เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ  (อ่าน 83622 ครั้ง)

ออฟไลน์ BossoM

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1092
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-5
    • my twitter
ยังจำความรู้สึกที่อ่านเรื่องเด็กชายตะวันฉายได้อยู่เลยค่ะ
ตอนนั้นอ่านไปด้วยความรู้สึกที่อึนๆ มันอึดอัดนะ
เรารักตะวันที่เป็นคนแบบนี้ ตะวันที่น่ารัก คิดว่าตะวันเป็นเด็กที่มองโลกง่ายๆสบายๆ
ตะวันที่ไม่ชอบความเจ็บปวด แต่กลับเจอความเจ็บปวดจากคนรอบข้างตลอด
ตะวันที่รักฉาย จริงๆแล้วไม่ใช่ว่าตะวันไม่รักฉายนะ
แต่คิดว่า..ตะวันคิดอะไรในหัวเล็กๆนั่นมากกว่าที่เรารู้เยอะ
คิดว่าในเรื่องนี้ใครมันจะไปรักตะวันได้มากกว่าฉายอีกแล้วนะ
ฉายผู้ทุ่มเท เพราะรักตะวันเลยขอแค่อยู่ข้างๆได้รักตะวันแบบใกล้ๆ
แค่คิดถึงเรื่องนี้ก็น้ำตาไหลแล้ว จะรอคอยติดตามเรื่องนี้จากด้านตะวันบ้างค่ะ
 :กอด1:

ออฟไลน์ CoMa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
อร๊ากกกกกกกกกกกก ดีใจอ่ะได้อ่านในมุมมองของพี่ตะวันบ้าง
มองดูเหมือนตะวันเป็นคนที่เข้าใจยาก แต่พอได้อ่านแล้วจริงๆตะวันเป็นคนที่คิดอะไรง่ายมาก555
รู้สึกสนุกในการได้ติดตามความคิดของตะวันมันเป็นอะไรที่บางทีเราก็ไม่เคยคิดได้แบบตะวัน(พอเหอะเริ่มงง555)
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ^^

ภัคD

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 8

...ก็ยังคงไม่มีต่อไป (ชื่อตอนน่ะค่ะ คิดไม่ออก ไม่ใช่อะไร)


ผมมองพี่ขุนที่นอนอยู่ข้างๆ...เอามือไล่ไปตามรอยแผลบนหน้าของพี่ขุน...

พี่ขุนเป็นแฟนคนแรกที่เห็นแล้วผมนึกอยากวาดรูป...อยากวิ่งไปหยิบกระดาษกับดินสอ แต่ผมก็ไม่ได้ทำเพราะแขนข้างหนึ่งของพี่ขุนยังโอบแล้วก็กอดผมเอาไว้...และผมก็อยากให้แบบอยู่อย่างนั้น...ผมเลยไม่ค่อยกล้าขยับตัว...

เมื่อคืนพี่ขุนกลับมาหาผม...กลับมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้เพราะผมมัวแต่นั่งร้องไห้ พอร้องไห้เสร็จ พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นพี่ขุน ผมก็ตกใจจนเกือบตกเก้าอี้ ดีที่พี่ขุนคว้าแขนผมเอาไว้ทัน...

‘ร้องไห้ทำไม?’ พี่ขุนถามผม

‘ตะวันนึกว่าพี่ขุนไปแล้ว...ก็พี่ขุนบอกว่าพี่ขุนนัดเพื่อนไว้’ผมบอก เลิกร้องไห้แล้ว ไม่ใช่เพราะดีใจที่พี่ขุนมาแต่เพราะเมื่อกี้ตกใจที่หงายหลังจนเกือบตกเก้าอี้

‘พี่บอกว่าพี่นัดเพื่อนไว้ จะออกไปโทรหาเพื่อน...คุยตรงนี้ตะวันก็แอบฟังพี่คุยโทรศัพท์’พี่ขุนบอก...ผมอยากบอกพี่ขุนว่า เป็นแฟนกันต้องไม่มีความลับต่อกัน แต่นึกได้ว่า สงสัยผมกับพี่ขุนจะยังไม่ได้เป็นแฟนกัน

พี่ขุนมองไปรอบๆบ้านผม ผมก็มองตาม...แล้วพี่ขุนก็มองผมแล้วก็ดึงผมเข้าไปกอด...น้ำตาผมเลยไหลออกมาอีกรอบ พอผมกอดพี่ขุน พี่ขุนก็กอดผมแน่นขึ้นผมเลยยิ่งร้องไห้...แล้วมันก็เกือบๆจะจบลงแค่กอด

อย่างที่บอก พี่ขุนเป็นแฟนคนแรกที่เข้าบ้านผมถึงสองครั้งและจะทำแค่เอามือกอด พอผมถาม พี่ขุนก็ตอบว่า

‘ขี้เกียจติดคุก ตะวันยังเด็กอยู่เลยนะ!’พี่ขุนพูดแต่ผมฟังแล้วคล้ายๆเหมือนเวลาโดนน้าโอ๋ดุ

‘ตะวันยี่สิบกว่าๆแล้วนะ’ผมบอก

‘จริงสิ?’พี่ขุนขมวดคิ้วถาม ผมก็พยักหน้า...แล้วก็พยักหน้าอีกรอบตอนพี่ขุนยังขมวดคิ้ว

สุดท้ายเลยได้แค่เกือบจะจบลงที่กอด...เพราะมันไม่ได้จบลงแค่ที่กอด...

‘พี่ขุนกับตะวันเป็นแฟนกันหรือเปล่า?’ผมถามหลังจากพี่ขุนไม่ได้ทำแค่เอามือมากอดผมไว้เฉยๆ และพี่ขุนก็ตอบโดยการพยักหน้า...

‘พี่ปาบอกว่าเป็นแฟนต้องไม่ปิดบังกัน..รักก็บอกว่ารัก ไม่รักก็บอกว่าไม่รัก ห้ามมีความลับ’

‘พี่ไม่ใช่พี่ปา...แต่พี่เห็นด้วย’พี่ขุนบอก

‘พี่ขอโทษที่ว่าตะวันสอดรู้สอดเห็น ถึงพี่จะคิดงั๊นจริงๆก็เหอะ...’

‘พี่ไม่ได้อยากปิด มันก็ไม่ใช่ความลับอะไร...ไม่มีอะไร แค่บางครั้งไม่อยากพูดถึง บางครั้งมันเหนื่อย ไม่อยากพูด...ไว้หายเหนื่อยแล้วตะวันอยากถามอะไรก็ถาม’

‘พี่ขุนเหนื่อยมากเลยเหรอ?’ผมถาม

‘...พี่หมายถึงเหนื่อยใจ...หมายถึงเมื่อเช้าไม่ใช่ตอนนี้...’พี่ขุนถอนหายใจก่อนพูด ผมเลยร้อง...อ๋อ...พี่ขุนเลยส่ายหัว

‘แต่ตะวันมีเรื่องจะบอก...ตะวันโกหกพี่ขุนตอนยังไม่ได้เป็นแฟนกัน’

‘อะไร?’

‘อีกสองเดือนตะวันจะสิบแปด...’ผมบอก พี่ขุนก็ไม่เห็นว่าอะไร นอกจากนอนเฉยๆ...เฉยจริงๆ เฉยจนผมรู้สึกว่าพี่ขุนน่าจะไม่ได้หายใจไปแป๊บนึง

ผมเลยเบียดตัวซุกอกพี่ขุน พี่ขุนก็ยังนอนเฉยๆ แต่ตอนนี้พี่ขุนเริ่มหายใจแล้ว

‘กอดตะวันหน่อยสิ’ผมบอก...พี่ขุนก็ยังนอนเฉยอีกแป๊บก่อนจะถอนหายใจแล้วก็กอดผม แล้วผมก็หลับ...ตื่นเช้ามาพี่ขุนก็ยังนอนหลับอยู่ข้างๆ แล้วก็ยังกอดผมเอาไว้

แดดที่ส่องเข้ามามันอุ่น...ตัวพี่ขุนเย็น...แต่แขนพี่ขุนที่กอดผมอยู่มันกลับอุ่นกว่าแสงแดดซะอีก...

ผมนอนดูพี่ขุนที่ยังนอนหลับตา แล้วก็เอามือไล่ช้าๆไปตามโครงหน้า...ปาก คิ้วแล้วก็คางของพี่ขุน

เพราะไม่มีกระดาษกับดินสออยู่ในมือ...ผมเลยใช้นิ้วตัวเองแทนดินสอแล้วก็วาดเบาๆไปตามแก้ม คิ้ว คางของพี่ขุน...

ผมแอบลองแตะเบาๆตรงแผลที่คิ้ว ที่แก้มแล้วก็ที่ปากของพี่ขุน...เหมือนเมื่อคืนที่พี่ขุนแตะแล้วก็จูบเบาๆตามรอยเขียวๆบนตัวผม...พี่ขุนไม่ได้ถามว่าใครทำ บอกผมก็แต่ว่า...ไม่เป็นไรนะ พี่จะไม่ให้ใครมาทำแบบนี้กับตะวันอีก...ผมเลยแอบเหลือบมองกล้ามแขนพี่ขุน...มันเล็กกว่ากล้ามแขนพี่ปานิดนึง...แต่พี่ขุนกลับกอดผมเบา...เบาจนผมแทบจะไม่รู้สึก...

“ตะวันรักพี่ขุนนะ”...ผมกระซิบบอกพี่ขุนที่ยังนอนหลับตาแล้วก็ยังกอดผมอยู่

ผมกระซิบบอกพี่ขุนเหมือนที่ครั้งนึงเคยบอกพี่กบแล้วก็พี่ปา...เพียงแต่ว่า ผมรู้สึกว่ามันไม่เหมือนกัน

ยิ่งผมอยู่กับพี่ขุนนานเท่าไหร่...ผมก็ยิ่งรู้ว่า ที่ผมบอกกับพี่ขุนว่ารัก มันไม่เหมือนที่ผมเคยบอกพี่กบแล้วก็พี่ปาว่ารัก...

“หายเหนื่อยยัง?”ผมถามพี่ขุนที่เพิ่งลืมตาตื่น...พี่ขุนลืมตามองผมแล้วก็ยิ้ม...ก่อนจะหัวเราะแล้วก็ดึงผมไปจูบที่แก้ม

“สอดรู้สอดเห็นแต่เช้า!”พี่ขุนว่างั๊นแล้วก็คว้าเสื้อยืดสีขาวที่ข้างเตียงมาใส่...

“เดี๋ยวพี่ต้องออกไปกับเพื่อน เย็นๆเสร็จธุระแล้วพี่ไปหาตะวันที่ร้านนะ”พี่ขุนพูดก่อนหยิบกางเกงมาใส่แล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป...

ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนที่นอน...ที่นอนที่ตอนนี้ไม่มีกลิ่นของใครนอกจากกลิ่นของพี่ขุน...ผมรอจนพี่ขุนออกมาจากห้องน้ำ...แล้วพี่ขุนก็เดินมาจูบผมอีกครั้ง...

“ตะวันรักพี่ขุนนะ”ผมบอกพี่ขุนอีกครั้ง เพราะเมื่อกี้ที่บอกไปพี่ขุนคงไม่ได้ยินเพราะพี่ขุนยังหลับอยู่...ผมบอกพี่ขุนอีกครั้ง และพอพี่ขุนยิ้มผมก็อยากบอกอีกหลายๆครั้ง

ผมบอกว่าผมรักพี่ขุน...เหมือนที่ครั้งหนึ่งผมเคยบอกพี่กบกับบอกพี่ปาว่าผมรัก...และผมก็รู้ว่ามันแตกต่างกัน

ถึงจะบอกไม่ได้ว่าแตกต่างที่ตรงไหน แต่ผมก้รู้ว่ามันน่าจะแตกต่าง...อย่างน้อยอาจเพราะผมจำไม่ได้ว่าตอนที่ผมบอกพี่กบแล้วก็พี่ปาว่ารัก...ผมจำอะไรไม่ค่อยได้เลย...

ไม่เหมือนตอนที่ผมบอกพี่ขุนว่า...ตะวันรักพี่ขุนนะ...

ผมจำได้..จำได้ทุกอย่าง...จนถึงวันนี้ผมก็ยังจำได้...ผมจำแสงแดดตอนเช้าวันนั้นได้...ผมจำเสื้อยืดสีขาวตัวที่พี่ขุนใส่ได้...ผมจำได้ทุกๆอย่าง...

“รักแปลว่าอะไร?”พี่ขุนถามผม

“ก็แปลว่ารัก”ผมก็ตอบ

“งั๊นพี่ก็รักตะวัน”พี่ขุนยิ้มแล้วก็บอกผม...ผมก็จำได้...งั๊นพี่ก็รักตะวัน...ผมจำได้ พี่ขุนบอกแล้วก็ยิ้ม ผมไม่เคยลืมเลยเหมือนๆกัน...

จบ.

(ฉายหายไปจริงๆด้วย...เดี๋ยวไปตามกลับมาก่อนนะคะ...)

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
เก็บฉายไว้ก่อนก็ได้ครับ ... กลัวอาการปวดใจกำเริบ 555+ ... พี่ขุนซื่อว่ะ 555+ โดนตะวันหลอก โคตรแสบเลยนายตะวัน!!!

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เพราะพี่ขุนเป็นรักที่ใช่ ตะวันเลยจำรายละเอียดได้มากมาย

yolp

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณมากๆนะคะคุณภัคD ที่เข้ามาต่อทุกวันเลย
เดี๋ยวนี้เข้าเล้าทุกวันเพราะเรื่องตะวันเลย มองหาเป็นเรื่องแรกด้วย

พี่ขุนอบอุ่นมากๆ ตะวันก็ขี้เหงา แต่ท่าทางฉายก็คงนั่งเหงาอยู่เหมือนกันน้าตะวัน

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
ตะวันหลอกพี่ขุนง่ะ ใช่เล่นนะเรา  :laugh:

อ่านตอนนี้แล้วอบอุ่นดีค่ะ อ่านไปยิ้มไป

wdaisuw

  • บุคคลทั่วไป
อ่านมุมมองของตะวันแล้ว
ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมถึงรักพี่ขุน :o8:

มันหน่วงๆแต่ก็รู้สึกอบอุ่น เฮ้ออ :กอด1:
ไม่อยากจะคิดถึงช่วงเวลาดราม่าสุดๆ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
...ตกลงเค้ารักกันจริงหรือยังเนี่ยคู่นี้ แต่ท่าทางตะวันจะรักพีี่ขุนเจ้าจริงๆๆแล้ว
...เพราะรักครั้งนี้มันพิเศษไม่เหมือนสองครั้งที่ผ่านมาเพราะนั่นมันคงแค่ออกมาจากปาก มิใช่ออกจากใจ
:laugh:

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






babynevercry

  • บุคคลทั่วไป
ตะวั๊นนนนนน ตะวัน

จะพูดไรดีละ

ช่างไม่คิดอะไรเลย

aprilmonth4

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณคุณภัคดีที่เอาเรื่องของตะวันมาลงนะคะ
ในเรื่องตะวันฉาย  เราชอบตัวละครทุกตัว และชอบเป็นพิเศษก็ตะวันเนี่ยแหละค่ะ (แม่ยกตะวันโบกธง แฮ่ :o8:)

เรารู้สึกว่าถึงตะวันจะดูเหมือนเป็นคนไม่คิดอะไร พร้อมจะลืมและไม่สนใจฉาย
แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย โดยเฉพาะกับพี่ขุน  คนที่ตะวันรักจริงๆ
ไม่อย่างนั้นแล้ว ตะวันที่สูญเสียพี่ขุนไปแล้วคงมีคนอื่นได้อย่างง่ายๆ เหมือนกับที่ผ่านมาที่ตะวันมีพี่กบ พี่ปา
เรื่องตะวันฉาย เป็นเรื่องที่เราชอบตอนจบมาก ที่ตะวันเป็นได้แค่น้องชาย
เพราะมันทำให้เรารู้เห็นความมั่นคงในรักของตะวัน
คนบางคนฟ้าลิขิตมาให้เป็นแค่น้องชาย กับคนอีกคนที่ตะวันลิขิตให้เป็นคนที่จะรักตลอดไป

อาจจะเม้นท์อะไรแล้วอ่านไม่รู้เรื่องไปบ้าง ขอโทษนะคะ แต่อ่านพาร์ทนี้ของตะวันแล้ว ชอบมาก  ทำให้เราสัมผัสเรื่องราวของตะวันที่เราไม่เคยได้รู้ (เพราะฉายไม่เคยพูดถึง ฮา) เห็นเบื้องหลังของตะวันที่ยิ้มมองข้ามฉาย ซึ่งมีแต่ความไม่มั่นคงในชีวิต และน้ำตาของความเหงาที่ฉายไม่รู้ (และคนอ่านเรื่องตะวันฉายไม่รู้ ฮ่าๆ)

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ค่ะ o13

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ความเหงามันมีพลังรุนแรงที่จะผลักดันให้เราคิดและทำอะไรบางอย่างได้เสมอ

พลังของความเหงา

ออฟไลน์ BossoM

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1092
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-5
    • my twitter
รีพลายที่แล้วไม่ได้บอกว่า
ไม่ชอบพี่กบ ไม่ชอบพี่ปา แต่เราชอบพี่ขุน
เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เรารักฉายจนพาลไม่ชอบพี่ขุน

ตะวันก็ยังคือตะวัน จนวันยันค่ำจริงๆ...

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
อ่านเรื่องนี้แล้วต้องย้อนกลับไปอ่านตะวันฉายใหม่ ทีละบท อย่างโลกคู่ขนาน
ว่าตอนนั้นฉายทำไรอยู่ ถึงไม่มีบท 555 แล้วค้นพบว่า ฉายยังเด็กมากค่ะ

ได้อ่านมุมของตะวัน ได้เข้าใจตะวันขึ้นอีกนิด ตะวันของเราไม่ได้ใจง่าย
แค่เปลี่ยนแฟนเพื่อหาคู่นอนใหม่หรอก ตะวันมองพี่กบที่ปากกว้างเหมือนพ่อ
มองพี่ปาที่มัดจุกและมีกลิ่นสีแบบแม่กับพ่อ  แต่พี่ปาก็ทำร้ายร่างกายตะวัน
พี่กบก็ไม่สามารถยอมรับกับสังคมได้ เป็นเราก็คงต้องเลิก
เพียงแต่ตะวันทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร ก็เลยมีแต่คนคิดว่าตะวันไม่รู้สึกอะไร
ทั้งที่เราว่าตะวันก็รู้สึกอะไร          เฮ้อ  รักตะวันนะ :กอด1:

เราเห็นด้วยกับคุณนะ +เป็ด และ + 1 ให้เลย

ตอนอ่านภาคนู้น เราสงสารทั้งตะวัน กับฉาย
แต่ก็สงสารฉายมากกว่านิดนึง เพราะเราฟังในมุมของฉาย

จนถึงภาคนี้เราเข้าใจตะวันมากขึ้น  เรามองว่าตะวันเป็นคนที่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง แล้วก็คนที่บริสุทธิ์มากๆ
แต่ไอ้ความที่เป็นคนที่บริสุทธิ์ไม่ได้ปรุงแต่งเสแสร้งมันทำให้ถูกมองว่าแปลก ว่าผิด จากสังคมที่มีแต่การปรุงแต่ง

ปล.ถึงคุณภักD เรื่องที่คุณเขียนแล้วก็ลงในเล้าเป็ด  เราอ่านทุกเรื่อง แต่ไม่เคยอ่านซ้ำอีก  แม้จะชอบมันมากแค่ไหน เพราะมันบีบคั้นจิตใจเราเป็นอย่างมาก จนไม่คิดที่กลับไปอ่านซ้ำอีก

แต่ถึงจะอ่านแค่รอบเดียว เรากลับจำเรื่องราวมันได้อย่างน่าแปลกใจ

ฮาเดส

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้เจอพี่ขุน พี่ขุนก็น่าจะรักตะวันจริงๆ แหละ
เหมือนกับที่ตะวันก็รักพี่ขุนจริงๆ

ส่วนฉาย...รีบตามกลับมานะครับคุณภัคD
5555555

ภัคD

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 9

“เดี๋ยวพี่ต้องออกไปกับเพื่อน เย็นๆเสร็จธุระแล้วพี่ไปหาตะวันที่ร้านนะ”...พี่ขุนว่างั๊นผมเลยรอ...รอจนเลยเย็น จนปิดร้าน จนผมบอกพี่อ๋อให้กลับไปก่อนเพราะผมจะรอพี่ขุน...พี่ขุนก็ยังไม่มา

รอจนผมน่าจะกลายเป็นเพื่อนสนิทกับเสาไฟฟ้าริมถนนถ้ามันพูดได้...พี่ขุนก็ยังไม่มา...

ผมมองซ้าย...แล้วก็มองขวา อยากให้พี่ขุนโผล่มาใจจะขาด เพราะถ้าพี่ขุนไม่มา...ผมก็ไม่รู้จะกลับยังไง...วันนี้ผมขายรูปไม่ได้...เงินในกระเป๋าก็ต้องใช้เวลานับนานหน่อย ไม่ใช่ว่ามันมีเยอะ แต่ผมเหลือแต่เศษเหรียญ...ไม่พอค่ารถ แต่จะโทรหาน้าเจด มันก็ดึกจนผมนึกเห็นหน้าดุๆของน้าโอ๋รออยู่ที่บ้าน

น้าโอ๋กับน้าเจดไม่อยากให้ผมมาวาดรูปขาย แต่พอผมยืนยันที่จะทำ น้าโอ๋กับน้าเจดก็ตามใจ บอกว่าให้ลองดู...ถ้ารู้ว่าในกระเป๋าผมมีแต่เศษเหรียญ น้าเจดกับน้าโอ๋ต้องสั่งผมให้หยุดวาดรูปขายอีกแน่ๆ...ผมเลยนึกไม่ออกว่าจะทำยังไงนอกจากยืนเป็นเพื่อนเสาไฟฟ้าต่อไป

ฟ้าก็มืด...จริงๆมันมืดของมันมาตั้งหลายชั่วโมงแล้ว แต่พอไม่มีคนมายืนแย่งอากาศหายใจอยู่ใกล้ๆ...ผมก็รู้สึกว่ามันมืดขึ้น...

“ถ้าพี่ขุนมา ตะวันจะรักพี่ขุนมากๆเลย”ผมพูดกับตัวเอง แต่จริงๆคือพูดกับพี่ขุน...เผื่อพี่ขุนจะได้ยิน เผื่อพี่ขุนจะมา เผื่อผมจะได้กลับบ้านด้วยวิธีที่น่าจะดีที่สุด...คือไม่ต้องเดินกลับและน้าโอ๋ไม่ดุเอา

ผมมองซ้ายแล้วก็มองขวาอีกรอบ...แล้วก็มองฟ้าเพราะไม่รู้จะมองอะไรดี...ถนนที่ไม่มีคนมันทำให้ผมกลัวและผมไม่เคยอยู่คนเดียว...ข้างถนนเวลามืดๆแบบนี้...

มีรถขับผ่านไปบ้าง บางคนมองผม บางคนก็ผ่านไปแบบไม่มอง...

และในที่สุดก็มีรถที่ผ่านมาแต่ไม่ยอมผ่านไป...ฝรั่งหัวแดงแจ๋สองคน จอดมอเตอร์ไซด์แล้วก็พูดอะไรกับผมไม่รู้...ผมส่ายหัวแปลเป็นภาษาสากลว่า...ไม่...จะไม่อะไรก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ผมก็ไม่ไว้ก่อน...แต่พวกเขาสองคนก็พยักหน้าหงึกๆ...แถมควักตังค์ออกมาให้ผมดูด้วย...ผมก็ส่ายหัวอีก เพราะมันถูกไป...แค่ห้าร้อยบาทเอง เคยมีคนควักให้ผมตั้งพันแน่ะ...

แล้วพี่ขุนก็โผล่มา...เหมือนนิยายน้ำเน่าที่น้าโอ๋ชอบดู...ต่างกันก็แค่ผมว่าวันนี้พี่ขุนน่าจะเป็นตัวโกงมากกว่า...

หน้าพี่ขุนดุกว่าเคย...น่ากลัวจนผมเกือบเผลอจะกระโดดซ้อนมอเตอร์ไซด์หนีไปกับพี่ฝรั่งหัวแดง แต่สงสัยจะคิดช้าไป...ริมถนนเลยเหลือแต่ผมกับพี่ขุนที่ยังทำหน้าน่ากลัว...แต่ยิ่งมองผมกลับยิ่งรู้สึกว่า ไม่น่ากลัว

“พี่ไปที่บ้าน เห็นตะวันยังไม่กลับ”พี่ขุนพูด...หน้ายังดุ แต่เสียงไม่ดุ แต่ก็ไม่ใจดี

“ก็พี่ขุนบอกว่าจะมาหาตะวัน”ผมบอก มองดูหน้าพี่ขุน...ถึงฟ้ามันจะมืดๆ แต่ผมว่า หน้าพี่ขุนดูจะมีรอยช้ำๆเพิ่มๆขึ้น

“มองอะไร?”พี่ขุนถาม

“มองหน้าพี่ขุน”ผมตอบ ก็ผมกำลังมองหน้าพี่ขุนจริงๆนี่นา

“เดี๋ยวพี่ไปส่ง”พี่ขุนบอก

“ไม่อยู่กับตะวันเหรอ?”ผมถาม...เพราะผมอยากให้พี่ขุนอยู่กับผมมากกว่าแค่ไปส่งเฉยๆ...พี่ขุนไม่พูดอะไรอีก ผมเลยสรุปว่าพี่ขุนน่าจะอยู่กับผม...แต่พอส่งผมเสร็จพี่ขุนก็ทำท่าจะกลับ

“อยู่กับตะวันเถอะ...”ผมบอกพี่ขุน...มองดูพี่ขุนที่ยังทำหน้านิ่ง ยังควบอยู่บนมอเตอร์ไซด์...พี่ขุนไม่พูดอะไร ผมเลยแปลเอาว่าพี่ขุนไม่ได้ปฏิเสธ ผมเลยยืนรอ...พี่ขุนก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

นานจนเกือบจะกลายเป็นรั้วบ้านมั้ง พี่ขุนถึงยอมขยับตัว เดินตามผมเข้ามาในบ้าน...แล้วพี่ขุนก็นั่งนิ่งเป็นโซฟาแทน

พี่ขุนตอนนี้ ไม่เหมือนกับพี่ขุนตอนเมื่อเช้าสักกะนิด...

ทำไมไม่รู้ผมอยากกอดพี่ขุน...แต่พอผมจะกอดพี่ขุนก็ผลักผมออกไม่ยอมให้ผมกอด

“พี่ขุนเจ็บแขนเหรอ?”ผมถามเพราะท่าทางพี่ขุนแปลกๆ...

“ตะวันไปนอนเหอะ”พี่ขุนตอบแต่ไม่เห็นตรงคำถาม

“พี่ขุนเจ็บแขนเหรอ?”ผมเลยถามอีกรอบเผื่อพี่ขุนจะฟังผิด

“พี่อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ...ถ้าตะวันไม่ไปนอน พี่ก็จะกลับ...”พี่ขุนพูดแต่ก็ไม่เห็นขยับตัวแปลว่าน่าจะขู่ผมเฉยๆ...

“งั๊นตะวันนั่งตรงนี้เงียบๆ”ผมบอก...แล้วก็นั่งเงียบๆที่โซฟาใกล้ๆพี่ขุน ที่นั่งเงียบๆ...

พี่ขุนเก่งที่นั่งเงียบๆได้โดยไม่ง่วง...แต่ผมง่วง ผมเลยหลับ และแอบตื่นเพราะได้ยินเสียงคล้ายคนสะอื้นเบาๆ...

ผมแอบมองดูพี่ขุน...มองดูน้ำตาของพี่ขุนที่ไหลอยู่เงียบๆ เหมือนเสียงสะอื้นที่เบาจนผมเกือบจะไม่ได้ยิน...

ผมอยากถามพี่ขุนว่าร้องไห้ทำไม...แต่ก็ไม่กล้าถามเพราะพี่ขุนคงไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองร้องไห้ พี่ขุนเลยแอบร้องไห้คนเดียว

“พี่ขุนร้องไห้ทำไม?”แต่ในที่สุดผมก็ถาม...ก็ผมสงสัยนี่นาว่าทำไมพี่ขุนร้องไห้...ถ้ามัวแต่นอนแอบมอง ผมจะรู้ได้ยังไงว่าทำไมพี่ขุนถึงร้องไห้...

จบ...

























shabu

  • บุคคลทั่วไป
พี่ขุนเศร้า
ตะวันก็เศร้า
เราก็เศร้า ไปด้วย
รู้อยู่แล้ว ว่า เรื่องนี้มันเศร้า
ยังจะเข้ามาให้เศร้า
แต่ก็เลิกอ่านไม่ได้  อันนี้ยิ่งเศร้า :o12:

ปล.คุณภัคD คะ ถ้าเรื่องนี้ทำเป็นหนังสือ ขอของแถมเป็นใบบัวบกซองนะคะ
ไว้ชงกินตอนอ่านไปด้วย :sad4:

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
พี่ขุน เป็นอะไรไปคะ?  :กอด1:
ตะวันอ่า นอนมองพี่ขุนอย่างเดียวเลย

ชอบตะวันมากขึ้น ทุกตอนทุกตอน  :man1:


ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
พี่ขุนเป็นอะไร ตะวันสงสัย คนอ่านก็สงสัย
 :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เรื่องเหมือนไม่มีอะไร แต่ทำไมรู้สึกว่ามี

ฮาเดส

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
มันต้องมีอะไรแน่ ๆ
พี่ขุนไปมีเรื่องกับใคร
กดดันจนต้องร้องไห้

ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
...พี่ขุน ไปรับจ้างเป็นกระสอบทราย ให้ใครซ้อมหรือเปล่าหว่า ถึงหน้าช้ำมาทุกวัน
...พี่ขุนมีมุม เศร้าโศก กับเค้าเหมือนกัน ตะวันก็ยังคงเป็นตะวัน..เอ๋อๆๆเหมือนเดิม
:laugh:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
โอย.....เศร้า แต่เค้าหยุดอ่านไม่ได้ง่า....เศร้าตรงนี้!!!

ออฟไลน์ Maree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
พี่ขุนเศร้า
ตะวันก็เศร้า
เราก็เศร้า ไปด้วย
รู้อยู่แล้ว ว่า เรื่องนี้มันเศร้า
ยังจะเข้ามาให้เศร้า
แต่ก็เลิกอ่านไม่ได้  อันนี้ยิ่งเศร้า :o12:

ปล.คุณภัคD คะ ถ้าเรื่องนี้ทำเป็นหนังสือ ขอของแถมเป็นใบบัวบกซองนะคะ
ไว้ชงกินตอนอ่านไปด้วย :sad4:

ตอนนี้คุณ ภัคD รีปริ้นเรื่้องนี้กับ "หรือจะให้เป็นแค่ความทรงจำ" นะคะ
เผื่อใครยังไม่รู้ เราไม่ได้ค่าโฆษณานะ แต่ชอบเรื่องนี้มากอยากให้ทุกคนที่ชอบได้เก็บเอาไว้เหมือนๆ กัน

TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป
สเน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ที่ความไม่เหมือนใครของทั้งตะวันและฉาย

และก็อยู่ที่ภาษาที่ใช้ที่แม้ไม่ได้ใช้คำหรูหราอะไรแต่กลับแฝงความหมายไว้มากมาย

ชอบเวลาที่มีเรื่องเีๆแบบนี้ให้อ่าน มาต่ออีกน๊า

ภัคD

  • บุคคลทั่วไป
*** ขอบคุณค่าคุณ maree ...ย้อนกลับขึ้นไปดูตั้งแต่โพสแรก เราไม่ได้แจ้งอะไรไว้เลยจริงๆด้วย ... คือตอนนี้กำลังเปิดจอง รีปริ้น เรื่อง หรือจะฯ + เรื่องของเด็กชายตะวันฉาย อยู่น่ะค่ะ  ท่านใดสนใจก็ดูรายละเอียดได้ที่

http://www.facebook.com/BhakDee

( แต่ไม่ใช่รีปรินท์เรื่องนี้นะคะ เรื่องนี้ยังไม่เคยรวมเล่มค่ะ  นำมารีโพสเฉยๆ ค่า ...รอจัดส่ง 2 เล่มนั้นเรียบร้อยแล้วค่อยทำเล่มนี้ต่อค่ะ  )

ขอบคุณค่า ...


***********************************


ไปตามหาฉาย…ฉายบอกว่าถ้าไม่ให้เป็นพระเอกก็ไม่มาค่ะ...ปล่อยๆเขาไปก่อนแล้วกันนะคะ...


เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 10


คืนนั้นพี่ขุนไม่ได้บอกผมตามเคยว่าทำไมถึงร้องไห้...แต่พี่ขุนก็ยอมให้ผมกอด ...แล้วก็ยอมเล่าอะไรๆให้ผมฟังในตอนเช้า...

ตั้งแต่เด็ก ผมชอบร้องไห้...พ่อกับแม่ แล้วก็น้าเจดกับน้าโอ๋ก็จะกอดผม...นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเป็นฝ่ายกอดคนอื่นแล้วก็ตบหลังแปะๆ อย่างที่แม่กับพ่อแล้วก็น้าเจดกับน้าโอ๋ชอบทำ...เวลาถูกตบหลังแปะๆผมรู้สึกดี...ผมเลยคิดว่าพี่ขุนก็น่าจะรู้สึกดีเหมือนผม แต่ผมคิดผิด...เพราะที่ไหล่เกือบๆหลังของพี่ขุนน่ะแดงเป็นรอยยาวแล้วตอนเช้ามันก็บวมขึ้นมา...

“บวมเลยเพราะตะวันตบหลังพี่นั่นแหละ...”พี่ขุนว่างั๊นตอนที่ถอดเสื้อออก

แดดออกแล้ว...พี่ขุนก็ยิ้มออกแล้วเหมือนกัน...แต่ผมยิ้มไม่ออก เพราะหน้าพี่ขุนวันนี้ช้ำกว่าเมื่อวานอีก...

ผมอยากบอกพี่ขุนอีกครั้งว่าการใช้กำลังน่ะมันไม่ดี...แต่ก็ดีที่ไม่พูด เพราะจริงๆแล้วพี่ขุนไม่ได้ไปตีกับใครแต่ไปถูกเขาตีเอาฝ่ายเดียวต่างหาก

แผลที่ตัวกับที่หน้าของพี่ขุนน่ะฝีมือพ่อของพี่ขุนทั้งนั้นเลย

ผมไม่เคยถูกพ่อตี แม่แล้วก็น้าโอ๋กับน้าเจดด้วย...อาจจะเคยโดนน้าโอ๋ตีเบาๆตรงแขนที่เดี๋ยวนี้น้าโอ๋เปลี่ยนมาหยิกเอาแทนเพราะน้าโอ๋ว่าตีแล้วเจ็บมือ...ถึงจะเจ็บที่เนื้อแต่ผมก็ไม่รู้สึกอะไร...

...เพราะเราไม่เป็นอย่างที่เขาอยากให้เราเป็นไง!...พี่ขุนว่างั๊น

...เราต้องเรียนอย่างที่เขาอยากให้เรียน ทำงานอย่างที่เขาอยากให้ทำ...พี่ขุนบอกแล้วก็จับมือผมให้เอื้อมจับที่ด้านหลังหัวของพี่ขุน

มันเป็นรอยสัก ผมจำได้...รอยสักที่เท่ เห็นแล้วผมชอบ...ใครๆก็ชอบ ผมเห็นหลายคนเหลียวมอง แต่พอลองเอามือลูบเบาๆ...มันเป็นรอยนูนๆเป็นทางยาว...

...โดนตีหัวแตกตอนที่บอกเขาว่าจะเลิกเรียน...พี่ขุนพูดแล้วก็หัวเราะแต่ผมว่าพี่ขุนกำลังร้องไห้มากกว่า

พี่ขุนชอบบอกใครๆว่า สักไว้เป็นยันต์กันโดนตีหัว...ใครฟังก็หัวเราะ พี่ขุนก็หัวเราะ...ต่อมาน้าโอ๋ถาม พี่ขุนก็ตอบอย่างนั้นเหมือนกัน แล้วพี่ขุนก็หัวเราะเหมือนเคยแต่ผมรู้แล้วว่าจริงๆ พี่ขุนไม่ได้หัวเราะเลย...

แผลใหม่ๆที่หน้า พี่ขุนว่าเพราะเราขัดใจเขาเรื่องทำงาน..

“แต่มันจะเป็นแผลสุดท้ายแล้ว...พี่ตัดสินใจแล้ว เมื่อวานพี่บอกเขาแล้วว่าพี่จะไม่กลับไปที่บ้านอีก”พี่ขุนพูดอย่างนั้นแล้วก็ยิ้มอีก

“เมื่อวานพี่ไปที่มหาลัย...ทำเรื่องรับปริญญา...พี่ไม่รับ ให้เขาส่งไปที่บ้านเลย...ถ้าพ่อกับแม่พี่เขาอยากได้มันนัก...ก็ให้เขาเอาไว้เป็นลูกชายแทนแล้วกัน”พี่ขุนบอกแล้วก็ร้องไห้ด้วยเสียงหัวเราะเหมือนเคย

สำหรับผมบ้านคือที่ ที่ดีที่สุด...ทั้งบ้านผมและบ้านน้าโอ๋...เวลาอยู่ที่บ้าน ผมรู้สึกว่ามีความสุขเพราะมันปลอดภัยและทุกคนรักผม...แต่บ้านของพี่ขุนคงไม่ใช่...

“แล้วของๆพี่ขุนล่ะ?”ผมถาม ก็ใครๆเดินทางก็ต้องมีกระเป๋าเสื้อผ้าทั้งนั้น...แต่พี่ขุนบอกว่าไม่มี พี่ขุนมาแต่ตัว เพราะพ่อพี่ขุนบอกว่า...ถ้าแน่จริงก็ให้ไปแต่ตัว

“ก็ไม่ได้แน่จริง แต่เขายืนขวางกะไดไว้ ขืนกลับขึ้นไปเอาเสื้อผ้าเดี๋ยวได้มาอีกแผล...นี่มีแต่ตัวกับหัวใจเลยนะ...เงินเขายังดึงออกจากกระเป๋า เขาบอกว่าของเขา... อ๋อได้มอเตอร์ไซด์มาอีกคันเพราะมันจอดอยู่นอกบ้าน ”พี่ขุนว่างั๊นแล้วก็หัวเราะ

ฟังแล้วผมก็สงสารพี่ขุนแต่ก็แอบร้องไชโยไปในใจด้วย...พี่ขุนไม่มีบ้านแถมไม่มีเสื้อผ้าแล้วก็เงินอีก...แปลว่าพี่ขุนน่าจะมาอยู่กับผม...พี่ขุนตอนนี้น่ะ แย่ยิ่งกว่าผมซะอีก เพราะอย่างน้อยผมยังมีตังค์ติดตัวถึงจะค้นทั้งเนื้อทั้งตัวแล้วเอาออกมาวางให้พี่ขุนได้แค่ยี่สิบกว่าบาทก็เหอะ

“นี่สมบัติของตะวันเหรอ?”พี่ขุนถาม ทำหน้าประหลาดมองดูเงินยี่สิบบาทกว่าๆของผม ผมก็พยักหน้ารับเพราะมันเป็นสมบัติของผมจริงๆ ทั้งเนื้อทั้งตัวเลย เหลืออยู่เท่านั้นเอง...ผมยังลุ้นอยู่ว่าถ้าวันนี้ขายรูปไม่ได้ ผมก็ต้องไปขอตังค์น้าโอ๋อีก ซึ่งผมไม่อยากเท่าไหร่...

“เดี๋ยวออกไปกินข้าวกัน”พี่ขุนถอนหายใจก่อนบอก ส่วนตาก็ยังมองเงินยี่สิบบาทกว่าๆของผม

“ไปกินบ้านน้าโอ๋ก็ได้...เมื่อวานน้าโอ๋บอกว่าวันนี้จะทำขนมจีนให้ตะวันกิน”ผมบอก

“สภาพนี้เนี่ยนะ น้าโอ๋ของตะวันปลื้มพี่แย่เลย”พี่ขุนบอกแล้วก็ชี้รอยแผลที่หน้าตัวเอง

“งั๊นเดี๋ยวตะวันไปตักมาให้...ยี่สิบบาทซื้อได้แต่มาม่าเอง”

“พี่เลี้ยงเอง”

“พี่ขุนเอาเงินที่ไหน?”ผมถามก็พี่ขุนบอกว่าออกมาแต่ตัว ตังค์ก็โดนริบหมด

“ธนาคารสิ!”พี่ขุนบอก

“ปล้นเหรอ?!”ผมถามตกใจจริงๆแต่ก็แอบตื่นเต้นนิดๆ...พี่ขุนก็หันมามองหน้าผมแล้วก็ส่ายหัวอีก

“ไปถอนตังค์!”พี่ขุนบอกแล้วก็ทำท่านึกอะไรขึ้นมาได้

“ไม่ได้แฮะ...เอทีเอ็มเขาก็เอาไป...ถอนธนาคารต้องใช้สมุด... คืนนี้สงสัยต้องปีนรั้วบ้านตัวเอง”พี่ขุนบอก ผมนึกว่าพี่ขุนพูดเล่น ที่ไหนได้พี่ขุนพูดจริง เพราะผมได้ยินพี่ขุนโทรไปหาเพื่อนชวนกันไปงัดบ้านตัวเอง

“ขืนเดินเข้าไป ได้มาอีกแผลแน่”พี่ขุนบอกผมอย่างนั้น

“พี่ขุนจะขโมยเหรอ?”

“เปล่า...เงินพี่ พี่หามาของพี่เอง..พี่ก็กลับไปเอาของๆพี่สิ...ของที่เขาให้ก็ให้เขาเก็บเอาไว้นั่นแหละ”

“แล้วตอนนี้กินอะไรล่ะ?”ผมถามเพราะท้องเริ่มร้องแล้ว

“ไปซื้อมาม่ามาต้มกินกันเถอะ ยืมสมบัติของตะวันก่อนนะ!”พี่ขุนว่างั๊นแล้วก็โกยเอาเศษเหรียญยี่สิบบาทกว่าๆของผมออกไปซื้อมาม่า ระหว่างนั้นผมก็วิ่งไปกินขนมจีนบ้านน้าโอ๋...แล้วก็วิ่งกลับมานั่งรอพี่ขุนต่อ

“กินไม่ไหวแล้ว!”ผมบอกพี่ขุนหลังจากกินมาม่าไปได้แค่ครึ่ง

“อ้าว ไหนว่าหิว?”พี่ขุนถาม

“ก็เมื่อกี้ตะวันไปกินหนมจีนมาแล้ว...ไม่ไปกินเดี๋ยวน้าโอ๋งอน จะกินนิดเดียวน้าโอ๋ก็งอน ตะวันเลยกินไปตั้งสองชาม...แล้วมันอร่อย ตะวันเลยกินไปสามชาม...”ผมบอก

“ตะวันนี่โชคดีนะ...”พี่ขุนพูดแล้วก็มองออกไปนอกหน้าต่าง...มองไปทางบ้านน้าโอ๋...พี่ขุนชอบพูดแบบนี้บ่อยๆ...เวลาพูดถึงพี่ขุนจะยิ้มๆ แต่ตาพี่ขุนก็จะเศร้าๆ...และผมก็จะกอดพี่ขุน...

ผมรู้ว่าผมโชคดีอย่างที่พี่ขุนบอก...โรงเรียนอาจจะเป็นความโชคร้ายอย่างเดียวของผม...ถึงแม่กับพ่อจะหนีไปเที่ยว แต่ผมก็ยังมีน้าเจด น้าโอ๋แล้วก็ฉาย...ถึงบางครั้งผมจะเหงา ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้ แต่ผมก็รู้ ผมมีน้าโอ๋ น้าเจดแล้วก็ฉาย...และผมก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆขึ้นก็เพราะพี่ขุนนี่แหละ...

วันนี้พอสมบัติมูลค่ายี่สิบบาทกว่าๆในกระเป๋าของผมหมดเกลี้ยงไปพร้อมกับเส้นมาม่า...พี่ขุนก็ให้ผมซ้อนมอเตอร์ไซด์ออกไปข้างนอกพร้อมรูปที่ผมวาดไว้

พี่ขุนพาผมไปหาเพื่อนของพี่ขุนหลายๆคน...

“ฝากเขาขาย ปกติเขาหักเปอร์เซ็นต์ แต่ของตะวันไม่หัก”

“ทำไมล่ะ?”ผมถาม...จริงๆผมก็เคยคิดแล้วก็รู้ด้วยว่ารูปน่ะเอาไปฝากขายได้ แต่ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง...วันนี้ผมก็ยังไม่รู้...รู้แต่ว่าเดินตามหลังพี่ขุนไว้ ที่เหลือพี่ขุนจัดการให้...เพียงแต่ผมไม่เข้าใจ ทำไมเขาไม่หักเปอร์เซ็นต์ผมไว้

“ก็นั่นเพื่อน แล้วนี่แฟน จะมาหากินกับแฟนเพื่อนเดี๋ยวเลิกคบ!”พี่ขุนบอกแล้วก็หัวเราะ...ผมแอบมองลูกกะตาพี่ขุน...ลูกกะตาพี่ขุนหัวเราะ ไม่เศร้าแล้ว

“เพื่อนพี่ขุนหมดเลยเหรอ?”ผมถาม เพราะพี่ขุนพาไปหาตั้งหลายคน บางคนพี่ขุนก็นั่งคุยแป๊บนึง กับบางคนพี่ขุนก็นั่งคุยยาวเพราะคุยเรื่องจะไปงัดบ้านด้วยกันตอนกลางคืน

“เอารูปพี่อ๋อมาด้วยได้ไหม?”ผมนึกได้เลยถามเพราะพี่อ๋อก็ไม่มีตังค์เหมือนกัน

“ได้แต่ต้องถามเพื่อนพี่ก่อนแล้วก็ต้องหักเปอร์เซ็นต์”พี่ขุนบอก

“ไม่หักไม่ได้เหรอ? ของตะวันยังไม่หักเลย”

“ไม่ได้ มันเอาเปรียบเพื่อนไม่ดี...ของตะวันน่ะพิเศษ”พี่ขุนบอก แล้วก็เอาแขนมากอดคอผมเดิน...ผมก็เดินคิดแล้วก็คิด

“งั๊นบอกว่าเป็นของตะวัน”

“เอาเปรียบคนอื่นมันไม่ดีนะตะวัน...พี่อ๋อเอารูปมาฝาก หักเปอร์เซ็นต์ก็เหมือนค่าเช่าพื้นที่...แล้วรูปตะวันกับรูปพี่อ๋อน่ะ...ดูยังไงก็คนละคนวาด”

“ตะวันเก่งไงเลยวาดได้หลาย...โอ๊ย!”ผมพูดไม่จบเพราะโดนพี่ขุนหยิกแก้ม

“หยิกตะวันทำไม?”

“หายางอาย!”พี่ขุนว่างั๊นแล้วก็หัวเราะ แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น ตอนหลังพี่ขุนก็ช่วยเอารูปของพี่อ๋อไปให้เพื่อนๆดู แล้วก็ฝากขายในเปอร์เซนต์ที่พี่ขุนบอกว่าสุดพิเศษ...ตอบแทนที่เขาเคยช่วยตะวันไง!...พี่ขุนบอกผมอย่างนั้น

เย็นๆวันนั้น พี่ขุนก็ไปส่งผมที่ร้าน แล้วก็บอกผมว่า... งัดบ้านเสร็จแล้วจะแวะไปหา...

“อย่ามีแผลกลับมาอีกนะ...”ผมบอกพี่ขุน ตอนพี่ขุนบิดแฮนด์มอเตอร์ไซด์เร่งเครื่องเตรียมจะไป...

“ไม่มีแล้ว...บอกแล้วไงเมื่อวานวันสุดท้าย”พี่ขุนบอกแล้วก็ยิ้ม...ลูกกะตาของพี่ขุนก็ยิ้ม แล้วหลังจากวันนั้น ผมก็ไม่เคยเห็นพี่ขุนร้องไห้อีกเลย...

...แล้วต่อมาพี่ขุนก็บอกผมว่า...ถึงโลกมันจะกว้าง แต่มีตะวัน พี่เลยรู้ว่า ที่ของพี่อยู่ที่ไหน...

“ก็อยู่กับตะวันไง!”ผมบอกแล้วพี่ขุนก็ยิ้ม...

จบ...

shabu

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้วมีความสุข
พี่ขุนกับตะวันเติมเต็มโลกที่่ขาดหายไปของกันและกันได้แล้วสินะ
ถ้าเรื่องนี้จบตรงนี้เลยก็ดีนะคะ
เราจะได้คิดว่าตะวันกับพี่ขุนได้มีความสุขด้วยกันตลอดไป


แต่ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง ยังไงวันนี้ก็มีความสุขละเนอะตะวัน :กอด1:



ฮาเดส

  • บุคคลทั่วไป
เห็นตะวันมีความสุขก็พลอยมีความสุขไปด้วย

เห็นคุณภัคDบอกว่าถ้าไม่ให้ฉายเป็นพระเอกฉายจะไม่มาเหรอครับ? 55
งั้นก็ปล่อยฉายไปเถอะะะ อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด