Lesson 132
( Prom Part )
หลังจากช่วงเวลาต่างๆมากมายใหลผ่านไปอย่างปกติจนถึงเวลาสอบไฟนอลอีกแล้วครับซึ่งจะเป็นตัววัดเลยแหละว่าผมจะผ่านหรือไม่ผ่านจะได้ขึ้นปี 2 หรือเปล่าซึ่งมันก็คร่ำเคร่งพอสมควรครับ ผมไล่ต้อนให้ ป๊อป วิน อัท อ่านหนังสือกันตลอดและผมก็เป็นคนคอยติวให้ถ้าไม่เข้าใจอะไรผมก็จะอธิบายให้ฟัง ผมไม่ได้คุยนะแต่ผมเรียนดีที่สุดแล้วในสี่คนนี้
“พอก่อนได้ไหมอ่ะ ขี้เกียจแล้วอ่ะ ง่วงแล้วด้วย ฮ้าว~”
“ไม่ได้อัท อ่านมาแค่ครึ่งชั่วโมงเองเดี๋ยวก็สอบไม่ผ่านหรอก” ผมกำชับเพราะอัทจะเป็นคนที่ค่อนข้างจะสมาธิสั้นในเรื่องการอ่านหนังสือ แต่ยังก็ยังดีกว่าอีกสองคนแหละนะ
“แต่มันง่วงนี่นา...ไปหาพี่ตัสดีกว่า” เมื่ออัทเตรียมกำลังจะลุกผมก็ดึงกับมานั่งที่เดิม
“อย่าแม้แต่จะคิด...น่าจะรู้นิว่าพี่ตัสน่ะ เวลาช่วงสอบแบบนี้สภาพพี่ตัสเป็นยังไง” ผมพูดให้อัทคิดเพราะผมเคยเห็นครั้งนึง พี่ตัสสภาพช่วงนั้นย่ำแย่มากอ่านแต่หนังสือเพราะคณะที่พี่แกเลือกเรียนมันก็หนักพอสมควรผมเคยถามว่าพี่ตัสเหนื่อยไหมแต่พี่ตัสก็ตอบอย่างภาคภูมิใจว่า ‘มันเป็นสิ่งที่พี่รักและฝันมาตั้งแต่เด็กเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องสู้’ ผมล่ะนับถือในคติของพี่แกจริงๆ
“อือ ก็ได้งั้นขอพักสายตาก่อน…ฟุบ” และอัทก็ล้มตัวลงนอนอย่างรวดเร็ว เฮ้อ คงต้องปล่อยไปแล้วแหละ ในขณะที่ผมกำลังสนใจอัทหันไปอีกสองคนที่เหลือก็ยังกางหนังสืออ่านกันอยู่ครับแต่...
“โป้ก....โป้ก...”
“โอ้ย....โอ้ย....เจ็บนะ” เสียงโอดครวญของวินกับป๊อปดังระงมไปทั่วห้องเพราะโดนสันหนังสือพิฆาตเข้าให้กลางหัวเลย
“ทำเนียนนะ หลับไปนานหรือยังล่ะทั้งคู่เลย” ผมใส่อารมณ์นิดๆแล้วกลับมานั่งอ่านหนังสือต่อ
และเวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ จนกระทั่งตอนบ่ายสองโมง มนุษย์ทั้งสามคนก็หัวติดหมอนนอนเรียงรายกันสามคนเป็นเตียงห้องผมกับป๊อป จากที่เราเริ่มอ่านหนังสือกันตอนเก้าโมงตรง เฮ้อ แล้วจะสอบกันได้ไหมเนี่ย
“นี่!!!!!! ตื่นให้หมดเลยทั้งสามคนน่ะลุกขึ้นมาได้แล้วเตรียมตัวไปดูร้านกันหน่อยสิ ไม่ได้เข้าไปดูตั้งสองวันแล้ว” อ่อลืมบอกไปตอนนี้ผมไม่ต้องคุมร้านอาหารเองแล้วครับเพราะพ่อกับแม่ของป๊อปจ้างคนมาทำให้เพราะอยากให้ป๊อปกับผมไม่เหนื่อยจนเกินไป และผมก็ต้องเอาตัวป๊อปเข้าไปดูงานที่บริษัทด้วยครับซึ่งตอนนี้ทุกอย่างก็เริ่มลงล็อกเข้าที่เข้าทางหมดแล้ว ป๊อปก็เรียนรู้ได้ไวมีไหวพริบดีครับพูดง่ายๆคือเรียนจบแล้วก็สามารถดำรงตำแหน่งประธานบริษัทคนต่อไปได้เลยครับ
“อ่า อื้อ” เฮ้อ แต่ละคนครับกว่าจะลุกกันขึ้นมาได้ผมก็ต้องตวาดด่ากันไปอีกคนละหลายรอบแล้วนะเป็นโรคจิตอย่างนึงพอใกล้สอบแบบนี้ดุอย่างกับหมาซึ่งทุกคนก็รู้ดีเลยไม่มีใครว่าอะไรเวลาที่ผมอารมณ์เสียบ่อยๆในช่วงเวลานี้
“ไปร้านเสร็จก็กลับมาอ่านหนังสือต่อละกันนะ” ป๊อปบอกผมครับ แต่ผมว่าป๊อปน่าจะบอกตัวเองมากกว่านะ เพราะอ่านได้ไม่เท่าไรก็หลับแล้วอ่ะผมก็พยักหน้าเพราะไม่อยากสาวความยาวต่อความยืดเข้าไปอีกจะพาลหงุดหงิดกันเปล่าๆ
และเมื่อถึงร้านแล้วผมก็ดูแลความเรียบร้อยนิดหน่อยดูจำนวนลูกค้า บริการเองบ้าง ซึ่งร้านตอนนี้ก็คนค่อนข้างแน่นพอสมควรผมมีแผนในใจว่าอยากจะขยายห้องออกไปอีกสักสองห้องเพราะตอนนี้ร้านก็เปิดเก้าโมงเช้าปิดสี่ทุ่มเป็นเวลาตลอด ทุนก็มีแล้ว เหลือแต่ปรึกษากับป๊อปอ่ะแหละแต่ยังไม่คุยอะไรตอนนี้หรอก อยากให้ป๊อปทุ่มเทเวลากับการอ่านหนังสือมากกว่า หลังจากอยู่ที่ร้านได้สักพักผมก็พากันกลับมาบ้านครับถึงบ้านก็เกือบๆหกโมงเย็นพอดี
“ขึ้นไปอ่านหนังสือกันเลยนะ เดี๋ยวทำกับข้าวให้ทุ่มตรงแล้วค่อยลงมากิน” ผมออกคำสั่งเลยครับ ซึ่งทุกคนก็เดินทยอยขึ้นห้องกันไปจนเหลือแต่ผมคนเดียวในห้องครัว ผมก็รีบบรรเลงทำกับข้าวให้เสร็จครับเพราะว่าตัวเองก็ต้องไปอ่านหนังสือเหมือนกัน
“เสร็จแล้วใช่ไหมกับข้าวน่ะ” เสียงป๊อปถามมาจากหน้าประตูครัวครับ
“เสร็จแล้วมากินได้เลย” เมื่อผมบอกกลับไป ก็ปรากฏร่างของมนุษย์อีกสามคนมาอยู่ในห้องครัวเพื่อเตรียมที่จะกินข้าวกันครับ
“กินเลย พี่เบิร์ดกับพี่ตัสกินข้างนอกเค้าบอกไว้แล้ว” ทุกคนก็รับรู้และไม่ได้พูดอะไร
“เออนี่ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จขึ้นไปอ่านหนังสือต่ออีกสักชั่วโมงนะแล้วก็พักผ่อนนอนซะ” ผมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนแม่ - - ผมคิดไปเองปะ
“โอ้ย พอเถอะแค่นี้ก็จะไม่ไหวแล้ว” วินโอดครวญแต่ผมไม่ได้สนใจอะไรครับ และเมื่อพวกเรากินข้าวกันเสร็จก็ไปอ่านหนังสือกันต่อจนสามทุ่มพวกเราก็แยกย้ายเข้านอนไปครับและในขณะที่ผมกำลังนอนๆอยู่ก็เกิดบทสนทนาขึ้นครับ
“นี่ พรหมทำไมเวลาใกล้สอบแล้วต้องเครียดอะไรมากมายขนาดนี้มันไม่ดีนะรู้ไหม” ป๊อปพูดพร้อมกับสอดแขนเข้ามากอดผมใต้ผ้าห่มด้วย
“ก็ไม่ได้เครียดอะไรมากมายสะหน่อย ก็กลัวป๊อปจะสอบไม่ผ่าน”
“ไม่ผ่านก็แก้สิ จะไปยากอะไร” ป๊อปตอบผมหน้าตาเฉย
“แล้วถ้าสอบผ่านไปเลยจะดีกว่าไหม!!!!” ผมเริ่มมีอารมณ์ครับ
“เฮ้อ พูดเรื่องนี้ทีไรพรหมก็ของขึ้นทุกที...อย่านะถ้าป๊อปของขึ้นมาบ้างคนที่เดือดร้อนน่ะพรหมนะบอกไว้ก่อน” ป๊อปพูดสองแง่สองง่ามแล้วก็ยิ้มอย่างไม่น่าไว้ใจที่สุดเลย
“ป๊อปบ้า ทะลึ่ง!!!!”
“หึหึ” ป๊อปหัวเราะในลำคอแล้วจากนั้นผมก็เข้าชาญไปเลยครับเพราะพรุ่งนี้มีสอบเป็นวันแรก
และเวลาก็ผ่านไปไวเหมือนโกหกเลยครับเพราะวันนี้เป็นการสอบวันสุดท้ายและวิชาสุดท้ายด้วยซึ่งในหลายๆวิชาที่ผ่านมาผมก็ทำได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นแทบทุกวิชา ส่วนคนอื่นๆก็แค่พอผ่านหรือไม่ก็เจ็ดเปอร์เซ็นต์ ซึ่งผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับผลสอบมากนักขอแค่ผ่านและอยู่ในเกณฑ์ที่ดีก็พอแล้ว
“อีกสิบนาทีสอบแล้วนะ เลิกอ่านได้แล้วมั้งแค่นี้ก็ไม่มีใครแซงได้แล้ว” ป๊อปบอกผมครับเพราะตลอดเวลาในช่วงสอบตัวผมแทบจะไม่ห่างหนังสือเลยครับอ่านเหมือนอ่านการ์ตูนโดเรมอนที่อ่านแล้วอ่านอีก
“อย่าไปคิดว่าจะแข่งกับใครสิ คิดซะว่าแข่งกับตัวเอง” ผมบอกป๊อปพร้อมกับปิดหนังสือเพราะอ่านจบพอดีซึ่งวิชาสุดท้ายที่จะสอบก็ค่อนข้างหินพอสมควรด้วยครับ
“เข้าห้องสอบกันเถอะ.....สู้ๆนะ จุ๊บ” ผมให้กำลังใจป๊อปครับป๊อปก็ยิ้มแล้วไปนั่งที่สอบตัวเองวิชาสุดท้ายแล้วสู้ตายครับหลังจากนี้จะได้สบายๆ
และผมก็เป็นคนออกห้องสอบคนแรกเหมือนเดิมครับ ผมเป็นคนทำข้อสอบไวครับอาจจะเป็นเพราะอ่านหนังสือมาเยอะเลยทำให้แม่นในคำตอบพอสมควรครับ และกว่าอีกสามคนที่เหลือจะออกมาได้ก็แทบหมดเวลาแล้วครับ
“เย้ เสร็จแล้วกลับบ้านกันเถอะ อยากนอนมากกกกกก” อัทพูดครับ
“ยังกลับไม่ได้ พี่ตัสกับพี่เบิร์ดบอกให้รอเพราะรถเสียให้อู่มาลากไปซ่อมแล้ว” พวกผมก็พยักหน้าแล้วพากันไปที่คณะพี่ตัสซึ่งกำลังสอบกันอย่างเคร่งเครียดเลยแหละครับ และแน่นอนสามีที่แสนดีของพี่ตัสก็เฝ้าอยู่หน้าห้องเหมือนเคย ผมอยากรู้จังพี่เบิร์ดแกไม่มีสอบหรือว่ายังไงถึงได้มีเวลามาเฝ้าพี่ตัสเนี่ย
“เฮ้อ เมื่อยจังพี่เบิร์ด” พี่ตัสออกมาพอดีครับ
“ไว้กลับบ้านเดี๋ยวพี่นาบให้...ป้าบบบบ....” เสียงฝ่ามือพี่ตัสตีแขนพี่เบิร์ดครับ
“นวดก็พอ แหม นาบเดี๋ยวตบเปี้ยงเลย....อ้าวมากันมาดีเลยพี่เสร็จแล้วกลับบ้านกันเถอะ” แหม่ มีหรอที่จะรอช้าแต่ละคนนี่แทบจะวิ่งขึ้นรถกันเลยทีเดียวเพราะเหนื่อยมากกับการสอบไฟนอลแบบนี้และเมื่อมาถึงบ้านพวกเราก็มานั่งรวมกันก่อนที่ห้องนั่งเล่น
“ปิดเทอมนี้เที่ยวไหนกันดี” พี่ตัสเอ่ยชวนขึ้นก่อนครับ และพวกเราก็นั่งเถียงกันอย่างเมามันส์ต่างคนต่างยกเหตุผลนั่นนี้มาอ้างกัน
“เอางี้ไหมคนละครึ่งทาง....ไปเที่ยวทะเลดีกว่าเพราะขืนไปทุกที่ที่อยากไปนะตายพอดีไม่ได้พักผ่อนหรอก” พี่ตัสเสนอขึ้นและทุกคนก็ตกลงปลงใจครับเพราะเลือกไม่ได้จริงๆ
“งั้นขอสรุปว่าทะเลที่ภูเก็ต อีกสองวันเดินทางเตรียมตัวได้เลย ตอนเช้าล้อหมุนเก้าโมงตรง” พี่ตัสนัดแนะทุกคนครับ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปเรื่องใครเรื่องมันครับ ทะเลจ้าอีกสองวันรอหน่อยนะจ๊ะ~
ปล.เนื้อเรื่องใกล้จบทุกทีแล้วนะครับ
และในตอนจบบอกไว้เลยว่า 'พี่ตัส' อาจจะตายครับ
ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะให้ตายดีใหมขอถามจากผู้อ่านแล้วกันนะครับ
คิดเห็นยังไงว่าจะให้ตัสตาย ดีหรือไม่ เม้นบอกมาเลยครับ