น้องหมอ กะ พี่วิศวะ [38]“วันนี้มึงจะกินอะไร?” เนศถามยูเมื่อนั่งลงในร้านอาหารประจำหน้ามอ
“เอ่อ...ข้าวผัดกุ้ง”
“มึงช่วยเปลี่ยนเมนูหน่อยได้มั้ยเนี่ย” ว่าอย่างหน่ายๆ แต่ก็ก้มลงจดรายการอาหารลงไปในกระดาษแผ่นน้อยๆที่จะต้องยื่นให้ที่ร้าน
พี่ยูยักไหล่แบบไม่สนใจ
“แล้วมึงละ?” มองไปที่ไอ้วิช
“กูเอาหมูกระเทียมไข่ดาว”
“ไอ้ฟาส?”
“ผมขอผัดผักรวมอันมีรายการดังนี้ ผักกาดขาว กระหล่ำ ข้าวโพดอ่อน ผักบุ้ง ไม่เอากระเทียม ใส่พริกไทยเยอะ อ่อ..เอาไข่เจียวมาด้วย” ปากแดงๆของฟาสตอบอย่างเจื้อยแจ้ว
“พ่อง...เดี๋ยวแม่ครัวก็ได้เขวี้ยงเขียงออกมาใส่กะบาลมึงแยกหรอก”
“ก็...เค้าอยากกินง่าาาาาาาา”
“เออๆๆ” เนศก้มลงจดรายการที่ฟาสสั่ง รายการที่มันสั่งยาวกว่าชาวบ้านเค้าสามบรรทัดได้
“ของกูกับดิศเอาเป็นกระเพราะหมูกรอบไข่ดาวนะ” กานชูนิ้วสองนิ้วเป็นเชิงสั่งย้ำอีกทีว่าสองจาน
“มึงล่ะไอ้หมอ??” เนศหันไปถามเป็นคนสุดท้าย
ไอ้หมอทำหน้านึกอยู่นาน กรอกตาไปมาแบบไม่รู้จะสั่งอะไรดี รอจนผ่านไปเกือบสองนาที
“โอ๊ยยยยยยยย ไอ้หอกเอ๊ยยยยยยยยยย” เนศโมโหหิวจนโวยวายออกมา
ไอ้หมอตกใจหันไปสบตา ตากลมๆเหมือนตากวางของมันกระพริบปริบๆ
“จะสั่งอะไรก็รีบๆสั่ง มึงเห็นมั้ยว่ามันมื้อเที่ยงคนมันเยอะ ถ้าไม่รีบสั่งกว่าจะได้แดกเนี่ย รอไปอีกสามชาติ จะแดกอะไรก็สั่งๆมาเหอะ อย่าไปนึกมากไอ้หอกนี่!!!”
“เอ่อ....”
“ตั้งแต่มีผัวแก่นี่ขี้บ่นเหมือนป้าเลยนะมึง” ไอ้วิชแซว ยิ้มมุมปากเหมือนเยาะเย้ย
“กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกก”
ฮาแตกกันยกโต๊ะครับพี่น้อง
“ไอ้เหี้ยวิช มึงอยากตายรึไง!!” ปากดีไว้ก่อน ทั้งที่ในใจนี่อยากจะกระโจนเข้าไปบีบคอมันชิบหาย
“หึ” หัวเราะในคอ ยังคงยกยิ้มมุมปากอย่างกวนตีนอยู่ “ถ้าทำได้ก็ลอง”
“มึงอย่านึกว่ากูมีแฟนแล้วจะเอาคนอื่นเป็นเมียไม่ได้นะโว้ย”
“แล้วไง?”
วิชย้อนอย่างไม่สะทกสะท้าน เนศยกแขนขึ้นคล้องคอฟาสที่นั่งคั่นกลางระหว่างตนกับไอ้เพื่อนเลวนั่น แล้วดึงให้หน้าน้องเข้ามาใกล้ตัวเอง ก่อนจะหอมแก้มขาวๆที่ไอ้วิชหวงยิ่งกว่าอะไรดีนั่นดังฟอด
“เห้ยพวกมึงอย่ามาทำเลสกันต่อหน้ากูนะ กูไม่ชอบ” วิชว่าแล้วทำหน้าเหม็นเบื่อก่อนจะหันไปยกแก้วน้ำขึ้นจิบแก้กระหาย
วิชแยกออกหรอก ระกว่างพวกที่จ้องฟาสแบบ “เอาจริง” กับ พวก ”หยอก” อย่างเนศ แต่ก็อย่านึกว่าจะหยอกได้ทุกคนนะ
ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันและเป็นคนที่ไม่คิดอะไรจริงๆอย่างเนศก็อย่าหวังเลย ตายลูกเดียว
“แม่งเอ๊ยยยยยยยย” เนศโมโหที่ทำอะไรไม่ได้
“เอ่อ...ผมเอาข้าวผัดหมูจานนึงนะพี่” ไอ้หมอสั่งขัดอารมณ์ เนศก้มหน้าจดด้วยอาการฟึดฟัด
ไม่นานนักอาหารที่สั่งก็ทยอยออกมาเสริฟให้ทุกคนได้ทานกันอย่างอิ่มหมีพลีมันก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียนหนังสือ
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ย้อนกลับไปในคืนวันหลังเหตการณ์เสียตัวของฟาส
ฟาสนอนซุกอยู่ในอ้อมแขนที่กว้างกว่าของคนรัก ใบหน้าเล็กๆแนบกับอก ชิดเสียจนเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆกำลังอ้อนหาความอบอุ่นจากคนรัก
ด้วยความที่ปกติแล้วเป็นคนตื่นเร็ว ถึงจะไม่ได้เร็วเท่าไหร แต่ก็เร็วกว่าแฟนรุ่นพี่น่ะแหละนะ
เปลือกตาบางขยับเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆลืมขึ้นมา เมื่อสายตาปรับเข้ากับภาพให้ชัดได้ก็เจอกับแผ่นอกแน่นๆของพี่วิช
เงยหน้าขึ้นไปเจอคู่คางเรียวเอื้อมมือขึ้นไปลูบก็รู้ว่าตอนนี้เริ่มจะมีเคราสากๆขึ้นบ้างแล้ว เลยขึ้นไปก็เห็นแพขนตาบางยาว
ก็อดไม่ได้ที่จะเอามือไปเขี่ยเล่น วิชขยับหน้าหนีพร้อมกับร้องอือออยู่ในลำคอ
ฟาสหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี แต่พอขยับตัวแค่เล็กน้อยก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ร่างกายส่วนล่าง
“โอ๊ย” ซบหน้ากลับลงไปที่อกของวิช แขนเรียวกอดร่างหนาๆแน่น หวังว่ามันจะเจ็บน้อยลง
“หืมม” วิชรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็พบกับไอ้ตัวดีกอดตัวเองแน่น
“ว่าไงครับคนเก่ง?” ก้มลงหอมที่ผมนิ่มของน้อง
“เจ็บ” ส่งเสียงตอบอู้อี้อยู่ที่อกของพี่
“โอ๋ๆ คนเก่งไม่ร้องนะครับ”
“ไม่ได้ร้องซะหน่อย” เถียง
“ฮ่ะๆๆ โอเค ไม่ร้องๆ แล้วนี่ตื่นนานรึยัง?”
“นานพอที่จะเห็นหมีบางตัวนอนน้ำลายยืดละกัน”
“ปากดีนักนะ” ยกมือขึ้นมาขยี้ผมไอ้ตัวดี
“ไหนขอดูหน้าหน่อยซิ”
“ไม่”
...ยังเขินเรื่องเมื่อคืนอยู่เลยไอ้พี่วิชบ้า“ขอพี่ดูหน้าหน่อยนะครับที่รัก”
ถ้าหน้าฟาสเป็นกระทะ ตอนนี้คงได้ยินเสียงดังฉ่าเพราะความร้อนแล้วแน่ๆเลย
“คะ ใครกันแน่ที่ปากดี ที่รักอะไรกัน”
“หืม เขินละสิ?”
“เออสิ” กอดพี่แน่นขึ้นอีก
“พูดไม่เพราะแบบนี้เดี๋ยวโดนลงโทษอีกนะ” ยิ้มมุมปาก
“ไม่เอานะ” เงยหน้าขึ้นส่งสายตาอ้อนๆไป แต่เพียงแป๊ปเดียวก็ก้มลงมาซุกอกพี่อีก “เค้ายังเจ็บก้นอยู่เลยเนี่ย”
“ฮ่ะๆๆ งั้นเดี๋ยวพี่อุ้มไปอาบน้ำนะครับ”
“อื้ม”
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-พี่ยูไปเดินซื้อของใช้เข้าบ้าน ที่ห้างไม่ไกลจากบ้านที่เขาอยู่กับไอ้หมอมากนัก
วันนี้ไอ้หมอบอกว่ามีเรียนเลิกตอนสองทุ่ม แล้ววันพรุ่งนี้ที่เป็นวันเสาร์ก็หยุด
แต่ก็คงจะไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน เพราะตอนนี้กว่าจะมีเวลาว่างตรงกันที หายากยิ่งกว่าอะไรอีก
ของที่จำเป็นต้องซื้อก็มีอยู่หลายอย่าง ทั้งครีมอาบน้ำ ยาสระผม ขนมนมเนย และของกินของใช้อีก
เดินอยู่หลายล๊อกจนของเริ่มเต็มรถเข็น รายการที่จดมาก็ขีดฆ่าจนหมดแผ่น
แต่ก่อนจะไปคิดเงินก็จำได้ว่าต้องซื้อมีดโกนหนวดของไอ้หมอด้วย
เลยเดินวกไปเลือกมีดโกนที่ชั้น ข้างๆมีผู้ชายคนนึงเลือกอยู่ พี่ยูก็เดินไปแทรกๆดูด้วย
“ยูใช่มั้ย?” เสียงมาจากคนข้างๆ
คุ้นมาก...
คุ้นมากเกินไป จนไม่กล้าหันไปดูหน้าว่าคนที่ถามเป็นใคร...
พี่ยูหันหน้าไปอีกทาง ไม่ตอบและทำท่าจะเดินหนี ...แซน
แต่ก็โดนขว้าแขนเอาไว้ก่อน “เดินหนีพี่ทำไมล่ะ?”
“ผมไม่รู้จักคุณ” ดึงแขนออกก่อนจะวิ่งหนีออกไป รถเข็นที่เลือกของเอาไว้ก็ทิ้งไว้อย่างนั้น
วิ่งกลับไปที่รถ ดีที่ยูเป็นคนวิ่งเร็ว แซนเลยตามไม่ทัน พอถึงที่รถยูรีบสตาร์ทแล้วรีบออกรถกลับบ้านทันที
เหลือบมองนาฬิกาดิจิตอลในรถ สองทุ่มห้านาที ป่านนี้ไอ้หมอคงจะถึงบ้านแล้ว
...คิดถึง คิดถึงไอ้หมอมากๆพี่ยูไม่รู้ว่าแซนจะทำอะไร แต่เขากลัว กลัวที่จะเจอหน้ากันตรงๆ
เคยภาวนากับตัวเองไว้ว่า ขออย่าเจอกันอีกเลยชาตินี้ แต่ทำไมต้องกลับมาเจอกันอีกด้วยนะ...
พี่ยูจอดรถข้างๆรถไอ้หมอ รีบไขกุญแจบ้านเข้าไป มองไปรอบบ้านที่เปิดไฟทิ้งไว้ไม่เจอคนที่ตัวเองคิดถึง
คิดไว้ว่าต้องอยู่ในห้องนอนแน่ พอเปิดเข้าไปก็เจอร่างสูงของไอ้หมอนอนแผ่อยู่บนเตียง
ค่อยๆเดินเข้าไปนอนข้างๆ ซุกหน้าเข้ากับอกไอ้หมอ กอดแน่น
“พี่ยูมีอะไรเหรอ?” ไอ้หมองัวเงียตื่นขึ้นมา
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ขออยู่แบบนี้ซักพักนะ”
“ครับ”
ไอ้หมอสงสัยว่ามีเรื่องอะไร แต่ในเมื่อพี่ยูยังไม่อยากบอก
เค้าก็จะไม่เค้นถาม จะรอเมื่อพี่ยูพร้อมจะบอก เค้าก็พร้อมที่จะฟัง
TBC,,,ขอโทษที่มาช้านะคะ