: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน UPDATE!! ประกาศ re-printค่ะ [05/01/17]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: : ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน UPDATE!! ประกาศ re-printค่ะ [05/01/17]  (อ่าน 227044 ครั้ง)

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ลูกหายไปอาทิตย์นึง  ยังไม่รู้ตัว  โถ  แม่คุณ  สัญชาติญาณการเป็นแม่ต่ำแท้

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
kagehana : อิพี่เดฟมาตามน้องกลับบ้านแล้วค่ะ อิอิ ดูเหมือนว่าดราม่าจะจบแล้ว...แต่อย่าไว้ใจเราเชียวนะ *ยิ้ม*





-16-







เด็กสาวรูปร่างสมส่วนในชุดเสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงขาสั้นกุดพร้อมรองเท้าส้นเข็มยืนพิงประตูโรงเรียนอยู่พลางฟังเพลงจากโทรศัพท์มือถือของตัวเอง แสงไฟจากรถยนต์คันหรูที่แล่นเข้ามาช้าๆทำให้เธอละสายตาออกมาแล้วแย้มรอยยิ้มหวานให้


“มาจริงๆด้วยนะคะพี่เดฟ”


“โทษทีครับไอซ์ รถมันติด” ชยางกูรลงมาจากรถแล้วอ้อมไปเปิดประตูให้เด็กสาวที่ยืนอยู่


“ไปทานไอติมกันก่อนไหม”


“อย่าทำเหมือนไอซ์เป็นเด็กๆสิคะ ไปหาอะไรดื่มกันดีกว่า เนอะคะ” รอยยิ้มหวานวาดบนใบหน้าน่ารักที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ก่อนจะก้าวขึ้นนั่งในรถแล้วรอให้อีกฝ่ายปิดประตูให้


ชยางกูรปิดประตูแล้วเดินอ้อมมาอีกฝั่ง...


หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้จะมีการติดต่อจากอาธิปและศิวะเป็นระยะ แต่ทั้งสองก็ไม่ยอมบอกที่อยู่ให้ ตัวเขาเองได้แต่กระวนกระวาย ทั้งไปดักตอนเช้า..และเลิกเรียน แต่ก็ไม่เคยเห็นปัณวิทย์สักครั้ง


...ทางเลือกสุดท้ายเลยมาลงที่อดีตแฟนสาวของปัณวิทย์


“วันนี้อย่าเพิ่งเลยครับไอซ์ พอดีพี่มีเรื่องปันอยากจะคุยด้วยหน่อย” เขาพูดหลังจากออกรถมาเรียบร้อย


คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแทบจะทันที เด็กสาวพองแก้มเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา


“ปันทำไมเหรอคะ”


“ปันหายไปน่ะ ไม่กลับบ้านมาตั้งอาทิตย์แล้ว ไอซ์เห็นเขาที่โรงเรียนไหม” ทั้งที่แน่ใจว่าอีกฝ่ายมาโรงเรียน แต่ชยางกูรก็ทำเนียนไม่รู้


“ขอโทษนะครับ แต่พี่เห็นไอซ์ก็สนิทกับพี่ พี่ไม่รู้จะถามใคร...” นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนหยอดแววหวานเชื่อมใส่เป็นลูกไม้ถัดมา


พอเจอกับสายตาที่จ้องมาเช่นนั้นก็ทำเอาพวงแก้มร้อนขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ เด็กสาวค่อยๆยิ้มหวานก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเบา


“ก็เห็นว่าไปค้างบ้านอัฐน่ะค่ะ”


“งั้น... ไอซ์รู้ไหมครับว่าบ้านอัฐอยู่ไหน เดี๋ยวไปทานข้าวกับไอซ์เสร็จพี่จะไปรับปันเขา” ชยางกูรยิ้มเจ้าชู้โปรยเสน่ห์ใส่พลางเลื่อนมือมากุมไว้เบาๆ


“รู้ค่ะ” ใบหน้าหวานของเด็กสาวเอียงมองอย่างเอียงอายพลางนึกดีใจที่อีกฝ่ายยอมเล่นด้วย


“งั้น....ไว้หลังทานข้าวค่อยบอกนะ” ปลายนิ้วสากไล้เบาๆบนหลังมือนุ่มนิ่มพร้อมรอยยิ้มหวานซ่อนความนัย


...บางที...การจับปลาใหญ่โดยใช้เหยื่อล่อก็ไม่ใช่วิธีที่ยากเลย






//////////////////






ปัณวิทย์โยนเสื้อผ้าที่ใส่แล้วลงในตะกร้าใบใหญ่ เขาอยู่บ้านอาธิปครบอาทิตย์แล้วและยังไม่คิดอยากกลับบ้าน


...แต่ก็ไม่ได้สบายใจขนาดนั้น


เด็กหนุ่มรู้ดีว่าชยางกูรพยายามติดต่อกับเพื่อนทั้งสองคน แต่เพราะเขาคาดโทษไว้ ทั้งสองคนจึงไม่ยอมบอกว่าบ้านหลังนี้อยู่ที่ไหน


ศิวะที่กำลังจะเดินสวนเข้าห้องน้ำไปเหลียวมองใบหน้าเล็กๆของเพื่อน เด็กหนุ่มร่างสูงส่ายหน้าช้าๆ...เซ็งแทนชยางกูรที่ไอ้เพื่อนของเขามันงี่เง่าเหลือเกิน


“ทำหน้ายังกับหมาหิว คิดถึงพี่เขาทำไมไม่กลับไปวะ”


...น่าจะมีอะไรมากกว่าทะเลาะกัน...


...แต่ถ้าปัณวิทย์ไม่อยากบอกให้รู้ เพื่อนอย่างเขาและไอ้อัฐก็ไม่ควรถาม


“คิดถึงเหี้ยไรครับ บ้านนั้นไม่มีคนรักกูตั้งนานแล้ว จริงๆออกมาเลยแม่งคงไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำ.....” ปัณวิทย์ว่า เขาโตพอที่จะไม่ทำตัวเรียกร้องความสนใจงี่เง่าแบบที่บอกว่าหนีออกจากบ้านเพื่อให้คนที่บ้านใส่ใจ


...ในเมื่อไม่มีใครสักคน


“กูว่าอย่างน้อยก็ไม่ใช่พี่เดฟคนนึงแหละ” ศิวะส่ายหน้าแล้วบุ้ยปากไปในห้อง


“ไม่เชื่อลองไปถามไอ้อัฐดิ่ ว่าวันๆนึงมันตอบข้อความกับรับสายพี่เขาเท่าไหร่”


...บางทีไอ้การเป็นห่วงอย่างนี้ มันชวนคิดให้เป็นอื่นไปด้วยซ้ำ


“มึงมาอยู่ที่นี่ก็ทำหน้าเหงาๆ อย่าเถียงกูนะปัน...” ศิวะรีบดักคอ


“มึงกับพี่เดฟทะเลาะอะไรกันกูไม่รู้หรอก แต่กูคิดว่าที่พี่เขาเป็นห่วงมึงน่ะ มันของจริงนะเว้ย”


“............. ไม่หรอก... พวกมึงยังไม่เข้าใจ....” เด็กหนุ่มหันมองไปทางอื่น


“ก็ได้วะ..... เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง............... เรียกไอ้อัฐมาเหอะ”





-กริ๊งงง-





ไม่ทันที่ศิวะจะได้เรียกอาธิป เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น อาธิปที่โผล่หน้าขึ้นมาจากเกมก็ส่งเสียงเรียก


“ไอ้ซายน์ มึงไปเปิดหน่อย กูติดพัน”


“เชี่ย กูตลอดอะ” ศิวะตะโกนกลับ แต่เพราะตนเองหอบข้าวของเตรียมอาบน้ำ ร่างสูงเลยมองมาที่ปัณวิทย์แทน


“ปัน ไปแทนกูหน่อยนะ”


“เออ ครับครับ” ปัณวิทย์รับคำแล้วเดินลงมาจากตัวบ้าน เขาเห็นแม่บ้านเตรียมเปิดประตูแล้ว แต่พอเห็นว่าเป็นใคร เขาก็เดินกลับเข้าบ้านแทบจะทันที


“เหี้ย!! ใครบอกแม่งวะว่าบ้านมึงอยู่นี่ ไอ้อัฐ มึงลงมารับแขกมึงเลยนะ!!!”


เสียงตะโกนของปัณวิทย์เรียกให้ทั้งศิวะและอาธิปวิ่งหน้าตาตื่นลงมา แต่ก็ยังช้ากว่าชยางกูรที่สอดกายเข้ามาจับข้อมือปัณวิทย์ได้แล้ว


“พี่เดฟ!!” สองเสียงเรียกแทบจะประสานกันด้วยความตกใจ แม่บ้านวัยกลางคนจึงอาศัยจังหวะนี้หลบฉากออกไปแทบจะทันที


“ปัน...พี่มาตามกลับบ้าน” ชายหนุ่มผมทองในชุดลำลองเอ่ยปากก่อน


“บอกว่าไม่กลับไง! ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอวะ!!!” ปัณวิทย์พยายามสลัดข้อมือให้หลุดพร้อมตะโดนถามเสียงกร้าว


“ปัน...อย่าทำอย่างนี้” ชยางกูรพูดเสียงแผ่ว เพียงอาทิตย์เดียวที่ไม่ได้เจอกัน ความคิดถึงและความรู้สึกผิดก็รุมเร้าจนแทบทนไม่ไหว


“พี่ขอโทษ..” ร่างสูงสวมกอดเบาๆ ท่อนแขนแข็งแรงโอบรัดร่างเพรียวไว้แนบกาย... ให้จมหายไปในอ้อมกอด


“มึง... จะขอโทษกูทำไม กูบอกว่ากูไม่กลับไป อย่ามายุ่ง!!” ปัณวิทย์ทำตัวแข็งแล้วออกแรงทั้งดันทั้งผลักอีกฝ่ายออกไป


“มึงพูดถูกแล้ว บ้านนั้นไม่มีใครรักกู กูก็ไม่อยู่หรอกสัด มึงกลับไปเลย!!”


สายตาสองคู่ที่มองมามีทั้งความสับสนระคนแปลกใจ ศิวะมองภาพตรงหน้าก็พอจะเข้าใจคร่าวๆได้..เพราะนึกตะหงิดในใจอยู่สักพักแล้ว


...แหงๆ...


...ผัวเมียทะเลาะกัน...


“ปัน...มึงกลับไปกับพี่เขาเหอะว่ะ” ศิวะพูดหลังจากยืนนิ่งมานาน


...แม่ง ตัวประกอบเพื่อนนางเอกชัดๆเลยกู...


“เหี้ย พวกมึงไม่เกี่ยว!! กูไม่กลับ” พูดกับเพื่อนเสร็จ เขาก็หันมาหาคนที่ยื้อยุดเอาไว้


“บอกว่าไม่กลับไงวะ! ไม่มีใครรักกู!! กูจะกลับไปให้เหี้ยตัวเองทำไม!!!”


“พี่รักปัน” ชยางกูรพูดหนักแน่นพร้อมอ้อมกอด ชายหนุ่มกระซิบซ้ำด้วยคำเดียวกันข้างใบหูสีแดงจัด


...ถ้ากลัวที่จะพูด...


...อาจจะต้องเสียไปอีก...


“ขอโทษทุกๆเรื่องที่ทำกับปัน ขอโทษที่พูดไม่ดี ขอโทษที่ประชดออกไป...” ร่างสูงสูดลมหายใจหนักแน่นก่อนจะมองไปยังเพื่อนทั้งคู่ของปัณวิทย์ แล้วกลับมาสบสายตากับดวงตารื้นน้ำสีดำสนิทอีกครั้ง


“ปันให้อภัยพี่ได้ไหม...”


“ไม่!! มึงไม่ยอมฟังกู แล้วทำไมตอนนี้กูต้องฟังมึง!!” เขาออกแรงผลักร่างสูงออกไปเต็มที่


“มาพูดอะไรตอนนี้ไอ้ห่า”


“เพราะถ้าไม่พูดตอนนี้... พี่ก็จะไม่มีทางได้พูดอีกแล้ว” ฝ่ามือที่ผลักไสไม่ได้รุนแรงทางกาย... แต่กลับร้าวลึกไปถึงหัวใจ


...เจ็บเสียยิ่งกว่าอะไรที่เคยเจ็บ


“พี่รู้ว่าพี่ทำให้ปันเป็นเกย์ พี่หึงไม่เข้าเรื่อง พี่ไม่เข้าใจปัน พี่มันปากไม่ดี..ขี้โมโห...”ชยางกูรหยุดลมหายใจครู่หนึ่งก่อนจะระบายยิ้มออกมา


“...แต่สิ่งที่พี่เป็นอยู่และดีที่สุดตอนนี้...คือพี่รักปัน...”


...ความจริงที่มัวคิดไปเอง...


...ความจริงที่อยากพูดหลายต่อหลายครั้ง...


“ให้โอกาสพี่ได้ไหม...เรามาแก้ไขรอยต่อบิดเบี้ยวของเรา..ให้พี่ทำดีกับปันอีกครั้งนะ...”


ปัณวิทย์นิ่งไปเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ไม่สามารถปฏิเสธตัวเองได้ว่ารู้สึกดีขนาดไหนที่ได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น


...แต่กลับไปแล้วทุกอย่างก็เหมือนเดิม...


“แล้วไง... กลับไปด้วยแล้วอะไรมันเปลี่ยนไป!!”


“พี่ก็ไม่รู้อนาคตจะเป็นยังไง...แต่พี่รักปัน...และถ้าปันรักพี่..พี่สัญญาว่าจะไม่ให้ใครมาว่าหรือดูถูกปันได้อีกแล้ว”


...แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นพ่อแท้ๆของตัวเองก็ตาม...


“ปันเชื่อใจได้ไหม...ว่าพี่จะไม่ทำให้ปันเจ็บปวดอีก”


มือเรียวทั้งสองข้างถูกรวบขึ้นมาจูบเบาๆ ชยางกูรแช่ริมฝีปากไว้ที่จุดเดิมก่อนจะมองสบสายตาปัณวิทย์อีกครั้ง


...อยากให้เชื่อ...


...จากหัวใจ...


“... แล้วไง ถ้าคราวหน้าเขาด่าอีก จะทำยังไง อยู่บ้านนั้นด้วยกัน ยังไงปันก็ต้องอยู่กับพี่เดฟ เขาก็เห็นพี่เดฟดีกว่าอยู่แล้ว!” เด็กหนุ่มเอ่ยทั้งน้ำตาถึงความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่เก็บไว้


“ถ้าอยู่ที่นั่นไม่ได้เมื่อไหร่..หรือถ้าปันพร้อมจะไปกับพี่ พี่จะพาปันไปอเมริกา” ชยางกูรประคองใบหน้าเล็กไว้แล้วใช้นิ้วโป้งปาดหยาดน้ำตาที่เอ่อล้น


“แต่กว่าจะถึงตอนนั้น....พี่จะดูแลปัน จะไม่ให้เขาทำอะไรได้อีกแล้ว”


“...... ไม่--! ปันไม่ไป ปันจะอยู่ที่นี่... ถ้าจะพาปันไปอเมริกาปันไม่ไป” เพราะยังทำใจที่ต้องอยู่ห่างจากผู้ชายที่เรียกว่าพ่อไม่ได้


“ไม่ไป...ไม่ไปก็ได้นะปัน” ชยางกูรกอดคนตัวเล็กกว่าเอาไว้แล้วจับใบหน้าให้ซุกลงกับอก


“กลับบ้านเรากันนะ...”


“.............” อ้อมกอดที่ชยางกูรมอบให้นั้นอบอุ่นจนทำให้รู้สึกดี และทำให้รู้ว่าคิดถึงขนาดไหน


“............................ ก็ได้.....” เด็กหนุ่มตอบเสียงเบา


มือใหญ่ลูบบนเส้นผมนุ่มมือเบาๆพลางยิ้มออกมาอย่างสุขใจ


“ขอโทษทีนะอัฐ ซายน์ รับฝากไว้นานเลย” ชยางกูรเอ่ยทักเด็กหนุ่มทั้งสองที่ยืนทำหน้างุนงงใส่


“.............เชี่ย มึงเป็นเมียพี่เดฟตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” อาธิปที่ยังดูงงๆถาม


“......... ตั้งแต่ตอนที่มึงถามกุเรื่องรอยที่คอนั่นแหละสัด” ปัณวิทย์ทำเสียงขุ่นพลางทำหน้ายุ่งใส่


“เข้าใจกูยัง? แม่งทำกูเป็นเกย์ สัด”


“.....ห่า มึงจะด่าพี่เดฟหรือด่ากุวะ อย่านึกว่าแฟนมาด้วยแล้วกูจะไม่กล้ากัดมึงนะเว้ย” อาธิปลอยหน้าพูดหน้าตาเฉย


“สัด เสือกปิดเพื่อนอีก กูก็นึกว่าทะเลาะอะไร แม่ง....กูว่าแล้วเรื่องผัวเมีย”


“ไม่ลองเป็นกูมั่งมึงไม่รู้หรอกไอ้เหี้ยอัฐ” เขาสวนกลับทันทีก่อนจะดันตัวออกมา


“เดี๋ยวกูไปเก็บของแล้วงั้น....”


“ให้พี่ช่วยไหม” ชยางกูรเสนอตัวแล้วโอบไหล่บางเบาๆ


“พี่เดฟ....กู เอ๊ย! ผมเลี่ยนว่ะ ไอ้ปันไม่ได้ท้องแก่ใกล้คลอดคร้าบ ไม่ต้องดูแลกันขนาดน้าน” อาธิปลากเสียงยาวล้อเลียน


ถ้าถามว่าตกใจไหม...ก็ใช่น่ะนะ


แต่เพราะเป็นเพื่อนกัน...เรื่องแค่นี้จะเป็นไรไป


“ปากมึงนี่น้า ยิ่งกว่าตูดอีกไอ้อัฐ”ศิวะที่ดูจะตั้งตัวได้ดีกว่าเอ่ยทั้งรอยยิ้ม


“เออ!! แม่งแซวกันหมดแล้ว!!! ไปยืนเฉยๆไกลๆเลย!!!” ปัณวิทย์ยกมือไล่แล้วเดินหายเข้าไปในห้องเพื่อจะเก็บของ


ศิวะกลับเป็นคนที่เดินตามเข้าไปในห้อง เขาปล่อยอาธิปให้รับแขกอยู่คนเดียว เด็กหนุ่มนั่งลงบนเตียงแล้วเปิดบทสนทนาก่อน


“ไม่น่าเชื่อเลยว่ะ เรื่องมึงกับพี่เดฟยังกะนิยาย จากเกลียดเป็นรักซะงั้น”


เขาเงยขึ้นมองหน้าเพื่อนก่อนจะก้มลงเก็บของต่อ


“กูก็เกลียด... แล้วก็ดีกัน...... แล้วแม่งปล้ำกู... กูเอาผู้หญิงไม่ได้แล้ว ก็... ตามนั้น”


“พูดยังกับเรื่องย่อละครเล่มละยี่สิบห้าบาทน่ะมึง” มือใหญ่ผลักหัวเบาๆ


“เอาเหอะ มึงจะเป็นห่าอะไรก็เป็นไป ยังไงมึงก็เพื่อนกู พี่เดฟเขาก็คงคุมมึงได้....มึงมีความสุขหรือเปล่าล่ะ”


“ก็งั้นอะ กูไม่รู้เหมือนกัน อยู่ด้วยกันมันสบายดี” ปัณวิทย์ตอบพลางหยิบกระเป๋าขึ้นสะพายบ่า


“ขอบใจนะเว้ย ซายน์”


“เออ” ศิวะโอบไหล่เพื่อนสนิทของเขาแล้วพากันเดินออกมานอกห้อง


“เอาเด็กมาส่งครับ เอาไปแล้วไปเลยนะพี่ พวกผมไม่เอาค่าสินสอด”


“หือ? พี่ว่าจะให้ค่าสินสอดเป็นข้าวสักมื้อกับหนัง...งี้ก็ไม่ต้องแล้วดิ่” ชยางกูรแซว


“เอาครับพี่” อาธิปรีบตอบก่อนจะถูกคนตัวเล็กตบหัวเบาๆ


“ไปแล้วนะพวกมึง”


“อือ...อย่ามาร้องไห้ซบอกพี่อัสซี่อีกล่ะ อกพี่มีไว้ให้สาวๆเท่านั้น เค๊?”


อาธิปพูดต่อพลางโบกมือให้ ใบหน้าขาวตี๋ยิ้มแป้นแล้นส่งคนทั้งสองจนออกไป


..เอาวะ...ถ้าแม่งมีความสุข จะเกย์จะเมียอะไรก็เป็นไปเหอะ










To Be Continued....

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
ใจร้ายกันเกินไปแล้วนะค่ะคุณพ่อ  ไม่ห่วงน้องเลยหรอ?
ใจร้าย...........

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ช่วงนี้ก็ขอหวานๆระหว่างน้องปันกับพี่เดฟก่อนเถอะค่ะ ดราม่าอย่าเพิ่งมาอีกเลยนะ :monkeysad:
คืนดีกันแล้ว แถมเพื่อนยังรู้เรื่องเป็นแฟนกับพี่เดฟแล้วด้วย ตอนนี้น้องปันน่าจะมีความสุข
แต่เรื่องพ่อ :เฮ้อ: ยังละเหี่ยใจเหมือนเดิม
รออ่านตอนต่อไปค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
กลับไปแล้ว อะไรๆ มันคงดีขึ้นนะ

 :กอด1:


dog

  • บุคคลทั่วไป
เย้ในที่สุดก้ได้กินของหวานหลังมาม่าถ้วยโตซักที
หวังว่าช่วงนี้มาม่าจะขาดตลาดไปอีกนานนะคะ ยังไม่อยากจะกินตอนนี้อ่า


ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
จะดราม่าแค่ไหนก็รีบเอาให้มันสุด ๆ เป็นเลยรวดเดียว.....ให้ตาช้ำตาบวมกันไปข้างที่เดียวเหมือนกัน...ไม่ต้องเว้นช่วง..มันบีบหัวใจเกินเหตุ......แล้วรีบกลับมาแฮปปี้นะเจ้าคะที่รัก... :L1:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ชอบดราม่าเรื่องนี้ กลมกล่อมกำลังดี
ดราม่ากะคนลูกผ่านไปแล้ว แล้วดราม่ากะคนพ่อจะเข้มข้นขนาดไหน

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
ดีกันแล้วต่อไปคงมีเรื่องดีๆเข้ามานะ

ออฟไลน์ ตัวเลข

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ในที่สุดพี่เดฟก็ง้อน้องปันสำเร็จ แต่ว่าอุปสรรคด่านต่อไปจะเป็นอะไรกันนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
กลับไปบ้านต้องมีปัญหา

มีเรื่องขึ้นอีกแน่ๆ เลย

เดี๋ยวน้องปันก็ต้องเสียใจอีก เฮ้อ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ชอบจัง จบแบบมีความสุขภาคแรก ความเข้มข้นคงอยู่ภาคต่อจากนี้ชิมิ

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
จะดราม่าแค่ไหนก็รีบเอาให้มันสุด ๆ เป็นเลยรวดเดียว.....ให้ตาช้ำตาบวมกันไปข้างที่เดียวเหมือนกัน...ไม่ต้องเว้นช่วง..มันบีบหัวใจเกินเหตุ......แล้วรีบกลับมาแฮปปี้นะเจ้าคะที่รัก... :L1:

แฮะๆ อยากบอกใบ้นิดนึงว่าบางทีหลังฝนตกฟ้าก็ไม่ได้ใสเสมอไปค่ะ ^^

ออฟไลน์ Lovecartoon1996

  • ชอบกินมาม่า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
    • -
เอิ้กๆชอบคราม่ารอคราม่าเจ้าค่าาา
คนเขียนสู้ๆ

tippy

  • บุคคลทั่วไป
ดีนะที่ปันยังมีเพื่อนดีๆ คอยอยู่ข้าง o13

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
จบแค่ตอนนี้ก็ดีใจแล้วว

pronpailin

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: โล่ง ไปหนึ่งดอก  เหลือ อีกกี่ดอก นี่กว่า ปันจะมีความสุข

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
ถ้าจะหลุดบ่อยขนาดนี้ ไมไม่บอกไปตรงๆเลยล่ะพี่อัสซี่~~~~~~   :laugh:
รอนะฮะ   ^^

ออฟไลน์ หัวเเม่มือ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 804
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
จะว่าสนุกก็สนุก จะว่าดร่ามาก ก็ม่าดี

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
kagehana : ดีกันแล้วแต่ดราม่ายังไม่จบนะจ๊ะ








-17-








“........ อึดอัดแล้ว.... ไม่มีอะไรจะพูดแล้วเหรอ” ปัณวิทย์เอ่ยทำลายความเงียบในรถหลังจากขับออกมาได้ไม่นาน ชยางกูรไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรสักคำจนทำให้อึดอัด



“นึกไม่ออก...ไม่ได้เจอกันตั้งอาทิตย์นึง” ชยางกูรพูดแล้วหันมามอง



“แต่ปันยังลืมอะไรหรือเปล่า...”



“ไม่ได้ลืมไรนี่... ลืมก็ช่าง เดี๋ยวพวกนั้นก็เอามาคืน” เด็กหนุ่มว่า



ชยางกูรหักรถเข้าข้างทางแล้วจอดไว้ มือใหญ่เลื่อนจากพวงมาลัยมากุมไว้เบาๆ



“ปันลืม...คำพูดบางอย่าง...เหมือนที่พี่บอกกับปันไปเมือกี้”



...รัก...



เป็นคำที่ฟังดูยิ่งใหญ่เกินตัวของเขาในตอนนี้ นัยน์ตาเรียวคมมองคนตรงหน้าพลางนึกไป ถ้าตอบไปว่ายังไม่รู้ จะทะเลาะกันอีกไหม



ปัณวิทย์กลั้นใจไว้ก่อนจะเอ่ยคำตอบที่เหมือนคำถามเบาๆ



“แค่ชอบก่อน... ได้หรือเปล่า”



“ยังไม่เท่ากัน....สินะ...” ปลายเสียงเศร้าลงเล็กน้อย



แต่การจะยัดเยียดความรักแล้วหวังจะได้รักกลับมา โอกาสก็แทบจะเป็นศูนย์อยู่แล้ว ยิ่งเป็นผู้ชายด้วยกัน ทั้งเรื่องทางสังคม อีกฝ่ายที่อายุน้อยกว่าคงยังทำใจไม่ค่อยได้ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าที่อีกฝ่ายยอมให้สัมผัส และมีความสัมพันธ์ลึกล้ำเป็นเพราะอารมณ์ที่ถูกชักนำ...ไม่ใช่เพราะรัก



“ไม่เป็นไรปัน...แค่นั้นก็ดีแล้ว” ชยางกูรปล่อยมือที่จับกุมออกแล้วเม้มริมฝีปากแน่น เขาเสตามองออกไปข้างนอกที่มืดมิด



...ต้องรอใช่ไหม...



...แล้วเมื่อไหร่?



...หรือไม่มีวัน....



“... สัญญา...” พอเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีแบบนั้นก็อดรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาไม่ได้ แม้จะยังไม่เข้าใจตัวเองที่ต้องรู้สึกแบบนี้ แต่ปัณวิทย์ก็ไม่คิดว่าการบอกรักทั้งๆที่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นมันไม่ใช่เรื่องควรทำ



“ว่าจะไม่ไปไหนกับคนอื่นอีก...” เขาเอื้อมมือไปแตะบนไหล่กว้าง หมายจะให้อีกฝ่ายหันมามองหน้ากัน



“... ถ้าอยู่ด้วยกัน ก็จะไม่ไปไหน อย่าทำหน้าแบบนั้น”



ชยางกูรยังคงนิ่งมองความมืดอันไร้จุดจบ นัยน์ตาสีฟ้ากระจ่างหลับลงช้าๆก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วหันกลับมาหาปัณวิทย์



“ปันเกลียดคำว่าตลอดไปหรือเปล่า...” ชยางกูรกระซิบเสียงแผ่ว



“...... ทำไมต้องเกลียดล่ะ” เขามองด้วยความไม่เข้าใจ



“เพราะพี่อยากจะรักปันตลอดไป...” ชายหนุ่มถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดผ่านอ้อมกอดที่มีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่รับรู้



“แต่ปัน...จะให้พี่รอตลอดไปหรือเปล่า...กว่าจะรักกัน..”



...หนึ่งปี..สิบปี...ยี่สิบปี...



...ต้องนานเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ...



“.... ปันตอบไม่ได้หรอกว่าเมื่อไหร่...... ขอโทษที่ไม่ได้เรื่อง..... ที่ไปลองกับคนอื่นนั่นก็ทำไม่ได้ เพราะไม่ได้ชอบ เข้าใจหรือเปล่า ไปลอง เพราะอยากหาคำตอบให้พี่... ว่ามันยังไงกัน..........” เขาหยุดเพียงอึดใจเดียวก่อนจะเอ่ยต่อ



“เพราะชอบ โอเคไหม ชอบมาก ถึงยอมขนาดนั้น ปันไม่เคยยอมใครเหมือนพี่.... เพราะงั้น ไม่ต้องรอตลอดไปหรอก”



คำพูดของปัณวิทย์ทำให้อ้อมกอดนั้นแรงขึ้นกว่าเดิม ชยางกูรซุกใบหน้าลงบนบ่าของเด็กหนุ่มแล้วเลื่อนริมฝีปากไปจูบเบาๆที่ข้างแก้ม



“อืม” ริมฝีปากที่แตะพรมไปทั่วหยุดลงที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มของเด็กหนุ่ม...คนที่เขารักที่สุด ชยางกูรดันริมฝีปากบางเฉียบให้เผยอออกแล้วสอนรสสัมผัสของการจูบอันลึกซึ้ง



ปัณวิทย์จูบตอบอย่างคนไม่คุ้นเคย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยพูด



“... นะ อย่าทำหน้าแบบนั้น...”



ชยางกูรยิ้มออกมาทันทีที่อีกฝ่ายร้องขอ เขาผละตัวออกมานิดหน่อยแต่ก็ยังกอดเด็กหนุ่มไว้ในอ้อมแขน



“....เรื่องนี้... ถ้าคุณพ่อรู้...คงไม่ได้สินะ”



ถ้าเกิดรู้ ตัวเขาเองยังไม่เท่าไหร่ เพราะไม่ได้ผูกพันคงจะออกไปจากชีวิตได้ง่าย...แต่กับปัณวิทย์ที่ยืนยันว่ายังไงก็ไม่ไป การที่พลภัทรรู้เรื่องคงไม่ดีแน่



“.....ขอโทษนะที่รักปัน...”



“เรื่องดีๆ ขอโทษทำไม แต่ให้เขารู้ไม่ได้ ตกลงปะ” เขามองสบดวงตาสีฟ้านิ่งแล้วเอนซบเข้าในอ้อมกอดอีกครั้ง



“อื้อ” หน้าผากมนถูกหอมซ้ำๆพร้อมเจ้าของรอยยิ้มเจ้าชู้...ที่มอบให้คนๆเดียว



“ซื้อเค้กมาเน่าทุกวันเลย กระต่ายก็เน่า ป่านนี้เหงาตายไปแล้วหรือยังไม่รู้โดนเจ้าของทิ้งเนี่ย”



ทุกวันที่หายไป.. ชยางกูรจะซื้อเค้กมารอ เผื่อว่าจะกลับมา... และทุกๆวันเขาก็จะไปนั่งอุ้มกระต่ายกลมๆสองตัวในห้องให้กินอาหาร ด้วยความรู้สึกเหงาๆทั้งคนทั้งสัตว์



“ถ้าพี่กับเจ้าฟูเจ้าฝุ่นไม่ได้เจอปันอีกอาทิตย์นึง ต้องเหงาตายแน่ๆ”



“แล้ววันนี้มีเค้กปะล่ะ” ปัณวิทย์ถามหน้าตาย เขาขยับตัวออกมานั่งตามเดิมแล้วพูดต่อ



“กลับได้แล้ว ปันจะกลับไปหาฟูกับฝุ่น”



“ได้ทีล่ะสั่งใหญ่เลยนะ” ชยางกูรพูดแกล้งแล้วเบนหัวรถกลับสู่ถนน



“ไม่มีเค้ก...แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปกินดีไหม”



“อือ ก็ได้” เขาหัวเราะเบาๆแล้วเอนตัวกลับมานั่งพิงเบาะนุ่ม



ร่างสูงในฝั่งคนขับชะโงกตัวมาขโมยจูบเบาๆบนริมฝีปากปัณวิทย์ทีหนึ่ง ก่อนจะเคลื่อนรถออกไปสู่ถนนที่ปลายทางมุ่งสู่บ้านของทั้งสอง



...บ้านของเรา...








/////////////////////////////////





ปัณวิทย์เปิดประตูบ้านเข้ามาเงียบๆ ทั้งๆที่หายไปอาทิตย์หนึ่งกลับรู้สึกเหมือนยาวนานกว่านั้น แต่พอเดินเข้าไปทางลิฟต์ กลับต้องเบิกตากว้างกับภาพที่เห็น



“.... สวัสดีครับคุณพลภัทร”



คนที่ถูกเรียกชื่อไม่แม้แต่จะยกมือรับไหว้ นัยน์ตาสีเข้มจ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้าแล้วเลยไปมองคนที่เดินตามมา



“บ้านมีไม่รู้จักกลับ แกนี่มันเหลือขอจริงๆ แล้วนี่กลับมาทำไม ไม่ไปตายให้พ้นๆซะล่ะ!!”



“!? ถ้าอยากให้ผมตายผมจะตายให้ดู!!!” เด็กหนุ่มหันกลับแล้ววิ่งออกไปทันทีโดยไม่สนใจชยางกูรที่พยายามจะคว้าตัวเขาไว้



แวบหนึ่ง พลภัทรเห็นแววตากล่าวโทษของชยางกูรที่มองมาทางเขาก่อนที่จะหันหลังวิ่งตามปัณวิทย์ไป ชายวัยกลางคนมองภาพตรงหน้าอย่างคลางแคลงใจ แต่เพราะน้ำหนักของความรู้สึกที่กดทับตรึงรั้งสองขาและร่างกายจนไม่อาจจะขยับได้สักนิด



ริมฝีปากหนาถูกเม้มเข้าออก ก่อนที่ร่างของชายสูงวัยจะตัดสินใจหันหลังให้



...อย่าไปสนใจ...



ถ้อยคำที่เฝ้าบอกตัวเองหลายต่อหลายครัง...จนจดจำไปทุกกระแสเลือด



...เกลียด...



ปัณวิทย์กระโดดขึ้นรถที่นั่งมาเมื่อครู่แล้วสตาร์ทออกตัวไปทันที ถึงจะไม่เคยขับรถจริงๆจังๆแต่ในตอนนี้ก็ไม่สนใจจะคิดอะไรแล้วทั้งนั้น



...ชนให้ตายแม่งไปเลย...



...อยากให้ปันตายนัก...



...พ่อเห็นปันเป็นอะไร...



...ทำไมต้องเกลียดกัน...



“ปัน!! ลงจากรถเดี๋ยวนี้!! ปัณวิทย์”!!! ชยางกูรวิ่งไล่ตามรถที่เคลื่อนตัวออกไป ร่างสูงวิ่งตามสุดความเร็วเท่าที่ทำได้ แต่เพราะคนในรถเหยียบคันเร่งเกินกว่าที่จะตามทัน รถจึงพุ่งทะยานออกไปข้างหน้า



เชฟโรเล็ตสีดำขับฉวัดเฉวียนอย่างน่ากลัว ชยางกูรเห็นไฟสว่างจ้าจากรถอีกทาง นัยน์ตาสีฟ้าเบิกโพลงเมื่อเห็นรถบรรทุกที่วิ่งสวนทางมา



“ปัน!!”



พอเห็นแสงไฟมาพร้อมกับรถ อารามตกใจทำให้มือที่จับพวงมาลัยรีบหักหลบแทบจะทันที โดยไม่ทันมองว่าฝั่งตรงข้ามเป็นอะไร



รถยนต์สีดำหักหลบเบี่ยงตัวไปอีกข้าง รถสะบัดตัวจากการเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าริมทางอย่างรุนแรง เสียงปะทะดังราวกับระเบิดก่อนที่รถจะหยุดลงหากแต่ล้อยังขยับจากการค้าง...ก่อนจะนิ่งลงและเงียบงัน



ชยางกูรรู้สึกราวกับภาพที่เกิดตรงหน้านานแสนนานแม้จะเป็นเวลาเพียงไม่กี่วินาที ร่างสูงเกือบจะทรุดลงกับพื้นเมื่อเห็นอุบัติเหตุข้างหน้า ชยางกูรวิ่งไปที่รถแล้วเคาะกระจกด้านข้างอย่างบ้าคลั่ง



“ปัน!!!ปัน!!”



ทว่าคนที่นั่งอยู่กลับไม่มีสติจะตอบอะไรอีกต่อไป เลือดสีข้นไหลจากศีรษะออกมาอาบด้านข้างของใบหน้าจนดูน่ากลัว



ชายหนุ่มกดโทรศัพท์หาคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่ออย่างรีบร้อน พอปลายสายรับก็ตะโกนกลับไปทันที



“เรียกรถพยาบาล! ปันรถชนหน้าบ้าน!” ตัดกดสายได้ ชยางกูรก็รีบไปเปิดล็อคประตู แต่เป็นเพราะระบบล็อคไม่ทำงาน จึงไม่สามารถเปิดได้



ปัณวิทย์ที่อยู่ในรถมีแต่โลหิตไหลเต็มข้างขมับ เด็กหนุ่มคอพับลงซบพวงมาลัยและถุงลมนิรภัย มือทั้งสองข้างปล่อยร่วงลงข้างตัวราวกับคนไม่มีชีวิต



...ไม่จริง...



“ปัน...ปัน...” ชยางกูรเรียกชื่ออีกฝ่าย แล้วคว้าเอาแป๊บเหล็กข้างทางมาทุบใส่กระจกรถด้านหลังเบาะข้างคนขับเพราะไม่อยากให้ปัณวิทย์โดนกระจกบาด แรงตีลงไปสะท้อนกลับมายังฝ่ามือทั้งสองจนแตกยับ ชยางกูรยังคงตีต่อไปจนกระจกแตกลง เขาปลดล็อกแล้วเอื้อมไปปลดฝ่ายคนขับ



“ปัน..อย่าเป็นอะไรนะ” น้ำตาที่ไม่รู้ไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ หยดลงบนผิวแก้มเปื้อนหยาดโลหิตข้นเหนียว ร่างสูงอุ้มปัณวิทย์ลงมากอดไว้กลางพื้นถนน น้ำเสียงสั่นเครือเรียกชื่อเด็กหนุ่มพลางร้องไห้อย่างไม่อายใคร



“...ไหนว่าจะให้พี่รอ...ปัน...ปัน...อย่าทำอย่างนี้...”



สัมผัสอุ่นๆของร่างยังคงเหลืออยู่ แต่เลือดที่ไหลออกมากับอาการที่ไม่ตอบสนองไม่ได้ทำให้คนที่กอดอยู่เย็นใจได้เลย



...โกหก...



...มันต้องไม่ใช่เรื่องจริง...



ฝ่ามือแตกยับประคองใบหน้าของคนรักขึ้นมาอย่างทะนุถนอม หยาดน้ำตาที่ไหลหล่นบนผิวแก้มเปรอะเปื้อนไหลไปปนกับหยดเลือดเป็นทางยาว



“ปัน...ไม่เอา...ไม่เอานะปัน....ลืมตาขึ้นมา... ลืมตาสิ...พี่อยู่นี่ไง ฟื้นสิปัน...ปัน...”



แม้จะเฝ้าเรียกเท่าไหร่ คนในอ้อมกอดก็ไม่มีท่าทีใดๆ ปัณวิทย์ยังคงนิ่งอยู่ในอ้อมกอด... ท่ามกลางเสียงสะอื้นในห้วงราตรีอันยาวนาน









To Be Continued....


ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
 :m15:
ง่ะ เศร้าจัง คุณพ่อจะทำให้ปันเสียใจไปถึงไหน ทั้งที่ตัวเองก็รักปันแท้ ๆ อยากให้น้องปันมีความสุขมาก
ไม่รู้อุบัติเหตุครั้งนี้จะทำให้พ่อคิดได้มั้ย...เฮ้อ...น้องปันอย่าเป็นอะไรนะ พี่เดฟใจจะขาดแล้ว คนอ่านก็ด้วย

ขอบคุณค่า

ออฟไลน์ owo llยมuมข้u

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
T[]T โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ -// ดรามาเรื่องนู้นมาเจอเรื่องนี้ เศร้าหนักกว่าเดิม 55555

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อะจึ๋ย  ไปแนะนำนิยายเรื่องนี้มาว่าดราม่านิดๆ  มันไม่นิดแล้วนี่หว่า
พลภัทรคับ  ถ้าคุณเกลียดปันขนาดนี้  ทำไมไม่เลิกกับแม่ปันซะล่ะ
นั่นน่ะต้นเหตุของเรื่อง  ปันเองก็ทุกข์มากพอแล้ว  ทำเหมือนปันไม่ใช่คนไปได้

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
อันนี้มาม่าขั้นรุนแรง
ปันอย่าเป็นอะไรนะ
พ่อแม่ของปันจะรู้สึกผิดบ้างไหมเนี่ย

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
มาม่าถ้วยสองรสจัดเกินไปหรือเปล่า T_T

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ทำร้ายจิตใจกันถึงตายเลยเหรอ ทำไมพ่อต้องเกลียดลูก มากมาย

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
เค้าเพิ่งดีกันเองนะ
หายไปจากบ้านไม่ตาม พอกลับมาก็บอกให้ไปตาย
ถึงไม่ใช่ลูกแต่ก็เคยรักเหมือนลูกไม่ใช่เรอะ
อย่างน้อยความเป็นผู้ใหญ่ก็น่าจะมีบ้าง

เป็นไงละ รถชนเสาไฟฟ้าแบบนี้
รู้สึกยังไงบ้างละ
ปันปันไม่ได้ทำผิดอะไร เด็กเค้าจะรู้มั้ยละว่าคนรุ่นพ่อแม่ทำอะไรไว้
แล้วจะมาไม่ดูดำดูดีแบบนี้ โหดร้ายเกินไปแล้ววว

dog

  • บุคคลทั่วไป
หนูจ้าาาาาาาาาาาาาาาาา
ป้าแก่แล้วน๊า อย่าทรมานกันจิ
ทิชชู่ในห้องป้ามันหมดแล้วเน้อ ไม่มีอะไรจะซับแล้ว
 :sad4:

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
โหมาม่าถ้วยใหญ่มากๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด