hello! SUNSHINE [ตะวันร้าย..ที่รัก]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณปลื้มตัวละครไหนมากที่สุด?

ซันนี่
ซินเซียร์
ไอ้เอี้ยฟ้า
ไอ้บ้ากาย
อิเมย์บี

ผู้เขียน หัวข้อ: hello! SUNSHINE [ตะวันร้าย..ที่รัก]  (อ่าน 1235595 ครั้ง)

nemesis

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
Chapter :: 25 :: มิรันด้า?







“...ฮะ..อุ๊บส์” ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ผมก็ถูกใครบางคนจู่โจมกอดแบบไม่ทันตั้งตัว ต้องรีบปล่อยข้าวของที่หิ้วมาลงพื้นเพื่อรับมือกับร่างผอมเพียวที่โถมเข้ามาใส่สุดแรงจนหลังผมไปกระแทกกับประตู อุทานตกใจได้แค่ครึ่งคำก็ถูกริมฝีปากนิ่มนั่นบดเบียดเข้ามาปิดทางออกของเสียงเสียหมด ร่างนุ่มนิ่มขยับเข้ามาแนบชิดชนิดที่แทบไม่เหลือช่องว่างระหว่างเรา สองแขนเรียวเล็กโอบโน้มคอผมลงไปหาใกล้ยิ่งขึ้น จากนั้นปลายลิ้นชื้นซุกซนจึงถูกส่งออกมาเลียไล้สำรวจไปตามแนวฟันของผม สลับกับดูดดุนริมฝีปากล่างของผมอย่างยั่วเย้า..


มิรันด้า..?


แต่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมส่งลิ้นเล็กนั่นเข้ามาในปากของผมสักที จนเป็นผมเองที่ทนไม่ไหว ต้องไล่ล่างับลิ้นของอีกฝ่ายด้วยความหมั่นเขี้ยวแทน มีเสียงหัวเราะคิกคักชอบใจดังขึ้น และเงียบลงไปเพราะถูกผมกดจูบหนักๆ อย่างต้องการสั่งสอนคนซน ก่อนจะจับเธอพลิกตัว ให้เป็นฝ่ายหลังติดกับผนังห้องบ้าง แล้วส่งลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหวานที่ไม่ได้เจอมานานจากโพรงปากของอีกฝ่าย


“..อือ..ฮื่อ..” เสียงหอบหนักของอีกคนดังขึ้นหลังจากผมถอนจูบออกมาอย่างเสียดาย


มิรันด้าเอนตัวเข้ามาซบผมคล้ายคนหมดแรง กระซิบบอกเสียงพร่า “ซัน.. คุณทำให้ฉันแทบละลาย”


“แค่ ‘แทบ’ เหรอ? ..นึกว่าจะทำให้เธอละลายได้แล้วซะอีก” ผมเย้าอีกฝ่ายเล่น ขณะที่สองแขนก็โอบเอวเล็กของเธอไว้หลวมๆ


“คุณทำได้แน่” เธอยืดตัวขึ้นมาจุ๊บปากผมทีนึง ก่อนจะส่งรอยยิ้มและแววตาที่แฝงความนัยมาให้ ผมยิ้มหวานตอบรับอย่างรู้กัน ก่อนจะกระชับวงแขนแน่น แล้วพาสาวน้อยของผมหมุนตัวสี่ห้าก้าวไปล้มแหมะลงบนโซฟาพอดี โดยมีผมอยู่ข้างล่าง และมิรันด้านอนทับอยู่ด้านบนอีกที


“เธอตัวหนักขึ้นรึเปล่าเนี่ย?” ผมแกล้งหยอกเล่น แต่กลับถูกอีกคนทำหน้างอใส่ แถมยังทุบอกผมซะแรงอีก


“หยาบคายน่ะ!” ผมหัวเราะกับคำต่อว่านั้น ก็เลยถูกมิรันด้าบีบจมูกด้วยความหมั่นไส้


“จริงสิ.. เธอมาที่นี่ได้ยังไง? แล้วแม่ฉันล่ะ?” ผมถามเมื่อจมูกถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ...จะว่าไปผมก็ยังไม่เห็นจะมีใครอยู่ในห้องนอกจากพวกเรา ..แล้วนี่ซอลลี่ก็ยังไม่กลับมาอีกเรอะ? คงไม่ใช่หลงไปถึงสระบุรีแล้วหรอกนะ?


“บอสยังอยู่ที่บ้านอาของคุณ ท่าทางยังมีเรื่องให้เม้าส์กันอีกเยอะไม่จบสิ้น ..ฉันคิดถึงคุณ ก็เลยให้คุณแบรี่พามาส่งที่นี่ก่อน”


ผมพยักหน้ารับรู้กับคำบอกเล่านั้น ..งี้นี่เอง เพราะแบรี่มีกุญแจห้องผม มิรันด้าถึงเข้ามาอยู่ที่นี่ได้


“ตอนแรกที่เห็นหน้าอาของคุณ ฉันสับสนแทบแย่แน่ะ รู้มั้ย? นึกว่าคุณมัชชิม่าหนีคุณผู้ช่วยกลับมาอีกแล้วซะอีก” เธอพูดพลางขมวดคิ้วยุ่ง


จนผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ก่อนบอก “ก็พวกเขาเป็นฝาแฝดกันนี่นา” 


ไม่แปลกหรอกที่มิรันด้าจะสับสน ยิ่งตอนนี้ป๊ะป๋าไว้ผมยาวทรงเดียวกับอาเซซด้วย กับคนที่ไม่เคยเจอมาก่อน ถ้าไม่ได้เจอพร้อมกันทั้งคู่ ก็อาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนเดียวกันได้ง่ายๆ เลยล่ะ นี่ขนาดเป็นแฝดคนละไข่กันนะ ฮ่ะๆๆ


“ทีคุณกับพี่ชายเป็นแฝดไข่ใบเดียวกัน ยังไม่เห็นเหมือนกันขนาดนั้นเลย” เธอตั้งข้อสังเกต แต่ผมไม่ได้ใส่ใจมันเท่าไหร่นัก หันไปสนใจกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ลอยมาแตะจมูกแทน


“เธอเปลี่ยนน้ำหอมใหม่เหรอ? ..หืม?” กลิ่นหอมแปลกใหม่ทำให้ผมต้องผงกหัวขึ้นไปซุกไซร้หาที่มาของกลิ่นตามลำคอระหงด้วยความสงสัย จนอีกฝ่ายหลุดเสียงหัวเราะออกมา


“คุณชอบรึเปล่า?” มิรันด้ายิ้มยั่ว มือหนึ่งยันหน้าอกผมไว้ แต่อีกมือหนึ่งกำลังแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาของผมเล่น ผมครางตอบรับในลำคอ อีกฝ่ายถึงกับยิ้มกว้างอย่างยินดี “ดีใจจัง” 


ยิ้มสดใสเสียจนผมอดไม่ได้ต้องยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเนียนที่แต่งแต้มเครื่องสำอางเอาไว้เพียงบางๆ ซะหนึ่งทีแบบเน้นๆ “ไปเที่ยวมาสนุกหรือเปล่า?”


“มาก มากกกก” เธอเน้นเสียง พร้อมกับทำตาเป็นประกาย ก่อนจะเริ่มร่ายยาวเล่านู่นเล่านี่ให้ผมฟังด้วยความตื่นเต้นอยากอวดเหมือนเด็กๆ แรกๆ ผมก็ฟังเพลินๆ ฟังไปยิ้มไปกับท่าทางเจื้อยแจ้วนั่น ก่อนจะเหลือบไปเห็นอะไรที่มันหน้าสนใจกว่า ก็เลยกลายเป็นว่าฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เน้นหนักไปทางมองซะเยอะ ฮ่ะๆๆ


คือผมจะบอกให้นะว่าวันนี้มิรันด้าแต่งตัวยังไง.. เธอใส่กางเกงยีนส์รัดรูปเน้นโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้ง(ที่มีให้โชว์) กับเสื้อเชิ้ตตัวโคร่ง(กว่าตัวเธอมาก)ที่พับแขนขึ้นแบบลวกๆ และไม่ได้ติดกระดุม ส่วนด้านในก็เป็นเสื้อกล้ามสีอ่อน..ที่คอคว้านลึกพอสมควร รวมๆ แล้วก็ดูน่ารักดี ดูเซอร์ แล้วก็ดูเซ็กซี่ในเวลาเดียวกัน


แล้วก็..นั่นแหล่ะ เสื้อกล้ามคอลึกของเธอ..พอมานอนทับผมแบบนี้มันก็นะ.. หืมมมม หรือเป็นคุณจะไม่มองล่ะ? อย่ามาซึนๆ ฮ่ะๆๆ
เหมือนคนถูกมองจะรู้ตัว เพราะจู่ๆ เธอก็หยุดพูด ก้มมองหน้าอกตัวเองสลับกับหน้าผมด้วยสายตาเอาเรื่องนิดๆ


“คุณฟังฉันอยู่รึเปล่า ซัน?” เธอถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ


ได้ทีผมก็เลยยักคิ้วกวนๆ ให้ ก่อนเอ่ยแซวกำกวมจนอีกฝ่ายถึงกับหน้าขึ้นสีเรื่อ “ฉันรู้แล้วว่าน้ำหนักส่วนไหนของเธอที่เพิ่มขึ้น”


“คนลามก!” คนหน้าแดงทุบอกผมหลายที แต่ไม่แรงมากนัก ส่วนผมก็ได้แต่หัวเราะชอบใจ และไม่วายแซวต่อ


“เด็กผู้หญิงคนเมื่อก่อนนั้นกลายเป็นเลดี้เต็มตัวตั้งแต่เมื่อไหร่นะ? ..เมื่อวานนี้รึเปล่า? ฮ่าๆๆ”


“คนบ้า..”
อีกฝ่ายพึมพำด่าเสียงเบา ซบหน้าลงกับอกของผม ให้ผมได้ลูบผมสีแดงของเธอเล่นอย่างเพลินมือ


มิรันด้า..เป็นผู้หญิงที่น่ารัก เธอเป็นคนหัวไว เข้าใจอะไรง่าย แล้วก็ไม่ได้เรื่องมากเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ นอกจากนั้นก็ยังสดใสร่าเริง เป็นตัวของตัวเอง และบางครั้งก็ดูไร้เสียงสาเสียจนน่าแกล้ง ..แต่บางครั้งก็ร้อนแรงเสียจนคุณนึกไม่ออกเลยล่ะ(..ไม่เอาน่า คุณก็น่าจะรู้ว่าผมหมายถึงเวลาไหน?)


แต่มิรันด้าก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมจะรัก..ในฐานะคนรัก


อย่างที่เคยบอกไป.. ถึงเราจะเคยมีความสัมพันธ์ทางกายกันบ้างในบางครั้ง แต่ผมก็มองเธอเป็นเพียงเพื่อน หรือไม่ก็น้องสาว...น้องสาวซนๆ ที่ผมเห็นมาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเพียง ‘เด็กหญิง’ ตัวเล็กๆ


ผมรู้จักมิรันด้ามาตั้งแต่เธอยังอายุแค่ 10 ปี(แต่ไม่ได้แปลว่าผมเริ่มมีอะไรกับเธอตั้งแต่ตอนนั้นนะ อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้นสิ เหอ..) ตอนนั้นเธอเป็นนางแบบเด็กมือสมัครเล่นที่รับจ๊อบถ่ายแบบโฆษณาเล็กๆ น้อยๆ เธอเป็นลูกสาวของคนรู้จักของแม่ด้วย ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนางแบบมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เลยมักชอบไปป้วนเปี้ยนกับพวกนางแบบในที่ทำงานของแม่เป็นประจำ ผมซึ่งบางครั้งผมก็ไปที่นั่นบ้างเหมือนกัน ก็เลยได้คุยได้เล่นกับเธอไปด้วย


มิรันด้าได้เดบิวต์ในฐานะนางแบบอาชีพตอนที่เธออายุได้ 16 ปี ความฝันของเธอเป็นจริงในตอนนั้น รวมทั้งความสัมพันธ์ของพวกเรามันก็เริ่มขึ้นราวๆ นั้นด้วย จำไม่ได้แล้วว่าสาเหตุมาจากอะไร อาจเป็นเพราะอารมณ์พาไปหรือว่ามีอะไรมากกว่านั้นผมก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่ตอนนั้นผมเองอายุได้ 18 ปี กำลังจะจบไฮสคูลพอดี และตั้งใจว่าจะกลับมาอยู่ที่เมืองไทย ซึ่งเธอก็รู้เรื่องนี้ด้วย ..อืม ประมาณนั้น


ปัจจุบันมิรันด้าอายุเกือบจะ 18 ปีแล้ว แถมยังมีรายชื่อติดอยู่ใน 50 อันดับแรกในแรงกิ้งนางแบบ และมีแนวโน้มว่าจะได้ไต่อันดับสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ด้วยล่ะ ก็อย่างที่แม่บอก...ต่อไปนี้คงจะเป็นช่วงเวลาเบ่งบานของมิรันด้าน่ะ ฮ่ะๆๆ   


“ซัน..” มิรันด้าเอ่ยเรียกชื่อผมเบาๆ เธอเงยหน้าขึ้นจากอกผม เมื่อผมขานรับในลำคอ พลางเลิกคิ้วไปเชิงถาม เธอจึงเริ่มพูดต่อ “มันนานมากแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้เจอคุณ ..ฉันคิดถึงคุณมากเลย รู้มั้ย?”


ผมยิ้มออกมากับคำออดอ้อนนั้น ..ปกติผมไปอยู่ลอนดอนทุกซัมเมอร์อยู่แล้ว พวกเราเลยมักจะได้เจอกันในช่วงนั้นของปีเป็นประจำ แต่จำได้ว่าเมื่อซัมเมอร์ที่แล้วมิรันด้ามีงานให้ต้องเดินสายตลอด กว่าจะได้กลับมาลอนดอนผมก็บินกลับไทยแล้ว ..นี่มันก็เท่ากับว่าปีกว่าแล้วสินะที่เราไม่ได้เจอกัน? อืมๆ


“แล้วคุณคิดถึงฉันบ้างรึเปล่า?” เธอถามแล้วค่อยๆ โน้มหน้าลงมาหาผม


“อืม..” และเมื่อผมตอบรับ ริมฝีปากของเราทั้งคู่ก็จรดกันพอดี..




กริ๊งงงงงงงงงงง~


!!... กำลังเคลิ้มๆ ก็ต้องสะดุ้งโหยงกันทั้งคู่ เมื่อจู่ๆ เสียงโทรศัพท์บ้านที่ร้อยวันพันปีไม่เคยดัง ดันเสือกดังขึ้นมาด้วยพลังเสียงดันน่าตกใจ(..แมร่งใครเป็นคนเซ็ตค่าไว้วะ? แสบแก้วหูจริง!) แถมยังผิดเวลาแบบสุดๆ อีกต่างหาก ..นั่น นั่น! ยังไม่ยอมหยุดอีก ยังอีกๆ เชี่ยเอ๊ย! ใครวะแม่ง?! ทำไมไม่โทรเข้ามือถือ?


ผมพยายามจะทำเป็นไม่ได้ยินไอ้เสียงโทรศัพท์นรกนั่น แล้วทุ่มเทความสนใจทั้งหมดให้กับคนที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งลงมาอยู่ใต้ร่างผมแล้ว แต่ไอ้โทรศัพท์เวรก็ยังไม่หยุดดัง ราวกับกำลังท้าทายว่าถ้าผมทำหูทวนลมต่อไป มันก็จะแหกปากร้องต่อไปเหมือนกัน แล้วดูซิว่าใครจะมีความอดทนสูงกว่า...งั้นเรอะ?!


“แมร่ง!” ผมสบถอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้มือถือไม่ได้อยู่กับตัวนี่หว่า เออ.. อาจจะเป็นซิน ซอลลี่ หรือแม่มีธุระให้ต้องโทรมาก็ได้นี่? คิดได้ดังนั้นจึงจำใจต้องยันตัวขึ้น และยอมลุกไปรับโทรศัพท์ในที่สุด


“ครับ?” ผมกรอกเสียงเซ็งสุดขีดลงไปตามสาย เหลือบไปเห็นอีกคนบนโซฟากำลังนั่งหัวเราะคิกคักอยู่ เลยต้องส่งสายตาไปคาดโทษกันหน่อย ..เดี๋ยวเหอะๆ วางหูเมื่อไหร่เดี๋ยวจะหัวเราะไม่ออก


คนถูกมองทำเป็นกลัวจนหงอ ก่อนจะหัวเราะตัวงอมากกว่าเดิม ..ไม่มีสลด ยัยตัวแสบ เดี๋ยวโดนๆ


“ซันนี่..” เสียงที่ตอบกลับมาทำให้ผมต้องเบิกตากว้าง สำเนียงเนิบขนาดนี้มีอยู่คนเดียวเลย คนเดียวแหล่ะ ไอ้เอี้ยฟ้า! ..ว่าแต่มันมีเบอร์บ้านผมด้วยเหรอเนี่ย? ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ? แล้วโทรมาทำไม? หรือจะลืมอะไรเอาไว้บนรถผม?


ข้อสัญนิษฐานในหัวผมเป็นอันต้องถูกตีแตกกระจุยเมื่อเจอประโยคถัดมาของมัน รวมทั้งตาของผมก็ยิ่งเบิกกว้างขึ้น กว้างขึ้น จนแทบจะถลนออกมานอกเบ้าเมื่อฟังจบ


“ห้ามยุ่งกับคนอื่นนะ ไม่เฉพาะต่อหน้ากู แต่ลับหลังกู..มึงก็ห้ามยุ่งกับใครนะ”


“...!!!...”


“ต้องรักษาสัญญานะ.. ซันนี่” แค่นั้น.. พูดแค่นั้นแล้วมันก็วางสายไปเฉยๆ


ทิ้งไว้แค่ความรู้สึกตกใจ แปลกใจ ..และ..เสียใจ..นิดๆ(มั้ง) เพราะความรู้สึกผิดที่เริ่มจู่โจม


ผมหันไปมองคนที่นั่งรออยู่บนโซฟา ตอนนี้เธอเลิกหัวเราะแล้ว แต่กำลังจ้องมองมาที่ผมด้วยความไม่เข้าใจระคนสงสัยใคร่รู้ ผมหันกลับมามองโทรศัพท์ในมืออีกครั้ง มองอยู่อย่างนั้น.. ก่อนจะค่อยๆ วางมันกลับเข้าที่เหมือนเดิม


“..........” ผม...ลืมไปสนิทเลย..


..ตราบใดที่มึงยังยังมองกูด้วยสายตาแบบนี้ กูสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับใคร..


ผมเกือบจะทำผิดสัญญา.. ทั้งที่เพิ่งจะผ่านไปแค่วันเดียวแท้ๆ นี่ผมเป็นคนที่แย่ขนาดนี้เลยเหรอ? ..ผมมักพูดอยู่เสมอว่าไม่ชอบคนผิดสัญญา ผมเกลียดที่สุดกับคนที่หักหลังคนอื่น


แต่ตอนนี้ผมกลับกำลังจะทำแบบนั้นซะเอง? ..ผมนี่มันแย่จริงๆ


แต่ยิ่งกว่านั้นคือ...ไหงเอี้ยฟ้าโทรมาได้ถูกเวลาเป๊ะขนาดนี้วะเนี่ย?! มันรู้? มันเห็น? หรือว่ายังไง? ตกลงมึงมีพลังจิตจริงๆ ช่ายม้ายยยย ไอ้เอี้ยฟ้าประทาน~?! มึงนี่จะเหนือมนุษย์จนน่าขนลุกเกินไปแล้ว!! ...ชักหลอนว่ะ


“เกิดอะไรขึ้น? ใครโทรมาเหรอ?” มิรันด้าเข้ามาเขย่าแขนผมอย่างกังวล ทันทีที่ผมเดินกลับมานั่งบนโซฟา ผมส่ายหัว พลางยิ้มให้เธอเจื่อนๆ


“ไม่มีอะไรหรอก” ผมพูดให้คนฟังสบายใจ


“แต่หน้าคุณดูซีดๆ นะ?” คนข้างๆ พยายามจับหน้าของผมให้หันไปสบตากับเธอตรงๆ แต่ผมก็ยังคงยิ้มให้และไม่ได้พูดอะไรออกไป เธอทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจ ก่อนจะดึงริมฝีปากบนของผมแรงๆ “คนปากแข็ง!”


พูดจบก็สะบัดหน้าหนีไปอีกทาง ผมหัวเราะน้อยๆ กับท่าทางแง่งอนนั่น ก่อนจะยื่นสองแขนไปโอบรอบตัวอีกฝ่ายไว้หลวมๆ ..เอาเถอะ เขางอน เราก็ง้อสักหน่อยแล้วกัน ฮ่ะๆๆ 


“ก็มันไม่ได้มีอะไรจริงๆ นี่” คนถูกง้อหันมามองผมด้วยใบหน้าที่กลั้นยิ้มไว้เต็มที่ ก็นะ..ปกติผมไม่ค่อยได้ง้อใครนักหรอก(เพราะผมไม่ค่อยได้ทำให้ใครงอนไงล่ะ) ผมรู้ว่าเธอดีใจที่ผมยอมง้อ แต่ยังพยายามจะรักษาฟอร์มไว้ เลยไม่เผยยิ้มกว้างออกมา แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว หัวเราะออกมาในที่สุด


“มันตลก รู้มั้ย? เวลาที่เห็นคุณมาทำอะไรแบบนี้” เธอพูดไปหัวเราะไป จนผมรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ


“พูดแบบนี้.. เดี๋ยวฉันก็งอนบ้างหรอก” ผมปล่อยแขนจากร่างอีกฝ่าย แล้วแกล้งพูดไม่พอใจ


คนโดนแกล้งก็รู้ตัวว่าถูกแกล้ง หันมามองผมตาวาว ก่อนจะผลักผมให้นอนราบลงไปบนโซฟาพร้อมกับตัวเธอที่ตามมาติดๆ แล้วเอ่ยถามซุกซนด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่   


“งั้นมาลองดูวิธีง้อตามแบบฉบับของมิรันด้าบ้างมั้ยล่ะ?” พูดพลางขยับเบียดหน้าอกหน้าใจให้แนบชิดกับตัวผมมากยิ่งขึ้น จนเผลอกลืนน้ำลายโดยไม่ได้ตั้งใจ


..อยากนะ อยาก ผมไม่ได้กอดผู้หญิงมาพักใหญ่(มาก)แล้ว แต่..แต่...ถึงอยากยังไงตอนนี้ก็ทำไม่ได้แล้ว ..ไม่ได้จริงๆ ไม่อยากเป็นคนผิดสัญญา และยิ่งกว่านั้นคือ ...ผมหลอนเอี้ยฟ้าอ่ะ!


“เฮ้..” ผมร้องท้วงขึ้น เมื่อรู้สึกถึงมือคนซนที่กำลังลูบไล้แถวเป้ากางเกงผม


“เฮ้” อีกฝ่ายยักคิ้วและทำเสียงล้อเลียน แต่ยังไม่ยอมหยุดลากมือไปมา


ผมต้องรีบตะครุบมือเล็กนั่นไว้ ก่อนที่เจ้าน้องชายของผมมันจะอยากรู้อยากเห็นจนผงกหัวขึ้นมาดูว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นซะก่อน   


“เธอเป็นผู้หญิงนะ” ผมปรามอย่างไม่จริงจังนัก และไม่ได้คิดว่าคนฟังจะสนใจ แต่มิรันด้าดันยิ้มแปลกๆ แล้วจิ้มนิ้วมาที่อกของผม


“..ส่วนคุณเป็นผู้ชาย” เธอบอก


รอยยิ้มนี้ของเธอมันดูแปลกจริงๆ นั่นแหล่ะ และแววตาของเธอก็ดูแปลกไปเหมือนกัน ผมนิ่งเงียบเพื่อรอฟังว่าเธอจะพูดอะไรอีก เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เธออยากจะสื่อจากประโยคเมื่อครู่


แต่คำพูดถัดมาของมิรันด้าก็ทำเอาผมถึงกับตัวชาวาบไปชั่วขณะ


“แต่ทำไมผู้ชายอย่างคุณถึงไปคบกับผู้ชายด้วยกันล่ะ?”


“...!!...”


มิรันด้ายันตัวลุกขึ้นนั่งโดยไม่ได้พูดอะไรอีก ราวกับห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงของเครื่องปรับอากาศ ผมต้องใช้เวลาพักหนึ่งกว่าจะรู้ตัวว่าควรลุกขึ้นนั่งบ้าง และต้องเสียเวลาไปอีกเล็กน้อยกับการรวบรวมลมปราณเพื่อช่วยในการเปล่งเสียงออกไป


“เธอ..หมายถึงอะไรน่ะ?” ผมถาม พยายามปรับเสียงและสีหน้าให้ดูปกติมากที่สุด


“ฉันเห็นนะ..” คนพูดทั้งก้มหน้า ทั้งเสียงเบา จนผมต้องเอี้ยงหูเข้าไปฟังใกล้ๆ “คุณกับผู้ชายผมสีเงินคนนั้น...เมื่อเย็นนี้น่ะ”


“อะไร?!” ผมอุทานออกไปอย่างไม่อยากจะเชื่อหู ..มิรันด้าบอกว่าเห็น? เห็นผมกับเอี้ยฟ้า? ในร้านสุกี้อ่ะนะ?!


“บอสก็เห็น อาของคุณก็เห็น เราทุกคนเห็น..”   


เห็นกันหมดเลยเรอะ?! ที่ผมนั่งป้อนสุกี้เอี้ยฟ้า? ซวยแล้ว.. ทำไมต้องบังเอิญไปเดินห้างเดียวกันด้วยวะ? โหยยย.. กรุงเทพมันชักจะแคบเกินไปแล้วจริงๆ


“เอ้อ.. นั่นมัน...นั่นมัน..” ผมอึกอัก นึกไม่ออกว่าควรจะแก้ตัวยังไงดี ให้มันไม่ดูแย่จนเกินไปนัก “..ก็แค่..ไปกินมื้อเย็นกัน..แค่นั้นเอง”


แต่มิรันด้าไม่ได้สนใจฟังผม เธอยังคงพูดของเธอต่อไปเรื่อยๆ “ฉันรู้จากบอสเมื่อวาน ว่าผู้ชายคนนั้นชอบคุณ”


อ้าว แม่.. ไหงพูดงั้นเล่า? ถึงมันจะจริงเหอะ แต่จะไว้หน้าลูกชายสุดหล่อคนนี้หน่อยไม่ได้หรือไง โธ่..


“แต่ฉันไม่ค่อยแปลกใจหรอก คุณก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทั้งผู้หญิงผู้ชายต่างก็อยากเข้าหา คุณเป็นคนมีเสน่ห์ ฉันรู้.. รู้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอแล้ว ..และฉันก็คิดว่าคุณคงจะไม่สนใจเขาหรอก เพราะคุณไม่เคยทำแบบนั้น คุณไม่เคยมีท่าทางว่าจะสนใจผู้ชายด้วยกัน แต่พอได้เห็นคุณวันนี้ ที่ร้านอาหารนั่น...”


“.........” ผมพูดอะไรไม่ออก เลยได้แต่นั่งฟังเงียบๆ และพยายามทำใจยอมรับความเปลี่ยนแปลงของตัวเองในสายตาของคนอื่น ถึงมันจะดูไม่ค่อยเท่ห์เท่าไหร่ก็เหอะ


แต่ก็นั่นแหล่ะ ..มันคือความจริง


“มันทำให้ฉัน..”


“ผิดหวังเหรอ?”
ผมถามลอยๆ แค่นยิ้มเยาะตัวเองไปพลาง


แต่มิรันด้ากลับส่ายหัว เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับผมตรงๆ และนั่นเองที่ทำให้ผมได้เห็นดวงตาที่เริ่มแดงก่ำของเธอ


“ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าอกหัก”


“...มิรันด้า?” นี่มันนอกเหนือจากสิ่งที่ผมจินตนาการเอาไว้จริงๆ ให้ตายสิ! นี่เธอกำลังอำผมเล่นหรือเปล่า?


“ฉันโง่ใช่มั้ย? ทั้งที่เราตกลงกันตั้งแต่แรกแล้ว..” เธอหัวเราะเสียงแผ่ว ..ใช่ หัวเราะ.. แต่กลับทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ 


“ฮ่ะๆๆ ให้ตายสิ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะบอกคุณแบบนี้หรอกนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณลำบากใจ..”


“มิรันด้า..” ผมพยายามจะพูดในสิ่งที่ควรพูด แต่กลับนึกไม่ออกว่าควรจะพูดอะไร


“ฉันรู้ๆ แต่ทั้งที่รู้ฉันก็ยังห้ามใจตัวเองไม่ได้.. ที่ผ่านมา ฉันพยายามปลอบใจตัวเองมาตลอด ว่าอย่างน้อยฉันก็พิเศษกว่าผู้หญิงคนอื่นในชีวิตของคุณ แม้จะไม่ใช่คนรัก แต่คุณก็ไม่ได้จบความสัมพันธ์กับฉันเพียงแค่เซ็กส์คืนเดียวเหมือนคนอื่นๆ ฉันคิดว่าฉันไม่เหมือนคนพวกนั้น และคิดว่าถ้าได้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...คุณอาจจะหลงรักฉันเข้าในซักวัน” น้ำตาหยดแรกเริ่มทิ้งตัวกลิ้งลงมาจากปลายหางตา และถูกทดแทนด้วยหยดใหม่ทันที โดยที่ผมไม่รู้เลยว่าควรจะทำยังไง


“ฉันคิดโง่ๆ ..ใช่มั้ย?” ยิ่งพูด น้ำใสๆ ก็ยิ่งไหลออกมาจากตาคู่สวย


อยากจะเอื้อมมือไปช่วยเช็ดให้ แต่ก็ทำไม่ได้ ไม่รู้ว่าควรทำหรือเปล่า? แต่ไม่กล้าทำ ก็คนที่ทำให้ร้องไห้...มันคือผมคนนี้ไม่ใช่เหรอ?


เลยได้แต่นั่งนิ่งใบ้มองคนร้องไห้อยู่อย่างนั้นเหมือนกับคนโง่


“มิรันด้า..”


ใช่ คนโง่.. แต่ตรงนี้มีคนโง่อยู่ตั้งสองคนแน่ะ ไม่ใช่แค่คนเดียวหรอก..



“สำหรับคุณ ฉันอาจเป็นเพียงผู้หญิงซุกซนคนหนึ่ง แต่สำหรับฉัน คุณคือคนที่ฉันรักนะ ..ซัน”
 


(ต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2012 13:52:19 โดย White Raven »

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
(ต่อ)



“..ทำหน้าเครียดอย่างกับประจำเดือนมาไม่ตรงเวลา” ไอ้คนที่เพิ่งเปิดประตูห้องน้ำออกมาเอ่ยแซวผมซึ่งกำลังนอนก่ายหน้าผากอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย


ก็..ไม่รู้สิ เมื่อกี๊ผมเพิ่งกลับจากไปส่งมิรันด้าที่โรงแรมที่เธอพักมา ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกยังไงกับคำสารภาพความในใจของเด็กคนนั้น รู้แต่ว่ามันใจหายยังไงชอบกลที่เป็นสาเหตุทำให้เธอต้องร้องไห้.. เห็นเธอหน้าเศร้าๆ แล้วผมรู้สึกไม่สบายใจเลย ผมไม่ได้อยากจะเห็นน้ำตาของมิรันด้าเลยจริงๆ เฮ้อ..


“ขอโทษนะ” สุดท้ายก็พูดได้แค่นั้น


เมื่อก่อนนี้ก็เอาแต่ว่าซินว่าเป็นตัวบาปหนา เป็นผู้ชายบาปหนาที่ชอบทำให้ผู้หญิงร้องไห้บ่อยๆ เพิ่งจะมารู้ตัวเอาวันนี้เองว่าผมเองก็ไม่ได้แตกต่างจากฝาแฝดของตัวเองสักเท่าไหร่..


ก็เหมาะสมแล้วที่เรามีทุกอย่างเหมือนกัน แม้กระทั่งรหัสพันธุกรรม..


“กี่เดือนแล้วล่ะ? ..หลานคนแรกพี่อยากให้เป็นผู้หญิงนะ”


เตียงที่ยวบลงทำให้ผมต้องเหลือบไปมองข้างตัว ซอลลี่ในชุดคลุมอาบน้ำกำลังนั่งเช็ดผมเปียกๆ ของตัวเองด้วยสีหน้าท่าทางสบายอกสบายใจ ไม่ได้มีความห่วงใยหรือเห็นอกเห็นใจอะไรน้องชายแม้แต่นิดเดียว


ซอลลี่กลับมาตอนที่ผมกำลังจะออกไปส่งมิรันด้าพอดี โชคดีที่มีคนพามา เลยยังไม่ได้หลงไปไหน(..แอบเสียใจนิดนึง) ก็หวานใจพี่แกน่ะแหล่ะ ไว้มีโอกาสจะแนะนำให้รู้จักแล้วกัน วันนี้ไม่อยากพูดถึงใครมาก ..เพลีย


“ไม่ตลก” ผมตอบกลับคำแซวเมื่อครู่ อีกฝ่ายเพียงยักไหล่ไม่ใส่ใจ ผมเลยบ่นต่อเซ็งๆ “เจอนางยักษ์ด้วย”


จริงๆ นะ ..ตอนที่บอกลาตรีสวัสดิ์กับคนที่ไปส่งเรียบร้อยแล้ว ผมก็กำลังจะเดินกลับ ประตูห้องข้างๆ ดันเปิดผัวะออกมาแบบไม่มีสัญญาณเตือนภัย พร้อมกับมีมือปริศนายื่นมาคว้าคอผม แล้วลากเข้าไปในห้องด้วยความเร็วแสง


ทีแรกก็ตกใจแทบแย่ แต่ที่แท้ก็...อ้าว แม่กูเอง


แต่จะผิดไปนิดหน่อยก็ตรงที่ ‘มาดามริต้า’ ที่แสนคุ้นตา ได้แปลงร่างกลับเป็น ‘นางยักษ์ริต้า’ ที่เมื่อก่อนชอบมาปรากฏตัวให้ผมกับซินสมัยยังเป็นแฝดน้อย(โคตรซน)ได้เห็นอยู่บ่อยๆ ..นางกำลังยืนเท้าเอวด้วยใบหน้าถมึงทึงไม่สบอารมณ์ใครสักคนอยู่(ก็คงไม่แคล้วเผ็นผมหรอก) ทั้งที่ก็ไม่ได้เจอแม่เวอร์ชั่นนี้มานานแล้ว ทั้งที่ผมตอนนี้ก็โตจนบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมความรู้สึกหวาดกลัวจับขั้วหัวใจถึงยังได้เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง?


แบบนี้สินะที่เขาเรียกกันว่า ‘ฝังใจ’ ?


อยากจะบอกว่านาทีนั้นคิดถึงซินสุดๆ เมื่อก่อนเวลาเล่นซนจนเกินขอบเขตทีไร เราก็มักจะต้องมาเผชิญชะตากรรมกับนางยักษ์ริต้าผู้นี้ทุกที ตอนนั้นเรายังมีกันสองคน..ผมกับซิน ยืนกอดกัน ร้องไห้จ้าน้ำตาอาบแก้ม แขนขาสั่นพรึ่บ พรั่บเพราะความกลัว(แบบเด็กๆ) ..ไม่ใช่อะไร กลัวโดนจับหักคอจิ้มน้ำพริกอย่างที่โดนขู่บ่อยๆ


ย้อนไปคิดถึงตอนนั้นก็ทั้งขำทั้งสยอง ผมกับซินนี่กลัวแม่เวลาโกรธจริงๆ นะ ตอนนั้นรู้สึกว่าแม่ดุมาก ดุเกินมนุษย์ จนเห็นเป็นยักษ์ เป็นมาร เป็นปีศาจ แต่ถ้าลองมองในมุมกลับ บางทีแม่เองก็คงจะรู้สึกว่าพวกผมมันซนเกินเด็กมนุษย์ เป็นเด็กเปรต เด็กผี เด็กปีศาจเหมือนกันล่ะมั้ง คงจะเหนื่อยกับพวกผมน่าดู ขนาดเผาห้องนอนเพราะมีแมลงสาบเล็ดลอดเข้าไปเพียงตัวเดียวแฝดก็ทำมาแล้วนะเออ


..ก็ฝาแฝดเกลียดมันอ่ะ หน้าตาแม่งไม่โดนใจอย่างแรง กลิ่นก็แย่โคตรๆ แถมไม่อร่อยอีกต่างหาก(หือ?) จะจับก็ไม่กล้า จะไล่ก็กลัวมันวิ่งเข้าใส่ ลงทุนไปขอร้องอ้อนวอนซอลลี่ผู้ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งมีชีวิตอื่นใดในโลกหล้าให้มาช่วย หมอนั่นก็ไม่แม้แต่จะชายตาแลพวกเรา ยังคงนอนอ่านนิตสารแฟชั่นอย่างสบายใจ เมื่อไม่อาจทำอะไรไอ้แมลงสาบนรกนั่นได้ แฝดก็เลยตัดสินใจปิดประตูขัง(กันมันหนี) แล้วจุดไฟเผารังแมร่งซะเลย วะฮ่าๆๆ (กูคิดได้ไงวะ? ..แต่ฝาแฝดไม่เคยยอมแพ้ใคร ยิ่งเป็นแค่กระจั๊วะตัวเดียวก็ยิ่งยอมไม่ด๊ายยย)


สรุปว่าวันนั้นแมลงสาบไม่ตายหรอกพี่น้อง เพราะมันหนีออกไปได้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าแฝดนี่แหล่ะที่เกือบตาย เพราะสำลักควัน ถ้าป๊ะป๋าไม่เข้าไปช่วยทัน ป่านนี้คงได้ไปเป็นเทวดาบนสวรรค์กันทั้งพี่ทั้งน้องแล้ว เหอๆ ..รู้สึกตอนนั้นจะ 4 หรือ 5 ขวบเองมั้ง? ไม่ค่อยแน่ใจ


อย่าให้ต้องเล่าถึงวีรกรรมวีรเวรที่ฝาแฝดเคยร่วมสร้างสรรค์กันมามากกว่านี้เลย เดี๋ยวพวกคุณทุกคนจะพากันไปเห็นใจนางยักษ์มากกว่าพวกเรา ฮ่ะๆๆ


แต่คราวนี้ผมต้องมาเผชิญชะตากรรมแต่เพียงลำพัง ไร้เงาหัวคู่ทุก์คู่ยากอย่างซินเซียร์.. ก็ไม่รู้ว่าจะโดนจับหักคอจิ้มน้ำพริกกินหรือเปล่า? หึยยย..


“คุณตะวันฉาย..” คำแรกถูกเอื้อนเอื่อยออกมาด้วยน้ำเสียงอันเย็นเยียบยิ่งกว่าจุดเยือกแข็ง สวนทางกับเปลวไฟบรรลัยกันที่กำลังลุกโชนอยู่ในดวงตาสีน้ำเงินอมเทาของคุณมารดา


เวลาแม่โมโหก็มักจะเรียกพวกเราด้วยชื่อจริงแบบนี้ล่ะ และแน่นอนว่าไม่เคยมีใครเรียกชื่อจริงของผมได้ฟังดูสยดสยองเท่าแม่อีกแล้วด้วย


“อันที่จริงแม่เองก็ไม่อยากจะไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของลูกนักหรอกนะ ลูกจะรักจะชอบใครแม่ไม่เคยคิดจะไปก้าวก่ายเลยซักครั้ง ตลอดมาก็แม่ให้อิสระเต็มที่กับการเลือก และเคารพการตัดสินใจของลูกเสมอ ถ้าลูกรักใครแม่ก็ตั้งใจว่าจะรักด้วย แต่คราวนี้มันเกินไปรึเปล่า? ห๊ะ! ทำเกินไปมั้ย ซันนี่?! ...ไม่! แม่ไม่ได้หมายถึงน้องฟ้า เราไม่ได้กำลังพูดเรื่องนั้น ถ้าลูกจะคบกับน้องฟ้าแม่ก็ยอมรับได้ แม่ก็ไม่เคยกะเกณฑ์นี่ว่าลูกจะต้องคบกับผู้หญิงเท่านั้น ไม่ได้ขีดเส้นซักหน่อยว่าลูกจะต้องแต่งงานนะ ต้องมีหลานให้แม่อุ้มนะ ..เพราะส่วนตัวแม่เองก็เบื่อเด็กเต็มทน แม่เป็นนางแบบ ไม่ใช่นางงาม ไม่ต้องห่วงภาพลักษณ์อยู่แล้ว แต่ที่แม่โมโหและไม่พอใจมากๆ ก็คือ..ทำไมลูกต้องไปยุ่งกับมิรันด้า? ไปยุ่งทั้งที่ไม่ได้คิดจะรักจะชอบ? ลูกทำไปทำไม? แม่ไม่เข้าใจ ไม่คิดสงสารน้องมั่งเหรอ? เห็นกันมาตั้งแต่อายุเท่าไหร่? ยิ่งแม่ยิ่งเห็นมาตั้งแต่เด็กนั่นยังเป็นแค่ภาพอัลตร้าซาวด์ จนคิดว่าเป็นลูกสาวของแม่อีกคน แล้วดูลูกทำกับน้องสิ? แบบนี้จะไม่ให้แม่โมโหได้ยังไง? ฮึ่ย! ยิ่งพูดยิ่งอารมณ์เสีย! ...นี่แม่จะบอกกับกวินเน็ธยังไงว่าลูกชายคนเล็กสุดที่รักของแม่เองที่เป็นคนทำให้ลูกสาวคนเดียวของเธอต้องร้องไห้?” ปิดท้ายประโยคด้วยการตบหัวผมอีกสองทีซ้อนแบบไม่คิดจะออมแรง 


“พระเจ้าเหอะ! เจ้าบ้าเซ็นเลี้ยงลูกยังไงถึงได้เป็นคนมักง่ายขนาดนี้นะ?” 


“..ซันขอโทษ” และผมก็พูดได้แค่นั้น รู้สึกผิดไม่น้อยที่ทำให้ป๊ะป๋าพลอยโดนหางเลขไปด้วย


แม่ยืนหายใจหอบพลางจ้องหน้าผมอย่างไม่หายเคือง ก่อนจะพยายามปรับอารมณ์ให้กลับสู่โหมดปกติ(หลังจากระเบิดพลังขั้นสุดยอดไปแล้ว) แล้วโบกไม้โบกมือ “ช่างเถอะๆ แค่แม่ได้พูดก็สบายใจขึ้นเยอะ ลืมมันไปซะเถอะ ที่รัก”


“ขับรถกลับคอนโดดีๆ ล่ะ ยังไงแม่ก็รักลูกนะ ซันนี่ ..ฝากจุ๊บราตรีสวัสดิ์ซอลลี่กับซินเซียร์ด้วย” ว่าแล้วก็จุ๊บแก้มซ้ายแก้มขวารวมทั้งหน้าผากและริมฝีปากของผมเป็นการสั่งลา.. 




“โดนตบหัวด้วย ..เจ็บชะมัด” ผมนอนบ่นไปเรื่อยเปื่อย ..ไม่ใช่ว่าโกรธแม่หรอกนะ แล้วก็คิดว่าตัวเองสมควรโดนด้วย ..แค่อารมณ์มันอยากจะบ่นให้ใครสักคนฟังเฉยๆ น่ะ


“หือ?” หยดน้ำที่หล่นใส่หน้าทำให้ผมต้องเหลือบตาขึ้นไปมองอีกคนที่นั่งชะโงกหน้าอยู่เหนือผม


“ทำไมไม่เช็ดให้แห้ง?” ผมถามเอื่อยๆ โดยไม่ได้สนใจคำตอบ ก่อนจะดึงผ้าขนหนูบนคอซอลลี่มาเช็ดผมให้เอง ทางนั้นเลยถือโอกาสปีนขึ้นมาบนตัวผมซะเลย พอดีกับนึกถึงคำสั่งลาของมาดามริต้าได้ เลยใช้โอกาสนั้นจับหัวซอลลี่ลงมาจุ๊บหน้าผากเสียทีหนึ่ง เห็นทางนั้นเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ผมเลยบอกไปว่า “ของฝากจากแม่”


“ซอลลี่~ ซันแย่ใช่มั้ยที่ทำแบบนั้นกับมิรันด้าอ่ะ?” นึกไงไม่รู้ จู่ๆ ก็ถามคนที่กำลังยุ่มย่ามอยู่บนตัวผมไปแบบนั้น ..คงจะอยากอ้อนใครสักคนล่ะมั้ง


ซอลลี่เงยหน้าขึ้นมาเลิกคิ้วอีกครั้ง ก่อนจะพยักหน้าให้ “ใช่”


“จะไม่ปลอบกันเลยใช่มั้ย?” ผมเบะปาก พูดตรงไปแล้วเว้ย ไอ้พี่บ้า! 


“พูดว่า ‘มันช่วยไม่ได้’..หรืออะไรทำนองนั้นก็ยังดี”


ก็นะ.. เวลาที่รู้สึกแย่ๆ มันก็ต้องนึกอยากให้มีคนมาพูดปลอบใจอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ปกติแล้วคนที่ควรจะอยู่ข้างผมในเวลาแบบนี้ต้องเป็นซิน แต่ตอนนี้ไม่รู้เจ้าบ้านั่นหายหัวไปไหน ดึกดื่นป่านนี้ยังไม่กลับบ้านกลับช่องอีก สงสัยว่ามันจะตัดใจจากไอ้กาย(เพราะไม่กล้าจีบ) แล้วกลับไปลั้ลลากับบรรดากิ๊กสาวๆ ซะแล้วล่ะมั้ง 


แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ซอลลี่คงพอแก้ขัดได้..


“คำพูดไม่จริงใจ นายจะอยากได้ไปทำไมกัน?” อีกฝ่ายถามกลับ แล้วก้มหน้าลงไปหมกมุ่นกับร่างกายของผมต่อ


“พี่ก็ช่วยจริงใจหน่อยสิ.. ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์น่ะ ไม่มีเลยรึไง?”


“นายก็รู้ว่าพี่ไม่รู้จักของแบบนั้น”


นี่แหล่ะ! คุณแสงเหนือ เฮย์เดน ตัวจริงเสียงจริง.. ผู้ไม่มีทั้งเลือด ไม่มีทั้งน้ำตา ภายในตัวของหมอนี่คงจะกลวงเป็นโพรงไม่ต่างจากตุ๊กตาเซรามิกหรอก ผมว่านะ ..หมอนี่มันดูดีก็แค่ข้างนอกเท่านั้นล่ะ!


“เฮ้! จะซุกจะไซร้ก็ไม่ว่าหรอก แต่อย่าเอาหนอนของพี่มาเบียดจะได้มั้ย?” ผมทุบหลังของร่างข้างบนอย่างไม่พอใจ เมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างหยุ่นๆ นิ่มๆ แถวต้นขาด้านใน ..คือผมใส่กางเกงนอนที่เป็นผ้านิ่มๆ บางๆ น่ะ ก็เลยรู้สึกได้ค่อนข้างชัดเจน ส่วนซอลลี่ใส่เสื้อคลุมอาบน้ำตัวเดียว แถมยังมัดผ้าผูกเอวเอาไว้แค่หลวมๆ ด้วย ...ไม่สิ ผมว่าตอนนี้สายรัดเอวมันคงหลุดไปแล้วล่ะ ไม่งั้นขาผมคงจะไม่รู้สึกถึงซอลลี่น้อยชัดขนาดนี้


จะบอกว่าปกติหมอนี่ชอบแก้ผ้านอนอยู่แล้ว พออาบน้ำเสร็จก็เลยไม่ต้องแต่งตัว เขาบอกว่ามันดีต่อการทำงานของเซลล์ผิวในเวลากลางคืน ผมก็ไม่รู้หรอก ว่าที่พูดมามันเป็นเรื่องจริง..หรือแค่ข้ออ้างให้ตัวเองได้แก้ผ้าอย่างสมเหตุสมผลกันแน่? แต่ที่แน่ๆ คือมันได้กลายเป็นสันดานปกติของเขาไปแล้วล่ะ


แล้วไอ้เรื่องที่ชอบมานัวเนียน้องชายอย่างผมนี่ก็เรื่องปกติอีกเหมือนกัน ตั้งแต่เด็กละ เมื่อก่อนซินเองก็โดน จนมันแทบจะกลายเป็นเหมือนการละเล่นอย่างหนึ่งในหมู่พี่น้อง(เฮย์เดน)ไปแล้ว


จะว่าไปแล้วที่เห็นผมกับซินชอบเล่นกันแบบถึงเนื้อถึงตัวนี่ก็เพราะติดนิสัยมาจากซอลลี่แหล่ะ ชวนเล่นของเล่นหรือเกมส์อะไรซอลลี่ไม่เคยสนใจจะชายตาแลฝาแฝดเลยนะ ต่างคนต่างอยู่สุดๆ แต่ถ้าชวนเล่นแบบนี้ล่ะก็..พี่แกไม่มีพลาดล่ะ(แต่เราก็ไม่เคยชวนหรอก ส่วนใหญ่มันมาของมันเอง)


แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้นซินมันก็ไม่ยอมเล่นด้วยอีก(ยกเว้นกับผม) ขืนเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้ามีหวังถูกถีบกระเด็น ซอลลี่เองก็คงพอรู้ตัวแหล่ะ เลยเบนเป้าหมายทั้งหมดมาที่ผมคนเดียว ..ซวยไปไอ้ซัน


“ถ้านายไม่ชอบที่มันเป็นหนอน ก็รีบทำให้มันเป็นมังกรซะสิ” ไอ้พี่บ้านั่นเลื่อนตัวขึ้นมากระซิบข้างหู ก่อนจะแลบลิ้นเลียเข้าไปข้างในให้ผมได้ขนลุกเล่น


“ไม่ใช่คู่ขาพี่นะ ลงไปเลย ลงไป! ซันจะนอนแล้ว” ผมดันหน้าอีกฝ่ายออก เออ! ดันตัวมันออกไปด้วย แล้วจึงพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้อย่างตัดรำคาญ


“ไม่อยากให้พี่ชายปลอบใจแล้วเหรอ?” แต่คนถูกไล่กลับหัวเราะชอบใจ แถมยังมีหน้ามาล้อกันอีก


“ไปห่างๆ เลย ไอ้โรคจิต! อย่าให้ต้องลงไม้ลงมือ”


ใช่! ซอลลี่มันเป็นโรคจิต และไม่ใช่แค่โรคจิตชนิดหนึ่งด้วยนะ หมอนี่มันเป็นหลายชนิดเลยล่ะ เป็นโรคจิตแบบรวมมิตรน่ะ รวมอยู่ในตัวมันคนเดียวแหล่ะ อย่าได้คิดไว้ใจเชียว เดี๋ยวจะหาว่าหล่อไม่เตือน


“ช่างเป็นเด็กที่หยาบคายจริงๆ” ได้ยินเสียงอีกคนหัวเราะเบาๆ ขณะลุกเดินไปปิดไฟ ..แปะ!



แล้วทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืด..


“ฝันดี น้องชาย”


“ฝันดี ซอลลี่”





เฮ้อ~ หวังว่าวันพรุ่งนี้จะเป็น ‘ซันชายน์ เดย์’ บ้างนะ..









TBC.  :z2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2012 13:53:05 โดย White Raven »

ใบพลู

  • บุคคลทั่วไป
ไวมากกก!

เดี๋ยวมาเม้นท์ค่ะ ขออ่านก่อน

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
สู้ต่อไป คนเขียน
อนาคตไม่ไดอยู่ที่มหาลัยที่จะเรียน
แต่มันอยู่ที่ตัวเราเองและโอกาศต่างหาก

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
มาลองแสดงตัวดูบ้าง เหมือนจะเคยหรือยัง? อิอิ

ปกติจะอ่านทางมือถือ วันนี้อู้งานใกล้หยุดยาว ทักทายคนเขียนบ้าง

ชอบคู่แฝดมากเลย และชอบยิ่งกว่าถ้าชะนีไม่ร้าย

หมั่นใส้น้องฟ้า อ่านกี่ทีก็หมั่นใส้ ส่วนน้องกายนี่คือ สุดที่รัก <<<แต่บทน้อยจริง :monkeysad:

รออีก 50 % นะคะ

ให้กำลังใจคนเขียน สถาบันดังๆมีส่วนช่วยในเรื่องงานก็จริง แต่อย่าไปท้อ เอกชน หรือ ราชภัฎ ก็ทำให้คนประสบความสำเร็จได้เหมือนกันค่ะ สู้ๆเน้อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2012 16:47:53 โดย หมวยลำเค็ญ »

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
 :z13: :z13:
-----------------------
กอดคนเขียนค่ะ^^ :กอด1: :กอด1:
เคยผิดหวังรุนแรงที่สอบไม่ได้
ร้องไห้่เดินไม่รู้ทิศทาง
แต่ยักตาย ต้องใจไว้ ปีหน้าเอาใหม่
จะไปสอบใหม่อีกรอบ
ไม่ได้ก็จะไปจนมันได้
คนเขียนก็ต้องสู้ๆนะค่ะ คุณโชคดีนะที่ตอนผิดหวังยังมีหลายๆคนอยู่ด้วย
แต่ตอนนั้นเรายืนคนเดียวมันเคว้งมาก แต่โชคดีที่เดินไปเรื่อยจนมาหยุดที่งานหนังสือ
พอเห็นหนังสือแล้วก็ลืมเรื่องผิดหวังไปเลย ฮ่าๆๆๆๆ  :กอด1: :กอด1:
สู้ๆนะค่ะ^^

ซั้นนี่ โอ๊ยยยยย เราตกใจคิดว่าจะลืมสัญญาไปแล้ว
แต่แปลกใจพี่ฟ้ารู้ได้ไง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2012 17:01:31 โดย chisarachi »

ออฟไลน์ firstlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เป็นกําลังใจให้คนเขียนนะคะ

พึ่งตามอ่านเรื่องนี้ทันอยากบอกว่าชอบมากกกกก
ฟ้าเป็นผช.ที่ได้ใจสุดๆไปเลย ซันนี่ก็น่ารักขึ้นทุกวัน ><
แอบกลัวดราม่าเบาๆ หวังว่าคนเขียนจะไม่ใจร้ายนะคะ ^_^


ออฟไลน์ silverwar

  • เสี่ยว...กาก...เกรียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฟ้า !!! นายจิตสัมผัสเหรอออ โทรมาได้จังหวะมาก  :laugh:

เอ่อ.. มิรันด้า เธอดราม่าใช่ไหม???

รออีก 50% จ้า

 :กอด1: คนแต่ง สอบไม่ติดไม่เป็นไร สู้ใหม่ๆ มือเจ็บก็เหมือนกัน เดี๊ยวก็หาย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
มิรันดาก็เข้าใจง่ายดีนะ  แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย

ไม่โวยวาย ร้ายกาจ แถมน่าสงสารนิดหน่อยด้วย

ออฟไลน์ Soukita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
วู้ว เกือบไปแล้วไหมล่ะ
ดีที่ฟ้าโทรมาก่อน  :เฮ้อ:

เป็นกำลังใจให้คนเขียน Fight!! :a1:

ออฟไลน์ ๛゙★βra_11!☆゙

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-1
 :จุ๊บๆ: คนแต่ง
 :L1:

ออฟไลน์ jitsupa apple

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ค้างกันหมดเลย :z3:
 :t3:

Giniz

  • บุคคลทั่วไป
เอี้ยฟ้าสั่งกล้องวงจรปิดมาติดไว้ใช่มั้ย!?  :angry2:

ออฟไลน์ udongjay

  • ความรัก...ไม่เคยจำกัดเพศ แต่เพศต่างหากที่จำกัด...ความรัก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 417
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +235/-2
ตามทันแล้วววว
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
น่ารักมากเลยค่ะ แม้ตอนแรกๆจะไม่ปลื้มฟ้าเท่าไร
แต่หลังมานี้ทำเอายิ้มไม่หุบเลย
คู่หวานๆน่ารักกันจัง
ตอนก่อนหน้านั้น ที่ซอลลี่พูดว่าฟ้าจะอยู่อายุไม่ถึงยี่สิบ
แอบติดใจอ่ะ อยากรู้ว่าคืออะไร TT

Rhythm

  • บุคคลทั่วไป
ยังไงต่ออ่ะ ค้างอ่ะ

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2: :serius2:    ฟ้าเสียใจแน่เลยซันนี่จูบกะคนอื่น :monkeysad:    คนอื่นๆเห็นกันหมดเลย อย่ามาม่าเลยนะสงสารฟ้าและซันนี่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2012 17:51:26 โดย Tiamo_jamsai »

wolfram

  • บุคคลทั่วไป
มิรันด้า เธอตัดใจซะเถอะ!!  :m16:

ฟ้า นายโทรมาได้จังหวะดีมากเลย!!  :laugh:

คนเขียนสู้ๆนะคะ!!  :กอด1:

ออฟไลน์ Maprang_W

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
อึ้งกับฟ้าประทานมาก
สุดยอดลางสังหรณ์เลยอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
สู้ๆนะคนแต่ง ชีวิตต้องเดินต่อ

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
เส้นยาแดงผ่าแปด
 :m29:
ซันเอ๊ย เกือบมีได้เสียแล้วมั้ยล่ะ
คราวหน้าอย่าเผลอตัวอีกน้า
คนอ่านกลัวน้องฟ้าจะเป็นบ้า
 o21

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
อ้ากกกกกก  :angry2: เกือบไปแล้วนะซัน  อย่าทำให้ฟ้าเสียใจนะเว่ยยยยยยยยยยย :m31:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
ฟ้ารู้ได้ไงอ่ะ  :m30:


เกือบไปแล้วนะซันนี่  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
ซันนี่อย่าทำให้เอี้ยฟ้าเสียใจนะ  :m16:
ถึงมันจะบ้า? แต่มันก็น่ารักนะ  :laugh:
ปอลิง หวังว่าพ่อกับแม่จะรับได้ มิรันด้าอย่ามาทำให้หวั่นไหวสิ !
 :pig4:นะคะ

ออฟไลน์ เก๋ไก๋เจ้าค่ะ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 210
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
 o13
นายฟ้าประทาน เก่งจริงๆ

ออฟไลน์ Zurruz

  • สาววายพันธุ์ยัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เค้าไม่ค่อยเม้น งั้นเค้าแสดงตัวนะ *ซึ้ง*

เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆ!

ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
ฟ้าเริ่มจะเหนือมนุษย์เข้าไปทุกที แกมีญาณพิเศษหร๊อ!! o21
ถึงจะเป็นเรื่องบังเอิญแต่ก็ถูกเวลาจริงๆ ไม่งั้นซันนี่ไปไกลแล้วนะนั่น
แล้วมิรินดาก็ต้องเสียใจเข้าไปอีกแบบว่ามีความหวัง
ตัดใจซะเถอะนะมิรินด้า เรื่องนี้ชะนีไม่ควรจะมีบท กร๊ากกกก

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :o11: เกือบไปแล้วน่ะซันนี่ ไม่เป็นไร อย่างน้อยเชี่ยฟ้าก็ยังมีญาณวิเศษ  :sad3: แต่ต้องไม่ีคราวหน้าแล้วน่ะครับ



ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ สถาบันไม่ได้กำหนดอนาคต  ให้กำลังใจคนเขียน  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Goingunder

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3
เอี้ยฟ้า แกหลอนมาก สรุปแกเป็นคนป่ะเนึ่ย ซันนี่อย่านอกใจเอี้ยฟ้า ไม่งั้นคนอ่านงอน ชิ :m16:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด