อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๔๖.๒
แผ่นหลังได้เวลาแตะที่นอนหลังจากนั่งนิ่งให้ใจสงบอยู่ในความมืดมานานเกินควร
หลังมือถูกยกขึ้นปาดจมูก ของเหลวข้นติดเหนอะตามมาให้ได้สัมผัส
แน่นอน... ไม่ใช่น้ำตาเพราะเขาไม่ได้ร้องไห้ และแน่นอน...ไม่ใช่น้ำมูกเพราะเขาไม่ได้เป็นหวัด
แก้วไม่ได้ตื่นเต้นกับปฏิกิริยาทางร่างกายของตัวเองนักหรอก แค่นี้ไม่ตายแน่เขารู้ดี แต่คนที่โดนขวดตีหัวจนแตกเลือดอาบยับ...
...คนของสายมันก็คงไม่ปล่อยให้ตายเหมือนกัน
...แต่ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็สุดจะเดา
“หึ หึหึ ฮะฮะ” เสียงหัวเราะที่มาพร้อมหยดน้ำใสๆข้างหางตากับปากที่เม้มเบะแทนที่จะคลี่ยิ้ม
ผูกตัวเองไว้กับอริเพื่อให้ความผิดของเพื่อนลดลงเหมือนเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ให้ต้องฝ่าฟัน...แต่กลับไม่ได้ช่วยอะไร
ดันแก้ไขง่ายมากเพียงแค่การขอขมา และคำว่าจบจากปากของคนอีกฝั่ง
จบลงด้วยดีชะมัด!
แต่ก็มีคนที่ไม่ยอมรับข้อยุติที่ง่ายดายอย่างนั้น และไม่ใช่แค่คนเดียว แต่เพิ่มเป็นสอง...
คนหนึ่งผูกใจเจ็บซึ่งถ้าไม่ได้เอาคืนด้วยการให้เจ็บตามความแค้นก็คงไม่จางหาย
ส่วนอีกคนยอมรับว่าผิดแต่กลับไม่เคยสำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำ
ไม่แปลกถ้าฝิ่นหรือพี่ไม้จะไม่ให้อภัย แต่ไอ้พงษ์ดันไปอาฆาตพวกนั้นกลับเพียงเพราะเขาต้องการชดใช้ความผิดให้มันด้วยความเต็มใจ แต่นี่ก็ไม่แปลกเหมือนกัน เขาเข้าใจพงษ์ดี
แต่มันสวนทางกันน่ะสิ ยิ่งตัวเขาเข้าข้างฝั่งหนึ่งแต่ใจเขาไปเข้าข้างอีกฝั่ง
คาราคาซังดีไหมล่ะ
ทางออกที่ดีที่สุด ทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย ทางที่เขาต้องจัดการเองคนเดียว...อีกครั้ง
ในเมื่อฝิ่นยังไม่ยอมลบเรื่องคราวนั้น ในเมื่อพงษ์ก็ไม่ยอมให้เขาสานต่อความรู้สึก...กับคนที่ทำร้ายเขา
งั้นก็หยุดมันตรงนี้แหละ ทุกอย่างจะได้สงบด้วยดีทั้งสองฝ่าย ไม่ต้องพบเจอ ไม่ต้องรัก ไม่ต้องรู้จักอีกต่อไป
ฝิ่นมันก็คงไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่... นอกจากเสียหน้า
ตัวเขาเองก็คงไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่... นอกจากเสียใจ หึ
ต้องทำเป็นไม่เห็นทั้งที่ภาพมันอยู่เต็มทุกโสตประสาทไม่ว่าจะตัวตนจริงๆหรือในภาพของความทรงจำ
แต่พอเถอะ เดินหน้าย่อมดีกว่าถอยหลังหรือย่ำอยู่กับที่ไม่ใช่เหรอ
เจ็บเมื่อไหร่ก็เจ็บวันยังค่ำ เลิกเข้าข้างตัวเองได้แล้วแก้ว ...เขาฝืนยิ้มทั้งน้ำตาให้กับการตัดสินใจของตัวเอง
ปึ๊ก!!
“ถ้ามึงไม่ออกมา กูจะนอนหน้าห้องมันตรงนี้นี่แหละ” เสียงตะโกนดังเข้ามาในห้องหลังจากเสียงฝ่ามือทุบประตูเป็นรอบที่ร้อยแล้วมั้ง แต่เขาก็ยังไม่มีเสียงตอบรับใดๆให้
ทั้งที่มันก็รู้ว่าเขาอยากอยู่คนเดียว
“แก้ว แก้ว”
แต่ไอ้พงษ์คงไม่เข้าใจคำว่าไม่พร้อม ทั้งน้ำตา ทั้งกำเดาที่เกิดจากความเครียด สภาพเขาตอนนี้เป็นสิ่งที่พงษ์ไม่ชอบใจ และเขาก็ไม่กล้าสู้หน้าพงษ์ด้วย ในเมื่อเลือกตามทางที่พงษ์ต้องการ แต่ยังตัดใจไม่ขาดจนตัวเองต้องเป็นแบบนี้ เผลอๆมันคงโกรธเขาไปอีกคน
แกร๊ก!
และไอ้พงษ์มันเป็นคนไร้มารยาทอีกคนที่ไม่จำเป็นต้องรอให้เขาลุกไปเปิดให้
แสงสว่างจากนอกห้องส่องเข้ามาเมื่อประตูถูกเปิดออกกว้าง ก่อนที่แสงไฟจะติดพรึ่บขึ้นตามมา
แก้วเด้งตัวลุกนั่งทันที เขารีบใช้มือปาดเช็ดเลือดกำเดารวมทั้งน้ำตาที่เริ่มปริ่มๆหมายจะไม่ให้หลงเหลือหลักฐานใดๆมัดตัว...แต่ก็ไม่ทันแล้ว
ฝ่ามือถลอกที่เกิดจากใช้ยันตัวเมื่อช่วงชุลมุนจับสองมือแก้วให้หยุดได้แล้ว
แม้จะเลือกมึง แต่มึงก็ยังเจ็บตัว และกูก็เจ็บใจ แถมยังทำตัวอ่อนแออย่างนี้อีกต่อหน้ามึงอีก
มึงผิดหวังในตัวกูมากใช่ไหมถึงได้มองกูด้วยแววตาเศร้าใจขนาดนี้
“เราจะไปอเมริกากันนะ พรุ่งนี้ไปทำพาสปอร์ตกันเลย ไม่ต้องรอแล้ว” พงษ์วางสองมือเขาไว้บนตัก มันพูดพลางเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนสีขาวจากตู้เสื้อผ้าแล้วเดินเข้าเดินออกห้องน้ำก่อนจะเอาผ้าที่ชุบน้ำเรียบร้อยยื่นมาจะเช็ดหน้าเขา “ไปดูที่อยู่ ไปดูที่เรียนก่อน อีกสองเดือนค่อยกลับมาเรียนแล้วรับใบประกาศจบทีเดียว”
“อย่า” แก้วเอามือเปื้อนๆจับข้อมือพงษ์
“หืม?”
“เดี๋ยวกูทำเอง ไปทำแผลมึงเถอะ” ตั้งแต่กลับมาแล้วเขารีบเข้าห้อง พงษ์มันก็รออยู่หน้าห้องเป็นชั่วโมงไม่ได้ไปไหน
แก้วเงยหน้าห้ามเลือดกำเดาไม่ให้ไหลก่อนลุกไปเปิดลิ้นชักหัวเตียงแล้วหยิบกล่องพยาบาลออกมาวาง
ถ้าจะรอให้เขาทำให้เหมือนทุกที วันนี้คงไม่ได้...เพราะเขาก็ไม่ได้ดูดำดูดีอีกคนเช่นกัน เพราะฉะนั้นทุกอย่างควรจะเสมอตัว ...ตัวใครตัวมัน
“ก็เดี๋ยวกูทำให้มึงก่อน เสร็จแล้วจะได้กินยานอนนะ” มันยังเซ้าซี้ แต่สายตาหรุบต่ำวุ่นพับผ้าขนหนูผืนใหญ่ให้พอเหมาะแต่ไม่ยอมมองหน้าเขา
“กูคิดดีแล้ว มึงอย่ากังวลเลยพงษ์ เมื่อก่อนไม่รัก ก็ยังรักได้ พอรักแล้ว ทำไมจะเลิกไม่ได้...บางทีที่ผ่านมากูอาจคิดไปเองทั้งนั้น ขอบใจนะที่มึงเตือนกู ต่อไปกูจะได้ไม่ต้องอึดอัดใจอีก มึงก็ดีใจใช่ไหมที่กูคิดได้” แก้วใช้หลังมือปิดจมูก เขายิ้มเจื่อนๆตาแดงๆพลางเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อพูดจบ
อย่าร้องตอนนี้นะ...เขาไม่อยากให้พงษ์รู้ว่าเขายังทำไม่ได้ถึงที่สุด
“งั้น...เดี๋ยวกูลงไปทำแผลข้างล่างนะ แล้วจะขึ้นมานอนด้วย” พงษ์เอาผ้าขนหนูใส่มือเขาแล้วคว้ากล่องพยาบาลไปถืออย่างไว
“ไม่ต้องหรอก” แก้วปฏิเสธ ทำให้พงษ์เงยหน้ามามองเขาได้สักที
“มึงอย่าทำแบบนี้เลยแก้วกูใจไม่ดี...มึงตัดมันได้น่ะกูดีใจ แต่กูไม่ได้ต้องการให้มึงเป็นแบบนี้ ...กูให้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวจะขึ้นมาหานะ” พงษ์บอกด้วยสีหน้าเรียบๆแต่ในนั้นเขารู้ว่าพงษ์เป็นห่วงอยู่
ไม่อยากให้ห่วงเลย ทั้งที่มึงเดือดร้อนเพราะกูมาตั้งเยอะแล้วนี่กูทำให้มึง มึงยังจะทุกข์ใจอะไรอีก
“ไปอเมริกาก็ไป แต่คืนนี้ขอนอนคนเดียว” แก้วบอกเมื่อพงษ์หันหลังให้แต่ยังออกไปไม่พ้นห้อง เมื่อได้ยินอย่างนั้นพงษ์จึงหันกลับมา
“ตัวเล็ก...พี่รักมึงนะ พี่ไม่อยากเห็นมึงเป็นอย่างนี้แต่พี่จะอดทน ทนไปพร้อมกับมึง เพื่อชีวิตใหม่ของเรานะ”
“...ครับ”
แก้วเก็บผ้าขนหนูชุ่มน้ำไปผึ่งไว้นอกระเบียง
ของสิ่งเดียวที่ไม่ใช่ของตัวเอง
ผ้าขนหนูที่ไอ้ฝิ่นมันให้เขาใช้ตอนอยู่บ้านนั้น จะเอามาเปื้อนเลือดได้ยังไง
...นี่มันของที่ขโมยมาเลยนะ
.
.
.
“พงษ์ ทำอะไร?” เขาเดินลงมาข้างล่างแล้วเข้าไปหาพงษ์ในครัว
“เสร็จแล้วๆ อ่ะ” มันยื่นแก้วชามะนาวมาให้ พลางเอามืออังหน้าผาก “โอเคตัวไม่ร้อน ปวดหัวไหม” แก้วพยักหน้า “งั้นกินข้าวเลยจะได้กินยา”
“อืม” ก็อุตส่าห์ลุกมาทำให้จะปฏิเสธได้ยังไง
“วันนี้หยุดเลยนะไปก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้วนี่”
“ไม่เป็นไรไม่อยากเป็นเด็กเส้น” แก้วตอบนิ่งๆ ออกจะดูเหม่อๆด้วยซ้ำแต่เจ้าตัวกลับไม่ได้คิดว่าตัวเองไม่เป็นปกติจนไอ้พงษ์ส่ายหน้า
“งั้นก็ไปทำพาสปอร์ตเลยแล้วกัน กะว่าจะให้พักซะหน่อยบ่ายๆค่อยออกจากบ้าน ก็ถ้าอยากออกตอนนี้ก็ไปเลยละกัน”
“หืม...ก็ได้” เขามองพงษ์ครู่หนึ่งด้วยสีหน้าเป็นเครื่องหมายคำถาม ...ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ?
แต่เออ เมื่อคืนพงษ์มันก็บอกไว้แล้วนี่ อืม...แต่จะวันนี้หรือพรุ่งนี้ยังไงก็ต้องไปทำอยู่แล้ว ...คงถึงเวลาที่จะได้พักกายพักใจจริงๆแล้วสิ
จะได้ไม่ต้องอยู่ในสถานะครึ่งๆกลางๆของใคร จะได้ดำเนินชีวิตใครมันเหมือนก่อนหน้านั้น
เป็นเรื่องน่ายินดีที่สุดในรอบห้าสิบวัน
ไชโย!
...
อึก
...
...ไชโย
แต่คงเป็นเสียงไชโยที่มาพร้อมเสียงสะอื้นถ้าเขาตะโกนคำนี้ออกไปจริงๆ
“ยืมนะ แสงแยงตา” แก้วคว้าเอาแว่นดำของไอ้พงษ์ที่ห้อยอยู่คอเสื้อมันมาสวมแล้วหลับตานิ่งปล่อยให้พงษ์เป็นคนขับรถพาไปไหนก็ไป
ใจหวิวๆ โหวงๆอีกแล้ว คราวก่อนเหมือนคนไม่มีหลักยึด แต่คราวนี้เหมือนหัวใจตัวเองมันปลิวว่อนอย่างกับว่าวขาดๆที่ลอยลิ่วอยู่บนอากาศจะตกไม่ตกแหล่ มันโหวงเหวงกว่าครั้งก่อนมาก
ทั้งที่หัวใจควรจะกระโดดโลดเต้นเพื่อต้อนรับสิ่งใหม่ๆที่จะเข้ามาในชีวิตสิ
มีทางไหนที่เขาจะลบคนๆหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเพียงแค่เวลาสั้นๆไหม เขาคงรู้สึกดีกว่านี้ถ้าทำมันได้
.......................................
สั้นใช่ไหมคะ? (ยังมีหน้าถาม) แต่ดีกว่าค้างเนอะ เพราะถ้าต่อยาวกว่านี้ได้ค้างแน่นอน เราชอบให้คนอ่านจับได้ทีละประเด็นน่ะ (ข้ออ้าง:P)
ฝันดีนะคะทุกคน
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์เจ้าค่ะ^^กอดๆจุ๊บ