All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55  (อ่าน 322532 ครั้ง)

ออฟไลน์ ชินจัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
Re: All I want # 2 (NC17) อัพเพิ่ม 9/12/54
«ตอบ #30 เมื่อ11-12-2011 05:03:56 »

ตอนอ่านเรื่องของคิริยูไม่ค่อยชอบวายะเลย

แต่พอได้รู้ความหลังฝังใจ

วายะก็น่าสงสารเหมือนกันเนอะ

เหล้า ยา ทำให้เกิดความรุนแรงได้มากขึ้นจริงๆ  :เฮ้อ:

 :pig4:

ออฟไลน์ none_ny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
Re: All I want # 2 (NC17) อัพเพิ่ม 9/12/54
«ตอบ #31 เมื่อ11-12-2011 21:58:45 »

แอบหนีไปอ่านถึงตอน 24 แล้ว ลุ้นมาก ๆ > < มาต่อทางนี้ให้ทันน้า

KanomPhing

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want # 2 (NC17) อัพเพิ่ม 9/12/54
«ตอบ #32 เมื่อ12-12-2011 12:59:45 »

อ๊ายย >.<

FC วายะๆๆ

แอบปลื้มมานานแล้ว

ในที่สุดๆๆๆ   5555    :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
Re: All I want # 2 (NC17) อัพเพิ่ม 9/12/54
«ตอบ #33 เมื่อ12-12-2011 14:04:03 »

แทบจะดิ้นตายเมื่อเห็นเรือ่งนี้มา
ยังติดใจกระต่ายน้อยกับคิริยูไม่หาย
มาเจอวายะกับโทโมะอีก
แม่เจ้าโว้ยยย
รักเหลือเกิน ลูนาติก  ลัสท์ เนี่ย
หนึ่งเดียวในดวงใจจิงๆ
วายะก็ยังคงเป็นวายะ
เหมือนโหดแต่ก้อห่วงมากมาย
อัยย่ะ อยากกรี๊ด อยากอ่านต่อมากๆๆๆ เวอร์ๆๆๆ

ps ติดตามตลอดไปค่ะ คลิกไลค์

ออฟไลน์ Cc-kun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: All I want # 2 (NC17) อัพเพิ่ม 9/12/54
«ตอบ #34 เมื่อ12-12-2011 23:11:11 »

ชื่อโทโมะนี่มีในเรื่องที่แล้วมั้ยน้าาา

นึกไม่ออกง่ะ

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
Re: All I want # 2 (NC17) อัพเพิ่ม 9/12/54
«ตอบ #35 เมื่อ15-12-2011 17:44:21 »

อ่านทันแล้ว
วายะนี่เถื่อนได้ใจจริงๆ o13

ออฟไลน์ sin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
Re: All I want # 2 (NC17) อัพเพิ่ม 9/12/54
«ตอบ #36 เมื่อ15-12-2011 19:20:24 »

มาต้อนรับ all i want u

โทโมะ กับวายะมาเยือนเล้าแล้ววว >..<

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #37 เมื่อ15-12-2011 21:34:03 »

All I want # 3


ในวันที่ใบของต้นเมเปิลเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มและต้นแปะก๊วยถูกย้อมเป็นสีเหลืองทองสะท้อนแสงแดดเป็นประกายระยับ  วายะ  ชุนในวัย 25 ปีเดินเลาะเลียบรั้วมหาวิทยาลัยเก่าแก่ไปตามทางเท้า  เขาไม่ได้เรียนที่นี่  และแม้จะเคยมีคนรู้จักเคยเรียนที่นี่  แต่คนพวกนั้นก็จบจากที่นี่ไปหมดแล้ว...ก็มีทั้งเรียนจบ  และจบชีวิตการเรียนไปเฉย ๆ  แต่ไม่ว่าคนพวกนั้นจะเรียนอยู่ที่นี่หรือไม่ก็ตาม  ชายหนุ่มก็ไม่ได้มีธุระกับสถานที่แห่งนี้

วายะไม่รอให้สัญญาณไฟคนข้ามเปลี่ยนเป็นสีเขียว  เขาเดินข้ามทางม้าลายทันทีที่เห็นว่าถนนว่างพอ  จุดมุ่งหมายของเขาคือร้านกาแฟเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ฟากตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยแห่งนั้น

เสียงกระดิ่งที่แขวนไว้หน้าประตูดังขึ้น  เกือบจะพร้อมกับเสียงทักทายที่คุ้นเคยของเจ้าของร้าน

“ยินดีต้อนรับครับ”

“หวัดดี  มาสเตอร์”  วายะทักตอบ

“สวัสดีครับ  วายะซัง  นั่งก่อนสิ”  เจ้าของร้านซึ่งเป็นชายหนุ่มอายุน้อยกว่าวายะ 2 – 3 ปีเชื้อเชิญอย่างเป็นกันเอง  เขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์และสวมผ้ากันเปื้อนเหมือนกับที่วายะเคยเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน  ผมสีน้ำตาลยาวเคลียบ่ารวบไว้อย่างลวก ๆ  อิชิกาวะ  นัตสึเมะ  คือชื่อของเขา  แต่วายะถนัดที่จะเรียกเขาว่ามาสเตอร์มากกว่า

“อากาศเย็นลงมากแล้วนะ”  ผู้เป็นลูกค้าชวนคุย

“ครับ  อีกเดี๋ยวคนกวาดถนนคงได้ทำงานกันสนุกไปเลย”  นัตสึเมะพูดพลางก็มองผ่านกระจกที่กรุไว้แทนผนังออกไปนอกร้าน  พออากาศเย็นลงกว่านี้  ใบไม้สีแดงและสีทองที่เห็นอยู่นั่นจะแย่งกันร่วงลงมาคลุมถนนและทางเท้าจนแทบไม่เหลือที่ว่าง

“ดีใจที่เป็นโฮสต์ก็ตอนนี้แหละ”

“แค่ตอนนี้เหรอครับ?”  นัตสึเมะย้อนถาม  ใบหน้าแต้มรอยยิ้มกึ่ง ๆ จะล้อเลียน

“อย่างน้อยก็ไม่ต้องกวาดถนน”

“ผมคิดว่าคุณแฮปปี้ทุกคืนเสียอีก”  ว่าพลางก็กดสวิตช์เครื่องบดเมล็ดกาแฟ

“คนเรามันไม่ได้หื่นอยากมีเซ็กส์ทุกคืนหรอกนะ  มาสเตอร์...หรือว่ามาสเตอร์เป็น?”  ประโยคสุดท้ายแกล้งย้อนให้  ในขณะที่ตาก็จับจ้องไปยังผงกาแฟละเอียดที่ไหลออกมาจากเครื่องบด

“ไม่หรอกครับ  แต่ได้ยินว่าวายะซังทำงานโฮสต์มาหลายปีแล้ว  เลยคิดว่าน่าจะชอบงานนี้”  เมื่อได้ผงกาแฟในปริมาณพอเหมาะ  นัตสึเมะก็ตักมันใส่เบ้าตวงสำหรับเครื่องชงกาแฟ

“ก็ไม่ได้ลำบากอะไร  งานก็ไม่ได้ยาก  เงินก็ดี  จะว่าไปแล้ว  สบายกว่าเป็นนายแบบด้วยซ้ำ”  วายะมองมือของนัตสึเมะที่ขยับอย่างคล่องแคล่วเป็นจังหวะเหมือนการเล่นดนตรี  “ไม่ต้องรักษาหุ่น  ไม่ต้องปั้นหน้าเสียวเวลากล้องจับมา  แค่หวดให้แรง  เฆี่ยนให้หนักตามที่ลูกค้าเรียกร้องก็พอแล้ว”

“บรรยายซะอีโรติกเลยนะครับ”  นัตสึเมะยิ้ม  หยิบถ้วยกาแฟใส่เข้าไปวางไว้ใต้เครื่องชง

“มาสเตอร์น่าจะชินแล้วนะ  ได้ยินว่าเป็นเพื่อนกับคิริยูมาตั้งแต่ ม. ต้นไม่ใช่เหรอ”  โฮสต์หนุ่มหมายถึงคิริฮาระ  ยู  นายแบบ SM ระดับท็อป 5 ที่สังกัดบริษัทเดียวกันกับเขา

“ครับ  แต่เรื่องที่คิริฮาระเล่าให้ฟัง  มันก็คนละเรื่องกับที่คุณเล่า  มองผ่าน ๆ แล้วผมคิดว่าเหมือนกันนะ  แต่พอฟังรายละเอียดจริง ๆ แล้วต่างกันเยอะเหมือนกัน”  น้ำแรงดันสูงถูกผลักดันให้ไหลผ่านผงกาแฟกลั่นออกมาเป็นน้ำสีน้ำตาลเข้มหอมหวลทิ้งตัวลงสู่ถ้วยกาแฟ

“อืม...ไม่เหมือนกันหรอก  งานของฉันไม่ได้ยุ่งยากเท่าหมอนั่น”  วายะยกมือขึ้นเสยเรือนผมสีทองของตน  ขยับตัวออกจากเคาน์เตอร์ให้นัตสึเมะวางถ้วยกาแฟให้ตรงหน้า  “ว่าแต่หายหัวไปเลยนะ  เจ้านั่นน่ะ”

“ป่านนี้คงนั่งเฝ้าหน้าจอคอมรอเมลล์จากซาคากิซังอยู่ละมั้งครับ”

“อ้อ  กระต่ายที่เยอรมัน...ดันทะลึ่งส่งเขาไปเอง  แล้วทีงี้มาทำท่าจะเป็นจะตายเพราะคิดถึงแฟน...คิริยูเอ๊ย...”  หางเสียงลากยาวแสดงความสมเพชอย่างเห็นได้ชัด

“ก็เพื่ออนาคตของทั้งคู่ละนะครับ”  นัตสึเมะพูดยิ้ม ๆ  “ถึงจะคร่ำครวญยังไง  ก็ได้แค่คร่ำครวญแหละนะ  ถ่ายแบบสักรอบหรือได้เฆี่ยนใครสักยกก็หายเอง”

“หึ ๆ...นึกภาพออกเลย”  วายะหัวเราะชอบใจ  สมกับที่รู้จักคิริฮาระมานาน  นัตสึเมะมองผู้ชายคนนั้นได้ทะลุปรุโปร่งจริง ๆ

เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านลั่นกริ๋ง  เรียกให้ผู้เป็นเจ้าของร้านหันไปทักทายแขกผู้มาเยือนอีกครั้ง

“ยินดีต้อนรับครับ...อ้าว  พูดถึงก็มาพอดีเลย  คิริฮาระ”

ผู้มาเยือนคือคนที่กำลังเป็นหัวข้อนินทาอยู่แหมบ ๆ เมื่อกี้นี้  เจ้าของเรือนผมสีแดงเป็นประกายสวมแจ็กเก็ตหนังลายเสือกับกางเกงยีนส์เข้ารูปอย่างที่ชอบใส่เป็นประจำ  หากใบหน้าค่อนข้างสวยนั้นหม่นหมองและซีดเซียว

“ไม่มีเมลล์มาเหรอ?”  นัตสึเมะถามขึ้นเมื่อเห็นอาการของเพื่อนรัก

“มี”  คิริฮาระตอบสั้น ๆ พร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้เคาน์เตอร์ข้าง ๆ วายะ

“มีแล้วทำหน้าแบบนั้นทำไม?”  ถามพลางก็บดเมล็ดกาแฟสำหรับชงให้คิริฮาระ

“มันสั้น...”  เสียงตอบงึมงำอยู่ในลำคอ

“ก็เขียนหากันแทบทุกวัน  จะให้เอาอะไรมาเขียนนักหนา  หือ?”

“แต่คราวนี้สั้นไป  สามบรรทัดเอง”  คิริฮาระว่า

“เขาเบื่อนายแล้วมั้ง”  คนขัดจังหวะคือวายะ  “อยากส่งเขาไปเยอรมันเอง  ป่านนี้ได้แฟนใหม่ไปแล้วละ”

ดวงตาคมกริบปรายมองวายะอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ  “ไม่มีทาง  คิโยะของฉันไม่นอกใจฉันหรอก  ไม่เหมือนพวกร่อนไปทั่วแบบนายนี่”

“ฉันไม่เคยนอกใจใครนะ”  วายะเถียง

“เออ  ฉันรู้  เพราะนายยังหาคนของนายเป็นตัวเป็นตนไม่ได้  อิจฉาใช่มั้ยล่ะ?  ฉันหาได้ก่อนเนี่ย  นั่งกินกาแฟไปเงียบ ๆ เลยไป”  นายแบบหนุ่มพาล

วายะยักไหล่อย่างยียวน  ไม่สนใจเสียงก่นโคตรที่ลอดริมฝีปากบางออกมาอีกชุดใหญ่  ส่วนนัตสึเมะก็เพียงแต่ยิ้ม ๆ

เมื่อ 2 ปีก่อน  ซาคากิ  คิโยฮารุซึ่งเป็นคนรักของคิริฮาระได้รับทุนไปเรียนต่อที่เยอรมัน  ในตอนนั้นคิริฮาระมีปัญหาในชีวิตไม่น้อย  แต่เจ้าตัวนั่นแหละที่ขอร้องแกมบังคับให้คิโยฮารุไปเรียนต่อ  ถึงกับยื่นคำขาดว่าถ้าคิโยฮารุไม่ยอมไปก็จะตัดสัมพันธ์กันเดี๋ยวนี้  เงื่อนไขนี้ทำให้นัตสึเมะและวายะอึ้งทีเดียว  เพราะทั้งคู่รู้ดีว่าทั้งสองคนรักกันมากแค่ไหน  ยิ่งผ่านเรื่องเลวร้ายมาด้วยกัน  ก็ยิ่งผูกพันจนแทบจะไม่สามารถแยกจากกันได้  การที่คิริฮาระยื่นคำขาดแบบนี้  ก็ต้องยอมรับนับถือในความเด็ดเดี่ยวเข้มแข็งของเขาจริง ๆ...ถ้าเพียงแต่...จะไม่มางอแงบ่อยนักน่ะนะ

“เพิ่งเจอกันไปเมื่อหน้าร้อนนี่เองไม่ใช่เหรอ  ซาคากิซังน่ะ  ผ่านมาไม่นานเลยนะ”  นัตสึเมะว่า

“ไม่รุ  อยากเจอนี่นา”  คิริฮาระเถียงพลางยกถ้วยเอสเปรสโซที่นัตสึเมะชงให้ขึ้นมาจิบ

“ดีจังนะ  คนมีเจ้าของหัวใจเนี่ย”  วายะแกล้งเปรยขึ้น

“ก็หาเองสักคนเซ่ะ”  นายแบบหนุ่มพูดเสียงห้วน  “จะได้ไม่ต้องมาแขวะคนอื่นเขา  ฉันรู้นะว่านายเคยรังแกกระต่ายของฉัน”

“เรื่องผ่านมาตั้งชาตินึงแล้ว  อย่าขุดมาพูดเลยน่า”  วายะส่ายหน้า...เจ้าหมอนี่นิสัยบางอย่างยังกับผู้หญิง  โดยเฉพาะไอ้เรื่องชอบจำรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่  พูดได้เป็นฉาก ๆ อย่างกับเกิดขึ้นเมื่อวานอย่างนั้นแหละ

“นายก็เลิกพูดมากได้แล้ว  เจ้าบ้า”

วายะนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟตลอดบ่าย  จนกระทั่งได้เวลาที่ต้องเตรียมตัวไปทำงาน

“เอาละ  ต้องไปเสียที”  โฮสต์หนุ่มว่าพลางลุกจากเก้าอื้

“เออ  ไปเสียที  กาแฟถ้วยเดียวนี่กะจะนั่งจนร้านปิดเลยหรือไงก็ไม่รู้”  คิริฮาระยังคงพาล

“ของนายก็ถ้วยเดียว  ถ้วยเล็กกว่าของฉันด้วย  ยังมีหน้ามาพูดมากอีก”  วายะย้อน

“ฉันเป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ของร้านนี้เฟ้ย  ไสหัวไป  ไป๊!”  ไม่ว่าเปล่ายังโบกมือไล่อีกต่างหาก

“หึ...ไอ้เหมียวอันธพาล”  วายะเพียงแต่ยิ้ม ๆ  “ถ้ามันเสี้ยนนักจะไปโชว์พิเศษให้หายเสี้ยนมั้ยล่ะ?  จะได้เตรียมเวทีไว้รอ”

“ไม่โว้ย  ไปได้แล้ว  ไอ้บ้านี่!”  คิริฮาระเงื้อมืออย่างเอาเรื่อง  กะว่าถ้าวายะยังไม่ไปเสียทีเขาจะทุบให้สักเปรี้ยง

“หึ ๆ ๆ  ไปแล้ว ๆ  แล้วเจอกันนะ  มาสเตอร์  ระวังไอ้เหมียวงุ่นง่านนี่มันปล้ำเอาล่ะ”  ชายหนุ่มทิ้งท้ายก่อนจะก้าวยาว ๆ เดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็วก่อนที่คิริฮาระจะแก้แค้นได้ทัน

...

แม้จะได้ชื่อว่าเป็นโฮสต์หรือผู้ชายขายบริการ  แต่หน้าที่การงานของวายะก็แตกต่างไปจากโฮสต์ที่คนทั่ว ๆ ไปรู้จัก  เขาทำงานในคลับลับเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเซ็กส์ที่ใช้ความรุนแรงหรือที่เรียกกันว่า SM  ที่ทำงานของเขาอยู่ชั้นใต้ดินของโฮสต์คลับธรรมดาที่เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  เพียงแต่เมื่อก้าวลงบันไดไป 2 – 3 ชั้น  ก็จะพบว่าโลกข้างล่างนั้นแตกต่างกับข้างบนอย่างสิ้นเชิง

ลูนาติก  คลับชั้นบนจะมีพนักงานเป็นหนุ่มน้อยวัยรุ่นหน้าตาใส ๆ  เซ็ทผมแต่งหน้าตามแฟชั่นในชุดสูทหรูหราเหมือนหลุดออกมาจากหน้านิตยสาร  ให้บริการนั่งคุยหรือเป็นเพื่อนดื่มกับลูกค้าที่เป็นหญิงสาวเสียเป็นส่วนมาก  แต่ก็มีบ้างที่จะมีผู้ชายมาใช้บริการ  ส่วนจะถูกใจกันจนซื้อตัวไปต่อที่อื่นหรือจะมีอะไรกันนั้นก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนอกคลับ  หรือหากจะใช้บริการห้องพักของคลับก็ทำได้  เพียงแต่ค่าใช้จ่ายจะแพงหูดับ  จึงมีเพียงแต่สาวใหญ่เงินหนาเท่านั้นที่จะเปิดห้องพักที่ตกแต่งไว้อย่างดีสมราคา

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #38 เมื่อ15-12-2011 21:40:11 »

แต่ลูนาติก  คลับชั้นใต้ดินไม่ใช่  คลับใต้ดินมีที่นั่งบุนวมชั้นดีล้อมรอบด้วยม่านทึบ  ที่นั่งทั้งหมดหันหน้าไปทางเวทีที่จะมีการแสดงทางเพศที่รุนแรงเพื่อสนองความใคร่ของลูกค้าทุกค่ำคืน  ม่านที่ล้อมที่นั่งจะให้ความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ที่ซื้อบริการจากพนักงานในคลับ  ลูกค้าสามารถกอดจูบนัวเนียหรือแม้แต่ให้พนักงานทำออรัล  เซ็กส์  (Oral sex) ให้ได้โดยไม่ต้องอายสายตาใคร  หรือถ้าใครเกิดความต้องการจนไม่สามารถระงับได้  ก็สามารถซื้อตัวโฮสต์ไปรับรองที่ห้องพิเศษที่ชั้นบนซึ่งจัดไว้สำหรับกิจกรรมทางเพศแบบ SM โดยเฉพาะได้...อาจจะเรียกได้ว่าที่นี่เป็นแหล่งขายบริการทางเพศและการแสดงโชว์ผิดกฎหมายก็ไม่ผิดนัก  ผู้ที่มาใช้บริการก็มีทั้งชายและหญิง  มีทั้งที่ชอบใช้ความรุนแรง  และชอบที่จะถูกกระทำอย่างรุนแรง  เงื่อนไขเพียงอย่างเดียวสำหรับผู้ที่จะมาใช้บริการก็คือ  ต้องเป็นสมาชิกของลูนาติก  ลัสท์เท่านั้น

วายะอยู่ในกลุ่มของโฮสต์ที่ขายความรุนแรงให้ลูกค้าหรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่าสาย S  เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็สามารถก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งของลูนาติก  คลับได้อย่างไม่ยากเย็นนัก  ด้วยบุคลิกและลักษณะนิสัยส่วนตัว  วายะเป็นคนที่มีความดิบเถื่อนอยู่ในตัวอย่างไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากนัก  น้ำเสียงและวิธีพูดของเขาก้าวร้าวและดุดัน  แต่กลับมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างน่าประหลาด  ดวงตาสีสนิมเหล็กมองโลกอย่างเย็นชาราวกับทุกสิ่งรอบตัวไม่มีความหมายสำหรับเขา  หากในดวงตาคู่นั้นกลับมีประกายอย่างอสรพิษร้าย  ยามสบตาใครมักจะทำให้คนคนนั้นทั้งหวั่นไหวและหวาดกลัวได้พร้อม ๆ กัน  รูปร่างของชายหนุ่มสูงใหญ่แบบคนมีเลือดผสม  ตัวเขาเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันผสมอะไรบ้าง  แต่นั่นทำให้เป็นข้อได้เปรียบกว่าโฮสต์คนอื่น  แถมเจ้าตัวยังหมั่นดูแลตัวเองเป็นอย่างดีทำให้ทั้งร่างนั้นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อได้สัดส่วน  ทั้งฝีไม้ลายมือและลีลาทางเพศก็แสนเร้าใจ  จนร่ำลือกันว่าหากใครได้ลองสักครั้งจะถึงกับถอนตัวไม่ขึ้น  เมื่อประกอบทุกอย่างเข้าด้วยกัน  วายะก็เป็นคนที่มีเสน่ห์ของความเป็นชายเปี่ยมล้นจนแม้แต่ผู้ชายด้วยกันก็ยังอดอิจฉาไม่ได้

แต่...แม้งานจะง่ายและเงินจะดีแค่ไหน  บางครั้งวายะก็รู้สึกเบื่อ  เขาเป็น S ออกมาจากส่วนลึกของจิตใจก็จริง  แต่การที่ต้องแสดงตนว่าตัวเองเป็น S อยู่ทุกวี่วันมันน่าเบื่อ  แม้ว่าเขาจะมีบุคลิกเถื่อน ๆ อย่างเป็นธรรมชาติจนกางเกงหนังหรือกุญแจมือที่โฮสต์สาย S คนอื่นมักจะห้อยไว้ที่เอวเพื่อแสดงบารมีจะไม่จำเป็นสำหรับเขา  แต่งานแบบนี้ก็เลือกลูกค้าไม่ได้  ถ้าบังเอิญเจอไอ้แก่อ้วนน่าเกลียดมาคลานแทบเท้าวิงวอนให้เขาเฆี่ยนเข้าวันไหน  วายะจะเซ็งต่อไปอีกหลายวัน  แต่ถึงจะเบื่อและบางครั้งก็ทำงานแบบขอไปที  ก็ยังมีลูกค้ามากมายเรียกใช้บริการเขาอย่างสม่ำเสมอทั้งชายและหญิง  คนพวกนี้ให้เงินหนัก  แต่ส่วนมากก็หน้าเดิม ๆ  ค่าตัวของวายะสูงเกินกว่าพวกหน้าใหม่จะกล้าแตะต้อง...หรือไม่อีกที  แม้จะมีเงินมากก็ยังไม่กล้าพอที่จะลิ้มลอง  ด้วยกลัวว่าความเร่าร้อนของวายะจะแผดเผาตนเองจนไหม้เป็นจุณ

ที่ผ่านมา  คนเดียวที่สามารถทำให้วายะตื่นเต้นได้เสมอก็คือคิริฮาระ  ชายหนุ่มที่เขาเป็นคนล่อลวงให้มาเข้าสังกัดและปลุกปั้นจนกลายเป็นนายแบบที่มีค่าตัวสูงยิ่งกว่าเงินเดือนของเขาทั้งเดือนเสียอีก  คิริฮาระมักจะแหกกฎของนายแบบมาเล่นสนุกกับเขาอยู่เสมอ  จนกระทั่งถูกซาคากิ  คิโยฮารุ  หนุ่มหน้าตาใสซื่อที่เป็นเพื่อนร่วมสถาบันช่วงชิงหัวใจไป  คิริฮาระก็มาหาเขาน้อยลง  หรือถ้าเจอกันที่ร้านกาแฟของนัตสึเมะ  คิริฮาระก็จะเอาแต่พูดถึงคนรักซึ่งตอนนี้อยู่ไกลถึงเยอรมันให้ฟังไม่ขาดปาก

ชายหนุ่มเคยอยากได้คิริฮาระ  แต่เขาเองที่เป็นคนสอนให้เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นอิสระ  ไม่ขึ้นกับใคร  และไม่มีวันเป็นของใคร  เขาเชื่ออย่างนั้นจนกระทั่งได้รู้ว่าคิริฮาระมอบหัวใจให้คิโยฮารุ  ผู้ซึ่งไม่ว่าจะมองอย่างไรวายะก็ไม่สามารถนิยามคนคนนั้นได้มากไปกว่ากระต่าย  กระต่ายตัวเล็ก ๆ อ่อนแอ  เปราะบาง  คงเพราะความบอบบางนั่นเองที่ทำให้คิริฮาระอยากจะปกป้อง  แต่เมื่อเวลาผ่านไป  กระต่ายน้อยในสายตาของวายะกลับพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถเข้มแข็งได้ยิ่งกว่าใคร  ในเวลาที่คิริฮาระอ่อนแอถึงขีดสุด...ดังนั้นเขาจึงปล่อยมือ

ที่จริงวายะก็รู้สึกยินดีที่เห็นคิริฮาระมีความสุข  ด้วยการเป็นคนที่เฝ้าดูคิริฮาระมาตั้งแต่แรก  เขาเข้าใจช่องว่างและปมในหัวใจของคิริฮาระในระดับหนึ่ง  มันเป็นเรื่องที่เขาไม่สามารถช่วยอะไรคิริฮาระได้  นอกจากคอยเติมเต็มความต้องการในชั่วข้ามคืนหรือคอยขจัดความรู้สึกที่กัดกินหัวใจดวงนั้นให้  เมื่อมีคนมากลบช่องว่างและคลายปมนั้นออกได้  เขาก็ย่อมจะดีใจด้วยเป็นธรรมดา

แต่ลึก ๆ ในหัวใจนั้น  วายะรู้สึกได้...ความรู้สึกดำมืดบางอย่างก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ...ความรู้สึกของคนที่ถูกช่วงชิงสิ่งที่เคยเป็นของตนไป

แม้ชายหนุ่มจะรู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่คนที่รู้จักคิริฮาระดีกว่าใคร  แต่เขาเชื่อว่าในส่วนที่เขารู้นั้น  ไม่มีใครรู้  เขาคอยประคับประคองคิริฮาระมาตลอดในส่วนที่ไม่มีใครทำได้แม้แต่เพื่อนรักอย่างนัตสึเมะ  ทุกครั้งที่คิริฮาระมาหา  เขาพร้อมที่จะอ้าแขนรับและทำตามคำขอของคิริฮาระทุกอย่างโดยไม่ถามถึงเหตุผล  เพราะในตอนนั้น  คิริฮาระเป็นของเขา...ของเขาคนเดียวเท่านั้น

แต่ตอนนี้คิริฮาระเป็นของคนอื่น...ทั้งตัวและหัวใจ...ตัวเขาไม่มีความหมายกับคิริฮาระอีกต่อไป  มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด  เป็นความรู้สึกที่เขาได้ลิ้มรสมันครั้งแล้วครั้งเล่า...คนที่เขาต้องการ  ไม่เคยเป็นของเขาจริง ๆ...ไม่ว่าจะตอนนี้หรือเมื่อก่อน...ไม่ว่าจะเป็นคิริฮาระ...หรือใครอีกคนที่เขาทิ้งไว้ในอดีต

ไม่เคยมีใครเป็นของเขา

...

โฮสต์หนุ่มเดินขึ้นบันไดหนีไฟไปยังทางออกที่นำไปสู่ซอยเล็ก ๆ ด้านหลังลูนาติก  คลับ  จุดบุหรี่อัดควันเข้าปอดก่อนจะค่อย ๆ พ่นออกมาช้า ๆ  ควันบุหรี่สีเทาลอยอ้อยอิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงได้ถูกสายลมเย็น ๆ ของฤดูใบไม้ร่วงพัดกระจายไป

วายะเพิ่งเสร็จจากการรับรองลูกค้ารายหนึ่งเมื่อครู่นี้เอง  เขาเฆี่ยนอย่างไร้อารมณ์  แต่แม่สาวนั่นก็ดันชอบเสียอีก  เงื่อนไขการใช้บริการของเธอไม่ได้ต้องการเซ็กส์  เพียงแค่เฆี่ยนและทรมานเธอเท่านั้นก็พอแล้ว  เขาก็เลยทำให้ตามที่เธอต้องการอย่างแกน ๆ  กระนั้นเจ้าหล่อนก็ปริ่มสุขไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

บางที  มันคงเป็นพรสวรรค์จริง ๆ ละมั้ง...วายะมองมือตัวเองแล้วคิดแบบนั้น  ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจที่มีความสามารถอันเปี่ยมบาปนี้ติดตัว  แต่เอาเถอะ...อย่างน้อยก็ได้เงิน

ได้เงินแล้วไง?...ชายหนุ่มถามตัวเอง  แต่ก็ไม่มีคำตอบ  เงินที่ได้มาไม่อาจให้ในสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ ได้  แล้วเขาต้องการอะไร...คำถามนี้ตอบไม่ยาก  วายะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว  เพียงแต่ไม่เคยพูดออกมา  ยิ่งถ้าพูดให้คิริฮาระได้ยินมีหวังถูกหัวเราะเยาะไปจนถึงโลกหน้า

แต่มันจะแปลกตรงไหน  ถ้าคนอย่างเขาจะอยากได้ใครสักคนที่เป็นของเขาจริง ๆ

เป็นของเขาเพียงคนเดียว  และจะไม่ไปเป็นของใครอีก


เป็นของเขา...ทั้งตัว...และหัวใจ...


โฮสต์หนุ่มดีดก้นบุหรี่ทิ้งราวกับจะดีดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไปพร้อมกับมัน

...อิจฉาใช่มั้ยล่ะ?...ถ้อยคำของคิริฮาระเมื่อกลางวันยังก้องอยู่ในหู  เออ...เขาอิจฉา  แต่มันเรื่องอะไรที่เขาจะต้องพูดออกมาด้วย  ขืนให้ท้ายมาก ๆ คิริฮาระก็เหลิงเสียเท่านั้น  แค่นี้ก็นิสัยเสียกว่าตอนที่เจอกันใหม่ ๆ ไม่รู้เท่าไรแล้ว

อย่ากระนั้นเลย  กลับลงไปที่คลับแล้วหาลูกค้าอีกสักคนดีกว่า  ถ้าได้คนแบบต้องการเซ็กส์ก็ดี  ได้ออกแรงมาก ๆ ก็หายฟุ้งซ่านเองแหละ

ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะเดินกลับเข้าไปในคลับ  พลันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งอย่างรวดเร็วเข้ามาในซอย...ใครมันมาวิ่งเล่นแถวนี้ในเวลาแบบนี้...เขาหันไปดู  ก่อนจะปะทะโครมเข้ากับร่างเล็ก ๆ ที่พุ่งเข้ามาเหมือนไม่ทันเห็นเขา  ถึงจะไม่ทันตั้งตัวแต่วายะก็รับร่างนั้นไว้ได้ด้วยขนาดตัวที่ต่างกันมาก  ฝ่ายนั้นคงรู้สึกเหมือนวิ่งชนกำแพงเลยทีเดียว

“ถอยไปนะ!!”  เสียงใส ๆ แหวขึ้น  ไม่ขอโทษแม้สักคำ

“ถอยบ้าอะไร  วิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือเอง”  โฮสต์หนุ่มสวนเข้าให้  สองมือยังจับไหล่เล็ก ๆ นั้นไว้

“ปัดโธ่!  ไอ้บ้านี่...ถอยไป!”  เจ้ารถไฟหัวกระสุนขี้โวยวายสะบัดตัวออกจากการจับกุมของวายะ

ตอนแรกวายะคิดว่านี่คงเป็นสาวบริการที่ไหนสักแห่งที่พยายามหนีจากขี้เมาสักคนมา  แต่เมื่อเห็นชัด ๆ ก็พบว่าคนที่วิ่งเข้ามาชนเขาเป็นเพียงเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ที่เสียงยังไม่แตกพานดีด้วยซ้ำ  จากอาการปัดป้องและเสียงที่ตะโกนอยู่ลั่น ๆ บอกได้ว่าคงเอาเรื่องไม่น้อย

วายะไม่ชอบเด็กแบบนี้เท่าไรนัก  และเพราะไม่ชอบ  ถึงได้อยากแกล้งขึ้นมา

“หนีใครมา  สารวัตรนักเรียนหรือพวกหัวงูขี้เมา?”  ชายหนุ่มแกล้งไม่ยอมปล่อยมือ

“จะหนีใครมาก็ไม่ใช่เรื่องของนาย  ปล่อยนะ!”  หนุ่มน้อยยังพยายามดิ้นให้หลุด

“อาการแบบนี้  ทำความผิดมาละสิ”  วายะพูดเรื่อย ๆ  แต่ดวงตามีประกายซุกซน

“บอกว่าไม่เกี่ยวกับนาย  ไอ้บ้านี่!!”

โฮสต์หนุ่มกำลังคิดว่าจะแกล้งอีกแค่นิดหน่อยแล้วจะปล่อยไปอยู่แล้ว  แต่ก็มีเสียงคุ้นเคยดังขึ้น

“เฮ้ย!  วายะ  พอดีเลย  จับไอ้หนูนั่นไว้นะ!”

วายะหันไปมองที่มาของเสียง  แล้วก็พบโทคิโตะผู้เป็นเพื่อนร่วมอาชีพกำลังวิ่งตรงเข้ามา  ถึงตอนนี้  ไอ้ตัวเล็กที่เขาจับเอาไว้ก็ออกแรงเตะถีบเป็นพัลวัน  แต่ชายหนุ่มเพียงแค่จิกนิ้วกดลงตรงเหนือกระดูกไหปลาร้าหนัก ๆ เจ้าตัวร้ายก็สะดุ้งขึ้นทั้งตัวและหยุดดิ้นรนทันที...ก็แค่เทคนิคเล็กน้อยที่ใช้ในการหยุดคู่ต่อสู้เท่านั้นเอง

“อะไรเหรอ  โทคิโตะ?”  วายะหันไปถามเพื่อนร่วมงาน

“ไอ้เด็กบ้านี่มันล้วงกระเป๋าฉัน”  โทคิโตะก้าวอาด ๆ เข้ามาหา  หน้าตาดูขุ่นเคืองอย่างไม่เก็บอาการ

“เปล่านะ!”  หนุ่มน้อยเถียงเสียงดัง

“เปล่า?  แล้วไอ้ในมือแกนั่นมันอะไร  หา?”  โทคิโตะตะคอกพร้อมกับเงื้อมือหมายจะตบให้สักฉาด

ในตอนนั้นวายะถึงได้เห็นกระเป๋าเงินใบหนึ่งในมือเด็กหนุ่ม  มันเป็นกระเป๋าที่โทคิโตะเพิ่งเอามาอวดให้เขาดูเมื่อไม่นานมานี้เองแถมยังคุยว่าสั่งทำเป็นพิเศษเสียด้วย  ดังนั้นเขาจึงจำได้ดี...หลักฐานคามือแบบนี้ต่อให้ปฏิเสธอย่างไรก็ไม่พ้นข้อหาไปได้หรอก

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #39 เมื่อ15-12-2011 21:48:07 »

“มันหล่น  ฉันก็แค่เก็บขึ้นมา”  ไอ้ตัวเล็กแถ

“หล่นพ่อมึง!  ล้วงไปจากกางเกงกูเห็น ๆ ยังจะมาเถียงอีก”  คราวนี้ร่างสูงไม่แค่เงื้อ  แต่ตบเปรี้ยงจนหัวคะมำ  นี่ถ้าวายะไม่จับเอาไว้เจ้าเด็กนั่นคงลงไปกองกับพื้นแล้ว

“เจ็บ!!  ไอ้เบื๊อกนี่!  ไอ้คนเฮงซวย  ดีแต่ใช้กำลัง  เสื่อมสมรรถภาพ!!”  ตอนแรกวายะนึกเป็นห่วงที่เห็นโทคิโตะตบเต็มแรงแบบนั้น  แต่ฟังจากเสียงแจ้ว ๆ นี่คงไม่มีปัญหาอะไรละมั้ง

“เสื่อมเรอะ...มาลองดูเลยมั้ย  จะได้รู้ว่าเสื่อมไม่เสื่อม”  โฮสต์หนุ่มทำท่าจะรูดซิปกางเกงเสียด้วยซ้ำ

“เฮ้ย...พอทีน่า  ทั้งคู่แหละ”  วายะปราม  เกือบจะยิ้มออกมาด้วยซ้ำเมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานลดตัวลงไปทะเลาะกับเด็กเสียเป็นจริงเป็นจัง  “ไอ้เปี๊ยก  เอากระเป๋าคืนเขาไปซะ  ถ้าล้วงเงินออกมาแล้วก็คืนเงินไปด้วย”

“ไม่ใช่ไอ้เปี๊ยกนะ!!”  เด็กหนุ่มหันมาจ้องหน้าวายะอย่างเอาเรื่อง  ดูท่าคำที่วายะพูดไปจะเป็นคำต้องห้ามสำหรับเจ้าเด็กนี่สินะ

“ไอ้ตัวเล็ก”  วายะเปลี่ยนสรรพนามให้  “คืนเขาไปซะ”

“ไม่ใช่ไอ้ตัวเล็กนะ!  ไอ้ยักษ์ปักหลั่น  ไอ้วัวบ้า!!”

ปากเสียจนวายะนึกอยากจะช่วยโทคิโตะตบสักฉาด  แต่ถึงจะทำแบบนั้น  เด็กพรรค์นี้ก็คงไม่พูดดีขึ้นมาได้หรอก  วายะเพียงแต่จ้องตาเด็กหนุ่มนิ่ง ๆ แล้วพูดเบา ๆ  ไม่มีรอยยิ้มในสีหน้าอีกต่อไป

“คืนกระเป๋าให้โทคิโตะซะ”

เด็กหนุ่มหน้าซีดเผือด  ดูท่าทางเจ้าตัวจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ากำลังหาเรื่องผิดคน  ผู้ชายสองคนนี้ตัวใหญ่กว่าเขาเยอะ  แถมยังดูไม่ใช่คนที่จะทะนุถนอมออมมือให้เด็กแบบเขาเสียด้วย  คิ้วเรียวขมวดมุ่น  ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น  ก่อนจะหันไปขว้างกระเป๋าเงินใส่โทคิโตะอย่างเสียมิได้

โฮสต์หนุ่มรับกระเป๋าของตัวเองไว้ได้อย่างสวยงามแล้วเปิดออกมานับจำนวนเงิน  “ก็แค่นั้น”

เห็นแบบนั้น  วายะก็ปล่อยไหล่เล็ก ๆ ที่จับไว้แน่นออก  พวกเขาไม่ค่อยจะมีเรื่องกับใครอยู่แล้ว  พวกเขามาที่นี่เพื่อทำงาน  ไม่ใช่เอาแรงที่ควรจะใช้ในหน้าที่การงานไปเสียกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง  ถ้าเรื่องไหนสามารถทำให้มันจบได้ด้วยการข่มขู่เพียงเล็กน้อย  ก็จะให้มันจบเพียงแค่นั้น  มีแค่ครั้งหรือสองครั้งที่จะมีเหตุถึงขั้นที่คนอื่น ๆ เรียกว่า  “ยกพวกตีกัน”  เกิดขึ้น  อย่างไรเสีย  ขึ้นชื่อว่าโฮสต์แล้ว  จะเป็นโฮสต์ธรรมดาหรือโฮสต์สายพิเศษแบบพวกเขา  ก็ต้องรักษาหน้าตาให้ดูดีไว้ก่อนอยู่แล้ว  คงไม่มีใครอยากซื้อบริการโฮสต์ที่ปากแตกหรือตาปูดเพราะไปทะเลาะกับใครมาหรอก

“จำไว้  ไอ้หนู  ไปฝึกมือกับพวกมนุษย์เงินเดือนขี้เมาโง่ ๆ นั่นให้เก่งเสียก่อน  แล้วค่อยมาล้วงกระเป๋าพวกฉัน”  โทคิโตะเอานิ้วจิ้มหน้าผากเจ้าหัวขโมยตัวเล็กถี่ ๆ พร้อมกับเน้นคำพูดทีละคำ  เสร็จแล้วก็หัวเราะเสียงดังอย่างสะใจ  เดินหายเข้าร้านไป

วายะหัวเราะออกมาเบา ๆ  โทคิโตะก็เป็นคนแบบนี้  โกรธง่ายหายเร็ว  แต่ถ้าของขึ้นแล้วจะเรื่องบ้าระห่ำแค่ไหนก็ทำได้  ดูอย่างเมื่อกี้ที่ทำท่าจะรูดซิปกางเกงเพื่อปล้ำเจ้าหนูนี่ก็ได้...คนดี ๆ ที่ไหนเขาจะรีบร้อนทำแบบนั้นกัน

“หัวเราะบ้าอะไรเล่า!”  ไอ้ตัวเล็กหันมาแว้ดใส่วายะ  “ถ้านายไม่เกะกะนะ  ป่านนี้ไอ้บ้านั่นก็จับฉันไม่ได้แล้ว”

“โทษตัวเองที่วิ่งไม่ดูทางมาชนฉันดีกว่านะ”  วายะเคาะบุหรี่ออกจากซอง  ใส่ปากคาบไว้แล้วจุดสูบ  ทำเป็นมองไม่เห็นความเกรี้ยวกราดของเด็กหนุ่ม

“ฉันดูทางแล้ว  แต่นายเกะกะ  ตัวใหญ่เกะกะ!”

“อิจฉาเรอะ  ไอ้เปี๊ยก?”  วายะปรายตามองพร้อมกับกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างยียวน

“อิจฉาบ้าอะไรเล่า!  ไอ้ควายไบซัน!!”  ไม่โวยเปล่า  แต่ยังกระทืบเท้าลงบนหลังเท้าของวายะอีกด้วย  แต่เพราะชายหนุ่มใส่รองเท้าหนังหัวเหล็ก  จึงไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย

โฮสต์หนุ่มนึกแปลกใจนิดหน่อยว่าปากเล็ก ๆ นั่นมันเที่ยวไปสรรหาคำด่าจากไหนมาใช้นัก  ถ้ายังปล่อยให้ด่าต่อไปอีก  เด็กนี่จะย้อนชาติตระกูลเขาไปจนถึงยุคไดโนเสาร์เลยไหมนะ  อย่ากระนั้นเลย...ไล่ไปให้พ้น ๆ เร็ว ๆ ดีกว่า  ยังไงเสียแถวนี้ก็ไม่ใช่ที่ที่เด็กอายุเท่า ๆ เจ้าหนูนี่ควรจะมาเตร็ดเตร่อยู่ในเวลาแบบนี้

“ไอ้หนู  กลับบ้านไปกินนมนอนได้แล้วไป”

ชายหนุ่มพูดพลางเอามือยันหน้าเด็กหนุ่มเบา ๆ  แต่คนตัวเล็กกว่าถึงกับถอยไป 2 – 3 ก้าว  ตรงนั้นมีแสงไฟพอดี  ทำให้วายะเพิ่งจะได้เห็นหน้าคู่กรณีตัวเล็กชัด ๆ เป็นครั้งแรก


หัวใจเหมือนจะหยุดเต้นไปในพริบตานั้น


ภาพความทรงจำเก่า ๆ...ภาพใบหน้าของใครบางคนผุดขึ้นมาในหัว  ใครคนนั้น...ที่เขาไม่เคยลืมแม้ชั่วลมหายใจ  คนที่เขาทิ้งไว้ที่บ้านเกิด...

เด็กหนุ่มตรงหน้าวายะน่าจะยังอายุไม่ถึง 15 เสียด้วยซ้ำ  ร่างเล็ก ๆ นั้นยังเป็นแค่เด็กชายในสายตาของเขา  ใบหน้ารูปหัวใจหากมีแก้มนิดหน่อยทำให้ดูค่อนข้างกลม  ริมฝีปากอิ่มที่พ่นคำผรุสวาทไม่หยุดอยู่เมื่อครู่  ตอนนี้เม้มแน่นอย่างขัดเคือง  ดวงตากลมสีดำขลับจ้องเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ  ผมที่ดูนุ่มมือไว้ยาวปรกหน้าและซอยไล่เลี้ยงรากไทรด้านหลังยาวเลยบ่าเป็นสีเดียวกับดวงตา  เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายดูปราดเดียวก็รู้ว่าหลุดออกมาจากนิตยสารแฟชั่นสไตล์พังค์ทั้งกระบิ  ถ้าดูจากอายุและลักษณะท่าทางภายนอกแล้ว...เด็กนี่คงเป็นวายร้ายคนหนึ่งของโรงเรียนเลยทีเดียว

แม้จะบอกว่าเหมือนคนในความทรงจำจนน่าใจหาย  แต่บรรยากาศนั้นผิดกันโดยสิ้นเชิง  หากดวงตาสีดำคู่นั้นดูคุ้นเคย  แววตาดื้อดึงที่ไม่ยอมลงให้ใครนั้น  เหมือนกับคิริฮาระไม่มีผิด

...ไม่ใช่หรอก...วายะบอกกับตัวพลางสะบัดหน้าแรง ๆ เหมือนจะไล่ภาพนั้นให้พ้นไปจากสมอง  ก่อนจะจ้องเด็กหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง

“ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เด็ก ม. ต้นจะมาเพ่นพ่านในเวลาแบบนี้หรอกนะ  กลับบ้านไปซะ”

“พูดมาก!  ฉันไม่อยากให้ผู้ชายขายตัวอย่างนายมาสั่งสอนฉันหรอกนะ”  เด็กหนุ่มรู้ดีว่าผู้ชายที่ทำงานแถวนี้ส่วนมากก็โฮสต์ทั้งนั้น  แล้วโฮสต์จะทำหน้าที่แบบไหนล่ะ...ถึงจะเรียกให้ดูดีว่างานบริการแต่เอาเข้าจริงแล้วก็แค่อาชีพที่เอาร่างกายเข้าแลกกับเงินเหมือนพวกโสเภณีผู้หญิงนั่นแหละ

“อ้อ...งั้นเรอะ  ไม่อยากให้ฉันสอน...”  ร่างสูงพ่นควันบุหรี่ให้กระจายไปในอากาศ  “ก็รีบไสหัวไปเร็ว ๆ  แล้วไม่ต้องมาแถวนี้อีก  เพราะครั้งหน้า...นายอาจจะโดนสอนเรื่องอื่น...ที่ยิ่งกว่านี้”

น้ำเสียงเรียบ ๆ หากคำพูดกินนัยเกินกว่าสิ่งที่พูดไปมากนัก  และมันก็บาดหูเจ้าหนูสิ้นดี  เด็กหนุ่มกำหมัดทุบอั้กเข้าที่อกกว้างเต็มแรง  วายะสะดุ้งนิดหน่อย  แต่น้ำหนักหมัดของไอ้ตัวเล็กไม่ระคายผิวเขาเท่าไรนัก  เพียงแค่ยื่นมือไปยันหน้าผากเอาไว้เด็กหนุ่มก็ทำอะไรเขาไม่ได้แล้ว  ด้วยช่วงแขนที่ยาวต่างกันเกินไป

เจ้าหนูแผดเสียงด่าทอด้วยความโกรธเคือง  แต่ก็ยังทำอะไรชายหนุ่มไม่ได้  แถมฝ่ายนั้นยังหัวเราะเรื่อย ๆ อย่างกวนอารมณ์เสียอีก  ยิ่งทำให้ปรอทความโกรธในหัวมันพุ่งทะลุเกินขีดจำกัด

เด็กหนุ่มผละถอยออกมา  ใบหน้าแดงก่ำ  หายใจหอบด้วยทั้งเหนื่อยและโกรธ  และโดยที่ไม่มีใครคาดคิด  เขาถอดรองเท้าขว้างใส่วายะ

รองเท้ากึ่งบู้ทข้างนั้นลอยไปกระทบอกของวายะถนัดถนี่  ส่วนประดับของมันเกี่ยวดึงห่วงเงินเล็ก ๆ ที่ชายหนุ่มเจาะร้อยไว้ที่หัวนมหลุด  เลือดไหลซึมออกมาทันที

“เฮอะ!  น่าจะโดนหน้านะ”  หนุ่มน้อยทำเสียงเยาะหยันพร้อมกับยิ้มกว้างที่สามารถเอาคืนได้

แล้วรอยยิ้มนั้นก็เลือนหายไปอย่างฉับพลันเมื่อเห็นสายตาที่จ้องมองมา  วายะไม่ได้มองเขาเหมือนแมวซน ๆ ที่จ้องจะเล่นกับหนูอีกแล้ว  หากแววตาคู่นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยไฟโทสะที่โหมไหม้  จ้องมองเขาราวกับงูสะกดเหยื่อ...ใช่...เป็นแบบนั้น  เด็กหนุ่มสะท้านไปทั้งร่าง  รู้สึกได้ถึงเหงื่อเย็น ๆ ที่ไหลผ่านกลางหลังทั้งที่อากาศเกือบจะหนาวเสียด้วยซ้ำ  สองขาเหมือนถูกตรึงแน่นกับที่ไม่สามารถหนีไปไหนได้แม้จะเห็นว่าร่างสูงเดินเข้ามาใกล้

มือใหญ่สะบัดตบหน้าเด็กหนุ่มเต็มแรงจนถลาไปกระแทกกำแพง  ก่อนจะตามเข้าไปดึงร่างที่ทรุดกองอยู่กับพื้นให้ลุกขึ้นแล้วตบซ้ำอีกครั้ง

จะด่าทออะไรเขาก็ไม่ว่าหรอก  คนอย่างเขาถูกด่ามาเสียจนชาชินแล้ว  แต่การขว้างด้วยรองเท้านี่มันมากไป...มันแสดงความหยามหมิ่นกันเกินไป  แล้วยิ่งคนขว้างเป็นเด็กอายุเพียงเท่านี้  ถ้ายังปล่อยให้มันทำนิสัยเสีย ๆ แบบนี้เรื่อยไป  โตขึ้นไปมันจะเลวร้ายสักแค่ไหน

“แกมีอำนาจอะไร  ถึงจะมาดูถูกคนอื่นถึงขั้นนี้ได้?  แกมีดีอะไร  ถึงได้กล้าขว้างรองเท้าใส่ฉัน”  น้ำเสียงของวายะแข็งกร้าวเสียยิ่งกว่าตอนใช้กับลูกค้าที่ต้องการบทรุนแรงที่สุด  มือแข็งราวกับคีมเหล็กจับแขนเล็ก ๆ ไว้แน่นบังคับไม่ให้ทรุดลงไปกับพื้นอีก  “แกคงคิดว่าตัวเองแน่มากใช่มั้ย  ที่กล้ามาเดินแถวนี้ในเวลาแบบนี้  แน่มาก...ที่กล้าล้วงกระเป๋าคนที่ดูน่ากลัวอย่างโทคิโตะ  แกคิดว่าแกเจ๋ง  แกเก่ง...แต่ฉันจะสอนให้แกรู้  ว่าแกไม่ได้มีอะไรเลย  แกมันก็แค่เด็กที่หลงตัวเองที่ไม่มีน้ำยาอะไร  เป็นได้แค่สัตว์เลี้ยงในกรงของฉันเท่านั้น!”

ใช่...มีแค่หน้าตาเท่านั้นที่เหมือน  แต่นอกนั้นไม่ใช่เลย  และวายะไม่ชอบใจที่จะให้ใครสักคนทำเรื่องเลว ๆ ด้วยใบหน้าแบบนั้น  ใครคนนั้นของเขาไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้

“ไหนล่ะ?  มองฉันแบบเมื่อกี้อีกสิ  เมื่อกี้แกอยากจะฆ่าฉันไม่ใช่เหรอ  ตาของแกมันฟ้อง...มองฉันแบบนั้นอีกสิ”  วายะช้อนปลายคางของเด็กหนุ่มขึ้นบังคับให้มองหน้าเขา

แต่ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว  ร่างทั้งร่างสั่นน้อย ๆ อย่างหวาดผวา  ความเจ็บปวดที่ได้รับเมื่อครู่ทำให้สมองมึนชา...ไม่เคยมีใครลงไม้ลงมือกับเขาแบบนี้มาก่อน  แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่เคย  แต่ผู้ชายตรงหน้านี้ไม่ยั้งมือให้เขาเลย  ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเขาจะยังเด็กหรือตัวเล็กกว่าแค่ไหน  ผู้ชายคนนี้จะฆ่าเขาเมื่อไรก็ได้ถ้าต้องการ...เขาต้องตายแน่...ไม่เอานะ  เขายังไม่อยากตาย...

วายะเห็นหยาดน้ำตาแห่งความหวาดกลัวค่อย ๆ ไหลรินออกมาจากดวงตาของเด็กหนุ่ม  ทั้ง ๆ ที่เหมือนใครคนนั้นของเขาและคิริฮาระมากถึงขนาดนี้  แต่กลับไม่เหมือนเลยสักนิด...ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดอย่างหาสาเหตุไม่ได้  หงุดหงิดมากจนระงับอารมณ์ไม่ได้  กำปั้นลุ่น ๆ อัดเข้าที่ลิ้นปี่ของเด็กหนุ่มเคราะห์ร้ายเต็มแรง  เจ้าตัวเล็กสำลักอากาศเฮือกหนึ่งก่อนจะหมดสติวูบไป

โฮสต์หนุ่มช้อนร่างนั้นขึ้นพาดบ่า  บางที...การมีสัตว์เลี้ยงให้ฝึกสอนสักตัว  อาจจะทำให้เขาลืมความเบื่อและความหงุดหงิดที่คอยรังควานชีวิตอยู่ในตอนนี้ได้กระมัง...




(โปรดติดตามตอนต่อไปครับ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
« ตอบ #39 เมื่อ: 15-12-2011 21:48:07 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #40 เมื่อ15-12-2011 22:12:20 »

ไม่น่าเลยเด็กน้อยยยย
ถ้าไม่เขวี้ยงรองเท้าใส่เค้า อาจจะไม่เจ็บตัวก้ได้

ออฟไลน์ MM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #41 เมื่อ15-12-2011 22:39:58 »

 :z13:  :z13: อ่านแล้วอยากอ่านต่ออ่ะ ...

ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #42 เมื่อ15-12-2011 22:52:59 »

เอ่อ ที่โดนขังนั่น ไม่ใช่โดนลักพาตัว. แต่เป็นโดนวายะขังเหรอเนี่ย

แต่ยังไงก็.  :z2: ดีใจจังที่วายะมีเรื่องเป็นของตัวเอง แอบถูกใจตัวนี้ตั้งแต่เรื่องที่แล้วละ งวดนี้ออกมาอาละวาดเต็มที่เลยนะ

ขอเม้าส์เรื่องที่แล้วหน่อยนะ
เรื่องที่แล้ว ภาษา อารมณ์ พล็อตนี่. เราชอบมากๆเลย. เพราะว่า. เราหาเรื่องแนวนี้อ่านได้ยากมากๆ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า. เอ. เรื่องนี้เราเคยเห็นในงานนิยายนี่นา. ตอนนั้นไม่คิดว่าจะสนุกขนาดนี้เลยไม่ได้ซื้อ
ส่วนตอนนี้เราจะซื้อดีรึเปล่า เราก็ยังลังเล เพราะว่า เราไม่ชอบแนวที่ตัวเอกเรามีอะไรกับหลายๆคน แล้วเรื่องอาคนนั้น กับยูจังนี่ เอ่อ  o22เรา...รับไม่ได้อ่ะ
แต่ก็ยังลังเลอีกรอบ อืม แต่ ตัวเอกเจาะนะ ชอบไม่ใช่เหรอ มัดด้วยนะ. เอาไงๆ

สรุปว่าเราขอเวลาไปคิดๆดูก่อนดีกว่า จะหยิบมาอ่านก็กลัวๆ จะไม่เอาก็กลัวคิดถึงวันหลัง. ค่อยๆคิดไปดีกว่า :เฮ้อ:

ปล. คนเขียนออกมาคุยเล่นกันมั้งก็ดีนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2011 23:35:16 โดย jiki »

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #43 เมื่อ16-12-2011 00:33:13 »

หน้าเหมือนแล่้วใช่ไม๊อ่ะ
ไอย่ะ
รอคำเฉลย

ว่าแต่หนูโทโมะเนีี่ย
ไปกระตุกหนวดเสือเข้าจิงๆเลยเน้อ....
ฮิฮิ
อยากอ่านตอนต่อไป อยากเห็นวายะลงโทษเด็กน้อยยยย

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #44 เมื่อ16-12-2011 02:48:33 »

เราว่าเนื้อเรื่องเจ๋งตั้งแต่เรื่องที่แล้วแล้วนะ แต่อันนี้ฮาร์ดขึ้นมาอีกขั้น
แต่พอเห็นปกcome closerแล้ว....


เราอยากฉีกทิ้งแล้วทำใหม่ชะมัด

MadamLilac

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #45 เมื่อ16-12-2011 15:01:01 »

มาลงชื่อเพื่อบอกว่า "รวมเล่มอย่าลืมบอกกันนะจ๊ะ"

ออฟไลน์ Cc-kun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #46 เมื่อ16-12-2011 15:26:24 »

รักซาดิสแต้ๆ :-[

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #47 เมื่อ16-12-2011 17:01:26 »

เด็กน้อยเอ๋ย เจ้าจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ???????
รอตอนต่อไปฮะ  ^^

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #48 เมื่อ16-12-2011 19:11:06 »

ไปทำวายะเขาเองนี่... o18

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #49 เมื่อ16-12-2011 20:09:20 »

อ้างถึง
เราว่าเนื้อเรื่องเจ๋งตั้งแต่เรื่องที่แล้วแล้วนะ แต่อันนี้ฮาร์ดขึ้นมาอีกขั้น
แต่พอเห็นปกcome closerแล้ว....


เราอยากฉีกทิ้งแล้วทำใหม่ชะมัด

ฉีกทิ้งเลยเหรอครับ ผมวาดเองหมดเลยนะครับนั่น...(เสียใจ...)

ปล. คนเขียนออกมาคุยเล่นกันมั้งก็ดีนะคะ

คุยเรื่องอะไรดีล่ะครับ ผมไม่ค่อยถนัดน่ะครับ แต่ถ้าชวนผมคุยผมก็คุยนะครับ ลองชวนคุยมาสิครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2011 20:15:15 โดย KOKURO »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
« ตอบ #49 เมื่อ: 16-12-2011 20:09:20 »





ออฟไลน์ maple4120

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #50 เมื่อ16-12-2011 21:38:29 »

ชอบเรื่องแนวนี้จังเลยค่ะ!
ภาษาดี บรรยายดี เนื้อเรื่องก็ดี สนุกมากๆเลย ถูกใจสุดๆ  :-[
แต่ว่าแอบสมน้ำหน้าเด็กนั่นนิดหน่อยนะเนี่ย ซ่าเกิน โดนดัดนิสัยซะบ้างก็ดี
รอต่อนะคะ!

ปล. +เป็ดให้ค่า

KanomPhing

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #51 เมื่อ16-12-2011 22:55:58 »

มาต่อให้อยากแล้วจากไป

ค้างๆๆๆๆๆๆ

อ๊ายยย >.< วายะ

ออฟไลน์ tong_pub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-5
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #52 เมื่อ17-12-2011 01:24:56 »

เอาแล้วไง..ค้างตามๆกัน
อ่อยยยย
โทโมะโดนวายะขู่เพราะความเฟี้ยวของตัวเองตอนเด็กป่ะเนี่ย?
สมควรๆ 55555555


 o13 o13

nopnom

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #53 เมื่อ17-12-2011 21:29:33 »

ชอบมากๆๆๆ!!!อ่ะ o13

ออฟไลน์ tong_pub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-5
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #54 เมื่อ18-12-2011 00:47:47 »

พรึบ!
เข้ามาปูเสื่อนอนรอ
ไม่ได้กดดันนะ แค่อยากให้รู้ว่านอนรอ  :t3: :t3:

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #55 เมื่อ18-12-2011 22:26:45 »

พรึบ!
เข้ามาปูเสื่อนอนรอ
ไม่ได้กดดันนะ แค่อยากให้รู้ว่านอนรอ  :t3: :t3:

นอนรอไปก่อนนะครับ อาทิตย์หน้าเจอกัน

THE MIN

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #56 เมื่อ21-12-2011 02:19:37 »

อร๊าคคคคค   


อยากอ่านนนน

ไม่ไหวแล้วววว เอิ๊คคค

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #57 เมื่อ22-12-2011 20:32:00 »

All I want # 3

เพดานห้องที่กรุด้วยวัสดุประเภทไฟเบอร์พื้นผิวขรุขระคือภาพแรกที่ปรากฏสู่สายตาของร่างเล็กที่ปรอยปรือขึ้นอย่างมึนงง  เป็นเพดานห้องที่ไม่เคยเห็นมาก่อน  จะมีใครทำเพดานด้วยวัสดุแปลกประหลาดแบบนั้นนอกจากพวกห้องซ้อมดนตรีกันนะ...หรือว่าเขาจะเผลอหลับไปตอนมานั่งดูเพื่อนซ้อมดนตรีกัน

ดวงตากลมกวาดไล่ลงมาตามผนัง  ทั้งหมดกรุด้วยวัสดุแบบเดียวกับบนเพดานทั้งสิ้น...เขาคงจะหลับไปในห้องซ้อมจริง ๆ สินะ...คิดแล้วก็ค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้น  หากพื้นที่ข้างตัวกลับยุบยวบลงอย่างอ่อนนุ่มแทนที่จะเป็นพื้นปูพรมแข็ง ๆ ของห้องซ้อมดนตรีที่เขาคุ้นเคย

เด็กหนุ่มก้มลงดูแล้วพบตัวเองอยู่บนเตียงควีนไซส์ที่ปูด้วยผ้าปูที่นอนสีน้ำเงินเข้ม  นี่ไม่ใช่ห้องนอนของเขา  และไม่ใช่ของเพื่อนคนไหนที่เขาเคยไปค้างด้วยทั้งนั้น  ไม่มีเพื่อนคนไหนร่ำรวยขนาดมีเตียงควีนไซส์อยู่ในห้องนอนหรอก...แล้วที่นี่ที่ไหน!?

ร่างเล็กผุดลุกขึ้นนั่งแล้วเหลียวมองไปรอบ ๆ  ห้องนั้นไม่ใหญ่นัก  ทั้งห้องเป็นผนังทึบตันไม่มีหน้าต่าง  มีเพียงเครื่องปรับอากาศเครื่องหนึ่งติดตั้งอยู่เหนือเตียงนอนกับกระจกบานใหญ่บานหนึ่งเท่านั้น  ผนังทุกด้านรวมไปถึงเพดานกรุด้วยไฟเบอร์ซับเสียงทั้งหมด  สลัวรัวรางด้วยแสงจากเทียนหลายแท่งที่จุดไว้บนชั้นข้างประตู

...นี่มันเกิดอะไรขึ้น...เด็กหนุ่มยกมือขึ้นลูบหน้า  เขาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ในที่แบบนี้ได้...ใจเย็น ๆ  ค่อย ๆ คิดสิ...คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อพยายามทบทวนความทรงจำ

“อ้อ  รู้สึกตัวแล้วเรอะ?”  เสียงห้าวทุ้มของใครบางคนดังขึ้นพร้อมกับเสียงเปิดประตู

เด็กหนุ่มรีบเงยหน้าขึ้นมอง  ทันทีที่เห็นเจ้าของเสียงชัด  ความทรงจำก็หวนคืนมา

“...แก...!!”  ร่างเล็กลุกพรวดพราดขึ้น  แต่แล้วก็คู้ตัวลงไปอย่างเดิมเมื่อรู้สึกเจ็บเสียดขึ้นมาที่บริเวณหน้าท้อง  ส่งเสียงครางออกมาอย่างลืมตัว

“พ่อแม่แกสอนให้เรียกคนที่เพิ่งเจอหน้ากันว่าแกหรือไง  ไอ้หนู”  ร่างสูงใหญ่เจ้าของเรือนผมสีทองยาวประบ่าปิดประตูห้องแล้วยกมือขึ้นกอดอก  ทอดสายตามองคนบนเตียงอย่างไม่แสดงความรู้สึกอะไร

“...แกพาฉันมาที่นี่ทำไม?”  หนุ่มน้อยส่งเสียงลอดไรฟันออกมา  ดวงตาจับจ้องไปที่ใบหน้าคมเข้มเต็มไปด้วยความแค้นเคือง  เขานึกออกแล้วว่าผู้ชายตรงหน้านี้ทำอะไรไว้กับเขา

“ก็ดูท่าทางแกจะไม่ค่อยมีใครสั่งสอน  ฉันเลยคิดว่าจะสอนให้น่ะ”  ชายหนุ่มยืนพิงประตูพลางตอบอย่างเฉยเมย

“สอนบ้าอะไร!?  ผู้ชายขายตัวอย่างแกเนี่ยนะ”  ร่างเล็กแหวเอา  “คนอย่างแกสอนใครได้ด้วยหรือไง!?”

ขาดคำนั้น  โดยที่เด็กหนุ่มไม่ทันได้ตั้งตัว  ร่างสูงก้าวเข้ามาใกล้แล้วสะบัดมือตบฉาดเข้าให้เต็มหน้า  ใบหน้านั้นขึ้นปื้นแดงทันตาเห็น  หนุ่มน้อยยกมือขึ้นกุมแก้ม  ทั้งเจ็บทั้งตกใจ  หากแค่ชั่วพริบตาเดียวก็หันไปจ้องร่างสูงราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“ทำบ้าอะไรวะ  ไอ้ควายบ้า!!”

มือใหญ่ขยุ้มเรือนผมดำกระชากเข้ามาหาตัว  ไม่สนใจกับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด  “ไม่มีใครสอนหรือไงว่าเวลาพูดกับคนแปลกหน้าให้พูดจาดี ๆ น่ะ  หา”

“...คนแปลกหน้าสถุล ๆ อย่างแกน่ะนะ...”  เด็กหนุ่มพยายามแกะมือที่ขยุ้มผมของเขาออก  “ทำไมจะต้องพูดดีด้วยวะ”

“ถ้าแกไม่ทำตัวสถุลก่อน  ฉันก็ไม่สถุลกับแกอย่างนี้หรอก”  ชายหนุ่มแค่นยิ้ม  “แต่เอาเถอะ  ถ้าไม่อยากเป็นคนแปลกหน้า  อยากพูดจาสถุล ๆ กันแบบนี้ก็ได้  ฉันชื่อวายะ...วายะ  ชุน  จำใส่กระโหลกไว้  ไอ้เปี๊ยก”

“ไม่จำโว้ย!  ทำไมฉันจะต้องจำชื่อคนเฮงซวยอย่างแกให้รกสมองด้วย  ไอ้ควายบ้า...โอ๊ย!  ปล่อยนะ”  เด็กหนุ่มดิ้นรนพลางโวยวายเมื่อมือแข็ง ๆ ที่ขยุ้มผมเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเสียที

วายะลอบยิ้มกับตัวเอง...เด็กนี่มันปากร้าย  แถมท่าทางก็ร้ายไม่ใช่น้อย  เมื่อครู่เขาคงลงมือรุนแรงไปหน่อยถึงได้กลัวหงอเสียขนาดนั้น  แต่ถ้าแค่นี้ก็ดูท่าจะไม่เป็นอะไรนี่นะ...ก็ดี  ถ้ากลัวมากเกินไปก็สอนกันไม่ได้  มันต้องแบบนี้สิ  ถึงจะเป็นแบบที่เขาชอบ

“หึ...ไม่อยากจำก็ต้องจำ  เพราะสัตว์เลี้ยง...มันควรจะจำเจ้านายตัวเองได้”

“อะไรนะ...?”  เด็กหนุ่มไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

วายะไม่ตอบหากย้อนถาม  “แกชื่ออะไร?”

“ทำไมฉันต้องบอกแกด้วย”  ร่างเล็กแหวเอาอีก  “แล้ว...เมื่อกี้แกว่าอะไร  ใครเป็นสัตว์เลี้ยงของแก!?”

“แกไง...”  ตอบพร้อมกับเหยียดยิ้มที่มุมปาก

“ไอ้...ปล่อยนะ!  ไอ้ควายบ้า  ใครเป็นสัตว์เลี้ยงของแก  ไอ้...”  ยังไม่ทันพูดให้จบประโยค  ก็ถูกกระชากขึ้นมาใกล้...ใกล้เสียจนแทบจะได้ยินเสียงลมหายใจของอีกฝ่าย

“เพราะแกไม่มีคนสั่งสอน  ถึงได้นิสัยเสียแบบนี้...เพราะงั้น  ฉันจะเลี้ยงแกไว้สักพัก”  ประโยคถัดมาลดเสียงลงจนแทบจะไม่เกินกระซิบ  “หรือไม่ก็...เลี้ยงไว้จนกว่าจะตายกันไปข้าง”

“ไม่เอา!!!!”  เด็กหนุ่มตะโกนใส่หน้า  “ปล่อยฉัน!  ฉันจะกลับบ้าน!!”

“กลับบ้าน...?  อย่างแกเนี่ยนะ”

“แล้วไงวะ!?”

“คนที่เขามีบ้านให้กลับ  เขาไม่ไปเตร่อยู่แถวนั้นในเวลาอย่างนั้นหรอก”  วายะพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย  “อย่างแก...ถ้าไม่ใช่ไม่มีบ้านให้กลับ  ก็คงไม่มีใครรอให้แกกลับบ้านมากกว่า  จริงมั้ย?”

คำพูดเรียบ ๆ กับสีหน้าไม่แสดงอารมณ์นั้นเสียดลึกเข้าไปในหัวใจของเด็กหนุ่ม  ไอ้บ้านี่มันจะมารู้อะไร...มันเป็นใคร...จะมาเข้าใจอะไรเขา...ไอ้คนพรรค์นี้น่ะ...

ร่างเล็กอาละวาดดิ้นรนสุดชีวิต  ทั้งเตะถีบพัลวันจนวายะต้องปล่อยมือ  ทันทีที่เป็นอิสระ  เด็กหนุ่มก็ถลาลงจากเตียงพุ่งไปที่ประตู  แต่นั่นไม่ไวไปกว่าเจ้าของห้องที่เตรียมรอไว้อยู่แล้ว  วายะคว้ารวบเอวเล็ก ๆ ดึงกลับมาหาตัวได้ทันก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะคว้าลูกบิดประตูได้  คนตัวเล็กกว่าหันมากระหน่ำกำปั้นเข้าใส่ไม่นับ...แต่นั่นก็แค่อาการของเด็กที่อาละวาดด้วยความโมโห  ซึ่งแทบจะไม่มีผลอะไรกับร่างสูงเลย  เด็กคนนี้ไม่ได้มีทักษะด้านการต่อสู้อะไรเลยด้วยซ้ำ  วายะบอกกับตัวเอง...เด็กนี่อาจจะเป็นวายร้ายของโรงเรียนก็จริง  แต่คงไม่ใช่พวกหาเรื่องต่อยตีกับใครเป็นแน่...ไม่เหมือนเขา...

วายะเพียงแค่คว้าข้อมือของเด็กหนุ่มไว้แล้วจับบิดเบา ๆ  เจ้าตัวเล็กก็ร้องเสียงหลง  หากชายหนุ่มไม่หยุดแค่นั้น  เขาจับแขนเล็กนั่นบิดมาไขว้ไว้ข้างหลังแล้วจับล็อกไว้แน่น

“เจ็บ!!”  หนุ่มน้อยร้อง  แต่ยิ่งพยายามจะดึงแขนให้หลุดจากการจับยึดก็ยิ่งเจ็บจนทนไม่ได้  สุดท้ายก็ต้องหยุดดิ้นไปเอง

“ถ้าแกไม่ดิ้นก็ไม่เจ็บ”  วายะพูดทั้งที่อีกฝ่ายหยุดดิ้นไปแล้ว

“เจ็บ...ปล่อย!  ไอ้ควายบ้า!  ไอ้หมีตกมัน!”

ดูเหมือนว่าความเจ็บปวดจะหยุดปากที่เอาแต่พ่นคำผรุสวาทนั่นไม่ได้  วายะส่ายหน้าอย่างระอาใจ

“ฉันไม่ใช่สัตว์  และห้องฉันก็ไม่ใช่สวนสัตว์นะโว้ย  เลิกว่าฉันเป็นไอ้นั่นไอ้นี่เสียที”

“ไอ้ผู้ชายขายตัว!!”

“เอา...เอาเข้าไป  ไอ้เด็กบ้านี่...”  ร่างสูงเกือบจะหัวเราะออกมาเสียด้วยซ้ำ  “ฉันชื่อวายะ  ชุน  บอกไปแล้วไง”

“ฉันไม่ได้อยากรู้  ปล่อยฉันนะ  ไอ้ควายบ้านี่!!”

แมวดื้อมันน่าเลี้ยง  น่ากำราบ...แต่แมวที่ร้องมากเกินไปมันก็น่ารำคาญ

วายะเอื้อมมือไปจับใบหน้ามนให้หันมาหาแล้วบดริมฝีปากลงไปอย่างดุดัน  ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก  พอตั้งสติได้ก็พยายามจะดิ้น  แต่มือแกร่งยึดเขาไว้ไม่ยอมปล่อย  หากริมฝีปากร้อนเพียงแต่บดคลึงอยู่ภายนอกเท่านั้นไม่ได้คิดจะล่วงล้ำเข้ามา  และเพียงไม่นานนักก็ถอนออก

ทว่าก่อนที่เด็กหนุ่มจะได้โวยวายอะไร  มือที่จับใบหน้าของเขาไว้เมื่อครู่ก็ค่อย ๆ เลื่อนลงสู่ลำคอและแผ่นอกของเขา  หนุ่มน้อยรีบคว้ามือนั้นไว้แน่น

“จะทำอะไรน่ะ!?”

“ตรวจร่างกายแกไง”

“จะบ้าเรอะ!  ตรวจบ้าอะไร  ปล่อยฉัน!”

“จะสำรวจร่างกายสัตว์เลี้ยงที่เพิ่งเก็บมาได้  มันผิดตรงไหน”  พูดพลางก็เลื่อนมือต่ำลงไปอย่างไม่สนใจอีกมือที่พยายามจะห้าม

“ฉันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของแกนะ!”

“ถ้าฉันบอกให้เป็น...แกก็ต้องเป็น”  มือใหญ่เลิกชายเสื้อยืดของเด็กหนุ่มขึ้นแล้วมุ่งไปสู่ผิวเปลือยเปล่าที่อยู่ข้างใต้นั้น

“ไม่!!  หยุดนะ...บอกให้หยุด!”  เจ้าตัวเล็กทั้งร้องทั้งดิ้น  แต่ทำอะไรไม่ได้ถนัดนัก  ด้วยยิ่งดิ้น  แขนที่ถูกยึดไว้แน่นก็ยิ่งเจ็บ  ได้แต่ทุบตีและจิกข่วนมือที่รุกล้ำเข้าไปใต้เสื้อของเขา

หากวายะไม่สนใจ  ไอ้แบบที่หนุ่มน้อยทำอยู่นี่  เขาโดนมาเสียจนชินชาแล้ว  แผลที่เกิดจากเล็บเล็ก ๆ นั่นไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาหรอก  แถมการกระทำที่ไร้ประโยชน์แบบนั้นยังจะกระตุ้นอารมณ์ของเขาเสียด้วยซ้ำ  ปลายนิ้วกร้านสะกิดยอดอกเล็กเบา ๆ  แต่ทำให้ร่างที่ถูกเขายึดเอาไว้ผวาขึ้นทั้งตัว  ปฏิกิริยาน่ารักแบบนั้นทำให้เขาอดจะแกล้งไม่ได้  ชายหนุ่มใช้สองนิ้วบีบคลึงมันเบา ๆ...ได้ผล  ร่างเล็กหวีดหวานออกมาทันที  มือที่จิกทึ้งมือของเขารีบปล่อยไปตะปบปากตัวเองทันทีที่ได้ยินเสียงอันเกิดจากการลืมตัวนั้น

“ไอ้ตัวเล็ก...แกชื่ออะไร?”  วายะถามคำถามที่ถูกลืมไปแล้วซ้ำ

“...ไม่...ปล่อยนะ”  แม้จะยังขัดขืนอย่างดื้อดึง  แต่เสียงนั้นก็สั่นอย่างห้ามไม่ได้

“จะบอกฉันเอง  หรือให้ฉันตั้งชื่อให้ใหม่?”  พูดพลางก็ใช้นิ้วบีบและดึงตุ่มไตเล็ก ๆ ในมือเบา ๆ

หนุ่มน้อยหวีดเสียงแล้วก็รีบกัดปากตัวเองแน่น  แล้วพยายามใช้มือที่ยังเป็นอิสระอยู่ดึงมือที่คุกคามเรือนร่างของตนออก  แต่มือนั่นเพียงแค่เคลื่อนตัวย้ายมาหยอกล้อกับยอดอกอีกข้างของเขาเท่านั้น

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #58 เมื่อ22-12-2011 20:35:28 »

“อึ๊...อย่า...อย่านะ...”

“บอกชื่อแกมา  ไอ้ตัวเล็ก”  เสียงทุ้มต่ำกระซิบที่ข้างหู

“ไม่...ทำไม...ฉันต้องบอกแกด้วย...”  ทั้งที่หวามไหวด้วยความรู้สึกอันไม่อาจบอกได้แต่เด็กหนุ่มยังปากแข็ง

“หึ...”  วายะหัวเราะเบา ๆ  “งั้นฉันจะทำจนกว่าแกจะยอมบอกก็แล้วกัน”

ริมฝีปากร้อนขบเม้มเบา ๆ ที่ใบหู  ร่างเล็กสะดุ้งขึ้นทั้งตัว  หากพอแอ่นอกขึ้นก็ถูกนิ้วกร้านดุนดันและเคล้นคลึงจุดไวสัมผัสเล่นราวกับจะกลั่นแกล้ง  ได้แต่ทิ้งกายเบียดกับอกกว้างอย่างไม่มีทางหนี  เรียวปากและลิ้นร้อนที่และเล็มอยู่ที่ใบหูทำให้ร่างทั้งร่างสะท้านสั่น  เสียงลมหายใจที่ดังอยู่ใกล้ ๆ ทำให้ร้อนวูบวาบไปหมดทั้งตัว  ฝ่ามือและปลายนิ้วค่อย ๆ เลื่อนต่ำลงไปยังหน้าท้องเมื่อหยอกเย้าจนยอดอกเล็ก ๆ นั้นแข็งเป็นไตแล้ว  จนเมื่อมันไต่ไปจนถึงขอบกางเกงและทำท่าจะปลดเข็มขัดออก  เด็กหนุ่มก็รีบคว้ามือนั้นไว้

“ยะ...อย่า...”

“อืม...ยังไม่ถอดก็ได้”  เสียงกระซิบที่ข้างหูฟังดูแหบต่ำ  เรียวลิ้นตวัดต่างหูที่เจาะร้อยไว้ดึงเข้าปากก่อนจะค่อย ๆ เล็มดุนติ่งหูนิ่มเบา ๆ

วายะผละมือจากขอบกางเกงของหนุ่มน้อยหากเลื่อนต่ำไปเคล้นคลึงส่วนกลางกายผ่านเนื้อผ้าหนาเบา ๆ  ร่างในอ้อมแขนผวาเยือกและเกร็งสะท้าน  มืออันชำนาญเชิงกามรู้ดีว่าร่างที่สัมผัสอยู่เริ่มมีปฏิกิริยาบ้างแล้วจากสัมผัสกระตุ้นเร้าที่แกล้งกระทำมาตลอดตั้งแต่เมื่อครู่  เด็กอายุเท่านี้จะมีความรู้ประสบการณ์ด้านนี้สักเท่าไรกันเชียว  แค่การเล้าโลมพื้น ๆ ก็สามารถขยี้สำนึกให้กระจัดกระจายไปถึงไหนต่อไหนได้แล้ว  เด็กหนุ่มคู้กายลงด้วยเสียดเสียวตรงจุดที่ถูกสัมผัส  หุบขาเบียดเข้าหากันอย่างพยายามปิดป้อง  หากก็ไม่สามารถกั้นนิ้วที่เคลื่อนไหวราวกับสิ่งมีชีวิตที่รู้ว่าควรจะรุกรานเข้าไปตรงไหนถึงจะสามารถจู่โจมจุดอ่อนไหวนั้นได้  วายะรู้สึกได้ว่าสะโพกที่พยายามกระถดหนีจนมาบดเบียดอยู่กับร่างของเขาเกร็งจนสั่น  ชายหนุ่มจึงถอนมือออกจากจุดอ่อนไหวด้านหน้ามานวดคลึงก้อนเนื้อแน่นนั้นหนัก ๆ

“อ๊ะ...หยุดนะ!”  พอพยายามหนีออกห่าง  แขนที่ถูกล็อกไว้จนแทบหมดความรู้สึกก็เจ็บแปลบขึ้นมาอีก

สุดท้ายมือใหญ่ก็เลื่อนไปปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงของเด็กหนุ่มออกจนได้  และไม่ว่าจะพยายามปิดป้องอย่างไรซิปก็ยังถูกรูดลง  วายะดึงกางเกงของคนในอ้อมแขนร่นลงไปไว้ที่สะโพก  พอบั้นท้ายส่วนที่เปลือยเปล่ารู้สึกได้ว่าสัมผัสกับกางเกงยีนส์เนื้อหนาของชายหนุ่มก็รีบผละออก  แต่ก็ไปเจอกับอุ้งมือที่ดักรออยู่แล้ว

ในสภาพที่ไม่มีทางหนี  ร่างเล็กถูกมือใหญ่หยาบสอดล้วงเข้าไปในกางเกงชั้นใน  เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากแน่น  อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีเมื่อมือนั้นควักเอาร่างอันไวสัมผัสของเขาออกมา...แน่ละ  ไม่เคยมีใครสัมผัสเขาแบบนี้  แม้จะเคยเรียนรู้เรื่องพวกนี้ตามประสาเด็กผู้ชายที่กำลังจะเป็นวัยรุ่นมาจากหนังสือหรือวิดีโออะไรก็เถอะ  แต่ประสบการณ์ทางเพศของเขาก็เหมือนกับคนวัยเดียวกันทั่วไปที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเป็นผู้ดู  และไม่เคยถูกใครสัมผัสนอกจากมือของตัวเองเท่านั้น...ทว่า  ในตอนนี้  มือของผู้ชายที่บอกว่าตัวเองชื่อวายะกำลังกอบกุมร่างของเขาเอาไว้  ซ้ำยังเคล้นคลึงกระตุ้นเร้าเสียจนแทบทนไม่ได้

“ไม่...ไม่เอา...ปล่อย...”  หนุ่มน้อยร้อนผ่าวไปทั้งหน้า  เขาหลับตาแน่น  ไม่อยากจะรับรู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในสภาพน่าอับอายแค่ไหน

“หึ...ไม่ต้องอายหรอก  มันเรื่องธรรมชาติน่ะ”

คำพูดนั้นไม่ได้ทำให้เด็กหนุ่มอายน้อยลงเลย  ยิ่งมือนั้นกำรวบร่างของเขาแล้วขยับรูดเบา ๆ เขาก็ยิ่งอับอายมากขึ้นเท่านั้น...ด้วยรู้ว่าจุดอ่อนไหวของตนตอบสนองสัมผัสนั้นมากเพียงใด  ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ อย่างพึงใจที่ข้างหู  ก็ยิ่งอยากจะหายตัวไปเสียตรงนั้นเลย

วายะคลึงร่างที่ตื่นตัวขึ้นในอุ้งมือของตนอย่างจะหยอกล้อ  เขาใช้เทคนิคอันชำนาญเชิงรุกไล่และหยอกเอินกับร่างนั้นจนแข็งขึงและส่วนปลายยอดเป็นสีแดงก่ำ  เขาไม่แปลกใจหรอกถ้าเด็กหนุ่มคนนี้จะเคยผ่านการช่วยตัวเองมาบ้างแล้ว  เด็กรุ่น ๆ นี้บางคนก็โตเร็วกว่าวัย  บางคนก็เรียนรู้เรื่องพวกนี้เร็วกว่าคนอื่น  ยิ่งเด็กลักษณะแบบนี้ยิ่งไม่ต้องสงสัย  เพราะตัวเขาเองก็เคยเป็นแบบนั้นมาเหมือนกัน...เติบโตขึ้นมาก่อนใคร  และเรียนรู้เรื่องรักและเซ็กส์มาก่อนหน้าคนอื่น...

ร่างเล็กสั่นสะท้านไปกับการกระทำที่ทั้งปรนเปรอและกลั่นแกล้งของมือหยาบใหญ่นั้น  มือที่เคยพยายามจิกทึ้งให้ร่างสูงปล่อยกลับเปลี่ยนเป็นเกาะยึดไม่ให้ทรุดลงกับพื้น  สองขาไม่ได้พยายามป้องกันตัวเองอีกต่อไป  เพียงแค่วายะเตะข้อเท้าของเขาเบา ๆ  เขาก็แยกขาออกตามคำสั่งด้วยร่างกายนั้นอย่างว่าง่าย  คู้ตัวงอพลางหอบสะท้านกับความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่าราวกับมันจะไม่สิ้นสุด  แน่นในอกราวกับจะขาดใจด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน  การใช้มือของวายะกระตุ้นเขาได้ยาวนานกว่าที่เคยทำให้ตัวเอง  ทุกครั้งที่เขาใกล้จะถึงขีดจำกัด  มือนั้นก็จะค่อย ๆ ผ่อนปรนหรือไม่ก็บีบรัดไว้ไม่ให้เขาไปถึงจุดที่ต้องการได้  หยาดน้ำเหนียวใสหลั่งเยิ้มชุ่มมือใหญ่จนหยาดย้อยลงบนพื้น

“พะ...พอ...พอที...ไม่ไหว...”  เสียงร้องขอสั่นสะท้านและขาดห้วง  ไม่มีความดื้อดึงจองหองอีกต่อไป

วายะยิ้มกับตัวเอง  ที่จริงเขาเพิ่งจะเริ่มเกมได้สิบกว่านาทีเท่านั้นเอง  แต่สำหรับเด็กตัวแค่นี้ก็ถือว่านานทีเดียวสำหรับสิ่งที่เขาทำให้  เขาจับเด็กหนุ่มให้ไปยืนข้างเตียง  ใช้ขาทั้งสองของตัวเองสอดเข้าไปตรึงแยกขาของคนที่จับยึดไว้  ดึงร่างนั้นให้แอ่นกายขึ้น  ก่อนจะขบเบา ๆ ที่ใบหูอีกครั้ง

“เอาละ  ทีนี้บอกมาซิ  ว่าแกชื่ออะไร”

“ฮึก...โทโม...กิ...ซานาดะ...โทโมกิ...”  เสียงสั่นกระเส่าครางตอบแผ่วหวิว

“โทโมกิงั้นเรอะ...”  ทวนคำพลางขยับมือกำรูดร่างบอบบางของเด็กหนุ่มหนัก ๆ หากยังใช้ปลายนิ้วอุดส่วนปลายยอดไว้แน่น

“ฮะ...อ๊า...ใช่...โทโมกิ...”  หนุ่มน้อยครางตอบ  ซ่านเสียวจนแทบยืนไม่อยู่

“ก็แค่นั้น”

ขาดคำ  วายะก็ปล่อยนิ้วที่ปิดกั้นร่างของโทโมกิออก  กระชากรูดร่างนั้นหนัก ๆ  และส่งเด็กหนุ่มถึงสวรรค์ในไม่กี่อึดใจ  หยาดน้ำรักสีขาวขุ่นพวยพุ่งออกมาอย่างเต็มกลั้น  เปรอะเลอะผ้าปูที่นอนสีเข้มเห็นชัดไปจนถึงกลางเตียง  ร่างเล็กเกร็งสะท้านพลางส่งเสียงหวีดหวาน  กระตุกกายตามมือของชายหนุ่มเป็นจังหวะจนไม่เหลืออะไรจะหลั่งริน  สุดท้ายก็ถูกผลักให้ทบท่าวลงกับคราบไคลของตน  แขนที่ถูกจับล็อกไว้ชาดิก  หอบสะท้านเหมือนจะขาดใจ  ไร้เรี่ยวแรงจะขยับตัว

แต่แล้วก็ถูกพลิกให้นอนหงาย  ดวงตาสีดำปรอยปรือเมื่อร่างสูงค่อย ๆ คร่อมทับลงเหนือร่างของเขา

“...อะ...อะไร...”  กระซิบถามเสียงแผ่ว  รู้สึกหวาดหวั่นในตัวคนตรงหน้าไม่น้อย

“ไม่มีอะไร  ก็แค่...ฉันยังไม่ได้ทำเลยสักยก”

น้ำเสียงเหมือนพูดเรื่องลมฟ้าอากาศ  แต่เนื้อหาของคำพูดนั้นไม่ใช่  โทโมกิพยายามกระถดหนี  แต่สภาพตัวเองในตอนนี้จะหนีไปไหนได้  ทั้งเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยและร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรง  เด็กหนุ่มรู้ดีว่าตนไม่มีทางต่อกรกับผู้ชายคนนี้ได้เลย  กระนั้นสัญชาตญาณระแวงภัยก็กระตุ้นเตือนให้เขาป้องกันตัว  สองมือยกขึ้นผลักไสร่างสูง

“ปล่อย...ฉันจะกลับบ้าน”

“พูดแบบนี้อีกแล้วเรอะ...แน่ใจเหรอว่าแกอยากกลับน่ะ”

“มันเรื่องของฉัน  ปล่อยฉัน”  ทั้งที่น้ำเสียงกระชากเหมือนจะเอาเรื่อง  แต่โทโมกิกลับไม่กล้าสบตาวายะ

“ไม่”  คำตอบสั้นห้วน  “ฉันบอกแล้วไงว่าฉันยังไม่ได้ทำเลยสักยก  ในขณะที่แกเรียบร้อยไปแล้ว”

“ฉันไม่ได้บอกให้แกทำนี่โว้ย!”  กำปั้นเล็ก ๆ หวดใส่ด้วยความฉุนเฉียวจนลืมตัว  หากวายะคว้าไว้ได้

ชายหนุ่มเหยียดยิ้มที่มุมปาก  “ยังมีแรงเหลืออีกเยอะนี่  จะทำอีกสักยกสองยกคงไม่เป็นไรมั้ง”

ว่าแล้วก็กดมือที่ยึดไว้ลงกับที่นอน  เอื้อมมือไปปลดกระดุมและซิปกางเกงตัวเองออก  โทโมกิดิ้นอย่างไม่ยินยอม  พยายามดึงมือที่ถูกกดไว้ออกจากอุ้งมือใหญ่แต่ไม่สำเร็จ  มืออีกข้างที่ยังเป็นอิสระอยู่จึงกระหน่ำทุบตีเต็มแรงเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้  ปากก็ส่งเสียงผรุสวาทด่าทอไม่ขาด  แต่นอกจากวายะจะไม่สะดุ้งสะเทือนอะไรแล้วยังจับมือนั้นกดตรึงไว้เสียด้วยกัน  แถมยังยักคิ้วให้เหมือนจะล้อเลียน

“ไม่ต้องร้อนรนไป  เดี๋ยวจะสอนให้หมดทุกอย่างเลย”

โทโมกิหน้าแดงซ่าน  ไอ้ทุกอย่างที่ชายหนุ่มพูดมานั่นมันกินความไปถึงไหนกัน...แต่...ไม่ใช่เวลาจะมาคิดอะไรแบบนั้นนะ  ไม่ว่าอย่างไหนเขาก็ไม่เอาทั้งนั้นแหละ

“ปล่อย!  ไอ้ควายบ้า!!  ไอ้วิตถาร!!”

“เรียกได้ดี...ไหน ๆ ก็รู้อยู่แล้วว่าฉันเป็นคนยังไง  งั้นก็ลองดูเสียหน่อยแล้วกันนะ”

หลังรอยยิ้มที่เหมือนจะแสยะ  ชายหนุ่มทาบท่อนล่างลงกับร่างกึ่งเปลือยของเด็กหนุ่ม  ครั้งแรกโทโมกิดิ้น  แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อรู้สึกได้ว่าท่อนล่างของตนกำลังสัมผัสอยู่กับอะไร

ร่างของวายะที่สัมผัสได้นั้นไม่เล็กเลย  ทั้งที่ยังไม่ตื่นตัวเต็มที่ก็ขนาดนี้แล้ว  หากอยู่ในช่วงเวลาที่แข็งขืนถึงขีดสุดจะมีขนาดเท่าไรก็ไม่รู้  เกินกว่ามาตรฐานชายญี่ปุ่นจริง ๆ...พอรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่  โทโมกิก็หน้าแดงซ่าน...นี่ไม่ใช่เวลาจะมาชื่นชมอะไรแบบนี้ไม่ใช่หรือ  เด็กหนุ่มขยับตัวดิ้นรนอีกครั้ง  หากร่างนั้นกลับกดเบียดลงมาแนบแน่นมากขึ้น  ซ้ำบั้นเอวแกร่งยังขยับเสียดสีสิ่งนั้นกับร่างของเขาที่เพิ่งจะปลดเปลื้องอารมณ์ไปเมื่อครู่เบา ๆ

“อย่า!  จะทำอะไรน่ะ?”  โทโมกิร้อง  รู้สึกขยะแขยงจนขนลุกเกรียว

“ก็แค่ทำให้ของแกมันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง  วิธีกระตุ้นน่ะมีหลายอย่างนะ  โทโมกิ”  วายะพูดพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า  ขยับเอวบดเบียดร่างนั้นไม่หยุดหย่อน

“ไม่...ไม่เอา”  มันจะเป็นไปได้ยังไง  ในเมื่อเขาเพิ่งจะถึงจุดสุดยอดไปเมื่อกี้นี้เอง  จะปลุกให้มันตื่นตัวขึ้นอีกครั้งน่ะเป็นไปไม่ได้แน่

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: All I want # 3 (NC17) อัพเพิ่ม 15/12/54 หน้า 2
«ตอบ #59 เมื่อ22-12-2011 20:41:47 »

โทโมกิทั้งร้องทั้งดิ้นรน  หากวายะยังขยับกายอย่างต่อเนื่อง  และยิ่งโทโมกิดิ้นมากเท่าไร  ร่างของทั้งสองก็บดเบียดเสียดสีกันมากขึ้นเท่านั้น  พลันความรู้สึกแปลกประหลาดก็วาบขึ้นมาจากจุดที่สัมผัสกันอยู่  เป็นความร้อนวาบราวกับถูกจี้ด้วยบุหรี่  จุดความร้อนนั้นแผ่ลามอย่างรวดเร็วไปทั้งร่างอันบอบบางของโทโมกิ  เด็กหนุ่มรู้สึกได้ว่าร่างกายของตนกำลังเกิดปฏิกิริยาขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้  กล้ามเนื้อตรงท้องน้อยกระตุกรับอาการเกร็งของจุดที่ต่ำกว่า  ร้อนวูบวาบราวกับมีกระแสลาวาไหลอยู่ในเส้นเลือดบริเวณนั้น  เอวบางเผลอเดาะขึ้นรับสัมผัสอย่างลืมตัว

“อึ๊...อา...”  เสียงครางสั่นเครือลอดริมฝีปากอิ่มออกมา  ก่อนที่เจ้าตัวจะระงับไว้ทัน

“เป็นไง  วิธีวิตถารแบบนี้ก็ดีใช่มั้ยล่ะ?”

คำถามของร่างสูงทำเอาเด็กหนุ่มร้อนไปทั้งหน้าราวกับถูกตบ  เขาสะบัดหน้าหนีจากการถูกจ้องมอง  กัดริมฝีปากแน่นจนแทบจะห้อเลือด  นึกรังเกียจร่างกายตัวเองที่ทรยศต่อจิตใจ

“อย่าฝืนไปเลย  โทโมกิ  ปล่อยตัวตามสบาย  แล้วฉันจะทำให้แกรู้สึกดีกว่าที่แกเคยรู้สึกมาทั้งชีวิตเลย”

เสียงห้าวทุ้มกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูตามมาด้วยลิ้นร้อนที่ไล้เลียแผ่วเบาทำเอาสติของหนุ่มน้อยกระเจิดกระเจิง  ยิ่งลิ้นนั้นค่อย ๆ เคลื่อนต่ำลากผ่านซอกคอขาวลงไปยังเรือนร่างของเขา  โทโมกิก็เกร็งสะท้าน  ปิดตาแน่นอย่างไม่ต้องการรับรู้อีกต่อไปว่าผู้ชายตรงหน้ากำลังจะทำอะไรกับเขา...ทว่า  ยิ่งหลับตา  ประสาทสัมผัสทางกายก็ยิ่งขัดเจน  ยอดอกที่ถูกครอบครองด้วยริมฝีปากและปลายลิ้นที่ขบเม้มอย่างหยอกเย้าผ่านเนื้อผ้าของเสื้อยืดตัวหนาร้อนวาบและกระตุกแข็งเป็นตุ่มไตจนปวดหนึบไปหมด  รู้สึกได้ว่าท่อนล่างที่ถูกชายหนุ่มบดคลึงและถูไถอยู่นั้นเริ่มสั่นไหวรับกับจังหวะที่อีกฝ่ายปรนเปรอให้  แล้วก็ค่อย ๆ รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งที่ทาบทับ  มันแข็งขืนยิ่งกว่าครั้งแรกที่สัมผัส  และความรู้สึกกดทับนั้นดูจะหนักแน่นและใหญ่โตจนน่าหวั่นใจ  หากโทโมกิก็รู้อีกว่าตนกำลังขยับเอวรับทุกสัมผัสที่วายะมอบให้  ท้องน้อยรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่ไม่รู้ว่าออกมาจากร่างของตนหรือของอีกฝ่าย  ได้ยินกระทั่งลมหายใจหอบฮักและหัวใจที่เต้นระรัวอยู่ในอก

วายะก้มลงมองร่างที่ตนกำลังทาบทับอยู่แล้วก็ยิ้มกับตัวเองอย่างพึงพอใจ  ทั้งที่ปฏิเสธอยู่จนถึงเมื่อครู่  แต่ตอนนี้โทโมกิกลับเคลื่อนไหวตามทุกจังหวะของเขา  ดวงหน้าภายใต้เรือนผมที่ปรกระลงมาบางส่วนแดงระเรื่อ  ดวงตาที่ปิดแน่นเปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำที่จับอยู่บนแพขนตาหนา  ริมฝีปากอิ่มก็แดงช้ำจากการพยายามจะกลั้นเสียงร้องอันเกิดจากสัญชาตญาณของร่างกาย...ทั้งน่าเอ็นดูและน่ารังแกไปพร้อม ๆ กัน

ชายหนุ่มปล่อยมือที่กดตรึงไว้กับเตียงออกแล้วขยับลุกจากการทาบทับ  ดวงตาดำขลับปรอยปรือมองเขาอย่างไม่เข้าใจ  หากวายะไม่อธิบาย  ในตอนนี้เขาตื่นพร้อมแล้วที่จะประกอบกิจต่อไปแล้ว...แต่โทโมกิยัง...เขาประคองเอวบางขึ้นจากเตียงแล้วดึงกางเกงของเด็กหนุ่มจนหลุดออกทางปลายเท้าพร้อมกับกางเกงชั้นใน  เมื่อท่อนล่างเปลือยเปล่า  โทโมกิก็สะท้านสั่นด้วยผิวกายสัมผัสกับความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศโดยตรง  ในสมองพร่ามัวราวกับมีหมอกบาง ๆ มาครอบคลุมไว้  เขาไม่ได้คิดจะหนีด้วยซ้ำเมื่อวายะผละไปหยิบอะไรบางอย่างที่ชั้นวางของข้างประตู  จนเมื่ออะไรบางอย่างที่ลื่นและเย็นสัมผัสเข้าที่บั้นท้ายตรงร่องลับที่ไม่เคยมีใครสัมผัสมาก่อนจึงได้สะดุ้งขึ้นทั้งตัว

“อะ...อะไร!?”  เด็กหนุ่มรีบถามด้วยอาการเกือบจะสำลัก  แล้วก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าตนถูกวายะจับขาข้างหนึ่งยกขึ้นวางพาดไว้บนไหล่หนา  ส่วนอีกข้างพาดอยู่บนตักที่สวมกางเกงยีนส์ซึ่งถูกรูดซิปลงจนเผยให้เห็นร่างแห่งความเป็นชายอย่างไม่อายสายตาใคร  และตัวชายหนุ่มกำลังทำอะไรง่วนอยู่กับท่อนล่างของเขา

“เควาย...เจลหล่อลื่นน่ะ  รู้จักมั้ย?”  ตอบพลางก็ยกหลอดยาหน้าตาเหมือนหลอดยาสีฟันให้ดู  ก่อนจะบีบตัวยาสีขุ่นลงบนนิ้วแล้วละเลงลงไปที่จุดเร้นลับของโทโมกิ

“อึ๊!  ไม่...จะทำอะไรน่ะ  อย่านะ!!”  เด็กหนุ่มเริ่มโวยวายอีกครั้ง  แต่ในท่วงท่านี้เขาไม่สามารถดิ้นรนได้ถนัดนัก

วายะเพียงแต่จับเอวบางกดไว้กับเตียงแล้วใช้นิ้วกร้านลูบไล้ป้ายทาสารหล่อลื่นไปจนทั่วร่องลับนั้นจนชุ่มโชก  ช่องทางสู่สวรรค์เป็นสีเข้มและยังหุบปิดแน่นเหมือนดอกตูม  สีของกลีบดอกยังใสอย่างไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน  ชายหนุ่มกดนิ้วลื่น ๆ ของตนเข้าที่ปากทางนั้นแล้วก็รู้สึกได้ถึงแรงต่อต้าน  ไม่เพียงแต่จุดนั้นเท่านั้น  โทโมกิเกร็งไปหมดทั้งร่างทีเดียว  แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...ด้วยเจลจำนวนมากที่เขาละเลงไว้จะทำให้โทโมกิต่อต้านเขาได้ไม่นานหรอก  ปลายนิ้วหยาบตามแบบผู้ชายค่อย ๆ นวดคลึงส่วนนั้นช้า ๆ  สะกิดเขี่ยและบดบี้  พยายามคลี่กลีบดอกที่ปิดสนิทนั้นให้แย้มบาน  เด็กหนุ่มงอร่างขึ้นมาคว้ามือของเขาไว้  แต่เมื่อเขาลูบไล้ไปจนถึงด้านหน้าและบีบนวดกระตุ้นแก่นกายที่ดูเหมือนอารมณ์จะมอดไปด้วยความตื่นกลัวที่เกิดขึ้น  โทโมกิก็ปล่อยมือและทิ้งร่างลงกับเตียง  บิดเร่าด้วยซ่านเสียวจนแทบทนไม่ได้

ไม่เพียงแค่จุดสัมผัสลี้ลับนั้นเท่านั้น  วายะยังขบจูบไปตามเรียวขาขาวที่พาดอยู่บนไหล่  ทิ้งร่องรอยไว้ตามเนื้ออ่อนขาวนวลเนียนราวกับผิวของเด็กสาว  หากโทโมกิบริสุทธิ์กว่านั้น  สำหรับวายะแล้วเด็กคนนี้ยังเป็นแค่หนุ่มน้อย...ยังไม่เป็นวัยรุ่นเต็มตัวเสียด้วยซ้ำ  แม้กริยาอาการที่แสดงออกจะก้าวร้าวและเป็นผู้ใหญ่เกินวัย  แต่ธรรมชาติของร่างกายบอกชัดถึงภายในที่ยังปราศจากซึ่งมลทินใด ๆ มาแพ้วพาน  และเขาก็ปรารถนาที่จะได้ลิ้มรสชาติความบริสุทธิ์นั้นเป็นคนแรก...เพียงแค่คิดก็ใจเต้น  ดังนั้นเขาจะรีบร้อนไม่ได้  หากผลีผลามทำอะไรพลาดไปแม้แต่น้อย  ของดีที่ได้มาไว้ในมือจะสูญค่าทันที  เขาจะต้องใจเย็น  และค่อย ๆ ลิ้มรสชาติที่เรือนร่างนี้จะมอบให้เขาอย่างบรรจงที่สุด

ก็ดูสิ...ดอกตูมที่สั่นระริกนั่นมันเชิญชวนแค่ไหน  อีกแค่นิดเดียวเขาก็จะสามารถทำให้มันแย้มบานได้  ชายหนุ่มทดลองกดปลายนิ้วเข้าไปช้า ๆ...ได้ผล  เรียวนิ้วผลุบเข้าไปได้อย่างง่ายดายแม้จะตามมาด้วยแรงบีบรัดและเสียงหวีดร้องอันไม่อาจบอกอารมณ์ได้ก็ตาม  ปลายนิ้วค่อย ๆ รุกคืบเข้าไปช้า ๆ จนกระทั่งสุดความยาว  ร่างของโทโมกิตอดตุบและเกร็งสะท้านไปหมด  แต่เมื่อเข้าไปได้อย่างนี้แล้วก็ไม่มีปัญหา...วายะขยับนิ้วสอดเข้าออกเนิบช้าจนรู้สึกว่าเด็กหนุ่มเริ่มคุ้นชินกับสัมผัสนั้นแล้ว  จึงได้สอดเข้าไปอีกนิ้ว  โทโมกิร้องพลางเดาะเอวขึ้นอย่างลืมตัว  จิกเล็บลงกับหน้าขาของเขา...แบบนี้ดีแล้ว  โทโมกิไม่ต่อต้านหรือปฏิเสธเขาอีกต่อไป

ช่องทางที่ถูกรุกรานด้วยเรียวนิ้วร้อนวูบวาบไปหมด  โทโมกิรู้สึกว่านิ้วทั้งสองของวายะขยับเคลื่อนไหวอยู่ในร่างกายของตนราวกับสิ่งมีชีวิต  มันสะกิดเขี่ยไปทั่วราวกับพยายามค้นหาอะไรบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ในร่างของเขา  ทุกการเคลื่อนไหวของมันนำมาซึ่งความกระสันเสียวที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิต  เขารู้ว่ามันมีการกระทำอย่างนี้อยู่ในโลก  แต่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง  ไม่เคยคิดแม้แต่จะลอง  นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองเขาก็ไม่แน่ใจนัก  เรื่องทั้งหมดมันเริ่มขึ้นตรงไหนและนำมาจนถึงจุดนี้ได้อย่างไร  เด็กหนุ่มก็นึกไม่ออก  ในหัวเหมือนถูกย้อมด้วยสีขาวโพลน  มีเพียงสัมผัสจากปลายนิ้วของวายะเท่านั้นที่ขัดเจน...พลันก็ต้องกระตุกผวาขึ้นสุดตัว  เมื่อนิ้วของวายะสัมผัสโดนจุดหนึ่งเข้า  มันร้อนวาบราวกับโดนไฟจี้  และเสียดแปลบเหมือนถูกไฟช็อต  ความรู้สึกนั้แผ่ลามไปจนถึงปลายนิ้ว  และยิ่งชายหนุ่มเอาแต่บดคลึงอยู่ตรงนั้น  โทโมกิก็ส่งเสียงครางระงมไม่ขาดปาก

“อา...อย่า...พอแล้ว...พอ...อา...อ๊ะ  หยุด...อ๊า...”

“หาตั้งนาน  อยู่ตรงนี้เอง”  วายะพูดเบา ๆ กับตัวเองพลางฟังเสียงคร่ำครวญของเด็กหนุ่มด้วยความรู้สึกเพลิดเพลิน  ร่างเล็ก ๆ บิดกายเร่าด้วยการกระทำของเขา  ไม่เหลือสภาพเจ้าเด็กปากร้ายตัวแสบอีกเลย

ชายหนุ่มกวาดตามองไปทั่วร่างของโทโมกิ  ดวงตาเลื่อนลอยฉ่ำชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา  ใบหน้าซับสีเลือดระเรื่อ  ริมฝีปากที่เผยอหอบและส่งเสียงครวญแดงก่ำ  อกบางสะท้อนขึ้นลงตามแรงหายใจที่บางครั้งก็สะท้านขาดห้วง  ท้องน้อยเปรอะไปด้วยหยาดน้ำเหนียวใสที่หลั่งรินออกมาจากร่างที่เขากระตุ้นเอาไว้เป็นจำนวนมาก  และช่องทางเร้นลับก็กระตุกบีบรัดนิ้วของเขาอยู่ตลอดเวลา...หากทำมากกว่านี้  โทโมกิอาจจะเสร็จอีกรอบก็เป็นได้

ถ้าเป็นแบบนั้นไม่ดีแน่  โทโมกิเพิ่งจะถูกทำให้ถึงสวรรค์ไปเมื่อสักพักนี้เอง  ถ้าให้ไปอีกครั้งตอนนี้อาจจะทนไม่ไหววูบไปตอนที่เขาเดินเครื่องเต็มที่ก็ได้  ถ้าแบบนั้นก็เท่ากับสวรรค์ล่ม  การนอนกับคนที่ไม่มีสติก็ไม่ต่างอะไรกับการมีเซ็กส์กับตุ๊กตายาง  ซึ่งวายะไม่ชอบ...คู่นอนของเขาจะต้องรู้สึกตัวอยู่เสมอในอ้อมกอดของเขา  ไม่ว่าจะสามารถสนองการกระทำของเขาได้อย่างเท่าเทียมหรือได้แค่กรีดร้องด้วยความรวดร้าวก็เถอะ  จะต้องรับรู้ถึงตัวตนของเขาตลอดเวลาที่มีความสัมพันธ์กัน

ชายหนุ่มถอนนิ้วออก  สะโพกกลมเกร็งวาบก่อนจะผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็วอย่างรู้สึกโล่ง  หากมือที่ชุ่มไปด้วยเจลหล่อลื่นกลับกอบกุมร่างอันแข็งขึงของตนและชโลมเจลสีขุ่นทั้งหมดที่ติดอยู่บนฝ่ามือจนทั่ว  ก่อนจะจับมันไปจรดเข้าที่ปากทางสวรรค์ที่ได้เตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว  หากแค่เริ่มดุนดันเข้าไป  โทโมกิก็กรีดร้องลั่น

“อ๊า!!!!  เจ็บ!!”

 เด็กหนุ่มพยายามกระถดถอยหนี  แต่ถูกล็อกสะโพกไว้แน่น  ความเจ็บปวดนั้นตามเข้ามารุกรานร่างของเขาอีกครั้ง  เขาจิกเล็บลงกับมือที่ยึดร่างของเขาเอาไว้เต็มที่  อีกมือก็ขยุ้มผ้าปูที่นอนสีน้ำเงินเข้มแทบจะฉีกทึ้งมันให้ขาดติดมือ  ร้าวรานจนเกินจะทนได้...โทโมกิรู้สึกเหมือนร่างกายค่อย ๆ ถูกขยายกว้างจนเกินขีดจำกัดและปริฉีกออก  แสบร้อนตรงจุดที่ถูกล่วงล้ำ  แม้จะมีสารหล่อลื่นชโลมอยู่ไม่น้อย  แต่นั่นก็แค่ทำให้อีกฝ่ายรุกล่วงเข้ามาในร่างของเขาได้ง่ายขึ้นเท่านั้น  ไม่ได้ทำให้ความเจ็บปวดลดน้อยลงได้เลย...เด็กหนุ่มพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นความจากทรมานนั้น  แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บมากขึ้นทุกที  จนในที่สุดเขาก็เรียนรู้ที่จะอยู่นิ่ง ๆ และปล่อยให้วายะรุกรานเข้ามาในร่างของเขาตามใจชอบ...แบบนั้นจะเจ็บน้อยกว่า

ชั่วเวลาไม่กี่วินาที  แต่สำหรับโทโมกิแล้วมันยาวนานราวกับไม่มีที่สิ้นสุด  เขาทั้งร้องไห้และส่งเสียงกรีดร้องระบายความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น  จิกเล็บขูดข่วนลงกับแขนของวายะครั้งแล้วครั้งเล่า  ทรมานจนแทบสิ้นสติ...หากก็ยังรับรู้ได้อยู่ตลอดเวลา...จนเมื่อร่างสูงกระทั้นกายเข้ามาให้สุดทาง  เด็กหนุ่มเสียดแน่นไปหมดทั้งช่องท้อง  แต่ความราวร้านแทบขาดใจนั้นกลับลดลงอย่างแทบไม่น่าเชื่อ

วายะมองร่างที่พยายามสูดลมหายใจหอบเหนื่อยด้วยความรู้สึกอันแปลกประหลาด  เขาไม่คิดหรอกว่าโทโมกิจะสามารถรับทั้งหมดของเขาเข้าไปได้  แต่เมื่อลองฝืนทำดู...ร่างของพวกเขาก็เบียดแนบชิดกันจนไม่มีช่องว่าง  มีเพียงโลหิตสีแดงก่ำเท่านั้นที่ไหลรินออกมาจากบาดแผลที่ฉีกขาดเพราะการกระทำของเขา  ร่างเล็ก ๆ นี้โอบรัดเขาแน่นจนแทบจะอึดอัด  มันแตกต่างไปจากทุกคนที่เขาเคยสัมผัส  ร่างที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัวนี้  บีดรัดเขาราวกับกลัวว่าเขาจะหนีจากไป  ทุกจังหวะการหายใจของโทโมกิ  เขาสามารถรู้สึกได้จากส่วนที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกันนั้น...

ไม่ไหวแล้ว...เขาทนมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว  ร่างนี้เรียกร้องต้องการเขาเหลือเกิน  และเขาก็ต้องการทั้งหมดของโทโมกิเดี๋ยวนี้...เอวหนาขยับถอนร่างออกก่อนที่จะสอดสวนกายกลับเข้าไปอย่างรวดเร็ว  คนที่อยู่ข้างใต้ร่างของเขาหวีดร้องด้วยความเจ็บปวด  ดวงหน้าที่เปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตานั้น...เขาเห็น  แต่หยุดตัวเองไม่ได้...ชายหนุ่มกระแทกร่างกระทั้นเข้าใส่ร่างบางอย่างไม่ปรานีปราศรัย  บดขยี้ด้วยความเร่าร้อนของเพลิงราคะที่โหมลุกราวกับจะแผดเผาทุกสิ่งให้มอดไหม้เป็นจุณ

โทโมกิส่งเสียงร้องจนแหบพร่า  อ้าปากหอบฮักเหมือนจะไล่งับอากาศ  ทุกจังหวะการแทรกกายของวายะทำให้เขาจุกตื้อในอกเหมือนจะหายใจไม่ได้  ในหัวแดงฉานไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน...หากในความรวดร้าวนั้น  กลับมีอะไรบางอย่างที่ค่อย ๆ แผ่ขยายไปทั่วร่าง...ซ่านเสียว  และอิ่มเอม...แม้จะไม่ควรพูดอย่างนั้น  แต่โทโมกิกลับรู้สึกว่าสิ่งแปลกปลอมที่รุกรานอยู่ในร่างของเขากำลังช่วยเติมเต็มความรู้สึกบางอย่างที่ขาดหายไปให้  และเขาคงตกใจทีเดียวถ้ารู้ว่าตัวเองเรียกความรู้สึกนั้นว่า...ความสุข...

ความรู้สึกนั้นขยายตัวกว้างจนกลืนกินตัวตนทั้งหมดของเด็กหนุ่มเข้าไป  บีบรัดอัดแน่นจนแทบจะเหลือเพียงอณูเล็ก ๆ...สุดท้ายก็ระเบิดกระจายออกเต็มแรง  ผลักดันให้เกิดเป็นหยาดน้ำรักสีขาวขุ่นพวยพุ่งหลั่งรินออกมาจากร่าง

ในช่วงเวลาที่ทะยานขึ้นสู่จุดสุดยอดนั้น  โทโมกิรู้สึกว่าร่างที่ฝังกายอยู่ในตัวของเขาผละออกไปและร่างกายของเขากระตุกบีบรัดแน่นเป็นจังหวะ  แต่ในขณะที่ทั้งร่างกำลังหดเกร็งด้วยความเสียวสะท้านนั้นเอง  วายะก็แทรกกายเข้ามาอีกครั้ง

เด็กหนุ่มกรีดร้องอออกมาสุดเสียง  ร่างกายของเขากำลังปิดตัวเองลงในตอนที่วายะรุกเข้ามา  ชำแรกบาดแผลเดิมให้เปิดออกอีก  ความเจ็บปวดทรมานเหมือนเมื่อครั้งแรกย้อนกลับมาอีกครั้งอย่างรุนแรงกว่าเดิม  ในเมื่อวายะกำลังอยู่ในห้วงอารมณ์ที่โหมกระพือสุดขีด  เขาจับแขนของโทโมกิมาโอบรอบคอของเขาไว้แล้วสวนกายเข้าใส่อย่างไม่บันยะบันยัง  เรียวเล็บของเด็กหนุ่มจิกกรีดฝากรอยแผลไว้บนแผ่นหลัง  แต่นั่นก็แค่ความเจ็บปวดเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อคิดว่ามันจะแลกกับความสุขที่แง้มประตูรออยู่ตรงหน้า  ร่างที่เพิ่งถึงจุดสุดยอดนี้บีบรัดเขายิ่งกว่าเดิมเสียอีก  และเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยได้จากใครมาก่อน...ทั้งโอบกอดและดูดรั้งราวกับต้องการจะดื่มกินทั้งหมดของเขาเดี๋ยวนี้...ได้...ถ้าร่างกายนี้ต้องการอย่างนั้น  เขาจะให้อย่างที่อยาก  เพราะเขาเองก็ไม่อาจรั้งตัวเองไปได้ไกลกว่านี้อีกแล้ว

“...อึก...โทโมะ...โทโมะ!...”

ชายหนุ่มขยับสะโพกถี่เร็วเป็นจังหวะสุดท้าย  ก่อนจะคว้าเด็กหนุ่มขึ้นมากอดไว้แน่น  กดริมฝีปากประทับจุมพิตเร่าร้อน  แล้วกดร่างเบียดแนบกับร่างของโทโมกิจนไม่เหลือช่องว่าง  ฉีดพ่นความปรารถนาอันร้อนแรงเข้าไปจนหมดทุกหยาดหยด

ชั่ววินาทีนั้นยาวนานเหมือนชั่วนิรันดร์กว่าวายะจะถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง  โทโมกิทิ้งกายอ่อนเปียกอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง  ปล่อยให้หยาดรักของวายะไหลรินออกมาอาบเรียวขาทั้งที่ยังไม่ได้แยกกายออกจากกันด้วยไม่อาจรับทั้งหมดเข้าไปได้...สัมผัสสุดท้ายที่รับรู้ได้คือกลิ่นหอมอ่อน ๆ ปนด้วยกลิ่นบุหรี่จากผิวกายของร่างสูง  อ้อมกอดอบอุ่น  และเสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู...


“...โทโมะ...”




(โปรดติดตามตอนต่อไปครับ)


ตอนนี้มาเร็วนิดหน่อยนะครับ พอดีช่วงคริสต์มาสจะไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะครับ
ตอนต่อไปก็...น่าจะช่วงสิ้นปี...ละมั้งนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด