ต่อจากข้างบน
v
v
ดูหนังครึ่งหลังเหมือนจะไม่ค่อยปะติดปะต่อสักเท่าไร เพราะว่าผมกับไอ้คนนั่งข้างๆ เอาแต่หาเรื่องกันจนถูกคนที่นั่งข้างทั้งมันและผมหันมามอง แต่ถึงอย่างนั้นก็นั่งดูกันจนจบ ผมและไอ้พี่ชมพูถือถุงเสื้อผ้าของตัวเองออกมาจากโรงหนังคนละถุง ส่วนป๊อปคอร์นกับเป๊ปซี่ที่เหลืออยู่อีกนิดหน่อยก็ทิ้งไว้ในโรงหนังนั่นแหละ ขี้เกียจแบกออกมาทิ้งด้วย
“เล่นไอ้นี่ก่อน”
ยังเดินไปไม่ถึงบันไดเลื่อน ผมก็ชี้ไปที่ตู้เกมด้านหน้า บอกมันแค่นั้นก่อนเดินตรงไปยังจุดหมาย ทิ้งตัวลงนั่งบนเบาะพนักสูง วางมือบนพ่วงมาลัย แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่มีเงินติดตัวสักบาทถึงได้จำใจหันมาหาคนที่เดินตามมาทีหลัง
“หยอดเงินให้ด้วย”
“หึ จะเล่นแล้วยังสั่ง”
ไอ้คนเรื่องมากมันว่า ก่อนจะวางมือบนหัวผมแล้วจับขยี้
ตลอดอะมึง เห็นหัวกูเป็นผ้าเช็ดมือ
ขยี้ขยำจนพอใจแล้วมันก็ทิ้งตัวลงนั่งที่เบาะข้างๆ ล้วงเหรียญสิบจากกระเป๋ากางเกงแล้วมาหยอดที่ตู้มันและตู้ผม
“แข่งกัน”
“ท้า?”
ผมย้อนถาม มันก็แค่ไหวไหล่เหมือนเป็นเรื่องสบายๆ ให้ผมยิ่งหมั่นไส้
“เดิมพันไหมล่ะ”
เพราะมันถือไพ่เหนือกว่าล่ะมั้ง ถึงได้ชวน คิดว่ามึงจะชนะกูได้ตลอดล่ะสิ รู้อยู่หรอกว่าในสนามมันเก่ง แต่ว่าในเกมก็ไม่แน่หรอก
“เอาอะไรว่ามา”
“คิดว่ามึงจะชนะเหรอ”
เป็นคราวที่ผมไหวไหล่มั่ง มันก็กลั้วหัวเราะขำๆ เหมือนไม่เชื่อว่าคนอย่างผมจะชนะ แม่งงงง ดูถูกกูเกินไปแล้ว สุดท้ายผมก็โพล่งออกไปเต็มเสียงด้วยความฉุน
“ไม่ลองก็ไม่รู้”
“กูจะรอดู”
แล้วมันก็ไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้น แต่หันไปเริ่มเกมทันที ผมถึงต้องดึงความสนใจทั้งหมดลงสู่สนามบ้าง แน่นอนว่าเราแข่งกันสนามเดียวสามรอบ
รอบแรกก็พอลุ้น เพราะว่าผมนำมันอยู่แบบไม่ทิ้งห่างสักเท่าไร อาศัยความเชี่ยวชาญกับที่เล่นกับไอ้กราฟบ่อย ถึงได้รู้จังหวะดีกว่าไอ้คนที่ท้า แต่รอบสองดันไปเสียหลักเพราะไอ้เหี้ยพี่ชมพูแม่งเสือกมาชนท้าย สัตว์เอ๊ย ผมต้องตั้งลำใหม่แล้วเร่งเครื่องไล่มันไปสุดชีวิต กระทั่งรอบสุดท้าย ผมไล่บี้มันจนถึงเล่นชัย แต่ว่าดันแซงไม่ได้ เลยแพ้มันไปแบบน่าเจ็บใจ ผมทุบพวงมาลัยไปแรงๆ เพราะแพ้แม่งอีกแล้ว!
“อ่อนนัก น้องเอ๊ย”
มันถากถางซะเจ็บแสบมากจนผมต้องกัดริมฝีปากเพื่อระงับความเจ็บใจ ก่อนจะตวัดเสียงห้วนใส่มันไป
“จะเอาอะไร”
“ก็ไม่มากไม่มาย”
ไอ้กวนตีนว่าพลางผิวปากไปด้วยอย่างอารมณ์ดี ทำให้ผมแค้นกว่าเดิม ยกตีนขึ้นถีบมันไปหนึ่งที แต่มันกลับไม่ยี่หระ
“อย่าลีลา”
แล้วแม่งก็หัวเราะ สัตว์หมา! กวนตีนกูนักนะ ผมถลึงตามองมัน แต่มันดันยกมือมาหยิกแก้มผมแล้วมือแม่งก็ไม่ได้เบาเลย
เหี้ยยยยยย กูเจ็บนะเว้ย ไอ้ห่า!
ผมยกมือขึ้นปัดมือมันออก แต่มันก็ดึงมือผมไปกุมไว้อีก
“ว่ามา เร็วๆ ผมจะไปเยี่ยว”
เพราะแม่งชักช้าเหลือเกิน ผมถึงต้องอ้าง ไม่ได้ปวดยงปวดเยี่ยวอะไร แต่มันก็รู้ทันอยู่ดีนั่นแหละ ผมเลยยิ่งฮึดอัด
“ก็แค่...”
“แค่อะไร”
“แค่...”
“พูดมาสักทีสิโว้ย”
“พูดดีๆ กับเมียหน่อยสิครับ เกงยีน”สาดดดดดดดดดดดดดดดดดด
มันทำให้ผมโมโหหนักขึ้น ยิ่งเห็นหน้าตายิ้มๆ ของมันที่ดูจะมีความสุขเหลือเกินเนี่ย ยิ่งทำให้ประสาทแดก
“ถ้าชักช้าจะพูดหยาบกว่านี้”
“ถ้าชักช้าแล้วเกงยีนไม่พอใจ ก็ชักให้พี่สิครับ”
เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ไม่แค่พูด มันยังดึงมือผมไปใกล้ๆ ตัวมันอีก ผมต้องออกแรงยื้อสุดชีวิตก่อนที่มือผมจะไปโดนอะไรๆ ของมันที่บอกว่า ‘ชักช้า’
เดี๋ยวนี้มึงเล่นกับกูแบบนี้เหรอ ไอ้พี่ชมพู!!!!! แล้วดูแม่งกระตุกยิ้ม แถมรอบข้างนี่ก็ไม่ใช่ที่ลับตาคนเลยสักนิด กลางห้างแต่แม่งก็ยังทำอุบาทว์
หน้ากูไม่ได้หนาเหมือนมึงนะ สัตว์
“เร็วๆ จะเอาอะไรก็พูดมา”
สุดท้ายผมก็ต้องพูดเสียงเบา พยายามไม่ใส่อารมณ์ลงไปในคำพูด ทั้งที่อยากกระทืบๆๆๆ ไอ้คนที่เผชิญหน้ากันอยู่
“ก็ไม่ยากอะไร”
“...”
“แค่เป็นเด็กดีก็พอ”
แล้วเด็กดีสำหรับมึงมันเป็นยังไงวะ อยากจะถามมันไปแบบนี้ แต่ว่ามันยังไม่ปล่อยมือผมเนี่ยสิ แม่งไม่ปลอดภัยเลย ห่าเอ๊ย
“เด็กดียังไง”
มันไม่ตอบอะไร แต่แค่ยิ้ม ปล่อยมือผมแล้วลุกจากเบาะที่นั่งอยู่ออกไปเลย
กูจะรู้กับมึงไหม แสรดดดดดดดดดดดด
ผมต้องลุกตามมันไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก้าวเท้ายาวๆ ตามมันให้ทัน พอถึงตัวก็ดึงเสื้อมันไว้ไม่ให้มันหนีไปไหนได้
“ตกลงว่าเด็กดียังไง”
มือใหญ่ของคนเดินนำเอื้อมมาด้านหลังและจับมือผมไว้แล้วจูงให้เดินไปด้วยกัน ก่อนหน้าหล่อแบบหมีควายจะหันมายิ้มให้ แต่คราวนี้ไม่ได้ยิ้มแบบกวนอารมณ์ให้ผมอยากเอาตีนไปยันหน้ามัน ทว่าเป็นรอยยิ้มที่ผมอยากจะถามมันออกไปว่า ‘อบอุ่นไปไหมมึง’ แต่ไม่กล้า แล้วก็ไม่อยากยอมรับหรอกว่า... ไอ้ยิ้มแบบนี้แม่งทำให้ใจหวิวอีกแล้ว ห่าเอ๊ยยย
วันนี้กี่ครั้งแล้ววะ??
“แบบนี้ไง”
“ฮะ?”
อยู่ๆ มันก็พูดมาให้งง ผมจึงต้องเงยหน้ามองมันทั้งที่อยากจะหันหนีรอยยิ้มที่ยังไม่เลือนหายไปจากหน้าตาที่เคยกวนตีน
“เด็กดีอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้”
“...”
มันพูดด้วยเสียงทุ้มๆ แล้วก็โคตรนุ่ม ก่อนจะโน้มตัวมาใกล้ผมมากกว่าเดิม กระซิบข้างหูเบาๆ
“อย่างที่ใจสั่นอยู่ตอนนี้”เหยดดดดดดดดดดดด แม่งรู้ได้ไงวะ
ผมขบริมฝีปากแน่น พยายามเบี่ยงหน้าหนีไม่มองมัน แค่นี้ก็ขายหน้าฉิบหายวายวอดอยู่แล้ว แต่มันยังไม่เลิกโจมตีผมด้วยเสียงนั่นอีก
“น่ารัก”
แล้วผมจะทำอะไรได้ล่ะครับ นอกจาก.... หน้าแดง
================
รู้สึกเหมือนน้ำตาลหกมาหลายตอนแล้ว
แล้วยิ่งตอนนี้ เหมือนว่าเกงยีนจะหลุดอะไรมาหลายๆ อย่างนะ
ไม่รู้ว่าจะจับกันได้หรือเปล่า
ชื่อตอนของตอนนี้สั้นสุดเลย คิดไม่ออกว่าจะชื่ออะไรดี เรื่องนี้เป็นปัญหาตลอด ไม่รู้จะคิดมากทำไม
แต่สุดท้ายก็ตกลงปลงใจเอาชื่อนี้แหละ สั้นๆ แต่มันมีความหมายในตัว ถ้าอ่านตอนนี้อ่ะนะ
ปล. ตอนที่แล้วดูทุกคนจะเชียร์ให้ยีนตอบตกลงเป็นเสียงเดียวกัน
ตอนหน้ามาเจอกับพี่ภูค่ะ มาดูว่าพี่ภูเขาชอบน้องเกงยีนตอนไหน ไม่สิๆ พี่แกบอกว่าสับสนอยู่ (สปอยล์?)
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ~ 
Undel2Sky