ไอ้คินนึกดีใจที่กลั้นน้ำตาไว้ได้สำเร็จ
“ต่อไปกุจะไม่ชวนทะเลาะแล้ว มรึงก็ไม่ต้องมาใส่ใจอะไรกับคำพูดของกุด้วย ต่างคนต่างอยู่แล้วกัน”
พอพูดจบก็รีบเดินออกไปหาไอ้เชฟท่ามกลางเสียงสบถคนเดียวของไอ้เป้ ตามด้วยเสียงโครมครามเหมือนมันกำลังระบายอารมณ์กับข้าวของอยู่
ไอ้แม็คกับไอ้โก้ยืนถือถุงข้าวต้ม สีหน้าไม่ค่อยดีกันเท่าไหร่ ท่าทางพวกมันคงจะได้ยินคำพูดของเขาหมดทุกอย่างเลยแน่ๆไอ้เชฟมันถึงได้ทำหน้าเศร้าอย่างนั้น ขอโทษนะแม็ค กุโง่เองที่รักมรึงไม่ได้ ทั้งๆที่มรึงก็ดีกับกุขนาดนี้ อยากจะบอกมันอย่างนี้ แต่น้ำตาที่กลั้นไม่อยู่แล้วไหลออกมาเสียก่อน พูดอะไรไม่ออกเหมือนมีอะไรมาจุกอก
“ไอ้คุณนิคมันโทรบอกว่ามรึงไม่ค่อยสบาย เลยให้กุแวะซื้อยากับข้าวต้มมาให้มรึง กินข้าว กินยาแล้วนอนนะคิน”
ไอ้แม็คพยายามปลอบโดยหลีกเลี่ยงที่จะพาดพิงถึงเรื่องไอ้เป้ ยิ่งไอ้คินมันกำลังป่วย สภาพจิตใจมันคงย่ำแย่หนักพอสมควร เลยจัดการพาไอ้คนป่วยน้ำตาท่วมไปกินยาแล้วบังคับให้มันเข้านอน
หลังจากวันนั้นไอ้คินก็ทำตัวเป็นปกติทุกอย่าง จะเปลี่ยนไปก็มีบ้าง เช่นว่า ไอ้คินยืนยันจะกลับบ้านเองไม่ต้องลำบากไอ้เป้คอยรับส่งเหมือนทุกครั้ง (แต่ไอ้นิคก็ยังบังคับให้ไอ้แม็ค หรือไม่ก็ไอ้โก้ ทำเนียนว่าขับรถผ่านมา เลยแวะมารับไอ้คินที่คณะอยู่ดี)
ไอ้คิน ยังพยายามดูหนังผีคนเดียวให้ได้ ฝึกไว้ ให้ไม่หลอน ตอนอยู่บ้านคนเดียวดึกๆจะได้ไม่ต้องรบกวนไอ้เป้ให้รีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อน (แต่ไอ้นิคก็ยังบังคับให้แม็คหรือไม่ก็ไอ้โก้ ให้รีบกลับบ้านมาอยู่เป็นเพื่อนไอ้คินอยู่ดี)
นอกจากนี้ ไอ้คินยังพยายามออกกำลังสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มนมก่อนนอนทุกวัน ให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ จะได้ไม่ป่วยบ่อยๆ รบกวนไอ้เป้ต้องพาไปโรงพยาบาลหรือคอยดูแลให้เขากินยาตามที่หมอสั่งอีก (แต่ข้อนี้ไอ้นิคไม่ได้ทำอะไร เพราะขนาดตัวมันเองยังกินยายากเลย)
และอีกหลายๆข้อ ตามที่ได้บอกกับไอ้เป้ไว้ว่า ต่างคนต่างอยู่ จริงๆ
“ทำไมไอ้คินมันยังไม่กลับวะ”
ไอ้นิคเพิ่งพาหญิงไปดินเนอร์ แต่พอกลับบ้านมาไม่เห็นไอ้คิน ก็หงุดหงิดงุ่นง่านเหมือนพ่อหวงลูกสาว
“แล้วจะปิดโทรศัพท์ทำเหวไรวะเนี่ย ฮึ้ย”
อาบน้ำกินข้าวไปแล้วจนจะหิวอีกรอบ ไอ้คินก็ยังไม่กลับ ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือทุกๆสิบวิฯ ปกติไอ้คินมันอยู่ที่คณะดึกสุดก็แค่สามทุ่ม แต่นี่จะสี่ทุ่มแล้วมันยังหายหัว โทรถามใครก็บอกไม่เห็นๆ ทีนี้ความอดทนอันน้อยนิดก็สิ้นสุดลง ไอ้นิคคว้ากุญแจรถจะไปตามหาเพื่อน พอดีไอ้เป้ขับรถเข้ามาพอดี ไอ้คุณชายรีบวิ่งออกไปดูเผื่อจะเห็นไอ้คินกลับมากับไอ้เป้
“ไอ้คินล่ะ” ถามไอ้เป้เร็วๆ
“ไม่ได้มากับกุ ทำไม มันยังไม่กลับเหรอ” ทีนี้ไอ้เป้ก็เริ่มออกอาการบ้าง
“เออสิ แมร่ง ไม่รู้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ไม่รู้รึไงว่าคนอื่นเขาเป็นห่วง ไอ้แม็คไอ้โก้ ไปช่วยกันหาไอ้คินหน่อย เร็ว”
ไอ้นิคออกคำสั่ง ควบมอเตอร์ไซค์นำออกจากบ้านไปก่อน เสียงเบรกดังลั่นเมื่อสิงห์นักบิดไซด์โค้งเข้าจอดรถที่หน้าตึกสาขาแบบเหม็นไหม้ตลบ วิ่งหาจนทั่วก็ไม่เห็นวี่แวว บนตึกก็ปิดหมดแล้ว พอถามพี่ยามแกก็บอกไม่เห็นใคร เอาไงดีวะ
“ไม่เจอเลยว่ะ”
ไอ้แม็ควิ่งไปหาที่ตึกสาขาอื่นมาก็ไม่เจอเหมือนกัน แยกย้ายกันไปเดินหาอีกรอบจนทั่วคณะก็ยังไม่เจออยู่ดี ทีนี้แต่ละคนก็เริ่มกระสับกระส่าย คิดไปต่างๆนานา โดยเฉพาะคิดกลัวกันไปว่าไอ้คินมันจะโดนใครลากไปรึเปล่า มันยิ่งหน้าตายั่วใจออกอย่างนั้น
“กุจะไปแจ้งตำรวจ” ไอ้นิคเตรียมจะพึ่งผู้พิทักษ์สันติราษฎ์แต่โดนดึงตัวไว้ก่อน
“ยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง เขาไม่รับแจ้งว้อย” ไอ้โก้ก็จำๆมาจากในละคร
“เอาอย่างนี้ ตอนนี้กลับบ้านกันก่อน เผื่อไอ้คินมันจะกลับถึงบ้านไปแล้ว ถ้าไม่เจอก็ลองโทรหาเพื่อนคนอื่นๆอีกที โทรหาให้ครบทุกคน เผื่อไอ้คินมันจะอยู่กับใครคนใดคนหนึ่งในนั้น”
ไอ้เป้ดูจะมีสติที่สุด มันบอกเร็วๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างจากคนอื่น จากนั้นก็พากันยกโขยงกลับบ้านเมื่อไม่เห็นว่าจะมีวิธีไหนที่ดีกว่านี้แล้ว
เมื่อกลับไปถึงบ้าน คณะตามหาคนหายก็พากันถอนใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก ไอ้คินมันยืนคุยอยู่กับไอ้โอหน้าตาไม่ทุกข์ร้อนที่โรงรถ หันมาถามว่าหายไปไหนกันมา แต่ละคนเลยมีอาการต่างกันไปคนละอย่าง
ไอ้นิคนั้นแทบจะแล่นเข้าไปบีบคอไอ้คิน โทษฐานที่ทำให้คนอื่นเป็นห่วง วุ่นวายกันทั้งบ้าน ไอ้แม็คกับไอ้โก้ถอนใจโล่งอกเอือกใหญ่ เมื่อเห็นว่าเพื่อนกลับมาครบสามสิบสองไม่มีบุบสลาย
ส่วนไอ้เป้ มันยืนมองไอ้คินนิ่งๆอยู่ครู่เดียว ครู่เดียวจริงๆ แล้วมันก็เดินเข้าบ้านไปเงียบๆไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ
“เชี้ยโอ สาดดด แล้วตอนกุโทรถาม ทำไมมรึงบอกไม่เห็น”
“อ้าว ก็มรึงถามว่าเห็นไอ้คินมั้ย กุก็ตอบว่าไม่เห็นดิ ก็ไอ้คินมันเข้าห้องน้ำอยู่ กุไม่ใช่ตาซุปเปอร์แมนนี่ จะได้มองทะลุประตูได้”
ดูมันตอบ ตกลงนี่กุผิดเองใช่มั้ยเนี่ย กุโง่หรือมันโง่ ไอ้นิคอยากจะลงไปนอนชักดิ้นชักงอกับพื้นให้รู้แล้วรู้รอด
“แล้วมรึงปิดมือถือทำไมคิน” หันไปเอาเรื่องกับไอ้คินบ้าง
“แบตหมด”
“แล้วทำไมไม่ใช้โทรศัพท์ไอ้โอโทรมาบอกว่าจะกลับค่ำ” เสียงเหี้ยมใส่ไม่เลิก
“ไอ้คุณนิค กุโทรบอกมรึงตั้งแต่หัวค่ำแล้ว แต่หญิงของมรึงรับแทน กุก็ฝากบอกไปแล้วว่ากุจะกลับดึกจะไปช่วยไอ้โอทำพอร์ท พี่เขาไม่บอกมรึงเหรอวะ”
ไอ้คินชี้แจงเสียงหน่าย
“อ้าวเหรอ ไม่เห็นพี่ตาลบอกว่ะ ฮึ้ย แบบนี้คบกันไม่ยืดแน่ พี่ตาลนะพี่ตาล”
ไอ้นิคโมโหโทโสกับหญิงในสต๊อคของมัน แล้วก็ไล่ให้แต่ละคนแยกย้ายกันไปนอนเพราะดูเวลาก็ดึกดื่นค่อนคืนแล้ว ก่อนจะกลับหอ ไอ้โอมันก็โดนเจ้าของบ้านไล่เตะตูดไปสองสามที ข้อหากวนจนได้เรื่อง
ไอ้คินเดินเนือยๆเข้าบ้านไปก่อน ได้ยินเสียงโวยวายของโอริโอ้กับไอ้คุณชายดังแว่วๆมาจากหน้าบ้านก็อดยิ้มน้อยๆไม่ได้ ถึงจะเศร้าเรื่องไอ้เป้ แต่อย่างน้อยเขาก็โชคดีที่มีเพื่อนดีๆหลายคนคอยเป็นห่วงเป็นใยกันตลอด ส่วนเรื่องความรัก ก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตา ถอนใจบางๆ กำลังจะเปิดประตูแต่ก็เปลี่ยนใจ ยืนนิ่งเงียบอยู่หน้าห้อง ช่วงนี้เขากลับดึกทุกวัน ตั้งใจจะเลี่ยงไอ้เป้ แต่เพราะเป็นเมดกันก็เลยค่อนข้างลำบาก จะขอแลกห้องกับพวกไอ้โก้ก็เกรงใจพวกมัน เลยต้องกลับดึกๆ ออกจากบ้านแต่เช้าอย่างนี้ทุกวัน เหนื่อยใจพอดู
“จะยืนอย่างนี้ไปถึงเมื่อไหร่”
ไอ้เป้เสียงเรียบ ไม่รู้มายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ มันเดินหลบคนตัวเล็กกว่าเปิดประตูเข้าไปในห้อง ไอ้คินเลยต้องเดินตามเข้าไปอย่างเสียไม่ได้ พอปิดประตู คนตัวสูงก็เริ่มเสียงดังใส่
“ทำไมมรึงต้องทำอย่างนี้ กลับบ้านดึกๆดื่นๆทุกวันอย่างนี้ ไม่รู้รึไงว่ากุเป็นห่วงแทบบ้า ไอ้นิคก็จะแจ้งความอยู่แล้ว แต่ละคนนี่วิ่งหามรึงกันให้ทั่ว จะหลบหน้ากุทำไมต้องให้คนอื่นมาเดือดร้อนด้วย ไม่อยากเห็นหน้ากุก็บอกตรงๆ บอกมาเลย แล้วกุจะเก็บข้าวของออกไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“ก็เอาสิ เรื่องของมรึง ก็บอกแล้วไงว่าต่างคนต่างอยู่”
“โธ่เว้ย ทำไมมรึงเข้าใจอะไรยากอย่างนี้วะ”
ไอ้เป้โวยลั่น ไอ้คินกำลังจะเถียงแต่ก็ต้องอึ้งไปอย่างนึกไม่ถึง เมื่อร่างสูงคว้าตัวเขาเข้าไปกอดแน่น ไอ้เป้ซบหน้าลงกับไหล่เล็ก เอ่ยปากขอโทษเสียงเครือ
“กุรู้ว่ามรึงเสียความรู้สึกกับคำพูดโง่ๆของกุมากแค่ไหน แต่กุก็ยังอยากจะขอโทษอยู่ดี ขอโทษนะคิน อย่าทำอย่างนี้อีก อย่าหายไปอย่างนี้อีก มรึงไม่รุ้หรอกว่ากุเป็นห่วงมรึงมากแค่ไหน กุแทบบ้าตอนที่หามรึงไม่เจอ กุพยายามตามหา แต่ก็ไม่เจอ กุพยายามตะโกนเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ”
ร่างในอ้อมแขนนิ่งไปเมื่อสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดในน้ำเสียงนั่น ไอ้เป้ยังคงกอดไม่ปล่อย เหมือนกับว่าถ้าปล่อยมือแล้ว ไอ้คินจะหายไปอีก
“กุผิดเองที่พยายามปฏิเสธความรู้สึกตัวเองจนทำร้ายมรึงโดยไม่รู้ตัว กุขอโทษ กุขอโทษ”
คินเงียบไปนานกว่าจะเอ่ยปากถาม มาถึงตอนนี้เขาพอเข้าใจแล้วว่าไอ้เดรดร๊อคมันกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่
“มรึงกังวลอะไรอยู่กันแน่ เป้”
“กุทั้งกลัว ทั้งกังวลไปหมด กุเป็นผู้ชาย มรึงก็เป็นผู้ชาย กุไม่อยากให้ใครมองมรึงไม่ดี บางครั้งกุก็สับสนจนไม่รู้จะทำยังไง กุมีความสุขที่ได้ดูแลมรึง กุดีใจเวลาที่ได้เห็นได้เห็นรอยยิ้มของมรึง อยากกอดมรึงไว้อย่างนี้ แต่ก็ต้องฝืนใจไม่ล้ำเส้นของคำว่าเพื่อน”
“เลยพยายามทำไม่สนใจกุ แล้วจีบหญิงไปทั่ว” ไอ้เป้พยักหน้าเบาๆตอบ
"กุไม่ได้จะบอกให้มรึงไม่แคร์ใคร แต่บางครั้ง การที่มรึงเอาตัวเองไปยึดติดอยู่กับสายตา อยู่กับความรู้สึกของคนอื่นมากจนเกินไป มันก็เหมือนกับผูกมัด ทำร้าย ตัวเองทางอ้อม เท่านั้นไม่พอ มันยังทำร้ายมาถึงกุด้วย"
“กุขอโทษที่ทำให้มรึงเสียใจ เสียความรู้สึก แต่กุสัญญา ต่อไปกุจะอยู่ข้างๆมรึง จะทดแทนความรู้สึกที่เสียไป จะไม่ทำให้มรึงต้องร้องไห้อีก ยกโทษให้กุนะ”
"กุบอกแล้วไงว่ากุไม่ได้โกรธมรึงเลย"
ไอ้เป้กระชับร่างในอ้อมแขนให้แน่นขึ้นด้วยความรู้สึกเปี่ยมล้นกับรอยยิ้มที่อีกฝ่ายส่งมาให้ ก่อนที่ทั้งสองจะสบสายตากันเนิ่นนาน บอกความรู้สึกที่มีทั้งหมดทางแววตาให้แก่กัน ร่างสูงค่อยๆก้มลงหาริมฝีปากอีกฝ่าย
แต่ทว่า.........
“เฮ้ย !!!” ประตูเปิดพลั๊วะ พร้อมกับไอ้โก้กับไอ้แม็คเซถลาลงไปกองกับพื้นห้อง
“มรึงจะดันทำไมวะไอ้โก้ แมร่ง” ไอ้แม็คด่า
“แล้วมรึงเจือกแง้มประตูทำไมวะ” ไอ้โก้เถียง
“ก็มันไม่ได้ยินนี่หว่า”
เถียงกลับไปแล้วก็ต้องหัวเราะแห้งๆ ให้เจ้าของห้องทั้งสองคน เมื่อเห็นว่าไอ้คินยืนหน้าแดง แต่ไอ้เป้ยืนหน้าเหี้ยมใส่ แล้วกีฬาฮาเฮก็เกิดขึ้นในห้องเมื่อไอ้เป้วิ่งไล่เตะไอ้โก้ไปรอบๆห้อง
“ขอบใจ แล้วก็ขอโทษนะ” ไอ้คินมายืนอยู่ข้างๆ บอกกับไอ้เชฟเบาๆ
“ขอบใจนี่เข้าใจนะ แต่จะมาขอโทษเรื่องอะไร” ไอ้เชฟงงๆ
“ก็มรึงบอกว่าจะมาเอาคำตอบไง” ไอ้คินอึกอักอีกแล้ว ทีนี้ไอ้เชฟเลยร้องอ๋อ
“กุก็พูดไปงั้นแหละ ก็ตอนนั้นไอ้เป้มันแอบฟังอยู่นี่ ส่วนมรึงก็ไม่ยอมพูดอะไรสักที เพื่อนที่ดีอย่างกุเลยเสียสละตัวเองเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเคมีในตัวพวกมรึงเสียหน่อย แล้วก็ไม่เสียแรงเปล่า เฮ้อ.... กุนี่ช่างเป็นคนดีจริงๆเล้ย”
ไอ้เชฟยักไหล่ สีหน้าภูมิอกภูมิใจในความสามารถทางด้านการแสดงอันล้นเหลือของตัวเอง
“นี่มรึงแกล้งอำกุจริงๆใช่มั้ย ไอ้แม็ค !!! หลอกให้กุกลุ้มตั้งนาน”
ถึงจะรอดจากบาทาไอ้เป้เพราะมีไอ้โก้เป็นเป้าหมาย แต่ในที่สุดไอ้เชฟก็ไม่รอดพ้นเงื้อมมือไอ้คิน
ถ้าใครเอียงหูฟังดีๆ ก็จะได้ยินเสียงโวยวายโครมครามปนเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขดังมาจากบ้านเลขที่ 156/23 ณ หมู่บ้านศุภฤกษ์ดีศรีสวรรค์ แต่จะชั้นอะไรนั้น คราวนี้ไม่ขอต่อแล้วเพราะคนเขียนขี้เกียจคิด 555 เอาเป็นว่า ตอนนี้ก็จบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง มีความสุขสมหวังกันทุ้กฝ่าย
- จบแล้วจ้า -
ลงตอนพิเศษคั่นเวลาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าความรักของสองคนนี้จะเหมือนกับที่แฟนๆคินเป้จินตนาการกันไว้รึเปล่า สำหรับป้าจุนั้นจิ้นเป็นแบบนี้ค่ะ อาจจะไม่ค่อยฮาเท่าไหร่ ดูฝืดๆไปหน่อยก็ขออภัยจริงๆเพราะอากาศมันเย็นจับขั้วหัวใจดีแท้ (ไม่รู้เกี่ยวมั้ยเนี่ย)
ตอนต่อไปของนิคเชน ป้าจุก็ขอติดไว้ก่อนแล้วกันนะคะ ไม่รู้เป็นอะไร อาถรรพ์เขาแรงจริงๆตอนใหม่เนี่ย เขียนไปลบไป ยังไงก็ไม่ถูกใจป้าเสียที
.................................
หมดแล้วจริงๆ นะ แล้วจะพยายามติดต่อป้าจุ ให้ได้ไวๆ