o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
                  o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
                     o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
                         o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
                                       ขอบคุณที่เอาเรื่องดี ๆ มาให้อ่านนะครับ
                      o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
                    o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
                  o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
               o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 08-04-2009 18:32:00
ชอบนิยายของคุณบอยทุกเรื่องเลยคร้าบ
และนี่ก็เป็นอีกเรื่องนึ่งที่อ่านแล้วว่างไม่ลงเลยคร้าบบบบบ o13
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: CYPINUS ที่ 06-05-2009 18:23:53
สนุกมากครับ อยากให้มีภาค2นะครับ  o13
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 08-05-2009 21:13:38
ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องราว

สนุกมากๆค่ะ

อ่านรวดเดียวจบ

เล่นเอาปวดตาไปเลยทีเดียว

 :really2:

^^

หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: SOBANG✖ ที่ 10-05-2009 09:33:44
สนุกมากๆเลยคะ สงสารฟิลิปจังเลย

แต่ยังไงก็ขอให้ จัสตินกับเอมีน รักกันนานนานนะคะ

อิอิ คุณพีจะรักกะ เมทีไหมหนออออ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: chad69 ที่ 25-06-2009 00:50:51
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ ขอบคุณคนแต่งมากเลย ชอบมากครับ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: j3llnlyza ที่ 05-08-2009 00:11:04
ชอบมากเป็นคำตอบสุดท้าย >< o13
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: ปี้ปี้ปี้~PalmY ที่ 08-08-2009 11:26:48
สนุกดีครับ ลุ้นตลอดเรื่อง  :z2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 09-11-2009 07:34:08
สนุกดีค่ะ  ลุ้นๆดี  :z1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: CaroL ที่ 05-02-2010 00:23:11
จัสติน เอมีน
น่ารักทั้งคู่
ชอบมากเลยครับ
แต่อยากให้มี ตอนพิเศษของจัสตินกับเอมีนอีกสักหน่อย
ขอบคุณครับสำหรับเรื่องดีดี
เป็นกำลังใจให้ครับ
 :man1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: สมาคมโคแก่ ที่ 05-02-2010 10:00:16
ขอบคุณครับ  :z2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: [[_GozpeL_]] ที่ 06-02-2010 16:27:16
ขอบคุณค่า

ขอบคุณคนโพส^^ :L2:


ตามหานิยายของคุณบอยต่อไป~
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: Momoro ที่ 07-02-2010 12:33:04
 :กอด1:คนแต่งสักที ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่ดีๆแบบนี้น่ะ ชอบมากๆเลย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: CaroL ที่ 07-02-2010 23:20:54
 :man1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 09-02-2010 19:01:07
เด๊่ยวมาอ่านต่อให้จบนะคร้าบบ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 09-02-2010 22:14:40
 o13 o13

จบแว้ววว

เย้้

และก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องอ่านจนจบ

จึงจะไปทำอย่างอื่นได้

อิอิ

ร้ากพี่บาาสจังงง
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: fernnakab ที่ 03-05-2010 15:52:35
จบแล้ว..แม้เรื่องจะมีเครียดไปบ้างแต่จบดีค่ะ..ลงตัวมาก..อิอิ
เอมีนน่ารักมากอ่ะ..ถึงแม้จะดูซื่อๆในตอนแรกแต่ก็ไม่ยอมใครเหมือนกัน
สนุกมากเลยค่ะ..ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 08-05-2010 03:45:32
สนุกมากกก ขอบคุงครับ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: pppp ที่ 09-05-2010 16:12:49
เข้มข้นมากๆ แบบสุดๆ ไปเลย
แอบเครียดบ้างเป็นบางช่วง แต่ว่าจบได้เคลียร์มากค่ะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก [จบแล้ว..]
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 13-05-2010 11:49:51
คุณบอย ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ  o13

ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆ อีกเรื่อง
 :L2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: rainy_naja ที่ 25-12-2010 05:05:22
merry★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
•。★Christmas★ 。* 。
° 。 ° ˚* _Π_____*。*˚
˚ ˛ •˛•*/______/~\。˚ ˚ ˛
˚ ˛ •˛• | 田田|門| ˚★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
Jaaaaaaaa \\(^^)//
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: crosa ที่ 17-02-2011 15:18:38
อ่า..น่ารักจริงๆ
ชอบอะ ทั้งจัสติน เอมีน และก็ฟิลิป
ปล.แอบเชียร์ให้ 3p อิอิ(น่าผิดหวัง คุคุ)
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 18-02-2011 21:11:32
น่ารักมากมายยย กรี๊ดดด
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 20-02-2011 11:56:35
o13
เอมีนน่ารักจัง ร้ายพอตัวเลยนะเรา
อยากอ่านตอนหวานๆของสองคนนี้อีกจัง

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาให้อ่านนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Angel_K ที่ 20-02-2011 19:21:12
สนุกมากๆ เลยค่ะ  o13
ต้องตามลุ้นไปด้วยทุกตอนเลย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: fayala ที่ 22-02-2011 10:13:34
อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกมากค่ะ ลุ้นตัวโก่งทุกตอน
แต่จบรวบรัดไปหน่อยนะคะ น่าจะมีแถมตอนพิเศษซะหน่อย อิอิ
ขอบคุณคนแต่งและคนโพสท์ค่ะ +1 ให้นะ  :man1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Rawint_PK ที่ 11-03-2011 05:42:45
จบอีกหนึ่งเรื่อง
สำหรับนิยายดีๆจากพี่บอย
ที่ส้รางความประทับใจแก่นักอ่ายหลายๆท่าน
รวมถึงผมคนนี้ด้วย..
รอลุ้นมาตลอดว่าเมื่อไหร่น้า....
.
.
.
.
.
.
.
.
และแล้วก็แทบขาดใจ
แต่ก็ดีใจที่สุดท้าย
ผมก็ได้เห็น....คำว่า  "รัก"....ครั้งแรก และครั้งเดียวของเรื่อง
จากปากของจัสติน...
ในตอนสุดท้ายนี่แหละ..
.
.
.
.
.
.
.
.เสนห์อีกอย่างหนึ่งของนิยายของพี่บอย..
ที่ผมชอบที่สุด...
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: tutu ที่ 13-03-2011 11:27:37
 o13 o13 สนุกสนาน
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 13-03-2011 23:46:57
สนุกครับ

น่ามีภาคต่อหาคู่ให้ฟิลิปด้วย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ♥Täsinä→l3€LL♥ ที่ 14-03-2011 16:33:04
สนุกมากๆๆเลยค่ะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Chocolate108 ที่ 14-04-2011 11:01:16
สนุก ๆมากเลยยย
คิดจะมีภาคต่อบางป่าวอะ
ถ้ามีเราจะติดตามต่อนะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: beamJ ที่ 14-04-2011 12:26:53
+1   o13 o13 o13

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 15-04-2011 01:39:48
สนุก ๆมากเลยยย
คิดจะมีภาคต่อบางป่าวอะ
ถ้ามีเราจะติดตามต่อนะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆค่ะ

เอ่อ ภาคต่อผมเคยโพสที่นี่ไป 4-5 ตอนแล้วครับ ตอนนี้ยังไม่ได้โพสต่อ ลองๆ ค้นหาดูนะครับ อาจจะเจอ

หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 17-04-2011 21:11:45
สนุกมาก อ่านวันเดียวจบเลย  ฉากรักน้อยไปนิด  แบบว่าเนื้อหลักคือการดกเนินเรื่องความฝัน  แต่ตอนจบนี่ขมวดรวดเดียวจบเลยแฮะ แอบหวังให้มีประมาณว่าตอนพิเศษ  อ๊างง
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 19-05-2011 14:42:50
สนุกมากๆค่ะ  อย่าเบื่อเลยนะคะ

ไม่ว่าจะเม้นเรื่องไหนก็เม้นให้แต่คำนี้อ่ะ  เพราะมันสนุกจริงๆค่ะ

ปล.+1 ค่ะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: babyfaibossy ที่ 19-05-2011 23:42:45
สนุกมากเลยค่ะ

เรื่องนี้ชอบเอมีนที่สุด  อย่างนี้สิ พระเอก? หรือ นายเอก ในฝัน

ตัวร้ายในคราบตัวดี  :laugh:

 o13 o13
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Nineน้อย ที่ 22-05-2011 19:18:12
จบแบบ happy ดีจัง ชอบๆๆๆๆ

แรกๆ ลุ้นจนเหนื่อยกลัวพลิกล็อกอ่ะ

ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีๆ ครับ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 02-06-2011 16:27:58
ขอบคุณพี่ บอยและพี่คนโพสท์   เป็นเรื่องที่สี่ของพี่บอยที่ผมได้อ่าน   ประทับใจมากคร้าบ  ยังรู้สึกสงสารฟิวลิปอยู่เลยอ่ะ

ภาคต่อไปให้ฟิวลิปเป็นพระเอกได้มั้ยอ่ะ(คงไม่ได้แฮะ...แฅ่พูดไปนั่น)

ขอบคุณคร้าบ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 04-06-2011 03:53:06
 o13
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 17-06-2011 21:47:18
 :laugh:

สนุกมากครับ

ลุ้นทุกตอนกันเลยทีเดียว

ชอบเอมีนอ่ะ  ร้ายโอเคเลย ฉลาดมาก ไม่โง่อ่ะ ชอบบบบบ

แต่เสียดายนิดๆที่ฉากสวีทแทบจะไม่มีเลย
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 24-06-2011 09:15:43
 :L2: อ่านจบแล้ว สนุกมากเลยนะฮ๊าฟฟฟฟ
แอบนึกถึงหน้า Justin bieber นะเนี่ย อิอิ
 :L1: ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุก ๆ นะฮ๊าฟฟฟ
ปล. นิยายพี่บอย ของเค้าดีจริง  o13
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: KND ที่ 26-06-2011 23:40:40
 :mc4: จบแล้วอ่าาา
น่ารักมากๆๆเลย น่าจะมีตอนพิเศษของคู่นี้นะเนี่ย


ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: lastlover ที่ 29-06-2011 19:14:31
อ่านแล้วประทับใจเรื่องนี้มากๆค่ะ คุณบอยสามรถเขียนสื่อเรื่องราวได้ดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ปลาทองสีชมพู ที่ 03-07-2011 23:03:48
ง่า..อยากอ่านตอนพิเศษจิงเล้ยยยย

สนุกดีอะ..ชอบคู่พระนางมากกก
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 24-08-2011 01:32:01
ชอบเอมึน จัสติน รู้สึกว่าจะฉลาด ทันคนดี นี่สิพระนายในฝัน

แต่ฉากสวีทน้อยไปหน่อย มีตอนพิเศษม้ายครับ

ปล.แอบสงสารฟิลิบอ่ะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: POPEA ที่ 25-08-2011 16:09:11
ตอนแรกหมั่นไส้จัสตินนิดๆอะ
สนุกดีค่ะ


 :impress2:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: J_Dargon ที่ 03-10-2011 23:31:17
สนุกมาก ๆ ต่ะ ไม่ผิดหวังจริง ๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: yotsaput ที่ 24-10-2011 22:38:25
สนุึกมายมาย อ่านรวดเดียวเลย สุดยอดครับผม
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ISee ที่ 22-11-2011 14:24:23
มาติดตามผลงานของคุณบอยค่ะ
สนุกมากเลย รอเรื่องต่อไปอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: armchair2535 ที่ 26-11-2011 05:14:27
สนุกมากเลยค่ะ   ขอบคุณมาก   :pig4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Dee15 ที่ 08-01-2012 09:34:27
แอร้ยยยยยยยยยยย อยากกอด เอมีน :กอด1:  ซบอกจัสติน อ่ะ  :impress2:
ขอบคุณมากมายค่ะ สนุกจังเลย ชอบๆๆๆๆๆ ติดตามเรื่องต่อไป
 :L1: คุณบอย จัง  :o8: :-[
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: princessl ที่ 13-01-2012 04:39:20
มาลงชื่อไว้ก่อน  ไม่ไหวละค่ะ  นอนก่อน  เด๋วมาอ่าน
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 02-05-2012 02:57:48
สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 19-05-2012 22:20:54
ขอบคุณค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 16-03-2016 21:21:06
เรืีองนี้ขาดคนเม้นมาหลายปีเเล้ว
ยังไงวันนี้ก็มาเม้นให้กำลังใจผู้เเต่งนะ
ขอให้มีคนมาอ่านเพิ่มเยอะน๊าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 17-03-2016 04:18:29
พึ่งเข้ามาอ่านวันนี้ อ่านตั่งแต่เที่ยวคืนถึงตี 4 ชอบมากกกกกก เขียนดีมากจริงๆ เป็นกำลังใจให้คนเขียนต่อไแนะคะ
เขียนเรื่องดีๆแบบนี้ให้อ่านอีกนะคะ
ป.ล. พรุ่งนี้มีสอบ 8 โมง 5555
ขอตัวไปนอนก่อนล่ะคร้าาาา :mew1: :mew1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: TuiLoveKhaKing ที่ 17-03-2016 10:01:20
อ่านแล้วเกลียดบาสจริงๆ เลวอะไรขนาดนั้นอ่ะะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 07-12-2018 06:30:51
 :110011: :z7:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 23-05-2019 18:54:29
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: nyxca ที่ 03-04-2020 08:44:26
ง่อวว น่ารักโครต คือตอนแรกหมั่นนังจัสมาผลักน้องเอของเลา หลังๆแบบละมุนอะเหมือนเป็นที่พึ่งให้กันและกัน ฟิลิปอีกคนที่โครตจะหมั่นแต่มาคดีพลิกตอนจบ แอบสงสารนางมากและหวังว่านางจะลุกกลับมาสู้ใหม่ได้ กอดฟิลลิป

ส่วนอิบาสเป็นคาแรคเตอร์ที่ไม่ควรถามหาเหตุผล ทุกการกระทำบัญญัติได้แค่คำเดียวว่าประสาทแดกมากของมากที่สุด ดีละจัสตินกลุดออกมาจากนังนี่ได้