♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]  (อ่าน 1119887 ครั้ง)

ออฟไลน์ ►MoNkEy-PrInCe◄

  • อินเตอร์ไลน์
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 726
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ทุเรศหรือหึงครับพี่เฮดิส?? :laugh:

MangoBlue

  • บุคคลทั่วไป
 :hao6: หึงแรงนะจ้ะ ปากร้ายจริงๆเลยเฮดีส

ออฟไลน์ zoe131313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

MangoBlue

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ zoe131313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ lie-boy

  • การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือ การประสบความสำเร็จให้มากกว่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
    • poypoy & lieboy
สุดขีด 12


บรรยากาศระหว่างพวกเรามันช่างย่ำแย่ ผมหุบปากเงียบก้มหน้าเฉมองพื้นไปเมื่อเจออาการโมโหพาโล แน่นอนว่าไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเขาจะมาใส่ใจเรื่องแค่นี้ทำไม? พี่ยูทำหน้าแปลกๆ ยื่นปากเหมือนกลั้นหัวเราะ สงสัยพี่ยูจะเป็นคนเดียวที่อยู่ในอารมณ์รื่นเริง พี่ไนซ์ขยับตัวอย่างอึดอัดแล้วเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่ดีนัก


“ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมเฮดีส?”


พี่เฮดีสเหลือบมองพี่ชายฝาแฝดด้วยสายตาคมกริบแล้วเอ่ยปฏิเสธอย่างเย็นชา


“ไม่จำเป็น ไสหัวกลับไปซะ”


“มีเหตุผลหน่อยเฮดีส นายคิดว่ามีแต่นายหรือไงที่เจ็บปวดกับเรื่องนั้นน่ะ! แม่กับฉันก็เสียใจไม่แพ้นายหรอกเจ้าเด็กบ้าเอ๊ย!!”พี่ไนซ์สูดอากาศพยายามระงับอารมณ์โมโหแล้วเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงจริงจังมากขึ้น พี่เฮดีสมองพี่ไนซ์ด้วยหางตาที่ดูเย็นชายิ่งกว่าเดิม ดวงตาสีดำลึกล้ำยากจะหยั่งถึงมีไฟโทสะปะทุภายใน ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงก็กระตุกโค้งขึ้นเหมือนกำลังแสยะยิ้มดูถูก


“เสียใจ? เหอะ ไอ้ความรู้สึกกะจ้อยร่อยนั้นช่างน่าสมเพช”


“เฮดีส!”พี่ไนซ์คำรามอย่างเดือดดาลกับท่าทางไม่ใส่ใจใยดีของน้องชาย


สถานการณ์เริ่มไม่ดีเอามากๆ ผมควรทำยังไงดี? พี่ไนซ์พยายามระงับอารมณ์โมโหของตัวเอง กำหมัดแน่นจนมือสั่น ผมมองพี่ยูเพียรส่งสายตาขอความช่วยเหลือเร่งด่วน พี่ยูมองตอบกลับมาด้วยสีหน้าลำบากใจ ทำอะไรสักอย่างสิครับ! ผมส่งความทางสายพี่ยูถอนหายใจแล้วส่งสายตาตอบกลับอย่างลำบากใจ ก่อนจะเอ่ยแทรกบรรยากาศน่าขยาด


“เออ เข้าไปคุยในบ้านก่อนไหม?”


“รบกวนด้วยนะครับ”


พี่ไนซ์ครุ่นคิดเมื่อพี่ยูเอ่ยปากเชื้อเชิญ ก่อนจะพยักรับแล้วยิ้มเล็กๆ เป็นการขอโทษทางสายตา


“เฮดีส ขอร้องล่ะ ช่วยฟังหน่อยได้ไหม? ครั้งนี้จะเป็นสุดท้าย”พี่ไนซ์หันมาเอ่ยขอร้องด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ขนาดผมฟังยังรู้สึกเจ็บปวดแทนเลย แต่ทว่าพี่เฮดีสกลับเดินผ่านพี่ไนซ์ไปอย่างไม่แยแสต่อคำขอร้องนั้นแม้แต่น้อย


“เฮ้ย มึงจะไปไหนวะ?”พี่ยูร้องถามเมื่อเห็นเพื่อนเดินไปคนละทางกับคนอื่นๆ


“กลับ”พี่เฮดีสตอบสั้นห้วนไม่แม้กระทั่งจะหันหน้ากลับมา พี่ไนซ์ถอนหายใจเฮือกอย่างสิ้นหวัง


ผมมองพวกเขาทั้งสองคนที่มีใบหน้าเหมือนกัน แต่ตอนนี้กำลังแสดงออกตรงกันข้ามแล้วมันหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูก ทำไมพี่เฮดีสถึงไม่ยอมเจอแม่ของตัวเอง... เทียบกับผมสิ ผมอยากเจอแม่และยายมากแค่ไหน แต่มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้เพราะพวกท่านไม่อยู่ตั้งนานแล้ว พี่เฮดีสเดินผ่านผมแล้วหยุดชะงัก


ผมกำชายเสื้อสีดำเอาไว้แน่นไม่ยอมให้เขาเดินไป พี่เฮดีสปัดมือผมออกจากเสื้อของเขาแต่ผมก็หมุนตัวคว้าแขนของเขาแต่ก็โดนสะบัดออกอย่างรวดเร็ว เขาก้มหน้าหรี่ตามองผมด้วยสายตาเฉยชาปนไม่พอใจ ผมใจเจ็บแปลบไม่กล้าจะแตะตัวเขาอีกเพราะท่าทางแบบนั้น มันก็ชัดเจนแล้วว่าเขาไม่ต้องการให้ผมแตะต้องตัว ผมหรุบตามองพื้นก้มศีรษะลงแล้วเอ่ยขอร้องเขาด้วยเสียงแผ่วเบา มันคือความพยายามครั้งสุดท้ายแล้ว


“ขอร้องล่ะครับ ช่วยอยู่คุยกับพี่ไนซ์หน่อยนะครับ”


“...”


“เฮดีส ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ”พี่ไนซ์เอ่ยขอร้องอีกเสียง


คนถูกขอร้องนิ่งเงียบไม่ตอบ นานกว่าเขาจะเอ่ยปฏิเสธเหมือนเดิมไม่ยอมเปลี่ยนใจ ผมเงยหน้าขึ้นมามองจะเอ่ยขอร้องอีกครั้ง แต่ก็หยุดชะงักพูดอะไรไม่ออกสักคำ เหมือนสมองมันตื้อ เพราะอะไร? ทำไมพี่เฮดีสต้องทำสายตาเจ็บปวดขนาดนั้นด้วย ทั้งๆ ที่ฝ่ายพวกผมต่างหากที่โดนปฏิเสธ แต่เขากลับทำเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายถูกปฏิเสธซะเอง แววเว้าวอนวูบผ่าน ผมนิ่งอึ้งมองดวงตาสีดำเข้มคู่นั้นแต่แป๊บเดียวดวงตานั้นวาวโรจน์ฉับพลัน


“เฮดีส...”


“ไม่เข้าใจหรือไง! คนใกล้ตายอย่างแกน่ะ อย่าเสนอหน้ามาให้เห็นอีก!! อยากตายเร็วกว่าเดิมหรือไง!?”พี่เฮดีสชักสีหน้าแล้วตวาดเสียงดังจัดชุดใหญ่รัวใส่ไม่ยั้งจนหอบ พวกผมผงะเมื่อเขาพุ่งเข้าคว้าคอพี่ไนซ์บีบจนอีกฝ่ายหน้าเขียว


 “อึก!”


“เฮ้ย ไอ้เฮดีส!”


“พี่ไนซ์!”


ผมกับพี่ยูเต้นอยู่ข้างๆ ไม่กล้าเข้าไป ก็แน่สิ! คนที่บีบคอคนอื่นอยู่นั้นน่ะทำหน้าอย่างกับยักษ์แน่ะ ดวงตาวาวโรจน์ พี่เฮดีสเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาเป็นน้ำแข็งพันปี


“พวกแกสองคนแม่ลูกทำไมต้องโผล่หัวมาด้วย อยู่ที่นั้นก็ดีอยู่แล้ว การมีแม่หรือไม่มีมันไม่สำคัญอะไรสำหรับฉันเลยสักนิด หนำซ้ำมันน่าลำบากเสียอีก!!!”


พูดจบก็เหวี่ยงพี่ไนซ์ใส่พวกผมที่ยืนอึ้งรับพี่ไนซ์ได้พอดี พี่เฮดีสมองพวกเราแล้วสะบัดตัวเดินจากไปราวกับพายุ ดูท่าจะอารมณ์เสียโคตรๆ ถ้าเป็นคนปกติทั่วไปคงจะพูดได้ว่าโกรธหน้าดำหน้าแดงควันออกหูอะไรแบบนี้ แต่พี่เฮดีสคงจะใช้คำพวกนี้ไม่ได้เพราะหน้าเขานิ่งเป็นนิตย์นี่นะ ผมมองเขาก้าวขึ้นรถแล้วขับออกไปลับตา


“แค่กๆๆๆ”เสียงไอของพี่ไนซ์ดึงความสนใจจากผมกลับมา ผมสำรวจมองคอพี่ไนซ์อดจะใจหายไม่ได้ ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะครับ กะเอาให้ตายแน่ๆ ผมกลืนน้ำลายเมื่อเห็นรอยมือเป็นปื้นบนลำคอของพี่ไนซ์


“พี่ไนซ์กลับโรงพยาบาลดีไหมครับ?”ผมเอ่ยถามความเห็นเจ้าตัว ดูจากรอยแผลแล้วน่าจะกลับไปโรงพยาบาลรักษาตัวก่อนเป็นอันดับแรกน่าจะดีที่สุด พี่ไนซ์ไอแค่กๆ ยังพูดอะไรไม่ได้แต่ก็พยักหน้าให้กับผม


“โรงพยาบาลไหน?”พี่ยูถามสวนขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วแย่งพยุงพี่ไนซ์ลุกขึ้น ผมชะงักตัวกึกแล้วหันไปมองพี่ยูอย่างไม่เข้าใจ พี่ยูทำหน้าจริงจัง


“มืดค่ำปานนี้แกจะไปยังไง ให้ฉันขับรถไปส่งดีกว่า”


“พี่ยูมีรถงั้นเหรอครับ?”ผมถาม จำได้ว่าพี่ยูไม่มีรถนี่น่าแล้วจะเอารถของใครไปส่งกันล่ะ? พี่ยูทำหน้าหงุดหงิดเล็กน้อยแล้วบุ้ยปากตอบ


“เออ เพิ่งซื้อวันนี้! แกยังจะสอบปากคำอะไรอีกไหม? เจ้าหมอนี้หน้าซีดเป็นไก่ต้มน้ำปลาแล้วนะโว้ย!”


ผมหันมามองพี่ไนซ์ที่จะไม่ไหวแล้วพยักหน้าช่วยพยุงเขาไปที่รถของพี่ยู พี่ยูล้วงกุญแจเปิดประตูรถ พวกเราช่วยกันผลักและดันร่างไร้เรี่ยวแรงของคนป่วยขึ้นรถ เฮ้อ! ผลออกมาแย่ยิ่งกว่าแย่เสียอีก คนป่วยอาการจะกำเริบหรือเปล่าวะ? ผมยืนมองด้วยความกังวลใจ พี่ยูปิดประตูเดินอ้อมไปที่คนขับพร้อมกับชี้นิ้วสั่งผม


“แกอยู่เฝ้าบ้านนะ”


“อ้าว ผมไม่ได้ไปด้วยเหรอ?”กำลังจะเปิดประตูรถแต่ถูกพี่ยูเอ่ยขัดไว้ก่อน ผมร้องถามทันที พี่ยูถอนหายใจอย่างเอือมระอา โบกมือตัดบทอย่างไร้เยื่อใย


“แกเฝ้าบ้าน เดี๋ยวฉันมา”


“ครับๆ”ผมยอมจำนนแบบไม่มีทางสู้ เดินออกห่างมองพี่ยูขับรถออกไป


อ้าว! ผมยังไม่ทันได้บอกชื่อโรงพยาบาลเลย! ผมหันไปกวักมือพยายามเรียกรถพี่ยูกลับมาแต่ก็ไม่ทันซะแล้ว โธ่เอ๊ย พี่ยู! จะไปถูกไหมเนี่ย!? ผมพยายามคิดในแง่ดี พี่ยูถามพี่ไนซ์ได้ล่ะน่า อืม ถ้าพี่ไนซ์มีสติขึ้นมาตอบมันก็อีกเรื่อง ผมถอนหายใจปลงตกแล้วเดินกลับมานั่งที่ม้านั่งรากไม้หน้าบ้านพี่ยู รอพี่ยูกลับมาถึงคลายความกังวลใจ


ไม่รู้ทำไมตอนที่นั่งรอ สิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวที่ว่างเปล่ากลับเป็นดวงตาที่มักจะมองคนอื่นอย่างเย็นชาแวบหนึ่งนั้นกลับมีแววเศร้าหมองใจพาดผ่าน ผมคิดไปเองหรือเปล่าวะ แววตาขอร้องคู่นั้นทำให้ผมสะท้อนใจวาบ ผมนวดมือที่เริ่มชา ในใจเริ่มอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกแค่ว่าอยากจะเจอเขาตอนนี้เลย เฮ้อ น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าคนป่วยซะอีกครับ ผมถอนหายใจอดขมวดคิ้วไม่ได้


“เฮ้ย ไอ้รัญ!!!”


ผมสะดุ้งโหยง หันซ้ายหันขวามองคนที่เรียกผมซะเหมือนบ้านไฟไหม้ ไอ้คนที่โผล่หัวมาจากมุมความมืด ผมเกือบจะร้องหวีดแล้วล่ะครับถ้าไม่เห็นหน้ากวนๆ ของไอ้ซันเซ็ตเสียก่อน ไอ้เวรเอ๊ย โผล่มาเงียบๆ กูหัวใจจะวาย! มันยิ้มระรื่นเดินเข้ามานั่งแล้วหัวเราะกวนตีนตามสไตล์ของมัน อะไรของมึง ไปเมายาคูลท์มาหรือไง? ผมมองหน้ามันอย่างหวาดระแวง


“มึงทำธุระเสร็จแล้วเหรอวะ?”มันหันขวับซ้ายขวากลับมามองหน้าผมแล้วถามขึ้นมา ผมพยักหน้ารับ จริงๆ ไม่มีอารมณ์จะกวนกลับ ตอนนี้เหนื่อยเกินจะตอบปากตอบคำกับมัน ไอ้ซันเซ็ตมองหน้าผมเงียบๆ ก่อนที่มันจะปลุกฮึดกำลังใจกลับมายิ้มกว้างหน้าระรื่นอีกครั้ง เอี่ยวตัวไปหยิบอะไรบางอย่างมาวางไว้บนโต๊ะ


“กินข้าวหรือยังวะ กูซื้อข้าวห่อมาฝาก ของชอบมึงเลยนะ”


ผมมองไอ้ซันเซ็ตนั่งจีบปากจีบคอพยายามเชื้อเชิญให้ผมเปิดห่อข้าวในถุง ผมนั่งกอดอกมองถุงตรงหน้านิ่งไม่เคลื่อนไหว ไอ้ซันเซ็ตถอนหายใจแล้วพูดคล้ายบ่น จับถุงข้าวหยิบห่อแกะยางวางไว้ตรงหน้า


“เฮ่ย ทำไมทำหน้าเครียดอย่างนี้วะ กินๆ”


“มึงมีอะไร ลีลาอยู่ได้”


สุดท้ายผมก็ถอนหายใจแล้วขยับตัวเปลี่ยนท่าทาง ถามมันพร้อมกับหยิบช้อนมาตัดๆ ขี้เหนียวแล้วตักเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ไอ้ซันเซ็ตลอบถอนหายใจโล่งอกแล้วยิ้มหน้าสดใสกว่าตอนแรกอย่างเห็นได้ชัด อย่างกับก่อนหลังการใช้ครีมหน้าเด้ง หน้ามันผ่องเชียวล่ะครับ ผมเก๊กไว้นิดหนึ่ง รู้แล้วว่าไอ้ซันเซ็ตมันมาทำอะไร เดาว่าต้องเป็นเรื่องตอนเย็นแน่ๆ


“เรื่องเมื่อตอนเย็นน่ะพวกมันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะโว้ย”


“เออ กูรู้”


“มึงไม่โกรธใช่ไหมวะ?”มันลอบมองผมพยายามทำเป็นสนใจเนื้อแดดเดียวตรงหน้า


“ไม่หรอก ตอนนั้นกูอารมณ์เสียก็เลยพาลนิดหน่อยนะ”ผมปรับเสียงเป็นปกติแล้วตอบพลางหัวเราะเบาๆ แล้วยิ้มให้กับไอ้ซันเซ็ตเพื่อให้มันสบายใจ ไอ้บ้านั้นลุกขึ้นแล้วขยี้หัวผมจนผมบนหัวฟู ผมเม้มปากพยายามไม่ถือสามัน เพราะตอนที่มันดีใจไม่รู้ทำไมไอ้เวรนี้ชอบขยี้หัวผมเป็นประจำเลย ไอ้ซันเซ็ตนั่งลงบนม้านั่งแล้วเริ่มชวนคุย


“ช่วงนี้มึงมีอะไรให้ทำวะ แป๊บๆ ก็หายแวบตลอด”


“เฮ้อ พูดแล้วเรื่องมันยาวว่ะ”ผมเคี้ยวข้าวเหนียวแล้วถอนหายใจ พอพูดถึงเรื่องนี้แล้วรู้สึกแซดจริงๆ ผมบอกปัดไอ้ซันเซ็ตไม่อยากจะพูดเรื่องลับลมคมในของคนอื่น เดี๋ยวจะหาว่าผมเป็นพวกปากสว่างไม่มีหูรูด ไอ้ซันเซ็ตไม่ถามเซ้าซี้เหมือนกันเพราะรู้ว่าผมไม่อยากพูดก็จะไม่พูดเด็ดขาด


“เออ ไม่เล่าก็ไม่เป็นไร แต่พวกกูเห็นมึงซึมๆ ก็เลยเป็นห่วง”


ผมยิ้มรับ รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อยที่พวกเพื่อนๆ เป็นห่วง ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาผมเอาแต่วิ่งตามพี่เฮดีสจัดการเรื่องราวเกี่ยวกับพี่น้องฝาแฝดผู้มีความลี้ลับ ทำให้ไม่ค่อยได้คุยกับเพื่อนเท่าไรแต่ว่ามันคงจะจบแล้วล่ะ จบแบบไม่สวยซะด้วยสิ เหอะๆ กูจะตอกย้ำความล้มเหลวของตัวเองทำไมวะ


“แล้วทำไมมึงต้องให้กูเล่นเป็นตัวโกงด้วยวะ”


หลังจากนั่งกินข้าวได้ครึ่งห่อ ผมก็คิดเรื่องละครได้จึงถามไอ้ผู้กำกับอย่างจริงจัง ด้วยความข้องใจจริงๆ ครับท่านผู้กำกับโปรดให้ความกระจ่างด้วย ไอ้ซันเซ็ตกำลังเคี้ยวเนื้อก็พ่นข้าวจากปากแล้วหัวเราะขำจนหน้าแดงก่ำ ผมจ้องมันเขม็ง กูไม่ขำด้วยนะโว้ย! ไอ้ซันเซ็ตพยายามหยุดหัวเราะแล้วเหลือบมองหน้าของผมแล้วอมยิ้มแก้มตุ่ย


“อืมมมม กูอยากเห็นมึงร้ายๆ บ้างนี่หว่า”


“เหตุผลบ้าอะไรของมึงเนี่ย”ผมยื่นปาก เคืองมันนิดหน่อย ไอ้ห่านี่เห็นกูเป็นของเล่นอีกล่ะ ไอ้ซันเซ็ตมองผมแล้วยิ้มกว้างก่อนจะยื่นมือมาจัดทรงผมใหม่ให้กับผมอีกครั้ง เวรเอ๊ย ผมกูยิ่งยุ่งๆ อยู่ด้วย


“แค่นี้ภาพพจน์แสนดีของมึงคงจะไม่เสื่อมหรอกน่า”


“ไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นสักหน่อยแต่กูเล่นไม่ได้จริงๆ”ผมพูดอย่างเพลียๆ


“เอาน่า มึงแสดงได้น่ารักดีออก”


“...ฟาย”


ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังโว้ย ไม่หลงกลง่ายๆ!


“อย่าลืมท่องบทนะโว้ย อาทิตย์หน้ามีซ้อมอีก อย่าลืมล่ะ!”   


ไอ้ซันเซ็ตกินข้าวห่อหมด มันก็ขอตัวกลับหอไปเตรียมตัวเดินทางไกล มันบอกว่าต้องไปทำธุระแทนพี่ซันไรส์ เหอะ ไอ้หน้าหม้อเอ๊ย กูรู้หรอกว่ามึงจะไปทำอะไร ผมไม่อยากจะฟังคำแก้ตัวไร้สาระของมัน ยกมือไล่มันไปให้พ้นๆ


หลังจากที่ไอ้ซันเซ็ตกลับไปผมก็นั่งรอพี่ยูต่อ มันนานแล้วนะเนี่ย ทำไมยังไม่กลับมาสักที ป่านนี้ยังไปไม่ถึงโรงพยาบาลหรือเปล่าวะ หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกลางทาง? นั่งก้นไม่ติดคิดกระวนกระวายได้ไม่นาน แสงไฟที่สาดเข้าเบ้าตาเต็มๆ ผมหรี่ตามองเห็นพี่ยูโผล่ออกมาจากรถคันนั้น ผมลุกขึ้นหรี่เดินเข้าไปหา


“พี่ไนซ์เป็นยังไงบ้างครับ?”


“อ่าฮะ สบายใจได้ ปลอดภัยครบสามสิบสองส่วน! ว่าแต่เถอะ ทำไมถึงเป็นห่วงเป็นใยสุดหล่อคนนั้นจังฮะ?”พี่ยูเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มระรื่นบนหน้า คว้าไหล่ของผมเหล่สายตามอง อะไรของพี่ครับ? คนรู้จักกันต้องเป็นห่วงอยู่แล้วล่ะ ผมไม่ใส่ใจคำพูดซ่อนนัยท่อนท้ายๆ แต่สนใจคำตอบในส่วนแรก


ปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะ ผมโล่งใจแล้วจึงขอตัวกลับบ้าน พี่ไนซ์ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะ แต่ว่าคนน้องล่ะจะเป็นอะไรหรือเปล่า? เฮ้อ ผมถอนหายใจเสียงดังอย่างเผลอตัว


“อ๊ะ จริงสิ วันนี้ไปนั่งรถเล่นกินลมกับพี่ดีกว่า ฉลองรถใหม่ ว่างอยู่ไม่ใช่เหรอ?”พี่ยูขัดจังหวะที่ผมกำลังหมุนตัวเดินออกไป อะไรนะ ให้ไปนั่งรถกินลมเนี่ยนะ ว่างเกินไปแล้วนะครับพี่


“น่าๆ ไปเป็นเพื่อนพี่หน่อย!”พี่ยูถลาเข้ามาคว้าแขนของผมแล้วทำหน้าออดอ้อน


“วันนี้พี่ว่างมากเลย อยากจะไปแก้เซ็ง อุตส่าห์หายเจ็บแล้วยังได้รถใหม่มาด้วย ต้องลองเครื่องสักหน่อย!”


ไม่พูดเปล่าใช้กำลังลากผมมาที่รถโดยไม่ฟังความคิดเห็นกันก่อนแม้แต่น้อย มัดมือชกมาก ผมพยายามหาข้ออ้างปฏิเสธแต่มันก็ผ่านหูซ้ายทะลุหูขวาของพี่ยู


“ไปทั้งชุดนี้เลยเหรอ ไม่ดีมั้งครับ”


“ชุดไปหาเปลี่ยนข้างหน้าก็ได้!”พี่ยูโบกมือไม่นำพาข้ออ้างของผมเลยสักนิด ผมนั่งนิ่งมองออกไปข้างนอกอย่างเป็นกังวล รถค่อยๆ ออกไปแล่นด้วยความเร็วคงที่ ผมหันมาถามพี่ยูที่กำลังสาละวนกับการขับรถและมือถือ


“เราจะไปไหนกันเหรอครับ?”


“แป๊บๆ”พี่ยูโบกมือให้กับผมแล้วคุยโทรศัพท์ เหมือนจะคุยกับเพื่อนนี่แหละครับ สงสัยกำลังนัดกันไปเที่ยวแหงๆ เฮ้อ แล้วทำไมต้องลากผมมาด้วยล่ะเนี่ย ผมหันหน้าไปมองข้างทาง ปล่อยให้พี่ยูโทรคุยกันเพื่อนอยู่หลายคน ตลอดทางพี่ยูเหมือนถามหาใครสักคนกับคนในสาย รถพี่ยูแล่นเข้าไปในห้างแห่งหนึ่ง


“พี่มาทำอะไรที่นี้อะ?”


“เปลี่ยนเสื้อผ้าไง”พี่ยูหันมาตอบผมยิ้มๆ ก่อนจะพารถไปลานจอด ผมมองพี่ยูอย่างแปลกใจ ไม่แปลกได้ยังไงล่ะครับ พี่ยูจะลากผมมาเที่ยวด้วยเนี่ยเป็นเรื่องที่น่าสงสัยพออยู่แล้ว เพราะปกติแล้วพี่ยูมีเพื่อนเที่ยวเยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องลากผมมาด้วย ที่สำคัญพาผมมาด้วยเหมือนเอาภาระติดตัวมาซะเปล่าๆ


“มันไปที่นั้นหรือเปล่าวะ? ไม่เหรอ? เออๆ แค่นี้แหละ เออ เดี๋ยวว่างๆ แวะไปหา”พี่ยูเปิดประตูก้าวลงจากรถทั้งๆ ที่ปากก็ยังคุยติดพันกับคนในสาย พอวางก็จิ้มโทรหาอีกคนทันที ไม่เปิดโอกาสให้ผมชักถาม ผมจำใจเดินตามพี่ยูที่เดินนำไปลิวๆ


“เออ มึงเห็นมันไหม? โอ๊ะ ไม่เหรอวะ? เออ กูสบายดี ขอบใจที่เป็นห่วง แค่นี้ก่อนนะ”


“เลือกๆ”วางสายแล้วหันมาพูดกับผม ชี้นิ้วไปมั่วๆ ในร้านเสื้อ ผมหันไปมองในร้านแล้วหันไปหาพี่ยูแต่พี่ยูกลับเดินไปคุยโทรศัพท์อยู่นู้นแหละ พี่ยู ผมไม่ได้พกเงินมาซื้อเสื้อผ้านะครับ ผมยืนบื้ออยู่หน้าร้านอยู่อย่างนั้น พนักงานก็เดินไปมาในร้านหันมามองกดดันผมเป็นพักๆ สงสัยผมอยู่บังหน้าร้านอยู่แน่ๆ ผมขยับตัวมายืนอยู่ข้างๆ ร้าน พอพี่ยูเดินมาก็เห็นผมอยู่ข้างร้านก็แปลกใจ


“ยืนทำอะไรที่นี้วะ เลือกเสร็จแล้ว?”


“ผมไม่ได้พกตังค์มา”


“ห๊ะ โธ่เอ๊ย เดี๋ยวพี่จ่ายเองน่า”พี่ยูหัวเราะขึ้นมาทันทีที่ผมทำหน้าตึงๆ ใส่ พี่ยูจูงผมเข้าไปในร้านอีกครั้งแล้วเลือกชุดให้กับผมแล้วผลักเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุด


ผมมองชุดในมือแล้วหันมองไปรอบๆ ห้อง ไม่ได้ครับ เวลาเปลี่ยนชุดในห้องลองที่ไหนต้องระมัดระวังให้ดีว่ามีอะไรแอบซ่อนไว้หรือเปล่า สังเกตกระจกข้างหน้าไว้ให้ดีนะครับ อาจมีภัยซ่อนเอาไว้ ผมขอเตือน


ผมเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วเดินออกมา พี่ยูจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วพาผมเดินออกมาจากร้าน ตอนนี้พี่ยูไม่ได้โทรศัพท์แล้วครับ


“เราจะไปไหนกันครับเนี่ย?”


“ไปดริ๊งก์ปลดปล่อยอารมณ์เซ็งๆ ในใจไง ดีกว่านั่งเครียดอยู่บ้านคนเดียว”พี่ยูหันมาขยิบตาให้กับผมอย่างรู้ทัน ผมก็ไม่พูดอะไรตอบเพราะกลัวอีกฝ่ายจะล่วงรู้ความในใจ ไม่เคยรู้เลยว่าพี่ยูแกจะเข้าอกเข้าใจผมขนาดนี้ ใช่แล้วล่ะ ถ้ากลับบ้านไปไม่พ้นต้องนั่งคิดมากเครียดอยู่คนเดียวแน่ๆ เลย แต่ว่าไปเที่ยวกลางคืนนี้มันจะดีแน่เหรอ?


“ไม่ต้องคิดมากน่า ไปนั่งจิบน้ำเปล่าฟังเพลงส่องสาวเท่านั้นแหละ ฮ่าๆ!”พี่ยูตบหลังผมเบาๆ ดันหลังขึ้นรถ มุ่งไปจุดหมายทันที ผมไม่รู้จะตอบอะไรแต่ได้เออออตามน้ำ พี่ยูขับรถมาไกลมากครับ ขนาดผมยังไม่รู้เลยว่าแถวนี้มันมีที่เที่ยวด้วย พวกชอบเที่ยวนี่ไม่ว่าอยู่ไหนก็ดั้นด้นไปจนได้สินะ


“จริงๆ แล้วไอ้เฮดีสมันก็ไม่อยากจะพูดแบบนั้นหรอก มันต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างแน่ๆ”


“เหตุผลอะไรก็ไม่เกี่ยวกับผมนี่ครับ”ผมหันมามองพี่ยูแล้วเอ่ยตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว...รวดเร็วเกินไปด้วยซ้ำ! จู่ๆ ทำไมพี่ยูถึงพูดถึงพี่เฮดีสวะ ไม่ทันได้ตั้งตัว ผมไม่ได้เครียดหรือคิดมากขนาดที่ต้องให้พี่มาปลอบหรอกน่า ผมออกอาการสนใจเรื่องนี้มากเลยหรือไง? พี่ยูมองผมหัวเราะหึๆ ในคอกับอาการร้อนเนื้อร้อนตัวของผม


“ระหว่างไปส่งไนซ์ พี่คุยกับเขาก็เลยสรุปอะไรได้นิดหน่อย แต่นั้นแหละถึงรู้ไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น แต่ถ้าเป็นแกล่ะก็ต้องช่วยไอ้เฮดีสได้แน่ๆ”


ผมกะพริบตาถี่ๆ กับคำพูดของพี่ยู ช่วย? ให้ช่วยอะไร? ผมเงยหน้ามองพี่ยูเล็กน้อย ผมน่ะเหรอจะช่วยได้? ทำไมถึงได้พูดอย่างมั่นใจขนาดนั้นว่าผมช่วยได้ อย่างผมจะไปมีปัญญาช่วยอะไรเขาได้เล่า ที่ๆ ดูก็น่าจะรู้ผลอยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ ขนาดแค่จะให้คุยกับพี่ชายยังทำไม่สำเร็จเลย!


“ผมไม่เห็นว่าพี่เฮดีสมีอะไรที่ต้องให้คนอื่นช่วย”


“แกก็มีความเศร้าใจของแก ไอ้เฮดีสก็เหมือนกัน ไม่ต่างจากคนอื่นหรอก”พี่ยูเอ่ยแก้ตัวแทน


“แล้วทำไมต้องเป็นผมด้วยเล่า พี่เป็นเพื่อนเขาก็ช่วยได้นี่น่า”


“เออ แต่พี่น่ะช่วยมันไม่ได้ทุกอย่างหรอก เรื่องของใจมันก็ต้องใช้ใจช่วยสิว่ะ”


“ใจ!? พี่ยูพูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย!”


พี่ยูพูดออกมาหน้าตาเฉยทำเอาผมผงะตกใจ อายจนต้องแกล้งโวยวายกลบเกลื่อน พี่ยูมองผมแล้วหัวเราะเหมือนเห็นเรื่องสนุกสนานชวนขบขำ ก่อนจะเอ่ยแก้ตัวไปแบบหน้าซื่อตาใสจนผมต้องส่งค้อนขวับให้


“ความจริงใจไง ความจริงใจ! แกคิดว่าอะไร ฮึ!”


“แล้วมีแต่ผมหรือไงที่มีแต่ความจริงใจ พี่ไม่มีเหรอ?”ผมเอ่ยถามประชดหลังจากอดทนฟังเสียงหัวเราะชวนหมั่นไส้


“ก็มีนะแต่ไม่เต็มร้อยแบบแกไง เอาล่ะ มาถึงแล้ว ถ้าแกไม่เห็นแก่ไอ้เฮดีสก็เห็นแก่ไนซ์ล่ะกัน เขาออกจะเป็นคนดี แกไม่คิดจะช่วยคนดีๆ คนหนึ่งสมหวังมีกำลังใจก่อนรับผ่าตัดบ้างเหรอ? ขืนปล่อยไปแบบนี้ไม่ต้องรอให้ผ่าตัดชิงหง่อยตายก่อนแน่ๆ”พี่ยูดับเครื่องแล้วเปิดประตูก้าวลงไปจากรถ ผมรีบออกไปรถแล้วเดินตามหลังพี่ยู


“ไหนพี่บอกว่าพี่ไนซ์ปลอดภัยสบายดีไง”


“สบายกายแต่ใจก็อีกเรื่อง”


หรือว่าจะได้รับความกระทบกระเทือนใจกับท่าทางและคำพูดของพี่เฮดีสจนตรอมใจ? ผมขมวดคิ้วอดคิดไปแบบนั้นไม่ได้ ก็ขนาดผมไม่ใช่พี่น้องยังรู้สึกเจ็บปวดแทนเลย เท้าเดินเข้าร้านผมเงยหน้ามองป้ายชื่อร้านแล้วมองเข้าไปข้างใน ไม่ใช่ผับอะไรที่เปิดเพลงเสียงดังมีวัยรุ่นมาแด๊นซ์กระจายครับแต่เป็นบาร์ที่เปิดเพลงเบาๆ คลอ บรรยากาศสลัวชวนจิบเครื่องดื่มอย่างเคลิ้มๆ


พี่ยูเข้ามาส่งสัญญาณบางอย่างกับพนักงานในร้าน ท่าทางจะสนิทสนมกันเสียด้วย ทางนั้นชี้ไม้ชี้มือไปข้างบนร้าน พี่ยูก็พยักหน้ารับแล้วดึงผมเดินขึ้นไปอีกชั้น พวกเราเดินมาหยุดที่ห้องสุดทางเดิน บรรยากาศเงียบกริบ ดูวังเวงชอบกล


“แกเข้าไปรอก่อน พี่ขอตัวไปคุยกับเพื่อนแป๊บหนึ่ง จะสั่งอะไรก็ถามเอากับเพื่อนพี่ในห้องนั้นแหละ”


“เอ๊ะ เพื่อนพี่เหรอ?”


พี่ยูพยักหน้ารับส่งๆ ก่อนจะโบกไม้โบกมือเดินลงไปข้างล่าง ปล่อยให้ผมยืนยึกๆ ยักๆ อยู่หน้าห้องๆ นั้น เดี๋ยวสิครับพี่ยู! ผมไม่รู้จักเพื่อนพี่เลยสักคน ถ้าเข้าไปแล้วเขาจะรู้เหรอว่าผมเป็นใครน่ะ? ผมเดินลงไปตามหาพี่ยูข้างล่างแต่ร้านมันใหญ่มองหาพี่ยูไม่เห็นแม้แต่เงา ผมถอนหายใจโบกมือปฏิเสธพนักงานที่เข้ามาถามด้วยความใส่ใจ ผมกลับมายืนอยู่หน้าห้องที่เงียบกริบนั้นอีกครั้ง ก่อนจะทำใจกล้าเปิดประตูเข้าไปผัวะ!


เงียบกริบ...


ในห้องนั้นว่างเปล่า อ๊ะ ไม่สิครับ มีคนอยู่คนหนึ่ง! เขานั่งกลมกลืนห้องสีทึบๆ ทำให้ไม่ทันได้สังเกตเห็น ก่อนที่ผมจะพูดอะไรออกไป เขาเอ่ยขึ้นมาก่อน คล้ายกำลังรอทำโทษผู้ต้องหา น้ำเสียงราบเรียบแฝงไปด้วยความเย็นเฉียบที่ผมคุ้นเคย


“มาถึงแล้วก็รีบมานั่ง ก่อนที่กูจะไปลากมึงด้วยตัวเองไอ้ยู”


ผมยืนตัวแข็งทื่อ แม่จ๋า! พี่ยูไม่เห็นจะบอกว่าเพื่อนที่ว่าน่ะจะเป็นคนๆ นี้นี่น่า! ไม่ต้องเดาให้ยากหรอกครับ คนที่ทำให้ผมเหงื่อตกหัวใจเต้นตูมตามแทบจะหลุดออกมาดิ้นนอกอกแบบนี้ มีคนเดียวเท่านั้นครับ


พี่เฮดีส!


ผมกลืนน้ำลายลงคอยากลำบาก ถึงจะบอกมาเป็นห่วงอยากเจอแต่กะทันหันแบบนี้มันก็ทำใจไม่ทันนะครับ ผมยืนหน้าประตูอยู่นานสองนานจนทำให้เขาเริ่มหงุดหงิด หันมาตวาดข่มขู่


“กูบอกให้เข้ามา!”


เขาชะงักตัวกึกเมื่อเห็นผมแทนที่จะเป็นพี่ยู คิ้วเข้มขยับเข้าหากัน ขึงตาดุดันเพิ่มความเหี้ยมเกรียม กลางตาเหมือนมีดวงไฟลุกโชน แทบจะทำให้ผมกลัวหัวหด ยังดีที่จับประตูพยุงตัวเอาไว้ก่อน


พี่ยู!!! ทำไมทำกันอย่างนี้ล่ะครับ!? ส่งผมมาเป็นบรรณาการแก่ท่านเทพเจ้าแห่งความตาย ตัวเองกลับหนีเอาตัวรอดไปหน้าตาเฉย!!!





ช่วงนี้เป็นยังไงไม่รู้แฮะ ชักจะขี้เกียจ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ส่งหนูรัญไปตายเรอะพี่ยู o22

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
จะรอดมั๊ยยยย  :hao7:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ปรับอารมณ์ไม่ถูกเบย
ระวังตัวหน่อยนะพี่เฮดีสกำลังของขึ้น เนรัญสู้ๆ

Violet Rose

  • บุคคลทั่วไป
เนเน่จังผู้น่าสงสาร 55555  :laugh: :laugh: :laugh:

มาต่อเร็วๆ นะ รออ่านอยู่  :กอด1: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ปรับความเข้าใจกันไวๆเถอะ

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
แน่ใจว่าจะให้น้องเนเน่มาปรับความเข้าใจ เหมือนส่งน้องมาโดนพี่เฮดีสแกพิพากษามากกว่านะ คิคิ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ก่อนจะได้คุยกันคงเจอสายตาพิฆาตฆ่าตายซะก่อนแน่ๆ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เ่อ่อ.....เราไม่ขอเม้นท์นะตอนนี้เพลียเกิน :katai1:

รอตอนหน้าค่ะ
 :mew5:

KR_karath

  • บุคคลทั่วไป
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปน้าาาาาาา


รอตอนต่อไปค่ะ....... o13

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เป็นพระเอกที่โหดที่สุดในสามโลกอะ T^T
น้องรัญน่าสงสารจัง

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
น้องรัญเข้าใจถูกแล้ว 55 ไอ้พี่ยูกะเข้าใจส่งรัญไปเป็นของขวัญนะเนี้ย

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ส่งรัญไป เซ่น หรอเนี้ยยย พี่ยู


ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
พี่พระเอกฮะ มีอะไรก็คุยกับหนูรัญสิคะ อย่าทำหน้าตาน่ากลัวใส่สิ

น้องเค้ากลัวนะ ตัวเป็นพระเอกนะ ไม่ใช่ตัวร้าย  :katai4:

ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ค้างงงง :katai4: :ling1: :katai1:


ขอตอนต่อไปไวไวนะ :mew2:งุงิงุงิ :mew6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






mengsama

  • บุคคลทั่วไป
คือหนูรัญคนดีมากลูก น่ารัก  สู้ๆ ^^

ออฟไลน์ zoe131313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
งิค้างอีกแย้วววววว :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :ling1: :ling1: :ling1: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
แอ๊กกกกกกกกก  :mew5:

หนูเนเน่ โดนตลอด พี่ยูตัวแสบ

ตอนนี้เป็นอืดๆยังไงก็ไม่รู้  :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-04-2013 17:46:57 โดย cher7343 »

ออฟไลน์ U_Ton

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :katai2-1: เนรัญ ได้โอกาสเเล้ว อยู่สองต่อสองเเบบนี้ ใช้ใจรักษาเลย 555555... พี่ยูทิ้งเนเน่ให้อยู่กับมนุษย์เลือดเดือดหลบใน

เเบบพี่เฮดีสได้ไงเนี่ย... เนรัญเคลียร์ให้ได้นะ พี่เฮดีสมีอะไรในใจกันเเน่ ถึงได้ไม่ชอบเเม่ ไม่ชอบพี่ไนท์ขนาดนั้น ทั้งๆที่พี่ไนท์

เเกก็เป็นเเค่เด็กคนนึงที่เเม่พาตัวไปอยู่ด้วยเฉยๆ...  :hao5: พี่เฮดีสใจดีกับเนรัญหน่อยสิ เเค่ที่ผ่านๆมาก็ใจร้ายพอเเล้ว ควงหญิงอื่น

จูบเเล้วชิ่ง อยู่ดีดีก็ทิ้งกัน เเค่นี้โทษของพี่มันก็ใหญ่หลวงเเล้ว อยากให้เนรัญรัก เห็นใจ เข้าใจตัวเองก็หัดเห็นใจ เข้าใจเนรัญบ้างสิ

น้องเค้าหวังดีหรอกนะ... :katai5: ถ้าใจร้ายอีกนะ จะพาเนรัญหนี ไม่ให้ตามเจอเลยคอยดู

MelodyKJJ

  • บุคคลทั่วไป
 :ling1:ทำไมชอบทำให้ค้างแบบนี้!!!!!  :katai1: :katai1: :katai1:

สงสารเนเน่จังกับพี่ไนซ์  :hao5: :hao5:  พี่ยูทำได้ดีมาก  o18

รีบมาต่อให้เลยน้าาาาา พลีสสสสสสสสส :mew2: :mew4: :mew6:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
เอาชีวิตรอดกลับบ้านให้ได้นะเนเน่!!

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
5555  ลุ้นๆๆๆๆ น้องเราจะเจออะไรเน้อ อาจเป็นจูบหนักๆ  ทั้งฟัดทั้งไซร้   ว่าไปนั่น
อย่างเฮียเฮดีสเรอะจะทำอย่างนั้น  ไม่เดาละรออ่านตอนต่อไป   :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
คือแบบอยากให้มีพาร์ทของเฮดีสบ้างไรบ้าง
อยากรู้ความคิดของเฮียเฮด์ไง 5555
สงสารเนเน่อ่ะ บอกจากใจเลยนะ

Anyann

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้แหละ ปรับความเข้าใจกันซะ!

เราว่าเฮดีสก็คงมีปัญหาของเค้าเหมือนกันถึงพูดกับพี่ไนซ์ไปแบบนั้น รอหนูรัญมาช่วยเหลือ มาดามใจ ฮิ้ววว

annie

  • บุคคลทั่วไป
เข้าใจกันเร็วๆ นะ  เฮดีส เนเน่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด