[เรื่องสั้น] Over the Rainbow สักแห่ง...ที่แสนไกล จบแล้วค่ะ ^^
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] Over the Rainbow สักแห่ง...ที่แสนไกล จบแล้วค่ะ ^^  (อ่าน 14491 ครั้ง)

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
เรื่องแรกที่ลงในเล้า ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ^^



อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2012 08:33:55 โดย บัวน้อย ไร่แตงโม »

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
Over the Rainbow



ความรักที่เริ่มต้นแบบเหี้ยๆ มันก็ต้องจบลงแบบเหี้ยๆ ใช่ไหม?

ความรักของผมคือนายจิตรกร

ผมเจอมันครั้งแรกตอนพี่รหัสพาไปเลี้ยงสายหลังจากตรากตรำก้มหน้าเรียนวิชาพื้นฐานของคณะมาเกือบเทอม ดรออิ้งจนเมื่อยมือเหน็บชาไปหลายรอบ พี่รหัสคงสงสารที่เห็นผมก้มหน้ากับไอ้กระดานวาดรูปนี่ทั้งวันเลยเอ่ยปากชักชวน

ร้านที่พี่แกนัดเจอก็อยู่กลางใจเมือง ตอนนั้นจำได้แม่นว่าใครช่างกล้าขับมัสแตงมาโฉบแถวนี้ ผมเลยถอยมินิของตัวเองไปเคียงข้างซะเลย แต่พอเห็นหน้าคนขับมันลงมาจากรถเท่านั้นแหละ แม่งคนอะไรหล่อเหี้ยๆ ผมนึกว่ามันเป็นนายแบบมาเที่ยว ที่ไหนได้มันเป็นเพื่อนพี่รหัสผม น่าแปลกที่เรียนคณะเดียวกันแท้ๆ แต่ผมกลับไม่เคยเห็นหน้า

'นี่น้องรหัสกู น่ารักป่ะล่ะ' ผมเงยหน้ามองคนที่ยืนค้ำหัวอยู่ ตอนแรกมันทำหน้าดุ เก๊กเสียจนผมต้องลุกขึ้นไหว้มันแถมแนะนำตัวพร้อมสรรพ พอบอกว่าชื่อคิมหันต์เท่านั้นล่ะมันก็บอกว่า

'น่ารักเหี้ยๆ'

'สรุปมึงชมหรือด่าน้องกูเนี่ยไอ้สัด'

'ชมเว้ย ชื่อจิตรกรนะ เรียกพี่อาร์ตก็ได้ แก้วนี่กูชงให้ หมดเลยไอ้น้อง' แค่คำแนะนำตัวมันก็ขัดกับหน้าตาอย่างแรง คนเรามักเผยตัวตนออกมาตอนเมาจริงๆ คืนนั้นชนแก้วกันยันตีสอง ไอ้เหี้ยอาร์ตตอนมาสถุลยังไงตอนกลับก็สถุลอย่างนั้น ผมแทบไม่เหลือความเคารพให้มันสักนิด ยิ่งเห็นมันเมาแล้วปริ้นไปมั่วสาวไม่เลือกหน้ากลางฟลอร์แล้วโคตรอายแทนพ่อแม่มัน ไม่รู้ว่าพี่รหัสผู้เรียบร้อยอย่างพี่น้อยหน่าเป็นเพื่อนมันไปได้ไงก็ไม่รู้ ตอนหลังผมเลยแอบกระซิบบอกให้พี่แกเลิกคบซะ แต่พี่น้อยหน่ากลับหัวเราะคืนมาเสียงดัง

'พี่ทำไม่ได้หรอกว่ะ เห็นสันดานมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย มันเหี้ยงี้ก็จริง แต่มันรักเพื่อนพ้องนะเว้ย คบมันไว้ไม่เสียหรอก'



ตอนนั้นมันมีแฟนอยู่คนเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน เห็นว่าคบตอนเข้ามหา'ลัย ชื่อดวงแข หน้าตางั้นๆ แต่โคตรขี้หึง พอรู้ว่าไอ้อาร์ตมันไปมั่วสาวที่ไหน      แม่งตามไปจิกได้ถูกที่ทุกที ผมแอบนับถือเลย แต่ก็ข้องใจว่าเมื่อมันเหี้ยขนาดนั้นยังคบมันอีกทำไม พอมาคบเองเลยเข้าใจ...ไอ้อาร์ตมันเก่ง ทั้งการเอาใจ ให้ความรัก แล้วก็บนเตียง

ตอนได้เสียกับมันครั้งแรก บอกตามตรงไม่เคยเจอผู้ชายที่ไหนอึดเท่ามันเลย เอาได้ทั้งคืน คนหรือเหี้ยก็ไม่รู้ฟิตโคตรๆ สงสัยคืนนั้นแม่งแดกช้างกระทืบโรงมา สุขก็จริงแต่โคตรทุกข์ตอนตื่นเพราะตอนนั้นเราต่างก็มีพันธะ มันยังคบพี่แข  ส่วนผมก็เพิ่งตกปากรับคำเป็นแฟนซูกัส จบคืนนั้นเราต่างไม่พูดอะไรนอกจากบอกอย่างไม่แคร์ว่าก็แค่เมาไม่ได้คิดอะไร

แต่หลังจากนั้นเราก็แอบมีอะไรกันเรื่อยๆ บางทีก็เพราะเหงาแฟนไม่อยู่ บางทีก็เมา บางทีก็อยาก สุดท้ายก็ถูกตัวจริงจับได้คาเตียง บรรยากาศก็โคตรเลว ฝนแม่งเอาแต่ตกเหมือนหนังสยองขวัญ อีพี่แขนี่แทบจะคว้ามีดมาจ้วงท้องผม หน้าตาแม่งโรคจิตยิ่งกว่าชัคกี้

ผมโคตรประหลาดใจที่ไอ้อาร์ตมันไม่แก้ตัว มันยอมให้พี่แขตบก่อนแล้วชิงบอกเลิกเอง พี่แขแม่งก็เป่าปี่เลยทีนี้ อาร์ตมันก็รำคาญ ตวาดกลับไปไม่เกรงใจอดีตแฟนหมาดๆ สักนิด ใจดำเหี้ยๆ

'มึงเลิกร้องเหอะ กูรำคาญมึงมานานล่ะ ถ้าไม่ติดว่ามึงมีดีแค่เรื่องบนเตียงนะกูทิ้งมึงไปนานแล้ว'

จำได้ว่าผมด่ามันแทนพี่ดวงแขเลยว่าเลว คนเหี้ยอะไรโคตรใจดำอ่ะ ถ้าผมเป็นพี่แขได้ยินคำพูดแบบนี้ก็ร้องนะ แต่แขแม่งแรงไม่แพ้ไอ้เหี้ยนี่ถึงได้คบกันได้นาน พี่แกอาฆาตผมกับไอ้อาร์ตไว้แล้ววิ่งหายไป วันถัดมาเท่านั้นล่ะเรื่องดังไปทั้งมหา'ลัย เพราะไอ้พี่แขแม่งทำใบประกาศแปะไปทั่วลงรูปพร้อมชื่อเสร็จสรรพแบบให้ด่าได้ถูกคน

สายตาทุกคู่ที่มองมาตอนลงจากรถจนถึงห้องเรียนมีแต่สายตาไม่เป็นมิตร ที่แย่กว่าคือแฟนผมตอนนั้น ซูกัสแทบไม่มองหน้า มันโกรธผมรู้ แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับไอ้อาร์ตสักนิด ที่นอนกันก็แค่ระบายความอยาก ไม่ใช่ซูกัสเอาไม่เก่ง มันก็เอาเก่งนะแต่ไม่เท่าไอ้อาร์ต กว่าจะง้อมันได้ กว่าจะอธิบายให้มันเข้าใจก็เกือบสองเดือน

'กูชอบมึงมากกว่าไอ้อาร์ต ไอ้เหี้ยนั้นไม่เคยอยู่ในหัวใจกู มึงเข้าใจที่กูพูดป่ะ กูแคร์มึงนะเว้ย ถ้ามึงเกลียดกูมากอยากจะเลิกกูยอมนะ แต่มึงอย่าหันหน้าหนีกู กูอยากมองหน้ามึง เพราะกูรักมึง'

ส่วนไอ้เหี้ยอาร์ต พอแม่งมีเรื่องมันก็หายหัว ไม่เคยโผล่หน้ามาให้ผมเห็น เพราะงี้ด้วยแหละผมถึงคืนดีกับซูกัสได้ง่ายหน่อย ถ้ามันเสือกมาเล่นบทเป็นพระเอกละครไทยที่ตามตื้อบอกว่าเลิกกับพี่แขเพราะรักผม ผมคงทำตัวไม่ถูกแล้วคงกระโดดถีบยอดหน้ามันทีที่ทำให้ชีวิตผมยุ่งยาก



เจอหน้ามันอีกทีก็วันงานบายเนียร์ของรุ่นพี่ปีสี่ มันแต่งตัวเหมือน James Dean แต่เสือกขึ้นไปดีดกีต้าร์ร้องเพลง Imagine ของ John Lennon ไม่เจอกันเกือบเทอมมันก็ยังหล่อเหมือนเดิม ไม่มีสลดสักนิด พี่น้อยหน่าก็ขึ้นไปดีดคีย์บอร์ดให้มัน พี่แขพอเห็นหน้ามันก็วิ่งหนีออกไปจากงาน ส่วนพวกรุ่นพี่ตบมือเกรียวกราวชอบใจกันใหญ่ เหมือนลืมไปแล้วว่ามันเคยทำเรื่องเหี้ยอะไรไว้กับผม พอมันร้องเพลงนี้เสร็จมันก็ร้องเพลงบ้าๆ บอๆ ของมันต่อ

ผมชักไม่อยากอยู่ในงานต่อ เห็นหน้ามันแล้วอารมณ์เสียโคตรๆ กลัวใจมันด้วยเพราะแม่งมองหน้ากันแปลกๆ อยากกลับก็ทำไม่ได้เพราะต้องอยู่รอถ่ายรูปสายรหัส ปีนี้พี่ยศเรียนจบแล้วผมดันเป็นหลานรักของแกเสียด้วย

'สวัสดีครับพี่น้องชาวมัณฑนศิลป์ที่รักทุกท่าน กระผมจิตรกรสุดหล่อปีสอง หวังว่าพี่น้องจะจำกันได้นะครับ ที่หายหัวไปไม่ได้ไปไหนไกล ป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้แหละครับแต่ไม่กล้าออกสื่อ เดี๋ยวแฟนเก่าดักตบเสียโฉมไปก่อนได้แอ้มสาว'

เสียงหัวเราะฮาครืนกับมุขหน้าตายของมัน ผมชัดสังหรณ์ใจไม่ดี สะกิดเรียกซูกัสชวนออกจากงาน แต่เหมือนว่ามันจะโกรธไอ้เหี้ยอาร์ตมากพอควรเลยเอาแต่จ้องหน้าจะกินเลือดกินเนื้อกันอยู่นั่น

'เนื่องในวันนี้เป็นวันดีของพี่ๆ ที่กำลังจะจบผมเลยขึ้นมาร้องเพลงโชว์เป็นของขวัญ และเพื่อพี่ยศที่ผมเคารพรัก ผมขอมอบเพลงนี้ให้หลานรหัสพี่ครับ...

'Whoa, whoa, yea yea
I love you more than I can say....
I'll love you twice as much tomorrow
Oh love you more than I can say.

Whoa, whoa yea yea
I miss you every single day....
Why must my life be filled with sorrow?
Oh, oh, love you more than I can say....

Don't you know I need you so?
Tell me please I gotta know...
Do you mean to make me cry?
Am I just another guy?
Whoa, whoa yea yea
I love you more than I can say....

I'll love you twice as much tomorrow
Oh...Oh...Love you more than I can say....

I love you more than I can say '

หน้าผมร้อนฉ่า ไอ้เหี้ยนี่แม่งทำห่าไรว่ะ ซูกัสท่าทางโมโหมาก มันจะเดินขึ้นไปต่อยไอ้อาร์ตบนเวทีอยู่ร่อมร่อ ผมพยายามห้ามมันแล้ว แต่ไอ้ห่าอาร์ตแม่งไม่รู้คิดอะไรเดินลงเวทีมายื่นแก้มให้ซูกัสหน้าตาย

'กูให้มึงต่อยเลย แต่แฟนมึงกูขอนะ กูรักมันว่ะ'

'ไอ้เหี้ย มึงแย่งแฟนคนอื่นหน้าด้านๆ แบบนี้เลยเหรอ ขอกูต่อยสักทีเหอะ'

'ต่อยแล้วมึงต้องยกคิมให้กูนะ'

'ไอ้สันดานใครบอกว่ากูจะไปคบกะมึงว่ะ'

แล้วงานบายเนียร์ก็เกิดความชุลมุน ซูกัสต่อยอาร์ตก่อน แล้วแม่งก็ต่อยคืน พวกพี่ปีสองกับพี่สามก็เป็นพวกไอ้อาร์ตหมด ส่วนปีหนึ่งก็ช่วยซูกัส ปีสี่แม่งก็เอาแต่ยืนหัวเราะกันเฉยๆ ยิ่งไอ้พี่ยศแม่งตัวดี ชอบใจนักแหละ

ตอนกำลังต่อยกันอุตลุดผมก็ถูกฉุดขึ้นมัสแตงไปหน้าตาเฉย หันไปมองไอ้ซูกัสก็กำลังต่อยกับพี่น้อยหน่า ผมอยากจะกรีดร้องว่าพี่กูก็เป็นไปด้วยเรอะ มารู้ตอนหลังว่าไอ้อาร์ตมันวางแผนไว้แล้ว พวกปีสองถึงปีสี่เป็นพวกมันหมดนั่นแหละ ไม่รู้แม่งเอาอะไรมาบรรณาการให้พวกพี่พวกนั้นรู้เห็นเป็นใจ ด้วยวิธีการโคตรโฉด คืนนั้นผมก็กลายเป็นเมียมันอีกจนได้

วันต่อมาและวันต่อไปผมก็ยังเป็นเมียมัน จับผลัดจับพลูคบกับมันนานเกินหลายคนคาด แต่พี่น้อยหน่ากลับไม่แปลกใจ เขาเห็นไอ้อาร์ตมาตั้งแต่เกิด เลยมั่นใจว่ามันรักผมจริงถึงยอมช่วยแย่งผมมาจากซูกัส

ส่วนซูกัสหลังจากเหตุการณ์คืนนั้นเราก็เข้าหน้ากันไม่ติดอีกเลย สุดท้ายมันก็ซิ่วไปเรียนที่อื่น ผมอยากจะกระโดดถีบปากไอ้อาร์ตมากเพราะมันตัวเดียวเลยทำให้ชีวิตของคนๆ หนึ่งต้องเสียเวลาเปล่าไปอีกปี



จะว่าไปอาร์ตกับผมก็ต่างกันค่อนข้างเยอะ มีเหมือนกันอยู่อย่างเดียวคือความติสท์ตามสกิลเด็กศิลป์ แต่ถึงจะอาร์ตเหมือนกันมันก็ยังมีข้อแตกต่างกันอยู่ดี

อาร์ตมันถือดาลี  ปิกัสโซ่  กับรุช่า เป็นพ่อ ภาพของมันแต่ละรูปมีแต่แนวแอบสแตรก เน้นสีขาวดำ มันชอบฟังเพลงยุคหกศูนย์ แต่ยึดเจมส์ ดีนเป็นต้นแบบ มันชอบมัสแตงบอกว่ามันเหมือนกับม้าป่าตัวนี้ดีเลยชอบ เพลงที่ฟังก็มีแต่เพลงยุค 60 ร้องได้หมดตั้งแต่เพลงของ เดอะ บีทเทิ่ล จอห์นนี่ แคช บ๊อบ ดีแลน ยัน บ๊อบบี้ วี เวลาว่างๆ มันชอบดูหนัง ดูแล้วก็ตีความนู่นนี่ บางทีก็เข้าไปเถียงกับพวกคอหนังในเว็บบอร์ดบ่อยๆ ทำตัวเหมือนพวกเด็กเกรียนเข้าไปป่วนเขา แต่เสือกเถียงแบบมีหลักการ

มีหนหนึ่งมันพาผมไปดูหนังเรื่อง The Graduate แล้วก็มันอธิบายสัญลักษณ์นู่นนี่นั่นในหนังให้ฟัง ทั้งเพลง ทั้งองค์ประกอบภาพ จนผมชักชอบหนังเรื่องนี้ตามมัน แล้วมันก็ร้องเพลง The Sound of Silence ให้ฟังบ่อยๆ พอผมถามมันว่าเรียนจบไปแล้วมันจะเป็นแบบพระเอกในเรื่องไหม มันหัวเราะ...แล้วก็บอกผมว่า...

'ก็คงใช่ จนตอนนี้กูยังหาจุดหมายไม่เจอเลย'

ตอนนั้นผมนึกน้อยใจ...มันคงยังไม่ใช่จุดหมายของมัน และสักวันหนึ่งเราคงต้องเลิกรากัน แค่คิดน้ำตาก็จะไหล ผมเพิ่งเข้าใจตัวเองว่ารักมันเมื่อวินาทีนั้นเอง

ส่วนผมชอบราฟ โกอิ้งส์  สังกัดแนวเรียลลิสซึ่ม  ภาพของผมเลยมีแต่ภาพเหมือนของทั้งคน สัตว์ สิ่งของ ชอบแต่งตัววินเทจแนวๆ ที่มันใส่แล้วเข้ากับเรย์แบนเอเวียเตอร์กรอบทอง รถคันโปรดเป็นมินิคูเปอร์ เอส สีเขียวแก่ ผมชอบฟัง Coldplay Greenday Foster the People หรือ Arcade Fire เทือกๆ นี้มากกว่า เวลาว่างชอบช้อปปิ้ง ซื้อเสื้อผ้านู่นนี่ บางทีก็แอบดูดบุหรี่ ที่ต้องแอบเพราะไอ้อาร์ตมันไม่ชอบให้ผมสูบ มันจับได้ทีไรตบผมเลือดกลบปากทุกที มันบอกไม่อยากให้ปากผมดำ กลัวผมเป็นมะเร็งนู่นนี่นั่น แต่มันอ่ะก็สูบ บางทีแม่งก็ดูดกัญชา โคตรเหี้ยกว่าผมอีก

ถึงเราแทบจะแตกต่างกันไปทุกเรื่อง แต่กลับเข้ากันได้ดียิ่งกว่าทุกคนที่ผมเคยคบมา ยิ่งนานวันจิตวิญญาณของผมก็รับมันเข้ามาสิงอยู่ในใจตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ทว่าผมยินดีที่จะปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนั้น เพราะ ผมรักมัน... รักมันมากจริงๆ ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผม


TBC

เรื่องแรกที่ลงในเล้าแต่ไม่ใช่เรื่องแรกที่แต่ง
ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยนะคะ

นิยายเรื่องนี้เราแปลงมาจากฟิคของตัวเองที่รวมเล่มไปค่ะ
ยังไงก็อ่านแล้วก็ขออย่านำออกนะคะ ขอให้อยู่แต่ในนี้พอเนอะ ^^

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
"You are my sunshine, my only sunshine
You make me happy when skies are gray
You'll never know dear, how much I love you
Please don't take my sunshine away"

บทเพลงเก่าสมัยรุ่นพ่อแม่ยังวัยรุ่นคลอเบาจากลำโพงรถ มัสแตงสีดำมันราวม้าหนุ่มบึ่งทะยานไปข้างหน้า ทิ้งเพียงควันสีเทาไว้เบื้องหลัง กลิ่นหญ้าแห้งและลมหนาวหอบเข้ามาทางหน้าต่างรถ ใบไม้ร่วงกราวกระจัดกระจายเต็มสองข้างทาง มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีน้ำตาล เหมือนภาพความทรงจำวันเก่าๆ ฤดูใบไม้ร่วงเข้ามาเยี่ยมเยือนเสียแล้ว
ผมดันเรย์แบนเอเวียเตอร์ขึ้นตั้งบนดั้งหลังจากโยกตัวตามจังหวะเพลงเสียจนมันเลื่อนลงมา เสียงหวานยังคงร้องคลอตามเพลง You Are My Sunshine ของ จอห์นนี่ แคชไปเรื่อยๆ หนักเข้าก็ดึงให้คนข้างๆ ร้องตาม มันมองผมแบบไม่อยากขัดใจ มันคงไม่อยากเป็นจูนเท่าไหร่ ให้มันเป็นจอห์นนี่คงเหมาะกว่า
เจ้าม้าป่ายังคงวิ่งตรงไปตามถนนเบื้องหน้าที่ทอดยาวออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาจนหาปลายทางไม่เจอ ผมมีความสุขและขอเพียงแค่ทำวันนี้ให้เหมือนกับวันสุดท้ายก็พอ

"I'll always loved you and made you happy. And nothing else could between.  But now you've left me to love another. You've shattered all of my dreams. "

ความรักของผมคือจิตรกร

"นี่บ้านมึงจริงเหรอเนี่ย" ผมแซวมันเมื่อเห็นบ้านตากอากาศของมันที่อวดนักอวดหนา ปีนี้มันเพิ่งเรียนจบ มันเลยพาผมมาฉลองที่นี่ บ้านพักตากอากาศของมันเป็นบ้านสองชั้นหลังเล็กๆ ดูคุ้นตา บนชั้นสองมีห้องเดียวที่เหลือเป็นระเบียงยาวออกไป ผนังทาสีส้มอ่อนๆ เวลาถูกแสงอาทิตย์ยามเย็นฉาบแล้วสวยชะมัด
"มึงเข้าไปดูข้างในก่อนดิ แล้วจะอึ้ง" มันท้า ผมเลยเดินเข้าไปดู แล้วมันก็ทำให้ผมอึ้งจริงๆ เพราะบ้านหลังนี้ตกแต่งเหมือนงานโปรเจคต์ชิ้นสุดท้ายก่อนจบของมันเด๊ะ และงานชิ้นนี้ก็ได้เอมาเสียด้วย "ชอบไหมล่ะมึง มึงรีบเรียนให้จบนะ แล้วเรามาอยู่ที่นี่ด้วยกัน"
ห่าอาร์ต...บทจะซึ้งก็เล่นผมน้ำตาแตก "มันคือคำขอแต่งงานใช่ไหมว่ะ"
"แล้วมึงตกลงป่ะล่ะ"
"อือ..." ผมตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดมากอะไร ไม่เคยคิดด้วยว่าคนห่ามๆ อย่างมันจะทำอะไรซึ้งๆ แบบนี้ได้ แต่จะว่าไปตอนที่มันขอคบผมครั้งแรกก็         โรแมนติกไม่หยอก เสียอย่างเดียวห่ามตามสไตล์มันมากไปหน่อย
หัวใจผมอุ่นวาบไปด้วยความสุข ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเมื่อคนที่เอาแต่วาดรูปแอบสแตรกเข้าใจยาก ยอมวาดรูปเหมือนของผมประดับไว้บนหัวนอน อะไรที่เคยมีแต่สีขาว-ดำ มันก็ลงสีจนดูสดใสสวยงาม
ผมแอบแซวมันว่าเดี๋ยวนี้ตื่นแล้วเหรอ มันก็อมยิ้ม บอกว่ามันโตแล้ว มีอะไรอีกมากมายที่ต้องรับผิดชอบ แล้วมันก็ต้องยอมรับความเป็นจริงเสียทีว่าโลกนี้ไม่ง่ายเลย...
เย็นนั้นมันขับรถพาผมไปเลี้ยงฉลองงานหมั้นของเราที่ร้านอาหารแถวๆ นั้น เราดื่ม เต้นควงแขน แล้วก็มีจูบรสมาตินี่ใต้หลอดไฟสีเหลืองนวล กระซิบบอกรักแผ่วเบาให้กันที่ข้างหู ไม่ต้องหวานเลี่ยนแค่เป็นตัวตนของเรา
"กูรักมึงนะคิม"
"กูก็รักมึง"
เช้าถัดมาเราก็หอบหิ้วเฟรมกับอุปกรณ์วาดรูปไปหาที่นั่งริมหาด หาดที่นี่สวยมาก น้ำทะเลก็สีสวย ทุกอย่างดูสวยจนตาพร่าไปหมด แต่ผมกลับวาดรูปมันจากด้านข้าง รูปแล้วรูปเล่าก็มีแต่รูปมัน ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าผมถนัดแนวเรียลลิสซึ่ม เพราะฉะนั้นต่อให้มันทำหน้าหล่อยังไง ผมก็วาดออกได้เหมือนมันมีชีวิตอยู่ตรงหน้าผมจริงๆ
มันทำให้ผมเสพติดตัวมัน ไม่ว่าจะคิดอะไรก็คิดถึงมันก่อนเสมอ ผมรักมันมากขนาดนี้...ไม่ได้เผื่อใจไว้เลยว่าถ้าวันข้างหน้าไม่มีมันแล้วผมจะทำอย่างไรดี ถ้าวันหนึ่งเกิดมันใจร้ายเบื่อผมขึ้นมา...ผมคงทำใจไม่ได้ ผมไม่ได้เข้มแข็งแบบแฟนมันคนอื่นๆ ที่ผ่านมา ผมอ่อนแอเกินกว่าจะรับความเป็นจริง
เคยเข้าไปนั่งซิทอินวิชาวรรณคดีต่างประเทศอยู่ครั้งหนึ่ง เพื่อนต้องวิเคราะห์หนังเรื่อง The Pianist พรีเซ็นหน้าห้องต่อหน้านักศึกษานับร้อย มันอธิบายว่าพระเอกของเรื่องนี้เปรียบได้กับงานศิลปะชิ้นหนึ่ง ทำหน้าที่จรรโลงใจให้แก่มนุษย์ หากมีชีวิตอยู่อย่างอ่อนไหวและอ่อนแอ เอาตัวรอดมาได้เพราะมีคนที่ชื่นชอบเสพงานบันเทิงและเห็นค่าของงานคอยอุปถัมภ์อุ้มชู ผมเองก็ไม่ต่างไปจากงานศิลปะชิ้นหนึ่ง อยู่ได้ก็เพราะคนอื่น ใช้ความบันเทิงเข้าแลก
แต่ผมรู้ดีว่าอาร์ตไม่ใช่แบบนั้น มันแข็งแกร่งพอที่จะยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง








เคยรักอะไรมากๆ ไหม มากจนหวาดกลัวว่าถ้าวันหนึ่งมันไม่อยู่กับเราแล้วเราจะไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเสียใจเจียนตาย ผมรักมันมากจนเริ่มรู้สึกกลัวว่าจะเสียมันไป แล้วผมก็นึกหวาดกลัวว่าถ้าวันหนึ่งมันเบื่องานชิ้นนี้แล้วมันจะทิ้งผมไปอย่างที่เคยทำกับแฟนคนก่อนๆ ของมัน ผมจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร เมื่อสายธารชีวิตถูกตัดขาดลง
"มึงจะไม่ทิ้งกูใช่ไหม" ผมเอ่ยถามมันกล้าๆ กลัวๆ หน้าตาผมคงน่าสงสารน่าดูมันถึงหัวเราะลั่นขนาดนั้น
"ก็กูรักมึง กูจะทิ้งมึงทำไมล่ะ"
"ก็กูกลัว ถ้าวันหนึ่งมึงเบื่อกูขึ้นมาล่ะ"
"แล้วมึงไม่คิดว่ามึงจะเบื่อกูบ้างเหรอ"
"ไม่ ก็กูรักมึงมากขนาดนี้ กูไม่วันเบื่อมึงหรอก"
"นั่นก็เป็นคำตอบของกูเหมือนกัน"
"ไอ้เชี่ย" ผมด่ามันแต่ก็ร้องไห้เพราะมีความสุขมากๆ มันดึงผมไปกอด จูบปลอบประโลมและทำให้ผมมั่นใจ











คนเซนซิทีฟ คนอ่อนไหว คือคำนิยามตัวผม
เวลาฟังเพลงหรือดูหนังรักก็จะเขินตามง่าย ยิ้มง่าย มีความสุขง่าย แต่เวลาฟังเพลงหรือดูหนังเศร้าจิตใจก็จะหดหู่ง่าย ร้องไห้ตามแบบจะเป็นจะตาย
จิตรกรเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกตามได้อย่างไม่ยากเย็น เวลามันมีความสุขผมก็โคตรมีความสุข เวลามันเหวี่ยงผมก็จะกลัวมัน เวลามันทุกข์ผมก็ทุกข์หนักราวกับแบกความทุกข์จากมันมาเก็บไว้เอง และตอนนี้มันกำลังทำให้ผมเสียใจ...

- จิตรกร ทายาทคนเดียวของธนา กรุ๊ปกำลังเข้าพิธีหมั้นกับสาวไฮโซทายาทสื่อยักษ์ -

น่าแปลกที่น้ำตาผมมันไม่มีสักหยด ผมวางหนังสือพิมพ์บนโต๊ะทานข้าวที่เดิม จิ้มไส้กรอกเข้าปาก พอแม่บ้านเดินมาก็ร้องขอนมเพิ่มอีกแก้ว
ผมพยายามคิดว่าไม่เป็นไร...
อาร์ตมันคงไม่รู้ตัวเหมือนกัน มันคงไม่ตั้งใจที่ให้เรื่องเป็นแบบนี้ มันยังรักผมเหมือนเดิม








"กูทำเขาท้อง" หน้ามันพูดเหมือนไม่ใช่เรื่องแปลก ทำหน้านิ่งๆ เอียงคอมองหน้าผมส่งสายตาถามว่า 'แล้วมึงมาหากูอีกทำไม'
"มึงเลยต้องแต่งกับเขา?"
"เออ"
"แล้วเรื่องของเราล่ะ"
"ก็จบไง กูต้องแต่งงาน จริงๆ กูก็ต้องแต่งกับผู้หญิงอยู่แล้ว มึงคิดเหรอว่ากูจะเอามึงไปแต่งงานออกนอกหน้า กูโดนแหกอกตายห่า"
"แล้วมึงไม่รักกูแล้วหรือไง ไอ้เหี้ย มึงไม่คิดบ้างหรือไงว่ากูจะรู้สึกยังไง"
"เออ กูไม่สนใจใคร กูสนใจแต่ตัวเอง กูมันเหี้ย ด่ากูจบยัง พอใจแล้วก็กลับบ้านไปซะ แล้วอย่ามาที่นี่อีกนะ"
"เชี่ยอาร์ต มึงพูดหมาๆ แบบนี้ได้ไงว่ะ แล้วไหนที่มึงบอกว่าจะแต่งกับกู"
"มึงเชื่อกูเหรอ ตื่นได้แล้วคยูฮยอน โลกความจริงมันไม่ได้สวยเหมือนในรูปวาดหรอกนะ!"










เหมือนโลกมันหยุดนิ่ง ทุกอย่างมันหยุดแม้แต่เวลาและลมหายใจ หากน้ำตาของผมกลับไหลออกมา ประจานความเจ็บปวดในหัวใจได้ดีเหลือเกิน...

 

ผมอยู่ในความฝัน เดินเล่นอยู่ในนั้นมานานนับปีจนลืมความจริง พอถูกปลุกให้ตื่น ถึงเพิ่งรู้ว่าโลกช่างโหดร้าย
จำไม่ได้ว่าแดกเหี้ยอะไรลงท้องไปบ้าง รู้แต่ว่าตอนนี้แดกห่าอะไรลงท้องไม่ได้สักอย่างนอกจากอาหารทางสายยาง
ผมพลาดพรีเซ็นต์โปรเจคต์สุดท้ายก่อนจบ ยืดเวลาเรียนออกไปอีกเทอม ต้องทำเรื่องนู่นนี่นั่นอีกมากมาย งานชิ้นสุดท้ายที่จะส่งก็เผาทิ้งไปแล้ว ต้องมาเสียเวลานั่งทำใหม่อีก บ้านที่เคยคิดจะสร้างจริงๆ เอาไว้เป็นที่พักกับมันสองคนคงไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว
ที่โรงพยาบาลมีแต่ครอบครัวกับสายรหัสแล้วก็เพื่อนสนิทไม่กี่คนที่มาหา ส่วนเชี่ยอาร์ตก็ไม่เห็นหน้ามันเลย...
กลับมาอยู่บ้านก็แทบไม่ได้อยู่คนเดียว เดี๋ยวคนนั้นก็มาหา คนนู้นก็มาเยี่ยม ทำเหมือนป่วยเป็นโรคร้ายใกล้ตายต้องรีบมาดูใจ บางทีก็อาจจะจริง เป็นโรครักแล้วมันเหมือนตายลงไปทุกวัน กินข้าวไม่ลง ขนาดเหล้ายังไม่นึกอยากมอง กลางคืนก็ร้องไห้ นั่งกอดเข่ามองพระจันทร์... นึกทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา ทำไมผมถึงรักมันมากขนาดนี้ ทั้งที่ความรักมันเริ่มต้นแบบฉาบฉวย แต่ฝังรากลึกลงไปเหลือเกิน น้ำตาอุ่นไหลหยดมาที่แก้ม อบอุ่นเสียจนเผลอยิ้มขื่น น่าแปลกแต่จริง...น้ำตาแห่งความเศร้ากลับอบอุ่นเสียจนผมไม่อยากให้มันหยุดไหล
ฤดูใบไม้ผลิเริ่มอีกครั้ง ผมลากผ้าใบออกมาขึงพร้อมอุปกรณ์วาดรูปและสีน้ำ หยิบไอพอดมาต่อลำโพง หาเพลงมาอยู่เป็นเพื่อน หัวข้อที่จะวาดวันนี้ไม่มีแต่มองจานสีแล้วก็จิ้มสีดำมาป้าย


'I go out on a party and look for a little fun,
But I find a darkened corner because I still miss someone
Oh, no I never got over those blue eyes, I see them every where
I miss those arms that held me when all the love was there
I wonder if he's sorry for leavin' what we'd begun
There's someone for me somewhere and I still miss someone... '

ไปๆ มาๆ รูปที่ผมวาดกลับกลายเป็นรูปมัน

มีแต่มันที่อยู่ในทุกเวลาของผม ทั้งตอนตื่น ตอนกิน ตอนนั่ง ตอนนอน หรือแม้กระทั่งในฝัน ทุกๆ วันผมจะคิดถึงมัน ส่วนมันคงไม่คิดถึงผมเลย...
ผมรู้ดีว่าหลายคนพยายามปิดข่าวไม่ให้ผมรู้ ทั้งหนังสือพิมพ์ ทั้งอินเตอร์เน็ทถูกห้ามขาด โทรทัศน์จะดูได้ก็เมื่อมีคนอื่นอยู่ด้วย ถึงอย่างนั้นผมก็รับรู้ข่าวงานแต่งงานใหญ่โตของสองตระกูล ถัดมาอีกไม่กี่เดือนที่ผมจบ ก็ได้ยินข่าวว่ามันได้ลูกชาย แม้ใจร้ายๆ กำลังคิดสาปแช่งให้ชีวิตคู่ของสองคนนั้นไปไม่รอด แต่ข่าวล่าสุดที่ได้ยินมามันกำลังมีความสุขมาก อาร์ตมันชอบเด็กอยู่แล้ว คงไม่แปลกอะไรที่มันจะพอใจผู้หญิงที่ทำลูกให้มันได้
เผลอคิดถึงเรื่องนี้ทีไรผมก็กัดลิ้นตัวเองจนเลือดซิบทุกที พอปากเป็นแผลก็แดกอะไรไม่ได้เหมือนเดิม เหม่ออีกแป๊บเดียวก็ถูกตบหน้า เสียงมีดหล่นพื้นดังไปทั่วห้องน้ำถึงเพิ่งรู้ตัวว่าจะเอาคัทเตอร์มากรีดข้อมืออีกแล้ว
"มึงเลิกรักเขาได้แล้ว ไอ้เหี้ยนั่นมันไม่รักมึงแล้ว รักตัวเองเหอะนะคิม มึงรักตัวเองเหอะนะ พี่ผิดเองที่แนะนำไอ้เหี้ยนั่นให้มึง มึงเลิกร้องไห้นะ มึงอย่าร้องไห้อีกเลยนะ"

ความรักของผมคือจิตรกร ผมรักมัน แต่มันไม่รักผม... ผมรักมัน... รักมันจนคิดคำอื่นไม่ออกเลย แล้วพี่น้อยหน่ามาพูดให้ผมเลิกรักมันแบบนี้ ผมทำไม่ได้ในทันทีหรอกนะ

ไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ รู้แต่ว่าตอนนี้ใจยังรักมันอยู่ และยังคงรักต่อไป...

ไม่รู้ว่าประเทศไทยมันเล็กหรือว่าสังคมชนชั้นสูงมันแคบ ไม่เจอหน้ากันได้ตั้งเกือบสองปี บทจะเจอก็เจอง่ายๆ
ผมขับมินิคันเดิมไปทานมื้อเที่ยงกับพี่น้อยหน่าที่ห้องอาหารญี่ปุ่นบนโรงแรมหรู ใครจะไปคิดว่ามันจะพาลูกเมียมาทานเหมือนกัน ตอนแรกก็ไม่รู้หรอก จนกินเสร็จจะออกจากห้องอาหารถึงเพิ่งเจอกันตรงทางออก มันคงอึ้งไปนิดหน่อยที่เห็นผม ส่วนผมน่ะเหรอ... ได้แต่ยืนนิ่งมองหน้ามัน ไม่เจอกันนานโคตรคิดถึง
มันอุ้มลูกไว้กับอก อีกมือก็เกี่ยวเอวเมีย โคตรจะครอบครัวสุขสันต์มีความสุขกันเหลือเกิน พอเห็นแบบนี้แล้วอดคิดไม่ได้ว่า แล้วกูล่ะ ในขณะที่มึงมีความสุข แล้วกูล่ะ...
"ไปรอพี่ที่รถ" พี่น้อยหน่ากำลังไล่ผม เขาคงหวังดี แต่ขาผมมันไม่ขยับ พยายามคิดในแง่ดี มันได้ดี กำลังไปได้ดี ผมควรส่งยิ้มให้มัน แต่รอยยิ้มผมคงน่าเกลียดเกินไป มันมองรอยยิ้มที่มันเคยบอกว่าชอบด้วยสีหน้าไม่ต้องการ พอรู้ว่าตัวเองไม่เป็นที่ต้องการแล้วน้ำตามันก็ไหล
"... อะ..."
"คิมหันต์"
"อาร์ต..."
มันกำลังมองหน้าผม ทำสีหน้าลำบากใจ แต่ผมก็ยังพยายามส่งยิ้มให้มัน
"คิดถึงมึงว่ะ ไม่เจอกันนาน โคตรคิดถึงเลย"
"ขอบใจ" มันตอบสั้นๆ ทำท่าเหมือนจะเดินหนี ประหนึ่งว่าถ้าอยู่ที่นี่นานอีกแค่วินาทีเดียวจะติดเชื้อโรคหน้ารังเกียจไปจากผม
"ไอ้เหี้ย! มึงเกลียดหน้ากูขนาดนี้ มึงจะมาขอบใจกูทำไม กูคิดถึงมึงจนจะตายห่าอยู่แล้วแต่มึงเสวยสุขกับอีชะนีนี่จนลืมกูไปเลยสินะ"
"คิมไม่เอาน่า!"
ผมไม่ทนอีกแล้ว เห็นหน้ามันแล้วของขึ้น ยิ่งเห็นมันปกป้องลูกเมียแบบนั้นแล้วยิ่งทนไม่ได้ ทนไม่ได้ที่ไม่ได้เป็นคนที่มันรักอีกแล้ว
"กูทำเหี้ยไรผิดมึงถึงทำกับกูแบบนี้ แค่กูเป็นผู้ชายใช่ไหมมึงถึงทิ้งกู แล้วก่อนหน้านั้นมึงมาเอากูทำไม"
เพี๊ยะ!!!
หน้าผมชา... ตั้งแต่รู้จักกันมามันไม่เคยลงไม้ลงมือกับผมมาก่อนเลย แต่วันนี้มันตบผม ความโกรธสุมในอกจนแน่นไปหมด ยกมือจะตบหน้ามันคืน แต่พอเห็นหน้ามันก็เก็บมือลง แม้มันจะทำหน้ารังเกียจใส่ผมขนาดไหน แต่พอเห็นหน้ามัน...ผมก็ทำร้ายมันไม่ลง
"กูทำร้ายคนที่กูรักไม่ลงว่ะอาร์ต"
"..."
"แล้วกูก็ลืมไปแล้วว่ามึงไม่ได้รักกู ขอโทษนะที่กูโวยวายใส่มึง กูไม่ทำอีกแล้ว กูจะไม่... ไม่ทำอีกแล้ว"


"แต่กูรักมึงจริงๆ นะ"


ผมรักมันจริงๆ จนลืมรักตัวเอง
ความรักของผมไม่ว่าอย่างไรก็คือจิตรกรคนเดียว
"แต่กูขอร้อง... มึงเลิกรักกูเถอะ"

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
กินมาม่าไปซะเเล้ว
แต่คงต้องกินต่อให้หมดชาม
อย่าปล่อยทิ้งนานให้อืดนะ

เดี๋ยวคนอ่านจะลงจมกองน้ำตาตาย
เรื่องมันเศร้า  :o12:

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
ความรักของผมคือพระจันทร์ ที่ต่อให้ร้องไห้ให้ตายยังไงก็ไขว่คว้ามาไม่ได้

คิมหันต์มันน่ารัก... เห็นครั้งแรกก็แบบว่าชอบเลย ตัวขาวๆ ปากแดงๆ ตาโตเหมือนพวกนางเอกหนังเอ็กซ์ แต่หุ่นไซส์ฝรั่ง โคตรอยากได้มาเป็นแฟน แต่ผมมันพวกมีพันธะ แถมพันธะล่าสุดนี่ก็เกาะหนึบยิ่งกว่าปลิง ก็เลยทำได้แค่มองแล้วก็แซว โชคดีที่มันเป็นน้องรหัสเพื่อนซี้ผม ผมเลยได้เจอมันบ่อย สุดท้าย...ผมก็ทนอำนาจมืดตัวเองไม่ไหว จับมันทำเมียซะเลย ถึงมันจะบอกว่าก็แค่เมา แต่ผมรู้ดีว่าถ้ามีครั้งแรกแล้วครั้งที่สองก็ไม่ยาก เหมือนพฤติกรรมคบชู้ แต่ผมขอคิดเสียว่ามันเป็นการเจอคนที่ใช่มากกว่านอกใจแฟนก็แล้วกัน
ก็ใครใช้ให้มันเกิดมาน่ารักน่าเอาขนาดนั้นล่ะ
ผมก็เลยหลงมันจนหน้ามืดตามัว ตอนนั้นรู้แต่ว่าจะคบกับมันให้ได้ ลงทุนไปกราบตีนเท้าพี่ยศปู่รหัสมัน หวังขอหลานมาทำเมีย ยอมเป็นเบ๊ให้จิกหัวใช้ทำนู่นทำนี่อยู่เกือบเทอม ทั้งล้างพู่กัน ซื้อข้าว เลี้ยงขนม จนถึงขนาดยอมไปขัดส้วมที่หอพี่มันก็ยังทำ จนพวกปีสี่มันใจอ่อน จนกระทั่งยุให้ผมแย่งคิมหันต์จากไอ้เด็กปีหนึ่งนั้นดื้อๆ โคตรจะโรแมนติก คงไม่มีใครที่ไหนบ้าอดทนยอมทำ ผมรู้แล้วว่านี่คือรักแท้ แต่ไอ้คิมมันไม่รู้หรอกว่าผมไปทำยังไงให้พี่ยศใจอ่อน แค่ตอนที่ผมฉุดมันออกมามันยังด่าผมถึงโคตรเลย ไม่มีความซาบซึ้งสักนิด แล้วก็นะ... ถ้ามันรู้มันคงหัวเราะเยาะผมตาย หน้าหล่อแบบนี้ให้รู้ได้ไงว่าเคยไปขัดส้วมน่ะ
พอได้คบกันผมถึงรู้ว่ามันโคตรพ่อโคตรแม่จะน่ารักเลย คนเหี้ยอะไรไม่ว่าจะยืน จะนั่ง จะนอน จะกิน จะทำห่าอะไรก็ตาม แม่งน่ารักได้ทุกอิริยาบถ ทั้งที่ความจริงมันไม่ได้หน้าใสกิ๊งเหมือนคนอื่น ไม่ได้หุ่นดี(แถมมีพุงกะทิ) แต่ทุกองค์ประกอบพอรวมกันเป็นมันแล้ว มันโคตรน่ารัก ทุกสิ่งทุกอย่างที่รวมกันเป็นคิมหันต์คือความมหัศจรรย์ในชีวิตของผม
พอเป็นแบบนั้นจากที่แค่ชอบจนอยากได้ ตอนนี้มันก็เลยรักจนไม่อยากปล่อยมือให้ใคร
ไลฟ์สไตล์เราไปด้วยกันได้ค่อนข้างดี ทุกอย่างที่ทำล้วนมีความหมายแฝงอยู่เหมือนงานศิลปะของผมทุกชิ้น ภาพแต่ละภาพที่ผมวาดถึงมันจะ     แอบสแตรกดูยากฉิบหายยังไง แต่พอผมเจอมันทุกภาพของผมก็จะมีแมวดำแทรกอยู่เสมอ ไอ้คิมมันไม่เคยรู้หรอก มันไม่ชอบภาพที่คิดมากแบบนี้ มันบอกว่ายิ่งดูแล้วก็หาบทสรุปไม่ได้ เสร็จแล้วก็หนีไปวาดรูปเหมือนตลอด
ผมก็วาดรูปเหมือนได้นะ วาดเก่งด้วยแต่ไม่ค่อยชอบ รายละเอียดมันเยอะ ขี้เกียจมานั่งลง แต่พอตอนไหนอารมณ์ดี พอมันเผลอผมก็หยิบเศษกระดาษมาวาดรูปเหมือนมันตลอด แล้วก็แอบพกไว้ในกระเป๋า แบบว่ารูปมันที่ผมวาดดูดีกว่าตัวจริงน่ะ อย่าไปฟ้องมันล่ะ
รักมันมากขนาดไหนเหรอ... ก็ถึงขนาดไปสักชื่อมันบนหน้าอก ข้างที่มีหัวใจเลย ตอนที่มันเห็นครั้งแรกแม่งเขิน เขินแบบน่าฟัดมาก หน้าแดงๆ ปากก็จะยิ้ม จะหัวเราะหรือจะร้องไห้บอกไม่ถูก ผมพูดคำว่ารักไม่เก่งถนัดแต่ทางแสดงออก คืนนั้นเลยฟัดมันไปหลายที ย้ำให้รู้เลยว่าโคตรรัก
ตอนเรียนจบ บ้านหลังนั้นก็สร้างไว้กะว่าพอมันเรียนจบจะพามาอยู่ด้วยกัน ชีวิตที่เสเพลคบใครไม่เลือกกลายเป็นอดีต ตั้งแต่คบกับมันผมก็ไม่เคยชายตามองใครอีก หมดสิ้นเลยความเจ้าชู้ เพราะแค่มีมันผมก็มองเพลินได้ทั้งวัน มันน่ารักผมก็เลยรักมัน
มันเปลี่ยนผมจากที่ไม่เคยสนใจใครให้กลายเป็นคนที่ต้องแคร์คนอื่นซะบ้าง ทำให้ผมรู้จักมองอนาคตข้างหน้า มันทำให้รู้ว่าโลกนี้ไม่ได้มีอยู่เพียงแค่เรา แต่ยังมีใครมากมายอีกหลายคนที่เราต้องมอง มันทำให้ผมเข้าใจว่าความเหงาตอนที่ต้องอยู่คนเดียวมันเป็นเช่นไร ทำให้รู้ว่าความรักที่แท้หน้าตาเป็นยังไง และทำให้หัวใจของผมรู้ว่าคนที่พร้อมจะเดินเคียงข้างไปกับผมคือใคร

มันสอนผมให้รู้จักสิ่งเหล่านี้
และมันก็เป็นทุกอย่างของผม...

'มึงจะไม่ทิ้งกูใช่ไหม' ตอนที่มันถามผมอย่างนั้น มันคงไม่รู้ตัวว่ามันทำหน้าเศร้าแค่ไหน หน้าตาเหมือนจะร้องไห้ให้ได้ถ้าผมตอบว่าจะทิ้งมัน
'ก็กูรักมึง กูจะทิ้งมึงทำไมล่ะ'
'ก็กูกลัว ถ้าวันหนึ่งมึงเบื่อกูขึ้นมาล่ะ'
'แล้วมึงไม่คิดว่ามึงจะเบื่อกูบ้างเหรอ'
'ไม่ ก็กูรักมึงมากขนาดนี้ กูไม่วันเบื่อมึงหรอก'
'นั่นก็เป็นคำตอบของกูเหมือนกัน'
'ไอ้เชี่ย'
มันด่าผมเหี้ย แต่ผมไม่ถือสาหรอกนะก็ผมมันเหี้ยจริง เหี้ยแบบโคตรๆ คนน่ารักอย่างมันไม่จำเป็นเลยที่ต้องรักผมขนาดนั้น มันยิ่งทำให้เหี้ยรู้สึกว่าตัวเองมีค่า ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่สมควรเลย เหี้ยมันก็ควรอยู่ส่วนเหี้ย พอเอาตัวไปเกลือกกลั้วกับใครเขาก็มีแต่จะทำให้คนๆ นั้นต้องเจ็บปวดเพราะถูกเหี้ยมันกัด
มันหักหลังคนที่ผมรักด้วยความเลือดเย็น ทำลายความไว้วางใจด้วยการไปมีคนอื่น ไม่ใช่เพราะหมดรัก ไม่ใช่เพราะคิมไม่ดี แต่เพราะผมมันเหี้ยเอง
ผมไม่กล้าสู้หน้าคิมหันต์อีกต่อไปยามที่รู้ว่าทำผู้หญิงคนนั้นท้อง ปล่อยให้สังคมทำหน้าที่บอกข่าวและให้เขารับรู้ด้วยตัวเอง
เช้าวันนั้นผมตื่นขึ้นมาแล้วรับรู้ว่าตัวเองเพิ่งตื่นจากฝันหวานสู่โลกแห่งความจริงที่แสนโหดร้าย ความจริงที่ผมสร้างมันขึ้นมาเอง...
ผมถูกสังคม หน้าที่ ความรับผิดชอบ สถานะ บีบให้ต้องโตเป็นผู้ใหญ่ เรียนรู้ว่าโลกของเรานั้นจะคิดเพียงแค่ตัวเองด้านเดียวไม่ได้แต่ต้องคิดถึงสังคมด้วย ผมก้าวจากสังคมโลกศิลปะที่อิสระสู่สังคมโลกปัจจุบันที่คนมากมายรวมตัวกันอยู่
สังคมทุนนิยม ฟุ้งเฟ้อและนับถือในเงินตรามากกว่าคุณค่าจรรโลงทางจิตใจ งานศิลปะของผมกลายเป็นเพียงเครื่องประดับราคาแพงที่ถูกซื้อไปโดยที่ไม่เห็นคุณค่าอันแท้จริง
พ่อบอกว่าผมถึงเวลาต้องโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว และถ้าอยากอยู่รอดผมจำเป็นต้องใส่หน้ากาก ประดับข้าวของมีราคา
การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นด้วยการที่ผมตัดใจขายมัสแตงสุดรักไปแล้วซื้อเบนซ์เอสคลาสมาขับ ทั้งที่แต่ก่อนผมเคยดูถูกในดีไซน์สุดเชยของมัน หลังจากนั้นผมก็ทิ้งเสื้อยืดมาสวมใส่เสื้อสูทผูกไท เก็บกางเกงยีนส์เข้าตู้มาใส่สแลค ผมยังคงวาดรูปแนวแอ๊บสแตรกเพราะมันขายได้ แต่ภาพที่ผมเห็นมีแต่ความเป็นจริงและจินตนาการของผมมันก็เริ่มเลือนหายไปทุกที
เหลือเพียงสิ่งเดียวที่ผมยังตัดไม่ได้คือคิมหันต์...มันคือทุกๆ อย่างในกายของผม เป็นลมหายใจ จิตวิญญาณ ความฝันและความจริง


'เออ กูไม่สนใจใคร กูสนใจแต่ตัวเอง กูมันเหี้ย ด่ากูจบยัง พอใจแล้วก็กลับบ้านไปซะ แล้วอย่ามาที่นี่อีกนะ'
ผมด่าตัวเองว่าเหี้ยให้มันฟัง มันจะได้เลิกรักเหี้ยตัวนี้สักที


'มึงเชื่อกูเหรอ ตื่นได้แล้วคิมหันต์ โลกความจริงมันไม่ได้สวยเหมือนในรูปวาดหรอกนะ!'
ผมบอกให้มันตื่นจากความฝัน ทั้งที่ผมคือคนที่อยากจะอยู่ในฝันนั้นให้นานที่สุด



ผมใช้คำพูดโหดร้ายใส่คิมหันต์เพื่อปลอบใจตัวเองว่าผมกำลังจะโต ส่วนคิมหันต์นั้นเป็นแค่เด็กน้อยที่ไม่รู้จักโตสักที
ถ้าเป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องโหดร้ายเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานแบบนี้ ผมขอเป็นเด็กไปตลอดกาลเหมือนปีเตอร์ แพนที่ไม่ยอมโตยังจะดีเสียกว่า
การกระทำครั้งนี้ของผมถูกเพื่อนประณาม เพื่อนรักของผม น้อยหน่า เสียใจมากที่ผมทำอย่างนี้ ครั้งแรกที่เขารู้เรื่อง เขาร้องไห้สงสารน้องรหัสของเขา บอกว่าเขาไม่น่ายอมเชื่อใจผมเลยที่บอกจะดูแลและปกป้องน้องชายของเขา เขาน่าจะรู้ดีว่าสันดานผมมันเป็นยังไง
ครั้งที่สองเขามาต่อยผม กระทืบผมจนผมสะบักสะบอมไปทั้งตัวเมื่อรู้ว่าคิมหันต์ดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำเข้าไป แต่ผมก็ยังคงเป็นเหี้ย ผมไม่ไปเยี่ยมเขา ไม่มีแม้แต่น้ำตา หรือความสงสาร หน้าผมมันด้านชา ภรรยาของผมบอกว่าผมเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุมมาก เธอชื่นชอบผมที่ตรงนี้ และคิดไม่ผิดที่ไม่เอาเด็กออกและยอมแต่งงานกับผม
หากความจริงแล้วผมถูกความละอายใจเกาะกุม ผมไม่กล้าไปสู้หน้ามัน ไม่มีแม้แต่สิทธิที่จะคิดถึงคนน่ารักอย่างมันอีกต่อไป
ผมพยายามกดลบความทรงจำระหว่างเราออกไป แต่ยิ่งพยายามกดดีลีทมันออกไปเท่าไหร่ สมองของผมก็จะขึ้นแต่ความว่าเอเร่อและกู้ข้อมูลกลับมาเองโดยอัตโนมัติ
ยามที่มันกู้ข้อมูลกลับมา ผมพบว่าหัวใจของผมกำลังเต้นเร็ว เลือดสูบฉีดเข้าหัวใจไม่ได้หยุด เอนโดรฟินหลั่งออกมาไม่ขาดสาย ความสุขอบอวลอยู่รอบตัวผมอยู่พักใหญ่ จนได้ยินเสียงลมหายใจของผู้หญิงที่นอนเคียงข้างบนเตียง ผมถึงเพิ่งรู้ว่าความทุกข์มันทรมานมากเพียงใด
ทุกครั้งที่คิมหันต์พยายามฆ่าตัวตาย น้อยหน่าจะมาต่อยตีผมจนพอใจ และผมก็ยินยอมที่จะให้เขาทำ ผมคิดว่าบางทีอาจเป็นเพราะผมรู้สึกผิดมากเลยต้องการที่จะลบล้างความผิดที่มีต่อคิมหันต์ออกไปสักนิดไม่ว่าจะทางใดก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้ช่วยเยียวยาจิตใจที่เริ่มจะแข็งกระด้างของผมได้เท่าไหร่
กาลเวลาก็เหมือนกับน้ำเซาะทรายที่คอยแต่จะลบเลือนรอยเท้าที่เคยย่ำ ความทรงจำของผมที่มีแต่คิมหันต์เริ่มเลือนราง การวาดรูปแมวลงไปกลายเป็นเรื่องที่ทำติดจนเป็นนิสัยหากได้มีความรู้สึกใดๆ อีกต่อไป
ผมถึงเพิ่งตระหนักได้ว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ สักวันผมคงลืมคิมหันต์ไปหมดอย่างแน่นอน
หนังสือเจ้าชายน้อยที่เคยอ่านแล้วสนุกนักหนาตอนก่อนหน้าที่จะแต่งงาน มาตอนนี้ผมเริ่มอ่านแล้วรู้สึกว่ามันไม่ได้เรื่องเสียเหลือเกิน...เมื่ออ่านให้ลูกชายวัยขวบเศษฟัง ลูกของผมคงยังไม่เข้าใจ แต่เขามักจะตบมือชอบใจเสมอเมื่อผมเล่าถึงหมาจิ้งจอก
แล้วน้ำตาผมก็ไหล... ยามที่หมาจิ้งจอกเห็นสีเหลืองของทุ่งข้าวสาลี มันบอกว่าจะนึกถึงเจ้าชายน้อย ผมเองทุกครั้งที่ขึงภาพใบจะวาดภาพก็มักจะนึกถึงมันและวาดแมวดำลงไปด้วยทุกครั้ง


わがままも今は愛しくて
時空飛び越えてあなたに逢えたら
例え同じ結末迎えたとしても
きっと悔いは残らない筈だから
今タイムマシーンに乗り込んで
あなたに逢いに行くことが出来たなら
もう何も願わない
2人の想い出忘れてしまう前に・・・
I need a time machine

ถึงจะดูเห็นแก่ตัวก็เถอะ แต่ตอนนี้ก็ยังรักเธออยู่
ถ้าทะยานไปในห้วงกาลเวลาแล้วได้เจอกับเธอ
แม้ต้องเจอผลสุดท้ายแบบเดิมก็ตาม
ฉันแน่ใจจะไม่เสียใจภายหลังแน่ๆ เพราะฉะนั้น
ตอนนี้ถ้าฉันได้ขึ้นไทม์แมชชีนให้ฉันไปเจอเธอได้ละก็
ฉันก็จะไม่ร้องขออะไรอีกแล้ว ก่อนที่จะลืมความทรงจำของสองเราไป
ฉันอยากได้เครื่องย้อนเวลาเหลือเกิน

 

มีเงินมากมายแค่ไหนก็ย้อนเวลากลับไปไม่ได้ ความผิดครั้งเดียวที่ผมทำ ก่อบาดแผลลึกลงไปในใจของคนสองคนอย่างไม่มีวันหาย ผมเสียใจ เริ่มร้องไห้และปลดปล่อยความละอายแก่ใจออกมา ช้าไปไหมกับการสำนึกผิด ใช้เวลาถึงสองปีกว่าจะรู้ว่าสูญเสียอะไรที่สำคัญมากๆ ไป
จะไขว่คว้ามันกลับมาก็ไม่ได้อีกแล้ว...ความรักของผมมันหลุดลอยหายไปในห้วงอวกาศอันกว้างใหญ่
ผมเสียใจ...เพราะความเหี้ยของผมคนเดียวถึงทำให้คนที่ผมรักมากที่สุดไม่มีความสุข ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้เจอและรักคนที่ไม่เหี้ยอย่างผม แม้ผมจะเจ็บปวดที่รู้ว่าคิมหันต์มันไม่ได้รักผมแล้ว แต่การเห็นรอยยิ้มแห่งความสุขของคนที่เรารัก มันย่อมมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด

 

พระเจ้าช่างตลกร้าย เขาทรมานผมด้วยบาปที่ผมก่อไว้ไม่พอ เขายังดลให้ผมได้พบเจอกับคิมหันต์อีกครั้ง ผมมองเห็นความผิดบาปที่ผมได้ก่อขึ้นอยู่ในตัวเขาได้ทั้งหมด ใบหน้าที่เคยเปี่ยมไปด้วยความสุข ดวงตาที่เคยทอประกายสดใสราวกับดวงดาวสุกสกาว ตอนนี้กำลังจ้องมองผมด้วยความหม่นหมอง ไม่มีประกายแห่งความสุขอีกต่อไป รอยแผลเป็นมากมายที่ข้อมือตอกให้ผมแทบทรุด และยิ่งคำพูดที่บอกว่า 'คิดถึง' มันทำให้ผมเจ็บปวดที่มันยังโง่รักคนแบบผม
มันด่าทอใส่ผม ผมไม่โกรธ แต่ที่โกรธจนตบหน้ามันคือการที่ผมบอกว่ายังคิดถึงผม ผมอยากให้มันหายโง่ เลิกมองเหี้ยตัวนี้เป็นเทวดาสักที
ตอนที่มันบอกว่ามันทำร้ายคนที่มันรักไม่ลง ผมยิ่งโกรธที่มันโคตรโง่ รักเหี้ยไม่ลืมหูลืมตา
ทุกหยาดน้ำตาที่ไหลอาบลงมา ทำให้ผมโกรธมัน
ทุกคำพูดที่บอกว่ารัก ทำให้ผมโคตรโกรธมัน
"แต่กูขอร้อง... มึงเลิกรักกูเถอะ คนเหี้ยๆ อย่างกูมีดีอะไรที่ตรงไหน ทำไมมึงถึงรักกูจัง มึงติดภาพดีๆ ที่กูสร้างมากเกินไปหรือเปล่า กูอยากให้มึงเลิกรักกู กูอยากให้มึงเลิก ไม่ก็ลืมเรื่องของกูให้หมดไปเลยก็ได้ อย่ามารักกูได้ไหม กูมันเหี้ย โคตรของโคตรเหี้ยเลย มึงเลิกรักกูเถอะนะกูขอร้อง"

ความรักของผมคือคิมหันต์ ที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไขว่คว้ามาไว้กับตัวไม่ได้

...

TBC


เรื่องมันอาร์ตไปไหมอ่าค่ะ
เง้อ... ><

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
มันอาร์ตมาก แต่มันก็โดนใจมาก มารออ่านต่อครับ

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
โดนใจอ่ะ อาร์ตตัวแม่
จะจบยังไงอ่ะ คิดไม่ออก
ปล.อ่านแล้วอย่าพูดคำหยาบ ทำไมอาร์ตขนาดนี้ เกี่ยวไหมเนี๊ย

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
"ก็กูรักมึง กูเลิกรักมึงไม่ได้ ก็กูรักมึงมากๆ มึงได้ยินไหม กูรักมึง รักมึงๆๆๆๆๆๆ ไอ้เหี้ย กูรักเหี้ยแล้วไง มึงจะสนใจทำไม มึงจะร้องไห้ทำไมถ้ามึงเหี้ยจริง ไอ้เชี่ยอาร์ต ถ้ามึงเหี้ยมึงจะร้องไห้ทำไม ฮือ..."
น้อยหน่ามองภาพเพื่อนรักและน้องชายที่ต่างร่ำไห้ให้กับความรักแล้วก็รู้สึกทรมานไม่ต่างกัน
คิมหันต์โวยวายแล้วก็ทรุดตัวลงไปร้องไห้ เขานั่งกอดเข่าคู้ตัวร้องไห้อย่างน่าสงสาร อาร์ตก็ยืนก้มหน้าร้องไห้ ไม่กล้าแม้แต่จะนั่งลงไปกอดปลอบ เขากลัวว่าถ้าเขาแตะตัวคิมหันต์ อีกฝ่ายก็จะยิ่งเสียใจเพราะเหี้ยอย่างเขา
"ทำไม... ทำไมทั้งที่เราต่างก็มีความรักให้แก่กัน แต่เราถึงรักกันไม่ได้ โลกมันมีกฎเกณฑ์ข้อไหนบอกไว้เหรอว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงเท่านั้น ถ้าแค่สังคมมันบอก เราต้องเชื่อมันเหรอ เราต้องทำตามกระแสที่ใครก็ไม่รู้กำหนดมันขึ้นมาเองเนี่ยนะ"
"มึงยังเด็ก มึงไม่รู้อะไรหรอก ถ้ามึงไม่ทำมึงก็อยู่ไม่ได้"
"แล้วกูขอใครกินหรือไงล่ะ คนพวกนั้นทำอะไรให้กูบ้าง แม่งเห็นเอาแต่มองแล้วก็นินทา ไม่เคยให้อะไรกูสักอย่างนอกจากก้อนหิน ถ้าให้กูต้องแคร์สังคม ปั้นหน้าฉีกยิ้มประจบสอพลอไปวันๆ กูทำไม่ลงหรอกนะ กูกระแดะไม่เป็น ทำไม? เราจะอยู่เงียบๆ กันแค่สองคนไม่หรือไง ไปที่ไหนไกลๆ ก็ได้ที่ไม่ต้องสนใจใคร ก็เราไม่ได้ขอมันกินนี่"
"แล้วครอบครัวกูล่ะ ลูกกูล่ะ มึงจะให้กูทิ้งเขาไปอยู่กับมึงหรือไง มึงอยากให้กูเป็นไอ้ตัวเหี้ยมากใช่ไหม"
"เออ กูอยากให้มึงทิ้งมันแล้วมาอยู่กับกู มึงมันเหี้ยอยู่แล้วนิ แค่ทิ้งลูกทิ้งเมีย มึงคงไม่เหี้ยมากไปกว่าเดิมเท่าไหร่หรอก"
"งั้นมึงไปกับกู ไปตายกับกูเลยไปจะได้จบเรื่องสักที"
จิตรกรคว้าข้อมือบาง ฉุดกระชากให้ลุกเดินไปตามทางเดินยาวของโรงแรม น้อยหน่าตกใจหน้าตื่น เขาไม่คิดว่าอาร์ตจะฟิวส์ขาดแล้วระเบิดอารมณ์ออกมาได้ถึงเพียงนี้ เขาวิ่งตามสองคนมาจนถึงลานจอดรถของโรงแรม จิตรกรก็พาคิมหันต์ขึ้นมินิคูเปอร์ เอสขับออกไปแล้ว เขาพยายามจะขับรถตามไปแต่ก็ถูกภรรยาของอาร์ตเข้ามาถามนู่นนี่นั่นจนตามไปไม่ทัน
ใจน้อยหน่าหายวูบ ภาวนาไม่ให้จิตรกรทำอะไรบ้าๆ เขาโตเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะคิดได้แล้วและอยากให้จิตรกรช่วยทำให้คิมหันต์โตบ้างเสียที เรื่องคงไม่เลวร้ายไปมากกว่านี้อีกแล้ว... คงไม่...

 

จิตรกรพาคิมหันต์มาที่บ้านปิดตาย บ้านที่ครั้งหนึ่งเขาเคยฝันว่าจะพาคนที่เขารักมาอยู่ด้วยกันที่นี่ แต่ทว่า...เมื่อคนที่เขารักไม่สามารถอยู่ด้วยกันที่นี่ได้แล้ว มันจึงถูกปิดตายมาตลอดสองปี
เสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นจังหวะวูบโหวง ใจของคิมหันต์วาบหวิว เขามองภาพบ้านที่ตั้งอยู่ตรงหน้าผ่านม่านน้ำตา
เขาถูกจิตรกรโอบไหล่ พาเดินไปนั่งที่บันไดหน้าบ้าน แดดโลมเลียผิวไม่น้อยแต่ทั้งคู่ก็ไม่รู้สึกร้อนเท่าไหร่ด้วยสายลมจากทะเล คิมหันต์คู้ตัวร้องไห้สะอื้นเหมือนเด็กเล็กๆ ต่างจากจิตรกรที่เอาแต่มองไปข้างหน้า
"ขอโทษนะ ขอโทษที่กูเลิกรักมึงไม่ได้ กูก็ไม่รู้ทำไม บางครั้งกูก็อยากเลิกทรมานแบบนี้ แต่...แต่ถ้าวันหนึ่งหัวใจกูไม่มีมึงอีกต่อไป กูก็ไม่รู้จะเรียนรู้วิธีหายใจต่อไปยังไงเหมือนกัน"
"เลิกพูดคำว่าขอโทษเถอะ มึงผิดอะไรที่ต้องมาขอโทษกู ผิดที่มารักเหี้ยอย่างกูเหรอ ไม่ใช่เลย กูต่างหากที่ต้องขอโทษมึง ที่รักมึง เหี้ยอย่างกูไม่สมควรจะรักใครเลยจริงๆ"
"ฮึก...อาร์ต กูรักมึง กูรักมึง" คิมหันต์เอาแต่พูดซ้ำๆ เหมือนคนไร้สติ น้ำตาอาบนองหน้า ดวงตาที่จิตรกรเคยชอบนักหนากำลังบอกคนมองว่าเจ้าของมันกำลังทรมานมากแค่ไหน หากเขาทำได้เพียงดึงร่างของคนที่เขารักมากอด

พวกเขาก็แค่รักกัน...แต่ทำไมพวกเขาถึงอยู่ด้วยกันไม่ได้

"เราหนีไปด้วยกันดีไหม ไปไกลๆ ที่ที่ไม่มีใครรู้จักเรา ไปใช้ชีวิตด้วยกันสองคน เรื่องเงินก็ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ตอนนี้ในบัญชีฉันมีเงินเป็นล้านเหรียญเลย ไปไหนดีล่ะ... โรมาเนียไหม หรือว่าออสเตรียดี มึงเคยบอกว่าอยากซื้อบ้านที่นั่นนิ เอาไว้วาดรูปขาย แค่นี้เราก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินแล้ว แล้วกูก็อยากเปิดร้านขายดอกไม้ด้วย มึงรู้ไหมว่าตอนที่กูเรียนจบนะ พี่น้อยหน่าพากูไปเรียนจัดดอกไม้มา ตอนแรกก็เบื่อ แต่ไปๆ มาๆ ก็สนุกดี กูจัดสวยด้วยนะมึง เปิดร้านได้สบายเลย เอาร้านสีส้มดีไหม หลังคาก็สีน้ำตาลไหม้ อืม...ประตูก็เป็นประตูกระจก "
"มึงบ้าป่ะเนี่ย ถ้ามึงสร้างร้านดอกไม้แบบนั้นในที่แบบออสเตรียเนี่ยนะ นอกจากจะไม่กลืนแล้วยังประหลาด ที่แบบนั้นนะ ร้านต้องสร้างจากอิฐไม่ต้องฉาบปูน"
"ก็กูชอบของกูอ่ะ"
"มึงอย่าเถียงมัณฑนกรเกียรตินิยมอันดับหนึ่งได้ป่ะ"
"กูก็จะได้อันดับหนึ่งแล้วเหอะ ถ้ากูไปส่งโปรเจคต์จบไหวอ่ะ" สาบานเลยนะว่าตอนที่พูดคิมหันต์ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยจริงๆ แต่พอคำพูดมันหลุดปากออกไปแล้วบรรยากาศทีเริ่มจะดีขึ้นก็กลับมาซึมเศร้าลงเหมือนเดิม
"แดกน้ำยาล้างห้องน้ำอร่อยไหมล่ะมึง"
"อร่อยเหี้ยๆ เสียอย่างเดียวไม่ตาย"
"ถ้ามึงตาย มึงจะมีความสุขใช่ไหม"
"อืม ไม่ได้เจอหน้ามึงเหมือนเดิมแต่ก็ไม่ต้องรู้สึกอะไรแล้ว แบบนั้นดีกว่าเยอะ"
"ถ้าเราหนีไปอย่างที่มึงบอก เราก็จะมีความสุขใช่ไหม"
"อืม... กูคงมีความสุขที่ได้อยู่กับคนที่กูรัก"
"กูอยากไปกับมึง คิม...กูรักมึงนะ"
ไม่ว่าอาร์ตจะพูดประโยคนั้นออกมาด้วยความรู้สึกใดก็ตาม แต่คิมหันต์ก็มีความสุขมาก มือแกร่งที่บีบกระชับมือนี้อยู่ช่างอบอุ่นยิ่งกว่าครั้งไหน น้ำตาแห่งความสุขไหลอาบใบหน้า...เพียงแค่คำพูดแค่นี้ก็เชื่อเขาแล้ว
"กูอยากเห็นแก่ตัว กูอยากเลวให้มันสุดๆ เหี้ยให้มันมากกว่านี้ ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไปกับมึง แต่กูก็ทิ้งลูกทิ้งเมียกูไม่ได้ กูทิ้งเลือดเนื้อที่กูสร้างขึ้นมาเองไม่ได้ ไม่ใช่ว่ามึงไม่สำคัญ มึงสำคัญมากสำหรับกู แต่ลูกกูก็สำคัญมากเหมือนกัน ตอนนี้กูต้องโตเป็นผู้ใหญ่ ต้องมีหน้าที่ความรับผิดชอบกับสิ่งที่ก่อ มีภาระที่ต้องดูแล กูจะเอาแต่ทำตามใจเหมือนเมื่อตอนยังเรียนอยู่ไม่ได้แล้ว"

"อืม กูเข้าใจ" เงียบไปนานกว่าที่คิมหันต์จะพูดประโยคนี้ออกมาได้ เขาใช้เวลาทำความเข้าใจสิ่งที่จิตรกรพูดออกมาซ้ำไปซ้ำมา พยายามเข้าใจ และสุดท้ายก็เข้าใจ เข้าใจถึงภาระหน้าที่ของคนที่โตแล้ว และเขาก็ต้องลืมตาตื่นจากภาพวาดเสียที
ภาพเหมือน...ที่ต่อให้วาดเหมือนแค่ไหนมันก็ไม่ใช่ของจริง

 












ถึงความรักของกู

มึงไม่ใช่ผู้ชายที่เหี้ยอะไรเลย มึงคือผู้ชายที่นิสัยดีมากคนหนึ่งที่กูรู้จัก กูต้องขอบใจมึงมากที่สอนให้กูโตเป็นผู้ใหญ่ อดทนกับเด็กโง่ๆ อย่างกูมาตลอดสี่ปีที่คบกันและอีกสองปีที่ตัดกันไม่ขาด บ้านที่มึงยกให้กู กูชอบมันมาก กูกะว่าจะเก็บบ้านหลังนี้ไว้เปิดเป็นแกลอรี่ แต่ตอนนี้กูขอหลบไปเดินทางที่ไหนไกลๆ สักพักใหญ่ บางทีคงเป็นทะเลที่กูชอบ มันเย็นสบายดีมึงว่าไหม?

   ด้วย(โคตร)รัก
จากความรักของมึง

ป.ล. ลูกมึงชื่อดีมาก กูขอบใจนะที่มึงรักกูมากขนาดนี้ กูเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมมึงถึงบอกว่าลูกมึงก็สำคัญไม่แพ้กู รักมึงเหี้ยๆ

ป.ล. 2 หากชาติหน้ามันมีจริง กูจะเกิดมาเป็นผู้หญิงของมึง เราจะได้รักษาสัญญาที่เคยให้กันไว้ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันบนโลกใบนี้ และหากชาติหน้ามันมีจริงๆ กูจะทำทุกอย่างเพื่อให้มึงไม่ไปไหน กูจะได้ไม่ต้องบอกกับตัวเองว่ามึงเป็นคนที่ทิ้งกู  โอเคป่ะ?

.
.
.










END




ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ
ปกติเราไม่ค่อยจะพูดคำหยาบเท่าไหร่
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เราใช้คำหยาบมากจนคนรู้จักเราอ่านแล้วถึงกับตกใจทีเดียว ฮ่าๆ
ตอนจบเรื่องนี้อาจจะเจ็บปวดนิดนึง
แต่สำหรับทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นในเรื่องนี้ เราว่าจบแบบนี้มันโอเคแล้วล่ะเนอะสำหรับคนสองคน

แล้วเจอกันใหม่เรื่องหน้าค่ะ
(จะพยายามแต่งเรื่องใหม่ ไม่เอาของเก่าตัวเองมาแปลง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ) T________________T

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
อ่าสุดท้ายแล้วจบเศร้าติดจะเศร้าไปหน่อย
แต่คิมก็เข้าใจถึงการตัดสินใจของจิตรกร
อ่านเรื่องนี้เเล้วคิดถึงอนาคตเลย
จะมีอะไรที่ทำให้ลำบากใจขนาดนี้ไหมนะ
ขอบคุณคนเขียนครับ
+1เป็นกำลังใจให้กับเรื่องนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
มันจบฉับไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เหมือนจะสุดแต่ยังไม่สุด ไม่ได้อยากให้ตายพร้อมกัน เข้าใจว่าจะต้องแยกทางแต่แบบมันง่ายไปปะ

คิมเป็นเดือดเป็นร้อนมามาก แต่พออาร์ตพูดนิดหน่อยปุป ทำใจได้ มันไม่ใช่อะ

อย่างไรก็ดีอ่านแล้วประทับมาก จะรอตามผลงานชินต่อไป

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
อ่านแล้วหน่วงมากกกก สงสารคิม

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
แม่ง...เศร้าเหี้ย ๆ upset โคตร ๆ  :o7:  ( คือ ต้องขอ...นิดนึง  :m23: )
แม้การดำเนินเรื่องจะกระชับ ฉับไว สมกับเป็นเรื่องสั้น แต่การบรรยายทำได้ดีมากเลยค่ะ
สามารถดึงอารมณ์ร่วมของคนอ่าน(อย่างเรา)ให้จดจ่อได้ตลอดทั้งเรื่อง
ความรักที่รุนแรงของคนที่มีความเป็นศิลปินสูง 2 คน ให้ความรู้สึกล้ำลึก แต่ก็เปราะบางไปพร้อม ๆ กัน
ซีนที่น้องคิมหันต์เจ็บปวด ชอกช้ำ ร้าวราน แตกสลาย เพราะโดนอาร์ตทิ้ง เราโคตรจะสงสารน้องเลย ( บอกตามตรงว่า อิน )
จุดเริ่มต้นของความผิดพลาดที่ทำให้ทุกอย่างพลิกผัน คือ อาร์ตไปทำผู้หญิงท้อง (แปลว่า มันไม่เลิกสันดานเก่า )
เรื่องรักกับผู้ชาย หรือ ความเป็นผู้ใหญ่ ไม่ทำให้ทุกสิ่งดิ่งเหวได้เลวร้ายขนาดนั้น ถ้ามั่นคงในรักจริง ๆ
เอาเถอะ อาร์ตจะเจ็บปวดทรมานกับรักฝังใจที่รักษาไว้ไม่ได้ไปชั่วชีวิต ก็เรื่องของมัน (ทำตัวเองชัด ๆ)
แต่ขอบคุณที่มาทำให้น้องคิมหันต์เห็นทางสว่างว่า ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป...  o7

ป.ล. ที่คิมหันต์บอกว่าอาร์ตตั้งชื่อลูกได้ดี ลูกชื่ออะไรค่ะ ? เราหาไม่เห็น  :m28:   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2012 00:30:24 โดย Cherry Red »

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เศร้าอะ  :monkeysad:
เขียนดีนะคะ รออ่านเรื่องต่อๆไปจ้า

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
มึงเหี้ยมาก
และมึงก็โง่เหี้ยๆ

เอ่อ อินไปหน่อย แหะๆ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :z3:    เกลียดแนวนี้ที่สุด  แตทำไงได้อ่านไปแล้ว

ลูกคือสิ่งเดียวที่เราให้เค้าไม่ได้  และเราจะแพ้ผู้หญิง   ไม่ว่าเราจะรักเค้ามากแค่ไหนก็ตาม

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
โอย
น้ำตาซึม เขียนออกมาได้ดีจริงๆค่ะ
เป็นแนวชีวิตจริงที่ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปพบเจอเหตุการณ์นั้นด้วยตัวเอง
สงสารทั้งสองคน แต่ชีวิตคนเราก็ต้องเดินต่อไป ทั้งๆที่บางทีเราอาจจะคิดว่ามันไม่ไหว
แต่เมื่อทุกอย่างมันผ่านพ้นไป เราทุกคนก็จะเรียนรู้ได้ว่า
ความจริงแล้วมนุษย์ทุกคนมีความสามารถที่จะอดทนอยู่กับความรู้สึกหนึ่งๆของเราได้ เพียงแค่รอเวลา
รอเวลาที่ค่อยๆเดินไป รอจนกว่าจะพบสิ่งใหม่ที่สามารถเยียวยาจิตใจ
แล้วจะรอพบกับผลงานเรื่องอื่นๆนะคะ

wolfram

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากๆเลยค่ะ!!  :กอด1:

คนเขียน เขียนได้ดีมากๆ เศร้ามากๆเลย!!  :sad4:


ก็...โลกความจริงมันไม่ได้สวยเหมือนในรูปวาดหรอกนะ!!  :monkeysad:

LapiN

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าไปนะคะ ทำเอาเราร้องไห้เลย อินมาก
รักมันไม่ได้จบด้วยความสมหวังเสมอไป
เศร้าอ่ะ T^T

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






janek_alo

  • บุคคลทั่วไป
เป็นตอนจบที่

โหดร้ายมากง่า 

ไม่ตายก็เหมือนตาย :o12: :o12:

V

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดด

เศร้าอ่าาาาา

น้ำตาไหลพรากๆๆ

jj-pits

  • บุคคลทั่วไป
 :sad4:  :sad4:  :sad4:  :sad4:  :sad4:

แง๊ๆๆๆๆๆ เจ็บปวด

ออฟไลน์ Oilsaoo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-3
โอ๊ยย เศร้าอ่ะ
ร้องให้เลยย :m15: :m15:
ก็น่ะ..โลกเเห่งความจริงมันก็คงไม่ได้สวยงามเหมือนภาพวาด

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

ใจร้าย คนแต่งใจร้ายที่สุด
แค่ครึ่งเรื่องเราก็ร้องไห้จะเป็นจะตายแล้ว
โลกแห่งความเป็นจริงมันไม่สวยงาม
ทั้งที่แม่งรักกันโคตรๆ แต่ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้
จบแบบนั้นแหละคะดีแล้ว
เฮ้อ ไม่รู้จะพูดยังไงต่อ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ  เอาเรื่องอื่นมาลงบ้างสิ่คะ
เรารออ่านอยู่นะ
 :L2:
 


นู๋ซันเซน:サンシティ

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องใหม่
«ตอบ #25 เมื่อ12-03-2012 17:06:28 »

 :t3:

ออฟไลน์ miwmiwjung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
มันเศร้าเกินไปไหม    มันจะเอาความจริงมาเขียนเกินไปไหม
โอ้ย  น้ำตาไหลไม่หยุดอ่า

junykung

  • บุคคลทั่วไป
ชอบมากเลยคัฟ ไงก็เอามาโพส เรื่องแบบนี้บ่อยๆด้วยน่ะคัฟ :m15:

ออฟไลน์ nco1236

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
อ่านแรก ๆ ก็โอนะชอบ.......แต่พอมาเจอแดกน้ำยาล้างห้องนำ้แล้ว.......รู้สึกว่า

ถ้ารักคนอื่นมากกว่ารักตัวเองก้ไม่ไหวละ ตัวของตัวเองยังไม่รักเลย...แล้วหมาตัวไหนมันจะมารักละ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เป็นเรื่องที่โคตรเศร้า แต่โคตรชอบ เขียนดีมากค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด