ตอนที่ 27 ธัชดนัย“อูยยย เชี่ยเอ๊ย! / คุณธัช!” ดีที่คว้าราวบันไดได้ทันไม่งั้นผมได้ไปนอนแอ้งแม้งคอหักอยู่ตีนบันไดแล้ว ผมหันขวับไปมองไอ้มังกรถลาลมที่เตรียมพุ่งเข้าใส่ผมทันทีที่มันหลุดเรียกผมออกมา ไอ้ตี้หลงชะงักเท้ายืนห่างจากตัวผมเป็นวาด้วยท่าทางหงอยๆแววตาออดอ้อน
‘กูไม่หลงกลมึงอีกแล้วโว้ย ไอ้หน้าหงอยๆตาเศร้าๆแบบเนี้ย’ ผมไม่น่าใจอ่อนยอมให้มันฟัดเมื่อคืนเลย ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องมาเดินขมิบตูดตัวเกร็งแกล้งปกติอยู่แบบนี้หรอก ทั้งๆที่ความจริงทั้งขัดทั้งแสบไปหมด ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นไอ้ตี้หลงมังกร ‘เอา’ แต่ได้มันเล่นทะลวงไส้ผมเกือบทั้งคืนทั้งๆที่เป็นครั้งแรกของผม ดีเท่าไหร่แล้วผมไม่ไข้แตกประจานตัวเองกลางบ้านคนอื่นเอาน่ะ แต่ตอนที่ตื่นนอนใหม่ๆเมื่อเช้านี้นี่สินึกว่าตัวเองโดนสิบล้อทับ ขยับทีเจ็บร้าวตั้งแต่จุดเกิดเหตุไปยังหัวและปลายเท้า พอหันมามองคนข้างกายที่นอนหลับพริ้มยิ้มหวานซบอกผมด้วยแล้วยิ่งจี๊ดใจ เตรียมยกขาถีบด้วยความหมั่นไส้ไอ้ตี้หลงหมายให้ตกเตียง ก็ลืมไปว่าสังขารไม่ให้จึงร้องซะเสียงหลง จนมันรู้สึกตัวมานั่งหัวฟูหน้าตาตื่นอยู่บนเตียง โดยมีผมได้แต่เพียงจ้องหน้าเอาเรื่องนอนแผ่หมดสภาพ ก่อนมันจะร้อนรนถามเสียงละล่ำละลักอย่างห่วงใยด้วยแววตาสำนึกผิด ‘แต่มันจะสายไปมั้ยวะ ทำไมเมื่อคืนมึงไม่ยั้งๆมั่ง’ แต่ผมก็ทำเป็นมองข้ามเพราะเริ่มร้อนไปทั้งหน้าและตามตัวที่มันสัมผัสผ่านทั้งๆที่ผมเปลือย แถมตามผิวกายของไอ้มังกรขี้เหร่ที่มีแต่ร่องรอย ไม่ว่าจะเป็นหน้าอก ต้นคอ หรือแม้แต่หัวไหล่ที่มีรอยฟันเป็นแผงนั่นอีก โอ๊ย!! งานนี้ผมคงปฏิเสธไม่ได้ซะแล้วเพราะหลักฐานมัดตัวทั้งผมและไอ้ตี้หลงขนาดนี้
ผมเห็นแบบนี้มือมันก็ไปก่อนสมองเบิกฤกษ์เข้าที่หัวเหม่งๆมันไปหนึ่งที ตามด้วยการโวยวายสั่งให้มันพยุงผมเข้าห้องน้ำ การกระทำของผมไม่ยักจะสร้างความหงุดหงิดให้ไอ้ตี้หลงเลย เพราะมันยังยิ้มกว้างด้วยดวงตายิบหยีได้อีกทั้งๆที่โดนผมโบกไป ทำเอาผมเริ่มลืมๆเลือนๆเอ๋อๆชั่วคราวหุบปากสนิทยอมโอนอ่อนตามแรงโอบประคองจนถึงห้องน้ำ และผมเกือบจะสาวแตกกรี๊ดลั่นเมื่อเห็นรอยแดงเป็นจ้ำนับไม่ถ้วนตามตัว ดีที่ในปากเต็มไปด้วยฟองยาสีฟันที่มีคนบีบไว้บริการให้ก่อนหน้า แต่ก็ทำเอาผมสำลักหน้าแดงอยู่หน้ากระจกพักใหญ่ ความตกใจแต่แรกเปลี่ยนเป็นปลดปลงเมื่อรู้แก่ใจว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะผม ‘สมยอม’ ให้เกิด ด้วยรู้ดีว่าการยอมลดศักดิ์ศรีมาเป็นฝ่ายรองรับก็เพราะผม ‘รัก’ ไอ้ตี้หลงเข้าแล้ว อะไรที่ทำให้คนที่เรารักมีความสุขก็เป็นสิ่งที่คนรักกันควรทำให้กันอยู่แล้ว ถ้าไม่หลอกตัวเองนักเมื่อคืนผมก็มีความสุขดีแม้ตอนเช้าจะต้องนอนเดี้ยงคาเตียงก็เถอะ
ผมอยู่ในห้องน้ำนานกว่าเคยไม่ใช่ว่าเขินอายอยากหลบหน้าใครบางคนหรอก แต่แค่กิจวัตรต่างๆที่ผมทำมันช้ากว่าปกติมากด้วยความเจ็บแสบที่ช่องทางเบื้องหลังเพราะโดนเปิดซิง ไอ้คนทะลวงถ้ำก็เคาะเรียกอยู่หน้าประตูหลายหนจะขอเข้ามาอยู่นั่น ซึ่งผมไม่มีทางให้มันเข้ามาแน่ไม่อยากให้มาเห็นท่าทางอุบาทว์ๆของตัวเอง ที่เดินขาถ่างและค่อยๆเยื้องกายเกาะผนัง จนกระทั่งทุกอย่างเรียบร้อยผมก็เก๊กหน้านิ่งฝืนเดินออกมา แม้จะดูกระย่องกระแย่งไปนิดก็เถอะแต่ใครไม่เคยโดนของใหญ่เข้าตัวจะไม่มีวันรู้เลยว่ามันขัดยอกแค่ไหน ส่วนไอ้ตี้หลงที่โดนผมมองตาขวางเข้าใส่ก็ไม่ได้สนใจกลับพุ่งเข้ามาประคองและพยายามเข้ามาช่วยแต่งตัวให้ จนผมต้องตวาดไล่ให้มันไปอาบน้ำนั่นแหละถึงจะหยุดได้ แต่มันกลับทำปากยื่นหน้างอนใส่ผมซะงั้น ‘น่ารักตายล่ะมึง’ ก่อนที่มันจะเข้าห้องน้ำก็ยังไม่เจียมหมุนตัวกลับมายื่นหน้าจูบปากผมอย่างเร็ว และชิ่งเปิดตูดแน่บหนีขวดโรลออนในมือที่ผมขว้างตามไปติดๆ ส่วนผมก็ได้แต่ยืนฮึดฮัดทำอะไรไม่ได้ทั้งๆที่ใจอยากจะตามไปกระทืบมันใจจะขาด จวบจนมันอาบน้ำเสร็จก็เดินคลี่ยิ้มหวานเข้าใส่ผมที่นั่งพิงหัวเตียงดูทีวีรออยู่ ซึ่งทั้งเนื้อทั้งตัวมันมีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันท่อนล่าง มาถึงก็นั่งจุ้มปุ๊กหน้าใสคลี่ยิ้มทั้งปากทั้งตาไม่พูดไม่จาอยู่ข้างๆ ผมก็แกล้งไม่สนใจด้วยการเบือนหลบจ้องรายการข่าวภาคเที่ยงตรงหน้าแทน
จนกระทั่งนิ้วเย็นๆมาจิ้มๆที่แก้มผมมีสะดุ้งนิดๆแต่ยังไม่หลุดมาดนิ่งที่เก๊กไว้ ไม่ได้หันไปมองไอ้ตี้หลงแต่อย่างไรเพราะข่าวฆ่านั่งยางตรงหน้ามันน่าสนใจกว่าเยอะ เผื่อจะเอามาวางแผนฆ่าใครบางคนแถวนี้บ้าง จนกระทั่งปลายนิ้วเย็นๆมาไล้ทั่วกลีบปากและหยุดนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น พอผมปัดออกไอ้ตี้หลงก็คว้ามือผมไปกุมจนผมต้องหันไปมอง จึงพบกับใบหน้ากรุ้มกริ่มเคลิบเคลิ้มจ้องที่ปากผมไม่กระพริบ เสียง ‘วี้หว่อๆ’ ดังเป็นสัญญาณเตือนในหัวผม จึงตั้งใจกระชากมือกลับและกะว่าจะเสยกะโหลกมังกรสักทีให้ได้สติ แต่ผมคงช้าไปและไม่น่าปล่อยตัวสบายๆหลังผ่านศึกสวาทเมื่อคืนเลยให้ตายสิ!
“อืมมมม” นั่นเสียงครางใครวะ แม่ง! โคตรคุ้นหูเลย แล้วทำไมมันเย็นวาบท่อนบนแบบนี้วะ ‘เชี่ยแล้ว! มึง ไอ้มังกรหื่นมือไวเอ๊ย!’
“โอ๊ยยย เฮียอ่ะ ผมเจ็บน้า” ไอ้มังกรจอมหื่นหน้าบึ้งมือกุมไหล่ข้างที่เจ็บเพราะโดนมือผมผลักไปโดนเข้า จนผมตกใจรีบผวาเข้าหาไปดูแผลให้จนลืมสังขาร ทำให้เกิดอาการเจ็บแปลบๆร้าวไปหมดเผลอครางสูดปากงอตัวหมดท่า และกลายเป็นไอ้ตี้หลงซะเองที่ตกใจหน้าตื่นร้องเสียงหลงเรียกผมเสียงดัง มันเข้ามาแตะๆตามตัวเหมือนกลัวผมช้ำและเมียงมองอย่างสำนึกผิด เห็นแล้วก็นึกขำอารมณ์ดีขึ้นมานิดกับท่าทางของไอ้ลูกหมา ฮึๆๆ แต่ต้องเก๊กไว้เดี๋ยวหมาน้อยที่เลี้ยงไว้จะได้ใจกลับมากระดี๊กระด๊าเลียปากอีก
“รีบไปแต่งตัวเลย ขืนช้ากูลงไปแดกข้าวก่อนแน่” ผมก็ยังเป็นผมไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนไม่จำเป็นต้องพูดเพราะหรือเอาใจใครไปกว่าเดิม ด้วยที่ผ่านมาผมก็ยอมมาเยอะแล้วแม้ไม่ได้พูดหวานหรือคอยเอาใจ แต่ไอ้ตี้หลงน่าจะรู้ว่าผมคิดยังไง เพราะขืนไอ้ตี้หลงมันรอหรือหวังจะให้ผมเป็นแบบนั้น คงได้แต่นอนร้องไห้กระซิกๆผิดหวังแน่ๆและผมคงต้องคิดเรื่องของเราใหม่ ซึ่งผลก็คือไอ้คนที่เพิ่งโอดโอยกลับยิ้มแฉ่งและรับคำเสียงดังรีบลุกไปแต่งตัว ก่อนดึงผ้าที่พันท่อนล่างไว้ออกอย่างหน้าไม่อาย
‘ถึงกูจะเคยเห็นของมึงอย่างใกล้ชิดติดปากมาแล้ว แต่ช่วยถามกูสักนิดมั้ยว่ากูอยากจะเห็นมังกรน้อยของมึงตอนนี้รึเปล่า’ ผมเบือนหน้าหนีกลับมาจ้องหน้าดาราสาวสวยที่กำลังร้องไห้ออกสื่อเรื่องคลิปฉาวดีกว่ามังกรหัวแดงเป็นไหนๆ จนกระทั่งมันแต่งตัวเสร็จเราจึงได้ฤกษ์ออกจากห้องหอ เอ๊ย! ห้องนอนมาหาอะไรลงท้อง เพราะตั้งแต่เมื่อวานได้มื้อเย็นเบาๆที่ผมนั้นหมดกะจิตกะใจจะกินจนถึงเวลานี้ที่เกือบบ่ายยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง ไหนจะได้ออกแรงเสียเหงื่อไปหลายยกทำให้ตอนนี้ผมสามารถกินมังกรได้ทั้งตัวเลย ‘โว้ย! จะอะไรกันนักวะเดี๋ยวจับเดี๋ยวลูบอยู่นั่น’ พอผมหันไปถลึงตาปรามก็กลับบอกว่าช่วยประคอง พอเดินไปสักพักไอ้ตี้หลงกลับส่งมือลงต่ำลูบก้นผมซะงั้น และก็เป็นเหตุให้ผมปรี๊ดแตกกระทืบใส่เท้ามันซะเลย ก่อนเร่งฝีเท้าหนีเจ้าของเสียงโอดโอยเบื้องหลัง แต่แล้วด้วยความรีบเกือบทำให้ผมสะดุดขาตัวเองดีที่เกาะราวบันไดได้ทัน แต่ก็หนีไม่พ้นความเจ็บแสบเข็ดขัดยอกที่สะโพกไม่ได้ จึงเป็นเหตุให้ผมสบถเสียงหลงไปตอนต้น และต้องปรามไอ้ตี้หลงที่กำลังพุ่งเข้าใส่นั่นแหละครับ
.........................................
ระหว่างมื้ออาหารที่ยังอลังการและไม่มีเจ้าของบ้านเหมือนเคยก็ผ่านไปเงียบๆ เพราะไอ้คนที่เคยพูดมากนั้นมันหงอยหนักเพราะโดนเจ้าของอย่างผมดุเข้าให้ เห็นไอ้ตี้หลงเป็นแบบนี้แล้วผมกลับอารมณ์ดี เหมือนว่าได้แกล้งเด็กได้เอาคืนบ้างและอาหารก็อร่อยขึ้นเยอะเลยล่ะ จนกระทั่งผมเกือบอิ่มมื้อเช้ารวบมื้อเที่ยงแล้วนั่นแหละครับ เจ้าของบ้านพร้อมแขกคุ้นหน้าคุ้นตาอีกสามคนก็เดินเข้ามา
“สวัสดีครับคุณลูกพีช อ้าว! แม็ค น้องนัท” ผมเอ่ยทักสาวสวยหนึ่งเดียวในห้องอย่างเป็นกันเอง ก่อนหันไปรับไหว้สองหนุ่มต่างไซส์ที่ยกมือไหว้ผมทันทีที่เห็นหน้า แรกเจอทั้งคู่ผมก็อดแปลกใจไม่ได้แต่พอนึกดีๆแล้ว ก็รู้ว่าไม่แปลกเลยที่จะเจอ ‘น้องนัท’ ว่าที่น้องเมียในบ้านว่าที่พี่เขย อย่างเจ้าพ่อถังที่ยิ้มระรื่นอยู่ข้างๆว่าที่เจ้าสาว ส่วน ‘แม็ค’ ก็เป็นคู่เขยร่วมกับเจ้าพ่อถังว่าที่เขยขวัญของเจ้าของห้างดังหลายสาขาทั่วประเทศด้วยแล้ว การไปมาหาสู่ก็คงเป็นเรื่องปกติ
หลังจากนั้นไอ้ตี้หลงก็ได้รับการแนะนำจากคุณลูกพีช ให้น้องชายตัวเองได้ทำความรู้จัก ซึ่งทั้งคู่ก็ทักทายกันอย่างปกติ แต่ทำไมผมต้องคันยิบๆในหัวใจด้วยก็ไม่รู้ ที่เห็นไอ้ตี้หลงมันเปิดยิ้มกว้างคุยอย่างอารมณ์ดีกับหนุ่มน้อยน่ารักตรงหน้า ทั้งๆที่แฟนหน้าดุของน้องนัทก็ยืนแยกเขี้ยวแทบจะกินหัวมันอยู่แล้ว แต่ผมก็รู้นะว่าไอ้ตี้หลงมันไม่ได้คิดอะไรแต่ใจมันห้ามคิดกันได้ที่ไหนล่ะครับ อาการที่ว่าอาจจะเกิดจาก ‘กายผูกพันแนบชิด ใจก็กระหวัดคิดแต่หวงแหน’ กันแน่วะ ‘โอ๊ย! น้ำเน่าจริงกู’ ระหว่างที่ผมหมกมุ่นอยู่นั้น แม็คที่วันนี้มาในมาดหนุ่มหล่อเข้มนอกเครื่องแบบ คงทนไม่ไหวที่เห็นแฟนตัวเองอ้อล้อยิ้มแย้มกับหนุ่มอื่นได้พูดขัดขึ้นมา
“นัท! ไหนว่าจะมาช่วยพี่ลูกพีชจัดสถานที่ไง เห็นมั้ยพี่ลูกพีชยืนรอเราอยู่น่ะ” หลังประโยคจริงจังของแม็คก็ทำให้น้องนัทเลิกสนใจคนที่กำลังคุยด้วย และหันมาส่งค้อนทำปากยื่นใส่แฟนตัวเอง ก่อนเข้ามากอดแขนออเซาะแม็คอย่างน่ารักและบ่นหงุงหงิงคุยกันเบาๆอยู่สองคน ส่วนคนที่โดนยกมาอ้างก็หัวเราะคิกคักมองว่าที่น้องเขยอย่างรู้ทัน และเหลือบสายตาเห็นใจไปทางไอ้ตี้หลงที่ยืนเอ๋ออยู่ใกล้ๆโดยที่ไม่รู้เรื่องราวอะไร
“เฮียซันคะ เดี๋ยวลูกพีชพาน้องนัทไปช่วยดูสถานที่ยกน้ำชาในงานแต่งของเราก่อนดีกว่า เฮียซันอยู่คุยกับเพื่อนไปก่อนนะ ไปค่ะน้องนัท สบายใจแล้วสิเรา คิกๆๆ” คุณลูกพีชเจ้าของประโยคบอกเล่ายาวๆนี้พูดจบก็ส่งสายตาล้อเลียนให้น้องชายตัวเอง ก่อนเหลือบแลไปทางไอ้ตี้หลงและหัวเราะคิกคักออกมา
ผมฟังแล้วก็มึนๆว่าทำไมน้องนัทถึงกับแก้มแดงระบายยิ้มหลบตาแม็คขนาดนั้นด้วย ส่วนนายแม็คก็ได้แต่ส่ายหัวน้อยๆด้วยใบหน้านิ่งๆทั้งๆที่มีแววตาเอื้อเอ็นดูปนรักใคร่ชัดเจนขณะมองแฟนตัวเล็กของตัวเอง และผมก็เพิ่งรู้ว่าเจ้าพ่อถังมีชื่อเล่นว่า ‘ซัน’ คงแปลมาจากชื่อในภาษาจีนของตัวเอง เพราะ ‘หยางหมิง’ นั้นแปลว่า ‘แสงตะวันอันสดใส’ นั่นเอง เมื่อสองศรีพี่น้องเดินออกจากห้องอาหารไปแล้ว เราทั้งหมดก็เดินตามเจ้าของบ้านหลังได้รับคำเชิญให้ไปคุยต่อที่ห้องรับรอง ระหว่างทางไอ้ตี้หลงก็ทำหน้ามึนตีเนียนเข้าประกบข้างกายผม และแตะมือเข้าที่หลังเอวเหมือนคอยประคองไปตลอดทาง ไอ้ผมเองจะออกอาการสะบัดสะบิ้งก็ใช่ที่เพราะมีสองคนรู้จักอยู่ข้างหน้าในระยะประชิด เกิดกระโตกกระตากไปเดี๋ยวได้รู้กันทั้งบาง ไอ้ธัชก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนให้ค่อยๆรับรู้กันไปเองจะดีกว่า
“เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานผมคงต้องให้มิสเตอร์หยางกับเฮียธัชให้การกับทางตำรวจนะครับ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง” เราทั้งหมดนั่งตูดยังไม่ทันร้อนเลย เจ้าของประโยคที่เป็นผู้หมวดหนุ่มใจร้อนก็เข้าประเด็นทันทีด้วยสีหน้าจริงจัง
ผมหันไปมองคนที่นั่งข้างกันทันที ไอ้ตี้หลงทำหน้าเครียดจ้องหน้าคนถามนิ่งงัน ด้วยสายตาดำขลับอ่านไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร และมือก็ไวไปก่อนสมองวางแหมะแตะหลังมือมันทันที ไอ้ตี้หลงเบือนหน้ามาสบตาผมเขม็งก่อนจะค่อยๆคลี่ยิ้มแววตาเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้งและคว้าหมับเอามือผมไปเกาะกุม ผมที่เริ่มรู้ตัวจะชักหนีก็ไม่ทันจะออกแรงก็ไม่หลุด เลยได้แต่ทำหน้ามึนตีหน้านิ่งข่มอายใส่ตาคู่เขยขวัญตรงหน้า ซึ่งเจ้าพ่อถังน่ะไม่เท่าไหร่เพราะเชื่อว่าเจ้าตัวรู้เรื่องของเราแล้ว แต่กับนายแม็คนี่สิ! ถึงเราจะคุ้นเคยกันผมก็อดกังวลไม่ได้ ซึ่งแม็คเพียงแค่เลิกคิ้วและมีแววตารู้ทันให้ผมเห็นเพียงแวบเดียวก่อนกลับมานิ่งขรึมตามปกติ และผมก็ไม่ต้องกังวลนานเมื่อมาเฟียข้างตัวเอ่ยขึ้น
“ผมจะให้การกับทางตำรวจทั้งหมด แต่คุณช่วยกันคุณธัชออกจากคดีนี้ได้มั้ย” ผมที่เตรียมค้านก็ให้หุบปากฉับเมื่อไอ้ตี้หลงบีบกระชับฝ่ามือให้แน่นขึ้นเหมือนส่งสัญญาณไม่ให้ผมแย้ง ประกอบกับใบหน้าจริงจังแววตามุ่งมั่นของมันด้วยแล้วผมจึงได้แต่นิ่งเงียบ วันนี้ผมก็ได้เห็นแววตาเด็ดเดี่ยวในฐานะมาเฟียใหญ่จากมันสักที ก็ดูน่ากลัวดีไม่หยอกนะครับ
“แม็คคงต้องลำบากหน่อยนะ” เจ้าพ่อถังที่นั่งเงียบมานานก็พูดขึ้นหลังปล่อยให้น้องชายต่างสายเลือดฟาดฟันกันทางสายตามาพักหนึ่ง และสมแล้วที่คร่ำหวอดในวงการนี้มานาน เพราะประโยคที่ได้ยินนั้นเป็นการบีบบังคับให้ยินยอมมากกว่าการขอร้อง และด้วยสายสัมพันธ์ที่เกี่ยวพันเป็นคู่เขยขวัญกัน ทำให้หมวดแม็คที่เคร่งขรึมยอมอ่อนข้อให้พลางถอนใจยาวเหยียด จนเจ้าพ่อใหญ่ต้องออกปากขอบคุณ ส่วนไอ้มังกรข้างตัวก็แค่ยกยิ้มมุมปากแววตาอ่อนแสงลง และไม่มีทีท่าว่าจะกินหัวแม็คอย่างเมื่อครู่อีกเลย
ผมว่านิสัยจริงๆของไอ้ตี้หลงคงยอมหักไม่ยอมงอเป็นแน่ แถมต้องเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ด้วยเพราะตั้งแต่เด็กมันคงไม่เคยโดนใครขัดใจมาก่อน แต่ทำไมตอนอยู่กับผมไอ้ตี้หลงถึงยอมอ่อนข้อให้หลายๆเรื่องกันวะ ซึ่งคำตอบนั้นผมก็ไม่ต้องรอนานเมื่อสายตาอ่อนโยนที่ฉายชัดถูกส่งผ่านมาให้จากคนที่อยู่ในความคิด โอ๊ย! ตายกูตาย ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ผมก็แพ้ท่าทางและสายตาแบบนี้ของไอ้ตี้หลงเสมอเลย ผมแกล้งแสยะยิ้มแยกเขี้ยวเข้าใส่ไอ้มังกรหน้าหล่อที่ทำให้หัวใจเต้นกระหน่ำจนแทบกระดอนออกนอกอกและเบือนหลบเพื่อทำใจ แต่ความอบอุ่นจากฝ่ามือและหลังมือที่ถูกไล้คลึงเบาๆก็ทำให้ความตั้งใจล้มเหลวไม่เป็นท่า แถมด้วยความร้อนแล่นเป็นริ้วๆจากอกสู่ใบหน้าอีก ก่อนที่ผมจะโดนเผาจนเกรียมก็ต้องนึกขอบคุณหมวดแม็คที่เอ่ยขัดและสอบถามถึงเหตุการณ์เมื่อวาน ไอ้ตี้หลงก็เป็นคนเล่าเองทั้งหมดเริ่มตั้งแต่เราขี่รถออกจากโรงพยาบาลจนกระทั่งไอ้มือปืนโดนยิง ซึ่งไอ้ตี้หลงมันรับว่าเป็นคนยิงดับชีวิตมือปืนเองและเป็นเจ้าของลูกปืนทั้งสองนัด พอได้ฟังผมเตรียมค้านทันทีแต่สายตาเคร่งขรึมปนดุถูกส่งมาพร้อมแรงบีบที่ฝ่ามือ ทำให้ผมหุบปากอย่างขัดใจด้วยรู้ว่ายังไงซะทางตำรวจก็ไม่ได้โง่ เพราะกระสุนมันมาจากปืนคนละกระบอกตรวจสอบก็รู้แล้ว ส่วนแม็คที่ได้ฟังก็เหลือบตาจากสมุดบันทึกขึ้นมามองหน้าไอ้ตี้หลง ก่อนถอนใจยาวออกมาและพูดในสิ่งที่ผมไม่นึกแปลกใจ
“ก็แปลกนะครับที่มิสเตอร์หยางถนัดใช้ปืนคนละชนิดในเวลาเดียวกัน ส่วนใหญ่คนถนัดใช้ปืนคู่เค้าจะใช้ชนิดเดียวกันเพื่อความสมดุล” แม็คพูดจบก็ก้มหน้าไปจดอะไรยุกยิกต่อในสมุดบันทึก ผมจึงหันไปมองไอ้ตี้หลงที่แค่ทำหน้าเรียบเฉยไม่รู้สึกผิดสักนิดที่โดนจับได้ ผมว่าแม็คก็คงรู้ว่าความจริงคืออะไรแต่ก็โดนบังคับกลายๆให้ร่วมมือแต่แรกจากเจ้าพ่อถัง
พักเดียวแม็คก็เงยหน้าขึ้นและปิดสมุดบันทึกดัง ‘ปึก’ ก่อนเอ่ยเรียบๆว่าจะไปดำเนินเรื่องคดีให้เอง ผมถึงกับถอนใจโล่งอกกับเรื่องยุ่งๆที่เกิดขึ้น และก่อนที่แม็คจะลุกออกไปหาน้องนัทตามที่เจ้าตัวเอ่ยปากขอตัวไว้ ไอ้ตี้หลงก็เอ่ยขอบคุณน้ำเสียงหนักแน่นแววตาจริงใจอย่างที่สุด ที่ผมเพิ่งเห็นมันใช้กับแม็คที่ดูเหมือนทั้งคู่ไม่ถูกชะตากันแต่แรก
“ไม่เป็นไรครับ ที่ผมทำไปทั้งหมดก็เห็นแก่เฮียซันและเฮียธัช เพราะเห็นว่ามันไม่ได้ผิดนัก ไอ้มือปืนนั่นมันก็ผิดจริง เรื่องทั้งหมดยังอยู่บนพื้นฐานความจริงแม้จะบิดเบือนไปบ้าง และขัดใจตัวเองไปหน่อยก็ตามครับ”
ถ้าผมไม่รู้จักไอ้เด็กคนนี้ตั้งแต่เรียนเตรียมนายร้อย ผมคงคิดว่ามันเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แล้วนะครับเนี่ย ไม่ใช่เรื่องหน้าตานะแต่เป็นด้วยคำพูดและชั้นเชิงต่างหาก ‘มาดแม่ง! ให้สุดๆ’
…………………………..
โปรดติตามตอนต่อไปค่ะ
หลังคืนวิวาห์ก็มีเรื่องยุ่งๆให้ต้องแก้ไขแต่เป็นโอกาสให้เรา
พาน้องแม็คและน้องนัทมาให้คนอ่านได้รู้ความเป็นไปอ่ะนะ
ส่วนคู่วิวาห์ก็หวานแบบแปลกๆ!? 555 และดูว่าเฮียธัชจะเป็น
ว่าที่ภรรเมียที่ดีมาก ไม่มีปากเสียงขัดสามีให้คนนอกเห็นเลย
ยกย่องให้เกียรติเป็นที่สุด แต่พออยู่สองคนเราจะรู้ว่าจริงๆแล้วใครใหญ่ 555
ตอนนี้พาน้องนัทสุดซ่าและนายแม็คหน้านิ่งมาร่วมฉากด้วยนะ ยังจำกันได้มั้ยเอ่ย^^
ตอนหน้าคู่ข้าวใหม่ปลามันโชว์หวิวด้วย >////< ติดตามได้วันอังคารค่ะ
+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์เช่นเดิม ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ