เรื่องสั้น [อย่าเงียบสิวะ!] จบในตัว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้น [อย่าเงียบสิวะ!] จบในตัว  (อ่าน 108961 ครั้ง)

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2


.......

......

.....

....

...

..

.

“นี่มึงมานานยังเนี่ย” เสียงมันทักผมมาจากด้านหลัง

ผมหันหน้าไป “สามสิบนาทีได้มั๊ง”

“อี๋ ขี้อวดว่ะ ทำเป็นเก่ง!” มันทำหน้าเบ้ แต่ก็ยังเดนตรงเข้ามาหา

“พวกมึงจะไปไหนกันต่อวะ?” เพื่อนของมันที่เดินตามหลังกันมาถามผมกับมัน

“จะไปน้ำตกเหวนรก” มันหันหน้าไปบอกเพื่อน

“โห ไกลเลย” เพื่อนมันทำหน้าอึ้งๆ

“ก็บ้านมันมึงอยู่ไกล แต่บ้านพวกกูอยู่แค่นี้เอง เวลาเท่านี้ก็พอแล้วเว้ย ถมถืด” มันฉอดๆ ใส่เพื่อนของมัน

เราก็ร่ำลากันตามมารยาท ก็มีที่อยู่มีเบอร์กันไว้แล้ว คงได้ติดต่อกันอีกอยู่ดี พอเพื่อนมันไปแล้ว มันก็เรียกผมขึ้นรถ

“มึงบอกว่าจะกินข้าวที่โรงอาหารก่อนไป” ผมท้วงมัน

“เออออ ลืมว่ะ ไป๊ ไป กินข้าวก่อน” มันร้องเสียงหลงก่อนที่จะกวักมือเรียกผมไป

ระหว่างที่เดินไปโรงอาหาร มีรุ่นน้องทักมันหลายคน ทักผมก็มีบ้าง แต่ทักมันมากกว่า...กว่าจะเดินถึงโรงอาหาร ต้องปล่อยให้มันถ่ายรูปกับรุ่นน้องจนเสร็จนั่นแหละ ถึงเดินต่อกันมาได้

ผมก็ไปแจมอยู่บางรูป แต่หลายๆ รูปเค้าต้องแค่มันคนเดียว

“บายคร๊าบ” มันโบกมือให้น้องๆ เสียงอ่อนเสียงหวาน

“พอใจยังครับมึง” ผมท้วงมัน

“เอ มึงนี่ ไม่รู้จักสร้างสมาคมบ้างเลยนะ”

“สมาคมรักเด็กอ่ะนะ กูเลือกเองว่าจะไม่เข้าว่ะ คุก คุก คุก”

“หึหึหึ....เด็กๆ อยู่กับกูน่ะปลอดภัย“

“ไม ปลอดภัยยังไง?”

มันไม่ตอบครับ มันเดินหัวเราะหึหึนำลิ่วไปเลย

.......

......

.....

....

...

..

.

“นี่ นี่”

“ไร”

“มึงหารกับกูได้ป๊ะ อยากกินหลายอันเลยว่ะ”

“เออ จะเอาไรก็เอามา”

ผมพูดแล้วก็คว้ากระเป๋ามันเดินไปนั่งรอที่เก้าอี้ วันนี้คนบางตา ผมเลยว่าเราไม่จำเป็นต้องจองที่นั่ง ผมลุกไปซื้อน้ำ เอาน้ำที่มันชอบสามอย่างมาให้มัน คิดว่ามันจะได้เลือกกินเอง

ผมเดินกลับมาที่โต๊ะ เห็นจานข้าวมันไก่แบบธรรมดาหนึ่งจาน แต่ตัวมันไม่อยู่

ก็นั่งรอมันก่อน

.......

......

.....

....

...

..

.

สักพักมันก็กลับมาพร้อมจานหนึ่งใบ กับชามหนึ่ง แล้วมันก็จะเดินไปอีก ผมสังหรณ์ เลยรีบคว้าแขนมันไว้ก่อน

“มึงจะไปไหน?”

“เขาข้าวดิ ก็สั่งไว้”

“นี่มึงยังไม่พอเหรอ มึงสั่งอะไรไว้บ้างเนี่ย?”

“ข้าวหมูกรอบ ลูกชิ้นทอด ปลาทอดมัน หมดแหละ”

“มึงครับ มึงจะแดกหมดได้ไงครับ มันเยอะนะครับ ไม่เอาเหอะ พอแล้วเหอะ”

“ก็กินกับมึงไง เดี๋ยวไม่ได้มากินแล้วนะมึง เรียนจบกันแล้วนะเว้ย!”

“...............”

.......

......

.....

....

...

..

.

สรุป ว่ากลางวันนั้นผมก็แชร์ของกินที่มันสั่งมากองไว้จนเกลี้ยง ผมไม่ใช่ปอบลงนะ แต่มันต่างหากที่ชูชก มันยัดเข้าไปได้ยังไงก็ไม่รู้

กินเสร็จเราก็เดินออกไปตรงใกล้ประตูหน้าโรงเรียน พอมันเดินมาถึงที่รถ ลุงยามก็ร้องเรียกมัน บอกมันว่าเพื่อนฝากของให้ มะนเลยเดินไปเอาของที่ป้อมลุงยาม

ผมนั่งรอที่เก้าอี้หินอ่อนที่มอไซด์มันจอดอยู่

ไม่นานมันก็เดินกลับมาพร้อมหมวกกันน๊อกสองอัน มันบอกว่าที่จริงลืมไปแล้ว แต่มันขอเพื่อนไว้ตั้งแต่ก่อนเข้าสอบ เพื่อนมันหาตัวไม่เจอ แต่เห็นรถมันจอดอยู่ เลยฝากหมวกไว้กับลุงยาม หมวกที่มันถืออย่างดีเหมือนกันนะ แพงพอดู ก็สมควรให้เพื่อนมันฝากกับลุงยามมากกว่าแขวนไว้ที่แฮนด์มอไซด์เฉยๆ อ่ะนะ

เมื่อคนพร้อม รถพร้อม เราก็ออกเดินทาง

มันขับมอไซด์ออกมาทางเดียวกับที่เรากลับบ้าน แต่วันนี้เราเลยไป ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกที่เป็นวงเวียนแล้วเราก็ตรงไปอีก เราขี่ขึ้นไต่เขาไปเรื่อยๆ สักพักใหญ่ เราก็มาถึงด่านเก็บค่าผ่านทาง ผ่านด่านมาเราก็ขี่ตรงมาเรื่อยๆ ไม่นานเท่าขาขึ้น เราก็มาถึงปากทางเข้าน้ำตกเหวนรก

มันเลี้ยวซ้ายแล้วลัดเลาะทางไปเรื่อยๆ ....... ก็สุดถนน

ถึงทางที่เราต้องลงเดินกันแล้ว

“เอาหมวกไปด้วยเปล่าวะ?” ผมถามมัน

“ไม่ต้องหรอก ไว้นี่แหละ” มันบอก แล้วเอาหมวกของมันแขวนไว้บนแฮนด์ข้างหนึ่ง จากนั้นจึงก้าวข้ามรถ มายืนบนพื้น

“ถ้าหายล่ะ?” ผมถามมัน

“คนมาเที่ยวไม่เยอะ ไม่หายหรอก เดินถือไปด้วยลำบาก ช่วงลื่นๆ มันอันตราย” มันบอก

ก็เห็นด้วยกับมันนะ เลยวางหมวกกันน๊อคอีกอันแขวนไว้ที่แฮนด์อีกข้างของรถ

“ป๊ะ”

มันบอก แล้วหมุนตัวกลับ เดินนำไป

เขาเดินตามมันไปเรื่อยๆ

.......

......

.....

....

...

..

.

“ทำข้อสอบได้มั้ยล่ะ” มันถามผม

“ทำได้ แต่คงไม่เต็มหรอก ไม่แน่ใจหลายข้อ” ผมบอกมัน

“ตกลงมึงจะเอ็นท์ที่ไหนล่ะ”

“.........มหาลัยที่บอก...นั่นแหละ” บอกอ้ำอึ้งไปชั่วขณะก่อนจะตอบมันไปตามความจริง

“กูก็เอาแค่ที่กูเข้าได้ ที่ที่บอกมึงไว้”

“อื้อ แล้วแต่มึง”

“แต่กูคงอยู่หอเดียวกับมึงไม่ได้ เพราะที่กูไปต่อมันอยู่ไกลจากมหาลัยมึงมากไป”

“อื้อ....กูเข้าใจ....”

ถึงกระนั้นผมก็ยัง เสียใจ รู้มาแต่แรกต้องเป็นแบบนี้ แต่ผมก็ยังอยากได้ปาฏิหาริย์

“.................” มันเดินต่อไป โดยไม่พูดอะไรอีก

ผมก็เดินตามหลังมันไป โดยไม่พูดอะไรกับมันอีกเช่นกัน

.......

......

.....

....

...

..

.

“น้ำตรงนี้เริ่มใสแล้วเนอะ” ผมเอ่ยปากชวนมันคุย

เดินมาจนครึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว ไม่มีใครสวนทางมาเลยสักคน

“ฮื๊อ....” มันรับคำเสียงหนักแน่น

“ค่อยๆ เดินเดี๋ยวลื่น....ไม่ชะ...” ยังไม่ทันขาดคำ ผมก็ทันเห็นขามันไถลลงไปจากบันไดข้างหนึ่ง ผมรีบไปรับตัวมันไว้ ไม่ให้มันกระแทกกับหิน

ตัวผมที่นั่งราบไปกับพื้น กลายเป็นเบาะรองตัวของมัน

“อู๊ยยยยย----” มันร้องลากเสียงยาว

“กูบอกมึงแล้ว มึงนี่ ทำไมชอบประมาทนัก ห๊า!” ผมโมโห โมโหจริงๆ เลยไม่เก็บน้ำเสียงถนอมน้ำใจอะไรทั้งสิ้น จุดนี้ หากลื่นผิดท่ามันไถลเหวไปได้เลยนะ!

“มันลื่นเว้ย ลื่นมาก โอย...ลุกไม่ขึ้นว่ะ” มันบ่นพึมในปาก ไม่เถียงเสียงแข็งแบบปกติ ซึ่งผมรับรู้ล่ะว่ามันรู้ตัวเองว่ามันผิดแล้ว เลยว่ามันแค่นั้นแหละ

“เอา จับราวไว้ ดีๆ ไม่ไหวก็ล้มมาทางกู มึงจะได้ตกเหว รู้มั้ย?” ผมบอกมัน

แล้วเราสองคนก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากพื้นที่เปียกลื่น ทว่า พอผมยืนมาได้เท่านั้นแหละ ยังไม่ทันจะก้าวขาออกไป เท้าผมมันก็ลื่นไปข้างหน้าแล้ว ขี้ตะไคร่ตรงนี้หนามาก แค่ยืนเฉยๆ ยังลื่นได้เลยครับ

“เชี่ยแม่ง อะไรนักวะ” ผมสบถไม่หยุดปาก

“ดีๆ มึง ดีๆ” มันก็ร้องบอกผมแบบนั้นไม่หยุดปากเหมือนกัน

.......

......

.....

....

...

..

.

เสี้ยวเวลาที่ต่างก็ตกอกตกใจกันอยู่นี้

ผมกับมันก็ได้มาอยู่ในท่าที่ล่อแหลมที่สุดเท่าที่คบกันมา

มือของผมกุมเหนือมือของมัน...บนราวเหล็กที่เราต่างก็เอาไว้ยึดตัวเอง

ส่วนมืออีกข้างของพวกเรา มันไปโอบเอวของต่างฝ่ายเอาไว้....แน่นทีเดียวล่ะ

.......

......

.....

....

...

..

.

ผม.......ผมมองดวงตาของมัน มองเหมือนไม่รู้เบื่อ

มัน......แววตามันตกใจ และยังคงตกใจอยู่

.......

......

.....

....

...

..

.

สักพัก มันก็หน้าแดง มันเบือนหน้าหนีผม แต่มันไม่ได้คลายมือที่ราวเหล็ก หรือมือที่โอบรอบเอวผมออกไป

.......

......

.....

....

...

..

.

“นี่” ผมเรียกมัน

“.....อื้อ....”

“ถึงต่างคนต่างไปเรียนที่อื่น มึงจะยังเป็นแฟนกูมั้ย?”

มันหันหน้าควับกลับมาทันที หน้ามันยังแดงอยู่ แต่มันคงสงสัยมากจนลืมอาย “มึงถามอะไรหมาๆ แบบนี้วะ”

“เปล่าหมานะ กูเชื่อใจมึง แต่กูไม่รู้อนาคต กูห่วง กลัวมึงไม่รักกู กลัวมึงปันใจให้คนอื่น กลัวมึงเห็นคนอื่นดีกว่ากู” ผมบอกมันด้วยยิ้ม เป็นความคิดจากใจจริงของผม

“มึงกับกูคบกันมากี่ปี” มันถามเสียงเข้ม

“2 ปี” ผมตอบมัน

“มึงเรียนมหาลัยกี่ปี”

“4 ปี”

“เคยได้ยินมั้ย 7 ปีอาถรรพ์?” มันถาม ตอนนี้หน้ามันไม่แดงแหละ

“หือ?........”

“.............................”

มันไม่พูดต่อ มันปล่อยแขนมันจากเอวผม มันดึงมือที่ผมกุมไว้เหนือมันออกไป แล้วมันก็เดินต่อไปตามเรื่อยๆ แบบระวังกว่าเดิม

.......

......

.....

....

...

..

.

หลายครั้ง

ผมเหมือนรู้คำตอบ เหมือนรู้ความหมาย เหมือนรู้...ในสิ่งที่มันพูด

แต่ผมไม่มั่นใจ

ผมมั่นใจในเรื่องอื่นๆ แต่กับมัน...เรื่องที่เกี่ยวกับมัน ผม “ไร้ความมั่นใจโดยสิ้นเชิง”

ผมค่อยเดินตามมันไป จนถึงช่วงหนึ่งที่มันหยุด มันเกาะราวยืนนิ่ง แล้วมองออกไปที่น้ำตก

ผมเดินตามมันทัน แล้วไปยืนอยู่ข้างๆ มัน

.......

......

.....

....

...

..

.

เรายืนอย่างนั้นกันแบบเงียบๆ

ไม่มีใครพูดอะไร

.......

......

.....

....

...

..

.

“ถ้ามึงจะถามว่ากูรักมึงมั้ย? กูก็ทำให้มึงเห็นมาตลอดไม่ใช่เหรอไง มึงยังสงสัยเหี้ยไรอีก” มันเอ่ยขึ้นมาก่อน ตามันทอดมองไปที่น้ำตกแบบไม่วางตา

“รู้ เห็น แต่....แต่ก็ไม่เคยได้ยิน....จากปากของมึง....” ยิ่งพูดผมก็รู้สึกว่าตัวเองมันละโมบโลภมาก อยากได้จากมันไม่หยุดไม่หย่อน

“กู......รักมึง.....มาก่อนมึงบอกรักกูที่หลังโรงยิมอีก....”

โอ้โห ยิ่งกว่าฟ้าผ่าเปรี้ยงกลางกบาลกูอีกพ่อคู๊นนนน ----- ที่ไหนเมื่อไหร่ ยังไงไม่ทราบครับมึง

“ทำไมไม่บอกว่ะ อุบมันทำไมคนเดียว” ผมบ่นอุบ

“ไม่รู้นิว่ามึงจะอยากรู้”

โห แม่งพูดหน้าตาเฉยเลยนะมึง--------- “เมื่อไหร่ ยังไง?” ว่าจะไม่ถามแหละ แต่อดไม่ไหวว่ะ ขอรู้หน่อยเฮอะ

มันหันหน้ามาจ้องตากับผม “ไม่บอก! ปล่อยให้งง!” พูดจบมันก็แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผม ...เฮ้ออ------ เอาสาระกับมันได้เกินนาทีนี่ก็ถือว่าคุ้มสุดๆ แล้วล่ะมั๊ง

“มึงนะ!” ผมชี้หน้ามันแบบคาดโทษ

“ฮ่าฮ่าฮ่า” มันหัวเราะร่วน เพราะมันรู้ว่าหากยืนตรงนี้ ผมทำไรมันไม่ได้ พื้นแถวนี้ยังลื่นอยู่ อันตรายเกินกว่าที่จะเล่นกัน

.......

......

.....

....

...

..

.
ยืนมองน้ำตกได้สักพัก ผมก็ว่าเราถึงเวลาสมควรที่จะเดินกลับ ขามาก็ราวๆ เกือบหนึ่งชั่วโมงได้ เดินกลับขาขึ้นจะนานกว่า เลยเรียกมันกลับแต่เนิ่นๆ “ไปกันเถอะ เดี๋ยวกลับบ้านเย็น มึงจะอันตราย”

“อื้อ”

พอมันรับคำผมก็เดินก้าวนำขึ้นไปก่อน แต่พอผมก้าวขึ้นไปที่บนไดที่สูงกว่ามันได้แล้ว ผมก็นึกอยากขออะไรมันสักอย่าง

“นี่” ผมก้มหน้าไปหามัน

“หือ” มันเงยหน้าขึ้นมามองผม

“ขออะไรอย่างดิ๊” ผมบอกมัน

“ทะลึ่ง” มันพูดเสียงดุ คิ้วขมวดเลยด้วย

“เปล่าๆ ไม่ได้จะขอทะลึ่ง ขอนิดเดียวมึงทำได้แหละ แค่หน้าด้านๆ หน่อยเท่านั้นเอง” ผมบอกมันพร้อมหัวเราะร่วนในลำคอ

“...................” มันไม่ตอบ มันจ้องหน้าผม หรี่ตามองแบบพิจารณา

“จริงๆ ไม่เชื่อใจกันรึไงวะ นี่ถ้ากูจะปล้ำมึงน่ะ กูปล้ำมึงไปนานแล้ว ไม่รอจนป่านนี้หรอก กูสัญญา สาบานเลยเอ้า เรื่องที่มึงไม่อนุญาตก่อน กูไม่ทำ!”

“เอออออ------ขอเหี้ยไร พิจารณาก่อนนะ ไมได้ตอบตกลงเลยนะเว้ย” มันพูดแบบเสียมิได้

ผมยื่นฝ่ามือไปหามัน ผมแบมือหงาย รอมัน....มันที่รอมันมาคายหมากฝรั่งบนกระดาษที่อยู่เหนือฝ่ามือผม แต่เวลานี้ผมขออย่างอื่น.....

มันมองฝ่ามือผม สลับกับหน้าผม

สีหน้ามันเหมือนไม่เข้าใจ

แต่ผมรู้ว่าแฟนผมฉลาด

“ขอแค่นี้ได้มั้ย?” ผมบอกสำทับมันอีกครั้ง ทั้งที่ยังแบมือไว้อยู่

.......

......

.....

....

...

..

.

“เออ แม่ง ต้องหน้าด้านมากๆ ถึงทำได้นะเนี่ย!”

มันพูดพลางเอามือที่อยู่ฝั่งเดียวกับผม มาวางบนฝ่ามือของผม

ผมรีบกำมือของมัน กลัวมันเปลี่ยนใจ ผมกำมันไว้แบบไม่หลวมไม่แน่น ไม่ให้มันอึดอัด แต่ให้มันรู้สึกอบอุ่น

ผมฉุดมือมันขึ้น แล้วบอกว่า “ป๊ะ ห้ามสะบัดมือกูนะ เอาให้ถึงรถมึงเลยนะ”

“โอย ฉิบหาย แลวถ้ามีคนเดินสวนมาล่ะ?” มันพูดพลางก้าวขาขึ้นมายืนบนบันไดขั้นเดียวกันกับผม

หน้ามันแดงอย่างเห็นได้ชัด มันเลี่ยงที่จะสบตากับผม

“ถ้ามึงอายก็ก้มหน้าไว้ กูรับหน้าให้เอง ถ้ามึงปล่อยมือกูนะ กูจะถือว่าที่กูสาบานไปเมื่อกี้เป็นโมฆะ ถ้าเป็นงั้น มึงก็ระวังตัวไว้เหอะ เผลอล่ะ พ่อขย้ำแน่”

“ไอ้เลว!” มันพูดพร้อมกระตุกมือที่เราจับกันไว้แรง ให้ผมเจ็บนิดๆ

“อย่าเล่นสิ ทางมันลื่น เดี๋ยวได้กอดคอกันตายกลางเหวนี่หรอก” ผมเตือนมัน

“เลิกพูดๆ เรื่องอื่น มึงนี่พูดไม่รู้จักกาละเทศะ” มันแกว่งมือของผมแรงๆ ให้เปลี่ยนเรื่องคุยใหม่

“หึหึหึ.....นี่”

“ไร....”

“ห้ามเล่นหูเล่นตากับใครนะ ไม่ว่าจะชายหรือหญิง กูไม่เว้น ไม่แบ่งเพศ มึงแค่เล่นแต่กูไม่เล่นด้วยนะ” ผมชวนมันคุย...เรื่องอื่น

“...เออ...” มันตอบเหมือนรำคาญ

“คิดถึงกูด้วยนะ” ผมบอกมัน

“.....เออ.....” มันตอบลากยาวกว่าเดิม

“โทรหากูอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งนะ” ผมบอกมัน

“เอาทุกวันเลยมั้ยล่ะ” มันทำเสียงท้าทาย

“มึงอย่าท้านะ” ผมขมวดคิ้วใส่มัน

“มึงทำได้ป๊ะล่ะ” น่านยังท้าไม่เลิก

“เชี่ยนี่ ก็กูทำมาแล้ว บอกว่าอย่าท้า มึงเหอะอยู่ให้ติดหอละกัน ไม่ใช่แม่งโทรหาแล้วไม่เจอนะ มึง”

“มึงนั่นแหละ ไอ้คนมารยาทสังคมสูง อย่าให้กูโทรไปไม่เจอนะ”

ดู๊ มันพูด มันดิ ไอ้เทพบุตรมิตรไมตรี ยื่นไมตรีกับคนอื่นไปทั่ว ผมว่ามันมั้ย? เคยว่ามันมั้ย?

“มึงนั่นแหละ”

“มึงนั่นแหละ”

“มึงนั่นแหละ”

“มึงนั่นแหละ”

“มึงนั่นแหละ”

“มึงนั่นแหละ”

.......

......

.....

....

...

..

.

 


















































































































































































































มาถึงตรงนี้

ผมกับมัน เราพอแล้วล่ะ เราเอาแค่นี้แหละ

อาจไม่ถูกใจใครหลายคน

แต่เรื่องของผมกับมัน ไม่มีอะไรหวือหวา จริงๆ นะ

เท่าที่ผมจำได้ ที่ควรจำ ที่จำได้ติดหัว....มันคือสิ่งเหล่านี้ ที่ผมร่ายมาข้างต้น

ที่ผมเล่าทุกเรื่อง มันเป็นช่วงพิเศษของผมกับมัน.....ในความคิดผม

อืม...... หากคุณยังอยากรู้อะไรต่อ ก็เอาเป็นว่า ผมพิเศษให้

คุณถามมา

เดี๋ยวผมจะตอบไป

เอาเท่าที่ตอบได้นะ

งดเรื่องบนเตียงครับ เล่าไม่ได้ “มัน” ถือครับ

โอเคนะ

ขอบคุณมากที่ทนอ่านกันมา

น่ารักกันจริงๆ

.......

......

.....

....

...

..

.


“มึงนั่นแหละ”

“มึงนั่นแหละ”


เอวัง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-08-2012 14:53:38 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
จบแล้วอีกเรื่องหนึ่ง อ่านแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ 
คิดว่าถ้าคุณ BAOBAO จะไม่จบตอนนี้ก็ยังได้อีกนะคะ
มีเรื่องให้แต่งต่ออีกเยอะเลย  แอบอยากรู้เรื่องในตอนปัจจุบันค่ะ

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
มีความสุขกับการอ่านเรื่องนี้มากๆ ไม่หวือหวา ไม่ต้องลุ้นอะไรเอ่ย แต่อ่านแล้วเหมือนดูต้นไม้โต ช้าๆแต่มั่นคง

มีความสุขมากกับนิยายดีๆเรื่องนี้ ขอบคุณจ๊ะ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ฮ่าๆ น่ารักกันจริง
ผม กับ มัน เนี่ย
ว่าแต่สงสัยแล้วถามได้จริงเหรอ
ฮ่าๆ

armmyrine

  • บุคคลทั่วไป
อยากรู้ "จูบแรก" ขอแค่นี้ได้มั๊ย???

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
น่าร๊ากกกกกกกกกกก  :-[ :o8:

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
ยกมือๆๆๆ ขอถามๆๆ

มาถึงตอนนี้ คบกันได้กี่ปีแล้วคะ อิอิ


ออฟไลน์ imissyou

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
ทะเลาะกันรุนแรงที่สุดเรื่องอะไร นานแค่ไหน แล้วใครง้อใครก่อน

ออฟไลน์ ryoushena

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-2
อยากรู้ "จูบแรก" ขอแค่นี้ได้มั๊ย???

^
^
^
^
จิ้มๆๆ อยากได้คำตอบข้อนี้เหมือนกัน ^ ___ ^

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อ้อที่เล่ามาทั้งหมดเป็นความทรงจำสินะ
ปัจจุบันผมและมัน อยู่ด้วยกันใช่ไหม
พ่อแม่รู้หรือยัง เพื่อน ๆ ล่ะว่าไงบ้าง

มันน่ารักเนอะ ขี้อายแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ
ชัดเจนทุกเรื่อง ทุกอย่าง คบแล้วสบายใจดี
 
ขอบคุณสำหรับอีกหนึ่งเรื่องน่ารัก ๆ เบา ๆ สบาย ๆ ในวันฝนพรำ

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
ยกมือๆๆๆ ขอถามๆๆ

มาถึงตอนนี้ คบกันได้กี่ปีแล้วคะ อิอิ



ผมกับมัน เริ่มคบกัน ตอนนั้นปี 2535 ครับ
นับไปต่อครับ ขี้เกียจนับแหละ

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
ฮ่าๆ น่ารักกันจริง
ผม กับ มัน เนี่ย
ว่าแต่สงสัยแล้วถามได้จริงเหรอ
ฮ่าๆ

ครับ ถามมาตอบไป ยกเว้นข้อนั้นครับ

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
อยากรู้ "จูบแรก" ขอแค่นี้ได้มั๊ย???

 :laugh: ว่าแล้ว ต้องมีมา

ไม่หวือหวานะ

จูบแรก มันตอนวันเกิดอ่ะครับ...วันเกิดผม

วันนั้นฉลองกันสองคน จำได้ว่าช่วงนั้นผมอยู่ปีสาม
วันเกิดผมตรงกับช่วงหลังสอบ ปิดเทอมแล้วนั่นแหละ ต้นปิดเทอมของปีสาม

มันก็มาฉลองวันเกิดที่ห้องผม

ช่วงนั้นตอนเรียนมหาลัย ไม่ได้เจอหน้ากันเลย 2 ปีกว่า
เจอหน้ากันอีกครั้งก็วันเกิดผมนี่แหละครับ(แต่โทรคุยกันตลอดนะ ตามที่มันท้า 55555+)

ขอเลยครับ
คิดถึงมากๆ เลยขอเจอตัวมัน

มันก็มา
เลยไปดูหนังกัน
พามันไปกินเอ็มเค
แล้วก็ซื้อเค้กกลับมาที่ห้อง

นังกินไป คุนกันไปเรื่อยๆ

 :-[ แล้วมองหน้ามันเพลินๆ อ่ะ มันก็ คิกคิกคิก
มันกินเค้กอยู่ อยู่ๆดี ผมก็บอกมันไปว่า "ขอจูบได้ป๊ะ"
มันก็อึ้ง หน้าตลกมาก เหมือนเห็นหมาเน่า  :jul3:

ไม่ได้คิดเอาจริงหรอก อยากลองพูดอ่ะครับ

แต่มันดันโอเคสิ

เหวย แล้วอ้อยเข้าปากช้าง ช้างปฏิเสธทำไมล่ะครับ

เอาเป็นว่า ขอจูบมันตอนสองทุ่ม หมดสิทธิ์ที่มันให้ตอนเที่ยงคืน
โอเคป๊ะครับ
 :o8:

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
ทะเลาะกันรุนแรงที่สุดเรื่องอะไร นานแค่ไหน แล้วใครง้อใครก่อน

คำถามนี้ ขอผมกลับไปถามมันก่อน
เดี๋ยวตกลงกันได้ว่าอันไหนรุนแรงสุดจะมาต่อให้นะครับ



ถามมาแล้วครับ
คิดว่าที่รุนแรงที่สุดคือ ตอนที่มันมอไซด์ล้ม
เรานับจากที่ไม่ได้คยกันนานที่สุดละกัน

ตอนนั้นมันอยู่ปีสี่ เทอมหนึ่ง
ช่วงนึงผมโทรไปหามันไม่เจอตัว จนสองวันก็แล้วไม่เจอมันอีก เลยถามคนในหอเลยว่ามันไปไหน
ไอ้พวกนั้นก็อ้ำอึ้ง ผมก็อาศัยว่าพุดดี ห่วงมันงี้ จนเพื่อนในหอมันคายออกมา
โน่น ไปมอไซด์คว่ำ นอนอยู่ที่โรงบาล นอนให้น้ำเกลือมาแล้วสองวันด้วย
ไม่บอกใครเลย พ่อแม่มัน มันก็ไม่บอก
หนำซ้ำบอกเืพื่อนมันให้ห้ามบอกผมอีก


ตอนนั้นเช่นเดิม นับย้อนปีไปนะครับ ตอนผมอยู่มหาลัยมือถือมันแพงมาก
เพจเจอร์ครับ มีนะ แต่พวกผมก็ไม่มีปัญหาซื้อ (อันที่จริงก็ไม่ชอบด้วยล่ะ เลยไม่ซื้อ)
มันทรมานนะครับ รู้ว่าแฟนเรานอนอยู่โรงบาล จะโทรก็โทรไม่ได้
เพื่อนมันที่รับสายบอกแค่ว่ามันอยู่โรงบาล แล้วไม่ยอมบอกอะไรผมอีกเลย
พวกมันว่าดูแลกันได้ ไม่ได้เป็นหนัก

แต่ผมห่วงนี่ครับ แฟนทั้งคน เลยมาเลย
หยุดเรียนไปเลย

มายืนประท้วงอยู่หน้าหอมันนี่แหละ
โอย จากเช้าจรดเย็นกว่าพวกมันจะกลับมา
กว่าจะทั้งไม้อ่อนไม่แข็งให้มันพาไปโรงบาล

ไปเจอหน้ามันที่โรงบาล
มันก็ตาเหลือกโต ตกใจมาก ว่ามึงมาได้ไงงี้
ผมก็ใส่สิครับ รู้ข่าวมันเดี๋ยวนั้น นั่งรถมาหามันเดี๋ยวนั้น
ไม่ใช่ใกล้ๆ นะ ล่อมาเกือบถึงภาคเหนือ
กินข้าวผมก็ไม่ไ่ด้กิน นอนก็ไม่ได้นอนเลย

เห็นหน้ามันก็เลยเลือดขึ้นหน้า ว่ามันใหญ่

มันน่ะ ไม่ชอบให้ใครตะคอก ไม่ชอบให้ใครดุ
ยิ่งไปทำแบบนั้นใส่มันมันก็แข็ง

อารมณ์มีเท่าไหร่เราเลยสาดใส่กัน

มองหน้ากันไม่ได้เลยครับ
วันนั้นโกรธจนไม่อยากเห็นหน้า
แต่ผมก็เฝ้ามันนะ อยู่เฝ้ามันที่โรงบาลจนมันหายออกจากโรงบาลมาอยู่หอได้
ก็เฝ้ามันทั้งที่ไม่ได้คุยกัน ไม่ได้มองหน้ากันนี่แหละ

พอมันกลับมาอยู่หอ
ผมก็โทรบอกบอกพ่อมันครับ
พ่อมันก็ยึดรถเลย ยึดใบขับขี่ด้วย
คาดโทษมันหนักทีเดียว

มันก็โมโหสิ ว่าผมไปฟ้อง

อ๊าว ผมก็ฉุนสิ หวังดีนะ
มันอันตราย แล้วอีกไม่ถึงปี มันก็จะจบปีสีแล้ว
ทำอะไรก็ต้องระวังๆ ให้มาก

สุดท้ายเราก็ไม่ได้คุยกันน่าจะสองเดือนได้
แต่ผมโทรไปทุกวันนะ มันสิไม่รับสายผม

พอปิดเทอม เดิมนัดกันไว้อยู่แล้วว่า ให้มันมาพักกับผมที่หอ ตลอดช่วงปิดเทอมนี้
ใจผมคิดนะว่ามันคงไม่มาหรอก...แต่มันก็มา

ไม่รู้ครับว่าใครพูดกับใครก่อน
เจอหน้ากันวันที่มันกดกริ่งที่หน้าห้องผม
เออ มันมายืนอยู่หน้าห้อง
ผมก็ถามมันไปตามปกติ "อ้าว มาแล้วเหรอ? กินข้าวมายัง?"
มันก็ตอบผมปกติ
แล้วพอมันเข้าห้องมาก็เหมือนปกติ


สรุป....
คดีรถล้ม ทะเลาะกันรุนแรงสุด ประมาณ 2 เดือนที่ไม่ไ่ด้คุยกัน
หากนับจากกระทงความผิดแ้ล้ว
มันอ่ะผิด ผมไม่ผิด
มันมาหาที่ห้องผมก่อน (ถึงนัดกันไว้ก่อนก็เหอะ) งั้นก็แปลว่ามันมาง้อผมก่อน

แต่ความจริงนะ ผมไม่ได้โมโหมันเลย โมโหแค่ช่วงที่อยู่โรงบาลแหละ
แค่วันแรกที่เหนื่อยจากเดินทางมาหามันเท่านั้นด้วย
ซึ่งหากผมโกรธมันจริง ผมคงไม่นั่งเฝ้าพยาบาลมันเป็นอาิทิตย์แบบนั้นหรอก

ผมถามมันนะว่าโกรธรึเปล่า
มันก็ว่าโกรธ แต่โกรธเพราะผมตะคอกมัน มันเลยของขึ้น ไปจี้ต่อมมันไงครับ
แต่ถามว่าหลังจากนั้นโกรธมั้ย มันว่าไม่ได้โกรธ แต่ไม่อยากคุยด้วย
เพราะยังเคืองเรื่องที่พ่อยึดมอไซด์ไป
พาลว่างั้น

แค่นั้นล่ะครับ
ไม่ค่อยจะถือโกรธอะไรกันมาก
เพราะตั้งแต่เรียนมหาลัยเราอยู่ไกลกันตลอด
เราไม่อยากทะเลาะกัน แล้วไม่ได้คุยกัน

อะไรเว้นได้ผมก็เว้นให้มันนะ
ส่วนมัน ไม่ชอบใจอะไรมันก็แค่งอนๆ พอมันเงียบผมก็หยอดไปทีสองที มันไม่คุยกับผมวันนี้พรุ่งนี้มันก็คุยครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-08-2012 01:20:45 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
อ้อที่เล่ามาทั้งหมดเป็นความทรงจำสินะ
ปัจจุบันผมและมัน อยู่ด้วยกันใช่ไหม
พ่อแม่รู้หรือยัง เพื่อน ๆ ล่ะว่าไงบ้าง

มันน่ารักเนอะ ขี้อายแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ
ชัดเจนทุกเรื่อง ทุกอย่าง คบแล้วสบายใจดี
 
ขอบคุณสำหรับอีกหนึ่งเรื่องน่ารัก ๆ เบา ๆ สบาย ๆ ในวันฝนพรำ

ครับ เล่าเฉพาะที่จำได้ติดหัวครับ

ปัจจุบันก็อยู่ด้วยกันครับ
มาอยู่ด้วยกันหลังทำงานไปแล้ว 3-4 ปีได้

เรียนจบต่างคนก็ต่างทำงานคนละที่ครับ
สามสี่ปีจากที่ทำงานกันไปแล้ว ก็กลับมาบ้านเราครับ
มันไปทำสวนอินทรีย์ ในที่ตาเหวงอ่ะครับ (พ่อมัน) มันชอบทางนั้น
ผมก็รับราชการไป ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดบ้านเกิดครับ (อ่านเรื่องจะเดาออกเนอะ)

เพื่อนครับ รู้ก่อนพ่อแม่
เพื่อนมัน จะรู้ก่อนเพื่อนผม
อย่างที่บอกเพื่อนผมในห้องสมัยมัธยมออกแนว "ไม่ใช่เพื่อน" อ่ะครับ
กลุ่มที่รู้ก่อนใครคือพวกที่เล่นบอลทีมเดียวกับผม แล้วเพื่อนในก๊วนของมันอ่ะครับ
ต่อจากนั้น ข่าวมันคงไปกระจายกันเอง ในวงเพื่อนๆ ก็เลยรู้กันไปทั่ว

ส่วนเพื่อนในมหาลัยผม รู้กันทั่วครับว่าผมมีแฟนเป็นมัน
รักครับ เลยต้องแสดงออก :laugh:

ส่วนฝั่งมันผมก็ประกาศด้วยการทำตามที่มันท้า โทรไปเช้าเ้ย็น
นึกดูเหอะ สมัยนั้นไม่มีมือถือ จะโทรก็ต้องโทรเข้าหอ
มันก็อยู่หอใน
ชั้นนึงมีโทรศัพท์สองเครื่อง
ก็มีไอ้บ้าคนนึง แม่งโทรติดเช้าเย็นตลอด
ผู้ชายที่ขอสายผู้ชายในหอนั้นตลอด
ไม่รู้ก็ต้องรู้
ผมบังคับรู้ครับ


พ่อแม่ มารู้ตอนก่อนผมย้ายกลับมาที่บ้านเกิดครับ
มันนานแล้วนะที่คบกัน
ห่างกันก็หลายปี ผมกับมันไม่เปลี่ยนความรู้สึกกัน เราเลยบอกพ่อกับแม่ของแต่ละฝ่าย
พอพวกท่านรับได้ และยอมอ่อนให้ เราก็ย้ายกันกลับไปอยู่บ้านเกิดครับ

เหอ เหอ ลำบากมาก ปวดหัวใจจี๊ดๆ ทีเดียวกับช่วงที่บอกพ่อแม่
หนักที่สุด ผมว่าตอนก่อนเอ็นท์ผมคิดมากแล้วนะ
แต่ครั้งนี้ที่บอกพ่อแม่ไม่เทียบไม่ติดเลยล่ะครับ

ออฟไลน์ ต่ายน้อย

  • กระต่ายน้อยลอยคอ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-3
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27719.0
น่ารักมากๆ อยากรู้ว่าใครสูงกว่าใคร

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่า
ชัดเจนทุกตัวอักษร
คบกันยาวดีเนอะ
เป็นสุภาพบุรุษกันมาก กว่าจะได้จูบแรก ปีสาม เหอ ๆ

จังหวัดที่ปลูกส้มโอได้ แล้วไปเที่ยวน้ำตกเหวนรกได้
เดาว่าปราจีนแล้วกัน ไม่เคยไป ไม่สันทัด

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
น่ารักมากๆ อยากรู้ว่าใครสูงกว่าใคร

เท่ากันพอดีเป๊ะครับ
แต่พอมันมาทำไร่ทำสวนมันใส่รองเท้าแตะ ผมใส่รองเท้าหนัง เลยดูสูงกว่านิดนึง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Singleman

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี่น่ารักมากครับ ถ่ายทอดดีมาก ทำให้เห็นภาพเลยยยย ชอบๆๆๆสุดๆๆๆๆๆ

ผมอยากถามครับ

สมัยนั้น ผมอยากรู้ว่า คู่ของคุณมีปัญหาเรื่องการนอกใจไหมครับ เพราะต่างคนต่างไกลกัน

ในความคิดผมนะ ผมว่า มันต้องมีเผลอๆบ้าง ขนาดคู่ผม ยังมีบ้างที่เข้าถึงหู แต่ผมถือว่า ถ้ามันมีความสุขก็ปล่อยมัน ถ้ามันคบกับเค้าแล้วดีกว่าคบกับผม ก็ปล่อยไป อิอิอิอิ

ออกทะเลนาน อยากรู้ครับ สมัยนั้นกับสมัยนี้จะเหมือนกันไหม

ออฟไลน์ witchhound

  • เบื่อ เบื่ออ เบื่อออ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
น่ารักเว้ย
ทั้ง"ผม"ทั้ง"มัน"เลยอะ
ชอบๆๆๆ :-[

ขอถามสักคำถามนึงด้วยละกันนะคะ
"มัน"เคยแสดงความหึงหวงให้เห็นบ้างรึเปล่าคะ
ถ้ามีก็อยากรู้ว่าตอนไหนยังไง
ถ้าเกิดว่าละลาบละล้วงเกินไปไม่ต้องตอบก็ได้น้า
 :กอด1:

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักเช่นเคย ชอบมากๆเลยคะ อ่านทุกเรื่องน่ารักทุกเรื่อง

อยากถามว่า เท่าที่อ่านมา เริ่มรู้จักตอนประมาณ ม2 แล้วคบกันช่วงม4ใช่มั้ยคะ

ดีใจด้วยนะคะ รักกันนานๆ

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
จบแล้ว... แบบอิ่มๆ สุขๆ
เรื่องราวของสองหนุ่มนครนายก
เขินเล็กๆ ลุ้นน้อยๆ อุปสรรคหน่อยๆ แต่รักยาวนาน อ่านเพลินดีจริงๆ
จะรออ่านเรื่องน่ารักๆเรื่องต่อไปของคุณนะคะ
 :pig4:

armmyrine

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก :z1:   กรีดร้องงงงงง เค้าเขินอ้ะ. 2ทุ่มยันเที่ยงคืน.    จูบอย่างเดียวหราาาคะะะะะะะ. คริคริ :-[

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
เรื่องนี่น่ารักมากครับ ถ่ายทอดดีมาก ทำให้เห็นภาพเลยยยย ชอบๆๆๆสุดๆๆๆๆๆ

ผมอยากถามครับ

สมัยนั้น ผมอยากรู้ว่า คู่ของคุณมีปัญหาเรื่องการนอกใจไหมครับ เพราะต่างคนต่างไกลกัน

ในความคิดผมนะ ผมว่า มันต้องมีเผลอๆบ้าง ขนาดคู่ผม ยังมีบ้างที่เข้าถึงหู แต่ผมถือว่า ถ้ามันมีความสุขก็ปล่อยมัน ถ้ามันคบกับเค้าแล้วดีกว่าคบกับผม ก็ปล่อยไป อิอิอิอิ

ออกทะเลนาน อยากรู้ครับ สมัยนั้นกับสมัยนี้จะเหมือนกันไหม

ครับสวัสดีครับ
ตอบนะครับ
สมัยนั้น ผมอยากรู้ว่า คู่ของคุณมีปัญหาเรื่องการนอกใจไหมครับ เพราะต่างคนต่างไกลกัน

เรื่องนอกใจไม่มีครับ


ผมกับมันคบกันมา 2 ปี (ช่วงนี้ตัดเลย โลกเป็นของเราเท่า่นั้น :laugh:)
แล้วเรียนหมาลัย 4 ปี+ทำงาน 3 ปี
7 ปีนี้ที่ห่างกัน...เราไม่มีปัญหาเรื่องนอกใจครับ

....
...
..
.

เออ ถามมาผมก็นั่งคิดนะ
เท่าที่ผมคิดว่าใช่ และมันเชื่อมโยงกัน...คือ (ค่อยๆ ทำความเข้าใจนะครับ นี่เป็นแค่ความคิดของผมคนเดียวนะครับ)

1.เราโทรคุยกันทุกวันครับ
มันอยู่หอใน ผมก็อยู่หอใน
สมัยที่มีแต่ตู้โทรศัพย์หยอดเหรียญ....นึกดูนะครับภาพมันคือ
หอใน 1 ชั้นมี 20-30 ห้อง (ของผม30ห้อง ของมัน 20 ห้อง)
1ชั้น มีโทรฯ 2 เครื่อง...ญาติพี่น้องของแต่ละคนต้องระดมโทรหาลูกหลานตัวเองใน 2 เครื่องนั้น
แต่เบอร์หอพักมันจะมีแค่ 5 เบอร์ หอพักมัน 5 ตึก(ชาย) 5ตึก(หญิง) 10ตึกนี้ใช้เบอร์ 5 เบอร์นั้นร่วมกัน

โอกาสในการโทรติดมันคือเท่าไหร่?

ผม...บางวันซื้อข้าวกล่องมานั่งกินที่หน้าตู้โทรฯ รอโทรหามันช่วงทุ่ม (เวลานี้คนสุดๆ)
แต่บางวันผมก็โทรดึกหน่อย นั่นคือจะกินข้าวและทำการบ้านแล้ว หรือถ้าไม่เสร็จก็ลงตึกมาต่อแถวโทรหามันก่อน
หอปิดสี่ทุ่มครับ มากกว่านั้นผมโทรหามันไม่ได้
บางวันก็โทรกลางวัน วันที่มันมีเรียนสาย หรือกลับจากเรียนภาคเช้าแล้ว
*** ทุกครั้งที่โทร ผมโทรตามตารางชีวิตมันครับ เลือกเวลาให้เข้ากับชีวิตผม

การโทรหามันใช่ว่าจะโทรปุ๊บติดปั๊บ เคยกดเป็นชั่วโมงไม่ติดเลย ต้องกลับไปต่อแถวใหม่โทรอีกทีถึงได้คุยกับมัน...ก็มี

วันที่คุยกันได้เยอะที่สุดคือเสาร์-อาทิตย์...วันธรรมดาได้คุยกับมันแค่ไม่เกิน 30 นาทีครับ เกรงใจคนอื่นๆ

*** อ้อ มันอ่ะ ใช่ว่าจะอยู่หอตลอด ไม่หรอกครับ บางวันก็โทรไปไม่เจอมันเหมือนกัน
แต่มันจะแปะโน้ตบอกหน้าเครื่องตรงชั้นมันว่า มันไปไหน จะกลับหรือไม่กลับ คนที่มารับสายจะมองโน้ตตรงนั้นแล้วบอกผมเองครับ
บางทีมันรู้ล่วงหน้าจะไปค่ายงี้ ไปงานเลี้ยงกับเพื่อนงี้ มันก็บอกผมก่อน วันนั้นผมก็ไม่โทรหามันครับ


2.ผมเรียนหนัก
คือ ผมไม่ได้เก่งน่ะครับ ต้องอ่านให้หนักถึงจะได้ความรู้ฝังหัว แถมยังเป็นพวกชอบลองของ หากไม่รู้ก็ชอบหาคำตอบ เอาให้รู้ ไม่รู้แล้วมันไม่สบายใจ
อาจารย์เนี่ย เจอกันบ่อยจนสนิทครับ ไปถามท่านบ่อยมาก แต่คะแนนก็ใช่ว่าจะดี แค่กลางๆ  :laugh:

3.ผมกับมัน เราไม่เคยได้แตะ หรือสัมผัสกัน
ไม่เคย ไม่เกินกว่าที่จำเป็น
เพราะมันชอบสะดุ้ง ไม่ก็ทำท่าหวาดระแวงเวลาผมไปลูบๆ มัน หรือจับในที่หมิ่นเหม่
55555555555+ มันคงรู้ตัวว่ามันต้องเป็นฝ่ายโดนจับกินมัีงครับ เลยระวังตัวมาก

ผมไม่ทำอะไรมันเลยในแบบนั้น เพราะไม่อยากเห็นมันทำท่าแบบที่บอก
อยากให้มันร่าเริงยิ้มสนุก เวลาอยู่กับผม เวลาได้คุยกัน

ชอบที่จะเห็นมันเขิน มากกว่ากลัว
แต่พูดแซวให้เขินก็พูดบ่อยไม่ได้ พูดไปไม่นานมันจะวางสายแล้วไม่ยอมคุยกับผมอีก
จะพูดแต่ละทีต้องเทียบน้ำหนัก เพราะผมอยากได้ยินเสียงมันมากกว่า

อ๊ะ จากที่จูบตอนวันเกิด
หลังจากนั้น ผมขอมันทุกครั้งนะ ไม่เคยไปทำมันตกใจนะครับ
ขึ้นโปรหน่อยก็ขอด้วยสายตา 55555+
(ไม่ลงรายละเอียดนะครับ ช่วงแบบนี้มันจะน่ารัก ไม่แบ่งปัน 5555+)

000. คุณเห็นอะไรหรือเปล่าในตารางชีวิตพวกผมมั้ย?
ผมกับมัน ไม่มีที่ว่างในหัวใจให้คนอื่นเลยครับ
วันๆ เราเอาแต่คิดถึงกัน
คิดถึงว่าจะได้คุยกันเมื่อไหร่
คิดถึงว่ามันทำอะไรอยู่ (ซึ่งมันจะบอกผมว่าวันนี้ทำไรไปมั่งก็ตอนที่ผมโทรหา)
ผม(อันนี้ไม่รู้ว่ามันคิดรึเปล่า) เฝ้าฝันถึงวันที่จะได้สัมผัสมันแบบอิสระ .... อันนี้ฝันนานโคตร

ไม่รู้นะคนอื่นเป็นมั้ย? แต่ผมไม่มีที่ว่างเหลือ ไม่มีเวลาเหลือ...ให้ใครอีกคนที่นอกเหนือจากเราครับ

ยุคสมัยนี้ ยุคสมัยนั้น
โดยรวมผมว่าไม่ต่าง
เพราะคนเรามีหลากประเภทต่างกันมาแต่ต้นอยู่แล้วครับ

แต่ผมว่ายุคนั้นทำให้ผมคิดถึงมันได้เหนียวแน่นกว่ายุคนี้

ผมกับมัน....ก็เป็นคนประเภทหนึ่ง (หนึ่งในหลายๆ ประเภท)
ที่อยู่ในยุคที่ต้องฝึกความอดทนกันตั้งแต่ลืมตายันนอนหลับ
ชีวิตประจำวันฝึกผมกับมัน ให้อดทน ให้อยู่ในกรอบ ให้มีความรับผิดชอบ ให้คิดถึงหัวอกคนอื่น
โดนเทรนมาแบบนั้นตั้งแต่เกิด มันก็เป็นไปเองครับ
แล้วทุกอย่างมันก็ผสมลงมาในชีวิตรักของผมกับมัน

แล้วมันก็เป็นอย่างที่เห็น

สำหรับผมคิดว่าการนอกใจ----สำคัญที่ความต้องการ
ผมต้องการและโหยหา "มัน"
ผมไม่ได้ต้องการและโหยหา "ความรัก"


เข้าใจผมไหมครับ
อันที่จริงผมก็เคยลังเลใจนะ
มันไม่รักผมในแบบเดียวกับผมมั้ย...แล้วตอนเราจบ ม.6 มันก็ให้ความมั่นใจกับผม
ผมเคยคิดว่ามันจะรักผมน้อยลงเมื่อไปอยู่ในโลกที่กว้างขึ้นมั้ย....แต่ช่วงที่มันเรียน มันก็เติมความมั่นใจให้ผมมาตลอด
ผมเคยคิดว่ามันกับผมจะไปกันไม่รอด....แต่พอเราย้ายมาอยู่ด้วยกัน ได้กลับมาอยู่บ้านเกิด มันก็ตอบโจทย์ผมได้สมบรูณ์

ผมรักมันจริงๆ และมันคนเดียวเท่านั้น...แต่ผมพูดแบบนี้ได้เต็มปากเต็มคำเมื่อเราได้อยู่ด้วยกันแล้วครับ
ก่อนหน้านั้น ผมพูดไม่เต็มปากหรอก...ความกลัว ความลังเล มันมีเยอะ
ก็ขอบคุณมันที่ช่วยเติมความมั่นใจมาให้เรื่อยๆ
เช่นนี้ผมจึงยืนหยัดกับมันมาได้ต่อ

สำคัญที่มันด้วย
มันไม่นอกลู่นอกทาง (เท่าที่รู้ เท่าที่เห็น มีข่าวมาบ้าง แต่ถามมันแล้ว มันว่าไม่มีอะไีรในก่อไผ่ มันยืนยันหนักแน่น ก็เชื่อครับ แต่ก็หึง 55555+ เอาไว้ก่อน กันทุกทาง)

แต่เวลาผมหึงมัน มันไม่ว่าผมนะ ไม่ได้รำคาญผมด้วย แต่ด่าแหละ
เวลาผมหึงมัน มันจะพูดดีกับผมมาก ให้ผมเย็นลงงี้ ถึงโมโหหึงอยู่ก็รู้
นั่นแหละ มันรักผมไง เลยอยากให้หายโมโห
ผมคิดงี้นะ ไม่รู้คิดถูกรึเปล่า

พอหึงแล้วจะโกรธ ถูกมั้ยครับ
หากโกรธก็ไมไ่ด้คุยกันสิ
ได้ไงล่ะ คิดถึงกันจะตาย
หน้าก็ไม่ได้เ้จอ
มีรูปแค่ไม่กี่ใบ
ภายเคลื่อนไหวก็ไม่มี
เสียงมันกว่าจะได้ยินทีก็แสนลำบาก
ถ้าเลี่ยงที่จะโกรธกันได้ เรามักเลี่ยงครับ

ไม่ได้เจอหน้ากัน มันทรมานมากนะครับ
แต่เราก็ต้องทำ เพื่อพ่อแม่ของพวกเรา

ช่วงทำงานเราทดลองครับว่าเราจะรักกันจริงมั้ย?
เราถึงแยกกันต่ออีกเกือบ 4 ปี

คือเราต้องสู้กับความต้องการของพ่อแม่
เราจะทำเพื่อท่าน แต่เรายังรัก เราจะเอาแบบนี้มั้ย?
แต่ผมไม่ได้ครับ ให้รักอยู่กับสามีคนอื่น ให้ผมตายเหอะ
แต่หากมันอยากทำเพื่อนพ่อแม่มัน ผมก็ไป ทนดูไม่ไหว
สุดท้ายแล้วมันก็ไม่เอา
สำนึกเลยครับว่ามันรักผมขนาดไหน
ดีใจโคตรๆ ดีใจยิ่งกว่าได้มีอะไรกันอีกครับ
แล้วหลังจากเราแน่ใจกันแล้ว เราก็บอกพ่อแม่ของพวกเรา

เยอะเลยเนอะ
ไม่รู้จะแยกประเด็นยังไงดีครับ
ก็ดึงมาจาก เหตุ ที่ผมคิดว่าใช่ ซึ่งทำให้ผมกับมันไม่ได้มีเหตุนอกใจกัน

อ้อ...ไม่นอกใจกันน่ะ ใช่ว่าไม่มีหึงนะ
บ่อยไปที่เกิดลมพัดหึง
จนได้มาอยู่ด้วยกันแล้วถึงเลิกหึงหนักๆ อ่ะครับ เอาแค่หึงนิดๆ 555555+


ยาวมากๆ
ไม่ครบประเด็นยังไง ถามต่อได้นะครับ




ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
น่ารักเช่นเคย ชอบมากๆเลยคะ อ่านทุกเรื่องน่ารักทุกเรื่อง

อยากถามว่า เท่าที่อ่านมา เริ่มรู้จักตอนประมาณ ม2 แล้วคบกันช่วงม4ใช่มั้ยคะ

ดีใจด้วยนะคะ รักกันนานๆ

ครับ
เจอกันตอนงานวันเกิดเพื่อน ช่วง ม.2
คบกันตอน ม.4

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
น่ารักเว้ย
ทั้ง"ผม"ทั้ง"มัน"เลยอะ
ชอบๆๆๆ :-[

ขอถามสักคำถามนึงด้วยละกันนะคะ
"มัน"เคยแสดงความหึงหวงให้เห็นบ้างรึเปล่าคะ
ถ้ามีก็อยากรู้ว่าตอนไหนยังไง
ถ้าเกิดว่าละลาบละล้วงเกินไปไม่ต้องตอบก็ได้น้า
 :กอด1:

"มัน"
มีครับ บ่อยไป
โดยรวมคือ มันไม่ชอบให้ผม ให้ความสนใจกับคนอื่นแบบสนิทสนมมากๆๆๆๆๆๆ (มากเกินมัน)
คือหากมันรู้ว่าใครสำคัญและผมให้ผมความสนมากกว่ามัน มันจะไม่พอใจ
โมโหผม งอนผม
มีครั้งนึง เล่าว่าไปงานเลี้ยง แล้วเพื่อนมันเมา มาหอมแก้มผม โอ้โห หึงเลย กะแทกสายไปเลยครับ
แล้วเห็นไม่ได้นะ ใครจะมาจับตัวผมนัวเนียเนี่ย....หน้าตึงเลย

พอเท่านี้นะ มากกว่านี้ผมหวง
เพราะผมชอบเวลามันหึงผม "น่ารักสุดๆ"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-08-2012 14:53:59 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ imissyou

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2


“กู......รักมึง.....มาก่อนมึงบอกรักกูที่หลังโรงยิมอีก....”



" ผม " ถาม " มัน " เรื่องนี้หน่อยจิ่  :m1:

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
" ผม " ถาม " มัน " เรื่องนี้หน่อยจิ่  :m1:

บอกจะเชื่อกันมั้ย

มัน..แม่งไม่ค่อยบอกเรื่องตัวเองเลยอ่ะ
ถามให้ตาย มันก็ไม่เล่าอ่ะ
ก่อนนี้ผมถามมันจนปากเปื่อย ผมก็เล่าของตัวเองหมดเปลือกเลย กะว่าเอาแลกๆ กัน
แม่งมันก็ไม่พูด  o12

เรื่องนั้น มันรู้ของมันอยู่คนเดียวอ่ะครับ

แต่ผมอ่ะ อนุมานเอาว่า ผมหล่อไง 555555555555+ (ชมตัวเอง หน้าไม่อาย)
นักฟุตบอลอ่ะครับ
มันก็นักวิ่งอ่ะ มันต้องซ้อมวิ่งรอบๆ สนามที่ผมเล่นทุกวันแหละครับ
ก๊ากกกก โอ่ตัวเองเนอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด