ประมาณ 17.00 น. รถยนต์คันหนึ่งก็เคลื่อนเข้ามาจอดในบ้าน แล้วชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่คล้ายตาวันก็ก้าวลงมา ยิ้มทักทายคนที่นั่งเล่นอยู่ตรงสวนข้างบ้าน
คุณลุง สวัสดีครับคุณลุง: (ยกมือรับไหว้ยิ้มๆ) หวัดดี มานานหรือยังเรา
คุณป้า: ตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ แล้วทำไมคุณมาช้าจัง ไหนบอกไม่นานก็กลับ
คุณลุง: เจอเพื่อนเก่า เลยคุยกันเพลิน -- แล้วนี่พาใครมาด้วยหละ เพื่อนเหรอ (ถามพร้อมส่งยิ้มให้กับคนแปลกหน้าที่นั่งอยู่ข้างๆ หลานชาย)
นี่พลครับ (เว้นระยะจนคนเป็นแฟนยกมือไหว้อีกฝ่ายแล้ว จึงตัดสินใจบอกตรงๆ) แฟนผมคุณลุง: (ลดมือที่กำลังรับไหว้ลง แล้วถามเหมือนไม่เชื่อหู) อะไรนะ!
แฟนผมครับ (ตาวันย้ำ)คุณลุง: หมายความว่าไง นี่แกเป็นกระเทยเหรอ (ถามอย่างผิดหวังปนรังเกียจ เพราะรับไม่ได้ที่หลานชายคนเดียวจะกลายเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วไป... เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวของลูกและหลานเพราะถือว่าโตๆ กันแล้ว จะควงคู่กับใครไม่ว่าไฮโซ ไฮซ้อหรือคนธรรมดา รวยหรือจนเขาก็ไม่สน ขอแค่คนๆ นั้นเป็นคนดีก็พอ แต่เขารับไม่ได้จริงๆ ที่อีกฝ่ายจะมีแฟนเป็นผู้ชาย รู้ไปถึงไหน อายไปถึงนั่น)
(ตาวันเม้มปากแน่น ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ ถ้าอีกฝ่ายจะจำกัดคำนิยามแบบนั้นเขาก็ไม่ว่าอะไร แต่ยังไม่ทันตอบ เสียงห้าวๆ ของชายหนุ่มอีกคนที่เข้าบ้านมาตอนไหนไม่มีใครสังเกตก็ขัดขึ้น)
พี่แปง: เกย์ครับ ไม่ใช่กระเทย (เสียงพูดเนิบๆ ไม่บ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังล้อเล่น หรือต้องการอธิบายจริงๆ)
คุณลุง: (หันไปมองคนเป็นลูกตาขวาง ก่อนจะหันมาสบตากับตาวัน) มันก็เหมือนกันนั่นแหละ วิตปริตผิดเพศ ทำไมหละ ผู้หญิงมีเป็นร้อยเป็นพัน ทำไมแกต้อง...ต้อง... (มองหน้าคนที่หลานชายบอกว่าเป็นแฟนอย่างชิงชัง) ...ทำไม...ฉันไม่เข้าใจ
(ตาวันบีบมือเย็นๆ ที่กุมอยู่อย่างให้กำลังใจ ก่อนจะบอกคนเป็นลุงเสียงหนักแน่น) ผมรักเค้าครับคุณลุง: รักเหรอ... แกพูดอะไร ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยเห็นแกควงผู้ชายมาก่อน แล้วอยู่ดีๆ จะมาบอกว่ารักเนี่ยนะ มันมีอะไรดี ห๊ะ!
(รู้สึกไม่พอใจที่คนเป็นแฟนถูกเรียกจิกหัวแบบนั้น แต่นั่นก็เป็นลุง เขาจึงตอบไปเรียบๆ) ไม่มีเหตุผลครับ... ผมรู้แค่ว่า 'รักเค้า'(ผู้สูงวัยอ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่กลับไม่มีเสียงใดๆ เล็ดรอดออกมา มือสองข้างกำหมัดไว้แน่น... ผู้เป็นภริยาเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเอ่ยปลอบเบาๆ)
คุณป้า: คุณคะ ใจเย็นๆ ก่อ...
คุณลุง: (ตวาดเสียงดัง) คุณไม่ต้องพูด! คุณรู้เรื่องนี้ด้วยใช่มั้ย... แล้วแกหละตาแปง รู้มานานหรือยัง
พี่แปง: สักพักแล้วครับ
คุณลุง: แล้วแกก็ไม่บอกฉัน... (ถึงจะไม่ชอบยุ่ง แต่ข่าวเกี่ยวกับทั้งสองคนที่ควงคนนั้นทีคนนี้ทีก็ลอยมาเข้าหูเขาเนืองๆ แล้วทำไมเรื่องที่หลานชายมีแฟนเป็นผู้ชายเขาจึงไม่เคยรู้มาก่อน... มันหลุดไปได้ยังไง) ...นี่แกเป็นลูกฉันหรือเปล่า
พี่แปง: ผมเป็นลูกคุณพ่อครับ... แต่ปอนด์ก็เป็นน้องผมเหมือนกัน และนี่ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ผมไม่อยากก้าวก่าย (ชายหนุ่มตอบนิ่งๆ ยิ่งอีกฝ่ายร้อนมาเท่าไหร่ เขาก็ต้องเย็นขึ้นเท่านั้น)
คุณลุง: (มองหน้าลูกชายเคืองๆ ก่อนจะหันไปสั่งหลานชายเสียงเด็ดขาด) ถ้าแกไม่เลิกกับมัน... ก็ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีก
(สองลุงหลานจ้องตากันสักครู่ คนเป็นหลานก็ลุกขึ้นยืนช้าๆ โดยดึงคนที่นั่งหน้าซีดอยู่ข้างๆ ให้ลุกขึ้นด้วย... ไหว้ลาพี่ชาย คุณป้า และคุณลุงที่สะบัดหน้าหนี ก่อนจะเดินไปที่รถโดยไม่พูดอะไร)
(ขับรถออกจากบ้านคุณลุงได้สักพัก ตาวันก็ต้องหักพวงมาลัยเข้าจอดข้างทาง แล้วรั้งคนอายุน้อยกว่าเข้ามากอดปลอบ เพราะอีกฝ่ายตัวสั่นจนน่าเป็นห่วง)
ชีส์... ชีส์... (คนโดนปลอบค่อยๆ หายสั่น แต่พอหยุดสั่น น้ำในตาก็ไหลทะลักออกมา... ยิ่งพยายามกลั้น มันก็ยิ่งไหล) ฮึก... ฮึก... ฮึก...
(ตาวันไม่พูดอะไร แค่ลูบศีรษะที่ซบอยู่ตรงบ่า จนกระทั่งอีกฝ่ายสงบลงก็หยิบทิชชู่มาซับน้ำตาให้... จูบหน้าผากเย็นแผ่วๆ แล้วยิ้มอ่อนโยน) กลับบ้านเรานะครับ (ตอบเสียงเครือ... พยายามยิ้มให้อีกฝ่ายปากสั่นๆ)
ที่คอนโด... 2 ทุ่ม
หิวมั้ย (กระซิบถามคนที่นอนหนุนแขนอยู่เบาๆ)ยังไม่ค่อยหิว... พี่ปอนด์หิวเหรอครับ
ก็ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวครัวจะปิดก่อน... อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยอืม........ นึกไม่ออกอะ
หึ หึ นึกซะนาน... งั้นเอาเหมือนเดิมนะครับ
(ตาวันควานมือไปหยิบมือถือที่วางไว้ตรงหัวเตียง เลื่อนหาเบอร์ร้านค้าที่อยู่ใต้คอนโดแล้วสั่งอาหารที่พวกเขาชอบทานประจำ...)
พี่ปอนด์ครับ
ครับเสาร์หน้า... ถ้าพี่ปอนด์ว่าง เรากลับพิจิตรได้มั้ยครับ
(มือใหญ่ลูบศีรษะของอีกฝ่ายอย่างสงสาร) ได้สิครับขอบคุณครับ (บอกแล้วจุ๊บปลายคางของชายหนุ่มเบาๆ)
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...
อิ่ม?ครับ
งั้นกินยากันไว้หน่อย ตัวรุมๆ เดี๋ยวจะไม่สบาย (เดินไปหยิบยาที่เตรียมไว้ออกมาให้ เมื่ออีกฝ่ายกินยาเสร็จก็บอก) ไปนอนเลย เดี๋ยวพวกนี้พี่จัดการเองครับ (รับคำอย่างว่าง่าย เพราะรู้สึกปวดหัวตุบๆ)
ไม่ต้องอาบน้ำนะครับ
=babblestory=
End of Episode XIV
