[...Miracle Café...] คาเฟ่อลวน-คนอลเวง / +ตอนพิเศษให้อ่านแถม P.22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [...Miracle Café...] คาเฟ่อลวน-คนอลเวง / +ตอนพิเศษให้อ่านแถม P.22  (อ่าน 222989 ครั้ง)

AnimajuS

  • บุคคลทั่วไป
ร้านอยู่ตรงไหนนี้ จะไปอุดหนุนซะหน่อย :o8:

alekung103

  • บุคคลทั่วไป
หนุ่มๆ เยอะเกิน เหอๆ เริ่มจิ้นไม่ออกและว่าจะให้ใครคู่ใครดี

555+

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
โอ๊ยริน แนะนำโยช้าไปแล้วจ๊ะ ติดไปหลายบ่วงแล้ว 55555


สนุกมากคะติดตามๆ

ปล.ภูริ :L1: วาโย   ><

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
หนุ่ม ๆ เยอะไปอ่ะ  สับสน ๆ ไม่รู้จะเลือกไป  อิ อิ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
คาดว่ารินจะเตือนไม่ทันแล้วล่ะ โยหวานเสน่ห์แบบไม่รู้ตัวไปเยอะแล้วเนี่ย

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
:z1: :z1:ระหว่งรินกับโยใครจะได้ออกเรือนก่อนกันน๊า :z1: :z1:


รออ่านจ้า :call: :call: :call:

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4


Miracle Café / 23




    ไกรสรมองไปรอบ ๆ ห้องของปวีร์อย่างพึงพอใจ และเมื่ออีกฝ่ายเชื้อเชิญให้เขานั่งบนเก้าอี้นวมในห้องรับแขก เจ้าตัวจึงนั่งลงพร้อมเอ่ยขึ้น

    “นายก็ยังรสนิยมดีเหมือนเคยนะ  แล้วไม่คิดจะกลับไปทำงานแบบเดิมแล้วหรือ”

    ปวีร์ซึ่งนั่งลงตรงข้าม มองหน้าคนถามก่อนจะยิ้มน้อย ๆ

    “ไม่ล่ะ ผมเบื่อแล้ว ผมชอบออกแบบเสื้อผ้าเป็นงานอดิเรก มากกว่าที่จะต้องมาคอยทำตามลูกค้าบางคนที่จู้จี้จุกจิกสั่งโน่นนี่ ทั้งที่มันไม่ได้เหมาะกับตัวเองแท้ ๆ”

    ไกรสรมองอดีตดีไซเนอร์ฝีมือดีระดับแนวหน้าไม่แพ้เขา แล้วถอนหายใจเบา ๆ เมื่อก่อนปวีร์นั้นโด่งดังมากในแถบยุโรปและมีแบรนด์เป็นของตัวเองอีกด้วย ทว่าจู่ ๆ เจ้าตัวก็อำลาวงการ แล้วกลับเมืองไทย ทำเอาลูกค้าและเพื่อนฝูงร่วมวงการหลายคนนึกบ่นเสียดายไปตาม ๆ กัน พอมาทราบข่าวอีกทีก็ได้รู้ว่าเจ้าตัวชวนญาติผู้น้องของเขามาร่วมเปิดร้านคอฟฟี่ชอปแบบนี้เสียแล้ว

    “แล้วเมื่อไหร่จะเบื่อเม มันสักทีล่ะ เจอที่ไหนก็ตัวติดกันตลอดเวลา”

    ไกรสรเอ่ยแซว เพราะขนาดราเมศไปเรียนเป็นบาริสต้าที่ยุโรป ปวีร์เองก็ตามไปเรียนดีไซเนอร์แถวนั้นด้วย ไป ๆ มา ๆ ทั้งคู่ก็ได้ทำงานอยู่ที่นั่น จนเมื่อปวีร์กลับไทย ราเมศก็ติดตามกลับมาด้วยกัน

    “พี่คิดจะแยกพวกผมให้ได้หรือไง”

    ปวีร์ย้อนถามพร้อมรอยยิ้ม ทำให้คนฟังยักไหล่นิด ๆ

    “มาตอนนี้ฉันเลิกหวังให้เมมันหาน้องสะใภ้ให้แล้วล่ะ เพราะถ้าให้เลือกระหว่างผู้หญิงที่จะแต่งงานด้วยกับนาย หมอนั่นคงยอมทิ้งผู้หญิงกลับไปหานายแหง ๆ”

    ปวีร์หัวเราะเบา ๆ แล้วเอ่ยตอบกลับไป

    “พี่ก็พูดเกินไป หมอนั่นมีความรับผิดชอบออก ถ้าต้องแต่งจริง ๆ ก็คงไม่ทิ้งเจ้าสาวง่าย ๆ หรอก”

    ไกรสรชะงักแล้วเลิกคิ้วนิด ๆ

    “นายยอมงั้นหรือ...ถ้าหมอนั่นคิดจะไปแต่งงานน่ะ”

    “ผมจะขัดอะไรเขาได้ล่ะ ถ้าเขาตัดสินใจแบบนั้นจริง ๆ น่ะ”

    ปวีร์บอกพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้คนฟังเลิกคิ้วนิด ๆ ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ตามมา

    “มั่นใจล่ะสิ ว่าเมจะไม่มีวันทิ้งนายไปได้”

    “ใครว่าล่ะพี่...ผมน่ะกลัวมากต่างหากว่าเขาจะทิ้งผมไปในสักวัน เพราะอย่างนั้นก็เลยพยายามทำทุกอย่างที่จะผูกมัดเขาไว้ และให้เขาเคยชินที่มีผมอยู่ข้างกายตลอดเวลาไงล่ะ”

    ปวีร์บอกแล้วยิ้มน้อย ๆ ให้ ทำให้คนฟังถอนหายใจเบา ๆ

    “ก็แค่บอกออกไปตรง ๆ ว่าชอบเขาแบบคนรัก ก็ลงเอยกันได้แล้ว ...ป่านนี้ก็ยังไม่ยอมบอกเลยไม่ใช่หรือไง”   

    ไกรสรเปรยเตือน เขารู้เรื่องของทั้งสองคนดี ทั้งจากการสังเกตของตัวเอง และจากคำบอกเล่าของขวัญแก้วและขวัญตา

    “ใครว่าล่ะ...”

    ปวีร์พึมพำแล้วยกยิ้มน้อย ๆ ทำให้คนฟังชะงัก

    “บอกแล้ว? ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

    “ก็สด ๆ ร้อน ๆ ก่อนพี่จะมาไม่นานนี่เองล่ะ...อ้อ อย่าเพิ่งไปบอกพวกแก้วกับตาล่ะ ผมไม่อยากให้เขารู้ไวนัก เดี๋ยวหมอนั่นจะอายเอา ...อีกอย่างเขาเองก็บอกว่ายังไม่แน่ใจว่ารู้สึกยังไงกับผมด้วย”

    ไกรสรมองคนที่มีสีหน้าซึมลงเล็กน้อยอย่างสงสาร เพราะรู้ดีว่าปวีร์นั้นหลงรักราเมศมานานแล้ว แต่เขาเองก็ค่อนข้างมั่นใจว่าราเมศเองก็ชอบปวีร์ไม่แตกต่างกัน เพียงแต่เจ้าตัวอาจจะยังไม่มั่นใจว่านั่นคือความรักก็ได้

    “ฉันว่านายไม่ต้องกังวลหรอก นายสองคนน่ะ...หือ...”   

    ชายหนุ่มมองคนตรงหน้าแล้วสังเกตเห็นรอยบางอย่างที่ติ่งหูขาวเนียนข้างหนึ่ง

    “รอยอะไรน่ะ...เหมือนรอยฟันเลย...”

    ไกรสรเอื้อมมือไปแตะหูอีกฝ่าย ทำเอาปวีร์ชะงัก เพราะไม่คิดว่าจะถูกชายหนุ่มเห็นเข้าให้ ทว่ายังไม่ทันพูดอะไรประตูห้องก็ถูกเคาะเบา ๆ พร้อมกับราเมศที่เปิดออกมา

    “พี่ไกร ...ตาบอกว่าให้ ...”

    ราเมศเอ่ยค้างไว้แค่นั้น เพราะสายตาของเขามองไปเห็นไกรสรกำลังทำท่าคล้ายจับแก้มของปวีร์อยู่ ชายหนุ่มเม้มปากแน่น แล้วเดินเข้าไปดึงร่างของคนบนเก้าอี้นวมมากอดอย่างหวงแหน พร้อมกับจ้องมองไกรสรด้วยแววตาดุดัน

    “นี่ขนาดไม่แน่ใจว่ารู้สึกยังไง ยังหึงโหดขนาดนี้ ...ลองแน่ใจตัวเองหน่อย ฉันไม่โดนเขาชกคว่ำหรอกหรือวี”

    ไกรสรบอกอย่างนึกขำ ส่วนปวีร์นั้นหน้าแดงน้อย ๆ ด้วยความดีใจปนอาย และราเมศกำลังมึนงงได้ที่จากคำพูดของอีกฝ่าย

    “พี่พูดอะไรน่ะ ผมไม่เข้าใจ...แล้วเมื่อครู่นี้พี่ไกรทำอะไรหมอนั่นกันแน่”

    ราเมศย้อนถามอย่างสับสนและยังคงหวาดระแวงอยู่ไม่หาย

    “พี่ก็แค่ดูรอยฟันบนหูวีก็แค่นั้น กำลังจะถามว่าใครเป็นเจ้าของรอยฟันนั่น นายก็โผล่มาดึงตัวเขาไปพอดีไงล่ะ”

    พอได้ยินไกรสรพูดดังนั้น ราเมศก็ชะงักกึก หน้าแดงระเรื่อ แล้วรีบปล่อยอ้อมแขนที่กอดเพื่อนสนิททันที จนปวีร์เองยังนึกขำ

    “เอ่อ...คือ ตาบอกว่า อยากให้พวกพี่ลงมาคุยด้านล่างที่ครัวมากกว่า เธอจะได้คุยด้วย... ผมมาบอกแค่นี้ล่ะ ไปทำงานต่อก่อนนะ”

    ราเมศบอกกับไกรสร พอเหลือบมองปวีร์เขาก็ยิ่งรู้สึกเขินแล้วรีบเดินจ้ำพรวดออกไป ปวีร์เองแม้จะเขินแต่ตอนนี้รู้สึกขำกับท่าทางของอีกฝ่ายมากกว่า

    “ดีใจล่ะสิท่า แบบนี้ก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วใช่ไหมล่ะ”

    ไกรสรเอ่ยกระเซ้า ซึ่งปวีร์นั้นก็แย้มยิ้มน้อย ๆ แล้วพึมพำตอบ

    “นั่นสินะครับ ...ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ก็คงใช้แผนมือที่สามจู่โจมไปนานแล้วล่ะ”

     “นายนี่นะ ถ้าไม่เพราะเห็นว่ารักกันดีล่ะก็ ฉันไม่ยกน้องชายฉันให้กับคนที่น่ากลัวอย่างนายหรอก”

    ปวีร์หัวเราะเบา ๆ อย่างไม่ถือสา แล้วจึงเดินไปที่ประตู ทำให้ไกรสรต้องลุกเดินตามไปด้วย

    “จริงสิ...พนักงานเสิร์ฟที่ร้านนายน่ะ อายุเท่าไหร่หรือ ที่เป็นเด็กผู้หญิงน่ารัก ๆ ใส่ชุดอลิซน่ะ เกิน 18 แล้วใช่ไหม”

    ปวีร์ชะงักมือที่กำลังเปิดประตูห้อง แล้วจึงหันมามองอีกฝ่ายนิ่งด้วยสายตาแบบที่ทำให้ไกรสรรู้สึกสงสัย แต่สักพักอีกฝ่ายก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยตอบ

    “เขาอายุ 22 แล้ว เพิ่งเรียนจบ ผมเลยรับมาทำงานด้วย”

    “22 หรือ หน้าเด็กจังนะ ...แต่ก็น่ารักดี”

    ไกรสรพึมพำ ทำให้คนฟังลอบยิ้ม

    “พี่สนใจหรือ ปกติเห็นควงแต่สาวใหญ่อกโตไม่ใช่หรือไง”

    “นั่นมันแค่คู่ควงแก้เบื่อ แต่เอาจริง ๆ แล้ว ฉันชอบแบบน่ารักอ่อนหวานแบบนี้มากกว่า แล้วตกลงน้องเขามีแฟนหรือยังล่ะ นายพอจะรู้ไหมวี”

    ปวีร์กลั้นหัวเราะ ก่อนจะแสร้งทำเป็นตีหน้ายิ้มแย้ม แล้วบอกออกไป

    “เท่าที่รู้ยังไม่มีแฟนนะครับ แต่คนจีบน่ะ ต่อคิวรอยาวเลยล่ะ”

    ไกรสรเลิกคิ้วนิด ๆ ก่อนจะยักไหล่ตามมา

    “ไม่แปลก คนน่ารักก็แบบนี้ ...ถ้ายังว่างอยู่ก็ดีแล้ว เผื่อฉันจะได้มาเป็นลูกค้าประจำร้านนายระหว่างที่พักร้อนอยู่เมืองไทยนี่สักหน่อย”

    “ก็หวังว่าพอได้คุยกันเรียบร้อยแล้ว พี่จะไม่แผ่นแนบหนีไปก่อนล่ะนะ”

    ปวีร์ทิ้งท้ายทำให้คนฟังขมวดคิ้ว แต่พอจะซักถามต่อ อีกฝ่ายก็ทำเป็นเมินเฉยและเดินนำหน้าไป ทำให้ไกรสรต้องเดินตามและบ่นพึมพำตามไปอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก

   

    อีกด้านหนึ่งภายในร้านอาหาร ภูริเหลือบมองวาโยในชุดอลิซที่ยิ้มแย้มทักทายกับลูกค้าไปทั่ว เขาไม่สามารถทำเหมือนกวินที่แสร้งแสดงบทบาทเป็นตัวละครกระต่ายขาวคุยเล่นกับอีกฝ่ายแบบธรรมชาติ ชายหนุ่มลอบถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงทำงานของตนต่อไปเงียบ ๆ จนกระทั่งลูกค้าเริ่มซาลง

    “คุณภูริครับ เหนื่อยหรือครับ ไปพักก่อนดีไหม เดี๋ยวผมทำแทนให้เอง”

    วาโยตีความสีหน้าไม่ค่อยร่าเริงของอีกฝ่ายเป็นอย่างอื่น ภูริหันกลับมามองคนที่จ้องเขาด้วยสายตาห่วงใย แล้วจึงถอนหายใจเบา ๆ

    “ไม่เป็นไร ขอบคุณที่เป็นห่วง”

    พอวาโยได้ยินอย่างนั้น เขาก็ยิ่งขมวดคิ้วยุ่ง เพราะภูริดูแปลก ๆ ไป แถมยังหลบตาเขาอีกต่างหาก

    “ไม่สบายหรือเปล่าครับ ขอโทษนะครับ”

    วาโยเอื้อมแขนใช้หลังมือแตะหน้าผากอีกฝ่าย ทำเอาภูริชะงัก แล้วถอยหนี เขารู้สึกว่าตัวเองจะหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมา จึงเมินไปมองอีกทางแล้วรีบโพล่งบอก

    “ฉันบอกว่าไม่เป็นอะไรไงเล่า นายก็ไปทำงานของนายเถอะ!”

    วาโยสะดุ้ง ก่อนจะค่อย ๆ ลดมือลงแล้วพึมพำบอกเสียงแผ่ว

    “ขอโทษนะครับ ที่ทำให้คุณหงุดหงิดอีกแล้ว...”

    ภูริหันขวับไปมองคนที่เดินคอตกจากไป เขาอยากจะเข้าไปดึงตัวอีกฝ่ายมาบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะดุใส่ชายหนุ่มเลยสักนิด แต่เพราะยังมีแขกนั่งอยู่บางโต๊ะ และมีสายตาของพนักงานคนอื่นมองอยู่ ภูริจึงได้แต่เก็บความในใจเอาไว้ และตั้งใจจะพูดคุยกับวาโยหลังงานเสร็จแล้วแทน



    ทางด้านวาโย เขารู้สึกแย่ที่ทำให้ภูริอารมณ์เสีย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ชอบให้เขาเข้าไปใกล้ชิดแท้ ๆ แต่พักหลังเพราะภูริพูดจาดีกับเขามากขึ้น และแสดงความเป็นห่วงเป็นใยเขาออกมาให้เห็นบ้างแล้ว จึงทำให้วาโยคิดไปว่าอีกฝ่ายน่าจะยอมรับในตัวเขาเป็นเพื่อนเช่นเดียวกับคนอื่นแล้วเหมือนกัน

    “อ๊ะ! ขอโทษครับ!”

    วาโยที่เดินก้มหน้าก้มตา ชนเข้ากับร่างสูงที่เดินตรงมาทางเขา และพอชายหนุ่มเงยหน้าก็เห็นว่าคนที่เขาชนเป็นพี่ชายของสองสาว ขวัญแก้วและขวัญตานั่นเอง

    “ไม่เป็นไร...หือ...เมื่อครู่นี้เธอพูดว่าอะไรนะ”

    ไกรสรขมวดคิ้วนิด ๆ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะฟังผิด แต่เพราะคนตรงหน้าน่ารักเกินไปกว่าที่เขาจะเชื่อหูตัวเองได้

    “เอ่อ ผมบอกว่าขอโทษน่ะครับ ...คือขอโทษจริง ๆ นะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ”

    วาโยเอ่ยตามมา ทำให้คนฟังขมวดคิ้วยุ่ง เขาหลับตาน้อย ๆ สงบจิตสงบใจ ก่อนจะยกมือปรามอีกฝ่าย

    “อืม...ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจแล้ว ...ถนัดชัดเจนเลย ...มิน่าล่ะหมอนั่นถึงได้พูดแบบนั้น”

    ไกรสรพึมพำ แล้วหันขวับไปที่เคาท์เตอร์  ส่วนปวีร์ซึ่งยืนอยู่ใกล้ ๆ ขวัญแก้ว ก็กำลังจ้องมองมาที่เขาพร้อมรอยยิ้มขบขัน ก่อนจะโบกมือน้อย ๆ แล้วเดินกลับเข้าไปด้านใน จนคนมองรู้สึกหมั่นไส้

    “ฝากไว้ก่อนเถอะ!”

    “เอ่อ ...ขอโทษครับ มีอะไรเกี่ยวกับผมหรือเปล่าครับ”

    วาโยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล ใบหน้าของอีกฝ่ายนั้นน่ารักจนไกรสรไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าตัวเป็นผู้ชายจริง ๆ

    “เอ่อ ...ไม่มีอะไร ฉันแค่ถูกเจ้านายเธอแกล้งนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เท่านั้น เธอไปทำงานต่อเถอะ”

    วาโยพอได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโล่งอก เขายิ้มหวานให้อีกฝ่าย แล้วเดินเลี่ยงไปทำงานของตนต่อ ส่วนไกรสรนั้นพอเจอรอยยิ้มของชายหนุ่มก็ถึงกับอึ้งไปชั่วครู่ เจ้าตัวลอบถอนหายใจ ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะสำหรับลูกค้าเพราะตั้งใจจะลองดูว่าร้านที่ปวีร์และราเมศร่วมหุ้นกันเปิดเป็นร้านแบบไหนกันแน่

    “สวัสดีครับ... จะสั่งเครื่องดื่มอะไรดีครับ”

     ภูริที่ว่างอยู่เข้ามารับออเดอร์เครื่องดื่มของอีกฝ่าย แม้จะค่อนข้างแปลกใจที่เห็นญาติของราเมศมานั่งเป็นลูกค้าแบบนี้ แทนที่จะไปสั่งโดยตรงแล้วนั่งกินในครัวแทน

    “อ้อ ...ผมเอาลาเต้ร้อนมาที่แล้วกัน”

    “รับเป็นลาเต้ร้อนนะครับ จะสั่งอาหารเลยด้วยไหมครับ”

    ภูริจดเมนูเครื่องดื่มไปแล้วถามต่อซึ่งอีกฝ่ายก็หยิบเมนูมาไล่ดู แล้วบอกอีกฝ่าย

    “ขอเป็นพุดดิ้งนมสด กับคาราเมล อย่างละที่เลยนะ”

    ภูริทวนคำแล้วจดรายการไปในสมุดจด แม้จะคิดในใจว่าหน้าตาและรูปร่างอย่างอีกฝ่ายไม่ค่อยเหมาะกับของหวานสักเท่าใดนัก

    “เฮ้อ...น่าเสียดายจริงน้า หน้าตาก็ออกจะน่ารัก ดันเป็นผู้ชายเสียได้”

    ไกรสรพึมพำเมื่อมองไปเห็นวาโยกำลังยิ้มแย้มต้อนรับแขกที่เข้ามาใหม่ในร้าน ทำให้ภูริที่ได้ยินเข้าพอดีชะงักมือเล็กน้อย ก่อนจะรีบทำเป็นกลบเกลื่อนและเดินนำออเดอร์นั้นไปส่งที่เคาท์เตอร์ต่อไป

    ‘เด็กอะไรก็ไม่รู้ ทำไมถึงเสน่ห์แรงแบบนี้นะ ...’

    ภูริคิดในใจอย่างหงุดหงิด แต่เขาก็ไม่ได้คิดขุ่นเคืองคนอื่นที่ชอบวาโยเท่าใดนัก แต่กลับโมโหตัวเองที่ชอบทำตัวให้ชายหนุ่มเข้าใจผิดเสมอมากกว่า

    จากนั้นภูริจึงเดินไปที่โต๊ะของไกรสร เพื่อที่จะรินน้ำแร่ให้อีกฝ่ายดื่มรอไปก่อน ทว่าเขาก็เห็นวาโยปลีกตัวมาทำหน้าที่นั้นแทนแล้ว แถมยังพูดคุยทักทายและส่งยิ้มให้กับอีกฝ่ายอย่างดูสนิทสนมอีกด้วย ภูรินิ่งอยู่กับที่ชั่วครู่ เขาเม้มปากน้อย ๆ แล้วจึงเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะตั้งใจทำเป็นโน้มใบหน้าลงกระซิบข้างหูวาโยเบา ๆ

       “อลิซครับ... อย่ารบกวนเวลาพักผ่อนของลูกค้าสิครับ เราไปยืนรอทางนั้นสองคนดีกว่านะ”

    วาโยสะดุ้งโหยง เงยหน้ามองภูริอย่างตกใจ อีกฝ่ายแย้มยิ้มน้อย ๆ ให้เขา แล้วหันไปยิ้มให้กับไกรสรพลางโค้งศีรษะนิด ๆ ให้

    “ขอรับตัวอลิซไปก่อนนะครับ”

    ไกรสรพยักหน้ารับรู้อึ้ง ๆ เพราะแม้ภูริจะยิ้มแย้ม แต่นัยน์ตานั้นประกาศความเป็นศัตรูคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด

    “...ให้มันได้ยังงี้สิ   ร้านของนายมันน่าสนดีนี่หว่า วี ...หึ ๆ”

    ไกรสรพึมพำเบา ๆ  หลังจากที่ทั้งคู่เดินไปแล้ว จากนั้นเขาจึงเกิดนึกสนุกคิดทำอะไรบางอย่างเพื่อฆ่าเวลาระหว่างช่วงพักร้อนในไทยราวเดือนกว่านี้

   

    อีกด้านหนึ่งวาโยที่เดินตามคนฉุดแขนเขามาต้อย ๆ ต้องเหลือบมองภูริอย่างเป็นกังวล ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อภูริที่พาเขามามุมลับตาลูกค้าของร้าน หยุดเดินและหันมามองเขา

    “เอ่อ...คุณภูริ ผมทำอะไรผิดอีกหรือครับ”

    วาโยถามอย่างกังวล ทำให้คนมองถอนหายใจเบา ๆ แล้วเอื้อมมือไปลูบใบหน้าอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน จนวาโยสะดุ้งโหยง

    “ไม่มีอะไรหรอก...คือ ฉันก็แค่อยากขอโทษนาย...เรื่องก่อนหน้านั้น ...ฉันไม่ได้โมโหอะไรนายเลยสักนิด แต่ดันพูดแบบนั้นออกไป เพราะ...”

    ภูริอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อยากจะบอกแต่ก็กลัวเสียฟอร์ม ทว่าพอมองเห็นแววตาสงสัยของอีกฝ่าย เขาก็ถอนหายใจอีกครั้ง เจ้าตัวค่อย ๆ ลดมือที่ลูบแก้มนั่นลง แล้วจึงบอกไปโดยไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย

    “ฉันก็แค่...เอ่อ ...รู้สึกอาย ...เรื่องที่ถูกวัดไข้เหมือนเด็กแบบนั้น...ก็แค่นั้นเอง”

    วาโยเงียบกริบ เขาเงียบจนภูริต้องหันกลับมามองอย่างใจไม่ค่อยดี ก่อนจะชะงัก เมื่อเห็นอีกฝ่ายถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วยิ้มหวานตามมา

    “ดีใจจัง ผมคิดว่าคุณโกรธที่ผมวุ่นวายกับคุณเสียอีก”

    ภูรินิ่งอึ้งเขาเผลอจ้องอีกฝ่ายนิ่ง ก่อนที่มือข้างเดิมจะยกขึ้นลูบไล้เส้นผมอีกฝ่ายแผ่วเบา นิ้วเรียวค่อย ๆ ไล้ลามผ่านแก้มเนียน จนกระทั่งมาหยุดอ้อยอิ่งที่ริมฝีปาก  จนวาโยตัวแข็งทื่อหน้าร้อนวูบวาบไปหมด โดยเฉพาะเมื่อเห็นแววตาที่แปลกไปของอีกฝ่าย

    “เอ่อ...คุณภูริ ...คือ”

    “อลิซจ๊ะ! อลิซ! แขกอยากขอถ่ายรูปด้วยจ้ะ”

    เสียงใส ๆ ของขวัญแก้วทำให้วาโยและภูริชะงัก วาโยถอยออกมาก้าวหนึ่งทั้งที่ใบหน้าแดงระเรื่อ แล้วจึงรับคำเบา ๆ ก่อนจะวิ่งไปตามเสียงเรียกนั้น ส่วนภูริที่ตั้งสติได้ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางก้มมองมือตัวเอง แล้วจึงหลุดยิ้มออกมาน้อย ๆ ในที่สุด

   
... TBC ...

   

    **นายภูเริ่มทำคะแนนแล้ว หน้าผากน้องโย โดนเปิดซิง แก้มก็โดนหอม แต่ยังเหลือริมฝีปากอยู่นะคะ อิ ๆ คิดว่าใครจะได้ประเดิมไปกันแน่เอ่ย ^^....ตอนหน้าเดี๋ยวคิดว่าจะแทรกบทให้หนุ่มรุจบ้างค่ะ  สำหรับรายนี้จะว่าไปแล้ว ก็ไม่ได้เสนอตัวเป็นคู่แข่งจริงจังเรื่องน้องโยอะไรกับใครนักหรอกค่ะ  แต่พี่แกเป็นพวกชอบกระตุ้นชาวบ้านให้วุ่นวายมากกว่า และเป็นพวกชอบคอยลุ้นอยู่ห่าง ๆ  .....ส่วนที่ว่าหนุ่มรุจจะมีคู่ไหม มีแน่ค่ะ นิสัยแบบนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะให้ถูกกด หรือเป็นฝ่ายกดดีล่ะนะ หุ ๆ หนุ่มแว่นซะด้วย เคะก็ได้เมะก็ดีอยู่แล้ว ^^

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
จิ้มๆ (แอบมาจิ้มเบาๆ ฮุฮุ)

ขนาดยังไม่รู้ใจตัวเองอย่างแน่ชัด ยังกวงวีขนาดนี้
แล้วถ้ารู้นี้คงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้วีแน่ๆ เพราะเจ้าของหวง
ภูมิเริ่มรุกแล้วซินะ อยากรู้มากๆว่าใครจะได้คู่กับโย (ลุ้นๆ)
เห็นด้วยรุจนี้เป็นได้ทั้งรุกและรับเลย แต่ในความคิดเราเคะมากกว่าอยู่นิดหน่อย
แอบคิดเหมือนกันนะว่ารุจดูเหมาะกับไกรสรอ่ะ นิสัยน่าจะไปกันได้

ปล อยากอ่านตอนที่รอยฟันถูกประทับบนคอกับบนติ่งหูจังเลย >.,<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-08-2012 12:28:58 โดย 111223 »

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เชียร์ภูริอ่ะ  ชอบ ๆ ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
กวินก็น่ารัก ภูริ ก็ดี โอ๊ย เลือกไม่ถูก อยากเก็บเธอไว้ทั้ง 2 คน งั้นก็ 3P กันดีกว่า นะๆๆๆๆ  :haun4:  :z1:

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
เอาละวา้ีพี่ไกรจะลงสหนามแข่งกับเค้าไหมเอ๋ยอิอิ :กอด1: :กอด1: :กอด1:


รออ่านจ้า :bye2: :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ kururu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-3
สำหรับใครที่อยากรู้ฉาก "ประทับรอยฟัน" เดี๋ยวจะเขียนแทรกให้อ่านแน่นอนจ้ะ ^^ เอ...หรือไม่อยากรู้กันหว่า...l
^
^
^
^
^
อยากรู้มาก ขอบอก เอามาลงด่วน


   

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โยเสน่ห์แรงมากกกกกกก

นี่เพิ่มหนุ่มในฮาเร็มเพิ่มมาอีกคนแล้วสินะ...

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
น่ารัก เชียร์ให้วาโยชอบภูริ  แล้วหนุ่มรุจต้องเป็นเมะสิ ท่าทางไม่น่าเป็นเคะนะ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
แอร๊ยๆๆ ภูริเริ่มรุกทำคะแนนบ้างแล้ว :o8:
อยากเป็นวาโยจริงๆ มีแต่หนุ่มๆมารุมรัก :impress2:

ออฟไลน์ beautjang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ไม่อยากให้คนที่คิดว่าเป็นฝ่ายรุกเป็นฝ่ายถูกกดนะค้าาาาาา

นู๋นชรับไม่ได้5555 เอาเป็นว่ารุมรักน้องโย แบบเดิมดีกว่านะ งุงิ

 :really2: :really2: :really2:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
อ๊ายยยยยย หนูโย กับ คุณภูริ น่ารักอะ ชอบบบบ

โอ๊ยๆๆๆ ไม่ไหวนะ อ่านไปเิขินไป เขินแทนโย 555

แอบอิจฉาน้อยๆ คนที่ได้ใกล้ชิดหนูโยจริงๆเลยอ่า

ชอบบบบ *////*

คุณไกร รู้นะคิดอะไรอยู่ 5555

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
อ๊ายยยยยยย เขิล

โบกธง FC ภูริวาโย ><////


คุณไกรจะทำอะไรน๊า น่าหนุกต่อหัวใจหนุ่มๆจัง คิคิ :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
แอบสงสัยรอยฟันด้วยคน 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
เชียร์ภูริสุดใจขาดดิ้นเลย

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
อ๊ายยยยย
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

รอรอยฟันของหนุ่มวี

alekung103

  • บุคคลทั่วไป
ภูริเริ่มรุกแล้ว เชียร์ๆ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
ภูริทำคะแนนทีหลัง  แต่คะแนนนำคนอื่นระริ่วเลยอ่ะ  :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4


Miracle Café / 24



   วาโยหน้าร้อนวูบวาบใจเต้นแรง กับท่าทางที่ดูผิดแปลกไปของภูริซึ่งแสดงกับเขา แต่พอถูกขวัญแก้วทัก เขาก็รีบปั้นสีหน้ายิ้มแย้มออกไปเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะจับพิรุธได้

   “มีใบเสร็จที่จะใช้สิทธิ์ได้สองใบน่ะค่ะ ถ้าจะขอถ่ายรูปกับน้องโยรูปหนึ่ง และอีกรูปให้น้องโยถ่ายกับพนักงานของร้านแทนพวกเราจะได้ไหมคะ”

   ลูกค้าสาวสองคนนั้นลองถามขวัญแก้ว ซึ่งเธอก็ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าตอบรับตามมาอย่างไม่ต้องคิดนานนัก

   “ถ้าแบบนั้นก็ไม่มีปัญหาค่ะ ว่าแต่ต้องการเรียกใครมาถ่ายกับโยเขาล่ะคะ”

   “คุณภูริ / คุณกวิน ค่ะ!”

   ทั้งสองสาวพูดขึ้นพร้อมกันแล้วหันมาเขม่นกันแทน

   “เอ๊ะ! ฉันก็บอกแล้วไงว่าคุณภูริเหมาะกับน้องโยเขามากกว่า”

   “แต่ฉันว่าคุณกวินเข้ากันมากกว่า เป็นอลิซก็ต้องคู่กับกระต่ายขาวสิ!”

   สองสาวแง่ง ๆ ใส่กันจนขวัญแก้วกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะลองเสนอความเห็นบางอย่าง

   “งั้นก็ให้ทั้งภูริและกวินมาถ่ายพร้อมวาโยดีไหมคะ เพราะเขาสองคนก็แทนคุณสองคนพอดีเลยไงล่ะคะ”

   ทั้งสองสาวมองหน้ากัน นิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าตกลง

   “งั้นก็ดีค่ะ โยจ๊ะ ไปตามภูริ กับ กวินมาทีสิ”

   วาโยยิ้มเจื่อน ๆ แล้วเดินไปบอกกวิน กับภูริให้มาถ่ายรูปด้วยกันกับเขา สำหรับรูปแรกที่เขาถ่ายกับสองสาวนั้น ผ่านไปได้ด้วยดี พอมาถึงรูปที่สองนี่สิ ทั้งคู่ช่วยกันจัดแจงท่าทางให้พวกเขาทั้งสามเสียยกใหญ่

   “คุณวินขา โอบเอวด้วยสิคะ!”

   กวินกลืนน้ำลายลงคอ ถึงจะดีใจแต่ก็กลัวว่าวาโยจะโกรธเอา

   “ไม่เป็นไรหรอกวิน ทำไปเหอะ”

   วาโยบอกกับอีกฝ่ายอย่างไม่ถือสาพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ ให้ เพราะไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทนั้นแอบคิดไม่ซื่อกับตัวเองมาก่อน

   “คุณภูริคะอย่าน้อยหน้านะคะ โอบไหล่เลยค่ะ!”

   สาวอีกคนเชียร์บ้าง ทำเอาภูริยิ้มเจื่อน ๆ เขามองวาโยซึ่งอีกฝ่ายก็หน้าแดงนิด ๆ แต่ก็ยังพยักหน้าอนุญาต

   “เอาล่ะ ถ่ายนะจ๊ะ!”

   ขวัญแก้วบอกแล้วนับถอยหลัง และเมื่ออีกฝ่ายกดชัตเตอร์เรียบร้อย ทั้งสามคนก็ขออนุญาตแยกย้ายกันไปทำงานต่อ ซึ่งสองสาวผู้เป็นลูกค้าก็กล่าวขอบคุณทั้งสาม และต่างรอให้ขวัญแก้วพิมพ์ภาพ และรอไฟล์จากกล้องของเธอมาเก็บไว้ต่อไป

   

   “เฮ้อ! หลัง ๆ มานี่ลูกค้าชอบขอให้โพสท่าแปลก ๆ กันเยอะเชียวแฮะ”

   วาโยบ่นเบา ๆ แต่สองหนุ่มกลับเงียบไม่พูดอะไร แต่ในใจรู้สึกขอบคุณลูกค้าสองสาวที่ทำให้เขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับวาโยขนาดนั้น

   “ไปขอรูปมาเก็บมั่งดีไหมเนี่ย”

   กวินเผลอหลุดความในใจออกมา ทำเอาวาโยกับภูริมองมาที่เขาเป็นตาเดียว

   “ง่า...ก็แบบน่าเก็บสะสมดีไง นี่ฉันยังว่าจะขอไฟล์พ่อบ้านเสาร์ก่อนมาเก็บไว้เลยนะ”

   กวินรีบแก้ตัว ทำให้วาโยนิ่งนึกตามแล้วพยักหน้ารับรู้

   “ก็เข้าท่านะ แต่บางรูปมันก็ค่อนข้างน่าอายพิกล”

   วาโยบ่นเบา ๆ ส่วนกวินลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นรอยยิ้มอย่างรู้ทันของภูริ กวินจึงส่งสายตาพยักเพยิดขอร้องไม่ให้อีกฝ่ายบอกออกไปว่าเขาไม่ได้คิดแค่อย่างที่พูดกับวาโยจริง ๆ

   “ก็ดีเหมือนกัน...ฉันขอเก็บไว้บ้างดีไหมนะ”

   ภูริเปรยขึ้นบ้าง ทำให้กวินกัดฟันกรอดเล็กน้อย เพราะไป ๆ มา ๆ อีกฝ่ายก็ไม่แตกต่างจากเขาเท่าใดนัก

     “ง่า...งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”

   วาโยที่รู้สึกสังหรณ์แปลก ๆ เมื่อเห็นสายตาที่ทั้งสองคนนั้นจ้องกัน  รีบเอ่ยปากขอตัวไปดูแลลูกค้าโต๊ะอื่นต่อ ส่วนการินก็กลับมาประจำด้านใน เพราะด้านนอกนั้นไม่มีลูกค้านั่งอยู่แล้ว เนื่องจากพอตกค่ำ ถึงอากาศจะเย็นลง แต่ก็เสี่ยงยุงกัดอยู่เหมือนกัน

   “สงสัยต้องให้อา ไปหาสมุนไพรมาปลูกกันยุงไว้ด้านนอกบ้างแล้วล่ะ”

   กวินหันไปมองคนบ่นอย่างประหลาดใจ แล้วย้อนถาม

   “มีด้วยหรือสมุนไพรที่กันยุงได้น่ะ”

   การินหันมามองคนถาม เขายักไหล่นิด ๆ แล้วทำหน้าแบบที่กวินรู้สึกหมั่นไส้ เจ้าตัวคันปากยิบ ๆ แต่ก็ยังคงอยากได้คำตอบ จึงทนรอคอยเงียบ ๆ การินเห็นดังนั้นจึงยิ้มน้อย ๆ แล้วตอบคำถามของอีกฝ่าย

   “ก็เท่าที่รู้ก็พวกสมุนไพรกลิ่นแรงหน่อย ๆ อย่างตะไคร้หอม หรือไม่ก็พวกที่ปรับปรุงพันธุ์มาโดยเฉพาะอย่างต้นมอสซี บัสเตอร์ นั่นยังไงล่ะ”

   กวินขมวดคิ้ว พลางทวนคำอย่างสงสัย

   “มอส ๆ อะไรนะ”

   “มอสซี บัสเตอร์...เอาเหอะ คืนนี้เดี๋ยวเอาหนังสือไปให้ดูแล้วกัน”

   การินตัดบท เพราะขืนมัวแต่ยืนอธิบายกันกลางร้านแบบนี้ ก็คงไม่ได้ทำงานกันต่อพอดี

   “โอเค อย่าลืมด้วยล่ะ น่าสนใจดีนะ ต้นไม้ไล่ยุงได้ด้วยแบบนี้”

   กวินบอกแล้วยิ้มแย้มร่าเริง ก่อนจะไปทำงานต่ออย่างอารมณ์ดีจนการินแปลกใจ

   “ไปเจออะไรดี ๆ มาหรือไงหมอนี่ พิลึกแฮะ”

   ชายหนุ่มหน้าสวยบ่นเบา ๆ แล้วจึงเดินไปคอยดูแลโต๊ะที่มีลูกค้านั่งอยู่ จนกระทั่งใกล้ถึงเวลาปิดร้าน ลูกค้าคนอื่นเริ่มทยอยกันออกไปจนเกือบหมด เหลือแต่เพียงไกรสรที่นั่งสบาย ๆ อยู่คนเดียว



   “พี่ไกรขา ร้านจะปิดแล้วนะคะ คิดจะนั่งแช่ถึงตอนไหนคะเนี่ย!”

   ขวัญแก้วออกมาหาพี่ชายของเธอแล้วเอ่ยแซว เพราะเธอนั้นรู้ดีว่าพี่ชายรออยู่เพื่อต้องการจะกลับพร้อมกับพวกเธอนั่นเอง

   “พอดีนึกขึ้นได้ว่าไม่มีเงินติดตัว เลยคิดว่าจะรอล้างจานตอนร้านปิดแทนน่ะ”

   ไกรสรบอกยิ้ม ๆ ทำให้หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ ส่วนคนอื่นพากันยิ้มน้อย ๆ เพราะไม่คิดว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นจะเป็นเรื่องจริง ที่สำคัญต่อให้ชายหนุ่มกินฟรีก็ไม่น่าจะมีปัญหาด้วยซ้ำ

   “งั้นก็เช็คบิลเลยก็ได้ ทุกคนจะได้พักกันสักที...อืม... เธอน่ะมานี่หน่อยสิ”

   ไกรสรเจาะจงเรียกวาโยทำให้คนอื่นหันมามองชายหนุ่มอย่างสงสัย

   “คิดเงินให้ด้วยเลยแล้วกัน รับบัตรเครดิตด้วยใช่ไหม”

   วาโยพยักหน้าหงึก ๆ แล้วไปรวบรวมบิลจากรุจมาคิดเงินอีกฝ่าย เมื่อจัดการชำระเงินเรียบร้อย ไกรสรก็จับมือของวาโยที่เตรียมจะหยิบสมุดเดินบิลกลับไป

   “เอ้า! นี่ทิป ...อย่าลืมเมมชื่อฉันเก็บไว้ล่ะ แล้วถ้ามีอะไรเดือดร้อนก็โทรมาได้เสมอ ฉันยินดีช่วยทุกอย่าง”

   ไกรสรหยิบนามบัตรของเขาจับใส่มือของอีกฝ่ายพลางยกขึ้นจูบเบา ๆ ทำเอาวาโยตัวแข็งทื่อ หน้าแดงวาบ ส่วนขวัญแก้วที่มองอยู่ถึงกับกรีดร้องออกมาอย่างลืมตัว

   “กรี๊ด! พี่ไกร! ทำยังงี้ได้ยังไงกันคะ! ห้ามเลยนะ อย่ามายุ่งกับพนักงานของที่นี่นะ!”

   “อะไรกันแก้ว พี่ยังไม่ได้ยุ่งสักหน่อย ก็แค่ถูกชะตาน้องเขาก็เลยให้เบอร์ไว้ก็แค่นั้นเอง”

   ไกรสรบอกพลางยักไหล่ แล้วยกยิ้มนิด ๆ อย่างเจ้าเล่ห์ เมื่อเห็นปฏิกิริยาแปลก ๆ ของหนุ่มคนอื่นโดยเฉพาะภูริ และกวิน

   “ไม่ได้ ๆ เจ้าชู้ตัวพ่อ แถมเปลี่ยนหญิงควงไม่เว้นแต่ละวันแบบพี่นี่ ให้เข้าใกล้น้องโยของแก้วไม่ได้หรอก เดี๋ยวน้องเขามีมลทินหมด”

   ขวัญแก้วบอกหน้าตาเฉย ทำเอาคนอื่นหันมามองไกรสรตาปริบ ๆ ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะแก้ตัว ขวัญตากับปวีร์ก็เดินออกมาจากครัวด้วยกัน

   “อะไรกันคะ ใครจะยุ่งกับใครหรือคะพี่แก้ว”

   ขวัญตาถามพี่สาวของเธอ ซึ่งขวัญแก้วก็รีบบอก

   “ก็พี่ไกรน่ะสิยัยตา ให้นามบัตรน้องโย แถมยังอ่อยน้องเขาอีก”

   ไกรสรขมวดคิ้วยุ่งกับคำพูดที่ได้ยินจากปากน้องสาว

   “อ่อยบ้าบออะไรกัน เรานี่ชักเลอะเทอะใหญ่แล้ว ก็รู้ ๆ อยู่ว่าพี่ชอบแต่ผู้หญิง แล้วน้องเขาเป็นผู้ชายไม่ใช่หรือไง”

   ไกรสรบอกตามมา ทำให้ขวัญแก้วหยุดคิดแล้วนิ่วหน้า แต่ปวีร์กลับแทรกขัดขึ้นมาบ้าง

   “ใครจะไปรู้ ไปอยู่อเมริกามานาน รสนิยมอาจจะเปลี่ยนก็ได้...จริงไหม”

   สองสาวสะดุ้งแล้วจ้องพี่ชายของพวกเธอตาดุ ๆ ทำให้ไกรสรยกมือยอมแพ้

   “โอเค ๆ รับรองว่าไม่ล่วงเกินน้องเขามากไปกว่านี้หรอกน่า บอดี้การ์ดออกจะเพียบขนาดนี้ พี่ไม่คิดเสี่ยงหรอก”

   “ฮึ! ให้มันจริงเหอะ พี่น่ะไว้ใจได้เมื่อไหร่  ปีนหน้าต่างย่องหาลูกสาวเขาก็หลายหนแล้วไม่ใช่หรือไง!”

   ขวัญแก้วประชด เธอยอมรับว่านับถือพี่ชายของตัวเองอยู่มาก ยกเว้นอย่างเดียวเรื่องนิสัยเสียเกี่ยวกับผู้หญิง ไกรสรนั้นทำให้หนุ่มเจ้าชู้กรุ้มกริ่มอย่างธีรัชกลายเป็นลูกแมวตัวน้อย ๆ ไปเลยด้วยซ้ำ

   “แย่จัง... โดนน้องสาวเผาต่อหน้าชาวบ้านแบบนี้ เล่นเอาไม่เหลือดีเลยแฮะ”

   ไกรสรบอกแล้วยิ้มให้กับวาโย อีกฝ่ายยิ้มเจื่อน ๆ ตอบ ขณะกำลังคิดว่าจะปลอบอะไรดี ปวีร์ก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อน

   “อ้าว! ไม่ใช่ไม่มีดีให้เหลือแต่แรกแล้วหรือครับ”

   ไกรสรแค่นยิ้มให้คนพูด และก่อนที่สถานการณ์จะบานปลายไป ราเมศก็เอ่ยตัดบทขึ้นเสียก่อน

   “เอ้า! ไปเตรียมกินข้าวกันดีกว่า จะได้เก็บร้านให้เรียบร้อย แล้วกลับบ้านไว ๆ”

   ทั้งหมดเหลือบดูนาฬิกา เหลืออีกไม่ถึงสิบนาทีก็จะได้เวลาปิดร้าน ดังนั้นจึงไม่น่ามีใครมาใช้บริการแล้ว วาโยจึงวิ่งเหยาะ ๆ ไปเอาป้ายร้านพลิกกลับเป็น Close แทน แต่พอกลับมาเขาก็ต้องยืนลังเลไม่กล้าเดินผ่านเข้าไป เพราะเห็นไกรสรดักรออยู่แถมยังโปรยยิ้มหว่านเสน่ห์ให้เขาอีก อีกด้านหนึ่งรุจที่กำลังเดินเข้าครัวตามคนอื่นไป หันมาเห็นทั้งคู่เข้าพอดี เขาจึงเดินย้อนกลับมา   

   “เป็นอะไรไปโย ยืนอยู่ทำไมล่ะ”

   “เอ่อ...เปล่าครับ คือ”

   วาโยอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ และยิ้มเจื่อน ๆ ให้  รุจเห็นดังนั้นจึงหัวเราะเบา ๆ แล้วเปรยบอก

   “คุณไกรสรเขาไม่ได้คิดจริงจังอะไรหรอกน่า... เขาก็แค่แหย่นายเล่นแค่นั้นล่ะ”

   ไกรสรมองคนสวมสูทน้ำเงินที่อยู่แถวนั้นแล้วเลิกคิ้วนิด ๆ อย่างแปลกใจ

   “แล้วทำไมถึงคิดว่าฉันจะไม่เอาจริงล่ะ…”

   รุจเหลือบมองคนพูด ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ พร้อมเปรยขึ้นขณะที่เดินผ่านชายหนุ่มไปโอบบ่าวาโยให้เดินกลับมาพร้อมตนเอง

   “จะเรียกว่าคาดเดาก็คงได้มั้งครับ ...เพราะผมรู้สึกเหมือนคุณกำลังสนุกที่จะใช้โยแหย่พวกเราบางคนให้หงุดหงิดได้มากกว่า”

   ไกรสรผิวปากหวือตามหลังทั้งคู่ไปอย่างนึกทึ่ง เขาคิดว่าจะมีแต่ปวีร์ที่พอจะรู้เท่าทันความคิดของเขาเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าจะมีคนอื่นที่จับผิดเขาได้ง่าย ๆ แบบนี้อีก

   “ร้านนายนี่มันมีแต่คนน่าสนใจจริง ๆ ด้วยล่ะนะวี ...สงสัยพักร้อนครั้งนี้ฉันคงจะไม่เบื่อแล้วล่ะนะ”

   ชายหนุ่มพึมพำอย่างถูกใจ แล้วจึงเดินปิดท้ายตามเข้าไปในครัว เพื่อร่วมรับประทานอาหารในมื้อค่ำนั้นด้วยอีกคน

   

   เมื่อพนักงานแต่ละคนรวมถึงพวกไกรสรและสองสาว ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านพักแล้ว ทว่าปวีร์ก็ยังคงไม่ได้กลับไปเช่นดังคนอื่น ๆ เขาขึ้นไปบนชั้นสองที่ห้องทำงานของตนต่อ จนราเมศต้องถอนหายใจเบา ๆ แล้วเดินตามไป

   “ทำไมยังไม่กลับบ้านอีกล่ะ”

   “...อืม อยากคิดอะไรเงียบ ๆ อีกสักพักแล้วค่อยกลับน่ะ”

   ปวีร์บอกแล้วยิ้มให้อีกฝ่าย ราเมศถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเดินไปหาคนที่นั่งลงบนเก้าอี้ พลางจับหมุนตัวมาเผชิญหน้าแล้วกักร่างของอีกฝ่ายไว้ในอ้อมแขน

   “โกรธเรื่องที่ฉันไม่ให้คำตอบนายแน่นอนไปเลยหรือเปล่า”

   ปวีร์จ้องอีกฝ่ายแล้วยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยนให้

   “แค่นายไม่รังเกียจกัน แค่นั้นฉันก็พอใจแล้วล่ะ ...”

   “ปวีร์...” ราเมศพึมพำ เขาใช้มือไล้เส้นผมยาวอ่อนนุ่มที่หล่นมาปิดบังใบหน้าออกทัดหูอีกฝ่าย ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นรอยฟันที่ตนเองทำไว้

   “เจ็บไหม...”

   “ไม่หรอก ตอนนั้นก็แค่ตกใจที่ถูกเอาคืนแบบนั้นมากกว่า”

   ปวีร์บอกขำ ๆ เพราะหลังจากบอกความในใจออกไปเมื่อตอนบ่าย ราเมศก็นิ่งเงียบไปนานและไม่พูดอะไรอีก จนเขาขัดใจ เลยแกล้งกัดซอกคออีกฝ่าย ใครจะคิดล่ะว่าราเมศจะเอาคืนด้วยการกัดติ่งหูเขาตอบแบบนั้น

    “...ปวีร์ นายชอบฉันจริง ๆ สินะ ไม่ได้ล้อเล่นกันใช่ไหม”

   ราเมศถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจังผิดเคย  ปวีร์ยิ้มตอบเศร้า ๆ บางทีเขาคงจะปิดบังและใช้การล้อเล่นกลบเกลื่อนความรู้สึกกับอีกฝ่ายมากเกินไป จนราเมศไม่แน่ใจคำบอกรักของเขาขึ้นมาเช่นนี้

   “ฉันชอบนาย...หรือจะเรียกรักก็ได้... ถ้าจะให้มันฟังดูลึกซึ้งขึ้นล่ะนะ”

   ชายหนุ่มยังไม่วายแกล้งกระเซ้า แต่คนฟังตอนนี้กลับเงียบไปสักพักแล้วจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่

   “ตั้งแต่เมื่อไหร่”

   “ใครจะไปจำได้...เรื่องเป็นสิบ ๆ ปีแบบนั้น”

   ปวีร์เปรยเบา ๆ ทำเอาราเมศชะงัก เขามีสีหน้าหม่นหมองลงจนปวีร์ใจหาย

   “อย่าคิดมากน่าราเมศ...ไม่ใช่ความผิดของนายสักหน่อย...ฉันชอบนายเองนี่ แล้วก็ช่วยไม่ได้ด้วยที่นายไม่เคยรู้ เพราะฉันก็ไม่คิดจะบอก...จนกระทั่งวันนี้”

   คนที่รู้ใจกันดีเสียยิ่งกว่าคนในครอบครัวเอ่ยทัก ราเมศรวบร่างของปวีร์ขึ้นมากอดแน่น แล้วพึมพำขอโทษเบา ๆ ส่วนปวีร์เองก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วกอดตอบ ทั้งคู่อยู่ในสภาพนั้นสักพักก่อนที่ปวีร์จะเป็นฝ่ายคลายอ้อมกอดออกก่อน

   “ต้องขอบคุณธีรัชนะ ถ้าเขาไม่จีบฉัน แล้วนายทำเหมือนหึงให้ฉันพอมีหวัง  ฉันก็ไม่คิดจะบอกออกไปหรอก ฉันกลัวนายรังเกียจฉันแล้วหนีไปน่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันคงร้องไห้แน่เลย…จริง ๆ นะ”

   ปวีร์บอกแล้วยิ้มบาง ๆ แต่คนฟังนี่สิรู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที ที่ทำให้คนตรงหน้าต้องรู้สึกแบบนั้น

   “ขอโทษจริง ๆ ...”

   “อย่าย้ำนักสิ...ขอโทษบ่อย ๆ แบบนี้ มันฟังเหมือนนายกำลังจะปฏิเสธไม่รับรักฉันเลยนะ”

   ปวีร์บอกตามมา ทำให้อีกฝ่ายสะดุ้ง

   “ไม่ใช่นะ! ฉันไม่ได้จะปฏิเสธ...”

   ราเมศบอกออกไปแล้วก็ต้องชะงัก เมื่อคนตรงหน้าเขากำลังรอฟังคำตอบพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

   “เฮ้อ! ก็ได้ ๆ ....ฉันไม่รู้ว่าฉันคิดยังไงกับนาย  แต่แน่นอนว่าฉันไม่นึกรังเกียจนายสักนิด ...ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้ก็ตาม... ส่วนเรื่องชอบนั่น ...จะเรียกว่าชอบไปแล้วได้ไหม ก็ไม่รู้หรอกนะ...”

   ราเมศโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของอีกฝ่าย แล้วจุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผากเนียนนั่นโดยที่ปวีร์ไม่ทันตั้งตัว

     “...แต่ที่รู้ ๆ นับต่อแต่นี้ ฉันจะคอยอยู่เคียงข้างนาย และจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแย่งนายไปจากฉันแน่”

    ปวีร์ที่กำลังยิ้มเจ้าเล่ห์นิ่งอึ้งไปตั้งแต่ถูกจูบที่หน้าผากแล้ว ยิ่งพอมาฟังคำสารภาพตามมาของราเมศ เขาก็ค่อย ๆ ก้มหน้าซบลงกับอกของอีกฝ่าย  ราเมศรู้สึกถึงความชื้นน้อย ๆ ที่แผ่นอกของตน เขายิ้มออกมาอย่างเป็นสุขพร้อมกับกอดกระชับร่างในอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก

   “ขอบใจนะราเมศ...ขอบใจจริง ๆ”

   ปวีร์กระซิบพึมพำ ทำให้คนฟังอมยิ้ม ราเมศกอดชายหนุ่มอยู่เช่นนั้นสักพัก จนกระทั่งเริ่มรู้สึกแปลก ๆ บางอย่าง และคิดว่าหากปล่อยให้อยู่ในสภาพนี้ต่อไป น่ากลัวมันจะไม่จบแค่การกอดเฉย ๆ เสียแล้ว

   “เอิ่ม...กลับบ้านกันดีกว่า ป่านนี้ปยุตเป็นห่วงแย่แล้ว”

   ปวีร์เงยหน้ามองคนพูดยิ้ม ๆ พอจะคาดเดาอะไรได้บ้างอยู่หรอก ชายหนุ่มพยักหน้าตอบรับพลางแสร้งเปรยบอกบางอย่าง

   “กลับก็กลับ...ฉันก็ไม่อยากค้างคืนในห้องที่ไม่มีเตียงหรอกนะ ...เอ หรือจะซื้อเตียงมาไว้ในนี้ดี”

   “ปวีร์!”

   ราเมศเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความเขิน ทำเอาปวีร์ต้องหลุดหัวเราะออกมา ก่อนจะถูกชายหนุ่มที่ตอนนี้ขยับฐานะมาเป็นคนรู้ใจใกล้ชิดกว่าเดิม ประคองกอดออกจากห้องตรงไปที่รถ เพื่อขับกลับบ้านต่อไป   


... TBC ...



**ว่าจะแทรกฉากย้อนอดีตประทับรอยฟัน แต่คิดไปคิดมา เอาเป็นฉากหวาน ๆ แล้วเขียนถึงว่าเกิดอะไรขึ้นในเวลานั้นแบบนี้แทน น่าจะเหมาะกว่า หวังว่าคงจะแทนกันได้นะคะ ^^


ขอบพระคุณผู้อ่านที่แวะเวียนมาอ่าน และทักทายกันค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
กับวาโยน่ะ  เชียร์ภูริมากกว่านะ

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :man1: น้องโยน่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
คู่ใหญ่เขาลงตัวแล้วเหลือแต่คู่เด็กๆ น่าจะให้ไกรคู่รุจก็ดีนะ
น้องโยเริ่มรับรู้ความรู้สึกของกวินกับภูริแล้วล่ะมั้ง

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ที่จริงก็ไม่ต้องแทรกบทรอยฟันก็ได้
หวานๆ แบบนี้ก็ชอบ

alekung103

  • บุคคลทั่วไป
ลงตัวไป 1 คู่ แต่โยเนี่ยสิ จะคู่ใคร

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด