9
ผมลืมตาตื่นขึ้นมา . . รู้สึกร่างกายมันอ่อนเปลี้ยเสียแรงยังไงก็ไม่รู้ เมื่อวานกว่าไอ้เดือนคณะวิศวะปีหนึ่งมันจะเอารถผมมาคืนผมก็นั่งตากละอองฝนอยู่นานสองนาน สงสัยจะเป็นไข้แฮะ
มองดูนาฬิกาปลุกข้างเตียงตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเช้า ผมมีภารกิจซึ่งนั่นก็คือไปรับไอ้เหนือ พยายามขยับกายตัวเองให้ลุกขึ้นมา แต่ทำไมหัวมันหมุนติ้วๆเงี้ย
ผมไปไม่ไหวอย่างนั้นใช่ไหม
ซวยล่ะสิ แล้วใครจะไปรับไอ้เหนือ
ผมจิ้มไอโฟนกดหาเบอร์ไอ้เชี่ยภีม ดูเหมือนวันนี้กูจะทำหน้าที่เป็นสารถีให้พี่รหัสมึงไม่ได้อ่ะนะ รู้สึกเศร้าใจเล็กๆแฮะ ถึงผมฝืนสังขารไปขับรถให้มัน ผมคงพามันพลิกคว่ำสามตลบตรงทางโค้งแหงมๆ . .
“ครับพี่”
“ฮะ ฮัลโหล” เสียงผมแหบต่ำ แต่ไม่เซ็กซี่เอาซะเลย
“พี่คิน มีไร เสียงแปร่งๆนะครับ”
“ไปรับเชี่ยเหนือมันหน่อยดิ กูไปไม่ได้ว่ะ”
ภีมมันเงียบไปสักพักก่อนตอบ “ฮ่าๆๆๆ นี่พี่จริงจังกับคำพูดไอ้ปอนด์ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ยะยังไงของมึงวะ”
“ก็ตามปกติพี่เหนือเขาไม่ลำบากขนาดนั้นหรอกพี่”
“…”
“เพื่อนพี่เขาก็ออกจะมีตั้งเยอะตั้งแยะ”
“ก็จริงของมึง” ผมฟุบหน้าลงไปกับหมอนนุ่มละมุนสีขาว
“เอางี้ดิพี่ พี่โทรไปบอกพี่เค้าเองละกันนะ”
“หวะว่าไงนะ”
“เบอร์โทรผมเม็มเอาในเครื่องพี่คินแล้วอ่ะครับ เดี๋ยวตอนเย็นไปหาเน้อ”
“เห้ย เดี๋ยวดิ”
มันวางสายไปซะแล้ว . . ผมไม่เคยโทรหาไอ้เหนือเลยครับ แต่เพิ่งรู้ว่าไอ้เชี่ยภีมมันแอบเม็มเบอร์พี่รหัสมันไว้ในเครื่องผม ตั้งแต่เมื่อไหร่วะแสรด? ผมเองก็ไม่ได้เปิดดูรายชื่อของตัวเองในโทรศัพท์อยู่นานเลย เอ่อ มันเยอะจัดขี้เกียจดู
เอาไงดี โทรไปจริงเหรอ ผมไอค่อกๆแค่กๆ มองดูตัวเลขสิบหลังพร้อมชื่อ ‘Nuernatee’ ที่ไอ้ภีมมันพิมพ์ไว้ให้อย่างลังเล ไม่สบายยังจะมีอารมณ์ตื่นเต้นอีกนะผม . .
โทรก็โทร ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย
ผมรอสายสักพัก พักใหญ่เลยแหละ กว่ามันจะรับ
“ฮัลโหล”
พ่องตายยยยยยยยยยยย กูแทบอยากจะกรี๊ดดดดดดแบบลืมเพศตัวเอง เสียงหล่อสัดหมา นุ่มๆทุ้มๆยังไงไม่รู้น่าฟังชิบหาย . . เพ้ออ่ะ
เวิ่นละคิน
“อะ . . คือ กูเอง คินตา”
“…”
มันเงียบแฮะ . . กูไม่ใช่พวกโรคจิตซะหน่อยไอ้เวรนี่ กวนตีน
“กูไปรับมึงไม่ได้นะวันนี้อ่ะ แค่กๆๆ” ผมอดไอไม่ได้ อะไรหว่า ไม่สบายง่ายขนาดนี้เลยเหรอผม อ่อนแอชิบหายเลย
“อือ”
แค่เนี้ยยยยยยยยยย . . ไอ้สัดเอ๊ย ไอ้มีพ่อเป็นน้ำแข็ง
ผมจะพูดไรต่อดีอ่ะ รีแอคชั่นที่ตอบกลับมาของมันทำให้ผมไม่กล้าที่จะทำอะไรอีกเลย แม่ง มีอิทธิฤทธิ์เยอะนักนะ!
“โชคดีละกันเรื่องแข่งบาสอ่ะ แค่ก และก็ตั้งใจซ้อมด้วย”
“…”
คงจะได้ฟังเสียงแค่ฮัลโหลกับอือ T________________________________T เศร้าแบบยาวๆ
“กูวางละ”
โอ๊ย กูเศร้า บักห่านี่มันคงจะมีปัญหาเรื่องการคิดคำพูดกระมัง . . ผมกดวางสายลงก่อนที่จะมุดหน้าลงไปกับหมอนแล้วคิดว่านอนแบบหลับสนิทเป็นตายไปเลย แลปฮิสโตที่ผมว่าสำคัญนักหนายังไม่ได้แคร์เท่าเรื่องที่จะไปรับไอ้เชี่ยเหนือไม่ได้ เออแฮะ - - แลปฮิสโต โทรบอกไอ้ฟิล์มไว้ดีกว่า
เชี่ยฟิล์มมันโวยวายใส่หาว่าผมกับไอ้เหนือไปจึ๊กกะดึ๊ยกันแล้ว พ่องตายสิ . . แม้ว่าจะฟังดูว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล แต่เชื่อเหอะมันทำให้คนที่ไม่สบายอย่างผมมีสีหน้าแดงระเรื่อ โชคดีแค่ไหนที่ไอ้เชี่ยฟิล์มมันไม่รู้อ่ะนะ ผมฝากมันลาคาบแลปฮิสโตให้ บางทีอาจจะไปเรียนกับเสคอื่นตอนวันรุ่งพรุ่งนี้ อาจารย์น่าจะเข้าใจบ้าง เห็นผมเป็นงี้ผมสนิทกับอาจารย์เกือบจะทุกคนนะครับ!
เอาล่ะ ได้เวลานอน . . ขอให้ผมหายไวๆทันได้ไปเชียร์บาสไอ้เหนือในเย็นนี้ละกัน
“คุณคินคะ มีแขกมาค่ะ”
เสียงป้าแม่บ้านทำเอาผมลืมตาหนักๆขึ้นมา หัวยังปวดอยู่เลยและตอนนี้กี่โมงแล้วฟะ
บ่ายโมงครึ่ง
“หืออออ”
ผมไม่สามารถพูดออกมาเป็นประโยคได้ มันลำบากโคตรอ่ะ
มองเห็นหน้าไอ้ปอนด์แฮะ
เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
มึงมาได้ไงวะ!
“พี่คิน เป็นไงบ้างพี่ โหยยย หน้าแดงตัวแดงหมดเลย” พอมันเห็นหน้าผมปุ๊บ มันก็กระโจนเข้ามาหาผมแล้วถือวิสาสะนั่งบนเตียงของผมเลย คือมึง . . สนิทกับกูขนาดนั้น ? ได้ข่าวว่าเพิ่งรู้จักกันได้ไม่กี่วัน
“หมะมาได้ไง”
“ขับรถมาครับ”
มันทำหน้าจริงจังไม่ล้อเล่น เดี๋ยวแม่งเตะโด่งกลับไปตึกวิศวะซะนี่ ถ้าผมไม่ป่วยอ่ะนะ
“ผมซื้อข้าวเที่ยงมาฝากด้วย” ปอนด์มันบอก เอามือลูบหัวลูบหน้าลูบแขนผมใหญ่ พ่องตาย กูถูกลวนลาม “ป้าครับ จัดมาเลยนะครับ เผื่อผมด้วย ผมจะกินข้าวกับพี่คินของผม”
มันทำคนป่วยอ้าปากค้าง . .
“เท่ใช่มั้ยล่ะพี่ ผมพูดออกมาจากใจแบบไม่คิดเลยนะจะบอก” ปอนด์ทำสีหน้าภาคภูมิใจ
“รู้ได้ไงว่ากูไม่สบาย” ผมถามมันเพราะจำได้ว่าไม่ได้บอกไอ้ภีม
“ถามพี่เหนือมา” ปอนด์ตอบ คือมึงรู้เรื่องกูเพราะมึงถามไอ้เหนือ ไม่เคยถามอะไรเพื่อนมึงเลยงั้นสิ - - ไอ้ภีมง่ะ
อดปลื้มไม่ได้หน่อยนึง . . แค่หน่อยนึงเท่านั้น!!!!!!!!!!!!
“มิน่าวันนี้พี่เค้าทำหน้าเซ็งๆ สงสัยเพราะพี่คินไม่ได้ไปส่งแหงมๆเลยครับ” อย่าพ่นน้ำลายออกมาให้กูดีใจฟรีๆ มึงพูดไม่คิด แต่กูอ่ะคิดไปไกลแล้วสัด “เอ๊ะ หรือเพราะวันนี้มีตุ๊ดมาจีบพี่เค้าก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆๆ” กูว่าประเด็นหลังอ่ะ ถูก!
“อย่าเสียงดังดิ”
“ขอโทษครับ นี่ไง ของกินมาแล้ว ไม่รู้ถูกใจรึเปล่า ข้าวต้มเจ้าอร่อยจากในมอเชียวนะ อยู่ตั้งโรงอาหารของพวกฟู้ดซาย โคตรไกลอ่ะ แต่ผมก็ไปซื้อให้ เพราะพี่เชียวนะ”
คิดเหมือนผมมั้ยครับว่าไอ้เด็กนี่มันเวิ่นเว้อชิบหาย - -“ มันคงเหมาะสมกับพวกที่พูดน้อยๆ เรียบร้อยๆ นะผมว่า แม่งพูดไม่หยุดเลย
“ขอบคุณนะครับป้า” มันยิ้มสดใสส่งให้ป้าใสที่ตอนนี้ทำท่าจะละลายแล้วละลายอีก ป้ายังไม่ชินกับคนหล่ออีกเหรอ ผมนี่ไง หล่อมากหล่อมาย อ่ะโด่
หรือผมก็เวิ่นเหมือนไอ้เชี่ยปอนด์มันอ่ะ . .
แหะๆ *ยิ้มแห้งๆ*
“เดี๋ยวผมป้อนนะครับ”น้ำเสียงของปอนด์อ่อนโยนลง มันพยุงผมให้ลุกขึ้นพิงกับหมอนแล้วทำท่าจะป้อน ผมร้องห้ามใหญ่เลย “ไม่ได้ครับ เดี๋ยวเย็นนี้ไม่หายนะ”
“อะไรของมึง”
“บาสนัดชิงชนะเลิศเชียวนะพี่ วิศวะปะกับคณะแพทย์ ตัวผมเองยังไม่อยากพลาดเลย โดดซ้อมละครเวทีเลยแหละ” นี่มันพูดจาแบบอยากให้ผมไปชัดๆเลย
แต่ผมก็อยากไปอ้า TT
ผมคิดไว้แล้ว หายไม่หายก็จะไปดู ผมมันแมนอยู่แล้ว ไข้แดกแค่นี้ กินข้าวกินยานอนสามชั่วโมงเดี๋ยวก็หาย
ผมนั่งนิ่งๆให้ไอ้เชี่ยปอนด์มันป้อน ไม่ใช่ว่าผมง่ายนะครับแต่ไอ้ห่านี่หน้าด้านจัดผมโวยเท่าไหร่ก็ไม่ยอมฟัง ขี้เกียจทะเลาะกับเด็กผมจึงปล่อยให้แม่งเลยตามเลย อยากทำไรทำ กูจะรีบหายเร็วๆ
“ผมไม่เข้าใจเลย พี่คินน่ารักออกอย่างงี้ ทำไมพี่เหนือเค้าไม่สนใจพี่เลยอ่ะ”
ต้องไปถามพ่อมันดู . . แสรดดดดดดดดดด กูจะรู้มั้ยครับ
“กูหล่อ กูไม่ได้น่ารัก”
“โด่ ทำเป็นเถียง เถียงไม่ขึ้นหรอกน่ะ” ข้าวต้มจากปอนด์ถูกยัดใส่ปากผม “ผมใจเต้นแรงเลยนะเนี่ยพี่ ทำไงดี”
ไอ้สัดดดดด บรรยากาศยิ่งเงียบๆลมเบาๆ มีแต่มึงกับกูสองคน อย่ามาพูดจาแบบนี้ได้ป่ะ
ผมยอมรับก็ได้ผมอึดอัดมาตั้งแต่คำแรกที่มันป้อนผมแล้วครับ ไอ้เด็กนี่แม่งทำอย่างกับผมเป็นนางฟ้าโดยมีสายชลป้อนข้าวป้อนยาให้ยังไงยังงั้น คือมันทั้งจ้อง ทั้งมองผม ด้วยสายตาที่ผมรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
ยิ่งมันพูดตรงๆแบบนี้ . . ผมล่ะอยากจะล่องหนหายไปจากตรงนี้เสียจริง
“พี่คิน ถ้าผมชอบพี่อ่ะ”
“มึงล้อเล่นละ” ผมตอบทันที
“ตลกน่า พี่จะมารู้อะไรกับใจผม” มันก้มหน้าก้มตาป้อนผมต่อ “ผมรู้นะว่าพี่อ่ะชอบพี่เหนือเว่อร์ๆ ตอนที่ผมเจอพี่วันแรกผมก็เอาแต่มองพี่ เพราะพี่โคตรน่ารักเลย แต่รู้มั้ยครับพี่เอาแต่มองพี่เหนือแบบไม่ละสายตาจนผมอยากช่วยให้พี่สมหวัง เพราะไปฟังไอ้เชี่ยภีมเล่าเรื่องพี่คินมา มันยิ่งทำให้ผมโคตรชื่นชมพี่ โคตรจะปลื้มพี่เลยนะ”
“อ่อ เหรอวะ” ผมเกาหัวแกรกๆ ใส่มาเป็นชุดเลยนะมึง กูทำหน้าไม่ถูกเฟ้ย
“ถ้าเกิดผมชอบพี่ขึ้นมาจริงๆ จะพี่เหนือหรือณเดชน์มาจีบพี่ล่ะก็ ผมก็ไม่ยอมทั้งนั้นแหละ”
คือ คือกูชอบญาญ่า TT
ปอนด์มันพูดเยอะจนอ่านซะยาวเฟื้อยก็จริง แต่หน้ามันนี่โคตรจริงจังเลยครับท่านผู้ชมทั้งหลาย
“ขอเวลาผมคิดทบทวนด้วยตัวเองแป๊บนึง” พูดเอง เออเอง สรุปเอง
ผมพยักหน้าหงึกๆลูกเดียว . .
ผมหลับไปและก็ตื่นขึ้นมาอีกที เห็นไอ้เชี่ยปอนด์นั่งหลับอยู่เก้าอี้นวมข้างเตียง ตอนนี้ห้าโมงเย็นกว่าๆแล้ว ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มดีขึ้น ต้องขอบใจมันนะ
“ตื่นเว้ย” ผมใช้เท้าเขี่ยไข่ เอ๊ย เข่าของมัน
“หือออออ” มันลุกขึ้นมาแบบสะลึมสะลือแล้วก็ขยี้ตา ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย แต่รู้เลยว่าหน้าตัวเองโทรมจัด
เสียเรตติ้งแน่ๆ TT
“จะไปไหนอ่ะ” ปอนด์ในชุดนักศึกษาสีขาวกางเกงยีนส์โคตรเซอร์สีดำที่มีพี่ตูนเป็นพรีเซนเตอร์ เดินไปกับมัน ต้องถูกมันแย่งเรตติ้งแน่เลยวุ้ยยยยยย
เกลียดจริงๆเลยอิพวกเดือน คือสังเกตมั้ยครับพวกเดือนคณะ เดือนเอก เดือนอะไรก็แล้วแต่ มันจะคัดเลือกพวกที่เห็นหน้าตาเค้าครั้งเดียวและคุณก็จะจำได้เลย เรียกได้ว่า หล่อ รัศมีจับ และก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไอ้เวรปอนด์นี่ทั้งหล่อ สูง ตาโต ขี้เล่น - - โดนมันแย่งซีนแน่ๆ
ลืมบอกคนอ่านแน่ๆเลยครับว่าไอ้เชี่ยเหนือมันเกือบจะได้เป็นเดือนเมื่อปีที่แล้ว . . สาเหตุที่มันไม่ได้เป็นน่ะเหรอ ก็เพราะว่ามันไม่ชอบขี้หน้าคู่แข่งเดือนของมันอีกหนึ่งคนเลยเผลอไปต่อยหน้ามันเข้า ไอ้คนนั้นมันเลยได้เป็น ส่วนไอ้เหนือก็แห้วไป
แปลกป่ะละที่มันได้เป็นพระเอกละครเวที และแปลกป่ะละที่ไอ้ปอนด์ เดือนปีหนึ่งไม่ได้เป็นพระเอกแทนไอ้เหนือ
“พี่เหนือหล่อกว่าไงครับ”
เหตุผลที่อไอ้ภีมมันบอกผม . . คือหล่อกว่า คือจบใช่มั้ย สำหรับผมนะ มันก็หล่อพอๆกันแหละ แต่คนละแบบ สาวๆเขาชอบหล่อร้ายเป็นส่วนใหญ่เลยหันไปกรี๊ดไอ้เหนือแทน ส่วนไอ้ปอนด์น่ะเหรอ ก็คงจะมีสาวๆที่ชอบหล่อน่ารักขี้เล่นอยู่บ้างอ่ะแหละ
เวิ่นซะยาว . . กลับเข้าสู่สถานการณ์ปัจจุบัน
“ไปเชียร์บาสไง” ผมบอกไอ้ปอนด์ มันมายืนอยู่ข้างหลังผมตรงหน้ากระจกเงา ลมหายใจแผ่วๆของมันกระทบกับต้นคอของผม
“ยังไม่หายเลย” มือของปอนด์จับเข้าหน้าผากของผมอย่างจัง จนผมถึงกลับต้องปัดมือมันออก คือท่ามันส่อเหมือนมันจะโอบๆผมยังไงไม่รู้
และเสียงมันก็นะ . . ดุจริงไรจริง
“ไม่เอาเว้ย จะไป”
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ไม่ต้องไป เดี๋ยวบอกภีมดูเผื่อให้”
“กูจะไปๆๆ เห็นมั้ยกูไม่ไอแล้ว” อย่าทำตัวเป็นพ่อกูครับ ไอ้เด็กปีหนึ่ง ไม่ใช่ไร กูกลัวใบหน้าที่จริงจังของมึง มันไม่เหมาะกับคอนเซปต์หล่อขี้เล่นของมึงเลยให้ตายเหอะ
อันที่จริงผมกลั้นไอไว้ครับ . . ไอมันกลั้นได้นะ รึเปล่า ผมทำได้อ่ะ
“ตามใจ” มันโอบรอบคอผม “ผมไปด้วยนะ”
มึงจะไปตั้งแต่แรกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอออออออออออ
หลังจากนั้นผมก็นั่งอยู่บนรถของไอ้ปอนด์ มาสด้าสองประตูสวยดี ท่าทางมันจะรวยไม่หยอก เออแฮะ แม่มันเป็นผู้สนับสนุนละครเวทีของมันนี่นา . .
“ดูเสร็จจะมาส่งที่บ้าน อย่าลืมกินข้าวทานยาด้วยนะครับ” ปอนด์ยิ้มให้
“เออ”
โรงยิมที่ผมเคยโดนพวกเกษตรต่อยไงครับเป็นสถานที่ที่เค้าแข่งบาสรอบชิงกัน ผมเดินเข้าไปในนั้นพร้อมๆกับร่างสูงผอมหล่อใสของไอ้ปอนด์ หมดกัน เรตติ้งที่เคยสะสมมา หมดกันไม่มีเหลือ TT
ผมสังเกตได้ตอนที่ผมเดินตามมันไปนั่งตรงอัฒจรรย์เพื่อเชียร์บาส(ที่เริ่มไปแล้วหน่อยนึง) สาวๆแถวนั้นละสายตาจากพวกแข่งบาส(ที่หล่อๆกันอยู่แล้ว) มาสนใจไอ้เด็กปีหนึ่งเดือนคณะที่อยู่ตรงหน้าผมแทน ทำไมสาวๆไม่มองผมล่ะครับ ผมหล่อนะเฟ้ย!
“พี่เขยิบมาอีกก็ได้ เดี๋ยวก็ทำคนอื่นเขาติดไข้หรอก”
ไอ้สาดปอนด์โคตรกวนตีน ผมขยับเข้าไปใกล้มันจนตอนนี้ระหว่างผมกับมันเหลือเพียงคืบ กูจะเอาไข้นี่แหละไปติดมึง บักน้องจอมบงการ!
ผมหันไปสนใจกีฬา เสียงเชียร์ดังเย้วๆ ฝั่งแพทย์เค้ามีป้ายไฟด้วยครับ คงจะทำฮาๆ ส่วนฝ่ายวิศวะมีกลองเสียงดัง ตีแล้วก็เต้นท่าทางน่าสนุก ผมนั่งฝั่งที่มีนักกีฬาตัวสำรองนั่งอยู่อ่ะครับ ใกล้มากแบบวีไอพีเลยทีเดียว ฮ่าๆ เรียกได้ว่าเห็นหน้าพวกในสนามชัดเจน โน่นไง ไอ้เหนือในชุดนักบาสสีดำเบอร์สี่ วันนั้นมันใส่เบอร์ไรวะ ลืม - -“
“ร้อนมั้ยครับ” ปอนด์เอามือมาพัดอย่างกับว่ามันจะเย็น - -
“ไม่ร้อนๆ”
วิศวะขอเวลานอก ตอนที่ได้แต้มแค่สิบ แต่แพทย์นำไปได้สิบสาม คณะนี้มันจะเรียนเก่งจะเล่นกีฬาเก่งไปไหน อ๋อ สงสัยเพราะมีพี่เก่งอยู่ในทีมแน่ๆเลย (เกี่ยว?)
ผมนี่ก้มหลบหน้าพี่เก่งงุดเลย พี่คนนี้แหละทำให้ผมถอดเขี้ยวเล็บ ไม่ใช่ว่าผมพิศวาสพี่เค้าหรอก แต่เพราะผมให้ความหวังพี่เค้าที่สุดเลยต่างหาก คิดแล้วผมมันก็เลวจริงๆอ่ะนะ - -
“พี่เหนือ ทางนี้ๆๆ” ไอ้ปอนด์ มึงจะเรียกมันให้หันมาทำไมวะ!
ผมกับปอนด์นั่งไม่ห่างจากพวกวิศวะเลย เรียกได้ว่าถ้าไอ้เหนือเกิดบ้าจี้อยากดึงขาผมขึ้นมา(ไม่มีทางหรอกน่า) มันก็ดึงได้สบายๆ
เหนือมันหันมา เห็นผมกับไอ้ปอนด์ที่โบกมือให้ มันไม่ได้ทำหน้าอะไร แล้วก็หันกลับไปฟังรุ่นพี่ตามเดิม
จะหวังให้มันทำหน้าระริกระรี้เหรอเชี่ยคิน . . มึงบ้าอ๊ะป่าว
“เย็นชาไม่มีใครเกิน” ไอ้ปอนด์พึมพำ
“อะไรนะ”
ผมไม่ได้ยินเสียงมัน เพราะตอนนี้มีคนไปดึงกางเกงของพวกนักบาสทีมแพทย์เข้าจนสาวๆแถวผมกรี๊ดระงม
“ผมบอกว่าพี่เหนือเย็นชาไม่มีใครเกินไงพี่!” ปอนด์ร้องใส่ข้างหูผมเลย
“อ๋ออออออ มันก็เป็นงี้มึงเพิ่งรู้เหรอ” ผมร้องใส่หูมันคืน เสียงกรี๊ดไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย เพราะฝั่งวิศวะคนหนึ่งมันกำลังถอดเสื้อ ?
พวกมึงเลิกแข่งบาส แล้วไปแข่งเพาะกายไป!!!!!!! กูแสบแก้วหูกับเสียงกรี๊ดอ่ะ
คงจะทำขำๆเรียกเสียงกรี๊ดแข่งกัน เป็นสีสันของงาน
แต่กูรำคาญ . .
“แหะๆ พี่อย่าตะโกนดิ ยังไม่หายดีนี่” ปอนด์ตะโกนกลับมา
มีหรือที่ผมจะยอม . .
ผมหันหัวตัวเองไปใกล้หูมัน แล้วตะโกนแข่ง
“ไอ้สาดดดดดดดดด กูหูจะแตกเพราะเสียงมึง ไม่ใช่เสียงกรี๊ดแล้ว!”
“พี่น่ารักว่ะ!!”
“กูหล่อเว้ย เลิกตะโกนใส่หูกูได้แล้ว!!!”
“ไม่เลิกครับ มีไรป่ะ!!!”
“ไอ้เด็กเวร!!” รำคาญเสียงกรี๊ดโว้ยยยยย มึงหยุดซะทีได้ป่ะ!
“ผมเด็กหล่อ!”
“ขี้เกียจตะโกนแล้ว!”
ผลั่ก!
เสียงของหล่นบนตักผม เป้สีดำ ?
ไอ้เหนือมันโผล่หัวมา ห่างจากผมไม่เท่าไหร่ นี่ฝีมือมันเองเหรอ
ผมใจเต้นตึกๆ ไอ้นี่มันต้องการจะสื่ออะไรวะ?
มันกระดิกนิ้วชี้เรียกผมยิกๆ ผมจึงก้มหน้าไปฟังมันพูดอย่างงกๆเงิ่นๆ มีที่กั้นเป็นเหล็กสีเงินแนวยาวขวางผมกับมันเอาไว้
“ฝากของด้วยนะ”
ไอ้สาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ผมนิ่งอึ้ง ชะงัก และก็ค้าง . . .
หายไข้เลยกู
“ตอนเย็นกูกลับพร้อมมึง”
ไอ้เชี่ยเหนือ มึงทำไร มึงทำอาร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ไม่คิดเข้าข้างตัวเอง ไม่คิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
กูคงจะไม่ตายเพราะไข้หรอก แต่กูจะตายเพราะมึงเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
คนเขียนกรี๊ดดังๆ แล้วไปนั่งรอฟังความคิดเห็น