ตอน โธ่เอ๊ย...Holy Shit!!!!“ไม่นึกเลยว่าจะมีคนเก็บเสื้อที่เราทิ้ง จากถังขยะหน้าบ้านของเรา เอาไปขายเลหลังตามตลาดนัดน่ะ”ฉันยืนนิ่งอย่างหมดท่า ได้แต่จ้องมองกลีบปากของอีนังอสรพิษ ค่อย ๆ คลี่ยิ้ม....นั่น....นั่นมันลิปกลอสสีพีชใช่มั้ยนั่น จะสวยเกินหน้าเกินตาไปแล้วนะโว้ยยยยย!!!!!
จะทำอย่างไรดีนะ กับคนเหี้ย ๆ แบบนี้ ถ้าเป็นตอนประถม เราคงเอาสมุดการบ้านใต้โต๊ะมันไปโยนทิ้ง เอาน้ำเทใส่รองเท้าผ้าใบของมัน แหกขี้ตาไปโรงเรียนตั้งแต่หกโมงเช้า เพื่อที่จะเขียนด่ามันบนกระดานดำด้วยช๊อคสีขาว แต่ถ้าเป็นสมัยมัธยม ฉันคงปูดเรื่องโกหกพกลม เพื่อใส่ร้ายคนที่มันมาเหี้ยใส่ฉันก่อน....แต่ฉันไม่เคยตบคนนะ อย่างน้อยฉันก็มีเกรด ถึงจะไม่ได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ก็เถอะ!!!!
แต่ในสถานภาพแบบนี้ สถานการณ์แบบนี้ ฉันควรจะทำอย่างไรดีนะ คิดคิดคิด คิดสิวะอีบ้าเอ๊ย คำพูดที่ฟังแล้วมันดูฉลาด ๆ เพื่อที่จะตอกกลับ ให้อีงูพิษมันหน้าหงายเงิบไปเสียน่ะ เป็นแบบนี้เสมอแหละ เวลาที่ฉันอารมณ์ดีดีแล้วมาเจอกับอะไรแบบนี้ โดยไม่ทันจะได้ตั้งตัวน่ะนะ ไอ้ความมั่นใจ พลังทั้งหลายแหล่ มันเหือดแห้งหดหายไปอย่างรวดเร็ว กว่าตอนปกติเสียอีก
“หราาาาาาาาาา.....หราคร๊าบบบผม พ่อคู๊ณณณณณณณ”เสียงกวนโอ๊ยของอีลูกสาว ดังขึ้นมาจนฉันสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ รู้ตัวอีกที มันก็มายืนข้างฉัน แขนของมันตวัดโอบคอฉันเอาไว้ ส่วนอีกข้างที่ว่าง กำลังกรีดกรายอยู่บนเสื้อของฉัน นังปาล์มลูบเนื้อผ้า ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปยังปกเสื้อด้านหลัง ดึงนั่นดึงนี่จนฉันประสาทเสีย...
“รุ่นนี้เขาผลิตมาตั้งแต่ปี 75 แล้วครับผม แล้วแบรนด์นี้เขาเลิกผลิตกันไปตั้งแต่ปี 87 ชาติกว่าแล้วครับ บริษัทมันโดนซื้อกิจการ ชื่อยี่ห้อมันก็ไปรวมกับแบรนด์แม่มัน ไม่มีแล้วชื่อนี้ เว้นแต่คุณพีทจะไปซื้อมือสอง ไม่ก็รับต่อมาจากคุณพ่อของคุณพีทนะครับ เอ หรือว่าคุณพีทจะนั่งไทม์แมชชีนไปซื้อมาครับ เห็นว่าใส่แต่มือหนึ่งนิ....”
กรี๊ดดดดดด ลูกสาวปกป้องกูเว้ยเฮ้ย ปกติมันไม่ปกป้องใครขนาดนี้ มันก็รักพี่มันเหมือนกันว่ะ งงไปเลยสินังพีทตุ๊ดแอ๊บ ยี๊ฮ่า มึงกับกู๊มันเก๊าะไปต่างกันนักหรอกวะ อีแสรดดดดดเอ๊ย อีไฮโซก๊อปเสินเจิ้น....
“เราเปล่าโกหกนะ....แต่....แต่....แต่.....ถ้าเป็นอย่างที่นายว่าจริง ยังไงเคี้ยงก็ใส่มันต่อจากเราอยู่ดี ไม่มือสองก็มือสาม สี่ ห้า หก แต่เราไม่เชื่อนายหรอก เราจะไปเซิร์ชกูเกิ้ล......แอร๊ย”
“เชิญ.....”
ตุ๊ดแอ๊บเดินหัวเสียจากพวกเราไปแล้ว คงเจ็บดีพิลึก คนที่มันเคยหมายมั่นกะจะเคลม บัดนี้กำลังยืนข้างฉัน สู้เพื่อฉัน ปกป้องฉัน ฉันหันไปยิ้มหวานอย่างฝืดฝืนใส่ลูกสาว มันก็ยักคิ้วกวน ๆ ส่งกลับมา ก่อนจะตบไหล่ฉันเบา ๆ เรียกกำลังใจ
“ผมก็โม้ไปงั้น อีนั่นแมร่งก็ร้อนตัวไปเอง ถ้าเป็นของแบรนด์หายากจริง ๆมันจะมาวางขายตามร้านริมถนนตัวละร้อยเรอะ!!! ยี่ห้ออะไร ไม่เห็นจะเคยรู้จัก เผลอ ๆก็ปลอมของปลอมของปลอมมาอีกที ภูมิใจเหอะ พี่ชนะแล้ว อีนั่นมันก็ไม่ได้ไฮโซโก้หรูอะไรอย่างที่มันสร้างภาพหรอก มันก็ไอ้พวกพยายามจะโก้นั่นแหละ ขืนแมร่งมีปัญหามาก ๆ กูต่อยให้ร้องเลยตุ๊ดเอ๊ยยยย”
นี่แกว่ามันใช่มั้ย ใช่มั้ยอีคุณลูก แต่ว่าทำไมฉันถึงได้รู้สึกหน้าชา ๆ วะ ท้ายทอยก็ชา ๆ เหมือนโดนแกตบหัวป้าบใหญ่ไม่มีผิด ฉันหัวเราะแผ่ว ๆ อย่างคนที่พลังชีพร่อยหรอลงไปแยะ หารู้ไม่ ว่าหายนะอีกระลอกกำลังจะมาเยือน
“คุณสรจักร คุณอนุรักษ์ เชิญคุณทั้งสองเข้าพบผมที่ห้องทำงานของผมด้วยครับ”ไอ้คุณประวิทย์ !!!!ฉันหันไปสบตากับลูกสาว เราจ้องหน้ากันอย่างงุนงงไปชั่วขณะหนึ่ง แล้วมันก็เพยิดหน้า ชวนให้เข้าไปพร้อม ๆกัน มือของมันยังคงโอบอยู่บนไหล่ของฉัน ประคองฉันไปกับมันด้วย ตอนนี้ฉันเอ๋อสุด ๆ ข้าวเหนียวหมูยังซุกอยู่ในกระเป๋าย่าม ที่เป็นอย่างนี้ สงสัยเพราะยังไม่ได้กินข้าวเช้า มิน่าล่ะถึงได้เถียงใครเขาไม่ทัน
“ไม่ต้องกลัว มีผมทั้งคนน่ะ เดี๋ยวปลดกระดุมออกซักสองเม็ด ยั่วแมร่งเลยดีแม๊ะ หึหึหึ”
“พี่เอามั่งดีกว่า”
“ถุย....พี่น่ะติดกระดุมคอไปด้วยเลย เห็นแล้วอารมณ์เสียน่ะสิไม่ว่า”
“ฮะฮะ”
.
.
.
.
.
.
“พวกคุณคงจะทราบกันแล้วสินะ ว่าตอนนี้บริษัทของเรามีแพลนจะขยายสาขาเพิ่มอีกสามแห่งน่ะ”“ครับ”
“ค่ะ....พอทราบ...”
ให้ตายเถอะ คุณหัวหน้าที่เคารพ ทำไมหน้าตาถึงได้โทรมเยี่ยงนี้ อย่างกับว่าเมื่อคืนซัดเหล้าเข้าไปหลายกลม ไม่ก็ช่วยตัวเองแบบโต้รุ่งอย่างงั้นแหละ แล้วแบบ เห็นหนวดเครารกครึ้มของแกแล้ว พาลนึกถึงตอนที่แกแอ๊บเป็นเด็กเฮ้วขาร๊อคขึ้นมาซะงั้น ซึ่งอะไรดิบ ๆ เถื่อน ๆ แบบนี้ มันแสนจะโดนใจอีเคี้ยงชะมัด อิ๊อร๊างงงง
“คุณสรจักร”
“ขะคา”
“ในฐานะที่คุณกับคุณอนุรักษ์อยู่มานานที่สุดในแผนก ผมมอบหมายสาขาเปิดใหม่ให้พวกคุณรับผิดชอบก็แล้วกัน”
ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอก สาขาเปิดใหม่ ไม่ได้มีผลอะไรกับฝั่งรายรับอยู่แล้ว เอกสารก็คงจะมีนิดเดียว พวกฝั่งจ่ายสิหนัก เพราะงี้ไง แผนกเราก็เลยไม่มีหัวหน้า(จริง ๆก็มีซุปอยู่คนหนึ่ง แต่ลาออกไปแล้ว ส่วนที่เหลือ ๆ อยู่ก็มีแต่....นะ.....ถึงฉันจะแก่งานที่สุด แต่คงไม่มีใครบ้าพอจะเอาฉันเป็นระดับซุปหรอกน่า) ฉันกับลูกสาว เอาขาสะกิดกันไปมา ต่างก็ข้องใจ ว่าไอ้หมอนี่มันมาไม้ไหนอีก ปกติเรื่องไม่สำคัญแบบนี้ เดินไปบอกที่โต๊ะก็ได้มั้งนะ แต่ไหง....
“พวกคุณคบกันอยู่เหรอ”
“เห?”
นั่นไงกูว่าแล้ว...เรียกมาทีไร ไร้สาระตลอด แล้วชอบกัดคนอื่นเสียจริ๊ง ว่าไร้สาระอย่างโง้น ไม่เอาอ่าวอย่างงี้....
“ทำอะไรน่าจะนึกถึงภาพลักษณ์ของบริษัทกันบ้างนะ อย่าลืมสิ ว่าคุณสองคนน่ะ ไม่ผู้ชายกับผู้หญิง แต่ว่าเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ ไอ้ผมก็คงจะห้ามอะไรไม่ได้หรอกนะ เพราะว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ช่วยอย่าทำอะไรประเจิดประเจ้อกันจะได้ไหม คนเขาเอาเรื่องของพวกคุณไปลือกันให้แซดแล้วนะ....แล้วยิ่งทำงานอยู่แผนกเดียวกันแล้วด้วย มันเสี่ยงที่จะถูกมองว่า....พวกคุณอาจจะร่วมมือกันทุจริต...”
บ้าแล้ว....ตรวจแค่เอกสารจากสาขาเนี่ยนะ ไม่ได้ถือกุญแจเซฟนะเฮ้ย ทุจริตป๊ะมึงเส่ะ
“ไร้สาระซะไม่มีอ่ะ”
“ใช่ เคี้ยงว่ามันไร้สาระที่สุด”
“พวกผมไม่ได้ทำอะไรเสียหาย เราก็แค่รักกันมันก็เท่านั้นเอง ใช่มั้ยจ๊ะที่รัก”
“ใช่จ้ะ.....เห?”
อะไร....หูฝาดหรือเปล่าแว๊ เมื่อกี้ไอ้เด็กแนวมันว่ากระไรนะ แต่ยังไม่ทันจะหายมึน แก้มอีเคี้ยงก็ต้องร้อนผ่าว เพราะนอกจากป๊ากับอีม้งแล้ว มันคือผู้ชายคนแรก ที่เอาทั้งจมูกและริมฝีปาก มาชนเข้าให้อย่างจัง ซี๊ดดดดด กูโดนเด็กหอม ต่อหน้าต่อตาผู้ชายที่เป็นอดีตคนเคยปลื้มเสียด้วยสิ......(ไม่นับที่เคยรุกจูบเพื่อนตัวเองอย่างหน้าด้าน ๆ อีเคี้ยงก็ถือว่ายังเป็นสาวอินโนเซ้นส์นะเคอะ)
“จะบอกอะไรให้นะลุง ไอ้มาดของลุงน่ะมันไม่เนียนเลยซักกะติ๊ดเดียว แล้วเวลาคุยกับพวกเราน่ะ ช่วยจ้องหน้ากันด้วยได้แม๊ะ มองนมผมอยุ่ได้ หวั่นไหวอ่ะดิ๊ อิจฉาพี่เคี้ยงคนสวยอ่าดิ๊ เนี่ย ว่าที่แม่ของลูก ส่วนคุณน่ะไม่ใช่ ไม่เป็ค ไม่หล่อแล้วก็ไม่เท่ห์เลยซักนิด ไปครับผมที่รัก ไปทำงานให้บรรลุเป้าหมายกันดีฝ่า ลาล่ะครับ”
สาบานได้ ว่าตอนนี้หัวหน้ากลายเป็นหิน พวกกูไม่ใช่เมดูซ่านะจ๊อด
.
.
.
.
.
“อีห่าน แกทำอะไรลงไปรู้ตัวม๊ายยยยย” ฉันโวยวาย แน่ล่ะ หลังจากที่แอบกินข้าวเหนียวหมูจนหมด พลังชีพก็กลับคืน ถึงฉันจะชอบที่ถูกผู้ชายแทะโลม แต่ในสถานการณ์แบบนั้น มันม่ายช่ายยยยย.....
“สั่งสอนคนขี้เก๊กให้รู้สำนึกไง หน็อย คิดว่ากูไม่รู้เรอะ เวลาผมเผลอนาพี่นา ไอ้หมอเนี่ย คอยแต่จะจ้องหน้าผมอยู่เลย พูดแล้วขนลุก” มันกระซิบ แหงล่ะ ไอ้หมอเนี่ยของมันน่ะ เคยขโมยจูบมันนี่นะ แต่มึงอ่ะขโมยหอมแก้มตูข้า เอาขันหมากมาสู่ขอเลยนะเฮ้ย
“ผมไม่รับผิดชอบอะไรพี่หรอกนะ อย่ามาทำหน้าแบบนี้ เห็นทะลุปรุโปร่งเข้าไปยันสมองแล้วนั่น”
“แหมแก แต่แกก็ไม่น่าเอาพี่เป็นเครื่องมือนา ไม่รู้เรอะ ว่าคนเค้าคิด”
“เราอ่ะพี่น้องกันเหอะ แต่ถ้าพี่เกิดชอบผมจริง ๆ ล่ะก็นะ เสียใจด้วย ผมมีคนที่เล็ง ๆ เอาไว้แล้ว”
เฮือก.....เจ็บจี๊ด ฉันหันไปมองนังนงนุช เด็กใหม่สุดในแผนกที่สวยอย่างเหี้ย มันรึเปล่า เห็นอีลูกสาวชอบไปหยอด หึ เดี๋ยวคืนนี้หลอกให้มันทำงานดึก ๆ ดีฝ่า เดี๋ยวจะแอบไปกรีดรถมัน ชิช๊ะ.....สวยนักเรอะ ชะนี๊!!!!
“ไม่ใช่คนที่นี่หรอกหม่ามี๊ ผมไม่ชอบคนวงการเดียวกัน เอาไว้จีบติดแล้วจะพามาให้ดู น่ารักอ่ะ”
เจ็บ....โอ๊ย...โอย...โอ๊ยเจ็บ ยังไม่ทันจะได้เริ่มแผนอะไรเลย มันก็ดันไปชอบคนอื่นซะแล้ว อีเคี้ยงเศร้าชิบ ไอ้จะสูบก็เสือกแห้ว ไอ้จะรักจะชอบก็ไม่เคยสมหวัง แล้วหน็อย พอคิดจะเคลมเพื่อน เพื่อนก็เสือกชิงมีผัวตัดหน้า....
“โอ้ยยย อย่างแกก็ไม่ใช่สเปคพี่หรอก พี่มีคนที่ชอบแล้วเหมือนกัน”
“ใครว๊า ผู้โชคร้ายคนนั้น”
“อยากเจอป่ะล่ะ เดี๋ยวเย็นนี้ให้มันมารับ”
“ใช่ผู้ชายหน้ามึน ๆ ที่เฝ้าไข้พี่รึเปล่า”
“ถูกกกกกกก ชื่ออาร์ม หล่อเว่อร์ เกาหลีอินเทรนด์ สเปคพี่....ไอ้เถื่อน ๆ ซกมก สกปรกน่ะไปให้ไกลเลย ไม่ปลื้มย่ะ ยี๊ แหวะ”
มันนิ่ง แล้วเราต่างคนก็หันกลับไปทำงานของตัวเอง มันโกรธรึเปล่า ก็ไอ้ที่พูดไปเมื่อกี้ กระทบมันเต็ม ๆนี่นะ มันไม่โกรธหรอก เพราะมันไม่แคร์ใครไง ฉันก็ไม่เห็นจะต้องไปใส่ใจ มันก็ดีแหละ ก็น้อง มีอะไรก็ช่วยฉันตลอด คิด ๆ ดูแล้ว ฉันคงทำร้ายมันไม่ลงหรอก แต่ถึงทำลงก็คงไม่สำเร็จอยู่ดี ไม่มีทางที่ผู้ชายอย่างมันจะมาคิดอะไรกับตุ๊ดอย่างฉัน ขนาดเพอร์เฟคอย่างหัวหน้ายังไม่ได้เล้ย
“กลางวันนี้ไปกินก๋วยจั๊บกันมั้ยหม่ามี้”
เห็นไหมล่ะ ว่ามันไม่ได้ถือสาอะไร แบบพวกเราก็หยอกเล่นแรง ๆ กันออกบ่อยจะตาย มันส่งเสียงออดอ้อนหงุงหงิงมาตามสาย เราชอบแอบโทรคุยกัน เพราะตัวเสือกมันเยอะ.....
“เอาดิ อยากอยู่พอดีเลย”
“ผมเลี้ยงนะ อยากเลี้ยง”
“ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว”
“เลี้ยงน้ำแข็งเปล่านะไม่ใช่ก๋วยจั๊บ”
“อีห่า น้ำแข็งมันฟรี!!!!”
ก็ขำ ๆ ไปเหอะ ตั้งใจทำงานดีกว่า ทำครบสองปีตามที่ตั้งใจเอาไว้เมื่อไหร่ ฉันค่อยไปเริ่มงานใหม่ที่อื่นที่มันดีกว่านี้ ไม่มีผู้ชายให้จับก็ช่างแมร่งมันสิ ฉันควรจะสำเนียกได้แล้ว ว่าตัวเองน่ะเป็นแค่ตุ๊ดปลวก ๆบ้าน ๆ ไม่ใช่ผู้หญิงสวยเอ๊กซ์เซ็กส์บึ้ม ที่จะไปจับใครเขาได้น่ะ....
.
.
.
.
.
“กลับมาแล้วจ้า”วันนี้กลับมืดอีกแล้วสิฉัน พอดีโม้ไว้ซะเยอะ เลยต้องอ้อนให้อีอาร์มมารับ มันไม่มีรถหรอก แต่ผัวมันมี แล้วฉันก็เลยชวนมันไปหาอะไรอร่อย ๆ ยัดห่าลงกระเพาะกันจนแทบอ้วก อีลูกสาวก็ยิ้ม ๆแหละ แถมกระซิบบอกว่าเหมาะกันดี ผู้หญิงก็สวย ผู้ชายก็หล่อซะ สมกันเป็นที่สุด ประชดกูน่ะสิ!!!! ฉันก็หัวเราะก๊าก ไม่อยากจะเก็บมาเป็นอารมณ์ ต่อไปนี้ฉันจะเน้นฮาและบ้า ฉันจะไม่แคร์โลกแล้ว เบื่อ!!!!
“พี่เคี้ยง”
“อยู่คนเดียวเหรอม้ง ป๊าล่ะ ไปเถลไถลที่ไหนฮึ”
“ไม่รู้ กลับมาก็ไม่มีใครอยู่แล้ว ทิ้งเด็กประถมอยู่ตามลำพังคนเดียวแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนแว๊ะ แต่ดีนะ ที่แฟนเก่าพี่เคี้ยงมาหาพอดี เค้าเลยมีเพื่อน”
แฟนเก่า....ได้ข่าวว่าไม่มีนะ หยากไย่เกาะแล้วนิ ไม่เคยได้ใช้งาน...
“กลับมาแล้วเหรอเคี้ยง เลิกงานเร็วไม่ใช่เหรอวันนี้ ไหงกลับมาซะดึกเชียว”หัวหน้ามาไงฟะ!!!!!To be con
.
.
.
.
คนอ่านก็คงอุทานว่า Holy Shit หายหัวไปซะนาน มาต่อแค่เนี๊ยะ!!!! 55555 ตอนหน้าจะเอาป๊ะป๋าไม่ก็คู่ม้งเฟิร์สมาฝากนะ