บทบาทที่14
"ไอ้ซิน วันนี้ทำอะไรดีวะ กูว่าจะปิดร้านว่ะ"ไอ้เก่งถามผมในขณะที่กำลังนั่งเล่นเกมเพลย์กับไอ้เสกอยู่
"เมื่อเช้ากูโทรไปหาไอ้บิว มันบอกว่าป๊ามันให้มันเฝ้าร้านมันเลยมานี่ไม่ได้ ส่วนไอ้นุ้ยมันนัดแฟนไปดูหนังว่ะ"ผมบอกไอ้เก่งเเต่ตายังจับจ้องหน้าจอทีวี
"นั่งเล่นเกมมันทั้งวันนี่แหละกูขี้เกียจ"ไอ้เสกพูด
"ใจคอมึงจะไม่ออกไปหาอะไรกินเลยใช่ไหมเนี๊ยะ"ไอ้เก่งส่ายหัวไปมา
"ขี้บ่นว่ะ"ไอ้เสกเบะปาก
"เนอะ"ผมสมทบ
"เอากันเข้าไปพวกมึง รีบๆไปอาบน้ำเลยไอ้ซิน เดี๋ยวกูหาเสื้อผ้าให้"
"โหยไรวะ กูเล่นอยู่นะเนี่ย"ผมบ่น ไอ้เก่งไม่ฟังเเถมยังทำหน้าตาดุใส่
"มึงเป็นพ่อกูหรือไงวะเนี่ย เเม่งไปก็ได้วะ"พูดเสร็จผมก็ลุกเดินเข้าห้องน้ำ ผมมองเเผลที่มันเเห้งเเล้ว ถึงหลิงบอกว่าห้ามโดนน้ำตอนนี้เเต่ตัวเองก็ทนไม่ไหวแล้ว เลยต้องอาบน้ำเเละออกมาให้เพื่อนๆล้างเเผลให้ พอเพื่อนผมมันเห็นแผลมันถึงกับตาโตกัน
"ขนาดนี้เลยหรอวะ"ไอ้เก่งเช็ดเเผลตามรอยเย็บ
"แสบอ่ะ"ผมบ่นหน้าเเหย
หลังจากแผลเเห้งผมก็เเต่งตัวเพื่อที่จะได้ออกไปทานข้าวเช้าตอนเก้าโมง
"กูยืมเเว่นกันเเดดด้วยนะไอ้เก่ง"พูดเสร็จผมก็ใส่ หึหล่อจริงๆเลยเรา
"หล่อไม่เสร็จนะมึง"ไอ้เสกเเซว
พวกผมออกมาหาอะไรทานตามข้างถนน ผมเลือกที่จะทานอาหารตามสั่ง พวกมันเลยต้องจำยอมกินอาหารตามสั่งเหมือนผม เพราะร้านอื่นๆก็ยังไม่เปิด เเละบางร้านที่เปิดตั้งเเต่เช้า ของก็หมดจนพวกผมที่กำลังหิวจนท้องกิ่วเรียกร้องให้หาข้าวใส่ท้องไวๆ
"ไอ้เสก มึงสมัครงานเขายังไม่เรียกมึงอีหรอวะ"ผมถามมันพลางทานข้าวไปด้วย
"ยังว่ะ ไปสมัครหลายที่เเต่ยังไม่มีใครเรียกคงต้องรอต่อไป"ไอ้เสกยักไหล่เเล้วทานข้าวต่อ
"มึงมาขายเสื้อกับกูอ่ะดีละ ไม่ต้องไปเป็นขี้ข้าใครด้วย"ไอ้เก่งชวน ไอ้เสกเหลือบมองเเล้วยิ้ม
"กูไม่อยากขัดผลประโยชน์กับมึง ลำพังมึงยังได้บ้างไม่ได้บ้าง ยิ่งกูไปเอี่ยวเดี๋ยวก็ไม่มีจะเเดกกันพอดี"
"แต่กูว่ามันก็ดีนะ มึงก็ลองหาอย่างเพิ่มดูดิ่เผื่อจะดึงดูดลูกค้าบ้าง"ผมเเนะนำ
"แล้วมึงละซินจะทำอะไร ตอนนั้นมึงวาดภาพขาย เเต่มึงก็ยังได้เงินจากเเม่มึงอยู่ เเล้วตอนนี้ต้องพึ่งตัวเองจะไปรอดไหมเนี่ย"ผมยิ้มเเหยๆ
"เงินเก็บกูก็เริ่มใกล้หมดเเล้วล่ะวะ สงสัยต้องหาอะไรทำบ้าง"ผมบ่น รู้สึกเงินในบัญชีจะเหลือไม่ถึงหมื่นด้วยซ้ำ
"อย่าเพิ่งคิดเหอะ เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะมึงไอ้ซิน"ไอ้เก่งบ่น ผมพยักหน้า
หลังจากทานข้าวจนอิ่มพวกผมก็เตรียมตัวที่จะไปเดินเล่นที่สยามพารากอน นักรถไฟฟ้าไม่นานก็ถึง
"ไปดูหนังกันป้ะ"ไอ้เก่งชวนพวกผมที่กำลังเบื่อๆก็อือออ เเละไปดูโปรเเกรมหนัง พอเลือกเสร็จสรรพก็เหลือเเค่รอเวลา
"กูไปห้องน้ำก่อนนะ ปวดฉี่ว่ะ"ไอ้เสกเดินไปทางห้องน้ำทันทีที่พูด
"กูก็ปวดมึงนั่งรออยู่นี่ก่อนนะซิน"ผมพยักหน้าให้มัน และยังคงนั่งรออยู่ที่เก้าอี้หินอ่อน ใครผ่านไปผ่านมาก็มักจะมองมาที่ผมตลอด เเต่ผมไม่สนใจเพราะชินกับเรื่องถูกมองซะเเล้ว
"เธอ หน้าคุ้นๆนะ"เสียงคุ้นๆทักผม ผมหันไปมองก็เจอผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูคุ้นหน้าจนผมตกใจ เลยต้องถอดเเว่นออกเพื่อมองให้เเน่ใจ
"พี่แพร!"พี่เเพรทำหน้าตกใจที่เห็นผม ผมเองก็แปลกใจไม่น้อยที่เจอพี่เเพรที่นี่
"ซิน ซินหรือเปล่าใช่ซินจริงๆหรอเนี่ย"เธอกุมมือเเล้วเขย่าผมเเละสวมกอดเเสดงอาการดีใจเพราะเราไม่ได้เจอกันนานมาเกือบสิบปี
"พี่เเพร พี่มาอยู่นี่ได้ไง"ผมถามด้วยความตื่นเต้น พี่เเพรเป็นลูกสาวคนเดียวของอาผมที่โกงเงินเเม่ แต่เธอหนีออกจากบ้านไปหลายปีก่อน เพราะทนไม่ไหวที่ถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ มันทำให้ผมแปลกใจที่ได้เจอเธออีกเเถมในสถานที่ท่องเที่ยวเเบบนี้
"พี่ว่าเราไปคุยกันทางอื่นเถอะ ตรงนี้มันโจ่งเเจ้งเกินไป ปะ"พี่เเพรรีบดึงผมให้เดินตามผมเองก็ไม่รอช้า รีบเดินตามพี่เเพรทันทีส่วนพวกเพื่อนๆเดี๋ยวค่อยโทรบอกมันอีกทีเเล้วกัน พี่เเพรพาผมเดินมาที่ลานจอดรถของที่นี่ก่อนจะให้ผมขึ้นรถเเละขับออกไป พี่แพรพาผมมาที่บ้านหลังหนึ่งผมคิดว่ามันคงจะเป็นบ้านของเธอ
"รีบเข้าไปก่อนจะเดี๋ยวมีใครมาเห็น"พี่เเพรเปิดประตูรั้วเเละให้ผมเดินเข้าไป พอผมเดินเข้าไปก็เจอเด็กลูกครึ่งกำลังนั่งวาดรูปอยู่เด็กผู้ชายมองหน้าผมเเบบแปลกใจ
"ม่ามี๊ นี่ใครหรอ"เด็กน้อยถามแม่ของเขาทันที พี่แพรยิ้ม
"นี่น้าซินจ้ะ เจเจ เดี๋ยวแม่ขอคุยธุระกับน้าก่อนนะลูก อย่ากวนนะคั๊บ"เด็กน้อยพยักหน้าเเละหันไปสนใจกับรูปวาดต่อ
"นี่ลูกพี่หรือ"ผมทำหน้าประหลาดใจ พี่เเพรพยักหน้า
"จ้ะ เจเจลูกของพี่ ซินคงตกใจสินะ"พี่เเพรพูดกึ่งหัวเราะ เธอให้ผมนั่งลงรอที่โซฟา ส่วนเธอก็เดินกลับไปปิดผ้าม่านที่ประตูหน้าบ้านซึ่งเป็นกระจกเเล้วกลับมานั่งข้างๆผมเเล้วกุมมือผมไว้
"พี่ดีใจมากเลยที่ได้เจอซิน รู้ไหมตั้งเเต่พี่กลับมาพี่ไม่กล้าไปที่บ้าน เเละไม่กล้าไปหาซินเลยพี่กลัวเเม่ซินจะผลักไสพี่เเละจะไม่ฟังสิ่งที่พี่จะบอก ป้าเเก้วเธอยิ่งเป็นคนเอาแต่ใจด้วย มันทำให้พี่ลำบากที่จะติดต่อกับพวกเธอ"พี่แพรทำหน้าหนักใจ
"มีเรื่องอะไรหรอพี่ เเล้วพี่ไปอยู่ที่ไหนมาทำไม ไม่ติดต่อกลับมาเลย"ผมถามด้วยความอยากรู้เต็มที่
"พี่ขอโทษจ้ะ ที่ไม่ได้ติดต่อมาหา เพราะพี่กลัวว่าถ้าพ่อรู้ เขาจะตามพี่กลับ ซินรู้ไหมที่พี่หนีไปพี่ไม่อยากเป็นนักธุรกิจ พี่อยากเป็นไกด์ เป็นล่าม ได้ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ พี่รักการเดินทางมากกว่าที่จะมานั่งบริหารหรือควบคุมคนเป็นร้อยๆคน พี่ไม่อยากทำ จนพี่ได้เจอเบร็ทท์พ่อของเจเจ พี่ไม่ลังเลที่พี่จะหนีไปพี่รู้พี่เห็นแก่ตัว เเต่พี่ต้องการสร้างอนาคตของพี่เองมากกว่า พี่เลยต้องทำแบบนี้"
ผมพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่พี่แพรพูด เธอเป็นคนหัวเเข็งตั้งเเต่เด็กๆ เเละเป็นพี่ที่ช่วยเเม่เลี้ยงดูผมตอนเด็กๆ เเต่น่าเสียดายที่อาพงษ์ เป็นคนเห็นเเก่ตัว ต้องการให้ลูกเป็นในสิ่งที่ตัวเองต้องการ พี่แพรทนไม่ไหวเลยต้องหนีไปแบบนี้
"พี่แล้วที่พี่กลับมา พี่มาทำอะไร ผมเห็นพี่ดูร้อนใจมากเลยที่เห็นผม"พี่เเพรทำหน้าเศร้าคิ้วขมวด เธอลูบหน้าผมเบาๆ
"พี่กลัว พี่กลัวว่าพี่จะมาห้ามพ่อพี่ไม่ทัน พี่เป็นห่วงน้องๆพี่เลยต้องกลับ พี่ได้ข่าวว่าพ่อพี่กำลังจะทำอะไรที่มันผิดๆพี่จึงจะมาห้าม"
"อะไรหรอพี่แพร พี่แพรรู้เรื่องอะไร"เธอถอนหายใจดังเฮือก
"พี่มีเพื่อนเก่า เขาเป็นตำรวจรู้ไหมตอนนี้เขากำลังสืบเรื่องของพ่อพี่ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบ่อนเถื่อนและนายหน้าเงินกู้ ซินรู้ไหมพี่รู้มาอีกนะว่าพ่อพี่จะทำร้ายพวกซิน มันไม่ใช่นะซิน พ่อพี่จะทำแบบนี้ไม่ได้ พ่อพี่จะทำร้ายหลานเเท้ๆตัวเองไม่ได้ ฮึกพี่ขอโทษนะซินที่พ่อพี่ทำแบบนี้"
พี่แพรร้องไห้ ผมดึงเธอมาซบที่อก ผมพอจะเข้าใจเเล้วว่าทำไมทรายถึงทำตัวเเปลกๆ และ กลัวว่าผมจะมีอันตรายมันอาจจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ได้
"พี่เเพรถึงได้รีบกลับมาใช่ไหม"
"พี่จะกลับมาห้ามพ่อพี่ แต่พี่มันไม่มีความกล้าพอ พี่จะทำยังไงดีซิน"ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันพี่แพร อาพงษ์เป็นคนมักใหญ่มาเเต่ไหนแต่ไรนิสัยอาตัวเองเป็นยังไงผมรู้ดี เเละประสบมากับตัวเองเเล้วพี่เเพรคงเป็นห่วงพ่อกับเเม่มากเธอจึงไม่อาจอยู่เฉยเเละรีบกลับมาที่นี่
"พี่แพรใจเย็นๆผมว่ามันต้องมีทางออกที่ดีสิ พี่เลิกร้องเถอะเดี๋ยวลูกพี่ก็ตกใจ"ผมปลอบพี่เเพรเธอพยักหน้าเเละเช็ดน้ำตา เเละยิ้มให้ผม
"ตอนนี้ไม่มีใครรู้เลยหรอว่าพี่กลับมา"
"จ้ะพี่กลับมาได้สองวันเเล้ว บ้านหลังนี้กับรถพี่ก็เช่าเขา อยู่ไปก่อนจนกว่าปัญหาทุกอย่างมันจะจบ"
"พี่อยู่กับลูกตามลำพังพี่ไม่กลัวหรือไง สวยๆเเบบนี้มันอันตรายนะพี่"
"พี่รู้เเต่พี่กำลังติดต่อกับเพื่อนอยู่ พี่เองก็ตามความเคลื่อนไหวของพ่ออยู่เหมือนกัน พี่คิดว่าพี่จะไปหาท่านเเละบอกให้ท่านเลิกคิดเลิกทำอะไรที่ร้ายๆเเบบนี้"
"เเล้วพี่จะห้ามพ่อพี่ยังไง"พี่เเพรส่ายหน้าไปมา
"ตอนนี้พี่ไม่รู้เเต่พี่อยากจะลองไปคุยกับพ่อดู"
"พี่ เเต่พี่ไม่ได้เจอพ่อนานเขาจะฟังหรอ"พี่แพรทำหน้าเศร้าจนผมสงสาร
"ซินรู้จุดอ่อนของพ่อพี่ไหม"ผมส่ายหัว
"พ่อพี่ถึงจะเป็นเเบบนี้ เเต่ท่านก็รักครอบครัว ที่เขาทำเขาอาจจะทำเพื่อพี่เพราะหวังให้พี่กลับมาเเละปูทางไว้ให้พี่มีอนาคต พี่รู้นะว่าพ่อพี่โกงป้าเมื่อไม่นานมานี่เองนี่ เเต่ดูเหมือนจะมีใครบางคนมาช่วยป้าไว้แผนของพ่อถึงล้มเหลวเเละคิดจะมาทำร้ายพวกซินแทน หากพี่กลับไปห้ามท่านเเละบอกในสิ่งที่พี่ต้องการ พี่คิดว่าพ่อพี่ต้องกลับใจทัน ท่านคงไม่ใจเเข็งทำร้ายลูกในใส้ได้ลงคอหรอก"
"มันเป็นเรื่องจริงหรอพี่เเพร ทำไมอาพงษ์ถึงได้เป็นเเบบนี้นะ"ผมรู้สึกสงสารพี่เเพรเเละแม่ของเธอจริงๆที่ต้องมาทุกข์ในสิ่งที่อาพงษ์ทำ
"พี่หวังว่า พี่จะกลับมาทันที่จะเตือนสติพ่อพี่"
"พี่เเล้วพี่จะไปพบพ่อพี่เมื่อไร"
"คงจะเป็นวันพรุ่งนี้นะซิน เพราะพี่เองก็ทุกข์ใจ เเต่พี่ก็ยังห่วงเจเจพี่ยังลังเลที่จะพาเจเจไปด้วย พี่ไม่อยากให้เจเจรับรู้"ผมรู้ว่าพี่เเพรทุกข์ใจมากในตอนนี้ แต่ผมก็ไม่อาจจะช่วยอะไรได้นอกจากรับฟัง ผมเองที่ได้ฟังก็รู้สึกผิดหวังกับอามากพี่เเพรเธอก็คงจะรู้สึกมากกว่าผมหลายเท่า เพราะนั่นคือพ่อเเท้ๆของตัวเอง
"พี่ ผมว่าอาคงไม่คิดทำร้ายจริงๆหรอก ผมว่าท่านปล่อยข่าวข่มขู่ให้กลัวมากกว่า"
"ถ้ามันเป็นแค่นั้นก็ดีสิ ซินพี่คิดนะถ้าเรื่องมันเป็นอย่างที่พี่คิด พ่อพี่เลิกทำในสิ่งร้ายๆพวกนี้ได้ พี่จะพาพ่อกับเเม่ไปเริ่มต้นใหม่ที่อเมริกา"เธอยิ้มเหมือนมีความหวังขึ้นมาบ้าง
"ผมจะเอาใจช่วยนะพี่เเพร"ผมยิ้มให้กำลังใจ พี่เเพรยิ้มเเละกอดผม
"โอ๊ยๆ"ผมร้องเพราะรู้สึกเจ็บที่หน้าอกตอนที่พี่เเพรซบ รอบแรกมันเเรงแต่ผมทนเจ็บเเต่ตอนนี้มันไม่ไหวเเล้ว พี่เเพรทำหน้าตกใจ
"ซินเป็นอะไร"เธอทำตาโตขึ้นทันที ผมรู้สึกหนืดๆที่หน้าอกสงสัยเเผลมันจะปริเเน่ๆ พี่แพรรีบถกเสื้อผมขึ้นดูเเละเเกะผ้าก๊อตออกเเละทำตาโต
"อะไรกันเนี่ย ซินเธอไปทำอะไรมา"พี่เเพรหน้าซีดเผือด เเผลที่มันเริ่มเเห้งเเละจะสมานกันจนดีขึ้นเเล้ว เเต่เป็นเพราะผมเองที่ใช้ร่างกายมากเกินไปจนมันปริ
"โดนเเทงนะพี่"ผมทำหน้าเเหย พี่เเพรรีบวิ่งไปหยิบกล่องยาเเละห้ามเลือดทันที โชคดีที่มันปริไม่มากเเต่เลือดนี่ไหลจนน่ากลัว
"ไปทำอีท่าไหน ให้เขาเเทงดูสิ แผลตั้งขนาดนี้ ดีนะที่เลือดมันหยุดไม่งั้นพี่หามส่งโรงพยาบาลเเน่ๆ"พี่เเพรทำสีหน้ากังวลเเละบ่นในขณะที่ทำแผลให้ผม ผมได้เเค่ยิ้มเเหยๆแต่ไม่เล่าอะไรให้ฟัง
"แหมพี่แพร อย่าดุซินนักดิ่ ซินคิดถึงพี่แพรน๊า เจอกันก็ดุกันเลยหรอ"ผมอ้อน
"จ้าพ่อคุณ นี่เเนะโตเเต่ตัวจริง"
"โอ๊ยเจ็บนะ"ผมเอามือลูบหน้าผากที่โดนนิ้วดีเมื่อกี้ ทำให้นึกถึงคนบางคนที่ชอบดีดหัวผม
"เเล้วจะกลับบ้านตอนไหนละเรา"
"คืนนี้นอนกับพี่เเพรได้ไหมอ่า"ผมอ้อน พอคิดถึงกลับบ้านผมก็นึกขึ้นได้ทันที คือลืมโทรบอกเพื่อนผม ป่านนี้มันคงวิ่งวุ่นเเล้วไหมเนี่ย และผมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าผมไม่ได้พกโทรศัพท์มาเบอร์เพื่อนๆก็ไม่เคยจำได้เเต่เมมไว้เเล้วผมจะบอกพวกมันได้ไงเนี่ย...........ช่างมันเถอะ
"ได้สิ พี่เองก็กำลังเหงาๆ อยู่กับเจเจสองคนเอง"ผมยิ้ม แล้วกอดพี่เเพรด้วยความคิดถึง
ผมว่าผมกระจ่างเเก่ใจเเล้วว่าทำไมทรายถึงห่วงผมหนักหนาทำไมถึงบอกว่าผมตกอยู่ในอันตราย ทรายกังวลมากเกินไปหรือเพราะอะไรกันเเน่ที่ไม่ยอมบอกผม เธออาจจะมีเหตุผลบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทก็ได้ ทำไมอาถึงยอมคืนหุ้น ทั้งๆที่พยายามเเทบตายกกว่าจะแย่งจากแม่เเละจากพวกผมไป มันอาจจะมีเบื้องหลังอีกใครบางคนช่วยครอบครัวของผมไว้ เเล้วใครละคือคนๆนั้น ทำถามนี้มันมักจะวนเวียนไปเรื่อย พี่ไนท์ย้ายผมจากโรงพยาบาลจนมาอยู่ที่นี่ ทั้งเเม่เเละทรายรู้ว่าผมเป็นอะไร เพราะฉนั้นพวกเขาต้องติดต่อหากันตลอดน่ะสิ เเล้วทำไมต้องโกหกมันจำเป็นมากเเค่ไหนที่จะต้องโกหกผมกันนะ
"ซินเป็นอะไรจ๊ะทำหน้าเครียดเชียว"พี่เเพรสะกิจผมให้หลุดจากภวังค์
"เดี๋ยวพี่ไปดูเจเจก่อนนะ"ผมพยักหน้า จากนั้นพี่แพรก็เดินออกไป
พรุ่งนี้.......................ผมคงต้องไปกับพี่เเพร มันเหมือนมีอะไรบางอย่างอยากให้ผมไป อาอาจจะไม่ใช่คนโหดร้ายอย่างที่พี่เเพรว่า เเต่อาจเป็นเพราะอาห่วงครอบครัวมากเกินไป อาเองก็เเก่มากเเล้วเหมือนกันเมื่อก่อนนี้อาเองก็เคยเอ็นดูพวกผม เเต่พอมาพักหลังจากที่พ่อเสียไป อาก็เริ่มนิสัยเปลี่ยนเเปลงไปทันทีไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ก็อยากจะรู้จริงๆ
.........................................
"ซินเเน่ใจนะว่าจะไปกับพี่"พี่เเพรย้ำผมอีกครั้ง
"พี่เองก็กลัวเหมือนกันนะซินกับอารมณ์เเปลปรวนของพ่อนะ พี่ไม่ได้เจอท่านนานพี่กลัว"ผมจับมือพี่แพรเเน่น เจเจมองหน้าเเม่ตัวเองเเล้วทำหน้าสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
"ถ้ามันถึงเวลาเเล้ว เราก็ควรที่จะยอมรับมันนะพี่เเพร"ผมยิ้ม พี่แพรพยักหน้า จากนั้นจึงขึ้นรถและมุ่งตรงไปที่บ้านอาพงษ์ พอมาถึงพี่เเพรเป็นคนกดกริ่งซักพักก็มีคนข้างในวิ่งมาหน้าบ้าน ผมรู้สึกไม่คุ้นหน้าเท่าไรอาจจะเป็นใช้ของอาก็ได้
"มาหาใครคะ"เธอทำหน้าแปลกใจ
"ฉันมาหาพ่อ"พี่เเพรพูด
"ใครพ่อของคุณละคะ"สาวใช้ทำหน้างงๆ
"เรามาหาคุณพงษ์"เธอลังเลที่จะเปิดนิดหน่อย จากนั้นก็ตัดสินใจเปิดประตูให้พวกผมเดินเข้าไป
"ม่ามี๊ที่นี่ใหญ่จัง"เจเจ พูดพร้อมมองไปรอบๆบ้าน
"ที่นี่บ้านเกิดเเม่เองจ้ะเจเจ"พี่แพรเเละผมพากันเดินเข้าบ้าน หวังว่าอาคงจะอยู่บ้าน
"ใครมานังยุ่ง"เสียงที่คุ้นหูพูดเสียงดังจนพวกผมสะดุ้งเเละหันไปตามเสียง พวกผมยืนนิ่งอยู่กับที่
"แพร"อาพงษ์เสียงอ่อนลง ผมรู้สึกอาตัวสั่นเเละน้ำตาเริ่มคลอ
"พ่อ"พี่เเพรวิ่งเข้าไปสวมกอดพ่อของเธอ อาพงษ์ถึงกับน้ำตาร่วงเเละกอดลูกสาวเเน่น
"น้า เเม่เจเป็นอะไร"เจเจเเหงขึ้นมาถาม
"หนูขอโทษคะพ่อ หนูขอโทษ"พี่เเพรยกมือไหว้ ทั้งคู่ร้องไห้จนลืมผมเเละเจเจไปซะสนิท
"ไม่ลูก พ่อต่างหาก พ่อต้องขอโทษ พ่อคิดถึงลูกมากเเพร"อาพงษ์ลูบหัวพี่เเพร จังหวะเดียวกันที่มองมาทางผม อาพงษ์นิ่งขึ้นมาทันที
"ซินพาแพรมาค่ะพ่อ น้องพาเเพรมาหาพ่อ แพรคิดถึงพ่อตลอดเวลานะคะ"พี่เเพรกุมมือพ่อเเละพูดในสิ่งที่อยากจะพูดมานาน
"แพร พ่อขอโทษ เเต่หนูกลับมาตอนนี้ครอบครัวเรามันก็ไม่อนาคตเเล้วล่ะลูก"อาพงษ์ทำเสียงเศร้าจนผมประหลาดใจ อาพงษ์พาพี่เเพรไปนั่งบนโซฟาผมจึงเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับเจเจ อาพงษ์มองผมด้วยสายตาแปลกๆ สายตาที่ไม่มีความโกรธ เเต่ก็ปนเศร้า มันทำให้ผมอ่านเขายากเหลือเกิน
"ไม่เป็นไรคะพ่อ ถึงเวลาเเล้วที่แพรจะต้องทดเเทนบุญคุณของพ่อ......................พ่อกับเเม่ไปอยู่กับเเพรนะคะ"อาพงษ์นิ่งเงียบ
"แม่ของลูก......................พ่อทำผิดมากจนเเม่ทนไม่ไหวแม่หนีพ่อไปบวชเเล้วละลูก แม่เขาต้องการเเบบนั้นตอนนี้พ่อไม่เหลืออะไรเเล้ว"อาพงษ์ทำหน้าเศร้าเเละกอดพี่เเพร
"พ่อ พ่อยังมีแพรนะเเล้วอีกอย่าง พ่อมีหลานเเล้วรู้ไหม เจเจมาหาเเม่สิลูก"เจเจทำท่าลังเลใจที่จะเข้าไป เเต่พอเเม่ตัวเองเรียกซ้ำจึงเดินเข้าไปหาแม่
"เจเจ สวัสดีคุณตาสิลูก"เจเจยกมือขึ้นไหว้เเล้วยิ้ม อาพงษ์น้ำตาคลอเเละลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ
"อื้ม พ่อ............. พ่อเข้าใจทุกอย่างเเล้วล่ะ พ่อไม่น่าทำผิดเลย ซินอาขอโทษนะที่ทำไม่ดีกับพวกเธอ ตอนนี้อาไม่มีอะไรเหลือเเล้วเพราะกรรมมันตามทันอาเเล้ว"อาพงษ์บอกผมเสียงเครือ ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรกับอาพงษ์ ปกติอาพงษ์จะเป็นคนมั่นใจตัวเองสูงเเละมักจะเเสดงว่าตัวเองนั้นเข้มเเข็งเเละไม่เคยเผยความอ่อนเเอให้พวกผมเห็นเลย เเต่มาตอนนี้อาพงษ์ทำเหมือนทุกๆอย่างของเขามันว่างเปล่าไปหมด
"แพร พ่ออยากคุยกับซินก่อน ลูกพาหลานพ่อไปหาอะไรทานก่อนเถอะ"พี่แพรหันมามองผม ผมพยักหน้าเป็นนัยๆ พี่เเพรจึงชวนเจเจเข้าครัว
อาพงษ์นั่งเงียบมองผม ผมเองก็รอว่าอาพงษ์จะพูดหรือทำอะไรผมหรือเปล่า
"เธอรู้ใช่ไหมซิน ว่าอาโกงเงินเเม่ซิน"ผมพยักหน้า
"อาขอโทษนะ นะเวลานั้นอาหลงผิด อาอยากเป็นประธานบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งของบริษัท เเต่พออาได้มันมามันกลับไม่มีอะไรดี พนักงานเก่าๆของพ่อเธอลาออกไปหลายคนตั้งเเต่ที่อาไปบริหาร"
"รู้ไหมตอนนั้นอารู้สึกโกรธเเค่ไหน ที่พวกเขาทำแบบนี้ เเต่มาตอนนี้อารู้เเล้วว่าทำไม"อาพงษ์นิ่งไปซักพักเเล้วเริ่มพูดต่อ
"เพราะความรักไงซิน พ่อของซินให้ความห่วงใยเเละรักพนักงานเหมือนครอบครัว เเต่สำหรับอาคนที่สามารถทำร้ายเเม้กระทั่งครอบครัวเเละสายเลือดของตัวเองมันน่าละอายจริงๆ"อาพงษ์ตาหลุบต่ำลงเเละเริ่มร้องอีกครั้ง
"พวกผม.........ถึงเเม้ว่าจะเคยโกรธอาที่อาทำแบบนี้ เเต่พวกซินก็พร้อมที่จะให้อภัยอาเสมอ ถึงยังไงอาก็เป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียว อาเป็นน้องของพ่อ พ่อซินสอนเสมอว่าเราต้องรักญาติพี่น้อง เวลาล้มอย่าเหยียบย่ำ เวลามีอนาคตที่สดใสก็ต้องส่งเสริมกัน อาเองก็เคยได้ยินพ่อพูดบ่อยๆไม่ใช่หรอ"ผมพูดในสิ่งที่พ่อสอนเสมอมา ถึงยังไงอาก็ยังเป็นอาคนเดิมไม่มีทางที่จะเป็นคนอื่นไปได้ง่ายๆ
"เพียงเพราะหลงผิดเพียงวูบเดียวอาเกือบจะทำร้ายลูกชายของพี่ชายอาเสียเเล้ว"อายิ้ม
"ผมไม่โกรธครับอา ถ้าอาเคยคิดเเบบนั้น............. ผมอยากรู้ว่าตอนนี้อารู้สึกอย่างไร อยากจะฆ่าผมไหม ถ้าอาทำได้ในตอนนี้"ผมชั่งใจถามอา อาพงษ์ส่ายหัวเเล้วหัวเราะเสียงเบา
"ใครจะทำได้ลงคอละไอ้ลูกหมา"ผมยิ้มให้กับคำๆนี้ อาคนเดิมของซินกลับมาเเล้วจริงๆ ถึงเเม้ว่าอาจะใจร้อนหรือเป็นคนเจ้าคิดเจ้าเเค้น เเต่คำว่าครอบครัวมันค้ำคอกันและกันจริงๆ
"ตอนนี้อาไม่มีอะไรเหลือเเล้วละซิน เหลือก็เพียงเเค่บ้าน อาทำอะไรไว้กับเเม่ซิน ตอนนี้อากำลังเป็น เเต่อาก็ยอมที่จะอ้าแขนรับโทษ ในสิ่งที่ๆอาทำ"
"ทำไมหรออา ซินเเปลกใจมากเลย ตั้งเเต่ที่รู้ว่าทรายได้ตำเเหน่งผู้บริหารคืน อาคืนหุ้นบริษัทให้ทรายหรอ"ผมถามในสิ่งที่มันอัดอั้นใจมานาน จนรู้สึกว่ามันทนต่อไปไม่ไหว
"ฮะ ฮะ ไม่ใช่หรอกซิน อาเนี่ยนะจะคืนหุ้นให้ ซินรู้ไหมอาโดนเพื่อนโกง ไอ้เจ้าของบ่อนนั่นเเหละมันทำกับอย่างที่อาทำกับเเม่ซินเปี๊ยบเลย"อาหัวเราะเหมือนไม่เต็มใจนัก ผมขมวดคิ้ว
"เพื่อน? เจ้าของบ่อน? ทำไมละอา ทำไมเขาทำแบบนั้น"
"อาไม่รู้ ตอนนั้นอาทุกข์มากที่ทำกำไลตกต่ำ เเละบริษัทต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจึงต้องเเบกหน้าไปกูเงินกับมัน ซินรู้ไหมเพราะความเชื่อใจ อาไม่สนใจตัวหนังสือในกระดาษเเผ่นนั้นเลยเเม้เเต่น้อย ลายเซ็นเเละตราประทับเพียงเเค่นั้นอาก็สูญเสียทุกอย่าง อาเพิ่งมารู้เดี๋ยวนี้เองว่าทุกอย่างมันเป็นแผนของนายไนท์ เจ้าของธุรกิจฟาร์มไข่มุขที่เพิ่งเเต่งงานกับทรายไป"ผมตาโตขึ้นมาทันที
"อามั่นใจนะว่านั่นเป็นแผนของคนๆนั้น"อาพยักหน้า
"คนนั้นเขามีอิทธิพลมากเลยนะซิน มันมากจนน่ากลัว ไม่นึกเลยว่าเขาจะทำให้คนจากที่มีทุกอย่างกลับหมดสิ้นทุกอย่าง รู้ไหมอาโกรธมากที่ถูกทำแบบนี้ อาเลยปล่อยข่าวว่าอาจะส่งคนไปทำร้ายพวกเธอ แต่มันก็ได้ผลนะพวกนั้นวิ่งเต้นน่าดูเลย ซินเองก็น่าจะรู้ดีนี่"ผมส่ายหัว
"ซินไม่รู้เรื่องอะไรเลยอา ซินไปอยู่ใต้กับคนชื่อไนท์นี่แหละ ตอนที่ทรายเเต่งงานทรายหนีไป แล้วซินก็ปลอมตัวเเทนตั้งเเต่นั้นมาซินก็ต้องไปอยู่กับเขา ซินไม่เคยได้ข่าวหรือรับรู้อะไรเลย พอซินถามพวกเขาก็มักจะบ่ายเบี่ยง ซินก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เเต่มาตอนนี้ซินพอจะเข้าใจอะไรบางเเล้วล่ะ" ผมพูดน้ำเสียงที่โกรธขึ้นมา อาพงษ์นิ่งเงียบเเละทำหน้าตาแปลกใจในสิ่งที่ผมพูด
"มันเป็นเรื่องที่แปลกจริงๆ เเล้วทางคุณหญิงวิไล เขาไม่เเปลกใจเลยหรือไงกัน"อาทำหน้าครุ่นคิด
"อาว่าเรื่องเเต่งงานมันคงมีเรื่องลับลมคมในเเน่ๆ"
"นั่นสินะอา ซินเเปลกใจมานานเเล้ว เเต่ก็คิดไม่ออก ผู้ชายคนนั้นเขา.............เขาทำตัวกวนโมโหซินตั้งเเต่ที่เจอกันเเต่พอนานเข้า ความรู้สึกของซินก็เปลี่ยนไปมันรู้สึกทำให้ซินอบอุ่น มันเหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้ซิน.............ซินงงมากเลยอา ตอนนี้ซินสับสนมากๆ"ตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้จะทำตัวยังไงเเล้ว รู้สึกสับสนเเละแปรปรวนไปหมด
"บางทีเขาอาจจะรู้จักซินอยู่เเล้วก็ได้นะ ไม่งั้นเขาจะยอมหรอ ถ้าให้มาเเต่งงานกับผู้ชายด้วยกัน" คำพูดของอามันยิ่งทำให้ผมคิด รู้จักงั้นหรอ จะรู้จักกันได้ไงในเมื่อไม่เคยเห็นหน้ากันด้วยซ้ำ เเล้วพี่ไนท์ล่ะ พี่ไนท์รู้จักผมอย่างงั้นหรอ
"อา ตอนนี้ซินอยากให้อา ทำเหมือนว่าอายังเเค้นบ้านผมอยู่ได้ไหม ซินไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราคุยกัน บางอย่างที่ซินอยากรู้ รู้สึกว่ามันคลายลงมาทุกๆที เเต่ซินอยากรู้ว่าใครเป็นตัวการ" อาทำหน้างงๆ
"ตามใจแกละกัน อาขอโทษเเล้วก็ขอบใจที่ไม่เกลียดอานะ"
"ครับ"ผมยิ้ม
"เฮ้อ แกนี่นะเมื่อก่อนฉันก็นึกว่าเเกจะเป็นตุ๊ดเห็นไว้ผมยาว พอมาตัดผมเเล้วค่อยดูดีหน่อย"อาเปลี่ยนเสียงเป็นเสียงพูดธรรมดา
"โหยอา ซินดูเหมือนหรอโด่"ผมพูดเเบบเซ็งๆ อาหัวเราะ
"คุณคะมีคนมาพบค่ะ"สาวใช้คนเดิมเดินเข้ามาเเละบอกอาพงษ์
"ใครมาละ เขาบอกหรือเปล่าว่าเป็นใคร"
"ไม่ทราบคะ รู้สึกว่าจะเป็นผู้ชายยุ่งถามอะไรเขาก็ไม่ตอบบอกว่าจะมาพาซินกลับ"ผมกับอามองหน้ากัน ผมรีบลุกเดินไปหน้าบ้านทันที ผู้ชายคนหนึ่งยืนกอดอก อยู่หน้าประตูรั้วบ้าน
"มาหาใครไม่ทราบครับ"ผมถามผ่านรั้วเเต่ไม่ให้เขาเข้ามา
"หึ ก็มาหาผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบสร้างปัญหาไง"พี่ต้นยิ้มยียวน
"หรอ เเล้วไม่ทราบว่าคุณรู้จักที่นี่ได้ไง"ผมถามกลับไป
"ทรายให้มารับกลับ"พี่ต้นพูดเสียงเรียบ
"เเล้วทรายรู้ได้ไงว่าผมมาที่นี่ ไม่เห็นไม่รู้นะเนี่ยว่ามีคนเเอบตาม ถามจริงเถอะพวกคุณโรคจิตหรือไง"ผมพูดยียวน เมื่อก่อนพี่ต้นจะเป็นคนสุภาพมาก เเต่พอมาตอนนี้รู้สึกเขาเหมือนใครบางคนที่ชอบเตะท่า เเละยิ้มกวนประสาท
"พวกเขาห่วงเธอนะ ไม่งั้นคงไม่ทำแบบนี้ กลับบ้านไปกับพี่เดี๋ยวนี้เลย"ผมยิ้ม ดูท่าพี่ต้นจะเริ่มรู้สึกโมโห
"ตอนนี้อาจับผมเป็นตัวประกัน เเล้วผมก็พอใจที่จะเป็น บอกเพื่อนพี่ด้วยว่าถ้าอยากจะให้ผมกลับก็มาตามเอง แล้วบอกเขาด้วยนะว่า ผมรู้เเล้วว่าตัวการเรื่องนี้นะคือใคร"ผมสะบัดหน้าหนีทันทีที่พูดจบเเละเดินกระเเทกระทั้นกลับเข้าบ้านของอา
"ใครมาหรอซิน"อาถามเพราะยืนดูผมอยู่นาน
"ก็พวกนั้นเเหละอา ชอบมองว่าผมเป็นเด็กพวกเขานั่นเเหละที่เป็นเด็กซะเอง หาอะไรกินกันเหอะอา หิวละ"พูดเสร็จผมก็เดินเข้าบ้านเเละไม่สนใจคนที่ยังยืนอยู่หน้าบ้านอีกเลย ถ้าสิ่งที่ผมคิดมันถูกละก็ตัวการก็คือพี่ไนท์
รู้สึกโกรธขึ้นมาจริงๆพี่ไนท์นี่เล่นอะไรกัน ไม่รู้ว่าพี่ต้นจะกลับไปบอกทางนั้นไหมว่าผมทำแบบนี้ แต่ที่แน่ๆ ถ้าเขาไม่มาผมก็ไม่กลับเด็ดขาด จะอยู่กับอาที่นี่ไปเลยก็ดี แต่อีกไม่นานพี่แพรก็จะกลับและอาจจะพาอากลับไปด้วย บางทีผมเองก็ต้องการที่จะปั่นหัวเขาเหมือนกันในสิ่งที่เขาทำกับผม
.....................