มาต่อให้แล้วค่ะ
............................
โรงแรม
“อย่า หยุดนะ...อ้า” เยียร์พยายามหยุดคนตรงหน้าที่ผลักเขาลงเตียง
“อย่าเนี่ย อย่าหยุดใช่ป่ะ คุณภรรยา...ไม่สิคุณนายบำเรอ” ร่างสูงไม่ยอมหยุดแถมยังพูดจากวน มือซ้าย(นิ้ว)ของเขาสอดเข้าไปตรงช่องทางของร่างบางจาก 1นิ้ว เป็น2 นิ้ว และ3นิ้ว ค่อยๆเข้าไปทีละนิ้ว มือขวาเขาก็กำลังปลุกอารมณ์ร่างบางตรงหน้า
“นี่นายรูส นายฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง ฉันบอกว่าอย่า”เยียร์พูดกับคนตรงหน้า(ข้างบน) อย่างกลัว ใช่เขากลัว กลัวว่าจะโดนทำมากกว่านี้
“ฟังรู้เรื่องอยู่แล้วภาษาคนนะ แต่ฉันไม่ฟังคำพูดของนายหรอกนะคุณนายบำเรอ” รูสพูดจบก็ตบหน้าร่างบาง
“เพียะ”
“แล้วก็นะคนที่เป็นแค่สิ่งบำเรอแลกเปลี่ยนไม่มีสิทธิสั่งฉันหรอกนะ อย่าคิดนะว่านายเป็นคนที่ช่วยชีวิตของพ่อฉัน แล้วจะมาสั่งฉันได้” ร่างสูงบอกร่างบางก่อนที่จะกระชากหัวร่างบาง
“ชิ วันนี้ฉันอารมณ์ดีเลยปลุกอารมณ์ให้นายหน่อย แต่ตอนนี้คงไม่ต้องสินะ”ร่างสูงพูดก่อนจะตบหน้าร่างบางอีกรอบ
“เพียะ”
“จำไว้ นายมันก็เป็นแค่ของเล่นที่เบื่อแล้วก็ทิ้ง อย่าหลบหน้าฉัน”รูสบีบคางร่างบางให้หันมาทางตน
“หลบหน้าหรือ คนอย่างฉันน่ะไม่มีวันหลบหน้าใครง่ายๆหรอก ฉันจะหลบหน้าเฉพะกับคนที่ฉันเกลียดเท่านั้นเหละ...” ร่างบางพูดไม่ทันจบก็โดนร่างสูงจูบปิดปาก ไม่ใช่จูบด้วยความรัก ความหลง หรือ ความใคร่ แต่จูบเพราะความแค้น ความโกธร และรำคาญที่ร่างบางกล้าหือกับเขา
“อืม...ปล่อยนะ”เยียร์ได้แต่ส่งเสียงอู้อี่ออกมาเพราะร่างสูงไม่ยอมถอนจูบ
‘เขาจะหายใจไม่ออกแล้วนะ’ ร่างบางได้แต่พูดในใจเพราะร่างสูงไม่มีทีท่าว่าจะยอมถอดจูบง่ายๆ
จนกระทั่งภายไปครู่ใหญ่ร่างสูงก็ถอดจูบออก ร่างบางที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระก็ได้แต่ตักตวงอากาศที่ถูกร่างสูงแย่งชิงไป
“อา...อา”
“เยียร์นายคงลืมไปซินะว่า นายน่ะไม่มีสิทธิที่หลบหน้าฉันเพราะฉันคือเจ้านายส่วยนายคือทาสที่ต้องทำตามคำสั่งฉัน”
“ฉันไม่ใช่นายบำเรอของใครทั้งนั้น” ร่างบางพูดด้วยเสียงแข็ง
“ดูเหมือนนายจะลืมไปจริงๆสินะ...ได้ในเมื่อนายลืมฉันก็จะทวนความจำให้กับนายเอง” ร่างสูงพูดก่อนที่จะหยิบเชือกสีแดงมารัดข้อมือบางของร่างบาง
“นายจะทำอะไรนะ...อย่านะ”ร่างบางพูดอย่างกลัวๆ
“สายไปแล้วล่ะน่ะที่จะมาขอฉันตอนนี้...เอาล่ะเรามาเล่นกันเลยดีกว่า”ร่างสูงพูดจบก็กัดที่ต้นคอของร่างบาง แล้วค่อยบรรจงกัดจนมาถึงหน้าอก ร่างสูงก็ค่อยๆกัดที่เม็ดสีชมพูสองข้างของร่างบางทีละเม็ดทีละเม็ด
“อา..อา...หยุดนะ”
“บอกแล้วไง ว่านายน่ะไม่มีสิทธิมาสั่งฉัน”ร่างสูงพูดก่อนที่จะจูบร่างบางอีกรอบเป็นจูบที่รุนแรง มือของเขาเลือนต่ำลงมาที่แกนกายของร่างบาง เขาบีบที่ตรงนั้นอย่างรุนแรง จนร่างบางต้องหุบขาทำให้ร่างสูงทำได้ยากขึ้น
ร่างบางอยากจะร้องออกมาแต่ก็ร้องไม่ได้เพราะร่างสูงจูบปิดปากเขาอยู่ได้แต่ครางออกมาอู้อี่ ในใจได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างจบลงสักที
แต่ดูเหมือนคำภาวนาของร่างบางจะไม่ได้ผลเพราะร่างสูงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดกลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีก ร่างสูงละจากริมฝีปากของร่างบาง
“อ้าขา”ร่างสูงสั่งร่างบาง
“ไม่”ร่างบางตอบร่างสูง
“ไม่อ้าใช่ไหมได้ ในเมื่อนายไม่อ้าฉันก็จะทำให้นายอ้าเอง”ร่างสูงพูดจบก็ได้จับขาทั้งสองข้างแยกออกจากกัน ร่างบางพยายามขัดขืนแต่ร่างสูงแรงเยอะกว่า พอร่างสูงทำให้ร่างบางอ้าขาได้เขาก็จับขาทั้งสองข้างของร่างบางมัดกับเสาเตียงทั้งสองข้าง
“ต่อไปฉันจะเอาจริงกับนายแล้วนะ”ร่างสูงบอกก่อนที่เขาจะยัดบางสิ่งเขาไปในตัวร่างบางมันทั้งหยาบและพอมันแตกออกก็เย็น
“ไอศกรีมโคนมันคงทำให้นายรู้สึกดีสินะ”ร่างสูงบอกพร้อมกับจับปลายไอติม(ขอเรียกสั้นๆ) ดันเข้าดันออกช่องทางของร่างบาง
“หยุดนะ...พอได้แล้ว...”ร่างบางได้แต่ร้องขอให้อีกฝ่ายหยุด
“อย่าปากดีให้มากน่ะเยียร์นายก็รู้นี่นายอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร”ร่างสูงพูดก่อนที่เขาจะยัดเยียดบางสิ่งบางบางอย่างที่ใหญ่กว่าไอติมให้กับร่างบาง
“โอ็ย...เจ็บ”ร่างบางได้แต่ร้องเสียงหลง แต่ร่างสูงกลับไม่ฟังร่างบางเข้าดันแกนกายเข้าออกช่องทางของร่างบางอย่างไร้ปราณี ยิ่งร่างบางร้องเท่าไรร่างสูงยิ่งทำร่างบางมากขึ้นเท่านั้น จนร่างบางทนไม่ไหวสลบไป
ถึงแม้ว่าร่างบางจะสลบไปแล้วร่างสูงก็ยังคงไม่หยุดการกระทำยังกระทำต่อไปอย่างแรง จนกระทั่งเขาถึงฝังของอารมณ์ เขาก็ปลุกร่างงบางแต่ร่างบางไม่ยอมตื่น เขาเลยเดินไปห้องน้ำ ตักน้ำใส่แก้วแล้วลาดใส่ร่างบางที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง ส่งผลให้ร่างบางที่สลบอยู่ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการหนาวสั่นจากการที่โดนน้ำสาดตอนกลางคืน
“ออกไปจากห้องฉันซะถ้าฉันไม่เรียกก็อย่ามาให้เห็นหน้า แล้วก็ไปทำความสะอาดห้องโถงด้วย จากนั้นก็ไปซักผ้า ตอนเช้าก็ไปทำอาหารด้วย” ร่างสูงสั่งโดยไม่มองหน้าร่างบาง
ร่างบางที่พึ่งตื่นจากการหลับใหลก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากลุกขึ้น แต่พอร่างบางจะลุกก็ต้องกลับไปนั่งเหมือนเดิมเพราะอาการเจ็บที่ช่องทางที่ถูกลุกล้ำ กับสะโพก
ท่าทางเก้ๆกังๆของร่างบางทำให้ร่างสูงไม่พอใจ เขาจับมือร่างบางพร้อมกับลากออกไปจากห้องโดยไม่สนใจอาการบาดเจ็บของร่างบาง
“ปัง”เสียงประตูปิดลงอย่างแรงพร้อมกับร่างบางที่ถูกเหวี่ยงออกมานอกห้อง(โรงแรมมี 1 ห้องโถง 2 ห้องนอน ห้องน้ำในตัว)
ร่างบางได้แต่นั่งร้องไห้ให้กับชะตาชีวิตของตนเองเหลือเกิน ทำไมนะ มือคู่นี้ที่เคยช่วยชีวิตคนไว้มากมาย ต้องมาถูกมัดจนเป็นรอยแดงแบบนี้ด้วยทุกอย่างเป็นเพราะวันนั้นแท้ๆถ้าเราไม่ไปที่นั่นในตอนนั้นก็ดีสินะ
เยียร์ ฟาราเดย์ กับ เยียร์ ฟาเลนด้า ทั้งที่ชื่อเหมือนกัน คนเดียวกัน แต่ชีวิตช่างแตกต่างราวกับฟ้ากับดิน
เยียร์เฝ้าคิดถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เขากับรูสมาเจอกัน
.................................
เมื่อ 5 ปีก่อน
บริษัทเงินทุนศิริวัฒิ
ภายในบริษัทแห่งนี้ตกแต่งอย่างหรูหราซึ่งแตกต่างจากฐานะของเจ้าของตอนนี้ซะเหลือเกิน (เป็นหนี้ธนาคารอยู่หลายล้าน)
ห้องประธานบริษัท
“ไม่ได้นะพ่อ ยังไงผมก็ไม่มีวันยกวินให้พวกมันหรอก”เยียร์ที่พึงได้ยินจากปากเลขาว่าจะมีคนมาช่วยบริษัทของครอบครัวเขา ตอนแรกเขาก็ยินดีอยู่หรอกที่จะมีคนมาช่วยเหลือ แต่พอได้ยินว่าสัญญาของพวกมันคือเอาตัวน้องชายเขาไป
ความรู้สึกมันก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เขาแทบอยากจะจับพวกมันไปฆ่าทิ้งซะ แล้วจับพวกมันโปกปูนยัดลงในทะเลให้หายแค้นนัก หนอยแน่ะ
จะมาเอาตัววินไปจากเขางั้นหรือ ไม่มีทางหรอก (โรคห่วงน้องกำเริบ)
“แล้วจะให้พ่อทำยังไง อย่าลืมนะ ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกอะไรมากนัก ไหนจะหนี้แบงค์ ไหนจะเงินเดือนของพนังงานแต่ละเดือน แล้วยังค่าจิปาถะอีกมากมายนั่นอีก” พ่อเทวนนท์ หรือที่รู้จักกันในนาม สเฟีย พูดไกล่เกลี่ยกับลูกชายคนโต
“พ่อครับ พ่อต้องไม่ลืมนะครับว่าวินนะเป็นผู้สืบสายเลือดที่แท้จริงคนเดียวของตระกลูศิริวัฒิ ที่ยังเหลืออยู่” เยียร์พูดเหตุผลกับพ่อของเขา
“อันนั้นพ่อก็รู้แต่จะให้พ่อทำยังไง บอกพ่อมาสิ แกฉลาดไม่ใช่หรือไง บอกพ่อมาสิ” สเฟียถามหาหนทางจากลูกชายของเขา ไม่สิจะต้องเป็นลูกชายของน้องชายเขาต่างหากล่ะ เป็นเพราะตอนที่เขาแต่งงานใหม่ๆ นั้นคิดว่าตัวเองจะไม่มีลูก พอดีกับตอนที่น้องชายของเขา ไนต์ ส่งข่าวมาบอกว่าเขาได้ลูกคนที่สามเป็นผู้ชาย ดังนั้นเขาจึงขอเด็กคนนั้นมาเป็นลูกบุญธรรม โดยตั้งชื่อให้ว่า
ทนากรหรือนิวเยียร์ (New Year) เพราะว่าเด็นคนนี้เกิดวันปีใหม่
“ผมไม่รู้ จะให้ผมทำยังล่ะในเมื่อคุณยังไม่ได้บอกเลยว่าใครเป็นคนจะมาช่วยบริษัท ผมจะได้ไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง”เยียร์ที่ถึงแม้จะโกธรจนควันออกหูแต่ก็ยังรักษามาดคุณชายน้ำแข็งเอาไว้ เยียร์ได้ถามรายละเอียดทั้งหมดของผู้ที่จะมาช่วยบริษัทเอาไว้ เนื้อหาทั้งหมดพอจะสรุปได้ว่า ‘ คนที่มาช่วยคือ เจที ฟาเลนด้า เป็นเจ้าของบริษัทไอที ตอนนี้พักอยู่ที่ โรงแรมกราเด้นเฮาส์’ ดังนั้นเขาเลยมาที่นี่
โรงแรมกราเด้นเฮาส์
ได้มีชายหนุ่มหน้าสวยสวมเสื้อสูทสีดำ เสื้อข้างในสีขาว กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนังสีดำ เดินเมาในโรงแรม
“ที่นี่สินะ”ชายหนุ่มคนนั้นพูดพลางเดินสำรวจโรงแรมก่อนที่จะเดินไปที่เคาเตอร์ สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคนที่ชื่อ “เจที”
“ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าคุณเจทีอยู่ห้องไหนหรือครับ ผมมีธุระต้องคุยกับเขาครับ” เยียร์พูดกับพนักงานต้อนรับ
“คะ ฉันจะต่อสายขึ้นไปยังห้องให้นะคะ ไม่ทราบว่าจะให้บอกว่าคุณคือใครคะ”พนักงานต้อนรับสาวถามเยียร์
“บอกเขาว่า เยียร์ ฟาราเดย์ ขอพบครับ”
“คะจะเรียนท่านตามนั้นค่ะ” พนักงานต้อนรับพูดก่อนที่จะต่อสายขึ้นไป
“.....ค่ะ....”
“ท่านบอกว่าให้คุณขึ้นไปได้ค่ะท่านอยู่ที่ชั้น 14 ห้อง 142 ค่ะ” พนักงานต้อนรับบอกเยียร์ตามที่ได้รับคำสั่งมา
“ขอบคุณมากครับ”เยียร์พูดก่อนที่จะเดินไปขึ้นลิฟต์
..................................
ชั้น 14 ห้อง 142
เยียร์เดินมาถึงห้องของเจที เขากดกริ่ง
“ลา ล่า ลา” เสียงกระดิ่งดังขึ้น
เสียงกระดิ่งบ้าไรว่ะ อย่างกับเสียง...ช่างเถอะไม่อยากคิดให้เปลืองสมองเลย ในระหว่างที่เยียร์กำลังคิดอยู่นั้นประตูห้องก็ได้เปิดออกมา
“แก็ก”
“สวัสดีครับผม เยียร์ ฟาราเดย์ครับ จะมาคุยเรื่องสัญญาที่ทำไว้กับคุณพ่อของผมครับ (ไอคำนี้เหละกัดฟันพูดสุดๆ )กับคุณเจทีครับ” เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดเยียร์ก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาพูดธุระของตนจนไม่มองเลยว่าคนที่เขาคุยด้วยคือใครกัน
“นี่ฉันแก่จนเป็นพ่อนายได้เลยหรือไงห่ะ แหกตาดูบ้างดิว่าคนที่นายพูดด้วยน่ะเป็นใคร”ชายหนุ่มร่างสูงด่าทอร่างบางตรงหน้าเสียยกใหญ่ หนอยคิดว่าฉันเป็นใครห่ะถึงมาว่าฉันแก่จนเป็นพ่อคนได้น่ะห่ะ
“แล้วนายล่ะเป็นใครถึงมาอยู่ที่ห้องนี้ได้”เยียร์ที่โกธรจนหน้าแดงกำแต่ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ ได้แต่สาดคำถามใส่อีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
“ฉัน รูส ฟาเลนด้า เป็นลูกชายแท้ๆของคนที่นายต้องการจะคุยด้วย พ่อไปทำธุระยังไม่กลับเชิญนายออกไปได้เลย” รูสตอบคำถามให้ร่างบางเสร็จสัพท์โดยที่ร่างบางยังไม่ได้ถามเลยแถมยังไล่อีกฝ่ายด้วยท่าทีรังเกียดมาแต่ชาติปางก่อน
“ไปก็ได้ไม่ต้องรอให้นายไล่หรอกนะ รู้ไว้ด้วยว่าการที่ต้องมาใช้อากาศร่วมกับนายมันน่ารังเกียดแค่ไหน ไอ้บ้า งี่เง่าเอ้ย” เยียร์พูดจบก็รีบวิ่งจากไปแต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงตะโกนไล่หลัง
“ถ้าฉันเจอนายอีก ฉันจะ...นายซะ”
“ใครมันจะไปยุ่งกับคนบ้าอย่างนายกัน ไอ้งี่เง่า”เยียร์ตะโกนตอบกลับไปก่อนที่จะเข้าไปข้างในลิฟต์
ขอให้ชาตินี้อย่าได้เจอหมอนั่นอีกเลย สาธุ เยียร์ภาวนาในใจ
..................................
การภาวนาไม่ได้ช่วยทำให้คนสมหวังเสมอไป
ก็เหมือนกับกาลเวลาที่ไม่เคยรอหรือปราณีใคร
การพบพานวันนี้
การจากกันในวันนั้น
นำพาไปสู่เรื่องวุ่นวาย
ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
หากไม่หันมาคุยกัน
ด้วยรัก..... ......................................
หลังจากทะเลาะกับลูกชายของเจที เยียร์เดินมาถึงตรงหน้าเคาเตอร์ของโรงแรมเขาก็ได้พบกับชายแก่คนหนึ่งที่นอนไม่ได้สติอยู่เอามือกุมหัวใจอยู่ เขาจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นทำให้ชายคนนั้นหายใจได้สะดวกขึ้นก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยที่คนผ่าตัดให้คือเขาเอง
หลังจากนั้นเขาก็ได้รู้ว่าชายแก่คนนั้นคือ เจที ฟาเลนด้า เขาก็ได้คุยกับ
เจทีเรื่องธุรกิจและเรื่องของน้องชายของเขา จนเจทีตกลงยกหนี้ให้โดยมีข้อแม้ว่า เขาจะต้องยอมแต่งงานกับลูกชายคนโตของเจที ซึ่งก็คือ รูส ฟาเลนด้า คนที่เขารู้สึกไม่ถูกชะตาด้วยตั้งแต่แรกพบ แต่เขาก็ยอมแต่งด้วย ตอนแรกรูสค้านหัวชนฝาว่ายังไงก็ไม่แต่ง แต่เพียงอาทิตย์เดียวเขาก็มาบอกกับเจทีว่าจะแต่งงานกับเยียร์ งานแต่งถูกจัดขึ้นโดยเขาไม่รู้เลยว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น
พอแต่งงานกันได้ไม่ทันข้ามวันเขาก็พาผู้หญิงมานอนด้วยต่อหน้าต่อตาผม เขาไม่คิดหรือว่าเราแต่งงานกันแล้ว อย่างน้อยก็ดูแลกันบ้างสิ ไหนว่าผู้ชายอังกฤษดีในเรื่องความเป็สุภาพบุรุษรองมาจากนอเวย์นี่หนา ทำไมนายถึงทำกับฉันแบบนี้
ไม่นานหลังจากวันแต่งเขาก็ย้ายไปอยู่ลอนดอลกับรูส เพียงวันแรกที่เข้าไปเขาก็ข่มขืนผม ก่อนที่เขาจะข่มขืนผมเขาก็พาผู้หญิงมาที่บ้าน เขาทำแบบนี้ทุกวันที่เราอยู่ด้วยกัน และตลอดเวลาที่อยู่ที่บ้านหลังนี้ผมต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยทำ
ผมไม่รู้ว่าเขาทำไมถึงทำแบบนี้กับผม แต่ที่ผมรู้คือ ผมไม่ได้เป็นหมอแล้ว เพราะรูสห้ามผมทำไม่งั้นเขาจะทำลายครอบครัวผม ซึ่งคนอย่างเขานะทำได้อย่างไม่รู้สิรู้สา แต่ทำไมนะ ทั้งที่เขาร้ายกับผม แต่ผมก็ยังรักเขาทั้งที่เขาไม่รักผมเลย คนที่เขาต้องการจริงๆคือวิน(ในตอนเด็ก) แต่มันคงไม่ใช่แล้ว ไม่มีอะไรที่รูสต้องการหยุด เพราะนายคือลมที่หมุนไปตลอดตามอารมณ์ของนาย แต่ฉันก็หวังนะว่าซักวันหนึ่งนายจะหยุดและหันมามองฉันไม่เหมือนกับตอนนี้
................................................................
TBC...ตอนที่ 6 สาเหตุของความแค้นของรูส...
ฉันไม่ใช่คนไร้เหตุผลที่ทำอะไรโดยไม่คิด
สิ่งที่พวกนายทำฉันจะทำให้สาสมกับความเจ็บปวดของฉัน......................
ยินดีต้อนรับทุกคน ทุกความเห็นนะคะ
สวัสดีค่ะ นี่อาจจะเป็นการทักทายที่ช้าไปหน่อย
ฉัน kuro จะพยายามแต่งให้เต็มที่ค่ะ
ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ
เพราะมันเป็นกำลังใจให้ฉันแต่งต่อไปค่ะ
ขอบคุณจริงๆค่ะ