Dormitory Boys – สะดุดรัก หอพักอลเวง
“รัก...ติดดิน”CHAPTER 39 – วันนี้..และต่อจากนี้จานใบสุดท้ายถูกวางผึ่งไว้บนชั้นให้สะเด็ดน้ำ ปิ่นหยกลุกขึ้นเช็ดมือแล้วเดินกลับเข้ามาในร้าน หย่อนตัวลงนั่งบนโซฟายาวรออาทิตย์เช็ดทำความสะอาดโต๊ะเก้าอี้อย่างใจเย็น ระหว่างนั้นก็แกว่งขาเหม่อมองไฟซึ่งเปิดทิ้งไว้เพียงสองดวงส่องแสงสลัวในร้านเค้กว่างเปล่าไร้ผู้คนพลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อยหวังให้คลายความกังวลไปได้บ้าง แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่าน นั่งอยู่ได้ครู่หนึ่งก็เริ่มลงไปเลื้อยกับเบาะนุ่มนิ่มชวนเคลิ้ม หลับไปเสียตรงนี้แล้วตื่นขึ้นมาเป็นวันมะรืนเลยดีไหม?
งานในร้านส่วนของเขาวันนี้เสร็จแล้ว บางทีเขาน่าจะกลับห้องไปอาบน้ำอ่านหนังสือก่อน ทว่าหลังจากเหตุการณ์เมื่อบ่ายที่หลังสระว่ายน้ำเก่าทำให้เขารู้สึกอยากป้วนเปี้ยนอยู่กับคุณชายหน้ามึนอีกหนึ่งชีวิตในร้านแบบไม่ต้องการเจาะจงสาเหตุแน่ชัดเพราะกลัวใจตัวเอง หมู่นี้ชักเพ้อเจ้อใหญ่แล้วให้ตาย
เด็กหนุ่มร่างสูงตัวต้นเหตุหันมาเห็นคนที่กลิ้งรออยู่บนโซฟาก็ส่งยิ้มอบอุ่นมาให้แทบจะเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ
“รอนิดนะครับ”
และเขาดันเผลอยิ้มตอบ ก่อนจะหันหนีมาฟุบหน้าให้โซฟาอุดจมูกตายแทบไม่ทัน
บ้าฉิบ! นี่จะทำตัวคิกขุเป็นสาวน้อยมัธยมปลายน่าขนลุกอะไรกัน ไม่ต้องให้ใครมาสะกิดบอกก็รู้ตัวว่าน่าอนาถสิ้นดีที่มาหวั่นไหวกับแค่รอยยิ้มมนุษย์เพศเดียวกันแบบนี้ เมื่อไหร่มันจะหยุดทำตัวเจิดจ้าด้วยหน้ามึน ๆ นั่น
อาทิตย์ลอบยิ้มกว้างขึ้นอีกหลังจากได้เห็นอาการลุกลี้ลุกลนของอีกฝ่าย มากกว่านั้นก็เคยทำกันมาแล้วแท้ ๆ แต่กับแค่ส่งยิ้มให้กันธรรมดาสามัญกลับทำเขินจนน่าขัน แม้เขาไม่คิดเถียงเลยว่านั่นทำให้ยิ่งชวนให้อยากกอดรัดฟัดเหวี่ยงมากขึ้นอีก
..ปิ่นหยกน่ารัก...เขาอยากพูดอีกเยอะ ๆ แต่ไม่รู้เจ้าตัวจะเบื่อฟังแล้วหรือยัง
เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่กว่าเด็กหนุ่มจะดันเก้าอี้ตัวสุดท้ายเก็บให้เข้าที่เข้าทาง เหลียวมองรอบตัวตรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง ก่อนเบนความสนใจกลับไปยังร่างโปร่งซึ่งยังนอนนิ่งบนโซฟายาว ขาพาตัวเองเดินไปหยุดอยู่ข้าง ๆ เงียบเชียบแล้วย่อตัวคุกเข่าลงกับพื้น
“ปิ่นหยก” เขากระซิบ
ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นอนคว่ำหน้าอยู่
“หลับเหรอ...?”
มือที่วางหมิ่นเหม่ข้างลำตัวอยู่ตรงขอบโซฟาไหลลงช้า ๆ ก่อนจะร่วงมาห้อยตามแรงโน้มถ่วงแทนคำตอบว่าเจ้าของมือข้างนั้นหลับไปแล้วเรียกรอยยิ้มบางให้วาดขึ้นบนริมฝีปากอิ่ม ปกติถ้ามีใครทำงานช่วงกลางคืนเสร็จก่อน คนคนนั้นจะขึ้นไปอาบน้ำที่ห้องเพราะจะได้ไม่ต้องแย่งกันให้เสียเวลาภายหลัง แต่วันนี้ปิ่นหยกกลับเลือกรอเขาอยู่(แม้เจ้าตัวอาจเถียงว่าไม่ได้รอแต่แค่อยากนอนเล่น)จนเผลอหลับเหมือนเด็ก ๆ
เขาเอียงคอลงไปมอง นอนคว่ำไม่น่าสบายเลย ใบหน้าซึ่งฟุบอยู่อย่างนั้นคงหายใจไม่สะดวกเท่าไร แถมแขนยังห้อยลงมาจนมือระพื้นด้วยท่าที่ตื่นขึ้นมาแล้วต้องเมื่อยมากแน่นอน
เด็กหนุ่มช้อนแขนซึ่งหย่อนลงจากโซฟาขึ้นมาแผ่วเบา ไร้แรงต้านใดจากคนที่กำลังหลับสนิท
......ทั้งเล็ก......แล้วก็เบาหวิว......อดหัวเราะกับตัวเองออกมาไม่ได้ ทำใจเชื่อยากจริงว่านี่เป็นแขนของคนที่เคยต่อยเขาเสียฟันร่วง
บรรจงยกแขนวางไว้ข้างตัวให้เรียบร้อย และเขาเปลี่ยนท่าจากคุกเข่าเป็นหย่อนตัวลงนั่งบนพื้นหลังพิงโซฟา เอนศีรษะวางไว้บนไหล่ปิ่นหยก นึกว่าจะตื่นหรือก็เปล่า ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอในระยะใกล้ทำเอาไม่อยากปลุก แต่ใจคอจะนอนอย่างนี้จริงหรือ
“นี่...ปิ่นหยก” เขาลองกระซิบอีกครั้ง ..และความเงียบงันยังทำหน้าที่ของมันไม่มีขาดตกบกพร่อง
ปลายผมนุ่มนิ่มเขี่ยโดนแก้มเขาตอนเอียงเข้าหาศีรษะคนหลับซึ่งคว่ำหน้าอยู่ มองเห็นผิวเนื้อแถวต้นคอและท้ายทอยผ่านไรผมสีน้ำตาลเข้ม รู้ตัวอีกทีก็กดปลายจมูกตัวเองลงบนลำคอด้านหลังของอีกฝ่ายแผ่วเบา ลากริมฝีปากคลอเคลียอยู่อย่างนั้นเป็นนานสองนานจนได้ยินเสียง
‘...ฮื่ออ..อ... ’ กึ่งละเมอกึ่งรำคาญจากคนที่ยังล่องลอยในห้วงนิทราแม้ขณะพลิกตัวหนีเป็นท่านอนหงายเบือนหน้าเข้าหาพนักพิงโซฟา หัวคิ้วขมวดน้อย ๆ ก่อนจะค่อยคลายลงพร้อมกับจังหวะหายใจซึ่งกลับมาเชื่องช้าอีกครั้ง
อาทิตย์จับจ้องทุกอิริยาบถเหล่านั้นไม่วางตา เท้าแขนข้างหนึ่งไว้กับโซฟาแล้ววางคางตัวเองลงบนนั้น มืออีกข้างยกขึ้นเกลี่ยปอยผมซึ่งยุ่งเหยิงจนบังดวงหน้าสงบนิ่งยามหลับไปเกือบครึ่งไว้หลังใบหู ผมปิ่นหยกก็ยาวขึ้นตั้งเยอะเอาไว้จับรัดเป็นจุกคงดูน่าฟัดดี แพขนตาเรียงเป็นแพทาบลงบนแก้มใส จมูกเชิดรั้นรับกับริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อ ดูใกล้ ๆ อย่างนี้ปิ่นหยกก็เป็นเด็กผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลาในระดับหนึ่งทีเดียว แต่สำหรับเขาแล้วกลับรู้สึกว่าโอนเอียงไปทางน่ารักเสียมากกว่า
แค่มองยังรู้สึกใจหวิวอย่างไรบอกไม่ถูก ลักหลับเสียเลยได้ไหม ตอนยังไม่รู้ว่ามีสายเลือดเดียวกันอยู่ในตัวจริงหรือเปล่านี่แหละ
เขาโน้มตัวลงไปใกล้ ค้างไว้ที่ระยะห่างหนึ่งช่วงลมหายใจจะเป่ามาถึง กลีบปากบางซึ่งเผยอขึ้นน้อย ๆ ตรงหน้าก็ช่างยั่วยวนเสียจริง ช่องว่างระหว่างปลายจมูกถูกขมวดเข้าใกล้อีกนิด อาจเป็นเพียงอุปาทานไปเองว่าได้กลิ่นวานิลลาจาง ๆ โชยเตะจมูกเขาอีกแล้ว
..แค่จูบคงไม่เป็นไรอาทิตย์หลับตา สมองจินตนาการถึงรสหวานยามละเลียดปลายลิ้นผ่านริมฝีปากนั้นไปแล้วตั้งแต่ยังไม่ทันได้สัมผัสถึง
แล้วก็ไม่ถึงจริง ๆ ด้วย
“เฮ่ยทำไรวะ!!!!!”ปฏิกิริยาตอบสนองยามตื่นแมนเวอร์ ชั่วเสี้ยวพริบตาเขาก็โดนยันโครมหงายหลังก้นจ้ำเบ้ากับพื้นด้วยท่วงท่าซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นกับพระเอกนิยายหน้าไหน หมดกันความน่ารักตอนหลับสนิทที่นั่งจ้องอยู่ตั้งนาน
“..อ.อูย..”ปิ่นหยกลุกพรวดขึ้นมานั่งหน้าเหรอหรา เมื่อกี้เผลอยันมวลสารขนาดใหญ่บางอย่างกระเด็นไปต่อหน้าต่อตา หลับอยู่ดี ๆ สะดุ้งตื่นขึ้นมาเห็นหน้ามึน ๆ ในแสงสลัวหลับตาพริ้มจ่ออยู่ระยะประชิดเป็นใครจะไม่ตกใจ ตั้งสติได้จึงรู้ตัวว่าแรงเมื่อครู่ถึงกับส่งคุณชายลงไปนั่งจ๋องอยู่อีกฝั่ง
“เล่นบ้าอะไร!?”
เขาชะเง้อตามไปดูยื่นมือตั้งใจจะช่วยพยุง เกือบสงสารมันแล้วเชียว...อีกนิดเดียวเท่านั้น หากไม่ได้ยินประโยคฆ่าตัวตายถัดมาของท่านชายเข้า
“ว่าจะลักหลับ”
เด็กหนุ่มอ้าปากค้าง ความสงสารก่อตัวรวดเร็วทว่าสลายไปด้วยความเร็วยิ่งกว่า เมื่อบ่ายยังทำหน้าจะเป็นจะตายอยู่เลย ตกดึกมันหื่นอีกแล้ว เปลี่ยนอารมณ์เร็วไปไหมไอ้ลูกเจี๊ยบจีเอ็มโอ
“เวรเอ๊ย หายหงอยแล้วเหรอไอ้บ้า”
“ก็ยังช็อคอยู่เรื่องคุณพ่อ”
อาทิตย์พึมพำ แสดงอาการสลดลงนิดหน่อยแม้ความจริงควรสลดให้ยิ่งกว่านี้มาก ๆ สมกับที่เขาอุตส่าห์โดดเรียนนั่งปลอบมันเมื่อตอนบ่าย “แต่คิดดูอีกทีแล้วถึงนายจะเป็นน้องชายฉันจริงก็ไม่เป็นไร ผู้ชายไม่ท้องอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวลูกมีปัญหาโรคพันธุกรรม”
สีหน้าคุณชายบอกชัดเจนว่ากะพูดจริงทำจริงไอ้มนุษย์บาปหนา! บาปคนเดียวไม่พอยังจะชวนเขาไปทัวร์นรกด้วยกันอีก
“ถ้าเป็นน้องจะได้พากลับบ้านด้วย รับรองไม่ให้ใครมาเกาะแกะเด็ดขาด”
สายตาลวนลามนั่นทำเอาเขาขนลุกเกรียว
“ไอ้ลูกเจี๊ยบ แกแม่มโรคจิตขึ้นทุกวันแล้ว”
“อื้อ”
แถมยังรับออกมาหน้าด้าน ๆ โดยไม่แก้ต่างสักนิดด้วย!
ความคิดในหัวเขาพรั่งพรูขึ้นเป็นฉาก แต่หมดปัญญาจะหาคำด่าเหมาะ ๆ มาใช้ นี่มันเกินระดับที่เขาจะบรรยายออกมาเป็นภาษาคนได้แล้ว
“จริงจังหน่อยสิวะไอ้บ้า”
อาทิตย์เงยขึ้นมองหน้ายุ่งของอีกฝ่าย ขยับตัวปีนขึ้นมานั่งเบียดบนโซฟา ไม่สนใจสายตาค่อนขอดของคนนั่งอยู่ก่อนเรื่องที่ตั้งกว้างแต่กลับมากระแซะโดยเว้นที่ว่างอีกฝั่งอย่างกับจะเหลือไว้จอดรถบรรทุก
“แล้วใครว่านี่ไม่จริงจังล่ะครับ”
“ไอ้แหล!” ปิ่นหยกเถียงทันควัน
“ไม่เชื่อมองตา”
...ตาย...ตาย...ปรานีกรูบ้างเถอะคุณชาย“เพราะงั้นไม่ต้องกลัวนะ...”
อาจเป็นเพราะเขาไม่ยอมมองตามันตามคำเชื้อเชิญเจ้าตัวเลยเป็นฝ่ายก้มลงมาสบตากับเขาเอง แต่ใครเริ่มก่อนไม่สำคัญเพราะผลลัพธ์คือตอนนี้เขาชักตาลายหูอื้อจนเกือบไม่ได้ยินเสียงอาทิตย์พูดต่อ...ซึ่งบางทีไม่ต้องได้ยินก็ดีเหมือนกัน ติดอยู่ที่มันมาแผ่ว ๆ อยู่ข้างหูคล้ายจะบังคับว่า
‘ฟังนะ’ นี่แหละ
“รักครับ...ไม่ว่าเป็นอะไรกันก็ยังรักแบบเดิม”
“อาทิตย์....หยุด!”เขาทำเสียงเข้มใส่มือปลาหมึกที่ป้วนเปี้ยนแถวชายเสื้อและเริ่มพยายามล้วงเข้ามาใต้เนื้อผ้า
พรุ่งนี้คงไม่สำคัญแล้วจริง ๆ “หยุดอะไรครับ” เสียงทุ้มซึ่งปะทะกับผิวเขาออกมาจากริมฝีปากที่แนบอยู่บนต้นคอทำเขาร้อนวูบเหมือนมีเหล็กเผาไฟมานาบ
...เอาคืนนี้ให้รอดก่อนดีกว่า!................................................................
......................................
.
.
.
.
.
....วันนี้แล้ว....ปิ่นหยกไม่ยอมให้เขาตามไปด้วย
ขอดี ๆ แล้ว อ้อนแล้ว ลวนลามก็แล้ว อยากลองไม้แข็งดูบ้างแต่ทำไม่ลง โดนบอกให้รออยู่อย่างนี้เขาแทบขาดใจตาย แม้ยืนยันกับปิ่นหยกไปว่าผลเป็นอย่างไรความรู้สึกก็เหมือนเดิมแต่ใช่ว่าเขาไม่อยากรู้ ส่วนลึกในใจยังอดกังวลไม่ได้ทำเอาแทบไม่เป็นอันทำงานทำการ
...แม่เพชรไม่โกหกหรอก...“ฮันนี่โทสต์กับช็อคโกแลตลาน่าที่สั่งครับ”
เด็กหนุ่มวางจานขนมหวานและเหยือกน้ำผึ้งลงบนโต๊ะเบามือ ลูกค้าสาวสองคนบนโต๊ะสบตากันแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หน้าตาพวกเธอดูคุ้น ๆ หากเขาไม่ได้คิดไปเอง ร้านนี้ผู้หญิงเข้าเยอะอยู่แล้ว ทั้งสองคนคงเป็นลูกค้าประจำจึงได้รู้สึกคุ้นหน้า
“ทำงานร้านเค้กชอบทานขนมพวกนี้หรือเปล่านะ”
เขามองตามห่อกระดาษสีหวานในมือเธอที่ยื่นออกมาตรงหน้า “พอดีพี่เพิ่งหัดอบคุกกี้”
อาทิตย์พยักหน้า เริ่มเข้าใจสถานการณ์ นี่คงเป็นหนึ่งในลูกค้าประจำที่ปิ่นหยกไปตีซี้ไว้แล้วได้ของฝากมาบ่อย ๆ
“ปิ่นหยกบอกว่าไม่ต้องให้แล้วครับ”
“ปิ่นหยก? ใครเอ่ย?” หญิงสาวโปรยยิ้มพร้อมกับเลิกคิ้ว
“พี่ให้เธอต่างหากจ้ะ”
“ให้ผม?”
เธอพยักหน้า ผมสีน้ำตาลทองดัดเป็นลอนพลิ้วตามยามเคลื่อนไหวอย่างน่ารัก
“ขอบคุณครับ แต่ผมก็รับไม่ได้เหมือนกัน”
“เอ๋..? ทำไมล่ะ”
“มีแฟนแล้วครับ เดี๋ยวแฟนหึง”
รอยยิ้มเธอจางลงนิดหน่อยแล้วเปลี่ยนเป็นทำแก้มป่องด้วยจริตสมวัย สีชมพูระเรื่อจากเครื่องสำอางบนพวงแก้มขับให้ดวงหน้าใสชวนมองยิ่งขึ้นแต่น่าแปลกที่เขากลับไม่รู้สึกพิศวาสความงามนั้นอย่างผู้ชายส่วนใหญ่พึงเป็น
“แฟนขี้หึงเหรอจ๊ะ”
“ขี้หึงครับ...แต่ไม่ค่อยยอมรับ”
เด็กหนุ่มคลี่ยิ้มซึ่งทำเอาเธอกลั้นหายใจไม่รู้ตัว เสียงทุ้มฟังดูอ่อนโยนเมื่อเอ่ยถึง
‘แฟน’ ที่เขาเออออไปเองโดยเจ้าตัวก็ยังไม่ได้ยืนยันเป็นทางการสักทีว่ายอมเป็นตั้งแต่เมื่อไร
“...แล้วก็เป็นคนน่ารักสุด ๆ”“.......”
หญิงสาวกลอกตา และผู้หญิงอีกคนซึ่งนั่งฝั่งตรงข้ามเดาว่าเป็นเพื่อนกันส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมาแบบไม่คิดเก็บอาการ ส่วนบทสนทนาออกรสระหว่างเพื่อนสาวสองคนหลังจากนั้นเขาไม่ได้อยู่รอฟังแล้ว
มีลูกค้าพยายามให้ขนมมาอีกคนซึ่งทำเขาหน้าแตกเพราะคิดว่าให้เขา แต่คราวนี้กลับกลายเป็นฝากให้
‘ไอ้ปิ่น’ และเขาทำตัวเป็นคุณแฟน(ซึ่งคิดไปเอง)แสนดีด้วยการปฏิเสธแทนไปแล้วแม้คนให้รอบนี้จะเป็นผู้ชาย เอาไว้คงต้องหาโอกาสนั่งคุยกันยาว ๆ เรื่องห้ามไปทำตัวสนิทสนมกับคนนั้นคนนี้หวังกินของฟรีอีกแล้วก่อนเขาจะบ้าตายด้วยความหวง
ว่าแต่ป่านนี้แล้วทำไมยังไม่กลับ?
ฝนข้างนอกเริ่มลงเม็ด ทั้งที่ตอนบ่ายแดดยังเปรี้ยงจนแทบเผาพืชพรรณหน้าร้านเป็นดอกไม้อบแห้ง อุณหภูมิลดต่ำเมื่อสายฝนเทลงหนักขึ้นแต่เขากลับยิ่งร้อนใจ สายตาเหลือบมองนาฬิกาบ่อยเสียยิ่งกว่ามองหน้าลูกค้า แค่ฟังผลตรวจไม่น่าหายไปนานขนาดนี้เลย
อาทิตย์ถอนหายใจเฮือกพร้อมกับที่เสียงโมบายกรุ๋งกริ๋งคุ้นหูดังขึ้นจากประตูกระจกหน้าร้าน เขาเอ่ยคำต้อนรับ “สวัสดีครับ เชิญด้านในก่อนครับ” เสียงจืดชืดเหมือนเครื่องตอบรับอัตโนมัติ ก่อนจะเบือนสายตาจากหน้าปัดนาฬิกาไปเพื่อพบว่าผู้มาใหม่คราวนี้ไม่ใช่ลูกค้า
ร่างคุ้นตายืนอยู่หน้าประตู เส้นผมสีน้ำตาลมีหยดน้ำเกาะพราว บนเสื้อผ้าปรากฏรอยน้ำฝนเป็นดวง ๆ แต่ยังไม่ถึงกับเปียกโชก ร่างนั้นสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเขาร้องเรียกพร้อมกับแทบถลาเข้าใส่
“ปิ่นหยก!”“เออ..จำชื่อตัวเองได้”
“ทำไมไม่หาร่มล่ะ”
“เห็นทางจากตอนลงรถถึงร้านมันใกล้นิดเดียว”
“ผลเป็นไง”
“......”
“ปิ่นหยก?”
เจ้าของชื่อก้มหน้าก้มตาแต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักอย่าง ...ซึ่งนั่นทำให้เขาใจไม่ดีเลย
“มานี่ก่อน”
โดยไม่ทิ้งช่วงให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว เขาดึงแขนเปียก ๆ ของคนตรงหน้าแล้วลากตัวไปหลังร้านตั้งแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยทักทายใครว่ากลับมาแล้ว สองร่างมาหยุดอยู่หน้าประตูไม้ห้องเก็บของ ได้ยินเสียงปิ่นหยกสูดลมหายใจท่าทางหวั่นวิตกตอนที่เขาโอบรอบเอวอีกฝ่าย ออกแรงดันหลังให้เข้าไปข้างในต้านกับแรงขืนของคนที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสักที
สุดท้ายด้วยข้อได้เปรียบทางกายภาพ ทั้งเขาและปิ่นหยกก็เข้าไปยืนอยู่ในนั้นก่อนเสียงล็อคลูกบิดประตูดัง
‘กริ๊ก’ จะสะท้อนก้องแผ่วเบาในห้องปิดทึบ
เขาหันกลับมา มือใหญ่จับไหล่สองข้างคนตรงหน้าไว้มั่น หัวใจเต้นด้วยจังหวะหนักหน่วงจนแน่นไปหมด ถึงกับต้องสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะมีสุ้มเสียงถามออกไปอีกครั้ง
“ผลเป็นยังไงนะครับ”
“...อาทิตย์”
“ครับ?”
“.....พี่.......”นัยน์ตาดำสนิทเบิกโพลง หัวใจร่วงไปกองอยู่ตาตุ่ม
‘พี่’ ที่ว่าคืออะไร??“....โกหกใช่ไหม”
เขาพูดเองแท้ ๆ เมื่อคืนนี้ว่าต่อให้ผลเป็นยังไงก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่หากเป็นเช่นนั้นจริงแล้วความรู้สึกเหมือนมีหลุมดำขนาดใหญ่อยู่กลางอกซึ่งกำลังกัดกินเขาอยู่มาจากไหนกัน
หรือเขาคาดหวังมากเกินไป?
..ก็ไหนว่าแม่เพชรไม่เคยโกหก...“...ปิ่นหยก”
ปิ่นหยกก้มหน้ามองพื้น มือยกขึ้นปิดบังนัยน์ตา ไหล่ทั้งสองข้างสั่นเกร็งในมืออีกฝ่ายซึ่งออกแรงบีบหนักหน่วงขึ้นเรื่อยโดยไม่รู้ตัว ริมฝีปากเม้มแน่นเก็บกลั้นความรู้สึกมากมายที่เอ่อล้นในใจแต่ไม่ได้เอ่ยออกมา..
..เขาไม่อยากเห็นอาทิตย์ทำสีหน้าแบบนั้นอีกแล้ว
เพราะมันจะทำให้เขากลั้นหัวเราะไม่ไหวอีกต่อไป“ก็โกหกสิวะ!” ก่อนจะระเบิดอารมณ์ครึกครื้นท่วมท้นล้นปรี่ออกมาเป็นเสียงหัวเราะลั่นอย่างสุดจะทน ปล่อยอีกฝ่ายยืนเหวอด้วยสีหน้าซึ่งหาดูไม่ได้ง่าย ๆ นี่ถ้าคุณมึนใหญ่มาเห็นเข้านะ
“มีพี่อย่างแกชีวิตฉันล่มจมกันพอดี ไม่เอาด้วยหรอก”
จะพูดอะไรออกมาแต่ละอย่างนั้นกินพลังงานหลายกิโลแคลอรี่กับความพยายามให้ฟังรู้เรื่องโดยไม่ถูกเสียงหัวเราะกลืนไปหมดเสียก่อน “หรือว่าเสียดาย อยากให้ฉันเป็นน้องขึ้นมาแล้ว!?” เขาลอยหน้าลอยตาใส่ พอไม่มีอะไรแล้วก็กล้าเล่นเต็มที่ โล่งใจขึ้นมาบอกไม่ถูก
“ปิ่นหยก”
“ครับพี่ชาย?”
“นิสัยไม่ดี”
คุณชายทำหน้าบูด หงุดหงิดที่มันยังหล่อแต่ก็ฮามากกว่าอยู่ดี
“เพิ่งรู้เรอะ”
“ใจร้าย”
อะไรวะ แค่นี้ทำตัดพ้อใหญ่! “ฮื่อ!”
“ขี้แกล้ง”
เขาสัมผัสได้ถึงโหมดภรรยาหน้ามึนของคุณชายลูกเจี๊ยบตอนพบกันใหม่ ๆ อย่างไรบอกไม่ถูก แต่ยังตัดสินใจตอบรับพร้อมทีท่ายียวน “อ่าฮะ”
“รับผิดชอบมาเดี๋ยวนี้”
“รับผิดชอบบ้าอะไร!”
“..น้องชายครับ”
บร๊ะ! มีรับมุกอีก
“โทษฐานพูดโกหก...เพราะงั้นคืนนี้น่ะ...”
"..???"
เขาใจตุ๊มต่อมขึ้นมาพิกล โทนเสียงแบบนั้นเหมือนไม่ได้ยินมานานแล้ว เสียงที่ขนาดหลับตายังนึกภาพออกเลยว่าคนพูดกำลังอยู่ในอารมณ์ลั้ลลาถึงขีดสุดแม้จะอำพรางไว้ใต้หน้ากากมึน ๆ
“ยอมเป็นของพี่ชายนะครับ”To be continued…==========================
ขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะที่เหมือนจะดราม่ามาหลายตอน TTvTT
เห็นคอมเม้นต์บางท่านถึงเพิ่งรู้ตัว ไม่ได้ตั้งใจให้เครียดเลยค่ะ ยังไงโดยรวมก็ไม่ใช่แนวดราม่าน้ำตาตกแน่นอน
พบกันตอนหน้า ขอบคุณงาม ๆ ทุกคอมเม้นต์ค่าาาา *ทำมือเลิฟ ๆ* XD
ปล.รูปประกอบของตัวประกอบ(?)คนอื่นอาจจะมาหรือไม่มานะคะ //บางคนก็นึกไม่ออกเพราะไม่ได้คิดหน้าตาไว้ในหัว (ฮา) แต่ถ้ามีจะเอามาแปะค่ะ แฮ่ ๆ
ปล.2 ของแถมอยู่ reply ถัดไปนะคะ ตกไปอีกหน้านึง =w=
***สารบัญคลิกที่นี่ค่ะ***