[...Miracle Café...] คาเฟ่อลวน-คนอลเวง / +ตอนพิเศษให้อ่านแถม P.22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [...Miracle Café...] คาเฟ่อลวน-คนอลเวง / +ตอนพิเศษให้อ่านแถม P.22  (อ่าน 222998 ครั้ง)

alekung103

  • บุคคลทั่วไป
ว๊าววว จะมีหนุ่มเพิ่ม

แล้วก็จะมาหลงนู๋โยอีกแน่ๆ อิอิ

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
อ่าาาา ยิ่งอ่านยิ่งอยากให้ถึงวันเสาร์เร็วๆๆ

เขาอยากรู้ว่า โย จะได้ใส่ชุดอะไรอีก อะ

5555 ชุดบันนี่ ดีไหมโย

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ช่างเป็นคาเฟ่ในฝันเสียนี่กระไร...

พนักงานคนใหม่...โอ้วววว แค่คิดก็ใกล้จะฟินละ

ฮาาาา

autoclick

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeysad:มาต่อไวไวนะ ติดตามทุกตอนสนุกดีงะ

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ตอนนนี้มาแบบนิ่งๆ แต่มันจะไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่รึเปล่าน้า >//////< ติดตามค่าๆ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
สนุกดีค่ะ  วาโยน่ารักมากเลยจนทำให้หนุ่มๆ เริ่มหวั่นไหวกันบ้างล่ะ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
อยากไปอุดหนุนค่าเฟ่นี้มาก อยากไปทุกวัน อยากไปดูหนุ่มๆ :laugh:
ลุ้นอยู่นะเนี่ยว่าใครจะมาทำคะแนนกับหนูโย จะใช่ภูริหรือเปล่าเนี่ย  :z1:

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
ตอนที่ 16 ร้อน ๆ มาเสิร์ฟแล้วจ้า   ตอนนี้มีอีกหนึ่งหนุ่มเสนอตัวมาเรียกคะแนนกรี๊ดจากแม่ยกค่ะ

ใครใคร่เชียร์หมอนี่ก็เชิญนะคะ ^^

----------------------------------------------------------------------



Miracle Café / 16



    เช้าวันทำงานถัดมา พวกวาโยก็ต้องพบกับความประหลาดใจ เมื่อหน้าร้านส่วนหนึ่งนั้นถูกล้อมไว้ด้วยผ้าใบก่อสร้าง แต่ด้านในไม่ได้มีคนงานก่อสร้างทำงานแต่อย่างใด มีเพียงอุปกรณ์ที่เอามากองเตรียมพร้อมไว้เท่านั้น

    “อ๋อ! ฉันตั้งใจจะปรับปรุงหน้าร้านให้ทันเสาร์นี้น่ะ  แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฉันจะให้ช่างทำงานกันเฉพาะช่วงกลางคืน ส่วนกลางวันเราก็เปิดร้านกันปกติ จะได้ไม่รบกวนลูกค้าไงล่ะ  อ้อ! สำหรับที่นั่งริมหน้าต่างด้านหน้า ฉันให้เขาออกแบบตกแต่งเพิ่มแสงให้เข้ากับบรรยากาศมืด ๆ แล้ว พวกเธอก็ช่วยแจ้งลูกค้าให้รับรู้ถึงความจำเป็นอีกทางด้วยแล้วกัน”

   ปวีร์อธิบายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทำเอาพนักงานแต่ละคนนิ่งอึ้งไปเป็นแถบ ส่วนราเมศนั้นลอบถอนหายใจ เพราะนึกสังหรณ์อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายต้องเร่งลงมือแน่ แต่ไม่คิดว่าจะไวขนาดนี้

   “อ้อ! สำหรับพนักงานพาร์ทไทม์ไม่ต้องห่วงนะ ติดต่อไว้แล้ว เจ้าตัวอยากทำฟูลไทม์ด้วยซ้ำ แต่เห็นว่าติดตรงต้องทำงานกลางคืนในที่ทำงานเก่ากับผู้มีพระคุณน่ะ ส่วนวันที่มาทำงานก็คงเป็นเสาร์ที่จะถึงนี้น่ะล่ะ เพราะฉะนั้นทุกคนก็พยายามไปก่อนแล้วกัน”

   คนอื่นพยักหน้ารับรู้ แต่ก็มีบางคนขมวดคิ้วยุ่งอย่างสงสัย แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นปวีร์หันมาทางเขา แล้วยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วหันไปคุยสัพเพเหระกับคนอื่นแทน

   ‘น่าสงสัยชะมัด’

   ภูริพึมพำ นิ่งนึกคาดเดาถึงพนักงานพาร์ทไทม์ว่าเป็นใครกันแน่ แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงบางคนเรียกชื่อเขา

   “คุณภูริครับ เป็นอะไรไปหรือครับ ...ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”   

   วาโยที่เห็นอีกฝ่ายจู่ ๆ ก็ทำหน้าเคร่งขรึมเอ่ยทัก ภูริหันมามองคนพูดและเพราะเห็นว่าวาโยเป็นห่วงเขาจริง ๆ ชายหนุ่มจึงตอบไปเรียบ ๆ อย่างไม่ตัดรอนอย่างที่มักเคยเป็น

   “ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดอะไรนิดหน่อย”

   วาโยถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะผละไปเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยชอบให้คนอื่นยุ่มย่ามเรื่องส่วนตัวมากเกินไปนักนั่นเอง

   “เป็นเด็กดีแล้วออกจะน่ารักขนาดนั้น ทำตัวดี ๆ แล้วยิ้มให้หน่อยก็ได้ไม่ใช่หรือ เห็นนายออกจะชอบแจกรอยยิ้มให้สาว ๆ พร่ำเพรื่อบ่อยไปนี่”

   รุจที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยแซวเบา ๆ ทำให้ภูริหันมามองอย่างไม่สบอารมณ์นัก

   “ก็นั่นมันงาน มันก็จำเป็นต้องทำไม่ใช่หรือไง”

   “หึ...ก็ใช่ แต่แค่ยิ้มให้เด็กดีใจบ้าง ก็ไม่น่าใช่เรื่องใหญ่ไม่ใช่หรือ”

   รุจกระเซ้าต่อ ทำให้อีกฝ่ายต้องเริ่มข่มอารมณ์ แล้วตอบกลับไปอย่างหงุดหงิด

   “ไม่จำเป็น! …อีกอย่างเห็นซื่อ ๆ แบบนั้น หมอนั่นก็ความรู้สึกไวใช่เล่น ขืนแกล้งยิ้มแกล้งทำดีด้วย เดี๋ยวก็เก็บไปคิดกังวล นึกว่าฉันเป็นอะไรไปอีกก็ได้”

   รุจชะงักก่อนจะหัวเราะเบา ๆ แล้วยกมือโบกนิด ๆ เพื่อขอโทษ

   “โอเค ๆ ขอโทษที เข้าใจแล้วล่ะ... จะว่าไปฉันก็ไม่น่าห่วงแทนเด็กนั่นเลยนะ และถ้าเขาความรู้สึกไวจริง ๆ เขาก็คงรู้แล้วล่ะว่า มีบางคนเป็นพวกปากแข็ง ไม่ค่อยชอบแสดงออก แต่ก็ยังเป็นห่วงเป็นใยเขาไม่แพ้คนอื่น ๆ ล่ะนะ”

   รุจบอกแล้วก็เดินกลับไปประจำที่เคาท์เตอร์ ทิ้งให้คนที่ยืนอยู่บริเวณร้านทำปากหมุบหมิบบ่นตามไล่หลังไป ก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับงานของตนต่อ เพราะอีกไม่กี่นาทีก็ใกล้เวลาเปิดร้านแล้ว



   วันนี้ลูกค้าก็แลดูหนาตาเช่นเคย แม้ทีแรกจะมีบางคนไม่ค่อยกล้าเข้ามาเมื่อเห็นว่ามีการก่อสร้างเกิดขึ้น ทว่าวาโยนั้นก็เสนอให้นำป้ายกระดานดำไปตั้งด้านหน้าใกล้ถนน เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นว่าร้านเปิด และตัวเขาเองก็อาสาคอยยืนเฝ้าอยู่สักพักและอธิบายให้คนที่ผ่านไปผ่านมาทราบกว่าครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว และเมื่อลูกค้าเริ่มเข้าร้านเป็นปกติ วาโยจึงกลับมาทำงานของตนต่อจนกระทั่งล่วงเข้าสู่เวลาบ่าย

   “โย...ไปพักดีกว่านะ สีหน้านายดูไม่ค่อยดีเลยน่ะ”

   รุจที่สังเกตเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายตอนนำบิลมาให้เขาเอ่ยทัก วาโยเหลือบดูเวลาแล้วฝืนยิ้มน้อย ๆ ทั้งที่เขาเริ่มรู้สึกปวดหัวนิด ๆ

   “ไม่เป็นไรครับ ผมยังไหว อีกอย่างขืนไปพักกันหมด คุณภูริคนเดียวทำไม่ไหวหรอกครับ”

   รุจมองไปรอบ ๆ ร้านก็เห็นว่ายังมีแขกเหลืออีกสองสามโต๊ะ โดยเป็นแขกที่กำลังรออาหารอยู่หนึ่งโต๊ะ และยังไม่ได้สั่งอาหารอีกสองโต๊ะ

   “...จะให้ฉันไปตามวินหรือรินมาแทนก่อนไหม”

   รุจถามต่อ เพราะสีหน้าของวาโยดูน่าเป็นห่วงจริง ๆ

   “อ๊ะ! อย่าเลยครับ ผมทำไหวจริง ๆ ครับ  ไปล่ะนะครับ!”

   วาโยฝืนยิ้มแล้วรีบปลีกตัวออกมา ก่อนจะกลับไปยืนรับออเดอร์พูดคุยยิ้มแย้มกับลูกค้าตามปกติ

   “ดื้อกว่าที่คิดไว้อีกแฮะ...อืม...เหลืออีกยี่สิบนาทีเชียวหรือ ถ้าไม่หนักหนาอะไรก็ดีไป”

   รุจพึมพำกับตัวเองแล้วคอยสังเกตอาการเพื่อนรุ่นน้องของตนอยู่เป็นระยะ และเมื่อถึงเวลาใกล้เปลี่ยนเวร และลูกค้าได้รับออเดอร์อาหารและเครื่องดื่มครบทุกโต๊ะแล้ว  ชายหนุ่มก็ฝากขวัญแก้วให้ช่วยดูแลแคชเชียร์แทนเขา  ส่วนตัวเขาเองนั้นก็เตรียมจะเดินไปบอกให้วาโยหยุดพัก ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อภูรินั้นจัดแจงดึงมือของวาโยเดินตรงมาหาเขาเสียก่อน

   “ตัวก็ร้อน แถมหน้าซีดจะเป็นลมล้มแหล่ไม่ล้มแหล่อยู่แล้ว ยังจะฝืนทำงานอีก ...รุจวานนายไปตามสองคนนั้นมาเปลี่ยนเวรเลยได้ไหม”

   รุจมองอีกฝ่ายก่อนจะลอบยิ้มน้อย ๆ เมื่อคนที่สังเกตอาการวาโยที่ผิดปกติไปนั้นไม่ได้มีเขาคนเดียวเสียแล้ว

   “ได้สิ...เดี๋ยวจัดการให้ ...อ้าว...มาพอดีเลยนั่น”

   รุจบอกก่อนจะหันไปเห็นการินกับกวินเดินออกมาจากห้อง ซึ่งพอกวินเห็นว่ารูมเมทกำลังยืนพิงร่างสูงของภูริอยู่ด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก เขาก็รีบจ้ำพรวดจนเกือบจะเป็นวิ่งไปหาวาโยทันที

   “โย! เป็นอะไรไปน่ะ!”

   “ชู่ว! วิน เบา ๆ หน่อย ลูกค้ายังอยู่นะ”

   รุจกระซิบเตือนเบา ๆ ทำให้กวินชะงัก เขายิ้มแห้ง ๆ หันไปโค้งศีรษะให้ลูกค้าที่หันมามอง ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่ค่อยลง

   “เขาเป็นอะไรไปครับ...อ๊ะ ตัวร้อนชะมัดเลย”

   กวินหน้าซีดตามคนป่วยด้วยความเป็นห่วง การินที่เดินตามหลังมาถอนหายใจเบา ๆ  เขาตัดสินใจชวนกวินลงมาเปลี่ยนเวรไวกว่าเดิม เพราะก่อนจะขึ้นไปพักการินได้ทันเห็นสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีของวาโยเข้านั่นเอง

   “พวกนายลงมาก็ดีแล้ว ช่วยรับช่วงแทนเลยได้ไหม เดี๋ยวเอาหมอนี่ขึ้นไปนอนพักแล้วจะมาทำใช้ให้ทีหลัง”

   ภูริบอกกับทั้งสองคนที่ลงมาเปลี่ยนเวร  ทางด้านกวินจึงหันมาแล้วยิ้มน้อย ๆ ให้

   “ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวพวกผมจัดการเอง ...เอ่อ ฝากคุณภูริดูแลหมอนี่ด้วยนะครับ”

   ท้ายประโยคกวินบอกด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่แสดงถึงความเป็นห่วงอย่างไม่มีปิดบัง ทำให้คนมองขมวดคิ้วนิด ๆ อย่างแปลกใจ แต่ก็ยังคงพยักหน้ารับคำ และประคองร่างเล็กเข้าไปทางด้านในครัวพร้อมกับรุจ โดยมีสายตาแสดงความเป็นห่วงของกวิน การิน และขวัญแก้วมองตามไปติด ๆ



   ภูริหยิบหมอนใบใหญ่และผ้าห่มมาให้คนที่ไข้ขึ้นนอนพัก เมื่อจัดที่ทางและประคองให้วาโยนอนพักเรียบร้อย ชายหนุ่มก็เตรียมจะลุกขึ้นยืน ทว่ามือเล็ก ๆ ของคนป่วยก็คว้าชายเสื้อกั๊กของเขาเอาไว้เสียก่อน

   “มีอะไร...”

   ภูริหันไปถาม แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสายตาของอีกฝ่าย วาโยค่อย ๆ หลุบตาลงก่อนจะเอ่ยขอโทษแผ่วเบาพร้อมปล่อยมือ นั่นจึงทำให้ร่างสูงต้องถอนหายใจ พลางเอื้อมมือไปลูบผมอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน

   “จะไปหายาให้กินน่ะ  เดี๋ยวจะรีบมานะ”

   วาโยนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะมีรอยยิ้มตามมา จากนั้นก็หลับตาลงเพราะรู้สึกปวดหัวอีกครั้ง ภูริจึงคิดจะเดินลงไปด้านล่างเพื่อไปถามไถ่ว่าใครมียาแก้ไข้ติดตัวมาบ้าง แต่เดินพ้นประตูไปไม่เท่าไหร่ เขาก็เจอชานนกับรุจ ที่เดินขึ้นมาจากชั้นล่างด้วยกัน ทั้งคู่คนหนึ่งนำข้าวต้มอุ่น ๆ และข้าวผัดทะเลมาอย่างละจาน ส่วนอีกคนก็นำผ้าขนหนูพร้อมขันน้ำติดมือมาด้วย

   “ให้เขากินข้าวก่อนแล้วค่อยกินยา แล้วก็เช็ดตัว ...คงต้องฝากนายจัดการล่ะนะภูริ เพราะคุณราเมศบอกว่าคุณปวีร์ไปติดต่อกับคนขายต้นไม้ที่จะนำมาตกแต่งหน้าร้าน กว่าจะกลับก็อีกราว ๆ ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นก็คงฝากกับเขาไว้ได้”

   รุจบอกกับรูมเมทของตน ซึ่งภูริก็พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะย้อนถามกลับไปบ้าง

   “แล้วยาล่ะ ฉันไม่ได้พกยาแก้ไข้ติดตัวด้วยน่ะสิ นายล่ะมีไหม”

   “ที่ห้องคุณปวีร์มีตู้ยาสามัญประจำบ้านอยู่นะครับ เดี๋ยวผมไปหยิบให้ ไว้ผมจะบอกคุณปวีร์ให้แล้วกันว่า ให้เอาตู้ยามาติดไว้ที่ห้องพักผ่อนของพนักงานด้วย”

   ชานนเป็นฝ่ายตอบคำถามนั้นแทนรุจพร้อมรอยยิ้ม เขาวางถาดอาหารไว้บนโต๊ะวางของข้างตู้น้ำในห้องพักผ่อน แล้วจึงปลีกตัวไปหยิบยามาให้วาโย ส่วนรุจนั้นวางขันน้ำและจุ่มผ้าขนหนูลงไปก่อนจะบิดหมาด ๆ แล้วนำมาเช็ดหน้าคนนอนป่วยเบา ๆ จนวาโยลืมตาปรือขึ้นมาดูอย่างมึนงง

   “คุณรุจ...”

   “อืม ฉันเอง ...เดี๋ยวกินข้าว กินยาเสร็จ แล้วพักผ่อนแล้วกัน ไม่ต้องห่วงนะ ภูริจะอยู่เฝ้านายเอง รู้สึกแย่ยังไงก็บอกเขาแล้วกัน ถ้าอาการไม่ดีขึ้นจะได้พาไปหาหมอแทน”

   วาโยยิ้มน้อย ๆ พร้อมกับพึมพำขอบคุณ ทางด้านภูรินั้นหยิบชามข้าวต้ม พร้อมผสมน้ำอุ่นจากตู้น้ำที่สามารถใช้ได้ทั้งน้ำเย็นและร้อน ใส่แก้วมาให้วาโยดื่ม

   “ป้อนให้ดีกว่าไหม”

   รุจที่เห็นคนป่วยนั่งไม่ค่อยมั่นคงเอ่ยถาม วาโยจึงรีบสั่นศีรษะปฏิเสธ ก่อนจะนิ่วหน้าเพราะเผลอสะบัดศีรษะแรงไปจนปวดหัว ภูริถอนหายใจเบา ๆ แล้วหันไปทางรูมเมทของตน

   “นายไปหาอะไรกินของนายเถอะ เดี๋ยวก็หมดเวลาพักแล้วไม่ใช่หรือไง ที่เหลือฉันดูแลเขาเองได้น่า”

   รุจหันมามองคนพูด แล้วยกยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก อย่างที่ภูริไม่ค่อยชอบ เพราะมันเหมือนอีกฝ่ายจะคิดอะไรบางอย่างที่มันไม่ค่อยจะเป็นเรื่องดีกับตัวเขาเท่าใดนัก

   “งั้นก็ได้ ฝากด้วยแล้วกัน ...ได้โอกาสแล้วนะโย อ้อนให้เต็มที่เลยล่ะ หมอนี่คงไม่ใจร้ายกับคนป่วยหรอก”

   วาโยยิ้มแห้ง ๆ ไม่กล้าเหลือบมองภูริในยามนี้ ส่วนชานนที่นำยากลับมาให้และได้ยินถึงกับยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะหันไปบอกวาโย

   “ถ้าข้าวต้มทานลำบาก อยากทานซุปหรืออะไรก็บอกได้นะครับ เดี๋ยวผมทำมาให้”

   วาโยมองเชฟหนุ่มอย่างตื้นตัน เขาขอบคุณเบา ๆ จากนั้นชานนและรุจก็ออกจากห้องไป โดยทิ้งคนป่วยให้ภูริดูแลเพียงลำพัง

   “ไม่ต้องหรอก ฉันป้อนให้เอง”

   ภูริหยิบชามข้าวต้มจากมือของวาโยมาถือแทน วาโยเตรียมจะค้าน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรอยยิ้มของอีกฝ่าย

   “ไว้หายแล้วค่อยชดใช้ทีหลังแล้วกัน”

   คนที่เตรียมค้านพยักหน้ารับคำอย่างไม่ขัดขืนอีก สาเหตุหลักก็เพราะรอยยิ้มจริงใจที่ไม่เคยได้รับมาก่อน มันจึงทำให้เขาไม่คิดจะต้านทานต่อการกระทำของอีกฝ่าย วาโยยอมให้ภูริป้อนข้าว และพอเริ่มอิ่มก็กินยาที่อีกฝ่ายส่งมาให้  จากนั้นเขาก็ปล่อยให้ภูริประคองตนเองนอน และหลับตามมาอย่างรวดเร็วด้วยพิษไข้และฤทธิ์ยาผสมกัน

   

   ภูริถอนหายใจเบา ๆ เมื่อเห็นว่าวาโยนั้นหลับไปแล้ว เขาเหลือบมองเวลาก็เห็นว่าเหลืออีกราวสามสิบกว่านาทีจึงจะหมดเวลาพัก ชายหนุ่มจัดการอาหารมื้อกลางวันของตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วจึงมาช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวของคนที่นอนหลับอยู่หลังจากนั้น

   “ผิวขาวเนียนเหมือนผิวเด็กเลยแฮะหมอนี่...”

   ภูริที่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวในเพื่อเช็ดตามซอกคอ แผ่นอกและซอกแขนของอีกฝ่าย เอ่ยพึมพำ  ก่อนจะชะงักมือเมื่อพอเช็ดที่แถวแผ่นหน้าท้องใกล้เอว คนหลับก็ทำหน้าขมวดคิ้วก่อนจะบิดตัวน้อย ๆ และละเมอออกมาพร้อมเสียงหัวเราะเบา ๆ

   “งืม...ฮะ ๆ อย่าสิ...มันจั๊กจี้นะ...งืม...”

   ภูรินิ่งอึ้ง เขาลองลูบผ้าผ่านเอวอีกข้างของเจ้าตัว วาโยก็มีปฏิกิริยาเดิม ๆ พอเขาหยุดเจ้าตัวก็ทำเสียงงึมงำในลำคอแล้วนอนหลับต่อ ชายหนุ่มจึงหลุดหัวเราะเบา ๆ ออกมาอย่างนึกขำ

   “ทำตัวอย่างกับเป็นของเล่นเลยแฮะหมอนี่”

   ภูริพึมพำ ไม่นึกแปลกแล้วว่าทำไมคนในร้านจึงอยากแกล้งวาโยกันนัก 

   “นายเองก็น่ารักเหมือนกันนี่นะ”

   ภูริลูบศีรษะของอีกฝ่ายแผ่วเบา แล้วก็ต้องยิ้มน้อย ๆ เมื่อคนหลับพึมพำบางอย่างไม่ได้ศัพท์ ก่อนจะยิ้มทั้งหลับให้เขา จากนั้นชายหนุ่มจึงติดกระดุมเสื้อผ้าของอีกฝ่ายให้เรียบร้อย แล้วนั่งเฝ้าดูอาการของวาโยอยู่ใกล้ ๆ จนกระทั่งหมดเวลาพักของเขา ปวีร์ก็กลับจากธุระมาพอดีและอาสาจะดูแลให้แทน ภูริจึงลงไปทำงานต่อและต้องคอยตอบคำถามจากรุ่นน้องอีกสองคนโดยเฉพาะกวินที่แสดงความเป็นห่วงเสียออกนอกหน้า และทำท่าว่าจะขึ้นไปเยี่ยมวาโยเสียเดี๋ยวนั้น แต่ก็ต้องตัดใจ เพราะมีลูกค้าทยอยเข้าร้านมาอีกกลุ่มนั่นเอง




… TBC …
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-08-2012 21:02:05 โดย Xenon »

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
น้องโยเป็นไข้  เป็นอะไรมากไหม

ชอบภูริอะ น่ารักนะเนี้ย

ส่วนพี่รุจ มีลับลมคมในตลอดเวลา 555

ทั้งร้านนิ หลงโยกันหมดเลยใช่ไหมเนี้ย

ก็โยน่ารักนิเนอะ รอตอนต่อไปจ้า ลัลล้า

shockoBB

  • บุคคลทั่วไป
ภูริใจดีกับน้องโยให้มากๆนะ><
 :o8: :o8: :o8: :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
ฮุฮุ ภูมิเริ่มแสดงออกมากขึ้นแล้ว โยน่ารักมากๆ
ฮาเล็มของโย จริงแท้แน่นอนเลยแบบนี้
คนใหม่ที่จะเข้ามาจะเป้นยังไงน๊า ลุ้นๆ

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 o18 o18 ดูแลโยดีดีนะ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
ป่วยเป็นไข้ใจหรอน้องโย  เป็นได้ถูกเวลามากอ่ะ    :laugh:
ให้พี่ภูริดูแลดีๆหน่อยนะจ๊ะ  อิอิ   :-[

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

jelatin99

  • บุคคลทั่วไป
ว้าววภูริก็มีมุมนี้ด้วยแฮะ น่ารักอ่ะ~ รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ beautjang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ชอบแนวฮาเร็มอ่ะ

แต่สุดท้ายอยากให้ลงเอยกับใครซักคน

แม้คุณปัทม์บอกว่าเป็นแนว โชเน็น ไอ ก็เถอะ><

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
วาโยน่ารักมาก ภูริเริ่มที่จะใจดีกับโยแล้ว

+1 +เป็ดให้นะค่ะ

alekung103

  • บุคคลทั่วไป
รอบนี้ภูริหรือนี่  ค่อยๆ หลงโยไปทีละคนนะจ๊ะ

อิอิ   :z1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ใครจะคู่กับโยต่ายน้อยของเราล่ะ

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
รอเปิดร้านวันเสาร์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ omelet

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
รอดูธีมวันเสาร์เป็นอะไรน้า?

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

สวัสดีค่ะ ^^  ทักทายนักอ่านกันหน่อยนะคะ มาถึงตอนที่ 17 แล้ว เหมือนจะเยอะแต่ไม่เยอะอะไรเท่าไหร่ เพราะแต่ละตอนก็มาสั้น ๆ อย่างที่เห็นนั่นแล ^^” 

    สำหรับนักอ่านท่านใดที่อยากเห็นการจับคู่แบบจริง ๆ จัง ๆ  ขอรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่จ้า  เพียงแต่หลังจากที่แสดงถึงพลังฮาเร็มแล้ว ก็จะมีการคัดตัวจริงตามมา  เพราะฉะนั้นถ้าน้องโยเลือกใครมาคนใดคนหนึ่ง ที่เหลือก็จะผันแปรไปมีคู่ใหม่ หรือไม่ก็กินกันเองในร้านนั่นล่ะค่ะ หุ ๆ (แต่ขอบอกว่าตั้งใจจะเขียนหนุ่ม ๆ ให้เพิ่มมาอีกเยอะ ทั้งพนักงานพาร์ทไทม์ ทั้งลูกค้าในร้านด้วยน่ะค่ะ)

    สำหรับตัววาโยตอนนี้ หัวใจยังว่างค่ะ ถึงจะดูอ้อนเขาไปทั่ว(อย่างน่าหมั่นไส้นิด ๆ) แต่ก็นิสัยเหมือนน้องที่ชอบอ้อนพี่ ๆ ตามสไตล์ลูกคนเล็กนั่นล่ะค่ะ

    ป.ล. ใครรอธีมวันเสาร์อดใจรอหน่อยเน้อ รับรองเด็ด ^^
...........................................................




Miracle Café / 17




     วาโยปรือตาตื่นมาแล้วก็ต้องพบกับภาพเพดานที่ดูคุ้นตา เขานิ่งคิดทบทวนด้วยสมองที่ค่อนข้างมึนงงเล็กน้อย ก่อนจะเบิกตากว้างและรีบยันกายลุกพรวด แต่แล้วก็แทบจะล้มไปนอนอีกครั้งเพราะรู้สึกมึนจนเหมือนห้องหมุนไปหมด

    “อ้าว ๆ ลุกแบบนั้นก็เวียนหัวตายพอดี”

    ปวีร์ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ห่าง ๆ หันมาเห็นเข้าแล้วบ่นเบา ๆ เขาวางหนังสือลงแล้วเดินมาประคองให้วาโยนั่งพิงกำแพง ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ให้

    “ลุกมาทำไม หิวน้ำ หรือจะเข้าห้องน้ำ”

    วาโยหันไปทางปวีร์ หน้าเขายังคงซีดอยู่แต่ดูดีกว่าเมื่อตอนก่อนได้นอนพักมากแล้ว

    “คือ...นี่กี่โมงแล้วครับ...”

    “หือ...อืม ก็จะสี่โมงเย็นแล้วล่ะนะ”

    ปวีร์ตอบคำถามอีกฝ่าย แล้วก็ลอบยิ้มน้อย ๆ ที่เห็นสีหน้าตกใจของวาโย แต่พอชายหนุ่มทำท่าจะลุกขึ้น ปวีร์ก็กดบ่าร่างนั้นให้นอนไปต่อ

    “จะไปไหนเล่า ยังไม่หายดี เดี๋ยวก็ไปล้มเป็นลมให้ลูกค้าตกใจหรอก”

    “แต่งาน...”

    วาโยเตรียมแย้ง แล้วก็ต้องชะงักเมื่อปวีร์ตีสีหน้าดุใส่เขา

    “เธอไม่สบายนะ ฉันไม่ใช่นายจ้างที่ใจยักษ์ใจมารถึงขนาดใช้คนป่วยทำงานหรอก ถ้ากลัวเสียงาน ก็ต้องรีบพักผ่อนให้มาก ๆ แล้วตั้งใจทำงานชดเชยในส่วนที่พักไปแทนไม่ดีกว่าหรือ”

    วาโยนิ่งอึ้ง ก่อนจะค่อย ๆ พยักหน้ารับคำอย่างจำยอม เห็นเช่นนั้นปวีร์จึงยิ้มแย้มส่งให้ตามปกติ

    “เด็กดี ...พักผ่อนให้เต็มที่ แล้วเย็น ๆ ฉันจะดูอาการเธอใหม่ ถ้าเห็นว่ายังไม่ดีขึ้น จะพาไปคลินิกให้หมอฉีดยาให้สักเข็ม”

    วาโยฟังแล้วก็สะดุ้งเฮือก ก่อนจะสั่นศีรษะไปมาเบา ๆ

    “มะ...ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมรู้สึกค่อยยังชั่วมากแล้ว นอนอีกสักหน่อยต้องหายดีแน่...”

    วาโยบอกแล้วหน้าซีดเผือดกว่าเดิมจนปวีร์แปลกใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ตามมา

    “หรือว่าเธอกลัวเข็มฉีดยา?”

    วาโยสะดุ้งอีกครั้ง เขารีบสั่นศีรษะปฏิเสธ แต่ใบหน้าซีด ๆ นั้นก็แสดงออกถึงคำตอบได้เป็นอย่างดี

    “หึ ๆ เด็กน้อยเอ๊ย! เอาเถอะ ถ้าไข้เธอลดในตอนเย็นจริง ๆ ฉันก็จะไม่พาไปฉีดยา แต่คงต้องให้หมอจัดยาให้แทนโอเคไหม”

    วาโยพยักหน้าหงึกหงัก เพราะสำหรับเขาให้กินยาเป็นกำ ก็ยังดีกว่าต้องไปฉีดยาล่ะนะ

    “งั้นก็นอนซะ ไม่ต้องห่วงเพื่อน ๆ ของเธอหรอก พวกเขาพอรู้ว่าเธอไม่สบาย ก็ขยันขันแข็งทำงานกันยกใหญ่ เพราะรู้ว่าเธอจะต้องเป็นห่วงแน่ยังไงล่ะ ...ถ้าหายแล้วก็อย่าลืมไปขอบคุณพวกเขาด้วยนะ”

    วาโยยิ้มรับพลางพึมพำตอบ ก่อนจะเอนกายลงนอนต่ออีกครั้ง และหลับไปโดยใช้เวลาไม่นานนัก ก่อนจะรู้สึกตัวตื่นมาอีกทีเมื่อปวีร์มาปลุกเขา



    “ไงเรา โอเคไหม...หายปวดหัวหรือยัง”

    วาโยปรือตามองคนพูด เขานิ่วหน้านิ่งคิดนิด ๆ ก่อนจะสั่นศีรษะปฏิเสธ ทำให้คนมองอมยิ้มอย่างนึกขำ
    “โกหก! ขมวดคิ้วยุ่งแบบนั้นยังจะมาบอกไม่ปวดหัวอีก... ไข้เธอลดช้ากว่าที่คิดไว้ ดังนั้นฉันจะพาไปฉีดยานะ”

    “มะ...ไม่ต้องก็ได้ครับ ...ผมหายแล้วครับ จริง ๆ นะครับ ลุกให้ดูยังได้...โอ๊ะ”

    คนฝืนทำเก่ง ดันกายขึ้นนั่งพรวดพราด แล้วหัวหมุนหน้ามืดวูบไปในอ้อมกอดของปวีร์ที่รับไว้ทัน เจ้าตัวถอนหายใจเบา ๆ แล้วช้อนร่างของคนไม่สบายขึ้นอุ้มอย่างไม่ลำบากอะไรนัก

    “คุณปวีร์ครับ...ไม่ฉีดยาไม่ได้หรือครับ...”

    ปวีร์มองคนป่วยที่อ้อนเขาอย่างน่าสงสาร นี่ถ้าเป็นเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยเขาคงใจอ่อนไปแล้ว

    “ไม่ได้ ...หรือเธออยากป่วยนาน ๆ แล้วเป็นภาระให้คนอื่นที่เหลือแทนล่ะ”

    ปวีร์แกล้งปั้นสีหน้าดุ ทำให้วาโยชะงักแล้วหน้าสลดลง ก่อนจะพยักหน้าน้อย ๆ

    “ก็ได้ครับ...ฉีดก็ฉีด”

    “หึ ๆ เด็กดี...เอ้าจะลงบันไดแล้ว อยู่นิ่ง ๆ นะ  ไม่งั้นจะกลิ้งกันไปทั้งคู่”

    ปวีร์บอกพร้อมรอยยิ้ม ทำให้คนฟังยิ้มออกบ้าง และเมื่อลงมาถึงชั้นล่างวาโยจึงขอลงเดินเองเพราะเกรงใจอีกฝ่าย

    “เฮ้อ! ก็ได้”

    ปวีร์แสร้งทำเป็นถอนหายใจ แต่ก็ยังคงไม่ยอมปล่อยร่างในอ้อมกอด แถมสั่งให้คนโดนอุ้มเอื้อมมือไปเปิดประตูให้อีก

    “เอ่อ...คุณปวีร์ครับ”

    “ที่ว่าก็ได้น่ะ หมายความว่าพอถึงรถแล้วจะปล่อยให้เดินไปขึ้นรถเองยังไงล่ะ”

    ปวีร์ตอบพลางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำเอาวาโยต้องลอบถอนหายใจ และพอถึงรถอีกฝ่ายก็ทำอย่างที่พูดไว้ แต่ก็คอยประคองอยู่ไม่ห่าง เพราะเกรงว่าลูกน้องคนโปรดจะล้มลงไปเสียก่อน

    “ขอบคุณนะครับ...”

    วาโยบอกอีกฝ่ายด้วยความตื้นตัน เพราะนอกจากครอบครัวและเพื่อนสนิทแล้ว ก็ยังไม่เคยมีใครมาดูแลเขาเป็นอย่างดีขนาดนี้มาก่อน

    “ไม่เป็นไร บอกแล้วไงว่าพวกเราอยู่กันอย่างครอบครัวน่ะ”

    ปวีร์หันมายิ้มแล้วขับรถออกไป ส่วนวาโยนั้นหลับตาพักผ่อน เพราะเริ่มรู้สึกเวียนหัวนิด ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาเองก็รู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดก่อนหน้านั้นของปวีร์ และหวนคิดว่าการที่ต้องมาทำงานใช้หนี้แถมถูกจับแต่งหญิงในบางที มันก็ไม่ใช่มีแต่เรื่องแย่ ๆ เสมอไปนัก

   

    “ไง ราเมศ ปิดร้านแล้วใช่ไหม... อยู่ไหนน่ะหรือ ก็คลินิกไง ...โอ๊ะ! อย่าเพิ่งโวยสิ ฉันไม่ได้โทรมาบอกให้นายบ่นสักหน่อย... หึ ๆ น่า ๆ ขอโทษแล้วกัน  อ๊ะ! จริงสิ เกือบลืมแน่ะ นายช่วยแพคข้าวเผื่อฉันชุดนึงด้วยนะ เดี๋ยวจะกลับไปกินที่บ้าน  ส่วนของเด็กนี่ก็ฝากคุณนนทำซุปร้อน ๆ หรืออาหารที่ย่อยง่าย ๆ ให้หน่อยก็ได้... อือ เดี๋ยวจะไปส่งที่บ้านพักเลยน่ะ ...อ๊ะ ออกมาแล้ว งั้นแค่นี้นะ บาย”

    ปวีร์ตัดสายของเพื่อนสนิท แล้วหันมายิ้มให้กับคนที่เดินยิ้มเจื่อน ๆ ออกมา

    “ไง เจ็บมากไหม”

    วาโยเบ้ปากนิด ๆ ทำให้คนถามหัวเราะเบา ๆ แล้วเดินไปตบบ่าให้กำลังใจอีกฝ่าย

    “เอาน่า ฉีดยาน่ะหายไวออก จากนั้นก็กินยาเสริม ...แล้วก็อย่าไปตากแดดตามลมอีก ส่วนงานพรุ่งนี้ก็พักอีกวัน ให้หายดี แล้วค่อยทำต่อ”

    ปวีร์บอกกับอีกฝ่ายแล้วจึงเดินไปรอจ่ายเงินค่ายาและค่ารักษา โดยไม่ฟังเสียงทัดทานของวาโยเลยสักนิด

    “แต่ถ้าผมไม่ไป พรุ่งนี้ทุกคนก็งานหนักแย่สิครับ”

    “มันก็คงแบบนั้น...พนักงานพาร์ทไทม์ก็ยังไม่ว่างเสียด้วยสิ”

    ปวีร์พึมพำ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคนที่รอฟังอยู่

    “งั้นเดี๋ยวฉันอาสาเป็นแคชเชียร์จำเป็นให้เอง ส่วนรุจก็ให้ไปเป็นเด็กเสิร์ฟแทนนายสักวัน ...หึ เผลอ ๆ อาจจะมีส่วนช่วยให้แขกสาว ๆ เข้าร้านเพิ่มมากขึ้นก็ได้นะ”

    ปวีร์เปรยอย่างนึกขำ เพราะขนาดรุจทำหน้าที่แค่เป็นแคชเชียร์ ก็ยังมีแฟนคลับมาขอใช้สิทธิ์ตามโปรโมชันของร้านถ่ายรูปกับเจ้าตัวไปแล้วด้วยซ้ำ

    “คุณวาโย รับยาได้แล้วค่ะ...”

    เสียงเรียกจากเจ้าหน้าที่จ่ายยาประจำคลินิก ทำให้ปวีร์เดินไปรอที่ช่องรับยาและจ่ายเงิน เขาเรียกวาโยไปฟังเจ้าหน้าที่อธิบายถึงจำนวนและเวลาในการทานยา จากนั้นปวีร์จึงหยิบเงินส่วนตัวของตนจ่ายให้แล้วพาวาโยกลับขึ้นรถ ก่อนจะขับไปส่งชายหนุ่มที่บ้านพักซึ่งมีพนักงานคนอื่นของเขารอคอยอยู่แล้ว

   

    “เอ้า! พาเจ้าหญิงมาส่งแล้ว มารับไปทีสิ”

    ปวีร์บอกอย่างนึกขำ เมื่อเห็นแต่ละคนที่นั่งรออยู่ หันมามองเขาเป็นตาเดียว นับตั้งแต่เห็นเขากับวาโยเดินเข้ามาในบ้านพัก

    “ทีหลังจะออกไปไหนก็บอกกันบ้าง ไม่ใช่ปุบปับก็ออกไปเองแบบนี้”

    ราเมศบ่นใส่ทันทีที่เห็นหน้าเพื่อน ทำให้วาโยเบิกตากว้าง เพราะทีแรกเขาคิดว่าคนอื่น ๆ จะรู้อยู่แล้วเสียอีก

    “ก็เห็นทำงานกันยุ่ง ๆ เลยไม่อยากรบกวนนี่ และที่สำคัญก็โทรไปบอกแล้วไม่ใช่หรือ”

    ปวีร์ตอบเพื่อนพลางยกยิ้มน้อย ๆ ติดเจ้าเล่ห์ ทำให้ราเมศถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างระอา เพราะกว่าที่ปวีร์จะโทรมาบอกก็เป็นเวลาเลิกงาน และเขาก็ต้องตกใจกับเสียงโวยวายของกวินที่ว่าวาโยหายไป แต่ยังไม่ทันจะเริ่มออกตาม หรือติดต่อใคร ปวีร์ก็โทรมาเสียก่อน ทำให้สถานการณ์วุ่นวายคลายลงได้บ้าง

    “ชอบทำให้ชาวบ้านเขาเป็นห่วงอยู่เรื่อย”

    ปวีร์หันมามองคนบ่นพึมพำหลังจากที่ส่งตัววาโยคืนให้กวินดึงกลับไปถามไถ่เรียบร้อย

    “ก็เพราะรู้ว่ามีคนคอยเป็นห่วง ก็เลยอยากขออ้อนบ้าง...ไม่ได้หรือไง”

    ปวีร์ยิ้มหวานพลางลูบแก้มอีกฝ่ายแผ่วเบา ราเมศชะงัก ก่อนจะสบถเบา ๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายหัวเราะน้อย ๆ แล้วเดินไปสมทบกับพวกวาโยต่อ และชี้แจงเรื่องการทำงานในวันพรุ่งนี้ให้ทุกคนฟัง

    “พรุ่งนี้ฉันว่าจะให้โยเขาพักต่ออีก 1 วัน  แล้วฉันจะลงไปทำแคชเชียร์ให้ ส่วนรุจก็ทำหน้าที่พนักงานเสิร์ฟแทนโยไปก่อนได้ไหม”

    คนอื่นพากันอึ้งแล้วเหลือบไปมองรุจ ทำให้ปวีร์เลิกคิ้วน้อย ๆ อย่างแปลกใจ

    “บังเอิญจังครับ ผมก็มีความคิดคล้าย ๆ คุณนั่นล่ะ”

    รุจบอกยิ้ม ๆ ทำให้ปวีร์ยิ้มตอบอย่างถูกใจ เขารู้จักอีกฝ่ายเพราะเป็นรุ่นน้องของเพื่อน พอลองคุยดูก็รู้สึกถูกชะตา ในนิสัยที่คล้ายคลึงกันหลายอย่าง ชายหนุ่มจำได้ว่าเคยชวนอีกฝ่ายให้มาทำงานด้านการเงินที่ร้านแบบเล่น ๆ เพราะตอนนั้นรุจทำงานอยู่ที่บริษัทใหญ่โตอยู่แล้ว ทว่าไม่นานหลังจากนั้นอีกฝ่ายก็โทรมาหาเขาแถมยังบอกว่าลาออกจากงานเก่าเรียบร้อยแล้วอีกด้วย และด้วยหน้าตาที่ผ่านเกณฑ์ ความรู้ความสามารถ อีกทั้งนิสัยใจคอ ปวีร์จึงไม่ลังเลที่จะดึงตัวอีกฝ่ายไว้ ไม่ว่าชายหนุ่มจะมาทำงานด้วยเหตุผลใดก็ตาม

    “ไม่เคยต้องทำมาก่อน คงลำบากหน่อยนะ แต่ถ้าไม่ไหวยังไงก็เปลี่ยนตัวกับแก้ว แล้วเดี๋ยวฉันจะเปลี่ยนไปเป็นผู้ช่วยบาริสต้าเอง”

    บอกแล้วปวีร์ก็หันไปยิ้มหวานให้กับราเมศ แต่คนฟังนี่สิทำหน้ายุ่งใส่เขา จนปวีร์ต้องหลุดหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน

    “เอ่อ...ขอโทษทุก ๆ คนจริง ๆ ด้วยนะครับ ที่ต้องลำบากกัน...เพราะผมแท้ ๆ”

    คนอื่นต่างหันมามองวาโยเป็นตาเดียว และก่อนที่จะมีคนพูดปลอบ น้ำเสียงราบเรียบเฉยชาของใครบางคนก็ขัดขึ้น

    “ถ้าคิดว่าเป็นเพราะตัวเอง ก็ต้องพักผ่อนให้เต็มที่ กินยาให้ตรงเวลา จะได้หายไว ๆ มาทำงานชดเชยแทนไงล่ะ”

    วาโยนิ่งอึ้ง ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ พร้อมพยักหน้ารับรู้ ทางด้านปวีร์เหลือบมองภูริอย่างพึงพอใจ เพราะคนอย่างวาโยนั้นถ้าปลอบโยนว่าไม่ใช่ความผิดของเจ้าตัว ชายหนุ่มก็จะยังคงคิดมากอยู่ดี ต้องอ้างเหตุผลและคนอื่นเข้ามาเกี่ยวนี่ล่ะ อีกฝ่ายถึงจะยอมฟังและยอมเชื่อ

    “ยังไม่ได้กินข้าวเลยไม่ใช่หรือ ... มียาที่ต้องกินก่อนอาหารไหม”

    การินเปรยขึ้นถามไถ่บ้าง หลังจากดูเวลาที่ล่วงเลยมาดึกพอสมควร

    “อ๊ะ...จริงสิ แต่รู้สึกว่ามีแค่ยาหลังอาหารเท่านั้นเอง ขอบใจที่เตือนนะริน”

    วาโยยิ้มให้อีกฝ่าย ซึ่งการินก็ยิ้มน้อย ๆ ตอบ ทำให้ปวีร์ที่ลอบสังเกตเริ่มพึงพอใจที่เห็นหลานชายเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการคบหาเพื่อนฝูง ความอดทน เอางานเอาการ อย่างที่อาเช่นเขาไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะทำได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็คงวางใจปล่อยให้ไปเรียนต่อเมืองนอก อย่างที่พ่อแม่ของเจ้าตัวต้องการได้สักที

    ‘แต่ก็คงไม่ใช่ในเวลานี้หรอกนะ ...ยังไงพวกพี่ชายกับพี่สะใภ้ ก็ให้เวลาเขาฝึกฝนเจ้าตัวไปก่อนตั้งหนึ่งปีนั่นล่ะ ไม่แน่ว่ากว่าจะถึงตอนนั้น การินอาจจะพัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นที่น่าตกตะลึงสำหรับเขายิ่งกว่านี้ก็เป็นได้’

    ปวีร์คิดในใจก่อนจะขอตัวกลับบ้านพัก  เขาเหลือบมองกวินที่แทบจะแย่งช้อนไปป้อนข้าววาโยอย่างนึกขำ รู้สึกพอใจที่เห็นพนักงานแต่ละคนเข้ากันได้ดีกว่าวันแรกที่ต่างพบหน้า และเขาคิดว่าอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นภาพแบบนี้ ถ้าวันนั้นเขาไม่ตัดสินใจรับวาโยเข้ามาทำงานด้วยกัน

    “ยิ้มแบบนี้ คิดอะไรอยู่น่ะ”

    ราเมศที่สังเกตเห็นถามเบา ๆ ระหว่างที่พวกเขาเดินกลับไปขึ้นรถของปวีร์ด้วยกัน

    “หึ ๆ ลองเดาดูสิ”

    “เหอะ ไม่อยากจะเดาเลย นายคิดโน่นคิดนี่ทีไร มีแต่เรื่องวุ่นวายชวนปวดหัวประจำ”

    ราเมศบ่นพลางยักไหล่ ทำให้คนฟังหัวเราะในลำคอ ก่อนจะซบศีรษะพิงแผ่นหลังของคนที่เดินช้า ๆ อยู่ด้านหน้า จนอีกฝ่ายชะงักและหยุดเดินก่อนจะหันมามองอย่างแปลกใจ

    “ฉันมีความสุขนะราเมศ ...ไม่รู้สิ มันบอกไม่ถูก...รู้แต่เพียงว่า อยากทำร้านต่อไปเรื่อย ๆ อยากเห็นรอยยิ้มของทุกคนในร้านให้มากกว่านี้ ทั้งเด็กพวกนั้น ทั้งลูกค้า  คุณนน แก้ว ตา...แล้วก็นายด้วย ราเมศ”

    ราเมศนิ่งฟัง ก่อนจะแย้มยิ้มอ่อนโยนตอบอีกฝ่าย เขาลูบศีรษะคนตรงหน้าแผ่วเบา แล้วตอบกลับไป

    “ฉันก็เหมือนกัน ...”

    ปวีร์มองอีกฝ่ายก่อนจะยิ้มหวานให้

    “ฉันชอบนายนะ ขอบใจที่อยู่เป็นเพื่อนกันมาจนถึงป่านนี้”

    ราเมศหัวเราะเบา ๆ แล้วโอบร่างนั้นให้เดินไปเคียงข้างไปด้วยกัน เขาชินเสียแล้วกับคำบอกชอบของอีกฝ่าย แต่ถ้าขวัญแก้วกับขวัญตามาได้ยิน สองสาวนั่นคงจะมีปฏิกิริยาสุดโต่งแตกต่างออกไปแน่

    “...ความรู้สึกช้าไม่เปลี่ยนเลยนะ ...หรือไม่คิดว่าฉันเอาจริง”

    เสียงพึมพำแผ่วเบาไม่ต่างจากเสียงกระซิบ ทำให้คนที่เดินมาด้วยกันชะงัก แต่ปวีร์กลับเงยหน้ายิ้มตอบ แล้วบอกเสียงสูง     

    “เปล๊า! ไม่มีอะไร ก็แค่บ่นพึมพำหิวข้าวก็แค่นั้นเอง”

    ราเมศขมวดคิ้วนิ่วหน้า เพราะไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะพูดแค่นั้นจริง ๆ แต่เมื่อเห็นปวีร์ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เขาจึงขี้เกียจซัก เพราะรู้ดีว่าต่อให้ซักไป คนหัวดื้อปากแข็งคนนี้ก็ไม่มีวันยอมบอกให้เขารู้อย่างแน่นอน

   


… TBC …

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
คู่บอสนี่ นำหน้าใครเพื่อนเลยวุ้ย  :laugh:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
พี่วี ชอบพี่เมย์จริงๆจังๆใช่ไหม

โหหห พี่เมย์ เปิดใจรับฟังง แล้วจะรู้ กรี๊ดๆๆๆๆๆ

อ่าาา ฮาเร็มของน้องโยจะมีเพิ่มมาอีกกี่คนกัน อั๊ยยย *0*

ติดตามค้าบบ รอคอยวันเสาร์ น้องโยจะแต่งเป็นอะไรน้าาา *0*

ว้าวววว

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
น่ารักกันทุกคนเลยนะเนี่ย แต่ก็ยังลุ้นว่าใครจะพิชิตใจเจ้าหญิงวาโยกันแน่ 555

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ชอบๆ ทำให้ยิมได้ตลอดเลยคับคนแต่ง

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ชอบๆ ทำให้ยิมได้ตลอดเลยคับคนแต่ง

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ปวีร์ชอบราเมศล่ะสิ ดีเลยชอบทำตัวแพ็คคู่ดีนัก
แต่อยากให้วาโยเลือกภูริจังเลย ส่วนรุจก็ชอบนะ

ออฟไลน์ beautjang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น่าร้ากกกก

ค้าาาาาา

คุณบอสนี่แบบบอกไม่ถูกเลยนะเนี่ย

กุ๊กกิ๊กกะเค้าไปทั่ว  แต่ตอนอุ้มน้องโยนี่ สุดๆกรี๊ดดมาก^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด