เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ  (อ่าน 83469 ครั้ง)

ออฟไลน์ BossoM

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1092
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-5
    • my twitter
รวบยอด...รักพี่ขุน...อยากให้อยู่กันไปเรื่อยๆ...แต่เรื่องนี้แหละที่เจ็บปวด...ร้องไห้น้ำตาไหลพรากเลยค่ะ  :m15:

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
ไม่ว่าจะอ่านตอนนี้กี่ครั้งกี่หน ก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้สักที
ทั้งๆทีเตรียมใจมาก่อนแล้ว  อ่านทีไรพรากๆๆทุกๆครั้งเลยค่ะ คุณภัคD  o13
ฮือๆๆๆๆๆ สงสารตะวัน  :m15: :m15: :m15:

+1  :กอด1: :กอด1: :กอด1:


pahpai

  • บุคคลทั่วไป
อ่านฉายก็ร้องไห้ อ่านตะวันก็ร้องไห้ T^T

vavacoco

  • บุคคลทั่วไป
ตะวันเข้มแข็งกว่าที่คิด ยอมอยู่เป็นเพื่อนฉาย ย้ายไปกับฉายเพื่ออนาคตของฉาย
สมแล้วที่เป็นพี่ชาย ตะวัน ฉาย :กอด1:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
ร้องไห้ตลอดๆ กับเรื่องนี้!!!!! โฮ..................

ออฟไลน์ CoMa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
ขอบคุณตะวันนะที่ยังหลับเป็นเพื่อนฉาย ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆT^T
โอ้ยยยยยยย เล่นซะปวดหนึบไปทั้งใจเลย อินจัด555(หัวเราะคลายเศร้า=.=)

ออฟไลน์ Aimiya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
อ่านยังไงก็เจ็บ ก็เศร้าค่ะ
ฮือออออ เป็นเรื่องที่ชอบมากๆตั้งแต่ตอนฉายเล่า
ก็รู้ว่าตอนจบจะเป็นยังไง แต่ก็ยังทำใจไม่ได้สักที
T_____T
ตะวันน่ารัก
ฉายน่ารัก
พี่ขุนน่ารัก
พูดไม่ออก บอกไม่ถูก
รักฉาย แต่ก็รักพี่ขุนไม่แพ้กัน
สงสารตะวัน
ทำไมต้องเศร้าขนาดนี้ โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ w[o]w

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนนี้ยาวดีจัง ต่อเนื่องมากไม่ค้างคา ชอบๆ

ออฟไลน์ Maree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สงสารพี่ขุน สงสารตะวัน สงสารฉาย
แต่พออ่านในมุมตะวันสำหรับเราไ่ม่หม่นเท่าที่เราอ่านในมุมฉายนะคะ
รอตอนต่อไปนะคะและสั่งหนังสือไปแล้ว รอๆๆๆๆๆ

TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านตอนหวานๆของเจ้าชายกบกับเด็กชายข้างบ้านแล้ว

ไม่อยากให้เรื่องนี้จบเลยอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ piengtavan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • UEDA_ARAMORD
ยืนยันคำเดิมค่ะ เรื่องนี้เฮจะไม่สงสารใครทั้งนั้น!! 

มันคือเรื่องของความสุขในยามเศร้า

เพราะงั้น เฮ สงสารใครไม่ได้จริงๆ มันมีความสุขมากเวลาอ่านถึงทุกคนที่ทั้งฉายและตะวันบรรยาย บอกได้ทุกคำที่ทั้งสองคนบรรยายว่า ทั้งคนถูกรักอย่างเปี่ยมล้นในคนที่ตัวเองรััก เพราะงั้น ยามที่มีการลาจาก จะเจ็บปวด มันไม่แปลก หรือ อ่อนไหวเกินไป

จากตะวันฉาย เฮสะท้อนใจเอาจริงๆจังๆตอนที่ฉายเข้าไปเห็นภาพดอกทานตะวันในห้องพี่ขุน มัทำให้ไขทุกอย่างออก หมดแล้ว ไม่เหลือข้อสงสัย เฮเลยลากสังขารมาอ่านเรื่องนี้ต่อได้จนจบ(อาจเพราะรู้เรื่องราวตอนจบที่เป็นหนึ่งเดียวมาแล้วก็ได้ เลยมาอ่านได้น่ะค่ะ แหะๆ)

จากตะวัน เฮตื้นตันตอนที่ตะวันบอกกับถามพี่ขุนกลับว่า พอพี่ขุนจะกลับบ้าน เมื่อบอกว่ามาบ้านตะวัน แต่ตอนนี้ พี่ขุนจะบอกเพื่อนว่ายังไง แล้วพี่ขุนตอบกลับว่ากลับบ้าน นั่นล่ะค่ะ มันโดนใจจี๊ดเลย!

สุดท้ายขอยืนยันค่ะ รักทุกคนในเรื่องจริงๆ(แม้แต่อิตาคนที่ชื่อปา) รักมากที่สุดก็พ่อแม่ของฉายเลยค่ะ รักมากจริงๆสองคนเนี๊ยะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
สงสารตะวัน คนที่ต้องรอในบ้านที่ไม่มีใคร
ตะวันต้องอยู่เพื่อฉาย ช่างเป็นพี่ชายที่แสนดีจริง ๆ



ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
...กิ๊กตะวันทุกคนดีหมด ยกเว้นพี่ปาเนอะ บ้าดีเดือดมากกว่าคนอื่นๆๆ
...อ่านตอนนี้ทำให้รู้สาเหตุที่ตะวันโดนแทง เพราะต้องการห้ามพี่ปาไม่ให้ไปทำร้ายฉายนี่เอง
...ถ้าฉายรู้คงปลื้มน่าดูเลย อยากอ่านเรื่องราวหลังจากนี้จ้าคนแต่ง อยากรู้ว่าเค้าอยู่กันสองคนแล้วจะเป็นยังไงต่อไป
...ตะวันจะเปิดใจรับรักฉายได้บ้างไหม หรือตะวันจะเจอคนใหม่ และไม่กล้ารักกับฉายเพราะอยู่กันมาตั้งแต่เด็กๆเห็นใส้เห็นพุงกันหมดแล้ว
:laugh:

ออฟไลน์ Zinub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
คนเขียนนี่ไม่ชอบเศร้าๆ ดราม่าๆเลยเนอะ... o22

แต่คนอ่านนี่ซิ...น้ำตาไหลพรากกกก....เลยอ่ะ... :sad4:

 o13    o13    o13

ออฟไลน์ Nuclear

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
รักฉาย  :กอด1:
รักตะวัน  :กอด1: :กอด1:
รักพี่ขุน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รักทุกคนในเรื่องง .. :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รักคนแต่งที่สุด  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ฮาเดส

  • บุคคลทั่วไป

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
โอย...
ขนลุก น้ำตาไหล คิดถึงพี่ขุน ToT

พอมาอ่านมุมของตะวันแบบนี้แล้วเกลียดพี่ปา
และก็ยิ่งทำให้รักพี่ขุน
ทำให้รู้ว่าพี่ขุนเองก็รักตะวันมาก
และก็เสียใจแทนตะวันที่พี่ขุนตื่นเร็วเหลือเกิน...

ติดตามต่อค่ะ
คุณภัค D สุดยอดจริงๆ!

ภัคD

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ

ผมมาอยู่ไชยปราการกับฉายหลายๆปีแล้ว...

ผ่านไปแล้วหลายๆปี ผมก็ยังคิดถึงพี่ขุน น้าโอ๋แล้วก็น้าเจด พ่อแล้วก็แม่ด้วย...เพียงแต่การคิดถึงในตอนนี้ มันต่างจากการคิดถึงในตอนแรกๆ...ความคิดถึงในตอนแรกมันทรมาน...เพราะพอคิดถึงแล้ว ผมก็อยากเจอ อยากเห็น อยากได้ยินเสียง อยากสัมผัสแล้วก็อยากกอด มันเลยทรมานเพราะว่าผมทำอย่างนั้นไม่ได้อีกแล้ว  แต่การได้นั่งคิดถึงในตอนนี้มันเป็นความสุข ถึงมันจะยังรู้สึกเศร้าๆเหงาๆอยู่บ้าง แต่ผมก็ไม่ทรมานกับความสารพัดอยากแล้ว...ผมเลยตั้งชื่อมันว่าทฤษฎี ความเคยชินของมนุษย์...

เป็นเช้าวันหนึ่งที่ผมนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ ดูเม็ดฝนโปรยลงมาจากฟ้า ดูต้นไม้อ่อนที่เพิ่งงอกขึ้นจากบนดิน ดูมดที่ตัวเล็กๆแต่ก็อุตส่าห์โดนเหยียบตายอยู่บนดิน ผมก็ค้นพบว่ามนุษย์ตั้งแต่เกิดจนตายนั้นมีชีวิตอยู่รอดด้วยความเคยชินเท่านั้น...

พอเดินกลับมาถึงบ้าน ผมก็เล่าให้ฉายฟัง...ฉายยืนหัวเราะ จนทฤษฎีที่ผมอุตส่าห์คิดขึ้นมาได้เกือบฝ่อ

“คิดได้เนอะ!”ฉายว่างั้น

“ เหมือนนางนากที่เมื่อคืนฉายในทีวีเลย...”ฉายพูดอีก ผมเลยเพิ่งนึกได้ว่ามันเหมือนจริงๆนั้นแหละ

“ว่างมาก งั้นช่วยฉายกวาดบ้านเลยไป...”ฉายพูดแล้วก็จับไม้กวาดยัดใส่มือผม

“ไม่เอา”ผมบอกแล้วก็ทิ้งไม้กวาด

วันนี้อากาศดี...ฝนตกลงมาแหมะๆ...ลมก็เย็นจนเกือบๆจะหนาว ผมเลยไม่อยากทำอะไรนอกจากลากเก้าอี้กับผ้าห่มออกมานั่งคิดถึงที่ระเบียง...

ผมนั่งคิดถึงแม่ คิดถึงพ่อ คิดถึงน้าเจด น้าโอ๋แล้วก็พี่ขุนที่ระเบียง...จนท้องร้องจ๊อกๆ ผมก็เดินลากผ้าห่มกลับเข้ามาในบ้าน

ในตู้เย็นไม่มีอะไรเหลือ เพราะฝนหยุดๆตกๆมาหลายวันแล้ว ฉายเลยไม่ได้ไปตลาด  เหลือก็แต่มาม่า ฉายเลยต้มเอามานั่งแบ่งกันกินคนละชาม

ควันมาม่าฉุ่ยๆ...กับฝน กับอากาศเย็นๆ...แล้วก็เพิ่งนั่งคิดถึงพี่ขุน ผมเลยคีบเส้นมาม่าเข้าปากแล้วก็เล่าเรื่องเจ้าชายกบให้ฉายฟัง

ฉาย...กบที่คงไม่ได้หลับฝันเป็นเจ้าชาย แต่ฝันว่าตัวเองเป็นคุณหมอ แล้วก็กลายเป็นกบที่ฝันลามกขึ้นทุกวันด้วย...

ฉายฟังผมเล่าแล้วก็ขมวดคิ้ว พยักหน้าหงึกๆแล้วก็คีบเส้นมาม่าเข้าปาก...ฉายชอบทำแบบนี้ ขมวดคิ้ว พยักหน้า แล้วก็ยิ้ม แต่พอดีตอนนี้ฉายกินมาม่าอยู่ ฉายเลยยิ้มไม่ได้...

เวลาฉายทำแบบนี้...ขมวดคิ้ว พยักหน้าแล้วก็ยิ้ม...มันมีความหมายว่า...มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ฉายว่าไม่ใช่ แต่จะคิดอย่างนั้นก็ได้ ฉายไม่ว่าอะไร...

เพราะมัวแต่พูด ฉายเลยกินหมดก่อนผม...ผมก็เล่าเรื่องเจ้าชายกบต่อ พอเล่าจบ ผมก็เริ่มกินต่อ

“แล้วตะวันอยากรู้หรือเปล่าว่าฉายฝันว่าอะไร?”ฉายถาม เล่นเอาผมเกือบสะดุ้ง...ก็พอผมเล่าจบ ฉายที่เมื้อกี้ยังยืนอยู่ตรงโน้นก็เดินอ้อมมายืนอยู่ด้านหลังตั้งเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

ฉายเอามือเท้าที่พยักเก้าอี้ที่ผมนั่ง แล้วก็ก้มลงมากระซิบซะชิดหู เล่นเอาผมเกือบสะดุ้ง และไปสะดุ้งจริงก็ตอนหันไปแล้วเจอลูกกะตาฉายนั้นแหละ

หน้าฉายน่ะอยู่ใกล้แค่นิดเดียวเอง ฉายยิ้มแล้วก็มองผม...แต่ไม่ได้มองแค่ลูกกะตาผม ฉายน่ะมองมากกว่านั้น

“ว่าไง ตะวันอยากรู้หรือเปล่าว่าฉายอยากทำอะไร...เอ้ย...ว่าฉายฝันว่าอะไร?”

อย่างที่บอกไปแล้วมั้งว่าทำไมผมจะไม่รู้ว่าฉายคิดยังไงกับผม

ครั้งหนึ่งฉายเคยบอกว่ารักผม...

ครั้งหนึ่งก่อนหน้านั้นพี่ขุนก็เคยบอกผม

และครั้งหนึ่งพี่กบก็เคยบอก

สำหรับผม เมื่อก่อนยังไงซะฉายก็เป็นน้อง...ถึงผมไม่เคยเป็นคนเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ฉาย แต่อย่างน้อยผมก็เคยเป็นคนวิ่งไปหยิบผ้าอ้อมมาให้น้าโอ๋เอามาเปลี่ยนให้ฉายแหละ....ผมเคยนอนอ่านการ์ตูนแล้วอยู่ๆฉายก็มายืนฉี่ใส่หัวผม ทำไมผมจะจำไม่ได้...

และถึงฉายจะเคยบอกว่ารักผม...แต่ผมก็เฉยๆ ไม่เห็นมีอะไรจะเปลี่ยนแปลงไปทั้งผมแล้วก็ฉาย...จะมาเริ่มรู้สึกว่ามันเปลี่ยนเอาก็ตอนนี้ ตอนที่ไม่มีพี่ขุน ตอนที่ผมอยู่กับฉายแค่สองคน...

เมื่อก่อนขอให้ฉายทำอะไรให้...ผมน่ะต้องขอจนปากฉีก ส่วนฉายก็บ่นจนปากแฉะถึงสุดท้ายฉายจะยอมทำให้ผมทุกทีก็เหอะ แต่ตอนนี้พอผมอยากทำตัวเป็นพี่ที่ดี จะทำอะไรฉายก็กลับบอกว่า...มานี่ เดี๋ยวฉายทำให้...

แล้วยังลูกกะตาของฉายอีก...

ผมไม่รู้ว่าลูกกะตาฉายที่จ้องผมน่ะมันเปลี่ยนไปหรือผมเพิ่งรู้สึกว่ามันเปลี่ยน...มันก็ไม่ใช่ตลอดเวลาหรอกที่ฉายจะใช้ลูกกะตาแบบนี้จ้องผม...ลูกกะตาแบบที่ครั้งหนึ่งพี่กบเคยใช้แล้วผมก็เลยรู้ว่าเป็นแฟนกันน่ะมันต้องอะไรๆกันแบบไหน แล้วพอต่อมาถึงเลิกเป็นแฟนกันแล้วพี่กบก็ยังแอบใช้ลูกกะตาแบบนั้นมองผมเวลาอยู่ลับหลังพี่ขุน...ลูกกะตาแบบที่พี่ปาก็เคยใช้และผลตามมาก็ไม่ต่างอะไรกับพี่กบ...จะมีก็แต่พี่ขุนนี่แหละที่นานๆจะยอมใช้กับเขาที...แล้วมาตอนนี้ฉายก็ใช้ลูกกะตาแบบเดียวกันจ้องผมบ่อยๆ...จะต่างกันก็มีฉายเป็นคนแรกนี่แหละที่เวลาถูกจ้องแบบนี้แล้วมันทำให้ผมอึดอัด...หายใจไม่ลงท้องเพราะหัวใจมันเต้นขยับออกมาขวางทางหายใจ...ยิ่งกว่านั้น นับวันผมก็ยิ่งไม่กล้าสบตาฉาย เหมือนครั้งนี้ พอหันไปเจอหน้าฉายที่ก้มห่างจากหน้าผมแค่นิดเดียวแถมยังลูกกะตาที่จ้องอยู่อีก ผมเลยสะดุ้ง

“อยากรู้หรือเปล่าว่าฉายฝันว่าอะไร?”ฉายถามกระซิบซะข้างหู...ลูกกะตาที่มองผมน่ะมันเหมือนจะถามผมอย่างอื่นซะมากกว่า...

ผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นโครมๆ  ก่อนที่จะรู้ว่าตัวเองส่ายหัวและก้มหน้าลงซะหัวเกือบมุดลงไปอยู่ในชามมาม่า

“อยากรู้เมื่อไหร่บอกฉายแล้วกัน...”ฉายยังก้มลงตามมากระซิบ...แต่คราวนี้ใกล้จนผมว่า ปลายจมูกฉายน่ะติดซะเกือบจะชนกับแก้มผม ยิ่งพอฉายพูดเสร็จ ฉายก็หัวเราะเบาๆ...ลมหายใจของฉายมันทำเอาผมขนลุกไปทั้งตัว...

ผมค่อยกล้าขยับตัว ตอนที่ฉายขยับถอยห่างออกไป...แต่พอผมเอี้ยวไปมอง...ฉายก็ยังมองผมแล้วก็หัวเราะ...

เพราะฉายชอบทำแบบนี้...ยิ่งนานวันผมเลยยิ่งนึกภาพฉายสมัยเด็กๆไม่ค่อยออก...ภาพที่นึกออกในหัว มันมีแต่ภาพลามก...แบบที่พี่กบ พี่ปาแล้วก็พี่ขุนเคยทำ...ใจผมเลยยิ่งเต้นโครมเวลาที่ฉายมองผม ถ้าฉายมองผมแบบนี้บ่อยๆ มีหวังผมขาดอากาศหายใจตายแน่ๆ

พอพระอาทิตย์เกือบๆจะตกเขา ฉายนั่งหน้าเมื่อยอยู่กับหนังสือกองโต  ผมก็แอบย่องออกจากบ้าน ปั่นจักรยานไปที่ตู้โทรศัพท์ที่ฉายบอกว่า เป็นอันเดียวตัวเดียวของหมู่บ้าน

“ตะวัน พี่ยุ่งอยู่ อีกแป๊บตะวันค่อยโทรมาใหม่ได้ไหม?”พี่กบถาม

“ไม่ได้” ผมก็ตอบ ก็ผมปั่นจักรยานมาตั้งไกล กว่าจะถึงก็เกือบหมดแรง ถ้าต้องปั่นกลับบ้านแล้วปั่นกลับมาอีกรอบ ผมว่า ผมหมดแรงกลางทางพอดี...ยิ่งกว่านั้นตู้โทรศัพท์ตัวเดียว อันเดียวของหมู่บ้านที่ผมยืนอยู่เนี่ย ก็โดนรถขี้เมาชนซะเยินเมื่อวันก่อน...ฉายบอกว่าต้องส่งตัวคนเจ็บไปที่โรงพยาบาลใหญ่...แต่ผมไม่รู้ว่าเขายังเจ็บอยู่ หรือไม่เจ็บแล้ว แล้วเกิดเขาไม่เจ็บแล้วแล้วเขากลับมาล่ะ? แล้วตอนนี้ฟ้าก็มืดแล้วด้วย...ฟ้าก็แลบแปล๊บๆ ถ้าฝนตกลงมา ตู้โทรศัพท์ตัวเดียวอันเดียวตู้นี้ มันก็ไม่เหลือสภาพคุ้มฝนได้แล้วด้วย

“ฮัลโหล...”ผมส่งเสียงไปตามสายเพราะเห็นพี่กบเงียบไป...ฟ้าก็แลบแปล๊บๆ ผมเลยลงนั่งยองๆ แอบเอาหัวมุดอยู่ใต้โทรศัพท์...แอบฟ้า แอบฝนแล้วก็เผื่อแอบผีด้วย

“ฮัลโหลๆ...”ผมส่งเสียงไปอีกสองโหลเพราะพี่กบยังเงียบ ...แถวนั้นก็เงียบ

“ครับผม!” พี่กบตอบรับแล้วก็หัวเราะ ผมเลยค่อยโล่งอก แล้วก็เล่าเรื่องฉายให้พี่กบฟัง

“ตะวันจำที่พี่เคยบอกตะวันเรื่องครอบครัวได้ไหม?”พี่กบถามผมก็ส่ายหัว

“ครอบครัวก็เหมือนอากาศ...อยู่รอบๆตัว...รู้ว่าสำคัญ ต้องหายใจเอามันเข้าไปทุกวันๆแต่ก็เคยชินกันจนไม่มีอะไรมากิ๊วก๊าว”

“พี่กบ ตะวันพูดเรื่องฉายอยู่นะ”

 "พี่ก็พูดเรื่องฉาย”

“ฉายเป็นน้องชายตะวันไม่ใช่หรือไง?”พี่กบถาม

“ก็ใช่”ผมก็ตอบ

“ฉายเลยเรียบๆเรื่อยๆมาเรียงๆ เอื่อยๆเป็นอากาศไง...จะมารู้สึกถึงมัน ก็เอาตอนที่มันเล่นแร่แปรธาตุนั่นแหละ”

“อากาศน่ะเราไม่รู้สึก แต่พอมันดื้อจะไม่ยอมเป็นอากาศ จะเปลี่ยนตัวเองเป็นน้ำ เราก็เลยเริ่มรู้สึกซู่ซ่า!”พี่กบพูดแล้วก็ขำอยู่คนเดียวเพราะผมไม่ขำด้วย

“พี่กบ!” ผมเรียกเพราะพี่กบยังขำอยู่คนเดียว

“อะไร?”พี่กบขานรับแต่ก็ยังหัวเราะ

“พูดไม่รู้เรื่อง!...ตะวันพูดเรื่องฉาย พี่กบพูดถึงอากาศทำไม แล้วอากาศมันเกี่ยวอะไรกับน้ำ?”

“อ๊อกซิเจนไง...น้ำก็เอชทูโอ...”

“พูดอะไรไม่รู้เรื่อง!”

“เคมีไง...ตะวันไม่ได้เรียนเหรอ”
“ไม่ได้เรี...”ผมพูดได้เท่านั้น ฟ้าก็แลบอีกแปล๊บใหญ่ เงาอะไรไม่รู้เบ่อเริ้ม อยู่บนพื้น...ด้านหลังผม...

 "ตะวัน?” พี่กบส่งเสียงมาเพราะผมเงียบไป แต่เสียงผมติดอยู่ที่คอ

ผมนับหนึ่ง สอง แล้วก็สามในใจก่อนค่อยๆหันไปแล้วเงยหน้าดู...ฉายยืนมองผม มือหนึ่งก็กอดอก ส่วนอีกมือก็ถือร่ม ผมเลยเพิ่งนึกได้ ฝนตกลงมาตั้งหลายแปะ  แต่ผมไม่ยักกะเปียก

“ฮัลโหล...ตะวัน?”พี่กบส่งเสียงมาอีกแต่คราวนี้มาพร้อมสัญญาณเตือนตู๊ดๆว่าเหรียญจะหมด...ฉายเงยหน้ามองสัญญาณกระพริบตรงตู้ ก่อนเอามือข้างที่กอดอกอยู่ออกแล้วก็หยอดเหรียญเพิ่มให้ ผมเลยนึกได้อีกอย่างว่าเหรียญที่กำอยู่ในมือยังอยู่ครบ ผมนั่งคุยกับพี่กบตั้งนาน ยังไม่ได้หยอดเพิ่มสักกะเหรียญ

“พี่กบ แค่นี้นะ”ผมบอกพี่กบ ก่อนค่อยๆขยับตัวออกจากใต้โทรศัพท์

“ทำไมล่ะ?”พี่กบถาม

“ตะวันยุ่งอยู่”ผมก็ตอบ

“อ้าว!...เฮ้ย!”ผมได้ยินเสียงพี่กบว่างั้น แล้วฉายก็รับหูโทรศัพท์ไปแล้วก็วางดังแกร๊ก

“ไปทำอะไรใต้โทรศัพท์?”ฉายถาม

“หลบฟ้า หลบฝน หลบผี” ผมตอบตามจริง จะเหลือก็หลบฉายนี่แหละที่ไม่ได้บอก

“ฉายมายังไง?”ผมถามเพราะมองซ้าย มองขวาแล้วเห็นจักรยานผมแค่คันเดียว

 "เดิน...”ฉายตอบ เอามือผลักประตูตู้โทรศัพท์ที่เหลืออยู่แค่ครึ่งบานแถมกระจกก็ไม่เหลือเปิดออกให้ผม

“จริงสิ?!”

“ไม่จริง!...ติดรถเขามาน่ะสิ ตะวันไม่ได้ยินเสียงรถเหรอ?”ฉายถาม ขึ้นไปนั่งบนจักรยาน ผมก็ส่ายหัวแล้วปีนขึ้นไปซ้อน

“ตะวันถือร่มสิ!”ฉายบอกแล้วหันมาส่งร่มจะให้ผมถือ

“ไม่เอา มันหนาว!”ผมบอก ฉายก็มองผม ก่อนถอนหายใจแล้วก็จับมือผมให้ถือร่ม แล้วฉายก็ถอดเสื้อหนาวส่งให้ผม

“ฉายไม่หนาวเหรอ?”ผมถามก่อนส่งร่มคืนให้ฉายถือแล้วก็รับเสื้อมาใส่

“ถ้าหนาว ตะวันจะคืนเสื้อให้ฉายไหมล่ะ?”ฉายถาม

“ไม่คืน...”ผมก็ตอบ

“เอ้า ถือร่มไป!”

“ไม่เอา ขี้เกียจถือ!”ผมบอก...ฉายก็แกล้งถอนหายใจดังๆแล้วก็ปั่นจักรยานเป็นงูเลื้อยเพราะจับจักรยานแค่มือเดียว

“คุยอะไรกับพี่กบ?”ฉายหันมาถาม ตอนจะเอาจักรยานเลื้อยขึ้นเนิน

“เรื่องฉายกับอ๊อกซิเจน”ผมก็ตอบ นึกดีใจที่ไม่ต้องปั่นจักรยานกลับเอง...ตอนปั่นลงเนินน่ะยาก ผมเกือบเอาหน้าทิ่มข้างทางไปหลายรอบ แต่ปั่นขึ้นเนินยากกว่า ปั่นขึ้นเนินแต่ละที ฉายบอกว่า ผมทำท่าเหมือนหมาหอบ

“อะไรนะ?”ฉายหันมาถามอีก...เห็นไหม ขนาดฉายยังงงเลย...

“เรื่องฉายกับอ๊อกซิเจนกับอากาศกับน้ำมันกิ๊วก๊าวแล้วก็ซู่ซ่า!”ผมบอกอีกรอบให้ฉายงงเป็นเพื่อนผมอีกหน แต่คราวนี้ฉายเงยหน้ามองฟ้า สงสัยจะงงหนักกว่าเดิม

“แล้วฉายเกี่ยวอะไรกับอ๊อกซิเจนกะน้ำกะอากาศกะเกี๊ยวซ่า?”

“กิ๊วก๊าว ซู่ซ่า ไม่ใช่เกี๊ยวซ่า!...ไม่รู้เหมือนกัน...พี่กบพูดไม่รู้เรื่อง!...แต่อยากกินเกี๊ยวซ่าจัง!”พอฉายพูดถึงเกี๊ยวซ่าผมเลยพลอยอยากกินไปด้วย

“งั้นไว้เข้าเมืองคราวหน้า เราไปกินกัน”

“ฉายหัดทำสิ !”

“ได้...พรุ่งนี้ไปตลาด ตะวันสอนมานะ แล้วฉายจะหัดทำ...”

“ไม่เห็นยาก...เอาไส้มา เอาแป้งมา ม้วนๆๆแล้วก็โยนลงไปต้ม”

“แล้วจะเอาไส้จากไหน เอาแป้งจากไหน แล้วเกี๊ยวซ่าบ้านตะวันสิเอาไปต้มน่ะ!”

“ต้มสิ!...ส่วนไส้ก็หมูสับไง...แป้งก็ซื้อที่ตลาด...เอาบะหมี่ตราเสือนะ ใส่หมูแดงด้วย”

“ไอ้ที่พูดมาเกี๊ยวซ่าแน่นะตะวัน?...ฉายว่าฟังแล้วคล้ายๆบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงมากกว่า”

“...ก็อยู่ไชยปราการเราก็กินเกี๊ยวเรียบร้อยไปก่อน”

“โอเค แล้วค่อยให้มันไปซ่าในเมืองใช่ไหม?”

“แม่น!...เกี๊ยวไชยปราการต้องเรียบร้อย ซ่าไม่ได้”

“หยุดอย่าชวนคุย...ปั่นไปคุยไปเหนื่อย!”ฉายบอก แล้วก็หอบแฮ่กเป็นหมาหอบ ผมเลยเงียบเพราะเหลืออีกเนิน เกิดฉายหมดแรงเดี๋ยวผมต้องแท็คทีมปั่นต่อ

“คัน...ตะวันเกาให้หน่อยสิ”ฉายบอก ตอนกำลังปั่นจะขึ้นอีกเนิน

“ตรงไหน”ผมถาม เอาใจซะหน่อยไม่งั้นเดี๋ยวฉายไล่ให้ลงไปเดินตามจักรยาน

“ท้อง...”ฉายบอก ผมก็เอื้อมมือไปเกาให้

“อีกมือเก็บไว้ทำไม?...”ฉายถาม  ผมก็เอื้อมมืออีกข้างไปช่วยเกา

ผมแอบดูหน้าฉาย...ฉายกำลังยิ้ม...ผมเลยรู้ว่าฉายไม่ได้คันสักกะหน่อย แต่ก็ช่างเหอะเพราะแบบนี้ก็อุ่นดี

“ไม่เกาแล้วนะ!”ผมบอก เลิกเกาแต่ก็ยังเอามือไว้ที่เดิม แล้วก็เอาหัวพิงหลังฉาย ผมรู้สึกว่าฉายเอี้ยวหลังมาดูผม แล้วก็รู้ด้วยว่าฉายกำลังยิ้ม...

ฝนตกแปะๆ...ฉายปั่นจักรยานเป็นงูเลื้อย ผมก็ซ้อนอยู่บนหลังจักรยาน หัวก็อิงหลังฉาย..บางครั้งผมก็คิดว่า ฝันแบบนี้มันก็อุ่นดีไปอีกแบบ...

วันนี้พี่ขุนไม่อยู่แล้ว แต่ผมยังเป็นกบที่นอนฝันหวานอยู่บนใบบัว ถึงบางครั้งฝันของผมมันจะยังมีรสเศร้า เพราะความคิดถึงมันห้ามกันไม่ค่อยได้ แต่ด้วยทฤษฎีความเคยชินมันก็ทำให้ผมอุ่นกับฝันได้เหมือนเก่า...แต่จะมีบ้างที่บางครั้งฝันๆอยู่ ผมก็ต้องหายใจสะดุดเพราะกบอีกตัวที่มันนอนหลับฝันอยู่บนใบบัวเดียวกัน มันดันชอบมาทำฝันลามกอยู่ใกล้ๆผม...

จบ

เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่ใครว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ

 


ออฟไลน์ meng

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ม่วนแต้ๆ เจ้า

ยินดีจ้าดนักที่ได้อ่าน นิยาย "รสมือ" คุณภัดD น่ะเจ้า

เจ้สอง

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
แวะมาบอกว่าไม่กล้าอ่านครับ คงเศร้าซึมลึกไปอีกหลายวันแน่ๆ ช่วงนี้สภาพจิตใจยังไม่พร้อมจะรับเรื่องเศร้าครับ

pahpai

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Maprang_W

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
ขอให้เจ้าชายกบทั้งสองนอนหลับฝันด้วยกันตลอดไปนะ
รักตะวัน. รักฉาย

คุณภัคD คะ.  อยากขอตอนพิเศษต่อไปอีกนิดได้ไหมคะ. อยากอ่านตะวันช่วงสวีทหวานกับฉายต่ออีกหน่อย  :call:

+1  :กอด1:

vavacoco

  • บุคคลทั่วไป
จบแล้วสินะ ขอบคุณสำหรับสุดยอดนิยายเรื่องนี้ อ่านแล้วนอนหลับฝันดีทุกคนนะคะ :bye2:


ปล.ฉายมาทันเป็นพระเอกฉากสุดท้ายพอดีค่ะ ชิส์ หมั่นไส้ ^^ :a5:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ในที่สุดฉายก็ทำให้ตะวันรู้สึกซู่ซ่า
จะได้หลับฝันหวานกันนาน ๆ

ออฟไลน์ Nuclear

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
จบแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ  :กอด1:
ขอให้ตะวันซู่ซ่ากับฉายด้วยนะ จะได้ฝันไปพร้อมกันนานๆๆ
รักคนแต่ง
รักฉาย
รักตะวัน
 :pig3:

ออฟไลน์ Zinub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
ตะวันกับฉายนี่น่ารักจัง หยิกๆ หยอกๆกันดีจริงๆ :impress2:

เหมือนเกี๊ยวซ่า กับเกี๊ยวเรียบร้อยนั่นแหละ.... :m20:

จบซะแระ...ว่าแล้วก็ไปหาเกี๊ยวกินดีกว่ายังซ่าไม่ออก...คิดถึงตะวัน  :sad4:

 o13    o13    :bye2:

ออฟไลน์ ลำนำบุหลันครวญ

  • Most Wanted!!!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
จบสักที ... เข้ามาบอกว่าอ่านมาตลอด แต่ไม่อยากเมนท์เพราะกลัวจะออกตัวแรงเหมือนความเห็นแรก อิอิ

หลังจากอ่านจบ ... อย่างแรกที่รู้สึกคือยิ้ม ... และไม่ได้เศร้าเหมือนภาพที่มองผ่านมุมของฉาย

โลกของตะวันทำให้ผมนึกถึงปกหนังสือที่พี่ภัคดีจะทำ คือเหมือนกับภาพวาดดินสอสีเทียนที่วาดด้วยฝีมือเด็กอนุบาล

ผ่านจินตนาการของคนที่ดูเข้าใจยาก ...

จากที่พี่ภัคดีบอกว่า อ่านเรื่องนี้ จะทำให้รักตะวันขึ้นมาบ้าง ก็ขอตอบว่า บ้าง ... แต่ก็เหมือนกับความฝังจำจากเรื่องแรก

ทำให้ยังรู้สึกเกลียดตะวันอยู่ลึกๆ อาจจะด้วยเหมือนให้ไปจินตนาการต่อ ว่าตะวันจะหันมามองฉายบ้างหรือเปล่า

แต่พี่ภัคดีก็เฉลยว่า ตะวันก็แค่หวั่นไหว และให้ไปคิดต่อเอา แล้วแต่ว่าใครอยากให้เป็นยังไง

โดยส่วนตัว รู้สึกว่า เรื่องนี้ไม่เหมือนนิยาย เหมือนหนังสือนิทานภาพที่เล่าด้วยภาพสีเทียน

ผมคิดว่า ควรบรรจุเรื่องนี้ไว้เป็นตอนพิเศษในเรื่องจัง เพราะผมคิดว่า

เรื่องนี้เป็นเหมือนส่วนเติมเต็มของเรื่องฉาย ที่เหมือนกับขาดๆหน่วงๆมาตลอด

ในขณะที่เรื่องนี้ ถ้าอ่านอย่างไม่นึกถึงมุมของฉายจากเรื่องโน้น ผมไม่รู้สึกว่ามันปวดหัวใจเลยสักนิด

(แต่ก็ยังฝังใจอยู่ดี...)  :laugh:

สุดท้าย ถ้าถามว่าชอบอะไรที่สุด ชอบในอารมณ์ขันของการคิดชื่อของทั้งสองเรื่องครับพี่

อย่างเรื่องของฉาย ผมเชื่อว่าคนอ่านหลายๆคนน่าจะนึกสงสัยมาตลอดเรื่อง ว่าไอ้กรินกรณ์มันจะโผล่มาตอนไหน

และเรื่องนี้ แวบแรกที่อ่านชื่อเรื่อง ความคิดที่แล่นเข้ามาในหัว ไม่ได้นึกถึงเจ้าชายกบในนิทานเลย

ผมดันไปนึกถึงพี่กบ รักแรกของตะวันไปเสียฉิบ (ซึ่งเข้าใจว่าพี่ภัคดีน่าจะตั้งใจอย่างนั้น)

เอาเป็นว่า ... อ่านแล้วก็ชอบครับพี่ รู้สึกเอ็นดูเจ้าตะวันขึ้นมาบ้าง

(แต่ถ้าเจ้าตะวันเป็นคนจริงๆก็คงไม่ไหวเหมือนกัน ผมอาจจะไม่พระเอกในนิยายพอที่จะทำได้ทุกอย่างให้คนที่รักเท่ากับฉายด้วยมั้ง  :laugh:)


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด