คุณTHIP เราไม่ได้เรียกเรทติ้งให้ภีมน๊า...
ก็เรื่องมันเป็นแบบนี้อ่า...
คุณ patee ตอนนั้นเรายังเป็นตุ๊ดเด็กที่อ่อนต่อโลกอยู่อ่ะ.... เลยทำไรแบบนั้นลงไป
คุณnaumi เราก็ไม่ได้ดีอะไรมากหรอกนะ... ความรักทำให้ตาบอดต่างหาก
ส่วนไอ้เรื่องพล่าม... ไม่เป็นไรหรอก... เราจะได้เข้าใจความรู้สึกคนอ่าน...
คุณbroke-back ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะ...
มีให้ติดตามแน่ๆ คุณgift_deb
อ่านเรื่องกันต่อดีกว่า............................. เพิ่งพิมเสร็จสดๆร้อนๆ
#################################
--------------------- #### เรื่อง “ รักของเราสามคน ” (ฉบับเข้มข้น) ๑๑ #### --------------
คืนนั้นหลังจากที่เราซื้อของเสร็จเราก็ไปหาภีมที่คณะซึ่งพิมก็ไปช่วยด้วยเหมือนกัน
พอเราไปถึงก็ไม่กล้าเข้าไปเลยโทรไปภีมออกมารับที่หน้าคณะ
พอมันมาก็เข้ามาช่วยเราถือของ แล้วก็เดินเข้าไปข้างในด้วยกัน
ตอนที่เดินเข้าไปพิมมันก็หันมามองหน้าเราเป็นระยะๆ
เพราะมีแต่คนมองเรากะพิม เค้าคงแปลกใจกันที่มีคนแปลกหน้าเข้ามา
แล้วอีกอย่างคณะมันก็มีแต่ผู้ชายซะเป็นส่วนใหญ่ ก็ไม่แปลกที่เค้าจะมองเรากะพิม
พอเดินเข้าไปถึงตรงที่เค้าทำ cut-out กัน ภีมก็แนะนำเราและพิมกับพวกเพื่อนๆมัน
คือภีมมันเป็นแม่งานในงานนี้หนะ
พอแนะนำเสร็จก็มีเสียงเพื่อนมันแซวเป็นระยะๆ
“ สวยจังเลยคร้าบบบบบบบบบ ”
“ เฮ้ย... ไอ้ภีมคนนี้เหรอ....... เด็กเมิงอ่ะ..... ”
“ สวยจังคร๊าบบบบ... จีบได้มั้ยเนี่ย.................. ”
หลากหลายคำแซวที่มาเป็นระยะๆจนภีมต้องด่าออกไป
“ เงียบเลยพวกเมิง... เดี๋ยวเค้าก็กลัวกันหมดหรอก... ถ้าเค้าหนีกลับต้องทำกันเองนะเว้ย.....” ภีมตะโกนเสียงดัง
เรากับพิมก็ได้แต่ยืนขำ ส่วนเพื่อนภีมในกลุ่มที่เรารู้จักก็เดินมาทักทายเรากับพิม
“ หวัดปอ.... รบกวนหน่อยนะ... ” เพื่อนภีมคนนึงพูด
“ อย่าไปถือสาพวกนี้เลย... มันปากเสียไปงั้นแหละไม่มีไรหรอก ” บอยพูด
“ อืม..... ” เรากะพิมก็พยักหน้ารับ
“ แล้วนี่ซื้อของมาครบรึยังอ่ะ... ” เราถามบอยเพราะว่าสนิทกับบอยมากที่สุด
“ อ้าวปอ... มาด้วยเหรอ คิดถึงว่ะ ” ไข่พูดแล้วก็เดินเข้ามากอดเรา
ไข่เป็นเพื่อนในกลุ่มภีมอีกคนนึง ไข่เป็นคนใต้... แต่นิสัยดีมากๆ
ไข่มักจะเล่นถึงเนื้อถึงตัวเราเสมอ แต่อย่างมากก็แค่กอด ซึ่งเราก็ไม่ได้ถือตัวอะไร
เพราะรองจากบอยมาเราก็สนิทกะไข่...
“ เออ.. ภีมมันบอกให้มาช่วยอ่ะ พอดีว่างก็เลยมา ” เราพูด
“ เหรอ... ดีๆ จะได้มีอาหารหูอาหารตา ” ไข่พูดแล้วก็ทำท่าจะหอมแก้มเรา
“ เฮ้ย... ไอ้ไข่ มากไปแล้วเมิงอ่ะ ” ภีมพูดแล้วก็เดินมาดึงไข่ออกไป
“ อะไรว่ะ... แค่นี้ทำหวง ” ไข่พูดแซวภีม
“ ไม่ต้องมาปากมาก ไปทำงานของเมิงเลยไป ” ภีมพูดแบบไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
“ งั้นเราไปตรงโน้นก่อนนะปอ ” ไข่พูดแล้วก็ยิ้มหน้าบานแล้วก็เดินไป
ตอนนั้นคนอื่นๆก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองที่แบ่งงานกันไว้แล้ว
เราก็เลยยื่นเสื้อให้ภีม
“ อ่ะนี่... เสื่อที่ซื้อมาให้ ” เราพูด
ภีมก็รับถุงเสื้อไปแล้วก็เอาออกมาดูแล้วก็ยิ้มแบบชอบใจ
“ สวยว้ะ.... ชอบๆ ” ภีมพูดทั้งที่ยังยิ้มอยู่
“ ถูกใจอ่ะดิ... ก็เค้าเลือกเองกะมือ จะไม่ถูกใจแกได้ไง ” เราพูด
“ ขอบคุณคร๊าบบบ .... ค่าเสื้อกับค่าผลไม้เท่าไหร่อ่ะ ” ภีมพูดพร้อมกับหยิบกระเป๋าตังออกมา
“ ไม่เอาๆ เค้าซื้อให้ ” เราพูด
“ เอาไปเหอะ... แกซื้อของให้เค้าบ่อยแล้ว ” ภีมพูดพร้อมกับยื่นแบงค์ห้าร้อยให้เรา
“ บอกว่าไม่เอาไง... ซื้อให้ ” เราพูด
“ แกอ่ะ... อย่างงี้ทุกที ” ภีมบ่นด้วยน่าบึ้งๆ
“ ก็อยากซื้อให้ไง... เอามาแค่ค่าผลไม้ก็พอ ” เราพูด
“ อ่ะ... ” ภีมพูดแล้วยืนเงินมาให้เราสองร้อย
“ เอาแค่ร้อยเดียวพอ ” เราพูดแล้วยื่นแบงค์ร้อยคืนให้มันไปใบนึง
“ ทำไมอ่ะ? ” ภีมพูดหน้าบึ้ง
“ ก็มันไม่ถึงสองร้อยไง เอาแค่นี้แหละ ” เราพูดแล้วก็เก็บเงินใส่กระเป๋า
ภีมทำท่าเหมือนจะบ่นเราอีกรอบ เราเลยพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“ มีแบบรึยังล่ะ? ” ภีมทำหน้าบึ้งๆที่เห็นว่าเรารู้ทันมัน แล้วมันก็บอกว่า
“ ยังไม่มีเลย.. ”
“ ทำ cut-out เกี่ยวกับเรื่องอะไรล่ะ ? ” เราถาม
“ ทำเกี่ยวกับ........................................... บลา บลา บลา บลา บลาๆๆๆๆๆ ” ภีมก็อธิบายให้เราฟัง
ส่วนเรากะพิมก็ช่วยกันออกความเห็นว่าน่าจะเป็นแบบนั้นแบบนี้
และก็ช่วยกันเสนอทางเลือกให้ภีมเลือกอีกทีว่าอยากได้อะไรแบบไหน
“ โอเค.. งั้นก็ตามนี้แล้วกัน ” เราพูดหลังจากที่ตกลงกันเสร็จ
“ อุปกรณ์มีเตรียมไว้มีพร้อมรึยังล่ะ ? ” พิมถาม
“ ก็ไม่แน่ใจว่ะ เค้าไม่รู้ว่ากัถูกรึป่าว ?? ” ภีมพูดด้วยท่าทางลังเล
“ อยู่ไหนอ่ะ? ” พิมถาม
“ งั้นเดี๋ยวภีมพาไปดู ” ภีมพูด
“ พิมงั้นเมิงไปดูทางโน้นแล้วกัน เดี๋ยวกูแบ่งงานให้เริ่มทำส่วนที่ทำก่อนได้ไปก่อน ” เราพูด
“ เออ.. ” พิมพูด
จากนั้นภีมกับพิมก็เดินแยกออกไป ส่วนเราก็ไปแบ่งงานให้พวกเพื่อนภีมโดยที่มีบอยคอยช่วยประสานงานอีกที
พอแบ่งงานกันเสร็จ แต่ละคนก็แยกกันไปทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
เราก็มานั่งร่างแบบลงบนแผ่นกระดานที่ต้องใช้ทำเป็น cut-out
ส่วนพิมก็ช่วยกันเดินดูงานในส่วนการลงสีอีกทีว่าใช้ได้รึป่าว มีอะไรต้องแก้ไขตรงไหนมั้ย
ภีมก็ดูตรงส่วนการตัดไม้เพื่อทำเป็น cut-out แต่มันก็จะเดินมาดูตรงส่วนอื่นด้วยเป็นพักๆ
เราก็นั่งวาดรูปไปเรื่อยๆเพื่อส่งไปให้ลงสีอีกที แต่พอเรานั่งทำไปสักพักก็รู้สึกว่าตัวเองโดนมอง
เราก็เลยเงยหน้าขึ้นมา แล้วก็พบกับเพื่อนในกลุ่มภีมคนนึง ชื่อ หนุ่ย
ถึงเราจะรู้จักเพื่อนภีมหลายคน แต่เราก็ไม่ได้สนิทสนมทุกคน และหนุ่ยก็เป็นหนึ่งในนั้น
ทุกครั้งที่เราไปหาภีมแล้วมันอยู่กะเพื่อนในกลุ่มมัน คนอื่นๆก็จะคุยกับเราปกติ
คุยมากคุยน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าใครสนิทกับเรามากกว่าก็จะคุยกับเรามากหน่อย
ซึ่งเรากับหนุ่ยไม่เคยคุยกันเลยสักครั้งเดียว
สภาพของหนุ่ยที่เราเห็นตอนนี้ก็คือในมือถือเบียร์อยู่ และยังมีเบียร์ที่ยังไม่เปิดอีกสองสามขวด
ซึ่งดูท่าแล้วหนุ่ยก็คงจะดื่มมาก่อนที่มาที่นี่แล้ว เพราะมันดูเมาๆ
ตอนแรกที่เค้าประชุมงานกันเราก็ไม่เห็นมันเลย เพิ่งจะเห็นมันนี่แหละ
“ อยู่คณะอื่นไม่ใช่เหรอ แล้วมาวุ่นอะไรที่นี่? ” หนุ่ยพูดขึ้นด้วยเสียงและท่าทางที่ดูไม่เป็นมิตรเอามากๆ
“ ก็ภีมให้มาช่วยก็เลยมา ” เราพูดด้วยเสียงเรียบๆ
“ เป็นอะไรกับมัน... มันใช้แค่นี้ก็มาเลยเหรอ ? ” หนุ่ยพูดด้วยท่าทางกวนส้นตีนสุดๆ
“ เป็นเพื่อน.... แล้วพอดีว่างก็เลยมาช่วย ” เราพูด และพยายามระงับอารมณ์โกรธไว้ให้ได้มากที่สุด
เพราะเกรงใจภีมมัน
“ มาช่วยขนาดนี้... สงสัยเป็นมากกว่าเพื่อนแล้วมั้ง?? ” หนุ่ยพูด
“ เฮ้ย.. ไอ้หนุ่ย.. เค้าทำงานกันอยู่เมิงหายไปไหนมาว่ะถึงเพิ่งโผล่หัวมา ” บอยพูด เพราะบอยเดินเอาน้ำมาให้เรากินพอดี
“ ไปแดกเบียร์มา ” หนุ่ยพูดหน้าตาเฉย พร้อมกับกระดกเบียร์กิน
“ พูดมาได้หน้าด้านๆนะเมิง.... ” บอยพูด
“ กูก็มาแล้วนี่ไง.. มีอะไรให้ช่วยก็ว่ามา ” หนุ่ยพูด
“ เมิงไปช่วยไอ้ภีมโน่นไป... อยู่ที่มันเลื่อยไม้กันนั่นหนะ.. ” บอยพูด
“ อ้าวเหรอ... กูนึกว่าเดี๋ยวมันจะมาเฝ้าเด็กมันซะอีก ” หนุ่ยพูดด้วยท่าทางกวนส้นตีนอีกครั้ง
เหมือนตั้งใจจะพูดกระแทกเรา เราก็เลยหันหน้าไปมองบอย
“ ไม่ช่วยงานแล้วยังมาปากหมาอีกนะเมิง... ” บอยพูด
“ เป็นเดือดเป็นร้อนนะเมิง... ไอ้คนดี.. ” หนุ่ยพูด
“ อ้าว.. ไอ้หนุ่ย ไปไหนมาว่ะถึงเพิ่งโผล่หัวมา ” ภีมพูด
“ สนใจกูด้วยเหรอ ?? ” หนุ่ยพูด
“ พูดเฮี้ยๆนะเมิง.... มาช่วยกูนี่มา... ” ภีมพูด
“ เออ.. ไอ้ภีมเมิงลากมันไปไกลๆจากตรงนี้เลยไป... แม่งมานั่งปากหมาอยู่ได้ ” บอยพูด
“ เฮี้ย... เมาเหรอว่ะ... ไปแดกกะใครมาเนี่ย.. ” ภีมพูดหลังจากที่หนุ่ยมันยืนแล้วเซไปที่ภีม
“ แดกคนเดียวนี่แหละ ” หนุ่ยพูดแบบไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
“ ดีจริงๆนะเมิง เค้าทำงานกันแต่แม่งไปนั่งแดกเบียร์ ” ภีมพูดด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ
“ ทำไมอ่ะ... กูอยากทำไรกูก็ทำ ” หนุ่ยพูดแล้วสะบัดแขนภีมออก
“ ทีหลังก็เลือกทำเรื่องดีๆบ้างสิเมิงอ่ะ ” บอยพูดแบบโมโหสุดๆ ตอนที่พูดก็เอามือชี้หน้าหนุ่ยด้วย
“ กูหนะ..คิดได้อยู่แล้ว... แต่พวกเมิงก็มีคนมาช่วยแล้วหนิ... ” หนุ่ยพูดแล้วก็หันหน้ามาทางเรา
“ เฮ้ย... เริ่มปากหมาใหญ่แล้วนะเมิง... ” ภีมตะคอดเสียงดังจนทำให้เพื่อนมันที่อยู่แถวๆนั้นหันมามองกันใหญ่
พิมก็เลยวิ่งมาที่เราเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“ แหม... แตะไม่ได้เลยนะเมิง.... มะปรางนี่ก็ใจกว้างดีว่ะ... กูน่าจะมีแฟนใจกว้างเป็นแม่น้ำแบบนี้บ้าง ” หนุ่ยพูดด้วยหน้ากวนส้นตีน
“ ไปไหนก็ไปเลยป่ะ... ไม่ช่วยแล้วยังมาเห่ารบกวนคนอื่นอีก ” ภีมพูดแล้วก็ผลักอกหนุ่ยอย่างแรงจนมันเซไปเกือบจะล้ม
“ เออ... กูไปก็ได้... เฮี้ยเอ๊ย..... ” หนุ่ยพูดแล้วก็เดินออกไป
“ ปอ... ไอ้หนุ่ยมันได้มาปากเสียอะไรด้วยป่าว ? ” บอยหันมาถามเราหลังจากที่หนุ่ยเดินออกไปแล้ว
“ ก็นิดหน่อยหนะ... แต่ช่างมันเถอะ เราไม่ถือสาคนเมาหรอก ” เราพูด
“ ดีแล้ว... อย่าไปสนใจคำพูดมันเลย.. ” บอยพูด
“ ทำไมทะเลาะกันแรงจัง เพราะเค้าเข้ามาวุ่นวายอะไรรึป่าว หนุ่ยมันเลยไม่ค่อยพอใจ ” เราพูด
“ ไม่หรอก... แกไม่ต้องคิดมาก มันเฮี้ยแบบนี้ประจำ ” ภีมพูดกับเรา
“ อืม.... ” เราก็ได้แต่ตอบไปเงียบๆ
“ เหนื่อยป่าว... เมื่อยพักก่อนก็ได้นะ ” ภีมพูด
“ นิดหน่อย... แต่ไม่เป็นไร นี่ก็แผ่นสุดท้ายแล้ว...” เราพูด
พอเราพูดเสร็จเสียงโทรศัพท์ภีมก็ดังทันที ภีมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วก็บอกเราว่า
“ งั้นเค้าไปดูตรงโน้นก่อนนะ... ” แล้วภีมมันก็เดินไป
“ กูก็ไปดูตรงที่ลงสีก่อนนะ.. ” พิมพูดหลังจากที่ยืนงงๆ เงียบๆ มาพักใหญ่
“ เออๆ.. ใกล้เสร็จยัง... ” เราถามพิม
“ เสร็จไปสามแผ่นแล้ว รอให้สีแห้งอยู่ ” พิมพูดแล้วก็เดินไป
“ ปอดินสอนี่เหลาป่าว?.. ” บอยพูดหลังจากมองเห็นดินสอทู่ๆสองสามแท่งข้างๆเรา
“ เหลาๆ... บอยว่างใช่ป่ะ เหลาให้เราหน่อยดิ ” เราพูด
“ ได้เลย... ” บอยพูดแล้วก็นั่งเหลาดินสออยู่ข้างๆเรา
เราก็นั่งร่างแบบลงบนแผ่นไม้ต่อไป
เวลาผ่านไปประมาณเที่ยงคืน งานในหลายๆส่วนก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้ก็แค่รอให้สีแห้ง เพื่อนที่จะเขียนตัวอักษรลงไปอีกที
“ ปอกลับเลยก็ได้นะ เดี๋ยวที่เหลือเราเคลียร์เอง ” บอยพูด
“ ให้เราช่วยลงสีตัวอักษรมั้ย... เราไม่ได้รีบไปไหน ” เราพูด
“ ปอร่างแบบไว้แล้วใช่มั้ย? ” บอยพูด
“ เรียบร้อยแล้ว... ” เราพูด
“ งั้นเดี๋ยวเรากับเพื่อนทำกันเองก็ได้ ปอกลับก่อนเหอะ วันนี้ให้ปอช่วยเยอะแล้ว ” บอยพูด
“ โอเค... งั้นเรากลับก่อนก็ได้.... ” เราพูด
เรากะพิมก็เลยเดินไปเอากระเป๋ากัน.. แล้วเราก็เห็นถุงเสื้อที่เราซื้อให้ภีมวางอยู่ที่พื้นแต่เจ้าตัวหายไปไหนก็ไม่รู้
เราแอบเคียงนิดหน่อย ที่มันไม่ดูแลของที่เราซื้อให้เลย เอามาวางทิ้งๆขว้างๆแบบนี้
แต่เรามองหาภีมแต่ก็หาไม่เจอก็เลยเดินออกไปว่าจะกลับ แต่ภีมก็เดินเข้ามาพอดี
“ หายไปไหนมาตั้งนาน ” เราอดภามไม่ได้ เพราะว่าภีมมันหายออกไปพักใหญ่
ที่เรารู้เพราะว่าเห็นเพื่อนมันเรียกหามันกัน แต่ก็ไม่รู้ว่ามันหายไปไหน
“ ออกไปซื้อของข้างนอกมา ” ภีมพูด
“ จริงอ่ะ ... อะนี่เสื้อ.... อุตส่าห์ซื้อให้ก็เอามาทิ้งๆขว้างๆ ” เราพูโด้วยเสียงเคืองๆ
“ โอ๊ยๆ... โทษทีๆ... ” ภีมพูดแล้วก็หยิบเสื้อไปถือไว้
“ ภีมๆ... ลืมกระเป๋าตังค์ ” เสียงผู้หญิงคนนึงดังมา
พอเราหันไปมองก็เห็นมะปรางวิ่งเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าตังค์ของภีม
“ เอ้อ.. ลืมเลย ” ภีมพูด แต่มันทำหน้าเสียๆ
“ เฮ้ย... กูกลับก่อนนะ... ” เราพูด พยายามแสดงให้มะปรางเห็นว่าเรากะภีมเป็นแค่เพื่อนกัน
แต่ในใจตอนนั้นรู้สึกน้อยใจจริงๆนะ ที่มันแอบออกไปกับมะปราง
ทั้งๆที่เราก็มาช่วยงานมันแท้ๆ
“ อย่าเพิ่งดิ... อยู่ไปกินไรกันก่อน ” ภีมพูด
“ ไม่ดีกว่าว่ะ... กูนัดกะเพื่อนไว้ ” เราพูด
“ เออ... ช่าย.... พริกมันรออยู่ ” พิมเข้ามาช่วยพูดอีกแรง
“ งั้นกลับก่อนเหอะ ” ภีมพูดแม้ว่าท่าทางมันจะยังไม่อยากให้เรากลับไปด้วยสภาพแย่ๆแบบนี้
“ ไปและ... ” เราพูดแล้วก็เดินมาที่บอย
“ บอยเรากลับก่อนนะ ” เราพูด
“ อ้าว... ไม่รอไอ้ภีมมาก่อนเหรอ?? ” บอยพูด
“ เราเจอมันแล้วแหละ... เดินมาโน้นแล้วไง ” เราพูดแล้วหันไปมองภีมที่กำลังเดินมากับมะปราง
“ อ้าว... มะปรางมาได้ไง ” บอยพูดด้วยท่าทางงงๆ
“ ไปถามภีมเองแล้วกัน เรากลับแล้ว... ” เราพูด
จากนั้นเรากะพิมก็เดินแยกออกมา แล้วก็กลับหอกันเลย
“ กูไม่ค่อยชอบมะปรางเลยว่ะ.. ” พิมพูด
“ ช่างเค้าเหอะเมิง... เค้าก้อยู่ส่วนเค้า ” เราพูด
“ แต่เมื่อกี๊เค้าก็ทำให้เมิงเซ็งไม่ใช่เหรอ ?? ” พิมพูด
“ ก็จริง... แต่กูจะทำไงได้ว้ะ... ที่กูอยู่ในสภาพนี้กูก็เลือกเอง แล้วจะไปโทษใครได้ ” เราพูด
“ เมิงนี่ใจแข็งดีว่ะ... ทนอยู่ได้ไงว่ะ.. ” พิมพูด
“ ความรักทำให้กูตาบอด.... แต่ก็กูรักอ่ะ... กูไม่รู้จะทำไงได้ ” เราพูด
“ เมิงก็เลยเลือกทางนี้เนี่ยนะ.. ” พิมพูด
“ ถ้าให้กูเลิกยุ่งกะมันกูก็ทำไม่ได้ ถึงอยู่แบบนี้มันจะทุกข์แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีสุขบ้าง.... ” เราพูด
“ ดีเหลือเกินนะเมิง... ” พิมพูด
หลังจากที่เราไปส่งพิมที่หอเราก็ขับรถกลับหอตัวเอง
กลับมาถึงเราก็เข้าไปอาบน้ำ ออกมาดูที่โทรศัพท์ก็เห็นว่ามีมิสคอลหลายสายเลย
เปิดดูก็เห็นว่าเป็นภีมที่โทรมา เราก็ยังไม่ได้โทรกลับแต่ไปแต่งตัวก่อน
ตอนที่แต่งตัวอยู่ภีมก็โทรมาอีกหลายรอบ แต่เราก็ไม่ได้รับ
พอแต่งตัวเสร็จเราก็เดินมาดูที่โทรศัพท์ก็เห็นข้อความที่ภีมส่งมาให้
วันนี้ขอบคุณมากนะที่มาช่วย.. ขอบคุณด้วยที่ซื้อเสื้อให้...
วันนี้ถ้าทำไรไม่ดีอย่าน้อยใจกันนะ......
ฝันดีคับ จุ๊บจุ๊บ....
เราอ่านข้อความแล้วก็รู้สึกดีเล็กๆที่มันยังแคร์ความรู้สึกเราบ้าง
แต่ความน้อยใจก็ยังคงมีอยู่....
มันส่งข้อความไว้แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องคุยกัน เพราะวันนี้เราก็เหนื่อยมากแล้ว
ขี้เกียจมาคุยกันอีก.... เดี๋ยวจะทะเลาะกันป่าวๆ
อ่านข้อความเสร็จเราก็เข้านอนเลย.......
จบตอน....
#######################################################
หมดแล้วนะ.. สำหรับวันนี้