Sex phone
ความวุ่นวายล้านแปดทำเอามาเฟียขมวดคิ้วยุ่ง เขาเกลียดที่สุดก็คือไอ้งานเทศกาลหนังสือแห่งชาตินี่แหละ มันไม่ใช่ฟิลของเขาจริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่สังคมกับใครนะ แต่การสังคมของเขาคือการนั่งก้งเหล้ากับเพื่อนสนิทกันมากกว่า...
ไอ้จะมานั่งปั้นยิ้ม แจกลายเซ็นอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้มันโคตรจะทรมานตัวเองเลย แถมเมื่อคืนก็นอนเสียดึกด้วย เกลียด หัวหน้า บก.ที่มันกล้าไปลากเขาออกจากเตียงทั้งที่ยังนอนอยู่ในอ้อมกอดของกวิน...
ชิส์!
“ทำหน้าให้มันดีหน่อยท่านนักเขียนดัง อีกไม่กี่นาทีก็ต้องขึ้นไปแจกลายเซ็นแล้วนะ” ปรมินทร์ยืดกอดอกพูดลอดไรฟันบอกกับเขา... แต่อารมณ์นี้ใครมันจะยิ้มออก
ความดันลด ไมเกรนจับ หงุดหงิดยิ่งกว่าประจำเดือดไม่มาเสียอีก
“ฉันง่วง”
“ง่วงหรือไม่พอใจที่ไม่ได้นอนกอดกับพ่อหนุ่มตาหวานคนนั้นล่ะ” น้ำเสียงรู้ทันของปรมินทร์ทำเอามาเฟียยิ่งหน้ามุ่ย แสร้งหันไปมองรอบตัว ท่ามกลางบู๊ทหนังสือนับร้อยนับพัน
“ไม่เห็นไอ้เด็กหน้าหล่อวะ”
“ฉันมาที่งานอย่างนี้ก็ต้องให้ตฤนเฝ้าสำนักพิมพ์สิ เตรียมตัวเถอะ นี่จะบ่ายสองแล้ว เดี๋ยวต้องไปที่จุดแจกลายเซ็น” ไอ้จุดแจกลายเซ็นที่ว่านั่นก็คือ โต๊ะขนาดเล็กๆ ที่ปรมินทร์เช่าไว้ไม่ไกลจากที่บริเวณงานเท่าไหร่นัก มีไว้สำหรับนักเขียนเพื่อนั่งแจกลายเซ็นให้กับแฟนๆ นิยาย
มาเฟียน่ะ นั่งอยู่ตรงนั้นจนเบื่อแล้วล่ะ
งานแจกลายเซ็นเริ่มบ่ายสองแต่ไปลากเขาจากบ้านตั้งแต่แปดโมงเช้า... คิดว่าไอ้ บก.นี่มันคงว่างเกินไปถึงได้ตามจิกเขาขนาดนี้... ต้องหาทางให้มันมีแฟนให้ได้ คอยดูสิ!
มาเฟียนั่งแกร่วอยู่ที่บู๊ทอีกพักใหญ่ ก่อนจะทนไม่ไหวลุกขึ้นเดินไปมาแถวบู๊ทหนังสือของสำนักพิมพ์อื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ เขาไปยืนเลือกหนังสืออยู่ไม่นาน แต่ก็ไม่มีหนังสือที่ถูกใจ ไม่รู้นะ ถึงเขาจะเขียนนิยายแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะชอบอ่านนิยาย ยิ่งเป็นพวกนิยายรักนี่จบกันได้เลย ไม่คิดจะอ่าน...
การมาเดินเที่ยวงานเทศการหนังสือนี่...ไม่มีอะไรดีเลยนอกจาก เดินเบียดกันไปมา...
ให้ตายเถอะ..รวยเมื่อไหร่จะเลิกทำอาชีพนี้จริงๆ
มาเฟียชักรู้ตัวว่าตัวเองหงุดหงิดเกินไปแล้ว เขาเลยหยุดเดินกะทันหันตั้งใจจะหมุนตัวเดินกลับทางเดิม แต่กลายเป็นว่าการหยุดของเขาทำให้คนที่เดินตามหลังเสียขบวน ชนเขาจังๆ
“คุณครับ...หยุดทำไมไม่ขอความเห็นคนเดินตามบ้างล่ะครับ” ขอโทษแถอะนะ เขาโดนชนนะ แต่เหมือนได้คนที่เดินมาชนมันจะโยนความผิดให้กับเขา...และดูเหมือน เจ้าคนนี้จะรู้จักเขาด้วย...ซึ่งเขาเดาไม่ผิดหรอกว่าคือใคร!
“มาได้ไงกวิน ไหนบอกว่ามีงานนอกไงวันนี้” คนโดนถามทำหน้ายู่ ก่อนจะฉีกยิ้มตายี อาการนี้เตรียมตัวโดนคุณแฟนกวนโอ้ยโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวได้เลย
“ผมก็นั่งรถจากบ้านแล้วก็มาเดินที่นี่น่ะสิครับ คุณครับก็ถามแปลก...”ไม่พูดเปล่ามีการส่ายหน้าเป็นท่าทางประกอบ ประมาณว่าเขานี่ช่างไม่รู้เรื่องอะไรเอาซะเลย...
เชื่อเขามะ? ว่ากวินมันกวนตีน แต่ไม่รู้ตัว...
“อีกอย่าง...ที่นี่ก็ไม่ใช่ที่สถานี ผมมาที่นี่ก็คือนอกสถานที่แล้ว...วู้ คุณครับนี่นะ”
หรือความจริงแล้ว...กวินมันกวนตีน แต่แกล้งแอ๊บมึน
“เออ...” กูมันก็ผิดตลอดล่ะวะ
“ว่าแต่คนเยอะเนอะ เดินไปทางโน้นเถอะ พวกผมมาจัดรายการกันที่นี่ จัดสถานที่อยู่ตรงโน้น” ว่าแล้วก็ลากมาเฟียตามไปด้วยหน้าตาเฉย โดยไม่รออีร้าค่าอีลมอะไร
ไอ้คนที่ผอมเสียจนลมพัดจะปลิวอย่างเขา กับไอ้เด็กหน้าเป็นที่หุ่นอย่างกับนายแบบนั่นน่ะ ไม่ต้องเดาก็รู้ใช่มั้ยว่าขัดใจไปก็ไม่มีผล
พูดเรื่องหุ่น...ว่าแล้วสายตาของมาเฟียก็มองกวาดแผ่นหลังของคนรักที่เดินแหวกฝูงคนไปด้านหน้า โดยที่ไม่ยอมปล่อยมือจากเขา แถมยังจับไว้จนแน่น
วันนี้กวินสวมเสื้อโปโลอีกแล้ว เหมือนกับวันนั้นที่ไปที่บ้านของเขาครั้งแรก ดูเหมือนเสื้อตัวนี้จะเป็นตัวโปรดนะ เห็นสวมบ่อยๆ แล้วก็ไอ้แว่นเนิร์ดอันนี้อีก แหมๆ จะสวมให้เป็นแว่นประจำตำแหน่ง พ่อคนหล่อน่ารักหรือไง...
แต่ไม่ว่าจะมองมุมไหนยังไง กวินมันหน้าตาน่ารักจริงๆ ให้ตายเถอะ...และได้ตายจริงๆ เพราะหน้าตานั่นน่ะมันแปรผกผันกับนิสัยทะลึ่งทะเล้นของเจ้าตัวน่ะสิ...
ทำตัวน่ารักไม่ว่า แต่ขอร้องว่าอย่าชิ่งถ้าเขาหลงมากกว่านี้...
นี่เตือน(ในใจ)แล้วนะ
กวินพามาเฟียเดินมาจนถึงบู๊ทของสถานีวิทยุที่มาจัดรายการสดๆ กันที่งานเทศกาลหนังสือ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ถูกจัดไว้เรียบร้อยหมดแล้ว แต่ยังไม่ถึงเวลากระมัง มาเฟียจึงยังไม่มีโอกาสได้เห็นการจัดรายการสดๆ
“วันนี้มาทำที่นี่เหรอ” กวินพยักหน้าดึงให้ร่างเพรียวลมของคนรักมายืนขนาบข้าง
“วันนี้ต้องเอาหน้าหล่อๆ มาเรียกเรตติ้งของสถานีสักหน่อยครับ” ว่าแล้วก็ยิ้มร่าทำเอาหมั่นไส้จนติดหมัด
“ทำอะไรบ้างล่ะ....”
“ก็จัดเพลงทำรายการปรกติครับ แล้วก็มีสัมภาษณ์นักเขียนของ สนพ.ที่เป็นสปอร์นเซอร์อีกนิดหน่อย”
“แล้วจะเลิกงานกี่โมง”
“ของผมก็เย็นๆน่ะครับ แต่ลุงเอ็กซ์ต้องอยู่จนงานเลิก” มาเฟียพยักหน้า แต่ก็อดสงสัยไม่ได้
“ทำไมไม่เลิกงานพร้อมกัน?”
“ผมต้องกลับไปจัดรายการที่สถานีอีก...แล้วคุณครับล่ะ กลับตอนไหนครับ” แต่มาเฟียไม่ทันได้ตอบคำถามก็มีเสียงแทรกเข้ามาเสียก่อน
“เฮ...ไหนว่าไปหาแฟนไง ทำไมมาเร็วจัง” เจ้าของเสียงนั้นเป็นผู้ชายหน้าตาดี ที่มาเฟียแอบกลืนน้ำลายเลยล่ะ “มีของดีให้ดูด้วย” ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาตบไหล่ของกวินก่อนจะทำหน้ามีลับลมคมใน
“ไปหาแล้วครับ...คุณครับ นี่ หมูตุ๋นครับเป็นเพื่อนจัดรายการต่อจากผม” กวินแนะนำ ก่อนจะหันไปมองพ่อดีเจหน้าหล่อ(บัดซบ)
“หมูตุ๋น...คนนี้ มาเฟีย เป็นแฟนผมเอง” กวินพูดพร้อมกับยิ้มแฉ่ง ไม่ได้นำพากับอาการอึ้งกิมกี่ของเพื่อน หรือการกระตุกมือแรงๆ ของมาเฟียเลยสักนิด
“แฟน?”
“ครับ”
“ของนาย?”
“ใช่ครับ” ไม่ตอบเฉยๆ ยกมือข้างที่จับกันไว้ให้ดูด้วย ตอกย้ำเข้าไปสิครับ
“ทำไมทำงี้วะ ฉันยังไม่มีแฟนเลยนะ...แกมันร้ายยยยย กวิน ไอ้เสือซุ่ม!” กวินไม่ต่อล้อต่อเถียงอะไรเอาแต่ยิ้มแต้ให้ ส่วนบุคคลที่ถูกพาดพิง ก็จะทำอะไรได้ นอกจากทักทายเพื่อนร่วมงานของแฟนอย่างเสียไม่ได้...
เคยคิดมั้ยละนั่นว่าใครเขาจะมองยังไง ไม่ใช่ผู้ชายกับผู้หญิงนะเว้ยยยยย
“ว่าแต่มีอะไรให้ดูเหรอ?” กวินนึกขึ้นได้ ทำหน้าอยากรู้อยากเห็น หนุ่มหล่อก็ได้ทีทำยืดเล่นตัวอยู่พักหนึ่งนั่นแหละถึงจะยอมเอาของที่จะอวดออกมายื่นให้กวินดู
“นี่มัน!?”
“ชู่ว์....อย่าเสียงดังสิทั้งสองคนน่ะ” จะไม่ให้เสียงดัง....
ใครมันจะทำได้วะเฮ้ย!!!
มาเฟียอยากจะกรี๊ดให้ลั่นงาน ส่วนกวินก็ยืนตาโตมองหน้าปกหนังสือนั้นเขม็ง
“นายมองมันทำไม” มาเฟียกัดฟันพูด ทำเอาพ่อหนุ่มหน้าหวานหันมายิ้มแหะๆ ให้
ผู้ชาย... เห็นเป็นไม่ได้!!!
“ไปหามาจากไหนน่ะท่านหมูตุ๋น”
“ก็สั่งซื้อ แล้วเขานัดให้มาเอาในงานนี้ เพิ่งได้นี่แหละ เจ๋งเด็ดเลยเล่มนี่ คิคิ”
“บ้ากาม” มาเฟียงึมงำกัดฟันถากถาก แต่เพราะทั่วบริเวณงานมีคนเยอะและเสียงค่อนข้างดังทำให้คำพูดนั้นไม่ได้เข้าหูใครเลย
“ซื้อเล่มเดียวเหรอ?”
“ก็ใช่สิ” หนุ่มหล่อว่า ทำเอากวินหน้ามุ่ย “นายทำอะไร” หมูตุ๋นถามเมื่อเห็นกวินกดมือถือยิกๆ แน่นอนว่ามาเฟียก็อยากรู้ด้วยเช่นกัน
“ผมโทรไปสายด่วนของกระทรวงวัฒนธรรมครับ ให้มาจับหนังสือพวกนี้” กวินตอบด้วยน้ำเสียงเรื่อยเฉื่อย แต่ไอ้รอยยิ้มสวยๆ นั่นมันฟ้องได้อย่างดีว่าแอบร้ายยยยย
“ไอ้บ้า!!! เอามานี่เลยนะ” เพื่อนหน้าหล่อแย่งมือถือของกวินไปกดตัดสาย แต่พอมองดูดีๆ แล้ว นั่นมัน...
เบอร์สั่งพิชซ่า!!
“แกแกล้งฉันเหรอ ไอ้เสือ!” หนุ่มหล่อเริ่มโวยวาย แต่กวินกลับหัวเราะร่า
“ก็ใครบอกให้นายไม่ซื้อเผื่อล่ะ” นี่คือเหตุผล?
ผั๊วะ!!
กวินแทบจะหน้าทิ่มพื้นเมื่อโดนตีหัวแรงๆ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกนะที่ทำร้ายร่างกายของเขาแบบนี้น่ะ...มีอยู่คนเดียวนั่นแหละ
“คุณครับ...ตีผมทำไม”
“...” ไม่มีคำตอบ มีแต่อาการยืนกอดอกจ้องหน้าหวานๆ ตาใสๆ นั่นนิ่ง
เคยบอกแล้วใช่มะว่า... ไอ้เด็กนี่มันร้ายยยย
“ไร้เหตุผลจัง...” กวินมุ่ยหน้าทำไม่รู้ไม่ชี้กับสายตาเอาเรื่องของคนรัก
“ลามกนะ” มาเฟียว่า แต่คนที่ตอบกลับเป็นอีกคน
“ร้ายขัดกับหน้าตาซื่อๆ ใสๆ ใช่ม้า...จะบอกให้นะหมอนี้ใช้ไอ้หน้าตาแบบนี้หลอกสาวมานักต่อนักแล้วล่ะ...คุณก็ระวังตัวไว้นะ หมอนี่น่ะ เสือผู้หญิง”
“ฮ้า...พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ ไม่จริงสักหน่อย ผมไม่ได้หลอกใครนะ อีกอย่าง คุณครับไม่เชื่อคำใครง่ายๆ หรอก...ใช่มั้ย...ครับ?” กวินหันมาถามคนรักที่ยืนฟังนิ่งๆ แต่ความจริงต้องบอกว่าแข็งเป็นหินมากกว่า...
ถ้าไม่รู้ก็รู้ไว้เลย...ว่า...
ไม่มีใครจะขี้หึงได้เกินหน้า ท่านมาเฟียหรอกนะ ยิ่งมีแฟนชื่อ กวินด้วยแล้ว...
“เอาหน้าใสๆ ของนายไปล่อลวงสาวมากี่คนแล้ว”
มันไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่เป็นประโยคบังคับให้ตอบ แน่นอนว่าคนเปิดประเด็น
“อูย...ดูเหมือนคนนอกอย่างฉันจะต้องรีบไปทำงานก่อนที่นายท่านจะมาถึงนะ นายก็...จัดการเองแล้วกัน” หมูตุ๋นไม่รอช้าหมุนตัวเดินลิ่วออกไปทันที เรื่องในครอบครัวไม่อยากเอาหน้าหล่อๆ เข้าไปแทรก...
จะเหลือก็แต่มาเฟียที่ชักจะบูดหนักกว่าเดิม และกวินที่ยืนทำหน้าเหรอหรา
“พูดอย่างกับผมเป็นอาชญากรเลยนะคุณครับ มาทางนี้ครับ” กวินดึงให้มาเฟียเดินตามมาที่ด้านหลังของบู๊ทที่เป็นสถานที่เก็บของของทีมงาน มีสต๊าฟกำลังนั่งพักกันอยู่สองสามคน แต่ทั้งสองไม่ได้จะทักใครเป็นพิเศษ นอกจากมาเฟียที่รู้สึกเกร็งๆ เมื่อถูกมองด้วยสายตาใคร่รู้จากหลายๆ คน
“ปวดหัวใช่มั้ย เมื่อคืนก็ไม่ค่อยได้นอนแถมต้องออกมาแต่เช้าอีก”กวินพิงร่างตัวเองกับผนังยกมือทั้งสองข้างขึ้นใช้ปลายนิ้วคลึงขมับของคนรัก
“อย่ามาทำเอาใจ” มาเฟียพูดเสียงเรียบ แต่กวินก็ไม่ได้ตอบอะไร กลับทำหน้ายู่ใส่ ก็แหม...ถามแบบนั้น มันลำบากใจที่จะตอบนี่...อีกอย่างเขาไม่ได้เคยไปล่อลวงใครมานะ
“ผมไม่เคยทำแบบนั้นสักหน่อย”
“นายมีแฟนมาแล้วกี่คน”
“แฟนจริงๆ ก็คนสองคนตอนเรียนมหา’ลัยนั้นแหละครับ”
“ไอ้ที่ไม่ใช่แฟนล่ะ”
“ผู้หญิงผู้ชายละครับ”
“กวิน!” มันกล้าถามย้อนเขามาแบบนั้นนะ...ไอ้เด็กคนนี้ ชักเยอะนะ!
“ก็แหม...มันก็มีบ้างตอนนั้นผมโสดนี่”
สำหรับกวิน...เขาไม่ชอบโกหกนะ แต่บางทีความจริงก็พูดไม่หมด เพราะรู้สึกเหมือนกับว่า ความจริงสามารถฆ่าตัวเองได้ไง เซฟไลฟ์ไว้ก่อนดีสุด...
“กี่คน”
“มันดูไม่ดีเลยอะคุณครับถ้าตอบ อย่างกับผมไปนับแต้มมาเลยอะ”
.....
.......
..........
ให้ตอบนะ...
กูควรจะทำยังไงกับเหตุการณ์ซ้นๆ นี้วะครับ!
เล่นย้อนมาแบบนี้คนสติดีที่ไหนก็คิดได้ทั้งนั้นนั่นแหละวะ ว่ามัน...เยอะ!
“มันเยอะมากขนาดนับเป็นแต้มเลยเหรอเนี่ย กวิน”
“ก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้นครับ แต่...” กวินกระมิดกระเมี้ยน ช้อนตามองคนรักแบบอ้อนๆ แต่ขอบอก ณ จุดนี้...มันนอกประเด็นว้อย!
“แต่อะไร...”
“ที่ไม่ใช่แฟนน่ะ...ผมจำไม่ได้”............
.........................
.................................
ฆ่ากูเหอะ....
พระเจ้า.....................
“อย่าโกรธนะครับ...มันผ่านไปแล้ว ตอนนั้นผมก็วัยรุ่น คึกบ้าง อะไรบ้าง คุณครับก็รู้นี่ว่าผมหัวอ่อนใครพูดอะไรชวนอะไรก็ไปกับเขาหมด”
ประสาทจะแดกกูครับ...
“กล้าพูดนะว่าหัวอ่อนน่ะ”
“นิดนึง... อย่าโกรธนะ คุณครับก็รู้ว่าผมไม่มีใครหรอก”
“ก็อย่าให้รู้...” มาเฟียกัดฟันพูดแล้วก็ได้ถลึงตามองพ่อหน้าหวานที่แกล้งพูดแหย่เล่น(หรือจะจริง?)
“ถ้าทำเรื่องอะไรจะให้รู้”
“กวิน”
“ผมอยู่ห่างแค่นี้เอง ไม่ต้องคิดถึงมากขนาดทำตาหวานใส่ผมขนาดนี้ก็ได้ครับ”
สรุป...กวิน...มันกวนตีนโดยนิสัยเลยล่ะ
“อย่าให้ฉันรู้นะกวิน ฉันไม่เอานายไว้แน่”
“แต่ผมอยากเอาคุณครับนะ”
ก็ถ้าจะดิบขนาดนี้...
มาเฟียเม้มปากไว้แน่น มองอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่ชอบใจอย่างที่สุด มันเดายากที่ไหนเล่าไอ้เรื่องป๊อปปูล่าเนี่ย...ไม่ว่าจะมองมุมไหน ถ้าไม่มีสาวมากรี๊ดกวินนะ ก็ให้ชะนีพวกนั้นไปเช็คสมองกันได้เลย... ไม่เคยมีอะไรกับใครสิแปลก...
หวงอะ...
ฮึ้ย!
“คุณครับ...ผมไม่ได้มีใครจริงจังเลยนะ ตอนนี้ก็มีแค่คุณครับแหละ”
“ตอนนี้ไม่มี แล้วตอนหน้าล่ะ”
“เรื่องของเราเป็นนิยายที่แต่งหรือไงล่ะครับถึงได้มีตอนหน้าตอนโน้นน่ะ” ก็ดูย้อนมาแต่ละทีสิ มันน่าหมั่นเขี้ยวจนอยากจะจับฟัดบนเตียงมั้ยเนี่ย...
“ก็ลองฉันมีแฟนแสนแปดอย่างนายดูมั้ยล่ะ”
“ผมไม่ว่าหรอก”
“ไม่หึง?”
“หึงสิ” ตอบได้เร็วมากกกกก
“หวงล่ะ”
“มากเลย” กวินทำเสียงน่ารัก ทำเอาคนถามอมยิ้มแต่แกล้งฟอร์มรีบตีหน้าบึ้ง
“เคืองปะ?”
“ไม่หรอก...”
“ทำไมล่ะ”
“ก็มันจบไปแล้วนี่ อีกอย่างผู้ชายหน้าตาน่ารักแล้วแถมนิสัยน่ารักกว่าหน้าตาอย่างผม ไม่ได้หาได้ตามร้านสะดวกซื้อนะครับ...ได้ผมแล้วคุณครับยังไปหาคนอื่นก็คิดผิดแล้วล่ะ”
คือ...ว่า...จะให้มาเฟียไปต่อยังไงดี?
“หลงตัวเองว่ะ”
“ต้องซ้อมหลงตัวเองไว้ เพราะผมหลงคุณครับมาจนโงหัวไม่ขึ้นละ เดี๋ยวมันจะไม่สมดุลกัน”
งื้อ.............
เขิน...........คร้าบบบบบบบบบ
“พูดอะไรของนาย” รูปประโยคเหมือนจะไม่พอใจนะ แต่น้ำเสียงและท่าทางนี่ปิดไม่มี แอ๊บไม่เนียนกันเลยล่ะ ก็นะ...ลองมาเจอมุกสดอย่างนี้สิ...
อยากรู้ว่าเป็นยังไง ลองหาแฟนเป็นดีเจกันดูนะ...
“คุณครับ...”
“อะไร?”
“รักผมมากกว่านี้อีกนิดนะ”
“ทำไม” ไม่อยากจะบอกให้ได้ใจหรอกนะ... แต่ความจริงตอนนี้ตาทั้งสองดวงไม่มีไว้มองใครนอกจากคนตรงหน้านี้หรอก หัวใจก็ไม่ได้มีไว้เพื่อเต้นให้คนอื่นแล้ว...
“เพราะผมรักคุณครับมากเท่า...”
“เท่าอะไร?” กวินยิ้ม ก่อนจะชี้ไปที่ปลายจมูกของตัวเอง ทำเอามาเฟียขมวดคิ้วไม่เข้าใจ...
“ไว้อยู่ด้วยกันสองคนจะบอก บอกตอนนี้เดี๋ยวคุณครับหน้ามืดปล้ำผมขึ้นมา...แม่ต้องเสียใจแน่ที่ลูกชายอยู่ก่อนแต่งน่ะ”
“นายมีพรสวรรค์นะกวิน... พรสวรรค์ในการทำให้เรื่องโรแมนติกให้เป็นโรแมนแตกได้น่ะ”
“ถ้าอยู่กันสองคนอาจจะมีอะไรแตกมากกว่านี้นะ”
คือ...ถ้าจะคิดลึกกับคำพูดของกวินน่ะนะ...มาเฟียมั่นใจได้เลยว่าแทบทุกประโยคหมอนี่สามารถพูดได้ส่อนัยที่สุด!
“ไปทำงานเลยไป”
“อีกพักแหละครับ ว่าแต่คุณครับเถอะ แจกลายเซ็นกี่โมง” มาเฟียขมวดคิ้ว ก่อนจะก้มลงไปจับข้อมือของคนรักเพื่อดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือเรือนสวย
“ตายล่ะ...ฉันสายแล้ว เลิกงานกี่โมง”
“ห้าโมงครึ่งผมต้องออกจากที่นี่แล้วครับ”
“งั้นฉันจะมารอนะกลับพร้อมกัน”
“แต่ผมต้องไปทำงานต่อนะครับ” มาเฟียเม้มปาก มองอีกฝ่ายอย่างชั่งใจว่าจะพูดดีมั้ย
“ฉันไปรอที่ทำงานได้ปะ?” กวินเลิกคิ้ว นิ่งไปครึ่งนาทีก่อนจะพยักหน้า...
“ผมไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่คุณครับจะไหวเหรอ เมื่อคืนก็นอนน้อย กลับไปพักไม่ดีกว่าเหรอ?” กวินว่าพร้อมกับยกปลายนิ้วขึ้นแตะที่ใบหน้าของอีกฝ่าย
“ก็...นะ ไปด้วยสิ อยากเห็นนายตอนทำงาน”
“ก็ได้ครับ...แต่ต้องอยู่กับผมจนเลิกงานเช้าเลยนะ ผมไม่ปล่อยให้คุณครับกลับคนเดียวแน่”
“รู้น่า...ไปแล้วนะ ถ้าว่างไปหาที่แจกลายเซ็นก็ได้นะ”
“คงได้ไปหรอก...นี่ คุณครับเซ็นต์ให้ผมบ้างสิ” กวินพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น ทำเอามาเฟียสะดุดขึ้นมา
ได้ข่าวว่าแฟนของเขาอ่านหนังสือเกินสามหน้าได้ที่ไหน...หลับเป็นตายเสียก่อน
“นายอ่านหนังสือของฉันเหรอ? ไหนว่าไม่อ่านนิยายไง”
“ก็ไม่ได้อ่านแต่อยากได้ลายเซ็นที่พิเศษกว่าคนอื่น เพราะผมเป็นผู้ชายที่เหนือกว่าใครของคุณครับ” ว่าแล้วก็ยิ้มแฉ่ง...
เออ...ก็ตายเพราะไอ้ยิ้มแบบนี้แหละ
“ปากกากระดาษอยู่ไหนล่ะ” มาเฟียอดไม่ได้จริงๆ ให้ตายวันละหลายรอบกับรอยยิ้มแบบนี้เถอะ
“ไม่มีอะ...อะ...น้อง...ขอยิ้มเมจิกหน่อยสิ” กวินเรียกน้องสต๊าฟที่กำลังจะลุกเดิน(หนี)ไปทำงาน(เพราะทนความเลี่ยนไม่ไหว) พร้อมกับเดินไปรับเมจิกที่น้องเขายื่นให้แล้วเอามาส่งให้กับมาเฟีย
“ได้เมจิกละทีนี้คุณครับก็เลือกเซ็นต์เลยครับบนเสื้อที่ผมสวมอยู่นี่แหละ”
“เอาจริงอะ” มาเฟียไม่แน่ใจนัก แต่คำตอบที่ได้รับก็สั้นๆ ง่ายๆ แต่ได้ใจความและจบทุกอย่าง
“อื้ม...”
มาเฟียมองซ้ายมองขวาแต่ก็ตัดสินใจไม่ได้จริงๆ ว่าจะเซ็นต์ตรงไหนข้างหลังข้างหน้า หรือตรงไหน เขาเอาแต่ยืนเงียบๆ ซึ่งกวินก็นิ่งได้ใจจริงๆ เพราะไม่ยอมขยับแม้แต่น้อย รอคอยให้คนรักเซ็นชื่อลงบนเสื้อโปโลสีขาวที่เขาสวมอยู่...
จนผ่านไปอีกเป็นพักนั่นแหละร่างสูงโปร่งของมาเฟียถึงขยับเข้ามาใกล้และยกมือขึ้นแตะตรงหน้าอกด้านซ้ายของกวิน ใช้ปลายเมจิกจรดลงอกด้านซ้าย บรรจงเขียนข้อความและลากลายเซ็นของตัวเองช้าๆ
ให้หมึกทุกหยดค่อยๆ ซึมซับเข้าสู่เนื้อใยผ้า หวังให้มันติดแน่นทุกอณูที่ลากเขียน เช่นเดียวกับที่ทุกอณูความรู้สึกที่มีให้กัน...
Gawin!! You’re my boy… Mafiaปลายนิ้วลูบไล้ไปตามตัวอักษรนั้นอย่างพึงพอใจที่มันติดอยู่ตรงนั้น แล้วใช้ด้ามเมจิกที่ถืออยู่เคาะแผงอกอีกฝ่ายเบาๆ...
“ประกาศตัวแล้วนะ”
“แรงนะเนี่ย ฮิฮิ” กวินหัวเราะชอบใจ ก่อนจะดึงเอาเมจิกมาถือเองบ้าง แล้วจับร่างผอมบางของคนรักหันหลังให้ตัวเอง...
“ผมเซ็นต์บ้าง”
“อะไร...อย่าเชียวนะ เสื้อตัวนี้แพงนะเว้ย” มาเฟียเริ่มจะโวยวายและขัดขืนแต่เสียงกระซิบข้างหูก็ทำเอาต้องยืนนิ่ง
“ถ้าดิ้นผมจูบตรงนี้เลยนะ” ใครจะว่าไงก็ช่างเถอะนะ แต่มาเฟียยอมยืนเฉยๆ เลยล่ะ เพราะรู้แก่ใจว่า...กวินทำจริงแน่
“จะเซ็นต์ทำไมเล่า ไม่ได้อยากได้ซักหน่อย” มาเฟียอุบอิบแต่ก็ยอมยืนนิ่งๆ ให้คนรักขีดๆ เขียนๆตรงแผ่นหลังด้านซ้ายของตัวเอง
โฮ...เสื้อตัวนี้มันโคตรจะแพงเลยนะ กวิน.... ทำไมเป็นเด็กอย่างเน้...
กวินยิ้มกริ่มมองข้อความที่ตัวเองเขียนติดเสื้อด้านหลังของคนรัก ไม่ได้ตัวโตอะไรมากมาย ไม่ได้สวยมากเพราะไม่ใช่คนลายมืองดงาม...แต่ในเรื่องของความรู้สึก...
กดไลค์ล้านครั้งไม่พอ...
“เขียนว่าอะไร”
“ผู้ชายคนนี้ของผม”
“จริงอะ”
“ไม่จริงครับ” ว่าแล้วก็ฉีกยิ้มทำเอาร่างบางหันมาเขกศีรษะแทบไม่ทัน “ผมเจ็บนะ”
“เขียนว่าอะไร”
“ไม่บอก -3-“ กวินทำมึน เดือดร้อนคนโดนแกล้งต้อเอียงตัวแล้วเอียงตัวอีก แต่ก็ไม่เห็นข้อความที่เขียนอยู่แทบจะแยกเขี้ยวใส่ก็แล้วแต่อีกฝ่ายก็ทำหน้ามึนไม่รู้ไม่ชี้
“กวิน...แฟนนายเป็นนักเขียนหรือเปล่า? มีคนมาขอให้ประกาศหาอยู่เนี่ยเห็นชื่อเหมือนกันเลยมาถามก่อน” หมูตุ๋นเปิดประตูด้านหลังของบู๊ทออกมา “ใช่มาเฟียที่เป็นนักเขียนของ สนพ Y หรือเปล่า มีคนหน้าเด็กๆ มาขอร้องให้ประกาศหา”
“หมูตุ๋นครับ เราเป็นนักจัดวิทยุนะครับไม่ใช่ประชาสัมพันธ์ที่จะได้มา ติ้งต่อง ประกาศๆ ๆ บลาบลา”
“อ่าว...ก็เห็นน้องคนนั้นมากับลุงเอ็กซ์นี่หว่า”
“เดี๋ยวนะ...คนที่มานี่ชื่ออะไรครับ?”
“ปรมินทร์” ไม่ต้องเสียเวลาคิดหรอก และหมูตุ๋นก็ไม่ได้เป็นคนตอบด้วย...คนที่ตอบน่ะเหรอ?
ก็น้องหน้าใสที่หมูตุ๋นเรียกไง...
“ฉันควรจะบอกนายมั้ย มาเฟีย...ว่านายสายมากแล้วและแฟนหนังสือนายก็มายืนรอเป็นพักแล้ว”
ไม่มีอะไรต้องสงสัยอีกแล้ว มั่นใจได้เลยว่าถ้าเขายังทำเป็นเหวี่ยงอีกสักนิด ปรมินทร์คงกระโดดมาขย้ำคอของเขาแน่...
“ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวจะรอ”
“ครับ...พยายามนะครับ” มาเฟียพยักหน้าแล้วเดินไปหาปรมินทร์ที่ยืนกอดอกทำสีหน้านิ่งเฉย แต่ขอบอกว่าในดวงตาใสๆ คู่นั้นน่ะ ราวกับมีเปลวไฟลุกพรึบๆ เลยล่ะ
กวินมองตามหลังคนรักที่เดินออกไปพร้อมกับ บ.ก. และลุงเอ็กซ์ก็เดินมาสมทบกับเขา
“เพิ่งรู้นะเนี่ย ร้ายนี่หว่า คบกันนานยังเนี่ย”
“พักหนึ่งแล้ว”
“ไปเจอกันได้ไงวะ โลกกลมเป็นบ้า ดันทำงานที่เดียวกับปอ”
“อดีตเพื่อนบ้านครับ ลุงเอ็กซ์รู้จักคุณ บ.ก.ด้วยเหรอ?”
“พักอยู่คอนโดนเดียวกันห้องข้างกัน” กวินพยักหน้ารับรู้ก่อนจะดึงเอามือถือของตัวเองออกมา เบอร์ที่โทรเข้าเป็นเบอร์ที่ไม่ค่อยจะโทรหาเขาสักเท่าไหร่ แต่มั่นใจว่าโทรมาอย่างนี้ รู้เรื่องข้อความที่ติดอยู่บนหลังแล้วแน่ๆ
“ครับ...คุณครับ...เพิ่งแยกกันไปคิดถึงผมแล้วเหรอ...”
“นายนอนนอกห้องไปเลยคืนนี้ ไอ้เด็กบ้า!!!” กวินหัวเราะร่า ทั้งที่เมื่อโดนด่าแล้วสายก็ตัดไปเลย บ่งชัดเลยว่าอีกฝ่ายฉุนจัดแค่ไหน...
“แฟนโทรมาด่ายังหัวเราะนะ” จะไม่ให้ลุงเอ็กซ์รู้ได้ยังไงว่าอีกฝ่ายโดนด่า ก็เสียงโวยนั่นเล่นทะลุออกมาจนได้ยินไปสามบ้านเจ็ดบ้านน่ะสิ
“ยังดีกว่าไม่มีแฟนมาด่าเหมือนลุงเอ็กซ์นะ”
“นายรู้ตัวมั้ยกวิน ว่านายมันกวนประสาทได้สุดติ่งมาก” ลุงเอ็กซ์ว่าพร้อมกับหมุนตัวแล้วเดินเข้าไปยังห้องจัดรายการชั่วคราว ปล่อยให้กวินยืนขำอยู่คนเดียว....
“ไม่ได้กวนสักหน่อยก็พูดความจริงทั้งนั้นแหละ แล้วคุณครับจะโกรธอะไรเยอะแยะน้า...ผมก็เขียนความจริงนี่นา...”
ก็คงไม่ได้โกรธหรอกมั้ง...เล่นเขียนไว้ว่า...
...มีเจ้าของชื่อกวินครับ...ห้ามจีบ ไม่โกรธเล้ยยยยยย พ่อคนนิสัยน่ารักกว่าหน้าตา!
THE END
จบแล้วค่ะ เรื่องนี้เป็นของน้องนะคะ เขาแปลงเอามาให้ลงให้ อิอิ หลายคนน่าจะเคยอ่านแล้วน้อออ ในเด้กดี แต่ว่าในนั้นไม่ได้ลงมากขนาดนี้...
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ