Seven Day 7 วัน คนเหงา ความรัก ความตาย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Seven Day 7 วัน คนเหงา ความรัก ความตาย  (อ่าน 62044 ครั้ง)

keivet001

  • บุคคลทั่วไป

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย   :o12: ไม่ค่อยมีคนอ่านเลยอ่ะครับ แต่ยังไงก็จะสู้ ๆ ครับ  o7 o7 o7 o7

tod_tee

  • บุคคลทั่วไป
 :m1:....ชอบแนวแบบนี้มากมาย....มันอ่านแล้วมันอึดอัดในหัวใจ..ดี....ชอบบบบบบ :pig4:

keivet001

  • บุคคลทั่วไป
:m1:....ชอบแนวแบบนี้มากมาย....มันอ่านแล้วมันอึดอัดในหัวใจ..ดี....ชอบบบบบบ :pig4:


 :m1: :m1: :m1: :m1:ขอบคุณมากครับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ  :m1: :m1: :m1: :m1:

three

  • บุคคลทั่วไป
lสู้ๆนะครับผมเป็นกำลังใจให้นะครับ :oni1:

a_33

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อเถอะนะ
ผมว่าหนุกดีออก จะอ่านเรื่อยๆ
จะคอยตามเม้นทุกครั้งเลย 

:d1: ย้อนหลังนะ

tod_tee

  • บุคคลทั่วไป
 :a12:เข้ามารอ  เมื่อไหร่จะมาต่อน้าๆๆๆๆๆๆๆๆ :m13:

keivet001

  • บุคคลทั่วไป
:a12:เข้ามารอ  เมื่อไหร่จะมาต่อน้าๆๆๆๆๆๆๆๆ :m13:

            จะรีบมาต่อให้ครับผม  :m13:สัญญา:m13:

มาต่อเถอะนะ
ผมว่าหนุกดีออก จะอ่านเรื่อยๆ
จะคอยตามเม้นทุกครั้งเลย 

:d1: ย้อนหลังนะ

                      แน่นอนครับผม

lสู้ๆนะครับผมเป็นกำลังใจให้นะครับ :oni1:

                        ขอบคุณคราบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ


                      ดีใจจังเลยยยยยยยยยยยยยยย ในที่สุดเรื่องเราก็ขายออกกับเขาเหมือนกันนะ ตอนแรกที่ตัดสินใจจะเอาเรื่องมาลงไว้บอร์ดนี้ นี่ก็คิดอยู่หลายตลบ ตลบตะแลง แซงซ้ายแซงขวา ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเรื่องของเรานี่จะขายออกบ่างหรือเปล่า เพราะเรื่องที่เคยเอาไปลงไว้ที่บอร์ดอื่นขอบอกเลยว่า ขายไม่ออกครับ -*-  ขายไม่ออกที่ผมหมายถึงนี่ไม่ใช่ขายไม่ออกแบบธรรมดายี่สิบบาทนะครับ แต่ขายไม่ออกแบบพิเศษสามห้าเพิ่มใข่ดาวด้วย แบบว่าดองเค็มหนอนใชฟอร์มาลีนเอาไม่อยู่กันเลยทีเดียว เขียน ๆ หยุด ๆ เป็นปี ๆ สุดท้ายก็ไม่รอด -_- (55555+ พูดแล้วก็ขำตัวเอง......แกยังขำออกอีกหลอ......) แต่พอมาบอร์ดนี้มีคนให้กำลังใจเยอะก็ดีใจแทบขาดเลยครับ คิดกับตัวเองว่า เออ อย่างน้อยก็ยังมีคนอ่านนะ อย่างน้อยก็ยังมีคนที่คิดว่าเรื่องที่ผมเขียนมีคุณค่าพอที่จะอ่านต่อไป คิดแบบนั้นแล้วก็ยิ่งดีใจครับ (ตอนนี่ใจขาดไปแล้ว....)
                       อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้วว่า (เมื่อนานมาแล้ว) ผมเคยดูแคลนคนที่เขียนเรื่องรัก ๆ แบบนี่อยู่มาก  คิดว่าตามกระแสหนังสือหวานหยดติ๋ง ๆ ที่มีให้เกลื่อนตามแผงหนังสือ ยังเคยพูดกับ "คนที่คู่ควร"ของผมเลยว่า "แม่ง...ตามกระแสไปวัน ๆ อ่านแล้วไม่เห็นจะได้สาระเอาคิดอะไร ๆ ได้เลย" แต่พอ "คนที่คู่ควร" ของผมกลายเป็น "คนที่เคยคู่ควร" ก็เลยเริ่มเข้าใจว่า เออ มันคงเป็นแบบนี้ละมั้ง สิ่งที่หนังสือพวกนั้นต้องการจะบอก  (คิดแล้วก็เศร้า) อาจะเป็นเพราะตอนนั้นยังไม่รู้มั้งครับว่าการเสียใครสักคนที่เรารู้สึกว่าพิเศษ (อันนี้พิเศษแบบว่าพระกระโดดกำแพงหม้อใหญ่ใส่ใข่ดาว)ไปนี่เป็นยังไง
                       อาวละ....ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ยังไงก็เป็นกำลังใจกันนะครับ ก็หลวมตัวอ่านกันมาจะครึ่งเรื่องแล้ว ต้องอยู่ด้วยกันจนจบนะครับ สัญญาว่าจะไม่ถอดใจแล้วละ

:m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: 

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
แนวเรื่องแปลกมากครับ 3-4 ตอนแรก ปูพื้นตัวละคร เลยงง ๆ นิดหน่อย   :m13:

ตอนนี้ไม่งงแล้วล่ะ เริ่มสนุกแล้วล่ะครับ  :m23: :m4:

สองนายเอก เจอกันแล้ว โดยมี อมร และระยะเวลา 7 เป็นเงื่อนไขในความสัมพันธ์   :oni1: :oni1: :oni2:

น่าสนุกครับ จะติดตามอ่านไปเรื่อย ๆ ครับ  :m1: :m1:

keivet001

  • บุคคลทั่วไป
แนวเรื่องแปลกมากครับ 3-4 ตอนแรก ปูพื้นตัวละคร เลยงง ๆ นิดหน่อย   :m13:

ตอนนี้ไม่งงแล้วล่ะ เริ่มสนุกแล้วล่ะครับ  :m23: :m4:

สองนายเอก เจอกันแล้ว โดยมี อมร และระยะเวลา 7 เป็นเงื่อนไขในความสัมพันธ์   :oni1: :oni1: :oni2:

น่าสนุกครับ จะติดตามอ่านไปเรื่อย ๆ ครับ  :m1: :m1:


:m29: :m29: :m29: :m29: :m29: :m29: :m29: :m29: :m29: :m29:ถูกอ่านใต๋หมดเลยเรา :m29: :m29: :m29: :m29: :m29: :m29: :m29: :m29: :m29:

three

  • บุคคลทั่วไป
รออยู่นะครับผม :oni1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






tod_tee

  • บุคคลทั่วไป
 :a12:เข้ามารอครับ(ไม่ได้ทวงนะครับ) :oni1:

ออฟไลน์ คุณหมาหยอกไก่

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 877
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-2
 o2 o2

ตาลายอ่า ขอเว้นบรรทัดบ้าง
แล้วก็ภาษา ไม่ต้องทางการก็ได้นะคับ
มึนอ่า o2

keivet001

  • บุคคลทั่วไป
ธารามองชะเง้อออกไปนอกหน้าต่างห้องเรียนเป็นระยะคล้ายคอยใครบ่างคนอยู่ ในมือก็ลูปหน้าจอโทรศัพท์ไปมาอย่างร้อนรนจนลืมฟังสิ่งที่ผู้สอนกำลังพูด
ไม่นาน ร่าง ๆ หนึ่งก็เดินลิ่ว ๆ มาพรางเปิดบานประตูออกทำให้เสียงบรรยายหยุดลงทันที สายตานับสิบจ้องมองมายังต้นเสียงจนเจนศิลป์รูปสึกประหม่าก่อนก้มหัวน้อย ๆ เป็นเชิงของอนุญาต อาจารย์ผู้สอนที่เป็นหญิงกลางคนผมสั่นท่าทางทะมัดทะแมงก็ยินยอมโดยพยักหน้ารับก่อนจะเริ่มบรรยายต่อ
   หญิงสาวคนนั้นดีใจจนแทบหุบยิ้มไม่อยู่
   “ทำไมวันนี้มาช้าจัง” เธอคนนั้นว่าเสียงเบาทันทีที่ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆ ก่อนที่จะสังเกตเห็นผ้าปิดแผลที่อยู่บนขมับ “ไปโดนอะไรมานะ”เธอพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
   “รถชน” เขาตอบสั้น ๆ พรางยิ้ม
   “ฮะ........” เธอร้องเสียงสูงอย่างตกใจ “เป็นอะไรมากหรือเปล่า”
   “โถ่สา ถ้ามันเป็นไรมากป่านนี้มันก็ไม่มานั่งอยู่ตรงนี้หลอก”เสียงกิตติเขาร่วมวง “แล้วมึงไปทำอีท่าไหนว่ะ ถึงโดนรถมันจูบหัวเอา”
   “กูไม่ได้ทำไรเลย....เดินอยู่เฉย ๆ แม่งก็มาชนกู”เจนศิลป์ว่ายิ้ม ๆ  “ซวยชิบหาย”
   จบคำสาริณีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กิตติก็มองทั้งสามพรางส่งสายตาประมาณว่า “อาจารย์มองอยู่ เบา ๆ สิว่ะ” ทำให้ทั้งสี่เงียบไป
   “เออ”สาริณีพูดเสียงเบาพรางชะเง้อมาทางเจนศิลป์ “เมื่อวันอาทิตย์นะ ขอโทษนะ”
   “วันอาทิตย์”เจนศิลป์ทวนคำคล้ายไม่เข้าใจก่อนจะร้อง เฮ้ย ขึ้นมาเสียงดังจนทุกสิ่งในห้องเงียบลงในทันได ผู้สอนหยุดพูด นักศึกษาหยุดเขียน ทุกสายตากลับมาจับจ้องที่ทั้งสี่อีกครั้ง
   “คอม..”อาจารย์ผู้สอนพูดขึ้น “อย่าเสียงดังสิ เขาเรียนกันอยู่นะ มาสายแล้วยัง”
   ชายหนุ่มยิ้มหน้าเป็นก่อนจะยกมือไหว้พรางกล่าวขอโทษอาจารย์
   “อะไรของมึงว่ะคอม”กิตติพูดพรางหัวเราะเบา ๆ “อยู่ดี ๆ ก็ร้อง มึงบ้าป่าวเนี่ย”
   “เปล่า...ไม่ใช่”เขาก้มตัวลง “รายงานอะ กูยังสรุปไม่เสร็จเลย”
   “เฮ้ย.....”สาริณีร้องเบา ๆ “มะรืนส่งแล้วนะเว้ย”
   “เพราะเราให้งานคอมไปทำมากไปหรือเปล่าอ่ะ”  ธาราพูดพรางเอามือวางไว้บนแขนของชายหนุ่ม มันอุ่นอย่างประหลาดจนอกเธอสั่นน้อย ๆ ด้วยความเป็นสุข“ขอโทษนะ”
   “ไม่ใช่หลอก ไม่ใช่” เจนศิลป์เห็นอีกฝ่ายทำสีหน้าไม่สู้ดีนักจึงยิ้มกลบเกลื่อน “เราแค่เผอหลับไปเลยไม่ได้ทำต่อนะ ไม่เป็นไรหลอก เหลืออีกนิดเดียว สี่ห้าหน้าก็เสร็จ” เขาโกหกไปเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ
   “แล้วมึงจะเอาเวลาไหนไปทำว่ะ เดี๋ยวก็ต้องไปทำงาน เอามาให้กูก็ได้ เดี๋ยวกูกับสาทำต่อเอง”
   “ไม่ต้อง ๆ ๆ กูทำได้....”
   “เอ้า...แล้วงานมึงละไอ้คอม”สาริณีพูด “มึงเอามาให้กูกับเม่นเถอะ พวกกูทำต่อเอง”
   ชายหนุ่มยิ้มเฟือน “กูทำเองไม่เป็นไร ตอนนี้กูว่างแล้ว....ไม่ต้องไปทำงานแล้วละ”
   ทุกคนงงงันไปพักหนึ่งก่อนจะเข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการจะบอก
   “เฮ้ย.....คอมถูกไล่ออกหลอ” ธาราว่า ชายหนุ่มพยักหน้าน้อย ๆ
   “เรื่องเล็กนะ.....”เจนศิลป์พูดปัดก่อนจะเริ่มทำท่าตั้งหน้าตั้งตาฟังสิ่งที่อาจารย์สอน   
เขามักทำแบบนี้เสมอยามเมื่อไม่ต้องการพูดอะไรต่อไป ธาราสังเกตเห็นมานานแล้วแต่เธอเองก็ไม่อาจจะเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนั้น ทำไมเขาถึงชอบเหมอลอยอยู่คนเดียว ทำไมเขาถึงไม่ค่อยชอบพูดจาปราศรัยกับคนรอบข้าง หรือทำไมชอบทำอะไรไปไหนมาไหนคนเดียวตลอด เท่าที่เธอรู้ก็คือ ชายหนุ่มจะมาเรียนแต่เช้าตรู่ด้วยสีหน้าหม่นหมองและขอบตาดำคล้ำ บางครั้งผมเผ้าก็ยังเปียกชื้นเพราะไม่ได้ทำให้แห้งหลังจากอาบน้ำ เขาจะเข้ามาในห้องเรียนคนแรกและนั่งหลับอยู่กับโต๊ะจนกว่าอาจารย์มาหรือบางครั้งเขาก็หลับอยู่อย่างนั้นทั่งชั่วโมงเรียนโดยไม่ลุกไปไหนหรือทำอะไรเลย พอตกเย็นเขาก็จะรีบเก็บของและเดินออกไปจากห้องเรียนทันที พอคิดดูดี ๆ แล้วอันที่จริงเธอไม่เคยเข้าใจอะไรในตัวเขาเลยด้วยซ้ำไป ไม่เคยรู้ว่าครอบครัวเป็นอย่างไร พ่อแม่อยู่ที่ไหน ทำอาชีพอะไร หรือทำไมเขาถึงต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำแบบนี้ หญิงสาวเคยพยายามถามหลายครั้งแต่คำตอบที่ได้กลับมาก็เป็นเพียงความเงียบที่เย็นยะเยือกกับสายตาเหมอลอยไร้อารมณ์ที่ทอดยาวไปไกลคล้ายตัดโลกทั้งโลกนี้ออกไปจากการรับรู้และก้าวเท้าเข้าสู่โลกอีกโลกหนึ่งที่เขาใช้สายใยบาง ๆ ตรึงรัดตัวเองไว้แน่น โลกที่มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่อยู่รอดได้
ภายในนั้นจะเป็นอย่างไรนะ......บางครั้งหญิงสาวก็ถามตัวเองเช่นนี้ มันจะมืดมั้ยหากต้องเข้าไปภายในนั้น หนาวมั้ยหากต้องอยู่คนเดียวอย่างนั้น มันจะเงียบงันแค่ไหนกันหากต้องอยู่ในที่แบบนั้น แค่คิดภายในอกเธอก็สั่นขึ้นจนเจ็บปวด แต่ถึงจะรู้สึกอย่างนั้นเธอก็ตั้งใจอย่างที่สุดที่จะลองเข้าไปดูสักครั้งว่าภายในเป็นเช่นไร แม้จะต้องถูกสายใยนั้นบาดลึกจนร่างกายเป็นแผล ถึงต้องอยู่ในความมือที่หนาวเหน็บและถูกความเงียบงันกัดกินก็ตาม       
ธาราเผลอมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่ตั้งใจจนอีกฝ่ายหันมา
“ธามองหน้าเราทำไม” ชายหนุ่มถามขึ้นสีหน้ายิ้มเล็กน้อย หญิงสาวสะดุ้งออกจากภวังค์
“เปล่า ๆ ไม่มีอะไร” เธอตอบ
สักวัน....สักวันเธอจะเข้าไปให้ได้ เธอคิดกับตัวเองเบา ๆ


...

keivet001

  • บุคคลทั่วไป
o2 o2

ตาลายอ่า ขอเว้นบรรทัดบ้าง
แล้วก็ภาษา ไม่ต้องทางการก็ได้นะคับ
มึนอ่า o2


:m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23:จะพยายามแล้วกันนะครับ :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23:

three

  • บุคคลทั่วไป
นึกว่ามาต่อซะอีก :m29:

tod_tee

  • บุคคลทั่วไป
 :m23:ดีใจจังมาต่อแล้ว แม้ว่าจะนิดเดียวก็ตาม o12

  จะรอติดตามตอนต่อไป สู้ๆ

keivet001

  • บุคคลทั่วไป
พิราบขับรถเข้าจอดในอาหารจอดรถของมหาวิทยาลัยก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับโทรศัพย์แนบหู เขากำลังคุยกับเจ้าหน้าที่ประกันอยู่
   “งั้นตามนี้นะครับ อีกสองอาทิตย์นะครับ”เจ้าหน้าที่คนนั้นว่า
   ชายหนุ่มไม่ตอบก่อนจะกดวางโทรศัพท์ไปดูเขาอามรณ์ไม่ดีนักแม้ว่าวันนี้อากาศจะแจ่งใสด้วยรอยยิ้มของดวงอาทิตย์ที่ฉายแสงใสอยู่ทั่วท้องฟ้าสีครามและเมฆน้อยลอยกระจายไปทั่ว
   พิราบเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋ากางเกงก่อนจะตรงไปที่ลิฟที่ใกล้ที่สุด ไม่นานเข้าก็เดินถามถึงโรงอาหารของมหาวิทยาลัย
   “ไอ้หนึ่ง...ทางนี้”เสียงองอาจ เพื่อนคนหนึ่งของเขาร้องขึ้นจากโต๊ะประจำ อีกฝ่ายเดินไปอย่างเร็วและพบว่ามีเพียงองอาจคนเดียวเท่านั้นที่นั่งอยู่ “เป็นเห้ยไร ทำหน้า”
   พิราบนั่งลงพรางตอบ “เมื่อเช้ากูขับรถชนคน....ซวยชิบหาย”
   “จริงดิ”อีกฝ่ายทำเสียงสูงและสีหน้าตกใจ “ตายมั้ยว่ะ”
   “ตายพ่อมึงสิ......หัวแตกเท่านั้นละ”
    “เอ้าไอ้เชี้ยนิ....” อีกฝ่ายยิ้ม “แล้วมึงไปชนเขาได้ไงว่ะ”
   พิราบเริ่มเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้อีกฝ่ายฟัง
   “โง่สัตว์อะ” องอาจร้องพรางหัวเราะ แต่อีกฝ่ายดูจะไม่ขำตาม
   “โง่เห้ยไรละ.....แล้วมึงคิดดูนะกว่าประกันแม่งจะมาเครมรถก็ตั้งสามอาทิตย์ ....ซวยชิบหาย”
   “เฮ้ย...ไมแม่งช้างั้นว่ะ”
   “กูจะไปรู้โครตพ่อแม่งหลอ....”พิราบส่ายหน้า “ถ้าพ่อกูเห็นรถเป็นแบบนี้นะ กูว่าไม่แคล้วโดนโดดถีบขาคู่”
   องอาจหัวเราะ “มึงก็พูดไป ไอ้ห่า.....” แล้วก็ทำหน้าเหมือนนึกขึ้นมาได้ “แล้วมึงทำไงว่ะ ชนเขาแล้วหนีหรือเปล่า”
   “มึงบ้าป่ะเนี่ย” พิราบพูดเสียงสูง “กูก็พาไปโรงพยาบาลสิ ไอ้เช้ย คนนะไม่ใช่หมูหมาข้างถนน ชนแล้วหนีง่าย ๆ”
   “เอ้า...กูไม่รู้อะ”องอาจยิ้มอีก “แล้วเขาเป็นไงบ่างว่ะ โวยวายมั้ย”
   “ไม่เลยว่ะ” พิราบพูดพรางกระพริบตาถี่ ๆ “กูก็งงนะเว้ย ไอ้เฮ้ยคยโดนรถชนหัวแตก แม่งไม่ร้องสักคำ บ่นก็ไม่มี......”
   “ไม่ร้องจะเอาเงินมึงบ่างไง”อีกฝ่ายตัดบท
   พิราบเงียบไปครู่หนึ่งคล้ายนึกขึ้นได้“เฮ้ย.....เออว่ะ กูไม่ได้ให้แม่งเลยนิหว่า.....”
   “เออ เรื่องเงินเรื่องทองนี่ลืมตลอด” องอาจกระแนะกระแหน “แล้วคนที่มึงชนนี่ผู้ชายหรือผู้หญิงว่ะ”
   “ผู้ชาย....อายุก็เท่า ๆ กันล่ะ”
   “งั้นแม่งก็ไม่ค่อยเท่าไรหลอก ถ้าเป็นผู้หญิงนะแม่งเรื่องมาก เดี๋ยวก็เป็นแผลเป็น เป็นโน่นเป็นนี่ไม่จบ.....เชื่อกูแม่งไม่พูดก็แปลว่าแม่งไม่เอา......”
   พูดได้แค่นั้นพิเชษกับนาคินทร์ก็เดินเข้ามาทำให้การสนทนาเรื่องอุบัติเหตุประหลาดของพิราบเป็นอันต้องยุติไป
แต่ไม่ใช่กับตัวของพิราบเอง เขาเหมอลอยออกไปจากกลุ่มพรางคิดวกวนอะไรบางอย่างในหัวด้วยความสงสัยเต็มอก สงสัยความรู้สึกประหลาดที่ปรากฏขึ้นเมื่อยามพูดคุยกับชายคนนั้น มันคืออะไรกันนะ ตอนแรกชายหนุ่มคิดว่ามันเป็นเพราะประหม่าหรือรู้สึกผิดที่ทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บจากความประมาทของตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่เพราะตัวเขาเองไม่รู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายใจเลยยามเมื่อได้คุยกับอีกฝ่าย เขารู้ตัวดีว่าต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปแต่กลับไม่รู้สึกว่าเพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ กลับกัน เขากลับรู้สึกสบายใจและผ่อนคลายอย่างประหลาด เหมือนได้พบกับคนที่คุ้นเคย ได้เจอกับเพื่อนสนิทที่ไม่ได้พบกันมานาน ทั้ง ๆ ที่ชายหนุ่มแน่ใจว่าเขาไม่เคยพบกับอีกฝ่ายก็ตาม....แล้วมันคืออะไรกันนะ ความรู้สึกนี้

...........................................................................................
   กิตติทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้าพรางมองไปรอบ ๆ ชื่นชมผลงานของตัวเอง แสงอาทิตย์ยามอัสดงเป็นสีแดงอมส้มอ่อน ๆ ส่องผ่านเล็ดลอดเข้ามาภายในห้องผ่านทางประตูชานที่เปิดอ้าอยู่ รับกับแสงเทียนเล่มเล็กที่วางตัวกระจายไปทั่วทั้งห้องส่องแสงนวลตาชวนฝันสร้างบรรยากาศอิ่มเอมยากจะห้ามใจ อาหารเย็นวันนี้เป็นเพียงข้าวกับแกงสองสามอย่างดูเรียบง่ายแต่ทุกอย่างชายหนุ่มเป็นคนทำเองทั้งหมดทำให้มันดูมีความหมายยิ่งกว่าเก่ามาก ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ พรางคิดว่าเธอคนนั้นจะชอบอาหารหรือเปล่า เธออาจจะบ้วนมันทิ้งทันทีที่เอาเข้าปากก็ได้ หรือเธออาจจะชื่นชอบมันจนอยากให้เขาทำให้กินทุกวัน ถ้าเป็นอย่างหลังก็จะดีกว่านะ พอคิดอย่างนั้นภาพของเธอคนนั้นยามเมื่อพูดว่า “อร่อยดี....ทำทุกวันเลยนะ” ก็ลอยมาแต่ไกลทำให้รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นมาที่มุมปากของชายหนุ่ม
เขาชอบเวลาเธอยิ้ม ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไรหรือตั้งแต่เมื่อไร แต่เขาก็ชอบรอยยิ้มของเธอ ชอบให้เธอหัวเราะ ชอบให้เธออารมณ์ดี ชอบให้เธอมีความสุข ชอบทุก ๆ วินาทีที่ได้อยู่กับเธอ และได้เห็นเธอมีความสุขที่ได้อยู่กับเขา
แค่คิดแค่นั้นชายหนุ่มก็รู้สึกเจ็บใจตัวเองขึ้นมาที่เอาเวลาตั้งนานไปใช่กับผู้หญิงที่ชื่อแมวนั้นอย่างไร้ค่ายอมให้ผู้หญิงแบบนั้นปิดหูปิดตาตัวเองเหมือนคนโง่ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่ทำให้เขามีความสุขอยู่ใกล้ขนาดนี้ยังไม่เคยมองเห็น ผู้หญิงคนนั้นมันมีอะไรดีนะเขาถึงยอมจมปรักอยู่ได้เป็นปีสองปี ทั้งเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า เอาแต่ใจจนน่าลำคาน ปากร้ายด่าว่าได้ไม่เคยหยุด เทียบกับสาริณีที่เป็นคนใจร้อนแต่มีเหตุผลและรับฟังได้มากพอ ๆ กับพูดแล้วดีกว่ากันอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจในความโง่เขลาของตัวเอง
เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น ชายหนุ่มรีบพุ่งตัวไปคว้ามันมาจากหัวเตียงด้วยสีหน้าตื่นเต้น แต่ชื่อที่ปรากฏอยู่นั้นทำให้กิตติลังเลที่จะรับสาย มันขึ้นว่า “แมว”   
...........................................................

 :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23:คุยกันท้ายตอน :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23:
เอาไปสั้น ๆ ก่อนนะครับ ระยะนี้รู้สึกไม่ค่อยมีเวลาเท่าไร
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=1467.0

ไปอ่านเรื่อง [RePost & Continue] เรื่องของผม กับคนชื่อ "เอ" (และวี) คับ . . . มาครับ ได้อะไรกลับมาคิดตั้งหลายอย่าง ผมเองเกิดมายังไม่เคยไปเที่ยวซาวน่าอะไรแบบนั้นสักที ขนาดบาร์เกย์ก็ไม่เคยไปเที่ยวเลย 55555 พูดไปก็เหมือนเป็นคนอ่อนหัดนะครับ เกิดมาเป็นกระเทยทั้งทีอายุก็จะเลขสองอยู่แล้ว บาร์เกย์ก็ไม่เคยไป ซาวน่าก็ไม่เคยไป เลยอยากจะถามเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคนนะครับว่า การที่ไปเที่ยวแบบนั้นมันสนุกมั้ยครับ การไปเปลื้องผ้าเดินกันไปมาให้คนที่บางคนเรายังไม่รู้จักหน้าดูนี่มันสนุกมั้ยครับ ที่ถามนี่ไม่ใช่ว่ามีจุดประสงค์จะว่าร้ายคนที่ไปเที่ยวแบบนั้นนะครับ แค่อย่างรู้จริง ๆ ว่าตอนที่ไปเที่ยวอะไรแบบนั้นมันรู้สึกอย่างไร.......
อ่านเรื่อง  [RePost & Continue] เรื่องของผม กับคนชื่อ "เอ" (และวี) คับ . ...แล้วเริ่มรู้สึกว่าการที่เกิดมาเป็นคนแบบเรานี่หาคนที่รักเราจริง ๆ ยากจังนะ ผมเองก็เคยมีแฟนด้วยนะครับ แต่ไม่เคยนับว่ามีมากี่คน (ไม่ใช่ว่าเยอะอะไรหลอก แค่ไม่อยากจำนะ) แต่คนที่ผมรู้สึกว่ารักมาก ๆ ก็มีอยู่แค่คนเดียวเอง คบกันอยู่สองปีกว่า ๆ นะถ้าจำไม่ผิด (เคยถึงขนาดบอกไปว่า.....อยากอยู่กันแบบนี้ตลอดไปเลย.....ด้วยนะ) สุดท้ายก็เลิกกัน ตอนที่คบกันผมเองก็ไม่ใช่ว่าจะซื่อสัตย์กับเขานะครับ แอบไปมีคนโน่นคนนี่อยู่สองครั้ง ครั้งแรกนี่ประชดครับ แต่ครั้งหลังนี่รู้สึกว่าเพราะอยู่ห่างกันมาก พอมีคนมาชอบก็เอาเลย ไม่ได้คิดอะไร พอมาทีหลังก็นึกเสียใจ (แต่เลิกกันไม่ใช่เรื่องนี้นะครับ เรื่องอื่น หรืออาจจะเพราะเขาทนผมไม่ไหวแล้วก็ได้....) พอคิด ๆ แล้วผมคงไม่ต่างอะไรกับคนที่ชื่อ เอก ในเรื่องนั้นเท่าไร ใคร่อยากไม่มีที่สิ้นสุด กระเหี่ยนกระหือรือต้องการไม่มีขีดจำกัด ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดตัวเอง ทำไมตอนเขาอยู่ไม่ทำดีให้มาก รักให้มาก พูดดี ๆ ให้มาก มาตอนนี้กลับมานั่งเสียใจ พร่ำพรรณนาว่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ เสียใจที่เขาทิ้งไปเพราะทนเราไม่ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ
เรื่องนี่ผมของมองให้เขาคนนั้นแล้วกันนะครับ เรื่องรักเรื่องแรกของผม Seven Day 7 วัน คนเหงา ความรัก ความตาย ผมของมอบให้กับ “คนที่คู่ควรตลอดไป”ของผมคนนั้น ถ้าใครคนนั้นอ่านอยู่ ก็อยากให้รู้ไว้นะว่าขอโทษกับทุกอย่างที่ผ่านมา ก่อนที่จะเลิกกันทำแต่สิ่งที่เลว ๆ ไว้ให้ ขอโทษด้วยจริง ๆ แล้วก็ขอบคุณสำหลับสิ่งต่าง ๆ มากมายที่ให้มา จะเก็บเอาไว้ไม่มีวันลืมเลย (เน่าว่ะ แต่รู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ นะ)


 

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
อย่าลืมาต่อไว ๆ นะครับ  :m4:

tod_tee

  • บุคคลทั่วไป
อ้างถึง
เรื่องนี่ผมของมองให้เขาคนนั้นแล้วกันนะครับ เรื่องรักเรื่องแรกของผม Seven Day 7 วัน คนเหงา ความรัก ความตาย ผมของมอบให้กับ “คนที่คู่ควรตลอดไป”ของผมคนนั้น ถ้าใครคนนั้นอ่านอยู่ ก็อยากให้รู้ไว้นะว่าขอโทษกับทุกอย่างที่ผ่านมา ก่อนที่จะเลิกกันทำแต่สิ่งที่เลว ๆ ไว้ให้ ขอโทษด้วยจริง ๆ แล้วก็ขอบคุณสำหลับสิ่งต่าง ๆ มากมายที่ให้มา จะเก็บเอาไว้ไม่มีวันลืมเลย (เน่าว่ะ แต่รู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ นะ)

 :m15:ไม่เน่าหรอกครับ เรื่องของผมเน่ากว่านี้

คือผมกับเพื่อน(ขอใช้คำว่าเพื่อนนะ)คบกันมา11ปี(ไม่รวมสมัยยังเรียนด้วยกันนะ)ยังไม่มีอะไรกันเลยเป็นอะไรที่ไม่ใช่แฟน และมากกว่าคำว่าเพื่อน

  อยู่ด้วยกันตลอดติดกันเป็นปาท่องโก๋ทั้งๆที่ทำงานกันคนละที่ เช้าถึงเย็นถึงตอนเช้ามารับผมไปทำงาน ตอนเย็นมารับกลับบ้าน ตอนหลังเลิกงานคือเวลาของเรา กินข้าวดูหนังฟังเพลง ซื้อของ แต่เวลานอนคือ บ้านใครบ้านมันไม่ว่าจะกี่โมงกี่ยามก็ตาม จะตี4รึตี5ก็จะกลับ คือมาอยู่ที่คอนโดผมตลอด(ผมอยู่คนเดียว ส่วนเพื่อนอยู่บ้านกับแม่แค่2คนเพื่อนผมเป็นลูกคนเดียว โดยที่คุณพ่อเสียนานแล้ว)

ผมและเพื่อนไม่เคยมีแฟนทั้งในสมัยตอนเรียนและตอนทำงาน(ี่ผมสองคนหน้าตาดีทั้งคู่..ขอยกหางตัวเอง) มีคนตั้งข้อสงสัยว่าผมกับเพื่อนเป็นคู่เกย์รึปล่าว แต่ผม2คนก็ไม่เคยตอบโต้อะไรใคร จะอธิบายรึปฏิเสธใครๆถึงเรื่องนี้
ี้และไม่เคยนำเรื่องนี้มาคุยกันเลยเพราะอะไรไม่รู้ ผมรู้แต่ว่าผมรักเพื่อนนะแต่ให้ผมบอกไปว่ากูรักมึงนะ คงไม่ใช่ตัวผมแน่ๆ
ผมก็รอเพื่อนบอกรักผม จน11ปีแล้วก็ยังเลย มีแค่การปฏิบัติตัวที่มีต่อกันแค่นั้นที่เสมือนแฟน

จนกระทั่งผมต้องลาออกจากงานเพื่อมาช่วยกิจการของบ้านที่ ตจว. ผมอยากจะบอกอะไรหลายๆอย่างกับเพื่อน แต่ผมก็พูดไม่ได้ ผมพูดได้แค"อยากไปอยู่ จว.(ที่ผมจะไปอยู่)ไหม๊"
เพื่อนตอบมาว่า "แล้วแม่ของผมหละ จะอยู่กับใคร"
ผมก็บอกกลับไปว่า "ถึงวันหนึ่งที่ เพื่อนผมเบื่ออะไรต่ออะไรแล้ว รึไม่ต้องห่วงใครก็ ไปช่วยผมนะ ผมจะรอ"
เพื่อนตอบมาว่า "ถ้าถึงวันนั้น จะให้คำตอบ"
ผมเลยเปลี่ยนเรื่องคุยว่า"แต่งงานเมื่อไหร่บอกนะ"
เพื่อนมองหน้าผมจ้องตาแล้วพูดว่า"ก็รู้ๆ.....กันอยู่จะให้พูดเหรอ"

แค่นั้นหลังจากที่คุยวันนั้น นี่ก็ 6 เดือนแล้วที่ผมจากมา เจอกันครั้งเดียวเนื่องจาก จว.ที่ผมอยู่ไกลจากเพื่อน และเพื่อนต้องทำงานและผมอยู่ช่วยที่บ้าน โดยนัดกันมาดูหนังเรื่องรักแห่งสยาม ที่ โรงหนังแถบสถานที่ท่องเที่ยวแถวชายหาดที่ไฮโซชอบไป(แต่ผม2คนโลโซครับ ถึก+เถื่อน)

เจอกันครึ่งทาง แบบหนังจบ กินไรนิดหน่อย ก็บ้านใครบ้านมันเพราะมีงานที่แต่ละคนต้องรับผิดชอบ(ตอนดูหนัง ผมก็ร้องนะเพื่อนไม่ร้อง มีแต่จับมือผมไว้ตลอด ตอนหนังจบ ไปกินเอ็มเคก่อนกลับบ้าน ผมถามเพื่อนว่าคิดยังไงกับตอนจบ

เพื่อนบอกว่าจบแบบนี้ดีแล้ว "โต้งยังต้องทำงานเลี้ยงดูพ่อแม่นะ สุนีย์ก็เริ่มจะอ่อนล้าแล้วตัวผัวพึ่งไม่ได้ โต้งต้องเป็นหลักของบ้านแล้วก็ต้องเป็นที่พึ่งของที่บ้าน จะเลือกในสิ่งที่ตัวเองต้องการมันไม่ได้ มันจะกลายเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ เป็นคนอกตัญญูไป.....มันต้องมีสักวันหนึ่งหละที่อะไรต่ออะไร จะกลับมาอีกครั้งในวันที่ ชีวิตไม่มีภาระหรือพันธะใดๆ ถ้าใจไม่เปลี่ยน คนก็ไม่เปลี่ยน "

เพื่อนพูดตอบมายาวมากมาย ผมเลยหยุด เฉไฉไปคุยเรื่องงานของเพื่อนและ งานกิจการที่บ้านผมอย่างเดียว แล้วบ๊ายบาย

โทรคุยกันทุกวัน ไม่มีหวานๆนะ อยากมากก็แค่ "คิดถึงนะ" ,"เลิกงานกลับบ้านเลยนะ เพราะแม่อยู่คนเดียว", "ว่างหลายๆวัน ลงมาหานะ"  ปีใหมที่ผ่านมาก็ไม่ได้เจอกัน พอดีเพื่อนเข้าเวรวันหยุด สแตนบายออนคอลช่วงปีใหม่(งกโอที)
 
ชีวิตของผมเน่าซะยิ่งกว่าเน่าของคุณอีก

ปล.1ผมอายุ 33 จะ 34 แล้วยังเวอร์จิ้นอยู่ เชื่อรึป่าว(ส่วนเพื่อนผมเวอร์จิ้นรึป่าวไม่รู้ หุๆๆๆ)นี่แหละโครจะเน่าๆๆๆ
ปล.2 เข้ามาอัพบ่อยๆนะ ไม่ชอบทวงจ้าๆๆๆๆ สวัสดีปีใหม่ ย้อนหลัง :pig3:



keivet001

  • บุคคลทั่วไป
อย่าลืมาต่อไว ๆ นะครับ  :m4:

 :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23:แน่นอนครับผม :m23: :m23: :m23: :m23: :m23:

ขอบคุณ คุณtod_tee มากนะครับ........ชอบจังที่บอกว่า "ก็รู้ ๆ กันอยู่ จะให้พูดหลอ".......นั้นสินะ ถ้ามีสิ่งนั้นมาเชื่อมตรงกลางระหว่างคนสองคน มันก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก ใช่มั้ยครับ...... 

ผมเองก็อยากจะเจอเหมือนกันนะ คนที่จะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
ความรักบางทีก็เล่นตลกกับเรา ยากที่จะคาดเดาครับ  :o8:

keivet001

  • บุคคลทั่วไป
ตอนใหม่มาแว้วค๊าบบ


วันนี้อะไร ๆ ก็ดูรวดเร็วจนชายหนุ่มอดใจหายและแอบคิดตั้งคำถามขึ้นในใจไม่ได้ว่าเหตุใดวันอื่น ๆ ถึงดูเชื่องช้ายาวนานกว่ามากนัก รถเมร์ก็ดูวิ่งช้ากว่าวันนี้ การจราจรก็ดูติดขัดมากกว่านี้ ผู้คนก็ดูรีบร้อนน้อยกว่านี้ อาจเป็นเพราะเขาไม่มีอะไรให้เร่งรีบแล้วก็ได้กระมัง ทุกสิ่งจึงดูเร็วกว่าเดิมและเร็วกว่าทุก ๆ วัน รถเมล์วิ่งรวดเร็วดูไม่เชื่องช้าหวานเย็นเหมือนเก่าก่อนอีกทั้งถนนก็ดูรกร้างราวกับเมืองทั้งเมืองว่างเปล่าไร้ผู้อาศัยจนชายหนุ่มใช้เวลาเพียงสิบห้านาทีก็มาถึงซอยเข้าบ้าน
   ตลาดยามบ่ายแก่แบบนี้ดูคึกคักขึ้นมาอีกครั้งด้วยร้านรวงและร้านค้าอาหารที่ตั้งเรียงรายไปตามบาทวิทียาวหลายสิบเมตรคู่ไปกับท้องถนนที่การจราจรติดขัดเพราะทางเดินรถแคบลง ผู้คนเดินกันไปมาจับจ่ายอาหารเย็นกันอย่างสนุกสนาน เสียงพ่อค้าแม่ขายร้องตะโกนกันไปมาโฆษณาสินค้าของตัวเองพร้อมกับเสียงต่อรองสินค้าของเหล่าลูกค้า เจนศิลป์เดินอยู่หลายรอบก่อนจะซื้อข้าวพัดไปฝากมารดาและซื้อขนมถังแตกของนางทองมาเป็นอาหารเย็นของตัวเอง
   ชายหนุ่มหยีตาพรางยกมือขึ้นป้องใบหน้าสู้กับแสงแดดบ่ายแก่ที่แผดเผาร้อนแรงจนแผ่นหลังเขาเปียกชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อ พรางเดินเข้าซอบบ้านของตัวเองด้วยสีหน้าและแววตาที่ว่างเปล่าอย่างประหลาดอีกราวร้อยเมตรก็จะถึงบ้านของเขาแล้วแต่สายตาเขาก็พลันเหลือบไปเห็นร่าง ๆ หนึ่งยืนอยู่หน้าประตูบ้านพร้อมกับลูกบอลสีชมพูในมือ ชายหนุ่มชะลอฝีเท้าลงพรางถอนหายใจยาวอย่างว่างเปล่าก่อนจะเดินต่อไป
   “เจ้ามาแล้ว เด็กน้อยเอ๋ย.....” เสียงเด็กหญิงคนนั้นว่าพรางตีลูกบอลลงพื้นเล่น มันเด้งกลับมาที่มือเธออีกครั้งในอีกวินาทีต่อมา
   ชายหนุ่มไม่ตอบ เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเก่งก่อนหยิบเอาลูกกุนแจออกมาไขประตูบ้านให้เปิดออก
   “เข้ามาสิ” เจนศิลป์เอ่ยเบา ๆ  อีกฝ่ายทำตามแต่โดยดี
   “บ้านเจ้า น่าอยู่กว่าที่ข้าคิดไว้มากนัก”อมรว่าพรางนั่งลงบนโซฟาตัวยาวที่สีซีดเก่าดูน่าเกลียด ในมือเธอยังกอดลูกบอลไว้หลวม ๆ 
   “มีอะไรอีกละทีนี้” ชายหนุ่มพูดพรางถอดลองเท้าโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าอีกฝ่าย
   เธอถอนหายใจยาว “เจ้าจะให้ข้าพูดอีกหรือ ข้างเบื่อที่จะพูดแล้ว เด็กน้อยเอ๋ย” 
   ชายหนุ่มเงียบไปพักหนึ่ง “งั้นจะทำอะไรก็ทำไปนะ....ผมอยู่ชั้นสอง” ว่าแล้วเจนศิลป์ก็เดินดุ่ม ๆ ไปในครัวพรางหยิบเอาจาน ช้อน แก้วน้ำเปล่าและขวดน้ำเย็นขึ้นไปด้านบน
   ห้องของมาดาเขานั้นดูไม่เปลี่ยนไปจากวันอื่น ๆ เลย หญิงกลางคนนอนหลับเมามายไม่ได้สติอยู่บนเตียง จานข้าวว่างเปล่าตั้งอยู่บนโต๊ะใกล้ ๆ กันมีขวดเหล้าที่เหลือเพียงน้อยนิดตั้งอยู่ ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้งพรางเดินไปที่เตียง วางถุงข้าวพัดและของอื่น ๆ ไว้บนโต๊ะตัวเล็ก
   “แม่....แม่....กินข้าว” เขาว่าพรางเขย่าตัวมารดาเบา ๆ เธอตอบเพียงเสียงประหลาดในลำคอก่อนจะเงียบไปอีกครั้ง เจนศิลป์สัมพัทธ์เนื้อตัวเธอจึงรู้ว่ามันชุ่มเหงื่อจนชื้นเหนียวไปหมด “จะอาบน้ำมั้ย”
   เธอไม่ตอบ เขาจึงเดินไปหยิบเอาถังใบเล็กในห้องน้ำใส่น้ำมาครึ่งหนึ่งพร้อมกับผ้าขนหนูสะอาด
พอเจนศิลป์เริ่มถูผ้าขนหนูไปตามเนื้อตัวของหญิงการคนจึงรู้ได้ในทันทีว่าเธอนั้นดูซูบผอมกว่าเดิมมาก แขนขาลีบเล็กติดไปกับแนวกระดูกดูน่ากลัว เป้าตาลึกและดำคล้ำ แก้มตอบจนโหนกแก้มลอยเด่นเห็นกระดูกสีขาวด้านในชัดเจน อีกทั้งสีผิวก็คล้ำเหลืองกว่าเดิมที่เขาจำได้มาก
   เห็นแบบนี้ชายหนุ่มยิ่งเจ็บปวดในใจราวกับอกถูกบีบอัดด้วยแรงกดมหาสาร ความรู้สึกสมเพชในความไร้ค่าไม่เอาไหนของตัวเองเริ่มก่อตัวขึ้นในใจที่ละน้อย ถ้าเพียงเขาทำสิ่งต่าง ๆ ให้ได้ดีมากกว่าที่เป็นอยู่ทุกอย่างคงไม่ลงเอยแบบนี้ ถ้าตอนนั้นเขาสามารถห้ามไม่ให้พ่อไปได้..... ถ้าตอนนี้เขาสามารถห้ามไม่ให้มารดาของเขาทำร้ายตัวเองแบบนี้ได้......ถ้าเพียงเขาเข้มแข็งมากกว่านี้......ถ้าเพียงเขาพยายามมากว่านี้.......
   ยิ่งคิดก้อนเนื้ออันใหญ่ก็เริ่มก่อตัวบีบอันในอกเขาจนทรมาน มันสมควรแล้วที่เป็นแบบนี้ สมควรแล้วที่เขาจะเจ็บปวด สมควรแล้วที่เขาจะเสียใจ เพราะสิ่งเหล่านี้ ที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้ก็เพราะเขา เพราะเขาคนเดียว......
   “เหตุไดเจ้าจึงทำเช่นนั้น......”เสียงหนึ่งดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง ชายหนุ่มไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นอมรในร่างของเด็กหญิงชุดกระโปรงยาวสีชมพู
   “มันเป็นหน้าที่.....”เขาตอบพรางถูร่างของหญิงกลางคนต่อไป
   “มิใช่เพราะ รักหรือ.......”เด็กหญิงคนนั้นว่า “เจ้ารักมารดาของเจ้าหรือไม่ เด็กน้อยเอ๋ย”
   “คงรักมั้ง”ชายหนุ่มตอบพรางยิ้ม “ทั้งรักทั้งหน้าที่ มันสองอย่างรวม ๆ กันนะ”
   อมรเงียบไปหลายนาทีพรางจ้องมองคนทั้งสองด้วยดวงตากลมโตไร้เดียงสาก่อนจะพูดขึ้น “เหตุไดนางจึงเป็นเช่นนั้นละ”
   เจนศิลป์ตอบด้วยการชี้ไปที่ขวดเหล้าบนโต๊ะ
   “ข้าไม่ได้หมายถึงเช่นนั้นเด็กน้อยเอ๋ย.....ที่ข้าอยากรู้ก็คือเหตุไดนางจึงเมามายเช่นนั้น......เหตุไดนางจึงเป็นทุกข์ถึงขนาดนั้น”
   “คุณรู้ได้ไงว่าเขาทุกข์ บางทีเขาอาจจะมีความสุขก็ได้นะที่เป็นแบบนี้” ชายหนุ่มพูดจบก็หัวเราะในลำคอเบา ๆ
   “เช่นนั้นหรือ.....”เด็กหญิงว่าพรางทำสีหน้าครุ่นคิด “นางอาจะมีความสุขอยู่อย่างนั้นหรือ”
   เจนศิลป์หยุดถูตัวให้มารดา ถอนหายใจยาวพรางและหันมาเอาผ้าขนหนูชุบน้ำในถัง “ผมพูดเล่นนะ......ที่จริงที่แม่เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะทุกข์ใจนั่นละ.....เขาคงคิดว่าเมาแล้วจะลืมได้มั้ง”
   “ลืมความทุกข์งั้นหรือ.......แล้วนางลืมได้หรือไม่”
   ชายหนุ่มสายหน้าเบา ๆ ด้วยสีหน้าเจ็บปวด ไม่มีใครรู้ความหมายของมัน....ทั้งตัวเขาเองและอมร   
   “แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี.....เด็กน้อยเอ๋ย......เหตุไดนางจึงเป็นเช่นนั้น เหตุไดเจ้าจึงยอมเหนื่อยอ่อนกับภาระหน้าที่มากมาย.......ทั้งที่นางก็สามารถหยุดดื่มกินสิ่งเหล่านั้นได้ หยุดโศกเศร้าเสียใจได้.......และเจ้า....เด็กน้อยเอ๋ย.....เจ้าสามารถทิ้งนางไปได้ทุกเมื่อ ......ไปมีชีวิตที่ดีกว่า.....ไปมีชีวิตของตัวเอง.....”
   คำพูดนั้นควรทำให้เจนศิลป์โกรธและไล่อีกฝ่ายออกไปให้พ้นหน้าและบ้านของเขาได้ แต่ด้วยเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นถามด้วยเจตนาบริสุทธิ์ เขาจึงไม่รู้จะโกรธไปเพื่ออะไร “นั้นสินะ.....คุณพูดถูก”เขาตอบ “แต่ไม่ทั้งหมดหลอกนะ......แม่เขาหยุดไม่ได้หลอก....ที่จะเศร้านะ......ส่วนผมก็ไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว”
   “เพราะอะไรกัน....ข้าไม่เข้าใจ”
   ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส “ที่แม่เขาหยุดเศร้าไม่ได้ก็เพราะ....เขารักพ่อไง........เขาเสียใจที่พ่อไม่อยู่แล้ว......ส่วนที่ผมไปไหนไม่ได้ก็เพราะ ผมรักแม่....มันเป็นหน้าที่ลูกที่ต้องดูแลพ่อแม่ของตัวเองยามเจ็บป่วยนะสิ”
   “ที่ต้องรักด้วยหรือ......”อมรเอ่ยขึ้น
   ชายหนุ่มหันไปมองอีกฝ่ายอย่างเชื่องช้าด้วยสีหน้าว่างเปล่า “คงงั้นมั้ง....”
   “ข้าไม่เข้าใจ เด็กน้อย ในโลกที่เจ้าอาศัยอยู่นั้นมีหญิงสาวมากมายเป็นแสนเป็นล้านรอคอยให้เจ้าไปพบเจอ พวกนางงดงาม ฉลาด แข็งแกร่ง และอ่อนหวาน แต่เจ้ากลับอยู่ที่นี่ กับหญิงคนนี้ หญิงเมามายไร้สติที่แทบไปไหนได้ไม่เกินสิบก้าวเดิน.....ข้าไม่เข้าใจ”
   ชายหนุ่มยิ้ม “นั้นสินะ.....”เขาเงียบไปครู่หนึ่งพรางถูผ้าขนหนูไปตามฝ่าเท้าของหญิงกลางคน “คนเรานะ....ไม่เหมือนกันทุกคนหลอกนะ” เขาว่า “กับบางคนเราอาจจะเลือกที่จะรักก็ได้ เลือกที่จะไม่รักก็ได้ เหมือนอย่างกับผู้หญิงพวกนั้นที่คุณว่านั้นละ ผมเลือกที่จะรักใครก็ได้.....ไม่รักใครก็ได้......ขึ้นอยู่กับผมคนเดียว....แต่กับบางคน เราเลือกไม่ได้เลยว่าจะรักหรือไม่รัก......เพราะมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครคนไดคนหนึ่ง....ทั้งตัวผมเอง....หรือแม่ผม.....อย่างเดียวที่ทำได้ก็แค่รักเขาก็เท่านั้นเอง”ชายหนุ่มหยุดพรางมองสีหน้าของอมรที่แสดงถึงความงุนงงและไม่เข้าใจอย่างเด่นชัด ชายหนุ่มจึงลุกขึ้น โยนผ้าขนหนูลงถังน้ำและพูดต่อ “ก็เพราะสิ่งที่เขามอบให้เรามามันมีค่ามาก สิ่งที่เขาศูนย์เสียเพื่อเราก็มีอีกหลายอย่าง สิ่งที่เขาต่อสู้เพื่อเรา สิ่งที่เขายอมตายเพื่อเรา.....มันมากเหลือเกิน มากเสียจนเราไม่สามารถทำนิ่งเฉยดูดายไม่รักและตอบแทนสิ่งที่อีกฝ่ายให้มาได้.....แม้ว่ามันจะน้อยนิดเพียงไดก็ตามเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาต้องเสียไปเพื่อเรา”
   “แต่มันต้องมากถึงเพียงนี่เชียวหรือ......มีค่ามากถึงครึ่งชีวิตของเจ้าเองเชียวหรือ......”
   “งั้นหลอ”ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปาก “....ความรักมันเรียกร้องการเสียสละจากเรามากใช่มั้ยละ.....แต่เชื่อผมเถอะอมร....ต่อให้ต้องแลกด้วยทั้งชีวิตของผมเอง ผมก็ให้ได้”ชายหนุ่มยกถังน้ำเดินผ่านเด็กหญิงคนนั้นไป “คุณสัญญาแล้วนะ.....ถ้าอีกหกวันผมตาย....แม่ผมจะมีชีวิตที่มีความสุขไปอีกนานแสนนาน”
   เด็กหญิงมองดูหญิงกลางคนที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าว่างเปล่า ทั้งดวงตา ใบหน้า ริมฝีปาก เส้นผม ใบหู ทุกอย่างดูว่าเปล่าไร้อารมณ์ได้ ๆ แต่ในความว่างเปล่านั้นกลับมีความเจ็บปวดเย็นยะเยือกซ่อนตัวลึกอยู่ “อย่างนั้นหรือ.....เพียงเพราะรัก.....เท่านั้นเองหรือ......”

tod_tee

  • บุคคลทั่วไป
อ้างถึง
ผมเลือกที่จะรักใครก็ได้.....ไม่รักใครก็ได้......ขึ้นอยู่กับผมคนเดียว....แต่กับบางคน เราเลือกไม่ได้เลยว่าจะรักหรือไม่รัก......เพราะมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครคนไดคนหนึ่ง

 :m12:ซึ้งจังครับ.......เรื่องนี้ดีมากมายครับ แต่คนไม่อ่านกัน เนื่องจากชื่อเรื่อง มันฮาร์ดคอดราม่าไปรึป่าว(คิดเอาเอง) :sad2:

 :teach:เวลาเข้ามาอัพ แก้ไขชื่อเรื่องให้มีวันที่อัพเพิ่มเติมด้วยดิ(จะเป็นเด็กวัดสอนสังฆราชรึป่าวก็ไม่รู้ว่ะ) :m23: จะได้เป็นจุดดึงดูดคนเข้ามาอ่าน เพราะผมว่าเนื้อเรื่องมันดีมาก รึมันจะดราม่า สมวัยผมไม่รู้ดิ อิๆๆๆ :haun5:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
เนื้อเรื่อง อาจจะไม่ถูกใจคนส่วนใหญ่ แต่ผมชอบนะ แบบแอบแฝงปรัชญา ไว้ด้วย อิอิ

keivet001

  • บุคคลทั่วไป
อ้างถึง
ผมเลือกที่จะรักใครก็ได้.....ไม่รักใครก็ได้......ขึ้นอยู่กับผมคนเดียว....แต่กับบางคน เราเลือกไม่ได้เลยว่าจะรักหรือไม่รัก......เพราะมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครคนไดคนหนึ่ง

 :m12:ซึ้งจังครับ.......เรื่องนี้ดีมากมายครับ แต่คนไม่อ่านกัน เนื่องจากชื่อเรื่อง มันฮาร์ดคอดราม่าไปรึป่าว(คิดเอาเอง) :sad2:

 :teach:เวลาเข้ามาอัพ แก้ไขชื่อเรื่องให้มีวันที่อัพเพิ่มเติมด้วยดิ(จะเป็นเด็กวัดสอนสังฆราชรึป่าวก็ไม่รู้ว่ะ) :m23: จะได้เป็นจุดดึงดูดคนเข้ามาอ่าน เพราะผมว่าเนื้อเรื่องมันดีมาก รึมันจะดราม่า สมวัยผมไม่รู้ดิ อิๆๆๆ :haun5:



           มันฮาร์ตคอดราม่าขนาดนั้นเลยหรือครับ :m21:....5555+....ไม่รู้สิครับเพราะตอนที่คิดพร๊อดเรื่องออก ชื่อมันก็เด่งปึ๋งขึ้นมาเหมือนป๊อบอัพเลยอ่ะครับ.....กะว่าจะเปลี่ยนเป็น มนรักยมบาลอยู่...(ล่อเล่นนะครับ(มุขฝืดมั่งเหอะ :m29:))....ยังไงก็อ่านต่อนะครับ ถึงจะมีคนอ่านน้อยแต่ทุกคนที่อ่านต้องมีความสุขแน่นอนครับ (หวังว่านะ:m1:)

               ปล. ไม่ใช่เด็กสอนสังฆราชหลอกครับ เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าทำยังไง (โง่จังน้า :m23: เรานี่)


เนื้อเรื่อง อาจจะไม่ถูกใจคนส่วนใหญ่ แต่ผมชอบนะ แบบแอบแฝงปรัชญา ไว้ด้วย อิอิ

            เนื้อเรื่องไม่โดนใจคนส่วนใหญ่นี่ผมไม่ค่อยห่วงเท่าไรหลอกครับ เพราะยังมีคนน่ารัก ๆ นิสัยดี ๆ อ่านอยู่บ่าง (ถึงจะเป็นส่วนน้อยก็ตามเมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่นะน่ะ(งงนะนี่ :เฮ้อ:))จะห่วงก็แต่สำนวนที่ผมใช้เท่านั้นละครับ อาจจะเพราะพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่เข้ามาอ่านเรื่องจากบอร์ดนี่ส่วนใหญ่ชอบสำนวนที่มันทันสมัยกว่านี้ วัยรุ่นกว่านี้ เป็นภาษาพูดมากกว่านี้มั้งครับ ผมเลยขายนิยายเรื่องนี้ไม่ค่อยออก (หนีจากบอร์ดอื่นมาก็เพราะแบบนี้ละ) แต่ว่านะ จะให้ผมเปลี่ยนสำนวนหรือเนื้อเรื่องตอนนี้ก็คงไม่ได้แล้วละครับ.....เพราะถ้าเปลี่ยน มันก็คงไม่ใช่นิยายของผมแล้วละ ...... :m12:(ขอโทษด้วยนะครับ :m15:) อย่างว่าละน้าผู้อับโชคอย่างผมมันก็เป็นแบบนี้ละ

              ยังไงก็ขอความกรุณา :m1:(แกมขอร้อง:m13:ออกไปทางบังคับ :m16:) อ่านต่อด้วยนะครับ....แค่เห็นพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ หลายคนเม้มมาก็ดีใจแล้วละ ขนลุกทุกทีเลยที่เห็นเม้มใหม่ ๆ มา (มะด้ายเวอร์น้า)

           ขอบคุณครับ......... :pig4:
             ปล. ปรัชญาเลยหรือครับ... :m23:...คงไม่ขนาดนั้งมังครับ :m1: :m1:


coloniser

  • บุคคลทั่วไป
 :pig4: ขอบคุณมากเลยคับที่ตามอ่านเรื่องของผม เดี๋ยวผมสอบเสร็จจะตามเก็บเรื่องนี้บ้างละคับ

tod_tee

  • บุคคลทั่วไป
 :a2:สู้ๆๆ ดันแและรอครับ :a12:

YoOl

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปได้หน่อยเดียวเองครับ ขอตัวแว๊ปไปก่อน

แล้วดึกๆจะมาอ่านต่อให้จบนะครับ

fighting
 :a2: :a2: :a2:


tod_tee

  • บุคคลทั่วไป
 :a6:มาต่อให้จบนะคับ :a2:สู้ๆๆ

remainder.t

  • บุคคลทั่วไป
 :a12:ทวงอีกครั้ง จนกว่าจะมาต่อจนจบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด