♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣  (อ่าน 429164 ครั้ง)

Panny

  • บุคคลทั่วไป
แม่(ยก)จะสอนทิมให้นะ
เป็นอะไรก็บอกคะน้าเขาไปตรงๆ เขาซึนนะยะ
แล้วส่งข้อความหาเขาทำไมไม่ลงชื่อห๊ะ
โทรฯน่ะต้องพกติดตัวตลอดสิ เขาโทรมาจะได้รับทัน
ตอนหน้าแก้ตัวใหม่นะทิม ให้สมกับที่เชียร์หน่อย 55+

ออฟไลน์ twenty8

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คือเราเชียร์ให้คะน้าลงเอยกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนะ
คือไม่เชียร์ให้เป็นสามพีอะ คือรู้สึกว่าถ้าเป็นชีวิตคนจริงๆ
เราจะสามารถรักใครจริงๆได้พร้อมกันสองคนจริงๆหรอ
มันจะต้องมีคนใดก็คนหนึ่งอะที่ทำให้มีความรู้สึกพิเศษที่มากกว่าอีกคนหนึ่งแน่นอนอะ
ถ้าเป็นสามพีสำหรับเราเลยคือไม่อินอย่างแรงค่ะ
หรือเพราะเราไม่เคยอ่านเรื่องที่มันเป็นสามพีด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะรู้สึกว่ามันไม่ใช่อะค่ะ

(อาจจะคอมเม้นอ่านแล้วงงๆ ขอโทษนะคะ กร้ากก)

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:  ต่ายน้อยอยู่ในช่วงสับสน   :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ MZter

  • ~ใครหาว่าผมอินดี้...ผมเกรียนจะตาย(•`^`•)~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
จะฟังหรือจะรับหนออออออ
:catrun:

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
ตาทิมนี่ยังไงนะ ของพี่แกแรงจริง ขนาดขาว ตี๋ มีแว่นก็เอาไว้ไม่อยู่
โผล่มาก็น้อย แต่กวาดใจคนแถวนี้ไปจนมีแฟนคลับเป็นโขยง
น่าสงสารหมอตุลคะแนนแทบไม่กระเตื้อง อยากให้ทิมโผล่เยอะๆ อยากได้หวานๆ กันใหญ่
เหอๆๆๆ ด้วยความหมั่นไส้เป็นทุนเดิม คนแต่งขอจัดกาแฟขมๆ ให้แก้วโตๆ!
ถ้าเหล่าแฟนคลับตาทิมคิดว่าพอไหวก็อ่านดูแล้วกัน (แต่ถ้าไม่อ่าน คิดว่าคงเสียใจ) คริคริ


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ตอนที่ 6





ปลายปากกาหมึกแห้งนิ่งสนิทอยู่บนหน้ากระดาษที่ว่างเปล่า
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มทอดมองออกไปที่ใต้เงาไม้ร่มรื่นในขอบรั้วสีขาว
นกตัวน้อยๆ ยังคงส่งเสียงเจื้อยแจ้วมาทางสายลม นานๆ ทีจะได้ยินเสียงผ่อนลมหายใจแผ่วๆ
ออกมาจากคนที่นั่งอยู่ที่ริมหน้าต่างดังแทรกตัวมาในอากาศมาเป็นระยะ

บอกตามตรงว่าไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่กับเรื่องที่เกิดขึ้น
รูปร่างหน้าตา หน้าที่การงาน หรือแม้แต่นิสัยใจคอ
คนแบบตุล ดูเหมือนจะเพียบพร้อมไปทุกอย่างที่ผู้ชายในวัยก่อนสามสิบพึงจะมี
คนที่ดูเหมือนว่าน่าจะเกิดมาเพื่อเป็นฝ่ายเลือกมากกว่าจะถูกเลือก
...คนแบบตุล กลับเลือกที่ชอบผู้ชายอย่างนั้นเหรอ



แล้วคนที่ตุลรู้สึกดีๆ ด้วยคือใคร?

คืนนั้น ตุลหยุดสั้นๆ ไว้แค่นั้น ไม่ได้บอก ไม่ได้พูดคุยอะไรต่อจากนั้น
แต่คิดว่าลำพังแค่นี้ก็คงเป็นเรื่องที่ยุ่งยากลำบากใจกับตุลแล้ว
...อาจจะเป็นใครสักคนที่โรงพยาบาล คิดแบบนั้นจริงๆ

ครั้งหนึ่งผักกาดเคยพูดถึงตุลว่า อาชีพหมอเป็นอาชีพที่มีต้องเสียสละสูง
ตารางชีวิตยุ่งวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา บางครั้งอาจต้องยุ่งจนกินนอนอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นสัปดาห์ๆ
บางคราววันหยุดก็อาจโดนโทรมารักษาเคสด่วน อีกทั้งคนที่เป็นหมอมักจะเป็นคนซีเรียส
แต่ก็ต้องมีความมั่นใจในตัวเองสูง สูงจนกลายเป็นทิฐิ จนบางทีก็จัดอยู่ประเภทว่าผิดไม่เป็น
รวมๆ แล้วจึงไม่แปลกใจที่คนเป็นหมอ ลงท้ายมักจะคบหาดูใจกับคนที่เป็นหมอด้วยกัน
หรือไม่ก็เภสัชฯ หรือพยาบาล ...เป็นคนในที่ทำงานเดียวกันนั่นแหละ
เพราะมีเวลาให้กันเยอะหน่อยและมักพูดจากันรู้เรื่องกว่าคนอาชีพอื่นๆ

“มันก็แปลกนะ ขนาดเจ้เจอหน้าบ่อยๆ ยังได้แต่ยิ้มๆ ให้กัน
มากสุดก็หวัดดี ไหงน้องชั้นมันไปคุยกับตาแว่นหน้าหล่อนั่นได้”

ข้อสงสัยของผักกาดกังวานในความคิด ปลายปากกาถูกกดซ้ำๆ ลงบนที่เดิมจนเป็นจุดลึก
เหมือนกับความสงสัยที่ยังย้ำวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆ ในหัวของคะน้า

...ก็แล้วจะไปสงสัยอะไรกับเรื่องชาวบ้านเขาด้วย จะเป็นใครก็ช่างเหอะ ชายหนุ่มสะบัดหัวพรืด
ไล่ความคิดไร้สาระออกไป หากแต่ความรู้สึกหนึ่งในใจกลับทำให้เขารู้สึกโหวงอย่างประหลาด

...รู้สึกใจหาย และเขาก็ตอบความรู้สึกนั้นในใจไม่ได้จริงๆ

ป่วยการจะค้นคิดหาคำตอบที่ไม่รู้จะหาไปให้ได้อะไร
คะน้าเหยียดตัวลงบนโซฟาบุหนังนุ่มๆ หยิบโทรศัพท์กดออกหาจันทู
เปลี่ยนแผนให้เอาไอศกรีมไปส่งให้ตุลที่โรงพยาบาลตามที่ตุลสั่งเอาไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน
ส่วนตัวเขาจะไปเฝ้าที่แผงในตลาดเอง ...อย่าเพิ่งเจอเลยดีกว่า
แน่นอนว่าจันทูไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอบ่นจนคะน้าปวดหู
ไม่ใช่เพราะว่าขี้เกียจไป แต่สาวเจ้าบอกว่าวันนี้เธอแต่งตัวสวยไม่พอ!

จะกดวางโทรศัพท์ก็เห็นเบอร์ที่รับไม่ทันเมื่อคืนขึ้นโชว์บนหน้าจอ
เพราะไม่คุ้นกับการรับสายซ้อน คะน้าเลยเผลอไปกดวางหูใส่เอา
และเมื่อวางโทรศัพท์จากตุลเสร็จก็รีบโทรกลับไปหา แต่ดูเหมือนเจ้าของเบอร์ก็ปิดเครื่องเสียแล้ว



...ทิมอย่างนั้นเหรอ?


...แล้วนึกยังไง มาเรียกกันแบบนั้น? อารมณ์ไหน?

หากแต่คำถามต่างๆ ที่จนปัญญาจะหาคำตอบนั้น กลับหายไปหมดสิ้นเมื่อตลอดเวลาทั้งบ่าย
พ่อค้าหนุ่มสาละวนกับการขายของเพียงแต่ผู้เดียวในตลาด เดี๋ยวมะพร้าวอ่อน
เดี๋ยวมะพร้าวสำหรับคั้นกะทิ ไหนจะต้องคอยขายไข่ไก่
หรือแม้แต่ไอศกรีมที่เขากำลังตักอยู่นี่ก็ตาม ...ลูกค้าเยอะจนน่าดีใจ

โทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นทำให้คะน้าแปลกใจ ร้อยวันพันปีไม่มีใครโทรหา
...เป็นสายของตุล พ่อค้าหนุ่มนิ่งไปสักพัก หรือว่าจันทูไปก่อเรื่องอะไรอีกแล้ว
คิดแล้วพ่อค้าหนุ่มก็รีบกดรับสายด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ

“คุณตุล”

“นึกว่าจะเป็นคุณคะน้ามาเองเสียอีก” ปลายสายตอบกลับมาแบบนั้น ทำเอาคะน้ารู้สึกไม่ดี
คิดแล้วก็ไม่น่าขี้เกียจหรือคิดอะไรบ๊องๆ แบบนั้นเลย ถ้าไปเองก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไรแบบนี้

“ขอโทษนะครับ จันทูไปก่อเรื่องอะไรเอาไว้หรือเปล่าครับ”

“หืม?... อ้อ เปล่าหรอกครับ ผมแค่นึกว่าคุณจะมาน่ะ” ปลายสายที่ได้รับฟังถึงกับถอนหายใจโล่งอก
“ไอติมอร่อยมากนะครับ ที่แผนกชอบกันใหญ่เลย เห็นทีต้องอุดหนุนบ่อยๆ เสียแล้ว”

“ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวจะแถมให้เป็นพิเศษเลย ฮ่ะๆๆ” โชคดีที่ไม่มีเรื่องน่าปวดหัว จันทูเอ้ยยย...

พูดคุยอีกสักพักตุลก็วางสายไป ทุกอย่างปกติดี ...ไม่เห็นเหมือนกับที่ผักกาดพูดเลยแฮะ
หากจะมีใครสักคนที่พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็น่าจะเป็นเขาเสียมากกว่า ...รึเปล่า?

บ่ายสี่โมงครึ่ง หนุ่มโสดขวัญใจแม่ค้าทั้งตลาดก็ถอนหายใจเฮือก วุ่นจนลืมเวลาไปเลย
นับตั้งแต่วันนั้นที่ได้นั่งคุยกันใต้ต้นไม้ ทิมก็ดูวุ่นวายกับงานการตลอดหลายวันที่ผ่านมา
แรกๆ ก็คิดว่าแบบนั้นจริงๆ แต่ความเฉยชานี่สิ ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับงานยุ่ง
...หรือเป็นเพราะว่าเราทำอะไรผิดหรือทำอะไรให้ทิมไม่พอใจ
ถ้าอย่างนั้น แล้วข้อความในมือถือนี่ล่ะ มันยังไง ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ
ยังไงความสงสัยที่แบกมาหลายวันก็ขอสะสางในวันนี้แล้วกัน

แบกกระปุกไอติมที่ใหญ่บึ้มเป็นพิเศษในมือเรียกว่ายอมขาดทุนกันเลยทีเดียว ...เขาเรียกว่าค่าปิดปาก
คะน้าเดินฉุยๆ เข้าไปในโครงการก่อสร้างคอนโดที่ค่อยๆ คืบหน้าไปทีละน้อยอย่างคุ้นเคย
เห็นเป้าหมายเด่นมาแต่ไกล แม่ง... วิศวกรบ้าอะไร ไปเป็นดาราดีกว่าไหมน่ะ
แค่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับยีนส์สีเข้มมันยังฉายออร่าได้ขนาดนี้
ไม่รู้แหละ วันนี้ต้องรู้ว่าหมู่หรือจ่า ไอ้เด็กบ้านี่ เดี๋ยวก่อน ได้เห็นดีกัน
ว่าแล้วคะน้าก็จ้ำๆ ไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกหงุดหงิด
เป้าหมายหันกลับมามอง สีหน้าเรียบเฉยฉายความหงุดหงิดออกมาทางแววตา

...คุ้นแล้วกับท่าทางแบบนี้ ก็อย่าคิดนะว่ากูจะกลัว ระดับลูกเจี๊ยบแบบมึงน่ะ อ่อนว่ะ ไอ้ทิม
แววตาของคะน้าในวันนี้เคลือบแฝงไปด้วยความชั่วร้ายกว่าทุกๆ วัน เขาสบตาทิมกลับด้วยดวงตาที่ลุกวาว
ทิมมองกลับด้วยสายตาที่กร้าวไม่แพ้กัน ...ถามว่ากลัวไหม? และแล้วคะน้าก็ตะโกนออกไปสุดเสียง...

“ไอติมมาส่งแล้วคร้าบบบบบบบบบ... อ๊ะ! รออยู่อ่ะดิ ติ๊กต่อกๆ สี่โมงแล้วนะเออ”
แม่งหน้ากลัวโคตร กูฝ่อไปหมดแล้วเนี่ย ไอ้เด็กเปรต ตาแบบนั้น มึงไปเป็นโจรเหอะ
จ้องหน้ากูเขม็งแล้วเงียบแบบนั้น มันหมายความว่ายังไง มึงอย่านะ กูกลัววววว...

“ไอติมเย๊นนนน...เย็น ห๊อมมม...หอม ดูสิ มีเนื้อมะพร้าวอ่อนด้วย น่ากิ๊นนน...น่ากิน”
นี่กูทำอะไรอยู่เนี่ย กลับตัวกลับใจตอนนี้ยังทันไหมวะไอ้คุณคะน้า แล้วสะดุ้งอะไรล่ะนั่น
ทำอย่างกับกูเป็นผี ดูมันจ้องกูเข้า โหย... จ้องกูแบบนี้มึงไม่ไปหยิบเกรียงมาเฉาะหัวกูไปเลยล่ะ
หล่อเทพลดตัวมาพูดด้วยดีๆ ก็ไม่พูดด้วย มองหน้ากูนะ แล้วขีดเส้นใต้หนาๆ ยังไงกูก็มีศักดิ์ศรีของกู!

“สักคำไหม ร้อนๆ กินไอติมเย็นๆ นี่มันชื่นใจนะน้องทิม”
เค้าเรียกว่าศักดิ์ศรีของพ่อค้าที่ต้องมีหัวใจบริการไง อ้าปากนะๆ อ้ามมมม....

เหล่าคนงานที่ผสมปูนอยู่ใกล้ๆ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คะน้ากลืนน้ำลายเอื๊อก
นี่มันผิดแผนไปหมดเลยกู ไหงมันเป็นอย่างนี้ไปได้เนี่ย
หมดกันภาพลักษณ์หล่อเทพที่สร้างมา อีกคนจ้องกลับตาเขม็ง ไม่พูดไม่จา

...ตู๊ดๆๆๆ ขอโทษค่ะ ไม่มีสัญญาณจากหมายเลขที่ท่านเรียกอยู่ในขณะนี้
คะน้าค่อยๆ เอามือปิดฝากระปุกไอศกรีมยักษ์ในมืออย่างเก้อๆ
นอกจากไม่เท่แบบที่ตั้งใจไว้ ยังไม่ขำเอาเสียอีก ซ้ำร้ายไปกว่านั้น
ดวงตากร้าวนั้น กลับดูโหดกว่าเดิมเมื่อคิ้วเข้มๆ เริ่มขมวดขึ้งอยู่บนใบหน้าแดงๆ
เหมือนโกรธจัดยังไงยังงั้น โกรธอะไรขนาดนั้นนะ ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย
...เพิ่งคิดอะไรได้บางอย่าง จู่ๆ คะน้าก็สะดุ้งเฮือก


...ฉิบหายละ! อย่าบอกนะว่าไอ้หล่อเท่มันจับได้ว่ากู...




...ว่ากูแอบเอามันมาโอ้บะบ่ะที่ท้องสนามหลวงทีนึง!!!

เช็ดโด้โกโก้ครั้นช์แล้วไงล่ะ! กูไม่รู้ กูไม่ได้ตั้งใจ เอาไงดีวะเนี่ย จู่ๆ คะน้าก็รู้สึกว่าตัวเองค่อยๆ ลีบลงๆ
ถ้ามีหู หูก็คงตก ถ้ามีหาง หางก็คงหดนั่นแหละ มะ...มันรู้ได้ด้วยเหรอ ของแบบนี้!
เหลือบมองคนข้างๆ ด้วยแววตาหวาดๆ ไม่รู้จะพูดยังไงให้ดูไม่เหมือนคนโรคจิตหากเป็นอย่างที่คิดจริงๆ

“ไม่เห็นอยากกิน” ดวงตายังมองตัวเลขบนกระดาษที่อยู่ในแฟ้มบนมือ
หากแต่เสียงของทิมดังขึ้นมาในที่สุด ส่วนคนที่ได้ยินน่ะเหรอ วิ๊งๆๆๆ หูตั้ง หัวส่าย หางกระดิกหมุนติ้ว

คะน้าค่อยๆ เขยิบเข้าใกล้ ส่งสายตาวิ๊งๆ ทิมขยับหนีไปหนึ่งก้าว ตายังจ้องมองตัวเลขในกระดาษ
เมื่อคนตัวสูงกว่าออกห่าง คะน้าก็เขยิบตาม หากแต่อีกฝ่ายก็ขยับตัวไปด้านข้างเรื่อยๆ อยู่แบบนี้ กระทั่ง...

“อะไร!” ทิมเอ่ยขึ้นด้วยเสียงหงุดหงิด

“กินติม”

“ไม่!” หันมาทำหน้าดุใส่คะน้า คนที่ได้ยินถึงกลับสลด วิศวกรหนุ่มยืนเก้อชั่วครู่
เหมือนไม่รู้จะทำอะไรต่อไปดี ก่อนจะเฉหันหน้าไปทางอื่น “...ไม่ใช่ตอนนี้”

ถึงจะเบา แต่ก็ดังพอที่จะทำให้คนที่ฟังเริ่มใจชื้นขึ้นมาหน่อย
ทิมหันกลับแล้วเดินเบี่ยงออกไปอีกทาง ขายาวก้าวฉับๆ ชนิดกะจะไม่ให้เห็นฝุ่น
คะน้าพยายามทำใจดีสู้เสือเดินตามไปกระทั่งถึงร่มไม้ใหญ่
กระนั้นคนที่ถึงก่อนก็อุตส่าห์กระถดตัวหนีแม้จะชิดขอบรั้วกำแพงแล้ว ...อีกเซนฯ ก็ยังดี

ชูจักกะแร้ก็ไม่เห็นจะมีกลิ่น ดมเนื้อตัวถึงจะไม่หอมแบบอาบน้ำใหม่ๆ
หรือใส่น้ำหอมแต่ก็ไม่ได้เหม็นเหงื่ออะไร หากจะมีก็แค่ลืมสระผม
แต่ก็แค่วันสองวัน ไม่น่าจะส่งกลิ่นอะไรขนาดนั้น ...หรือว่าไม่พอใจอะไรจริงๆ



...หรือเพราะไม่ได้ตอบข้อความกลับไป?

คิดได้ดังนั้น คะน้าก็หยิบมือถือขึ้นมากดข้อความส่งออกไป
ทิมเหลือบตามองสักพักแต่ก็ยังคงยืนนิ่ง คิ้วหนาๆ ขมวดมุ่นอยู่เช่นเดิม

เป็นธรรมดาที่ความร้อนระอุในยามบ่ายมักจะทำให้เราหงุดหงิดเสมอ
หากแต่ความเงียบในตอนนี้กลับทำให้รู้สึกอึดอัดยิ่งกว่า
ทิมยังคงสงบนิ่งอยู่อย่างนั้น ...อึดอัดจนคะน้าลอบถอนใจเบาๆ

“เอ่อ... งั้นพี่กลับก่อนแล้วกันนะครับ”

ค่อยๆ ย่อตัวลงแล้ววางกระติกไอศกรีมที่เอามาลงบนพื้นตรงหน้า
พอจะยกตัวขึ้นยืนก็รู้สึกถึงน้ำหนักเบาๆ ที่วางลงบนหัวตัวเอง
เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นไรผมเปียกชื้นของคนที่ยืนข้างๆ
แทนที่จะเป็นหมวกพลาสติกสีเหลืองที่เคยสวมใส่อยู่บนศีรษะตลอดเวลา

ซวยล่ะสิ อยากจะทุบหัวตัวเองสักที ...รีบจนลืมอีกแล้ว คะน้าหลับตาปี๋
รู้ดีว่าคนอย่างทิมไม่น่าจะเป็นคนที่ชอบพูดอะไรซ้ำๆ
“เอ่อ... ขอบคุณนะครับ” เอามือยกขึ้นจับหมวกบนหัว

“อากาศร้อนเนอะ ว่าไหม”
คนที่ไม่สวมหมวกตีหน้าขรึม เอาแฟ้มกระดาษในมือพัดเรียกลมไปมา
แล้วเดินเลาะไปอีกด้านหนึ่งของร่มใม้ใหญ่ที่อยู่ห่างออกไป



(ต่อข้างล่างนะครับ)

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
(แม่ยกทั้งหลาย โปรดเตรียมตัวเตรียมใจก่อนอ่าน o18)





แสงแดดใกล้จะระไปจากท้องฟ้ากว้าง ดวงอาทิตย์ดวงกลมแผดสีทองอร่าม ณ เส้นขอบฟ้า
ย้อมหลังคาของโลกให้สุกสกาวราวกับผลไม้ฤดูร้อนที่สุกงอมฉ่ำหวาน
ทุกอย่างดูช้า และเนิ่นนานกว่าที่ควรจะเป็น นิ่งและเงียบสงบ
ราวกับโลกทั้งใบกำลังจะเคลื่อนเข้าสู่นิทราด้วยความอ่อนล้าจากวันอันแสนยาวนาน
ไม่มีเวทย์มนตร์วิเศษใดๆ อยู่เบื้องหลังไหล่กว้างที่ตัดกับท้องฟ้าสีแสดนั้นหรอก
หากแต่เป็นผืนหญ้าที่นุ่มนวลราวกับพรมชั้นเลิศนั้นต่างหาก
ที่ดูดซับสรรพเสียงของการขยับเขยื้อนของคนทั้งสองคนนั้น
ไว้ด้วยการยืนหยัดจากรากสู่ลำต้นน้อยๆ นับแสนล้านชีวิตของมัน

ทิมดูสงบนิ่ง ดวงตาที่เคยแข็งกร้าวคู่นั้นทอแสงอุ่นจางๆ
ไม่ต่างอะไรกับเมฆนุ่มๆ บนท้องฟ้าในตอนนี้เลย ชายหนุ่มค่อยๆ ทิ้งตัวนั่งลงตรงที่เดิม
ภาพที่คุ้นตานั้น กลับดูไม่คุ้นสักนิดสำหรับคนที่เดินตามมา อ่อนโยนและอบอุ่นจนเหมือนภาพลวงตา

ไม่ใช่ความดุดันแบบที่เคยคุ้น ทิมในตอนนี้ดูไม่แตกต่างอะไรกับชายหนุ่มในวัยเบญจเพสทั่วๆ ไป
ไม่ใช่สิ ดูเหมือนจะลึกซึ้ง ละเอียดอ่อน และเดียงสากว่าคนในวัยเดียวกันด้วยซ้ำ
แววตานั้นซื่อตรงต่อความรู้สึก ปราศจากเล่ห์กล หรือสิ่งปรุงแต่งใดๆ
คะน้าค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งข้างๆ ทิ้งน้ำหนักลงบนแขนที่ค้ำดันอยู่ด้านหลัง
สูดกลิ่นอ่อนๆ ของต้นไม้ใหญ่ที่ทอดเงาอยู่เบื้องบน
พื้นที่บริเวณนั้นปราศจากผู้คน เหล่าคนงานต่างแยกย้ายไปพักกันหมดแล้ว
ทิมหันมามอง คะน้ามองกลับก่อนที่ต่างผ่ายจะหันกลับไปแบบเก้อๆ

“ไม่กลับเล่า”

“เรียกว่าพี่สิ อายุก็น้อยกว่า” คะน้าบ่นแทนคำตอบ กี่ทีๆ ทิมก็ไม่เคยจะเรียกว่าพี่สักครั้ง

“ก็รุ่นเดียวกัน”

“ยังเรียกพี่รัตนาได้” จนปัญญาจะเถียง ทิมถอนหายใจแบบเซ็งๆ

“...พี่ไม่ต้องรีบกลับเหรอ พี่ๆๆๆ พอใจยัง” ไม่ค่อยจะเต็มใจหรอก ฟังดูก็รู้
แต่นั่นก็เพียงพอแล้ว คะน้ายิ้มให้ ดีใจที่ถูกนับอายุแบบคนทั่วไปเสียที

“ไม่ต้องแล้ว วันนี้ขายหมดไวน่ะครับ”

“ก็ดีสิ”


...ดี? ...ดียังไง? คะน้าตั้งคำถามในใจด้วยความสงสัย

ทิมพยักหน้าเบาๆ รอยยิ้มน้อยๆ คลี่ขึ้นที่มุมปาก
ทั้งหมดนั้นทำให้คนที่สวมหมวกต้องก้มหน้างุดลงด้วยความรู้สึกที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ที่มาที่ไป


...เขินเหรอ ...ไม่รู้สิ

ไม่นานนักคะน้าก็รู้สึกถึงน้ำหนักบนบ่าข้างซ้ายที่ค่อยๆ กดลงมา
ความเปียกชื้นจากเหงื่อที่อยู่บนไรผมอีกคนสัมผัสลงข้างแก้มก่อนจะลางลงมาที่ลำคออย่างช้าๆ
ใบหน้าของทิมค่อยๆ เอนลงแนบชิดที่ข้างแก้มแล้วไล้ลงต่ำ ...ใกล้ชิดจนได้ยินเสียงของลมหายใจ
มีกลิ่นเหงื่ออ่อนๆ เจือมากับไอร้อนจางๆ จะรู้สึกได้ จนคนที่นั่งนิ่งอยู่รู้สึกงงและทำอะไรไม่ถูก

“เหนื่อย”

หัวไหล่ทิมเบียดชิดจนแนบซ้อน คนสวมหมวกหลบสายตาอีกคนด้วยการก้มมองต่ำ
แต่แล้วก็ต้องชะงักหยุดอยู่ที่ใบหน้าราวกับรูปวาดที่วางอยู่บนหัวไหล่นั้น
ขนคิ้วสีดำจัดที่เรียงเส้นเป็นแนวสวยรับกับสีดำเป็นแพหนาโค้งงอนบนเปลือกตาเขา
มันตัดกับสีฝาดเลือดที่ระเรื่อแดงบนริมฝีปากของทิมอย่างพอดี
โครงสร้างกระดูกบนใบหน้าโค้งมนและหักแหลมอย่างเหมาะเจาะ
ผิวหนังที่ขาวสะอาด แม้ดูกรำแดดไปบ้างแต่ก็ยังเนียนละเอียด
วูบหนึ่งคะน้ารู้สึกจุกที่กลางหน้าอกด้านซ้าย มันกระตุกและแปลกไปจนเขาเองก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
...ไม่รู้จะซุกซ่อนความรู้สึกตัวเองได้ไหม คะน้าเบนสายตาลงต่ำพร้อมกับหยิบกิ่งไม้แห้งๆ
ขึ้นเขียนอะไรบนพื้นดินไปตามเรื่อง หวังลึกๆ ว่าความร้อนที่วูบวาบบนใบหน้านั้นจะหายไปในไม่ช้า

“จะไม่ว่าอะไรใช่ไหม”

“อ...อือ”

คะน้ารับคำด้วยเสียงสั่นๆ หัวใจเต้นแรงจนไม่เป็นจังหวะ
ดวงตาที่ปิดสนิทคู่นั้นของทิมค่อยๆ เปิดขึ้นรับความอบอุ่นของแสงตะวันอีกครั้ง
ก่อนจะทอดมองไปที่ต้นไม้สูงใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลออกไป
สายลมพริ้วไหวพัดหยอกล้อกิ่งไม้จนไหวเอน และเมื่อสายลมพัดผ่านจนสงบ
ทุกอย่างก็ดูจะคืนสู่ความสงบนิ่งตาม ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
มีเพียงเสียงลมหายใจที่ดังเป็นจังหวะให้ตัวเองพอได้ยิน

“นิ่มอย่างกับผู้หญิง”

“อ...อะไรเล่า”

ทิมไม่ได้ให้คำตอบใดๆ นอกจากเสียงหัวเราะน้อยๆ ในลำคอและกล้ามเนื้อเล็กๆ ตรงมุมปากที่ยกขึ้นสูง
...แต่แค่นั้นก็มากพอสำหรับคนที่จ้องมองอยู่ คะน้ารู้สึกหายใจติดขัดกับท่าทางสบายๆ ของทิม
ราวกับความรู้สึกมันจะกระเจิดกระเจิงไปกับต้นเสียงทุ้มๆ ที่ตอนนี้เงยหน้าขึ้นมาสบตาพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ
...ราวกับต้องคำสาป คะน้ารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจมลงในน้ำ ค่อยๆ ดำดิ่งลง ลึกลง… และลึกลง…


...เหมือนขาดอากาศจะหายใจ

ร่างที่เล็กกว่ากำลังฝืนตัวเองอย่างหนักกับความสั่นสะท้านที่เกิดขึ้นเงียบๆ ในความคิด
กระนั้น คะน้าก็เชื่อเหลือเกินว่าเป็นใครต่างก็คงยินดีที่จะหยุดลมหายใจตัวเองกับนาทีเหล่านี้ของทิม
เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เกิดขึ้นแม้เพียงเสี้ยววินาที หากแต่ความรู้สึกนั้น อาจตราตรึงยาวนานราวกัปป์กัลป์

“หนุนนะ”

“อ...อือ”

ร้อนวูบไปทั้งตัวเมื่อส่วนโค้งของศีรษะทิมถูกยกขึ้นก่อนจะค่อยๆ เอนลงช้าๆ
ช้า...จนค่อยๆ แนบลงไปบนตักของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่นั้น โลกราวกับจะหยุดหมุน
เวลาคล้ายว่าจะตรึงให้นิ่งอยู่กับปลายแสงสุดท้ายแห่งวัน ทุกอย่างเงียบสงบ
หากแต่มีเพียงเสียงลมหายใจเบาๆ ของคนสองคนที่บอกให้รู้ว่าบางสิ่งบางอย่างยังคงดำเนินไป

“ก...กินติมไหม”

รู้ว่างี่เง่า แต่ก็ฝืนพูดออกไป แม้จะกระท่อนกระแท่นก็ยังดีกว่าจะขาดใจตายอยู่ตรงนี้
ไม่มีคำตอบใดๆ จากริมฝีปากสีชมพูระเรื่อนั้น หากแต่มือกว้างค่อยๆ ยกขึ้น
...ค่อยๆ ถอดหมวกที่เจ้าตัวเคยเป็นผู้ยกสวมให้นั้นออกเองกับมือ
ดวงตาสีดำทอแสงอุ่นๆ ก่อนที่มือกว้างจะค่อยๆ ลูบเรือนผมนั้นอย่างแผ่วเบา
กระนั้นน้ำหนักของปลายนิ้วที่ลูบไล้ก็มากพอจะทำให้คนที่นั่งอยู่ รู้สึกทำอะไรไม่ถูก

“เวลาอยู่ใกล้ๆ ถึงจะเห็น ผมพี่เป็นสีน้ำตาลเข้มนี่นา”

“อ...อือ”

“นิ่มดีนะ”

ไล้มืออย่างอ้อยอิ่งราวกับสัมผัสจากสายลมที่ให้ทั้งความรู้สึกเย็นสบายและรู้สึกอบอุ่นในใจอย่างประหลาด
คะน้าไม่กล้าแม้แต่จะลืมตามองคนที่หนุนอยู่บนตัก ความปั่นป่วนแทรกซึมไปทั่วร่างจนสั่นสะท้าน
แม้ปลายนิ้วยังคงโลมไล้ไรผมสีน้ำตาลเข้ม หากแต่ทิมก็ขมวดคิ้วมองด้วยความสงสัย นึกแปลกใจกับสิ่งที่ได้เห็น

“พี่ไม่สบายเหรอ”

“ป...เปล่า” เสียงแหบจนแทบจะไม่ได้ยิน

“เสียงพี่ดูสั่นๆ”

“ม... ไม่เป็นไรๆ” คะน้าพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ
นึกแปลกที่ตัวเองรู้สึกเขินอายเอากับคนที่เป็นผู้ชายด้วยกัน “กินติมเปล่า”

“ขี้เกียจ” ยกแขนทั้งสองข้างขึ้น ทิมบิดตัวไล่ความเมื่อยล้า

“ม...มันละลาย” ไม่ค่อยมั่นใจกับตัวเองว่ากำลังหมายถึงไอศกรีมในกระติก หรือคนพูดกันแน่
ทิมผ่อนลมหายใจเบาๆ ยิ้มน้อยๆ ขึ้นที่มุมปากแล้วสบตาคนที่หนุนนอนอย่างหยอกล้อ

“ช่างมัน”

“เสียดาย”

“ป้อนดิ”

เสียงทุ้มที่เพิ่งได้ยินทำเอาคนที่นั่งอยู่อึ้งไปชั่วขณะ ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดหรือโมโหกับสิ่งที่ได้ยิน
และก็ไม่ได้รังเกียจที่จะทำ ปกติเขาเองก็เคยเล่นกับเพื่อนบ่อยๆ
หยิบนั่นป้อนนี่กับเพื่อนๆ ตอนเรียนมหาวิทยาลัยจนชิน
หากแต่ความรู้สึกในตอนนี้กลับแตกต่าง จะเป็นอะไรไหม ...ถ้าเป็นทิม?

“นะ”

คนที่นอนอยู่จ้องตาให้รู้ ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านใดๆ กับสิ่งที่ตัวเองทำอยู่
ริมฝีปากนุ่มกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนที่จะค่อยๆ อ้าเผยอขึ้น

“ไวๆ”

“จะกินยังขี้เกียจ”

ก็พูดไปอย่างนั้น อันที่จริงน่าจะแก้ความรู้สึกแปลกๆ กับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ในขณะนี้เสียมากกว่า
คะน้าค่อยตักไอศกรีมขึ้นจากกระติกแล้วป้อนคนที่นอนอยู่บนตักตัวเอง ...ทำตัวเป็นเด็กๆ ไปได้

“ระวังสำลักนะ อ้าว เลอะแล้ว” ไม่ทันขาดคำทิมก็ไอศกรีมก็ไหลเลอะที่มุมปาก
ทิมยกมือขึ้น เอานิ้วโป้งเกลี่ยเช็ดริมฝีปากแล้วปาดเข้าปากตัวเอง ดวงตาจ้องมองคนป้อนอย่างหยอกล้อ

“หวานนนน...”

คะน้าส่ายหัว สลัดแววตาและท่าทางเหล่านั้นให้พ้นจากความคิด
อาจลองคิดดูดีๆ แล้ว เผินๆ ทิมเหมือนคนดุ เจ้าเล่ห์และขวางโลกนิดๆ วางตัวเป็นผู้ใหญ่เกินวัย
แต่อายุ 25 ที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้ อีกมุมหนึ่งกลับเหมือนเด็กอายุสัก 5 ขวบได้


...ตามไม่ทันจริงๆ

บางทีก็อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามกับตัวเองว่าความหวั่นไหวแปลกๆ ในความรู้สึกนั้น
จริงๆ แล้วเป็นเพราะอาการเพี้ยนของตัวเองที่มีมาแต่กำเนิดหรือเปล่า
คิดเท่าไหร่ก็ดูเหมือนจะหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ วนๆ เวียนๆ กับความสงสัยอยู่ร่ำไป
แต่แล้วคะน้าก็ชะงักเมื่อจู่ๆ ก็เห็นร่างสูงคุ้นตาที่กำลังเดินเข้ามาในไซด์งานก่อสร้าง
เขาเหลือบซ้ายแลขวาเหมือนกับกำลังมองหาอะไรบางอย่าง

...แม้ในระยะไกล คะน้าก็จดจำคนๆ นั้นได้ดี

อาการนิ่งและสีหน้าที่ประหลาดใจของคะน้าทำให้ทิมค่อยๆ ลุกขึ้น
คิ้วเข้มยกสูงและขมวดเป็นเครื่องหมายคำถาม ก่อนจะเบนสายตามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

คะน้ากำลังยิ้ม ...และยิ้มกว้างมากขึ้นเมื่อคนที่แปลกหน้าคนนั้นเดินเข้ามาใกล้
คนๆ นั้นส่งยิ้มให้กับคะน้า เป็นรอยยิ้มที่ดูดี หากแต่ทิมรู้สึกไม่ชอบใจอย่างบอกไม่ถูก

“ใคร?” เสียงห้วนๆ และแววตาที่กร้าวกลับมาอีกครั้งจนคนฟังรู้สึกแปลกใจ
คะน้าที่กำลังอึ้งๆ ก็งงจนทำอะไรไม่ค่อยถูก เหมือนความเงียบนั้นจะนานจนเกินไปสำหรับทิม

“ผมถามพี่ว่านั่นใคร!”

“ตุล... คนรู้จักน่ะ ไม่สิๆ เพื่อนน่ะ แต่ทำไมมาที่นี่ได้นะ”
คะน้าตอบไปด้วยอาการงวยงงที่อยู่ๆ ตุลก็ปรากฏตัวขึ้นที่นี่
หรือแม้กระทั่งการที่ทิมก็ดูแปลกไปอย่างไม่รู้สาเหตุ ...หงุดหงิดเรื่องอะไรนะ

ฝ่ายคนที่เดินเข้ามาใกล้เองก็เริ่มชะงักกับคนแปลกหน้าอีกคนที่เขาไม่เคยคุ้นตา
ไม่ใช่ว่าไม่เห็นถึงความใกล้ชิดเมื่อสักครู่นั้น ตุลมองจ้องไปที่ทิมไม่วางตา
ความรู้สึกบอกไม่ได้ว่าควรจะเอ่ยทักในฐานะมิตร หรือในฐานะอะไรดี



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


กลิ่นหญ้าอ่อนๆ ตอนนี้หอมฉุยเชียว แต่งไปก็หมั่นไส้ไป จะหล่อเท่มีเสน่ห์อะไรขนาดนั้น
อยากให้ตาทิมเลิกซึน อยากให้จู่โจมทำคะแนนบ้าง ขอมาก็จัดไป ฮ่ะๆๆๆ
สารภาพว่าใจจริงไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้เลย ดันเข้ามาอ่านคอมเมนต์ท่านผู้อ่านที่น่ารักก่อนน่ะสิ
พร้อมใจกันขนาดนี้ ผลก็คือบ้าจี้ตามเสียงเรียกร้องคนอ่านไปนั่น ไม่ได้ลำเอียงเล้ยยยย... สาบานก็ได้!
คราวหน้าเห็นทีต้องแต่งก่อนค่อยเข้ามาอ่าน ไม่งั้นเสียรูปขบวนหมด ตอนนี้ หมอตุลขอฝากไว้ก่อน
เดี๋ยวจะทวงคะแนนคืนให้จงได้ ลูกผู้ชายล้างแค้น สิบปีก็ไม่สาย เหอๆๆๆ

แบบทดสอบสำหรับคนแต่งในตอนที่อัพนี้ ก็คือการเขียนโดยใช้ภาษาละเมียดซะหน่อย
บางช่วงในตอนจึงดูละเมียดเป็นพิเศษ(รึเปล่า) ก็ถือว่าทดลองดูน่ะครับ แหะๆ
มันก็ได้แค่ตอนนี้ตอนเดียวแหละ เพราะขี้เกียจ กร๊ากกกกกกกกกกกก...

แอบทำ FB Page ขึ้นมา เผื่อไว้เอาไว้ให้คนอ่านพูดคุย ตามจิก หรือรีเควสอะไรคนแต่งนะครับ
กดที่ตามไปที่ลิงค์นี้เลยนะคร้าบบบ... Lucea’s Page

พบกันใหม่ตอนหน้าครับ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และกำลังใจนะครับ
รักคนอ่านจริงๆ ให้ดิ้นตาย จุ๊บๆ ขอกอดหนักๆ หนึ่งทีเนอะ  :กอด1:

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป

จีเวลจ้า

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยยยยยยย

เมะสองคนเจอกันแล้ว...หนูคะน้าก็สู้ๆนะ ถ้าตกลงกันได้ก็3Pโลดดดด

 :z6:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
รถไฟสองขบวนเค้าชนกันแล้ววว
อะไรจะเกิดขึ้นนน ว๊ากกกก
ติดตามชมตอนต่อไป

ป.ล.ไลค์แฟนเพจใหเแล้วนะคะ อิอิ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
บวกกกกกกกกกกกให้
เสือสองตัวเจอกันแล้ว กระต่ายจะทำไงล่ะทีนี้ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็เป็นแบบเราสามคน  แต่แบ่งวัน  แบ่งเวลาเอาก็ได้นะ
นะวินาทีนี้หมอก็ดี  ทิมก็เลิศ  แอร๊ยยย  อยากเป็นคะน้า

ออฟไลน์ Maprang_W

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
โบกป้ายเชียร์ทิมอย่างจดจ่อ
หมอมาทำไม หมอมาได้ไง
จันทู เธอแอบเป็นสปายคาบข่าวไปบอกหมอชิมิ

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยย มาทำไม พี่ตุลย์  :a6: :a6:

กำลังล่องลอย เหมือนมีใครมาฉุดลงมากระแทกพื้นซะงั้น


พี่ตุลย์ แล้วไง อย่างน้อย น้องทิม ก็คือคนที่ กระต่ายน้อย จินตนาการถึงตอน ไปสนามหลวง นะเฟ้ยยย (ข่ม  :oni2:)


(ไม่เกลียดพี่ตุลย์ แต่เค้ารักทิม)


ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 o18 o18 o18  เชียร์น้องทิมหญ้าอ่อนน  o18 o18 o18

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
รักทิม เชียร์ทิม ชอบสามพี o13

Running

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาอ่านแล้ว
เรื่องนี้คัยจะเปนพระเอก เราล่ะไม่รุ้จะเชียร์ใครดี ฮ่าๆๆๆๆ
รอลุ้นต่อไปว่าคะน้าจะเลือกใคร
รอตอนต่อไปครับ บวกๆครับ

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
เอาหมอออกป๊ายยยยยยยยยยยย  :sad4:  เค้าไม่เอาหมอตุลย์
ต้อง ทิม ทิมและทิม เท่าน้านนนนนนนนะ  :o12:
 กขคมาแล้วทิม เอามีดกระซวกแล้วเอาไปขว้างทิ้งโลดด  o18
ส่วนกระต่ายอย่าปันใจให้หมอนะ  ต้องรักทิม ๆ ๆ  :oni3: โอมมมมมมม (สะกดจิตซะเลย 555555)

ปล ไลค์แล้วนะค่ะแฟนเพจ  o13
ปล1  :pig4: นะค่ะ

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
นักอ่านอยากให้พระเอกเป็นทิม
แต่! ทำไมดูแววแล้ว เรารู้สึกว่าคะน้าจะเลือกหมอตุลย์ง่ะ ม่ายยยยย
ต้องทิมเท่านั่น

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
รถไฟชนกันสินะ :pigha2:

สองคนนี้ดูเหมือนจะรู้จักกัน.....รึเปล่าหว่า :confuse:

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
อะไรอย่างไรตามลุ้นกันต่อไปค่า แล้วก็อยากบอกว่าไม่ชอบไม่สนับสนุนสามพีเลย

ถ้านักเขียนต้องจะสามพีมาแต่ต้น รับได้อ่านได้ไปเรื่อย แต่ถ้าแบบตามกระแสคอมเมนต์ มันจะแลดูไม่เข้าทีเข้าทางนะ

อย่างไรก็ดีแล้วแต่นักเขียนค่ะ คนอ่านก็ได้แต่ตามอ่านกันไป ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






faratellll

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้โดนใจเจ๊อย่างแร๊งงง!!!  o13
นู๋ทิมของเจ๊ถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้ คะน้าต้องรับผิดชอบด้วยเน้อ  :o8:

P.S. เออสับรางไม่ทันแล้วนะคะน้า 

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
หมอมาทำม๊ายยย ว่าแต่หมอตุลนี่โผล่มาแทบทุกตอนจริงๆ
ทิมสู้ๆ โบกป้ายไฟเชียร์ทิมต่อไป
ก็เค้าชอบหญ้าอ่อนอ่ะ ห๊อม หอม ฮะฮ่าาา หวังว่าคะน้าจะชอบด้วยนะ
ตอนนี้ก็ใกล้ชิดมาก รุกเร็วจริงๆน้องทิม

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
โอ้ เจอกันแล้ววว
จะเป็นไงต่อนะ

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
แฮ่กๆๆๆๆ ฟิน!พี่ทิมขา~~~~~~~~~~~~~
ฟินมาก หล่อ ซึน มีหึงด้วยโว๊ยเฮ๊ย!!!โอย น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หมอตุลย์แม่งแย่ จะมาขัดจังหวะทำไม โกรธๆๆๆๆๆ เดี๋ยวกัดเลย!
น้องคะน้าคะ ทำไมถึงได้ซื้อบื้อโมเอ๊ขนาดนี้คะ???ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่า2หนุ่มหล่อเขาคิดจะงาบคะน้าผัดมะพร้าวน่ะ!
ปล.ยังกรี๊ดพี่ทิมต่อไป แอร๊ย หล่ออ่ะ พี่หล่อออออออออออออ

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ตามไปจิ้มแฟนเพจลูเซียละ จะได้ตามจิก เอ้ย ตามให้กำลังใจได้บ่อยๆ 5555
แว้กกก ตอนนี้ทิมรุกฆาต  ทำไมปากแข็งจังเลยน้าาาา  o18กลิ่นหญ้าอ่อนแรงมากถึงมากที่สุดเลยอะตอนนี้ 5555
อิพี่ตุลโผล่มาได้จังหวะมาก  แหม้ ประกาศสงครามกันเลยว่างั้น 
บอกแล้วว่าสามพี  อย่าไปเกร็งๆ รักของเราสามคนเวิร์คสุด 5555 :laugh:

ออฟไลน์ fullmoonny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
แอร๊ยทำไมตอนนี้ทิมดูหล่อขึ้นไปอีก10เท่า แถมยังหึงคะน้าด้วย
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆ หมอตุลจะมาทำไมค่ะกำลังสวีทเลย  :angry2: :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อร๋าย ทิมน่ารักอะ คะน้าเขินอะดิ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
หมอกลับโรงพยาบาลไปเห๊อะะะะะจะมาหาทำไมค้าาาาาาาา  :pigha2:

BONE

  • บุคคลทั่วไป
*นั่งกอดเข่าปลูกเห็ดอยู่มุมห้อง*
ทิมมันไม่เคยโผล่ไปขัดจังหวะหมอ หรือตามไปถึงโรงบาลเลยนะ
แล้วหมอจะมาขัดจังหวะทิมถึงไซด์งานทำมายยยย ฮือ~ T^T เสียใจ~
อารมณ์กำลังหวานชื่น กลิ่นหญ้ากำลังกรุ่นเลย
หมอตุลโผล่มา อากาศทำท่าเหมือนฝนจะตกล่ะ ฮา~

เราว่าหมอตุลมีภาษีกว่าทิมอยู่นะ เพราะได้เจอน้องต่ายตั้งหลายที่
ทั้งโรงบาล คอนโด ตลาด คุยโทรศัพท์ ไหนจะไปกินข้าวด้วยกันอีก
แต่ทิมนี่เจอกันแต่ในไซด์งาน ตลาดก็นานๆ ที ส่งข้อความไป
เขาก็ไม่ตอบกลับ โทรไปเขาก็กดตัดสาย พอจะได้หวานบ้าง
หมอก็ตามมาขัดจังหวะอีก ป๊าดดดด ทิมเอ๊ย ได้ใจแม่ยกแต่เหมือนแก
จะไม่ได้ใจพระพรหม(คนเขียน) นะ 55555

โบกป้ายไฟเชียร์ทิมต่อไป
ขอบคุณนะคะ รอตอนต่อไปอยู่เน้อ~ ^^

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
เล่นเอาไปไม่เป็น...ทิมรุกหนักได้ใจไปเลย
ที่สำคัญตุลดันเห็นนี่สิ งานนี้อาจมีเฮ เจอกันทั้งทีอยากอ่านฉากปะทะคารมแย่งคะน้าจริง ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด