[BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [BBoy Series] Dream...ขีดเส้นฝัน ในวันที่มีรัก  (อ่าน 104518 ครั้ง)

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ฆ่ามานนนนนนนนนนนนนนนน!!! :angry2:



ไม่ใช่เเละ นั่นมันอารมณ์บางระจัน 

เอ เอาคืนเลย มันทำเเสบเราต้องเเสบกว่า สู้ตายยยยยยยยยฮัดช่า~ :a2:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
มาแหล่ว แต่เช้า :oni1:
ร่าเริงรับวันใหม่
============================
- 12-

DREAM  ชื่อโครงการที่แผ่หราอยู่บนแผ่นโปสเตอร์ขนาดใหญ่ และติดเอาไว้ระหว่างทางเดินขึ้นตัวตึกทำให้เอมีนหยุดยืนมองขณะกำลังจะเดินผ่าน  นึกหมั่นใส้ภาพของเจ้าของโครงการที่ยิ้มร่าอยู่บนสื่อประชาสัมพันธ์แผ่นนั้น ในใจก็นึกค่อนขอดที่คนยิ้มช่างยิ้มได้ใสซื่อต่างจากตัวเป็นๆราวกับคนละคน 

เด็กหนุ่มเผลอแยกเขี้ยวทำหน้าล้อเลียนโดยไม่สนว่าคนที่ผ่านเข้าออกจะมอง จนกระทั่งหางตาเหลือบเห็นร่างคนที่อยู่บนโปสเตอร์ กำลังเดินลงมาทางเขาจึงตีสีหน้าเป็นปกติก่อนจะทำเป็นไม่เห็นเดินสวนขึ้นไปที่ตึก

“นึกเหรอว่าไม่เห็นทำอะไรไปเมื่อกี้” ฟิลิปดักคอเอาไว้ก่อน 

เอมีนหยุดยักไหล่กวนประสาทเหมือนไม่รู้เรื่องว่าฟิลิปพูดถึงอะไร

“มาทำไมอีก” ฟิลิปเริ่มถาม ซึ่งคำถามก็ไม่ได้ต่างจากที่เอมีนคิดไว้ 

เด็กหนุ่มจึงส่ายหัวเฉตอบประชด  “มาสมัครร้องเพลงไง ปิดประกาศซะแผ่นเท่าบ้าน อย่าบอกนะว่ายังไม่เปิดรับสมัคร”

ฟิลิปมองตามสายตาเอมีนไปที่โปสเตอร์โครงการของเขา แล้วหันกลับมายิ้มเยาะบอก

“อยากเป็นนักร้องจนตัวสั่นหรือไง เท่าที่เห็นวันรับสมัครไม่ใช่วันนี้”

เอมีนตะกุกตะกักนึกโมโหที่เสียเชิงให้ฟิลิปจนได้  แถมยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไรฟิลิปก็เดินย้อนกลับขึ้นตึกไปเสียก่อน ทิ้งแววตาสุดท้ายให้เขาต้องเจ็บใจในความอายที่ไม่อ่านข้อมูลให้ละเอียด



“เป็นไรน่ะจัสติน ดูเหมือนมีอะไรในใจนะเรา” อิ๋งอิ๋งเอ่ยถามจัสตินในระหว่างที่เจ้าตัวนั่งเตรียมตัวเข้าห้องอัดเป็นวันแรกกับงานชิ้นใหม่

“พี่อิ๋งรู้มั๊ยว่าบาสเข้าไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ฟิลิป”

 “ตั้งใจจะบอกอะไรพี่”

“มีเพื่อนผมคนนึงกำลังจะเข้าไปเป็นนักร้องที่นั่น”

“แล้วไง มันเกี่ยวตรงไหนกับที่บาสไปเป็นผู้จัดการให้ฟิลิป”

“พี่อิ๋งไม่สงสัยบ้างเหรอ ว่าทำไมอยู่ๆคนรักของผมถึงไปเป็นผู้จัดการให้กับคนที่สื่อยัดเยียดให้เป็นคู่แข่งผม แล้วเรื่องราวทุกอย่างมันเริ่มวุ่นวายเพราะผมบอกเลิกกับเขา”

“เธอกำลังจะบอกใช่มั๊ยว่าแฟนเก่าเธออยู่เบื้องหลังข่าวทั้งหมด”

“เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็นหรอก ทุกอย่างผมหวังว่ามันจะคลี่คลายตามแผนของบริษัท”

“แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เธอต้องมากังวลนั่งเครียดแบบนี้”

“ผมเป็นห่วงเพื่อนผม” จัสตินหลุดปากออกมา 

ใช่ว่าหลังจากที่วางสายจากเอมีนคืนนั้นเขาจะนอนหลับได้ลงเด็กหนุ่มนอนทบทวนเรื่องราวทั้งคืน ก่อนจะได้คำตอบที่คิดตรงกันกับเอมีนซึ่งป่านนี้กำลังเผชิญอยู่กับอะไรอยู่ เขาก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆบาสคงไม่ญาติดีกับเพื่อนใหม่ของเขาอย่างเอมีนแน่นอน

วันเวลาที่เรานั้นพบกัน
กับความรักที่เธอมีให้
หัวใจคนนี้ไม่อาจลืม
แต่ในความจริงที่มันยังนึกกลัว
อยากรู้ว่าเธอคิดยังไง
ถ้าหากวันนี้มีสิ่งอยากพูดไป
ได้ไหมเธอตอบฉันที
จะยังรักกันอยู่ใหมถ้าหากว่าฉัน
เปลี่ยนไปจากเมื่อวานที่เราพบกัน
ลำบากหัวใจแต่คงต้องพูดมัน
ว่าฉันนั้นเคยหลอกเธอ
รู้ฉันรู้ว่าเธอคงเสียใจ
และเสียดายวันเวลา
กับความรักที่เคยให้ามา
น้ำตาคนนี้คงพอทดแทน

   
เสียงปรบมือดังเกรียวจากทีมเพลงที่นั่งลุ้นอยู่ด้านนอกหลังจากที่จัสตินอัดเสียงร้องเสร็จ   ทุกคนลงความเห็นว่าผ่าน แต่กว่าจะถูกใจคนคุมร้องก็เล่นเอาคนร้องเหนื่อยไปหลายรอบ แต่คนเหนื่อยก็เข้าใจว่าทุกคนคาดหวังกับบทเพลงนี้  ว่าเป็นตัวชี้อนาคตของเขาที่จะทวงความเป็นหนึ่งกลับมา 

เด็กหนุ่มเห็นความตั้งใจของหลายๆฝ่ายจึงคลายความเครียดลงมาได้เรื่องงาน   แต่เรื่องของเอมีนเขายังห่วงอยู่ลึกๆ เพราะว่าว่าเขาคงหาโอกาสที่จะเจอกับคนนี้ได้ยากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ใช่ว่าจะหมดโอกาส อย่างน้อยๆเวลาที่หลายๆคนนอนหลับเขาก็คงจะได้ไปพูดคุยกับเอมีนตัวต่อตัวอีกสักครั้งทุกอย่างมี  ครั้งที่หนึ่งมันก็ต้องมีครั้งที่สองสิน่า

ออฟไลน์ YMP

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-2
กำลังจะมาเต้นเรียกคนโพสท์  โดนโพสท์ตัดหน้าซะก่อน

ไม่เป็นไร เต้นไปอ่านไปก็ได้  :a4:  :a3:  :a11:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
จัสตินเริ่มห่วงแล้วล่ะสิ 555

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
เหอ ๆๆ จัสติน หาช่องว่างแอบเจอกันยามดึกดื่น  :o8:

ออฟไลน์ momo_2007

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ว้าวๆ คืบหน้า (ไปนิดนึง) หุหุ  :a2:
แต่เรืองนี้ผมอดห่วงลึกๆ ว่ามันจะเป็นจัสตินแน่ป่าว ผมว่าฟิลิป มันอาจจะมีอะไรมากกว่านั้นน้าาา  :a5:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
มาทุกวัน ไม่มีเบื่อ
อิอิ รักคนอ่าน
==============================
จัสตินมองร่างนั้นผ่านกระจกรถ ร่างที่เดินดุ่มๆก้มหน้าก้มตาไม่สนใจใครตรงไปที่ทางเข้าของตัวตึก คนมองเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว  เขาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือเที่ยงคืนกว่าๆเอมีนเพิ่งจะกลับเข้าห้องหรือนี่  เด็กหนุ่มนึกเห็นใจในท่าทีร่อแร่ของคนเพิ่งกลับ  คงจะเหนื่อยมาเต็มทนแต่กระนั้นเขาก็ยังเห็นคนร่อแร่ยิ้มทักทาย รปภ หน้าตึกก่อนจะยื่นถุงบางอย่างให้  มองด้วยสายตาน่าจะเป็นขนมหรือของกินอะไรซักอย่าง 

คนมองรู้สึกดีกับภาพที่เห็น  บางทีเขาก็อยากเป็นผู้ให้กับคนรอบข้างอย่างที่เอมีนทำบ้าง  แต่ก็ไม่อาจที่จะทำได้เพราะสถานภาพของเขาไม่เอื้อที่จะไปให้อะไรกับใครได้ง่ายๆ  เอมีนเดินลับสายตาหายขึ้นตึกไปแล้ว  จัสตินผ่อนลมหายใจหมวกคู่กายถูกหยิบออกมาใช้อีกครั้ง 

เด็กหนุ่มก้าวลงจากรถหรูที่จอดซุ่มอยู่ตรงข้ามตึกที่เอมีนพักอยู่  สำรวจดูความเรียบร้อยก่อนจะเดินก้มหน้าไม่ต่างจากเอมีนเมื่อครู่ตรงไปยังตัวตึก  รู้ว่า รปภ คงมองแต่เขาไม่สนใจ  เข้าตึกได้ก็ตรงดิ่งเข้าลิฟท์ไปยังห้องของเอมีน  คนไม่สนใจใคร ไม่อาจรู้เลยว่าไม่ได้มีแค่สายตาของ รปภ เท่านั้นที่มองตามร่างเขา   ในมุมมืดใกล้ๆกับรถเขา   เก๋งอีกคันก็เคลื่อนออกไปทันทีที่ร่างเขาหายเขาไปในลิฟท์

เอมีนสะดุ้งสุดตัวเมื่ออยู่ๆมีมือโผล่มาช่วยเขาไขกุญแจห้อง หลังจากที่เขาเสียบผิดเสียบถูกเพราะตาใกล้จะปิดด้วยความอ่อนเพลียที่เดินเก็บเอกสารแทบทั้งวัน  แถมพีรพลยังอาศัยช่วงเวลาที่เมทีกลับบ้านนั่นคือนอกเวลางานลากตัวเขาไปคุยเรื่องงานที่ กว่าจะเสร็จก็ทำเอาเขานั่งทางในไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ

“ไปทำอะไรมา ตาจะปิดอยู่แล้วน่ะนาย” ปากก็บ่นแต่มือจัสตินก็จับกุญแจที่แย่งมาจากเอมีนไขประตูจนเปิดออก 

เอมีนไม่มีอารมณ์ที่จะซักถาม พอเห็นประตูเปิดร่างทั้งร่างตรงไปล้มนอนตรงโซฟา  เป็นหน้าที่ของจัสตินที่จะต้องปิดประตูล็อคห้อง  ก่อนจะเดินไปยืนเท้าเอวมองร่างที่หลับอยู่บนโซฟาที่ไม่รู้หลับ จริงหรือแกล้งหลับ  แต่คนมองก็นั่งลงเอามือแตะหน้าผากฝ่ายนั้นจนได้   เอมีนยังคงไม่รู้สึกตัวจากลมหายใจอุ่นๆที่สัมผัสได้ คนแตะหน้าผากส่ายหัวก่อนจะบ่นเบาๆ

“จะรอดมั๊ยเนี่ยนายเอมีน”  คนบ่นนึกชั่งใจอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่คนนอนหลับ สวมอยู่หวังเพียงที่จะคลายความอึดอัดให้

“พ่อ แม่”  เสียงพูดคล้ายละเมอของเอมีนทำให้จัสตินชะงักมือที่กำลังแกะกระดุมจนเม็ดสุดท้าย

เด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นกุมสัมผัสกับมือคนละเมอที่เอื้อมมือมาสัมผัสมือเขา ทั้งๆที่ตายังหลับอยู่ มืออีกข้างจึงเอื้อมไปปัดไรผมที่ปกคลุมตรงหน้าผาก นึกสงสัยเหมือนกันว่าครอบครัวของคนที่สัมผัสมือเขาอยู่ตอนนี้เป็นอยู่ยังไง เจ้าตัวเองก็ไม่เคยเอ่ยถึงเขาเองก็ไม่กล้าที่จะถาม แต่ถ้าเดาจากอาการตรงหน้าคนๆนี้น่าจะห่างเหินกับพ่อกับแม่น่าดู  เอาวะเป็นพ่อเป็นแม่คนสักคืนมันก็ไม่หนักหนาสาหัสตรงไหน คนเดาเหตุการณ์คิด ก่อนจะเอนตัวพิงโซฟาทั้งๆที่มือก็เกาะกุมอยู่กับมือคนละเมอ กระทั่งเผลอหลับไปอีกคน   แต่คนเผลอหลับก็ต้องตกใจตื่นขึ้นมา เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบที่นิ้วมือขึ้นมาจนสุดจะทน

“บ้าหรือเปล่าวะเจ็บนะโว้ย”  จัสตินตะคอกขึ้น เมื่อรู้ว่ามือตัวเองโดนจับฟาดกับพื้นห้อง 

คนโดนตะคอกหน้าเสียเมื่อเห็นคนตะคอก ยกมือตัวเองขึ้นมาดู เด็กหนุ่มสังเกตเห็นริ้วแดงชัดเจนอยู่บนนิ้วทั้งห้าของฝ่ายนั้น จึงรีบรีบขอโทษขอโพย

“มาเจ็บตัวแท้ๆ” คนเจ็บตัวบ่นอุบอิบไม่ฟังคำขอโทษใดๆจากคนขอโทษ

“ก็มันตกใจนี่  ร้อยวันพันปีเคยโดนกุมมือนอนซะที่ไหน ไม่กัดนิ้วขาดก็บุญแล้ว”
เอมีนเอ่ยว่าบ้าง เมื่อคำขอโทษเขาถูกเมินใส่   

“น้อยๆหน่อยเหอะ เป็นผู้หญิงจะไม่ว่าเลย ให้ตายสิหวงตัวไม่เข้าเรื่อง” คนโดนว่าสวนกลับ ซึ่งคนโดนสวนก็ไม่ยอมเช่นกัน

“ถ้าเป็นผู้หญิงมีเหรอนายจะกุม” จัสตินมองเอมีนตาเขียว เมื่อโดนฝ่ายนั้นย้อน

“ปากดีอย่างนี้คงไม่ต้องให้ห่วงแล้วมั้ง” คนตาเขียวเอ่ยบอก  เอมีนถามห้วนๆกลับตามนิสัย

“ห่วงอะไร”

“ก็ เปล่าพูดไปเรื่อยแหละไม่ต้องใส่ใจหรอก” จัสตินบอกปัด  แต่เห็นเอมีนมองเขาไม่วางตาต้องตวาดถาม

“มองอะไร”

“ไม่อยากให้มอง แล้วเข้าห้องเรามาทำไม”

“คิดไปถึงไหนแล้วนาย  ผ่านมาก็แค่แวะแปลกตรงไหนคนเคยรู้จักกัน”

“เหรอนี่เราต้องผิดหวังป่ะเนี่ย” เอมีนแกล้งยั่ว  ทั้งๆที่แอบน้อยใจอยู่ลึกๆ

จัสตินหันมาจ้องตา  เด็กหนุ่มถึงได้หลบวูบก่อนจะแยกตัวจะเข้าห้องน้ำ  แต่พอลุกขึ้นเห็นกระดุมตัวเองปลดลงจนจะเม็ดสุดท้าย จึงหันมามองจัสติน คนโดนมองร้อนตัวรีบบอก กลัวว่าคนมองจะคิดไปไกล

“อย่าคิดอะไรบ้าๆนะนาย”

“ใครเขาไปคิดอะไร ก็แค่จะถามว่าจะอาบน้ำก่อนมั๊ยก็แค่นั้น”  เอมีนว่าเข้าให้ 

จัสตินลอบถอนหายใจก่อนจะตอบตกลงแก้เก้อ แล้วเดินหยิบผ้าเช็ดตัวหายเข้าไปในห้องน้ำ   เอมีนมองตามแล้วก้มลงมองกระดุมตัวเองจัดการใส่ให้มันเข้าที่ก่อนจะนั่งลงคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

“จะนอนนี่เหรอ” เอมีนถามจัสติน เมื่อมองดูเวลาเห็นมันดึกพอที่จะนอนได้แล้วแต่เห็นจัสตินนั่งวางท่าอยู่อีกมุมหนึ่ง เขาก็ไม่รู้จะนอนได้ยังไงเลยต้องตัดสินใจถาม

“ไม่ให้นอนนี่ แล้วจะไล่ให้ไปอาบน้ำทำไม” จัสตินย้อน 

เอมีนอึ้ง เออกูผิดอีก เด็กหนุ่มคิดในใจก่อนจะลุกไปบอกคนย้อนให้ลุกออกจากโซฟาไล่ให้เขาไปนอนบนเตียง ส่วนตัวเองจะนอนที่ตรงนั้น จัสตินมองแต่ก็ไม่ยอมลุก   

เอมีนเลยต้องไล่ซ้ำ  “นั่งบื้อทำไมเล่า ไปจะนอน”

“กลัวโดนกัดหรือไง ทำยังกะไม่เคยนอนด้วยกัน  โซฟาก็ตัวแค่นี้ดิ้นสองทีเดี๋ยวก็ได้ตกลงไปนอนหลังหักบนพื้นกันพอดี”จัสตินแย้งแต่ก็โดนย้อนกลับจนได้

“ถ้าเป็นนายก็ว่าไปอย่างที่จะได้นอนดิ้นจนตกลงมาหลังหัก”

“อย่ามั่วเกิดมาไม่เคยนอนดิ้น”

“นายรู้เหรอว่าตัวเองไม่ดิ้น ไปๆๆอย่าพูดมากดึกแล้วขี้เกียจคุยง่วง”

“อะไรวะเพิ่งจะนอนตื่น  จะนอนอีกแล้วไปเหนื่อยอะไรมานักหนา”

“ก็แล้วจะมานั่งถ่างตาทำไมล่ะ  กลางคืนเขามีไว้ให้พักผ่อนไม่ได้ให้ามานั่งคุยกันเคลียร์มั๊ยคุณนักร้องดัง”

“ก็ถ้ากลางวันมันมาคุยด้วยได้ ก็ไม่ถ่อสังขารมาหาค่อนคืนแบบนี้หรอก” 

ความเงียบเข้ามาเยือนเมื่อจัสตินหลุดปากออกอย่างนั้น  สายตาที่มองกันต่างหลบวูบเมื่อต่างคนต่างอ่านความรู้สึกกันและกัน   มันเหมือนมีเยื่อบางๆกั้นกลางไม่ให้สองหัวใจได้เปิดประตูพูดกันอย่างที่ต่างคนอยากจะพูด   เอมีนก็ไม่อยากที่คิดว่าจัสตินจะรู้สึกอะไรกับตนในขณะที่จัสตินเองก็ยังขัดเขินที่จะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง

“ไหนบอกว่าเป็นทางผ่านไง” เอมีนยังคงหาข้อแย้งให้หัวใจไม่ต้องคิดมาก  จัสตินเองก็พูดซ้ำให้เยื่อบางๆที่กั้นความรู้สึกนั่นฉาบหนาขึ้นมาได้อีก

“ก็ถูกแล้วไง ถ้าไม่ผ่านจะแวะมาทำไมให้เมื่อย”  พูดจบก็ลุกเดินไปล้มนอนที่เตียงหันหลังให้โดยไม่แคร์ว่าคนฟังน้อยใจอยู่ลึกๆ  คนน้อยใจเดินไปปิดไฟ ก่อนที่คนนอนหันหลังให้ จะหันมาเห็นแววเศร้าในแววตาตัวเอง

ในความมืด จัสตินได้หันกลับมามองคนที่เลือกล้มตัวนอนบนโซฟา  เด็กหนุ่มรอจนแน่ใจว่าฝ่ายนั้นหลับไป จึงลุกขึ้นมาคลุมผ้าห่มให้แล้วพาตัวเอง ออกไปยืนรับลมนอกระเบียง

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
555 อย่าบอกนะ ว่าบาสแอบมาสอดแนม เอมีน กับ จัสติน อีก

ไอ้สารเลว  :angry2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
จัสติน พูดจาไม่น่าฟังอีกแล้ว มาหาเค้าถึงห้องแทนที่จะพูดดีๆเฮ้ออออออออออออออออ

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
เหนื่อยแทนอีกคน

เรื่องจะเป็นยังไงต่อเนี่ยยย...

 o2 o2 o2 o2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
เจอหน้ากันก็ทะเลาะกัน

แอบเห็นด้วยว่า บาส แอบมาสอดแนมแน่นอนเลย

วันรุ่งขึ้น เอมีน โดนแน่ ๆๆๆ  :m16:

ออฟไลน์ BIRD

  • บี เบิ๊ด นก ^___^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ขอบคุณค๊าบ

 :m23:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
 ในอีกมุมหนึ่งของเมืองหลวง บาสกำลังยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มแก้วต่อแก้วในผับหรู โดยไม่มีทีท่าที่จะมึนเมากับฤทธิ์แอลกอฮอล์เลยแม้แต่นิด 

อากาศภายในเย็นเฉียบแต่ข้างในชายหนุ่มกลับร้อนรุ่ม ภาพที่จัสตินเดินแกมวิ่งตามหลังเอมีนยังคงชัดเจนติดตา  จนเขาต้องหาที่ระบายก่อนที่คุมอารมณ์ร้ายที่ครอบงำจิตใจไม่อยู่ 

เขาจำต้องตามดูเอมีนเพื่อประโยชน์ในหลายๆอย่าง  ชายหนุ่มคิดว่าคนอย่างเอมีนคงเคี้ยวไม่ได้ง่ายๆ  ถ้าฝ่ายนั้นได้มีโอกาสทำเพลงขึ้นมา ก็คงจะทำให้นักร้องหลายคนร้อนๆหนาวๆได้ไม่น้อย  รวมทั้งฟิลิปเองก็เถอะแม้จะอยู่สังกัดเดียวกัน แต่ถ้าเอมีนเกิดดังขึ้นมา คนอย่างเมทีก็พร้อมที่จะลอยแพฟิลิปโดยไม่ต้องสงสัย นั่นก็หมายถึงผลประโยชน์ที่เขาจะต้องสูญเสียอย่างเลี่ยงไม่ได้

และยิ่งจัสตินเข้าไปสานสัมพันธ์กับเด็กนั่นถึงในห้องแบบนี้ จากที่เอมีนเคยเป็นแค่ม้านอกสายตาหรือเครื่องมือที่จะจัดการกับคนรักเก่าอย่างจัสติน วันนี้ชายหนุ่มจึงกลับมองคนๆนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจที่เขาจะต้องหาทางจัดการให้พ้นทั้งทางใจและผลประโยชน์  และคนที่จะเครื่องมือเขาก็คงจะไม่พ้นธีระ สองคนนี้ไม่ค่อยชอบหน้ากันมองแวบเดียวเขาก็รู้ จะเป็นไรไปถ้าเขาจะกระพือความเกลียดชังให้คนสองคนมากขึ้น  แบบที่อาจจะมองหน้ากันไม่ติดธีระหลงฟิลิปหัวปักหัวปำ ในขณะที่ฟิลิปไม่ค่อยลงรอยกับคนที่เป็นเกย์  ธีระถึงต้องหลบซ่อนๆตัวตนของตัวเองเพราะกลัวฟิลิปจะหมดความศรัทธา  แต่ถ้าธีระได้เห็นว่าเกย์อย่างเอมีนพยายามตามใกล้ชิดผูกพันกับฟิลิปเพราะเขาชักใยอะไรจะมันจะเกิดขึ้น เรื่องอื่นอาจจะยอมได้แต่เรื่องโดนเอมีนลูบคมเรื่องหัวใจธีระคงไม่อยู่เฉย  คนคิดแผนการมองแก้วในมืออย่างร้ายลึก


เช้าวันใหม่ จัสตินคิดที่จะออกไปก่อนที่เอมีนจะรู้สึกตัวอีกเหมือนเคย  แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองร่างนั้นที่นอนขดคู้อยู่บนโซฟา  อีกไม่กี่ชั่วโมงจากเช้านี้  ถ้าเอมีนได้ฟังวิทยุก็คงจะได้ยินเสียงของเขากับงานใหม่  นั่นก็หมายถึงพร้อมๆกับคนทั้งประเทศ

ถึงแม้เขาจะเคยผ่านมันมาแล้วกับความรู้สึกวันแรกที่เพลงเขาได้ถูกเปิดให้คนทั้งประเทศได้ฟัง  แต่ครั้งนี้วันนี้เขาก็อดที่จะกลัวไม่ได้  ครั้งที่แล้วเพลงเขาได้รับความนิยมตามที่หลายฝ่ายคาดไว้ จนส่งผลให้วันนี้เขามายืนอยู่บนจุดสูงสุดที่นักร้องหลายคนต้องการ แม้มันจะแลกมาด้วยการหลอกลวงอย่างที่บาสเคยว่าเขาไว้  แต่ในอีกไม่กี่ชั่วโมงแผ่นตัดเพลงแรกของเขากำลังจะถูกส่งให้กับทุกคลื่นวิทยุด้วยมือของเขาเองพร้อมคำสัมภาษณ์เปิดใจ 

และนี่คือสิ่งที่เขากลัว…..คนที่รักเขาจะรับเขาได้แค่ไหน ถ้าเขายอมเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง และคนที่นอนอยู่ตรงหน้าตอนนี้อีกล่ะ เจ้าตัวจะรู้สึกสงสารหรือสมเพชกันแน่นะ  ที่เขาเลือกวิธีนี้มาแก้เกมคนรักเก่าอย่างบาส

               

“อะไรกันนี่ฝั่งโน้นเค้ากล้าขนาดนี้เลยหรือไง” เมทีพึมพำออกมา เมื่อเพิ่งได้รับรายงานว่าตอนนี้เกิดความฮือฮาขึ้นมาอีกครั้งกับทางค่ายคู่แข่ง เมื่อหลายคลื่นวิทยุได้เปิดเพลงของจัสตินและคำสัมภาษณ์เปิดใจของเขาที่กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที จนเกิดความโกลาหลจากแฟนคลับที่ต้องการเช็คข่าวอย่างจ้าละหวั่น 

ทั้งทางคลื่นวิทยุและประชาสัมพันธ์ของต้นสังกัดจัสติน ต่างก็วุ่นวายประหนึ่งเหมือนโดนวางระเบิดไว้ตูมใหญ่  แฟนคลับต่างก็ช็อคไปครึ่งค่อนเมืองที่จัสตินออกมายอมรับตัวตนที่แท้จริงและขอโทษในเรื่องที่ผ่านๆมา  พร้อมกับยืนยันว่าตัวเองไม่ได้มั่วเซ็กส์ติดยาอย่างที่เคยมีกระแสก่อนหน้านี้  วอนให้ทุกคนมองที่ผลงาน

“บ้านี่พวกมันต้องบ้าแล้วแน่ๆ” เมทีหงุดหงิดหัวเสีย 

หนุ่มใหญ่ไม่คิดดีใจเลยสักนิดที่เรื่องมันเป็นแบบนี้  ตรงกันข้ามในใจเขากลับร้อนรุ่มสะท้านไปกับข่าวที่ได้รับเพิ่มเติมว่าตอนนี้เพลงของจัสตินกำลังจะสร้างปรากฏการซ้ำรอยเดิมเหมือนเมื่อคราวที่เพลงแรกของเขาถูกเปิด   

แผนที่ต้นสังกัดจัสตินวางไว้แก้เกมเขาครั้งนี้ เมทียอมรับว่ามาเหนือเมฆชนิดที่เขาคาดไม่ถึง  หนุ่มใหญ่รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่  เมื่อคิดว่าข่าวที่ปะโคมเรื่องจับผิดความเป็นเกย์มันคงทำลายชื่อเสียงจัสติน เพราะตอนนี้สายข่าวรายงานมาว่า จัสตินกำลังได้กำลังใจและแรงเชียร์ชนิดพลิกสถานการณ์

เมทีรีบเรียกประชุมทีมงานเดิมๆด่วน ตามนิสัยที่ทนให้คู่แข่งถือไพ่เหนือกว่าไม่ได้  แต่ครั้งนี้คนที่เขาเบนความสนใจกลายมาเป็นพีรพล หาใช่ธีระเหมือนคราวที่ผ่านๆมา

“อะไรกันคุณเมทีทำไมต้องกลัวฝั่งโน้นขนาดนั้นด้วย กะอีแค่คนที่หมดทางสู้แล้วดิ้นกันเฮือกสุดท้าย”  ธีระรีบแย้งทันทีที่เมทีเริ่มที่จะสนใจเอมีน เด็กของพีรพลขึ้นมา

“ดิ้นเฮือกสุดท้าย แต่ผลที่ออกมามันทำให้ผมอยู่เฉยไม่ได้หรอกนะ ธีระ  ผมเคยพูดไว้แล้วว่าเด็กนี่น่ากลัวกว่าที่เราคิด  เขาไม่ได้เหลาะแหละเหมือนเด็กของเรา ขอโทษนะที่ผมต้องพูดตรงๆ  แต่เด็กนั่นพูดอะไรหรือทำอะไรเขาก็เอาแฟนคลับอยู่หมัด  คุณก็เคยเห็นว่าคอนเสิร์ตเขาที่เราคิดว่ามันจะล่ม มันก็กลับไม่ล่ม”

“แต่หลังจากนั้นก็เป๋ไม่เป็นท่านี่ ยังไงฐานแฟนคลับผู้หญิงค่อนประเทศก็ยังคงชอบผู้ชายจริงๆอยู่ดีนะคุณเมที คิดดูดีๆนะ”

“ผมไม่ได้บอกว่าจะเจาะตลาดกลุ่มนั้นให้เอมีน”  พีรพลนั่งฟังอยู่อึ้งไปทันที 

เมทีหลุดปากเป็นเชิงว่าเอมีนอาจได้มีโอกาสทำเทป  ครั้งนึงเขาเคยพูดไปแล้วว่าฝ่ายที่จะแก้สถานการณ์กันให้วุ่นคือกลุ่มคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้ และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ ฟิลิปกับจัสตินกระดูกมันคนละเบอร์จริงๆ  เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจัสตินถึงเคยเพลี่ยงพล้ำให้ฟิลิปมายืนเทียบเคียงได้  ดูเอาเถอะคราวนี้ความเป็นซุปเปอร์สตาร์ของจัสตินคงจะเริ่มฉายแววปลุกวงการให้สะเทือนได้อีกรอบแน่ๆ หลังจากที่ครั้งนึงมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว

บรรยากาศในห้องนี้มันไม่ได้ต่างจากวันนั้นที่เมทีเคยทุบกลางโต๊ะประกาศที่จะดันฟิลิปมาต้านกระแสจัสติน  แต่คราวนี้เป้าหมายกลับกลายมาเป็นคนที่เคยอยู่นอกสายตาอย่างเอมีน

“ยังไงผมก็ไม่เห็นด้วย” ธีระยืนยันที่จะแย้งความเห็นผู้บริหารค่าย แต่ก็โดนตอบกลับจนเขาต้องพูดไม่ออก

 “แล้วผมจำต้องเห็นด้วยกับคุณงั้นหรือธีระ”

Gussohigh

  • บุคคลทั่วไป
สู้ๆ กานต่อไป  :a1:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
555 ฟ้าเปิดโอกาสให้เอมีนแล้ววววววววววววววว แต่เอมีนต้องมาเป็นคู่แข่งกับจัสตินนี้นะสิ น่าคิด

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
คิดแล้วกลุ้ม..

 o7 o7 o7

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
- 13 -

บรรยากาศในห้องประชุมตึงเครียดแต่เอมีนยังคงนั่งฮัมเพลงไปตามเรื่อง เด็กหนุ่มอาศัยครูพักลักจำ  ก็ตั้งแต่เซ็นสัญญาเขายังไม่เคยได้เข้าคอร์สเรียนอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน วันๆก็ได้แต่หอบเอกสารเดินไปเดินมาจนรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กฝึกงานมากกว่าศิลปินฝึกหัด แต่ก็นั่นล่ะที่ทนๆทำไปก็แค่รอดูสถานการณ์และแน่ใจอะไรบางอย่าง 

ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครรู้ว่าที่เขาต้องทนแบบนี้ ก็เพื่อปูทางที่จะทวงความถูกต้องคืนให้กับตัวเองและจัสติน


บาสย้อนกลับเข้าบริษัทเมื่อธีระโทรไปเล่าเรื่องราวที่เพิ่งผ่านการประชุมมาให้ฟัง โดยทิ้งฟิลิปอยู่กับทีมงานที่ออกไปดูสถานที่จัดคอนเสิร์ตกัน  อารมณ์ร้อนรุ่มแผดเผาในใจชายหนุ่มทันทีที่ได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมด  ประกอบกับอาการที่อึ้งเกี่ยวกับการแก้เกมของจัสตินที่ทำให้เขาแทบกระอัก การออกมาเปิดตัวแบบนี้ก็เท่ากับจัสตินไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป  ร้ายไปกว่านั้นกระแสสังคมกลับเข้าข้างซะเป็นส่วนใหญ่ แม้จะมีบางกลุ่มที่รับไม่ได้ก็เถอะ

ความเครียดถาโถมเข้าหาชายหนุ่มทวีคูณเมื่อเอมีนก็กำลังที่จะได้ทำเพลง ทุกอย่างที่วางไว้ผิดแผนไปเสียหมด  หนึ่ง คนที่เขาเคียดแค้นกับอีกคนที่เขาเกลียดชังกำลังจะผงาดกลายมาเป็นคนของประชาชนทั้งคู่  แล้วเขากับผลประโยชน์ที่คิดจะกอบโกยกับฟิลิปล่ะ ไม่ !!ทุกอย่างมันต้องไม่เป็นแบบนี้ บาสกัดกรามแน่นพลางคิดจะเริ่มแผนการที่จะสกัดกั้นไม่ให้ฝันที่วาดไว้ของเอมีนก่อตัวขึ้นมาได้ รวมไปถึงจัสติน เขาจะเป็นคนพังทลายความเป็นหนึ่งนั่นให้มันแหลกเหลวลงไปด้วยมือของเขาเอง

“ทำไมมันเกิดขึ้นได้ล่ะคุณธีระ” บาสสาดคำถามเข้าหาทันทีที่เจอตัวคนที่โทรเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง

“ก็ผมบอกคุณหมดแล้วนิ”

“บอกหมดแล้ว  เครดิตคุณไม่สามารถที่จะรั้งความคิดคุณเมทีได้เลยงั้นเหรอ”

“ผมเป็นลูกน้องเขานะ ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนคิดว่าเขาจะฟังผมเหรอ”

“ไม่มีน้ำยา” บาสด่าตรงๆสื่อถึงอารมณ์ร้ายที่เขากำลังควบคุมมันไม่อยู่ 

ธีระจ้องมองคนที่เขาเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยอย่างฉงน  แววตาของบาสร้ายกาจกว่าทุกครั้งที่เขาเคยเห็น

“แล้วจะให้ผมทำไง ผมไม่ได้ร้ายเหมือนคุณ”  บาสจ้องมองธีระนึกเหยียด

ธีระบอกตัวเองไม่ร้าย  แล้วที่ร่วมมือกับเขากำจัดจัสตินและกีดกันเอมีนจะให้เขาเรียกว่าอะไร

“ก็มัวแต่เป็นคนดีอย่างงี้ไงล่ะธีระ คุณถึงตามเด็กไม่ทัน”  ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยคำพูดแฝงปริศนา แน่ล่ะ เขากำลังจะเริ่มเกมกำจัดมารหัวใจ และผลประโยชน์

 “คุณหมายความว่าไงบาส” ธีระถาม เมื่อสงสัยในคำพูดที่ได้ยิน

“คุณน่าจะลืมตาและถอยตัวออกมาจากงานหน่อยนะธีระ  จะได้รู้ได้เห็นเหมือนอย่างที่ผมเห็นบ้าง อย่างว่าแหละเกย์สูงอายุหรือจะเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเท่าเกย์วัยกระเตาะในการล่อเหยื่อ”

“คุณพูดอะไรบาส”

“ไม่รู้จริงๆเหรอว่าเด็กคุณกำลังโดนจ้องตาเป็นมันจากเอมีน”

“คุณหมายถึงเอมีน กับฟิลิป”  ธีระเอ่ยออกมาเบาๆ  ยิ่งเห็นบาสไม่ตอบเขาก็ยิ่งมั่นใจ   

“คุณคิดไปเองหรือเปล่าบาส”ชายหนุ่มถาม

“มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าบังเอิญผมไม่ได้ใกล้ชิดกับฟิลิป จนสามารถรับรู้ความต้องการของใครต่อใครที่เข้าถึงฟิลิปรวมทั้งเอมีนด้วย”

“ก็ไหนคุณบอกว่าเอมีนเป็นเพื่อนกับจัสตินยังไงล่ะ”

“ความรักกับความใคร่มันต่างกันนะคุณธีระ  อย่าบอกนะว่าที่คุณเคยมีอะไรกับผมเพราะความรัก”  ธีระอึ้งเงียบเมื่อโดนบาสต้อนจนมุม เขารักฟิลิปแต่ก็เทียวมีสัมพันธ์กับนักเที่ยวไม่น้อยมาเช่นกันร วมทั้งคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา

“อีกอย่างเกย์ที่ไหนมันจะมายั่วยวนอารมณ์เกย์ได้เท่าชายแท้ล่ะคุณธีระ พูดแค่นี้ก็น่าจะเข้าใจนะว่าใครจะดึงดูดใจเอมีนมากกว่ากันระหว่างจัสตินกับฟิลิป  หรือคุณจะเป็นผู้เสียสละแล้วมองดูศัตรูหัวใจขึ้นมายืนเทียบเคียงคนรักก็ตามใจนะ  อย่าลืมนะว่าคนที่อยู่แวดวงเดียวกันแถมอยู่บริษัทเดียวกัน การออกไปไหนมาไหนคู่กันมันคงเลี่ยงไม่ได้แน่ๆ ลับตาใครต่อใครเอมีนคงไม่ปล่อยให้เนื้อหวานอย่างฟิลิปหลุดมือไปได้หรอก กลวิธีล่อเหยื่อของเกย์มีร้อยแปด  เผลอๆทำให้ชายแท้กลับใจมาก็หลายราย ไก่อ่อนอย่างฟิลิปคงจะเป็นหนึ่งในนั้นสักวัน  ถ้าคุณไม่คิดที่จะทำอะไร”  ธีระเหงื่อซึมแค่นึกจินตนาการไปตามที่บาสเป่าหู ชายหนุ่มแทบจะทนไม่ได้ เอมีน กำลังคิดที่จะจับฟิลิปงั้นเหรอ หึ มันไม่ง่ายนักหรอก


“อะไรนะพี่พล คุณเมทีนี่นะยอมที่จะให้ผมทำเทปแล้ว”เอมีนออกอาการดีใจ จนกระโดดเกาะแขนคนที่จะดูแลเขาในอนาคต เมื่อทราบข่าวดีจากเจ้าตัว

“ก็เออสิ มัวแต่ทำอะไรอยู่เหรอถึงไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น” เอมีนงงเมื่อพีรพลทิ้งปริศนาให้

“มีอะไรเหรอพี่พล ใครเป็นไร”

“ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก แล้วนายก็จะรู้เอง ไป วันนี้กลับไปก่อนเถอะ แล้วเตรียมตัวเข้าคอร์สแบบฟ้าผ่าไว้เลย” 

พูดจบพีรพลก็ส่ายหัว  มีเจ้านายใจร้อนมันก็ต้องร้อนตามเป็นธรรมดา  สงสารก็แต่แพะที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ นึกจะให้ทำอะไรแบบจานด่วนก็ทำ  ถ้ารุ่งก็ดีไปแต่ถ้าร่วงขึ้นมาก็เตรียมลอยคอได้อย่างไม่ต้องสงสัย  แต่คนตรงหน้าตอนนี้ ชายหนุ่มเชื่อว่าคงจะโดนลอยแพยากเอาการ  ยิ่งเห็นแววตามุ่งมั่นของเจ้าตัว ชายหนุ่มยิ่งมั่นใจ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เป็นกำลังใจให้เอมีน............ :a1:

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
บาสร้ายมากนะเนี่ย  :serius2: :angry2:

ออฟไลน์ SweetSerenade

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
บาสเลวเสมอต้นเสมอปลาย
 :เตะ1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
บาสเลวจริง ๆ เห็นคนอื่นได้ดีไม่ได้เลยนะ  :m16:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
วันนี้วันเกิด อารมณ์ดี
จัดให้ยาวๆ สะใจ 555+
=============================
ฟิลิปแปลกใจเมื่อธีระเดินทางมาดูเขาถึงสถานที่จัดคอนเสิร์ต โดยอ้างว่าบาสขอร้องให้ามาเพราะว่าติดธุระเร่งด่วน เด็กหนุ่มจึงออกปากแขวะอีกเหมือนเคย

“เป็นผู้จัดการที่เอาแต่เกาะกินจริงๆ”

“ท่าทางเราจะไม่ถูกกับบาสเลยนะ” ธีระหยั่งเชิง และคำตอบของฟิลิปก็ทำเขาสะอึก

“ผมไม่ค่อยชอบเกย์พี่ธีก็รู้ พวกนี้น่ารำคาญจะตาย”

“อืมเป็นบางคนหรือเปล่า”

“ส่วนใหญ่ผมก็ไม่ค่อยถูกชะตาหมดแหละ  พี่ธีมาแปลกนะชวนผมพูดเรื่องนี้ทำไม”

“ก็เปล่า  ใครๆเขาก็พูดว่าคนเรายิ่งเกลียดอะไรก็ยิ่งจะเจอไม่กลัวเหรอ”

“พี่ธีเชื่อคำพูดพวกนี้ด้วยเหรอ  เจอผมก็เลี่ยงแค่นี้ก็จบ”

“แต่ก็มีบางคนนะที่เราไม่เคยเลี่ยง”

“ใครเหรอ”

“เอมีน”  ชื่อที่หลุดออกจากปากของธีระ ฟิลิปหยุดชะงักนี่มันเรื่องอะไรกัน

“พูดถึงนายนั่นทำไมพี่ธี”

“อ้าวนึกว่าเราอยากฟัง” ธีระลองเชิง  ฟิลิปส่ายหน้าขำๆ

“บ้ากันไปใหญ่แล้วพี่ธี  ผมนี่นะอยากฟังเรื่องของนายนั่นคิดได้ไง”

“ระวังตัวไว้อย่างงี้ก็ดีอย่าให้พลาดท่าเสียทีขึ้นมาล่ะ จะกลายเป็นข่าวฉาวโฉ่เหมือนจัสติน”

“ไม่มีทางซะล่ะ  แค่ขนหน้าแข้งผมคนพวกนี้ก็ไม่มีทางได้เห็น”  คำพูดเปรียบเปรยของฟิลิปไม่รู้หนุ่มใหญ่อย่างธีระจะดีใจหรือเสียใจ ในเมื่อเขาเองก็รวมอยู่ในกลุ่มคนที่ฟิลิปกล่าวถึง

ทางด้านจัสตินหลังจากที่ตระเวนแจกแผ่นตัดเพลงแรกและคำพูดเปิดใจเสร็จ ก็กลับเข้าบริษัทพร้อมผู้จัดการสาวอย่างอิ๋งอิ๋ง  ทุกคนล้วนยินดีกับเสียงตอบรับที่กลับมาในแง่บวกมากกว่าแง่ลบ และที่จัสตินโล่งใจที่สุดคือครอบครัวที่ยอมเข้าใจและเห็นใจเขาขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเพลงที่เขาถ่ายทอด   แล้วอีกคนที่เขาอยากจะรู้ความรู้สึกล่ะ เด็กหนุ่มโทรหาคนๆนั้นทันที

“เอมีนเหรอ” จัสตินพูดทักทายเมื่อปลายสายรับสัญญาณที่เขาโทรเข้าไป

“ก็โทรหาใครล่ะ” เอมีนย้อนกลับ  ทั้งๆที่แอบดีใจอยู่ลึกๆ

“ถ้าย้อนชาวบ้านแบบนี้ก็คงไม่ผิดคนแล้วมั้ง”

“แล้วแต่จะคิดโทรมาทำไม”

“พูดจาให้มันดีๆหน่อยไม่ได้หรือไง ทำไมชอบถามจังห่ะว่ามาทำไม โทรมาทำไม   ชีวิตนี้ถามคนอื่นได้แค่นี้เองหรอกเหรอ”  จัสตินสั่งสอนออกไปอย่างสุดทน  เกิดมาไม่เคยเจอคนเล่นแง่เท่าเอมีนมาก่อนเลยต้องเอาซะหน่อยแล้วมันก็ได้ผลเมื่อเอมีนเงียบไปพักใหญ่จนเขาต้องถาม

“ยังอยู่หรือเปล่าเอมีน”

“อยู่แต่โดนนักร้องดังสั่งสอนเลยพูดไม่ออก”

“ก็ดีสำนึกตัวได้มันก็น่าให้อภัย”

“เออเอาใหญ่เลยนะ  แล้วไงจะไม่ถามมันก็อดไม่ได้โทรมาทำไม”  ถ้าเพียงได้เห็นหน้ากันเอมีนคงจะเห็นจัสตินยิ้มออกมาเพราะนึกขันที่เอมีนพูดมีหางเสียงขึ้น แต่เสียงที่ตอบกลับเขาก็พยายามให้มันปกติที่สุด

“ได้ฟังเพลงหรือยัง”

“เพลงอะไรนึกสนุกอะไรขึ้นมาเหรอคุณ”

“ก็ เพลงเราน่ะ” จัสตินบอกเขินๆ เอมีนนึกคิดวันนี้ขังตัวเองลักท่องตำราอย่างปิดหูปิดตาเลยไม่รู้เรื่องราวอะไร  จนพีรพลบอกให้กลับและก็เพิ่งจะได้คุยกับจัสตินเป็นคนแรก

“อะไรเพลงนายเหรอ  นี่อย่าบอกนะว่าออกมาอีกแล้ว”

“ก็ทำนองนั้น”

“หานี่กะจะกอบโกยกันไปสร้างกำแพงเมืองจีนล้อมตึกหรือไง  ชื่อเสียงเงินทองน่ะแบ่งๆชาวบ้านเขาบ้าง”  จัสตินสะดุ้งเอมีนยังคงพูดจาตรงไปตรงมาซะจนอึ้งได้เหมือนเคย

“เออไปหาฟังก่อนแล้วค่อยมาด่ากันปากไวฉิบหาย”

“มันมีอะไรพิเศษงั้นเหรอถึงอยากให้ฟัง”

“มันพูดยากอยากรู้ก็หาฟังเองละกัน แค่นี้นะต้องเข้าประชุม…คิด…”  จัสตินชะงักประโยคสุดท้ายที่เกือบจะหลุดปากบอก ดีที่ฉุกคิดได้รีบตัดสายทิ้งถ้าได้หลุดคำว่าคิดถึงออกไปคงได้อายถ้าเอมีนไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย  เอมีนถอนหายใจสุดท้ายที่จัสตินโทรมามันก็ไม่มีอะไรให้คิดเข้าข้างตัวเองอย่างว่าเขาก็แค่คนๆหนึ่งที่จัสตินหลงเข้ามาทำความรู้จักในวันที่หวั่นไหว  พอทุกอย่างเข้าที่คงไม่กล้าที่หายไปเฉยๆถึงได้วนเวียนอย่างเลื่อนลอยอยู่แบบนี้แต่สักวันสิ่งที่เขาเคยคิดไว้มันคงจะเกิดขึ้น เส้นขนานคงกำลังขีดคู่เข้ามาสู่ความผูกพันของสองหัวใจระหว่างเขากับจัสติน

เอมีนรับรู้เรื่องราวของจัสตินในเช้าวันต่อมา  เมื่อได้เห็นหนังสือพิมพ์ทุกฉบับพร้อมใจลงเรื่องราวของฝ่ายนั้น  เด็กหนุ่มอึ้งอยู่ชั่วขณะไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะออกมาเป็นแบบนี้   ทุกอย่างมันคงถึงที่สุดจนทำให้จัสตินตัดสินใจเสี่ยงยอมรับความจริงขึ้นมา  เด็กหนุ่มไม่นึกตำหนิจัสตินเลยสักนิดที่กล้าทำอะไรแบบนี้  อย่างน้อยก็น่าจะทำให้พวกที่แอบๆในวงการสะเทือนใจขึ้นมาได้บ้าง   

เด็กหนุ่มยังคงเข้าออกบริษัทตามปกติ  แต่คราวนี้มันแปลกไปจากเดิมเมื่อทางค่ายเริ่มที่จะให้เขาเรียนรู้อะไรที่เขาไม่เคยรู้กับการเดินบนเส้นทางขายเสียง  มันทำคนในเริ่มรู้แล้วว่าเด็กที่เคยเดินหอบเอกสารโทงๆอย่างเขาที่จริงเป็นศิลปินฝึกหัดของบริษัท 

ภาพเขาจึงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจากรอยยิ้มเป็นมิตรที่เห็นว่าเขาเป็นเด็กมาช่วยงานกลับกลายเป็นเสียงก่นด่านินทาประมาณว่านี่น่ะเหรอนักร้องคนใหม่ของค่าย  แต่คนถูกก่นด่าไม่ใส่ใจทำไมจะต้องเอาคำติฉินนินทามาบั่นทอนการตามฝันครั้งนี้ด้วยล่ะ  ใครจะมาไม้ไหนตราบใดที่ไม่ทำให้เส้นทางนี้สะดุดหรือขาดสะบั้นลง  เขาก็มองมันเป็นแค่เรื่องขี้ผงอยู่วันยังค่ำ

แต่คนที่เป็นตัวปัญหาสำคัญอย่าธีระและบาสก็ยังคงตามราวีเขาอยู่อย่างไม่ลดละนี่สิ คือปัญหา ส่วนกับฟิลิปเด็กหนุ่มรู้สึกเฉยๆไม่ได้คิดว่าคนๆนี้จะมีพิษสงอะไรแค่ปากร้ายไม่สมกับที่เป็นชายแท้ก็แค่นั้น  แต่แล้วคนที่เด็กหนุ่มคิดว่าไม่มีพิษสงกับนำความเดือดร้อนมาให้เขาจนได้  ก็ทันทีที่ฝ่ายนั้นได้รู้ว่าเขากำลังจะก้าวมาเป็นนักร้องร่วมค่าย  เจ้าตัวก็ออกอาการดิ้นพล่านๆที่เข้ามากระแนะกระแหนทุกครั้งที่เจอกับเขา  เผลอๆถึงเนื้อถึงตัวอยู่ก็บ่อยครั้งเมื่อหาทางทำให้เขาศิโรราบไม่ได้   เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนที่เคยประกาศปาวๆว่าไม่อยากเข้าใกล้เกย์หรือให้เกย์เข้าใกล้ถึงได้เป็นฝ่ายมาถึงเนื้อต้องตัวเขาเสียเอง  หลายต่อหลายครั้งที่เขานึกฉุน เมื่อโดนธีระเข้ามาหาเรื่องบ่อยๆว่าอย่าพยายามเข้าใกล้เด็กของตัวเอง  คนโดนต่อว่าไม่ได้รู้เลยว่าใครเป็นคนคอยชักใยให้เรื่องราวมันผิดจากความเป็นจริง  คนในบริษัทเริ่มที่จะมองว่าเขาตามล่าฟิลิปจริงๆดั่งที่ธีระให้ข่าว  ก็ใครจะคิดล่ะว่าผู้ชายจริงๆที่ไหนจะตามมาหาเรื่องราวีเกย์ได้   

ส่วนบาสพอใจอย่างที่สุด ที่ผูกเรื่องราวสานข่าวเสียๆหายๆให้เอมีนกลายเป็นเกย์ร่านได้สำเร็จในสายตาหลายๆคน โดยดึงธีระมาเป็นเครื่องมือ และดูเหมือนคนที่เป็นเครื่องมือจะหมดความอดทนเข้าแล้วด้วย  เมื่อข่าวเน่าๆของเหยื่ออย่างเอมีน โชยกลิ่นไปทั้งตึก  ฟิลิปกับเอมีนกลายเป็นประเด็นโต้เถียงขึ้นมาอย่าเลี่ยงไม่ได้ ว่าทั้งคู่เป็นคู่อริ หรือคู่ขากัน กันแน่


เมทีโยนแฟ้มประวัติเอมีนลงบนโต๊ะ หลังจากที่เรียกให้พีรพลนำมาให้ดูอีกรอบหนุ่มใหญ่ผ่อนลมหายใจ  ทำไมเขาถึงต้องเรียกให้พีรพลเอาแฟ้มนี่กลับมาดูอีกครั้งก็เพราะธีระนั่นเองที่ขอเข้ามาคุยกับเขาก่อนหน้านี้ ด้วยการยกเหตุผลร้อยแปดมาคัดค้านโปรเจคงานครั้งนี้  คนขอคุยชี้ทางเกี่ยวกับผลเสียผลได้กับการลงทุนไปกับเอมีนจนทำให้เขาลองพินิจดูเอมีนอีกครั้ง  อันที่จริงถ้าเขาจะยอมเปิดใจมอง   เด็กคนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักแต่ด้วยเหตุผลของธีระที่ว่ามันเป็นไปได้ยากที่คนๆหนึ่งประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าตัวเองเป็นอะไรกลางใบสมัครจะได้รับการยอมรับจากคนทั้งประเทศ 

พีรพลโดนเรียกเข้าไปพบทันทีที่เมทีตัดสินใจจะยกเลิกงานทั้งหมดที่ได้พูดคุยคร่าวๆไว้ก่อนหน้าเกี่ยวกับเอมีน  หนุ่มใหญ่รู้ว่าพีรพลคงเสียความรู้สึกแต่เพื่อชื่อเสียงของบริษัทเขาก็ต้องเลือกในสิ่งที่เขาคิดว่าถูกต้องในสายตาคนส่วนมาก

“คุณเมทีมีอะไรให้ผมทำหรือ”พีรพลถามด้วยรอยยิ้ม  รอยยิ้มที่เมทีเกิดลังเลในเรื่องที่จะพูด

“มีอะไรหรือเปล่าผมรับฟังได้นะถ้ามันเกี่ยวกับตัวผม” พีรพลเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นท่าทีลังเลของคนเรียกตัวเขาเข้าพบ  เมทีถอนหายใจมองสบตาคนตรงหน้าก่อนจะเอ่ยในเสียงที่คิดว่านิ่งที่สุด

“คุณพีรพล  ผมต้องขอโทษด้วยที่เรียกคุณมาวันนี้เพื่อแจ้งในเรื่องที่อาจทำให้คุณเสียความรู้สึก”

“เรื่องอะไรเหรอ” พีรพลเริ่มหวั่นๆในคำพูดนั่น  ยิ่งเมื่อพีรพลเอ่ยชื่อคนที่เขาคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมายิ่งทำให้เขาหน้าเสีย

“เรื่องเกี่ยวกับเอมีน”

“เอมีนทำไมเหรอ”

“ผมคงต้องยกเลิกงานทั้งหมดที่เราเคยคุยกันไว้”

“ทำไมล่ะ” พีรพลถามสวนขึ้นทันที  นี่มันอะไรกันผู้บริหารคนนี้กำลังเล่นอะไร ทำไมถึงได้คิดจะเอ่ยอะไรก็เอ่ยคิดจะทำอะไรก็ทำ

“ผมมาลองนึกดูแล้วมันไม่คุ้มที่เราจะเสี่ยง”

“แล้วทำไมถึงเพิ่งมานึกได้ล่ะ”  พีรพลยังคงสวนกลับรวดเร็วเหมือนใจคิด  เขาจะแคร์อะไรอีกล่ะในเมื่อถ้าครั้งนี้เขาทำให้เอมีนผิดหวังซ้ำสอง  เขาก็พร้อมที่จะก้าวออกจากค่ายเพลงนี้พร้อมๆกับเจ้าตัวเหมือนกัน

“คุณไม่ได้รับผิดชอบในหลายๆอย่างเหมือนผมคุณก็ไม่เข้าใจหรอกพีรพล  ว่าทุกอย่างที่ผมพูดที่ผมทำผมคิดแล้ว”

“อย่างงั้นเหรอ ประทานโทษนะถ้าวันนี้ผมจะพูดอะไรมีอยากจะพูด  ที่ผ่านมาผมเป็นพนักงานที่รับฟังความคิดเห็นและยอมรับในคำตัดสินของผู้บริหารมาโดยตลอดแม้ว่าผลที่ออกมามันจะเป็นยังไง”

“คุณหมายความว่าไงพีรพล”

“ผมเชื่อว่าการเซ็นต์สัญญาครั้งนี้ของเอมีนมันมีอะไรที่ผมไม่รู้แอบแฝงอยู่แน่นอน คงไม่ลำบากใช่มั๊ยที่เจ้าของค่ายอย่างคุณเมทีจะยอมคืนสัญญานั่นให้เอมีนและผมก็คงจะคืนสัญญาใจที่ผมผูกไว้กับที่นี่คืนคุณเมทีเหมือนกัน  ที่ผ่านมางานผมไม่เข้าตาคงไม่มีผลกระทบเท่าไหร่มั้งที่ผมจะก้าวออกจากบริษัทนี้ พร้อมๆกับเด็กของผม”  เมทีอึ้งไม่คิดว่าพีรพลจะเอาตำแหน่งหน้าที่มาผูกติดกับเด็กอย่างเอมีน โปรดิวเซอร์คนนี้มีฝีมือและก็เป็นหนึ่งในทีมงานที่ร่วมกันสร้างชื่อเสียงบริษัทจนเป็นที่ยอมรับมาจนวันนี้  การที่เจ้าตัวจะออกไปซักคนมันมีผลกระทบตามมาอย่างแน่นอน ถ้าเทียบกับธีระพีรพลเป็นคนที่สื่อมองว่าเป็นโลโก้ของบริษัทมากกว่ารายนั้น  มันคงเลี่ยงไม่ได้ถ้าสื่อจะกระหน่ำเรื่องสมองไหลครั้งนี้  และถ้าพีรพลเลือกที่จะไปอยู่กับค่ายคู่แข่งฝ่ายนั้นก็คงจะอ้าแขนรับอย่างเต็มใจ  ทำไมอะไรนมันวุ่นวายมากกว่าที่เขาคิดนะ   หนุ่มใหญ่จ้องมองคนตรงหน้าที่จ้องตอบเขาโดยไม่เกรงกลัวต่อคำตัดสิน

“คุณเป็นคนมีฝีมือนะพีรพล  คุณก็รู้ว่าผมคงไม่ยอมเสียคุณไปทำไมคุณถึงสนใจเด็กนั่นขนาดนี้ผมไม่เข้าใจ  หรือคุณสองคนมีอะไรกันมากกว่านั้น”  พีรพลอึ้ง  อะไรที่ทำให้เมทีคิดว่าเขากับเอมีนลึกซึ้งกันมากกว่าว่าที่โปรดิวเซอร์และนักร้องในคอนโทล

“ผมชอบในความมุ่งมั่นของเอมีน  คนๆหนึ่งที่ตามล่าฝันแม้รู้ว่ามันเป็นไปได้ยากเพราะอะไรคุณเมทีก็น่าจะรู้  ในเมื่อเรามีโอกาสอยู่ในมือ ทำไมเราไม่หยิบยื่นให้คนกลุ่มนี้ล่ะทำไมคนถึงตัดสินอะไรแค่เพียงลมปากของคนอื่น ผมไม่ได้พาดพิงถึงใครแต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย  ผมเห็นธีระเข้ามาหาคุณเมทีก่อนหน้านี้”  พีรพลบอกออกไปในที่สุด  เมทีหลบสายตาของเขา การที่ผู้บริหารโดนจับได้ว่าตัดสินอะไรเพราะน้ำลายของลูกน้องมันคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก

“เอาล่ะๆผมเข้าใจ  ยังไงผมขอคิดทบทวนอีกซักรอบหวังว่าคุณคงจะไม่ใจร้อนหรอกนะพีรพลไว้ผมจะให้คำตอบอีกที”

“เมื่อไหร่” พีรพลรุกหนัก  ในเมื่อเมทีทำให้ลูกน้องอย่างธีระไล่บี้ได้  เขาเองก็คงจะไม่เกรงใจอีกต่อไปเพราะในตำแหน่งหน้าที่  เขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าธีระ  เผลอๆอาจจะชัดเจนกว่าเสียด้วยซ้ำแต่เขาไม่ชอบที่จะเล่นบทบาทนั่นเท่านั้นเอง

“เร็วที่สุด”เมทีบอก

“ระหว่างที่รอคำตอบ ถ้าผมจะเปิดรับข้อเสนอของค่ายอื่นในการดึงตัวผมไปร่วมงานคงไม่ผิดระเบียบบริษัทนะ”  พีรพลทิ้งท้ายคำพูดเอาไว้จนเมทีอึ้งจุกขึ้นมาที่อก  นี่เขาบริหารงานไม่ได้เรื่องถึงขนาดลูกน้องกล้าที่นึกจะพูดอะไรก็ได้ยังงั้นเหรอ  พีรพลเองก็รู้สึกผิดที่กล้าต่อรองกับคนที่เป็นถึงเจ้านาย  แต่เมื่อมันถึงที่สุดคนเราก็ย่อมทำอะไรโดยไม่ใส่ใจความถูกต้องนักหรอก

เอมีนสังเกตเห็นว่าพีรพลดูจะผิดปกติและเครียดไประหว่างดูเข้าซ้อมเพลง เด็กหนุ่มพาลนึกไปว่าตัวเองร้องไม่ได้เรื่องถึงทำให้โปรดิวเซอร์กุมขมับจึงพักซ้อมและเข้าไปพูดตรงๆกับพีรพล

“ผมร้องไม่ดีหรือพี่พล”พีรพลมองหน้าเอมีน  เขาไม่ได้ฟังด้วยซ้ำว่าเอมีนซ้อมไปถึงไหนเพราะมัวแต่คิดไปถึงเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้บริหารเรียกไปพบ

“เปล่านี่ก็ใช้ได้ไปร้องใหม่ไป”ชายหนุ่มฝืนยิ้มแต่แววตายังคงซ่อนแววหม่นไว้ไม่อยู่  เอมีนสังเกตเห็นเลยถาม

“พี่พลมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

“เปล่านิทำไมเหรอ”

“สองครั้งแล้วนะที่ตอบผมว่าเปล่า  รู้มั๊ยว่าคำพูดนี้คือคำตอบที่คนมีเรื่องกลุ้มใจแต่พูดไม่ได้”

“เรียนจิตวิทยามาหรือเรา”

“ก็พอจะอ่านใจใครๆออกบ้างแหละ”

“งั้นเหรอ อืมพี่ก็มีเรื่องให้คิดจริงๆแหละแต่อย่าใส่ใจเลยตั้งใจซ้อมเหอะเรา”

“ผมจะซ้อมได้ไงล่ะในเมื่อโปรดิวเซอร์ไม่ได้ฟังที่ผมร้อง”อีกครั้งที่พีรพลอึ้งที่เอมีนเดาสถานการณ์ออก

“โทษที งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนมั๊ยหรือจะซ้อมไปเรื่อยๆก็ตามสะดวกพี่คงต้องกลับก่อนมันมึนๆไงไม่รู้”

“ถ้างั้นก็กลับบ้านดีๆนะขับรถระวังด้วยนะผมเป็นห่วง”  เอมีนพูดออกจากใจจริง รู้ว่าพีรพลคงเหนื่อยกับเรื่องตัวเองมากอยู่ไม่น้อย วันนี้ก็คงจะเหมือนกัน  เด็กหนุ่มเดาเอาว่าพีรพลคงโดนตามราวีอะไรซักอย่างจากคนที่ไม่ประสงค์ดีกับพวกเขา ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ใครหรอก นอกจากบาสกับธีระ 

หลังพีรพลกลับไปแล้ว เอมีนนั่งคิด นี่มันคงถึงเวลาแล้วมั้งที่เขาจะเป็นฝ่ายตามราวี คนนิสัยอันธพาลเหล่านั้น  เด็กหนุ่มภาวนาให้ธีระยังอยู่ที่ตึกนี้หรือถ้าบาสจะกลับเข้ามาสมทบอีกคนมันก็คงจะดีไม่น้อย  คนพวกนี้วอนเองก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อราวีไม่มีสิ้นสุดเขานี่แหละที่จะหยุดการกระทำที่พาลไม่เลิกของพวกมันเอง บางครั้งคนเราก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนดีเสมอไป

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
วุ่นวายจริงหนอ กับ ชีวิตเอมีน

พาร์ทแรกเป็นส่วนของจัสตินซะเยอะ

มาครึ้งหลัง (เดาเอา) เริ่มมาเน้นที่เอมีนแล้ว

เมื่อไหร่ จัสติน+เอมีน จะบอกรักกันสักทีเนี่ย หุหุ  :o8:

แล้วใครจะเป็นนายเอกและนายเอก หุหุ  :m1:

ก็ได้แต่รอต่อปายยย  :mc4:

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
โหะๆๆๆๆๆๆ

มาเชียร์เอมีนจัดการวายร้ายยยยยยยย...

 :a2: :a2: :a2: :a2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ย้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยค่ายไปเลย แล้วกลับมายำมัน

ออฟไลน์ YMP

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-2
มาแต่เช้า  :m1:
รออ่านเอมีนตีโต้

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้รีพลายน้า  :o8:
ลำบากมาก  o2 เนตหลุดทุกครั้งเมื่อเปิดได้ 1หน้า

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
- 14 -

สายตาคนที่ยืนจ้องอยู่ระหว่างทางที่เชื่อมต่อเพื่อลงไปลานจอดรถชั้นใต้ดิน ทำให้ธีระจ้องมองตอบอย่างนึกสงสัย 

ท่าทางเอมีนคงมีเรื่องที่จะคุยกับเขาไม่อย่างนั้นคงไม่มายืนดักรอในทางเปลี่ยวที่ไม่มีใครสัญจรนักอย่างนี้  แต่เอมีนก็แค่เด็กเมื่อวานซืนเรื่องอะไรที่เขาจะต้องเสียเวลาเสวนาด้วย

“นัดกับคุณวรกาญจ์ไว้เหรอ”  เอมีนเปิดฉากดักคอเอาไว้  เมื่อเห็นคนที่เขาอุตส่าห์ห์ยืนรอทำท่าว่าจะเดินหนีเขาไป   ธีระชะงักเด็กนี่ท่าจะมีเรื่องคุยกับเขาจริงๆ

“เธอมีอะไรจะคุยกับฉัน”หนุ่มใหญ่หยุดถาม

“คิดถึงเป็นการส่วนตัวมั้ง”  เอมีนยิ้มกวน  พลางเดินเข้าไปหา   

ธีระแปลกใจกับท่าทีที่เห็นนั่น จะไม่ให้แปลกใจได้ยังไงล่ะ  เมื่อแววตาและน้ำเสียงของเอมีนไม่ได้เจือด้วยความเป็นเด็กเมื่อวานซืนเลยซักนิด

“ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมากนะเอมีน  ถ้าเธอแค่จะมากวนประสาทฉัน กลับบ้านไปดีกว่า  นี่มันก็เย็นมากหรือว่ายังซ้อมเพลงไม่ถึงไหน อย่างว่าคนไม่มีพื้นฐานมันก็น่าจะยากหน่อยนะที่จะร้องได้ดีถึงขั้นที่จะทำเทปได้”

ธีระยิ้มเยาะ  การที่เด็กรุ่นน้องจะมาเล่นลิ้นกับเขามันไม่สมควรเลยซักนิด แต่เอมีนก็กล้ามากกว่าที่เขาคิด เมื่อเจ้าตัวได้ยิ้มเหยียดตอบกลับมา  หนุ่มใหญ่ถึงกับโกรธขึ้นมาจนต้องตวัดเสียงถามกลับ

“เธอคิดว่าเธอยืนอยู่กับใครเอมีน กิริยาที่เธอทำมันสมควรแล้วเหรอ”

“รู้ตัวด้วยเหรอว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ที่มีมันสมอง ระดับโปรดิวเซอร์อันดับต้นๆของค่าย”
เอมีนสวนกลับอย่างไม่ลดละพลางเดินเข้าไปชิด

วันนี้ถ้าเคลียร์ปัญหากับคนพวกนี้ไม่ได้เขาก็ไม่คิดว่าเมทีจะเอาเขาไว้อยู่แล้ว  มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะกับที่เขาต้องทนอยู่แบบไม่มีรู้ชะตาว่าชีวิตตัวเองจะโดนจับโยนไปทางไหนจากน้ำลายคนตรงหน้า

“ผมอยากรู้ว่าคุณมีปัญหาอะไรกับการที่ผมจะมีงานเพลงออกมา”เอมีนถามต่อตรงๆจนคนฟังอึ้งไม่คิดว่าเด็กหนุ่มที่เขาคิดจะกำจัดจะรู้ทันสิ่งที่เขาวางแผนไว้

“เธอพูดอะไร  การตัดสินใจทุกอย่างอยู่ที่คุณเมที ถึงฉันจะมีปัญหาอะไรก็ไม่มีสิทธิที่จะแย้ง” ธีระบอกปัดแต่เอมีนไม่ได้คล้อยตามเลยแม้แต่นิด

“แน่ใจเหรอที่คุณพูด ผมจะถือว่าผมได้ยินจากปากคุณเองนะว่า การตัดสินใจทุกอย่างอยู่ที่คุณเมที”

“แล้วเธอมั่นใจงั้นเหรอว่า คุณเมทีเขาจะหูหนวกตาบอดคว้าคนอย่างเธอมาทำเพลง”

“แล้วคุณคิดงั้นเหรอว่าผมจะหูหนวกตาบอดจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร”

“เธอหมายความว่าไง”

“อะไรล่ะที่คุณกำลังคิดจะทำและทำมันมาแล้ว”

“ฉันไม่ได้คิดทำอะไรและเคยทำอะไรทั้งนั้น”

“อ้อ ผมลืมไปคุณก็แค่ผู้ร่วมกระทำไม่ใช่คนต้นคิด”

“นี่เธอจะมากล่าวหาอะไรก็ระวังปากไว้นะเอมีน อย่าคิดนะว่าฉันจะไม่กล้าฟ้องคนอย่างเธอ”

“ผมไม่เคยคิดว่าคุณจะไม่กล้าทำอะไรที่ผู้ใหญ่มีสมองทั่วไปเขาไม่ทำกัน”

“เอมีน…!!!!” ธีระเผลอตัวตวาดเสียงดัง เมื่อรู้สึกสุดทนกับท่าทีและคำพูดยอกย้อนของเด็กหนุ่มตรงหน้าแต่อาการเสียงดังของเขา ก็ไม่เห็นว่าเอมีนจะสะท้าน ชายหนุ่มจึงขบกรามแน่นพยายามข่มอารมณ์ร้ายที่กำลังจะปะทุ

“อย่าคิดว่าผมจะไม่รู้อะไรนะคุณธีระ  ที่ผ่านมาผมยอมให้พวกคุณมองผมอย่างสมเพชมาตลอด  ตลกใช่มั๊ยล่ะที่เห็นผมหลงดีใจกับกระดาษสัญญาหลอกลวงนั่น ที่แท้จริงมันก็เป็นเพียงเครื่องมือทำร้ายคนๆหนึ่งที่ขัดทางผลประโยชน์พวกคุณ  คงดีใจกันสินะที่ทำสำเร็จแล้วไงล่ะจัสตินเขาไม่ได้สะท้านไปกับความสกปรกของพวกคุณเลยซักนิด  ถึงผมจะออกมาปกป้องแสดงความบริสุทธิ์เขาไม่ได้  แต่วันนี้คงเห็นแล้วสิว่าคนดีๆยังไงก็มีคนศรัทธา”

“เธอจะมาจับเรื่องราวผูกโยงมั่วๆอย่างนี้เพื่ออะไรเอมีน  ฉันขอเตือนนะว่าฉันฟ้องเธอได้ในข้อหาหมิ่นประมาท”  ธีระชี้หน้าตวาดเอมีน กลบเกลื่อนความเครียดของตัวเองเมื่อเอมีนจับทางเรื่องราวได้ถูก ความเครียดจี๊ดขึ้นสมองอีกเมื่อเอมีนปัดมือเขาออกและบอกอย่างเยือกเย็น

“ก็เอาสิถ้าคิดว่าคุ้มกับการโดนแฉพฤติกรรมเน่าเฟะของคุณ”

“ฉันไม่เคยทำอะไรเสียหายเธอจะมาแฉอะไรฉันได้”

“หลอกตาใครได้ แต่หลอกตาผมไม่ได้หรอก  เรามันเหมือนๆกันยอมรับตัวเองเถอะคุณธีระ”

“เธอหมายความว่าไง”

“ก็หมายความถึงรสนิยมเราไงคุณพี่ธีระ” เอมีนยั่วหนักขึ้น  ส่งผลให้คนฟังถึงกับหน้าถอดสี  ไม่มีทางที่ใครในตึกนี้จะล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขานอกเสียจากบาส  แล้วเด็กบ้านี่มาพูดจาเหมือนรู้อะไร   

ธีระเผลอตัวเข้ากระชากคอเสื้อเอมีนอย่างลืมตัวแล้วตะคอกถามด้วยแววตาที่ฉายแววโกรธกึ่งหวาดกลัวออกมาชัดเจน

“เธอรู้อะไรเอมีนเธอรู้อะไร”

“ทำไมเหรอนึกกลัวขึ้นมาเหรอว่าธาตุแท้ตัวเองจะโผล่มาประจานสังคม  สร้างภาพตัวเองสวยหรูดูดีน่าศรัทธานักนิแต่ดันปิดหางไม่มิด”  พูดจบเอมีนต้องล้มกลิ้งไปที่พื้นตามแรงผลักของธีระ 

เวลาหลังเลิกงานแบบนี้คงไม่มีใครที่จะมาเห็นเหตุการณ์  หนุ่มใหญ่ย่างสามขุมเข้าไปหาเอมีนอย่างคนเสียสติ   เอมีนยังคงยันกายลุกขึ้นไม่ได้เมื่อรู้สึกว่าข้อเท้าจะไปครูดกับพื้นซีเมนต์หยาบๆที่รอซ่อมแซมจนเป็นแผลถลอกเลือดซึม   แต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังคงจ้องตาคนเดินเข้าหาไม่ถอย  ในสถานที่แบบนี้ธีระจะกล้าทำอะไรเขาได้นอกจากขู่ให้กลัว  แต่ไม่มีทางซะล่ะเด็กหนุ่มยังตั้งปณิธานเดิมว่าจะหยุดพฤติกรรมก่อกวนเส้นทางฝันของเขาจากธีระด้วยวิธีที่เขามั่นใจว่าหนุมใหญ่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินออกจากเกมนี้

“อย่าคิดที่จะอวดดีกับฉันเอมีน  เธอมันก็แค่เด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม  เมื่อเทียบกับฉันแล้ว เธอจะพูดอะไรให้น้ำลายหมดปาก ก็คงจะไม่มีใครเชื่อเท่ากับคำพูดคำเดียวของฉัน”

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
อ้ว เอมีน สุด ๆ ไปเลย ให้มันได้อย่างนี้สิ  o13 :เตะ1:

dark789

  • บุคคลทั่วไป
มันส์ พะยะค่ะ

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
เอมีน สู้ๆ เอาคืนให้เเสบเลย :oni1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด