hello! SUNSHINE [ตะวันร้าย..ที่รัก]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณปลื้มตัวละครไหนมากที่สุด?

ซันนี่
ซินเซียร์
ไอ้เอี้ยฟ้า
ไอ้บ้ากาย
อิเมย์บี

ผู้เขียน หัวข้อ: hello! SUNSHINE [ตะวันร้าย..ที่รัก]  (อ่าน 1235497 ครั้ง)

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
:mc4: :mc4:กลับมาอ่านได้แล้วคอมเสียไปหลายวันเลยอะ :z2: :z2:


ดีใจจังที่ฟ้าไม่โกรธซันนี่อะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:


รออ่านจ้า :bye2: :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1

ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 747
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
ดีกันแล้ว  กีใจด้วยนะ

อ่านแล้ว มีความสุขดี

ว่าแต่ โคเนโร  มาทำไมละนี้

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
โคเน่ แกจะมาเพิ่มดราม่าชามโตหรือเปล่า  ถ้าคำตอบคือใช่  กลับบ้านแกไปเดี๋ยวนี้เลยนะะะะะะะะ !!!


มานะ เมื่อไหร่จะฟื้นนนนนนนนน เมื่อไหร่จะหายยยยย ตื่นเร็วๆๆเถอะนะ ได้โปรด 
ไม่งั้นหมอเคอิไม่มีคนทะเลาะด้วยนะ :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
เฮ้อ!!!  โล่งอก

สู้ๆต่อไปนะทั้งสองคน  ประคองความรักให้ไปตลอดรอดฝั่งนะจ๊ะ

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ฟ้าเรื่องที่ฟ้าจะพูดคือเรื่องหลังเนี่ยนะ ฟ้าน่ารักมีการเรียกตัวเองตามที่ซันนี่เรียกอีก มานะฟื้นเร็ว ๆ นะ โคเนโรนี่ยังไง

ออฟไลน์ savada

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
55555555+   นึกว่าจะดราม่าต่ออีกตอน  เหอๆๆๆ

แต่ฟ้าก้คือฟ้า  ไม่รักตะวันแล้วจะไปรักใคร  5555+


แต่แบบอยากเปลี่ยนคู่ซินไปเคลียร์กะไท่หลัน  55555+


(ME// สกายกระโดดขาคู่  555555+)

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
ตามอ่านจนทันแล้ว หลงรักซินสุดลิ่มทิ่มประตู
ซินรักซันมากเลยอภัยและตามใจหมดทุกอย่าง
สงสารกับอดีตของซินจริงๆ บอบช้ำทั้งที่ไม่ใช่ความผิดตัวเอง

ออฟไลน์ กล้วยปั่น

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
มานะ รีบตื่นขึ้นมาเร็วๆน๊าาา

ซินไม่เป็นไรแล้วดีใจจัง

ลูกเป็ดกับแม่เป็ด น่ารักที่สุดเลยยย


 :pig4:

topperha

  • บุคคลทั่วไป
 :n1:

เย้ คืนดีกันแล้ว นึกว่าม่าม่าจะท่วมจอ
แต่โคเน่โร่มาทำไรอะ
อยากรู้มากๆ

 :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
อยู่กับเรื่องนี้มานาน ผูกพันและไม่อยากให้จบเลย ฮื่อออออ
พี่ฟ้าน่ารักตลอด
ชอบคำพูดที่บอกว่าฟ้าจะตาย อ๊ายยยน่ารักน่าชังจริง
แอบเจ็บปวดรงที่บอกไปตอนที่หลับ
อ๊ากกกก>< มันตึบๆในหัวใจเล็กน้อย
น่าสงสารพี่ฟ้ามาก มีความสุขันแบบนี้น่ะดีแล้ว
อยากให้ซินกับมานะหายไวๆ แล้วเราจิพับนกใส่ขวดอธิฐานให้นะ

ออฟไลน์ warnana001

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่ารัก~ ดีกันแล้วๆ :-[
ลูกเป็ดน่ารัก คืนดีกันแบบแปลกๆเนอะ?
ทำเอาใจแป่วไปเลยตอนกุมมือ แต่...แมลง..ดันมาอยู่ที่หลังเอาดึงมือกลับเพื่อไป..เกา? :a5: :a5:
ช่างมันเต๊อะ~ ว่าแต่โคเน่จัง มีเรื่องอะไรถึงมันยืนดูคนเขากำลังสวีทกัน? น่าสงสัยๆ :m16:

missmemory

  • บุคคลทั่วไป
 o13น่ารักสุดๆๆ เลยเรื่องนี้หลงรักตัวละครทุกๆคนเลยค่ะ   หลงรักในทุกๆตัวละครที่มีสีสันต่างกัน  แต่ก็มารวมกันได้  โดยเฉพาะฟ้าประทานอึนๆมึนๆแต่แรงงงได้ใจยิ่งเวลาจู่โจมแต่ละทีซันนี่ไปไม่เป็นเลย  อ่านมาได้ยังไม่ถึงครึ่งแต่บอกได้เลยจองด่วนจ้า   โชคดีมากค่าที่พึ่งเข้ามาอ่านช่วงเปิดโอนพอดี  เพราะถ้าเข้ามาอ่านตอนปิดโอนแล้วคงเสียดาย  ทึ่ไม่ได้มาเก็บไว้  เดี๋ยวโอนเงินไปให้นะค่า  เดินผ่านตู้ทีไรพึ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมบัตรทุกทีผ้สุดยอดจริงคิดมาได้แต่อย่างฮามากจนปวดแก้มเลยค่ะ

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

pangfullny

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4

ออฟไลน์ Nuclear

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
โอเคเจ้าค่า

ข้าน้อยรับทราบ!!!!  :กอด1:

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
รับทราบค่าาาา แต่ช่วงนี้ทำกิจกรรมที่มหาลัยกลับดึกมากกกกลัวพลาดโอกาสจัง :serius2:

ออฟไลน์ khuan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 353
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ทราบ....

และรอคอยตอนต่อไป

คิดถึงซันนี่........

ออฟไลน์ my pumpkin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอ~~~~ อยากได้ เอี้ยฟ้า!!! >< //ป๊าบ!!! โดนซันนี่โบกหัวทิ่ม T^T

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ๛゙★βra_11!☆゙

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-1
น้องเป็ดเอี้ยฟ้าน่ารักมากกก
 :กอด1:

ออฟไลน์ keelover

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

parkjaewon

  • บุคคลทั่วไป
ส่งเมล์จองไปวันที่25 แต่ยังไม่ได้รายละเอียดการโอนเลยค่า
ช่วยเช็คหน่อยน้า กลัวไม่ทัน  :sad11: :sad11: :sad11:

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
อ่านหลายว้นเลยครับกว่าจัทัน

หลายอารมณ์มากครับ.......สนุก

แล้วจะต้องไปแดนมักโรนีหรือเปล่า

ใครจะไปเฝ้าพระผู้เป็นเจ้าก่่อนกัน

happy or sad ending ครับ

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
Chapter 42 หนีตามกัน?







“โคเนโร..”


“Ciao~..” เจ้าของชื่อยกมือทักทายสไตล์อิตาเลี่ยนด้วยท่าทางสบายๆ ก่อนจะกระโดดลงมาจากที่ที่นั่งอยู่ แล้วเดินมาหาพวกเรา เขาทำหน้าตากึ่งทึ่งกึ่งล้อเลียนตอนพูดประโยคหลัง “ไม่คิดเลยนะว่าเรื่องมันจะจบสวยแบบนี้ได้ ว้าว~”


“หมายความว่าไง? แล้วทำไมคุณถึงไปอยู่ตรงนั้น?” ผมถามด้วยความแปลกใจ ขณะที่คนข้างกายยืนนิ่งเงียบไม่คิดจะปริปากใดๆ


“ผมขึ้นมานั่งรับลมน่ะ..” เขาเหล่ตาไปทางฟ้านิดนึง ก่อนดึงสายตากลับมาที่ผมแล้วพูดต่อยิ้มๆ “..ไม่คิดว่าจะมีคนมาโชว์หวานให้นึกอิจฉากันถึงบนนี้”


ผมถึงกับทำหน้าไม่ถูก กำลังนึกย้อนความจำว่าเมื่อกี๊เผลอโชว์ไปแล้วกี่ช็อต เหอๆ


“ว่าแต่คุณสบายดีนะ ซันนี่?” โคเนโรถาม


“ก็ดี.. แล้วคุณล่ะ?” ผมถามกลับตามมารยาท


“ก็ดีเหมือนกัน” อีกฝ่ายตอบยิ้มๆ “แล้วผมก็หวังว่าพี่ชายของคุณจะดีขึ้นในเร็ววันนี้ด้วย”


“ขอบคุณ ..ผมก็หวังอย่างนั้น” ผมบอก ..ท่าทางโคเนโรคงจะรู้เรื่องที่เกิดกับพวกเราหมดแล้วสินะ


“แล้วนายล่ะ ไม่คิดจะทักทายพี่ชายคนนี้หน่อยรึไง ฟาฟา?” แล้วโคเนโรก็เปลี่ยนไปพูดภาษาไทยแปร่งๆ กับคนข้างกายผม “เลิกทำเป็นไม่รู้จักกันได้แล้วน่า พี่ชายก็เจ็บปวดใจเป็นนะ”


“..........” นอกจาก ‘ฟาฟา’ จะไม่ยอมเอ่ยปากทักทายอย่างที่ ‘พี่ชาย’ ต้องการแล้ว ‘ฟาฟา’ ยังหันหน้ามึนๆ หนีไปมองนกมองเครื่องบินทางอื่นด้วย ..เล่นเอา ‘พี่ชาย’ ถึงกับคิ้วกระตุก เขาคำรามขัดใจในลำคอเบาๆ ก่อนจะยิ้มพรายออกมาเหมือนเพิ่งคิดแผนการชั่วได้


ช่ายยย แผนการของ ‘พี่ชาย’ ช่างชั่วได้ใจจริงๆ เลย ไม่เชื่อก็ลองฟังสิ


“หันแบบนี้แสดงว่าอยากให้พี่ชายดีดหูนาย” พูดจบก็ยกมือเตรียมจะดีดหู ‘ฟาฟา’ หน้ามึนทันที


“อย่านะ!”


แล้ว ‘ฟาฟา’ น้อยก็ดันเสือกมีรีแอ็คชั่นกับคำขู่โหดสัสนั่นอย่างไม่น่าเชื่อ! เขารีบร้องห้ามพร้อมทั้งยกมือปิดหูของตัวเองไว้เอาแน่น ไม่ยอมให้ ‘พี่ชาย’ ใจร้ายมาทำอันตรายติ่งหูหนูได้เป็นอันขาด! ...โหยยยย ปัญญาอ่อนสัสทั้งพี่ทั้งน้องเหอะ!!


ผมได้แต่ยืนมองสองพี่น้องจากดาวดวงอื่นด้วยความรู้สึกที่ทั้งอึ้งทั้งทึ่ง คือแบบ...ต่อให้หน้าพวกมันไม่ต้องหน้าเหมือนกันขนาดนี้ ผมก็เชื่อหมดใจนะว่าเป็นพี่น้องกันจริงๆ ..หึยยยย แล้วไอ้ ‘ฟาฟา’ นี่มันอะไรวะครับ? ชื่อเล่นมิติที่สี่ของมึงเรอะ ฟ้า? น่ารักเกินตัวไปหรือเปล่า?


“เอามือออก” โคเนโรออกคำสั่งทั้งยังตั้งท่าจะดีดหูคนเป็นน้องให้ได้ ดวงตาสีเทาซีดมีประกายวิบวับของความสนุกที่ได้แกล้ง


“ไม่!” ขณะที่คนถูกแกล้งเริ่มเดินหนีโดยใช้มือที่ใช้การได้แค่ข้างเดียวปิดหูที่มีอยู่สองข้างสลับไปมา ..ตอนนั้นแหล่ะที่ผมเพิ่งจะเอะใจว่ามือซ้ายของฟ้ามีผ้าพันแผลพันอยู่


เป็นอะไร? ตั้งแต่เมื่อไหร่? ..จริงๆ ก็เห็นตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วหรือเปล่า?


“ฟาฟา” คนเป็นพี่ยังเดินตามไปราวีน้องไม่เลิก


“ไม่!”


เอิ่ม... แล้วตกลงไอ้สองพี่น้องนอกกาแล็กซีนี่มันมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่วะ? ..ก่อนหน้านี้ผมก็แอบคิดนะว่าสองคนพี่น้องคงไม่ลงรอยกันเท่าไหร่ ทั้งท่าทางที่ดูห่างเหิน(ของฟ้า) ทั้งสถานะที่ถูกจับให้ต้องมาเป็นคู่แข่ง(ชิงตำแหน่งผู้นำ)กันเอง ไหนจะเป็นลูกที่มาจากคนละแม่อีกล่ะ ..ผมก็เลยอดคิดไม่ได้ว่าพวกเขาคงไม่ใช่พี่น้องที่สนิทสนมหรือรักกันดีเท่าไหร่หรอกมั้ง? แต่พอมาเห็นแบบนี้มันก็ ..ไม่รู้สินะ บางทีผมอาจจะมองโลกในแง่ร้ายเกินไปก็ได้


“ซันนี่..” หลังจากเดินวนบนดาดฟ้าจนครบหนึ่งรอบถ้วน ฟ้าประทานก็มาแอบหลบอยู่ด้านหลังผมเหมือนต้องการให้ช่วย


“อะไรกันๆ ..เดี๋ยวนี้นายรู้จักขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเป็นแล้วเหรอ?” โคเนโรหยุดยืนมองด้วยสีหน้าประหลาดใจ เขาเลิกคิ้วน้อยๆ ขณะมองน้องชายที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังผม “ถ้าเป็นเมื่อก่อน.. ไม่ว่าจะถูกแกล้งแค่ไหนนายก็ไม่เคยขอให้ใครช่วย ไม่วิ่งไปฟ้อง แถมยังไม่ร้องซักแอะ ..จนพี่ชายหลงนึกว่านายคงออกมาจากโรงงานทำตุ๊กตา มากกว่าจะเป็นท้องของแม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ ซะอีก”


ฟ้าประทานไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่ขยับเข้ามาชิดผมมากกว่าเดิมเหมือนอยากจะซ่อนให้พ้นจากคนขี้แกล้ง ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาเป่ารดต้นคอผมแล้วตอนนี้


“แต่ยังไงก็เหอะ.. คิดว่าซันนี่จะ..” 


“ซันชายน์!!” ฟ้าโพล่งขึ้นก่อนที่คนเป็นพี่จะทันได้พูดจบประโยค เขายื่นหน้าออกมาเถียงพี่ชายแบบเนิบๆ โดยเอาคางเกยไว้บนไหล่ของผม “สมองเสื่อมรึไง? บอกไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าซันนี่ชื่อ ‘ซันชายน์’ ไม่ใช่ ‘ซันนี่’ ..อย่ามาเรียกซันนี่ว่า ‘ซันนี่’ อีก เพราะซันนี่ไม่ชอบ!”


เอิ่ม.. ผมคิดว่าโคเนโรคงไม่ได้สมองเสื่อมหรอก แต่เขากำลังจะเป็นเอ๋อก็เพราะการสื่อสารของ ‘ฟาฟา’ น้องรักนี่ล่ะ! ..โหยยยย มึงจะพูดย้ำพูดซ้ำซ้อนไปไหน?


“ใช่มั้ย? ซันนี่ไม่ชอบเนอะ..” พอบอกพี่ชายจบก็เปลี่ยนมากระซิบกระซาบ(ให้ได้ยินกันทั้งสามคน)ข้างหูผมอีก


ว่าแต่.. มึงรู้เหมือนกันเหรอว่ากูไม่ชอบน่ะ ฟ้า? เพราะแรกเริ่มเดิมทีกูก็เห็นมึงเรียกงี้มาตลอดเลยนะ นึกว่าที่พูดๆ ด่าๆ ไปนั่นจะไม่เคยซึมผ่านกะโหลกเข้าไปเลยซะอีก เหอๆ


โคเนโรกระพริบตาปริบๆ คิ้วขมวดแน่นจนแทบจะเป็นปม มือเกาหัวแกรกๆ อย่างคนหาทางออกให้แก่ชีวิตไม่ได้ “หือ?” แต่แล้วจู่ๆ เขาก็สะดุ้งตัวนิดๆ เหมือนถูกบางอย่างจู่โจม ก่อนจะควักโทรศัพท์เครื่องบางในกระเป๋ากางเกงสกินนี่เดฟฟิตเปรี๊ยะไม่แพ้น้องชายออกมาดู ..เจ้าของโทรศัพท์ย่นคิ้วเล็กๆ ขณะมองหน้าจอ อาจจะมีสายเรียกเข้าหรือข้อความผมก็ไม่ทราบได้ เห็นทางนั้นเพียงเขี่ยๆ จิ้มๆ นิ้วอยู่ไม่กี่ครั้งก็เก็บมันยัดลงกระเป๋ากางเกงตามเดิม


“หมดเวลาสนุกแล้วสิ” โคเนโรเงยหน้าขึ้นมาพูดแปลกๆ พร้อมทั้งยิ้มประหลาดๆ ให้น้องชายที่ยังยืนเอาคางเกยไหล่ผมไว้ไม่ไปไหน แต่ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่กระตุกไปห้วงหนึ่งของคนข้างหลัง จะหันไปมองให้แน่แก่ใจจมูกเจ้ากรรมก็ดันไปฝังลงบนแก้มขาวอมชมพูที่อยู่ใกล้เกินไปพอดี(ก็อยู่บนไหล่นี่นะ)


!.. หลังจากต่างคนต่างชะงักไปนิด ฟ้าก็ดีดตัวออกห่างไปราวก้าวเศษ มือซ้ายกุมแก้มข้างที่โดนจมูกผมเอาไว้ เบ้ปากพลางพูด “ฉวยโอกาสอ่ะ”


“...!!...” ผมงี้แทบอยากจะเสยอัปเปอร์คัทเพราะความหมั่นไส้ ..แต่ดีที่ยั้งใจเอาไว้ทัน เห็นแผลเต็มตัวซะขนาดนั้น เลยไม่อยากจะซ้ำเติมผู้ประสบภัย เดี๋ยวจะหาว่าใจร้ายเกิน ..แต่ แหมนะมึง ท่าทางสะดิ้งได้อีก กูดูชั่วไปเลยงานนี้ หึยย.. อยากจะลองดีดหูมันจริงๆ ให้ดิ้นตาย!


“อ๋อ.. ที่แท้ซันนี่ขี้ฉวยโอกาสแบบนี้นี่เอง” โคเนโรที่ยืนสังเกตการณ์มาครู่หนึ่งร้องขึ้นเบาๆ พยักหน้าหงึกๆ กับตัวเอง “ฟาฟาของผมก็เลยพลาดท่าเสียทีสินะ”


“เฮ้ย คุณ..!!” ผมได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ไม่รู้จะพูดจะอธิบายด้วยคำไหนดี ข้อสรุปจากมุมมองของบุคคลที่สามทำเอาผมอึ้งจนไปต่อไม่เป็น ..ตรงไหนที่ทำให้คิดแบบนั้นวะเฮ้ย?! ใครกันแน่ที่พลาดท่า? ใครกันแน่ที่เสียที? แล้วที่สำคัญ..ใครมันขี้ฉวยโอกาสวะ ไอ้บ้า?! พูดแบบนี้ผมเสียหมานะ! ให้ตายเหอะ!


“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” แล้วสองพี่น้องจากนอกโลกก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกันจนลั่นดาดฟ้า


ผมซึ่งยืนอยู่ตรงกลางเอ๋อแดกอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะสำนึกได้ว่าถูกไอ้บ้าสองตัวมันหลอกปั่นหัวเข้าให้แล้ว


“Shut your ass!!” ผมตะโกนขึ้นอย่างหัวเสีย ก็มันเรื่องอะไรถึงมาเห็นผมเป็นตัวตลกเล่า? เดี๋ยวปั๊ดเตะตกดาดฟ้าทั้งพี่ทั้งน้องเลยนี่ ฮึ่ย!


“Yes, sir!!” พี่น้องต่างดาวรับคำจริงจังหนักแน่นและพร้อมเพียง ก่อนจะหุบปากแบบทันทีทันใดแล้วกลับมาทำหน้าไร้อารมณ์ตามเดิม เล่นเอาผมไปไม่เป็นอีกรอบ ..คือ..พวกมึง..เหมือนกันจนน่ากลัวไปแล้วนะกูว่า..


“..........” ผมไม่รู้จะว่าไงต่อก็เลยได้แต่ตวัดสายตาเขียวปั้ดมองพวกนั้นสลับกันให้รู้ว่า..กูเคืองนะ ชิชะ!


“เออ จริงสิ” สองคนนั้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วหันไปเปิดหัวข้อใหม่คุยกันด้วยหน้าตาเป็นงานเป็นการแบบเนียนๆ เลย ..ให้ตายสิ


“ตกลงเรื่องที่เคยเกริ่นไว้กันก่อนหน้านี้ นายจะเอาไง?”


“..........” ฟ้าประทานตอบกลับภาษาไทยไม่รื่นหูของพี่ชายด้วยภาษาอิตาเลี่ยนหน้าตาเฉย


?.. ทำเอาผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะกิดใจ ก็หมอนั่นทำราวกับไม่ต้องการให้ผมร่วมรับรู้ด้วยงั้นแหล่ะ ..กำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่นะ?


คำตอบของฟ้าทำให้คนถามเหลือบมาทางผมนิดนึง ก่อนถามต่อ “แน่ใจแล้วเหรอ?”


คราวนี้ฟ้าเพียงพยักหน้าแทนคำตอบ


“แค่ครั้งแรกก็มีปฏิกิริยาขนาดนี้แล้ว ..แล้วครั้งต่อๆ ไปล่ะ? แน่ใจได้เลยว่ามันจะต้องเกิดขึ้นอีก และมีแต่นายเท่านั้นแหล่ะที่จะเจ็บมากขึ้น ..คนธรรมดาน่ะมีขีดจำกัดความอดทนต่างจากนายเยอะนะ อย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานสิ”


“..........” ผมพยายามจะมองสบตากับฟ้าขณะที่เขาพูดตอบโต้กับพี่ชาย เพราะผมรู้สึกว่าพวกเขากำลังพูดเรื่องที่อาจจะเกี่ยวกับผม..หรือเปล่า? ผมเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี แต่ก็เหมือนว่าฟ้าจงใจทำเป็นมองไม่เห็นสายตาของผม


“หึ นายก็แค่อยากจะเชื่ออย่างนั้น.. นายหลอกตัวเอง เพื่อที่ว่านายจะได้ไม่ต้องรู้สึกว่าตัวเองนั้นโดดเดี่ยวจนเกินไป แต่ความจริงก็คือนายมันหัวเดียวกระเทียมลีบมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ..แต่เอาเหอะ นั่นมันก็เรื่องของนาย พี่ชายไม่ได้ใส่ใจอยู่แล้ว ประเด็นที่อยากจะรู้ตอนนี้ก็คือ...นายจะไม่กลับไป?”


กลับไป? หมายถึงกลับไปอิตาลีน่ะเหรอ? ...เมื่อพึ่งใครไม่ได้ผมก็เลยต้องมายืนปะติดปะต่อเรื่องราวเอาเองจากคำพูดของโคเนโร
ฟ้าพยักหน้าอีกครั้ง..


โคเนโรมองน้องชายเหมือนกำลังชั่งใจ ก่อนจะส่ายหัวและถอนหายใจออกมาในที่สุด “พี่ชายนึกว่านายจะฉลาดกว่านี้ซะอีก ..สงสัยจะประเมินกันสูงเกินไปจริงๆ”


“..........” ฟ้าพูดอะไรบางอย่างออกไปเป็นภาษาอิตาเลี่ยน แต่ยังไม่ทันจบประโยคดีคู่สนทนาก็รีบส่ายหน้าไม่เห็นด้วยแล้ว


“มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่านายต้องการอะไร มันขึ้นอยู่กับว่าคนพวกนั้นต้องการอะไรต่างหาก ที่ผ่านมามันยังไม่ชัดพออีกเหรอ? ไม่ว่านายจะเปลี่ยนนามสกุลไปอีกกี่สิบนามสกุลมันก็ไม่อาจลบล้างความเป็นแบร์ลุสโคนีในตัวของนายได้หรอก เลือดต้องสาปมันวิ่งอยู่ทั่วร่างของนาย และมันจะกระชากนายกลับมาทุกครั้งที่คิดจะตีจาก.. กับครั้งนี้ก็เหมือนกัน.. ไม่ว่านายจะยอมสละหรือไม่สละสิทธิ์ที่มีอยู่ในตระกูล..มันก็ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร เพราะไม่มีใครคิดจะฟังนายอยู่แล้ว”


“..อย่าสำคัญตัวเองผิดนักเลย ตอนนี้นายก็ไม่ต่างอะไรกับเบี้ยตัวหนึ่งบนกระดานหมากหรอก ดีหน่อยก็อาจจะถูกแต่งให้เป็นม้า เป็นควีน เป็นคิง.. แต่หมากก็คือหมากวันยันค่ำ จะหันซ้ายหันขวาก็ต้องเป็นไปตามแต่ใจของคนเล่น ..ถ้านายอยากไปตามใจตัวเอง อยากให้ทุกคนเลิกเข้ามายุ่มย่ามบงการชีวิตนาย นายก็ต้องเลิกทำตัวเป็นเพียงหมาก แล้วพลิกบทบาทขึ้นมาเป็นคนเล่นเกมกระดานนั้นซะเอง นายต้องอยู่เหนือทุกคนให้ได้ ..ถึงตอนนั้นแล้วทุกอย่างก็จะเป็นไปตามที่นายต้องการ” โคเนโรพูดแบบนั้นพลางเดินไปเกาะกำแพงดาดฟ้าแล้วแหงนหน้ามองก้อนเมฆขมุกขมัวด้านบน 


“อำนาจจะบันดาลทุกสิ่งให้นาย ..แต่ของพรรค์นั้นมันไม่เคยวิ่งมาหาใคร ถ้าอยากได้นายต้องไปไล่จับมันเอาเอง”


ฟ้าประทานนิ่งเงียบคล้ายกับว่าเขากำลังคิดตามในสิ่งที่คนเป็นพี่พูด..


“ลองคิดดูให้ดีแล้วกัน..” คนพูดหันกลับมามองคู่สนทนา เขายืนเอาหลังพิงกำแพงด้วยท่าทางสบายๆ “..แค่ตัวนายน่ะรอดแน่ พี่ชายรู้.. นายเคยบอกกับพี่ชายเองนี่ว่ายังไงนายก็ต้องรอด นายจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ทุกคนได้เห็น นายสัญญากับแม่ของนายไว้แบบนั้นใช่มั้ย? ..แต่มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ ถ้านายรอด แต่คนรอบๆ ตัวนายค่อยๆ หายไปจนหมด?”


“...........” ฟ้าพูดบางอย่างด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูหนักแน่นพอควร แต่คนฟังกลับหัวเราะราวกับได้ยินเรื่องตลก


“ฮ่ะๆๆ ละเมออยู่หรือไง เจ้าหนู? ลำพังหัวของตัวเองนายยังแทบไม่มีปัญญาจะดูแลรักษาเองด้วยซ้ำ ยังกล้าคิดจะไปปกป้องใครเขาอีก? ..ตลอดมานายก็ดีแต่ให้คนอื่นปกป้องทั้งนั้น ทั้งแม่นาย น้านาย แล้วรายล่าสุดนี่เป็นไง?บอดีการ์ดที่แสนสำคัญของนาย หมอนั่นจะมีโอกาสฟื้นขึ้นมาอีกมั้ยก็ยังไม่มีใครรู้”


“..จนถึงตอนนี้นายน่าจะได้เรียนรู้อะไรบ้างแล้วนะ” โคเนโรยืดตัวขึ้นตรงอีกครั้ง เขาเดินเอามือล้วงกระเป๋ามาหยุดยืนหันข้างต่อหน้าฟ้า เอามือข้างหนึ่งไปวางบนไหล่ของฟ้า แต่ตากลับมองตรงไปทางประตูที่อยู่ห่างออกไป “นายหนีมานานเกินไปแล้ว ฟาฟา.. อย่างน้อยถ้าไม่อยากจะเสียใครไปอีก...นายก็น่าจะเริ่มลงมือทำอะไรให้มันเป็นเรื่องเป็นราวซักที”


โคเนโรตบไหล่ฟ้าสองสามครั้ง ก่อนจะเดินไปทางประตู แต่จู่ๆ ก็หยุดชะงักเท้า แล้วหันกลับมาพูดยิ้มๆ “อ้อ.. แต่มันคงไม่ง่ายนักหรอกนะ หากนายอยากจะไปให้ถึงจุดนั้นจริงๆ ..เพราะพี่ชายเองก็มีสิ่งที่ต้องการ..และจำเป็นจะต้องอยู่เหนือทุกคนให้ได้เช่นกัน หึหึ”


“มันคงถึงเวลาที่เราจะต้องแข่งกันแบบจริงจังแล้วล่ะนะ น้องชาย” ว่าแล้วโคเนโรก็หันหลังกลับแล้วเดินต่อ เขายกมือโบกเป็นเชิงล่ำลากับผมโดยไม่ได้หันมามอง “ลาก่อน ซันนี่.. คิดว่าเราคงไม่ได้เจอกันอีก ยังไงก็ขอให้คุณโชคดีนะ”


“..........” โคเนโรหายไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงผมกับฟ้าและความเงียบท่ามกลางสายลมที่พัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามสภาพอากาศที่เริ่มแปรปรวนเท่านั้น


“..........” ยิ่งทิ้งช่องว่างไว้นานเท่าไหร่ ความอึดอัดใจก็ยิ่งแทรกซึมเข้าสู่ห้วงอารมณ์ของเราทั้งคู่มากเท่านั้น


จนในที่สุดผมก็ทนเงียบต่อไปอีกไม่ไหว จึงเริ่มเปิดปาก “ฟ้า..// ซันนี่..” ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่อีกฝ่ายก็นึกอยากจะเปิดปากพอดี เราต่างคนต่างเลิกคิ้วมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ


แต่ครั้งนี้ผมจะไม่เกี่ยงให้ฟ้าพูดก่อนอีกแล้ว ผมตัดสินใจพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกไป “อย่าไปนะ // ไปด้วยกันมั้ย?” และเป็นอีกครั้งที่ฟ้าเองก็ตัดสินใจพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดเช่นกัน


“ไปไหน?” ผมรีบถามต่อทันที


ที่ผมพูดเมื่อกี๊เพราะผมไม่อยากจะเสียฟ้าไป ผมไม่รู้ว่าเขาจะไปแล้วไปลับหรือเปล่า? ผมไม่รู้ว่าเขาไปแล้วจะกลับมาหาผมไหม? ..ผมไม่อยากจะถูกทิ้งเอาไว้ ..ผมกลัว.. เพราะงั้นก็เลยพูดจาเอาแต่ใจ ..ใช่ ผมเอาแต่ใจตัวเองอีกแล้ว นิสัยเสียนี้คงแก้ไม่หายแล้วล่ะ ..แต่ฟ้าเป็นคนบอกเองนี่ว่าเขาจะไม่ไปไหน ต่อให้ผมไล่เขาก็จะไม่ไป งั้นผมก็มีสิทธิ์ใช่ไหม? มีสิทธิ์ที่จะทวงถามหาสัญญา..?


“ไปไหนก็ได้..” ฟ้าพูดเรียบๆ แต่แววตาของเขาเหมือนกำลังคาดหวังอะไรบางอย่างจากผม “ที่ที่จะมีเพียงแค่เรา.. ที่ที่จะไม่มีใครหาเราเจอ.. ที่ที่เราจะได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างอิสระ ..ตามลำพัง”


“ฟ้า..”


เขาต้องการแบบนั้นงั้นเหรอ? ที่ที่จะมีแค่เราสองคนอย่างนั้นเหรอ?


“แบบนั้นก็จะไม่มีใครต้องโชคร้ายเพราะกูอีก...และเราก็ไม่ต้องแยกจากกัน...ทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลัง...แล้วหนีไปด้วยกัน..แค่เราสองคนเท่านั้น...แค่ฟ้ากับซันนี่” ดวงตาสีดำสนิทที่จับจ้องมานั้นกำลังรอคอยคำตอบ


“..แค่ฟ้ากับซันนี่...” ผมพูดทวนสิ่งที่เพิ่งได้ยิน


เราทำแบบนั้นได้เหรอ? ..แต่ถ้าทำแบบนั้นผมก็ไม่ต้องเสียฟ้าไป ..และจะไม่มีใครต้องโชคร้ายอีก ..เพียงแค่ทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลัง ..ทุกอย่างงั้นเหรอ? ทุกอย่าง.. ภาพของซินลอยเข้ามาในหัวของผม ..จะไม่มีใครต้องเจ็บอีก...แต่ถ้าผมต้องแยกกับซิน... ภาพของเมย์บี สกาย ป๊ะป๋า แม่ แบรี่ ซอลลี่ ก็ทยอยวนเข้ามาในหัวผมทีละภาพราวกับฟิล์มหนัง ..หากผมต้องทิ้งทุกคน..เอาไว้ข้างหลัง..ผม...


แล้วภาพของซินก็ย้อนกลับมาซ้อนทับภาพทุกคนอีกครั้ง..


“เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปนะ ซันนี่”


“เราเกิดพร้อมกัน เราก็จะตายพร้อมกัน”


“พระเจ้าก็แยกเราไม่ได้หรอก”



ผมอยากไปกับฟ้า...แต่ว่า...แต่ซิน...ผม..จะทำยังไงดี...ควรทำยังไงดี..


“สงสัยจะล้อเล่นแรงไปจริงๆ” เสียงเนิบๆ ของฟ้าเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง ดวงตาที่พร่าเลือนเพราะอะไรบางอย่างทำให้ผมมองหน้าเขาไม่ถนัด เห็นแต่มือขาวๆ ที่ยื่นเข้ามาปาดหยดน้ำตาออกจากแก้มให้


ผมเพิ่งจะรู้เดี๋ยวนั้นเองว่าตัวเองยืนร้องไห้ ยิ่งฟ้าบรรจงเช็ดมันออกอย่างอ่อนโยนเท่าไหร่มันก็ยิ่งได้ใจไหลออกมาไม่หยุด สุดท้ายฟ้าก็เลยดึงผมเข้าไปกอดเอาไว้ “ขอโทษนะ อย่าร้องเลย ..ฟ้าไม่แกล้งแล้ว”


“อย่ามาล้อเล่นแบบนี้อีกนะ ไอ้บ้า” ผมพูดอู้อี้กับไหล่ของคนที่กอดผมเอาไว้ ก่อนจะงับเข้าให้เต็มเขี้ยวเพื่อแสดงให้รู้ว่าโกรธ คนถูกกัดสะดุ้งเล็กๆ แต่ไม่ว่าอะไร 


“อือ ขอโทษ..” ฟ้ารับคำพลางลูบหลังผมเบาๆ “ซันนี่.. สัญญาได้มั้ยว่าจะรอ?”


“ไม่รอ” ผมตอบอย่างเอาแต่ใจทั้งที่ยังซุกหน้าไว้กับไหล่ของคนถาม


“ซันนี่..” ฟ้าเรียกด้วยเสียงอ้อนๆ


“ไหนบอกว่าจะไม่ไปไหนอีกแล้วไง? ถึงโดนไล่ก็จะไม่ไปไง?” ผมทวงถาม “แค่คำพูดของหมอนั่นไม่กี่คำก็ทำให้มึงเปลี่ยนใจได้ง่ายๆ แล้วเหรอ?”


“แต่โคเน่พูดถูก.. กูควรจะทำอะไรซักอย่าง..ไม่ใช่แค่กูที่รอด แต่ทุกคนจะต้องรอดด้วย กูไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว ..โดยเฉพาะมึง กูนึกไม่ออกเลยว่าจะมีแรงอยู่ต่อไปยังไงถ้าไม่มีมึง”


“ไม่เอา” ผมยังไม่อยากจะยอมรับ “ถ้ามึงไม่กลับมาล่ะ? ถ้ามึงหายไปเลยล่ะ?”


“กูต้องกลับมาอยู่แล้ว กูไม่มีวันหายไปไหนหรอก.. แต่ขอเวลาหน่อยได้มั้ย? ขอให้กูได้เคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน แล้วสัญญาว่าจะกลับมาแน่ๆ”


“..........”


“นะ ซันนี่ ...กูหนีมานานเกินไปแล้วจริงๆ”


“เมื่อไหร่?”


“หือ?”


“เมื่อไหร่จะกลับมา? ให้รอนานๆ เดี๋ยวกูลืมมึงไม่รู้ด้วยนะ กูยิ่งความจำสั้นอยู่ และจะสั้นมากๆ กับคนที่ไม่รักษาสัญญา”


ฟ้าเงียบไปเหมือนลังเลใจในตอนแรก แต่สุดท้ายก็ตอบออกมา “สองปี”


“นานไป.. ให้ปีเดียวพอ” ผมผละออกมาจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง “แล้วถ้าถึงเวลายังไม่กลับมา กูจะหาคนอื่นมาแทนที่มึง”


“ซันนี่?”


“..มึงก็รู้ว่ากูนิสัยไม่ดี กูเอาแต่ใจ แล้วก็ไม่เคยยอมเสียเปรียบใครด้วย”


“อย่าทำแบบนั้นเลยนะ ..นะ?” ฟ้าคว้ามือผมไปกุมไว้ ส่งสายตาออดอ้อนขอความเห็นใจ


“งั้นมึงก็ต้องรักษาสัญญา” ผมคาดคั้น


“รักษาดิ” ฟ้าขยับเข้ามาใกล้และดึงผมไปกอดไว้อีกครั้ง “ต้องรักษาอยู่แล้ว ..มึงเองก็ต้องรอกูด้วยนะ”


“อือ”


“กูไม่อยู่ก็ห้ามนอกใจล่ะ”


“รู้แล้วน่า เห็นกูเป็นคนยังไงเนี่ย?” ผมบ่นแล้วแกล้งหยิกสีข้างเขาไปที


“เป็นคนนิสัยไม่ดีอ่ะดิ” ฟ้าพูดกลั้วหัวเราะ


“เออ!” ผมกระแทกเสียงตอบ


“ไว้จะติดต่อมาบ่อยๆ” 


“อือ”


“รักนะ”


“อือ”


“..........”


“เออ รักเหมือนกันแหล่ะ” ผมจำต้องพูดออกไปเมื่อรู้สึกได้ถึงความกดดันที่ส่งผ่านมาทางชั้นบรรยากาศและความเงียบ


“น่ารักที่สุด” ฟ้าหัวเราะลงคอก่อนจะงับหูผมคล้ายหมั่นเขี้ยว


“โอ๊ยยย ไอ้บ้า! มันเจ็บนะ” ผมโวยวายหลังจากฟ้าดีดตัวหนีไปอยู่นอกรัศมีมือเท้าปาก(?)แล้ว “กัดมาได้เต็มปากเต็มคำ”       


“อืม.. ยังกินไม่ได้เหมือนเดิม” ฟ้าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนักชิม


“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่มาชเมลโล่ ไอ้โง่นี่!” ผมด่าไปก็ไล่เตะไอ้คนพูดไม่รู้จักจำแถมยังหน้ามึนที่สุดในสามโลกนั่นไป


“อ่ะ..” แต่จู่ๆ คนที่กำลังวิ่งหนีก็หยุดชะงักและหันกลับมาแบบไม่ให้สัญญาณ ผมที่เบรกไปทันก็เลยพุ่งเข้าไปปะทะกับอกของเขาพอดี


ฟ้าใช้แขนข้างที่ยังอยู่ดีล็อคเอวผมเอาไว้แน่น ดวงตาสีดำสนิทจ้องลึกเข้ามาในตาของผมเพื่อส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดที่มี ก่อนจะค่อยๆ โน้มหน้าเข้ามาแนบริมฝีปากบนกลีบปากผม


ผมหลับตาลงรอรับความรู้สึกที่อีกฝ่ายบรรจงมอบให้ด้วยความเต็มใจ


“อือ..”



..ก็แค่ปีเดียว เดี๋ยวก็ผ่านไป


ไม่เป็นไรหรอก ซันชายน์


ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี...
 






“อ้าว กาย? มายืนเป็นปลาดูดกระจกอยู่ทำไมตรงนี้?” ผมเดินมาถึงหน้าห้องที่ซินนอนรักษาตัวอยู่ก็เห็นสกายยืนทำหน้าหมาเหงาเกาะกระจกเป็นปลาเทศบาลเชียว “ไม่เข้าไปล่ะ?”


“ซิน.. มีแขก” ไอ้กายพูดด้วยท่าทางหงอยๆ


อะไรของมัน? กินยาผิดขวดเรอะ?


!!.. งงกับท่าทีของเพื่อนได้ไม่กี่วิฯก็ต้องกระจ่าง เมื่อมองผ่านประตูกระจกเข้าไปแล้วเห็น ‘แขก’ ที่ว่านั่นกำลังนั่งอยู่ข้างเตียงของซิน ..แม้จะเห็นแค่แผ่นหลังและเสี้ยวหน้าด้านข้างเพียงเล็กน้อยแต่ผมก็ยังจำได้ดี ..นี่สินะคือสาเหตุที่ทำให้สกายซึมไป


แม้จะยังไม่สามารถพูดตอบโต้ได้ และจมูกกับปากก็ยังมีหน้าหน้ากากออกซิเจนครอบเอาไว้ แต่ซินก็สามารถรับรู้และเข้าใจในสิ่งที่ทุกคนอื่นอยากจะสื่อสารกับมันได้ทั้งหมดแล้ว แถมบางครั้งยังขยับไม้ขยับมือตอบโต้ได้ด้วยซ้ำ ..แล้วที่ซินกำลังทำอยู่ตอนนี้ก็คือเอื้อมมือไปกุมทับมือของอีกฝ่ายที่วางประสานกันไว้ข้างๆ เตียง ..เหมือนคนคนนั้นจะกำลังก้มหน้าก้มตาพูดอะไรบางสิ่งบางอย่าง ส่วนซินก็รับฟังด้วยสีหน้าที่สงบ


หมอนั่นคงจะรู้เรื่องมาจากพี่คิริน เมื่อวันก่อนพี่คิรินเพิ่งพาน้องคลีมาเยี่ยมพวกเรา คงจะเป็นเขานั่นแหล่ะที่ส่งข่าวต่อให้หมอนั่น..
ผมรู้.. รู้มาตลอดแหล่ะว่าซินไม่เคยเกลียดไท่หลัน ซินอาจจะช็อคเพราะผิดหวังและโกรธที่ถูกทำร้าย แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่จะเกลียดหมอนั่นได้ลง ..แม้ซินจะไม่เคยพูดถึงหมอนั่นอีกเลยหลังจากเกิดเรื่อง แต่ผมก็สามารถรับรู้ได้


มีแต่ผม.. ผมเท่านั้นที่เครียดแค้นชิงชังฝังใจ...ผมเท่านั้นที่ไม่มีวันอภัยให้กับสิ่งที่หมอนั่นทำกับซิน


ผมรู้.. รู้ว่าเรื่องครั้งนั้นตัวผมมีส่วนผิดเต็มๆ ผมเป็นคนก่อเรื่องทั้งหมด  ผมเป็นคนบิดเบือนความเข้าใจของทุกฝ่าย ผมทำร้ายทุกคน ..ใช่ ผมเสียใจ และสำนึกผิดในบาปที่ตัวเองได้ก่อไว้ ..ผมอยากจะขอโทษในส่วนนั้น..


แต่ถึงยังไง..ผมก็ไม่สามารถให้อภัยในสิ่งที่ไท่หลันทำได้อยู่ดี


“ผู้ชายคนนั้น.. ดูเหมือนซินจะให้ความสำคัญกับเค้ามากเลยนะ” เสียงแผ่วๆ ของสกายช่วยปลุกผมออกจากภวังค์แห่งอดีต


พอหันกลับมามองก็ต้องคลี่ยิ้มบาง.. ถึงปกติจะดูบ้าๆ บอๆ เหมือนไม่เคยคิดอะไร แต่ลึกๆ ข้างในแล้วสกายเป็นคนที่อ่อนไหวและคิดมากพอสมควรเลยล่ะ ..นี่ก็คงจะกังวลกับท่าทีของซินสินะ คงเป็นเพราะไม่เคยเห็นแสดงซินท่าทีอ่อนโยนกับผู้ชายคนไหนนอกจากผมล่ะสิ


“ไม่มีใครสำคัญไปกว่ามึงหรอก” ผมพูดยิ้มๆ และนั่นก็พอจะทำให้คนคิดมากยิ้มออกมาได้บ้าง 


“มั่นใจในตัวเองหน่อย” ผมพยักหน้าและตบบ่าเพื่อนอีกสองสามครั้งอย่างให้กำลังใจก่อนก้าวขาจากมา


“อ้าว แล้วมึงจะไปไหนอีกล่ะนั่น?” เสียงไอ้กายร้องถาม ผมโบกมือแทนคำตอบโดยไม่ได้หันกลับไป


ผมยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้า ..กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนทุกครั้งอีก ..ความโกรธความเกลียดของผมมันยังคงชัดเจนเกินไป ..แต่ผมจะพยายาม มันอาจจะไม่ใช่ในเร็ววันนี้ แต่ก็หวังว่าสักวันพวกเราคงจะมีโอกาสได้กลับมาคุยกันเหมือนเมื่อก่อนอีกครั้ง..


ถึงตอนนั้นผมก็คงจะสามารถมองหน้าเขาได้อย่างเต็มตา และพูดคำว่า ‘ขอโทษ’ ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ..
 

(ต่อ)

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
(ต่อ)



“อ้าว ฉาย?” ทันทีที่ผมเดินเข้ามาในมินิมาร์ทก็เจอเข้ากับเหมยลี่และชิฮัวที่เพิ่งซื้อของเสร็จพอดี เห็นสองคนนั้นถือถุงใบใหญ่คนละใบที่ข้างในน่าจะอัดแน่นไปด้วยเครื่องดื่มและขนมนานายี่ห้อ “กินอะไรกันเยอะแยะ? แล้วนี่มาเยี่ยมมานะกันอีกแล้วเหรอ?”


“อือ หมาฝูกับหมาปอก็มานะ แต่พอบอกว่าหิวขนมแม่งก็รีบยัดตังค์ใส่มือแล้วฝากพวกฉันให้ซื้อไปเผื่อพวกมันด้วยหน้าตาเฉย สุภาพบุรุษสุดตรีนเลยมั้ยล่ะ เพื่อนฉันแต่ละตัว?” ชิฮัวบ่นกระปอดกระแปดไม่สบอารมณ์


ผมก็ได้แต่หัวเราะเบาๆ ..พวกนี้มาขลุกอยู่โรงพยาบาลกันแทบทุกวันตั้งแต่เกิดเรื่อง(สงสัยจะว่างจัด) ตอนที่ผมยังนอนพักฟื้นอยู่บนเตียง บางทีก็มียกโขยงกันไปเม้าส์มอย(ไม่ก็กัดกันเอง)ที่ห้องผมบ้างเหมือนกัน หนวกหูได้อีก(..โดยเฉพาะชิฮัวกับเมย์บีนี่แมร่งจับคู่กันได้เมื่อไหร่ล่ะไม่รู้ว่าสรรหาอะไรมาคุยกันได้น้ำไหลไฟดับ) ก็ไม่รู้มานะทนนอนฟังเฉยๆ ได้ไงวันละตั้งหลายชั่วโมง เป็นผมลุกขึ้นมาไล่เตะโด่งออกจากห้องกันไม่ทันละ ฮ่ะๆๆ


ว่าแต่วันนี้มากันซะเย็นเลยแฮะ สงสัยตอนกลางวันคงติดธุระ เพราะปกติมักจะเห็นมาตอนสายๆ แล้วก็กลับกันตอนบ่ายๆ ..ประมาณนั้น ช่วงนี้ก็ปิดเทอมพอดีด้วยสิ


“แล้วนี่ฉายหายดีแล้วเหรอถึงได้ออกมาเดินร่อนแบบนี้?” เหมยถามผมบ้าง


“เดินร่อนอะไรกัน? แค่ออกมาหาอะไรกินนิดหน่อยเอง ..แล้วหมอก็อนุญาตให้เราหายป่วยแล้วด้วย”


“อนุญาตให้หายป่วยนี่มันมีด้วยเรอะแก?” ชิฮัวว่า


“งั้นไปกินด้วยกันมั้ยล่ะ? ซื้อมาเยอะแยะเลยเนี่ย” เหมยชวนพร้อมทั้งชูถุงขนมใบโตให้ดู “..หรือว่าต้องรีบกลับไปเฝ้ากานต์?”


“ไม่หรอก.. มีคนคอยเฝ้าอยู่แล้วน่ะ” ผมบอกยิ้มๆ ก่อนจะตัดสินใจตามสองคนนั้นไปจนได้..
 





ผมกลับเข้าไปหาซินอีกครั้งตอนประมาณเกือบสามทุ่ม ตอนนั้นซินหลับไปแล้ว ผมต้องแอบๆ เข้าไปโดยไม่ให้พยาบาลรู้ เพราะปกติแล้วพยาบาลจะงดให้เยี่ยมซินตั้งแต่เวลาสองทุ่มเป็นต้นไป ตอนแรกก็กะจะเข้าไปดูหน้าและสำรวจอาการโดยรวมไม่นานก็ว่าจะกลับไปนอนห้องพักของตัวเอง แต่ตอนที่ลุกขึ้นเตรียมจะกลับชายเสื้อก็ถูกคนป่วยยื่นมือมาคว้าไว้ก่อน


ดูเหมือนว่าผมจะมาทำให้ซินตื่นซะแล้ว..


“ซิน..” ผมหันกลับมามองพี่ชายที่นอนลืมตาอยู่ ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงตามเดิม ซินยื่นมือออกมาเหมือนอยากให้ผมจับ ผมก็เลยเอามาจับ แล้วซินก็บีบมือผมตอบเบาๆ “อาการเป็นยังไงบ้าง? รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมบ้างมั้ย?”


“ฮือ” ซินครางตอบในลำคอเบาๆ ดูเหมือนการหายใจจะยังลำบากอยู่บ้างเล็กน้อย นอกจากอวัยวะภายในที่ได้รับความบอบช้ำอย่างหนักแล้ว กระดูกซี่โครงของซินยังหักถึงสามซี่ แต่หมอบอกว่าโชคดีมากที่มันไม่ไปทิ่มเอาปอดทะลุเข้า ไม่งั้นคงจะสาหัสกว่านี้


ผมประคองมือของซินขึ้นมาจุมพิตเบาๆ ก่อนจะเอามาแนบกับแก้มของตัวเอง หลับตาลง และเอ่ยขอบางสิ่งบางอย่างซึ่งจะนำไปสู่การปลดปล่อยผมออกจากคำโกหกมากมายที่มัดผมติดเอาไว้กับความรู้สึกผิด


“ซิน.. ช่วยรับฟังกูหน่อยได้มั้ย?”   



คืนนั้นผมเล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เก็บไว้ในใจมาตลอดเจ็ดปีให้ซินฟังทั้งหมด มันไม่ต่างอะไรกับการสารภาพบาป ..บาปที่เกิดจากน้ำมือของผม แต่พระเจ้ากลับตีตราลงไปที่ซินราวกับอยากกลั่นแกล้ง อยากสั่งสอนให้ผมรู้จักกับความเจ็บปวด ความอัดอั้นตันใจของผมทะลักทลายไหลออกมาเป็นคำพูด คำขอโทษ ผสมคลุกเคล้าเข้ากับหยดน้ำตาที่กลิ้งลงมาเป็นสาย ผมจำไม่ได้แล้วว่าร้องไห้ไปกี่รอบตั้งแต่เกิดเรื่อง มันคงเป็นเพราะอารมณ์ของผมยังไม่เสถียรดี ผมเลยค่อนข้างจะอ่อนไหวง่าย ต่อมน้ำตาก็เลยต้องทำงานหนักหน่อยในช่วงนี้


ซินยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ราวกับจะปลอบ ซินคงอยากจะบอกว่า ‘ไม่เป็นไร ซันนี่.. ไม่เป็นไร’


จบเรื่องของเรา.. ผมก็เล่าเรื่องของฟ้าประทานให้ซินฟังด้วย เล่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน...จนถึงปัจจุบันที่เป็นอยู่ เห็นซินหน้านิ่วคิ้วขมวดเป็นพักๆ คงจะโกรธแทนผมในช่วงแรกๆ และบางช่วงที่ฟ้าทำให้ผมรู้สึกแย่ แต่บางช่วงซินก็ยิ้มขำกับความประหลาดปนหน้ามึนไม่ซ้ำแบบใครของฟ้าที่ผมเอามาเล่าให้ฟัง ..คิดแล้วก็ใจหาย ไม่อยากจะเชื่อว่าอีกไม่นานผมกับฟ้าก็ต้องแยกย้ายกัน แม้มันจะเป็นการจากลาเพียงชั่วคราว แต่ก็ทำเอาอดรู้สึกโหวงในอกไม่ได้จริงๆ..


ซินเองก็คงคิดเช่นนั้น ถึงได้บีบมือผมราวกับต้องการให้กำลังใจ เป็นอีกครั้งที่ซินคงอยากจะพูดว่า ‘ไม่เป็นไร ซันนี่.. ไม่เป็นไร’ …
 







เวลานั้นได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนแทบไม่น่าเชื่อ.. ซินใช้เวลานอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลราวสามสัปดาห์เศษ ก่อนที่หมอจะอนุญาตให้กลับมาพักฟื้นที่คอนโดได้ แต่ดูเหมือนพระราชฐานอันแสนโอ่อ่าของฝาแฝดจะคับแคบเกินไปสำหรับการรองรับสมาชิกทั้งหมดในครอบครัวเฮย์เดน ที่จู่ๆ ก็เกิดอยากจะอยู่กันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ


สุดท้ายเพื่อความสะดวกสบายและโล่งกว้าง พวกเราทั้งหมด พ่อ แม่ และลูกอีกสามคน ก็เลยพากันยกโขยงไปอยู่บ้านคุณหญิงย่าชั่วคราว(บ้านที่พวกเราเคยอยู่ด้วยกันเมื่อก่อนขายทิ้งไปนานแล้ว) คฤหาสน์เฮย์เดนที่เงียบเหงามานานก็เลยดูมีชีวิตชีวา(จนถึงขั้นวุ่นวาย)ขึ้นมาอีกครั้ง


ถึงผมกับซินจะดูสถุลๆ แบบนี้ แต่จริงๆ แล้วเราก็พอจะมีเชื้อสายผู้ดีอยู่กับเขาบ้างเหมือนกันนะ ฮ่ะๆๆ คุณปู่ของผมท่านเคยเป็นทูตแคนาดาที่มาประจำที่ประเทศไทยน่ะ หลังจากเสียภรรยาคนแรก(ชาวแคนาดา)ไปเพราะอุบัติเหตุ ท่านก็ได้มาพบรักและแต่งงานอีกครั้งกับคุณย่า(ซึ่งเป็นชาวไทย)ของผมที่นี่ มีลูกด้วยกันสามคน นอกจากป๊ะป๋ากับอาเซซีล ก็มีคุณลุงซึ่งเป็นลูกชายคนโตของตระกูลอีกคน แต่ตอนนี้ทั้งคุณปู่และคุณลุงของผมไม่อยู่แล้วล่ะ พวกท่านเสียไปนานหลายปีแล้ว ที่บ้านหลังนี้ก็เลยเหลือแค่คุณย่า ป้าพรรณี(ภรรยาของคุณลุง) และพี่แบลล์(ลูกสาวคนเดียวของคุณลุงและเป็นหลานสาวคนเดียวของตระกูลด้วย) แค่สามคนเท่านั้น(ไม่นับคนทำงานในบ้าน) แต่เห็นว่าอีกไม่นานพี่แบลล์ก็จะแต่งงานกับคู่หมั้นแล้ว เดี๋ยวก็คงจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมากกว่านี้แหล่ะ


แต่อันที่จริงแล้วผมไม่ค่อยอยากมาที่นี่นักหรอกหากไม่จำเป็น ผมไม่ค่อยถูกจริตกับท่าทางเชิดๆ และคอแข็งๆ ของคุณย่าเท่าไหร่น่ะ เห็นแล้วเมื่อย.. แถมเวลาที่ถูกตาสีดำขลับของคุณย่าจับจ้องมามันก็ทำให้ผมหายใจหายคอไม่ค่อยทั่วท้องด้วย รู้สึกเหมือนถูกกดดันแปลกๆ ยากแก่การอธิบาย ..อยู่บ้านนี้จะเดินจะนั่งผมนี่หวาดระแวงแทบจะทุกฝีก้าวเหอะ ยังจำฝังใจว่าตอนเด็กๆ เคยถูกคุณย่าเอาไม้เรียวมาฟาดตาตุ่มเพราะวิ่งขึ้นบันไดด้วย หึยยย..   
 






ผ่านไปอีกสัปดาห์กว่า.. อาการของซินก็ดีวันดีคืนจนตอนนี้สามารถเดินเหินไปไหนมาไหนได้คล่องแล้ว แต่ยังออกแรงมากไม่ได้เพราะร่างกายยังไม่เข้าที่เข้าทางดี ดูเหมือนนั่นจะทำให้ไอ้ตัวดีรู้สึกขัดอกขัดใจอยู่ไม่น้อยที่ยังไม่สามารถปล่อยพลังบ้าได้ ยังดีหน่อยที่มีเพื่อนฝูงและคนรู้จักมากหน้าหลายตาแวะเวียนมาเยี่ยมมาเล่นด้วยไม่ขาดสาย ซินเลยไม่ค่อยมีเวลาให้รู้สึกเบื่อมากนัก
ไท่หลันเองก็เคยมาหาครั้งนึงตั้งแต่ซินย้ายออกมาพักที่นี่ ..แน่นอนว่าผมก็หลบออกไปอยู่ที่อื่นอีกตามเคย


อีกเรื่องหงุดหงิดใจที่เห็นซินมักจะบ่นอยู่บ่อยๆ ก็คือ..เมื่อไหร่ผมจะยาว? ทรงต่อไปที่ซินเล็งเอาไว้รู้สึกจะเป็นเดทร็อคแบบเปีย ซินว่าคราวนี้จะได้ไม่มีใครมาเรียกว่า ‘ไอ้หัวหลอด’ ได้อีก.. แต่ผมคิดว่าไม่ทำเดทร็อคอีกเลยน่าจะเวิร์คกว่านะ


ฟ้ามีกำหนดกลับอิตาลีก่อนคริสต์มาสเพียงแค่ไม่กี่วัน ..จนกว่าจะถึงตอนนั้นเราจึงพยายามใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่ามากที่สุด ฟ้าบอกผมว่าตอนแรกเขาจะขออยู่ไปจนถึงเดือนกุมภาฯด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้รับอนุญาต ..เขาบอกอยากจะอยู่ฉลองวันเกิดกับผม(ผมเพิ่งรู้ว่าฟ้าเกิดวันที่ 29 กุมภาฯ ปีถัดมาจากปีที่ผมเกิด เขาเป็นน้องผมตั้งหลายเดือนแน่ะ พอผมแกล้งแหย่ว่า ‘ไอ้เด็กน้อย’ เขาดันสวนกลับว่า ‘ไอ้แก่’ หน้าตาเฉยเลย น่าโบกจริงๆ ให้ดิ้นตาย..) ตั้งแต่เกิดมาฟ้าเคยฉลองวันเกิดแค่ครั้งเดียวตอนอายุสี่ขวบ หลังจากนั้นก็มักจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นในช่วงวันเกิดของเขาเสมอ ทั้งที่สี่ปีจะมีสักครั้งแท้ๆ


ฟ้าบอกผมอีกว่าเขาอยากเกินเค้กช็อคโกแล็ตเหมือนเมื่อครั้งแรกที่เขามีงานวันเกิด อยากให้ผมเป็นคนป้อนเค้กให้เขาเหมือนที่คุณขลุ่ยเคยทำด้วย(นี่เขาเห็นผมเป็นแม่หรือเป็น..เอ่อ..แฟนกันแน่นะ?)




ก่อนฟ้าจะเดินทางหนึ่งวันผมได้จัดงานเซอร์ไพรส์วันเกิดล่วงหน้า(หลายเดือน)ให้แก่เขา เราทุกคน(หมายถึงผมกับพวกเพื่อนของผมและเพื่อนของฟ้า)แอบนัดมารวมตัวกันที่ห้องพักฟื้นของมานะก่อนเวลาที่ฟ้ามักจะมาประจำเล็กน้อย(จนถึงตอนนี้มานะก็ยังไม่ฟื้น แต่อาการของเขาค่อนข้างทรงตัวและไม่ท่าทีว่าจะทรุดลง หมอเคอิจึงย้ายเขามาพักที่ห้องพิเศษแทนไอซียู) พอฟ้าเข้ามาเราก็จุดเทียนและร้องเพลงอวยพรให้


ดูเหมือนฟ้าจะตกใจอยู่ไม่น้อย ดวงตาสีดำล้ำลึกฉายแววตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ผมเป็นคนถือเค้กช็อคโกแล็ตอย่างที่เขาอยากกินไปให้ตามคำยุยงส่งเสริมของคนอื่นๆ แต่แทนที่เขาจะเป่าเทียนบนเค้กเขาดันคว้าผมไปจูบโชว์ต่อหน้าทุกคนเฉยเลย ผมที่ทั้งตกใจทั้งอับอายก็เลยเผลอยัดเค้กใส่ท้องของเขาไปทั้งก้อน ...เละอย่างไม่ต้องสงสัยเลยงานนี้


ท่ามกลางเสียงโห่ฮาหัวเราะชอบใจของบรรดาเพื่อนฝูงและสายตาเขียวปั้ดเอาเรื่องของผม ฟ้ายังมีหน้าเอานิ้วป้ายเค้กที่เสื้อไปดูดกินหน้าตาเฉย


โชคดีที่เหมยลี่ไม่ว่างมางานนี้ด้วย ไม่งั้นผมคงจะรู้สึกเสียหน้ามากกว่านี้แน่(ก็แฟนเก่านี่นะ แล้วดูหน้าแฟนใหม่ของผมสิ หึยย) แค่ยัยชิฮัวคนเดียวก็ล้อจนผมไม่กล้าสบตาใครแล้ว


หลังจากจบงานฉลองเล็กๆ ที่นั่น.. ผมก็ตามฟ้ากลับมาค้างที่คอนโดของเขา เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งคืน นอนคุยกันจนถึงเช้า.. ฟ้าเล่าหลายเรื่องที่ผ่านเข้ามาในช่วงชีวิตของเขาให้ผมฟัง ทั้งเรื่องของแม่ เรื่องของน้า เรื่องที่ว่าเขาเก็บไอ้หน้าหวานจี้ได้ที่หน้าบ้านเก่าของตัวเองด้วย(แต่ไม่ได้เล่าหรอกว่าหมอนั่นไปไงมาไงถึงไปโผล่ที่บ้านฟ้าได้) เขาเล่าเรื่องของพ่อใจดีที่ไม่เคยรู้ว่าคิดอะไรอยู่ เล่าเรื่องของพี่(โคเนโร)ขี้แกล้งที่ก็ไม่เคยรู้ว่าคิดอะไรอยู่เช่นกัน..


ผมรู้แล้วว่ามือซ้ายของฟ้าเป็นอะไรถึงต้องใช้ผ้าพันแผล ฟ้าเล่าว่าหลังจากผมและซินตาม มาริโอ คาวัวร์ ออกจากโรงพยาบาลในวันนั้น เขาก็ได้ส่งบอดีการ์ดสองคนที่คอยเฝ้าอยู่หน้าห้องตามพวกผมออกมาด้วย ..จังหวะนั้นเองที่ศัตรูได้อาศัยช่วงที่ไม่มีคนคุ้มกันบุกเข้าไปหมายจะเก็บงานของตัวเองให้เรียบร้อย ฟ้าว่ามันมาแค่คนเดียว คงจะเป็นพวกนักฆ่ารับจ้าง ตอนนั้นเขากำลังนอนอยู่ และเมรันดรีก็ออกไปติดต่อธุระที่เคาน์เตอร์ด้านนอกพอดี ที่เห็นมือเจ็บนี่ก็เกิดจากการต่อสู้ขัดขืนกันนั่นแหล่ะ ..ฟ้าบอกคิดว่าจะแย่ซะแล้ว ถ้าจู่ๆ โคเนโรไม่โผล่เข้ามาพร้อมกับปืนเก็บเสียง ป่านนี้ก็คงจะเป็นฟ้าเองนั่นแหล่ะที่โดนเก็บ


เรื่องเล่านั้นทำเอาผมยังสยองไม่หาย ไม่อยากจะเชื่อว่าโคเนโรจะลงมือฆ่าคนได้ด้วย ..คนนะเว้ย ไม่ใช่แค่ยุงสักตัวที่จะตบเลือดสาดได้โดยไม่คิดอะไร ..พอผมรำพึงออกไป ฟ้าก็เลยเสริมอีกว่าโคเนโรน่ะเหนี่ยวไกได้ทั้งที่หน้ายังยิ้มอยู่ด้วยซ้ำ ..หึยยย ทำไมถึงได้เป็นคนที่น่ากลัวขนาดนั้นนะ? ท่าทางก็ดูเป็นมิตรดีแท้ๆ


ผมเลยอดถามต่อไม่ได้ว่าฟ้าเองล่ะเคยฆ่าใครหรือเปล่า? แอบกลัวคำตอบนิดๆ เหมือนกัน แต่เขาก็เพียงแค่ยิ้มๆ แล้วเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นซะงั้น


พูดถึง มาริโอ คาวัวร์.. หมอนั่นช่างเป็นคนที่ร้ายกาจและทำได้ทุกอย่างเพื่อเป้าหมายจริงๆ ..เพียงแค่ต้องการจะพาฟ้ากลับไป เขาถึงกับวางแผนฆ่าผมทิ้ง!


ใช่! มันเป็นแผนทั้งหมด ตั้งแต่หลอกล่อผมออกจากโรงพยาบาล พูดจาหว่านล้อม สุดท้ายพอไม่สำเร็จก็ไล่ต้อนผมเข้าสู่แผนฆาตกรรมอำพราง!


มาริโอเตรียมการเอาไว้แล้วทั้งหมด เขาแกล้งให้ลูกน้องบอกจะไปส่งผม แต่ให้ทำท่าทางเหมือนอยากจะพาไปเชือด ให้พวกผมหวาดระแวงจนต้องขัดขืนและลุกลามกลายเป็นเรื่องวิวาท แล้วพวกนั้นค่อยไล่ต้อนจนผมต้องเข้าไปชิงรถพวกมันเพื่อขับหนี ..ทุกอย่างถูกคำนวณเอาไว้แล้ว มันเป็นฉากที่ถูกเซ็ตมาอย่างดี รถถูกทำให้มีปัญหาเรื่องเบรกตั้งแต่แรก เพราะงั้นพวกมันก็เลยปล่อยให้ผมแย่งไปได้ง่ายๆ จากนั้นค่อยขับรถไล่ตามเพื่อให้ผมต้องเร่งความเร็วสูงสุด พอถึงจุดนัดพบก็...ปัง! ..จะผิดแผนไปบ้างก็ตรงที่ผมรอดมาได้นี่ล่ะ


ถ้าไม่ได้รู้จากปากฟ้าผมก็อาจจะโง่งมคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุต่อไป(ใช่.. ก่อนหน้านี้ผมนึกว่าเรื่องเบรกกับเรื่องรถบรรทุกที่โผล่เข้ามาในรัศมีการชนนั่นเป็นเรื่องไม่คาดฝันซะอีก ที่ไหนได้...)


ฟ้าบอกว่ามาริโอถูกเรียกตัวกลับเนเปิลส์ด่วนหลังจากเกิดเหตุ เห็นว่าถูกเรียกกลับไปเพื่อสอบสวนกรณีที่เกิดกับพวกผมนี่ล่ะ ดูเหมือนหมอนั่นจะทำผิดข้อตกลงบางอย่างที่พ่อของฟ้าเคยขอ(สั่ง)เอาไว้ แน่นอนว่าเขาจะต้องปฏิเสธการมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องครั้งนี้แน่(แหงล่ะ ก็เขาอุตส่าห์ตั้งใจทำให้มันเหมือนอุบัติเหตุซะขนาดนั้นนี่) ถ้าไม่มีหลักฐานแน่นหนามามัดตัว เขาจะต้องดิ้นจนหลุดอย่างไม่ต้องสงสัย ..เหมือนครั้งของคุณขลุ่ย..


แต่ฟ้าบอกว่างานนี้เจ้ามาริโอนั่นคงจะรอดยากหน่อยแหล่ะ เพราะคนของโคเนโรเฝ้าติดตามพฤติกรรมของหมอนั่นมาพักใหญ่แล้ว และที่โคเนโรทำแบบนั้นก็เป็นเพราะถูกคนเป็นพ่อขอร้องมาอีกที นั่นจึงสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขามาปรากฏตัวที่นี่ ..ส่วนสาเหตุอื่นๆ ฟ้าบอกว่ายังนึกไม่ออก แต่คิดว่าต้องมีแน่ๆ เพราะคนอย่างโคเนโรไม่เคยทำอะไรเพื่อใครโดยไม่มีเป้าหมายเป็นของตัวเอง


แต่ก็นั่นล่ะ.. ไม่มีใครเคยรู้หรอกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่   


นอกจากนี้ฟ้ายังเล่าเรื่องของ ‘ริเน่’ นางฟ้าของ ‘ฟาฟา’ ให้ผมฟังด้วย..     ‘ริเน่’ เป็นน้องสาวคนเล็กของพวกเขา เป็นเด็กที่มีพัฒนาการช้ากว่าเด็กทั่วไปอยู่มาก ทั้งที่ปีนี้เธอจะมีอายุครบ 16 ปีแล้ว แต่พัฒนาการทางด้านสมองยังเท่ากับเด็กอายุ 5-6 ขวบเท่านั้น ..แต่ริเน่มีความสามารถทางด้านดนตรีค่อนข้างสูง เธอสามารถอ่านและจดจำโน้ตได้ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้เริ่มเรียนดนตรีเป็นเรื่องเป็นราวด้วยซ้ำ ริเน่ชอบเล่นเปียโนที่สุด เธอชอบเล่นเพลงแคนอน(Canon in C)ซ้ำไปซ้ำมา เล่นได้เป็นวัน ..แต่ถ้าอยู่กับฟาฟา ริเน่จะเล่นแต่เพลงที่ฟาฟาชอบ


ริเน่ชอบฟาฟามาก.. ที่เรียกว่า ‘ฟาฟา’ นั้นเป็นเพราะว่าเธอไม่สามารถออกเสียงว่า ‘ฟ้า’ อย่างในภาษาไทยได้ เธอพูดได้แค่ ‘ฟา’ แล้วก็เลยเติม ‘ฟา’ เข้าไปอีกตัวจนติดปาก(โคเนโรก็พลอยเรียกตามไปด้วย) ..ดูเหมือนว่าฟ้าจะเอ็นดูน้องสาวคนนี้อยู่มากทีเดียว ผมสังเกตได้จากแววตาเวลาที่เขาพูดถึงเธอ


ฟ้าบอกว่า..ในบ้านหลังใหญ่ที่พ่อเอาแต่ทำงาน แม่เลี้ยงทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน พี่ชายขี้แกล้ง ญาติบางส่วนก็จ้องแต่จะเขี่ยเขาออกไปให้พ้น ...มีแค่ริเน่คนเดียวเท่านั้นที่ใจดีกับเขา..


สุดท้ายฟ้าก็เล่ามาถึงเรื่องของผม.. มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมไม่คาดคิดว่าฟ้าจะจดจำเกี่ยวกับตัวผมได้ ..แต่เขาก็ทำได้ แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ตัวผมเองยังไม่ใส่ใจจำ ฟ้าก็ยังจดจำได้หมด ..ไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาของเขาไปได้เลย


ฟ้าทำให้ผมตื้นตันกับความรู้สึกมากมายที่เขามอบให้ จนอดคิดไม่ได้ว่านอกจากซินแล้ว ก็คงมีแค่เขานี่แหล่ะที่ทุ่มเทเพื่อผมได้ขนาดนี้ ..มีบางช่วงบางตอนที่ฟ้าทำผมหลุดยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่ อย่างเช่น.. ตอนที่เขาบอกถึงสาเหตุที่ชอบใส่แว่นตากันแดดเวลาอยู่ต่อหน้าผม(แต่พักหลังๆ นี้ไม่ค่อยทำแล้ว) เขาบอกเวลาที่เขามองผมแล้วมักจะรู้สึกแสบตา มันเหมือนกับว่าผมสามารถเปล่งแสงได้ด้วยตัวเอง(แบบเดียวกับดวงอาทิตย์) เขาบอกไม่ค่อยชินกับความสว่างในระดับนี้ แต่ยิ่งมองก็ยิ่งติดใจ ยิ่งละสายตาไม่ได้ ก็เลยต้องควักแว่นออกมาใส่เพื่อความปลอดภัยของสายตาแทน ...ผมว่าเขาเพ้อเจ้อได้อีกนะ ฮ่ะๆๆ


ก่อนจากกันวันนั้น.. ผมได้เอาแหวนที่มันแอบติดตัวผมไปตั้งแต่ครั้งแรกที่มาสำรวจห้องนี้คืนให้ฟ้าด้วย แต่ฟ้ากลับไม่รับคืน เขาบอกว่าแหวนวงนี้เป็นของที่คุณขลุ่ยรักมาก เลยเปรียบเสมือนเป็นของสำคัญมากสำหรับเขาไปด้วย เขาบอกว่ารู้มานานแล้วว่าแหวนอยู่กับผม แต่ที่ไม่ทักท้วงก็เพราะคิดว่ามันคงไม่เป็นไรหากจะให้ผมเก็บไว้ ฟ้าบอกว่าเขาจะฝากผมเอาไว้ก่อน ให้เหมือนเป็นเครื่องยืนยันว่าเขาจะต้องกลับมาเอามันคืนแน่นอน ..ในตอนที่เขากลับมาหาผมอีกครั้ง


มานะยังคงเป็นเจ้าชายนิทราต่อไป เขาถูกพาไปอิตาลีพร้อมกับฟ้า เมรันดรี และคุณหมอเคอิด้วย ..ผมเพิ่งได้รู้ว่าจริงๆ แล้วหมอเคอิเป็นหนึ่งในทีมแพทย์ของแบร์ลุสโคนี ที่เขามาอยู่ที่นี่ก็เพราะถูกพ่อของฟ้าส่งมาเหมือนกับมานะและเมรันดรีนั่นล่ะ


ผมเริ่มต้นนับถอยหลังรอวันที่เราจะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง...





คริสต์มาสปีนี้ช่างเป็นคริสต์มาสที่ยิ่งใหญ่และน่าจดจำที่สุดเท่าที่ผมเคยร่วมฉลองมา มันเป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ครอบครัวเครือญาติของพวกเราได้มาร่วมฉลองกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ ทั้งครอบครัวของผม ครอบครัวของแบรี่ และครอบครัวของพี่แบลล์ เราช่วยกันจัดปาร์ตี้วันคริสต์มาสพ่วงด้วยปาร์ตี้ฉลองที่ซินหายดีที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ทั้งร้องเพลง เล่นเกม ดื่มกินกันอย่างสนุกสนานเต็มที่ ทุกคนมีแต่เสียงหัวเราะและร้อยยิ้มให้แก่กัน แม้แต่คุณหญิงย่าก็ยังยอมสลัดมาดนิ่งนางพญาทิ้งหนึ่งวัน แล้วหันมาหัวเราะเสียงดังแบบไม่มีกั๊กกับพวกแม่และอาเซซ ..เป็นอีกหนึ่งคืนในชีวิตที่ผมคงจะจดจำไปได้อีกนานเลยล่ะ


แต่ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา.. หลังผ่านพ้นเทศกาลคริสต์มาสเราทุกคนต่างก็ต้องแยกย้ายไปตามวิถีทางของตัวเอง ป๊ะป๋ากลับไปทำงานของตัวเองต่อ แม่ก็กลับอังกฤษไปพร้อมกับซอลลี่ ส่วนฝาแฝดก็ย้ายกลับมาอยู่คอนโดตามเดิม



ครอบครัวขนาดใหญ่สลายหายไปทิ้งไว้เพียงความทรงจำ..


 






ฤดูกาลหมุนเปลี่ยนไปตามวันเวลา ..จะว่าเร็วก็เร็ว จะว่าช้าก็ช้า.. ขึ้นอยู่กับว่าเราจดจ่อกับการรอคอยมากแค่ไหน



ช่วงแรกๆ ที่แยกกันไป ผมกับฟ้าติดต่อกันบ่อยมาก เราติดต่อกันทุกช่องทางเท่าที่จะสามารถทำได้ แต่พอเวลาผ่านไป..ช่องว่างแห่งความห่างไกลก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น.. มากขึ้น.. มากขึ้น.. จนสุดท้ายความมีตัวตนของอีกฝ่ายก็ค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา..


ผมคิดว่ามันคงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ เพราะระยะตัวอยู่ไกล ระยะใจก็เลยไม่เท่าเดิม ..แต่ก็ยังพยายามจะมองโลกในแง่ดี บางทีฟ้าอาจจะยุ่ง เขาคงไม่ค่อยมีเวลา มีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่รอให้เขาไปจัดการ ถ้าสะสางปัญหาเรียบร้อยแล้วฟ้าก็คงจะติดต่อกลับมาเอง...สักวันหนึ่ง


แต่ก็เปล่า..


เขาหายไปเลย..


หายไปพร้อมกับคำสัญญาที่ว่าจะกลับมาภายในหนึ่งปี






มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในช่วงท้ายๆ ของชีวิตนักศึกษาของผม.. เดี๋ยวนี้ผมมักจะแวะไปหาคุณพิณทุกวันพฤหัสฯที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน เพื่อระบายสิ่งต่างๆ และบอกเล่าเรื่องราวร้อยแปดที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ..ใช่ อย่างที่คุณคิดนั่นล่ะ ตอนนี้คุณพิณกลายเป็นจิตแพทย์ที่ปรึกษาของผมไปแล้ว


อันที่จริงแล้วผมไม่ได้เจอกับคุณพิณอีกเลยตั้งแต่จบเรื่องของฟ้าคราวนั้น เพิ่งเมื่อครึ่งปีก่อนนี่เองที่ผมบังเอิญไปเจอเขานั่งอ่านหนังสืออยู่ในคอฟฟี่ช็อปใกล้กับมหาลัย ผมเป็นฝ่ายเดินเข้าไปทัก แล้วเราก็เลยได้คุยกัน คุณพิณสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในตัวผม เขาบอกว่าผมอาจจะแย่ถ้ายังเก็บความเครียดสะสมเอาไว้ในใจแบบนี้ เขาแนะนำให้ผมลองแวะไปที่คลินิกสักครั้งหากมีเวลาว่าง ..ตอนแรกผมก็ลังเลอยู่หลายวัน แต่ความรู้สึกที่ว่าอ่อนล้าเต็มทนกับการมีชีวิตอยู่ก็ทำให้ผมตัดสินใจได้ ..และการไปที่นั่นก็ช่วยผมได้จริงๆ


ผมได้รู้จากคุณพิณว่าฟ้ายังอยู่สบายดี แต่ที่ผมไม่รู้ก็คือ ..ทำไมเขาไม่กลับมา?



ชิฮัวท้อง.. นั่นยังไม่น่าช็อคเท่ากับคนที่รับเป็นพ่อคือเมย์บี ..ถึงพักหลังๆ สองคนนี้จะทำตัวติดกันประหนึ่งฝาแฝดก็เหอะ แต่มันก็มีโอกาสเป็นไปได้น้อยกว่าหนึ่งส่วนล้านเสียอีกที่คนอย่างเมย์จะทำชิฮัวท้องได้ ..ที่มั่นใจแบบนั้นเพราะผมรู้ดีว่าเมย์บีคือสิ่งมีชีวิตชนิดที่เรียกว่า ‘กะเทย’ ไงล่ะ เมย์บีไม่เหมือนผมหรือว่าเกย์คนอื่นๆ มันไม่ใช่แค่ชอบผู้ชายด้วยกัน แต่มันมีจิตใจที่ฝักใฝ่อยากจะเป็นผู้หญิงด้วย


แต่ที่เราไม่เคยเห็นมันพยายามจะทำตัวให้เหมือนผู้หญิงเลยก็เพราะว่ามันรักเตี่ยของมันมาก มากจนยอมกดเก็บความต้องการลึกๆ ในจิตใจของตัวเองแล้วพยายามจะเป็นในสิ่งที่เตี่ยมันภูมิใจ ผมรู้มาว่าบ้านมันมีแค่มันสองคนกับเตี่ย ส่วนแม่มันหอบผ้าหนีตามชายชู้ไปตั้งแต่มันยังเป็นเด็กแดงแล้ว เตี่ยเป็นคนเลี้ยงมันมาตามลำพัง มันก็เลยทั้งรักทั้งผูกพันจนไม่สามารถทำร้ายจิตใจของเขาได้ลง เมย์เคยบอกผมว่าไม่อยากทำให้เตี่ยเสียใจเหมือนที่แม่มันเคยทำ


แต่พวกเราต่างก็รู้ดีว่าจริงๆ แล้วเมย์บีเป็นยังไง เพราะงั้นไม่มีทางเป็นไปได้แน่ที่มันจะเผลอมีอะไรกับชิฮัวซึ่งมันเชื่ออยู่เสมอว่าเป็นเพศเดียวกันกับมัน แถมผมยังบังเอิญไปได้ยินมาอีกว่าชิฮัวเพิ่งจะเลิกกับแฟนเก่าที่ขึ้นชื่อกระฉ่อนเรื่องฟันแล้วทิ้ง(ผมว่าเธอโชคร้ายนะ ที่มักจะได้เจอแต่กับผู้ชายประเภทนี้) บางทีหมอนั่นอาจจะเป็นพ่อที่แท้จริงของเด็กที่กำลังจะเกิดมาก็ได้(เห็นว่าตอนเลิกกันชิฮัวก็ไปเตะก้านคอเขาอีกแล้ว) แต่ไม่ว่าจะพยายามคาดคั้นยังไงเมย์บีก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ


นั่นยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่าสิ่งที่คิดต้องไม่ผิดแน่ๆ ผมถามมันไปว่า ‘คิดว่าทำแบบนี้มันดีแล้วเหรอ?’ เมย์ตอบผมว่า ‘ดีหรือเปล่ากูก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ากูได้เลือกแล้ว และที่สำคัญเตี่ยกูดีใจมากที่จะมีหลาน’ ..ดูเหมือนว่าพักหลังๆ เตี่ยเมย์จะเริ่มระแวงบ้างแล้วล่ะว่ามันอาจจะไม่ใช่ผู้ชายจริงๆ เพราะงั้นพอได้ยินว่าจะมีหลานก็เลยดีใจมากสินะ


ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลงเอยแบบนี้มันดีแล้วหรือเปล่า ..แต่ในเมื่อเจ้าตัวได้เลือกแล้ว เราก็คงต้องเคารพการตัดสินใจ



ส่วนซินกับสกาย.. สองคนนี้ระหองระแหงกันมาตลอดในระยะสองสามเดือนหลัง ..เรื่องมันเริ่มที่ว่าครอบครัวของสกายบังเอิญมารู้และรับไม่ได้กับความสัมพันธ์ของลูกชายกับอดีตเพื่อนสนิทที่ผันตัวมาเป็นคนรักอย่างซิน


ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้.. กายเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ป๊ากับม้าของมันก็คงจะหวังเอาไว้เยอะพอควร แล้วอยู่ดีๆ ต้องมารับรู้ว่าลูกชายคนเดียวไปคบกับผู้ชายด้วยกันก็คงจะทำใจยอมรับได้ยากเป็นธรรมดา ขณะที่ลูกของเพื่อนสนิท(เตี่ยของเมย์)ที่มีท่าทีว่าอาจจะเป็นตุ๊ดกลับกำลังจะมีหลานให้อุ้ม ..ผมว่าป๊ากับม้าของสกายคงจะเครียดหนักพอควรเลยล่ะ(..คิดมาถึงตรงนี้แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองช่างโชคดีจริงๆ ที่ได้เกิดมาเป็นลูกของแม่กับป๊ะป๋า)


ตอนแรกทั้งคู่ก็ว่าจะสู้ จะเอาความรักมาพิชิตใจผู้ใหญ่ให้ยอมรับให้ได้  แต่ด้วยอะไรหลายๆ ที่พัดผ่านเข้ามาในชีวิต โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงที่มักจะมีเข้ามาพัวพันกับชีวิตของซินอยู่เสมอ แถมพักหลังๆ ซินยังติดต่อกับไท่หลันบ่อยจนสกายเริ่มหวาดระแวง และเพราะซินไม่เคยคิดจะทำอะไรให้เคลียร์ ตัวสกายเองก็เป็นคนคิดมาก.. จากจุดร้าวเล็กๆ ในใจก็เลยค่อยๆ ขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ จนยากจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้..


ทั้งคู่เลิกลากันในวันสุดท้ายของการเป็นนักศึกษาพอดี






ถึงชีวิตจะทำร้ายเรายังไง เราก็ยังต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป..



หลังจากเรียนจบ ผมกับซินตัดสินใจขายคอนโดและรถที่มีอยู่ แล้วย้ายไปลงหลักปักฐานกันที่ลอนดอนตามคำแนะนำของแม่และคุณพิณ.. 




ถึงเวลาปล่อยให้อดีต..ได้เป็นเพียงอดีตอย่างแท้จริงสักที..   







...ลาก่อน ทุกความทรงจำ...













TBC.  :z2:

^
^
^ ถ้าเปลี่ยนจาก TBC. เป็น END จะมีคนอยากกระทืบตรูไหมหนอ??    o17
ทำไมล่ะ? ถ้าจบแบบนี้ก็ดูชีวิตจริงดีออก :laugh:  ก็ชีวิตคือชีวิต! เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกปายยยย~ :oni1:
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังเป็น TBC. อยู่นะฮัฟ (อย่าเพิ่งข่วนหน้าหนูนะ แอร๊ยยย)



ปล. ทนเสียงเรียกร้องไม่ไหว มาต้นเดือนตอน ปลายเดือนอีกตอนแล้วกันเนาะ
ปล2 ตอนนี้อัพเดทเนื้อหาทุกตอน(รวมตอนนี้ด้วย)เป็นเวอร์ชั่นเดียวกับในหนังสือเรียบร้อยแล้วนะฮัฟ ใครว่างจัดจะลองอ่านซ้ำดูอีกรอบก็ได้ ถ้าเจอคำผิดก็บอกด้วย ช่วยๆ กัน  :o10: (กร๊ากกกก เนียนอีกแล้วตรู)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-09-2012 12:16:35 โดย White Raven »

ออฟไลน์ AllRiseApril

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
อ่าววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
อะไรวะนี่  แต่ยังที่ยังไม่จบ
ซินสกายยังไง? อะไร??
แล้วฟ้าหายไปไหน  โอยยยยยยยย
กลับมาหาซันนี่สิวะ  ไปมุดอยู่ที่ไหนเนี่ยย

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
สกายเลิกกับซิน คืออะไรรรรรรรรรรรรรรร ยังไง วูบเลยนะะะะะ TT  :z3: :z3: :z3:
ไม่มีทางอะ สกายรักซิน แอบชอบซินมาตั้งนาน เป็นไปไม่ได้ !!!!!!!!
ฟ้าก็ยังไม่กลับมา
เมย์บีรับเป็นพ่อของลูกซิอัว เห้ยยยยยยยยยยยยยย
ทุกคนเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยจะทิ้งวันเก่าำว้ข้างหลังหรอ

ปวดใจจจจจจจจจจจ เค้าปวดใจ ไม่เอาแบบนี้ดิ ฮรือออออออออออออ  :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด