มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]  (อ่าน 711368 ครั้ง)

It_s_me

  • บุคคลทั่วไป
สงสารพ่อสิงห์จับใจ สงสารน้องจ้อยด้วย
ความทรงจำที่แสนเลวร้าย ฝังแน่นยากจะลืมเลือน
ฮือออออออ แล้วเมื่อไหร่จะดีกันเล่า???? T________T

ออฟไลน์ AiiSoul

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ตายๆ อย่างนี้ได้ร้องไห้เป็นเผาเต่าอีกหลายสิบตอนแน่ๆ
เหล้าเข้าปากทำให้คนกลายเป็นปีศาจแท้ๆ
สงสารน้องจ้อย แต่ก็สงสารสิงห์ด้วยเหมือนกัน

เพื่อนไม่ดีอย่างลอยไม่รู้จะคบไปทำไม

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พี่สิงห์พยายามเข้า ถึงมันจะลางเลือนเต็มทีก็เหอะ

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
แล้วคนอื่นเค้ารุ้ไหม ว่า จ้อย ... หวังว่าคนทำแผลให้คงไม่พูดมากอ่ะนะ
อ้ายพี่สิงห์ ต้อง พิสูจน์ ตัว อย่างหนักและนานเลย เรื่องข่มขืน แม้จะรักก้อเถอะ อภัยยากว่ะ

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
ขอให้ทั้งสองคนผ่านอุปสรรคอันใหญ่หลวงนี้ให้ได้โดยเร็ว

ต่อจากนี้ขอให้สิงห์ยอมให้น้องได้ทุกอย่างอย่างที่คิดนะ

อย่าให้ใครหรืออารมณ์ใดๆ มาทำให้สิงห์ทำน้องเจ็บแบบที่ผ่านมาอีกเลย

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
สงสารจ้อยอะ
เป็นแบบนี้อีกนานกว่าจะรักกัน

ออฟไลน์ pandorads

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อ่านแล้วต้องไปหยิบทิชชู่มาเช็ดน้ำตาก่อน  :monkeysad:  :monkeysad:

เศร้ามากเลยอ่ะ สงสารทั้งสิงห์ทั้งจ้อยเลย เมื่อไหร่คู่นี้เค้าจะหวานกันนะ

tanuki

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้วยอมรับเลยว่าสะเทือนใจมากครับ อินจัด

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ปวดใจไปกับพี่สิงห์ น้องจ้อยที่สุด. อยากมีบทระทึกของครูคนึงคุณเล็กบ้าง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
พี่สิงห์มันจะขาดใจตายมั้ย สงสารมันนะ พอสติมาปัญญาก็เกิดว่าตัวเองเคยโง่เคยงี่เง่าขนาดไหน
ขอให้ประคองสติให้อยู่กับตัวได้ตลอดนะ สงสัยว่าสิงห์จะบอกเรื่องจ้อยกับพ่อแม่ไหม
แม่สิงห์ก็ร้ายเหลือเกิน ถ้ารู้จ้อยแย่แน่

น้องจ้อยของพี่บอบช้ำไปหมดทั้งกายใจ “แสงแดดเช้าไม่สดสวย  เสียงนกร้องไม่ไพเราะอีกต่อไป”
ประโยคนี้เศร้ามากนะ หลอนพี่สิงห์ไปแล้วด้วย แต่แม้คนอ่านจะโกรธสิงห์ขนาดไหน
คนที่จะทำให้จ้อยดีขึ้นได้ก็เป็นสิงห์แค่คนเดียว หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ nong PeePee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
สงสารปนสมน้ำน่าพี่สิงห์ ครูสู้ๆน่ะ  :กอด1:
มาต่อไวๆน่ะค่ะรักคนเขียน  :กอด1:

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0

Zymphoniz

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อออออ สงสารใครดีล่ะเนี้ย  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
หวังว่าสิงห์คงคิดได้และเลิกทำตัวเลว ๆเสียทีนะ

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
อยากจะสงสารสิงห์นะ แต่ก็สงสารไม่ลงจริงๆ
ทำอะไรไม่รู้จักคิดถึงผล นี่นะหรือคำที่พรำ่ว่ารักน้องนักหนา
รักตัวเองมากกว่าละมั้ง
จ้อยกลัวน่ะไม่ผิดหรอกไม่กลัวซิผิดปกติแน่ๆ

ออฟไลน์ ตัวเลข

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เวลาเท่านั้นที่จะช่วยรักษาแผลใจได้ ไม่รู้ว่ามันจะทำให้สิงห์คิดได้หรือเปล่านะ

ออฟไลน์ beamJ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
สงสารทั้งน้องจ้อยทั้งพี่สิงห์เลย  ฮืออออออออออ

เมื่อไหร่ทุกอย่างจะดีขึ้นซะที เศร้ามากกกกกกกกกก

อยากอ่านอีก รีบมาต่อเร็วๆนะค้าาาาาา

oattie

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ได้ตามอ่านมานาน กลับมาอ่านอีกทีดร่าม่าเต็มๆ พี่สิงห์ไม่น่าเลย
ชอบคค่ะที่บอกว่ารักคนอ่านเหมือนบ้านรักหลังคา  :กอด1:

ออฟไลน์ Karn12

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +165/-2
รู้ว่าผิดก็ต้องแก้ไข

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ →Yakuza★

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-0
สงสารสิงห์ เมื่อไหร่แม่ดอกไม้จะเลิกใจร้ายกับสิงห์กับน้องจ้อยสักที

แฟนคลับอย่างเราน้ำตาไหลเป็นขัน ขัน  แล้วยังไม่พอใจแม่ดอกไม้อีกเหรอจ๊ะ  :sad4:

ออฟไลน์ four4

  • รักนี้ชั่วนิรันด์
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
สงสารพี่สิงห์ แต่ความรักที่พี่สิงหืมีต่อน้องจ้อย ต้องทำให้ชนะทุกอย่างได้  :o12:

ออฟไลน์ nemonoy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อ่านไปน้ำตาก็ไหลไป จะเศร้ากว่านี้อีกไหมคะ สงสารจ้อยT_T

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ขอสารภาพว่าหยุดอ่านไปช่วงหนึ่งเพราะใจยังไม่นิ่ง
พอทำใจได้กลับมาอ่านต่อก็ยังต้องยอมรับความเอาอยู่(จริงๆ)ของคนแต่ง
รอคอยตอนต่อไปด้วยความกระวนกระวายครับ

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
รอคอยตอนต่อไปอย่างใจหวิวๆ เหอะๆๆๆๆ

ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
ยังมีหวังกับพ่อสิงห์ หันหัวเรือใหม่ยังทัน กลับลำซะ โชคดีที่ข้างในของแกมันขาว (เพิ่มความฉลาดอีกหน่อย เป๊ะเลย)
จ้อยเป็นดั่งมหาหงส์นี่นะ จิตใจเธอดี คงอภัยให้...มั้ง?!! รึเปล่า? //อยากให้ลงกันด้วยดี อยากให้เค้าได้กันเนียนๆ

ป.ล. รักคนเขียน เหมือนนกกระเรียน ที่มีัรักอมตะ . . . บอกรักจัดเต็ม ฉลองพึ่งได้ log in ตามมานาน ปลื้มดอกไม้สุดๆ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เข้ามารอน้องจ้อย-พี่สิงห์

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
บทที่ ๒๒

ดอกหญ้า

(ครึ่งแรกจ้ะ :L2:)


หวงก็จะยื้อ  ขายก็จะซื้อ  หากเธอนั้นคือดอกหญ้า
ฉันกลัวเกรงว่า  เขาจะย่ำซ้ำเหยียบให้เฉา

ฉันไม่เคยรัก  ฉันไม่เคยหลง  ไม่เคยสงสารใครเท่า
สายตาเธอเศร้า  ยิ้มเธอโศกเหมือนกล่อมโลกฝัน

ดอกหญ้ายอดรัก  ขอจงประจักษ์ใจฉัน
ยอดชู้คู่ขวัญ  เธอกับฉันเชื่อมชีวิตกันเถิดหนา*




ร่างเล็กนั่งพิงหัวเตียง  หลังจากหมดสติไปได้สักพัก  คนคลุ้มคลั่งเมื่อครู่ดูสงบสติอารมณ์ลง  ถ้าไม่เพราะหมดแรงจะหนี  ก็คงรู้ตัวแล้วว่าหนีไปไหนไม่พ้นตราบใดที่สิงห์ยังนั่งจ้องอยู่อย่างนี้  ผ้าผืนเล็กหมาดน้ำร่วงแปะอยู่ข้างตัว  พี่เอื้อมไปหยิบมาวางคืนอ่าง  น้องสะดุ้งน้อยๆ ก่อนกระเถิบหนีไปสุดฝั่งเตียง 
   
สิงห์ถอนใจพรู  แววตาโศกสลดเหมือนเงาไม้แห้งเฉาบนผิวน้ำนิ่ง  มือใหญ่ยื่นไปแตะหน้าผาก  ศีรษะเล็กผงะหลบ  ทำท่าราวกับโดนถ่านร้อนจี้ 
   
“จะกลับบ้าน” ฟื้นขึ้นมาอีกทีจ้อยก็พึมพำพูดอยู่แค่นี้  ราวกับไม่รู้จักคำอื่นในโลกนี้แล้ว 
   
“กลับไม่ได้” เขาเสียงแข็ง  จ้องหน้าน้องที่ดวงตา  น้องเอาแต่มองพื้น  ไม่สบตากันสักนิด  “ไม่ให้กลับ” เขาย้ำอีก  กลัวน้องกลับไปแล้ว  จะไม่กลับมาที่นี่อีกต่อไป 
   
ตาดำที่นิ่งขึงมีหยาดน้ำท้นเอ่อขึ้นมา  สิงห์ใจไหววูบ  เสียงอ่อนลง “เอ็งไม่สบายอยู่  ถ้ายายเห็น เดี๋ยวยายเป็นห่วงนะ”
   
ปากสีเรื่อที่ชุ่มชื้นขึ้นเพราะเขาไล้น้ำเคลือบให้ยามหลับใหลเม้มสนิท  มือบางกำผ้าแพรบนตักแน่นจนข้อนิ้วขาว 
   
“กินข้าว แล้วจะได้กินยา” เสียงทุ้มฟังวิงวอนมากกว่าจะเป็นคำสั่ง  มือหยาบคนข้าวต้มข้นในชามเบาๆ  จ้วงตักครึ่งช้อน  เป่าแผ่วๆ ก่อนยื่นป้อน 
   
จ้อยเบือนหน้าหนีทันที 

“อย่าดื้อ” เขาปรามเสียงต่ำ  เอาไว้หายดีแล้ว  อยากพยศยังไงก็ได้  แต่ไม่ใช่ตอนนี้  “กินหน่อยเร็ว เด็กดี” สิงห์คะยั้นคะยอ  ช้อนปริ่มข้าวต้มหอมอ่อนๆ ยื่นใกล้เข้ามาแทบแตะปาก  หากมือเล็กกลับยกขึ้นปัดทิ้งอย่างไม่ใยดี 
   
ช้อนสังกะสีกระเด็นไปกลางห้อง  สิงห์ถึงกับผงะ  มองน้องอย่างไม่เชื่อสายตา 
   
ในร่างกายที่สั่นสะท้านคล้ายหวาดกลัว  ทว่า.. สายตาที่จ้องมองมา  ชิงชัง  ปราดเดียว  คมฉาดเหมือนใบข้าว  ตวัดฉับ  กรีดใจจนแปลบวาบ   

ในเมื่อไม้นวมไม่ได้ผล  สิงห์จึงจนใจใช้ไม้แข็ง 

ร่างสูงใหญ่วางชามข้าวลงก่อนออกจากห้องไป  จ้อยรอฟังเสียงบานไม้ปิดแล้วถอนใจหนัก  น้ำตาที่กักเก็บไว้ร่วงเผาะลงแพรนวล  จ้อยแค่อยากไปจากที่นี่  ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ต้องเห็นหน้าคนใจหิน  จ้อยแค่อยากกลับบ้าน  แค่คิดถึงยายจับใจ
   
ใจจริงจ้อยอยากปัดให้คว่ำทั้งชามด้วยซ้ำ  แต่ยายและพี่ไม่เคยสั่งสอนให้ทิ้งข้าว  เมื่อกี้.. แค่ปัดข้าวครึ่งช้อน  ถ้ายายรู้จ้อยต้องโดนตีมือแน่ 

ครู่เดียวลูกชายกำนันก็กลับเข้ามาอีกครั้ง  หนนี้จูงเด็กหญิงตัวกลมตามเข้ามาด้วย  จ้อยเหลือบมองอย่างเคลือบแคลง 

“น้ำฝน  ดูพี่จ้อยให้กินข้าวด้วย” เสียงห้าวสั่งห้วน  ชี้หน้าคาดโทษ “จำที่สั่งได้ใช่ไหม”
   
เด็กหญิงพยักหน้าหงึก  คนตัวโตจึงเดินออกจากห้องไป  มือกลมป้อมตักข้าวเป่าปู้ดจนปากจู๋แล้วยื่นป้อน “พี่จ้อย อ้ามมม..” ปากแดงอ้ากว้างเห็นฟันน้ำนมครบ ๒๔ ซี่  คนเจ็บกลับส่ายหน้าเบาๆ อ่อนล้าแม้แต่จะยกมุมปากยิ้ม 

‘พี่ชั่วเสียแล้ว’ จ้อยโอดครวญอยู่ในหัวใจหม่นไหม้  เบือนหน้าหนีวงหน้าผ่องใสบริสุทธิ์  ไม่กล้าสบดวงตาใสแจ๋วที่มองมาอย่างไร้เดียงสา 
   
พี่สกปรกเสียแล้ว  ถูกเขาเหยียบย่ำทำลายกลายเป็นขยะ  ผ้าขาวอย่างหนูอย่าเข้ามาใกล้พี่เลย 

ไม่นานเกินรอ  เจ้าของห้องก็เดินปึงปังกลับเข้ามา  ทันทีที่เห็นข้าวต้มยังเต็มชามเท่านั้น   
   
“พี่สั่งว่ายังไง!” เสียงห้าวตะคอกใส่เด็ก  จ้อยตกใจสะดุ้งเฮือก “หื๊อ!” มือหนึ่งคว้าข้อมือกลมป้อม  มือหนึ่งเงื้อง่าจะฟาดก้น  แม่หนูน้องแผดเสียงจ้า  แหกปากร้องไห้จนเห็นลิ้นไก่   
   
“อย่า!” จ้อยห้ามลั่น  ลนลานคลานมาหาชามอย่างสิ้นท่า  ละล่ำละลักแทบไม่เป็นคำ “กิน.. กินแล้ว” มือสั่นเทาตักข้าวแตะปลายช้อนเข้าปาก  ขอบตาร้อนผ่าว  มองนักเลงโตตรงหน้าอย่างชิงชัง 
   
คนใจยักษ์  แม้แต่เด็กตัวเล็กๆ ยังไม่ละเว้น 

นายบ่าวต่างวัยลอบสบตากัน  แม่หนูยังสะอึกสะอื้นฮึกฮัก 
   
แต่ถ้าจ้อยสังเกตดีๆ  จะพบว่าคนร้องไห้จ้าไม่มีน้ำตาสักหยด

อาศัยตอนคนเจ็บเผลอ  คนตัวสูงอุ้มหนูน้อยเดินปรูดออกจากห้อง  พามานอกชาน  สิงห์ยังเหลือบมองห้องตนเป็นระยะอย่างระแวง 
   
“เมื่อกี้พี่ทำเราเจ็บหรือ” เขาวางเด็กลง  กระซิบเสียงแผ่วคล้ายกลัวใครได้ยิน  คว้าข้อมือน้อยมาเป่าเพี้ยงหาย
   
“ป่าววว” สาวน้อยส่ายหน้าจนผมสะบัด 
   
“เอ๊า” ลูกชายกำนันเสียงสูง  แทบตบเข่าฉาด “ร้องเสียดัง  ตกใจหมด”
   
“เก๊าะพี่สิงห์บอกให้หนูร้องนี่” ว่าแล้วมือเล็กก็แบหรายื่นมาตรงหน้า  สิงห์หยิกแก้มกลมอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนวางเหรียญห้าลงไป  เจ้าหล่อนหัวเราะเอิ้กอ้าก  ชายหนุ่มก็พลอยได้ยิ้ม 
   
แผนตัดไม้ข่มนามสำมะริดผล


สิงห์ไม่เคยเบื่อหน่ายที่จะเฝ้าดูแลน้อง  ไม่รังเกียจที่จะเช็ดคราบอาเจียนขาวข้นที่จ้อยพ่นออกมานองพื้นหลังฝืนใจกลืนข้าวไปได้ไม่กี่คำ  ไม่เกี่ยงงอนที่จะเช็ดตัวทำความสะอาดให้น้องถึงปลายนิ้วเท้า 

แต่สำหรับน้อง.. ทุกอย่างคงตรงข้ามกัน   

จ้อยเย็นชาเฉยเมยเหมือนภูเขาน้ำแข็ง  อย่าว่าแต่ยิ้มให้  แม้แต่หางตา  จ้อยยังไม่อยากจะเหลือบแลเขาด้วยซ้ำ  เจ้าตัวเล็กเอาแต่นอนนิ่ง  ซุกกายอยู่ใต้ผ้าห่ม  จะพยุงตัวขึ้นนั่งก็ต่อเมื่อพ่อเขาหรือน้าเวกน้าแป้นเข้ามาเยี่ยมดูอาการนั่นละ   
   
แต่พอเขาเผลอทิ้งน้องไว้คนเดียวเมื่อไรละได้เรื่อง 

ฟากฟ้าเป็นสีส้มแกมน้ำเงินแล้วตอนที่เขาทิ้งน้องไปอาบน้ำ  ไม่สิ.. เรียกว่าวิ่งผ่านน้ำจะถูกกว่า  เผลอแผล็บเดียว  กลับเข้าห้องอีกทีก็พบเพียงห้องว่างเปล่า 
   
สิงห์ร้อนรนออกตามหา  สภาพแบบนั้นจ้อยจะหนีไปไหนได้ไกล  แล้วก็จริงดังคาด  เจ้าตัวเล็กนั่งซบอิงอยู่กับหัวบันได  แสงอาทิตย์อัสดงอาบวงหน้าขาวซีดเหมือนทาสีส้มบนกระดาษขาว  มือเล็กแตะหน้าผาก ปิดตาแน่นจนคิ้วขมวด  ตัวโงนเงนเหมือนทรงตัวนั่งไม่อยู่  ไม่รู้ว่าฝืนสังขารมาถึงตรงนี้ได้อย่างไร 
   
น้องสะดุ้งจนตัวโยนเมื่อเขาแตะมือลงไหล่  เขยิบหนีลนลาน  และคงกลิ้งตกบันไดไปแล้วถ้าเขาไม่รวบเอวเล็กเข้าแนบอกไว้ทันท่วงที 
   
“จะกลับบ้าน” จะมีคำไหนหล่นจากปากจ้อยอีกไหมนอกจากคำนี้  ร่างผะผ่าวขืนตัวออกจากอ้อมแขน  ทำตัวหนักเมื่อเขาจะช้อนอุ้มกลับห้อง  แต่เรี่ยวแรงแค่นั้นมีหรือจะสู้แรงเขาได้ 
   
“ปล่อย..” เสียงเล็กสั่นพร่าเมื่อถูกเขาอุ้มลอยหวือจากพื้น  คำเดียวสั้นๆ ยังความรานใจมาสู่คนฟังนัก  คำเดียวสั้นๆ ที่มาพร้อมแววตาหวาดผวา  เนื้อตัวสั่นสะท้าน  และน้ำตาหยดหนึ่งที่รินร่วงลง 


คืนแล้วคืนเล่า  น้องอาการดีขึ้นทีละนิด  สิงห์ดีใจที่น้องหาย  แต่ความห่วงพะวงซุกซ่อนในส่วนลึก  กลัวน้องปีกแข็งแล้วก็พร้อมจะบินหนีไปได้ทุกเวลา 

คืนนี้จันทร์ลอยคล้อยต่ำ  จ้อยนอนกอดตัวเองอยู่ในมุ้งสีหม่น  พอเรี่ยวแรงเริ่มมี  จ้อยย่องลงจากเตียงไม้สักหนาหนัก  ปูเสื่อกางมุ้งซุกกายปลายเตียงตามวิถีที่ขี้ข้าควรเป็น  เจ้าของห้องเคยพยายามอุ้มจ้อยกลับเตียง  แต่จ้อยก็หนีเข้ามุ้งอีกเมื่อมันเผลอ  จนมันอ่อนใจได้แต่ปล่อยเลยตามเลย
   
ผ้ามุ้งบางเบาหรือจะกันจ้อยจากมันได้  มันตามเข้ามาหาจ้อยอีก  สวมสอดกอดกระชับจากด้านหลัง  จ้อยรู้สึกได้ถึงเสียงก้อนเนื้อในอกกว้างเต้นตุบสัมผัสแผ่นหลัง  น่าแปลก.. มันยังมีหัวใจอยู่อีกหรือ
   
จ้อยขยะแขยง  รังเกียจ  ชิงชัง  แต่จ้อยไม่ต่อต้าน  ไม่ขัดขืน  ได้แต่นอนทื่อเป็นท่อนไม้  กลัวว่าหากขัดขืนแล้ว  มันจะทำร้ายจ้อยอีก  หลายหนมันลูบหัว  จูบหน้าผาก  จูบแก้ม  ไล้รอยน้ำตาให้  สัมผัสแผ่วเบาราวปีกผีเสื้อ  ทุกอย่างยิ่งทำให้จ้อยอยากขย้อน  สะอื้นแผ่วจนตัวสะท้าน  ส่งกระแสชิงชังไปให้มันรู้ว่าจ้อย ‘เกลียด’ มันเพียงใด     
   
นับแต่พ้นค่ำคืนวิปริต  โลกใบน้อยของจ้อยไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป  สิ่งใดที่เคยสดสวยกลับกลายเป็นหมองเศร้า  หากสิ่งใดที่เคยน่ากลัวก็กลับทวีความน่ากลัวขึ้นไปอีก   เช่นความมืด.. ความมืดน่ากลัวนัก  ทุกครั้งที่แสงอุ่นนวลของโคมอัจกลับที่ห้อยแขวนกลางห้องดับวูบลง  ความทรงจำจ้อยหวนสู่ค่ำคืนนั้นทุกครั้ง 
   
จ้อยไม่เคยเจ็บปวดเท่านี้มาก่อนเลยจริงๆ  แม้ชีวิตจะเคี่ยวกรำความยากลำบากมามาก  แต่ไม่เคยมีครั้งไหนทารุณเหมือนครั้งนี้  หลับตา.. สิ่งที่หลอกหลอนคือภาพผู้ชายกำลังเคลื่อนไหวบนร่าง  ครั้นพอลืมตาขึ้น  ความจริงก็ไม่เคยปลอบประโลมใจ
   
เจ็บที่สุด  เมื่อไรฝันร้ายจะหายไป  จ้อยจะมีโอกาสตื่นขึ้นอีกไหมในโลกแสนสุขใบเดิม 

เช่นในคืนนี้  จ้อยสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย  เพียงเพื่อพบความจริงที่เลวร้ายกว่า

ใบหน้าคมคร้ามจ่ออยู่ใกล้แค่คืบ  ดวงตาคู่นั้นปิดสนิท  ผ่อนลมหายใจยาวเป็นจังหวะอย่างคนจมอยู่ในห้วงนิทรา  แขนกำยำพาดอยู่บนตัวจ้อย  มือเล็กค่อยๆ ยกมันออก  หนาหนักเหมือนท่อนไม้แข็ง  ก่อนขยับลุกออกมานอกมุ้ง  ทุกการเคลื่อนไหวเงียบเชียบ  เบากริบ  ระแวดระวังกลัวมันจะตื่น  จ้อยไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ 
   
หนุ่มน้อยถอนใจแผ่วเมื่อหลุดพ้นจากกรงกอด  ดวงตาไหวระริกเหลียวมองไปรอบห้องมืด  จ้อยแค่อยากมีที่คุ้มหัวที่อบอุ่น  เป็นสุข.. ความจริงไม่ต้องอบอุ่นมาก  ไม่ต้องเปี่ยมสุขนักก็ได้  ขอเพียงแค่ซอกมุมเล็กๆ ที่ปลอดภัย  ไม่ต้องนอนผวากลัวใครจะมาทำร้าย  ขอแค่พื้นที่เล็กๆ  ที่ความมืดไม่รังแกใจ  อนิจจา.. เรือนไทยไม้สักของกำนัน  แสนกว้างใหญ่  สูงค่า  แต่หาความอุ่นใจเทียบเท่าพื้นที่เล็กๆ เช่นตักยายไม่มี

ท้ายเรือนไทยหลังงามมีเรือกสวนรกครึ้มของกำนันเสริม  น้าเวกคนสวนมือเย็นปลูกและดูแลพืชพันธุ์ทุกต้นด้วยความเอาใจใส่  จ้อยเดินลัดเลาะตามทางคดเคี้ยว  ผ่านไม้ต้นไม้ดอกนานา  มะม่วง ขนุน มะยม หางนกยูงฝรั่งยืนต้นทะมึนในความสงัด  จำปา จำปี ดอกพุด ดอกแก้ว กระดังงา มะลิ กุหลาบ ยิ่งดึกยิ่งส่งกลิ่นหอมแรงแข่งกันจนอวลฟุ้ง 
   
จ้อยมัวแต่พะวงเหลียวหลังล่อกแล่ก  จนแทบสะดุดกิ่งไม้หกล้ม  กลัวเหลือเกินว่า ‘มัน’ จะตามมา  จ้อยทนอยู่ในห้องนั้นไม่ได้  แค่เห็นหน้าใครคนนั้นก็เจ็บปวดราวกับถูกทุบตีกระหน่ำ  ความมืดน่ากลัวก็จริง  แต่ยังน่ากลัวน้อยกว่า ‘มัน’  ..คนที่นอนอยู่ในห้องนั้น..

สู้จากมาอยู่ไกลถึงในสวน
เพื่อมาครวญมาหมองแอบร้องไห้
เพื่อดิ้นรนดำรงกายพอหายใจ
เพื่อมาตายไกลๆ คนใจดำ**


ใต้ต้นมะดันใบดกหนามีกอมหาหงส์ขึ้นแน่นขนัด  ที่นี่ละ  มิดชิดเหมาะสำหรับซ่อนตัวที่สุด  จ้อยแทรกกายเข้าไปนั่งแปะลงกับพื้นเย็นชื้น  สองมือกอดรั้งตัวเองแน่น  จะมีงูหรือมีตะขาบจ้อยก็ไม่สน  เพราะอสรพิษพวกนั้นยังน่ากลัวน่าชิงชังน้อยกว่าคนที่นอนอยู่ในห้องนั่น  จ้อยจะซ่อนตัวอยู่ตรงนี้  ไม่มีใครเห็นจ้อย  ไม่มีใครมาจับตัวไป  ไม่มีใครมาทำร้าย  จ้อยจะซ่อนเงียบๆ  นั่งนิ่งไม่กระดุกกระดิก  จะได้ไม่มีใครหาเจอ
   
มหาหงส์ออกดอกขาวเต็มช่อส่งกลิ่นหอมเย็น  แสงจันทร์ส่องชโลมกลีบบอบบางจนนวลกระจ่าง  สวยเหลือเกิน  เงยหน้ามองขึ้นไปจากตรงนี้ เจ้าดอกขาวสะอ้านดูสูงส่งเกินเอื้อม  ยายเคยบอกว่าจ้อยกับพี่จินดาเหมือนมหาหงส์  แม้เรามาจากดิน  เกิดจากที่ต่ำ  แต่วิชาความรู้และคุณงามความดีจะทำให้เราชูช่อขึ้นไป  ขาวสะอาด  บริสุทธิ์  กำจายกลิ่นหอมเฟื่องฟุ้งแดนดิน 

ก้อนสะอื้นแล่นลามขึ้นเสียดอกจนหายใจขัด  กระบอกตาร้อนผ่าว  จ้อยไม่ใช่มหาหงส์หรอกยายจ๋า  นี่ต่างหาก.. จ้อยอยู่ตรงนี้..
   
จ้อยก้มหน้าลง  ดวงตาพร่าพรายก้มมองพื้นข้างตัว  มือสั่นระริกเอื้อมไปแตะแผ่วเบา

ดอกหญ้าต้นข้างกายปลายหักพับ
ซบยอดกับโคนต้นคอยคนย่ำ
เพราะอ่อนแอจึงเข็ญเป็นประจำ
เจ้าอย่าซ้ำเลยเพื่อน.. เราเหมือนกัน**


 
อย่าให้บรรยายเลยว่าสิงห์รู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นน้องในสภาพนั้น!

เขาตื่นกลางดึก  สะดุ้งใจหายเมื่อรู้ว่าน้องไม่อยู่ในห้อง  เที่ยวตามหาจนทั่ว  เดินลัดเลาะไปในสวนหลังบ้าน  เหงื่อเม็ดโตผุดพรายอาบแผ่นอกกำยำจนมันปลาบ  มือใหญ่ถือไฟฉายส่องกราดทั่วไป  จนแสงจ้าส่องกระทบเข้ากับร่างเล็กที่นั่งขดอยู่ในกอมหาหงส์   
   
จ้อยเองก็เห็นเขาแล้วแน่ๆ  ถึงได้ขดตัว  ซุกหน้ากับเข่าแน่น และถ้าหูไม่ฝาด  เสียงสะอื้นแผ่วหวิวล่องลอยมาตามลม 
   
ชั่วอึดใจที่คล้ายทั้งร่างเจ็บชาราวห่อหุ้มด้วยน้ำแข็ง  ก้อนเนื้อในอกถูกบีบรัดแทบแตกป่น  สิงห์ร้อนผ่าวที่สองตาขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ
   
มือใหญ่ดับไฟฉาย  เรือกสวนกลับคืนสู่ความมืด  มีเพียงแสงจันทร์สลัวลางสาดส่อง  นักเลงโตเดินตัวชากลับไป 

ได้ตัวน้องมาแล้วอย่างไรเล่า  ไม่เห็นจะดีอย่างที่ไอ้ลอยบอกสักนิด 
   
สองขาพาร่างเลื่อนลอยมาหยุดอยู่หน้าเรือนบ่าว  ดึกป่านนี้น้าเวกน้าแป้นคงหลับแล้ว  แต่สิงห์ต้องจำใจเคาะบานไม้ตึงตังพลางส่งเสียงเรียก
   
น้าเวกเปิดประตูออกมา  หัวหูยุ่งเหยิง 
   
“ขอยืมตัวน้ำฝนหน่อย” ลูกชายกำนันแจ้งความจำนง 
   
“หา” ตะแกแทบหายงัวเงียเป็นปลิดทิ้ง “มันดึกแล้วนาสิงห์  น้องหลับไปแล้ว”
   
“ขอร้องล่ะน้า” สิงห์ยกมือไหว้ท่วมหัว  ผู้มากวัยกว่าถอนใจอึดอัด  ทว่าอะไรบางอย่าง.. อะไรบางอย่างในดวงตาหม่นเศร้าครู่นั้น  ทำให้แกยอมปลุกลูกสาวตัวน้อยขึ้นมาแต่โดยดี

เด็กหญิงตัวกลมหาวหวอดๆ  ในอ้อมแขนยังกอดตุ๊กตานางฟ้าที่พี่คุณชายฝากพี่จ้อยเอามาให้  ตาปรือแทบปิด  ถ้าไม่ได้มือใหญ่จับจูงนำทางคงสะดุดล้มหัวปักพื้นไปแล้ว 
   
จู่ๆ พี่สิงห์ก็หยุดกึก  น้ำฝนเดินไม่ดูเลยชนขาพี่สิงห์ดังตุบ  ตอนนั้นเลยเพิ่งรู้ตัวว่าพี่สิงห์พามาใต้ต้นมะม่วงที่น้ำฝนชอบมาปีนเล่นบ่อยๆ  พี่สิงห์ย่อตัวลงจับไหล่น้ำฝนไว้แน่นเชียว   

“น้ำฝนรักพี่จ้อยไหม” พี่สิงห์ถามแบบนี้  น้ำฝนตาสว่างเลย  รีบพยักหน้าหงึกหงัก  มันแน่อยู่แล้ว  รองจากพ่อแม่  น้ำฝนรักพี่จ้อยที่สุด  ถึงพี่คุณชายจะหล่อกว่า  แต่พี่คุณชายก็มาทีหลังพี่จ้อย

ว่าแต่พี่สิงห์จะกระซิบทำไมนะ

“พี่จ้อยอยู่ตรงโน้น  เห็นไหม” เขาชี้มือไปทางกอมหาหงส์ที่น้ำฝนชอบแอบไปยืนดม  มันหอมดี  แต่แม่ว่าตลอด  บอกว่าดมดอกไม้จากต้นเดี๋ยวได้ผัวแก่  แต่น้ำฝนว่าถ้าแก่กว่าซัก ๑๒ ปีอย่างพี่จ้อยก็ไม่เป็นไรหรอกแม่จ๋า
   
“น้ำฝนไปหาพี่จ้อยนะ  พาพี่จ้อยไปนอนบนบ้าน  ไปนอนในห้อง” หือ  ผีเข้าพี่สิงห์หรือเปล่า  วันนี้ไหงเสียงอุ่น..อ่อนโยนจัง.. ปกติออกจะเสียงดัง  เอะอะมะเทิ่ง  ชอบดุชอบตวาดอยู่เรื่อย
   
ว่าแต่น้ำฝนไม่เข้าใจเลยว่าพี่จ้อยไปอยู่ตรงนั้นทำไม  เล่นซ่อนแอบกันหรือ  แม่เคยบอกว่าเล่นซ่อนแอบตอนกลางคืนผีจะลักตัวไปซ่อนนี่นา  พี่จ้อยนี่เล่นไม่เข้าเรื่องเลย
   
“ถ้าพี่จ้อยจะให้หนูนอนด้วย  หนูก็นอนเป็นเพื่อนพี่จ้อยนะ  แล้วบอกพี่จ้อยว่า.. คืนนี้พี่สิงห์ไม่กลับบ้าน  ไม่ต้องห่วง  ไม่ต้องกลัวนะ”
   
น้ำฝนคงทำหน้าเป๋อเหลอน่าดูชม  พี่สิงห์ถึงได้ถามย้ำ “รักพี่จ้อยไหม” น้ำฝนพยักหน้าอีกที 
   
“งั้นทำอย่างที่พี่บอก  นะ”

พี่สิงห์ดึงตัวน้ำฝนไปกอดไว้  กอดแน่น.. แน่นจนน้ำฝนแทบหายใจไม่ออก 
   
เอ.. หยดอะไรมันร่วงลงไหล่เผาะๆ

“ฝากกอดของพี่ไปกอดพี่จ้อยด้วย  กอดพี่จ้อยแทนพี่ที” พี่สิงห์กระซิบอยู่ข้างหู  เอ..เป็นหวัดหรือเปล่า  เสียงถึงขึ้นจมูก  พี่จ้อยเอาไข้มาติดพี่สิงห์ซะละม้าง
   
“แล้วพี่สิงห์ไม่รักพี่จ้อยหรือ” น้ำฝนถามบ้างตอนเขาคลายอ้อมกอดออก  เห็นตาฉ่ำๆ แดงๆ ในแสงจันทร์สลัวๆ 
   
“รัก..” พี่สิงห์ยิ้ม  แต่ทำไมน้ำฝนรู้สึกว่ามันเศร้าจัง 
   
“ทำไมไม่กอดเอง  กอดหนูไม่อุ่นหรอก” 
   
พี่สิงห์นิ่งไปนิดนึง  น้ำฝนถามอะไรผิด  “แต่พี่กอดพี่จ้อยไม่ได้.. กอดไม่ได้..” เขาสูดจมูกฟืด  ก่อนรุนหลังน้ำฝน “ไปเร็ว  ยุงกัดพี่จ้อยแย่แล้ว  อย่าบอกพี่จ้อยนะว่าพี่อยู่ตรงนี้” 

จากตรงนี้.. โคนมะม่วงใหญ่ใบดกครึ้ม  สิงห์แอบมองเด็กหญิงเดินไปหาจ้อยจากตรงนี้  เห็นจ้อยสะดุ้งเมื่อมือเล็กแตะไหล่  หากพอรู้ว่าเป็นใครก็คว้าเข้าไปกอดแน่น  ร้องไห้โฮ 
   
เขาได้แต่เฝ้ามองด้วยใจร้าวราน 

สิงห์ได้แต่เฝ้ามองเงียบเชียบเหมือนกาฝากเกาะต้นมะม่วง  เฝ้ามองน้ำฝนจูงมือจ้อยขึ้นเรือนไป  เสียงสะอื้นค่อยๆ แผ่วหาย  แสงโคมไฟสว่างเล็ดลอดจากบานหน้าต่างห้องทิศตะวันออก     
   
เขานั่งอยู่ ณ ตรงนั้น  เงยหน้าขึ้นมองจันทร์เสี้ยวเกี่ยวแขวนบนฟากฟ้า  ขอบตาระบม  หัวใจระทม

ขอแค่เพียงสักคราวได้ไหม  ที่จันทร์จะทอแสงมา  แม้รู้ดีว่ามันคงไม่ได้ช่วยอะไรมาก  แต่อย่างน้อยอาจทำให้น้ำตาอุ่นขึ้น


รอหัวใจเจ็บน้อยลง


ติดตามต่อครึ่งหลังจ้า
__________________________________________________________________
* ดอกหญ้า, ชาลี อินทรวิจิตร คำร้อง, สุเทพ วงศ์กำแหง ขับร้อง
**เกษมสุข บุณยมาลิก



บ้าจริง.. เขียนตอนนี้ไปน้ำตาไหล  “แม้เรามาจากดิน  เกิดจากที่ต่ำ  แต่วิชาความรู้และคุณงามความดีจะทำให้เราชูช่อขึ้นไป” วรรคนี้แอบเอาคำสอนของพ่อมา พอเขียนถึงก็เลยคิดถึงพ่อ  (พ่อเราไม่อยู่แล้วค่ะ T_T)

แล้วเขียนๆ ไป  ชักเริ่มสงสารหนูจ้อยขึ้นมาตะหงิดๆ แล้วซี (ที่ผ่านมาไม่เคยสงสารเลยว่างั้น =..=) เอางี้นะเด็กๆ เหตุการณ์ต่างๆ มันก็ต้องดำเนินไปตามครรลองอ่ะนะ  แต่เดี๋ยวพอบทพวกเอ็งจะหวานกัน  แม่เอ็งจะเขียนให้สวีทหยดมดชักแถวเลยเอ้า (ตบเข่าฉาด) จริงๆ นะ ให้ดิ้นตายเถอะ  ปล. รออีกหน่อยนะพวกเอ็ง (คนอ่านด้วยนะจ๊ะ^__^)

รักคนอ่านเหมือนถ่านรักเตา ฮิ้ววว  :-[

ดอกไม้
๙ ธ.ค. ๕๕
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-12-2012 23:35:41 โดย ดอกไม้ »

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
สิงห์เอ๊ยยย.....ทำเขาไว้ขนาดนั้นก็ต้องทำใจนะ ขอให้แผลกายแผลใจจ้อยหายไวๆ

ปล.คิดถึงคุณชายจังค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด