กฏเล้าประกาศ 22/9/2019 จะลบนิยายที่ไม่มาต่อจนจบทิ้งทั้งหมดเล้าเป็ดรณรงค์ ให้ใช้เรียกนักเขียน นักอ่านแทน ไรท์เตอร์ รีดเดอร์ เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของเว็บเรากันนะคะ
สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ
เวลาอาหารเย็นของครอบครับนี้ดูผิวเผินจะเหมือนอบอุ่นและเป็นกันเองอย่างมาก แต่ธารารู้ดีถึงสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวใหญ่ตามแบบอย่างของคนจีน มีสมาชิกทั้งหมดราวสิบห้าคนได้ ทุก ๆ วันเวลาสอง(คืออะไรไม่เข้าใจ)ทุกคนต้องมานั่งกันอยู่ที่โต๊ะไม้กลมใหญ่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาและกินอาหารร่วมกันพลางเล่าสิ่งต่าง ๆ ให้กันฟังอย่างออกรส เสียงพูดคุยภาษาไทยปนจีนจะดังระงมไปทั่วทั้งห้องที่มีขนาดใหญ่โตพร้อมของประดับใหญ่โตมากมาย ทั้งกระถางกระเบื้องลงลายสีน้ำเงินเข้มขนาดใหญ่ ภาพเขียนใส่กรอบแบบจีน และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย ทุก ๆ วันธาราจะรู้สึกราวกับว่าตัวเองนั้นล่องหนอยู่ในห้องใหญ่แห่งนี้ อาป๊าและอาม้าของเธอนั้นจะนั่งอยู่ข้างกับพี่สาวคนโตและน้องชายของเธอส่วนเธอเองนั้นจะนั่งอยู่ท้ายสุดของครอบครัว ที่จริงแล้วเธอจะมีพี่ชายคนรองนั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยแต่ตอนนี้เขาออกเดินทางไปต่างประเทศที่นั่งข้างเธอจึงว่างอยู่ เธอและพี่ชายคนรองสนิทกันมากเป็นพิเศษ อาจด้วยเพราะเป็นลูกคนที่สองและสามซึ่งอยู่ตรงกลางพอดีจึงทำให้มีอะไร ๆ คล้ายกันอยู่หลายอย่าง การที่เขาไม่อยู่ตรงนั้นมันทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวเหม่อมองไปยังที่นั่งข้าง ๆ ที่ว่างเปล่าด้วยสายตาโหยหา “อาเจ้ ข้าว” เสียงน้องชายของเธอดังขึ้นพลางส่งโถข้าวกระเบื้องให้เธอ “ขอบใจ อาตี๋เล็ก” ธาราแบ่งข้าวใส่จานเพียงเล็กน้อยก่อนจะเริ่มรับประทานอย่างเบื่อหน่าย เสียงญาติ ๆ ของเธอพูดคุยกันเสียงดังคับห้อง อาป๊าของเธอที่มีผิวขาวและรูปร่างอ้วนท้วนเล่าเรื่องงานรับเหมาที่ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำอย่างอารมณ์พลางพ่นเศษอาหารในปากออกไปยามหัวเราะจนดูคล้ายคล้ายหมู เธอเบือนหน้าหนีอย่างอับอายก่อนจะลุกเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองอย่างเงียบ ๆ ตะกละตะกลาม ห้องของเธอเป็นห้องเล็ก ๆ ที่มีข้าวของอย่างห้องเด็กผู้หญิงทั่วไป เตียงใหญ่ถูกวางชิดริมหน้าต่างด้านในสุดและปูทับด้วยผ้าปูที่นอนสีฟ้าลายโดราเอม่อนเช่นเดียวกับหมอนข้าง ผ้าห่มและหมอน ตู้เสื้อผ้าที่ทำจากไม้เนื้อแข็งสีอ่อนถูกวางอยู่ที่ปลายเตียง ข้าง ๆ เป็นโต๊ะเครื่องแป้งทำจากไม้ชนิดเดียวกัน ข้างเตียงอีกด้านเป็นโต๊ะหัวเตียงเล็ก ๆ ใช้วางโคมไฟรูปโดราเอม่อนแต่งตัวเป็นเทพีเสรีภาพ ถัดจากโต๊ะหัวเตียงมาจะเป็นโต๊ะวางคอมพิวเตอร์จอพลาสม่าสีดำดูราคาแพง ห้องของเธอไม่มีโทรทัศน์เพราะตอนที่เธอซื้อคอมพิวเตอร์มา อาป๊าบอกกับเธอว่าถ้าจะเอาคอมพิวเตอร์ไว้ในห้องก็ต้องเอาโทรทัศน์ออกไป ไม่อย่างนั้นเธอจะเป็นนางอายหลบอยู่ในห้องตลอดไม่ไปไหนอีก แต่เธอคิดว่าปรกติก็ไม่มีใครสังเกตเห็นเธออยู่แล้วแม้ว่าเธอจะอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้นก็ตาม ธาราทิ้งตัวลงบนเก้าอื้ตัวใหญ่ที่ทำเป็นรูปโดราเอม่อนกำลังกอดคนที่นั่ง ก่อนเริ่มท่องไปในโลกที่เธอรู้สึกว่าตัวเธอนั้นมีตัวตนอยู่จริงและมีค่าสำหลับใครสักคน ในโลกแห่งนั้นเธอสามารถไปไหนก็ได้อย่างใจเธอต้องการ พูดคุยกับใครก็ได้โดยไม่รู้สึกเขินอายไม่ว่าจะเชื่อชาติใด ศาสนาใดเธอสามารถพูดคุยได้หมด และส่วนที่เธอชอบที่สุดก็คือเธอสามารถเป็นใครทำอาชีพอะไรก็ได้ในโลกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์.นี้ ทั้งหญิงระบำเปลื้องผ้าในลาสเวกัส ไอดอลชายหน้าหวานชื่อดังในญี่ปุ่น หมอศัลยกรรมให้คำปรึกษาแก่ผู้เดือดร้อนในอินเดีย และที่เธอชอบที่สุดคือหนุ่มใหญ่ขี้เหงาในกรุงเทพ ไม่นานนักก็มีคนเข้ามาทักทายเธอผ่านโปรแกรมพูดคุย เอ็มเอสเอ็น ชื่อที่ขึ้นอยู่บอกให้เธอรู้ว่าอีกฝ่ายคือเพื่อนเก่าที่พูดคุยกับเธอมานานผ่านโลกเสมือนจริงแห่งนี้ สำหรับเธอ ธาราคือพี่แว่นชายวัยยี่สิบปลาย ๆ ที่ขี้เหงาและอบอุ่น และสำหรับธารา อีกฝ่ายคือแอมมี่เด็กสาวน่ารักวัยมัธยมปลาย - ดีค่ะพี่แว่น- - อือ...ว่าไงจ๊ะ แอมมี่ วันนี้โดดเรียนอีกหรือเปล่า-- เปล่านะ วันนี้เขาปะเรียนโด้ย-ธาราชินเสียแล้วกับการพิมพ์ข้อความแบบนี้ของอีกฝ่ายถึงบางครั้งมันจะทำให้เธอปวดหัวบ้างก็ตาม-จริงนะ ไม่หลอกพี่แว่นนะ-เจง เจง- อีกฝ่ายพิมพ์มาพร้อมกับไม้ยมกสามแถวเต็ม-แล้วเป็นไงบ่าง เรียนอะไรบ้างวันนี้--เรียนรู้ที่จาร้าก- ตามมาด้วยไม่ยามกอีกสองแถวครึ่ง ธาราอมยิ้ม - เหรอ แล้วตอนกลางวันกินอะไรบ่างหรือเปล่า เลิกไดเอ็ดได้แล้วนะ- - เขากินต๊ะหลายอย่าง พี่ล่ะกินอะไรบ่าง- - กินแต่ไก่วันนี้ ปวดตามข้อไปหมดแล้วเนี่ย สงสัยจะเป็นเก๊าท์- - เจงหลอพี่ ไปหาหมอยัง- - ไปแล้ว หมอบอกว่าเป็นเก๊าท์สายพันธุ์ใหม่ รักษาไม่หาย- - เจงอะ- - อือ โรค เก๊าๆๆๆๆๆๆๆๆๆร้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆโตๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเองๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆน้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ- ธาราหัวเราะเบากับความไร้สาระของตัวเอง-แล้วพี่ได้บอกร้ากกับคน ๆ น้านไปยาง- อีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องคุยทันทีคล้ายไม่พอใจที่เจอคนไร้สาระกว่าตัวเอง-ยังเลย แต่เมื่อวานได้คุยกับเขาด้วย--เจงอ่ะ เขาว่างายบ่างละ--ก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่พยักหน้าเฉย ๆ เอง--ดีจางน้า--ดียังไง....พี่ไม่เข้าใจ--ก็ดีที่อย่างน้อยพี่ยังมีคนให้ร้าก ให้คิดถึงไง-ธาราจ้องมองข้อความนั้นอย่างครุ่นคิดและเหม่อลอย-คงอย่างนั้นมั้ง--หญิงสาวนั่งอยู่แบบนั้นจนถึงเกือบเที่ยงคืนก่อนจะหาข้ออ้างไปนอน อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยเธอไปโดยดี แต่หลังจากผ่านไปหลายสิบนาที ธาราก็ได้ล้มตัวลงนอนบนเตียง “เก๊าร้ากโตเองน้า”หญิงสาวพึมพำพลางยิ้มก่อนจะผลอยหลับไป .......................................................................................