
กลับมาแล้วเน้อ หายไปนานไม่ได้คิดถึงคนอ่าน อิอิ
ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ หายเปื่อยไปเลย

แต่ถ้าไม่รีบมาลงตอนนี้ งานกำลังจะมาจริงๆ

เพราะงั้นอ่านกันไปเลย แต่ไม่ยาวนะกลัวคนอ่านเหนื่อย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 61
ผมยืนคุยกับอิงรอโอมอยู่หน้าบ้านด้วยกัน เห็นรถของโอมเข้ามาจอดที่หน้าบ้านอย่างกับเป็นรถแข่งที่ถึงเส้นชัย อดจะงงไม่ได้ โอมไม่ได้เป็นคนชอบขับรถเร็วๆมาแต่ไหนแต่ไรแล้ววันนี้นึกยังไงขับได้เร็วขนาดนี้ จนอิงส่ายหัวแล้วเดินไปบ่นไปที่รถ

“มันจะบ้าหรือไงว่ะขับรถแบบนี้ แล้วดูซิ....มาถึงบ้านก็ไม่ลงจากรถมัวทำอะไรอยู่ว้า”

ผมหัวเราะขำอิง ผมชอบคนบ้านนี้จริงๆ ดูแลเป็นห่วงเป็นใยกันถึงแม้ว่าปากจะบ่นๆ แต่ที่จริงรักกันมาก อิงยืนพิงกับประตูข้างๆรถพยายามจะเปิดประตู แล้วก็เคาะที่กระจกรถเรียกให้โอมลงมา
ผมไม่ได้เดินตามอิงไปเพราะอยากจะยืนมองโอมให้นานๆ ใ้ห้สมกับความคิดถึงที่ไม่ได้เห็นหน้ามานาน จากระยะที่ยืนมองไม่ไกลมากนักจากรถ โอมกำลังก้มหน้าก้มตาทำอะไรไม่รู้หน้านิ่วคิ้วขมวด ท่าทางหงุดหงิดน่าดู ปากก็บ่นพึมพำๆ เฮ้อ.... แฟนผม

น่ารักจัง

................ ขนาดตอนกำลังโมโหก็ยังน่าเอ็นดู
อยากจะเดินเข้าไปหาแล้วเปิดประตูดึงตัวออกมาจากรถมากอดให้สมอยาก อยากจะทำโทษปากแดงๆที่กำลังบ่นอะไรอยู่ ได้แต่ทำใจแข็งเข้าไว้ห้ามใจตัวเองไม่ให้เกเร โอมเปิดหน้าต่างรถ หันหน้ามาหาอิงได้ยินเสียงแว่วๆมาฟังไม่ชัดว่าพูดอะไรกันแน่
สักพักโอมเปิดประตูกระแทกอิงล้มลง ผมรีบวิ่งเข้าไปดูว่าโอมทำอะไรกันเนี่ย ทันได้ยินเสียงของโอมที่ตะโกนออกมาว่า“เฮ้ย...พี่อิง........ขอโทษ”
ผมเข้าไปพยุงอิงที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นยืน “อิงเป็นยังไงบ้าง”
แล้วหันไปมองโอมที่ตอนนี้ลงมาจากรถแล้ว แต่ยืนตัวแข็งเป็นเทวรูปหินอยู่ โอมมองจ้องผมเขม็งสีหน้าซีดขาวเหมือนตกใจที่อยู่ดีๆผมก็โผล่มา

ผมว่าโอมก็น่าจะรู้ว่าผมยังไม่ตายแต่ทำไมทำหน้าซีดยังกับเห็นผี
เราสบตากันแต่ไม่มีใครพูดอะไรเลย ผมขยับตัวเข้าใกล้เอามือไปแตะข้อศอกโอม แต่โอมเบี่ยงแขนออกทันทีหน้าตาเคร่งเครียด ก็ยังดีไม่ยื่นพระมาหาผม แต่ก่อนที่บรรยากาศจะตึงเครียดเกินไป อิงที่ทำหน้าตาเจ็บปวดอยู่ก็ทำลายความเงียบนั้นขึ้นมา
“ไปโอม......ไปกินข้าวได้แล้วทุกคนรออยู่”
โอมเดินเข้าไปขอโทษอิงแล้วพาอิงเดินเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้ผมยืนซึมอยู่ตรงนั้นเพียง ลำพัง

ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากโอมแม้แต่คำเดียว โอมคงจะโกรธผมมากจริงๆแต่ผมก็เข้าใจอย่างที่สุด ผมคงต้องยอมรับผลแห่งความโกรธนั้น ผมได้แต่เดินตามอิงกับโอมไปเงียบๆ
พอเข้าไปในบ้านแม่โอมเรียกทานข้าว ผมรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาอีกครั้ง กลับมาที่นี่ครั้งใดผมก็รู้สึกเหมือนอยู่บ้านตัวเองทุกครั้ง ครอบครัวของโอมกลายเป็นครอบครัวที่ผมอยากจะมาอยู่ร่วมด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
คุณแม่โอมเรียกผมมานั่งข้างๆโอม เจ้าตัวดีทำท่าทางกระฟัดกระเฟียดไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ทำหน้าแดงๆเขียวๆน่าขำเป็นที่สุด ผมหันหน้าไปมองโอมพอดีตอนที่โอมแอบมองมาแล้วรีบหลบตาผมไป

ผมอดอมยิ้มไม่ได้เริ่มงอนอีกแล้วซิน้องโอมของผม หึหึหึ
ทานข้าวไปโอมก็ไม่กล้ามองหน้าผมอีก แต่พอแม่โอมชวนผมนอนค้างเท่านั้นแหล่ะเป็นเรื่องเลย
“ต่ายกินข้าวเสร็จแล้วค้างซิลูก มืดแล้้วไม่อยากให้ขับรถกลับดึกๆดื่นๆอันตราย”
พอเห็นโอมชักสีหน้าผมก็อยากแกล้งขึ้นมาทันที มันเขี้ยวคนขี้งอนจริงๆ อยากจะหยิกจมูกรั้นๆนี้จริงๆ ผมเอามือจับไปที่ต้นขาของโอมแล้วบีบเบาๆเป็นจังหว่ะ อยากจะบอกโอมว่า พี่รัก รักโอม รักโอมที่สุด นี่แหล่ะครับที่ผมคิด

แต่โอมหยุดกินข้าวแล้วครับคิ้วเริ่มขมวด ผมต้องกลั้นหัวเราะแทบแย่ขำก็ขำ แต่อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ก็เลยต้องพยายามสำรวมให้มากที่สุด แล้วพอผมตอบแม่โอมไปว่า
“แล้วแต่โอมเค้าจะให้ผมอยู่รึเปล่าครับ ถ้าผมอยู่ก็คงต้องนอนห้องเค้า”
เจ้าตัวดีหน้าหงิกไปเลยครับ ฮ่าๆๆๆ แล้วตอบสวนขึ้นมาทันควัน
“พี่กลับเถอะ.....ห้องผมมันเล็กผมชอบนอนคนเดียว”

ผมมองหน้าโอมก็รู้ใจ.....ว่างอนผมมากกกอยู่แล้ว แต่ใจโอมน่ะคงไม่มีอะไรแค่อยากให้ผมง้อ แต่ผมไม่มีเวลามาง้อตอนนี้ ยังไงวันนี้ผมก็ค้างไม่ได้อยู่ดีมีงานพรุ่งนี้แต่เช้า ที่สำคัญจะต้องกลับไปทำต่อในคืนนี้
แล้วป๋าก็ดุโอมจนได้เรื่องคำพูดแต่เจ้าตัวดีก็ไม่มีหรอกที่จะสลด ก็เป็นลูกรักนี่ครับใครๆก็ตามใจ คราวนี้หน้าหงิกกว่าเดิมอีกอยากจะหาเตารีดมารีดหน้างอๆนี้จริงๆ หึหึหึ
ก่อนที่จะโดนดุไปกันใหญ่ ผมเลยต้องรีบช่วยคลี่คลายสถานการณ์ก่อน
“ไม่เป็นไรครับป๋า....ผมมีงานตอนเช้าคงค้างไม่ได้อยู่ดี ไม่กวนน้องโอมดีกว่า”
โอมทำสีหน้าตกใจทำตาโตเชียวครับ คงจะผิดคาดไปหน่อยนึกว่าผมจะขอค้างด้วย
แล้วแป๊ปเดียวก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นโกรธไปแล้วครับ ผมได้แต่แอบยิ้มขำเพราะกลัวถ้าโอมเห็นว่าผมยิ้มจะยิ่งโกรธไปกันใหญ่ แต่โอมนะซิครับหยิกมือผมที่ยังวางอยู่บนขาโอม

เจ็บมากๆเลยครับแต่ไม่กล้าแสดงออก แสบจริงๆทั้งหยิกทั้งบิด แล้วทำท่าจะลุกครับ
“ผมเหนื่อย...ยังไม่อยากกินข้าวขอตัวก่อนน่ะครับ”
แต่เรื่องอะไรผมจะยอมให้ไปง่ายๆ ผมเลยเอามือกดขาโอมไว้ไม่ให้ลุกไปได้หรอก
ผมอยากบอกว่า...โอม.....พี่ต่ายยังไม่หายคิดถึงเลย ยังอยากนั่งใกล้ๆแล้วก็มองหน้าโอมอยู่แบบนี้นะครับ แล้วมันก็เป็นไปไม่ได้ด้วยที่ว่าไม่อยากกินข้าวทั้งที่น่าจะหิวแล้ว
“ทานข้าวก่อนดีกว่าโอม ยิ่งเหนื่อยยิ่งน่าจะหิวนะ”
ผมยังคงบีบขาโอมต่อไป พี่รัก รักโอม รักโอมที่สุด เป็นจังหวะ 1-12-123 บีบจนมือผมร้อนไปหมด ผมอยากจะเลิกบีบขาเปลี่ยนมาเป็นกอดแทนแต่ก็ทำไม่ได้
ป๋า แม่ อิง คงงงผมกับโอมว่าเล่นอะไรกันก็เลยนั่งมองผมกับโอมอยู่ ทำเอาผมเขินไปเหมือนกัน ผมหันไปมองหน้าโอมแล้วยิ้มเหมือนจะบอกว่า.....ให้เลิกเล่นตัวได้แล้วโอม

แต่โอมคงแปลความหมายผมผิด โอมทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องยังไงไม่รู้จนผมรู้สึกหนาวๆร้อนๆ ผมว่าดูออกจะน่ากลัวซะด้วยซ้ำไป ไม่รู้โอมจะเล่นอะไรซิ
ไม่นานครับผมก็รู้.......ก็น้องโอมของผมเอานิ้วมาขยุ้มที่มือผม คงคิดว่าตัวเองเป็นแมวป่าจิกเล็บลงมาบนมือผมขยุ้มแล้วบิดเป็นเกลียว ผมว่าผมต้องเลือดซึมแน่ๆแต่ไม่กล้ามองได้แต่ทำหน้าปูเลี่ยนๆอย่างจะร้องออกมาดังๆแต่ต้องฝืนอดกลั้นไว้

แต่โอมไม่แค่นั้นน่ะซิครับกระแทกส้นเท้ามาที่เท้าผมอย่างแรง คราวนี้ผมตกใจสะดุ้งกระตุกมือออกทันที

โอมหันมายิ้มให้ผมอย่างสมใจ แล้วก็ว่า
“ขอตัวนะครับทุกคน”
แล้วก็เดินเชิดขึ้นบ้านไปเลยครับทั้งเจ็บทั้งแสบจริงๆแฟนผม หึหึหึ
แม่ ป๋า อิงเห็นแล้วก็แอบยิ้มกันหมดครับ ผมได้แต่ยิ้มตอบแต่หน้าตาเหยเกไปหมด มันเจ็บน่ะครับ แม่ส่งยิ้มใจดีมาให้ผม
“โอมก็เป็นแบบนี้แหล่ะต่ายแสนงอน กี่ปีๆก็เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนหรอก แต่เรื่องงานเค้ารับผิดชอบดีนะ เป็นหัวหน้างานที่ดีทีเดียวเลยล่ะ”
“แต่ต่ายรอน้องได้ใช่ไม๊ลูก”แม่ยิ้มๆถามผม ผมแทบไม่ต้องคิดเลยกับคำถามนี้ตอบได้ทันทีเลย
“ผมรอได้ครับแม่.....ปีกว่ามาแล้วผมก็ยังทนมาได้กับแค่โอมงอนแค่นี้......ยังไงผมก็รอได้”
อิงที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินอีกครั้ง
“ต่ายไม่โกรธเราใช่ไม๊ที่ทำแบบนี้”
มันเป็นคำถามที่ผมจำได้ดีทีเดียว เพราะผมเคยได้รับคำถามนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง
“ไม่โกรธ ไม่เคยโกรธ แล้วก็ไม่คิดจะโกรธด้วย”ผมจะไปมีสิทธิอะไรที่จะโกรธล่ะครับทุกคนก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่รักโอมกันทั้งนั้น
ป๋าของโอมคงเห็นว่าเราจะเครียดกันเกินไปแล้วเลยเปลี่ยนเรื่องพูด
“แล้วงานต่ายเป็นยังไงบ้างหลังจากกลับมาเมืองไทยแล้ว”
“ดีครับผมไปอยู่นู่นก็ได้ประสบการณ์มามากเลย แล้วกลับมาตำแหน่งก็ดีขึ้น แต่ผมก็ต้องตัดสินใจอีกทีล่ะครับว่าจะทำต่อหรือเปล่า คงต้องถามโอมอีกที ผมไม่อยากห่างเค้าแล้ว แทบตายเลยป๋าไอ้ปีกว่าที่ผ่านมาเนี่ย”

ผมยกมือขึ้นเกาหัวเบาๆ เขินหน่อยๆครับเผลอบอกความในใจที่มีต่อลูกชายเค้าไปซะแล้ว
“หึหึหึ เขินเหรอต่าย โอมเค้าก็แย่เหมือนกันล่ะน่า แต่ตอนนี้สงสัยจะแย่กว่าต่ายเพราะคงนอนหิวอยู่บนบ้าน มีหวังดึกๆได้ลงมาหาอะไรกินแน่ๆ ไอ้ลูกคนนี้มันฟอร์มจัด ฮ่าๆๆๆ”

ก็นี่ล่ะครับผมกลายเป็นลูกของบ้านนี้ไปแล้ว เราทานข้าวไปคุยกันไปอย่างมีความสุขช่วงเวลาที่ผ่านมา คงจะพอพิสูจน์ให้ครอบครัวโอมได้รับรู้ถึงความตั้งใจจริงของผมที่มีต่อโอมแล้ว
จนได้เวลาพอสมควรผมก็เลยขอตัวลากลับ อยากจะไปหาโอมอีกครั้งแต่ก็ไม่กล้าครับ แต่พอผมจะเดินออกมา อิงก็มาดึงแขนเสื้อผมไว้แล้วยักคิ้วให้พร้อมยิ้มกวนๆ
“ขึ้นไปหาโอมซิ เค้านอนหลับอยู่ ไปดูหน้าสุดที่รักซะหน่อยน่า...ไป”
หึหึหึ ผมว่าผมมีพวกเยอะจริงๆครับในบ้านหลังนี้

ผมค่อยๆเปิดประตูเข้าไปในห้องโอม แอร์ค่อนข้างเย็นทีเดียว โอมเป็นคนขี้หนาวต้องนอนขดตัวอยู่แน่ๆ แล้วก็ไม่ผิดครับ โอมนอนขดเป็นกุ้งอยู่ตามเคยผมไปนั่งบนเตียงมองหน้าโอมที่ยังหลับตาพริ้มอยู่ ผมรู้ว่าโอมหนาวแต่ยังไม่ห่มผ้าห่มให้ เพราะอยากนั่งมองโอมไปทั้งตัวให้หายคิดถึง
โอมก็ยังคงเหมือนเดิมชอบใส่เสื้อเก่าๆ กางเกงย้วยๆขาสั้น เรียวขาที่โผล่พ้นขากางเกงออกมาทำให้ผมรู้สึกว่าสีผิวของโอมเข้มขึ้นแต่ก็เป็นกล้ามเนื้อที่สวยงาม อาจจะเป็นเพราะขี่จักรยานกับบุ้งเรื่อยๆตามที่บุ้งบอกผมมา แขนที่โอมซุกอยู่ที่หน้าอกก็คล้ำขึ้น คงเป็นเพราะตากแดดจากการช่วยคุมงานก่อสร้าง
โอมผอมลงจริงๆนะครับแต่ดูแข็งแรงขึ้น ผมมองหน้าโอมที่ยังหลับตาพริ้มอยู่ อยากจะเอามือไปลูบแก้ม เปลือกตา คิ้ว แนวจมูก ผมไล่สายตาลงมาเรื่อยๆ สายตาไปหยุดอยู่ที่ริมฝีปากแดงๆนั้น อดคิดถึงครั้งสุดท้ายที่ผมสัมผัสริมฝีปากนี้ไม่ได้ ผมเอื้อมมือออกไปอยากจะสัมผัสเหลือเกิน ผมรู้สึกว่าในใจผมมันพลุ่งพล่านขึ้นมาจนยากที่จะควบคุมใจได้
ผมก้มหน้าลงช้าๆกำลังจะแอบขโมยจูบคนที่นอนหลับยั่วอยู่ตรงหน้า แต่สายตาเหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นนึงที่หล่นอยู่ที่หน้าอกโอม พอหยิบขึ้นมาดูอารมณ์มันเปลี่ยนเลยครับ ต้องหัวเราะกิ๊กออกมาเบาๆ ขำโอมจริงๆ

โอมมักจะทำให้ผมยิ้มได้เสมอถึงแม้จะไม่ตั้งใจก็ตาม ผมคงจะไม่จากโอมไปไหนอีกแล้วนับจากวันนี้
ผมกำลังตัดใจจะออกไปจากห้อง อดเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้จูบโอม ผมขยับผ้าห่มมาห่มให้โอม แล้วมองหน้าโอมอีกครั้งโอมเอาลิ้นออกมาเลียริมฝีปากพอดีแล้วขยับๆปากเหมือนจะดูดอะไร เฮ้อ!! ทำไมมานยั่วกันขนาดนี้นะ ผมก้มลงอีกครั้งเอาวะเป็นไงเป็นกัน จะตื่นก็ให้ตื่นไปเลย ยั่วกันขนาดนี้ไม่จูบไม่ได้แล้ว อีกนิดเดียวจะถึงปากโอมแล้วครับ แล้วก็มีเสียงดังโครกกกกกกกออกมาลั่นเลย 55555

โอมขยับตัวอีกครั้งเหมือนจะตื่น แต่ก็น่าจะรู้สึกตัวน่ะครับท้องร้องออกมาดังขนาดนั้น แล้วมาทำเป็นบอกว่าไม่อยากกินข้าว หึหึหึ ผมต้องเอามือมาปิดปากไว้ไม่ให้หัวเราะออกมา :อิอิ1: ไม่ไหวแล้วครับกลับดีกว่า ไม่งั้นไม่หลุดขำออกมาก็ได้ปล้ำคนล่ะครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พอไหวไม๊คะ พี่ต่ายมาแล้วนะ พวกตัวเองเลิกว่าเค้าซักทีนะ :โหลๆ: