All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 25  (อ่าน 4485 ครั้ง)

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  24_มรสุม (3)

                                                                   
ผม  ธีร์   ไอ้กิ๋วและเดี่ยว...กลับมาทีซ้อมเพื่อที่จะคุยกันว่าจะแก้ปัญหากับเรื่องที่เกิดขึ้นยังไงเพราะระยะเวลาที่เหลือก็ไล่บี้ตามหลังเรามาลดลงไปเรื่อยๆ  ผมตัดสินใจว่าจะไม่บอกเรื่องของวุ้นให้น้องที่เหลือรู้จะรู้กันแค่พวกผมเท่านั้น
                     
“คงต้องปรับใหม่หมดเลยว่ะ...ไม่อย่างนั้นทุกอย่างพังหมด..” ผมบอก   
                             
“แต่ถ้าเราปรับใหม่หมดก็เสี่ยงเหมือนกันนะพี่นุ..นี่เวลาก็เหลือไม่มากแล้ว..”   เดี่ยวพูด
                                
“จะให้ทุกอย่างเหมือนเดิมแล้วเว้นตำแหน่งไอ้วุ้นไว้...ก็ไม่ได้อีกอ่ะเนอะ..”  ไอ้กิ๋วคิ้วขมวด
                    
“ยังไงเราก็ต้องเสี่ยงอ่ะ...ก็ยังดีกว่าที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย...อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด..”  ผมบอก
                        
“ผมว่าถ้าตั้งใจกันจริงๆ...ทุกอย่างต้องผ่านไปด้วยดีนะครับ...”  ธีร์พูด  พอทุกคนกลับมาครบเราก็เริ่มซ้อมต่อทันที...เราต้องปรับโซนตำแหน่งที่ใช้เต้นใหม่...ปรับการเล่นเวฟใหม่และที่สำคัญปรับการต่อตัวใหม่...เราใช้เวลาในการปรับตำแหน่งต่อตัวใหม่อยู่หลายชั่วโมงซึ่งทุกคนก็ตั้งใจกันเป็นอย่างดีไม่มีใครอิดออดกันซักคำ...จากรอบแรกที่เราใช้ท่า  ต่อตัวที่มันยากและซับซ้อน...แต่คราวนี้เราเปลี่ยนมาเป็นแบบง่ายๆเล่นไม่ยาก..แน่นอนซึ่งต้องมีผลกับคะแนนแน่ๆ   ถ้าคณะอื่นเค้าเล่นท่ายากกว่า...
                                                                                                     
“โอ๊ะๆ..โอ้ยยย..ว้ายยยย...” เสียงปอยกรีดร้องแล้วเสียหลักตกลงมาที่พื้นในการซ้อมรอบสุดท้ายแต่โชคดีที่ช่วยกัน    รับไว้ได้ทันแต่ก็ทำให้ขาของปอยบาดเจ็บได้อยู่เพอสมควร   
                                     
“ท่าทางข้อเท้าจะพลิกนะพี่ปอย...”  หนึ่งพูดแล้วนวดข้อเท้าปอยเบาๆ  ทุกคนที่ยืนล้อมกันอยู่สีหน้าไม่ค่อยดีนัก   
 
“ซ้อมมาตั้งนานไม่ตกนะมึงอีปอย...จะแข่งพรุ่งนี้อยู่แล้ว...”  ถึงปากจะบ่นเพื่อนแต่อิ่มก็บีบมือปอยไว้ตลอดเวลา
   
“ไหว...กูไหวน่า...พรุ่งนี้ก็หาย...ถึงไม่หายกูก็จะแข่ง...”  ปอยบอก  ผมทนยืนอยู่ตรงนั้นไม่ไหวจนต้องแยกตัวออกมายืนห่างๆเพราะเริ่มรู้สึกว่าทำไมปัญหามันเข้ามาหาผมพร้อมๆกันมากขนาดนี้วะ...ผมยืนสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆเพื่อควบคุมสติอารมณ์                                                                                                

“กูว่าน้องมันล้ากันแย่แล้วว่ะไอ้นุ...ปล่อยมันกลับบ้านเลยเหอะ..ซ้อมต่อเดี๋ยวจะมีคนพลาดเจ็บตัวมากกว่านี้...นี่ก็จะตีหนึ่งแล้วให้มันพักกันเหอะ...พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที ” ไอ้กิ๋วเดินมาตบไหล่ผมเบาๆแล้วเดินกลับไปปล่อยน้องๆกลับบ้าน

“เดี๋ยวหนูจะย้อนไปเฝ้าอีวุ้นซะหน่อย...แบงค์โทรมาบอกเมื่อสี่ทุ่มว่าจะกลับไม่มีใครอยู่กะมัน..หนูเลยจะไปเอง” เดี่ยวเดินมาบอกไอ้กิ๋ว...ไอ้กิ๋วพยักหน้างึกงัก   
                                               
“เฝ้ามันแล้วมึงก้อย่าลืมนอนด้วยละ...เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรงแข่ง...”



ตีสี่กว่าๆวุ้นลืมตาตื่นขึ้นมานั้นเห็นเดี่ยวฟุบหลับอยู่ข้างๆเตียงโดยนั่งซบศีรษะอยู่บนแขนของตนเอง  วุ้นขยับตัวลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบากด้วยจุกเสียดแถวบริเวณหน้าท้องและปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด วุ้นรู้สึกเจ็บบริเวณใบหน้าเมื่อลองเอามือคลำดูรู้สึกว่ามันบวมผิดปกติ แถมซ้ำยังมีความรู้สึกว่าตัวเองปากเจ่ออีกด้วย  เดี่ยวสะดุ้งตื่นเงยหน้าขึ้นมอง 
             
“เป็นไงบ้างอีผี...กูนึกว่าจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราซะแล้วมึง...แล้วนี่มึงเป็นไงบ้างเนี่ย...”
                                                                             
“ค่อยยังชั่วขึ้นมากแล้วล่ะ ปวดท้องหน่อยๆ แต่คงไม่เป็นอะไรมากแล้ว”                                

“นี่หล่อน...ชั้นหลับไปนานเท่าไหร่แล้ว”
                                                                            
“เกือบ 2 วันสิอีดอก...”                                                 

“จริงหรือยะ...นานขนาดนั้นเลยเหรออีควาย... ชั้นนึกว่าแค่คืนเดียวเสียอีก”                                                                                                   

“เข็ดมั้ยละมึง...ต่อไปมึงก็ระวังตัวหน่อยละกันก่อนจะถ่างขาให้ใครน่ะ...ดีนะชั้นไม่โดนลากไปอีกคน...”  เดี่ยวพูดแล้วเอามือทาบหน้าอก                                                                                          

“ถ้าหล่อนไปกะชั้นนะ...ชั้นก็คงไม่มีสภาพอย่างนี้หรอก...ใครจะไปรู้ว่าพวกมันจะแตะมือแท็กทีมกันอย่างนี้โดนเข้าไปดุ้นแรกก็ยังซาบซ่านอยู่หรอกแต่สักพักโผล่มาจากไหนอีกไม่รู้สี่ห้าดุ้น...เฮ้อออ...เสียดาย”                                         

“แหม!อีห่านี่...ถ้าชั้นเป็นพี่คนนั้นนะชั้นไม่เข้าไปขัดจังหวะให้เสียเวลาหรอก...”                               

“ชั้น.......ขอบใจหล่อนนะยะเดี่ยวที่เป็นห่วงชั้น...”                                                    

“ใคร๊..ใครห่วงหล่อน..ที่ชั้นมาเฝ้าเนี่ยเพื่อมาดูว่าหล่อนน่ะจะตายรึเปล่าเพราะถ้าไม่รอดชั้นจะได้หุบแบงค์มาเป็นของตัวเอง...เหอๆ...กูจะได้จัดชุดใหญ่ให้แบงค์ซะดอกนึง..”                                                                                                      

“กล้ามากนะ..อีดอกกกกก....”  วุ้นพูดแล้วทั้งคู่ก็หัวเราะพร้อมกัน                                              

“หลับได้แล้วอีชิสุห์เดี๋ยวพรุ่งนี้ชั้นต้องไปแข่งหลีดอีก...”  เดี่ยวพยุงวุ้นนอนลงที่เดิม                             

“ชั้นเป็นอย่างนี้แล้วพวกหล่อนทำยังไงกันได้อ่ะ...พี่นุโกรธชั้นมั้ยหล่อนนนน...”                                      

“ไม่มีใครเค้าโกรธหล่อนหรอก...นอนเหอะไม่ต้องกังวล..ไปที่ชอบๆได้เลย...”  เดี่ยวพูดแล้วขำ                      

“อินี่....กูยังไม่ตายอีบ้า....”            


   ผมตื่นประมาณเก้าโมงเช้าแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวแต่ยังไม่ทันจะได้อาบน้ำ ผมก็รู้สึกปั่นป่วนในท้อง จุกเสียดแน่นไปหมดเหมือนอาหารมันจะขย้อนออกจากปาก ผมรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำและอาเจียนออกมากองโต ปวดท้องจิ๊ดๆ ผมอยู่ในห้องน้ำประมาณครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้อาเจียนจนหมดแรง  เสียงผิวปากดังมาให้ได้ยิน จากนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดออกแต่พอธีร์เห็นผมยังอยู่ในชุดเดิม แถมซ้ำนอนตัวงอก่องอขิง เอามือกุมท้องอยู่บนที่นอนก็ร้องอุทานอย่างตกใจ เดินพรวดเดียวถึงเตียง และทรุดนั่งลงข้างๆผม โน้มตัวเข้ามาใกล้

“พี่นุเป็นอะไรหรือครับ ไม่สบายหรือเปล่า ท่าทางไม่ดีเลย”

“พี่ปวดท้อง....แล้วก็อ้วกด้วยไม่รู้เป็นอะไร...”
 
“ไปหาหมอก่อนดีไหมครับ อย่าปล่อยไว้เลย เดี๋ยวจะแย่กว่านี้”  น้ำเสียงที่ธีร์ถามเจือด้วยความห่วงใยธีร์ประคองผมให้ลุกขึ้นนั่ง  ผมพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็ทรุดฮวบ เอามือกุมท้อง เจ็บปวดแทบขาดใจ เหมือนไส้ถูกบิดอย่างแรง

“ลุกไปโรงพยาบาลไหวไหมพี่นุ...ทนนิดนึงนะครับ”  ผมพยักหน้า  พอมาถึงโรงพยาบาล  หมอตรวจอาการเสร็จก็บอกว่าที่ผมปวดท้องและอาเจียนมากมาย เพราะว่าเครียดลงกระเพาะ...พอหมอไปแล้ว ธีร์ก็ดุผมทันที

“พี่นุอย่าคิดมากซิครับ...พี่นุห่วงแต่งานไม่ห่วงตัวเองเลย...” ผมได้แต่นอนฟังตาปริบๆ ถึงตัวเองกำลังโดนคนที่อายุน้อยกว่าต่อว่าแต่ก็โกรธไม่ลง

“ตอนนี้เป็นไงบ้างครับ หายปวดท้องหรือยัง ยังอยากจะอ้วกอีกไหม จะเข้าห้องน้ำหรือเปล่า เดี๋ยวผมพาไป”

ธีร์ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนชะโงกเข้ามาใกล้ แล้วเอามือลูบไล้แผ่วเบาไปตามใบหน้าของผม ท่าทางเป็นห่วงเป็นใย ผมส่ายหน้า

“ยังปวดท้องอยู่บ้าง แต่ก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นแล้ว เพราะหมอให้กินยาแก้อาเจียนแล้ว...”

“นี่ยังโชคดีนะครับที่ไม่เป็นอะไรมาก แค่นอนพักให้น้ำเกลือขวดเดียว เดี๋ยวก็กลับได้แล้ว...”

“แล้วพวกนั้น...” ผมกำลังจะอ้าปากพูดต่อ  ธีร์เอานิ้วมาแตะที่ริมฝีปาก

“เลิกห่วงคนอื่นได้แล้วครับพี่นุ...ยังไงทางโน้นก็มีพี่กิ๋วดูแลอยู่ถ้ามีอะไรเค้าคงโทรมาหาเราเอง...กว่าจะแข่งก็ตั้งหกโมงเย็น...น้ำเกลือก็คงหมดพอดีแล้วเราค่อยไปกันก็ได้นะครับ..หรือพี่นุกลัวหายไม่ทันผมจะได้ฉีดยาให้...”   ไม่พูดเปล่า มือไวซุกซนของธีร์ก็วางแหมะลงตรงก้นของผมพอดี ผมซัดพลั๊วะเข้าที่มือของธีร์ พอเห็นธีร์สะบัดมือด้วยความเจ็บผมก็หัวเราะ

“สมน้ำหน้า ไอ้เด็กลามก”

“ไม่รู้อ่ะ...คนที่จะฉีดยาพี่นุได้มีผมคนเดียว....”  ธีร์ยิ้มเจ้าเล่ห์  ผมเลยเขกหัวไปทีหนึ่งค่อนข้างดังและชักผ้าห่มขึ้นมาคลุมบอกว่าจะนอนแล้ว  ธีร์ทำปากยื่นใส่ผม เอามือคลำหัวป้อยๆ
“รังแกผมอีกแล้ว...ใจร้าย...”

“ก็อยากบ้ากามไม่รู้กาละเทศะทำไม โดนแค่นั้นยังน้อยไปด้วยซ้ำ”  ผมว่า   ธีร์ก็เลยหัวเราะชอบใจ

“ผมก็หื่นแต่กับพี่นุคนเดียวเท่านั้นแหละครับ...อยู่ใกล้พี่นุแล้วมีความสุขจะตาย...นอนหลับนะครับถึงเวลาแล้วเดี๋ยวผมปลุกเอง....ปลุกมาฉีดยา...อิอิอิ..”  ผมขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกะธีร์เลยหลับตานอนเงียบๆ  มีเสียงหัวเราะเบาๆจากคนข้างๆจากนั้น จมูกและริมฝีปากของธีร์ก็สัมผัสเข้าที่แก้มของผม   ผมพลิกตัวตะแคงข้างแล้วอมยิ้มอย่างมีความสุข  ธีร์เดินออกมานอกห้องแล้วกดโทรศัพท์ไปหาไอ้กิ๋ว

“ยังไงฝากพี่กิ๋วดูแลทางโน้นด้วยนะครับ...ตอนนี้ผมกับพี่นุอยู่ที่โรงพยาบาล...ครับ...ไม่เป็นอะไรแล้ว...หมอบอกว่าพี่นุเครียดลงกระเพาะอ่ะครับ..หมอเลยให้นอนให้น้ำเกลือขวดนึง...เย็นๆก็น่าจะออกไปทัน...”

“บอกไอ้นุมันละกันว่าไม่ต้องเป็นห่วง...ถ้าไม่มีอะไรหนักหนาสาหัสเดี๋ยวพี่จัดการเองถ้ารับมือไม่ไหวยังไงจะส่งข่าว”

“ครับๆ..พี่กิ๋วไม่ต้องเป็นห่วงผมจะดูแลพี่นุอย่างดีเลย...”

“เออ...แค่ดูแลอย่างเดียวนะเว้ย...อย่าเผลอปล้ำไอ้นุมันเข้าล่ะ...โรงพยาบาลนะเว้ยไม่ใช่โรงแรม..เออๆแค่นี้แหละ..”               ไอ้กิ๋วพูดแล้ววางสาย...


“ว่าไงพี่กิ๋ว...พี่นุจะมาได้ป่าว...” อิ่มสะกิดไหล่ไอ้กิ๋ว...

“ยังนอนให้น้ำเกลืออยู่...เย็นๆมันน่าจะมาทัน...” 

“พี่นุเป็นอะไรมากมั้ยพี่กิ๋ว...” เจมส์เดินเข้ามาถาม

“ไม่เป็นไรมากหรอก...ไม่เป็นไรน่า...พี่คนเดียวก็พอ..ไปพวกแกไปแต่งตัวกันได้แล้ว...ไปๆ..” ไอ้กิ๋วไล่ให้แต่ละคนไปแต่งหน้าทำผมแต่งตัวกัน...

“พี่กิ๋วเนี่ยนะ..จะดูพวกหนูแทน...โอ้!มายก๊อดดด” เดี่ยวทำท่าเอามือกุมขมับแล้วเดินไป

“พี่นุไม่อยู่...เกิดพวกเราพลาดจะทำไงวะ...”  เอกบ่นกับหนึ่งตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องน้ำ

“พวกเราก็ทำตามที่ซ้อมมาเมื่อวานสิวะ...ก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด....”  หนึ่งพูดแล้วถอดเสื้อแล้วเอามือวักน้ำล้างหน้า

“เฮ้ย...แม่งลืมเอาเสื้อหลีดมาว่ะ..เดี๋ยวกูกลับไปเอาก่อนเดี๋ยวพี่กิ๋วด่า..” เอกพูดแล้วเดินออกไปเจมส์เดินสวนเข้ามาพอเห็นหนึ่งอยู่ในห้องน้ำ เจมส์ก็ผงะไปนิดนึงก่อนที่จะเดินเข้ามา...หนึ่งเงยหน้ามองเจมส์ในกระจกนิดนึงแล้วล้างหน้าต่อ

“เฮ้ย...หนึ่ง...กูมีเรื่องจะถามมึงว่ะ...”  เจมส์ถาม  หนึ่งเงยหน้ามอง

“มึงมีอะไรเหรอ...ถามมาดิ..ถ้ากูตอบได้กูจะตอบ...” หนึ่งตอบแล้วเอาน้ำเสยผม

“คืนนั้นที่เมา...มึงกับกู...นอนอยู่ด้วยกัน....สองคนใช่มะ...”

“อืมม...ใช่ดิ...ทำไมเหรอ...”  หนึ่งพูดแล้วเอาผ้าเช็ดหน้า

“แล้วมึงจำอะไรได้บ้างมั้ยวะ...”

“กูก็...จำได้ลางๆว่ะ...คล้ายๆกูฝันว่ากูกำลังมีอะไรกับแฟนกูว่ะ...แต่กูเห็นหน้าแฟนกูไม่ชัดเลยไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า...เฮ้ย..คุยไรกันวะเนี่ย...”

“กูก็รู้สึกคล้ายๆมึงว่ะ...คล้ายๆว่ากูเองก็จะฝันเหมือนมึง...แต่คนในนั้น...ที่กูมีอะไรด้วยมันกลายเป็นมึงว่ะ...”

“เฮ้ย...นี่ถึงขนาดมึงเอาหน้ากูไปฝันเลยเหรอวะ...อย่างนี้กูก็ถูกมึงเปิดซิงแล้วอ่ะดิ...555..” หนึ่งบอก

“ใครบอกว่ามึงถูกกูเปิดซิงอย่างเดียว...มึงก็เปิดซิงกูเหมือนกันนะเว้ย...”

“อ่ะ..งั้นก็เจ๊ากันไปเว้ย...เฮ้ย...บ้าไปแล้วเมิงไอ้เจมส์..กูไม่ได้ชอบผู้ชายนะเมิง...กูแค่ได้กับมึงในฝันแค่นั้นแหละ...อย่ามาคิดอะไรกับกูนะเว้ยยย...”  หนึ่งทำท่าผงะหนีแล้วเดินเข้ามาตบไหล่เจมส์เบาๆใส่เสื้อแล้วเดินออกไป...

“นี่มึงไม่รู้จริงๆ.....หรือแกล้งไม่รู้วะไอ้หนึ่ง...”  เจมส์พูดกับตัวเองเปลี่ยนเสื้อแล้วเดินตามออกไป.....

   ผมตื่นขึ้นมาอีกทีในตอนประมาณสี่โมงเย็นเพราะพยาบาลมาเรียกเพื่อจะถอดสายน้ำเกลือออก...ผมมองไปข้างเตียง ก็เห็นธีร์นั่งกอดอกหลับคอพับคออ่อนอยู่ที่โซฟา พอพยาบาลจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ขอตัวออกไป...ผมขยับตัวลงจากเตียง แต่ธีร์รู้สึกตัวเสียก่อน ธีร์เงยหน้าขึ้นมองผม และยิ้มให้จนตาหยี กุลีกุจอลุกขึ้นช่วยพยุงผม
“ถอดสายน้ำเกลือแล้ว...เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยนะครับ...” ธีร์บอกจากนั้นก็เดินมาแก้ปมที่ผูกเสื้อของผมออกจากกันจากนั้นก็มาถึงกางเกงที่ผมใส่อยู่ ธีร์กระตุกเชือกรัดเอวออก จากนั้นก็รูดกางเกงผมลง ธีร์หัวเราะหึหึ เมื่อผมเอาสองมือมากุมน้องชายปกปิดไว้จากสายตา

“อายทำไมกันน้า .. า ...า.....า ผมเห็นออกบ่อยๆ”  ธีร์พูดแล้วเอามือลูบไล้อย่างทะนุถนอม ผมเบี่ยงตัวหนี และทำเสียงเข้มใส่ธีร์

“นี่มันโรงพยาบาลนะ รุ่มร่ามจริงเชียว เดี๋ยวใครมาเห็นกันพอดี”  ผมดุ...ธีร์ส่งเสื้อผ้าให้ผมใส่

“ตัวนิดเดียวไม่น่าซ่อนรูปนะเนี่ยพี่นุ...” ธีร์ทำแววตาขี้เล่นจนผมต้องเขกหัวไปทีหนึ่ง...

“เดินไปที่ฝ่ายการเงินก่อนเลยไป..เดี๋ยวตามลงไป...”  ผมสั่ง...ธีร์ยิ้มๆแล้วก็เดินไปจ่ายเงินที่ฝ่ายการเงิน  ผมชะงักเพียงอึดใจเมื่อมาหน้าห้องฝ่ายการเงินเห็นธีร์กำลังนั่งคุยกับชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งที่แต่งตัวเนี๊ยบเหมือนกับกระโดดออกมาจากนิตยสารแฟชั่น ถัดไปอีกนิดก็มีอีกคนหนึ่งมองธีร์ตาเยิ้มอยู่  ธีร์หันขวับมาทางผมและรีบตัดบทสนทนาลุกขึ้นเดินลิ่วตรงมาผมทันที...อย่าบอกนะว่านี่คือคนที่สามและสี่ของธีร์ที่ผมต้องรับมือด้วย...แค่นวินกับเป้สองคนผมก็จะแย่อยู่แล้วนะเนี่ย....ขนาดโรงพยาบาลยังมีอีกเหรอวะเนี่ย...

“คุยกะเพื่อนอยู่เหรอ???...” ผมถามเสียงนิ่งดูเหมือนธีร์จะสะดุ้งนิดๆ

“เพื่อนสิครับ....เพื่อนจริงๆ...” ธีร์ตอบเสียงค่อยๆ

“แล้วทำไมตอบเสียงค่อย...ธีร์...อยากกลับด้วยกันมั้ยเนี่ย...”

“อยากสิครับ...”

“งั้นบอกมาหน่อยสิว่าใคร...”

“เอ่อ...พี่นุครับ...อย่าคิดมากน่าผมมีพี่นุคนเดียว พี่นุก็รู้...แต่เวลามีคนมามองผมมันช่วยไม่ได้นะครับ...มีแฟนหล่อก็ต้องทำใจ...แต่คนเมื่อกี้เพื่อนกันธรรมดาครับ...เพื่อนเก่า...”
 
 “นึกว่าคนเก่าๆ...ก็ให้มันเป็นแค่เพื่อนเก่าจริงก็แล้วกัน...ไปกันหรือยัง เดี๋ยวก็ไม่ทันพอดีหรืออยากจะนั่งอยู่ที่นี่นานๆ”

“จะได้หว่านเสน่ห์ต่อ พี่นุจะพูดแบบนี้ต่อใช่ไหมละ” ธีร์หัวเราะชอบใจ  ผมไม่ตอบ หยิบเป้สะพายที่วางอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ ลุกขึ้นแล้วเดินนำหน้าตรงไปทางออก  ธีร์เดินตามยังหัวเราะเบาๆไปตลอดทางคงรู้สึกสนุกละมั้งที่ได้ยั่วผมเนี่ย
แล้วเราสองคนก็ขับรถออกจากโรงพยาบาลตรงไปยังสนามกีฬา...

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
มีแฟนหล่อก็ต้องทามมมจายยยยยย
แต่ถ้าเจ้าชู้ก็ตัดกาจู๋มันทิ้งปายยยยยย
ฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ผู้ชายเจ้าชู้..เหมือนงูไม่มีพิษ  หรา!!!   :m16:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2017 20:33:25 โดย ืniyataan »

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  25_รักเธอทั้งหมดของหัวใจ...


“พี่กิ๋ว...ทำไงดีอ่ะพี่...ลองเช็คแผ่นแล้วแผ่นมันไม่เล่นไม่ได้อ่ะเครื่องมันไม่อ่าน...”  อิ่มวิ่งมาบอกหน้าตาตื่น

“เหรอๆ...แล้วทำไงดีวะมีแผ่นสำรองรึเปล่า...” ไอ้กิ๋วก็เลิ่กลั่กไม่แพ้กัน..เดินไปมาเป็นหนูติดจั่น

“โอ้ย...จะเดินทำไมนักหนาเนี่ยพี่กิ๋ว...หนูตาลายไปหมดละน๊า...”  อิ่มบ่น

“จบไปแล้วนะครับสำหรับหลีดปอมปอมจากคณะวิทนาการจัดการ..ต่อไปขอเชิญคณะศึกษาศาสตร์ลงสนามได้เลยคร๊าบ”
เสียงพิธีกรในสนามประกาศเรียกชื่อทำเอาอิ่มเต้นเร้าๆใหญ่...

“ตายๆๆ...เค้าประกาศแล้วอ่ะพี่กิ๋ว...”  อิ่มพูดแล้วชะเง้อชะแง้

“พี่อิ่ม...ไปเร็วเค้าเรียกคณะเราแล้ว...” แซ็กวิ่งมาตาม  อิ่มหันไปมองหน้าไอ้กิ๋วอย่างกังวลแต่ไอ้กิ๋วพยักหน้าให้ไปก่อน

“ทำไงดีวะกู...ไอ้นุนะไอ้นุเสือกมาป่วยอะไรตอนนี้ว๊า...” ไอ้กิ๋วบ่นแล้วกดโทรศัพท์

“อ้าวเหี้ย...เสือกแบตหมดอีก...”  ไอ้กิ๋วยิ่งหงุดหงิดใหญ่... 


   ธีร์จอดรถที่อัฒจรรย์ฝั่งมีหลังคา...ผมเห็นไอ้กิ๋วเดินชะเง้อชะแง้อยู่ตรงประตูทางออกเหมือนกับว่ากำลังมีปัญหาอะไรซักอย่างผมเลยรีบเดินไปหา

“เฮ้ย...ไอ้กิ๋วมายืนทำไมตรงนี้...น้องมันเดินลงสนามไปแล้วไม่ใช่เหรอ...” ผมทำหน้างง

“ไอ้นุ..มึงมาก็ดีแล้วมีแผ่นซีดีสำรองมารึเปล่า...แผ่นที่เตรียมมันเปิดไม่ได้นะเว้ย...”  ไอ้กิ๋วบอก  ผมก็ตาเหลือกเลยทีนี้

“อ้าว...แล้วทำไมมึงไม่โทรบอกกูตั้งแต่แรก...”

“แบตกูหมดพอดีดิ...”

“เดี๋ยวกูดูในเป้ก่อน...” ผมบอกแล้วค้นดูในกระเป๋าเป้ที่สะพายมาด้วย....โชคดีพระเจ้าเข้าข้าง...ผมรีบส่งซีดีให้ไอ้กิ๋วเอาไปให้เจ้าหน้าที่รีบเปิด...

“มีปัญหาอะไรรึเปล่าพี่นุ..” ธีร์เพิ่งเดินตามเข้ามาถึง

“นิดหน่อย..แต่ไม่มีอะไรแล้ว..ปะไปที่สนามกันเหอะ...”  ผมจูงแขนธีร์เดินแหวกผู้คนที่ยืนออกันอยู่บริเวณขอบสนามเพื่อยืนดูการแข่งขัน...พอเพลงเริ่มขึ้นการต่อตัวก็เริ่มขึ้น..พอเริ่มปุ๊บเราก็พลาดกันปั๊บเมื่อปอยพลาดในการต่อตัวฐานแรกตอนหัวเพลง ปอยยืนขาเดียวสุดมือแล้วก้าวขาไปเหยียบไหล่น้องผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงกลางแทนวุ้นไม่ถึงจนเซไปทั้งฐานแต่ก็ไม่ถึงกับล้มเมื่อปอยพยายามเหยียบไปแขนน้องคนนั้นแทน...พอถึงช่วงเต้นทุกอย่างที่เหมือนเดิมก็ผ่านไปด้วยดีแต่พอถึงช่วงที่ซ้อมใหม่ปรากฏว่าไอ้หนึ่งกะไอ้เอกและน้องอีกคนหนึ่งก็วิ่งผิดตำแหน่ง...พอถึงช่วงต่อตัวในช่วงกลางก็พลาดอีกเมื่ออิ่มก้าวขาพลาดทำให้ม้วนหลังคู่กับปอยไม่ได้...ผมเองก็เริ่มใจคอไม่ดีแล้วกองเชียร์ของคณะเราก็เริ่มไม่ส่งเสียงเชียร์แล้วเพราะเราพลาดเยอะเหลือเกิน

“เค้าให้มาแข่งหรือให้มาพลาดวะ...” เสียงหนึ่งดังที่ด้านหลังผม...ผมถอนใจเฮือกใหญ่  ธีร์บีบมือผมไว้แน่น

“ใจเย็นๆนะครับพี่นุ...”
   

เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน...เมื่อผู้ชายทั้งหมดต้องตีลังกาสวนกันแต่แล้วไอ้เจมส์กะไอ้คิมก็ตีลังกาไม่ทันอีกเลยทำให้การต่อตัวในช่วงสุดท้ายเองก็เกือบไม่ทัน...แล้วเราก็พลาดกันอีกในต่อตัวตอนจบเมื่อปอยกับอิ่มต้องม้วนหน้ากลางอากาศแล้วม้วนหลังอีกทีแต่ทั้งคู่ก็หมุนไปครบรอบปอยม้วนหน้าทันแล้วแต่ม้วนหลังไม่ขึ้น  ส่วนอิ่มม้วนหน้าไม่ทันแต่ม้วนหลังได้ทั้งทำให้ทั้งคู่ยืนขึ้นมาเหยียบคนที่อยู่ตรงกลางไม่ทัน...จบการแสดงปุ๊บพร้อมกับเสียงปรบมือที่ดัวเปาะแปะพอสมควรดูแล้วปรบมือกันตามมารยาทมากว่า....

ประกาศผลออกมาก็เป็นไปตามที่ผมคิดคือคณะเราได้อันดับสุดท้ายจากทั้งหมด...ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจเลยเพราะครั้งนี้เราไม่พร้อมกันจริงๆรวมกับเรื่องราวความไม่พร้อม ความขลุกขลักหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นด้วยทำให้พวกเราขาดกำลังใจกันไปเยอะ ครั้งแรกเราเดินลงสนามด้วยความมั่นใจกำลังใจเต็มเปี่ยมแต่ครั้งนี้เราเดินเข้าสนามด้วยความรู้สึกว้าวุ่นกังวลไปหมด..กลัวจะพลาด..กลัวจะเต้นผิดโซนซึ่งมันก็เป็นไปตามนั้น...พอน้องทั้งหมดเดินกลับออกมาจากสนามแต่ละคนเดินหน้าเสียออกมากันหมดโดยเฉพาะปอยกับอิ่มเดินน้ำตาตกออกมาเลย...

“พี่นุ...” ทั้งสองสาวเรียกชื่อผมแล้ววิ่งเข้ามากอดผมคนละข้าง...ผมก็ลูบหัวเป็นการให้กำลังใจ

“ช่างมันเหอะ...พวกเราทำดีที่สุดแล้ว...” ผมบอก  ไอ้กิ๋วเดินเข้ามาสมทบ

“ไป...กลับกันเหอะถึงเราแพ้เราก็ฉลองได้...ใช่มั้ย...เฮ้!!!!”  ไอ้กิ๋วนำทุกคนร้องเฮกันดังลั่นแล้วกลับออกจากสนาม
ผมกลับธีร์เดินกลับมาที่รถ...แต่ก็เจอคนที่คุ้นเคยเดินมาขวางหน้าไว้...

“นวิน....”  ผมเรียก....มันจะมาไม้ไหนอีกวะวันนี้...

“เป็นไง...คงคิดว่าตัวเองจะชนะได้หมดทุกเรื่องสินะ...เสียใจด้วยนะที่ไปไม่ถึงดวงดาวซะแล้ว...” นวินพูดเยาะเย้ย

“พี่นวิน...” ธีร์ทำท่าจะพูดแต่ผมยกมือขึ้นห้ามแล้วพูดเอง

“ก็ไม่ได้หวังว่าชนะตั้งแต่แรก...ถ้าเราพยายามทำอะไรซักอย่างอย่างเต็มที่...แล้วผลออกมาไม่ว่ามันจะเป็นยังไงก็ช่าง..เราก็ภาคภูมิใจเพราะเราถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว..แต่กับคนบางคนอาจจะไม่เคยทำอะไรมาซักอย่างด้วยซ้ำแต่พอชอบใจสิ่งไหนหรือเห็นใครเค้าประสบความสำเร็จก็...ดีแต่จะคว้ามาเป็นความดีความชอบของตัวเอง...ไม่รู้คนแบบนี้เค้าภาคภูมิใจไปได้ยังไงไม่รู้นะ” ผมตอบกลับเสียงนิ่ง  นวินมองผมตาขวาง

“เดี๋ยวนี้พูดเก่งขึ้นนะ...คิดว่าเป็นแฟนกับธีร์แล้วเราจะยอมแพ้อย่างงั้นเหรอ...เราอยากจะรู้นักว่าคนจืดชืดแบบนี้จะทนคนเจ้าชู้อย่างธีร์ได้นานแค่ไหน...ที่จริงคนที่อยู่ตรงนี้คู่กับธีร์ควรจะเป็นเราด้วยซ้ำ....คุแกเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ อยู่ๆ ก็มาแย่งธีร์ไปจากเรา...”

“พี่นวิน...หยุดนะ!!!....พี่นุไม่ได้แย่งผมมาจากพี่หรือจากใครทั้งนั้นนะพี่นวิน...ผมเต็มใจมาหาพี่นุเอง...ทำไมพี่ไม่เลิกยุ่งกับเราซะที...” ธีร์พูดแทรกขึ้นมา  แต่นวินไม่ยอมหยุด

“ธีร์รักมันได้...ธีร์ก็เลิกกับมันได้เหมือนกัน.... เราอยากได้ของของเราคืน...แกกล้าคืนมั้ยล่ะ...”

“อยากได้ก็เอาไปสิ...ถ้าธีร์ยอมไป อยากได้ก็เอาไป เราไม่อยากเก็บเอาไว้หรอก”  ผมพูดเสียงเรียบทำเอาธีร์ตกใจอยู่ไม่น้อยจนหันมามองหน้าผม...

“อ้าวไหงพูดงั้นล่ะพี่นุ...” 

“ไอ้นุ....ฟังไว้ให้ดีนะ เรายังรักธีร์อยู่ ไม่ว่าแกจะรักธีร์ขนาดไหนเราก็ไม่สน ยังไงเราก็จะแย่งธีร์จากแกให้ได้” 
นวิน ประกาศเสียงกร้าวพูดเสร็จก็เดินกระแทกเท้าออกไป

“ไหนบอกว่าจะลุยกับคนเก่าๆของผมไง...ยังมาจะยกผมให้เขาอีก แล้วไม่อยากเก็บผมเอาไว้จริงหรือ น้อยใจนะเนี่ย”

“ยกเว้นนวินก็แล้วกันนะ....คนอะไรร้ายจริงๆ ถ้าเป็นตัวอิจฉาเหมือนในละครทีวีก็คงปรี่เข้ามาตบพี่แล้ว...”

“พี่นุ....สู้หน่อยสิครับ...” ธีร์ให้กำลังใจ กลั้วเสียงหัวเราะ

“ไม่เข้าใจธีร์จริงๆ ทำไมนะทำไม....ทำไมไปยุ่งกับนวินตั้งแต่เริ่มแรก"

“ใครจะไปรู้...”

"แล้วมองไม่ออกหรือว่าเค้าร้าย" ผมถามเพราะอยากรู้จริง

"ตอนแรกๆ ก็เห็นอยู่ว่าเค้าท่าทางไม่เบาเหมือนกัน" ธีร์ยอมรับ แล้วเงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะพูดเสียงหนักแน่นว่า

"แต่พี่นุครับ อย่าไปสนใจเลย ตอนนี้ผมรักพี่นุคนเดียว ผมเปลี่ยนไปแล้ว และถ้าเรามั่นคง หนักแน่น ใครก็มาทำอะไรเราไม่ได้นะครับพี่นุ.." ธีร์เอื้อมมือไปกุมมือของผมไว้ มองตานิ่ง แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

"ผมขอสัญญาตรงนี้อีกครั้ง...ว่าจะทำตัวให้ดีที่สุด...เพื่อพี่นุ...”  ผมพยักหน้าพร้อมยกนิ้วชี้ตั้งตรงขึ้นตรงหน้า เป็นลักษณะการเตือน

“แต่หากเกิดผิดพลาดอะไรขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าธีร์พลาดแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งเดียวเท่านั้นที่จำนนต่อหลักฐานและพยานบุคคล เราก็ขาดกัน”

"ขนาดนั้นเลยหรือครับ" ธีร์เสียงอ่อย หน้ามุ่ย แววตาของผมลุกโชน เอาจริง


   ไอ้กิ๋วนัดให้ไปเจอที่ร้านลานนมอารมณ์เพลงหน้าทางเข้าโรงแรมในเมือง...ไอ้กิ๋วจองโต๊ะต่อไว้ยาวเหยียด  ดูๆแล้วก็น่าจะมากันเกือบคบแล้ว..อาหารและเครื่องดื่มทยอยลำเรียงออกมาวางผมโต๊ะ...ทุกคนเริ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน...ก็ดีแล้วครับที่น้องๆมันลืมความผิดหวังเมื่อเย็นที่ผ่านมามันก็คงไม่ควรค่าแก่การจดจำจริงๆผมก็ว่าอย่างงั้น....ผมกับธีร์นั่งลงข้างๆไอ้กิ๋วและปอยกับอิ่ม...มองไปรอบๆร้านก็ยังไม่ค่อยมีคนเลยดูเป็นส่วนตัวดี...บนเวทีเล็กๆมีนักดนตรีเล่นกีต้าร์อะคูสติกอยู่หนึ่งคน...ซึ่งแต่ละคนก็ทยอยเขียนขอเพลงกันตลอดเรียกได้ว่านักดนตรีเค้าเล่นแต่เพลงที่พวกเราอยากฟังกันทั้งนั้น...

“อยากฟังเพลงอะไรมั้ยพี่นุ...” ธีร์หันมาถาม

“จะขึ้นไปร้องให้ฟังเหรอ...”

“อ๊ะๆ..ถ้าขึ้นไปร้องจริงๆแล้วจะหนาว...”

“กลัวจะไม่หนาวแต่จะเปลี่ยนเป็นอ๊วกแทนอ่ะดิ...”

“น่ะพี่นุ...ใจร้าย..น่านะ...อยากฟังเพลงอะไรผมจะขอให้...”  ธีร์บอก  ผมทำท่าคิด

“แล้วแต่ธีร์ละกัน...อยากรู้เหมือนกันว่าธีร์จะขอเพลงอะไรให้....”  ผมบอก...ธีร์เอามือบังไว้ไม่ให้ผมเห็นแล้วเดินเอาไปส่งให้นักดนตรี...

“โห...มีปิดบังกันด้วย...”  ปอยแซว

“ขอเพลงอะไรอ่ะธีร์...อย่ามาบอกรักพี่นุผ่านนักดนตรีนะ...พี่อิจฉา...”  อิ่มพูดแล้วยิ้ม

“ตกลงเพลงอะไรอ่ะ...ถ้าเพลงทะลึ่งนะวันนี้หอใครหอมัน...” ผมหันไปกระซิบขู่ๆ

“รอฟังสิคร๊าบบบ...อีกเพลงเดียวก็ถึงแล้ว....”




“ฉันลองถามตัวเองในเหตุผลที่ยังรักเธอ...ฉันยังหาไม่เจอว่าทำไม...
มันเกิดจากอะไรฉันตอบไม่ได้...รู้แค่เพียงว่าฉันรักเธอ....
ก็คนมันรักจะทำยังไงก็รักจะเจ็บยังไงก็รัก..ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม..
แต่เธอไม่รักจะทำยังไงไม่รู้..ให้เธอมามองเหลียวดู..ดูแลความรักฉันบ้าง....
เธอจะหันมองใครจะปล่อยทิ้งให้ฉันเดียวดาย...แค่เธอนั้นพอใจไม่เป็นไร...
เธอไม่มีเหตุผลฉันก็คนรับได้เพียงอย่าจากไปไหน...ฉันยอม...
ก็คนมันรักจะทำยังไงก็รักจะเจ็บยังไงก็รัก..ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
..แต่เธอไม่รักจะทำยังไงไม่รู้..ให้เธอมามองเหลียวดู..ดูแลความรักฉันบ้าง
....ยอมทำทุกอย่างที่โง่งม...ยอมทำทุกความผิด..เพื่อให้ชีวิตวันนี้ยังมีเธอต่อไป...
ก็คนมันรักจะทำยังไงก็รักจะเจ็บยังไงก็รัก..ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม..
แต่เธอไม่รักจะทำยังไงไม่รู้..ให้เธอมามองเหลียวดู..ดูแลความรักฉันบ้าง....”



“เพราะมั้ยครับพี่นุ...” ธีร์หันมาถามผมพอเพลงจบลง...ทุกคนปรบมือกรี๊ดกันสนั่นท่าทางจะถูกใจโดยเฉพาะท่อนที่ร้องว่า...ก็คนมันรักจะทำยังไงก็รักจะเจ็บยังไงก็รัก..ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม..แต่เธอไม่รักจะทำยังไงไม่รู้..ให้เธอมามองเหลียวดู..ดูแลความรักฉันบ้าง....ทุกคนช่วยร้องกันลั่นเลยโดยเฉพาะเจมส์ร้องไปแล้วก็หันมามองผมเป็นระยะๆซึ่งผมก็คิดว่าธีร์ก็คงสังเกตเห็นได้เพราะเพลงนี้ถ้าตีความหมายในแบบของเจมส์มันก็ตรงเผงพอดี...

“ต่อไปไม่ได้ซ้อมหลีดแล้วก็ไม่ค่อยเจอพี่นุกับพี่กิ๋วแล้วอ่ะดิ...”  ไอ้เต๊ะพูดขึ้นมา

“มึงน่าจะดีใจนะไอ้เต๊ะที่ไม่ต้องซ้อมแล้วอ่ะ...” ไอ้กิ๋วพูด

“แหม...พี่กิ๋วเจอกันทุกวันตั้งแต่เปิดเทอมมามันก็ต้องใจหายกันบ้างดิพี่...” ไอ้หนึ่งพูด

“เออ..ใช่...ตกเย็นก็ต้องรีบมาละ...เห็นหน้ากันทุกวันตั้งแต่มิถุนามาเลย..สี่เดือนได้แล้วมั้งเนี่ย...” ไอ้เอกพูด

“หนูว่าต่อไปต้องเหงาแน่ๆเลย..ใช่มั้ยอีปอย..” อิ่มพูดแล้วหันไปสะกิดปอย

“ตอนแรกๆก็อยากให้แข่งเร็วๆ...พอแข่งเสร็จกลับรู้สึกเหมือนตกงานยังไงไม่รู้...” ปอยพูดแล้วก้มหน้าเอาส้อมเขี่ยกระดูกไก่ในจานไปมา

“แล้วต่อไปพวกผมจะเอาเวลาตอนเย็นไปทำอะไรดีอ่ะพี่กิ๋ว..” ไอ้แซ๊กหันไปถามไอ้กิ๋ว

“ใกล้สอบแล้วมึง...เตรียมตัวอ่านหนังสือกันได้แล้ว..พี่ก็วนเวียนกันอยู่ในนี้นี่แหละ...เดี๋ยวก็เจอกัน...”

“พี่นุจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ...” เจมส์หันมาถามผม

“พี่เหรอ...พี่ก็...ดีใจนะที่พวกเราร่วมมือกันฝ่าฟันอะไรหลายๆอย่างด้วยกันมาจนถึงทุกวันนี้...ขอบคุณทุกคนมากที่ให้ใจกับการซ้อมถึงแม้ว่าบางช่วงจะขลุกขลักบ้างจะมีปัญหาบ้างแต่เราทุกคน...ก็ผ่านกันมาได้...พี่ดีใจนะที่ทุกคนเต็มที่กับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย...ถึงวันนี้ผลการแข่งขันอาจจะไม่มีค่าอะไรกับเรามากแต่สิ่งที่มีค่าที่สุด...ที่พวกเราได้ไปก็คือมิตรภาพดีๆจากคนนับสิบๆคนที่ทำงานด้วยกันทุกวัน...อะไรที่เป็นความทรงจำดีๆเราก็เก็บเอาไว้...อะไรที่ไม่ดีก็ทิ้งมันไป...แรกๆพี่อาจจะลังเลที่จะมาทำงานร่วมกับทุกคนแต่ตอนนี้พี่คิดแล้วว่าพี่ตัดสินใจถูกแล้วที่ได้มาร่วมงานกัน...ได้รู้จักกับทุกคนแบบนี้...ถ้าไม่มีการซ้อมหลีดเราก็คงไม่ได้รู้จักกัน...ไม่ได้ไปเที่ยวทะเลด้วยกัน...ถ้ามีโอกาสพี่คิดว่าเราคงได้ร่วมงานกันอีก...” ผมพูดแล้วยิ้มให้ทุกคนที่ปรบมือกันลั่น

“แหม...พูดซะหนูซึ้งเลยพี่นุ...” เดี่ยวทำท่าซับน้ำตา  ผมนั่งลงแล้วมองไปทางเจมส์หวังว่าคำพูดบางประโยคจะแทรกซึมเข้าไปถึงใจเจมส์บ้าง

“แล้วพี่กิ๋วล่ะ...พูดเลย...พูดเลย...พูดเลย...” ไอ้เต๊ะพูดแล้วนำเพื่อนเชียร์ลุ้นให้ไอ้กิ๋วพูดบ้าง...

“เฮ้ย..พี่พูดไม่เก่งเหมือนไอ้นุมันเว้ย...ยังไงดีวะ...สั้นๆละกัน..กูรักพวกมึงทุกคน..เอ๊า..โชนแก้วววว...”  เย้!!!!ไอ้กิ๋วพูดแล้วนำพวกเราชนแก้วแล้วบรรยากาศก็ดำเนินต่อไป...

“เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ...” ผมหันไปบอกธีร์แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ...พอออกมาก็ได้ยินนักดนตรีกำลังเล่นเพลงที่พอได้ยินเข้าก็บาดจี๊ดดดด!!!!ไปถึงขั้วหัวใจเลยทีเดียว...



“ถ้าใจเธอมีสองใจก็คงแบ่งไป...เท่าๆกัน...แต่มันคงมีสักวันที่เธอต้องเลือกใคร....ถ้าเธอยังพอเหลือใจให้ใครสักคน...แค่เพียงคนเดียวได้ไหม...เมื่อมีแค่หนึ่งใจ...ก็รักใครไปสักคน....”



“ใครขอเพลงนี้วะ...”  ผมหันไปถามไอ้กิ๋วและมันก็พยักหน้าไปทางไอ้เจมส์

“โดนมั้ยล่ะมึง...เหอๆๆ...กูชอบจริงๆเพลงนี้...ฮ่าๆๆ...” ไอ้กิ๋วขำแล้วกระดกเหล้าเข้าปาก...หนึ่งลุกไปเข้าห้องน้ำเจมส์หันไปเห็นพอดีจึงรีบลุกตามเข้าไป...พอหนึ่งเห็นหน้าเจมส์ก็ตกใจนิดๆ

“อ้าว..เจมส์...”

“เฮ้ย!หนึ่ง....” เจมส์เรียกแล้วทำท่าอึกอัก

“มึงมีอะไรจะพูดรึเปล่าวะ..อึกอักๆอยู่ได้...”

“หนึ่ง...เรื่องคืนนั้น....มึงก็จำได้เหมือนกูใช่มั้ย...” เจมส์ถามพยายามเพ่งมองหนึ่งจนหนึ่งต้องหลบตา

“นี่มึงยังไม่จบอีกเหรอเนี่ยเรื่องคืนนั้นน่ะ...มึงกะกูเราก็เมาด้วยกันทั้งคู่ไม่ใช่เหรอ??” หนึ่งเริ่มไม่พอใจ

“ใช่เมาทั้งคู่...แล้วมึงแน่ใจเหรอว่าเรื่องที่มึงบอกกูเป็นแค่ฝันเท่านั้นน่ะ...กูรู้ว่ามึงก็จำได้...เพราะกูยังจำได้เลยว่ามึงทำอะไรกับกู...แล้วมึงจะจำไม่ได้เชียวรึไงว่ากูทำอะไรกับมึง...”  เจมส์พยายามสงบสติอารมณ์  หนึ่งหันมาเอามือจับคอเสื้อเจมส์แล้วดันไปจนติดผนัง...

“มึงจะบอกว่าเรามีอะไรกันใช่มั้ย...เออ..ใช่!มึงกะกู..มีอะไรกัน..กูทำมึงแล้วมึงก็ทำกู...กูจำได้แล้วไง..มึงจะเอาไงเจมส์”

“แล้วทำไมมึงไม่บอกกูตั้งแต่แรกว่ามึงก็จำได้...และมึงรู้สึกตัวอยู่ตลอด..มึงไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอหนึ่ง..”  เจมส์ปัดแขนไอ้หนึ่งออก...

“เจมส์...มึงกะกูไม่ใช่ผู้หญิงนะที่พอเผลอใจมีอะไรกันแล้วต้องรีบผิดชอบซึ่งกันและกันน่ะ...มึงต้องยอมรับนะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้น...มันเกิดขึ้นเพราะความเมา...กูก็เมามึงก็เมา...มันก็อาจจะเผลอใจกันเป็นธรรมดา...มึงเข้าใจกูนะ..”

“โอเค...มึงคิดอย่างนั้นก็ดี...กูจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดที่ไม่บอกมึงให้มึงรู้...ความจริงกูก็ผิดเองที่พอเมาแล้วกูเข้าใจผิดคิดว่ามึงเป็นพี่นุ...ไม่อย่างนั้นเรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น...กูต้องขอโทษมึงด้วยนะหนึ่ง...”
 
“ช่างมันเหอะ...มึงก็อย่าไปหน้ามืดตามัวกับคนอื่นก็แล้วกันเพราะมึงอาจจะโดนตีนเค้าเอาก็ได้...ส่วนกูมึงไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรหรอก...คิดซะว่าช่วยเหลือกันไปให้สบายตัวก็แล้วกัน...เพราะกูทำมึงแล้วมึงก็ทำกูเรา..เพราะฉะนั้นเจ๊ากันไป  ลืมๆมันไปเหอะมึง”หนึ่งพูดเจมส์พยักหน้าแล้วทั้งคู่ก็เดินออกไป..แล้วงานเลี้ยงก็ย่อมมีวันเลิกราเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน...ผม  ไอ้กิ๋วและน้องๆกอดร่ำลากันเลยที่หน้าร้าน  เจมส์ทำท่าจะเดินเข้ามาหาผมแต่ก็เปลี่ยนใจไม่เข้ามา...ผมเลยยิ้มและพยักหน้าแล้วยื่นมือไปจับมือเจมส์แทนเป็นครั้งสุดท้ายแล้วต่างก็แยกกันกลับบ้าน..รอวันเวลาที่อาจจะนำพาพวกเรากลับมาเจอกันอีกครั้ง...หรือไม่อาจจะไม่มีอีกแล้วก็ได้.....ชีวิตของการทำกิจกรรมเป็นผู้นำกองเชียร์.......


“เหนื่อยมั้ยพี่นุ...ทำงานมาทั้งวันแล้ว...”  ธีร์เดินตามผมออกมาที่ระเบียง

“ก็คิดถึงเรื่องเก่าๆบรรยากาศเก่าๆที่ต่อจากนี้...คงไม่มีอีกแล้ว...”

“ผมว่าพี่นุพูดดีมากๆเลยนะครับที่ร้านอาหารอ่ะ...ผมฟังแล้วยังขนลุกเลย....ผมว่าน้องๆคงไม่มีใครลืมพี่นุหรอกครับ...โดยเฉพาะน้องบางคน...” 

“จะไปพาดพิงถึงเค้าทำไม๊ธีร์...ห่วงแต่เรื่องของเราเหอะอย่าให้โผล่ขึ้นมาอีกแล้วกัน...

"ไม่เป็นไร ผมจัดการได้แต่พี่นุก็ต้องช่วยด้วย...เพราะนั่นคืออดีต ไม่สำคัญแล้ว ปัจจุบันและอนาคตสิสำคัญกว่า" ธีร์บีบมือของผมเบาๆ เพื่อยืนยันความมั่นใจ

"พี่นุครับ ต่อจากนี้ไป มีเราสองเท่านั้นนะ...หมดทั้งหัวใจของผมมีแต่พี่นุเท่านั้นนะครับ...พี่นุรักผมมั้ย...พี่นุยังไม่เคยบอกรักผมเวลาปกติๆเลยนะครับ...บอกแต่เวลาอยู่บนเตียง...โอ้ย..เจ็บนะพี่นุ"  ธีร์รีบเบี่ยงดูหนีจากการถูกทุบ

“ไม่บอก..บอกไปเดี๋ยวก็ดีแตก...ไม่น่ามาเป็นแฟนคนเจ้าชู้เล้ย..ให้ตายเหอะ...”  ผมแกล้งบ่นจนอีกฝ่ายทำหน้างอ 
               
“ใจร้าย.....” 

“อ๊ะก็ได้..เดี๋ยวจะหาว่าใจร้าย...รักสิค๊าบ...รักรักรัก..รักธีร์ที่สุดเลย....หายงอนเถอะน๊าๆ" ผมหันไปกอดแล้วยอมพูดอย่างที่ธีร์อยากได้ยิน

"ไม่" เสียงห้าวปฏิเสธ

"นะๆๆ ....หายงอนเถอะ" ผมออดออน

"ขอคิดดูก่อน"

"อย่าคิดนานนะ ตกลงหายงอนหรือยัง" ผมเซ้าซี้

"หายก็ได้ แต่ต้องมีข้อแม้" ธีร์เสนอเงื่อนไข

"ชักจะมากไปแล้วนะเนี่ย...ข้อแม้อะไรอีก" ผมเริ่มเสียงแข็ง

“หากเกิดอะไรเข้าใจผิดกัน...พี่นุต้องฟังผมก่อนนะอย่าหนีไป...หรือเคอร์ฟิวส์ผมอีกเด็ดขาด...แล้วก็ห้ามใจแข็งด้วย”

"ถ้าง้อหน่อยก็อ่อน"

"ผลัดกันง้อบ้างนะ อย่าให้ผมง้อฝ่ายเดียว" ธีร์เสียงนุ่มสอดแขนเข้ามาโอบเอวผมไว้หลวมๆหน้าท้องบดเบียดอยู่กับด้านหลังของผม 

"ปล่อยเหอะ...เดี๋ยวใครเห็น "  ผมหันมาบอกธีร์ 

"ไม่ปล่อย...ถ้ากลัวใครเห็นก็เข้าไปในห้องกับผม.....นะครับพี่นุ..."
 
“อย่าปฏิเสธผมเลย...ธีร์กำลังจะพูดประโยคนี้ใช่มั้ย...ประโยคไม้ตายใช่มั้ยเนี่ย...”

“แล้วได้ผลมั้ยล่ะครับ..เข้าไปให้ห้องกับผมนะครับ..ไม่งั้นผมจะจับพี่นุกดลงตรงนี้นะ” ธีร์พูดแล้วยิ้มทำท่าจะฟัดผมต่อ

“ไอ้เด็กลามก...”  ผมพูดได้แต่นั้นก็หมดแรงขัดขืน...ยอมถูกรั้งเข้าไปในห้องปาก 

“เป็นของผมคนเดียวนะครับพี่นุ...ห้ามเป็นของคนอื่นนะ...”  ธีร์เสียงอู้อี้เม้มใบหูเน้นน้ำหนักเบาๆ อ้อมแขนกอดกระชับแน่นเข้า  ผมพยักหน้า ก้มลงจูบธีร์อย่างรักใคร่อีกครั้งเป็นการให้สัญญาว่าจะทิ้งความเจ็บปวดไว้เบื้องหลัง เพื่อเตรียมเผชิญหนทางข้างหน้าที่ผมและธีร์จะฟันฝ่าไปด้วยกัน...


                                                                      The End

                              [เตรียมพบกับ All about Love :: The Beginning......Coming Soon]

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
รอเรื่องใหม่นะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้ค่า  o13 :pig4: o13

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ขอบคุณฮับ
ลงเรื่องใหม่เมื่อไรจะตามมาอ่านนะ

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ Gear77

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านแล้วไม่ฟินเลยอะ เพราะเราเชียร์เจมส์มาตั้งแต่ต้นมั้งไม่ได้เชียร์ธีย์เลยยย  :mew5: :mew5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด