รักต้องสูบ....รีเทิร์น ออฟ อาอึ้ม....น้องเคี๊ยงคนงามคัมแบ็คแล้วเจ้าค่ะ
ตอน เด็กในสังคัดอีเคี๊ยงมีอะไรที่อีเคี๊ยงควรจะต้องรู้ไหม....????
กองเอกสารตั้งใหญ่ ถูกกระแทกโครมลงบนโต๊ะทำงานของฉัน เสียงดังเอาการจนเผลออุทานออกไปว่า
'แหก' แล้วพอฉันเงยหน้าขึ้นไป ก็พบกับสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ของนังปาล์ม น้องร่วมงานสุดซี๊ เปล๊า...มันไม่ได้จ้องฉันหรอก แค่ถอนหายใจอย่างหงุดหงิดเท่านั้นแหละ
“ปาล์ม....เอ่อ...พี่”
“งานของพี่ผมทำให้เสร็จหมดแล้วนะ พี่ตรวจดูอีกทีก็แล้วกัน”
“อ่าไม่ต้องหรอกน่า...แหม...พี่เชื่อใจแก จะทำงานซ้ำซ้อนทำไมเนอะ”
“หึ...เชื่อใจงั้นเหรอ”
มันเป็นอะไรของม๊าน ท่าทางเหมือนกับคนที่ประจำเดือนกำลังจะมางั้นแหละ อีเคี๊ยงไม่เคยมีเมนส์เสียด้วยสิ แล้วนังปาล์มมันก็ผู้ชายธรรมดา ๆ นี่นะ...อะไรแว๊!!!
ผู้ชายธรรมดา....ที่ถูกผู้ชายพรากจูบ ในคืนพายุกระหน่ำ....อั๊ยย๊ะ!!!!
สายตาเย้ยหยันจากพวกป้าแก่ลอยมาเป็นระลอก พร้อมเสียงซุบซิบ ฉันหันควั่บไปมองด้วยสายตาที่กินเลือดกินเนื้อ สภาพฉันในตอนนี้พร้อมจะมีเรื่องเหมือนกัน หลังจากถูกเหวี่ยงเข้าให้จัง ๆเมื่อครู่
คุณประวิทย์ส่งสายตาออดอ้อนเหมือนลูกหมาจากในห้องทำงานของแก ฉันยิ้มเจื่อน ก่อนจะลงมือโพสท์งานในระบบให้เสร็จสิ้น...ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะเป้าหมายกำลังอารมณ์เสีย!!!
“หายไปเป็นอาทิตย์....ปล่อยให้เพื่อนร่วมงานต้องมาทำงานของตัวเอง....น่าจะลาออกไปซะเลยนะเคี๊ยง” เสียงถากถางของนังพีทตุ๊ดแอ๊บ ลอยเข้าหู ขณะที่ฉันกำลังจัดเรียงเอกสารที่เสร็จสิ้นทุกกระบวนความแล้ว ลงในลังกระดาษ ฉันเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบกับภาพของนังตุ๊ดงูพิษ กำลังแลบลิ้นยาว ๆ ของมันออกมา เอ๊ะ....งูหรือเหี้ยวะ!!!
“ชั้นป่วย”
“สำออยจริงนะ....”
“มีใบรับรองแพทย์ย่ะ ทำไม....เป็นฝ่ายบุคคลรึไง....ที่นี่เค้าจ้างแกทำสองตำแหน่งเหรอยะ”
“อ่ะ...อ้าว...ไม่ใช่ว่าใช้สิทธิลูกน้องคนโปรด....ไม่สิ ใช้ลิ้นเลียจนตัวเองมีอภิสิทธิ์พิเศษเหนือคนอื่นหรอกเรอะ ป่วยตอนปิดบิญชีเนี่ยนะ ช่างเหมาะเจาะเสียจริงนะเธอ...ไม่ต้องเป็นฝ่ายบุคคล ก็ช่วยบริษัทรักษาผลประโยชน์ได้นี่ จริงมั้ย....แม่เหลือบไร”
อีพีท ตั้งแต่คราวโน้น แกก็ชักจะสาวสะบั้นหั่นแหลกขึ้นทุกวัน แล้วนี่เจาะหัวนมมาใหม่ล่ะสิ นูนออกมาชัดเลย!!!
“ไปเห่าหอนที่อื่นไป๊...รำคาญย่ะ”
ฉันโบกมือไล่เห็บไร แมงวี่แมงวัน....ที่คอยจะมาตอมแผลฉันอยู่เรื่อย ไปให้พ้น ๆ มันหัวเราะเยาะ ก่อนจะเดินนวยนาดออกไป อีดอกทองชุบ....ทองธรรมดาเดี๋ยวนี้มันแพ๊งแพง มันน่ะเป็นแค่ทองเก๊ก็พอ เชอะ!!!
พักเที่ยง....“ปาล์ม...หิวยังวะ ไปกินเตี๋ยวปลากันดีฝ่า”
“พี่ไปเหอะ...ผมไม่หิว”
“น่า...รีแล๊กซ์....ไปหาของหร่อย ๆ กิน แล้วก็คุยกันนิด ๆ หน่อย ๆ ช่วงที่พี่...”
“อย่ามายุ่งกับผม!!!”
อ๊ายยยยยยยย ฉันโดนน้องตะคอก หน้าชาไปเลยเว้ยยยย.....ว๊อท...แฮพเพ่นนน....เกิดอ่ะหยังกับข่อย...
“เออ....กูไม่ยุ่งกับมึงก็ได้ว่ะแสดดด”
กรี๊ดดดลืมตัว ลืมไปว่าต้องช่วยหัวหน้า ฉันเหลือบมองคุณประวิทย์ โล่งอกที่แกไม่อยู่ ไม่งั้นมีหวังฉันได้อดทุกสิ่งอย่างเป็นแน่แท้
โกรธ ๆ ๆ ๆ ๆคิดว่าตัวเองเป็นใครน่ะ แค่เอางานของเค้า(ที่ดองเอาไว้)ไปทำ...แค่เนี๊ยะ....บุญคุณมากเลยนะ คบได้มั้ยฮึ!?! ไอ้คุณประวิทย์...เด็กของคุณน่ะ มันใช่ม่ายด๊ายยย เลิกชอบหมอนี่แล้วไปชอบคนอื่นเหอะว่ะ...
“ป้าคะ....เล็กยำหนึ่ง...ใหญ่เย็นยำหนึ่ง.....หมี่ขาวยำแห้งอีกหนึ่งค่า”หิว ๆ ๆ เวลาหิวแล้วองค์จะประทับ ฉันโกรธนะ แม้ว่าฉันจะหลอกใช้มันเป็นเครื่องมือก็เหอะ แต่อย่างน้อย ๆ ฉันก็แค่ช่วยให้คนสองคนได้มีโอกาสเข้าใกล้กัน ไอ้ส่วนจะเอาหรือไม่เอากัน ฉันไม่ได้ยุ่งอยู่แล้ว.....รึเปล่าวะ
ไม่ยุ่งงั้นเหรอ แต่ไอ้ที่ทำนี่...คือช่วยเค้าเต็ม ๆเลยไม่ใช่รึไง แล้วถ้าอีตาหัวหน้าเกิดบ้าขึ้นมา แล้วเล่นสกปรก ข่มขืนน้องมันล่ะฟะ ตราบาปไม่ประทับอยู่กลางหน้าผากอีเคี๊ยงไปตลอดชีวิตรึไงแว๊....
“บะหมี่น้ำใสชามครับป้า”อีปาล์ม....อีเด็กเวร อยู่ ๆ มันก็เสนอหน้ามานั่งประจันหน้ากับฉันเฉ๊ย ไอ้ที่ขึ้น ๆ น่ะลงแล้ว จะมีก็แต่รู้สึกผิดนั่นแหละ ถึงได้หันหน้าหลบมันแบบนั้น....แล้วมันก็ยังจะลอยหน้าลอยตาผิวปาก กวนประสาทอยู่นั่นแหละ!!!
“กินเยอะเนอะ...สามชาม”
“อย่ามายุ่งกับพี่”
“โอ้โหเด็กเนอะ...มีเอาคืนด้วย”
“บ๊ะ....ก็ลองมาโดนเหวี่ยงดูบ้างเด้...ห่านิ”
“หึหึหึ”
“หัวเราะไร”
“เปล่านี่”
หน้าตาเหมือนรู้ทันแบบนั้นน่ะ....ชักทะแม่ง ๆ แฮะ
“เลิกงานแล้วอย่าหนีกลับไปก่อนล่ะ ผมมีเรื่องจะคุยกับพี่”
“เรื่องไรวะ”
“ไม่บอก....ชิส์....ผมไม่นั่งกับพี่หรอก พอดีมันไม่มีที่ว่างน่ะ ตอนนี้มีแล้ว ผมไปนั่งกินตรงนั้นดีกว่า”
“เชิญเถอะย่ะ พ่อมหาจำเริญ”
หงุดหงิด ๆ ๆ
.
.
.
.
.
.
“น้องเค้าว่าไงอ่ะเคี๊ยง”ไอ้เด็กละอ่อน ยอดชายนี่ก็อีกคน ที่จะทำให้อีเคี๊ยงประสาทแดก....หัวหน้าที่เคยดูตัวโต๊โต ตอนนี้หดเหลือตัวแค่เนี๊ยะ....ให้ตายเหอะ เผลอใจไปชอบได้ไงน่ะกู...
แต่หัวหน้าในลุคอ้อน ๆ แบบนี้มันก็น่า.....
“ไม่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”“ไม่อะไรเคี๊ยง”
“เห?.....ไม่...ไม่....ไม่รู้สิคะ คือน้องเค้าแปลก ๆ เหมือนรู้ว่าเรา...”
“ทำไงดีอ่ะเคี๊ยง....โถ่เอ๊ยยย ผมทำทุกอย่างพังหมด ผมน่าจะเชื่อคุณ ทุกอย่างกำลังไปได้สวยแท้ ๆ ไม่น่าวู่วามเลย”
“อย่าฟูมฟายไปเลยน่ะ คุณเองก็ใช่ว่าจะเก่งไปเสียทุกเรื่อง ก็เคยชอบผู้ชายเป็นครั้งแรกไม่ใช่เหรอ ไม่พลาดบ้างก็บ้าแล้ว”
“ขอบคุณที่เข้าใจกันนะเคี๊ยง”
“เคี๊ยงจะช่วยเท่าที่ช่วยได้ละกัน คุณไม่ต้องให้อะไรเคี๊ยงแล้วล่ะ”
พูดอะไรไปวะเนี่ย นางเอกไปมั้ง....ทำอะไรให้ใครฟรีเป็นเหรอมึงน่ะ ฉันรีบต่อทันที ก่อนที่แกจะเพ้อไปไกล
“เอาไว้งานเสร็จ คุณค่อยตอบแทนทีเดียวละกัน”
“ค่อยสมเป็นเคี๊ยงของผมหน่อย”
“ใครเป็นของ ๆ คุณยะ....อย่างคุณน่ะ เคี๊ยงไม่แลหรอกย่ะ....ไปได้แล้ว แยกย้าย เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเคี๊ยงอู้งานมาหลับในห้องน้ำอีก...ซึ่งขอบอกไว้ตรงนี้ ว่าเคี๊ยงไม่เคยทำนะ....นอนเข้าไปได้ไงในห้องน้ำ ผนังก็แข็ง เหม็นแทบอ้วก นอนแล้วปวดเมื่อย....อ๊ะ....เคี๊ยงไม่เคย ไม่เคยจริง ๆ นะคะคู๊ณณณณ”
“ผมเชื่อเคี๊ยง....ผมเชื่อคุณ”
เชื่อกับผีอ่ะดิ...
กินปูนร้อนท้องก็เงี๊ยะ....อีเคี๊ยงเอ๊ย...หลายคดีแล้วนะมึงน่ะ
.
.
.
.
.
.
.
“นั่นพี่จะหนีผมไปไหน”ไอ้แมงกะไซด์แว้นซ์ ๆขี่ชะลอตามฉัน ที่เดินก้มหน้าอยู่บนฟุตบาท ฉันหันไปก็พบกับไอ้หน้าอ่อนแสยะยิ้มชั่วร้ายให้ฉัน
ขนลุกเลยแฮะ....ไอ้คุณประวิทย์ มึงทำกูซวยแล้วไงล่ะ
“ขึ้นมาซะดีดีคนสวย อย่าให้ต้องใช้กำลัง....เร็ว”
“ขึ้นก็บ้าแล้ว....เผ่นล่ะกู...อยู่ก็ไม่ใช่อีเคี๊ยงสิ”
ฉันวิ่งหนีมันด้วยความเร็วระดับแชมป์มัธยมต้น...วิ่งไปก็หันไปมองมันด้วยความระแวง มันก็ขี่ชะลอของมันนั่นแหละ โอ๊ย...คิดว่าพ้นแล้วเชียว แต่เจือกไม่ดูตาม้าตาเรือ หน้าเลยเสยเข้าให้เต็ม ๆ กับต้นไม้ที่หลวงเขาปลูกเอาไว้
เจ็บง่ะ....พังมั้ยหน้าฉานนนน.....ดีไม่โดนกิ่งก้านใบ ทิ่มตาเตอบอด
.
.
.
.
.
“เห็นไหม...บอกให้ขึ้นดีดี เจ็บตัวจนได้เลย”
อีเคี๊ยงไม่เคยสิ้นฤทธิ์เดช ฉันเอาหัวของตัวเอง ที่สวมหมวกกันน๊อคอีกใบของมัน โขกเข้าให้ มันขี่เซไปมาจนฉันกรี๊ดลั่น แล้วมันก็จอดรถอีกครั้งเพื่อด่าฉัน
“อยากตายรึไงฟะ”
“ก็แล้วจะพากูไปตายที่ไหนล่ะฟะ”
“บอกแล้วไงว่ามีเรื่องต้องคุยกันน่ะ”
“เรื่องไรยะ”
“เรื่องที่พี่หลอกใช้ผมไง.....ไอ้โป่งหินเหล็กไฟ”
ฉันเงียบ ไม่ใช่หายบ้า แต่มันกี่ครั้งกันแล้ว ที่โดนเรียกแบบนี้ มันขี่ออกไปอีกครั้ง แล้วฉันก็....
“แย๊กกกกกกก”
“อย่าทำรถส่ายสิวะ”
“ก็ถอนคำพูดก่อนเซ่”
“เออ...ไม่โป่งก็ได้...สวยอย่างกับแป้ง อรจิรา....สุด ๆอ่ะเพ่”
หน็อย....ทำไมใคร ๆ ชอบเรียกเคี๊ยงว่าพี่โป่ง หินเหล็กฯ ทั้ง ๆ ที่กูออกจะผอมเพรียว สลิม-อัพ เรียกเป้ ไฮร๊อคหรือต่อ วงทู กูยังพอให้อภัยได้ แค่ไว้ผมยาว กับลืมแว๊กซ์หนวดแค่เนี๊ยะ...มันเหมือน ผช. ตรงไหนหา? ออกจะเซ๊ะซี่เหมือนจ๊อยซ์ทีเค....
“แล้วนี่จะพาไปไหน”
“หาที่คุย”
“ร้านอาหาร?”
“ฝันไปเหอะ....คิดจะเนียนกินฟรีอีกอ่ะดิ”
“อ๊ายยย อีน้องบ้า รู้ทัน”
“ไม่ใช่แค่เรื่องกิน เรื่องอื่นผมก็รู้ทันพี่...ไอ้ตัวแสบ”
เอื๊อก....นรกมาเยือนกูล่ะสิ
.
.
.
.
.
“จะปล้ำชั้นสินะ หน็อย คิดเคลมกันเห็น ๆ ถึงได้พาขึ้นห้องแบบนี้ ไปรินน้ำมาแก้วนึงซิ”
น่ากลัวมาก โดนผู้ชายลากขึ้นห้อง ฉันมองตามไอ้โย่งหัวฟู ตัวผอมบักโกรกเดินหายเข้าไปในครัว สักพักมันก็กลับมาพร้อมน้ำแก้วโต...ห่ะ....ประชดกูเร๊อะ
“ใครจะปล้ำตัว...ดูสภาพซินั่น อย่างกับผีบ้า เละไปทั้งตัวแล้ว”
“ปากร้ายนะแกน่ะ”
“แต่งหน้าซะเข้ม คิดว่าสวยรึไงยัยป้าแก่ อากาศเมืองไทยมันร้อนนะ หน้าป้าน่ะ ตกเย็นมันก็ละลาย เสียดายเนอะ อุตส่าห์มีหนุ่มซื้อเครื่องสำอางเคาท์เตอร์แบนด์ให้ทั้งที”
“แกรู้”
นั่นไง ฉันว่ามันอ่ะรู้ ว่าแต่ฉันแต่งหน้าแย่เหรอ เห็นป๊ากับอีม้งทักว่าซีด เลยละเลงซะหน่อยให้มันมีเครื่องเครา...
“เฮ้อ....ใครไม่รู้ก็บ้าแล้ว อยู่ๆ ก็มาพร่ำเพ้อพรรณนาถึงหมอนั่น แล้วยังจะมาอ้าง หาเรื่องให้ผมไปเจอมันอีก แล้วที่ร้ายกาจที่สุด สืบประวัติผมเนี่ยนะ แม่ตำรวจอินเตอร์เน็ต”
“เขิล~”
“เดี๋ยวเตะตกตึกเลยหนวด!!!...แล้วอีกเรื่องน่ะนะ อยู่ดี ๆ เด็กแนวอย่างพี่ก็เกิดหันมาบ้าแบรนด์เนม แถมยังเปลี่ยนกระเป๋าออกบ่อยปานนั้น จะไม่ให้คนเค้าสงสัยได้ไงวะ”
“แหะ ๆ...โกรธพี่เหรอปาล์มจ๋า”
“ก็เออสิ แล้วจะโกรธมากกว่านี้ ถ้าผมตกเป็นของมันน่ะ ผมยังเวอร์จิ้นนะ แล้วผมก็ไม่อยากให้ครั้งแรกของผม เป็นไอ้ผู้ชายตัวโตหน้าเถื่อนสวมเสื้อยืดวงsex pitol ไอ้หมอนั่นมันร๊อคเก๊....เสียงเรียกเข้าเป็นเพลงเซลีน ดิออนน่ะเฮ้ย....รับไม่ได้”
“หัวหน้าไม่ได้หน้าเถื่อนนะยะ ออกจะคมเข้มเกาหลี ตอนโกนหนวดน่ะหล่อจะตาย ตาต่ำนะแก”
“ยังจะมาเพ้อเจ้ออีกตุ๊ดเอ๊ย”
“แอ๊”
ช่วยด้วย อีเคี๊ยงโดนเฮดล็อค หายใจ....ไม่...ออก....
“ไปบอกแกซะ คุณเทพบุตรของพี่น่ะ...บอกว่าทุกอย่างมันจบแล้ว”
“แกบอกเองสิยะ โอ้ยยยย กระดูกกระเดี้ยวแทบหัก เล่นบ้าอะไรของแก”
“พี่เป็นคนเริ่ม พี่ก็ต้องจบมันเอง โธ่พี่....ไม่ละอายหรือไง หลอกใช้คนเพื่อเงินกับกระเป๋าแบนด์เนมเนี่ย....มันทู่เรศที่สุด ไม่อยากจะด่าเลยนะเห็นเป็นพี่เป็นเชื้อ....ไม่รักกันนะ กระทืบตายไปแล้ว”
“แกมันจะไปรู้อะไร เด็กอย่างแกน่ะ แค่เข้ามหาลัย พ่อก็ซื้อคอนโดให้อยู่แล้ว จะมาเข้าใจอะไรกับชีวิตปากกัดตีนถีบอย่างพี่”
“พี่รู้มั้ย เพราะเป็นพี่ไงผมถึงโกรธไม่ลง ถึงจะเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน แต่ไม่รู้สิ.....พี่มันโครตแสบ แต่ผมกลับเข้าใจพี่ว่ะ แต่เฮ้ย...พี่ทำแบบนี้ คนที่อยู่ข้างหลังพี่เค้าจะภูมิใจเหรอ”
“ภูมิใจสิ....ตอนไถกระเป๋ากุ๊ดจี่มาได้ พ่อพี่แทบจะกระโดดขี่คอ น้องพี่มันยังชมว่าเจ๋งเลยอ่ะ....พี่เคี๊ยง....COOL....แกทำดีมว๊าก ลูกร๊ากของป๊า...เงี๊ยะ”
ไอ้หน้าอ่อนแทบทรุดเมื่อฉันพูดจบ มันทิ้งตัวลงข้าง ๆ ฉัน ซึ่งฉันพยายามกระเถิบหนี แต่มันก็คว้าหมับเอาไว้ ไหล่นี้มีราคานะแก ฉันจะเก็บไว้ให้พวกเสี่ยพวกป๋าโอบเวลาพาเข้าโรงแรมห้าดาวย่ะ...
“เป็นกันทั้งบ้านว่างั้น จะขำหรือจะสงสารดีเนี่ยพี่เคี๊ยง”
“ทำไงดี แกจับได้แล้ว ปาล์ม แกทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้มั้ย คิดว่าช่วยพี่นะ ลอง ๆ ดูก็ไม่เสียหาย คุณประวิทย์แกก็เป็นคนดี เสียแต่ทื่อไปหน่อย...อย่างน้อยแกก็มีคนเทคแคร์ ไม่ต้องไปตั่บ ๆ กันก็ได้ ช่วยพี่สูบไง...เอาม๊ะ”
มะเหงกของไอ้น้องรักเขกเข้ากลางกระหม่อมฉัน เจ็บงิ.....เจ็บทั้งวันเลยอ่ะวันนี้
“ผมมีคนที่ชอบแล้ว....คงช่วยพี่ไม่ได้หรอก”
“แย่แล้ว.....พี่หมดประโยชน์แล้วว่ะแก....คงต้องทำใจสินะ...เฮ้อ...กลับไปเป็นนางรองบ่อนเหมือนเดิม เซ็งชิบ”
“ไม่มีใครเกิดมาไร้ค่าหรอกนะ ถ้าพี่ไม่คิดหรือทำให้ตัวเองไร้ค่าน่ะ พี่ก็ยังมีประโยชน์สำหรับโลกใบนี้เสมอแหละ”
“ใช่เวลามาสอนมั้ยเนี่ย”
“ผมจะทำให้ครบปี ส่วนพี่ก็สองปี....เพราะฉะนั้นเราก็จะออกจากที่นั่นพร้อมกันถูกมั้ย”
“เออ”
“เพราะงั้น เรามาพยายามด้วยกันเถอะนะ คุณพี่สาว”
ให้ตายสิ หน้าของหมอนี่เวลามันยิ้มน่ะนะ....
น่ารักฉิบหายเลยให้ตาย.
.
.
.
.
.
to be con
เคี๊ยงคู่ใคร...ใครคู่เคี๊ยงล่ะทีนี้....ติดตามได้ในตอนต่อไปจ้า
ปล.เรื่องป๊าเคี๊ยง อยากให้เก็บไว้เป็นเซอร์ไพรซ์ หุหุหุ