Title: Imprint Love -- The Days of Our Lives #1
Characters: สุรพล/ตาวัน, น้องซัน
Rating: PG
Genre: Romance, Family
Words:
Disclaimer: ไม่ต้องอินมากนะ ไม่ใช่เรื่องจริง ^^
Spoilers: ชีวิตของน้องพลและพี่ปอนด์หลังจากมีเจ้้าตัวน้อย
Status: Completed
A/N: เรื่องของน้องพลและพี่ปอนด์ก็ไม่มีอะไรแล้วเนอะ ขอจบละกัน ต่อไปจะเป็นเรื่องลูกชายของทั้งคู่แทน ซึ่งอาจจะเขียนทั้งแบบ Babble และ Normal นะ
น้องซันวัย 0 ขวบ
(ร่างสูงยืนมองคนเป็นแฟนพยายามเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็กด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ แล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้) อะแฮ่ม
(สะดุ้ง แล้วหันมามองต้นเสียง ก่อนจะยิ้มกว้าง จับมือเด็กทารกขึ้นโบกหยอยๆ) เย้ คุณพ่อกลับมาแล้ว
(เดินเข้าไปหา จุ๊บที่ขมับของคนเป็นแฟนเบาๆ) เหนื่อยไหมครับ คุณพ่อมือใหม่
ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ครับ ผลัดกันกับแม่
อืม... แล้วแม่อยู่ไหนครับ
หลับครับ รบกับเจ้าตัวเล็กทั้งวัน คงเหนื่อย
แล้วอีกคนหละ
ใครครับ
ดา
กลับไปแล้วครับ... พี่เค้าขอไม่ช่วยเลี้ยง เค้ากลัวจะ....
อืม
พี่ปอนด์อยากอุ้มมั้ยครับ
เอาไว้ก่อน ยังไม่ได้อาบน้ำ
+++++imprintlove+++++
น้องซันวัย 3 ขวบ
“แง๊ววววว!”
“อึ๊บๆ”
ร่างสูงที่เพิ่งจะเดินทางกลับมาจากทำงานยืนมองเด็กชายวัยสามขวบในบอดี้สูทเสือน้อยพยายามอุ้มแมวอ้วนที่มีน้ำหนักเกือบจะเท่าตัวเองขึ้นแล้วก็อดฉีกยิ้มออกมาไม่ได้
“อะแฮ่ม” ชายหนุ่มกระแอมเบาๆ ให้เด็กน้อยรู้ตัว ก่อนจะย่อเข่ากางแขนรับร่างเล็กที่ผละออกจากแมวเคราะห์ร้ายแล้วโถมเข้ามาหา “คุงพ่อ!”
“น้องซัน” คนเป็นพ่อเรียกชื่ออีกฝ่ายล้อๆ พร้อมกับระดมจูบแก้มอิ่มซ้ายขวาด้วยความคิดถึง
เด็กน้อยร้องกรี๊ดๆ พร้อมกับดิ้นเร่าๆ หนีตอหนวดแข็งๆ ของผู้เป็นพ่อ
ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างมีความสุขของลูกชายและเสียงหัวเราะห้าวๆ ของคู่ชีวิต ร่างโปร่งที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัวก็อดไม่ได้ต้องเดินออกมาดูก่อนจะหัวเราะขำเมื่อเห็นสองพ่อลูกลงไปนอนปล้ำกันที่พื้นเรียบร้อยแล้ว
“พ่อจ๋า! โช่ยน้องซัง!” ร่างเล็กที่นั่งอยู่บนอกของตาวันตะโกนออกมาอย่างดีใจเมื่อเห็นพ่ออีกคนเดินมานั่งคุกเข่าข้างๆ แล้วพยายามจี๋เอวคนที่ขี่อยู่ไปด้วย “จี๋ๆๆ”
สุรพลยื่นนิ้วออกไปจี๋คนเป็นแฟนหลอกๆ เพื่อเอาใจลูกชาย ไม่กล้าทำจริงเพราะกลัวคนตัวโตจั๊กกะจี๋แล้วดิ้น คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนอกจะหล่นลงมา “นี่แนะๆจี๋ๆๆ แกล้งน้องซันเหรอ”
“โอ๊ยๆๆ ยอมแล้วครับ ยอมแล้ว” คนที่นอนให้ลูกชายขี่แกล้งยอมแพ้
ได้ยินอย่างนั้น เด็กน้อยก็เด้งตัวขย่มผู้เป็นพ่อด้วยความสะใจ “เย้ๆๆๆ”
เห็นท่าทางเหมือนจะจุกจริงของคนเป็นแฟน สุรพลก็รีบอุ้มตัวน้องซันมานั่งตัก แล้วชะโงกหน้าไปจุ๊บแก้มชายหนุ่มอีกคน “สายัณห์สวัสดิ์ครับ”
“สายัณห์สวัสดิ์ครับ” อีกฝ่ายตอบด้วยคำๆ เดียวกัน ก่อนจะจุ๊บปากคนอายุน้อยกว่าเบาๆ
“น้องซังโด้ย” เจ้าตัวเล็กไม่ยอมน้อยหน้า ยื่นมือไปประกบแก้มทั้งสองของพ่อจ๋าแล้วยืดตัวขึ้นไปจุ๊บปากชายหนุ่มบ้าง
“เฮ้ย ของพ่อ” ตาวันแกล้งโวยวายแล้วทำทีเป็นดึงอีกฝ่ายออกจากตักสุรพล
น้องซันรีบตวัดแขนรัดคอชายหนุ่มที่เป็นตักไว้ แล้วตะโกนอย่างหวงแหน “ของน้องซัง!”
“โห แววทรพีมาแต่ไกล” ชายหนุ่มตัวโตงึมงำขำๆ เลยโดนคนเป็นแฟนตีแขนดังเพี๊ยะ
คนตีทำหน้าบึ้งก็ไม่ใช่ขำก็ไม่เชิง บ่นไม่จริงจังนัก “นิสัยไม่ดี ว่าลูก”
“ก็มันจริงมั้ยหละ” ตาวันเถียง ก่อนจะเขยิบตัวมานั่งใกล้ๆ ชายหนุ่ม ยกแขนโอบไหล่แสดงความเป็นเจ้าของ แล้วยักคิ้วให้ลูกชายที่ทำปากยื่นอย่างไม่ชอบใจ “คนนี้แฟนพ่อ เอาไว้โตก่อน น้องซันค่อยไปหาของตัวเอง”
“พูดยังกับลูกรู้เรื่อง” ชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าส่ายหน้าขำๆ เพราะตาวันมักจะคุยกับลูกน้อยเหมือนอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง
ทุกๆ ครั้งที่เด็กชายถามอะไร ชายหนุ่มไม่เคยตอบแบบขอไปทีเหมือนพ่อแม่หลายๆ คนทำเพราะคิดว่าลูกไม่เข้าใจ แต่จะอธิบายที่มาที่ไปเท่าที่สมองของเด็กวัยสามขวบจะรับได้ และแม้จะฟังคนเป็นพ่อรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่นั่นก็ทำให้น้องซันมีพัฒนาการที่ค่อนข้างจะเร็วกว่าเด็กทั่วๆ ไปอย่างเห็นได้ชัด
“รู้สิ น้องซันฉลาดจะตาย จริงมั้ยครับ?” ประโยคหลัง หันไปถามเจ้าของชื่อ ซึ่งเด็กน้อยก็พยักหน้ารับด้วยความเต็มใจ “จิงฮับ!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” สองหนุ่มประสานเสียงหัวเราะกับความไม่ถ่อมตนของลูกชาย
+++++imprintlove+++++
RRRRRR....
RRRRRR....
ชายหนุ่มรูปร่างโปร่งบางที่กำลังช่วยลูกชายต่อเลโก้ควานมือออกไปหยิบมือถือมากดรับโดยไม่มองเบอร์
ครับ?
เดี๋ยวเย็นนี้พี่แปงจะมาบ้าน พลทำกับข้าวเผื่อด้วยนะ
มาคนเดียวเหรอครับ?
มากับเจ้าตัวเล็ก
พอดีเลย กำลังคิดถึง
พูดงี้ เดี๋ยวเจ้าตัวยุ่งได้ยิน โดนงอนอีก
ฮ่า ฮ่า ฮ่า -- เจ้าตัวยุ่งกำลังต่อเลโก้อยู่ ไม่สนใจหรอกครับ (บอกขำๆ แล้วก็ถามเจ้าตัวยุ่ง) น้องซัน คุยกับคุณพ่อมั้ยครับ?
(พอได้ยินคำว่าคุณพ่อ หน้าฉงนในตอนแรกเนื่องจากสงสัยว่าพ่อจ๋าคุยอยู่กับใครก็บานเป็นจานเชิงเพราะความดีใจ ก่อนส่งเสียงออกไปเมื่อคนเป็นพ่อนำมือถือมาแนบกับหู)
ฮาโหย คุงพ่อ
ฮัลโหลครับ น้องซัน คิดถึงคุณพ่อหรือเปล่าครับ?
คิกจึ๋ง
คุณพ่อก็คิดถึงน้องซันมากกกก แล้วน้องซันหละ คิดถึงคุณพ่อมากมั้ย?
มากกก
มากเท่าไหร่
มากเท่าฟ้าาา (พูดพร้อมกับทำมือประกอบไปด้วย)
(พอจะนึกออก ก็หัวเราะขำ) น้องซันทำอะไรอยู่ครับ?
น้องซังกะยังเย่น
เล่นกับใครครับ?
เย่นกะพ่อจ๋า
แล้วสนุกมั้ยครับ?
ซาหนุกฮับ
หึๆ
+++++imprintlove+++++
“น้องซัน ใครมาครับ?”
สิ้นเสียงของพี่เลี้ยง เด็กชายที่กำลังพยายามขี่หลังแมวอ้วนเคราะห์ร้ายก็หันขวับ แล้วตะโกนออกมาอย่างดีใจ “คุงพ่อ!!”
“น้องซัน” ตาวันเรียกชื่ออีกฝ่ายล้อๆ แล้วรีบทิ้งกระเป๋า อ้าแขนออกรับทอร์นาโดในบอดี้สูทวัวน้อยที่พุ่งเข้ามาหาไว้ได้ทันพอดิบพอดีก่อนจะโยนแล้วรับๆ สองสามที
เด็กน้อยร้องวี๊ดๆ ด้วยความชอบใจ ก่อนจะบอก “เอาอิก เอาอิก” เมื่อคนเป็นพ่อหยุดโยน
“พอก่อนครับ วันนี้เรามีแขก” ชายหนุ่มบอกแล้วจุ๊บแก้มซ้ายขวาของลูกชายก่อนจะหมุนตัวให้อีกฝ่ายเห็นชัดๆ ว่าใครมาด้วย
พอหันไปจ๊ะเอ๋กับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู น้องซันก็ร้องออกมาอย่างดีใจ “คุงลุง!” แล้วโผเข้าไปหาเกือบจะหลุดจากอ้อมกอดของคนเป็นพ่อ
แต่เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเกือบทุกครั้งที่เด็กชายเจอกับญาติสนิททุกคน ตาวันจึงสามารถตวัดคว้าร่างเล็กไว้ได้ทัน ก่อนจะส่งต่อให้พี่ชายโดยสวัสดิภาพ แล้วรับหลานชายที่เพิ่งจะลืมตาตื่นมาอุ้มไว้เอง
ทั้งฟัดทั้งหอมร่างในอ้อมกอดจนพอใจแล้ว แปงก็ถามหลานชายยิ้มๆ “คิดถึงคุณลุงหรือเปล่าครับ?”
“คิกจึ๋ง” ก่อนจะกางแขนออกโดยไม่ต้องให้อีกฝ่ายถาม “เท่าฟ้าเยย”
ชายหนุ่มหัวเราะขำ แล้วหันไปถามน้องชายล้อๆ “ลูกใครวะ ขี้ประจบแต่เด็กเลย”
“ไม่จบ” เด็กน้อยที่นั่งอยู่บนแขนของแปงแย้ง พร้อมกับส่ายหน้าจนผมกระจาย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ทั้งตาวันและแปงอดไม่ได้หลุดขำออกมาพร้อมกัน
น้องซันเห็นคุณพ่อกับคุณลุงหัวเราะ แม้จะไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ทั้งสองขำอะไรกัน แต่ก็อยากมีส่วนร่วมด้วย จึงหัวเราะบ้าง โดยเลียนเสียงของคนตัวโต “ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“เด็กทะเล้นเอ้ย” แปงว่าพร้อมกับส่ายหน้ายิ้มๆ
“ขำอะไรกันครับ” เสียงนุ่มๆ ดังขึ้นพร้อมกับร่างโปร่งบางของสุรพลที่เพิ่งจะเดินลงมาจากชั้นบน แล้วก็ไม่รอคำตอบ ชายหนุ่มเดินตรงดิ่งไปหาเด็กทารกที่อยู่ในอ้อมกอดของตาวันแล้วแย่งมาอุ้มเอง “น้องฮันท์ คิดถึงจังเลย”
พอเห็นคุณอาคนโปรด เด็กน้อยก็ส่งเสียงอ้อแอ้พร้อมกับยื่นมือเล็กๆ ออกมาจับใบหน้าของอีกฝ่ายเหมือนเป็นการทักทาย
จูบมือ จูบเท้า จูบนิ้ว จูบแก้มเล็กๆ จนพอใจแล้ว ร่างบางก็เอ่ยถามเด็กน้อยเหมือนอีกฝ่ายเข้าใจ “คิดถึงอาพลมั้ยครับ หืม? ไม่เจอกันตั้งนาน”
“นานที่ไหน อาทิตย์เดียว” ตาวันขัดขำๆ
“อาทิตย์เดียวก็นานเหอะ” ชายหนุ่มว่าแล้วย่นจมูกใส่คู่ชีวิต ก่อนจะหันไปพูดเล่นกับเด็กชายต่อ “เนอะ น้องฮันท์เนอะ”
น้องฮันท์ในวัยหนึ่งขวบส่งเสียงอ้อแอ้ตอบกลับมา ก่อนจะหัวเราะเอิ้กอ้ากเมื่อผู้เป็นอาทำหน้าตลกใส่
เห็นพ่อจ๋าสนใจญาติผู้น้องมากกว่าตัวเอง น้องซันก็โผเข้ามาหาด้วยความอิจฉาตามประสาเด็ก “พ่อจ๋า อุ้มๆ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
แม้จะขำกับความขี้อิจฉาของน้องซันเหมือนคนอื่นๆ แต่เพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกว่าถูกลืม สุรพลจึงเอื้อมแขนอีกข้างไปอุ้มเด็กน้อยตามคำเรียกร้องของอีกฝ่าย ก่อนเดินไปนั่งที่โซฟา แล้วชี้ชวนให้ลูกชายดูญาติผู้น้องที่กำลังพูดอ้อแอ้ฟังไม่ได้ศัพท์ “อ๊ะ น้องฮันท์สวัสดีพี่ซันแล้ว พี่ซันสวัสดีน้องฮันท์หรือยังครับ?”
น้องซันส่ายหน้า ก่อนจะชะโงกไปจุ๊บหน้าผากของคนเป็นน้องตามธรรมเนียมการทักทายของตัวเอง แล้วบอก “น้องฮั้ง ซาหวัดดีฮับ”
“อ้าว เมื่อตะกี้ น้องซันยังไม่สวัสดีคุณลุงเลยนะครับ” แปงแกล้งท้วง
เห็นคนโดนท้วงทำหน้ายุ่ง ผู้ใหญ่ทั้งสามก็อดขำไม่ได้ ต้องหัวเราะออกมาอีกครั้ง “ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ไม่สนใจเสียงหัวเราะของผู้ใหญ่ เด็กน้อยตัดสินใจทำตามธรรมเนียมเมื่อแขกมาเยี่ยมบ้านทุกครั้ง ปีนลงจากโซฟาแล้วเดินด๊อกแด๊กไปหาคุณลุงที่ยื่นแก้มลงมาให้จุ๊บ แล้วพอจุ๊บเสร็จก็รีบวิ่งกลับไปนั่งที่เดิมคือบนตักของพ่อจ๋า เหมือนกลัวใครจะแย่งที่
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
+++++imprintlove+++++
“แง๊ววววว”
“มาๆ แพงเต้อ อย่าดื้อ”
“น้องซัน?”
ร่างเล็กในชุดเสื้อยืดสีแดงสดกับกางเกงยีนส์ขาสั้นและถุงเท้าหนาสีขาวที่กำลังพยายามลากเจ้าแพนเตอร์แมวเคราะห์ร้ายซึ่งเป็นเพื่อนเล่นเพียงตัวเดียวเข้ามาในห้องรับแขกหันไปมองคนเรียกซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาโดยมีชายหนุ่มอีกคนนอนหนุนตักอยู่ แล้วขานรับ “ฮับ?”
“ทำอะไรครับ?”
“น้องซังจะพาแพงเต้อมาดูทีวี” น้องซันบอก
สุรพลเลิกคิ้วขึ้น ในใจก็นึก ‘พา’ หรือ ‘บังคับ’ กันแน่ ก่อนจะถามออกไป “แล้วทำไมต้องเอาเชือกไปมัดมันด้วย?”
“แพงเต้อดื้อ หนีน้องซัง” เด็กน้อยให้เหตุผล
ได้ฟังอย่างนั้น ชายหนุ่มก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ แต่ก็ต้องปรามเพราะไม่อยากให้ลูกรังแกสัตว์ “ลากแบบนั้น มันเจ็บก็หนีหนะสิ ปล่อยมันไปเถอะ”
เด็กชายส่ายหน้าเถียง “ไม่เจบ น้องซังทำเบาๆ” ก่อนจะร้องอ๊าออกมาเมื่อแมวเคราะห์ร้ายเห็นโอกาสตอนที่ผู้คุมกำลังเผลอมุดออกจากเชือกที่รัดอยู่ แล้ววิ่งหนีไปสุดชีวิต
“น้องซัน ไม่ต้องตามไปครับ” คนเป็นพ่อรีบเรียกไว้ เมื่อเจ้าตัวเล็กทำท่าจะวิ่งตามแมวไป แล้วเอ่ยชวน “มาหาพ่อจ๋าดีกว่า มะ”
เด็กน้อยทำหน้ายู่ เพราะอยากจะตามเจ้าแมวดื้อไป แต่ก็ไม่อยากขัดใจพ่อจ๋า ยืนละล้าละลังอยู่สักครู่ ก็ตัดสินใจเดินไปหาผู้เป็นบิดาทั้งสอง “พ๋อจ๋า ทำอาลายฮับ”
“นวดให้คุณพ่อครับ คุณพ่อปวดหัว” ชายหนุ่มบอกยิ้มๆ พร้อมกันนั้นก็ใช้นิ้วคลึงขมับของคนที่นอนหนุนตักให้เบาๆ
“ทามมายปวก” น้องซันถามด้วยความสงสัย
“เพราะคุณพ่อคิดเยอะ”
“ทามมายคิกเยอะ”
ตาวันที่นอนหลับตาฟังเสียงคนรักกับลูกชายคุยกันอยู่นิ่งๆ ในตอนแรก อดยิ้มออกมาไม่ได้ เมื่อเจ้าตัวเล็กเริ่มเป็นหนูน้อยจะไม… ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมา แล้วเอื้อมไปอุ้มคนที่กำลังพยายามปีนโซฟาขึ้นมานั่งบนอกแล้วบอก “เพราะคุณพ่ออยากให้งานที่ทำออกมาดี เลยต้องคิดเยอะๆ”
เด็กน้อยเหมือนพอใจกับคำตอบ พยักหน้าแล้วเอื้อมมือไปคลึงขมับคนเป็นพ่อบ้าง “น้องซังโช่ยนวกคุงพ่อ”
“หึๆ”
+++++imprintlove+++++
น้องซันวัย 4 ขวบ
“แง๊วววววว”
“แพนเต้อ อยู่เฉยๆ ฉิ”
“น้องซัน?”
“คับ?”
“ทำอะไรครับ?”
“น้องซันกะลังอาบน้ำให้แพนเต้อ”
“............”
“แพนเต้อฉกปกไม่ยอมอาบน้ำ”
“แง๊ววววว”
“มา ให้พ่อจ๋าช่วยดีกว่า” คนเป็นพ่อรีบอาสา ทั้งสงสารแมวและกลัวบ้านเลอะ เพราะไม่เชื่อใจลูกชายว่าจะจับแมวอ้วนอยู่ และดีไม่ดีเจ้านายและสัตว์เลี้ยงจะจมอ่างน้ำซะเปล่าๆ
+++++imprintlove+++++
“แง๊วววววว”
“ปายๆ เจ้าม้า ปายๆ”
“น้องซัน”
“คุณพ่อ!!”
หอมแก้มซ้ายขวาของลูกชายจนหายคิดถึงแล้ว ตาวันก็เพิ่งจะมีโอกาสได้สังเกตชุดที่เด็กน้อยใส่ ซึ่งก็คือ รองเท้าบู๊ทสีแดง กางเกงในสีแดง และผ้าขนหนูสกรีนลายแมวการ์ฟิลด์ที่ผูกอยู่รอบคอ ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นแล้วถามขำๆ “วันนี้น้องซันเป็นอะไรครับ?”
“น้องซันเป็นซุเป้อแมน” พูดพร้อมกับทำท่าบินประกอบ “บรื๋ออออ”
“แล้วทำไมซุปเปอร์แมนต้องไปขี่เจ้าแพนเตอร์ด้วยหละหืม?”
“แพนเต้อเป็นม้าของซุเป้อแมน” เด็กน้อยอธิบาย ก่อนจะนึกได้ว่า เจ้าแมวดื้อหนีหายไปอีกแล้ว จึงตะโกนเรียกสุดเสียง “แพนเต้อ!!”
“ชู่ววว์” ชายหนุ่มจุ๊ปาก “เสียงดังไปแล้วครับ เดี๋ยวคนอื่นตกใจ... แล้วพ่อจ๋าอยู่ไหนครับ?”
“.......”
“ว่าไงนะ?” ตาวันเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเด็กน้อยกระซิบเบาจนไม่ได้ยินว่าพูดอะไร “คุณพ่อไม่ได้ยิน” ก่อนจะหัวเราะขำเมื่อน้องซันยกนิ้วขึ้นมาจุ๊ปากเป็นสัญญาณว่าไม่ให้ส่งเสียงดัง “ไม่เป็นไรครับ พูดได้ แต่อย่าตะโกน”
“พ่อจ๋ากะลังอาบน้ำให้น้องฮั้น”
“โอเค งั้นเราไปหาพ่อจ๋ากับน้องฮันท์กันดีกว่า”
+++++imprintlove+++++
น้องซันวัย 5 ขวบ
สุรพลชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวผ่านห้องรับแขกกึก เมื่อเห็นว่าลูกชายกำลังทำอะไร “น้องซัน…”
เด็กน้อยที่กำลังง่วนอยู่กับการตัดขนให้แมวเคราะห์ร้ายสะดุ้งตกใจ แต่เมื่อหันมามองผู้เป็นพ่อ ดวงตาแป๋วแหววกลับไม่มีแววเสียใจ “คับ?”
“ทำอะไรครับ?”
“น้องซันกำลังตัดผมให้แพนเต้อคับ”
“ตัด… ตัดผม?” ชายหนุ่มถามช้าๆ เหมือนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
“คับ”
“ตัดทำไมครับ?”
“แพนเต้อมันร้อน”
“รู้ได้ไงครับ ว่าแพนเตอร์มันร้อน”
“แพนเต้อบอกน้องซัน”
“มันบอกตอนไหน?” ชายหนุ่มถามไม่เชื่อ
“แง๊ววววว” แพนเตอร์ แมวเคราะห์ร้ายร้องออกมาด้วยความเจ็บ เมื่อกรรไกรที่น้องซันถืออยู่ทิ่มขา
เด็กน้อยยิ้มกว้าง “นี่ไง มันบอกแบบนี้ แง๊วๆ”
+++++imprintlove+++++
น้องซันวัย 6 ขวบ
“น้องฮั้น ฟังพี่ซันเล่นกีต้า” เด็กน้อยในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงินเข้มรองเท้าหนังสีดำ และแว่นตากันแดดอันใหญ่ที่ยืมของคุณพ่อมาเอ่ยเรียกญาติผู้น้องที่กำลังนอนกินนมอยู่บนโซฟา แล้วทำท่าลีดกีตาร์ของเล่นที่กำลังสะพายอยู่ พร้อมกับส่งเสียงเลียนแบบ “ตะนะแหน้ว ตะแหน่วๆ ตะนะแหน้ว ตะแหน่วๆ” ก่อนจะแหกปากร้องเพลงของปู่แอ๊ด ศิลปินในดวงใจ “เอาไมเคิ่น แจ็กสันคืนปายยย เอาพระนาลายคืนมา! เอาไมเคิ่น แจ็กสันคืนปายยย เอาพระนาลายคืนมา!”
“หึๆ” ตาวันที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ข้างๆ อดหัวเราะขำกับการแสดงคอนเสิร์ตเล็กๆของลูกชายไม่ได้ หันไปกระซิบถามคู่ชีวิตยิ้มๆ “ลูกใครวะ ติ๊งต๊องหวะ”
“อ้าวๆ เริ่มมีการโยน… ได้ข่าวว่าเลี้ยงมาด้วยกันนะ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
+++++imprintlove+++++
ขอโทษที่ไม่สามารถทำตามสัญญาที่บอกว่าจะแต่ง 'ความรักทำให้คนตาบอด' ก่อนได้ มันบิ้วท์ไม่ขึ้นจริงๆ แต่งไม่ออกอะ T_T
Thanks 'nutjisub' for reminder ^^