น้องหมอ กะ พี่วิศวะ [5]เช้าวันหนึ่ง อากาศดี๊ดี กลุ่มเซเลปของพี่ยูได้นั่งเล่นรอเวลาไปเรียนคาบเช้าอยู่ที่มาหินที่เดิมหน้าตึกวิศวะ
“เพื่อนๆครับ กูได้ข่าวมาครับ” ไอ้วิชที่เดินเข้ากลุ่มมาเป็นคนสุดท้าย พูดประโยคนี้ออกมาพร้อมกับรอยยิ้มชั่วๆของมันเวลามันกำลังมีแผนเลวๆอยู่ในหัว
“ข่าวอะไรของมึง??” เนศย้อนถามถาม
“เมื่อวานนี้ สายสืบของกูรายงานมาว่า มึงเลยไอ้ยู ไปเดทกับไอ้หมาคินมาใช่มั้ย??” หลังจากพูดประโยคนี้จบไป ไอ้วิชยิ้มราวกับประหนึ่งเป็นผู้ชนะ ทั้งๆที่มันก็แค่เสือกเรื่องของเพื่อนตัวเองเท่านั้น
ยูมองหน้าเพื่อนรักตาโต ปากสีแดงนั่นพงาบๆ ขึ้นลงสองสามที ก่อนจะถามกลับ “มะ..มึงรู้ได้ไง??”
“ว๊ายยยย ตายแล้วววว คุณขาาาาาา” ไอ้กานออกอาการแต๋วแตกจนน่าถีบ
“ไหนมึงบอกว่าขาอ่อนก็ไม่ได้เห็นไง นี่มึงให้น้องมันเห็นไปถึงไหนแล้วห๊ะไอ้ยู แม่งชิงสุกก่อนห่ามเรอะมึง” ไอ้ดิศนี่แม่งก็เว่อร์ซะเหลือเกิ๊นนนนนน
“ส้นตีนแหนะไอ้พวกเหี้ย!!! กูแค่ไปกินข้าวกัน ไม่ได้ไปเอากัน เก็บปากไว้แดกขี้ไป๊!!!”
“ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก” ฮากันถ้วนทั่ว บอกแล้วว่าพวกมันชอบแกล้งยูกิที่สุด เพราะพวกมันก็รู้อยู่แก่ใจว่า เพื่อนรักคนนี้ ไม่ง่ายขนาดนั้น
“แต่แหม๊~ไอ้หมอมันก็เจ๋งเว้ย ที่สามารถให้คนแบบมึงไปด้วยได้ มันทำไงวะ?” เนศถาม
“ก...ก็....” ยูกลอกตามองหน้าเพื่อนสี่คนที่กำลังจ้องหน้าคาดคั้นความจริงจากตัวเองอยู่
“กะ ก็เหี้ยอะไรของมึง?!” เนศเร่ง
“ไม่รู้โว้ยยยยย!!” ยูเอามือปิดหูก้มหน้าลงกับโต๊ะ ตอนนี้รู้สึกเกลียดหน้าพวกมันมาก แม่ง...
“นี่ไอ้ยู มึงอย่ามาทำปัญญาอ่อน” วิชดันหน้ายูให้เงยขึ้น เอาสองทั้งสองมือประกบแก้มเอาไว้ จนปากแดงๆนั่นยื่น
“กูรู้ว่ามึงรู้อยู่แก่ใจว่าทำไมมึงถึงไป พวกกูทุกคนลองคุยกันดูแล้วนะ กูว่าไอ้หมอมันก็โอเคดี พวกกูให้มันผ่านเข้ามาจีบมึงได้ แปลว่าพวกกูยอมรับในตัวมัน 30% แล้วนะ” ไอ้วิชร่ายยาว
“เออ กูว่ามันก็เอาใจใส่มึงดี ขัดใจมึงรึก็ไม่ ทั้งๆที่มึงเอาแต่ใจตัวเองจะตายไป” กานดีดหน้าผากยู
“พวกกูว่า มึงน่าจะลองเปิดใจให้ไอ้หมอหน่อยนะ” เนศยกมือขยี้จนผมบ๊อบของยูยุ่งไปหมด จนเจ้าตัวต้องยกมือขึ้นมาลูบๆให้ผมมันเข้าที่
“พวกมึงก็น่าจะดูออกว่ามันไม่ใช่เกย์ กูไม่อยากคบกับคนที่ไม่ใช่เกย์อีก พวกมึงก็รู้” ยูกัดปากแดงๆนั่นข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้
“กูว่ากูเชื่อใจไอ้หมอมันนะ มึงต้องเข้าใจว่ามันไม่ใช่ไอ้เหี้ยแซน” กานลูบหลังเพื่อนตัวเล็กเพื่อเป็นการปลอบโยน
“หรือถ้ามันทำกับมึงเหมือนไอเหี้ยนั่น พวกกูจะกระทืบมันให้ตายคาตีนกูเลย” ดิศพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม มือก็ลูบผมหน้าของยูอย่างอ่อนโยน
ยูอมยิ้ม แล้วพยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงว่าเข้าใจในสิ่งที่พวกมันพูด “ขอบคุณพวกมึงจริงๆนะ”
“นั่นไง พูดถึงหมอ หมอก็มา ให้เหี้ยนี่ตายยากจริงๆ” สิ้นคำพูดไอ้วิช พี่ยูของเราหันไปมองทันที ภาพที่เห็นคือไอ้หมอถือแก้วกาแฟมาพร้อมกับรอยยิ้ม พอเห็นว่ายูหันไปมองหมอก็โบกมือทักทายไป
....ไหนมึงบอกว่าจะไม่ว่างอีกหนึ่งอาทิตย์ไงไอ้หมอ!!“อะ” น้องหมอยื่นแก้วกาแฟให้เป็นปกติมากๆ แต่พี่ยูกลับจ้องหน้าน้องหมอของเรา ก่อนจะถามว่า
“ไหนมึงบอกว่าจะไม่ว่างไปอีกอาทิตย์ไงไอ้ตอแหล” คำด่าช่างกรีดแทง
“อ๋อออ พอดีผมมีเรียนบ่าย เลยแวะอากาแฟมาให้พี่ก่อน เดี๋ยวผมก็ไปละ แบบว่า...อยากเห็นหน้าก่อนไปเรียนอะ” ^^
....นี่มันจงใจมาหยอดกูใช่มั้ย“โหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห”
“พวกพี่อิจฉาอะดิ!” น้องหมอหันหน้าไปเยาะเย้ย
“ถุ๊ย! หล่อๆอย่างกูมีมาไม่ขาดหรอกเว้ย!!” ก็จริงของไอ้วิช แม่งเจ้าชู้ตัวพ่อ คลำดูไม่มีหาง แม่งก็เอาหมดแหละ
“ระวังจะเป็นเอสด์ตายซักวัน”
“มึงไม่ต้องมาสั่งสอนกูไอ้หมอ มึงรู้จักถุงยางมั้ยห๊ะ! ถุง-ยาง!!!” พูดพลางควักถุงยางออกมาจากกระเป๋าเงินหนึ่งอัน ยื่นใส่หน้าน้องหมอ ไม่ว่าเมื่อไหรน้องหมอก็ยั่วอารมณ์ไอ้วิชได้ตลอดเวลา
น้องหมอมองไอ้วิชอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะหันหน้าไปหาพี่ยูแล้วยิ้มอย่างเคย “พี่ยูผมต้องไปละนะ ต้องไปเตรียมตัวก่อนเรียนกับเพื่อนก่อน”
“เอ้อ....ตั้งใจเรียนนะ” พูดไปก็เขินเหมือนกันนะเนี่ย แต่เพื่อตอบใจน้ำใจเล็กๆน้อยๆของมันซะหน่อย
น้องหมอไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง พี่ยูพูดว่าอะไรนะ ตั้งใจเรียนนะ
....โฮกกกกกกกกกกกก พี่ยูคร้าบบบบบบบบบบบบ“ครับผม แล้วผมจะบีหานะ” พูดไปน้องหมอก็อมยิ้มไป พี่ยูตอนนี้น่ารักชิบห่อง
“พูดเสร็จก็รีบๆไปสิวะ มองหน้าเพื่อนกูอยู่นั่น พวกกูก็ต้องไปเรียนแล้ว หลีกๆ” วิชผลักไหล่น้องหมอแล้วเดินลากไอ้ยูตามออกไปพร้อมพวก
....วันนี้เป็นวันเฮงของน้องหมอจริงๆ โฮ๊ะๆๆๆ**********************************************
‘พี่จะให้ผมไปรับที่ไหนครับ’
‘รอหน้าหอ’
‘คร้าบบบ ^^’
คินยืนรออยู่หน้าหอ ก็ไม่เข้าใจว่า ทั้งๆที่อยู่หอเดียวกัน ทำไมไม่ให้ไปรับที่ห้องนะ แต่ก็ช่างเถอะ
ว่าแล้วยูก็เดินลงมา วันนี้ยูแต่งตัวเสื้อยืดสีขาวเรียบๆ กางเกงขาสั้นสามส่วนลายสก๊อตสีเทา รอเท้าแตะ
....น่ารักอีกแล้วครับพี่คับ งื้ออออ“มองทำไม??” ตั้งแต่เดินออกมาจากหอจนเดินมาหยุดยืนตรงหน้า ไอ้หมอคินยังไม่หยุดมองซะที แถมไม่พูดไม่จาอะไรด้วย ก็นึกว่ามันหัวใจวายไปซะแล้ว
“น่ารักอ่า...” หมอเพ้อไปแล้ว ก๊ากกกกก
พลั่ก!! โดนตบหัวโดยฝ่ามือพี่ยู
“เพ้อเจ้อแล้วมึง!!!” ด่าไปแต่ปากก็อมยิ้มอยู่นะคุณพี่
“ก็เพ้อจริงๆนี่ พี่ทำผมเพ้อจริงๆนะ” ลูบหัวตัวเองป้อยๆแต่ก็ยังป้อพี่ยูไม่หยุด
“วันนี้กูจะได้แดกมั้ยอาหารญี่ปุ่นเนี่ย” ยูเดินหนีสายตาของคินเพื่อที่จะไปขึ้นรถของคินอีกทาง
....ไอ้เด็กนี่อัตรายกับอารมณ์กูจริงพอถึงร้านอาหาร ที่พี่ยูพูดไว้ว่ากินเก่ง เทียบกับไอ้หมอไม่ได้เลยแม้แต่น้อย มันกินเอาๆยัดเอาๆ
เหมือนอดอยากมาซักสิบชาติ หลับหูหลับตากินๆๆๆๆ
“มึงไปอดอยากมาจากไหนวะหมอ?” รุ่นพี่อดถามไม่ได้
“ผมก็กินแบบนี้ประจำแหละ พี่กินน้อยไปรึป่าว เดี๋ยวผอมนะ แค่นี้ก็ผอมจะแย่แล้ว อะ..กินเข้าไปเยอะๆนะ ผมชอบคนมีเนื้อเยอะๆ” แล้วก็คีบซูชิมาไว้ในจากยูสามสี่ชิ้น ก่อนจะยิ้มให้แล้วก็หันไปโม่ต่อ
....อยากจะบอกว่ากูอิ่มแล้ว กระเพาะมึงทำด้วยอะไรเนี่ยยTBC,,,,,,
มาทีละนิดจิตแจ่มใส ฮิๆๆ
ส้มเขียนไปก็ง่วงไป 
ทำงานไปแต่งไป เหนื่อยมากมายฮะ
พยายามปั่นจนขนตูดลุกชันที่สุดแล้วฮะ
ช่วงนี้รู้สึกร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง แต่ก็พยายามแต่งให้
จะพยายามไม่ลงช้าไปมากกว่าสองวันนะฮะ
ต้องรอหมอคินเรียนจบก่อน จะให้มารักษาเจ๊หน่อย โฮ๊ะๆๆ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่ะ
