รักใสปิ๊ง
ตอนที่ (28) เด็กมันยั่ว
ไทม์ไปรับนีออนน้อยที่มหาวิทยาลัยของน้อง พอกลับมาถึงหอพักเด็กหนุ่มก็บอกน้องให้ไปอาบน้ำเลยเดี๋ยวตนเองจะลงไปซื้อข้าวข้างล่าง กลับมาจะได้ทานเลยร้อนๆ พอพี่ออกจากห้องไปนีออนก็เข้าไปอาบน้ำตามที่พี่บอก หอพักที่ไทม์อยู่เป็นอพาร์ตเม้นต์ห้าชั้นสีขาวครีมสลับกับสีไข่ไก่ ด้านล่างมีมินิมาร์ทกับร้านขายยาเวชภัณฑ์ต่างๆ ตัวตึกไม่สูงนักแต่กินบริเวณกว้างน่าดู แต่ละห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ มีห้องน้ำในตัว และแบ่งพื้นที่ไว้เป็นห้องครัวเล็กๆ ไม่อนุญาตให้ทำอาหาร แต่หุงข้าว อุ่นอาหารได้ตามปรกติของหอพักทั่วไป ทำเลดี ทำให้ราคาค่าเช่าก็ค่อนข้างแพงตามไปด้วย แต่คุณพ่อของไทม์อยากให้ลูกอยู่สบายมากกว่าจะมาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องราคา ดีกว่าที่ถูกๆแต่สภาพแวดล้อมไม่ดี จะส่งผลต่อสภาวะจิตใจและการเรียนได้
ไทม์กลับขึ้นมาบนห้องอีกครั้งพร้อมข้าวของเต็มสองมือ เด็กหนุ่มเอาของไปวางที่โต๊ะทานข้าวก่อนหาจานชามมาแกะเตรียมไว้รอน้องอาบน้ำเสร็จ ประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับเสียงของนีออนที่ดังมา
“หนาวววว”
หนุ่มน้อยน่ารักยืนย่ำเท้าไปมาอยู่บนพรมเช็ดเท้าหน้าห้องน้ำ ไทม์เอี้ยวตัวไปมองน้อง ยิ้มขำก่อนวางมือจากข้าวของที่กำลังตระเตรียมอยู่แล้วเดินไปหาน้อง อ้าแขนออกกว้าง นีออนย่ำเท้ารัวๆแล้ววิ่งเข้าไปกอดพี่หมับ ถูหน้าไปมากับอกพี่ ไทม์หัวเราะก่อนใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กที่วางโปะอยู่บนหัวน้องขยี้ผมที่เปียกจากการสระผมนั้น นีออนกอดเอวพี่หลวมๆแล้วโยกตัวซ้ายขวา
“หายหนาวยัง?” ไทม์เอ่ยถามคนที่กอดเอวเขาแล้วเงยหน้ามองเขาตาแป๋ว
“ยังเลยอ่ะ” นีออนส่ายหน้าก่อนเขย่งปลายเท้ายกตัวขึ้นหอมแก้มพี่เป็นการขอบคุณเบาๆ
“หึ หึ”
“หัวเราะ พี่ไทม์เนี่ยชอบหัวเราะแบบนี้ พอออนถามก็จะบอกว่าไม่มีอะไร” นีออนเอียงคอทำปากยื่นมองพี่ที่หัวเราะหึๆ
“ก็มันไม่มีอะไรจริงๆนี่ครับ”
ไทม์เอ่ยบอก ริมฝีปากยังแย้มยิ้ม เช็ดผมให้น้องพอหมาดแล้วก็พาดผ้าไว้ที่บ่าน้อง หนุ่มน้อยจับเช็ดผมต่อ ไทม์จึงเดินไปที่โต๊ะอาหารเพื่อจัดการแกะอาหารใส่จานต่อ
“ไม่มีอะไรแล้วหัวเราะทำไมอ่ะ?”
หนุ่มน้อยยังสงสัย เดินตามพี่มาที่โต๊ะ ยื่นหน้าไปมองอาหารในจานแล้วชี้มือที่จานผลไม้ ไทม์เหล่ตามองน้อง แต่สุดท้ายก็ยอมเดินไปหยิบส้อมมาจิ้มผลไม้ในจานให้น้องอยู่ดี
“ช่างสงสัยจังเลยเรานี่”
คนเป็นพี่ว่าขณะยื่นชิ้นผลไม้ให้น้อง นีออนงับผลไม้ที่พี่ไทม์จิ้มมาให้ เคี้ยวหนุบหนับแล้วอมยิ้มแก้มตุ่ย
“ไปเป่าผมก่อนไหม แล้วค่อยมาทานข้าว หัวเปียกแบบนี้โดนแอร์เย็นๆเดี๋ยวไม่สบาย” ไทม์เอ่ยบอกคนที่แย่งส้อมในมือเขาไปจิ้มผลไม้ทานเองแล้ว
“เป่าให้ออนหน่อย”
นีออนน้อยเอ่ยอ้อน แต่คนเป็นพี่ก็ยังคงหรี่ตามองเฉยๆไม่ได้ตอบรับ นีออนเลยขยับเข้าไปอ้อนใกล้ๆ
“น้า~”
กอดแขนพี่แล้วสบตาปิ๊งๆ ไทม์ที่ทำฟอร์มนิ่งหลุดขำออกมา คนเป็นน้องยิ้มเลยทีนี้ เสร็จออน!
“ครับๆ ตามบัญชาเลยครับ”
นั่นไงล่ะ เห็นไหม นีออนคิดในใจอย่างเริงร่าเต็มที่ แอบหัวเราะคิกคักเมื่อได้ดั่งใจแล้ว พออ้อนได้แบบนี้แล้วนีออนก็ชักจะเสียนิสัย พาลจะอ้อนพี่ตลอดล่ะคนนี้
ไทม์ดันตัวน้องเข้าไปในห้องนอน นีออนเข้าไปค้นเครื่องเป่าผมมาให้พี่เป่าผมให้ พอเสร็จแล้วก็ออกมาช่วยกันจัดของที่พี่ซื้อมาใส่จาน ส่วนที่เหลือก็เก็บเอาไว้ในตู้เย็นไว้ทานวันหลัง ของแห้งก็ใส่ตู้เอาไว้แล้วจึงค่อยมาทานข้าวกัน พอทานเสร็จก็ช่วยกันเก็บช่วยกันล้างจาน มันเป็นสิ่งที่ทำมาตลอด ไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกว่าคนไหนต้องทำยังไง ไม่จำเป็นต้องรอให้อีกคนทำให้ หากเห็นอันไหนไม่ดีก็จัดการเลยจะได้ไม่ทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่องพวกนี้
หลังจากทานข้าวกันเสร็จทั้งคู่ก็พากันเปิดหนังดู ชุดโฮมเธียเตอร์ถูกเก็บไว้ในห้องนอน ประหยัดพื้นที่ด้านนอกไม่ให้รกรุงรังจนเกินไปนัก นีออนนั่งอิงแขนพี่ที่พาดมาเหมือนโอบน้องเอาไว้อีกที พอดูหนังจนเบื่อแล้วนีออนเลยเล่าเรื่องไปรับน้องให้พี่ไทม์ฟัง เปิดหนังทิ้งไว้เบาๆอย่างนั้นไม่ให้ห้องมันเงียบจนเกินไปนัก
หนุ่มน้อยเล่าไปบางทีก็ใส่อารมณ์ในการเล่าเสียจนพี่ขำ แต่พอถึงกิจกรรมรับน้องแสนประหลาดที่น้องกำลังจะเล่าต่อจากนี้กลับทำเอาไทม์ขำไม่ออก นีออนเดินไปเปิดลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือที่เก็บลูกอมเอาไว้ในนั้นเผื่ออ่านหนังสือแล้วง่วงจะได้หยิบมาอมได้ นีออนน้อยหยิบลูกอมในนั้นมาแล้วมานั่งข้างๆพี่ ก่อนสาธิตวิธีการที่รุ่นพี่ของนีออนให้รุ่นน้องอย่างนีออนกับเพื่อนๆทำ
“นี่ เขาให้อมลูกอมแบบนี้”
หนุ่มน้อยเอาลูกอมมาอมไว้ในปาก แลบลิ้นที่วางลูกอมไว้ออกมาแล้วชี้ให้พี่ดู ไทม์พอจะรู้แล้วว่ารุ่นพี่ให้น้องน้อยของเขาทำอะไร
“แล้วทีนี้ก็ส่งต่อกันด้วยปาก อื้อออ...”
ยังไม่ทันจะได้อธิบายจบคนเป็นพี่ก็ฉกวูบจูบปากน้องไปเรียบร้อย เพราะมัวแต่พูดนีออนเลยหลบไม่ทัน ไทม์ไล้ปลายลิ้นกับลิ้นเล็กๆของน้องที่คอยแต่จะถดหนี ก่อนกวาดเอาลูกอมแสนหวานในปากน้องมาไว้ที่ปากตนเองแทน
“พี่ไทม์ ออนหายใจไม่ออก”
นีออนน้อยประท้วงพี่เมื่อพี่ถอนจูบ ไทม์กดจูบปากจิ้มลิ้มน่ารักนั่นเสียอีกทีก่อนผละออกมาแล้วอมยิ้มเจ้าเล่ห์ นีออนหน้าแดงยกมือปิดปากตนเองแล้วบ่นอุบอิบให้พอได้ยิน
“ไม่เห็นเหมือนที่ออนทำกับเพื่อนเลยอ่ะ”
“มันจะไปเหมือนได้ไงครับนีออน ถ้าเพื่อนนีออนทำแบบพี่ล่ะก็ พี่จะไปอัดมันซะ!”
ไทม์กำกำปั้นแล้วทุบลงบนฝ่ามือของตนเองท่าทางขึงขัง นีออนหัวเราะกับท่าทางที่พี่ทำ
“พูดแล้วมาทำเป็นหัวเราะนะ”
หยิกแก้มน้องอย่างหมั่นเขี้ยว นีออนยู่หน้าก่อนชูลูกอมอีกเม็ดขึ้นมา สีหน้าอมยิ้มแปลกๆ ดูกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างไรไม่รู้
“พี่ไทม์ว่ารุ่นพี่ออนจะให้ทำแบบนี้จริงเหรอ?”
“หือ?” ไทม์เลิกคิ้วกับคำถามของน้อง ถามแบบนี้มาแปลกแล้วนะนี่
“ตอนแรกอ่ะ พี่เขาก็จะให้ทำ แต่มีคนแย้งมาว่ามันสกปรก กลัวติดเชื้ออะไรไม่รู้เยอะแยะมากมาย พี่เขาเลยยกเลิกให้ทำอย่างอื่นแทน” หนุ่มน้อยอธิบายหน้าซื่อตาใส
“แล้วเมื่อกี้…”
นีออนน้อยเหล่มองพี่แล้วแกล้งถอนหายใจ กอดอกส่ายหน้าไปมา
“เฮ้อ พี่ไทม์นี่หื่นจริงๆเลยนะ แย่จัง~”
ไทม์ทำเสียงฮึ่มฮั่มในลำคอก่อนพุ่งตัวเข้าใส่น้องจนล้มกลิ้งไปบนที่นอนด้วยกัน
“แกล้งพี่เหรอตัวเล็ก หื้มมมม”
“ฮ่าๆๆ พี่ไทม์ ออนจักจี๋ หวา พี่ไทมมม์”
นีออนน้อยหัวเราะคิกคัก ดิ้นไปดิ้นมาจนที่นอนยับไปหมด เขายิ่งบ้าจี้อยู่ พี่ไทม์นี่ก็แกล้งอยู่ได้อ่ะ ไทม์แกล้งจี๋เอวน้องจนพอใจแล้วถึงหยุด นีออนหอบเบาๆ หายใจไม่ทันอ่ะ ไทม์ที่คร่อมน้องอยู่ด้านบนมองน้องยิ้มๆ ก่อนฟัดแก้มที่แดงก่ำเพราะหัวเราะมากไปนั้นหนักๆ
“อย่ายั่วพี่นัก ถ้าพี่ตบะแตกขึ้นมาแล้วจะหาว่าไม่เตือน” คนเป็นพี่แกล้งขู่
“ไม่เห็นกลัวเลย”
นีออนน้อยทำลอยหน้าไม่กลัวคำขู่ของพี่ ไทม์ทำเข่นเขี้ยวก่อนหัวเราะในลำคอ
“หึๆ งั้นมาลองอีกที”
โน้มใบหน้าลงใกล้นีออนน้อยก็หลับตาปี๋ ไทม์ยิ้มขำก่อนจุ๊บแก้มน้อง นีออนลืมตามามอง ไทม์ถึงเคลื่อนริมฝีปากจากแก้มใสมาที่ปากของน้อง กดเบาๆทีหนึ่ง ก่อนทาบจูบลงไปหนักขึ้นอีกนิดให้น้องเปิดปากต้อนรับ พอน้องโอนอ่อนไทม์ถึงได้เพิ่มความดูดดื่มขึ้นตามลำดับ พอพี่ถอนจูบนีออนก็ถอนหายใจยาวตามมาทันที
“เฮ้ออออ”
“แค่นี้ก็เหนื่อยละ เด็กจริงๆ” ไทม์ว่ายิ้มๆ
“คนเขาไม่หื่นเหมือนพี่ไทม์นี่นา”
“หึๆ อีกทีนะ”
ไทม์เอ่ยขอจูบน้องหน้าตาเฉย ท่าทางเขาจะหื่นอย่างที่น้องบอกเสียแล้วกระมัง เพราะเห็นปากยื่นๆ แก้มป่องๆนี่แล้วอยากจับฟัดชะมัดเลย ไทม์ก้มลงจูบน้องอีกครั้งตามคำที่ได้เอ่ยขอ แต่เหมือนจะยังไม่พอใจจึงตักตวงจูบหวานๆจากน้องอีกหลายครั้งให้พอชื่นใจ
----------------
น้องแฝดได้เริ่มเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยเต็มตัวแล้ว ทั้งสองคนต่างมีเพื่อนใหม่ นีออนมีเพื่อนในกลุ่มเดียวกันห้าคน เป็นผู้หญิงสอง และผู้ชายสามรวมนีออนด้วย ผู้ชายในกลุ่มก็จะมีจูน เป็นเกย์สาวเปิดเผย พ่อแม่ไม่ว่าเพราะแสดงออกมาแต่เด็กแล้วว่าตัวตนของตนเองนั้นเป็นเช่นไร อีกคนคือปอมปอม หนุ่มน้อยหน้าตาน่ารัก จูนบอกว่านีออนกับปอมปอมไม่ควรอยู่ใกล้กัน เพราะทั้งคู่จะกลบรัศมีความงามของจูนหมด
ทุกวันพอกลับมาที่หอพักนีออนต้องโทรหาพ่อกับแม่ บางทีที่บ้านก็ส่งของมาให้ นีออนกับพี่ไทม์เลยมีผลไม้ตามฤดูกาลทานกันไม่ได้ขาด คุณแม่พี่ไทม์ก็ทำโน่นทำนี่ส่งมาให้เยอะแยะ ที่นีออนชอบมากก็คงเป็นน้ำพริกที่แม่พี่ไทม์ทำส่งมาให้ สามารถเก็บไว้ทานกันได้หลายวันเลย
อุ้มรักบอกอยากส่งขนมมาให้อยู่เหมือนกัน แต่มันต้องทำสดใหม่แล้วทานเลยถึงจะอร่อย อีกอย่างกว่าจะมาถึงมือนีออนก็กลัวว่ามันจะบูดเสียก่อน อุ้มน้อยเลยว่าถ้านีออนกลับมาค่อยมาทานที่บ้านเอาแล้วกัน
วันนี้หลังเลิกเรียนพอกลับมาที่หอก็ได้รับกล่องพัสดุจากพี่ที่เป็นคนดูแลหอว่าเขามาส่งให้ห้องไทม์ ไทม์รับกล่องพัสดุจากพี่เขามา กล่องหนักอยู่เหมือนกันไม่รู้ว่ามีอะไรในนั้น พอขึ้นมาบนห้องนีออนก็ช่วยพี่แกะ ด้านในถูกห่อหุ้มกันกระแทกอย่างแน่นหนา มันเป็นลูกกลมๆจนนีออนคิดว่าจะเป็นระเบิดรึเปล่า เลยโทรไปถามที่บ้านว่าส่งอะไรมาให้ อุ้มรักเลยบอกว่าตนเองลืมโทรบอกว่าส่งของไปให้ บอกนีออนแกะออกมาดูเลย พอนีออนแกะออกมาตามที่อุ้มรักบอกก็ปรากฏว่ามันเป็นแตงโมลูกใหญ่ นีออนมึนว่าที่บ้านปลูกแตงโมด้วยหรือ
“อุ้มปลูกเองแหละ ปลูกไว้ข้างบ้านอ่ะ พอดีได้พันธุ์มันมาเลยทดลองปลูกดู ปรากฏว่ามันขึ้นแถมมีลูกโต้โตด้วย ออนกับพี่ไทม์ลองชิมดูนะว่ามันหวานสมคำโฆษณารึเปล่า”
พอน้องบอกให้ลองชิมนีออนเลยไปหยิบจานกับส้อมมาเตรียม พี่ไทม์เอามีดมาผ่าแตงโมแล้วตัดเป็นชิ้นให้น้อง นีออนน้อยจิ้มเข้าปากด้วยสีหน้ามีความสุขกับรสชาติหวานฉ่ำที่ได้รับ
“หืมมมม หวานมากเลยอุ้ม ปรกติมันจะอมเปรี้ยวใช่ป่ะ แต่อันนี้มันฉ่ำมาก สดชื่นสุดๆ”
“จริงอ่ะ เนี่ยอุ้มกำลังคิดเมนูขนมที่น่าจะเอาแตงโมมาทำได้อยู่อ่ะ นอกจากพวกวุ้นแล้วมันน่าจะทำอะไรได้อีกนะ?”
อุ้มรักเปรยกึ่งๆจะถามความเห็นพี่ชายไปในตัว ปรกติแม่เคยทำแกงแตงโมให้ทานกัน แต่มันเป็นของคาวไม่ใช่ของหวานที่พอจะทำขาย ที่เขาขายๆกันอยู่ก็พวกน้ำปั่นหรือไม่ก็ฟรุตสลัด
“น้ำราดหมี่กรอบ” นีออนว่า อุ้มรักหัวเราะขำ
“มันจะกินได้ไหมน่ะ อืม เป็นไอติมหวานเย็น มีเนื้อแตงโมฉ่ำๆ โปะลงไปบนทับทิมกรอบที่ออนชอบเป็นไง?”
“อยากกินจังอ่ะ แล้วราดด้วยนมข้นหวาน หอมหวานกลมกล่อม” นีออนเพ้อตามน้อง จินตนาการไปไกลโลดแล้ว
“ทำไมต้องนมข้นหวานอ่ะ?” แฝดน้องเอ่ยถามอย่างสงกะสัย
“ก็ออนชอบเอาแตงโมจิ้มนมข้นหวานอ่ะ อร่อยดีนะ มันหอมกลิ่นนมข้นด้วย ไม่ต้องปั่นนะราดลงไปเลย อร่อย” นีออนอธิบายขยายความ มือก็จิ้มแตงโมเข้าปากไปด้วย
“นอกจากทับทิมกรอบแล้วออนชอบอะไรอีกป่ะ?”
“ฮู้ยยย เยอะแยะ” นีออนน้อยทำเสียงสูงจนพี่ไทม์หลุดขำ
“ดูทำเสียงเข้า” ไทม์ขำน้อง นีออนอมยิ้มแล้วคุยกับอุ้มรักต่อ
“เล่าสามวันไม่จบอ่ะ”
หนุ่มน้อยพูดกับน้องชายฝาแฝดเสียงแจ๋ว จิ้มแตงโมที่พี่ตัดเป็นชิ้นๆเอาไว้ให้แล้วส่งให้พี่ชิมบ้าง ไทม์ยิ้มก่อนอ้าปากรับ ป้อนกันไปป้อนกันมาพอรู้สึกอิ่มก็เอาแตงโมไปใส่ตู้เย็นเอาไว้ ทานเย็นๆอร่อยมาก
ก่อนวางสายน้องแฝดยังคุยกันเรื่องที่พี่ไอปรับปรุงสวนผลไม้ตามที่บอกนีออนเอาไว้ พ่อให้พี่ไอเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงเลย หาช่างเองอะไรเองหมดจะได้บอกกับน้องได้ว่าตนเองทำเพื่อน้องจริงๆ ส่วนช่องทางในการโปรโมตสวนให้เป็นที่รู้จักก็ค่อยๆขยับขยายกันไป ตอนนี้พี่ไอเปิดให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ได้มาศึกษาเรียนรู้กันก่อน ได้รับความสนใจจากคณะครูและนักเรียนเป็นอย่างดี เพราะในสวนมีผลไม้หลากหลายแปลกตามากมาย มีผลไม้ตามฤดูกาลให้ได้ชิม ได้เรียนรู้วิธีการปลูกและดูแล รวมทั้งการทำปุ๋ยชีวภาพไว้ใช้เองในครัวเรือนอีกด้วย
---------------
“พี่น้ำ อย่าสิ”
เสียงเอ่ยห้ามแสนสั่นดังมาจากคนในห้องนอนห้องหนึ่งในยามบ่ายคล้อย ร่างกายอวบอัดตกอยู่ในอ้อมแขนของเด็กหนุ่มตัวสูงโปร่งที่กำลังซุกไซ้ไปตามร่างกายนั้นอย่างมัวเมา
“นิดนึงนะอุ้ม ขอพี่ชื่นใจนิดเดียว”
น้ำเอนตัวน้องลงไปนอนราบกับที่นอน เลิกเสื้อน้องขึ้นมาถึงหน้าอก ลากลิ้นอุ่นชื้นไปตามผิวเนื้อขาวเนียน งับยอดอกน้องแล้วตวัดลิ้นเลีย อุ้มรักบิดกายด้วยความซ่านเสียว…
ปัง!! โครม!!!
เกิดสภาวะเสียงสองเสียงที่ดังมาแบบปัจจุบันทันด่วน เสียงแรกคือเสียงประตูที่เปิดออกโดยไม่เกรงใจเจ้าของห้อง ส่วนเสียงโครมต่อมาคืออุ้มรักถีบพี่น้ำตกลงไปนอนจุกอยู่ข้างเตียงแล้วรีบดึงเสื้อลงมาปิดพุงตัวเองหน้าตาตื่น ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปก็ตอนได้ยินเสียงพี่น้ำร้องโอดโอยอยู่ที่พื้นข้างเตียงแล้ว
“พี่น้ำ! พี่น้ำเป็นไงบ้างอ่ะ อุ้มขอโทษ”
อุ้มรักรีบลงไปช่วยพยุงพี่น้ำขึ้นมาสีหน้ารู้สึกผิด คนที่เปิดประตูเข้ามาเสียงดังเมื่อครู่กอดอกมองแล้วว่า
“ไม่ต้องไปช่วยมันหรอกอุ้ม หื่นไม่รู้เวล่ำเวลา”
“พี่ขวัญ”
อุ้มรักเรียกชื่อคนพูด น้ำปัดเนื้อตัวแล้วยืดตัวขึ้นไล่อาการเสียฟอร์มเมื่อครู่ก่อนหันไปถามเพื่อน
“มาทำไม?”
นาขวัญเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ไม่พูดไม่จาหน้าตางอง้ำ
“ทะเลาะกับวินมันมารึไง?”
น้ำเอ่ยถามอย่างรู้กันดี คู่นี้ก็ทะเลาะกันบ่อยอย่างนี้ล่ะ เรื่องอะไรไม่รู้ไร้สาระก็หามาทะเลาะกันจนได้ แต่ก็เพราะมีวินเซนต์เข้ามาป่วนนั่นล่ะถึงทำให้น้ำกับนาขวัญกลับมาพูดคุยกันได้เหมือนเคย รวมทั้งอุ้มรักที่มองโลกในแง่ดีก็ยอมสงบศึกกับพี่นาขวัญอย่างง่ายดาย ก็นีออนบอกไว้ว่าสร้างมิตรดีกว่าสร้างศัตรู จะเอาศัตรูมาเป็นมิตรก็ไม่แปลก ตรรกะอะไรไม่รู้ แต่อุ้มรักก็เชื่อพี่ชายไปแล้วล่ะ
“เพื่อนนายโคตรน่าเกลียดเลยอ่ะ” นาขวัญพูดกึ่งๆจะฟ้องเพื่อน
“มันออกจะหน้าตาดี”
“แหวะ” เด็กสาวเบ้ปากกับคำพูดของน้ำ ก็ไม่เพราะหมอนั่นมั่นใจมากว่าตนเองหน้าตาดีหรอกหรือ มันถึงได้มีปัญหาอยู่นี่
“เป็นอะไรกันอีกล่ะ เธอนี่น้า หัวแข็งเกินไปรู้ไหมขวัญ”
น้ำเท้าสะเอวมองเพื่อนแล้วส่ายหน้า นาขวัญก็ยังคงหน้างออยู่อย่างนั้น อุ้มรักมองพี่ๆตาปริบๆ เห็นแล้วนาขวัญเลยยื่นมือไปหยิกแก้มน้อง
“หมั่นเขี้ยวจริงเด็กอ้วนนนน”
“ฮื้อ~ อุ้มไม่อ้วนนะ แค่อวบอิ่มน่ารักธรรมดา”
น้ำถึงกับหลุดหัวเราะกับคำพูดน้อง หน้าซื่อๆตาใสๆแต่คำพูดหลงตัวเองเข้าขั้น นี่น้องคงไม่ได้รับอานิสงส์จากเขามาหรอกใช่ไหม?
“อย่าอยู่ใกล้น้ำมันมาก เดี๋ยวติดเชื้อหลงตัวเอง”
นาขวัญจิ้มแก้มป่องๆของน้องอุ้มแล้วบอก เหลือบมองน้ำที่ยืนยิ้มมองน้องอุ้มแล้วก็ถอนใจเบา ยิ้มเศร้ากับตนเอง ไม่มีช่องว่างให้ใครได้แทรกเลยสินะ
“มายฮันหนี~~”
เสียงโหยหวนพร้อมสำเนียงน่าหมั่นไส้ดังมาแต่ไกล ก่อนที่เจ้าของเสียงจะโผล่หน้าเข้ามาในห้องของน้ำอีกคน นาขวัญลุกขึ้นยืนทันทีเพื่อหาทางหนี น้ำคว้าคอเพื่อนวินมาแล้วตีหน้าผากเพื่อนไปเพียะหนึ่ง
“เขาจะหันหนีก็เพราะสำเนียงมึงนี่ล่ะ”
วินเซนต์ลูบหน้าผากตนเอง มองเพื่อนตาเขียวแล้วใช้ทีเผลอเอาคืนเพื่อนด้วยการหอมแก้มน้องอุ้มไปฟอดใหญ่
“เฮ้ย!!”
น้ำร้องเสียงดัง เท้าไปไวเท่าความคิดแต่วินเซนต์ไวกว่าวิ่งไปหลบหลังนาขวัญได้ทันท่วงที นาขวัญจะเบี่ยงตัวหลบแต่วินเซนต์ก็จับล็อคเอวไว้ไม่ยอมให้ขยับหนี น้ำเท้าเอวแล้วเอ่ยไล่
“มีอะไรออกไปเคลียร์กันข้างนอกเลยไป”
นาขวัญเหลือบมองคนที่เกาะอยู่ด้านหลัง วินเซนต์ทำตาปริบๆ หางลู่ หูตกดูน่าสงสาร เด็กสาวถอนใจก่อนเดินออกจากห้องของเพื่อนไป วินเซนต์หางกระดิกวิ่งตามไปอย่างเร็วไว น้ำมองตามเพื่อนแล้วถอนหายใจหนักๆ พอหันมามองน้องก็เห็นยิ้มขำอยู่เลยทำให้อารมณ์หงุดหงิดลดลงไปถนัดตา
น้ำรีบกดล็อคประตูกันพลาดก่อนกลับมารวบน้องอุ้มเข้าชิดกาย กอดเอวน้องไว้หลวมๆ อยากจะสานต่อจากเมื่อครู่นี้แต่อุ้มรักกลับเอ่ยตัดความหวังพี่น้ำขึ้นมาเสียก่อน
“เตรียมของไปขายได้แล้วครับ อุ้มต้องรีบกลับบ้านนะ”
“โหย อุ้มใจร้ายอ่ะ ขออีกนิดไม่ได้เหรอ?”
น้ำอ้อนขอเสียงออด เพิ่งกลับจากมหาวิทยาลัยมา มีเวลาส่วนตัวนิดหน่อยก็อยากจะใช้บ้างอะไรบ้างแต่ก็มีมารมาขัด แล้วนี่น้องยังมาไล่ให้ไปขายของอีก ชีวิตไอ้น้ำมันช่างรันทดดดดดดด
“มันจะไม่นิดน่ะสิครับ ไปเร็วพี่น้ำ เดี๋ยวค่ำก่อน”
อุ้มรักกระตุ้นเตือนพี่ น้ำหน้าบูด ไม่ยอมขยับไปไหน
“นะครับ” อุ้มเอ่ยอ้อนพี่บ้าง น้ำกำลังจะแพ้ลูกอ้อนเลยเอ่ยพ้อน้องออกไป
“พี่เสียใจ”
“โอ๋ อุ้มขอโทษครับ ไม่เสียใจนะพี่น้ำของอุ้ม”
อุ้มน้อยกอดพี่แน่นแล้วโยกกายไปมา น้ำเผลอยิ้มกับวิธีปลอบของน้อง อะไรกันวะ แค่นี้ก็ยอมแล้ว อ่อนจริงๆเลยไอ้น้ำเอ้ย
สุดท้ายวิธีปลอบใจแบบเด็กน้อยของอุ้มรักก็เอาชนะพี่น้ำได้อีกหน น้ำลงไปด้านล่างเพื่อขนขนมที่ย่าทำไว้ใส่กล่องพลาสติกขนาดใหญ่แล้วเอาไปวางที่รถเข็น ให้อุ้มรักขึ้นมาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แล้วช่วยจับที่จับรถเข็นก่อนพากันออกไปตลาดนัดตอนค่ำที่กำลังคึกคักเพราะคนเขาเลิกงานมาหาซื้อข้าวของหาซื้ออะไรทานกัน
+++++++++++++
ต่อด้านล่างค่ะ 