รักใสปิ๊ง
ตอนที่ (21) คลื่นแทรก“ว้าว ทะเลสีฟ้า นีออนมาแล้ว วู้ววว”นีออนน้อยวิ่งลงไปในทะเลที่มีคลื่นระลอกเล็กซัดขึ้นมา ท่าทางมีความสุขสุดๆกับการมาทะเลในครั้งนี้ โรงเรียนของนีออนกับอุ้มรักหยุดก่อนสอบเสียหลายวัน เด็กน้อยเลยขอให้พ่อกับแม่พามาเที่ยวทะเล พี่อุ่นกับพี่ไอไม่ได้หยุดจึงไม่ได้มาด้วย น้องแฝดเลยจะซื้อของไปฝาก
นีออนลงไปวิ่งในน้ำระดับตื้นๆ กระโดดหลบคลื่นระลอกเล็กแล้วหัวเราะ อุ้มรักถ่ายรูปพี่ชายแล้วส่งไปให้พี่ไทม์กับพี่น้ำดูด้วย นีออนมาดึงตัวแฝดน้องให้ลงน้ำไปด้วยกัน อุ้มบอกเดี๋ยวมือถือเปียก นีออนจึงวิ่งเอาไปฝากคุณแม่ที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ชายหาดกับคุณพ่อ มองดูเด็กๆเล่นน้ำกัน
“พี่อุ่นกับพี่ไอน่าจะได้มาด้วยกันเนอะ”
แฝดน้อยที่เล่นน้ำกันจนเหนื่อยขึ้นมานั่งเล่นบนหาดทราย ใช้กิ่งไม้แถวนั้นมาขีดๆเขียนๆเล่น แล้วคุยกันงุ้งงิ้งอยู่สองคน
“อือ ไว้คราวหน้าให้พ่อกับแม่พามาอีกสิ”
อุ้มรักเห็นด้วยก่อนเสนอแนะ แล้วร้องออกมาเมื่อน้ำทะเลกวาดรูปที่ตนเองวาดลงไปกับฟองคลื่นแล้ว นีออนหัวเราะน้องก่อนบอก
“คงได้หรอก พ่อเป็นห่วงสวนจะตาย ที่ได้มานี่ถือว่าปาฏิหาริย์สุดๆเลยนะ”
“เว่อร์”
อุ้มรักว่าอย่างนั้น พ่อเป็นห่วงสวนน่ะเรื่องจริง แต่ที่บอกว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่ได้มาทะเลน่ะนีออนเว่อร์เอง พอแดดเริ่มแรงมากขึ้น เด็กน้อยก็พากันลุกขึ้นจูงมือกันไปหาพ่อกับแม่แล้วพากันกลับที่พัก
น้องแฝดกลับมาถึงที่พักก็พากันอาบน้ำ เสร็จแล้วก็ลงมาข้างล่างเพื่อหาอะไรทานกัน ที่พักของน้องแฝดคือโรงแรมสุดหรูที่คุณแม่ดวงดีได้รางวัลจากการชิงโชคมาฟรีๆ อาหารการกินจึงดูดีตามไปด้วย นีออนกับอุ้มรักแยกกันไปคนละโซน นีออนตักอาหารคาว ส่วนอุ้มรักจองของหวาน เมื่อพอใจแล้วก็พากันไปนั่งทานที่โต๊ะ และเวลานี้เองที่ทำให้นีออนรู้สึกว่าการมาเที่ยวครั้งนี้คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม ผู้ชายตัวสูงผิวขาว ผมสีน้ำตาลซอยสั้นดูโดดเด่นมาแต่ไกลนั่นมัน...
“พี่ฟิว”
“หือ อะไรนะออน?”
นีออนพึมพำเหมือนเพ้อทำให้น้องอุ้มเอียงหูเข้าไปใกล้ พอพี่ไม่ตอบอุ้มรักเลยมองตามสายตาพี่ชายไป เห็นผู้ชายตัวสูงโย่ง ผมตัดสั้นแต่งทรงซะเท่กำลังมองมาทางนี้พอดี หน้าตาของนายคนนั้นก็เรียกได้ว่าดูดี แต่น้อยกว่าพี่น้ำนิดหนึ่งนะ
อุ้มรักหันมามองพี่ชายอีกทีก็ยังคงเห็นมองไปทางนายคนแปลกหน้านั่นอยู่ เด็กตัวกลมมีสีหน้าไม่เข้าใจพี่ชายเท่าไหร่ ไปรู้จักกันตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าถ้าพี่ไทม์รู้เข้าแย่แน่
ดูเหมือนแฝดน้อยจะคิดกันไปคนละทาง นีออนที่เอาแต่มองพี่ฟิวที่วันนี้มาในมาดหนุ่มวัยทำงานผูกไท สั่งการโน่นนี่ฉับไวดูแล้วเท่ชะมัด แต่น้องอุ้มกลับเข้าใจว่าแฝดพี่ปันใจให้คนแปลกหน้าเสียอย่างนั้น
พอทานข้าวกันเสร็จน้องแฝดจึงพากันไปเข้าห้องน้ำ เมื่อล้างไม้ล้างมือเสร็จนีออนก็ออกมารอน้องข้างนอก กลับออกมาอีกทีก็เห็นว่ามีคนยืนอยู่ก่อนแล้ว เป็นผู้ชายท่าทางจะอายุมากกว่านีออนอยู่สักปีสองปี นีออนยิ้มให้ตามมารยาทแล้วไม่สนใจอีก จนผู้ชายคนนั้นก้าวมาหยุดตรงหน้านีออนน้อยถึงได้เงยมองงงๆ สูงชะมัดเลยอ่ะ
“ชอบพี่เหรอ?”
“เอ๋?”
คำแรกที่หนุ่มแปลกหน้าพูดกับนีออนทำเอาเด็กน้อยถึงกับเอ๋อ มายังไงนี่?
“ก็เห็นเราเอาแต่มองพี่อยู่ตลอดเลย”
“หา???”
พี่คนนั้นขยายความ นีออนยิ่งงงหนักเลยทีนี้ มองตอนไหนกัน?
“ทำหน้างงอีก น่ารักนะเราเนี่ย”
จากที่งงงันตอนนี้ชักจะกลัวแล้วนะ ทำไมดูพี่เขาไม่ค่อยเต็มยังไงไม่รู้อ่ะ พูดเองเออเองด้วย
“ท่าทางพี่จะเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะครับ”
นีออนทำใจดีสู้เสือ พยายามใช้คำพูดที่จะไม่ทำให้พี่เขาโกรธ คล้ายๆเหตุการณ์แบบนี้จะเคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนนะ สายตาเป็นเหตุจริงๆเลยเรา
“พี่เห็นพี่ผู้ชายตัวขาวๆคนนั้นไหมครับ?”
นีออนชี้ให้ดูพี่ฟิวสุดหล่อในดวงใจที่เดินผ่านล็อบบี้โรงแรมไปที่ลิฟท์ นายตัวสูงมองตามที่นีออนชี้แล้วพยักหน้า
“อืม”
“ผมมองพี่เขา... ไม่ใช่พี่”
นีออนว่าเสียงเบา ก้าวถอยหลังไปสองก้าว กลัวพี่คนนี้จะงับหัวเอา เห็นพี่เขายืนอึ้งก่อนหันมามองนีออนที่รีบถอยกรูดไปเกาะผนังจะหาที่กำบังตัวแต่มันไม่มี พี่เขาเดินเข้ามาหา นีออนยิ่งตื่นตกใจใหญ่ ยังดีที่ได้เสียงเรียกของอุ้มรักช่วยเอาไว้
“ออน”
อุ้มรักมองพี่ชายงงๆ อะไรน่ะ ทำท่าแปลกๆ
“ขอตัวนะครับ”
นีออนบอก ยิ้มแหยให้พี่คนนั้นแล้วคว้าแขนน้องรีบเดินออกไป เดินออกมาได้ระยะพอที่จะพูดกันโดยที่ฝ่ายนั้นไม่ได้ยินอุ้มรักก็ถามพี่ชายทันที
“ตกลงออนรู้จักเขาเหรอน่ะ?”
“ไม่รู้ดิ จะไปรู้ได้ไง เพิ่งเคยเจอ” นีออนตอบไปส่งๆ
“เพิ่งเคยเจอแต่ออนเอาแต่มองเขาตลอดเลยนะ นี่... ออนอย่าบอกนะว่าออนปลื้มนายคนนั้นอีกแล้วน่ะ!?”
“เฮ้ย! ทำไมพูดเหมือนออนปลื้มคนเขาไปทั่วแบบนี้ล่ะ”
นีออนเอ่ยแย้งตาโต อุ้มรักหรี่ตามองอย่างจับผิดเต็มที่ แฝดพี่ออกจะรู้สึกกลุ้มกับตัวเองอยู่นะ มองคนหนึ่งแต่กลับกลายเป็นอีกคนเข้าใจว่าถูกมอง ไหนยังจะอุ้มรักที่คิดแบบนั้นอีก หรือเขาจะตาเหล่หว่า?
“อุ้มอ่ะ ออนไม่ได้ปลื้มนายคนนั้นนะ” นีออนว่างอนๆ
“แต่นายนั่นก็หน้าตาดีนะ” อุ้มรักก็ยังไม่ยอมจบเรื่อง
“หน้าตาดี แต่มันไม่ใช่ไง อืม ช่างนายนั่นเหอะ กลับไปที่โต๊ะดีกว่า ป่ะ”
ตัวเล็กตัดบทแล้วดันหลังน้องให้เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ พ่อกับแม่ยังทานข้าวไม่เสร็จเด็กน้อยจึงนั่งรอไปก่อน นายคนนั้นก็ยังมองมาที่โต๊ะของนีออนอยู่อีกทั้งที่บอกไปแล้วว่าไม่ใช่ นีออนเลยนึกไปถึงพี่น้ำตอนแรกๆที่เข้ามาหานีออนเพราะมั่นใจมากว่านีออนชอบตนเอง ทำให้นีออนน้อยเผลอหัวเราะออกมา
“อะไรอ่ะ?”
อุ้มรักเห็นว่าอยู่ๆพี่ชายก็หัวเราะขึ้นมาจึงกระซิบถาม คุณแม่มองน้องแฝดที่แอบซุบซิบกันแล้วหรี่ตานิดๆ นีออนน้อยเลยยิ้มกว้างขวางส่งไปให้คุณแม่ เพื่อบ่งบอกว่าตนเองไม่ได้นินทาใครนะเออ ก่อนหันมาซุบซิบกับน้องอุ้มเสียงเบา
“เปล่า ออนนึกถึงพี่น้ำอ่ะ”
“หือ?”
อุ้มรักเลิกคิ้วเชิงถาม นีออนจึงว่า
“ออนว่านายคนนั้นเหมือนพี่น้ำนะ”
นีออนพยักพเยิดไปที่นายคนหลงตัวเองคนนั้น แม้แต่ตอนนี้ยังมองมาทางเขาอีก อุ้มรักมองตามอย่างพินิจพิเคราะห์ตั้งแต่หัวจรดหาง เอ๊ย หัวจรดเท้าเพื่อหาความเหมือนอย่างที่นีออนว่า
“ตรงไหนกัน?”
น้องอุ้มยิ่งมองก็ยิ่งงงหนัก นายคนนั้นน่ะหรือเหมือนพี่น้ำ ความสูงก็ใกล้เคียงอยู่นะ แต่หน้าตานี่มาคนละแนวเลยอ่ะ นีออนเห็นน้องชายงงเลยเฉลยให้ฟัง
“ก็ตรงที่หลงตัวเองสุดๆเลยไงล่ะ เหมือนกันเด๊ะ!”
ว่าแล้วอุ้มก็นิ่งคิดแล้วขำตามพี่ชาย ก็จริงที่พี่น้ำหลงตัวเอง แต่คนเขาหน้าตาดีนี่เนอะ จะหลงตัวเองก็ไม่ผิดหรอก
หลังจากนั้นน้องแฝดก็อยู่เที่ยวอีกหนึ่งวันก่อนไปซื้อของฝากให้พี่อุ่นกับพี่ไอ มีเผื่อไปถึงพี่ไทม์กับพี่น้ำด้วย พอได้เที่ยวเล่นแล้วนีออนก็ลืมไป ไม่ได้สนใจนายหลงตัวเองคนนั้นอีก เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกแล้วต่อจากนี้
-------------
นักกีฬาโรงเรียนนีออนเริ่มซักซ้อมหนักขึ้นหลังสอบเก็บคะแนนกลางภาคเสร็จไป พี่ไทม์กับพี่น้ำที่อยู่ม.6 แล้วก็นำทีมฝึกน้องๆ ทิมที่ถูกอ้อนให้มาลงกีฬาบาสเกตบอลก็เป็นหนึ่งในทีมของพี่ๆด้วย พี่แอมที่เห็นเป็นคนง่ายๆ ขี้เล่นๆ แต่พออยู่ในสนามกลับกลายเป็นคนละคน จริงจังจนพี่ไทม์ต้องคอยดึงให้ผ่อนลงอยู่เรื่อยๆ กลัวรุ่นน้องจะกดดันจนเสียกำลังใจกันไปเสียก่อน
ช่วงพักกลางวันนีออนกับบิวตี้ไปจองโต๊ะที่โรงอาหารเอาไว้ ส่วนอุ้มรักกับเซียนไปสั่งข้าวให้ อุ้มรักเดินไปซื้อน้ำร้านข้างๆกัน จ่ายเงินแล้วจะเอาน้ำไปให้ที่โต๊ะแต่มันหลายแก้วเกิน จึงจะเดินไปก่อนรอบหนึ่งแล้วให้นีออนมาเอาที่เหลือ พอหันกลับก็เห็นแสตมป์กำลังเดินมา อุ้มรักหยุดยืนนิ่งเมื่อเผชิญหน้ากัน แสตมป์พยายามเลี่ยงที่จะไม่เจอเขามาตลอด แม้มันจะดีต่อตัวแสตมป์ แต่มันไม่ดีต่ออุ้มรักเลย คนที่คอยมากวนอยู่ทุกวัน พอวันหนึ่งเขาหายไปอุ้มรักก็รู้สึกว่ามันแปลก
“แสตมป์”
อุ้มรักเอ่ยทักแสตมป์ด้วยท่าทางเก้อๆ แสตมป์มองอุ้มรัก ก่อนจะเบือนสายตาไปมองแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะร้านขายน้ำแล้วหันมาถามอุ้มรักอีกที
“นั่นของอุ้มเหรอ?”
“เอ๋? อือ ใช่”
อุ้มรักตอบงงๆ ไม่คิดว่าแสตมป์จะพูดกับตนเอง ออกจะแปลกใจปนเปไปกับความดีใจที่เพื่อนยอมคุยด้วย
“ให้ช่วยไหม?”
คำถามพร้อมรอยยิ้มนั้นยิ่งทำให้อุ้มรักแปลกใจมากขึ้นไปอีก แสตมป์เห็นท่าทางเอ๋อเหรอของเพื่อนแล้วก็ยิ้ม อ้วนน้อยของเขายังน่าเอ็นดูไม่เปลี่ยนเลย
“ขอบใจนะ”
อุ้มรักยิ้มกว้าง แสตมป์มองเพื่อนด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป แม้จะยังไม่ทั้งหมด แต่มันก็ดีขึ้นกว่าเดิม แสตมป์ไปช่วยถือแก้วที่เหลือให้ แล้วทั้งคู่ก็เดินไปที่โต๊ะด้วยกัน พอไปถึงก็เห็นปิงมานั่งอยู่ก่อนแล้ว
“มานั่งเสนอหน้าอะไรอยู่ตรงนี้วะ ไปช่วยถือจานข้าวเลยไป”
แสตมป์วางแก้วน้ำลงบนโต๊ะแล้วสั่งปิงต่ออีกทอด ปิงลุกขึ้นเดินมาใกล้ท่าทางยียวน ก่อนกระซิบคนสั่ง
“สั่งจังนะ เดี๋ยวเหอะ”
แกล้งสะดุดให้ริมฝีปากเฉียดแก้มคนชอบสั่งนิดๆ พอให้หัวใจคนโดนแกล้งมันเต้นแรงขึ้นมานิดหน่อย
“ไอ้…”
แสตมป์ถลึงตาใส่คนทำเนียน ก่อนวาดขาเตะ ปิงหลบแล้วยิ้มกวน ยักคิ้วจึ้กๆให้แสตมป์ก่อนเดินผิวปากไปซื้อข้าวให้คุณชายแสตมป์ แสตมป์จิ๊ปากไล่หลังก่อนจะเดินตามปิงไปที่ร้านข้าว
“ดีกันแล้วเหรออุ้ม?”
นีออนที่มองสถานการณ์ตั้งแต่อุ้มรักเดินมากับแสตมป์เงียบๆเอ่ยถาม อุ้มรักยิ้มนิดๆก่อนบอก
“น่าจะนะ”
“อะไรเหรอ?”
เด็กสาวหน้าตาใสซื่อ ใส่แว่นสายตากรอบใหญ่ท่าทางคงแก่เรียนวางจานข้าวลงบนโต๊ะ ก่อนเอ่ยถามแทรกบทสนทนาของสองแฝดขึ้นมาแล้วนั่งลงข้างๆบิวตี้ ท่าทางจะสนใจเรื่องของชาวบ้านอยู่ไม่น้อยเลย
“ไม่ยุ่งเรื่องคนอื่นได้ไหมจ๋า เห็นหน้าตาซื่อๆนี่มันไม่ใช่เลยสินะ”
บิวตี้ปรายตามองเด็กแว่น จ๊ะจ๋า เพื่อนใหม่ในกลุ่มบิวตี้ เห็นท่าทางซื่อๆดีเลยคบเอาไว้ บิวตี้เธอว่าอย่างนั้น
“บิวตี้อ่า ก็เราอยากรู้” จ๊ะจ๋าแก้ตัวเสียงอ่อย
“อยากรู้ไปหมดนั่นล่ะจ๋า”
เสียงของเด็กผู้ชายอีกคนดังมาก่อนที่จะนั่งลงตรงข้ามกับจ๊ะจ๋า เด็กแว่นมองเจ้าของเสียงหน้างอ ก่อนเอ่ยเรียกชื่อต้องห้ามของเด็กผู้ชายคนดังกล่าว
“โบ๊เบ๊!”
“กล้าเรียกเราโบ๊เบ๊อยากโดนใช่มะจืด!”
เบย์ หรือบอมเบย์ เหวี่ยงกลับเมื่อเพื่อนเรียกชื่อแสนแสลงใจ นีออนหัวเราะ ก่อนจะเคาะโต๊ะเบาๆเป็นสัญญาณเริ่มยกที่หนึ่ง บิวตี้ทำหน้าหน่ายใจให้เพื่อนใหม่สองคนนี้ รู้สึกจะไม่ค่อยเต็มกันสักคน แต่ว่าก็จริงใจดีอ่ะนะ
ปิงกับแสตมป์และเซียนถือจานข้าวมาวางที่โต๊ะ ก่อนที่นายหวินจะโผล่มาท่าทางเหนื่อยหอบ ยกแก้วน้ำของอุ้มรักขึ้นดื่มทำให้เด็กน้อยร้องตาม เพราะอย่างนั้นหวินเลยโดนฝ่ามือพิฆาตของพี่น้ำที่เพิ่งมาถึงเบิ้ดกะโหลกเข้าให้ เพื่อนในโต๊ะเลยพากันหัวเราะกันใหญ่ที่เชี่ยหวินโดนตบ
ไทม์นั่งลงข้างนีออน เด็กตัวเล็กก็ยกแก้วน้ำอีกใบที่เตรียมไว้ให้พี่ ไทม์บอกขอบคุณก่อนจะถามเพื่อนที่ทยอยมากันจนครบว่าจะทานอะไรกันจะได้ไปสั่งเผื่อด้วย หวินก็ยังคงโวยพี่น้ำที่เบิ้ดหัวตัวเอง เลยแก้เผ็ดโดยการนั่งคั่นกลางระหว่างอุ้มรักกับพี่น้ำเสียเลย เฮอะ
---------------
การซ้อมบาสเกตบอลของโรงเรียนนีออนในวันต่อมาได้มีโรงเรียนในเครือมาร่วมซ้อม พี่ไทม์บอกว่าจะได้รู้แนวทางการเล่นของฝั่งตรงข้ามและแก้เกมได้ นีออนน้อยเลยสงสัยว่าถ้าฝ่ายเรารู้ว่าเขาเล่นแบบไหน ฝ่ายนั้นก็ต้องรู้ด้วยน่ะสิว่าเราเล่นแบบไหน ไม่เห็นเข้าใจ
“ถึงทางนั้นจะรู้ว่าเราเล่นแบบไหนแล้วอาจจะวางแผนมาแก้เกมของเราได้ แต่เราก็รู้แล้วนี่นาว่าเขาเล่นยังไง เราก็วางแผนตลบหลังเขากลับก็ได้ ถือว่าแฟร์ๆกันไปไงครับ”
ไทม์อธิบาย เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงักแต่แล้วก็บอกว่าไม่เข้าใจอยู่ดี ไทม์เพียงยิ้มขำน้องที่ท่าทางจะมึนเอามาก กวนล่ะสิไม่ว่า
“ออน นั่นนายคนนั้นนี่”
อุ้มรักสะกิดพี่ชายเมื่อนักกีฬาต่างโรงเรียนเดินเข้ามาในโรงยิม นีออนหันไปมองตามที่น้องอุ้มชี้
“หือ ใครอ่ะ?”
“คนนั้นไง ที่ตัวสูงๆใส่เสื้อสีส้มอ่ะ”
นีออนหรี่ตามองคนที่น้องบอก ผู้ชายเสื้อส้ม ตัวสูงๆ อืม... หน้าตาคุ้นๆนะ
“เขาเป็นใครอ่ะ?”
นีออนหันกลับมาถามน้อง อุ้มรักตาโตก่อนถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อ
“ออนลืมแล้วเหรอ?”
“เรารู้จักเขาเหรอ?” คนนี้ก็ยังมึนได้อีก ก็คนมันไม่รู้อ่า
“ฮื้อออ ก็คนที่ออนบอกว่าเหมือนพี่น้ำไง คนที่เจอที่ทะเลน่ะ จำไม่ได้เหรอ?”
อุ้มรักทำเสียงขัดใจพี่ชาย ก่อนจะอธิบายขยายความให้พี่นึกให้ออก นีออนเอียงคอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ร้องอ๋อ โลกกลมชะมัด
“อ๋อ จำได้ละ แล้วเขามาทำอะไรที่นี่ล่ะ?”
“ท่าทางคงเป็นหนึ่งในนักบาสฯของโรงเรียนนั้นแน่เลย”
อุ้มรักว่าตามที่ตนเองเข้าใจ ก็ตัวสูงขนาดนั้น แถมยังมากับโรงเรียนที่จะมาซ้อมบาสฯกับโรงเรียนนี้อีก ก็คงไม่ผิดหรอกอย่างนั้นน่ะ
“ซุบซิบอะไรกันครับน้องแฝด”
ไทม์ที่หันไปคุยวางแผนกันกับลูกทีม พอหันมาอีกทีเห็นน้องแฝดกำลังซุบซิบอะไรกันอยู่ไม่รู้จึงเอ่ยถาม
“พี่ไทม์เห็นนายคนนั้นป่ะ เสื้อส้มอ่ะ”
นีออนขยับเข้าไปหาพี่แล้วชี้ให้พี่ดู นายเสื้อส้มนั่นก็หันมาทางนีออนพอดี ทั้งยังส่งยิ้มมาให้น้องนีออนอีกต่างหาก ไทม์ย่นคิ้วแปลกใจก่อนตอบคำถามน้อง
“ครับ ทำไมเหรอ?”
“ตอนวันหยุดที่ออนกับอุ้มไปทะเล ออนเจอเขา”
“อือฮึ แล้วเขาทำอะไรนีออนหรือเปล่า?”
“เปล่า แต่เขามาขี้ตู่ว่าออนชอบเขาแหละ บอกว่าออนตามเขา แล้วก็มองแต่เขามาตั้งนานละ ทั้งที่ออนมองพี่ฟิ...”
มือเรียวรีบปิดปากแล้วมองพี่ไทม์ตาโต ไทม์หรี่ตามองยิ้มๆแล้วถาม
“มองใครนะ?”
“มอง...”
นีออนกลอกตาไปมา อยากจะหาทางเลี่ยง แต่มันก็จะเป็นการโกหกพี่ไทม์ด้วยนี่สิ เด็กน้อยเลยช้อนสายตามองพี่แล้วบอกเสียงอ่อย
“มองพี่ฟิวอ่ะ”
“เจอพี่ฟิวด้วย”
“อือ พี่เขาเป็นเจ้าของโรงแรมที่ออนไปพักล่ะ…”
นีออนพูดด้วยท่าทางตื่นเต้นกับเรื่องที่ได้รับรู้ แต่พอมองหน้าพี่เท่านั้นก็หยุดพูด
“พี่ไทม์โกรธป่ะครับ?”
“ไม่ครับ แต่พี่อยากรู้เรื่องนายเสื้อส้มนั่นมากกว่า”
ไทม์ยิ้มให้น้อง ไม่ได้โกรธหรอกเรื่องพี่ฟิวน่ะ เรื่องนายเสื้อส้มที่รออยู่ตรงหน้านี่สำคัญกว่า ไทม์จ้องมองนายคนนั้นเขม็ง ดูท่าเจ้าตัวเขาก็จะรู้ตัวอยู่ว่าถูกมอง เพราะรอยยิ้มกวนอารมณ์ที่ส่งมานั่น
โค้ชของทั้งสองโรงเรียนให้แบ่งทีมโดยผสมสองโรงเรียน ไทม์ได้อยู่ทีมตรงข้ามกับนายเสื้อส้มที่รู้ชื่อตอนโค้ชเอ่ยเรียกว่าชื่อวี พอนายวีรู้ว่านีออนเรียนโรงเรียนนี้ด้วยก็รู้สึกว่ามันคือพรหมลิขิต ยิ่งเห็นว่ามีองครักษ์คอยคุมอยู่แบบนี้ยิ่งดูท้าทายเข้าไปอีก อะไรที่ได้มายากมักมีคุณค่าเสมอ และด้วยนายวีเป็นเด็กต่างโรงเรียน หน้าตาก็ดูดีอยู่ทำให้นายวีคนนี้ได้รับเสียงเชียร์จากสาวๆในโรงเรียนของน้องแฝดอยู่ไม่น้อย แฟนคลับพี่ไทม์มีการแอบปันใจให้นายคนนั้นไปเสียด้วย
พอถึงตอนซ้อมก็ดูเหมือนนายวีจะจงใจเข้าชนไทม์อยู่ตลอด แต่ไทม์ก็ใจเย็นมากพอทำให้ไม่มีเรื่อง ทั้งที่น้ำกับแอมร่ำๆว่าอยากจะเข้าไปสกัดดาวรุ่งมันให้จอดคาที่สักที พากันเล่นขี้โกงสุดๆเลยนี่หว่า
หลังจากที่ซ้อมเสร็จ พอจะกลับวีก็เข้ามาหานีออนที่ลงจากอัฒจันทร์มายืนอยู่กับพี่ไทม์ ไทม์ก้าวมาข้างหน้าเบี่ยงตัวกันน้องไว้ วีมองรุ่นพี่ต่างโรงเรียนอย่างท้าทาย ก่อนหันไปหานีออนน้อยที่ยืนเยื้องอยู่ข้างหลังไทม์
“ถึงตอนนี้น้องนีออนอาจจะไม่ได้ชอบพี่ แต่พี่จะทำให้เราชอบพี่ให้ได้”
คำพูดและสีหน้าท่าทางมั่นอกมั่นใจของวีทำให้ทุกคนในที่นั้นฮือฮากันใหญ่ ไทม์ออกจะอึ้งไปกับการออกตัวล้อฟรีของวี สายตาของรุ่นพี่อย่างไทม์จ้องปะทะกับนายวีไม่มีหลบ นีออนเกาะแขนพี่ไทม์ที่ยืนอยู่ด้านหน้าแล้วมองนายหลงตัวเองนั่นด้วยความไม่เข้าใจ ทั้งที่รู้อยู่ว่าเขากับพี่ไทม์เป็นอะไรกันยังจะมาบอกว่าจะทำให้เขาชอบอีก บ้าไปแล้ว
“ยังไงผมก็ไม่มีทางชอบพี่หรอก ผมเป็นแฟนพี่ไทม์ แล้วก็ชอบพี่ไทม์คนเดียวด้วย”
นีออนน้อยบอกอย่างมั่นใจ ไทม์ถึงกับยิ้มกว้างกับคำพูดน้อง นายวียักไหล่ไม่ยี่หระต่อคำพูดนั้นของนีออนแล้วว่า
“อย่าเพิ่งมั่นใจไป”
“มั่นใจมากไปก็ไม่ดีนะน้อง”
ท่าทางกวนๆนั้นคงไปกระตุ้นต่อมพี่น้ำเข้าเลยขอแทรกสักนิด วีเหลือบมองคนพูดแค่หางตา เท้าพี่น้ำแทบกระตุก รู้เสียบ้างนะว่านี่ถิ่นใคร เท้าหลายคู่นะเว้ยจะบอกให้
“อย่าเผลอละกัน”
นายวีทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วก็เดินจากไปพร้อมกับเหล่าผองเพื่อนนักบาสฯ ไทม์มองตามรู้สึกไม่ค่อยพอใจนายวีสักเท่าไหร่ ทำไมศัตรูหัวใจเขามักเป็นเด็กรุ่นน้องอยู่เรื่อยๆนะนี่
“น่าต่อยปากแตก” นี่ก็อีกหนึ่ง เซียนก้าวมายืนข้างไทม์ก่อนเปรยอย่างใส่อารมณ์เล็กน้อยถึงปานกลาง
“เฮ้ย! ใจเย็นก่อนไหมน้องเซียน?” ไทม์เอ่ยปรามกลั้วหัวเราะ
“เฮอะ มัวแต่ใจเย็น คิดว่าตัวเองหน้าตาดีแล้วนีออนจะเปลี่ยนใจไม่ได้รึไง?”
เซียนลอยหน้าว่ากวนๆ ไทม์เพียงแต่ยิ้มให้เท่านั้น เป็นน้ำเสียอีกที่เข้ามาจัดการน้องเซียนตัวแสบแทนเพื่อน
“เอาเมียมึงไปเก็บไปแอม”
คำว่าเมียของพี่น้ำเล่นเอาน้องเซียนคอแข็ง หันกลับมามองคนพูดด้วยแววตาวาววับ น้ำยิ้มเยาะหน่อยๆทำให้เซียนอยากจะมอบคำด่าใส่หน้าให้ด้วยความรักล้นเหลือ
“สะ...”
แอมรีบปิดปากน้องเซียนตัวแสบก่อนที่สิงห์สาราสัตว์จะได้เดินเพ่นพ่าน แล้วลากน้องเซียนออกไปด้วยกัน คนรอบข้างพากันมองยิ้มๆ คู่นี้มันน่ารักแบบแปลกๆดีนะ
เมื่อแอมเพื่อนรักจัดการพาน้องเซียนไปแล้ว ไทม์ก็หันมามองน้องนีออนน้อยที่ดูไม่ได้เดือดร้อนกับเรื่องที่นายวีอะไรนั่นมาประกาศว่าจะแย่งน้องไปเลยสักนิด แถมคำพูดที่น้องตอกกลับหมอนั่นไปยังได้ใจเขามากๆเลยด้วย หึ นีออนเป็นของเขา ใครหน้าไหนก็อย่าหวังมาแตะ!
ทางด้านแฟนคลับพี่ไทม์ที่แอบปันใจไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนรีบหักหลบแทบไม่ทัน ย้อนกลับมาอยู่ข้างพี่ไทม์เหมือนเดิม พากันเขม่นนายคนนั้นเอาไว้แล้วเรียบร้อย หนอย~ บังอาจมาประกาศศึกกับพี่ไทม์ถึงที่ กล้ามากไปแล้ว!
ทิมเดินหงุดหงิดเข้ามาในโรงยิม บอกพี่ๆว่าขอซ้อมให้หนักเลยได้ไหม อยากอัดปากไอ้เชี่ยพวกนั้น ไทม์ถามน้องว่ามีอะไรเกิดขึ้น ทิมเลยว่าพวกนั้นมายุ่งกับกร พอพูดแล้วก็ยิ่งโมโห กรจับแขนเอาไว้ทิมก็หันไปส่งสายตาเคืองขุ่นให้ แต่กรก็จับไม่ยอมปล่อยทำให้ทิมอ่อนลง ก่อนพากันไปห้องอาบน้ำนักกีฬาเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับบ้าน
“ทิม เดี๋ยว... เดี๋ยวมีคนเห็น”
เสียงห้ามปรามของทิวากรดังลอดมาจากห้องอาบน้ำของนักกีฬาโรงเรียน เจ้าของเสียงพยายามอย่างยิ่งที่จะเบี่ยงหลบคนที่คอยคลอเคลียนัวเนียไม่ห่าง
“เฉยไว้กร”
ทิมกระซิบบอกแกมสั่ง กดจูบริมฝีปากเพื่อนซ้ำๆ อยากใช้ลิ้นแต่สถานที่ไม่อำนวยให้เลยเถิดสักเท่าไหร่ จึงทำได้แค่เลาะเล็มภายนอกเท่านั้น เมื่อพอใจแล้วจึงลดความหนักหน่วงลง กรแตะแก้มเพื่อนที่อยู่ใกล้เพียงลมหายใจกั้นก่อนถาม
“หายโมโหยัง?”
“ใกล้ละ อีกนิดนึง”
ทิมบอกเท่านั้นก็ตั้งท่าจะเริ่มจูบใหม่อีกรอบ จนกรต้องรีบหยุดไว้
“พอก่อน ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับบ้านกันนะ”
ทิวากรก้มหน้าน้อยๆแล้วช้อนตามองก่อนเอ่ยอ้อน เท่านี้ทิมก็ไปไหนไม่รอดแล้ว ทิมหอมแก้มเพื่อนอีกทีแล้วถึงเข้าห้องอาบน้ำไป กรถอนหายใจโล่งอกแล้วออกไปรอข้างนอก
‘เกือบไปแล้ว ไอ้กรเอ๊ยยยย’
TBCขอบคุณทุกท่านค่ะ ยังบวกไม่ได้ ติดไว้ก่อนเน้อ 
ตาลายอ่ะ ตรวจคำผิดไปรอบเดียว ถ้าเห็นตรงไหนผิดอีกช่วยบอกด้วยนะคะ 
ส่วนตอนหน้า... ทิมxกร จัดไปค่ะ 