[[ THE CAGE ]] . . กรงรัก . .
[5]
เสียงหวานครางกระเส่าดังลอดเรียวปากชุ่มที่ถูกเจ้าของขบกัดเสียจนเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ร่างชื้นเหงื่อด้านใต้ที่สั่นไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้นของชายหนุ่มเบื้องบนที่ไม่คิดออมแรง เนื่องด้วยความบีบรัดที่อุ่นร้อนอย่างที่ไม่มีใครมอบให้เขาได้ดีเช่นนี้มาก่อน และใบหน้างามที่เหยเกด้วยความกระสันระคนเจ็บปวดกำลังครอบงำสติทั้งมวลให้ขาดสะบั้น เผยตัวตนที่ดิบเถื่อนและรุนแรงที่มีเพียงนิชาเท่านั้นที่จะได้ประสบ
ดวงตาคู่โตชุ่มน้ำปรือปรอยมองร่างที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือกายของเขาอย่างหนักหน่วงราวกับไปอดอยากที่ไหนมา เซ็กส์ของเตชินท์หลังจากกลับจากคู่นอนคนอื่นมักรุนแรงเสมอ โดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าด้วยเหตุใด ราวกับอยากฝากฝังทุกความรู้สึกเข้าไปในกายของเขาโดยไม่ใส่ใจว่าเขาต้องการหรือไม่
“อ๊ะ... อา พี่ชิน... เบาๆหน่อยครับ”
เขารู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะแหลกคามือที่กำลังโอบอุ้มสะโพกบางเอาไว้แน่น ปลายนิ้วมือเรียวยาวนั้นจิกถ่างผิวกายของเขาจนขึ้นรอยแดง พร้อมกับฝังใบหน้ากับแผ่นอกขาวเนียนที่ชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อจนเป็นประกายล้อแสงไฟสีส้มสลัวบนหัวเตียง ทว่านอกจากชายหนุ่มไม่คิดจะผ่อนปรนแรง กลับใช้ริมฝีปากดุนดูดยอดอกสีสวยจนนิชาถึงกับต้องบิดกายเร่า รู้สึกได้ถึงความแข็งขึงของตัวตนเบื้องล่างที่เรียกร้องอยากปลดปล่อยเต็มที
“ฮึก! อื้ม...”
ใบหน้าหวานหงายรับจุมพิตดูดดื่มและเรียวลิ้นที่รุกล้ำเข้ามาอย่างช้าๆ เตชินท์ใช้ปลายลิ้นไล้ไปตามผนังด้านในริมฝีปากนุ่มอย่างยั่วเย้า พัวพันฉุดรั้งให้สติของร่างบอบบางที่สั่นสะท้านกระเจิดกระเจิงไกล พร้อมกับดูดซับความหวานภายในเสียจนนิชาต้องเป็นฝ่ายไล่ตามเรียวลิ้นนั้นเสียเองในยามที่เขาจะถอนจูบ
เตชินท์รู้ดีทุกอย่าง ว่าจุดไหนทำให้ร่างตรงหน้ารู้สึกดี
จุดไหนที่สามารถหลอมละลายลูกแมวน้อยของเขาได้รู้ดีว่าในยามสอดใส่คราแรก ยิ่งรุนแรง นิชาจะยิ่งบีบรัดอย่างต่อต้าน และเขานั่นล่ะที่จะทำให้ร่างกายอันไร้ที่ตินี้ยินยอมรับเรือนกายของเขาเข้าไปอย่างเต็มใจเอง และในวินาทีที่เสียงหวานร้องครางอย่างเรียกร้อง เขาจะรู้สึกเหมือนเป็นผู้กำชัยที่ได้เป็นเจ้าของครอบครองร่างตรงหน้าอย่างแท้จริง
“อืม... รัดแน่นดีจริง”
เสียงทุ้มต่ำที่สั่นพร่าและคำพูดที่ตรงไปตรงมาราวกับจะกลั่นแกล้งทำให้ผิวแก้มเนียนร้อนผะผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ทุกครั้งที่อีกฝ่ายจงใจกระซิบคำพูดลามกริมหูเช่นนี้ ร่างกายเบื้องล่างของเขาจะบีบรัดแน่นขึ้นทุกครั้งอย่างต่อต้าน และเตชินท์เองก็รู้ถึงความเป็นจริงข้อนี้ดี จึงมักทำให้เขาสะท้านอายระหว่างมีเซ็กส์ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
“พี่ชินน่ะ... แกล้งผมเรื่อย... อื้อ”
“พี่ไม่ได้แกล้งซะหน่อย พี่พูดความจริงต่างหากครับ... ดูซิ รัดแน่นซะจนพี่แทบขยับตัวไม่ได้แล้วเนี่ย”
นิชาเมินหน้าหนีไปอีกทาง หยดน้ำคลอเบ้าตาด้วยความอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี พยายามเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงร้องที่น่าอับอาย แต่เมื่อถูกสอดแทรกหนักเข้าก็เผยอริมฝีปากหลุดเสียงครางหวานหูออกมาให้เตชินท์ได้ฟังอีกครั้ง
ร่างบางตรงหน้าช่างเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน รสรักที่ปรนเปรอให้ทุกเช้าค่ำ ทว่าปฏิกิริยาของนิชาก็ยังคงเหมือนวันแรกที่ได้เป็นของกันและกัน นอกจากความหวาดกลัวที่ลดลงตามความคุ้นชินที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ทำให้เขาพึงพอใจในแบบที่ไม่มีใครเทียบได้เหมือนเดิม ไม่ว่าเขาจะผ่านใครมาไม่รู้กี่คน ก็ไม่มีใครเลยสักคนที่มีเรือนกายไร้เดียงสาอันแสนเร่าร้อนแบบนิชา
“ฮึก.. อะ อ๊า!”
เสียงหวานครางลั่นเมื่อชายหนุ่มจงใจฝังกายเสียดสีที่จุดกระตุ้นด้านใน ร่างกายชื้นเหงื่อไหวโยกไปตามแรงกระทั้น สติกำลังจะหลุดลอยไปตามแรงกฤษณาดำที่ครอบงำจิตใจ
--- ก่อนที่เสียงโทรศัพท์มือถือจะดังขึ้น ฉุดรั้งเขาเอาไว้ได้ทันเวลา“มีคนโทรมาแน่ะ... รับสิ”
เตขินท์เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของร่างเล็กที่วางอยู่บนหัวเตียงมายื่นให้คนที่อยู่ใต้ร่าง เรียวขาขาวนวลเนียนน่าฟัดที่พาดอยู่บนบ่าแข็งแกร่งทำให้ใบหน้าหวานขึ้นสีราวกับเพิ่งรู้สึกตัว รอยยิ้มหยักที่มุมปากปรากฏขึ้นบนใบหน้าดูดีอย่างนึกสนุก ก่อนที่มือใหญ่จะกดรับสายโดยไม่เอ่ยถามความเห็นจากเจ้าของโทรศัพท์
“สวัสดีครับ”
“ฮัลโหล... พี่นท พี่เป็นหวัดเหรอ? เสียงพี่แปลกๆนะ”
“อ้อ ผมไม่ใช่นทหรอกครับ”
ปลายสายเงียบไปชั่วครู่ ขณะที่นิชาพยายามคว้าโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของร่างหนาจนชายหนุ่มต้องกดย้ำจุดกระสันภายในกายอีกครั้งจนร่างเพรียวต้องเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงร้อง
“แล้วนั่นใครครับ? ก็ว่าอยู่ว่าเสียงแก่ๆชอบกล ไปเอาโทรศัพท์เครื่องนี้มาจากไหนล่ะ? หรือว่าขโมยมา?”
“ความคิดอกุศลจริงๆนะครับน้อง เอาว่าพี่เป็นเจ้าของของเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้ แบบนี้พอเข้าใจไหม?”
“ฟังดูเข้าใจยากนะครับ สำหรับคนจิตปกติน่ะ”
“น้องครับ รู้ไหมว่าผู้ดีน่ะเขามีสัมมาคารวะกับผู้หลักผู้ใหญ่”
“ก็ปกติแล้วผมไม่ค่อยเห็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพมาเหมาว่าเป็นเจ้าของคนอื่นสุ่มสี่สุ่มห้าน่ะสิครับ”
เสียงทุ้มติดตลกพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะดังลอดโทรศัพท์มาเสียจนนิชาฟันธงได้เลยว่าเป็นพนักงานประจำร้านของเขาเป็นแน่ เสียงหัวเราะลั่นปานฟ้าสะเทือนแบบนี้มีอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละ
“ไอ้หนู นายเป็นใครกัน?”
“ผมเหรอครับ? ผมชื่อเชษฐ์ จำชื่อของผมเอาไว้ให้ดีนะครับ... เพราะผมคิดว่าคุณคงได้พบกับผมในเร็ววันนี้”
อีกฝ่ายนิ่งไปชั่วครู่ ขณะที่เตชินท์กำลังนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจ อารมณ์ร้อนๆถูกขัดจังหวะด้วยเสียงโทรศัพท์เท่านั้นไม่พอ กลับถูกเด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาพูดจาวกวนกวนประสาทอีก ยิ่งเป็นเสมือนสะบัดน้ำมันลงบนกองไฟที่กำลังปะทุอย่างไรอย่างนั้น
“อ้อ ฝากถามพี่นทด้วยนะครับว่าวันนี้จะมาร้านรึเปล่า? พอดีผมเป็นห่วงน่ะครับก็เลยโทรมาถาม”
“ไม่ต้องห่วงหรอก... พี่นทของนายน่ะ อยู่กับฉันนี่ล่ะ”
“งั้นผมยิ่งต้องเป็นห่วงใหญ่เลย แค่นี้นะครับ”
ชายหนุ่มแทบบีบโทรศัพท์มือถือที่จู่ๆอีกฝ่ายก็วางสายไปให้แหลกคามือ เขาหันมามองร่างที่นอนทำหน้าไม่ถูกอยู่เบื้องล่างด้วยสายตาขัดเคืองใจ
“ไอ้เด็กกวนตีนนี่ใคร?”
“เชษฐ์ไงครับ”
“เชษฐ์บ้าอะไรคนไหนพี่ไม่เห็นเคยได้ยิน!”
“พี่ชินก็... ผมก็เคยเล่าให้ฟังแล้วไงว่ารับพนักงานใหม่มาคนหนึ่งชื่อเชษฐ์”
“ไอ้คนไร้มารยาทแบบนี้ ไล่มันออกไปเลยนะ”
“บ้าเหรอ น้องเขาทำมาตั้งหลายเดือนแล้ว แถมลูกค้าก็ชอบด้วย”
“ลูกค้าชอบแต่พี่ไม่ชอบ นทอย่าขัดใจพี่สิ พี่บอกให้ทำอะไรก็ทำ”
“แต่พี่ชินไม่มีเหตุผลเลยนะครับ จู่ๆจะให้นทไปไล่น้องเขาได้ยังไง น้องไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”
“นี่ต้องปกป้องกันขนาดนี้เลยเหรอ... ไม่ใช่แค่พนักงานในร้านรึเปล่าเนี่ย นท?”
สายตาแคลงใจที่มองตรงมา ทำให้อารมณ์หวามของผู้ถูกจับจ้องลดวูบไปในพริบตา ใบหน้างามบึ้งตึงพร้อมกับพยายามผลักร่างตรงหน้าให้ออกไปจากกาย
“ถอยไปนะพี่ชิน ไม่เอาแล้ว พูดกันไม่รู้เรื่องทีไรวกเข้าประเด็นนี้ทุกที”
“ไม่ถอย ตอบมาก่อน นี่นทกับไอ้เด็กนั่นมีอะไรกันจริงๆใช่ไหม?!”
“นี่พี่เป็นบ้าอะไรขึ้นมา!”
เพียะ!มือใหญ่สะบัดลงบนผิวแก้มเนียนของร่างที่นอนอยู่ด้านล่างทันควัน แม้จะไม่รุนแรงมากหรือแม้แต่จะขึ้นรอยแดง ทว่าผลของการกระทำก็ไม่แตกต่างกัน
หยาดน้ำใสที่หล่นวูบตรงริมหางตาทำให้ดวงตาคมเสมองไปทางอื่นอย่างไม่อาจทนมองได้ พร้อมกับเสียงเข้มที่เอ่ยดังและร่างสูงที่ผละถอยไปตามความต้องการของอีกฝ่าย
“อย่ามาขึ้นเสียงกับพี่สิ... พี่เคยบอกหลายครั้งแล้วไงว่าไม่ชอบ”
“แล้วอะไรที่นทเคยบอกพี่ชินว่าไม่ชอบ พี่ชินเคยปรับเพื่อนทบ้างสักครั้งไหม?”
เจอประโยคสวนด้วยเสียงเรียบๆเช่นนี้ขึ้นมา เตชินท์เองถึงกับสะอึก ในใจนึกหงุดหงิดไม่น้อยที่อีกฝ่ายต่อล้อต่อเถียง แต่เมื่อหันไปพบกับใบหน้าสวยที่มีน้ำตาหยดแหมะๆโดยที่เจ้าตัวไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้นหลุดให้ได้ยินก็ไม่อยากเอาความ คว้าร่างเล็กมากอดเอาไว้แล้วโยกเบาๆ
“พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ มือมันไวไปหน่อย”
“นทบอกหลายครั้งแล้วว่าให้เชื่อใจกันบ้าง สงสัยอะไรนทไม่ว่า โทรมาเช็คได้ตลอดเวลา นทอยู่ร้านทำงานอย่างเดียวพี่ชินก็รู้ แล้วทำไมถึงเอาเรื่องแบบนี้มาสงสัย มาโกรธแล้วลงไม้ลงมือกับนทอีก?”
“... ไม่รู้สิ ก็นทไปแก้ตัวให้เด็กคนนั้นนี่ พี่ก็ต้องสงสัยสิ”
“ก็อยู่ร้านเดียวกันมาตั้งเกือบครึ่งปีแล้ว ก็ต้องสนิทกันเป็นธรรมดา น้องเขาก็เป็นเด็กดี หาเงินส่งตัวเองเรียน ช่วยที่บ้านด้วย พ่อเขาก็ไม่มีแล้ว พี่จะให้นทใจร้ายไล่เด็กแบบนี้ออกจากงานได้ยังไงกัน”
“อืมๆ พี่ไม่พูดแล้วก็ได้ อย่างอนพี่นะ... เจ็บรึเปล่า?”
นิชาปรอยตาลงเมื่อฝ่ามือร้อนแนบลงบนแก้มเนียนใสไร้ริ้วรอยอย่างเบามือราวกับกำลังประคองหยดน้ำ ถามว่าเจ็บไหม? แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก สมัยเด็กๆมีเรื่องชกต่อยออกบ่อยไป ทว่าด้วยความที่เป็นเตชินท์ วินาทีที่ฝ่ามือนั้นวาดลงมา หัวใจของเขา --- ปริแตกไปก่อนที่แรงฟาดจะกระทบใบหน้าเสียอีก
“ไม่เจ็บหรอกครับ วันหลังก็คุมอารมณ์หน่อย... ถนอมนทบ้าง อย่าตีนท”
ปลายน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย แต่อีกฝ่ายก็พอจับความรู้สึกได้ เขารู้ตัวดีว่านี่เป็นข้อเสียอย่างหนึ่งของเขาที่ได้รับมาตั้งแต่เริ่มงานมาเฟีย เขาถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากหน้าหลากตา หากไม่เข้มแข็ง หากไม่เหยียบหัวคนอื่น ก็ไม่มีวันเป็นใหญ่เป็นโต สังคมแบบนั้นกัดกร่อนให้เขาเป็นคนเด็ดขาดและชอบใช้อำนาจ ปกติแล้วหากไม่พอใจอะไรก็จะสั่งสอนไว้เป็นบทเรียนอยู่เสมอ แต่ไม่คิดเลยว่าจะติดนิสัยแบบนั้นมาใช้กับนิชาไปด้วย
“อืม พี่รู้แล้ว ไม่โกรธพี่นะ”
“ครับ... ไม่เป็นไร นทไม่โกรธพี่หรอก”
ก็ในเมื่อคนตรงหน้าคือคนที่เขารักนี่นา ไม่ว่าจะถูกทำอะไรให้เจ็บปวดสักเพียงใด เขาก็ไม่เคยโกรธอีกฝ่ายได้นานไปกว่าเสี้ยวลมหายใจเสียที
คงจะเป็นกรรมที่เขาเคยทำไว้กับเตชินท์ตั้งแต่ชาติที่แล้วกระมัง ชาตินี้ถึงได้เกิดมาคอยรองรับอารมณ์ของชายหนุ่มเช่นนี้
ปลายสายนั้นคือคนเดียวกันกับที่โทรมาหานิชาในวันนั้นไม่ผิดแน่
เชษฐ์มั่นใจ พร้อมกับวางโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าที่เขาซื้อมาใช้ตั้งแต่หลายปีก่อนลงบนเคาน์เตอร์
อยากเห็นหน้าเหลือเกิน ชายคนนั้น
--- ชายคนที่ทำให้น้ำเย็นที่ไหลเอื่อยอย่างนิชา เดือดเป็นไฟและหลอมละลายกลั่นตัวเป็นหยดน้ำตาได้ในพริบตา
จะเป็นใครกันนะ?ร่างสูงหยักยิ้มมุมปาก เขามั่นใจว่าจะได้พบกับบุคคลนี้ในเร็ววัน
ไม่นานเกินรอแน่นอน
ชีวิตจริงๆของคนเรา ย่อมมีทั้งนิสัยที่ดีและร้าย
คนเลว ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเลย
ที่เขาพูดกันเสมอว่า "ผู้หญิงชอบคนเลว"
ที่จริงไม่ใช่หรอกค่ะ ผู้หญิงเพียงแค่ชอบใน"นิสัยที่ดี"บางอย่างของคนเลวต่างหาก ^^

ขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจค่ะ
รักทุกคนค่า จุ๊บๆ
