รักใสปิ๊ง
ตอนที่ (23) ชัยชนะที่ขาวสะอาด
กรกับทิมออกมาสมทบกับเพื่อนๆที่หน้าโรงยิม พี่ไทม์กับพี่คนอื่นๆพากันไปอาบน้ำและเปลี่ยนชุดกันอยู่ ฟลุคเพื่อนในกลุ่มทิมที่มาดูการซ้อมของเพื่อนด้วยเห็นกรดูเจี๋ยมเจี้ยมแปลกๆเลยเอ่ยแซว
“ปากเจ่อ โดนหมาที่ไหนกัดปากมาเหรอวะ?”
พอถูกทักมาแบบนั้นกรก็เผลอตัวหันขวับไปมองทิม ทำให้เพื่อนพากันมองตาม ทิมทำสีหน้าประหลาดที่เพื่อนกรหน้าตาตื่นหันมามองตนเอง
“ถ้าคนเขาไม่รู้ ก็จะรู้เพราะกรหันมามองเราเนี่ยแหละ”
กรตาโตยิ่งกว่าเดิมเมื่อทิมพูดจบ หันไปมองรอบด้านเห็นแต่ละคนมองมาด้วยสายตาล้อเลียนแล้วก็หน้าแดง ก่อนจะหันไปไล่เตะฟลุคที่กำลังกุมท้องตัวงอเพราะกลั้นขำ
“เชี่ยฟลุคคคค มึงทำกูอาย แม่งงง”
“ว้าก!!!”
สองเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดไล่เตะกันไป น้องแฝดที่พอรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็พากันหน้าแดงเพราะเขินแทน ไทม์กับน้ำออกมาจากห้องแต่งตัวแล้วมารวมกับน้องๆที่หน้าโรงยิม มองสถานการณ์ที่แสนวุ่นวายขำๆ เห็นน้องแฝดท่าทางแปลกๆเลยเอ่ยถาม
“เพื่อนเขาไล่เตะกัน ไหงเราสองคนถึงหน้าแดงล่ะนั่น?”
นีออนน้อยหัวเราะเขินๆ ก่อนกระตุกแขนพี่ไทม์ให้โน้มตัวลงมาแล้วกระซิบบอก พอบอกพี่แล้วยิ่งเขินกว่าเดิมอีก ไทม์มองน้องแล้วยิ้มเอ็นดู ก่อนกระซิบคืนให้น้องหน้าแดงมากขึ้นไปอีก
“แล้วนีออนอยากลองโดนกัดดูหน่อยไหม?”
“พี่ไทม์อ่ะ ทะลึ่ง”
พอเห็นน้องหน้าแดงไทม์ก็หัวเราะหึๆ ก่อนจะเลิกเล่นแล้วชวนน้องกลับ
“กลับบ้านเถอะ”
“อื้อ”
ทุกคนค่อยทยอยกันออกไปแล้ว ไทม์กับนีออนถึงเดินตามไป นีออนหันไปเรียกน้องที่เดินรั้งท้ายเพื่อนก่อนเดินคุยเล่นกับพี่ไทม์ไปตามทางเดิน
“พี่น้ำ” อุ้มรักที่เดินอยู่ข้างพี่น้ำเอ่ยเรียก
“ครับ”
“วันนี้เท่มากเลย” เด็กตัวกลมยิ้มบอกชมเชยพี่น้ำเต็มที่
“แฟนอุ้มซะอย่าง”
น้ำบอกแล้วทำยืด อุ้มรักหัวเราะขำ ก่อนรีบก้าวให้ทันพี่ชายอย่างนีออนที่รุดหน้าไปไกลแล้ว โดยที่ไม่รู้ว่าการหยอกล้อของตนเองกับพี่น้ำจะไปกระทบใจใครเข้า
นาขวัญมองตามกลุ่มแก๊งของน้องแฝดไป โดยเฉพาะแฝดคนน้องอย่างอุ้มรักที่เดินเคียงข้างน้ำ มองแล้วก็ทอดถอนใจหนักๆ พื้นที่ข้างๆกายน้ำมีใครอีกคนจับจองไปแล้ว นั่นมันเคยเป็นที่ของเธอ เป็นที่ของเธอ... ไม่ใช่ของอุ้มรัก
---------------
“ไอ้เบื้อกเอ๊ย! เล่นภาษาอะไรของแกวะ อยากเด่นนักเหรอ จะเล่นลูกดั๊งค์ ไอ้เชี่ย ดูสถานการณ์บ้างเหอะว่ามันทำได้ไหม มีโอกาสชู้ตไม่ชู้ต แม่งเอ๊ย!!”
เสียงเอะอะเอ็ดตะโรของแอมดังไปทั่วทั้งโรงยิม คนถูกเอ็ดพากันหน้าเจื่อนไปตามๆกัน วันนี้โรงเรียนน้องแฝดก็ยังต้องฝึกซ้อมบาสเกตบอลกับโรงเรียนของนายวีอยู่เหมือนเคย เซียนที่ดูพี่แอมอยู่ข้างสนามทำหน้าหน่ายใจ ลงสนามหน่อยไม่ได้เลยนะ องค์ลงตลอด
“พี่แอม ใจเย็น” รุ่นน้องในทีมบอกรุ่นพี่ที่ทำหน้าราวจะงับหัวคนอื่นเข้าไปอยู่แล้วให้ใจเย็นลง
“เย็นได้ยังไงวะ มึงดูมันเล่นดิ๊ อ่อนขนาดนี้”
“แล้วมึงจะไปเดือดร้อนทำไม นั่นมันคู่แข่งเรา” น้ำเดินเข้ามาตบกบาลเพื่อนหนึ่งที เรียกสติเสียบ้าง
“ก็มันขัดใจนี่หว่า กูล่ะอยากไปฝึกพื้นฐานให้มันใหม่จริงๆเลยเชี่ย”
แอมยังบ่นต่อ ทีมจากอีกโรงเรียนที่ถูกแอมดุค่อยแอบย่องแยกไปคนละทาง รุ่นพี่โรงเรียนนี้น่ากลัวฉิบ!
“เอาน่า เดี๋ยวมันก็กลับไปฝึกกันเองล่ะ เล่นต่อๆ”
ไทม์ตบบ่าเพื่อน ก่อนดันให้ลงไปเข้าประจำที่ของตัวเอง เมื่อหมดเวลาพักแล้วเกมจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง
ทีมบาสฯของโรงเรียนน้องแฝดมีพี่นาขวัญเพื่อนของพี่น้ำเป็นผู้จัดการทีม แล้วก็มีเพื่อนผู้หญิงอีกคนคอยช่วย หนุ่มๆในทีมก็ดูจะกระตือรือร้นกันดีที่มีสาวน้อยน่ารักมาคอยดูแล นาขวัญดูเป็นผู้หญิงหวานๆ แต่เอาเข้าจริงกลับห้าวกว่าที่คิด ตะคอกเพื่อนที่เป็นนักกีฬาบาสฯแต่ละทีนี่มีหัวหดกันบ้างล่ะ
อุ้มรักกับนีออนมาดูพี่ๆซ้อมอยู่ทุกวัน นายวีก็มาคอยเกาะแกะนีออนอยู่ทุกวันเหมือนกันทำให้เด็กน้อยไม่ค่อยอยากมาเท่าไหร่ กลัวพี่ไทม์จะหงุดหงิดตามทิมที่ตอนนี้รู้สึกจะอารมณ์ร้อนยิ่งกว่าที่เคย เกือบมีเรื่องกับนายหน้าปลาบู่ที่ทิมตั้งชื่อให้ตามใจตัวเองนั่นแล้ว
“ถ้ามึงหล่อกว่าพี่กูเมื่อไหร่ ค่อยมาจีบแฟนกู ไอ้สาด!”
ช่างเป็นถ้อยคำที่ทำร้ายจิตใจนายปลาบู่ยิ่งนัก ให้หล่อกว่าไทม์ เพอร์เฟคแมน ถ้าไม่ศัลยกรรมทั้งสารร่างก็คงต้องไปเกิดใหม่แล้วล่ะนั่น
ทั้งสองโรงเรียนซ้อมก่อนแข่งด้วยกันเพียงสัปดาห์เดียว เพื่อเก็บรายละเอียดการเล่นของแต่ละฝ่าย และพัฒนาตัวเองให้เท่าทันกัน หลังจากนั้นนอกจากโค้ชที่มีอยู่แล้วทีมของโรงเรียนน้องแฝดก็มีรุ่นพี่ที่จบไปแล้วมาช่วยฝึกซ้อมให้อีกทางด้วย ช่วยดูจุดด้อยของทีมและเสนอแนะวิธีการปรับปรุงการเล่นเป็นรายบุคคลไป เพราะโรงเรียนของน้องแฝดเพิ่งได้แชมป์ปีที่ผ่านมา มีคู่แข่งที่สูสีกันมากอีกโรงเรียนหนึ่ง ซึ่งผลัดกันได้แชมป์มาตลอด ปีที่ผ่านมาโรงเรียนน้องแฝดได้แชมป์ไปแล้ว ปีนี้โรงเรียนนั้นก็คงจะฝึกซ้อมกันอย่างหนักเพื่อมาโค่นแชมป์แน่ จุดประสงค์ของทีมบาสฯในเวลานี้คือรักษาแชมป์เอาไว้ให้ได้ ต้องเป็นแชมป์สองสมัยให้พวกนั้นเห็นเป็นบุญตา แค่นึกถึงเวลาแข่งขึ้นมาเลือดนักกีฬาก็สูบฉีดแล้ว!
เมื่อวันแข่งกีฬามาถึง สถานที่จัดการแข่งขันคือสนามกีฬาประจำจังหวัด วันเปิดงานทุกคนไปร่วมงานรวมทั้งกองเชียร์ จับฉลากแบ่งสายการแข่งขัน วันแรกยังไม่มีแข่งบาสฯน้องแฝดก็พากันไปเชียร์วิ่งผลัดกัน ลุ้นกันจนตัวโก่ง ยิ่งระยะทางที่ไกลมากขึ้นน้องแฝดยิ่งพากันรู้สึกเหนื่อยแทน ขนาดแค่ร้องเชียร์อยู่ข้างสนามยังเหนื่อยเลยอ่ะ นักกรีฑาโรงเรียนเราสุดยอด
สำหรับการแข่งบาสเกตบอล ทีมโรงเรียนน้องแฝดกับโรงเรียนนายวีจับได้คนละสาย ทำให้ไม่ได้เจอกันในแมทแรกๆ และโรงเรียนนายวีก็เข้ามาไม่ถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ทีมของโรงเรียนน้องแฝดผ่านเข้ารอบชิงมาได้อย่างเฉียดฉิว ทำให้ได้มาพบกับโรงเรียนคู่แข่งที่หมายมั่นปั้นมือกันมา
ในครึ่งแรกที่ลงสนามดูทุกคนยังจับทางไม่ค่อยได้ เพียงแต่เล่นไปตามแผนที่วางไว้เท่านั้น แต่พอเล่นไปได้สักพักก็เริ่มดีขึ้น คะแนนที่ถูกนำไปก่อนนั้นก็สามารถตีตื้นขึ้นมาได้ พอใกล้หมดครึ่งแรกทีมของไทม์ก็บุกกันเต็มที่ ขอคะแนนตุนไว้มากหน่อยก็ดี ไทม์บุกเข้าไปใต้แป้น ขณะที่น้ำเป็นคนครองบอล ฝั่งนั้นเล่นแรงจนต้องระวังตัว เพราะบางทีเจ็บแต่ไม่ล้มกรรมการไม่เห็นก็ไม่ได้ฟาล์วอยู่ดี
น้ำใช้สายตากวาดมองรวดเร็วเมื่อจะทำการส่งต่อลูกบอล ตอนนี้เขาโดนสกัดทั้งสองด้านแล้ว ลูกบอลถูกส่งต่อให้บิ๊ก รุ่นน้องในทีมที่การถูกประกบมีช่องโหว่ บิ๊กเลี้ยงลูกหลบแล้วส่งต่อให้แอม เกมเดินอย่างรวดเร็วและต้องทำเวลา แอมกระโดดชู้ตแต่โดนบล็อค ลูกกลับไปที่ฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง แต่ไทม์ตัดบอลกลับมาได้และชู้ตอีกครั้ง ฝ่ายตรงข้ามโดดสูงพอกัน กระแทกตัวไทม์จนร่วงลงไป ลูกที่ถูกส่งไปกระเด็นออกนอกห่วง ก่อนเสียงนกหวีดของกรรมการจะดังตามมาติดๆ
ปรี๊ดดด
“ฟาล์ว เบอร์3 ทีมA ผลัก”
เสียงเฮของฝั่งไทม์ดังขึ้นมาพร้อมเสียงโห่ของอีกฝั่ง ไทม์ที่ถูกกระแทกจนลงไปกองบนพื้นขยับลุกเพื่อที่จะโยนลูกโทษ แต่พอขยับกลับรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้า น้ำเข้ามาส่งมือให้เพื่อนจับลุก ไทม์กัดฟันกลั้นความเจ็บลุกขึ้นมาราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น รอบสนามกำลังจับตาดูเขาอยู่ เด็กหนุ่มลุกขึ้นมาชู้ตลูกโทษลงไปอย่างง่ายดาย จบเกมแรกทีมของฝั่งนั้นนำอยู่เพียงสามคะแนนเท่านั้น แต่ก็ยังอยู่ในระยะที่ไม่น่าไว้วางใจ ต้องรีบทำแต้มคืนโดยเร็ว
“ไม่ไหวหรอกไทม์ ขาเจ็บแบบนี้เดี๋ยวมึงจะแย่เอานะเว้ย!”
เสียงของน้ำดังขึ้นเมื่อได้เวลาพักก่อนลงแข่งครึ่งหลังแล้วเห็นว่าเพื่อนข้อเท้าพลิกจากการกระแทกของฝ่ายนั้น
“ไม่เป็นไร กูยังไหว โอ๊ย...!”
ไทม์ที่กำลังจะยืนยันกับเพื่อนต้องร้องออกมา เมื่อรุ่นพี่คนหนึ่งในทีมที่มาช่วยฝึกซ้อมให้นั้นจับข้อเท้าไทม์ดึงให้กลับเข้าที่ไม่ทันให้ไทม์ได้ตั้งตัว น้องแฝดกับเพื่อนลงมาจากอัฒจันทร์พอได้ยินเสียงพี่ไทม์ร้องก็รีบแทรกเข้ามาดูอาการ
“พักเถอะไทม์ ให้น้องมันลง” พี่แฮค รุ่นพี่ที่มาเป็นผู้ช่วยโค้ชเอ่ยบอกเมื่อดูอาการแล้วน่าเป็นห่วง หน่วยปฐมพยาบาลก็ทำหน้าที่นวดข้อเท้าให้
“ผมยังไหวครับพี่ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายในการแข่งระดับม.ปลายแล้วนะพี่ ให้ผมลงเถอะ” ไทม์เอ่ยบอกสีหน้าจริงจัง
“ขามึงเดี้ยงขนาดนี้แล้วนะเชี่ยไทม์ จะมาทำเท่อะไรเอาตอนนี้วะ นีออนช่วยพูดกับมันทีสิ”
น้ำทั้งเป็นห่วงเพื่อนทั้งหงุดหงิดที่เพื่อนไม่ยอมฟังจึงโยนไปให้นีออนน้อยที่ยืนตาแป๋วอยู่ใกล้ๆ ทุกคนหันไปมองนีออน เด็กตัวเล็กเหลียวมองสายตากดดันรอบๆแล้วว่า
“เขาอยากทำอะไรก็ให้เขาทำเถอะครับ”
“นีออน…” คำพูดนั้นของน้องทำให้ไทม์อึ้ง เมื่อตีความหมายไปในทางที่ไม่ดีเสียแล้ว
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ที่ออนพูดเพราะออนจะเอาใจช่วยต่างหากนะ” นีออนเดินเข้ามานั่งข้างๆแล้วยิ้มบอก ทำให้ไทม์ถอนหายใจโล่งอก
“โธ่ เล่นเอาพี่ใจหายวูบ”
นีออนจับมือพี่ขึ้นมา มองพี่ด้วยแววตาและรอยยิ้มเชื่อมั่น
“ออนเชื่อว่าพี่ไทม์ทำได้ แต่ถ้าไม่ไหวยังไง... ออนรออยู่ตรงนี้นะ”
ไทม์มองน้องอย่างขอบคุณ วันนี้นีออนน้อยของเขาช่างมีความเป็นผู้ใหญ่และเข้าใจเขาเสียจริง เขาอยากแข่ง ไม่อยากทิ้งมันไปกลางคันแล้วมาเสียใจทีหลัง
“ขอบคุณนะ”
“โหย กูว่าพลังใจเต็มเปี่ยมขนาดนี้ใครก็เอาไม่อยู่แล้วว่ะ”
เพื่อนในทีมแซวมาทำให้ทุกคนพากันหัวเราะตาม นีออนเกาท้ายทอยเก้อๆ โค้ชมองเด็กๆที่มีความมุ่งมั่นแล้วก็พยักหน้าให้พี่แฮคจัดการ
“เอ้า! เอาเถอะ ทำให้เต็มที่ละกัน ไม่ต้องกดดันตัวเองมาก อีกอย่างนะ ฝ่ายนั้นคงเห็นแล้วล่ะว่าไทม์เจ็บ เพราะฉะนั้นเลี่ยงการปะทะรุนแรงทุกรูปแบบ ถ้าไม่ไหวแอมกับน้ำและพวกน้องๆมันยังรออยู่ โอเค้?” พี่แฮคปิดท้ายประโยคเชิงถามไทม์
“โอเคครับ ขอบคุณพี่แฮค”
ไทม์ยิ้มให้พี่แฮค แล้วไหว้ขอบคุณทั้งโค้ชทั้งพี่แฮคที่ให้โอกาสเขา เสียงสัญญาณเริ่มการแข่งขันดังขึ้นอีกครั้ง ทุกคนลุกขึ้นเตรียมพร้อม รอบสองนี้ทั้งทีมไทม์และฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยนตัวคนเล่นฝ่ายละสอง ทีมของไทม์ให้ทิมกับเซนลงเล่นแทนบิ๊กกับเนสที่สลับสับเปลี่ยนกับคนอื่นมาตลอดเกมในช่วงแรกและคงเหนื่อย
ไทม์ลุกขึ้นขยับเท้าเตะไปมา รู้สึกแปลบๆบ้างแต่ยังพอไหว นักกีฬาทุกคนกำลังจะก้าวลงสนามแข่งอีกครั้ง เสียงเชียร์เสียงกรี๊ดดังต้อนรับ ไทม์ก้าวออกไปก่อนหยุดเท้าแล้วหันมาหาน้อง นีออนเลิกคิ้วมองพี่งงๆเมื่อพี่กวักมือเรียก เด็กน้อยเดินไปหาพี่ ไทม์โน้มตัวลงจุ๊บปากน้องเร็วๆบอกขอกำลังใจ เสียงเป่าปากแซวดังมาอีกระลอก นีออนก้าวถอยออกมาเมื่อพี่เดินเข้าไปในสนาม น้ำที่เห็นเพื่อนทำได้เลยเอาบ้าง
“อิจฉาว่ะ ขอแบบนั้นบ้างสิน้องอุ้ม”
“หืม”
อุ้มมองพี่น้ำรู้ทัน ก่อนเขย่งเท้าให้สูงขึ้นแล้วหอมแก้มพี่เบาๆ น้ำบอกมีกำลังใจขึ้นมากโข
“ชื่นใจ ชนะแน่ จับตาดูให้ดีนะ”
“สู้เขานะพี่น้ำ”
“ครับผม”
อุ้มรักส่งเสียงเชียร์พี่น้ำ นักบาสฯทั้งสองทีมลงสนามไปแล้วน้องแฝดกับเพื่อนถึงขึ้นไปหาที่นั่งบนอัฒจันทร์อีกครั้ง
“ยังกล้าลงมาอีกเหรอวะ นึกว่ากลัวจนหนีกลับบ้านไปแล้วซะอีก”
ตัวเก็งของฝ่ายนั้นเยาะเย้ยไทม์เมื่อเกมกำลังจะเริ่มขึ้น ไทม์ปรายตามองก่อนยกยิ้มมุมปากกวนๆ ก่อนที่แอมจะเป็นคนตอบกลับมาแทน
“ใครกันแน่วะที่ต้องกลัวจนหนีกลับบ้านน่ะ อย่าร้องไห้หาแม่ละกันไอ้ยักษ์!”
ทีมของไทม์ยิ้มขำ ขณะที่ฝ่ายนั้นอารมณ์ขึ้นแล้ว แต่ใครจะไปสนกัน เริ่มการแข่ง ฝ่ายโรงเรียนไทม์รุกเข้าไปก่อนอย่างรวดเร็ว ทางนั้นเห็นไทม์ขาเจ็บเสียเปรียบอยู่แล้วจึงเข้าไปสกัดไว้ ไทม์ย่อต่ำเลี้ยงลูกหลบรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้า น้ำวิ่งมาด้านข้างไทม์จึงส่งให้แล้ววิ่งต่อเพื่อรอทำแต้ม บอลถูกเปลี่ยนมือเมื่อฝั่งนั้นเข้าชาร์จจากน้ำ เลี้ยงลูกกลับไปที่แป้นฝั่งโรงเรียนไทม์แล้วกระโดดชู้ต ทิมโดดบล็อกแล้วปัดออก ยิ้มเย้ยก่อนวิ่งออกไป ฝ่ายนั้นเข่นเขี้ยวเคืองแค้น บอลกลับมาที่ไทม์อีกครั้ง แต่ดูเหมือนฝ่ายนั้นจะวางแผนให้ประกบไทม์อยู่แล้วถึงได้ส่งมาตั้งสองคน
“แอม!”
“เออ!”
ไทม์เรียกเพื่อนเป็นการส่งสัญญาณ ฝั่งนั้นก็เข้าสกัดแอมที่ได้ครองลูก แอมเลี้ยงลูกหลอกล่อแล้วส่งลอดหว่างขาคู่แข่งก่อนอ้อมไปรับลูกที่กระดอนมาด้วยความรวดเร็ว ก้าวกระโดดแล้วชู้ต แต่ทีมนั้นปัดออก
“จบกันแค่นี้ล่ะนะ”
คนที่ยืนขวางไทม์เยาะเย้ย กองเชียร์ลุ้นกันตัวโก่งเมื่อบอลใกล้ตกถึงพื้น เซนลูกทีมของไทม์รับไว้แล้วส่งต่อให้ทิมที่วิ่งเข้ามา เสียงกรี๊ดของกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายดังมากขึ้นเมื่อเกมดุเดือดเข้มข้นไม่มีใครยอมใคร ทิมชู้ตลงไปอย่างง่ายดายไร้อุปสรรคนานา เสียงกรี๊ดให้กำลังใจถล่มทลายเมื่อทิมทำแต้มตีตื้นขึ้นมาได้สำเร็จ
“สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหารสิพวก” น้องชายไทม์ เพอร์เฟคแมน ส่งยิ้มเยาะเย้ยกลับไปบ้าง
ยิ่งเวลาใกล้เข้ามาเกมยิ่งบีบหัวใจคนดู นีออนกับอุ้มกุมมือกันแน่น ยิ่งเห็นพี่ไทม์เสียหลักเซไปทีไรนีออนยิ่งแทบจะนั่งไม่ติด ในสนามฝ่ายตรงข้ามเก็บคะแนนไล่ตามติดกันกระชั้นชิด และแล้วลูกก็อยู่ในมือฝั่งนั้นอีกครั้ง เตรียมจะชู้ต ทิมกับเซนก็โดดบล็อก แต่ฝ่ายนั้นกลับส่งลูกคืนอีกคนที่ก้าวเข้ามา โดดขึ้นสูงก่อนยัดลงห่วงไปเรียบร้อย ทั้งสองฝ่ายต่างก็เหนื่อยหอบ คะแนนห่างกันเพียงแต้มเดียวแล้วในตอนนี้ ทีมของไทม์ยังตามอยู่
‘พี่ไทม์สู้เขานะ!’
นีออนส่งเสียงเชียร์พี่ในใจ อยากให้พี่ได้ยินเหลือเกินในเวลานี้ที่เสียงเชียร์รายรอบก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง นักกีฬาก็ยังคงเล่นต่อไป จนนาทีสุดท้ายมาถึงนั่นล่ะคือเวลาของการตัดสิน
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
เฮฮฮฮฮฮฮ
เสียงเฮของผู้ชนะดังขึ้นเมื่อเสียงนกหวีดจบการแข่งขันเงียบลง....
----------------
“เหนื่อยหน่อยนะทุกคน”
นาขวัญพูดกับนักกีฬาทีมตนเองยิ้มๆเมื่อทั้งทีมก้าวออกจากสนาม ทุกคนมองหน้ากันก่อนหัวเราะออกมาด้วยความสะใจในเกมสุดท้าย ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ทำได้ ชัยชนะสองปีซ้อนไม่ได้ไกลเกินฝันอีกต่อไปแล้ว เมื่อในวินาทีสุดท้ายไทม์โยนลูกสามแต้มลงห่วงไปอย่างสวยงาม ก่อนที่จะทรุดฮวบเมื่อใช้เท้ามากไปจนขามันเกินต้านทานไหว
น้ำกับแอมช่วยพยุงไทม์เข้ามาคนละข้าง นีออนที่วิ่งลงมาจากอัฒจันทร์เดินเข้าไปใกล้ๆพี่ ไทม์ยิ้มให้น้องก่อนลดแขนที่พาดบ่าแอมลงแล้วกางออก นีออนก้าวเข้าไปหา กอดพี่แล้วร้องไห้ด้วยความดีใจ
“ชนะแล้วนะ”
“อื้อ”
ไทม์กระซิบบอกน้องที่ซุกหน้าร้องไห้กับอกตนเอง รอยยิ้มของทุกคนยังเกลื่อนใบหน้า ยิ้มให้กับความสำเร็จในครั้งนี้ที่ได้มาอย่างขาวสะอาด
วันปิดงานกีฬา พิธีการมอบเหรียญและถ้วยรางวัลต่างๆเป็นไปได้ด้วยดี ก่อนที่ผู้อำนวยการซึ่งเป็นตัวแทนของแต่ละโรงเรียนจะก้าวขึ้นเวทีกล่าวถึงงานครั้งนี้และกล่าวปิดงาน เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ก่อนกลับทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปหาซื้อของกินของฝากกันตามแต่อัธยาศัย ไทม์ยังต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันเวลาเดิน เท้าของเขาถูกเข้าเฝือกอ่อนกันการขยับเขยื้อน นายวีเดินเข้ามาหานีออนก่อนที่นีออนกับไทม์จะกลับ ไทม์กอดอกมองนิ่ง
“ถึงกีฬาจะแพ้ แต่เรื่องหัวใจ พี่ยังไม่ยอมแพ้หรอกนะ” พูดจบนายวีก็หอมแก้มนีออนอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตาไทม์
“เฮ้ย!!”
ไทม์ผลักนายวีออกห่างน้อง ดึงนีออนมากอดเอาไว้ นีออนตาโตแตะมือที่แก้มตัวเอง ไทม์มองนายวีตาขวาง หมอนั่นก็ยิ้มเย้ยส่งมาก่อนเดินจากไปท่าทางยียวนกวนที่สุด พอนายวีนั่นกลับไปแล้วไทม์ก็ดันตัวน้องที่ยังมึนไม่หายมาหอมซ้ายขวาเพื่อลบรอย
“อื้อออ พี่ไทม์พอแล้ว” นีออนประท้วงเมื่อพี่ไทม์หอมแก้มเขาเยอะเกินไปแล้ว
“ยังลบไม่หมดเลย”
“ไม่ต้องแล้ว แบบนี้ออนเสียเปรียบตลอด” น้องว่างอนๆ
“งั้นพี่ให้หอมคืน อ่ะ” ไทม์เอียงแก้มให้น้องหอมคืน
“ยิ่งเสียคูณสองเลยทีนี้”
เด็กตัวเล็กบ่นอุบ ไทม์ยิ้มขำก่อนหอมน้องอีกฟอดใหญ่ น้ำกับอุ้มน้อยมาตามบอกว่าโรงเรียนเรากำลังจะกลับกันแล้ว ทั้งสี่คนจึงเดินกลับไปขึ้นรถด้วยกัน ผู้อำนวยการโรงเรียนบอกจะเลี้ยงนักกีฬาและกองเชียร์ทุกคนที่เหนื่อยกันมาหลังจากนี้ ให้ตกลงนัดวันกันเอาไว้เลย เด็กนักเรียนก็เฮกันไป ได้กินฟรีอีกแล้วสิ
นีออนกลับมาบ้านก็โม้ให้พ่อกับแม่ฟังใหญ่ว่าพี่ๆเก่งมากแค่ไหน พี่ไอว่านีออนพูดเรื่องนี้ซ้ำมาสามวันแล้ว เด็กตัวเล็กเลยหน้ามุ่ยว่าพี่ไอไม่รู้อะไรเลย คนมันปลื้มอ่ะรู้เปล่า แล้วพอได้รับคำชมจากพ่อแม่ว่าพี่ๆเขาเก่ง นีออนก็เหมือนว่าตัวเองเป็นคนถูกชมเสียเอง หลังจากทานข้าวเย็นและอยู่พูดคุยกันสักพักเมื่อได้เวลานอนไทม์ก็โทรมาราตรีสวัสดิ์น้อง นีออนบอกให้พี่พักเยอะๆขาจะได้หายไวๆ
“หลับฝันดีครับ... ครับ ออนน่ะฝันดีอยู่แล้วแหละ”
น้องแฝดว่าแบบนั้น ไทม์เลยหยอดมาว่าเพราะฝันเห็นพี่ใช่ไหม นีออนเลยหัวเราะ คุยกันอีกนิดหน่อยก่อนวางสายไป
ทางด้านน้ำก็ส่งข้อความมาให้อุ้มรักเพราะน้องคุยไม่เก่ง แต่วันนี้แฝดคนน้องเขามาแปลก กดโทรศัพท์หาพี่น้ำเองแล้วบอกให้หลับฝันดี ท่าทางวันนี้พี่น้ำคงนอนไม่หลับเป็นแน่แท้ น้องอุ้มโทรมาราตรีสวัสดิ์ด้วย วางสายจากพี่ๆแล้วน้องแฝดก็นอนลงข้างกัน อุ้มรักพลิกกายมาหานีออนที่ยังลืมตาแป๋วอยู่ ไม่หลับเหมือนกัน
“อุ้มถามอะไรอย่างสิ”
“หือ อะไรอ่ะ?”
“ออนไม่รู้สึกอะไรกับนายพี่วีนั่นจริงเหรอ?” อุ้มรักยังคาใจเรื่องนายวีอยู่อีก
“แล้วจะให้ออนรู้สึกอะไรอ่ะ?” นีออนหันหน้ามาหาน้องแล้วถามกลับ อุ้มรักเงียบไปเหมือนคิดอะไรเล็กน้อยก่อนถามใหม่
“ออนว่าเขาหน้าตาดีไหม?”
“ก็ดี” นีออนพยักหน้ารับ
“แล้วไม่รู้สึกปลื้มหรืออะไรเลยเหรอ?”
“ก็ไม่นี่ อุ้มจะถามอะไรกันแน่น่ะ?” เห็นน้องถามวกไปวนมาแล้วนีออนก็ชักงงว่าจุดประสงค์น้องคืออะไร
“ก็อุ้มเห็นออนปลื้มพี่ไทม์บ้าง พี่ฟิวบ้าง อุ้มเลยสงสัยว่าทั้งที่นายพี่วีนั่นก็หน้าตาดี ทำไมออนถึงไม่ปลื้มเขาบ้างอ่ะ?” อุ้มรักบอกออกมาตามตรงไม่มีอ้อมค้อม ฟังไปฟังมามันเหมือนนีออนปลื้มคนง่ายอย่างไรไม่รู้นะ
“ไม่รู้ดิ ไม่รู้สึกถูกชะตามั้ง กับพี่ฟิวมันแบบรู้สึกว่าพี่เขาหล่อไง เหมือนมีออร่าวิ้งๆอยู่ตลอดอ่ะ ทำให้ละสายตาไม่ได้ ออนอยากเป็นแบบนั้นบ้างอ่ะ เท่~” นีออนอธิบายพร้อมสีหน้าปลาบปลื้ม
“เพ้อ” แฝดน้องว่า
“เพ้อก็ช่าง” นีออนลอยหน้าไม่สนใจ
“แล้วกับพี่ไทม์?”
อุ้มรักเปิดคำถามอีกครั้ง นีออนกลอกตาไปมายิ้มๆแล้วว่า
“ชอบ”
คำเดียวสั้นๆแล้วหัวเราะคิกคักก่อนตลบผ้ามาห่มนอน อุ้มรักเลยเป็นฝ่ายเขินแทนเสียอย่างนั้น
‘ตรงเกินไปแล้วนะ นีออนนี่ล่ะก็ ’
TBCขอบคุณทุกๆท่านค่ะ ช้าเนาะ แปะบวกไว้ เดี๋ยวมาบวกให้ค่ะ ทำธุระแป๊บ เดี๋ยวมาตอบคอมเม้นต์ด้วย