hello! SUNSHINE [ตะวันร้าย..ที่รัก]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณปลื้มตัวละครไหนมากที่สุด?

ซันนี่
ซินเซียร์
ไอ้เอี้ยฟ้า
ไอ้บ้ากาย
อิเมย์บี

ผู้เขียน หัวข้อ: hello! SUNSHINE [ตะวันร้าย..ที่รัก]  (อ่าน 1235235 ครั้ง)

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
อ่านมาห้าตอน รู้อย่างเดียวว่าน่าติดตาม
แมน&แรงดีจริงคู่นี้ พระเอกคาแรกเตอร์ไม่ค่อยเจอ

ปล ที่สำคัญชื่อน่ารักทั้งแฝด&ฟ้า (แค่ฟังก้อหล่อแล้ว 555)

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
สาดแบบไหนฟระคะ คุณน้อง


ถ้าสาดแบบนี้  :jul1: ก็แล้วไป

แต่ถ้าสาดอีกแบบ คุณน้องก็เตรียมเลือดสาดได้เลย  :z4: :z4:

ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4

ออฟไลน์ firstlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
คอยลุ้ยและคอยเชียร์
และก็เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะคะ

ออฟไลน์ amito

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1944
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-0
มาสปอยคนอ่านเล่นซะงั้น  มาเร็วๆนะคะ รอ

maii

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ away3g

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-1

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
อย่าให้ถึงขนาด
ตายจากกันเลย :call:

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
Chapter :: 29 :: งานเปิดตัว?







“คิดว่าติดแฟนจนลืมแม่ซะแล้ว” ดอกแรกจากมาดามริต้าถูกซัดใส่ทันทีที่ผมเยี่ยมหน้าเข้าไปถึงอาคารผู้โดยสาร ณ สนามบินสุวรรณภูมิ


ผมยิ้มแหยๆ นำไปก่อน แล้วจึงเดินเข้าไปกอดคนเป็นแม่ที่อ้าแขนรอรับอยู่ก่อนแล้วอย่างประจบประแจงตามประสาลูกคนเล็ก “แหะๆ มีแม่สวยเฉี่ยวเปรี้ยวจี๊ดขนาดนี้ ใครจะบังอาจลืมลง?”


คนถูกชมซึ่งหน้าหัวเราะโฮะๆ อย่างถูกใจ(ประเหลาะง่ายจริง แม่ใครเนี่ย? ฮ่าๆๆ) พลางลูบหลังลูบไหล่ผมไปพลาง 


“แล้วทำไมคนสวยถึงได้รีบกลับจังล่ะฮะ? น่าจะอยู่ต่ออีกหน่อยนะ ยังไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่เลย”


เมื่อกี๊..ขณะกำลังนั่งเล่นเปียโนอยู่กับเอี้ยฟ้าเพลินๆ จู่ๆ มือถือของหมอนั่นก็ดังขึ้น คนที่โทรมาเป็นซิน และบอกว่าแม่กำลังจะกลับลอนดอน ตอนนี้อยู่ที่สุวรรณภูมิ มันถามว่าผมจะมาส่งไหม? ก็ต้องมาส่งสิคร้าบ แม่ทั้งคนนะเออ จะปล่อยไปตามยถากรรมได้ไง ถ้าเป็นซอลลี่ก็ว่าไปอย่าง ฮ่ะๆๆ


..ก็นั่นแหล่ะที่เป็นเหตุผลให้พวกเราทุกคนมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ในนาทีนี้


“ก็เพราะใครไม่รู้มัวแต่ขลุกอยู่กับแฟน แม่ก็เลยน้อยใจ อยู่ไปก็ไม่มีความหมาย เลยคิดว่ากลับบ้านไปหาสามีดีกว่า” ..น่าน มาอีกดอก ซันก็เพิ่งจะขลุกอยู่กับมันแค่วันนี้แหล่ะคร้าบ มาดาม ก่อนหน้านี้เคยทำที่ไหน ซันเป็นเด็กดี รักพี่ รักแม่ รักป๊ะป๋านะ อย่ามาพูดให้ต้องรู้สึกผิดสิ หึยย


“โธ่~ แม่อ่ะ” ผมเบะปาก ทำตาอ้อนๆ แม่ก็เลยหัวเราะชอบใจแล้วขยี้หัวผมซะยุ่งเลย แง่ว!


“พูดเล่น!” แม่บอกพลางยิ้มจนตาหยี “พอดีทางโน้นโทรมาบอกว่าที่ออฟฟิศมีเรื่องยุ่งนิดหน่อยน่ะ ..ก็เรื่องเดิมๆ นั่นแหล่ะ แม่เลยว่าจะกลับไปดูซักหน่อย แล้วก็ต้องไปคุยเรื่องสัญญาของมิรันด้ากับแบรนด์ใหม่อยู่แล้วด้วย”


“มิรันด้า..” พอเอ่ยชื่อขึ้นมา ผมก็หันไปมองหญิงสาวร่างสูงที่ยืนอยู่ถัดจากแม่แค่ไม่กี่ก้าว และพบว่าอีกฝ่ายยืนมองผมอยู่ก่อนแล้ว


เธอเรียกชื่อผมเบาๆ ก่อนจะส่งยิ้มน้อยๆ มาให้อย่างเป็นมิตร เห็นเธอยังยิ้มได้ผมก็ใจชื้นขึ้นเยอะ ความรู้สึกผิดเบาบางลง พอเธอขยับขาก้าวมาหา ผมจึงอ้าแขนรอรับอย่างเต็มใจ


“ฉันขอโทษจริงๆ นะ มิรันด้า” ผมกระซิบบอกกับกลุ่มผมนุ่มสีแดงของคนที่อยู่ในอ้อมกอดตอนนี้


“คุณพูดมันบ่อยเกินไปแล้ว รู้มั้ย?” อีกคนตอบอู้อี้กลับมา


“ฉันทำผิดกับเธอ”


“รู้ก็ดี.. คุณทำร้ายจิตใจผู้หญิงน่ารักอย่างฉันโดยการไปเลือกผู้ชายน่ากลัวคนนั้น คุณมันตาถั่ว ซัน”


“ฉันขอโทษ”


“ฉันขี้เกียจฟังแล้ว คุณพูดคำอื่นบ้างไม่เป็นหรือไง?”
คำตอบกลับที่แสนเอาแต่ใจเรียกร้อยยิ้มจากผมได้อย่างไม่ต้องสงสัย


“ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่เธอมีให้กับฉันนะ”


“แน่ใจได้เลยว่าคุณจะไม่ได้รับมันอีก ไม่มีทาง” 



ผมหัวเราะเบาๆ กับคำประกาศนั้น “ยังไงก็ขอบคุณ ..ที่ไม่เกลียดฉัน”


“ฉันไม่ใช่คนใจแคบขนาดนั้นหรอก ..ซันชายน์”


เราผละออกจากกัน มิรันด้าเชิดหน้าขึ้น ถึงเธอจะพยายามทำเป็นว่าไม่รู้สึกอะไร ไม่แคร์ แต่ผมก็แอบเห็นว่าดวงตาของเธอมันรื้นขึ้นมาอย่างปกปิดไม่มิด


“แต่จบแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะมันทำให้ฉันได้รู้ความจริงข้อนึงว่า..” เธอพูดด้วยท่าทางเริ่ดๆ เชิดๆ พลางไหวไหล่น้อยๆ “คนโง่อย่างคุณน่ะ ไม่คู่ควรกับฉันหรอก!” 


“ยะ..ยัยตัวแสบ!” ผมอึ้งไปนิด ก่อนจะแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่ายอย่างเจ็บใจกับคำจิกกัด มิรันด้ามองหน้าผมอย่างท้าทาย ขณะที่ผมก็จ้องเธอตาเขม็ง


“ฮ่ะๆๆๆ” ก่อนที่เราทั้งคู่จะหลุดหัวเราะออกมาในที่สุด ..เอาเถอะ จบแล้วนี้ก็ดีแล้ว ผู้หญิงน่ารักอย่างมิรันด้าน่ะ ควรจะได้เจอคนที่ดีกว่าผมจริงๆ นั่นแหล่ะ.. 


“เสียงประกาศเรียกแล้ว แม่ต้องไปล่ะ ไว้เจอกันช่วงซัมเมอร์นะ มายทวิน ..ยูจังด้วยนะ ซัมเมอร์นี้ก็ไปหาแม่อีกล่ะ คนที่โน่นบ่นถึงเธอแทบทุกวัน ไปพร้อมแฝดเลยก็ได้ เดี๋ยวแม่ให้คนส่งตั๋วมาให้ ..น้องฟ้า น้องกาย ถ้าอยากไปเที่ยวก็เชิญเลยนะ คฤหาสน์แอนเดอร์สันยินดีต้อนรับหนุ่มๆ หน้าตาดีเสมอจ้ะ ..อ้อ ฝากชวนน้องเมย์บีด้วย ..แล้วก็ซอลลี่ วีคเอนด์หน้าลูกมีถ่ายแบบของชาเนลนะ เซ็นทรัลเป็นช่างภาพด้วย อย่าไปกลับเอาวันที่จวนตัวเกินไปล่ะ”


“ฮะ” ซอลลี่รับคำสั้นๆ หอมแก้มแม่ทั้งซ้ายทั้งขวาก่อนถอยออกมา


“เดินทางปลอดภัยนะครับ” ไอ้ยูหัวลูกชิ้นอวยพรด้วยรอยยิ้มซื่อบื้อของมัน


“ถึงแล้วโทรบอกด้วยนะ เจ๊สุดสวย” ซินบอกแม่แล้วยิ้มกว้าง


“ฝากความคิดถึง ถึงมาร์ตินด้วยฮะ” ผมเข้าไปกอดแม่อีกครั้งพร้อมกับฝากไปถึงพ่อเลี้ยงที่อยู่ลอนดอน


“สวัสดีครับ คุณแม่” ไอ้กายยกมือไหว้ลาแม่ผมซะสวยเลย ท่าทางมันนี่นอบน้อมสุดฤทธิ์ มารยาทดีจนกุลสตรียังต้องชิดซ้าย ก้มหัวจนแทบจรดถึงเข่าเหอะ ผมว่าถ้ามันไม่เกรงใจสายตาผู้โดยสารร่วมอาคารนะ มันคงจะหมอบลงไปกราบเบญจางคประดิษฐ์เป็นแน่แท้


ส่วนแม่ยกมือรับไหว้แบบงงๆ คงเพราะไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเอ็นดูแล้วลูบหัวไอ้กายเบาๆ ปกติแล้วบ้านเราไม่ค่อยได้ทักทายกันแบบนี้น่ะ เราชินกับการกอดกันหอมกันมากกว่า เจอแบบนี้เข้าแม่เลยชะงักไปเล็กน้อย


“มารยาทงามนะน้องกายเนี่ย สนใจอยากมาเป็นลูกสะใภ้แม่อีกคนมั้ย?” แม่ชวนเองก็ฮาเอง


เชื่อว่าเจ้าตัวคงไม่ได้คิดอะไร แต่ไอ้คนถูกชวนดันทำกระมิดกระเมี้ยนเอียงอายจนน่าหมั่นไส้ กระแดะมากครับมึง เห็นแล้วรู้สึกคันตีนยิบๆ ถ้าไม่ติดว่าเกรงใจแม่ผมถีบตูดมันจริงๆ นะเนี่ย แรดจริง เชี่ยกาย ทำไปด๊ายยย..


ส่วนซินก็หัวเราะท้องคัดท้องแข็งไปตั้งแต่แม่ชวนไอ้กายแล้ว และยิ่งหัวเราะไม่หยุดเมื่อไอ้กายดันทำดัดจริตเขินอาย


นี่พวกมึงคืนดีกันแล้วใช่ไหม? ..ตอนผมมาถึงก็เห็นพวกมันยืนตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋เชียวเหอะ


“น้องฟ้า~” หลังจากลูบหัวไอ้กาย แม่ก็โผเข้าไปกอดเอี้ยฟ้าแบบเต็มรัก กอดรัดฟัดเหวี่ยงขยำขยี้มันจนหนำใจจึงยอมผละออกด้วยสีหน้าสุดเสียดาย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มชื่นมื่นในเวลาอันรวดเร็ว “แหม.. ได้กลิ่นเนื้อหนุ่มแน่นๆ แล้วมันทำให้กระชุ่มกระชวยช่วยเพิ่มพลังชีวิตจริงๆ เสียดายที่ฉันไม่โสดซะแล้ว ไม่งั้นล่ะก็นะ.. โฮะโฮะโฮะ”


โฮะทำไม? ไม่งั้นแล้วไง? ได้ข่าวว่าลูกสาม สามีสี่ สะใภ้อีกหนึ่งหน่อแล้วนะป้า ปีหน้าอายุก็ขึ้นเลขห้าแล้วด้วยเหอะ อย่ามาๆ


ผมว่าแล้วเชียว เอี้ยฟ้ามันถูกตาต้องใจแม่มาตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอแล้ว ก็เล่นพุ่งเข้าไปหาซะขนาดนั้น ไม่ใช่แค่ในฐานะนายแบบอย่างเดียวหรอก อย่างเอี้ยฟ้าเนี่ย..สเป็กป้าแกเลย ได้ทีก่อนจากก็มาหาเศษหาเลยกันซะพอหอมปากหอมคอ ไว้ใจไม่ได้จริงๆ เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวฟ้องคุณตามาร์ตินเลย เดี๊ยะๆ (..ไม่ได้หวงเอี้ยฟ้านะเนี่ย ไม่ได้หวงเลยยย แต่ห่วงความรู้สึกของสามีป้าแกต่างหาก ..จริงจริ๊งงงง)


“แม่ไปแล้วนะทุกคน โชคดีจ้า” แม่ที่เพิ่งลากกระเป๋าเดินออกไปหันกลับมาโบกมือให้อย่างร่าเริง


“โชคดีคร้าบบบ~”


“โชคดีค่ะ ซัน ..จุ๊บ!” มิรันด้าก็เข้ามาจุ๊บแก้มผมที ก่อนรีบลากกระเป๋าตามแม่ไปอีกคน


“โชคดี มิรันด้า..” ผมพูดเบาๆ พลางโบกมือ


รู้สึกใจหายอยู่เหมือนกัน ขณะมองตามแผ่นหลังบอบบางนั่นไป..






“ตาละห้อยเชียว ซันนี่ที่รัก” ระหว่างเดินไปลานจอดรถซินก็เข้ามากอดคอผม กระเซ้าแซวปนเสียงหัวเราะ “นึกเสียดายยัยเด็กผมแดงขึ้นมารึไง?”


“สลัดไอ้ลูกเป็ดทิ้งตอนนี้ก็ยังทันนะ คิดผิดคิดใหม่ พี่สนับสนุน โอ๊ยยย” ยังเสี้ยมไม่ทันจบไอ้ตัวดีก็ต้องร้องลั่นเพราะถูกใครบางคนกระตุกผมเดทร็อคจนหน้าหงาย


..ก็ไม่ใช่ใครหรอก ไอ้ลูกเป็ดที่กลัวว่าจะถูกทิ้งนั่นแหล่ะ เดินตามมาทันตอนไหนไม่รู้ เมื่อกี๊ยังเห็นเดินอ้อยอิ่งรั้งท้ายคุยกับไอ้กายงุ้งงิ้งๆ อยู่เลย(ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน ไม่รู้ด้วยว่ามันไปตีซี้กันตั้งแต่ตอนไหน แต่ดูจากท่าทางแล้ว คนที่ตีซี้น่าจะเป็นทางไอ้กายมากกว่า เพราะหน้าตาเอี้ยฟ้าดูไม่ค่อยเต็มใจจะสนิทชิดเชื้อด้วยสักเท่าไหร่หรอก เหอะๆ) 


“ไอ้เอี้ยลูกเป็ด! มึงกล้าทำกับพี่ชายสุดที่รักของแฟนมึงแบบนี้เหรอ? อยากตายใช่มั้ยห๊ะ ไอ้เป็ดขนหงอก?” ซินที่ตั้งตัวได้หันไปแง่งๆ ใส่คู่กรณีทันทีด้วยหน้าตาแค้นเคือง มันถลกแขนเสื้อเตรียมมีเรื่องเต็มที่


แต่ก็ใช่ว่าไอ้หน้ามึนที่ถูกท้ามันจะกลัว หักนิ้วหักข้อสะบัดคอวอร์มอัพรอมีเรื่องเต็มที่เหมือนกัน ..เอา เอาเข้าไป ฟัดกันตรงนี้กูไม่อยู่ห้ามนะ กูอายเขา


ว่าแต่ตอนนี้ทุกคนพากันเข้าใจว่าผมกับเอี้ยฟ้าเป็น ‘แฟน’ กันสินะ? ทั้งแม่ ทั้งซอลลี่ ทั้งซิน.. เอาวะ! แฟนก็แฟน (ยักไหล่)
เอ้อ แต่ที่แม่ยังไม่นับญาติให้เอี้ยฟ้ามาเป็นลูกสะใภ้..เอ้อ..หรือ..หรือลูกเขยก็..ก็แล้วแต่ คงเป็นเพราะแม่ยังไม่คิดว่าผมจะจริงจังกับมันเหมือนอย่างที่ซอลลี่จริงจังกับไอ้ยูล่ะมั้ง ก็คงต้องรอดูกันต่อไป..


“อย่างี่เง่าน่า” ผมตบอกเอี้ยฟ้าเบาๆ เป็นเชิงปราม ขณะที่ไอ้กายก็กระตุกชายเสื้อซินยิกๆ เหมือนไม่อยากให้มีเรื่อง ทั้งเอี้ยฟ้าเอี้ยซินก็เลยสะบัดหน้าหนีไปคนละทาง ..เอาเหอะ


“เออนี่ วันนี้นายจะไปค้างกับแฟนใช่มั้ย? พี่จะได้ให้ยูไปนอนเป็นเพื่อนที่ห้อง” ซอลลี่ที่เดินนำอยู่ข้างหน้าหันกลับมาถามผมหน้าตาเฉย


โดยที่ผมเองก็ยังไม่รู้ตัวเลย.. เฮ้ย! วันนี้กูจะไปค้างกับแฟนเหรอ? หันไปมองเอี้ยฟ้าคนข้างตัวก็เห็นมันยกยิ้มมุมปากคล้ายถูกใจ ..ม่ายยยยย! วันนี้ซันจะกลับไปนอนบ้าน ขืนอยู่กับมันทั้งคืนน้ำซันหมดตัวแน่..


หันไปมองซินก็เห็นมันเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เลยอดถามออกไปไม่ได้ “แล้วมึงอ่ะ นอนไหนคืนนี้?”


คนถูกถามหันไปมองหน้าไอ้กายเหมือนปรึกษา ก่อนจะกลับมามองผมแล้วชี้นิ้วโป้งไปทางไอ้กายที่ยืนยิ้มแฉ่งคล้ายจะบอกว่า ‘กูจะนอนกับไอ้นี่’


..นอนกับไอ้กาย? เดี๋ยวนี้มึงกล้านอนกับคนอื่นที่ไม่ใช่กูแล้วเหรอ ซิน?


หืมมม...ผมขมวดคิ้วจ้องหน้าไอ้กายอย่างคลางแคลงใจ มึงเล่นของกับพี่กูป่ะเนี่ย เชี่ยกาย? ทำไมมันถึงได้ยอมไปค้างกับมึงได้? สงสัยจะต้องสาวไส้กันขนานใหญ่แล้วมั้ง พวกมึงสองตัวพัฒนาไปถึงขั้นไหนกันแล้วเนี่ย? ชักอยากรู้..


แต่พอมองเลยไปถึงไอ้ยูก็เห็นมันมองผมตาปริบๆ อย่างคนไม่รู้อิโหน่อิเน่ ไม่ทันเล่ห์คนร้ายลึกอย่างซอลลี่หรอก วกกลับมามองคนเปิดประเด็นอีกรอบก็พอจะเข้าใจอะไรได้คร่าวๆ


ผมขยับไปประชิดตัวพี่ชายคนโตแล้วพูดเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน “ทำไมพี่ไม่ไปบ้านไอ้ยู หรือไม่ก็ไปโรงแรมวะ?”


“ไปโรงแรมมันยุ่งยาก จะไปบ้านยูก็เกรงใจยายของยู” ซอลลี่บอก


รู้สึกไอ้ยูมันจะอยู่กับยายแค่สองคนล่ะครับ


“อีกอย่าง.. ยายยูก็ยังไม่รู้ว่าเราคบกันแบบไหน”


“พี่ยังไม่ได้แนะนำตัวอีกเหรอ?” ผมสงสัย


“อือ ยูกลัวยายรับไม่ได้ เลยแนะนำไปแค่ว่าเป็นเพื่อน” คนพูดไหวไหล่น้อยๆ ดูก็รู้ว่ามีแค่ไอ้ยูคนเดียวที่คิดมาก ส่วนซอลลี่น่ะคงไม่แคร์อะไรหรอก 


“ใช่ว่าทุกครอบครัวจะเหมือนครอบครัวเรา..” ซอลลี่ว่า


ผมได้ยินแบบนั้นก็อึ้งไป ..จริงสินะ ผมคงชินกับความเปิดกว้างของครอบครัวตัวเองจนลืมคิดไปเลยว่าแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน คิดแล้วก็อดที่จะเหลือบไปมองเอี้ยฟ้าไม่ได้ ..แล้วครอบครัวมึงล่ะ จะรับเรื่องที่มึงมาคบกับผู้ชายอย่างกูได้ป่ะวะ?


เออ เหมือนผมจะเริ่มมองเห็นเค้าลางความยุ่งยากของความสัมพันธ์รูปแบบใหม่นี้แล้วว่ะ..


“พี่คงต้องให้เวลากับยูอีกหน่อย..” เสียงซอลลี่ดึงความสนใจของผมกลับมาอยู่ที่เดิม


ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนพยักหน้าบอกอย่างจำใจ “เออๆ อย่าทำห้องซันเลอะก็แล้วกัน”


ตกลงกันได้ก็ควรจะถึงเวลาแยกย้าย แต่จู่ๆ มือถือเอี้ยฟ้าก็ดังขึ้นมา เห็นมันกดรับแล้วพูดแค่ไม่กี่คำก็วางสายไป


“ไปปาร์ตี้วันเกิดชิฮัวกันมั้ย?” มันชวนผมเสียงเฉื่อยชาตามสไตล์


แต่ก่อนที่ผมจะได้ตอบซินที่บังเอิญได้ยินก็โพล่งขึ้นก่อน “วันนี้วันเกิดยัยโหดเหรอ? ฉลองกันที่ไหนวะ?” 


..ถามแบบนี้แปลว่ามันจะไปแจมด้วยชัวร์ๆ


แล้วก็ไม่ผิดจากที่ผมคิดไว้ พอเอี้ยฟ้าบอกชื่อผับซินก็ยิ้มร่า บอกค่อยเจอกันที่นั่น แล้วขับบีเอ็มของตัวเองออกไปก่อนพร้อมกับไอ้กาย ซินไปผมก็ต้องไปอยู่แล้ว วันเกิดเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ทั้งทีนี่นะ แต่ที่ผิดคาดคือซอลลี่ขอตามไปด้วยนี่แหล่ะ คงจะอยากเห็นแสงสียามค่ำคืนล่ะมั้ง ตั้งแต่มานี่ก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยนี่นา


ก็เป็นอันว่าคืนนี้พวกเราสามพี่น้อง พร้อมทั้งเอี้ยฟ้า ไอ้กาย และไอ้ยูริ จะบุกไปถล่ม..เอ่อ..อวยพรยัยชิฮัวจอมโหดกันทั้งหมดนี่แหล่ะ




 

ระหว่างทางจากสนามบินไปยังผับ.. ด้วยความเพลียจากกิจกรรมในร่มเมื่อช่วงเย็น บวกกับแอร์เย็นฉ่ำในรถและเสียงบรรเลงเพลงคลาสสิกที่เปิดคลอตลอดทาง(ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างเอี้ยฟ้าจะฟังเพลงแนวนี้ใช่มะ? ฮะฮะ..) พาเอาผมถึงกับเคลิ้มหลับฝันดี มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีตัวอะไรไม่รู้มานัวเนียคลอเคลียอยู่แถวหู คอ จมูก ปาก จนพาลให้รู้สึกรำคาญ ต้องปัดป่ายมือไม้ส่ายหน้าหนีเป็นพัลวัล แต่ด้วยความง่วงจัดจึงยังไม่ยอมลืมตาตื่น


“ฮื้อ..” ผมครางในลำคออย่างขัดใจกับการถูกรบกวนเวลาชวนฝันแบบนี้ พยายามพลิกตัวหนีแต่ก็ถูกจับเอาไว้ไม่ให้ทำดังใจ ชักหงุดหงิดหนักเข้าก็ยกเท้าขึ้นเตรียมยันโครมอีกฝ่าย จะตัวอะไรก็ช่างแมร่ง! สบถพำพึมในใจแต่ยังไม่ทันจะได้ทำอย่างที่ตั้งใจก็ต้องลืมตาโพลงเมื่อสัมผัสได้ถึงมือเย็นๆ ของใครบางคนกำลังจู่โจมแถวเป้ากางเกงผมอยู่ เฮ้ยยย!!


“อื้อ!!..” ร้องได้แค่ในใจเมื่อช่องทางการออกเสียงถูกปิดสนิทด้วยริมฝีปากของคนนิสัยเสียนามเอี้ยฟ้าประทาน ผู้มีงานอดิเรกเป็นการแอบลักหลับชาวบ้าน แถมยังอาศัยช่วงที่ผมตกใจสอดลิ้นเข้ามาดุนดันล้อเล่นกับจิลบนลิ้นของผมอีก


แล้วถามว่าผมทำไงต่อ? ก็...เคลิ้มสิครับ ..ฮึ่ย! เกลียดตัวเอง


“ฮื่อ..” ผมปล่อยให้มันจูบจนพอใจจนมันยอมล่าถอยไปเองนั่นแหล่ะ จึงได้เริ่มเปร่งเสียงออกมาอีกครั้ง


“จู่ๆ เล่นบ้าอะไร?” ผมพูดได้ไม่เต็มเสียงนัก เพราะยังหอบอยู่ สองมือยันอกคนที่กำลังเอาจมูกถูๆ ไถๆ แถวข้างแก้มไว้ เพื่อรักษาระยะห่างก่อนที่มันจะเข้ามาใกล้กว่านี้จนสามารถสิงร่างของผมได้


“ก็เรียกแล้วไม่ตื่น” มันตอบเนิบๆ และยังไม่ยอมถอยห่าง แถมมือยังลูบเป้าผมเล่นอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจด้วย


ป๊อก!! ..เสียงกระดูกนิ้วโดดดีดแบบเต็มข้อดังขึ้นก่อนที่มือซนไม่เลือกสถานที่ข้างนั้นจะยอมชักกลับไปสลัดเบาๆ เป็นเชิงบอกให้รู้ว่าเจ็บ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ส่งเสียงโอดโอยอะไรตามประสาคนหน้ามึน


“ไม่มีวิธีปลุกที่ดีกว่านี้แล้วไง๊?” ผมพูดพลางถลึงตาดุใส่


“ก็อยากปลุกแบบนี้อ่ะ...โอ๊ะ” เสียงร้องหลุดออกมาเบาๆ เมื่อคราวนี้ถูกผมดีดเหม่งอีกป๊อกนึง คนโดนลงโทษเบ้ปากขัดใจเล็กน้อย แล้วยอมถอยกลับไปนั่งที่เบาะของตัวเอง และผมเพิ่งจะรู้ตัวเดี๋ยวนั้นเองว่าเบาะของตัวเองถูกปรับลงจนเกือบจะ 180 องศาแล้ว ..นี่ถ้าผมไม่รีบตื่นมันกะจะทับผมในนี้จริงเหรอวะ? หึยยย.. อันตรายชะมัด! 


“ถึงแล้วเหรอ?” หลังจากส่งสายตาเขียวปั้ดไปคาดโทษคนข้างตัว ผมก็ลองหันมองรอบๆ ตัวและพบว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในลานจอดรถ ..ที่ไหน?


“ฮื่อ” คนถูกถามตอบรับในลำคอ ก่อนถามกลับ “จะกลับกันเลยมั้ย?”


“หือ?” ผมส่งเสียงขึ้นจมูก ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ..กลับเลยไหม? กลับไปไหน? ก็เพิ่งมาถึงไม่ใช่หรือไง? จะรีบกลับไปทำไม?


“ก็เห็นง่วงๆ ..เลยคิดว่าอยากจะกลับไปนอนมากกว่ารึเปล่า?”


อ้อ.. ผมพยักหน้าหงึกหงัก ไอ้อยากกลับก็อยากอยู่นะ คิดถึงที่นอนนุ่มๆ มากมายเลยตอนนี้ แต่ไหนๆ ก็มาถึงที่แล้ว ลงไปดริ๊งค์สักหน่อยน่าจะดีกว่า


ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยไว้ใจ “แน่ใจว่ากลับไปแล้วกูจะได้นอน?”


“ถ้าอยากนอนก็จะไม่กวน...แต่ถ้าอยากให้กวนก็สะกิดได้” มันพูดยิ้มๆ เลยโดนผมชกต้นแขนไปทีแบบไม่แรงมากนัก


“ไอ้บ้า..” ผมด่าแบบไม่จริงจัง ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถพลางอมยิ้ม “ลงมาเร็วๆ เหอะ พวกนั้นเข้าไปข้างในกันหมดแล้วมั้ง”





กำลังจะเข้าร้านก็เห็นว่ารถของซอลลี่กับไอ้ยู(ก็โฟล์คของผมแหล่ะ)เพิ่งจะมาถึง เลยตัดสินใจยืนรอแป๊บนึงแล้วค่อยเดินเข้าไปพร้อมกันทั้งสี่คน..


แสงไฟสลัวหลากสี จังหวะหนักๆ ของเครื่องดนตรี กลิ่นเหล้าเคล้ากลิ่นน้ำหอมนานายี่ห้อของนักท่องราตรีก็พาเอาผมครึ้มอกครึ้มใจโยกหัวไปพลางมองหาพี่ชายฝาแฝดของตัวเองไปพลางท่ามกลางผู้คนมากหน้าหลายตา ..ก็นะ เหมือนผมจะไม่ได้มาเจอกับบรรยากาศแบบนี้พักใหญ่แล้วนะเนี่ย ครึกครื้นดีจัง


“ซันนี่!!!” พลังเสียงแปดหลอดของพี่ชายผู้เป็นที่รักพุ่งแหวกอากาศมากระแทกโสตประสาทของผมพอดี ไม่ต้องเสียเวลาหาให้เมื่อย แค่หันไปยังทิศที่มาก็เจอไอ้ตัวดียืนกวักมือเรียกยิกๆ แล้ว


ผมส่งยิ้มนำไปก่อนจะเดินฝ่าผู้คนเข้าไปหา ระหว่างทางก็รู้สึกถึงสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมายังหมู่คณะของผมด้วยความสนใจ.. แหงล่ะ ก็หนึ่งในนี้มีไอ้หัวหงอกก่อนวัยอันควรอย่างเอี้ยฟ้ารวมอยู่ด้วยนี่นะ ไปโผล่ที่ไหนก็เด่นทุกที่แหล่ะมัน และถ้าผมไม่ได้คิดมากไปเอง นอกจากแววตาสนใจ สงสัย ใคร่รู้ และอยากหิ้วกลับห้องคืนนี้ด้วยแล้ว มันก็ยังมีแววตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรปะปนอยู่ในนั้นด้วย ..อืม


“ร้านพี่ตินตินว่ะ” พอผมไปถึงซินก็ตะโกนพูดแข่งกับเสียงเพลงพร้อมกับชี้นิ้วโป้งไปยังผู้ชายหน้าใสไซส์มาตรฐานชายไทยคนหนึ่งซึ่งผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี ผมพยักหน้าทักทายแก แกก็พยักหน้าตอบ 


“เปิดร้านใหม่อีกแล้วเหรอ เสี่ยติน?” ผมถามยิ้มๆ


ที่ถามแบบนี้เพราะผมรู้ว่าพี่แกมีคลับหรูที่ไว้ต้อนรับเฉพาะพวกกระเป๋าหนักอยู่แล้วร้านนึง แล้วก็มีร้านอาหารที่ดริ๊งค์ได้อีกร้านนึง และไอ้ร้านหลังนี่ผมกับซินก็เคยไปรับจ๊อบพิเศษร้องเพลงเล่นดนตรีอยู่บ้างเหมือนกันเวลาร้อนตังค์ ฮ่ะๆๆ


แล้วที่ผมรู้จักกับพี่แกก็เพราะพี่แกเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่คนแรกและคนเดียวของซอลลี่สมัยที่ยังอยู่เมืองไทยน่ะสิ


“เออๆ รู้แล้วก็มาอุดหนุนบ่อยๆ นะเว้ย เดี๋ยวคิดราคาพิเศษ แบบ..แพงเป็นพิเศษอ่ะ” พี่แกพูดแล้วก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างคนอารมณ์ดีเป็นนิตย์


ถ้าใครบอกว่าหัวเราะแล้วจะเด็กลงผมเชื่อนะครับเนี่ย ดูจากพี่ตินเป็นตัวอย่างได้ หน้าตาอย่างกะเด็กม.ปลายเหอะ 


“ว่าแต่พวกมึงหายหัวไปเลยนะช่วงนี้ ไม่ไปร้องเพลงที่ร้านมั่งวะ ลูกค้าสาวๆ บ่นถึงแย่แล้ว”


“ไม่ค่อยว่างน่ะพี่” ผมตอบกว้างๆ “ไว้หาเวลาได้แล้วจะไปนะ”


“เออดี รีบๆ เลย แล้วไหนไอ้เหนือล่ะ? เห็นแฝดมึงบอกว่าไอ้เหนือกลับมาไม่ใช่เหรอ?” พี่ตินถามพลางพยายามชะเงื้อชะแง้ข้ามไหล่ผมไป


‘ไอ้เหนือ’ ที่ว่านี่ไม่ได้มาจาก..เหนือมนุษย์..แต่อย่างใด(แม้มันจะดูเหมาะกว่าก็เหอะ ฮ่าๆ) แต่มันคือ..ไอ้คุณพี่แสงเหนือของผมเองล่ะครับ ดูเหมือนเมื่อก่อนเพื่อนๆ ที่โรงเรียนจะเรียกหมอนั่นแบบนี้น่ะ


แต่ยังไม่ทันได้เจอคนที่ต้องการก็เจอะกับไอ้คนหัวขาวที่เดินตามหลังผมมาซะก่อน พี่ตินทำตาโตแล้วฉีกยิ้มกว้างร้องถามเหมือนคนรู้จักคุ้นเคย “อ้าว~ น้องรูปหล่อฟ้าประทานนี่เอง ไปไงมาไงวะครับเนี่ย?” 


“มาวันเกิดเพื่อน” เอี้ยฟ้าตอบหน้าตาเฉยเมยตามแบบฉบับ


“อ๋อ ที่จองโซนวีไอพีไว้รึเปล่า? ขึ้นไปดิ อยู่ชั้นสองอ่ะ” พี่แกคาดเดาและบอกทางให้เสร็จสรรพ จากนั้นก็หันมาคุยกับผมต่อ


“แล้วนี่มาด้วยกันรึเปล่า?” ถามพลางชี้ผมกับเอี้ยฟ้าสลับกัน ผมพยักหน้า คนได้รับคำตอบทำตาวาวสนใจทันที ผมเลยถือโอกาสถามกลับบ้าง


“พี่รู้จักมันด้วยเหรอ?” ผมชี้นิ้วโป้งไปที่คนข้างตัว


“ก็ต้องรู้จักดิ คนดังนี่หว่า”


ผมเลิกคิ้วกับคำตอบนั่น เหลือบไปมองคนที่กำลังตกเป็นหัวข้อสนทนานิดหน่อย ก่อนจะดึงความสนใจกลับมาที่คู่สนทนาตามเดิม 


“คนเที่ยวย่านนี้เค้ารู้จักมันหมดนั่นแหล่ะ ถามดิ..ใครไม่เคยได้ยินชื่อ   ‘ฟ้าประทาน’ มั่ง?” 


ผมเบ้ปากกับคำบอกเล่าที่เหมือนจะเว่อร์นั่น ก็ไม่รู้ล่ะนะว่าจริงหรือเปล่า? แล้วไอ้ที่ดังเนี่ยมันดังในด้านไหน?(แต่คงเดาไม่ยาก)
พี่ตินหัวเราะร่วนก่อนหันไปพูดกับเอี้ยฟ้าบ้าง “ว่าแต่ช่วงนี้หายหน้าหายตาไปเลยนะ ไม่ค่อยเห็นออกมาล่าเหยื่อเหมือนอย่างเคย”


“ล่าเหยื่อ?” ผมเลิกคิ้วพลางพูดทวน


“ก็เออดิ คนหล่อฟ้าประทานออกมาทุกทีอย่างน้อยก็ต้องได้ติดไม้ติดมือกลับไปซักคนสองคนล่ะ ผู้หญิงเค้าก็รอจนแทบจะต่อคิวกันให้มันมาหิ้วไปอยู่ ดูอย่างทางนั้นดิ จ้องตาเป็นมันเชียว” คนพูดชี้ไปยังกลุ่มผู้หญิงชุดดำสุดเซ็กซี่ที่มุมหนึ่ง ..พอเห็นพวกผมหันไปคนที่ดูเหมือนจะเด่นที่สุดก็ยกแก้วขึ้น สายตาพุ่งตรงมายังเอี้ยฟ้าแบบเปิดเผย ไอ้นั่นเองก็ตอบรับไมตรีโดยการยกแก้วในมือขึ้นเหมือนกัน แต่หน้าตาก็ยังเฉยชาหามีอารมณ์ร่วมไม่


..มันดูมีเสน่ห์ตรงไหนวะ? ผมล่ะงง


“ไอ้เหนือ?! ไอ้เหนือใช่เปล่า?” เสียงพี่ตินตื่นเต้นดีใจทันทีที่ซอลลี่เดินฝ่าผู้คนมาถึงจุดที่พวกเราอยู่ พออีกฝ่ายพยักหน้าตอบรับ พี่แกก็รีบพุ่งไปกอดไปจับไหล่จับมือด้วยท่าทางดีใจ “ไอ้เหนือจริงๆ ด้วย กี่ปีแล้ววะที่ไม่เจอมึง? สิบปี? สิบเอ็ดปี?”


“สิบเอ็ดมั้ง” ซอลลี่ตอบอย่างไม่แน่ใจนัก


“นานเนอะ เมื่อก่อนกูว่ามึงสวยแล้วนะ แต่ดูตอนนี้ดิ โหยยยยย แมร่ง! ไอ้เหนือเป็นสาวแล้ว ฮ่าๆๆ” 


ผมล่ะอดหัวเราะตามไม่ได้ ..จริงๆ แล้วพี่ตินแกออกจะเป็นคนล้นๆ รั่วๆ ออกแนวไฮเปอร์น่ะ


“แต่นายดูไม่โตขึ้นเลยนะ” ซอลลี่พูดยิ้มๆ เพื่อพิจารณามองเพื่อนเก่าตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน


ผมกับซินพยักหน้าเห็นเด้วยหงึกๆ เลยล่ะกับข้อสังเกตนี้ แต่อีกคนกลับย่อนจมูกอย่างไม่ค่อยพอใจเมื่อถูกทักว่าไม่ยอมโต(ฮ่ะๆ)


“กูไม่เกิดในตระกูลเปรตอย่างพวกมึงบ้างก็แล้วไป เหอะ” แว่วเสียงบ่นอุบอิบคล้ายแง่งอน เรียกเสียงหัวเราะจากพวกผมสามพี่น้องได้อีกระลอก


“อ้าว ไอ้น้องยู มึงมาทำอะไรแถวนี้เนี่ย? งานการไม่ยอมไปทำนะ มึงหยุดไปกี่วันแล้วอาทิตย์นี้? ถ้ากูหักตังค์อย่ามาโอดครวญที่หลังล่ะ” คุยกับซอลลี่ได้อีกสองสามประโยคพี่ตินก็สังเกตเห็นไอ้หัวลูกชิ้นมายืนอยู่ด้านหลังทุกคน


“ก็บอกแล้วไงว่าขอลาหยุดอาทิตย์นึง” ไอ้ยูตอบหน้าเมื่อย ท่าทางเหมือนมันจะคุ้นเคยกับเจ้าของร้านคนนี้ดีซะด้วย ...ว่าแต่ รู้จักกันเหรอ?


“รู้จักยูด้วยเหรอ?” ซอลลี่ถามในสิ่งที่ผมกำลังสงสัยอยู่พอดี


“อือ ไอ้นี่มันทำงานอยู่ที่คลับของกูน่ะ แล้วมึงล่ะ ไปรู้จักมันได้ไง?”


“อ้าว เดี๋ยวนี้มึงเป็นเด็กนั่งดริ๊งค์ของเสี่ยไฮโซเหรอ ยูริจัง” ซินแทรกขึ้นแล้วหัวเราะกิ๊กกั๊กชอบใจ เลยถูกอีกฝ่ายชูนิ้วกลางใส่หน้าไปเต็มๆ 


“ยูเป็นนักเรียนที่เดียวกับแฝด แล้วก็..” ซอลลี่ตอบเสียงเรียบ ก่อนจะยกแขนขึ้นโอบไหล่ไอ้หัวโล้นที่กำลังแง่งๆ แข่งกับซินอยู่ ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลยว่าซอลลี่กำลังพูดอะไร “..เป็นแฟนผมด้วย” 


“อ๋อ..” พี่ตินพยักหน้ารับเหมือนจะเข้าใจ


แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นตาโตแหกปากด้วยความตกใจแทน “ห๊า?!!”   



(ต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2012 14:27:24 โดย White Raven »

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
(ต่อ)



“ยู้..ยู้ฮู้ว~ เฮ้ๆ เอิ๊วๆ ทางนี้...ทางนี้..ไอ้หมาฟ้า...หันมามองทางนี้ดิ๊!!”


ระหว่างที่พี่ตินกำลังช็อคและไอ้ยูกำลังเอ๋อแดก จู่ๆ ก็มีเสียงแหลมๆ เมาๆ ของสาวเจ้านางหนึ่งตะโกนโหวกเหวกแทรกขึ้นมาด้วยเสียงอันดัง ไม่ยากที่จะหาที่มา แค่ขวาหันและมองไปยังชั้นสองก็เห็นแม่นางเจ้าของวันเกิดกำลังทำท่าจะปีนราวกั้นกระจกโบกไม้โบกมือพลางแหกปาก โดยมีเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนช่วยกันจับไว้คนละข้าง ไม่รู้ว่ากลัวคุณเธอจะกระโดดลงมาเองหรือหัวทิ่มลงมาแบบไม่ตั้งใจกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ดูเหมือนยัยนั่นจะเมาได้ที่แล้วล่ะ สงสัยจะฉลองกันมาพักใหญ่


ผมควักโทรศัพท์ที่ซอลลี่เพิ่งจะคืนให้มาดูเวลาก็เห็นว่ามันเลยเที่ยงคืนมาไกลโขแล้ว คงเป่าเค้กกันเรียบร้อย..


และตอนที่ชิฮัวตะโกนประโยคถัดมาก็ดันเป็นช่วงที่ดีเจกำลังจะเปลี่ยนจังหวะเพลงพอดี ทุกถ้อยคำเรียกขานจึงได้ยินกันทั่วถึงทั้งผับอย่างไม่ต้องสงสัย


“ไอ้หมาฟ้าประทาน...ไอ้แฝดนรกกานต์ฉายด้วย..ทางนี้เว้ย...ชิฮัวซามะอยู่บนนี้ ขึ้นมาเร็วเร้ววววว~ จะเอาของขวัญ! จะเอาๆๆ” 


ผมว่าตอนเรียกชื่อ ‘ฟ้าประทาน’ รอบตัวมันดูเงียบลงไปแบบแปลกๆ แล้วนะ แต่พอมีชื่อ ‘แฝดนรกกานต์ฉาย’ หลุดตามมาอีกก็เหมือนกับผับทั้งผับมันเงียบลงไปถนัดใจยังไงไม่รู้สิ


..หรือผมจะคิดไปเอง? เพราะพอเสียงเพลงดังขึ้นอีกครั้ง ก็ราวกับทุกอย่างจะกลับคื่นสู่ปกติ...หรือเปล่า?


“ไปกันเหอะ” ไอ้กายเอ่ยชวนขึ้นมาพร้อมกับฉุดแขนซินที่ดูเหมือนอึ้งๆ ให้เดินตาม แน่นอนว่าเป้าหมายคือชั้นสองที่ยัยชิฮัวขี้เมาอยู่ ซินหันมาสบตากับผมนิดนึงอย่างรู้กันก่อนจะเดินตามไอ้กายไปโดยไม่พูดอะไร


ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ดีสิ คืนนี้..


“ไป..” เอี้ยฟ้าพูดพร้อมรุนหลังผม


ผมเลยขอตัวกับพี่ตินเจ้าของผับแล้วเดินตามพวกนั้นไปบ้าง ปล่อยให้ซอลลี่กับยูริอยู่คุยกับพี่แกต่อตามประสาเพื่อนเก่า


ระหว่างทางเดินไปยังชั้นสองผมว่าผมคงไม่ได้คิดไปเองแล้วล่ะ สายตาแทบทุกคู่กำลังแอบมองมาทางเรา พอผมหันไปก็จะถูกหลบสายตา แต่ไม่ผิดแน่ เรากำลังถูกจับจ้อง คนที่นี่ได้ยินที่ชิฮัวเรียกพวกเราอย่างชัดเจนแน่ๆ


จากนั้นเสียงกระซิบกระซาบก็ค่อยๆ ตามมา แม้จะอยู่ท่ามกลางเสียงเพลงแต่บางประโยคกลับลอยมาเข้าหูผมอย่างชัดเจนจนไม่น่าเชื่อ


“แฝดนรกในตำนานคู่นั้นน่ะนะ?”


“แฝดนรกกับฟ้าประทาน?”


“จับคู่ได้น่ากลัวจริงๆ”


“เลวกับชั่วมาเจอกัน? สยองว่ะ”


“ก็ไหนเค้าว่ากันว่าพวกมัน...”



ผมก็ไม่รู้นะว่าคนพูดคิดว่าตัวเองพูดเบาแล้ว? หรือคิดว่าเพลงมันดังมากพอ? คิดว่าผมจะไม่ได้ยิน? หรือไม่ได้คิดอะไรเลย? แค่อยากรู้อยากเสือกเรื่องชาวบ้านเฉยๆ? ..จะอะไรก็ตามแต่ แต่มันทำให้ผมรู้ว่าจนถึงตอนนี้ชื่อ ‘แฝดนรก’ ก็ยังมีคนจดจำได้ ในทางที่ประเสริฐยิ่งเสียด้วย หึ!


มีรถขายรถ มีบ้านขายบ้านพนันได้เลยงานนี้ ไอ้พวกที่กำลังซุบซิบอยู่เนี่ยไม่ได้รู้จักหรือเคยเจอกับ ‘แฝดนรก’ ตัวจริงมาก่อนหรอก น่าจะฟังคนเขาเล่าแบบปากต่อปากต่อปากและต่อมาอีกหลายปากมากกว่า ถึงได้มโนเอาว่าพวกผมเป็นยักษ์เป็นมารชั่วเลวบัดซบนรกส่งมาเกิดซะขนาดนั้น


ทั้งที่จริงๆ แล้ว.. พวกผมมันก็แค่อดีตเด็กแสบที่ไม่ยอมถูกรังแกฝ่ายเดียวเท่านั้นเอง พวกผมไม่ใช่เด็กเหลือขอ ไม่ใช่เด็กเกเร ไม่เคยหาเรื่องใครก่อน ไม่ใช่ลูกมาเฟียหรือพวกอิทธิพลอยู่เหนือกฎหมายสักหน่อย ..ก็ใส่สีตีไข่กันเข้าไป


ที่เขาว่าปากคนยาวกว่าปากกานี่ท่าจะเรื่องจริง..   


สายตาที่มองมามีทั้งอยากรู้อยากเห็นเสียเต็มประดา ขยาดหวาดกลัว และความรู้สึกในแง่ลบต่างๆ นานากับข่าวลือที่เคยได้ยินมา แต่พวกที่สนใจในรูปร่างหน้าตาและชื่อเสียของพวกเราก็คงจะมีอยู่บ้างแหล่ะ


หรือถ้ามองโลกในแง่ร้ายหน่อย.. ก็อาจจะมีพวกที่มองมาอย่างเป็นปฏิปักษ์กับพวกที่มองมาเหมือนอยากลองของรวมอยู่ในนั้นด้วยเหมือนกัน ..พอนึกถึงพวกหลังสุดนี่ก็ทำเอาผมต้องถอนหายใจหนักหน่าย พวกนี้ล่ะคือสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ชีวิตวัยใสของผมกับซินวุ่นวายอยู่บ่อยๆ คิดแล้วก็เหนื่อยใจ..


“ไง” จู่ๆ เสียงทักก็ดังขึ้นใกล้ๆ หู หันไปมองก็เห็นผู้ชายคนนึงพยักหน้าและส่งยิ้มมาให้ราวกับคนรู้จัก ผมเลยพยักหน้าตอบแล้วส่งยิ้มกลับไปโดยอัตโนมัติตามนิสัยคนมนุษย์สัมพันธ์ดี แล้วค่อยมาขมวดคิ้วงงกับตัวเองหลังจากเดินผ่านหมอนั่นแล้ว เพราะค่อนข้างแน่ใจว่าไม่น่าใช่คนที่ผมเคยรู้จัก แต่ก็คิดว่าช่างเหอะ เขาคงแค่อยากทักทายตามประสาคนมนุษย์สัมพันธ์ดีเหมือนกันกับผมล่ะมั้ง เหอะ


“มาแล้วๆ นั่งๆๆ” เจ้าของงานตบโซฟาปุๆ เชื้อเชิญให้นั่ง ก่อนจะแบมือยื่นมาตรงหน้าพวกเรา ยิ้มตาหวานเชื่อม “ของขวัญชิฮัวล่ะ? มามะๆ”


“แฮปปี้ๆ นะ เจ๊โหด ของขวัญวันหลังแล้วกันเนอะ วันนี้เตรียมไม่ทันว่ะ พอดีเพิ่งรู้..” ซินที่นั่งลงแล้วเอื้อมมือไปตบไหล่ยัยโหดแปะๆ


“ฮึ!” คนขี้ทวงแถมยังขี้เมาเบะปากหน้างอขึ้นมาทันที


บรรยากาศด้านบนโดยรวมแล้วน่านั่งกว่าด้านล่างเยอะ เพลงไม่ดังมากจนเกินไป คุยกันรู้เรื่องกว่า คนไม่เบียดเสียดและแสงสลัวบนนี้ก็สว่างกว่าเล็กน้อยด้วย หันมองรอบๆ ก็เห็นคนคุ้นหน้าบ้าง อย่างเช่นไอ้แว่น ไอ้ตี๋ และไอ้หัวน้ำตาลทองที่ชื่อ..มานะ(ผมคงจะจำชื่อมันไปได้อีกนานจากกรณีนิ้วชี้วงกลมนั่นล่ะ) เพื่อนของเอี้ยฟ้า ..แต่ไม่ยักกะเห็นไอ้หน้าหวานจี้?


แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยคุ้นหน้าและเป็นสาวสวยแทบทั้งนั้น คาดว่าคงเป็นสาวๆ จากคณะอักษรเพื่อนเจ๊เจ้าของงานเป็นแน่แท้ ที่ว่ากันว่าสาวอักษรมีแต่แจ่มๆ นี่ท่าจะจริงแฮะ ไอ้ผมก็ไม่เคยไปสำรวจตรวจสอบตามคณะด้วยสิ เลยไม่รู้มาก่อน ผู้หญิงที่เคยคั่วก็เก็บได้ตามผับทั้งนั้นแหล่ะ แต่ดูท่าซินกับสกายจะรู้จักอยู่หลายคน เพราะเห็นพวกมันส่งยิ้มทักทายตอบโต้คนนู้นคนนี้เสียรอบตัว


แต่ตลกตรงที่พวกมันต่างคุยกับสาวไปก็แอบเหลือบมองกันเองไปคล้ายระแวงอะไรยังไงชอบกล ท่าทางพิลึกชะมัด


ส่วนเอี้ยฟ้า.. ทันทีที่มันนั่งลง สาวๆ ก็พากันมารุมล้อมทักทายจนเหมือนมันไม่รู้จะฟังจะตอบใครก่อนดี ..สุดท้ายก็เลยได้แค่นั่งทำหน้ามึนอึนเหมือนเวลาปกติไป ...เชื่อแล้วว่ามันเนื้อหอมหึ่งๆ จริง เหอะ!


“เหมือนกัน” ผมทำแบบเดียวกับซินและได้รับการตอบกลับแบบเดียวกันไม่ผิดเพี้ยนจากชิฮัว 


“แล้วทำไมปล่อยให้เมาขนาดนี้เนี้ย? ไม่กลัวว่าที่เจ้าบ่าวหายหมดรึไง?” ประโยคแรกผมถามเหมยลี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ เจ้าของวันเกิด ส่วนประโยคหลังแค่แซวขำๆ หวังให้หัวเราะ แต่ดันทำเอาคนฟังน้ำตาเล็ดซะงั้น ..อ้าวเฮ้ย?!


ผมมองหน้าคนร้องสลับกับญาติผู้น้องของเธอด้วยความตกใจระคนไม่เข้าใจ


“ว่าที่เจ้าบ่าว..ฮึก..” ชิฮัวหยุดสั่งน้ำมูกฟืดใหญ่ใส่ทิชชู่ที่เหมยส่งให้ก่อนจะเริ่มพูดต่อด้วยเสียงเศร้าปนเหวี่ยง “ไอ้คิน..ฮึก..ไอ้เชี่ยคินมันมีชู้...ฉันไม่ยอมมันก็เลยไปเอากับคนอื่น...ฮึก..ไอ้เลวคินมันทิ้งฉัน..ฮือ...คินทิ้งชิฮัวได้ไง...แงงงงง”


ผมพยายามทำความเข้าใจกับประโยคกระท่อนกระแท่นนั่นสลับกับมองหน้าเหมยอย่างต้องการคำอธิบายให้แก่ชีวิต


แล้วก็ไม่ผิดหวังเมื่ออีกฝ่ายสามารถสร้างความกระจ่างแก่ผมได้ด้วยคำแค่ไม่กี่คำ “เจ้เพิ่งเลิกกับแฟนมาน่ะ”


“คิน? ใช่ไอ้คินที่เป็นนักบอลมหาลัยป่ะ?” ไอ้กายถามขึ้นด้วยคิ้วที่ขมวดเหมือนกำลังนึกหน้าคนที่พูดถึงอยู่


เหมยพยักหน้าตอบแทนเจ้าของเรื่องที่เริ่มเป่าปี่แบบเต็มรูปแบบ ขี้มูกก็สั่งฟืดๆ แบบไม่ห่วงสวยกันเลยทีเดียว


“ถ้าเป็นไอ้เชี่ยนั่นเลิกกันไปอ่ะดีแล้ว แม่งหน้าม่อจะตาย” คราวนี้ซิน สอดขึ้นบ้าง


“มึงรู้ได้ไง?” ผมหันไปถามซินด้วยความสนใจ


ว่าแต่ไปว่าคนอื่นเขาแบบนั้น.. ตัวมึงนี่ดีมากเลยนะซิน ดูหูซิ ดำปี๋เชียว 


“ก็กูเคยเจอมันที่สนามบอลบ่อยๆ เวลาเล่นแม่งชอบโชว์พราวโชว์หญิง โคตรน่าหมั่นไส้เหอะ กูกะจะสกัดดาวรุ่งหลายทีแล้ว แต่ติดตรงที่เราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนี่แหล่ะ กูเลยไม่อยากสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น ..เนอะ” คำสุดท้ายมันหันไปพยักพเยิดกับไอ้กายซึ่งก็เออออห่อหมกตามน้ำไป..




“อ้าว ยังร้องอยู่อีกเหรอหล่อน? ไหนบอกจะไม่ร้องแล้วไง? ก็แค่ผู้ชายเชี่ยๆ คนเดียว จะเสียใจทำไมนักหนา” ระหว่างที่กำลังคุยกันไปเรื่อย ก็มีเสียงดัดจริตคุ้นหูดังขึ้นในระยะประชิดจนทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ต้องตาโต..


“อีเมย์?!” ผมกับซินแหกปากขึ้นพร้อมกันทันทีที่เห็นว่าเป็นใคร


ส่วนไอ้กายก็ดูท่าจะตกใจอยู่เหมือนกัน แต่คงไม่มากเท่าพวกเราแน่นอน


ที่ตกใจไม่ใช่เพราะจู่ๆ มันก็มาปรากฏตัว แต่ตกใจตรงเสื้อผ้าหน้าผมที่มันบรรจงทรงมาวันนี้น่ะสิ เริ่มจากร้องเท้าหนังขัดมันวับ กางเกงแสล็คสีดำ แจ็คเก็ตสูทสีดำ ข้างในเป็นเชิ้ตสีน้ำเงินปลดกระดุมสามเม็ดโชว์ขนหน้าอก บนหน้ามีหนวดอยู่รำไรและทรงผมก็เซ็ตจนเรียบแปร้...คืออยากจะบอกว่าดูป๋ามาก แมนมาก ลุคเพลย์บอยสุดๆ นี่ถ้าไม่อ้าปากพูดไม่รู้เลยนะว่ากะเทย จริงจริ๊งงงง! 


“ก็กูน่ะสิ มึงเห็นเป็นทิฟฟานี่ จากเกิร์ลเจเนอเรชั่นรึไง อีแฝด?” คนถูกทักตอบโต้ตามสไตล์มัน ก่อนจะนั่งลงข้างๆ คนขี้แย


“ถุ๊ย! อีทิฟฟานี่” เสียงไอ้กายถ่มถุย “งั้นกูก็คงชีวอนแล้วล่ะ”


“ถุ๊ย!! ไอ้ชีวอน” คราวนี้เป็นเสียงถ่มถุยจากฝาแฝดบ้าง พวกที่นั่งฟังอยู่เลยพากันหัวเราะครืน ...ว่าแต่ทิฟฟานี่กะชีวอนนี่ใครวะครับ??


“คุณองอาจ..ฮือ” พออีเมย์นั่งชิฮัวก็โผเข้าไปซบทันที


ผมไม่รู้ว่าจะขำหรืออะไรดีกับคำเรียกขานเต็มยศนั่น เลยได้แต่ทำหน้าปูเลี่ยนระคนสงสัย คือมันเข้ากับหน้าคนถูกเรียกนะ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ชอบใจสักเท่าไหร่


“จะดีมากถ้าหล่อนจะเลิกเรียกฉันแบบนั้นซักที แล้วเรียก ‘เมย์บี’ เหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้าบ้าง” พูดไปก็ลูบหลังลูบไหล่คนร้องไป


แต่ชิฮัวกลับส่ายหน้าพรืด ก่อนว่าด้วยสำเนียงคนเมา “เห็นคุณองอาจมาดนี้แล้วชิฮัวทำใจเรียกม๊ายยยลง โต้ดกั๊บเพ่”


ซินกับไอ้กายรวมทั้งผมและเพื่อนเอี้ยฟ้าหัวเราะก๊ากออกมาทันที แต่อีคุณองอาจของชิฮัวดันหน้าหงิกไม่สบอารมณ์อย่างรุนแรง มือที่ลูบหลังอยู่ถึงกับชะงักแล้วเปลี่ยนเป็นกำหมัดแน่นเหมือนอยากจะทุบคนพูดนัก แต่สุดท้ายก็ไม่ทำ


เห็นมันเป็นแบบนี้ ชอบเรียกผู้หญิงว่า ‘ชะนี’ แต่เมย์บีไม่เคยลงไม้ลงมือกับผู้หญิงหรอกนะ มันบอกว่ามันเป็นสุภาพกะเทยน่ะ


“แล้วอะไรดลใจให้มึงแต่งตัวแบบนี้วะ? ถ้าไม่อ้าปากพูดกูไม่รู้เลยนะว่าเป็นมึง ..แมนเอี้ยๆ” ซินถามไปขำไป “เออ แล้วมึงมางานนี้ได้ไง? ไปสนิทกับเจ๊นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?”


“เป็นชุดนะมึง.. ก็เพิ่งสนิทกันวันนี้แหล่ะ พอดีบังเอิญไปเห็นมันตอนถูกบอกเลิกหน้าห้องน้ำเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ไอ้ผู้ชายแม่งก็เล้วววเลว แค่มาบอกเลิกในวันเกิดยังไม่พอ มันยังควงเมียใหม่มาเย้ยด้วย พวกมึงว่าเลวมั้ยล่ะ? ตอนแรกกูก็กะยืนลุ้นอยู่เฉยๆ นะ เห็นชะนีสวยนี่มันก้านคอแฟนเก่าแล้วสะใจแทน แต่พอเห็นผู้ชายอีกคนวิ่งเข้ามาช่วยไอ้เลวนั่น..คงจะเป็นเพื่อนมันแหล่ะ กูก็เลยเข้าไปร่วมวงเพื่อความเสมอภาคและผดุงความยุติธรรมในสังคมไทย” ประโยคสุดท้ายพูดด้วยสายตามุ่งมั่นพร้อมกำหมัดชูขึ้นด้วยท่าทางแข็งแรง


“มึงเป็นกะเทยที่แมนมาก” ไอ้แว่นเพื่อนเอี้ยฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ชื่นชมศัทธาเต็มเปี่ยม ส่วนคนอื่นที่ได้ฟังวีรกรรมสุดแมนของอีเมย์พากันปรบมือชื่นชมยกใหญ่ ..แหงล่ะ รวมทั้งผมด้วย โหยยย เพื่อนเมย์กูสุดยอด!


คนได้รับคำชมยืนขึ้นโค้งรับคำชมด้วยสีหน้าปราบปลื้ม ก่อนจะนั่งลงแล้วเริ่มจีบปากจีบคอเล่าต่อ “แล้วที่เห็นแต่งตัวแบบนี้ก็เพราะวันนี้กูต้องไปทำธุระให้เตี่ยน่ะสิ ขืนไปแบบแรดๆ เหมือนทุกวันญาติกูคงต้องโทรไปเล่าให้เตี่ยฟังแหงๆ”


ผมพยักหน้าเข้าใจ เคยบอกไปแล้วใช่ไหมว่าเวลาอยู่บ้านอีนี่มันแมนสัด หมาไม่กล้าเห่า เตี่ยมันเลยไม่รู้ว่าเวลาอยู่ที่นี่มันเป็นกะเทยที่แรดที่สุดคนหนึ่ง เหอๆ


“แต่ที่ต้องมาทั้งแบบนี้ก็เพราะอีเจนนี่น่ะสิ มึงจำได้ใช่มั้ย? ..นั่นไง อีเจนจัด เอ๊ย เจนจบน่ะ”


หันไปมองทางที่มันชี้ก็เห็น ‘เจนนี่’ ที่ว่ากำลังโบกมือพร้อมส่งยิ้มหวานมาให้ ..เป็นสาวประเภทสองที่สวยงามจริงๆ ให้ดิ้นตาย ดูเผินๆ ไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าของปลอม เหอๆ ต่อไปคงต้องขอดูบัตรประชาชนกันอย่างเดียวเลยมั้งเนี่ย 


“อีนั่นแหล่ะมันไปจกกูมาจากหอทั้งที่ยังไม่ได้เปลี่ยนชุด บอกให้กูมางานวันเกิดเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนเป็นเพื่อนมันหน่อย มาถึงก็เพิ่งจะรู้ว่าเป็นงานของอีชะนีสวยนี่แหล่ะ”


“เฮ้ย แล้วนั่นไอ้จี้มันจะไปไหนกับใครวะ?” เสียงตื่นๆ ของไอ้หน้าตี๋เพื่อนเอี้ยฟ้าดึงความสนใจของทุกคนให้หันไปมองที่มันได้ ก่อนจะพากันมองต่อไปตามทิศทางที่มือมันชี้อยู่


ผมชะโงกมองข้ามไหล่เอี้ยฟ้าลงไปยังโซนชั้นล่าง ใกล้ๆ กับทางออก ผมเห็นไอ้หน้าหวานจี้ซึ่งตอนนี้ถูกประกบซ้ายขวาด้วยผู้ชายสองคนกำลังจะเดินออกจากร้านไปแล้ว


?!!... จู่ๆ คนที่ผมเอาคางเกยไหล่ไว้ก็ลุกพรวดขึ้น ถ้าถอยไม่ทันมีหวังลิ้นขาดได้นะเนี่ย แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่าตอนที่มันวิ่งไปตรงราวกั้นกระจกแล้วกระโดดลงไปยังชั้นล่างจากตรงนั้นเลย เฮ้ยมึง!


“กรี๊ดดดดดด!” ลูกค้าด้านล่างร้องขึ้นเสียงหลงคงเพราะอยู่ดีๆ ก็มีคนจากชั้นสองกระโดดลงไป


แต่จะว่าชั้นสองมันก็ไม่เชิงหรอก ความสูงของมันคงประมาณชั้นลอยได้น่ะ กระโดดลงไปได้ ไม่อันตรายถ้ารู้วิธีลงที่ถูกต้องล่ะนะ แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงไม่มีใครคิดจะลงไปโดยทางนี้กันหรอก


ผมกับคนอื่นๆ รีบวิ่งไปเกาะราวกั้นเพื่อติดตามสถานการณ์ทันที..


เอี้ยฟ้ามันวิ่งไปคว้าแขนไอ้หน้าหวานจี้ไว้ แล้วเหมือนจะพยายามดึงเข้าหาตัว แต่ไอ้สองคนที่ประกบอยู่ก็ดึงกลับไป ..ผมว่าท่าทางไอ้จี้มันดูไม่ค่อยปกติเท่าไหร่นะ เหมือนจะไม่มีสติยังไงชอบกล


“เป็นเรื่องแล้วไง” ไอ้แว่นเพื่อนเอี้ยฟ้าพูดก่อนจะรีบวิ่งลงบันไดไปชั้นล่าง


ผมหันกลับไปมองจุดเกิดเหตุอีกทีก็เห็นฝ่ายตรงข้ามปล่อยหมัดใส่เอี้ยฟ้าพอดี


“กรี๊ดดดดดดดด!!” ความแตกตื่นโกลาหลเกิดในบัดดลเมื่อมีการวางมวยขึ้น และดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามจะไม่ได้มีแค่สองคนอย่างที่เห็นซะแล้ว


ไอ้แว่นที่เพิ่งวิ่งลงไปเมื่อกี๊ไม่ได้ไปช่วยเพื่อนหัวหงอกของมันแต่อย่างใด กลับพุ่งตรงไปชาร์จไอ้หน้าหวานจี้ทันที เหมือนมันพยายามจะลากไอ้นั่นออกมาจากจุดชุลมุน แต่ก็ไม่ง่ายเลยที่จะฝ่าวงล้อมของหมาบ้าที่กำลังฟัดกันนัวออกมา


“ตื่นๆ มีเรื่องแล้ว” ซินที่กำลังกรึ่มได้ที่ร้องขึ้นก่อนจะแถแท่ดๆ ไปทางบันได ไม่ต้องเสียเวลาเดาก็รู้ว่ามันตั้งใจจะเข้าไปร่วมวงด้วยแน่ๆ


“เฮ้ย ซิน!” แต่ก็ถูกไอ้กายคว้าแขนเอาไว้ได้ก่อน


“กูจะไปช่วยไอ้น้องสะใภ้ มึงไม่เห็นรึไงว่ามันโดนรุมอยู่” ซินสะบัดแขนจนหลุดจากการรั้งของอีกฝ่ายแล้ววิ่งลงบันไดไป โดยมีไอ้กายตามไปติดๆ


“กูไปด้วย” อีเมย์ก็ลุกตามลงไปอีกคน


“สาวๆ ครับ มาทางนี้ๆ” ไอ้หน้าตี๋ต้อนผู้หญิงทั้งแท้และเทียมที่อยู่บนชั้นสองออกไปทางหนีไฟ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะไม่โดนลูกหลง ก่อนจะเข้ามาช่วยเหมยลี่ลากยัยชิฮัวขี้เมาตามออกไปเป็นคนสุดท้าย เพราะเจ้าตัวเอาแต่ร้องโวยวายว่าจะลงไปช่วยเพื่อนหมาฟ้าท่าเดียว


“กรี๊ดดดดดดดด!!!” การตะลุมบอนเริ่มขยายวงกว้างจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ทั้งแก้ว ทั้งขวด โต๊ะ เก้าอี้ปลิวลอยให้ว่อนจนน่าหวาดเสียวว่าหัวใครจะเจอแจ็คพ็อต ..ผมพยายามมองหาซอลลี่และไอ้ยูที่ไม่รู้ว่าป่านนี้อยู่ตรงไหน จะโดนลูกหลงจากใครบ้างหรือเปล่า? แล้วก็ต้องโล่งใจเมื่อเห็นว่าสองคนนั้นกำลังถูกพี่ตินเจ้าของร้านต้อนออกไปทางประตูหลังเคาน์เตอร์บาร์พร้อมกับพนักงานคนอื่นๆ


“น้องสะใภ้เหรอ? ฮึฮึ..” มีเสียงหัวเราะกวนส้นตีนดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลจากหูมากนัก หันไปมองก็เห็นไอ้มานะหัวสีน้ำตาลทองยืนเท้าราวกั้นกระจกอยู่ข้างๆ พลางอมยิ้มน้อยๆ ขณะที่สายตาจับจ้องไปยังกลุ่มคนที่อาละวาดอยู่เบื้องล่าง “กูไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่าฟ้าเป็นเมียมึง ฮ่าๆๆ”


“เสือก!” ผมจัดไปหนึ่งดอกสั้นๆ ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดกับมัน แน่ใจว่าไอ้หมอนี่มันรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ..ก็เพราะมันไม่ใช่หรือไงที่จุดประเด็นเรื่องนิ้วชี้กับวงกลมขึ้นมาน่ะ?


คิดแล้วก็อับอาย แต่ต้องคอแข็งเข้าไว้ ..กูไม่สน กูไม่แคร์


“แล้วมึงไม่ลงไปช่วยเพื่อนมึงรึไง?” ผมถาม ทั้งสงสัยที่เห็นมันยืนมองอย่างใจเย็น ทั้งอยากเปลี่ยนประเด็นด้วยนั่นแหล่ะ


“แล้วมึงล่ะ ทำไมไม่ลงไปช่วยแฟน?” แทนที่จะตอบมันดันย้อนกลับซะได้


“กูถามมึงก่อนนะ” ผมท้วง มันแค่ยักไหล่โดยไม่ตอบอะไร สุดท้ายผมก็ต้องเป็นฝ่ายตอบก่อน “กูรู้ว่ามันไม่ตายง่ายๆ หรอก” 


..นอกจากนั้นผมก็ยังอ่อนเปรี้ยเพลียแรงเพราะถูกเอี้ยฟ้าตัดกำลังตั้งแต่ตอนบ่าย ไม่อยากจะฝืนสังขารโดยไม่จำเป็น ถ้าเอี้ยฟ้ามันยังเหลือแรงคึกอยู่มากนักก็ปล่อยให้อาละวาดไปเหอะ ผมขอดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ดีกว่า เอาไว้มันสู้ไม่ได้จริงๆ แล้วค่อยลงไปช่วยก็ยังไม่สาย 


“ทีนี้มึงตอบได้ยัง?” ผมหันไปถามคนข้างๆ อีกครั้งก็ยังเห็นมันกวาดสายตามองไปตามกลุ่มคนด้านล่างอยู่


“กูก็คิดเหมือนมึงแหล่ะ” 


..อ้าว ห่านี่ ลอกกันซึ่งหน้าเลยนี่หว่า 


“ปล่อยให้มันได้อาละวาดบ้างก็ดี กูกลัวมันจะเก็บกด เห็นพักนี้สงบเสงี่ยมเกิ๊นนน ฮ่ะๆๆ”


ตรรกะพรรค์ไหนวะเนี่ย?


“แต่มีมึงอยู่นี่ก็ดีนะ” อยู่ดีๆ มันก็หันมามองหน้าผมยิ้มๆ ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม มันหันไปกลับทางเดิมก่อนพูดต่อ “มึงรู้รึเปล่าว่าเวลาที่ฟ้ามันรู้สึกเบื่อขึ้นมาล่ะโลกาแทบวินาศทุกที ก่อเรื่องก่อราวให้ได้ใจหายใจคว่ำกันตลอด ..แต่พอมาเจอมึง มันก็เอาแต่หมกมุ่นเรื่องของมึงจนไม่มีช่วงเวลาให้เบื่อหน่ายอีกเลย ชีวิตพวกกูก็พลอยสงบสุขไปดะ..เวรเอ๊ย!”


“เฮ้ย?!” ยังพูดไม่ทันจบไอ้มานะหัวน้ำตาลทองก็กระโดดลงไปชั้นล่างจากจุดที่ยืนเลย ..เชื่อแล้วว่าเป็นเพื่อนกันจริง แมร่งไม่กลัวแข้งขาหักกันบ้างหรือไงวะ?


แต่แทนที่มันจะวิ่งไปฟาดแขนฟาดขากับไอ้พวกที่กำลังตีกันอยู่ มันดันวิ่งดิ่งไปตรงมุมร้านซึ่งอยู่อีกฟากแล้วหายลับไปตรงทางเดินไปห้องน้ำพอดี


อ้าว..? อะไรของมัน? ตกลงที่รีบร้อนนี่ไม่ได้จะไปชวยเพื่อน? แต่ไปห้องน้ำ? ปวดขี้? ..หรืออะไร? ..เออเว้ย ไอ้กลุ่มนี้มันมีแต่คนแปลกๆ ว่ะ เพราะงี้ถึงคบกันได้สินะ?


ผมได้แต่เกาหัวแกรกๆ ก่อนจะดึงสายตากลับมาที่ศูนย์กลางหายนะอีกครั้ง ..เอี้ยฟ้าอยู่ตรงนั้น ถัดไปนั่นมีซิน มีไอ้กายที่คอยกันท่าให้ราวกับบอดี้การ์ดส่วนตัว อีเมย์ก็นัวเนียจับผู้ชายโชคร้ายแห่งปีฟัดอยู่แถวๆ นั้น ความพยายามของไอ้แว่นยังไม่เป็นผลเพราะไอ้จี้ยังตกอยู่ในวังวนแห่งสงคราม


ฝ่ายตรงข้ามเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และถ้าสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่าหลายคนไม่ได้แต่งตัวเหมือนพวกมาเที่ยว พวกมันไม่ได้อยู่ในร้านตั้งแต่แรก ราวกับว่าเพิ่งมีใครโทรตามให้มันมา.. หันไปอีกมุมหนึ่งของร้าน ก็เห็นเจ้าของร้านกำลังคุยโทรศัพท์ไปกุมขมับไปอยู่


อีกไม่นานตำรวจคงโผล่มา.. คิดได้ดังนั้นผมเลยตัดสินใจลงไปข้างล่าง ตั้งใจจะลากซินกลับบ้านก่อนจะติดร่างแหไปด้วย ถ้าซินกลับ สกายกับเมย์บีก็คงจะกลับด้วย ส่วนเอี้ยฟ้ากับเพื่อนของมันผมแน่ใจว่าพวกมันน่าจะคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้และคงจะรู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดีอยู่แล้ว จึงไม่ได้คิดห่วงเท่าไหร่


“เอ้า ฝากด้วย!” แต่ยังไปไม่ทันถึงตัวซินไอ้กายก็โผล่ออกมาจากกลุ่มคนซะก่อน พร้อมกับผลักร่างของคนที่แทบจะไม่เหลือสติมาให้ ..ไอ้หน้าหวานจี้!


ผมรับร่างอีกฝ่ายไว้แล้วเงยหน้ามองไอ้กายงงๆ


“นี่กุญแจรถกับคีย์การ์ด ‘จารย์หงอกบอกให้มึงพามันกลับไปคอนโดก่อน” มันบอกพร้อมกับยัดของที่ว่ามาให้


แล้ว ‘จารย์หงอก’ นี่ใคร? ..เอี้ยฟ้า? 


“แล้วซิน..”


“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวกูดูมันเอง” ไอ้กายแทรกขึ้นทั้งที่ผมยังพูดไม่ทันจบ ก่อนจะหายลับไปท่ามกลางผู้คนอีกครั้ง..


ผมยืนลังเลอยู่แป๊บนึง นึกห่วงพี่ชายก็ห่วง แต่คนที่พยุงเอาไว้ตอนนี้ก็ดูท่าจะไม่ไหวแล้ว ยืนก็แทบไม่อยู่ มีเสียงครางงึมงำ หน้าแดงคอแดงไปหมด ..สงสัยจะโดนยา


สุดท้ายต้องตัดใจกลับหลังหันแล้วพาไอ้หน้าหวานเดินออกจากร้านทางด้านประตูหลัง เดินทะลักทุเลมาเรื่อยๆ เกือบจะถึงเฟอร์รารี่สีขาวที่จอดรออยู่ก็ต้องชะงัก เมื่อจู่ๆ ก็มีผู้ชายสามคนมายืนขวางทางฝันไว้ ดูหน้าก็รู้ว่าไม่ได้มาดี


แล้วนั่น.. !!


“ไง ไอ้ฉาย พี่มึงยังไม่กลับแล้วมึงจะรีบกลับไปไหน?”


“ไอ้ครีส..” ผมพึมพำเบาๆ กับชื่อของโจษย์เก่าที่แว้บเข้ามาในหัว


หน้าตาแบบนี้ ท่าทางแบบนี้ ถึงจะไม่ได้เจอมาหลายปีแต่ใช่มันไม่ผิดแน่ ไอ้เวรนี่แหล่ะที่เมื่อก่อนชอบมาตอแยกับแฝดเป็นประจำ ไม่รู้ว่ามันเป็นโรคจิตหรือฝังใจอะไรกับฝาแฝดนักหนา?


..แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้สิ! ทำไมต้องเสือกโผล่มาตอนนี้ด้วยวะ? นอกจากผมจะตัวคนเดียวไม่มีพี่ชายฝาแฝดมาร่วมชะตากรรมเหมือนทุกทีแล้ว วันนี้ผมยังมีภาระอย่างไอ้ตัวชนวนสงครามนี่มาด้วยอีกต่างหาก!


เว้ยยยย นี่มันวันซวยแห่งชาติหรือไงเนี่ย?!


“อ่ะ..” ผมกลับหลังหัน กลยุทธที่ 36 ถูกงัดมาใช้อีกครั้ง ในสถานการณ์วิกฤติแบบนี้ไม่มีอะไรดีกว่าไปกว่าการถอยหนีอีกแล้ว แต่ก็ต้องกลืนน้ำลายฝืดคอเพราะพอหันมาก็เจอะกับศัตรูเก่าแก่อีกคน.. !!


“กูรีบมานี่เพราะได้ยินว่าพวกมึงมาเลยนะเนี่ย ใจคอจะกลับไปโดยไม่ทักไม่ทายกันหน่อยรึไง น้องฉาย?” 


“ไอ้โด้..” ผมครางเบาๆ สิริรวมรอบตัวตอนนี้ก็ถูกล้อมกรอบไปด้วยผู้ชายห้าคนพอดิบพอดีไม่ขาดไม่เกิน




ไอ้เหี้ย.. งานเข้า!!









TBC.  :z2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2012 14:27:54 โดย White Raven »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
คืนนี้จิไปส่องที่ห้องนอนซันนี่ สนใจน้องยูเป็น พิเศษ อิอิ

ออฟไลน์ AllRiseApril

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
อัพบ่อยๆเราชอบจัง  ฮ่าาาาาาา
ซันนี่น่ารักขึ้นแบบไม่รู้ตัววว
ยอมรับไปเถอะจ้าาาาาา  เป็นแฟนฟ้าไม่ค่อยเสียหายเท่าไรหรอกมั้ง  คึ
ซินอ่ะ  พัฒนานะคะ

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
เผลอแปปเดียว อัพเฉยเลย  :really2: :really2: :really2:      มารออีก ครึ่งค่าาาาา :z2: :z2: :z2:










อ๊ากกกกค้างงมากมายยยยยยย :z3: :z3:     



รีบมาต่อนะค่ะ :3123:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2012 13:58:55 โดย Tiamo_jamsai »

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
เปิดตัวววว

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
มาอ่านตรงย่อหน้าสุดท้าย



บางทีเราก็ลืมไปว่า อดีตของซิน มันโหดร้ายแค่ไหน  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
รออีกครึ่งนึงค่ะ
ช่วงนี้อัพบ่อยนักอ่านชื่นใจ ฮิฮิ

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
มันต้องมีเรื่องบ้านของ เจ้าลูกเป็ด (ฟ้าประทาน) ที่ทำให้ ต้องแยกกันแหงเลย ,,           

แต่ เจ้าลูกเป็ดนี่ นับวัน นับวัน ยิ่งน่ารักขึ้น น่ารักขึ้น

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
ช่วงนี้ขยันเนอะอัพทุกวันเลยเห็นแล้วชื้นใจ

faratellll

  • บุคคลทั่วไป
ยูริจังเนี่ย ดูซื่อบริสุทธิ์โน๊ะ ไม่ซื่อบื้อเหมือนเอี้ยฟ้า  :laugh: :laugh:

มิรินด้า ดีแหละที่ทำใจได้  :กอด1: ปล่อยซันนี่มันไปจมปลักกะเหี้ยฟ้าเทอะ ><"

P.S. ว้าวววว สามคู่ชู้ชื่นตะเวนราตรี อยากอ่านแย้ววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
ไม่ใช่ถึงจุดพีค แล้วให้ค้างยาวหน่า :z3:

รออี่50%ค่าา :กอด1:

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
มาเป็นกำลังใจให้คนแต่งค่ะ สู้ๆนะคะ  o13

รักเอี้ยฟ้า รักน้องซันนี่  :-[

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
:z1:มาบ่อยๆไม่ว่าอะ


แต่ถ้าหายไปเลยอะนะแย่แน่ๆอะ :กอด1: :กอด1: :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ Panehove

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-0
อืม ถึงจะไม่ราบเรียบเหมือนคนอื่นง่ายๆ แต่อย่าให้ขรุขระจนแทบกระอักเลือดนะคะ อิอิ ตอนนี้ฟ้าประทานไม่ค่อยมีบทเลยนอกจากจะโดนแม่แฟนลวนลามและจะวางมวยกับพี่แฟน ชอบที่เขียนบรรยายความรู้สึกของมิรันด้านะคะ ถึงเราจะไม่ใช่คนที่ถูกเลือก ถึงเราจะเสียใจ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องแสดงออกให้เห็นว่าเราเสียใจแค่ไหน เพราะสุดท้ายมันก็ช่วยไม่ได้เพราะเค้าก็ไม่รักเราอยู่ดี ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ค่ะและก็ขอบคุณที่ชอบเม้นท์เรานะ เพราะเราก็ชอบเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวเหมือนกันโดยเฉพาะฟ้าประทาน เค้าเป็นคนที่มองโลกในแง่ที่แตกต่างจากเรา จนบางทีเราก็คิดว่าฟ้าคิดได้ไงอ่ะ แล้วเค้าก็มีแง่มุมที่ลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนน่าค้นหาดีค่ะ อันนี้คงต้องยกความดีความชอบให้คนแต่งเนาะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ยายของยูรับได้อยุ่แล้วเคอะ

ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
มาเร็วมากกกกกกก :กอด1:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
งานวันเกิด ซิน ไปด้วย ดูท่าจะยุ่งนะ

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
สามคู่ชูชื่น หุๆ จะมีความสุขกันได้อีกนานแค่ไหนน้อ

ออฟไลน์ away3g

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-1
ค้างงงงงงงงงอ่ะคับ. มาต่อเร็วๆนะคับ

shockoBB

  • บุคคลทั่วไป
ไปนอนกะพ่อลูกเป็ดจะไม่เป็นไรหรอจ๊ะซันนี่
 :L2: :L2: :L2: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด