ชอบอีโมตัวนี้อ่ะ ฮ่าๆๆๆ

ตอน... เปิดเผย กับปิดบัง
“พวกนั้นรู้เรื่องหมดแล้วนะ” ผมหันไปเอ่ยบอกคนบนเตียงด้วยกันเบาๆ มันพยักหน้ารับรู้ก่อนจะพลิกตัวมามองผม
มันหลุบตาลงต่ำอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมาสบตาผมตรงๆ แล้วก็จ้องมองอยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เหมือนกำลังใช้ความคิดของตัวเองไปเงียบ นัยตาที่กรอกไปมาทำผมสับสนไปด้วย ยิ่งเงียบก็ยิ่งงง
ผมเลยเอื้อมมือไปลูบไลผมที่ชื้นเหงื่อของอีกฝ่าย อย่านะ....อย่าเข้าใจผิดว่าผมทำอะไรไอ้ต้นอีก ผมไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น
เพียงแต่ตอนนี้เราปิดแอร์เหลือแต่พัดลม แล้วฝังตัวลงใต้ผ้าห่มเพื่อให้เหงื่อออก เผื่อว่าอาการไข้ของมันจะลดลงบ้าง
ทั้งที่กินยาไปแล้วหลายขนาด ทั้งยาแก้อักเสบ ยาลดไข้ หรือแม้แต่เกลือแร่ผมก็สรรหามาให้มันกินแล้ว
ความเป็นไปของมันก็แค่ทำตาเบลอ แต่ยังดื้อแพ่งไม่ยอมนอน .. แถมหันมาจ้องผมตาแป๋วอีกตะหาก
“กูว่ากูจะคุยกับอ๋อมว่ะ” พูดจบไอ้ตัวดีก็เด้งตัวขึ้นผึงอย่างตกใจ ทำผมตกใจตามไปด้วย
“โอ๊ยยยยย อย่า... อย่าพึ่งบอก” มันว่าก่อนจะละสายตาไปสนใจบั้นท้ายที่สร้างความเจ็บร้าวให้มากพอควร
ใบหน้าถึงเหยเกจนเผลอกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ผมไล้มือลูบสะโพกมันเบาๆ ด้วยความเห็นใจ
“เพี๊ยะ....อูยยยย” ไอ้ตัวดีก็ฟาดเพี๊ยะมาที่มือผม เล่นเอาต้องคลำมือตัวเองป้อยๆ ด้วยความเจ็บแสบ
“เพราะมึงแหล่ะ ไม่ต้องมาลูบ” มันว่าหันมาทำตาขวางใส่ ก่อนจะถอมหายใจยาวเหยียด
“เอ๊า กูก็แค่เป็นห่วงอ่ะ แค่ลูบเบาๆ เองไม่ได้รึไง” ผมบ่นงอน ย่นปากย่นคิ้วให้คลายกับหมาหน้าย่นไปแล้ว
“ปากดี อย่างมึงเคยลูบอย่างเดียวที่ไหน เอะอะ ๆ จะเอาตลอด ” มันหันมาว่าผมดุๆ ผมเลยรวบตัวมันมากอด
ทั้งที่ตัวเราทั้งคู่กำลังชื้นเหงื่อ ลื่นๆ กันไป สนุกดี ฮ่าๆ คนป่วนก็ดิ้นคลุกคลิกอยู่ในอ้อมกอดผม
ก็เลยต้องเพิ่มแรงโอบรัดอีกฝ่ายให้แน่นขึ้นไปอีกกว่าจะยอมนอนนิ่ง ๆ ให้ผมกอดแต่โดยดี ไอ้ต้นได้แต่หอบหายใจ
ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ออกแรงอะไรเลย แม้เหงื่อเราจะออกมากขึ้นชื้นเปียก แต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกอยากจะปล่อย
คนตรงหน้าแม้แต่นิดเดียว วางคางเกยไหล่ของอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยถามเรื่องที่สงสัยออกมา
“ทำไมไม่ให้บอก แบบนี้กูไม่สบายใจว่ะ รู้สึกมันคาราคาซังยังไงไม่รู้” ผมรอบสังเกตุอีกฝ่ายที่นอนนิ่งๆ ในอ้อมกอด
“................” ไม่มีคำตอบใดพ่นออกมาอยู่เป็นนาน จนผมชักไม่แน่ใจว่ามันหลับคาอกผมไปแล้วรึเปล่า
.
.
“ต้น?” จนต้องย้ำถามอีกครั้ง และเขย่าตัวอีกฝ่าย เพื่อให้แน่ใจว่าผมไม่ได้ตื่นอยู่เพียงคนเดียว
“กูอาย” เสียงแผ่วเบาของไอ้ต้นตอบ ทำผมลอบยิ้ม ก็น่ะ เป็นผู้ชายด้วยกันแท้ แถมมีไอ้นั่นเหมือนกัน แต่ต้องมาตก
อยู่ในสถานการณ์ฝ่ายรับแบบนี้ คงสูญเสียความมั่นใจพอควร .... มันผิดเองที่มาหลงรักผม
ผมกดจูบหัวทุยๆ ของอีกฝ่าย ไอ้ต้นก็พลิกตัวหันหน้าเข้ามาหาผม สายตาเว้าวอน และร้องขออย่างถึงที่สุด
"นะน้า~ ไม้กูยังไม่พร้อม ขอเวลาอีกนิดนะ นะ นะ". ในที่สุดผมก็ใจอ่อนให้ไอ้ลูกหมาหน้าขาว ถอนหายใจเฮือกใหญ่
แล้วก็พยักหน้าตามใจไปในที่สุด
"เออตามใจมึงแล้วกัน แต่อย่านานนักนะเมีย. กูทำใจลำบาก.... โอ้ยยยยย~.". พูดยังไม่ทันจบไอ้ต้นก็ยกหมอนมาฟาด
เข้ามาที่หน้าผม (เออดี!! ซาดิสอย่างนี้ระวังกูเอาคืน แล้วอย่าร้องคราง เอ้ย! ร้องโอดโอยทีหลังก็แล้วกัน แฮะๆ )
ทำตาขวางใส่อีกแนะ ผมก็หลี่ตามมองมัน ประมาณว่าเมื่อกี้กูพึ่งตามใจมึงนะ เดี๊ยะกูเปลี่ยนใจซะเลย และเหมือน
มันอ่านสายตาผมออก มันเลยเปลี่ยนโหมดซุกหัวถูไถกับอกผมใหญ่. เห้อ~มันน่ารักอย่างนี้หล่ะสิ. ถึงขัดใจมันไมได้สักที
ผมมองมันอย่างเอ็นดูลูบหัวมันเบาๆ ไปมาอีกหลายที มันก็ยังอ้อนไม่เลิก ไซร้อยู่นั่นแหล่ะเดี๊ยะตบะพ่อแตก
"อีกสักรอบดีมั้ย? มึงอ้อนเก่งขนาดนี้". พูดเสร็จก็จ้องตามันเป็นประกาย เห็นไอ้ต้นก็มองมันเช่นกัน ดูมันจะช็อค
และผมก็พวกเล่นทีเผลอ ขณะที่มันกำลังกระพริบตางงๆ ว่าไอ้เรื่อง “อ้อน” กับไอ้เรื่อง “เอา” นี่มันเกี่ยวกันยังไง
ผมก็ยื่นหน้าเตรียมประกบปาก ริมฝีปากแดงระเรื่อจากการถูกบดจูบอย่างหนัก ลอยอยู่ในระยะเผาขน
กำลังจะประทับลงบนริมฝีปากอิ่ม
“พลั๊ก”
ใบหน้าผมแหงนหงาย หลังจากถูกฝ่ามือมารของใครบางคน ผลักจนหน้าหงาย สายตาที่กำลังกึ่มเคลิ้ม กึ่งวาดฝัน
ที่จะได้ดูดปากหวานของอีกฝ่ายเป็นอันมลายหายสิ้น หรือเพียงแต่สีหน้าเซ็งชีวิต สุดๆ พร้อมกับคิ้วข้างหนึ่งที่กระตุก
ยิ๊กๆๆ ไม่หยุด ค่อยๆ ก้มหน้าลงมามอง ไอ้คนที่ทำฝันผมสลาย มันยกยิ้มที่มุมปากอย่างน่าหมั่นไส้
แถวยกคิ้วอย่างสะใจใส่ผมสองสามขยัก ผมมองมันอย่างเอือม ๆ เบ้หน้าใส่ ก่อนจะสบัดหน้าเชิดใส่อย่างสวยงาม
“ชิส์” ยังไม่พอยังมีออพชั่นเสริมพลิกตัวหันหลังให้อีกฝ่ายทันที
“...............”
หมับ!! สองแขนเรียวที่โอบกอดรอบตัวผม ทำผมกระตุกยิ้ม หึหึ.....นึกว่าจะไม่ง้อซะแล้ว
“ไม้มึงอย่างอนดิ๊.... กู กูง้อไม่เป็นน้า” ผมนอนนิ่งๆ ไม่ได้ตอบอะไร ไอ้ต้นก็ซุกหน้าซุกตัวมาถูไถผมจากด้านหลัง
“................................” เงียบ
“นะนะ อย่างอนเค้าน้าาาาาา” มันว่าเสียงอ้อนๆ จุ๊บเบาๆ ที่ซอกคอผม
“...............................” ผมยังเงียบ ทั้งที่ปากอมยิ้มไปแล้ว มันวางคางที่ไหล่ผมแล้วอ้อนต่อ
“อย่างอนเมียน้าาาาา ผัวคนดี” หืมมมมมมมมมมมม ผมได้ยินถึงกลับตาโต พลิกตัวกลับดึงอีกฝ่ายมากดจูบ
“จุ๊บ ๆๆๆๆๆๆๆๆ โหย ~ หายแล้วครับเมียคร๊าบบบบบบบ น่ารักสุดๆ อ่ะคนเนี้ยะ” ผมดึงแก้มอีกฝ่าย
อย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะจุ๊บเบาๆ ที่ริมฝีปากแดงเรื่อ อีกสองสามรอบ เห็นหน้าแดงของมันแล้วมีความสุข ดึงมันเข้ามากอด
“เห้อ~ ทำยังไม่ก็โกรธมึงไม่ลงสักทีให้ตายสิ ” ผมบ่นเบา ๆ ขณะที่วางคางบนหัวทุยของอีกฝ่าย
“อือ.... ไม่ก็โกรธก็ดีแล้วนี่ กูง้อไม่เก่ง” มันว่างุ๊งงิ๊ง อยู่กับอกผม
“โหย~ มึงอ่ะไม่รู้ตัวเองสินะ ว่ามึงอ่ะ โคตรขี้อ้อน โคตรน่ารัก แค่มึงเป็นอย่างนี้กูก็โกรธไม่ลงแล้ว” ผมว่าขำๆ
“บ้า....กูก็เขินเป็นนะ ”
“อ้าวเหรอ ฮ่าๆๆ”
.
.
.
.
แล้วก็ถึงเวลากลับจากเกาะ “รัก” (สำหรับผมกับไอ้ต้น) พวกเราทั้ง 6 คนพร้อมเพียงกันขึ้นเรือ งงล่ะสิว่ามันมาจากไหนอีกหนึ่ง
นอกจากจะมี ผม ไอ้ต้น อ๋อม ไอ้ภาค และน้องแพนแล้ว ยังมีไอ้ปรสิท ซึ่งกูไม่เข้าใจ ...ว่าเพื่อนมึงไม่คบมึงแล้วใช่มั้ย?
ถึงได้มากลับกับพวกกู ซึ่งนั่นก็คือไอ้เหี้ย “พี่รัก” ทำผมอารมณ์เสียนิดๆ แต่ก็แกล้งทำเมิน เพราะมือผมกอดเอวไอ้ต้น
ไว้ตลอด แม่ง....ถ้ามึงโง่จนไม่รู้ เดี๊ยะกูโดดถีบปากให้อ่ะ สรุปขากลับคนก็ยังเยอะเหลือเกิน พวกผมก็หนีไปที่ประจำ
เครื่องห้องเครื่องชั้นสองของเรือ และแน่นอนไอ้หล่อก็ข่มขู่น้องแพน ให้มาอยู่ในคอก ที่แม่งกั้นไว้กันไอ้พวกผู้ชายทั้งหลาย
ที่มองมาที่น้องแบบน้ำลายสอ ก็เด็กมันขาว ปากแดง ตัวเล็ก เอวเป็นเอว ผมยาวละต้นคอ มองเผินๆ เหมือนผู้หญิงตัดผมสั้น
ดีที่กูรู้จักกันมาก่อน ไม่งั้นแม่งตามจีบ ถัดมาเป็นอ๋อม ซึ่งผมก็ยิ้มให้อ๋อมตามปกติ ดูแลตามปกติไม่ได้เพิ่มเติมเกินกว่า
ที่เคยเป็นเพื่อนกัน ถัดจากอ๋อมก็เป็นผมนี่แหล่ะครับ ส่วนไอ้ต้นของผม หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า “เมียรัก” ก็นั่งติดกันนี่แหล่ะ
มือผมยังโอบกอดรอบเอวมันไม่ห่าง หรือถ้ารู้สึกห่างผมก็จะกระชับมือให้อีกฝ่ายมาชิดแต่โดยดี โดยมีไอ้เชี่ย “พี่รัก”
นั่งถัดจากเมียผมไป มันยังส่งยิ้มแบบมีความหมายมาหยอดคนของผมเสมอๆ แม้ผมจะทำตาดุใส่ แต่แม่ง..
เสือกยิ้มมุมปาก ยักคิ้วกวนๆ แบบว่า กูไม่สนใจ ส่งมาให้ผมเสมอ~ ผมเองก็ไม่อยากใส่ใจ แม่ง...อย่างมึง
ก็ได้แค่มองหล่ะวะ เมื่อคิดได้อย่างนั้น ผมก็ยกยิ้มอย่างมีความสุข หันไปมองได้ต้นกับพี่รักที่คุยกันออกรส
ส่วนอ๋อมใส่หูฟัง แล้วหลับตาไปเรียบร้อยแล้ว ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ไอ้ต้นชนิดแก้มชนแก้ม ผมยักคิ้วให้ไอ้พี่รัก
“คุยอะไรกันเหรอ ? น่าสนุก” ผมเอ่ยถามยิ้ม ไอ้ต้นเหล่ตามามองนิดหน่อยเพราะมันไม่กล้าหันมามอง
กลัวจะกลายเป็นมันหอมแก้มผม
“ก็ เรื่องทั่วไปน่ะแหล่ะ ไม้สนใจจะคุยด้วยก็ได้นะ” ไอ้พี่รักเอ่ยขึ้น ทำไม...ผมรู้สึกว่าแม่ง ด่าว่าผมเสือกว่ะ
แต่ผมก็เนียนไม่ใส่ใจ เบ้หน้าตอบกลับมัน เอามือเกลี่ยที่แก้มไอ้ต้นที่ทำหน้าแดงใส่ผมกับไอ้พี่รัก
“ผมไม่ค่อยสนใจว่ะพี่ เห้ย...แก้มมึงเปื้อนอะไรวะต้น ...... ฟอดดดดดดด~” หอมโชว์ไปรอบหนึ่ง
เห็นไอ้พี่รักอ้าปากค้าง ส่วนไอ้ต้นทำหน้าเหวอ ด้วยความตกใจ
“นี่... นี่เราสองคน...” ไอ้พี่รักชี้มือไปมา ระหว่างผมกับไอ้ต้น ดวงตาลอกแล่กอย่างแปลกใจ เรียกว่าตกใจจะถูกกว่า
ผมอมยิ้มมุมปาก ส่วนไอ้ต้นก้มหน้ามุดเข่าตัวเอง ผมเลยทำปากตอบคำถามไอ้เหี้ยพี่รัก แบบไม่มีเสียง
“เมียกู”
เท่านั้นแหล่ะ ผมไม่รู้ไอ้พี่รัก แม่ง...สบถอะไร เพราะผมไม่ได้ยิน และคิดว่ามันคงไม่อยากได้ยิน ขบกรามแน่น
ก่อนจะหยิบแว่นดำมาสวม หยิบหูฟังมาใส่แล้วหันไปสนใจทะเลเป็นการถาวร ส่วนผม ....ลูบหัวไอ้ต้นอย่างปลอบใจ
ช่วยไม่ได้ว่ะ.... มึงอาจต้องอายบ่อยๆๆ ก็ทำไงได้
.
.
.
.
.
.
ก็ กูหวง