Lesson 116
( Prom Part )
“ว่าไง...ถ้าแม่ไม่ยอมล่ะ” แม่พยายามกดดันผม ซึ่งมันทำให้ผมเครียดได้พอดูเลยทีเดียวแต่ถึงเวลานี้แล้ว ผมจะต้องกลัวอะไรอีกล่ะครับจริงไหมในเมื่อป๊อปยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อนผม...ทำไมผมจะยอมทิ้งทุกอย่างพวกป๊อปบ้างไม่ได้ล่ะ
“ผม....จะยอมทิ้งทุกอย่างครับ” ผมก้มหน้าลงกับพื้นไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าแม่เลยด้วยซ้ำไม่รู้ว่าทำไม ผมไม่สามารถอธิบายได้
“...” เมื่อผมตอบไปห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบจนน่าอึดอัด แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ
“แม่ขอเหตุผลหน่อยได้ไหม ผู้ชายคนนี้มีอะไรดีลูกถึงยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อเค้า...แล้วแน่ใจได้ยังไงว่าเค้าน่ะ......รักลูกจริงๆ”
“ผมมั่นใจครับว่าป๊อปรักผมจริงๆ แม่คิดว่าผู้ชายที่เกิดมามีพร้อมทุกอย่าง ทั้งหน้าตา ชื่อเสียง เงินทอง จะยอมสละทุกอย่างเพื่อผู้ชายธรรมดาอีกคนหนึ่งหรือเปล่าครับ” เมื่อผมถามแม่กลับ แม่ก็นิ่งไป
“ผมขอโทษครับแม่ แม่จะโกรธผมที่ผมไม่ได้ดั่งใจแม่ หรือจะตัดหางปล่อยวัดผมก็ได้ แต่ผมขออย่างเดียว แม่อย่าห้ามให้เรารักกันเลยนะครับ” ผมพูดไปแบ้วรู้สึกว่าม่านตาตัวเองมีน้ำใสๆไหลออกมาเรื่อยๆ แม่ก็ยังคงจ้องมาที่ผมนิ่งๆและทันใดนั้นเองประตูห้องของผมก็เปิดขึ้นพร้อมกับร่างของผู้ชายที่อยู่ในใจผมตลอดเวลาวิ่งพรวดเข้ามาในห้อง
“พอแล้วพรหม.....ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว” ป๊อปเข้ามาดึงผมไปกอด แล้วก็ร้องไห้ไปพร้อมๆกับผม
“ไม่ว่าใครจะว่ายังไง ป๊อปก็ไม่ยอมให้พรหมจากป๊อปไปไหนอีกเด็ดขาด ถึงแม้ว่าแม่พรหมจะตัดหางปล่อยวัดพรหมจริงๆ ป๊อปนี่แหละจะเลี้ยงพรหมเอง”
“ฮึก...ฮึก...ฮึก...” ผมกับป๊อปกอดกันร้องไห้โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลยสักนิดเดียว ซึ่งแน่นอนมันก็ต้องอยู่ในสายตาของแม่ผมอยู่แล้ว
“พอแล้วแหละ ในเมื่อรักกันจริง เธอทั้งสองคนต้องพิสูจน์ตัวเองให้แม่ได้รับรู้ว่า ว่าความรักของพวกเธอมันจะยั่งยืนเหมือนที่พวกเธอสองคนวาดไว้หรือเปล่า” เมื่อแม่พูดจบ แม่ก็เดินออกไปจากห้องปล่อยให้ผมอยู่กับป๊อปในห้องสองคน
“แม่คงไม่ห้ามเราใช่ไหม” ผมถามป๊อปซึ่งป๊อปก็ยิ้มกลับมาให้ผม
“ถึงห้ามป๊อปก็จะไม่ฟัง....ป๊อปรักพรหมนะ...รักมากยิ่งกว่าอะไร” พูดจบป๊อปก็ดึงตัวผมเข้าไปกอดอีกครั้ง อ้อมกอดที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ความห่วงใย เอาใจใส่
“รักป๊อปเหมือนกันนะ” ผมกอดป๊อปตอบ แล้วเราสองคนก็กอดกันนานพอสมควร จากนั้นป๊อปก็พาผมออกมาจากห้องแล้วตรงไปยังห้องรับแขก ซึ่งมีพ่อและแม่ของผมนั่งรออยู่แล้ว โดยบริเวณโดยรอบก็มีพี่ตัส พี่เบิร์ด อัท และวิน นั่งอยู่ด้วย
“กว่าจะลงกันมาได้นะ” กว่าผมพูดเสียงโหดขึ้นซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกกลัวขึ้นมาอีกครั้ง แม่ไม่ห้าม...แล้วพ่อล่ะจะว่ายังไง
“ขอโทษครับที่พาพรหมลงมาช้า” ป๊อปพูดออกตัวแทนผมอย่างไม่กลัว ซึ่งมันแน่นอนอยู่แล้ว.....ป๊อปกล้าชนพ่อผมแน่นอน
“พูดเสียงดังฟังชัดดีนี่ ค่อยเหมาะที่จะเป็นลูกเขยฉันหน่อย” เมื่อพ่อพูดจบทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบและนิ่ง และรอยยิ้มของคนหลายคนก็แสดงออกมาตามๆกัน
“ดูแลกันดีๆล่ะ ถ้าลูกฉันร้องไห้...ฉันเก็บแกแน่ไอ้ลูกเขย” พ่อพูดยิ้มๆ
“พรหม พ่อกับแม่คุยกันแล้ว พวกเราจะยอมให้ลูกบ้าง ให้ลูกตัดสินใจเองในเรื่องส่วนตัว แม่จะไม่ห้ามแต่ว่า....ป๊อปเธอต้องเป็นคนเลี้ยงและดูแลพรหมทั้งเรื่องค่าเล่าเรียน ค่าอาหาร หรือค่าอื่นๆ เธอจะต้องออกให้พรหมทั้งหมด....เธอคิดว่าเธอทำได้ไหม” แม่ร่ายยาวมาชุดใหญ่ แต่เมื่อได้ยินประโยคที่คุณแม่พูด ผมรู้สึกว่า มันค่อนข้างจะเอาเปรียบป๊อปอย่างรุนแรง แต่ผมก็เชื่อมั่นว่าป๊อปต้องทำได้
“ทำได้ครับ ผมจะดูแลลูกชายของคุณน้ากับคุณลุงอย่างดีที่สุดครับ”
“อ้าวไอ้นี้ เรียกเมียฉันน้าแต่เรียกฉันลุงเนี่ยนะ เดี๋ยวก็ตายหรอก” พ่อผมพูดท้วงขึ้น
“อย่าโมโหไปเลยพี่ ผมว่าพี่กับเมียพี่ไปกินข้าวกับพวกเราดีกว่าไหมครับ” ป๊อปพูดหยอกกลับเรียกเสียงหัวเราะจากพวกเราทุกคน
“จะกินกันอะไรดีล่ะ ยังไม่ได้ทำอะไรไว้เลยนะ” พี่ตัสพูดขึ้น จะมีเหลือก็แต่อาหารเมื่อเช้าที่ทำแล้วมันเหลือซึ่งพี่ตัสก็หันไปถามพ่อและแม่ผม
“คุณพ่อกับคุณแม่อยากทานอะไรครับ เดี๋ยวผมจัดให้” พี่ตัสถามอย่างเป็นมิตร
“เอาล่ะ เดี๋ยวแม่ลุยเองเย็นนี้” พูดจบแม่ก็เดินเข้าครัวไปเลยครับ ซึ่งก็ตามไปด้วยพี่ตัส อัท และผม ที่ทยอยกันเดินเข้าไปในครัว
“เอาล่ะ ส่วนพวกเรานั่งรอเนี่ยแหละ ปล่อยให้เมียๆเค้าทำกันไป” วินพูดขึ้นซึ่งการสนทนาของเหล่าบรรดาสามีก็อยู่ในโสตประสาทของพวกเราทุกคนครับเพราะทำอาหารกันแบบเงียบกริบ เพราะต่างคนต่างก็อยากรู้ว่าในการคุยกันของวงสามีเค้าพูดถึงตัวเองกันยังไงบ้าง
“พ่อล่ะเสียดายจริงๆเลยบ้านหลังนี้” พ่อผมพูดขึ้น
“เสียดายอะไรครับพ่อ” พี่เบิร์ดก็ถามต่อไม่น่าเชื่อว่าพี่เบิร์ดที่ดูนิ่งๆเงียบๆ แต่พอมีผู้ใหญ่มาบ้านจะสามารถต้อนรับขับสู้ได้มากขนาดนี้
“ก็คนอยู่บ้านนี้อ่ะสิ มีแต่ผู้ชายหน้าตาดีเดินกันให้เกลื่อนแทนที่จะคว้าสาวๆมาเดินเคียงข้าง ดันคว้ากันเองซะได้นี่”
“แหม่ คุณพ่อก็...คนมันเกิดมาคู่กันนี่ครับ ทำยังก็แยกไม่ได้หรอกครับ” วินพูดขึ้นเหมือนจงใจให้อัทได้ยิน ซึ่งพอผมหันไปมองอัท อัทก็ก้มหน้าหงุดหั่นหอมแบบอายๆ ส่วนพี่ตัสกับแม่ก็แอบลอบยิ้มกัน
“นี่ๆ ในที่สุดก็แฮปปี้สักทีนะ” อัทเขยิบมายืนข้างผมเพื่อกระซิบข้างหู
“ก็ยังไม่แฮปปี้หรอก วันหน้าต้องเจออะไรอีก ยังไม่มีใครรู้”
“อย่ากลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นสิ” อัทกระซิบบอกผมกลับ ผมไม่ได้กลัว...แต่ว่าเหตุการณ์หลังจากนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป มันจะมีอะไรมาสั่นคลอนความรู้สึกของผมกับป๊อปหรือเปล่า ถ้าในวันหน้าป๊อปทนแรงกดดันไม่ไหวแล้วทิ้งผมไป ผมจะทำยังไง ยิ่งคิดมันก็เหมือนวังวน ยอมรับตรงๆก็ได้...ผมกลัวครับ ความรักแบบพวกผมส่วนมากไม่ค่อยยั่งยืนนักหรอก มีให้เห็นก็น้อยมากที่อยู่กันยืดยาว
“อาหารเสร็จแล้วหนุ่มๆ” แม่พูดขึ้นพร้อมกับยกอาหารจานสุดท้ายไปวางที่โต๊ะ ส่วนพี่ตัสก็กำลังเก็บเครื่องครัวล้างก่อน
“ตัส วางเลยลูกเดี๋ยวแม่ล้างเอง”
“No ครับแม่ แม่อ่ะนั่งเลยทางนี้ตัสเคลียร์เอง” พี่ตัสพูดพร้อมกับดันให้คุณแม่นั่งลงที่โต๊ะอาหาร ซึ่งพวกผมก็มานั่งด้วย ในบ้านนี้อยู่กันมาจะรู้หน้าที่ของตัวเอง ว่าควรจะอยู่ตรงไหนเวลาไหน อย่างการล้างเครื่องครัว ถ้วยโถโอชาม จะเป็นพี่ตัส เพราะพี่แกทำได้เนี้ยบและนิ๊งสุดๆ กวาดบ้านถูบ้านส่วนรวมก็จะเป็นผมกับอัทช่วยกัน บางครั้งพี่ตัสก็มาช่วยบ้าง ส่วนด้านการซ่อมบำรุง ก็ยกให้เหล่าศิลปิน JYJ สามหนุ่มเค้าไป
“ขยันดีจริงๆเลยตัสนี่ ทำอะไรไม่ได้บ้างเนี่ย” แม่ผมถามเชิงหยอกๆ
“แม่ถามว่าทำอะไรได้ไม่ดี ดีกว่าครับแม่ ถ้าถามว่าพี่ตัสทำอะไรไม่ได้บ้าง แกคงไม่มีคำตอบให้แม่หรอกครับ พี่แกได้หมดตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ต่อให้สร้างหัวรบนิวเคลียร์ พี่แกก็ไม่หวั่นครับ” อัทพูดเจื้อยๆให้แม่ผมฟัง ซึ่งแม่ผมก็หัวเราะ แต่พี่ตัสตวัดหางตามามองอัทอย่างอาฆาต
“เดี๋ยวจะโดนไอ้ตัวน้อย” จากนั้นพี่ตัสก็ล้างเครื่องครัวเสร็จแล้วมานั่งโต๊ะเป็นคนสุดท้ายเพราะพี่แกเดินตักข้าวให้ด้วย ไอ้ที่เหลือเลยเหมือนเป็นง่อยกันเลยครับ รอพี่ตัสลูกเดียว
“อันนี้อะไรนะคุณ........อันนี้อร่อยจังตัส.......วินเฮ้ยอะไรว่ะ.......” แล้วก็เสียงคุยกันอิรุงตุงนืดไปหมดอาจจะเป็นเพราะอาหารรสชาติผิดแปลกไปบ้างเพราะสูตรแม่ผม+สูตรพี่ตัสเค้าทั้งสองเอามาประยุกต์รวมกันจนได้รสชาติยิ่งกว่าภัตตาคารอีก
“ขอบคุณ คุณแม่นะครับสำหรับอาหารสูตรใหม่ที่เราคิดค้นร่วมกัน ฮ่าๆๆๆ” พี่ตัสเอ่ยขึ้นในขณะที่พ่อแม่ผมกำลังจะกลับ
“ขอบคุณคุณพ่อสำหรับวีรกรรมมันๆนะครับ” เสียงเหล่าสามีครับ
“แม่ไปแล้วนะลูกพรหมดูแลตัวเองดีๆนะ/โชคดีๆ” เสียงแม่และพ่อพูดก่อนที่จะสตาทร์เครื่องแล้วออกไป วันนี้เป็นวันที่สนุกและรู้อะไรอีกหลายๆอย่างเลยครับ ถึงจะเหนื่อยไปบ้าง แต่มันก็มีคุณค่าในความคิดของผม
“เข้าบ้านกันเถอะพวกเรา” พี่ตัสพูดพร้อมกับล็อกบ้านแล้วเดินตามกันเข้าไปในบ้าน แล้วต่างคนก็แยกย้ายเข้าห้องส่วนตัวของตัวเองไป จบไปอีกหนึ่งวัน